ตอนที่17 : ทริปประจวบ1
[/b]
-โยชิ-คณะวิศวะ ยามเย็น
“น้องๆทุกคนมากันครบยังครับ ถ้าครบแล้วพี่จะได้พูดทีเดียว” ตอนนี้พวกผมปี1 วิศวะ ได้มารวมตัวกันตามคำสั่งของรุ่นพี่ เห็นบอกจะคุยเรื่องทริปประจวบที่ใกล้จะถึงนี้
“ถ้าครบแล้วพี่จะพูดถึงกำหนดการนะครับ เราจะไปกันทั้งหมด3วัน2คืน ที่จังหวัดประจวบ โดยรถบัสของทางมหาวิทยาลัยที่พี่ได้ติดต่อไว้แล้ว ส่วนสถานที่ที่เราจะไปในวันแรกจะเป็นที่สบายๆ ให้น้องๆทุกคนได้พักผ่อนกันให้เต็มที่ เที่ยว เล่น หรือต้องการซื้อของอะไร ก็ตามสะดวกของน้องๆเลยครับ คืนแรกนั้นเราจะพักกันที่รีสอร์ท...นะครับ เป็นรีสอร์ทในเครือบ้านพี่โบ๊ท งานฟรีเราก็มาเอ้า เฮ กันหน่อยเร็ววว”
“เฮ!!!” พวกผมต่างพากันเฮที่นอนฟรีนิครับ ของฟรีใครๆก็ชอบ ฮ่าๆๆ
“ส่วนวันที่สองนั้นเราจะพาไปทดสอบความอึดกันนะครับ เตรียมตัวให้ดีนะครับ และคืนที่สองเราจะพักที่... เป็นบ้านพักจะเฉลี่ยพักกันหลังละ9คน แบ่งกลุ่มกันเองได้นะครับ คืนที่สองนี่เสียตังไม่ต้องพากันเฮนะ ฮ่าๆๆ”
“เฮ!!” เอ้านี่ก็เฮ เสียตังเห้ย ไม่ใช่ฟรี เฮทำไม เฮดังสุดนี่ไอ้พาสเลย เหอๆ
“บอกอย่าเฮไง จริงๆเลย เอ้าๆ ส่วนวันที่สามเราเดินทางกลับนะครับ จะแวะซื้อของฝาก ใครจะซื้ออะไรก็ตามสบายเน้อ อ้อ มีทะเลด้วยนะ เตรียมเสื้อผ้าไปเล่นน้ำด้วย ส่วนกิจกรรมยามดึกนั่น สังสรรค์มีแน่นอน เหล้าเบียร์พี่จะขอจำกัดนะครับ ดื่มแต่พองาม ดื่มแล้วห้ามทะเลาะวิวาทกัน ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย เพราะเราไปทำกิจกรรมกันนอกสถานที่ เข้าใจไหมครับ”
“ครับ/ค่ะ”
“โอเคครับ เราจะมาเจอกันวันเสาร์นี้ รถจะออกเจ็ดโมงนะครับ มาเจอกันหน้าตึกคณะ แล้วเจอกันครับ วันนี้พอแค่นี้ครับ”
“รุ่นน้องปี1ทำความเคราพรุ่นพี่”
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
พอเราทำความเคารพรุ่นพี่เสร็จก็ต่างพากันแยกย้าย แต่แปลกแหะวันนี้ไม่เจอเขา มีเพียงพี่เดฟ พี่เอ พี่โบ๊ทและพี่คิมเท่านั้น อาทิตย์หนึ่งแล้วที่ผมไม่เจอเขา จากที่ผมได้คุยกับพี่เดฟในวันนั้น ผมก็เอากลับไปคิดว่าจะให้โอกาสหรือไม่ดี ผมคิดไม่ตกจริงๆกับเรื่องนี้ เขาเคยทำไม่ดีกับผมไว้ ถึงจะพอมารู้เหตุผลเรื่องคลิปว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นคนอัพมันก็ตาม แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ปฏิเสธมัน เขายอมรับมัน แต่เรื่องที่เขาพนันกันนั้นก็อีกเหตุผลหนึ่ง เขาเล่นกับความรู้สึกของผม เขาเห็นความรู้สึกของผมเป็นของเล่น เอาความรักที่ผมมีให้ไปพนันกัน ใครๆต่างก็บอกว่าลองให้โอกาสคนอีกครั้ง บางครั้งเขาอาจจะกลับตัวเป็นคนดีแล้วก็ได้ แต่ในสถานการณ์แบบผม การให้โอกาสใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่ผมไม่มั่นใจว่าโอกาสที่ผมจะให้นั้นมันจะไม่กลับมาทำร้ายผมอีก ... ถ้าเขาสามารถทำให้ผมมั่นใจในตัวเขาและสามารถทำให้ผมมอบโอกาสนั้นแก่เขาได้ ผมจะยอมรับมัน
“เตี้ย!” ผมหันไปยังเสียงที่เรียก ไอ้สูงเลิกเรียนแล้วสินะ ถึงมารับผมได้ มันยืนพิงหลังกับรถโบกมือให้ผม
“เลิกเรียนเร็วหรอวันนี้” ผมถามเมื่อเดินมาถึงมัน
“อืม พอดีอาจารย์มีประชุมเลยเลิกเร็ว...ไงที่รัก คิดถึงไหนมากอด”ไอ้สูงมันคุยกับผมแล้วก็หันไปทักทายไอ้พาส
“กอดกับตีนกูรึไงไอ้เนป” ไอ้พาสนี่ก็ตีนไวพอปาก
“น้อยใจว่ะ มีผัวใหม่แล้วลืมผัวเก่านะมึง”
“มึงหรือเปล่าผัวใหม่ไอ้สูง” ผมว่า มึงมาหลังเขามึงควรเป็นใหม่นะ ไม่ใช่เก่า ไอ้นี่ก็ท่าจะเพี้ยน
“เมียน้อยแบบมึงเงียบไปเลย”
“เห็นแบบนี้กูเลือกวะสูง” ผมไหวไหล่แบบไม่แคร์
“ชิ”
“แล้วนี่มึงไม่เตรียมตัวประกวดเดือนหรอวะไอ้เนป” ไอ้พาสมันถาม
“วันนี้ไม่วะ กูต้องพาไอ้เตี้ยไปหาเฮียอ่ะ คราวก่อนไม่ได้ไปเพราะมีเรื่อง” ตามที่ไอ้สูงบอก คราวนั้นที่เราะไปหาเฮียเป็นอันต้องยกเลิกไปเพราะผมร้องไห้หนักมาก จนไอ้สูงมันต้องโทรไปเลื่อนนัดกับเฮียเป็นวันอื่น นั้นก็คือวันนี้นี่เอง
“เมีย!!” พี่เดฟเดินหน้าบึ้งตรงมาที่พวกผมยืนอยู่ ไอ้พาสถอนหายใจก่อนหันไปมอง
“เออ**!**”
“จะกลับไหมบ้านอ่ะ ห้ะ!” พี่เดฟขึ้นเสียงใส่ จนผมสะดุ้ง ผมหันไปมองไอ้พาสเห็นมันกรอกตาไปมา
“ขึ้นเสียงใส่กู?” ไอ้พาสถามเสียงน่ากลัว
“เปล่าจ้ะ เมียจ๋า” เออพี่มันแม่งก็เปลี่ยนอารมณ์ไวจริงง
“หึ” ไอ้สูงมันขำ
“ขำเชี่ยไรของมึง” พี่เดฟ
“ขำคนกลัวเมีย” ไอ้สูงตอบกลับกวนๆ
“ใครกลัว กูไม่ได้กลัวเว้ย”
“หรอ แต่ที่กูเห็นมันไม่ใช่นิ สงสัยจะเป็นหมา”
“มึงว่าใครหมาห้ะ!!” พี่เดฟจ้องเขม็งไอ้สูงไม่วางตา ไอ้สูงเองก็เหมือนกัน
“ไอ้เดฟถ้าจะมามีเรื่องก็กลับไปก่อน” ไอ้พาสว่า
“เมียนี่มึงเข้าข้างมันหรอห้ะ!”
“เออ!” เห้ยๆ อย่ามาทะเลาะกันนะเว้ย
“ขอโทษพี่เขาเลยมึง หาเรื่องให้แฟนเขาทะเลาะกันทำไม”ผมว่ามัน มันไหวไหล่
“กูเปล่า..” เปล่ามากที่กูเห็นมึงไปกวนประสาทพี่เขานะไอ้เวร ต้องด่ามันครับ ด่าในใจ แหะๆ
“...” ผมได้แต่ส่ายหัวมองคู่รักทะเลาะกันอย่างออกรสชาติ
“ไอ้โยกูกลับละ เบื่อควายมันร้อง!” มันพูดกับผมประโยคแรก แต่ประโยคหลังนั้นหันไปหาพี่เดฟ แล้วมันก็เดินออกไปผมได้แต่โบกมือลามัน
“มึงอย่ามาหนี คุยกันให้รู้เรื่องก่อนนะเมีย”
“ไม่คุยเว้ย!!” เสียงไอ้พาสตะโกนมา
“พี่เดฟรีบไปคุยกันเถอะครับ ขอโทษแทนไอ้นี่มันด้วย” ผมบอกขอโทษพี่มัน พี่มันแค่พยักหน้ารับ แล้วจ้องหน้าไอ้สูงแวบเดียวก็วิ่งไปยังทางที่ไอ้พาสพึ่งเดินไป
“ไปขอโทษมันทำไม คนอย่างมันไม่สมควรให้มึงไปขอโทษเลยซักนิด” มันกอดอกมองหน้าผม
“แล้วมึงไปว่าพี่เขาทำไมละ ถ้ามึงไม่ขอโทษกูก็ต้องขอโทษแทนดิ”
“เหอะ มึงก็เป็นซะแบบนี้” อ้าวกูเป็นแบบนี้ นี่แบบไหนวะ
“ไปยังเดี๋ยวเฮียรอนาน”
“อืม” มันตอบกลับเซ็งๆแล้วก็ไปประจำที่คนขับ ผมเปิดประตูฝั่งผม แต่สายตาก็ไปสะดุดกับร่างบางหน้าหวานของพี่คิม พี่เขามองมา แต่พอสบตากันเป็นพี่คิมที่หลบสายตาไปก่อน
“ไอ้เวรนั้นได้มายุ่งกับมึงอีกป่ะ” พอขับรถออกจากมหาลัยมาได้ซักพักไอ้สูงก็ถามขึ้นมา ผมละสายตาจากข้างทางไปมองมัน
“ก็ไม่ ตั้งแต่วันนั้น” ผมตอบ
“ดีแล้ว ถ้ามันมายุ่งวุ่นวายกับมึงอีกรีบบอกกูนะ กูจะรีบไปหามึงทันที” ผมยิ้ม จะมีใครละเป็นห่วงผมได้เท่ามัน มีแค่มันที่คอยอยู่ข้างผมตลอดเวลา
“อืม” ผมพยักหน้า มันหันมายิ้มแล้วยีหัวผมเล่น
“พอแล้ว ผมยุ่งหมด ขับรถไปเลย” ผมปัดมือมันออก
“ครับๆเจ้านาย”
“เฮียยยยยยย” ผมลากเสียงยาวเรียกบุคคลที่ผมนับถือคนหนึ่ง เฮียอาทิตย์นั่นเอง
“ไง หืมหายหน้าหายตาไปเลยนะเรา” ผมเดินเข้าไปกอดเฮีย เฮียเพียงแค่ลูบหัวผมอย่างเอ็นดู
“เปล่าสักหน่อย ไม่ได้หายนี่ก็มาให้เห็นแล้วไง” ผมว่า
“ถ้าเฮียไม่อยากเจอคงไม่มาละสิ แบบนี้ต้องงอนซะแล้ว” แล้วเฮียแกก็ทำท่างอน แก้มพองลม เชิดหน้ากอดอก ฮ่าๆๆ นึกสภาพตามนะครับ ผู้ชายตัวโตๆทำท่าทาง หน้าตาแบบนี้จะเป็นยังไง ถึงเฮียจะหล่อก็เถอะ แต่ไอ้ท่าทางน่ารักๆงอนเป็นผู้หญิงแบบนี้ไม่เข้ากับเฮียเลยว่ะ
“ดูทำเข้า อายน้องอายนุ้งบ้างเหอะ แก่แล้วยังทำเป็นเด็กๆ” จะใครซะอีกละ น้องชายของเฮียผมไง ไอ้สูงมันแขวะพี่ชายตัวเองเว้ย
“ใครทำให้มึงดู”
“มีกันอยู่แค่นี้คงทำให้ จิ้งจก ตุ๊กแกดูมั้งเฮีย”
“กวนตีนกูนักนะไอ้เนป เดี๋ยวกูยันตีน”
“ชอบทำร้ายน้อง รักจริ๊งไอ้เตี้ยเนี้ย ” เฮียได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดเด็กๆของมัน
“มันไปเอานิสัยขี้ประชดมาจากไหนวะ”
“ผมก็ไม่รู้” ผมส่ายหน้าไปมา ผมไม่รู้ ติดจากผมหรอก็ไม่ใช่
“สงสัยติดจากผู้หญิงที่มันคั่ว”
“หิวแล้วจะรำพึงรำพันกันอีกนานป่ะ หิวเว้ย”
“เมื่อกี้มันยังดีๆอยู่เลยนะเฮีย” ผมว่า
“สงสัยมันจะโมโหหิวมั้ง” แล้วเฮียก็เดินโอบผมพาเข้าไปในร้านอาหารที่ไอ้สูงมันเดินนำไปก่อนแล้ว ผมบอกหรือยังว่าตอนนี้ผมอยู่ที่แห่งหนใด ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่นี่ต้องสั่งจองก่อนนะครับ เพราะลูกค้าเยอะ คิวนี่กว่าจะได้ต้องจองกันหลายเดือนเลย เฮียแอบกระซิบบอกมานะครับ ถึงโต๊ะเราก็สั่งอาหารที่ขึ้นชื่อและเป็นเมนูที่ทางร้านแนะนำด้วย ไม่นานอาหารมากมายก็มาเสริฟ ผมไม่รีรอรีบกระซวกเข้ากระเพาะ เอ่อ รับประทาน แต่คนที่กระซวกจริงๆคือไอ้สูง สงสัยจะหิวมาก ฮ่าๆๆ
“แล้วเรียนเป็นไงบ้างละ”
“อืมก็ดีครับ เรื่อยๆแหละ” ผมตอบ
“อืมๆ เฮียเชื่อว่าเราเก่งอยู่แล้ว” ผมยิ้ม
“เฮียโอ๋แต่มันอ่ะ”
“มึงอย่ามาทำเป็นเด็กขาดความอบอุ่นนะไอ้เนป”
“พอพามันมาละลืมน้องชายแท้ๆ พอใช้งานนี่จิกหัวใช้จัง”
“อย่ามาพาลไอ้สูง”
“เงียบเลยเตี้ย กูทำงานหาตังเลี้ยงมึงนะสำนึกบุญคุณด้วย” ผมยู่ปากใส่มัน
“เฮียดูมันดิ”ผมหันไปออเซาะเฮีย ฮ่าๆๆๆ เฮียรักผมจะตาย แต่ไม่ใช่ว่าไม่รักไอ้สูงนะ เฮียรักมันมากกว่าผมซะอีกแต่จะให้แสดงความรักออกมาแบบโจ้งแจ้งมันก็แปลกๆอ่ะเนอะ
“ฮ่าๆๆ จริงๆเลย อยู่ด้วยกันทุกวันเป็นแบบนี้ประจำหรือเปล่า หืม” เฮียถาม
“ก็ไม่นะเฮีย แต่ไอ้สูงมันชอบวางข้าวของระเกะระกะ เสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็ไม่ยอมเอาลงตะกร้าซัก ...” ผมฟ้อง ได้ทีต้องเอาซะหน่อย
“ไอ้เตี้ยขี้ฟ้องวะ เฮียฟังมันบ่นหงุงงิ้งไม่รำคาญหูบ้างหรอวะ”
“ก็ไม่เสียหายอะไรนิใช่ไหมโย” ผมพยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ ฮ่าๆๆ เฮียเข้าข้างผมเสมอเมื่อเราอยู่สามคนพี่น้อง ถึงจะคนละพ่อแม่ก็เถอะ ถ้าผมไม่ไปนอกในตอนนั้นก็คงจะไม่สนิทกับไอ้สูงและเฮียแน่ คุยเล่นกันอยู่นาน จู่ๆไอ้สูงก็โพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เฮียมีเรื่องให้ช่วยวะ...”
วันเสาร์ เวลา 06:30
-อัลฟา-ตอนนี้พวกเราเหล่ารุ่นพี่ปีสองกำลังขนของขึ้นรถกัน ผมเองก็เช่นกัน ผมต้องมาก่อนเวลาที่รุ่นน้องปีหนึ่งจะขึ้นรถ คือต้องมาช่วยพวกเพื่อนๆขนของ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่รถจะออกแล้ว พวกเราจึงเรียกปีหนึ่งรวมโดยมีแกนนำคือไอ้คิมที่ทำงานในส่วนนี้
“ทุกคนเช็คเพื่อนด้วยนะครับว่ามากันครบหรือยัง ถ้าครบแล้วขึ้นรถเตรียมเดินทางกันได้แล้วครับ ส่วนสัมภาระนั้นไปฝากกับรุ่นพี่ตรงนั้นนะครับ พี่เขาจะจัดเก็บไว้ให้ ตอนนี้ไปขึ้นรถได้แล้วครับจะได้ออกเดินทางจะได้ไม่เสียเวลา” ไอ้คิมบอกกับรุ่นน้องทุกคน ตอนนี้รุ่นน้องกำลังทยอยกันขึ้นรถ ผมยังไม่เห็นร่างเล็กที่ผมคุ้นเคยเลย ไม่ได้ไปหรอว่ะ เห็นเพียงแค่พาสต้าที่ยืนอยู่กับเพื่อนผมเท่านั้น หนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่ผมไม่ได้ไปกวนใจอะไรมันเลย ผมแค่กำลังหาวิธีทำยังไงมันถึงจะยอมยกโทษและให้โอกาสผม
“โหลไอ้โยเมื่อไรมา รถจะออกแล้วนะ...เออเร็วๆ”
“ไอ้พาส!” โยชิวิ่งหน้าตั้งมาหยุดอยู่หน้าพวกผม หอบหายใจหนักๆ พยายามเอาอากาศเข้าปอด
“ชักช้าจริงมึง”ไอ้พาสต้าว่า
“ก็ไอ้สูงมันตื่นสายกว่าจะปลุกให้ตื่นได้ต้องใช้เวลา”
“เออๆไปได้ละ” ไอ้พาสต้ามันว่าจบก็ลากโยชิไปขึ้นรถเลย กระเป๋าหรอนู้นโยนให้ผัวมันเป็นคนจัดการให้ทั้งของมันของโยชิ ไอ้เดฟจึงต้องรับไปเก็บให้ โยชิไม่มองหน้าผม ไม่แม้แต่จะเลือบมองเลยสักนิด ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ ผมควรทำไงดีว่ะ ตลอดทั้งทริปนี้ผมจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว
“เอาละครบกันแล้วนะครับ งั้นไปประจวบกันเลย”
“เย้!!!” ทั้งรถพากันเฮ รุ่นพี่จะเฉลี่ยแบ่งนั่งไปแต่ละคัน กลุ่มผมนั่งคันเดียวกันทั้งหมด และได้ดูแลกลุ่มของโยชิ ไอ้คิมก็ยังคงพูดนู้นนี่นั่นไปเรื่อยๆ รุ่นน้องก็ตั้งใจฟังบ้างไม่ตั้งใจบ้าง ทริปครั้งนี้ไม่ใช่ทริปการเรียนรู้อะไรมากมายหรอกครับ ที่จัดไปนี่ก็ใช่ว่าจะไปศึกษาอะไร แค่อยากพาน้องไปเที่ยวเฉยๆ โดยมีไอ้เอ(ลูกเจ้าของมหาลัย)เป็นแกนนำคิด มันใช้อำนาจในการเป็นลูกเจ้าของจัดทริปนี้ขึ้น เป็นลูกที่ดีไหมละ พวกผมนั้นก็แค่ผลพลอยได้จากที่เป็นเพื่อนมันนั่นละ หึๆ
“ไอ้อัลกูไปช่วยพูดกับน้องมันแล้วนะเว้ย” ไอ้เดฟมันนั่งข้างผมมันเอ่ย บอกแล้วงั้นสิ ผมก็บอกมันแล้วว่าเรื่องนี้ผมจะจัดการเอง
“แล้วมันว่าไงบ้าง”ผมถาม
“กูว่าน้องมันยังไม่ยอมวะ กูช่วยมึงได้เท่านี้จริงๆ ขอโทษนะเว้ย”
“เออไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวกูหาวิธีจัดการเอง ขอบใจ”
เราใช้เวลาในการเดินทางมาประจวบไม่นานก็มาถึง สถานที่แรกที่เราพาน้องๆมาเป็นวัดครับ วัดห้วยมงคล เราพาน้องๆมาไหว้ศักการะหลวงพ่อทวด ขอโชค ขอลาภ และขอให้การเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ไอ้คิมก็ยังคงอธิบายถึงสถานที่แห่งนี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรให้น้องๆได้ทราบกัน ส่วนผม ไอ้เดฟ ไอ้เอ ไอ้โบ๊ท นะหรอ อยู่เฉยๆครับ หน้าที่จริงๆคือช่วงเย็นนั่นละ ยกของลง...
“ไอ้เดฟ” ผมเรียกไอ้เดฟที่ยกกล้องถ่ายภาพตัวเองกับสถานที่
“เออ”
“ช่วยไรกูหน่อยดิ”
“ช่วยไร?” มันเลิกสนใจถ่ายภาพแล้วหันมาสนใจผม
“กันเมียมึงออกจากโยชิ ทำได้ไหม” ผมถามมัน มันแสยะยิ้มก่อนตอบ
“เรื่องแค่นี้สบายมาก มีแผนแล้วหรอ”
“ก็ยัง แต่กันออกไปก่อน เรื่องนั้นคอยคิดที่หลังก็ได้” ผมว่า มันพยักหน้าโอเค เอาละ ทั้งทริปนี้ผมจะตามติดตัวมันทุกฝีก้าวเลยคอยดูสิ
“เช็คเพื่อนข้างๆมาครบกันยัง มาครบแล้วพี่จะได้ออกรถไปยังสถานที่ต่อไป สถานที่ต่อไปนั้นเป็นตลาดน้ำนะครับ ตลาดน้ำสามพันนาม เราจะไปพักทานอาหารที่นั้น ใครจะทานอะไรก็หากินเองนะครับ มีร้านอาหารขาย และมีของฝากมากมายใครจะซื้อไปฝากเพื่อนตั้งแต่วันแรกก็ตามสบายนะครับ มีโชว์การแสดงด้วยนะ พี่บอกเลยว่าทริปเราชิวๆสบายๆ” ไอ้คิมก็ยังพูดไม่หยุดตั้งแต่มา มันไม่เหนื่อยบ้างหรือไงว่ะ ผมสะกิดไอ้เดฟให้ไปกันเมียมันออกจากโยชิ มันก็จัดการให้ทำให้ผมได้มีโอกาสซักที ผมนั่งลงข้างกันกับโยชิ ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเห็นอีกฝ่ายหันมามอง มันชักสีหน้าใส่ผมด้วย ไม่สน นาทีนี้ผมต้องด้านครับ เห็นไอ้พาสต้ามันโวยวายทุบตีไอ้เดฟด้วยครับ
“ไอ้ควาย มึงทำเชี้ยไรของมึงห้ะ กูไม่นั่งกับมึง!!”
“เมียเงียบๆหน่อย โอ๊ยยผัวเจ็บ”
“แล้วมึงทำบ้าอะไรห้ะ!”
“ก็อยากนั่งกับเมียตัวเองผิดด้วยหรอ”
“แต่กูไม่อยากนั่งกับมึง แล้วก็ไปลากไอ้เหี้ยเพื่อนมึงออกจากเพื่อนกูด้วย” ไอ้พาสต้ายังคงโวยวายไม่เลิก ขณะ ที่รถกำลังแล่นออกไปยังสถานที่ต่อไปเรื่อยๆ
“โอ๊ยๆ เมียอย่าดึงหัวกู”
.
.
.
“หิวยัง?” ผมถามคนข้างกายที่เงียบตลอดทาง เอาแต่มองนอกหน้าต่างรถ อยากจะรู้นักมีไรให้มองนัก
“...” ได้เพียงแต่ความเงียบ นี่ผมต้องเล่นสงครามประสาทกับมันใช่ไหม แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยก็ได้นั่งใกล้มัน และวันนี้ก็ไม่มีมารมาผจญด้วย
“เฮ้ออ ง่วงเนอะ” ผมพูดขึ้นลอยๆแล้วเอนหัวไปซบกับไหล่เล็กๆของอีกคน เห็นมันสะดุ้งเล็กน้อย ผมยิ้มหลับตาลง
“นี่! ไปนอนที่อื่นได้ไหมห้ะ” มันดันหัวผมออกจากไหล่
“ไม่ ขอพักสายตาหน่อยนา ตื่นเช้ามาขนของ” ผมบอก
“ใครสน ถอยออกไปเลย”
“ไม่” ผมยังคงยืนยันคำเดิม
“ไม่ใช่ไหม ได้” อยู่ๆหัวผมก็โดนกระชากอย่างแรง
“โอ๊ยๆๆเจ็บๆๆ” ผมมองหน้าคนทำร้ายผม มันเหยียดยิ้มแล้วดึงไปมาๆจนหัวผมสั่นคลอน
“หึ”แล้วมันก็ผลักหัวผมออก ผมลูบหัวตัวเอง บอกตรงๆครับโคตรเจ็บ
-โยชิ-
“มาเจอที่รถในเวลาบ่ายโมงครึ่งนะครับน้องๆ” พี่คิมประกาศบอกให้มาพบกันในช่วงบ่าย ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว คงต้องรีบแล้วละ ผมหิวจะแย่ ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน จะหาอะไรกินรองท้องไว้ก็ไม่ทันเพราะติดปลุกไอ้สูงที่หลับไม่ตื่น
“ไปหาอะไรกินกันเถอะ” แล้วนี่ก็อะไร กวนอยู่ได้ ตั้งแต่ออกมาจากวัดเขากวนผมตลอดทางที่มาที่นี่
“ไปคนเดียวดิ”
“ไปด้วยกัน อย่าดื้อ” ผมถลึงตาใส่คนที่ว่าผมดื้อ ใครกันแน่ที่ดื้อ บอกไม่ฟัง
“เดี๋ยวตาก็หลุดออกมาหรอก”
“เรื่องของกู” ผมว่าแล้วเดินหนีให้พ้นๆเขา
“ไอ้โยเร็วๆกูหิวแล้ว” ไอ้พาสมันกวักมือเรียกผม ผมจึงรีบเดินไปหามัน อย่างน้อยอยู่กับไอ้พาสก็ดีกว่าอยู่กับเขาสองคน
“เออๆๆ”
“กินไรดีวะ” พอเข้าในตลาดน้ำได้ไอ้พาสก็ถามหาของกินเลย บรรยากาศที่นี่ดีมากครับ ร้านค้ามากมายเปิดเรียงกัน มีเสื้อผ้า ของฝากชิ้นเล็กๆน่าซื้อเก็บมากครับ ผมเดินดูของไปเรื่อยๆ ส่วนไอ้พาสก็บ่นหิวๆตลอดทางที่เดิน เราไม่ได้เดินกันแค่สองคนนะครับ มีเขาและเพื่อนเขาเดินตามพวกผมด้วย หนีไม่พ้นจริงๆ
“ไอ้เดฟเอาอะไรก็ได้ไปอุดปากเมียมึงทีดิ กูรำคาญวะ” พี่เอที่เดินอยู่ด้านหลังพูดขึ้น ไอ้พาสหันขวับไปมองพร้อมชี้หน้าด่า
“ถ้ารำคาญนักมึงก็เอามืออุดหูมึงไปสิ อีกอย่างกูไม่ได้พูดให้หมาแบบมึงฟัง แล้วพวกมึงจะเดินตามพวกกูหาพระแสงวิมานเชี้ยไรวะ ไปไกลๆไป ที่เดินมีเยอะแยะไม่ไป มาตามเป็นสัมภเวสีขอส่วนบุญอยู่ได้ ไป ชิ้วๆ” ไอ้พาสทำท่าไล่
“ไอ้เดฟเมียมึงนี่ปากดีจริงๆ” พี่โบ๊ทเสริม
“ปากแบบนี้สินะถึงทำให้ไอ้เดฟยอมสิโรราบแทบกราบตีน”พี่คิมเสริมต่อ
“ไอ้เดฟมันกลัวเมีย”
“ไอ้อัลหุบปาก กูไม่ได้กลัวเว้ย”
“หรอ!!”เสียงประสานกันดังขึ้นเมื่อพี่เดฟพูดจบ ไอ้พาสได้แต่ขำหึ อย่างถูกใจ แล้วเราก็เดินไปเรื่อยๆก็จะเห็นร้านขายอาหาร เราเลือกกินก๋วยเตี๋ยวกัน เป็นก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ครับ ราคาถูกมาก ของที่นี่ก็ถูกครับ สบายกระเป๋าดี มีการแสดงโชว์จากนักเรียนนักศึกษาด้วยครับ จะแสดงเป็นเรื่องราวไป นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะมากเท่าไร มันจึงไม่แออัด หลังจากกินข้าวเที่ยงเรียบร้อยดูเวลายังคงเหลืออยู่ ผมจึงเดินเลือกซื้อของต่อ ผมได้เสื้อหัวหินมาสองตัวแน่ะ แหะๆ แล้วก็พวงกุญแจเล็กๆ เห็นมันน่ารักดีก็อดใจไม่ไหวต้องซื้อติดมือหน่อย
“ช่วยถือ” จู่ๆก็มีมือมาคว้าเอาของจากมือผมไปถือ ผมมองเขานิ่ง จะคว้ากลับมาถือเองเขาก็เบี่ยงตัวหลบ
“ถือเองได้ เอามา”
“ไม่เป็นไรเต็มใจ” แล้วเขาก็เดินผิวปากนำไป กวนประสาทชะมัด เมื่อไรจะหลุดพ้นกับคนๆนี้ซักที
“ช่างแม่ง อยากถือปล่อยให้มันถือไปเหอะวะ” ไอ้พาสมันเดินมาตบไหล่ผม แล้วพาเดินต่อ
“เฮ้อออ” ผมทำเพียงแค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
บ่ายโมงครึ่งเราก็ต้องเดินทางต่อซึ่งก็คือจะไปที่พักรีสอร์ทบ้านของพี่โบ๊ท วันนี้สนุกดีครับ ผมซื้อของติดมือเยอะเลย ได้ทั้งไหว้พระขอพร ได้ถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ถึงวันนี้เราจะไปกันแค่นิดเดียวแต่ผมก็สนุกนะผมไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัดเท่าไรนัก นานๆที นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้มั้งที่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้กับเพื่อนเยอะขนาดนี้
“มองไร” ผมหันไปมองคนที่จ้องผมอยู่
“มองวิวข้างทาง เห็นไหมๆๆ ไม่ได้มองน้องเลย” หรอๆที่มึงมองอ่ะหน้ากูชัดๆ วิวคงปรากฏบนหน้ากูมั้ง ไม่อยากจะเสวนาด้วยต่อผมหยิบหูฟังเสียบหูเปิดฟังเพลง หลับตาลงซะจะได้ไม่เห็นว่าคนข้างกายมองอยู่
“ตัวเล็ก ตื่นถึงแล้ว”
“อื้ออ” รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกระซิบอยู่ข้างๆหู ผมค่อยๆลืมตา กระพริบตาปรับสายตาให้ปกติ หน้าอก? อุ่นดีแหะ เดี๋ยวนะ อก ? ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ก้มหน้ามองผมอยู่แล้ว เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ส่งยิ้มมุมปากมาให้ผม
“ตื่นแล้วหรอ?”
“...” ผมไม่ตอบเอาแต่หลบสายตาอีกคนแล้วลุกนั่งตัวตรง
“หึ” เกลียด เกลียดไอ้การที่ผมต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมกูถึงได้หลับไปในท่านั้นวะ ผมเอาแต่ทุบหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ใจบ้าเต้นทำไม
“...”
“จะลงไหม หรือจะนอนบนนี้” ฮึ่ย ทำไรไม่ได้เลย เพื่อนๆก็ต่างพากันทยอยลงจากรถไป ผมจึงลุกจากที่นั่งเดินตามเขาลงไปข้างล่างที่มีไอ้พาสมันยืนรออยู่
“ชักช้าตลอดนะมึงนะ เอ้ากระเป๋า” มันยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าผมมาให้ ผมรับแล้วมองบรรยายกาศรอบๆ สวยครับ บริเวณรอบๆมีต้นไม้เขียวๆเต็มไปหมด มองแล้วสบายตาดี เบื้องหน้าก็เป็นทะเลพื้นกว้างที่สุดลูกหูลูกตานู้นน
“เอาละน้องๆเมื่อจับกลุ่มที่พักกันได้แล้วมาเอากุญแจกับพี่นะครับ...” พี่คิมกับพี่โบ๊ทกำลังยืนแจกกุญแจให้กับทุกกลุ่มที่แบ่งกันนอน ผมกับไอ้พาสนอนด้วยกันครับ มันจะไปนอนกับพี่เดฟแฟนมันก็ได้แต่มันบอกว่าจะให้ผมนอนคนเดียวไม่ได้มีเหี้ยคอยฉวยโอกาสอยู่ตลอด ผมก็เข้าใจทันทีว่ามันหมายถึงใคร
“เอาของไปเก็บเถอะแล้วไปเล่นน้ำกัน” ไอ้พาสมันลากแขนผมให้เดินตามมันไปทันที รู้สึกมันจะกระตือรือร้นจริงๆ หลังจากที่เราเอาของไปเก็บแล้ว เราก็เปลี่ยนชุดเตรียมลงน้ำทะเลกัน
“ไอ้พาสรอกูด้วย!!” ผมตะโกนไล่หลังไอ้พาสที่ตอนนี้วิ่งลงทะเลนำโด่งไปแล้ว
“นอกจากเตี้ยแล้วขายังสั้นอีกนะมึง” เออครับไอ้คนสูงลิ่ว
“มึงจะรีบไปไหนทะเลมันไม่หายไปไหนหรอกเว้ย”
“ก็กูอยากเล่น เร็วๆไอ้โย” พอผมเดินไปถึงมัน ไอ้พาสมันก็ลากผมเดินลงทะเลต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำทะเลเท่ากับอกผมแล้ว ขากูสั้นกว่ามึงนะเว้ย ไปลึกกว่านี้กูจมแน่ๆๆครับ
“ไอ้พาสมึงจะไปลึกขนาดไหนว่ะ พอแล้วกูไปต่อมีหวังน้ำมิดหัวกู”
“เกิดมาขาสั้นนี่ลำบากจริงๆ เออๆๆงั้นเล่นตรงนี้ก็ได้”
“มึงมั่นใจว่าจะเล่นตรงนี้” มันพยักหน้า
“เออไปไกลกว่านี้ได้ไหมละ” แล้วจากนั้นมันก็จับผมกดลงน้ำทะเล ผมดิ้นเลยครับ ไอ้เพื่อนชั่ว
“แค่กกๆๆ อะ ไอ้เหี้ย มึงจะฆ่า คะ แค่กๆกูหรอ” ผมสำลักน้ำทะเล ไอออกมา กลืนน้ำทะเลไปหลายอึกเลยเมื่อกี้ เค็มก็เค็ม รู้สึกเจ็บคอเลย ไอ้เพื่อนนรก
“ฮ่าๆๆๆ” ยังมีหน้ามาขำอีก
“มึงเล่นแบบนี้ใช่ไหมไอ้พาส” ได้ๆ ผมเลยจัดการกระโดดเกาะหลังมัน มันดิ้นเขย่าๆตัวให้ผมหลุด จ้างให้ก็ไม่หลุดหรอกเว้ย ผมเกาะมันแน่นขึ้น รัดที่คอมันด้วย ฮ่าๆๆ
“ไอ้เตี้ย ไอ้เหี้ย อะ ไอ้โย กูหายใจไม่ออกเว้ย!!!”
“ไม่สนเว้ย มึงเกือบฆ่ากู กูต้องเอาคืน ฮ่าๆๆๆ”
ตูม !!! หงายหลังกันลงน้ำทั้งคู่เลยไงคราวนี้ ไอ้พาสมันสลัดผมไม่หลุดจึงต้องเอนหลังเอาผมลงไปก่อนจากนั้นตัวมันก็ตามมา ดื่มน้ำทะเลกันไปตามระเบียบอีกตามเคย เริ่มแสบตาแล้วสิ น้ำเข้าตาผมTT’ ผมจึงขยี้ตาตัวเอง
“แสบตา ไอ้พาสกูแสบตา” ผมกระพริบตาและขยี้ตาตัวเอง
“อย่าขยี้ตาสิ” เสียงนิ่งๆดุผมขึ้นมา แล้วจับมือผมที่กำลังขยี้ตาตัวเองออก เขามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน แล้วไอ้พาสละ**?**
“ปล่อย” ผมสลัดมืออีกคนออก
“อย่าดื้อ ไหนจะดูตาให้” แล้วเขาก็จับผมเงยหน้าขึ้น ผมหันหน้าหนีเมื่อมีลมเบาๆเป่าตรงตาผม
“อือ”
“เฉยๆ”
“...”ผมปล่อยให้เขาดูตาผม ผมหรี่ตาลงข้างหนึ่งเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ส่องมากระทบ แต่ไม่นานแสงนั้นก็หายไปเพราะเขาเอาร่างตัวเองบังแสงให้ผม ผมมองร่างสูงที่เปลือยท่อนบน แผงอกแกร่งที่อยู่ต่อหน้าผมตอนนี้ ทำให้ผมลอบกลืนน้ำลายตัวเอง เอ่อผมไม่ได้โรคจิตนะเว้ย แต่แบบเขาหุ่นดีกว่าผมป่ะ มีแพคด้วย ทำไมผมไม่มี ทำไมผมถึงเกิดมาแห้งวะ กินเท่าไรก็ไม่โตซักที ฮึ่ย ! หงุดหงิด
“ไม่เจอกับกูตั้งอาทิตย์หนึ่ง คิดถึงกูไหม” ผมเงยหน้ามองสบตากับอีกคน กล้าถามนะประโยคนี้
“ทำไมกูต้องคิดถึงมึงด้วย”
“ก็เผื่อจะคิดถึงเลยถาม”
“เหอะ!” ผมผลักเขาออกให้ห่างจากผมด้วยความหมั่นไส้
“โยชิ..”
“อะไร?” ผมมองเขาที่ทำหน้าจริงจัง
“ขอโอกาสให้กูอีกครั้งไม่ได้หรอ”
“...”
“สัญญาจะทำมันให้ดี จะไม่ทำมึงเสียใจ”
“...”
“นะ..ตัวเล็ก” แล้วเขาก็ดึงผมเข้าไปกอด ผมแค่ยืนเฉยๆปล่อยให้เขากอดผมแบบนั้น ผมมองทะเลพื้นกว้างใหญ่นี้แล้วคิดว่าจะทำยังไง จะลองเสี่ยงกับโอกาสครั้งนี้ดูไหม หรือ จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เรื่อยๆ ผมรู้ว่าเขาไม่มีวันยอมแพ้มันหรอก คนอย่างเขาถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้
“พิสูจน์ตัวเองสิ” ผมเอ่ยบอกเสียงนิ่ง
“พิสูจน์?” เขาดันตัวผมออกแล้วหันมาสบสายตากับผม
“อืม พิสูจน์” ผมยังคงพูดต่อ
“จะให้พิสูจน์ยังไง บอกมาสิ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
“ถ้าแค่นี้ยังคิดไม่ได้ก็อย่ามาขอโอกาสกับกู” ผมหันหลังเดินขึ้นฝั่งเมื่อพูดสิ่งที่ผมต้องพูดออกไปแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่เขาแล้วละจะพิสูจน์ตัวเองยังไงให้ผมมั่นใจที่จะมอบโอกาสครั้งนี้ให้กับเขา
TBC.