{ MIDSUMMER’s ICE CREAM }
ออฟฟิศนี้ร้อนฉิบหาย กลางฤดูร้อนของประเทศไทยแล้ว เดิมทีก็ร้อนชนิดที่ว่ามีแอร์ก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเช้ายังได้ยินว่ามันเป็นวันที่พระอาทิตย์กำลังตั้งฉากกับโลก แถมวันนี้เดินเข้ามาก็เจอหัวหน้าร่างตุ้ยนุ้ยยิ้มแห้งๆ พร้อมกับบอกว่า
“แอร์เสียนะจ๊ะ”
นะจ๊ะพ่องงงงงงงงงงงงง! ถึงในใจจะคิดอย่างนั้น แต่เขาก็ทำได้แค่ยิ้มให้อีกฝ่าย โค้งศีรษะและเดินมานั่งที่โต๊ะของตนเองซึ่งอยู่ในมุมอับของห้อง พัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็แทบจะมาไม่ถึง ช่วงเช้าเลยผ่านไปอย่างทรหดพอควร เขากำลังลังเลว่าจะหาข้ออ้างอะไรกลับบ้านไปในวันนี้ดี เป็นไข้ ไม่สบาย นัดหมอฟัน หรืออาจจะ...
“
พี่ลมครับ”
คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้น ความคิดทุกอย่างพลันหยุดลงเมื่อเห็นเด็กฝึกงานตัวสูงชะลูดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเขา “หืม? ว่าไง”
“ไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ”
มารุตมองคนอายุน้อยกว่าตัวเองสี่ห้าปี เห็นมันใส่ชุดนักศึกษาชายทีไร สมองก็ชอบหวนนึกถึงชีวิตในมหาวิทยาลัยที่หัวฟูกับการสอบมากแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็มีวันหยุด โดยเฉพาะหน้าร้อนที่ร้อนฉิบหายของประเทศไทยเช่นนี้จริงๆ
“ไม่ล่ะ”
“ไม่หรือครับ” เด็กฝึกงานทำหน้างง “เขาจะไปกันทั้งหมดเลยนะพี่ พี่ไม่หิวเหรอ”
หิว
มารุตเอ่ยในใจ ที่ทำงานเขาเป็นเพียงสำนักงานเล็กๆ มีคนอยู่ไม่ถึงสิบ รับนักศึกษาฝึกงานแค่คนเดียว สิ่งเหล่านั้นทำให้บรรยากาศดูเข้าถึงง่าย แต่คนที่เป็นฝ่ายบุคคลใจร้ายฉิบหาย เวลาจะลาทีโดนยกมาด่าทั้งอาทิตย์ เพราะฉะนั้นจะต้องหาเหตุผลดีๆ ในการหยุดงานสักที นอกจากนี้ อากาศร้อนจนเขาไม่อยากจะทำอะไรเลย ถึงคราวนี้จะยอมให้เอาเสื้อออกมานอกกางเกง แต่มันก็ยังระบายความร้อนได้ไม่ดีพออยู่ดี
“พี่ลม” เจ้าเด็กฝึกงานเรียกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกดังแว่วมาจากข้างนอก
เขาโคลงศีรษะ “พี่ไม่ไปล่ะ ฝากเราซื้ออะไรมาให้พี่ด้วยแล้วกัน”
คนเด็กกว่าทำหน้างง “เอาอะไรล่ะครับ”
มารุตนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะตอบเมนูง่ายๆ อย่างผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวออกมา แถวนี้มีร้านตามสั่งอยู่แค่สองร้าน นอกนั้นก็คงเป็นห้างที่เดินเลยไปอีกหน่อย เชื่อว่าไม่มีใครอยากไปแน่นอน ถนนนี้หาแท็กซี่ยากจะตาย นอกจากร้านเหล่านั้น ก็เป็นร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงอย่าง 7-11 แล้ว
พอรับเมนูและเงินร้อยหนึ่งไป เด็กฝึกงานก็โค้งหัว เดินออกไปจากโต๊ะของเขาไปรวมกับคนอื่นๆ ที่รออยู่ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
มารุตมองบรรยากาศออฟฟิศที่เงียบสนิทผิดวิสัย ปกติแล้วที่นี่ค่อนข้างจะมีแต่เสียงพูดคุย เสียงด่าจากหัวหน้า มารุตเองก็เคยชินกับสิ่งเหล่านั้น แต่วันนี้เพราะอากาศร้อน แถมเครื่องปรับยังเสีย ทุกคนก็ไม่มีอารมณ์ทำอะไรนัก งานคืบหน้าไปได้ช้าแถมยังหงุดหงิดอีกต่างหาก
เขาใช้โอกาสนั้นเล่นนู่นเล่นนี่ไปเรื่อย ใจหนึ่งก็อยากจุดบุหรี่ขึ้นสูบแต่ก็ไม่ทำเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าลืมเอาไฟแช็กมา แถมดีไม่ดี ถ้าคนอื่นกลับมาแล้วได้กลิ่นบุหรี่เขาคงโดนด่าจากฝ่ายบุคคลอีก
มารุตเอนกายพิงเก้าอี้นวมเบาะหนัง ปกติก็สบายดี แต่พออากาศร้อนแล้วรู้สึกแผ่นหลังแฉะเหงื่อไปหมด เขาค่อยๆ หลับตาลง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรบางอย่างเย็นๆ มาแตะข้างแก้ม
“พี่ลม” เจ้าของชื่อลืมตาขึ้น เด็กฝึกงานก้มมองเขาจากด้านหลังพร้อมกับชูถุงจาก 7-11 ให้ดู “ผมซื้อไอติมมาให้ด้วยนะครับ”
แค่ได้ยินเท่านั้น ลมนี่แทบก้มลงไปกราบคนอายุน้อยกว่าทีเดียว เขารีบคว้าถุงเย็นๆ มาแนบแก้ม สาขานี้ไม่มีถุงรักษาอุณหภูมิให้ด้วย มารุตเลยจัดการฉีกห่อไอศกรีมในมือเสีย
“ไม่กินข้าวก่อนหรือครับ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวมันละลาย” เขาคว้าไอศกรีมสีแดงขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นรสองุ่น ตอนนี้รสอะไรมารุตก็อยากกินหมดแหละ พอจับใส่ปากแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น เขาเลยได้สติขึ้นมาหน่อยแล้วเอ่ยปากถาม “ยนยื่นไยไหยย่ะ”
“เอาออกจากปากก่อนสิครับ” เด็กฝึกงานดูจะเอือมระอาเขาเต็มที่
“คนอื่นไปไหนล่ะ”
“อ๋อ... ผมเอามาให้พี่ก่อน เดี๋ยวพี่หิว”
พอได้ยินเช่นนั้นมารุตจึงเอื้อมมือไปดึงแก้มเจ้าเด็กตัวสูงที่ยืนค้ำหัวเขาที่กำลังนั่งอยู่ “น่ารักจังเลย”
ไม่ทันปล่อยมือเจ้าเด็กฝึกงานถือวิสาสะก้มหน้าลงมาจนรู้สึกว่าหน้าใกล้กันเกินไปเสียแล้ว เล่นเอาคนอายุมากกว่าย่นคอ ไถลตัวลงแทบไม่ทัน
“เลิกเล่นแบบนี้ที่นี่เสียที”
อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม “ที่อื่นได้หรือครับ”
มารุตเอาไอศกรีมรสองุ่นยัดเข้าปากอีกรอบ ไม่ตอบอะไร ทำเพียงย่นจมูกใส่เด็กฝึกงานตัวสูงที่ไปลากเก้าอี้ของคนที่นั่งข้างๆ เขามานั่งประจันหน้ากัน
“มันมีอีกแท่งไม่ใช่เหรอ” คนอายุมากกว่าเอ่ยปากถาม
“อื้อฮึ ผมซื้อมาให้พี่ทั้งสองแท่งเลย”
“อู้... เด็กดี” มารุตเกือบจะเอื้อมมือไปเล่นแก้มมันอีกรอบแล้ว แต่เอื้อมไปแค่นิดเดียวก็ชักมือกลับ ขืนโดนมันเล่นแบบเมื่อกี้น่าจะแย่ แก่แล้วใจสั่นง่ายกว่าเดิมเยอะ “จะ จริงๆ กินไปเลยก็ดีนะ เพราะมันใกล้ละลายแล้ว”
เด็กฝึกงานเลิกคิ้ว คว้าถุงจากร้านเปิดตลอดไปแตะๆ นิดหน่อย สุดท้ายก็ตัดสินใจฉีกซองออก ไอศกรีมแท่งนั้นเป็นรสสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตสีชมพูอ่อน ดูตลกนิดหน่อยที่เด็กตัวโตหน้าเข้มมากินอะไรที่ดูสาวน้อยเช่นนี้
“พี่ลม”
“หืม?” คนถูกเรียกเลิกคิ้ว
ไม่มีคำพูดใดถูกหยิบยื่นมา แต่คนอายุน้อยกว่ากลับเอื้อมมือหนามาแตะที่ริมฝีปากของเขา ซ้ำยังสอดนิ้วหัวแม่มือเข้ามาในช่องว่างระหว่างปากกับแท่งไอศกรีม แถมยังไม่เอาออกไปสักที!
มารุตผงะไปชั่วครู่ก่อนที่จะจัดการกัดลงบนนิ้วแม่โป้งของอีกฝ่ายอย่างแรง พร้อมยังออกแรงถีบไปบนเก้าอี้ของคนตรงหน้า เพราะเป็นเก้าอี้ล้อ เลยถูกดันไปเสียไกล
“โอ๊ย...” คนถูกทำร้ายร้องเสียงยาว “ใจร้ายจัง จะบอกว่าเปื้อนปากไปหมดแล้ว”
“มะ มันก็มีวิธีดีกว่านี้ไหมล่ะ!”
“แล้วก็จะบอกว่า...
กินไอติมรสนี้... ปากพี่แดงมากเลย”
มารุตรู้สึกเหมือนมีคนมาจุดไฟใต้คางจนร้อนไปทั้งหน้า ตะโกนเสียงดังลั่น
“ไอ้เด็กเวร!” เดินเข้าไปใกล้เพื่อที่จะยกเท้าเตะหน้าแข้งมันอีกรีบ
เด็กฝึกงานยิ้ม น้อมรับความเจ็บปวดด้วยความสุขี
ไอศกรีมแท่งนี้ไม่ได้ทำให้พี่ลมปากแดงอย่างเดียว
แต่แดงไปทั้งหน้า ขณะนั้น หน้าประตูห้อง “เมื่อไหร่พวกกูจะได้เข้าไปวะ”
“นั่นสิ”
“ลมมันรู้รึเปล่า... ว่าทุกคนก็สั่งข้าวกล้องเข้ามากินที่นี่ แค่เด็กรีบมาก่อน” ฝ่ายบุคคลรำพัน
หล่อนมองหน้าเพื่อนร่วมงานอีกห้าหกคนที่มองเข้าไปในประตู มีเสียงก่นด่าสักพักแล้วก็เงียบไปจนนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่เปิดประตูเข้าไปไม่ได้
...ชาตินี้จะได้กินข้าวไหม!------------------------------------
เรื่องสั้นที่ผุดเข้ามาวูบหนึ่งเพราะอากาศร้อนมาก
อยากกินไอติมมาก แต่ร้อนจนไม่อยากเดินไปเซเว่น
ไว้อาลัยให้ความขี้เกียจตัวเอง
เอ็นเอ็น.