ตอนที่10 :รับน้องใหม่-โยชิ-10
9
8
7
6
5
4
3
2
1
ปี๊ดดด !!
“ขอแสดงความยินดีกับน้องๆที่มาสายนะครับ หึๆ”เสียงรุ่นพี่ที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่ประธานของคณะผม นั้นก็คือคณะวิศวะนั้นเอง…
“รุ่นพี่ที่ทำหน้าที่กะคนมาทำกิจกรรมของเราสายพาน้องๆมาด้านหน้าด้วยครับ”
“เชิญครับผม”พี่ที่ทำหน้าที่กะคนมาทำกิจกรรมสายบอกกับผมและไอ้พาสต้าให้เดินไปด้านหน้า ใช่ครับ ! คนที่มาสายคือผมกับ
ไอ้พาสต้าเองครับ TT’ เพราะไอ้สูงคนเดียวแท้ๆเลย ก็มันนะสิครับทำไรชักช้า กว่าที่ผมจะปลุกมันตื่นได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมง แล้วผมยังต้องลากมันไปห้องน้ำอีก เฮ้ออ ผมละเหนื่อยใจกับมันจริงๆ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นทำไมคนที่มาสายมีแค่ผมกับไอ้พาสต้าว่ะ คนอื่นไปไหนหมด
“จะยืนนิ่งกันอีกนานไหมครับ เชิญ”บางทีรุ่นพี่ก็โหดไปนะ แค่มาสายแปบเดียวเอง ผมกับไอ้พาสหันมามองหน้ากันเล็กน้อย มันพยักหน้าพอเข้าใจกันสองคน ผมกับมันจึงเดินไปโชว์ตัวด้านหน้าให้ประชากรทั้งหลายที่นั่งเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เพียบ ผมกับไอ้พาสเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของทุกคน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ผมสองคน ทำให้ผมต้องก้มหน้างุด
“หึๆไงครับน้องมาสาย”คือนี้ชื่อกู?เสียงพี่ประธานเอ่ยทักเราสองคน ผมกับไอ้พาสจึงหันไปมอง เห็นอยู่ไกลๆว่าหล่อแล้ว มาอยู่ใกล้ๆนี่หล่อกว่าอีก ผมคงจ้องพี่เค้านานไปหน่อยทำให้พี่เค้ายื่นหน้ามาใกล้ผมตอนไหนไม่รู้
“จ้องพี่ขนาดนี้ระวังจะท้องนะครับ”
“…”แดกจุดเลยครับ ผมจึงหันหน้าหนีมาเผชิญหน้ากับทุกคนที่นั่งมองอยู่
“หึๆ”หัวเราะได้น่ากลัวจริงๆ
“เอาล่ะครับน้องๆทุกคน เราควรทำยังไงกับคนที่มาสายกันดีนะ”
เงียบครับ… ทุกคนในที่นี้เงียบกันจริงๆกูเริ่มกลัวแล้วสิ
“หึๆงั้นพวกพี่จะเป็นคนลงโทษน้องสองคนเองนะครับ”ผมได้แต่ก้มหน้างุดอย่างเดียว เหล่ไปมองไอ้พาสแปบมันไม่เห็นจะรู้สึกไรเลย มันยังคงยืนหน้าสล่อนไม่คิดกลัวรุ่นพี่เลย อีกอย่างยังทำหน้ากวนตีนส่งไปให้พี่ประธานเค้าอีก
“ไอ้พาสๆ”ผมสะกิดมันเบาๆมันหันมามองผม
“ว่า?”
“กูกลัว”
“กลัวไร?”มันขมวดคิ้วมองผม
“ก็รุ่นพี่ไงมึง”
“กลัวทำไม…ก็แค่รุ่นพี่!”มันพูดกับผมประโยคด้านหน้าแต่ประโยคหลังนั้นมันพูดกับพี่ประธานครับ
“หึ ! ปากเก่งจริงๆมิน่าละไอ้เดฟมันถึงได้ติดใจ”
“ก็คนมันมีดีว่ะ”มันยักคิ้วให้พี่เค้ากวนๆแสดงว่าสองคนนี้รู้จักกันสินะ อีกอย่างพูดถึงพี่เดฟด้วย แต่เดี๋ยวนะ ?
“มึงๆๆ”ผมสะกิดไอ้พาสเบาๆมันหันมามอง
“ไรอีก?”
“มึงรู้จักกับรุ่นพี่เค้าหรอว่ะ”
“อืม รู้สิก็มันเป็นเพื่อนไอ้เดฟแล้วก็…”
“เฮ้ย ! กว่าจะมาได้นะครับคุณเดฟ คุณเคมี”ไอ้พาสยังพูดไม่จบก็มีเสียงรุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนเสียงซะดังตัดบทเลย - - ทำให้ไอ้พาสชะงักแล้วหันไปมองตามบุคคลที่ถูกเรียกจะใครที่ไหนก็พี่เดฟไงครับ แต่เดี๋ยวนะเคมีนี่ใคร?
“โทษทีเมื่อคืนจัดหนักไปหน่อยว่ะ”ชัดเลย ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เมื่อคนที่ได้นามว่าเคมี?ตอบกลับมา ยะ อย่าบอกนะว่าเค้าเรียนอยู่คณะเดียวกับผม เหมือนจะรู้สึก…ทำให้เค้าหันมามองผมที่ยืนอยู่ด้านหน้าประชากรทั้งหลาย ก้มหน้าละกันกูTT’
“ว่าแต่พวกมึงทำไรกันแล้วน้องสองคนนั้น?”
“อ่อ…น้องมันมาสายว่ะเลยจะทำโทษกันสักหน่อย หึๆ”ไอ้พี่ประธานที่อยู่ใกล้พวกผมตอบ
“งั้นหรอ”รู้สึกเหมือนถูกจ้องเว้ย ผมเหล่มองไปทางนั้นเล็กน้อยก่อนเห็นว่าเค้ามองมาที่ผมอยู่ กรี๊ดดด(?)เอิ่มมเสียงใคร?
“เมียมึงก็โดนว่ะไอ้เดฟ ฮ่าๆๆ”
“หุบปากไปเลยไอ้โบ๊ทเดี๋ยวกูเตะ”
“จายร้ายยยยT^T”
“เอาล่ะ พี่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไงกับน้องสองคนนี้ดี หึๆ”ลางสังหรณ์เริ่มไม่ดี มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่…
“เบาๆนะมึง อย่าให้เมียกูเลือดตกยางออกเชียวนะ”เสียงพี่เดฟเป็นคนพูดกับพี่ประธาน
“ไม่ต้องห่วงหรอก หึๆ”พี่ประธานพูดขึ้นลอยๆก่อนที่จะหันมามองพวกผมสองคน “มานี่…”แล้วก็กวักมือเรียกใครก็ไม่รู้เพราะผม
เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตากับ …
“อะไร?”เสียงห้วนๆที่ผมคุ้นเคยตอบกลับ ใช่ครับเสียงของ เอ่อ…เค้าคนที่ผมไม่อยากเจอนั้นแหละครับ
“มานี่ พวกมึงก็มาสายเหมือนกัน เป็นพี่ก็ต้องรู้จักรักษาเวลาบ้าง ทำโทษพี่ด้วยเป็นตัวอย่างดีๆให้น้องกันหน่อยมาๆพวกมึงสอง
ตัว เร็ว!!”
“@#9^&%$!@+_*&&^…”คำด่าสารพัดของพี่เดฟออกมายาวเยียดส่งไปให้พี่ประธาน ผมรู้สึกว่ามีสิ่งมีชีวิตมาหยุดอยู่ข้างๆกายผม ผมไม่กล้าเงยหน้าไปมองคนที่ยืนข้างผมตอนนี้เลย
“เอาละ น้องๆที่มาสายทั้งสองคนกับพี่ที่มาสายอีกสองคนจะต้องเจอลงโทษนะครับ พี่จะให้ไปวิ่งรอบสนามบอลของทางมหา’ลัย10รอบ โอเคไหมครับ…ถ้าเงียบแปลว่าโอเคนะครับ งั้นปฏิบัติเดี๋ยวนี้และตอนนี้ครับ”อะไรกัน10รอบ สนามบอลมหา’ลัยได้ข่าวว่าใหญ่มากเลยนะ แล้วแบบนี้ไม่ใช่ผมวิ่งรอบเดียวก็ตายแล้วหรอ
“ไปได้แล้วครับ วิ่งเสร็จแล้วมารวมตัวกันที่เดิมนะครับ!”สิ้นเสียงประกาศิษจากพี่ประธานผมก็สะกิดไอ้พาสแล้วเตรียมจะวิ่งออกไปแต่ก็มีมือใครสักคนรั้งไว้
“รู้จักทางหรือไง…”ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าเป็นใคร?ใช่ครับ...อัลฟา
“รู้!!”ผมตอบกลับเสียงห้วนพร้อมสะบัดแขนออกจากมือเค้า “ไปเหอะมึง”ผมบอกกับไอ้พาส มันก็พยักหน้าเบาๆผมจึงเดินแยกออกมาจากคนอื่นๆเพื่อไปยังสนามบอล
“หึ!รู้บ้าอะไรละ สนามบอลไม่ได้อยู่ทางนั้นนะน้อง”เสียงอัลฟาตะโกนให้หลังผมมา ผมหยุดกึกอยู่กับที่ สนามบอลไม่ได้ไปทางนี้หรอ ผมหันกลับไปมองที่เค้า เค้าชี้ไปทางตรงกันข้ามกับที่ผมเดินออกมา
“เอาไงละมึงผิดทาง”
“ก็ไปทางที่ถูกสิว่ะ!”พูดจบผมก็ลากมันไปทางนั้น เฮ้ออ วันแรกกูก็ซวยแล้วเหรอเนี้ย T^T
-อัลฟา-ผ่านไป30นาที
“ อะ ไอ้อัล กูไม่ไหวล่ะ พักแปบนะเว้ย!”ไอ้เดฟมันหอบหลังจากที่วิ่งมาได้แค่30นาทีเองครับ เอาจริงมันวิ่งยังไม่ถึง5รอบด้วยซ้ำ
“เออๆๆแล้วแต่มึง ถ้ากูวิ่งเสร็จก่อนกูไม่รอมึงนะเว้ย”ผมบอกกับมันแล้วออกตัววิ่งต่อไปเพื่อจะไปหาเด็กคนหนึ่งที่วิ่งนำหน้าผมอยู่ ท่าทางคงจะเหนื่อยแล้วด้วย หึๆ
“ไง?”ผมทักขึ้นเมื่อถึงตัว ไอ้ตัวเล็กหันมามองผมเล็กน้อยแล้วก็วิ่งนำหน้าต่อไป “นี่!!!รุ่นพี่เค้าคุยด้วยก็ช่วยตอบหน่อยสิ!”ผมไม่ยอมแพ้หรอกในเมื่อมันมาอยู่ใกล้ผมแค่เอื้อมมือเท่านั้น
“นี่!!!”
“ปล่อยนะ!!!”ผมจับเข้าที่ไหล่ของไอ้ตัวเล็กทำให้มันชะงัก พอตั้งตัวได้ก็สะบัดตัวให้มือที่ผมจับหลุดออก
“ทำไม กูจับไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้!”มันตอบเสียงห้วนและก็วิ่งต่อไป ผมจึงวิ่งไปดักหน้า
“ทำไม?”
“เรื่องของกู อย่ามายุ่ง ถอยไป!”
“ไม่!”
“บอกให้ถอยไปไงเว้ย!!”มันผลักผมล้มแล้วเดินออกจากสนามทันที ผมได้แต่มองตามหลังที่ค่อยๆเดินจากออกไป
“นี่มึงเกลียดกูขนาดนี้เลยหรอว่ะ เหอะ!”
“วิ่งเสร็จกันแล้วหรอครับ รุ่นพี่รุ่นน้อง มาๆๆยืนโชว์ตัวอีกสักรอบครับ”ไอ้คิมซึ่งเป็นประธานของคณะเรามันพูดขึ้น
“พวกมึงมั่นใจไหมว่าวิ่งครบไม่ใช่โกงนะมึง”ไอ้โบ๊ทมันพูด
“มึงลองไปวิ่งเองไหม สัส!! มึงไปวิ่งเองสิแล้วจะรู้สึก”ไอ้เดฟตอกกลับ
“พอๆๆพวกมึงก็เถียงกันอยู่ได้เห็นน้องๆไหม อายบ้าง”ไอ้คิมมันบอก
“เอาละ น้องสองคนเข้าที่ได้ครับ ส่วนพี่อีกสองคนเชิญมาทางนี้ด้วย”ไอ้คิมบอกกับผม ไอ้เดฟ แฟนไอ้เดฟ และก็เด็กผม(?)ให้เข้าที่ของตัวเอง “โอเคครับ พี่จะบอกกฎสักหน่อยนะครับ กฎของเรามีไม่มาก 1.รุ่นพี่ถูกเสมอ 2.รุ่นพี่ถูกเสมอ 3.รุ่นพี่ถูกเสมอ
4.ถ้ามีไรข้องใจให้กลับไปอ่านข้อที่1-3ใหม่ กฎของเรามีแค่นี้ขอให้ทุกคนเข้าใจนะครับ”
“นี่!!!รุ่นพี่ครับมันยุติธรรมแล้วหรอว่ะ กฎรุ่นพี่ถูกเสมออะไรของพวกมึงว่ะ”เมียไอ้เดฟมันเป็นคนท่วงขึ้น
“หุบปากมึงไปเลยนะไอ้พาส มึงอย่าเถียงสิว่ะ”ไอ้เดฟบอกเมียมัน
“มึงสิหุบปาก!!”
“ครับบ”อ้าวเฮ้ย!ถูกเมียตะคอกกลับแค่นี้ถึงกลับเงียบเลย เฮ้ออเก่งได้ไม่นานจริงๆ
“มึงๆๆพวกมึงเห็นน้องคนนั้นที่นั่งใกล้เมียไอ้เดฟป่ะ?กูว่าหน้าคุ้นๆว่ะ”ไอ้เอมันบอกแล้วชี้นิ้วไปทางที่ไอ้ตัวเล็กของผมนั่งอยู่
“นั่นสิ กูก็คุ้นว่ะ”ไอ้โบ๊ทมันก็สมทบ
“พวกมึงจำคนผิดหรือเปล่าวะ”ผมบอก ผมไม่อยากให้มันจำไอ้ตัวเล็กของผมคนที่ไปยืนจูบดูดดื่มกับผู้ชายคนอื่นได้
“แต่กูว่ากูจำไม่ผิดนะ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก”มันทำท่าคิด
“คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดสิว่ะ!”ผมผลักหัวมันเล็กน้อย “นู๊น…ไปช่วยงานไอ้คิมไป”ผมไล่มัน
“ไม่อาววว กูอยู่เฉยๆดีกว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่มันอ่ะดีแล้ว”
“เออ งั้นก็เงียบๆอย่าส่งเสียงดังกูรำคาญ”ผมบอก
“งื้อออ เชอะ!!”เฮ้อออ เหนื่อยกับมันจริงๆผมมองไปยังไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้ตั้งใจฟังไอ้คิมที่มันบอกถึงสถานที่ต่างๆของมหา’ลัย บอกกิจกรรมที่รุ่นน้องจะต้องเข้าร่วม
“ทำยังไงมึงถึงจะคุยกับกูเหมือนเดิมได้ว่ะไอ้ตัวเล็ก”
2อาทิตย์ต่อมา-โยชิ-“วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับน้องแล้วนะครับ และวันนี้ก็จะเป็นวันที่จะได้รู้ว่าใครคือพี่รหัส น้องรหัสใคร พี่เชื่อว่าทั้งพี่และน้องต่างก็ลุ้นกัน มีพี่คนไหนไว้ในใจก็ขอให้สมหวังนะครับ ตอนนี้พี่จะปล่อยให้น้องๆไปพักรับประทานอาหารกัน...เลิกแถวครับ” สิ้นเสียงพี่ประธานพวกเราทุกคนต่างก็พากันแยกย้ายไปพักผ่อน
“ไอ้พาสกินข้าวกันกูหิวววว”ผมลากเสียงยาวพร้อมคล้องแขนมันเดินไปยังโรงอาหารของมหา’ลัย วันนี้เป็นสุดท้ายของการรับน้องเป็นอะไรที่ผมดีใจมาก ตลอดระยะเวลาของการรับน้องที่ผ่านมาผมต้องทนอึดอัด เพราะผู้ชายที่มีนามว่า “อัลฟา” คอยก่อกวนผมตลอดเวลา แรกๆเขาไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ผมซักเท่าไร แต่เพราะพี่เดฟและพี่ๆคนอื่นๆชอบให้ผมกับเขาจับกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน จนเขาเริ่มที่จะเข้าใกล้ผมมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งผมก็เผลอใจให้ไปหวั่นไหวกับเขาอีกครั้ง ซึ่งผมไม่ชอบใจตัวเองเลย หงุดหงิดัวเองทุกครั้งที่ตัวเองเป็นแบบนี้
“มึง..”
“.........”
“ไอ้โย...โยชิ !”
“อ่ะ..”
“จะแดกไหมข้าวอ่ะ”
“กินสิๆ ไปๆ” ผมทำเพียงแค่มองหน้ามันชั่วครู่จากนั้นก็ลากมันตรงไปยังร้านข้าว
“คิดไรอยู่ว่ะ เห็นเหม่อบ่อยนะช่วงนี้”
“ไม่ได้คิดไรนิ” ผมรับข้าวจากป้าคนขายแล้วหันมาตอบมัน
“........”
“งั้นกูไปหาโต๊ะนั่งก่อนนะ รีบตามไปนะเว้ย” จากนั้นผมจึงเดินแยกออกมาเพื่อมองหาโต๊ะว่าง
“วันนี้คนในโรงอาหารเยอะกว่าทุกวันแหะ” ผมพึมพำกับตัวเองสายตาก็กวาดมองหาโต๊ะที่ว่างๆ ไม่นานผมก็เจอโต๊ะที่ว่างพอดี ชักช้าอยู่ใย ผมรีบก้าวเท้าไปยังเป้าหมายที่พบในทันทีก่อนที่จะมีคนอื่นมาแย่งไป เพราะตอนนี้ก็หิวข้าวมากๆด้วย
“ได้ที่นั่งซักที” ผมยิ้มดีใจอยู่คนเดียวที่มาทันโต๊ะที่จ้องไว้ ดีนะที่ยังไม่มีคนมาแย่ง
พึ่บ ! ดีใจได้ไม่นานก็มีคนมานั่งโต๊ะเดียวกับผมแต่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ผมจึงเงยหน้ามองบุคคลที่คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ไอ้พาสที่ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนทั้งๆที่ควรจะมาได้แล้ว
“...........” ผมถึงกับวางช้อนทันที อิ่มครับ อิ่มเลย...
“ทำไมถึงไม่กินต่อละ”
“อิ่มแล้ว” ผมว่าเสียงเรียบ
“เห็นหน้ากูแล้วถึงกับอี่มเลย กูเพิ่งรู้นะเนี้ยว่ากูสามารถทำให้คนอิ่มได้โดยไม่ต้องกินข้าว หึ”
“แล้วแต่จะคิด” พูดจบผมก็ลุกขึ้นจากโต๊ะแต่ทว่ามีมือหนึ่งฉุดผมไว้
“นี่มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยหรอว่ะ”
“....” ผมทำได้แค่มองได้เขานิ่งๆ
“เกลียดกันจริงๆนะหรอ” ไม่เจอแบบผมไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน คำว่าเกลียดยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคนๆนี้ แล้วเขาจะเอาอะไรกับผมอีก?
“ใช่ ! กูเกลียดมึง ปล่อยแขนกูได้แล้ว!” ผมพูดกระแทกเสียงแบบไม่พอใจเสียงดัง ทำให้คนแถวนั้นหันมามองจุดที่เรายืนดันเป็นตาเดียว แล้วไง? ใครสน ช่างแม่ง
“เหอะ!” เขาปล่อยแขนที่จับผมหลังจากได้ยินคำพูดของผม
“...”
“ไม่ว่าจะยังไงกูจะทำให้มึงกลับมารักกูให้ได้ และไม่ว่ามึงจะเกลียดกูแค่ไหนกูก็ยิ่งยิ่งทำให้มึงรักกูให้ได้ ต่อให้กูต้องกลับมาใช้วิธีเลวๆกับมึงอีกครั้งก็เถอะ…คอยดู!!!”เขาตะโกนใส่หน้าผมเสียงดังพร้อมกับหน้าที่จริงจังว่าเขาทำจริงๆแน่
“กูจะรอดูวันนั้น...แต่กูว่าคงไม่มีทางหรอก หึ”
“!!!!”
ผมเคยง่ายมาแล้ว เมื่อก่อนผมอาจจะอ่อนต่อโลกเกินไป แต่ตอนนี้มันไม่ใช่มันแตกต่างจากเมื่อตอนนั้น ผมจะไม่ง่ายให้กับมันอีกและคงจะไม่มีวันนั้นด้วย เขาคิดได้ไงเขาทำกับผมถึงขนาดนั้นแล้วยังจะมาขอให้ผมเห็นใจหรือให้โอกาสกับคนอย่างเขาเนี้ยนะ เหอะ กลับไปนอนฝนกลางวันเอาไป!!!
“มันคงไม่มีวันนั้นหรอก อย่างหวังเลยต่างคนต่างอยู่เถอะ!” พูดจบผมก็เดินออกจากตรงนั้นทันที
“อ้าว ไปไหนว่ะ?”
“มึงไปซื้อข้าวถึงดาวอังคารหรือไงว่ะ ช้าชิบ!!”ผมตะคอกใส่มันจนมันเหวอไป5วิ
“โว๊ย!! มึงก็แหกตาดูคนในโรงอาหารดิสัด”
“ช่างแม่งเหอะ กูไปคอยใต้ตึกนะ” ผมพูดจบก็เดินออกมา ปล่อยให้มันทำหน้า งง ไปงั้นแหละ อารมณ์เสียเว้ย ให้ตายสิใครเข้ามาทักผมตอนนี้ ผมพาลหมด
“อะไรของมันว่ะ สงสัยเมนไม่มา” ผมได้ยินเสียงพึมพรัมจากมันแต่ไม่ได้หันไปมอง ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะไปเล่นกับมันจริงๆ
“ตอนนี้ก็ไปสงบจิตสงบใจก่อนแล้วกันเรา”
To be con.....