SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SWEET SURRENDER 1/11/60 พิเศษ SWEET DREAM P.42  (อ่าน 321987 ครั้ง)

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #300 เมื่อ30-07-2016 21:03:34 »

โอ้ยยยยย ค้่างอะไม่น่าอ่านเลย ปีหน้าค่อยอ่านรวดเดียวดีกว่าฮาๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #301 เมื่อ30-07-2016 21:33:24 »

พชร ยอมโกหก ทั้งที่มีโอกาสพบพ่อ
แสดงตัวกับพ่อ ที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน 
เพราะกลัวม่อนแจ่มเสียศูนย์ เจ็บช้ำน้ำใจ
รับไม่ได้ ถ้ารู้ความจริง ว่าคนที่เรียกว่าพ่อ กลับไม่ใช่พ่อ
พชร รักม่อนแจ่ม อย่างที่สุด จนยอมเสียสิทธิประโยชน์
ที่จะได้จากพ่อทุกอย่าง เพื่อม่อนแจ่มจริงๆ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #302 เมื่อ30-07-2016 22:33:25 »

ถ้ารู้ความจริง ก็เจ็บทั้งคู่ และทุกคนเสียใจอย่างแน่นอน แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้คลุมเคลืออ่ะเนอะ พชรบอกความจริงเถอะะะะะ อย่าโกหกเลยนะ :katai4:

ออฟไลน์ felixia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #303 เมื่อ31-07-2016 00:20:34 »

โอ๊ยยย อ่านตอนนี้แล้วอึดอัดจังเลยค่ะ
มันอารมณ์แบบ บอกเลยสิ บอกเลยพชร พูดเลยว่า ยู มาย เดด อะ
แต่อีกใจก็แบบ เฮ้ยๆ แล้วม่อนละ
โอ๊ย แล้วจะยังไงต่อล่ะเนี่ย
เป็นแบบนี้พอถึงวันที่ต้องรู้คสามจริงต้องเจ็บมากกส่าเดิมแน่ๆเลย
ก็โกหกกันไปแล้วนี่นะ ฮือออ
รอค่ะ

ออฟไลน์ anuyasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #304 เมื่อ31-07-2016 03:34:03 »

พชร เรายอมน้ำใจนายเลยว่ะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #305 เมื่อ31-07-2016 14:02:42 »

พชร ใจดีจริงๆ  :sad4:

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #306 เมื่อ31-07-2016 16:56:49 »

โอยยยย พชร :mew4:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #307 เมื่อ31-07-2016 19:46:35 »

โถ นายพชร ไม่อยากทำม่อนแจ่มแห่งวิดวะเสียใจจนต้องยอมโกหก :ling1: :katai4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #308 เมื่อ01-08-2016 00:04:49 »

พชร นายไม่กล้าทำร้ายหัวใจตัวเองสินะ ถ้าม่อมแจ่มเจ็บนายจะเจ็บยิ่งกว่าสินะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #309 เมื่อ01-08-2016 07:06:39 »

แมนมากลูก
แต่เราว่าคุณพ่อเองก็น่าจะจับ 1+1เป็น 2ได้ไม่ยาก
ไหนคนอื่นจะบอกว่าพชรคล้ายกับตัวเองขนาดนั้น
ดวงตาก็คล้ายใครบางคนที่ตัวเองรู้จักดี
นามสกุลอีกล่ะ

ท้ายที่สุดเราว่าถ้าเรื่องแตกขึ้นมา คุณพ่อก็คงไม่โทษแม่ของม่อนแจ่มหรอก  เพราะว่า ณ ตอนนั้นตัวเองก็กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอยู่แล้ว  พอคนรักหายไปก้ไม่จำเป็นต้องเลือก  อีกอย่างเพราะแต่งกับแม่ม่อนแจ่มถึงได้มีทุกวันนี้   ตัวระมิงค์เองก็สูญเสียมาเหมือนกัน    ถ้ามองทางฝั่งเชียงใหม่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้น   ร่วมชีวิตกันมาก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากันนานพอตัว   แต่กับทางลำพูนที่เสียหรือขาดมาตลอดก็น่าจะเป็นเรื่องที่เชียงใหม่ควรทดแทนให้มากกว่าชดใช้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
« ตอบ #309 เมื่อ: 01-08-2016 07:06:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #310 เมื่อ01-08-2016 12:54:39 »

ไม่รู้จะสงสารใครดี  :katai1:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #311 เมื่อ01-08-2016 16:57:34 »

“ปรัชญาเชื่อมั่นในเหตุผลเหรอ..”
“แล้ววิศวฯเครื่องกลเชื่อมั่นในอะไร..”  o13

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: SWEET SURRENDER 30/7/59 CH.18 Even If Saving You Sends Me Into Heaven P.10
«ตอบ #312 เมื่อ02-08-2016 19:14:41 »

สงสารทั้งม่อนทั้งพัชร
แต่เราว่าคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือม่อน
คนที่ไม่รู้นี่แหละเจ็บสุดแล้ว

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #313 เมื่อ07-08-2016 23:00:53 »

CHAPTER 18: Even If Saving You Sends Me Into Heaven (Part II)

           ผิวน้ำสีคล้ำเบื้องหน้าสะท้อนประกายแดดแวววาวอยู่ในที ลมที่โบกพัดมาก่อให้เกิดระลอกคลื่นน้อยๆ
อ่างแก้วเหมือนเดิม.. เหมือนที่พชรเคยเห็นมาเทอมกว่า
ทุกอย่างเหมือนเดิม.. มีเพียงตัวเขาเอง ที่รู้สึกว่าไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
พชรไม่รู้ว่าการร้องไห้นั้นเป็นอย่างไร เพราะเขาเองก็จำไม่ได้เสียแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ร้องไห้นั้นมันเมื่อไหร่ หรือต้องเจ็บปวดแค่ไหนคนเราถึงจะร้องไห้ออกมา

            ฝ่ามือแกร่งกำนิ้วเข้าหากันแน่น บางอย่างพริ้วไหวคลอภายในดวงตาไม่ต่างจากผิวน้ำที่เป็นระลอกจากสายลม
ทำไมเขาถึงต้องมาที่นี่.. ไม่รู้สิ
มันไม่เคยช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ไม่เคยแก้ปัญหา ไม่เคย.. แต่เขาก็ยังมา
เราทุกคนคงต้องการสักที่ แค่สักที่ที่จะมาอยู่ มานั่ง มายืน มานอน
ไม่ได้ต้องการคุณสมบัติอะไรมากมาย นอกจากเป็นที่ที่หนึ่ง ..ที่มีอยู่ ..เท่านั้น
และเขาก็มาอ่างแก้วอีกแล้ว..

         “ทำไมต้องกลับล่ะ”
         “เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่”
         “ปรัชญาเชื่อมั่นในเหตุผลเหรอ..”
         “แล้ววิศวฯเครื่องกลเชื่อมั่นในอะไร..”


ถึงตอนนี้.. พชรไม่มั่นใจเลยว่าปรัชญาเชื่อมั่นในเหตุผล
ริมฝีปากหนาขบเข้าหากันแนบสนิท ฝ่ามือยังกำแน่น จิตใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ย้อนแย้งแย้ง

มันมากกว่าการโกหก..
มันยิ่งกว่าการคืนคำ..


แขนเรียวที่โอบเอวตอบรับอ้อมกอด ณ อ่างแก้วแห่งนี้ เป็นสิ่งเดียวที่ปลอบประโลมเขา พอๆกับที่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำความทรยศต่อตัวเองของเขาเช่นกัน

นี่เป็นวันจันทร์ที่ห่าเหวที่สุดที่พชรเคยเจอ..

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            เพชรลดาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ปกติไม่ได้ใส่ในสวน เพราะวันนี้เธอไม่ได้เข้าสวน ทว่า จะขับรถไปเชียงใหม่  ไม่ได้บอกลูกชายล่วงหน้าหรอกว่าจะไป อยากทำให้ประหลาดใจ อยากให้ดีใจ
ครั้งหลังๆ ที่พชรกลับบ้าน เขาดูตึงเครียดมากเหลือเกิน พชรบอกว่าวันพุธไม่มีเรียน เธอจึงเลือกจะไปวันพุธ..

            ขับรถเพียงชั่วโมงกว่าก็เข้าเขตเมืองเชียงใหม่แล้ว เพชรลดาขับต่อมาจนเข้าเขตมหาวิทยาลัย พยายามมองหาหอสามชายที่เคยมาเมื่อคราแรกส่งพชร ..และแล้วก็มองเห็นป้ายเพียงไม่นานหลังจากผ่านสี่แยกเล็ก

เธอจอดรถเอาไว้อีกฟากถนน ค่อยๆก้าวเข้ามาในบริเวณหอพัก มือหิ้วตะกร้าผลไม้ อีกข้างกดโทรหาลูกชาย
ทว่า.. ไม่มีคนรับสาย
เพชรลดาเลิกคิ้ว ก้าวเข้าประตูหอ มองเห็นโต๊ะรักษาความปลอดภัยหน้าบันไดทางขึ้น นักศึกษาเดินลงมาหยิบบัตรบนโต๊ะและออกไป ..ในทางตรงข้าม คนที่เพิ่งเข้ามาก็เสียบบัตรก่อนขึ้นบันไดเป็นเช่นกัน

          “อืม.. ถ้าบัตรเสียบอยู่ก็แปลว่านักศึกษาอยู่บนหอหรือคะ?” เสียงหวานถามป้ายามยิ้มๆ
“ใช่ค่ะ” สาวใหญ่พยักหน้าตอบ “ลูกคุณแม่อยู่ห้องไหน เดี๋ยวป้าดูให้”
“สามสามแปดค่ะ” เพชรลดาจำได้แม่น เพราะคนงานในสวนเคยถามลูกชายเพื่อเอาเลขไปซื้อหวย เธอขำจริงๆ
“สามสามแปด..” ป้ายามพึมพำ ไล่ดูในช่องเสียบบัตร
“ลูกคุณแม่ชื่ออะไรคะ ตอนนี้อยู่สองคน กวีกานต์ ทัศนศุภกฤษณ์กับ-”
“ชื่อพชรค่ะ พชร เพชรหละปูน” เพชรลดาตอบเสียงดังฟังชัด

..ซึ่งชื่อนั้นมีผลให้สองร่างที่เพิ่งลงบันไดมามองหน้ากัน

“อ้อ ไม่อยู่ค่ะ” ป้ายามอ่านบัตร พลางเอ่ยเสริม “เพราะอีกคนชื่อม่อ-”

“คุณแม่พชรหรือครับ?”
เสียงเล็กถามขึ้นมา จนไม่ทันได้ยินคำหลังของป้ายาม
เพชรลดาหันไปตามเสียง เด็กหนุ่มผิวขาวร่างเล็กสองคนเดินลงมายกมือไหว้
“สวัสดีครับ พวกผมอยู่ห้องสามสามแปด เป็นรูมเมทพชร!”
เด็กหนุ่มที่ตัวเตี้ยกว่าอีกคนเอ่ยน้ำเสียงกระตือรือร้น รอยยิ้มสดใสนั้นทำให้เพชรลดายิ้มตาม
“ใช่จ้ะ น้าเป็นแม่พชร”
“คุณน้านิภา!” เด็กหนุ่มเรียกพลางยิ้มร่า

หืม? พชรลดาเลิกคิ้ว นิภานี่ใคร..

“ผมม่อนครับ นี่ไอดิล” เด็กคนนั้นแนะนำตัว พลางพยักพเยิดไปที่อีกคน และเอ่ยเสริมอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวผมโทรหาพชรให้นะครับ!”

ไอดิลกลอกตาไปมาขำๆ
บอกได้เลยว่าม่อนแจ่มนั้นตื่นเต้นถึงขีดสุด คู่ซี๊ได้เบอร์พชรจากเขาเองซึ่งก็ขอเอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน และยังไม่เคยมีเหตุจำเป็นให้ต้องโทร

“แหม.. เต็มใจช่วยเหลือสุดๆไปเลยนะครับม่อน” หนุ่มสิ่งแวดล้อมกระซิบล้อเลียน
“มึงปล่อยๆกูเถอะครับไอ้ดิ้ล ไม่ต้องถือเป็นธุระมึงทั้งหมดก็ได้ กูเกรงใจ”  ม่อนแจ่มกวนตีนกลับ ขณะกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์หาเบอร์ที่ตั้งเป็นหมายเลขโทรด่วน หูยังได้ยินเสียงไอดิลพึมพำเบาๆ
“ไม่เป็นไร กูถือเป็นหน้าที่เสมอที่ต้องเสือกเรื่องเพื่อนรักอย่างมึงครับม่อน”

..

..

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
กรุณา..


“แหงะ”
ม่อนแจ่มเบ้หน้าเล็กน้อย ทำสีหน้าขอโทษขอโพย เมื่อรอสายเรียกนานจนสัญญาณตัดไป
“ไม่รับสายอ่ะครับคุณน้านิภา สงสัยพชรไม่ได้หยิบโทรศัพท์ออกไปแน่ๆเลย ขอโทษ ขอโทษนะครับ แหะๆ..”

เอ่อ..
พชรไม่หยิบโทรศัพท์ออกไป แล้วมันใช่ความผิดเราเสียทีไหน? เพชรลดากลั้นขำ

“พชรไม่น่าออกไปไหนนานหรอกครับ อาจจะซุ่มปลูกต้นไม้อยู่แถวนี้อย่างเคย เดี๋ยวผมวิ่งออกไปหาให้นะครับ
อ้อ ไปดูมอเตอร์ไซค์ก่อนดีกว่า ถ้า Kawasaki D-Tracker ป้ายลำพูนจอดอยู่ พชรก็ต้องอยู่!”

เอ่อ.. อะไรจะพูดยืดยาวได้ไม่หยุดหายใจขนาดนั้น
ไม่กลั้นแล้ว เพชรลดาขออนุญาตหัวเราะออกมาด้วยความขำ
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!” สาวใหญ่ยกมือเบรก เมื่อร่างเล็กตั้งท่าจะวิ่ง
“เดี๋ยวน้านั่งรอแถวนี้แหละ อ้อ..” เพชรลดายื่นตะกร้าให้ “ลำไยจ้ะ น้าเอามาฝาก”
“ว้าววว!” ม่อนแจ่มลั้ลลา
“จากสวนคุณน้าใช่ไหมครับ พชรบอกว่าที่บ้านทำสวนผลไม้ น่ากินมากเลยครับ ลูกโต อวบอิ่มสุดๆ!”
เพชรลดาพยักหน้ารับพลางหัวเราะ
“ขอบคุณครับ คุณน้านิภา” ม่อนแจ่มยกมือไหว้และรับตะกร้ามา
“คุณน้านิภาทานอะไรมาหรือยังครับ? หิวหรือเปล่า? ไปรอที่โรงอาหารก่อนไหมครับ? มีของกินอร่อยๆเยอะเลย”
ฮ่ะๆ
“จ้ะ” เพชรลดาที่เพื่อนลูกชายคงจำผิดว่าชื่อนิภาตอบสั้นๆเพียงเท่านี้ เพราะแค่ฟังอีกฝ่ายพูด เธอก็รู้สึกว่ายาวพอแล้ว

            โรงอาหารหอสามชายไม่กว้างมากนัก แต่ก็ดูเหมือนมีแทบทุกอย่างที่นักศึกษาต้องการ
ที่เพชรลดาต้องทำก็เพียงนั่งรอที่โต๊ะ แล้วรูมเมทลูกชายก็บริการเองยิ่งกว่าเข้าภัตตาคาร ทำเอาคนเป็นแม่แปลกใจ
เพราะความสนิทสนมที่เด็กๆให้กับเธอก็สะท้อนถึงสัมพันธภาพระหว่างพวกเขากับลูกชายเธอด้วย
พชรเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผล แต่ไม่ช่างคุยและเข้ากับใครได้ไม่ง่ายนักหรอก

            “อยู่หอสบายกันดีนะ กับพชรก็..คุยกันดีสิ” เพชรลดาสอบถาม ขณะที่ทีแรกกังวลอยู่ว่าพชรจะเก็บตัว
“ดีครับ พชรเท่ ขยัน นิสัยดี  มีน้ำใจมาก” เด็กม่อนโฆษณา
ถึงแม้จะฟังดูเกินๆไปบ้าง ทว่า น้ำเสียงจริงใจและแววตาใสซื่อคู่นั้นบอกให้เธอรู้ว่าหนุ่มน้อยผู้นี้พูดตามความรู้สึกตัวเองจริงๆ

            “ผมกินลำไยเลยนะครับ คุณน้านิภา” มือขาวแงะลำไยออกมาลูกหนึ่ง ส่งให้เพื่อนนามไอดิล ก่อนจะแกะของตัวเอง
เพชรลดาพยักหน้ายิ้มๆ ตักก๋วยเตี๋ยวลุยสวนตรงหน้าทาน
เด็กคนนี้มีบุคลิกบางอย่างที่แม้แรกพบในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้อดเอ็นดูไม่ได้เลย

“หืมม อร่อย อร่อยครับ ฉ่ำมาก เนื้อเยอะด้วย ต้องได้ราคาดีแน่เลยใช่ไหมครับ” ม่อนแจ่มถามอย่างสนใจ
เพชรลดาจึงพยักหน้าอีกครั้ง “เป็นลำไยอินทรีย์นะ พชรเขาไม่ยอมใช้ยาฆ่าแมลงจ้ะ”
“โอ้ ดีจัง!” ม่อนแจ่มยิ้มจนตาหยี เคี้ยวลำไยตุ้ยๆ ..ท่านพชรของเขาน่ารักที่สุดอยู่แล้วล่ะ!
“ขอบคุณคุณน้านิภามากนะครับที่อุตส่าห์หิ้วมาฝาก ผมจะขอบคุณคุณน้ายังไงดี..” ม่อนแจ่มหันรีหันขวาง
“ไม่ต้องจ้ะ ไม่ต้อง” เพชรลดารีบโบกมือ แต่ม่อนแจ่มลุกไปฉวยเอากระดาษเปล่าที่เอาไว้เขียนสั่งอาหารมาแล้ว และล้วงเอาดินสอจากกระเป๋ากางเกงออกมา
“สองนาทีครับ!”
“อะไรนะจ๊ะ?” เพชรลดาไม่ใคร่เข้าใจ
“ผมขอสองนาทีครับ” เด็กหนุ่มตรงหน้ายิ้มกว้าง ก่อนจะมองผู้ใหญ่สลับกับก้มลงลากเส้นบนแผ่นกระดาษ

..
และแล้ว..
อาจจะเลยสองนาทีไปสักสองหรือสามวิ..

           “นี่ครับ”
มือเล็กยื่นกระดาษให้ “ผมให้คุณน้านิภา เป็นอย่างเดียวที่ผมทำได้”

เพชรลดารับมา

เส้นดินสอถูกลากเป็นรูปผู้หญิงผูกผมหางม้า ใส่เสื้อเชิ้ตและกระโปรงทรงบานปลายคลุมเข่า ในมือหิ้วตะกร้าลำไย
พร้อมด้วยข้อความด้านล่าง..

‘ขอบคุณครับ เป็นลำไยที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยทาน’

มุมล่างขวากำกับอักษรภาษาอังกฤษตัวเขียน..

‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

เพชรลดาเพ่งมองอยู่อึดใจหนึ่ง
บังเกิดความคุ้นเคยอย่างประหลาด เธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นอะไรทำนองนี้มาก่อน..

‘Ride Carefully’
‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

อ่า..
ฮ่ะๆ..
แล้วปากเรียวก็คลี่ยิ้มออกมา
ไม่ใช่พชรหรอกที่วาด..
เพชรลดาเงยขึ้นมองดวงหน้าขาวฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ..เป็นคนนี้เอง..

“ขอบใจจ้ะ วาดน่ารักจริง เรียนคณะศิลปะ อะไรพวกนี้หรือเรา?”
“อ๋อ เปล่าครับเปล่า” ม่อนแจ่มส่ายหน้า “ผมแค่ชอบวาดครับ”
“อ้าว แล้วเรียนอะไรกันบ้างล่ะ?”
“เราสองคนเรียนวิศวฯครับ ไอดิลเรียนสิ่งแวดล้อม ผมม่อนแจ่มแห่งวิศวฯเครื่องกล”
ชินเสียแล้วกับบรรดาศักดิ์ตัวเอง 
ชิน.. จนต้องเอ่ยออกมาเต็มๆ และชื่อเต็มนั้นทำให้ผู้ฟังชะงัก
“ม่อนแจ่ม..” เพชรลดาทวนคำ
เด็กม่อนหัวเราะแหะๆ ยอมรับอายๆ “ครับ.. ผมชื่อจริงชื่อม่อนแจ่ม”
..
‘ม่อน’ เป็นชื่อเล่นที่ไม่แปลก แต่.. ถ้าชื่อจริงคือ ‘ม่อนแจ่ม’
“ชื่อ.. ชื่อน่ารักดีจ้ะ สมตัว” เพชรลดาพูดอย่างลังเล
ม่อนแจ่ม.. ถึงจะเป็นชื่อสถานที่ ทว่า ดูไม่ใช่สถานที่ที่จะเอามาตั้งเป็นชื่อจริงได้ซ้ำๆเลย
“ม่อนแจ่ม นามสกุลอะไรหรือจ้ะ”
...
...
ม่อนแจ่มเลิกคิ้ว ไหล่เล็กยักน้อยๆอย่างงงๆ ทว่า ก็เอ่ยตอบเสียงสดใสเหมือนเดิม
“ประดิษฐาพงศ์ครับ ผมม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์

มันมีผลกับผู้ฟังอย่างที่คนพูดไม่ได้คาดคิด
เพชรลดานิ่งค้าง เบิ่งตามองเด็กหนุ่มผู้ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม
เธอจำได้ขึ้นมาทันที ใช่แล้ว.. เธอเคยเห็นนี่นา เด็กหนุ่มนาม ‘ม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์’
และม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์คนนี้ เป็นรูมเมท พชร เพชรหละปูน ..ลูกชายของเธอ

           “อ้าว นั่นพชรนี่!”
เป็นไอดิลที่มองเห็นร่างสูงซึ่งเดินเข้ามาซื้อน้ำ สีหน้าที่ชื้นเหงื่อเรียบเฉยตามปกติที่เป็น
ม่อนแจ่มหันไปมอง รอยยิ้มกว้างประดับใบหน้า
“เดี๋ยวผมไปบอกพชรให้ครับว่าคุณน้านิภามา พชรต้องดีใจแน่เลย!”
ร่างเล็กเลื่อนเก้าอี้ หันหลังกลับรวดเร็ว ส่งเสียงเรียกคำประจำตัว
“พชร!”
และก็อย่างเคย..

โครม!

           “โอ๊ย!”
หน้าแข้งม่อนแจ่มน่ะสิที่เตะเอาขาเก้าอี้จนต้องร้องโอดโอย
พชรหันมาตามเสียงเรียก ชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที  ก่อนรีบก้าวยาวๆแทบจะวิ่งเข้ามาหา

“จะมีสักวันที่มึงไม่ชนอะไรไหม เครื่องกล?” เสียงเข้มดุไม่จริงจังนัก
ร่างสูงย่อเข่าลง ข้างหนึ่งคุกลงกับพื้น อีกข้างชันขึ้นทรงตัว มองสำรวจรอยขูดบริเวณหน้าแข้งที่ไม่ยาวนัก และไม่มีเลือดซึม
ม่อนแจ่มยืนนิ่ง.. ก้มลงมองตาม สีหน้าแดงจัดอย่างขัดเขิน รอยกอดที่อ่างแก้วกลับมาย้ำเตือนในใจอีกครั้ง..

“พชร.. ไม่เจ็บแล้ว” เสียงเล็กเอ่ยแผ่วๆ เพราะหายเจ็บ ..หายแล้วตั้งแต่พชรมาอยู่ตรงนี้
“จะรีบไปไหน” พชรเลิกคิ้ว ลูบรอยแผลเบาๆให้ขาเนียนผ่อนคลาย บนข้อมือขวายังคล้องด้ายสีขาวเอาไว้
ม่อนแจ่มดีใจจัง..
“เอ่อ.. กูจะบอกว่าคุณน้านิภามาหา”

คุณน้านิภา..
ใคร?
หน้าคมขมวดคิ้วงงๆ
ดวงตาสีเข้มหันตามสายตารูมเมทเครื่องกลไปยังโต๊ะซึ่งมีไอดิล และ..

ไม่เคยเห็นมารดาแล้วตกใจเท่านี้
อะไรบางอย่างในแววตาที่มองมาทำให้พชรรับรู้ว่าเธอรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคนข้างตัวเขาแล้ว
สองคนได้แต่มองตากัน.. เพชรลดาไม่อาจลุกขึ้นเดินมาหา และ.. พชรก็ไม่กล้าเดินเข้าไป

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

          “เห็นช่วงหลังพชรดูเครียดมาก แม่ก็เลย.. มาเยี่ยม เผื่อจะรู้ว่าลูกเป็นอะไรไป”
และคิดว่ารู้แล้ว.. เพชรลดาต่อในใจ
ที่สุดก็ค่อยๆเดินมากับลูกชายหน้าหอ สองรูมเมทยกมือไหว้ลาเพื่อปล่อยให้แม่ลูกได้พูดคุยกัน

‘ปกติคุณพชรเงียบ เพราะไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว คุณพชรเป็นคนถนัดคิดแล้วทำมากกว่าจะพูด
แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหมือนกัน ว่าคุณพชรเงียบ เพราะมีเรื่องทุกข์ใจ’


คำพูดของแสงรวียังก้องอยู่ในใจ เพชรลดาถอนหายใจน้อยๆ
“พชร..” เธอบีบไหล่หนาเบาๆ รับรู้ความรู้สึกที่เสียงเข้มไม่ได้พูดออกมา
ม่อนแจ่มชนเก้าอี้ เธอก็ตกใจ.. แต่ตกใจไม่เท่ากับการเห็นท่าทีของพชร
น้ำเสียง แววตา ท่าทาง ความห่วงใย ..ทั้งหมดนั้นบ่งบอกให้คนเป็นแม่ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนรับรู้ได้ว่าลูกชายรู้สึกอย่างไรกับเด็กหนุ่มอีกคน

         “ผมเป็นลูกอกตัญญู..”
หลังจากการเงียบที่ยาวนาน นั่นคือสิ่งแรกที่พชรพูดออกมา สิ่งที่ทำให้เพชรลดาส่ายหน้า..
“ผมเจอพ่อแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยเสริมหนักๆ
เพชรลดาเบิ่งตา “พชรบอกว่ายังไม่ได้ไปพบนี่นา?”
“เขามาที่นี่..” ร่างสูงกลืนน้ำลาย “มาเยี่ยมลูกชาย”

พชร..
เพชรลดาไม่รู้จะเอ่ยคำใด

“เขาถามว่าผมรู้จักเพชรลดาหรือเปล่า หลังจากที่ลูกเขาบอกนามสกุลผม”
พชรกัดฟัน แค่นเสียงเอ่ย “ผมควรจะบอก ..บอกว่าผมเป็นลูกแม่”
...
...
“แต่ผมบอกว่าไม่รู้จัก..”
ร่างสูงกำยำคุกเข่าลงตรงหน้ามารดา วอนขอการอภัยจากความไม่ซื่อสัตย์นี้
“ผมบอกว่าแม่ชื่อนิภา..”

..

“ผมมันอกตัญญู”

พชรควรพูด.. ควรบอกให้นายพจน์ ประดิษฐาพงศ์รับรู้ว่าเพชรลดา เพชรหละปูนมีบุตร
เพชรลดาผู้มีใจมั่นเพียงนายพจน์และถูกเพิกเฉยมาตลอดสิบเก้าปี

          หญิงวัยสี่สิบสองมองลูกชายนิ่ง..
แต่ไหนแต่ไรมา.. พชรคือของขวัญล้ำค่า
นับตั้งแต่เริ่มมีเรี่ยวมีแรง ลูกชายคนนี้ก็ช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ไม่ว่าจะงานบ้านหรืองานสวน
พชรเป็นที่สุดที่แม่คนหนึ่งพึงปรารถนาให้ลูกชายเป็น
แล้วพชรคิดได้อย่างไร ..คิดได้อย่างไรว่าเขาจะอกตัญญูเพียงเพราะอยากปกป้องคนที่ตัวเอง..

“คุณพจน์อาจเป็นคนสำคัญของแม่..” เพชรลดาเอ่ย
ใช่.. คุณพจน์ยังคงสำคัญ ใช่.. เธออยากจะเป็นภรรยาที่มีสามีเหมือนกัน ..อยากให้บุตรชายมีบิดาเหมือนกัน
ความอยากนี้ทำให้ไม่ห้ามปรามในสิ่งที่พชรตั้งใจจะทำ ..สิ่งที่เธออ่อนแอเกินกว่าจะทำด้วยตัวเอง
แต่..

“แต่ตอนนี้คนที่สำคัญที่สุดคือลูก คือพชร ..ไม่มีอะไรมีความหมายเลย ถ้าพชรต้องเสียใจและไม่มีความสุข”
สาวใหญ่ย่อตัวลง จับไหล่ลูกชายยืนขึ้น
“แม่ขอย้ำอีกครั้งว่าแม่ไม่เคยขอให้พชรไปหาพ่อ ไปเปิดเผยความจริงอะไรทั้งนั้น แต่หากพชรอยากทำ แม่ก็ไม่ห้าม”
เธอเอ่ยอย่างเข้มแข็ง “แล้วในเมื่อวันนี้ พชรมีเหตุผลที่จะไม่ไป ก็แค่ไม่ต้องไป”

“ผมไปหาคุณระมิงค์แล้ว ผมอยากเลือกให้เธอสารภาพด้วยตัวเธอ แต่เธอทำไม่ได้ ..เธอให้ผมไปบอกคุณพจน์เอง”
ใบหน้าคมสันมองมารดา เอ่ยอย่างเจ็บปวด “ซึ่งผมก็ทำไม่ได้เหมือนกัน”

ถ้าไปบอกว่าเขาเป็นลูก
คำถามคือ.. เหตุผลอะไรที่แม่ต้องจากไปทั้งๆที่ตั้งครรภ์
คำตอบคือ.. เพราะระมิงค์ก็ตั้งครรภ์
และในเมื่อก่อนแต่งงาน นายพจน์กับระมิงค์ไม่เคยมีอะไรกัน ก็หมายถึง..
    
“ผมพูดไม่ได้ว่าม่อนแจ่มไม่ใช่ลูกชายเขา..”
สำหรับพชร เขาอยู่แบบไม่มีพ่อมาได้เกือบยี่สิบปี ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะไม่มีต่อไป แต่สำหรับม่อนแจ่มนั้นไม่ใช่
มือแกร่งค่อยๆล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋ากางเกง หยิบเอากระดาษสีครีมเหลืองหม่นออกมายื่นให้
“ผมเสียใจครับแม่..”

พชร..
เพชรลดาได้แต่กลั้นน้ำตา แม่กับลูก.. ช่างเหมือนกันอะไรเช่นนี้

“แม่เก็บไว้มานาน แต่ก็ไม่ได้อยากเก็บไว้อีกแล้ว”
ไม่อยากเก็บไว้แล้ว เพราะพชร ..ลูกชายหนึ่งเดียวคนนี้ คนที่มีความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกซึ่งเธอเข้าใจดี
เพชรลดาดันมือแกร่งของลูกชายกลับไป  “แม่ยกให้พชร.. อยากจะเก็บไว้ ทิ้งหรือเอาไปไหน ..ก็ตามแต่ใจพชร”

“ผม..” พชรไม่รู้จะนิยามความรู้สึกตนเองต่อม่อนแจ่มอย่างไร ทว่า เพชรลดาเพียงลูบหัวลูกชาย เอ่ยเบาๆ “แม่รู้ลูก..”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ออฟไลน์ INDY-POET

  • อินดี้กวีเกรียน✍
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +918/-22
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #314 เมื่อ07-08-2016 23:02:41 »

             “วันนี้เก็บเกี่ยวลำไยล็อตแรกเรียบร้อยดีครับ” แสงรวีรายงานเมื่อนายหญิงกลับมาถึง
เพชรลดาเพียงยิ้มตอบบางๆ
“คุณพชรสบายดีหรือครับ” คนงานคนสนิทเอ่ยถามขณะวางบิลค่าแรงเอาไว้บนโต๊ะ
คนถูกถามนิ่งไป ก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ
“สบายดีจ้ะ พี่แสง” ร่างกายแข็งแรงดี..
“อย่างนั้นก็ดีแล้วครับ” แสงรวียิ้มให้กำลังใจ “งั้น ผมขอตัวก่อน คุณลดาพักผ่อนเถอะ”
..
แผ่นหลังของชายร่างเล็กเคลื่อนไปเบื้องหน้า ใกล้จะลงบันไดไปแล้วกว่าที่เพชรลดาจะรั้งเอาไว้
“พี่แสง”
“ครับ?”
แสงรวีเอี้ยวหน้ากลับมาเลิกคิ้ว สาวใหญ่จึงเดินเข้าไปใกล้ ตัดสินใจยื่นกระดาษแผ่นเล็กมอบให้
มอบให้ ..ด้วยหวังว่ามันจะเป็นสิ่งล้ำค่าของผู้รับ
“นี่คือ..?” มือเล็กสากรับมา งุนงงเล็กน้อย ก้มหน้าลงพิจารณา
“นี่รูปคุณลดาใช่ไหมครับ ..ถือตะกร้าผลไม้ด้วย คงเป็นลำไย”
เพชรลดาพยักหน้า “รูมเมทพชรวาดให้ฉัน ตอบแทนที่เอาลำไยไปฝาก”
“โอ้!” แสงรวีถึงบางอ้อ “ฮ่ะๆ น่ารักจริงๆครับ”
“ฉันให้พี่แสง”
หืม?
“ให้ผมทำไมครับ” แสงรวีฉงน เขาจะเอารูปนายหญิงไปทำไมกัน..
“ฉันไม่ได้ให้รูปฉัน” เพชรลดากลืนน้ำลายลงคอ “แต่ฉันให้ลายเซ็นของคนวาดนะ พี่เก็บเอาไว้เถอะ”
ลายเซ็นหรือ..
แสงระวีก้มมองภาพอีกครั้ง
ใต้ข้อความ ‘ขอบคุณครับ เป็นลำไยที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยทาน’ มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนติดกัน
แสงรวีอ่านได้ว่า.. ‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

“รูมเมทพชรคนนี้เรียนวิศวกรรมเครื่องกล” เพชรลดาเอ่ย มือเรียวบีบไหล่ชายร่างเล็ก ก่อนจะเสริม
“เขาชื่อ.. ม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์”
         
มือกร้านที่กำกระดาษสั่นไหว ดวงตาคลอหยาดน้ำหรุบลงต่ำ อ่านทวนข้อความที่มุมล่างขวาอีกครั้งอย่างเพิ่งตระหนักในสิ่งที่นายหญิงหมายถึง
‘Mon Cham of Mechanical Engineering’

“ขอบคุณครับ คุณลดา”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

           แผ่นกระดาษสีเหลืองหม่นกำหลวมๆอยู่ในมือ มารดามอบให้เขาแล้ว เธอไม่ได้ต้องการมันแล้ว
แล้วพชรเอง ..ยังต้องการหรือเปล่า?
“เราอยู่กันแบบนี้ได้ใช่ไหมครับแม่..” เสียงเข้มพึมพำ
ได้แน่นอน ทำไมถึงจะไม่ล่ะ..
พชรเจ็บแปลบในใจ เจ็บเพราะการตัดสินใจของตัวเองและเจ็บแทนมารดาด้วยในขณะเดียวกัน
มือแกร่งเก็บแผ่นกระดาษใส่กระเป๋า พาดขาขึ้น D-Tracker คู่ใจ มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่จะไปเป็นครั้งที่สาม ..และไปเป็นครั้งสุดท้าย..

           อาคาร PP Group ตั้งตระหง่าน ด้านหน้าเป็นออฟฟิต ด้านหลังคงเป็นโรงงานบนพื้นที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา.. พชรแลกบัตรประชาชนนำรถเข้าจอด และแน่นอน.. คนที่มาหาไม่มีสิทธิ์ไม่อนุญาตการเข้าพบ

             “พชร..” ระมิงค์ขานชื่อเมื่อเห็นคนตรงหน้าอีกครั้ง
อนุญาตสิ.. เธอจะไม่อนุญาตให้เด็กหนุ่มผู้นี้เข้าพบได้อย่างไร
“จะมาบอกคุณพจน์แล้วหรือ?” เสียงระมิงค์แข็งขืน ทว่าก็ยังพยายามหาทางให้ตนเอง “ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะ-”
“ไม่ต้องพยายามยัดเยียดอะไรให้ผม” เสียงเข้มตัดบทเรียบๆ
..
“ผมแค่เอาของมาคืนคุณ”

ของหรือ?
ระมิงค์เลิกคิ้ว “ของอะไร”

พชรไม่เอ่ยคำใด มือแกร่งเพียงหยิบเอากระดาษสีเหลืองหม่น วางลงบนโต๊ะ ขายาวก้าวกลับไปในทิศทางเดียวกับเมื่อตอนเข้ามา ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเป็นจังหวะและภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที รวดเร็วจนระมิงค์งุนงง
“นี่มันอะไรกัน?” มือเรียวหยิบเช็คขึ้นมาพิจ “คืนทำไม..”
พชรถอนหายใจแผ่วเบา
“มันมาจากคุณ คุณก็รับคืนไปเถอะ ผมกับแม่ไม่อยากเก็บไว้อีกแล้ว”
ระมิงค์ถือกระดาษค้าง นิ่งไปด้วยความไม่เข้าใจ
หากเด็กหนุ่มผู้นี้จะไปหาบิดาตน ไปเปิดเผยความจริงดังที่ตั้งใจ
ในเบื้องต้น.. นี่เป็นหลักฐานเดียวที่ยืนยันคำพูดของเขา มิใช่หรือ?
เช็คลงวันที่เมื่อสิบเก้าปีก่อน ..เช็คซึ่งมีลายเซ็นเธอ

“พชร เดี๋ยว!” ระมิงค์เรียกไว้อีกครั้ง แต่อีกฝ่ายขัดขึ้น
“คุณไม่ต้องสารภาพอะไรทั้งนั้น ให้เรื่องทั้งหมดมันจบตรงนี้”

เสียงเข้มที่เธอเคยสัมผัสได้เพียงความเย็นชา ครานี้ กลับเต็มไปด้วยความรู้สึก..

“ขอแค่..” พชรชะงัก
แค่.. หาเวลาอยู่กับลูกบ้าง
พาลูกไปเที่ยวบ้าง..
ให้ลูกได้ซึมซับความรักความผูกพันของพ่อแม่บ้าง..


แล้วเสียงราบเรียบที่มีกระแสกระเพื่อมไหวจึงค่อยๆเอื้อนเอ่ย
“แค่.. ดูแลครอบครัวคุณให้ดี ..ดีที่สุด”

แค่นั้น..

ไม่เป็นไร..

ผมจะไป..


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

            ค่อนดึกแล้ว กว่าที่ร่างกำยำจะกลับเข้ามายังหอสามชาย
ในใจหวังให้รูมเมททั้งสองเข้าสู่ภวังค์ไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูมเมทที่นอนเตียงล่าง..
อย่างไรก็ตาม มันไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยก็หนึ่งคน

           “อ้าว พชร!” ไอดิลที่ออกมาจากห้องสามสามแปด เตรียมเข้าไปในห้องสามสามหกซึ่งอยู่ติดกันทักทาย
“กลับซะดึกเชียวนะ”
พชรพยักหน้าน้อยๆ แปลกใจนิดหน่อย เพราะไอดิลนั้นตามปกติเข้านอนเร็ว สี่ทุ่มเขาก็มักเห็นรูมเมทเตียงบนหลับปุ๋ยไปแล้ว
ดูเหมือนไอดิลรู้ความคิดรูมเมทปรัชญาเช่นกัน จึงเอ่ยเสริม “เมื่อตอนเย็นมีแข่งบอล วิทยาฯ กับ วิศวฯ”

อ้อ..

“หมอกเลยฉลองน้ำจับเลี้ยงอยู่ข้างใน”
พชรอดจะยิ้มออกมาไม่ได้ ..ฉลองน้ำจับเลี้ยงน่ะนะ
“กูก็เลยจะไปร่วมด้วย ร้องเพลงและก๊งน้ำจับเลี้ยง พชรไปด้วยกันไหม? จะเล่าให้ฟัง กูนะเก็บกดมากวันนี้ ก็ไปเชียร์บอลอยู่กับเพื่อนวิศวฯใช่ไหมล่ะ พอวิทยาฯชนะ จะให้กูทำไง หมอกยิงประตูชัยซะด้วย กูนี่อึดอัดมาก แบบว่ามาก! จะแสดงอาการดี๊ด๊าก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวโดนเพื่อนยำตีนแล้วเสียบประจานที่คณะ”
พชรพยักหน้ากับถ้อยคำอธิบายนั้น
“ตอนนี้กูก็เลยขอไปปลดปล่อยหน่อยนะ ก๊งน้ำจับเลี้ยงกับหมอก”
ตามสบาย.. พชรพยักหน้า ให้ความหมายว่าอย่างนั้น นึกยินดีกับความสัมพันธ์ของรูมเมทสิ่งแวดล้อมกับคนรักต่างคณะอยู่ในที ..ช่างแนบแน่นแข็งแรงจริงๆ
แล้วเขา..
ดวงตาสีเข้มโฟกัสประตูห้องสามสามแปด พลางนึกสงสัยว่าอีกหนึ่งคนที่อยู่ภายในกำลังทำอะไร
ไอดิลยิ้มอย่างเข้าใจ “ไอ้ม่อนนอนแล้ว”

อืม..
ก็.. ดี..

“หมายถึงนอนมองเตียงเดี่ยวนะ ฮ่ะๆ”
แล้วรูมเมทสิ่งแวดล้อมก็เดินเข้าห้องสามสามหก ไอหมอกโผล่ออกมาพอดี สองหนุ่มจึงได้พยักหน้าให้กันเป็นเชิงทักทาย..

             หลังจากไม่กี่อึดใจ มือใหญ่ก็หมุนลูกบิด ผลักประตูห้องเข้าไป..
ไฟภายในดับลงแล้ว ทว่า ก็ยังมองเห็นข้าวของต่างๆในความสลัว และที่นั่นเอง ณ เตียงล่าง
เป็นดังที่ไอดิลเอ่ย.. เจ้าของเตียงนอนตะแคงขวา ผงกศีรษะเล็กน้อยขึ้นมองทางเขา เดาได้ไม่ยากว่าก่อนหน้า สายตาคงโฟกัสที่เตียงเดี่ยว..

           “กลับมาแล้วเหรอ พชร” เสียงเล็กพึมพำ
..
“อืม..” เสียงเข้มครางรับในลำคอเพียงแค่นั้น แต่แค่นั้นก็เรียกรอยยิ้มจางๆจากคนรับฟังได้
พชรนั่งลงบนเตียงเดี่ยว ประสานสายตากับคนที่นอนอยู่บนเตียงล่าง
มอง.. มองหน้ากัน..
ยอมมองเพราะเขารู้ดีว่าอีกไม่กี่อึดใจถัดจากนั้น ..หนุ่มน้อยแว่นแดงก็จะจมดิ่งสู่ภวังค์ฝันที่คงมีแต่ความสุข..

             ขาแข็งแรงขยับเดินเข้าไปใกล้ ทรุดลงบนพื้น บรรจงถอดแว่นออกจากดวงตา วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ ..ที่ซึ่งวางเอกสารมีหัวเรื่องตัวโตว่า ‘รายงานประเมินนวัตกรรมถนอมอาหารรูปแบบใหม่ PP GROUP’ บนปกแปะกระดาษโน๊ตสีเหลืองเขียนด้วยลายมือ สรุปย่อไว้พอได้ใจความ..

พชรนิ่งมอง ไม่กี่อึดใจก็จำต้องเบือนหน้าหนี
สายตาปะทะช่องแคบๆระหว่างโต๊ะกับขอบเตียง ..ที่มีภาพวาดห่อกระดาษวางอยู่ แม้ในความมัวหม่นก็ยังอ่านได้ชัดเจน

‘HAPPY 50th BIRTHDAY TO MY RESPECTED FATHER’

พชรกลืนน้ำลาย หันกลับมาพิจดวงหน้าคนหลับพริ้ม มือเอื้อมไปเกลี่ยไรผมคนหลับที่ปรกหน้าผากออกเบาๆ

แว่นแดง
เตียงล่าง
เครื่องกล
ม่อนแจ่มแห่งวิศวฯเครื่องกล
ม่อนแจ่ม ประดิษฐาพงศ์


อะไรก็ตาม..

“ขอให้เป็นนักศึกษาวิศวฯเครื่องกลที่ดี” พชรพึมพำเสียงต่ำ
“ขอให้ต่อไป.. เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ”
..
“ขอให้เป็นลูกกตัญญู”
..
“ขอให้เป็นคนที่มีความสุข”
..
“ขอให้มีรอยยิ้มทุกๆวัน”
..
"นะครับ"

ริมฝีปากหนาพรมจูบเบาๆบนหน้าผาก เสี้ยววินาทีก่อนผละออก
ไม่อยากให้นานกว่านี้ ไม่อยากให้ยืดเยื้อกว่านี้ เพียงเพื่อจะเจ็บกว่านี้
การสร้างความผูกพันกันไปเรื่อยๆไม่ใช่เรื่องดีเลย เขาไม่อยากให้มันนำไปสู่สิ่งอื่นที่ไม่อาจหวนคืน..
   
หากอยู่ตรงนี้ต่อไป ..ถ้าสายสัมพันธ์แนบแน่นแข็งแรงกว่านี้ มีแต่จะนำพาตัวเขาไปสู่ประดิษฐาพงศ์
หากรู้ความจริง ..ว่าคนที่ยอมรับนับถือมาเกือบยี่สิบปีไม่ใช่พ่อตัว ..คนตรงหน้าจะรู้สึกอย่างไร
หากรู้ความจริง ..แล้วนายพจน์โกรธเคืองหรือขับไล่ไสส่งไปจากบ้าน ..คนตรงหน้าจะรับได้อย่างไร

            พชรลุกขึ้นยืน เก็บชุดนักศึกษา ชุดลำลองและหนังสือเรียนใส่กระเป๋าเป้..
อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเตียงล่างอีกครั้ง ..มองอย่างอยากจะจดจำ ..มองอย่างยอมจำนน ..หยุดในสิ่งที่ไม่อาจทำได้ ..ยอมรับความพ่ายแพ้
   
            ขายาวก้าวช้าๆผ่านประตู
เดินไป.. ทั้งที่แทบไม่สามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคง ..ไม่อาจอยู่นานพอที่จะนำความสูญเสียมาให้ในภายหลัง
หูได้ยินเสียงดนตรีเอื่อยๆลอยอวลอย่างรื่นรมย์จากห้องสามสามหก
ไอหมอกคงเล่นกีต้าร์และไอดิลก็ร้องเพลงคลอเบาๆ..

Use me as you will
Pull my strings just for a thrill
And I know I’ll be okay
Though my skies are turning gray..

I will never let you fall
I’ll stand up with you forever
I’ll be there for you through it all
Even if saving you sends me to heaven

..It’s okay..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

สวัสดีคืนวันอาทิตย์ ขอบคุณสำหรับการติดตามเหมือนเคยครับ
พรุ่งนี้ก็ทำงานกันอย่างมีความสุขและสนุกสนานนะ
  :katai5:

(Thanks to.. Your Guardian Angel-The Red Jumpsuit Apparatus)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2016 08:14:57 โดย INDY-POET »

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #315 เมื่อ07-08-2016 23:22:29 »


น้ำตาซึมกับ Bitter Surrender ของพชร

ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #316 เมื่อ07-08-2016 23:46:15 »

ไม่เอาแบบนี้อ่าา   :o12:















พชรกลับมาา :sad2:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #317 เมื่อ07-08-2016 23:52:16 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #318 เมื่อ08-08-2016 00:44:53 »

 :hao5: :hao5: :hao5:
พชร ฮือๆๆ ร้องจริงจังมาก
ม่อนตื่นมาคงทำอะไรไม่ถูก

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #319 เมื่อ08-08-2016 00:48:25 »

พชรจะไปไหน กลับมาก่อน ไม่ให้ไป /...ทิ้งตัวลงเกาะขา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
« ตอบ #319 เมื่อ: 08-08-2016 00:48:25 »





ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #320 เมื่อ08-08-2016 02:31:19 »

 :sad4: :sad4:พชรอย่าไป

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #321 เมื่อ08-08-2016 06:09:11 »

สะเทือนอารมณ์กันต่อเนื่อง
พชรจะย้ายออกแล้วใช่ไหม แล้วแว่นแดงจะอยู่ยังไง

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #322 เมื่อ08-08-2016 07:36:36 »

ผู้เสียสละ นายแน่มาก พชร น้อยคนที่จะทำแบบนายนะ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #323 เมื่อ08-08-2016 07:49:37 »

พชรเปนคนเข้มแข็ง ยอมที่จะะเจ็บปวดเพื่อรักษาความสุขของคนสำคัญ 

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #324 เมื่อ08-08-2016 08:42:50 »

 :mew4: :ling1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #325 เมื่อ08-08-2016 09:14:11 »

 :z3: พชรจะไปไหน  :sad4: :o12:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #326 เมื่อ08-08-2016 09:35:09 »

ร้องไห้หนักมาก T^T

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #327 เมื่อ08-08-2016 09:38:24 »

ทุกๆคนหวังเพียงแค่ให้ม่อนแจ่มมีความสุข มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ในใจจริงๆนะ
กลัวความเข้มแข็งที่พชรแสดงออกมาแบบนี้จริงๆ :ling3:

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #328 เมื่อ08-08-2016 09:43:53 »

ร้องไห้กลางดึกเลยค่า จากตอนแรกๆที่เคยรู้สึกรำคาญควาทเงียบพชร ตอนนี้กลับมาร้องไห้ให้ผู้ชายคนนี้จนได้ พชรรักม่อนแจ่มมากจริงๆ สงสารทั้งคู่เลย แต่เข้าใจพชรนะ คงไม่อยากทำลายรอยยิ้มของม่อนแจ่มลง เพราะตอนนี้ม่อนแจ่มก็แทบเหมือนตัวคนเดียว พ่อแม่ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว เป็นเด็กดีที่ไม่สมควรเจอเรื่องแย่ๆเลย เป็นเราก็อาจจะทำแบบนี้ ทั้งสองคนรักกันไม่ได้  :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: SWEET SURRENDER 7/8/59 CH.18 (Part II) P.11
«ตอบ #329 เมื่อ08-08-2016 09:45:37 »

พชร ยอมทุกอย่างเพื่อ ม่อนแจ่ม
ยอมแยกห่าง ทั้งที่ทำร้ายหัวใจทั้งคู่
ไม่ยอมทำร้ายสถานภาพ พ่อ ลูก ของม่อนแจ่ม
แต่ยอมทำร้ายสถานภาพ พ่อ ลูก ของตัวเอง
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด