+++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: +++จันทร์กระจ่างฟ้า+++(แนวจีนโบราณ)+++(บทที่ 21 (100%) : 12/07/60)  (อ่าน 84739 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กำลังหวานได้ที่ แหม่!!!! โดนขัดซะได้

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เอาอีกๆๆๆๆ สติแตกหลุดโลก กันสนุกมากๆค่ะ ดูทรงแล้ว ฉางเอ๋อที่1 น่ะปกติอยู่ตัวเดียว :katai2-1:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
หมั่นไส้พี่หลิวหนักขึ้นทุกที ชิชะ คนหน้าหนาแห่งพรรคธรรมะ!!!

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ชอบอ่ะเรื่องนี้   เป็นเอกลักษณ์มากๆๆๆ :impress2:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
สนุกอะ ตลกมู่อิง

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รอวัน ไป๋เซ่อ ได้เป็นพระชายา

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
บทที่ 9 เรือนจำฝังกระดูก
   
   เรือนจำฝังกระดูกคือสถานที่คุมขังนักโทษที่มีวรยุทธ์  ไม่มีใครทราบว่าใช้กฎเกณฑ์ใดในการคุมขังเพราะผู้ที่ถูกจองจำล้วนไม่เคยออกมา เหตุที่ชื่อเรือนจำฝังกระดูกเพราะถึงแม้ตายร่างกายเหลือเพียงโครงกระดูกก็ต้องถูกฝังไว้ที่นี่  ผู้ที่ถูกคุมขังมีทั้งพรรคฝ่ายธรรมะและอธรรมที่ก่อเหตุการณ์อันรุนแรงจนไม่อาจให้อภัยได้ ว่ากันว่าการคุ้มกันของที่นี่เข้มงวดยิ่งกว่าคุกหลวงของราชสำนัก  นักโทษมากมายจึงเลือกจบชีวิตตนเองลงดีเสียกว่าถูกคุมขังไว้ในที่แห่งนี้
   สถานที่เช่นเรือนจำฝังกระดูกถูกสร้างบนเกาะอันไร้ผู้คนอยู่อาศัยแห่งหนึ่ง นอกจากผู้คุมที่นับได้เพียงยี่สิบคนและเหล่านักโทษก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอาศัยอยู่อีก ในบรรดาผู้คุมทั้งยี่สิบนั้นมีหัวหน้าผู้คุมอยู่ท่านหนึ่ง คนผู้นี้ไม่ใช้ดาบหรือกระบี่หากแต่ใช้แส้ เป็นเพียงสตรีรูปโฉมธรรมดาที่มีวรยุทธ์สูงล้ำ  บรรพบุรุษหลายชั่วคนของนางสืบทอดการดูแลเรือนจำแห่งนี้มาเนิ่นนานมิคาดในรุ่นของนางถึงกับมีคนกล้าบุกปล้นนักโทษ  ผู้บุกรุกมีวรยุทธ์สูงล้ำเช่นกัน ต่อสู้กันอยู่หลายสิบวันนางจึงได้เพรี้ยงพร้ำ นักโทษสำคัญถูกชิงตัวไป เพราะสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจึงไม่มีผู้ใดเร่งรุดมาช่วยเหลือ กว่ามู่อิงและหลิวเฉินซางจะเดินทางมาถึง นักโทษก็ถูกชิงไป กู่อิ๋งอิ๋งผู้ดูแลเรือนจำบาดเจ็บสาหัสบางตาย
   เหตุการณ์นี้ทำให้มู่อิงแทบคุมสติไว้ไม่อยู่ เขาอยากระบายโทสะแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร ท่านจอมมารในยามนี้นั้นปล่อยรังสีสังหารออกมามากมายไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้าหน้าติด  ส่วนหลิวเฉินซางสำรวจความเสียหายทั้งหมด หนานกงฉางฝูทำหน้าที่รักษาผู้บาดเจ็บ
   “ไปตามเฉียนหลีมา ไม่ว่าเขากำลังทำสิ่งใดอยู่ให้เขาเร่งรุดมาที่นี่!”มู่อิงสั่งการอย่างเคร่งเครียด ชูปี้ฮวารับคำและออกเดินทางทันทีถึงแม้ว่าพึ่งมาถึง
   “คนที่ถูกพาตัวไปเป็นใคร “หลิวเฉินซางสอบถามผู้คุมที่ยังพอมีสติตอบได้
   “ฟู่ซีชิว...”ผู้คุมลำดับที่สิบสามบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง เวลานี้บรรดาผู้คุมทั้งสิบเก้าไม่นับหัวหน้าผู้คุมตายไปแล้วห้า บาทเจ็บสาหัสอีกสิบคน อีกสี่คนที่เหลือไล่ตามนักโทษไปไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีเช่นไร
   “คนที่มาช่วยเขาเล่าเป็นใคร”มู่อิงสอบถามอย่างร้อนใจ
   “ฮัวเหลียนเหลียนแห่งพรรคตำหนักจันทรา”
   “ฮัวเหลียนเหลียน!!!”ดวงตามู่อิงเปล่งประกายฆ่าฟัน ผู้ใดจะถูกช่วยออกไปเขาไม่ได้สนใจ แต่ถึงกับทำร้ายกู่อิ๋งอิ๋งบางตาย หนี้แค้นนี้เขามู่อิงจะชำระคืนให้อย่างไม่ตระหนี่ถี่เหนียว
   “น้องมู่อิง อิ๋งอิ๋งข้าประคองอาการไว้ได้แล้วที่เหลือหากเฉียนหลีมาทันเวลาก็ไม่น่ามีปัญหาใด”หนานกงฉางฝูเดินออกมาจากห้องกู่อิ๋งอิ๋ง ใบหน้าไม่ค่อยจะผ่อนคลายนัก เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นการสั่นสะเทือนยุทธภพอย่างแท้จริง นับหลายร้อยปีมานี้ไม่มีผู้ใดเคยทำการอุกอาจเช่นนี้  แต่ฮัวเหลียนเหลียนผู้นี้กลับกล้า
   เฉียนหลีนั้นนอกจากเป็นองค์รักษ์ควบตำแหน่งผู้ดูแลพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าแล้ว ฝีมือการแพทย์ยังสูงส่ง หากจะเรียกเขาว่าหมอเทวดาก็ไม่นับว่าเกินไป  ขอแค่คนยังหายใจเขานับว่ายังรักษาให้หายได้
   ส่วนกู่อิ๋งอิ๋งนั้นหากนับตามลำดับก่อนหลังเป็นศิษย์ลำดับที่สอง หากแต่นับตามฝีมือเป็นศิษย์น้องสาม มู่อิงและบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องนั้นล้วนเติบโตมาด้วยกัน ดังเช่นหนานกงฉางฝูที่ถึงปากมู่อิงจะบอกว่าอยากสังหารแต่แท้จริงแล้วเขาก็ยังให้ความเคารพศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้อยู่ไม่น้อย กับกู่อิ๋งอิ๋งเองมู่อิงชอบเรียกนางว่าหญิงอัปลักษณ์หากแต่แท้จริงกลับชื่นชอบศิษย์พี่ผู้นี้มากกว่าผู้อื่น คนของเขาเขาย่อมรังแกได้ แต่ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์
   “น้องมู่อิงผู้ที่ถูกช่วยไปเป็นจอมมารคนก่อนเจ้ารู้จักหรือไม่”หลิวเฉินซางเดินเข้ามาสอบถามมู่อิง
   “ข้าไม่รู้จัก” ก่อนที่มู่อิงขึ้นเป็นผู้นำพรรคมารนั้นพรรคมารแบ่งออกเป็นพรรคเล็กพรรคน้อยไม่ขึ้นตรงต่อผู้ใด แต่ละฝ่ายล้วนแสวงหาผลประโยชน์และชื่อเสียงให้ตนเอง พอเขาเข้ารับตำแหน่งประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าได้ไม่นานจึงเริ่มได้รับการยอมรับและถูกยกย่องให้เป็นจอมมารในที่สุด กว่าจะมาถึงจุดนี้มู่อิงเองก็เหยียบย่ำบนเถ้ากระดูกผู้คนมามากมาย แต่เขาไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อจอมมารคนก่อนเลยแม้แต่น้อย
   “เช่นนั้นพรรคตำหนักจันทราเล่าเจ้ารู้จักหรือไม่”
   “ดูเหมือนจะเป็นพรรคเล็กๆ ข้าไม่ได้สนใจ แต่วันนี้ฮัวเหลียนเหลียนนับว่าทำให้ข้าสนใจได้ไม่น้อย”น้ำเสียงมู่อิงเย็นยะเยือกกระไอสังหารแผ่ออกมาเต็มเปี่ยม หากหลิวเฉินซางไม่มีกำลังภายในอันยอดเยี่ยมไม่แน่ว่าจะถูกความกดดันนี้ทำให้กระอักโลหิตหรือไม่
   “น้องมู่อิงเจ้ารู้จักกู่อิ๋งอิ๋งหรือ”หลิวเฉินซางสังเกตเห็นว่ามู่อิงและหนานกงฉางฝูดูจะให้ความสำคัญกับกู่อิ๋งอิ๋ง  โดยเฉพาะมู่อิงที่โกรธแค้นฮัวเหลียนเหลียนมากมายเพียงนี้  ความรู้สึกเช่นนี้เขาไม่ค่อยจะชอบใจนักจึงต้องถามน้องมู่อิงให้กระจ่าง
   “พี่อิ๋งอิ๋งคือศิษย์น้องสาม”มู่อิงเก็บรังสีอำมหิตลง เวลานี้เขาต้องจัดการเรื่องที่เรือนจำฝังกระดูกให้เรียบร้อยแล้วจึงตามสังหารฮัวเหลียนเหลียน เขาเองก็อยากจะรู้นักว่านางจะหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน
   “เป็นเช่นนี้เอง”หลิวเฉินซางพยักหน้าอย่างพึงพอใจในคำตอบ ความโกรธแค้นนี้เขายอมรับได้ หากแต่ประมุขพรรคมารเป็นศิษย์พี่ของผู้คุมเรือนจำฝังกระดูกหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไปไม่รู้จะเกิดคลื่นลมอันใดขึ้นในยุทธภพ มู่อิงนั้นสร้างความประหลาดใจให้เขาไม่สิ้นสุด นับตั้งแต่ความชื่นชอบไปจนถึงผู้คนที่คบหา  เขาได้รู้เรื่องน้องมู่อิงเพิ่มมากขึ้น ถือว่าความสัมพันธ์มีความก้าวหน้าได้หรือไม่
   ท่านผู้นำฝ่ายธรรมะผู้ซึ่งไม่เคยสนใจมนุษย์หน้าในมาก่อนเริ่มครุ่นคิดกับตนเองในใจ


   กว่าเฉียนหลีจะเดินทางมาถึงก็ล่วงเข้าวันที่ห้า ยามนั้นอาการของกู่อิ๋งอิ๋งแทบจะประคองเอาไว้ไม่อยู่ มู่อิงและหนานกงฉางฝูผลัดกันถ่ายทอดกำลังภายในให้ทั้งกลางวันและกลางคืนจึงจะประคองอาการรอเฉียนหลีได้  เมื่อเฉียนหลีมาถึงก็มิได้พูดมากความอันใดตรงเข้ารักษากู่อิ๋งอิ๋งทันที  กว่าเขาจะรักษาคนแล้วเสร็จก็นานถึงครึ่งค่อนวัน
   “น้องมู่อิงในเมื่อกู่อิ๋งอิ๋งปลอดภัยแล้วเจ้าก็ควรไปพักบ้าง”หลิวเฉินซางยืนอยู่ข้างกายมู่อิง ดูใกล้ชิดสนิทสนมจนเฉียนหลีแปลกใจ
   ปกติพวกฝ่ายธรรมะแทบไม่ญาติดีกับคนพรรคมาร เจอที่ไหนเป็นต้องตรงเข้าห้ำหั่นกัน มิเช่นนั้นก็สะบัดหน้าใส่จนคอแทบหัก คราที่ไปบุกพรรคเรือนเมฆาจำได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านประมุขกับหลิวเฉินซางก็ไม่นับว่าดีอันใดนัก แต่เวลานี้ผู้นำฝ่ายธรรมะกลับกล่าวกับท่านประมุขด้วยสุ่มเสียงอ่อนโยนเอาอกเอาใจอย่างยิ่ง หรือเขาจะเหนื่อยมากเกินไปจนหูเพี้ยนเห็นภาพหลอนก็ไม่อาจรู้ได้
   “ข้าไม่เป็นไรรอจนพี่อิ๋งอิ๋งฟื้นแล้วจึงจะไป”ใบหน้ามู่อิงดูอ่อนแรงอยู่บ้าง เฉียนหลีขมวดคิ้วอีกครั้ง
   ปกติถึงท่านประมุขจะชื่นชอบเส้นผมของหลิวเฉินซางหากแต่ก็ยังคงไว้ตัวอยู่หลายส่วน แต่นี่กลับพูดกับท่านผู้นำฝ่ายธรรมะได้อย่างเป็นธรรมชาติ  เขาไม่อยู่ข้างกายท่านประมุขไม่กี่วันเกิดเหตุพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินขึ้นหรือไร
   “แต่หน้าเจ้าซีดแล้ว ตอนนี้ในเมื่อนางปลอดภัยเจ้าก็ควรพัก”
   “เจ้าไม่ใช่ศิษย์ในสำนักเราจะเข้าใจได้อย่างไร”หนานกงฉางฝูผู้มีใบหน้าซีดขาวไม่ต่างจากมู่อิงเอ่ยขึ้น ถึงฝีมือสู้หลิวเฉินซางไม่ได้ แต่เขาก็ขอขัดขวางคนผู้นี้ในทุกวิถีทาง  จะยอมให้น้องมู่อิงตกหลุมพรางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เช่นนี้ไม่ได้ อย่างน้อยความพยายามนับสิบปีของเขาก็ไม่ควรสูญเปล่าไม่ใช่หรือ
   หนานกงฉางฝู...คนผู้นี้เคยมีความพยายามด้วยหรือ  ช่างคิดได้อย่างไม่ละอายใจเอาเสียเลย...
   “ท่านประมุขไปพักเถอะขอรับ  กว่าแม่นางกู่จะฟื้นก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้า”เฉียนหลีเอ่ยออกมา สิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นที่สุดในยามนี้ก็คือสุขภาพของท่านประมุข  ร่างกายท่านประมุขนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำหากเกิดอะไรขึ้นกับเขาเพียงเล็กน้อยคงต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่เดือดร้อนกันทั้งแผ่นดินจริงๆ แน่
   “ในเมือเจ้าพูดเช่นนี้พรุ่งนี้ข้าค่อยมาใหม่”มู่อิงยอมไปพักในที่สุด
   “เจ้าเดินไหวไหมให้ข้าอุ้มไปดีหรือไม่”
   “ข้ายังมีแรงสังหารเจ้าก็แล้วกัน”
   “ทั้งที่ความสามารถเจ้ายังไม่ถึงก็ยังชอบเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา จะกลายเป็นคำพูดติดปากรู้หรือไม่”
   “หลิวเฉินซางเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”มู่อิงขมวดคิ้วจ้องหน้าหลิวเฉินซาง
   “หากเจ้าคิดประมือกับข้าจริงๆ เจ้านั่นแหละที่จะเหนื่อยจนไม่มีชีวิตอยู่”
   “เจ้า!”
   “ข้าไม่ยั่วโมโหเจ้าแล้ว น้องมู่อิงค่อยๆเดิน”
   “เพ่ย! สักวันข้าต้องสังหารเจ้าได้แน่”
   “เช่นนั้นเจ้าอาจไม่ได้เห็นเส้นผมข้าอีก”
   “หลิวเฉินซาง!!!”
   “น้องมู่อิงข้าทราบแล้ว...เจ้าอย่าโมโห”
   ถ้อยคำของมู่อิงและหลิวเฉินซางทำให้เฉียนหลีต้องเบิ่งตามองดูให้แน่ชัด การหยอกล้อเช่นนี้...ไม่จริงกระมัง เขาทำเป็นไม่รับรู้ได้หรือไม่  หากเขาโดน ‘ทางบ้าน’ ของท่านประมุขสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของท่านประมุขขึ้นมา เขาจะพูดอย่างไรได้เล่า  มิต้องโดนไล่ฟันออกมาหรอกรึ!
   ท่านประมุขท่านอย่าตกหลุมดอกท้อผู้อื่น เฉียนหลีผู้นี้ยังไม่อยากตาย เขายังไม่ได้แต่งภรรยาเลยแม้แต่คนเดียว
   หนานกงฉางฝูเหลือบดูเฉียนหลีอย่างไม่ชอบใจ คนผู้นี้ถูกหลิวเฉินซางซื้อตัวไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้เอ่ยวาจาคล้อยตามเจ้าตัวน่าโมโหผู้นั้น  เห็นหรือไม่ว่าเจ้าปีศาจจิ้งจอกนั่นแทบจะลากน้องมู่อิงไปกินอยู่แล้ว


   ในเช้าวันต่อมากู่อิ๋งอิ๋งก็ฟื้นขึ้น  ถึงแม้ยังไม่แข็งแรงนักแต่สติก็แจ่มใสยิ่ง สามารถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่มีตกหล่น
   ตอนฮัวเหลียนเหลียนผู้นั้นบุกเข้ามากู่อิ๋งอิ๋งกำลังตรวจตราเรือนจำตามปกติพร้อมกับผู้คุมอีกสามท่าน หญิงผู้นั้นสวมชุดสีขาวสะอาดดูงดงามราวกับเทพธิดา ผิวพรรณผุดผ่องดูแล้วทั้งขาวทั้งนุ่มราวกับเต้าหู้ ถึงกับกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาทยิ่งนัก แม้จะดูงดงามไร้พิษสงปานนั้นกลับลงมือสังหารคนทันทีที่เอ่ยปากเสร็จ ฆ่าคนโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้สักนิด กู่อิ๋งอิ๋งในยามนั้นยอมรับว่าคาดไม่ถึงว่าผู้มามีวัตถุประสงค์ชั่วร้ายปานนั้น ครั้นเห็นผู้มาเยือนลงมือโหดหี้ยมอำมหิตจึงตรงเข้าต่อสู้โดยไม่ออมมือ  มิคาดสู้กันถึงสองชั่วยามฮัวเหลียนเหลียนก็ไม่มีทีท่าว่าจะเพรี้ยงพร้า  นางจึงส่งสัญญาณให้ผู้คุมท่านอื่นยิงพลุสัญญาณ  อีกไม่กี่ชั่วยามต่อมาคนของฮัวเหลียนเหลียนก็มาเพิ่มมากขึ้น สู้กันจนเข้าวันที่สองนางจึงบาดเจ็บจนกระอักเลือด ถึงได้ให้เสี่ยวอี้นกอินทรีย์ที่นางเลี้ยงไว้ส่งข่าวหาศิษย์พี่ใหญ่
   “ฮัวเหลียนเหลียน...ตอนที่ข้าพบนางหน้าตาดูธรรมดามาก เหตุใดแม่นางกู่จึงบอกว่างดงาม”เฉียนหลีเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
   ท่านประมุขอาจไม่สนใจพรรคในปกครอง แต่เขาเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ให้ท่านประมุขเหล่าพรรคเล็กพรรคน้อยมีผู้นำเช่นไร แนวทางของพรรคเป็นแบบไหนเฉียนหลีผู้นี้ล้วนจ่างแจ้ง  ฮัวเหลียนเหลียนผู้นั้นเขาเคยพบเมื่อสามปีก่อนตอนที่ท่านประมุขขึ้นรับตำแหน่งประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้า ประมุขพรรคตำหนักจันทรายามนั้นดูแล้วหน้าตาธรรมดาอย่างมาก มองดูแล้วไม่คล้ายเทพธิดาเลยสักส่วนเดียว กู่อิ๋งอิ๋งยังดูงดงามกว่าหลายส่วนนัก  ผ่านไปสามปีจากหญิงสาวหน้าตาธรรมดาจะกลายเป็นเทพธิดาได้หรือ
   “นางคือกู่อิ๋งอิ๋งจริงๆ  ถึงแม้ข้าจะอยู่ที่เรือนจำฝังกระดูกไม่ไปไหนแต่เรื่องราวในยุทธภพพวกเราเหล่าผู้คุมล้วนต้องคอยสอดส่องเพื่อหาผู้กระทำผิด  ฮัวเหลียนเหลียนนั้นดูเหมือนที่ฝึกแล้วนอกจากรูปโฉมจะงดงามขึ้นกำลังภายในก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว  ต้องเป็นวิชามารที่หายสาบสูญไปนานเป็นแน่ แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมนางถึงมาช่วยฟู่ซีชิว”กู่อิ๋งอิ๋งกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
   “ฟู่ซีซิวผู้นี้แม่แต่คนพรรคมารยังไม่ชอบหน้า  จำได้ว่าก่อนถูกจองจำเขาไล่ดูดพลังยุทธ์ของบรรดาชาวยุทธ์โดยไม่สนใจว่าเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ก่อกรรมทำเข็ญจนคนทั้งใต้หล้าเกลียดชัง แต่ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีลับลมคมในอันใดกับพรรคตำหนักจันทรามาก่อน  การที่ฮัวเหลียนเหลียนมาช่วยคนผู้นี้ออกไปนับว่าน่าสงสัยมากจริงๆ”เฉียนหลีเองก็สงสัยในจุดนี้เช่นกัน
   “แค่นางจิ้งจอกกับตาเฒ่าไม่รู้จักตาย  ตามไปสังหารเสียก็สิ้นเรื่อง”
   เพราะผู้ที่เอ่ยเช่นนี้คือมู่อิง ทุกคนจึงทำเป็นเมินเขาแล้วสนทนากันต่อ  คนผู้นี้พออ้าปากก็สังหารคนไม่สนใจสืบหาต้นสายปลายเหตุ  หากไม่เพราะหน้าตางดงามและวรยุทธ์สูงส่งผู้คนคงพากันเกลียดชังเขาแล้วบุกมาสังหารไม่เว้นวันเป็นแน่
   “น้องมู่อิงเจ้ารู้หรือว่าเขาอยู่ที่ไหน”มีเพียงหลิวเฉินซางที่สนใจจะพูดคุยกับเขา
   “ไม่รู้”
   “เช่นนั้นเจ้าจะตามไปฆ่าเขาได้อย่างไร”
   “ก็แค่ไปที่พรรคตำหนักจันทราหากไม่พบคนก็สังหารจนกว่าคนในพรรคจะพูดอกมา”
   “ถ้าสังหารหมดแล้วพวกเขาไม่พูดเล่า”หลิวเฉินซางกล่าวอย่างใจเย็น
   “เจ้าจะขัดข้าให้ได้หรือ”
   “ข้าไม่ได้ขัดเจ้า ข้าส่งคนไปสืบที่พรรคตำหนักจันทราแล้ว พวกเรารอฟังข่าวอยู่ที่นี่”
   “แต่เยว่เอ๋อยังไม่กลับมา...”
   “เกี่ยวอะไรกับหนานหมิงเยว่ผู้นั้น”เพราะวาจานี้ของหลิวเฉินซางทำให้ผู้ที่กำลังสนทนาปรึกษาหารือกันอยู่หันมามองที่เขากับมู่อิง
   “ท่านโง่หรือ”มู่อิงถลึงตามองหลิวเฉินซาง
   “เกี่ยวกับการลอบสังหารเจ้าคืนนั้นใช่หรือไม่”หากเขาไม่เอ่ยสิ่งใดสักคำคงถูกน้องมู่อิงมองเป็นตัวโง่งมจริงๆแน่   
   “ท่านประมุขท่านโดนลอบสังหารหรือ”เฉียนหลีถามด้วยความตกใจ ใบหน้าเขาเขียวสลับดำในทันที
   ถึงกลับมีคนกล้าลอบสังหารท่านประมุข!
   “ข้าไม่เป็นไรเยว่เอ๋อไปตามสืบเรื่องนี้แล้ว”มู่อิงโบกมืออย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก อยากฆ่าเขาไม่ง่ายดายนัก นับว่าผู้ที่ถูกส่งมายังไม่มีความสามารถพอ
   ในเมื่อเหตุการณ์ประจวบเหมาะเช่นนี้พอเขาอ่อนแอเรือนจำฝังกระดูกก็ถูกปล้น หากประมุขพรรคมารโดนลอบสังหารในอาณาเขตของพรรคฝ่ายธรรมะ เรือนจำขังนักโทษโดนปล้นโดยคนพรรคมาร เหตุการณ์เช่นนี้มิใช่การยุยงให้เกิดความขัดแย้งหรือ เห็นเขามู่อิงเป็นตัวโง่งมหรือไร!
   เช่นนี้การสืบข่าวจึงมีหลายทางทั้งจากฝ่ายธรรมะและพรรคมาร หากผู้ที่ก่อเหตุร้ายต้องการให้เกิดความบาดหมางระหว่างฝ่ายธรรมะและอธรรมขึ้นจริงๆ ทราบว่าท่านผู้นำฝ่ายธรรมะและจอมมารต่างร่วมมือกัน อาจถึงขั้นกระอักโลหิตด้วยความเดือดดาลใจ

   “น้องมู่อิงได้ยินว่าเจ้าเป็นห่วงข้ามากหรือ”กู่อิ๋งอิ๋งที่ยังไม่อาจลุกจากเตียงได้เอ่ยขึ้น
   ยามสนทนาเรื่องสำคัญแล้วเสร็จก็ควรถึงเวลาพูดคุยของศิษย์พี่ศิษย์น้อง หลังจากลงเขามานางก็ไม่ได้พบหน้าศิษย์พี่ใหญ่และน้องมู่อิงนานมากแล้ว
   “เพราะเจ้านอกจากหน้าตาอัปลักษณ์แล้วฝีมือยังอ่อนด้อย โดนผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้หากตาแก่รู้เข้าคงเสียหน้าไม่น้อย”มู่อิงปรายตามองกู่อิ๋งอิ๋ง
   “ท่านอาจารย์ยามนี้ไม่รู้ว่าต้มตุ๋นผู้อื่นอยู่ที่ไหน”หนานกงฉางฝูนั่งเท้าคางอย่างเกียจคร้าน ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าอันงดงามของน้องมู่อิง
   “อาจารย์ของพวกท่านคือผู้เยี่ยมยุทธ์ท่านใดหรือ”หลิวเฉินซางเดินมาบังมู่อิงที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างให้พ้นจากสายตาของหนานกงฉางฝู
     “อาจารย์ของพวกเราไม่มีชื่อเสียงในยุทธภพชื่อจวินจื่อหลันประมุขหลิวคงไม่รู้จัก”กู่อิ๋งอิ๋งตอบอย่างมีมารยาท
   “ก็แค่ตาแก่ที่ชอบหลวกลวงผู้อื่นว่าเป็นหมอดู”อีกทั้งอายุตั้งมามายแล้วแต่หน้าตายังอ่อนเยาว์อยู่อีก เป็นอาจารย์ที่มู่อิงพอเห็นหน้าก็ตรงเข้าประมือ
   “คงจะเป็นผู้ที่น่าเคารพเลื่อมใสไม่น้อย”สามารถสั่งสอนน้องมู่อิงจนเยี่ยมยุทธ์เช่นนี้นับว่าไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง หากแต่ชื่อของท่านอาจารย์ท่านนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ
   จวินจื่อหลันหากมาได้ยินวาจาเช่นนี้ของท่านผู้นำฝ่ายธรรมะมิรู้ว่าจะหน้าบานมากเพียงไร
   


++++++++++++++++++++++++++
ตอนนี้แอบรู้สึกขัดใจตัวเอง รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ จะแก้ใหม่ก็กลัวว่านานเกินไป :mew5:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น้องมู่อิง
น่ารักเสมอต้นเสมอปลายจิงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
คนที่ร้ายที่สุดก็คือพระเอกนี่แหละนะ. พ่อประมุขฝ่ายธรรมะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :mew1: 

ออฟไลน์ repilca

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มู่อิงน่าร๊ากกกกก~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
มาต่อไวไวนะ คิดถึงน้องมู่อ้ง   :กอด1:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
สนุกมากก มู่อิงมีเอกลักษณ์มากก

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ท่านแน่ใจหรือว่ามาจากฝ่ายธรรมะ เหมือนท่านจะมาจากพรรคจิ้งจอกมากกว่านะท่าน

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ชูป้ายไฟ#เลิฟมู๋อิงรัวๆ ชอบจริงๆนะ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
มู่อิวจ๋า :o8:

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
บทที่ 10

            ภายในเรือนจำฝังกระดูกห้องที่ใช้สำหรับคุมขังนักโทษถูกขุดลึกลงไปใต้พื้นดิน ส่วนด้านบนนั้นเป็นเรือนพักของเหล่าผู้คุมถึงแม้จะมีเพียงยี่สิบคนแต่เรือนพักกลับใหญ่โตหรูหรา มีห้องหับมากมายให้ผู้มาเยือนได้พัก ผู้มาเป็นแขกนั้นได้รับการต้อนรับราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์หากแต่ผู้ที่ถูกจองจำนั้นราวกับตกอยู่ในขุมนรก ช่างทำให้คนทั้งอยากส่ายหน้าและถอดถอนใจ

                เนื่องจากเหตุการณ์ที่ฮัวเหลียนเหลียนบุกมาชิงตัวนักโทษ ทำให้กู่อิ๋งอิ๋งที่พึ่งฟื้นตัวต้องจัดการงานต่างๆ มากมาย ทั้งตรวจสอบนักโทษคนอื่นๆ ตรวจตราความเสียหาย และจัดการศพของผู้คุมที่เสียชีวิต วุ่นวายจนแทบไม่มีเวลาพัก

                มู่อิงเองคอยออกคำสั่งต่างๆ ให้คนในพรรคจันทร์กระจ่างฟ้ามารับไปทำ อย่างไรเสียผู้คนในพรรคของเขาก็มิใช่พวกไร้ฝีมือให้เดินทางไปกลับรับคำสั่งเช่นนี้ก็ไม่นับว่าลำบากอะไร ยังถือว่าเมตตาปรานีเสียด้วยซ้ำ

                เวลานี้มู่อิงยืนอยู่กลางสวนท่ามกลางแสงจันทร์สาดส่อง งดงามชวนหลงใหลสะกดใจผู้คน ชายเสื้อสีแดงพละพลิ้วตามสายลมที่พัดโชยมายิ่งดูยิ่งงดงามเป็นหนึ่งในหล้าหากผู้ใดมาพบเห็นเขายามนี้อาจถูกความงามสะนี้สะกดให้ตะลึงหลง หากแต่ในขณะเดียวกันมีบุรุษใส่ชุดดำสามคนคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า แต่ละคนล้วนก้มหน้าลงต่ำไม่อาจเอื้อมเงยหน้ามองผู้เป็นนาย

                ความงามอันมัวเมาคนนี้น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดอาจเอื้อมเงยหน้ามอง

                นับแต่มู่อิงขึ้นเป็นประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหลายสิ่งทั้งเหล่าผู้มีตำแหน่งในพรรคมีการสับเปลี่ยนและการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองพรรคทั้งหมด เช่นบุรุษผู้สวมชุดดำทั้งสามนี้ที่ขึ้นตรงต่อมู่อิงเพียงผู้เดียวแม้แต่เฉียนหลีที่เป็นผู้ดูแลพรรค ถือเป็นรองประมุขพรรคอยู่กลายๆยังไม่มีสิทธิ์เรียกใช้ บุรุษทั้งสามนี้ถูกเรียกว่ากองกำลังสายฟ้า ทั้งฝีมือทั้งความรวดเร็วลงมือฉับไวประดุจสายฟ้านับเป็นบุคคลที่มู่อิงคัดเลือกขึ้นมาด้วยตนเอง หากเอ่ยถึงรูปร่างหน้าตายิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ละคนแต่ละท่านล้วนแล้วแต่สามารถคว้าหัวใจของอิสตรีได้ภายในยิ้มเดียว

                “เหลยที่หนึ่ง”มู่อิงมองไปยังบุรุษชุดดำที่อยู่ตรงกลาง

                “รับคำสั่งท่านประมุข”เหลยที่หนึ่งเอ่ยเสียงดังฟังชัดก่อนจะประสานมือรับคำสั่งอย่างเคร่งครึม

                อะแฮ่ม...เนื่องจากนี่คือกองกำลังสายฟ้าแต่ละท่านจึงมีชื่อเรียกว่าเหลยที่หนึ่งไปจนถึงเหลยที่สาม เป็นที่ทราบกันในพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าว่าใครก็อย่าได้คิดขวัญกล้าให้ท่านประมุขตั้งชื่อบุตรของตน มิเช่นนั้นจะลงเอยดังเช่นเหล่าผู้มีความสามารถและหน้าตาเป็นเอกทั้งหลายในพรรค แต่ละท่านนั้นล้วนองค์อาจสง่างามน่าเคารพยำเกรง หากแต่เมื่อถึงยามเรียกชื่อแทบทำให้คนอยากหลั่งน้ำตาไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปาก

                เรียกท่านเหลยคำหนึ่งหันมาทั้งสามคน หากแต่เรียกเป็นหมายเลขแต่ละท่านก็แทบราวกับจะพ้นไฟได้เหล่าผู้น้อยในพรรคล้วนหวาดหวั่นกันถ้วนหน้าหากแต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบ่น ท่านประมุขช่างรังแกคนมากเกินไป แม้แต่เหล่าผู้คนในพรรคของตนเองก็ไม่ละเว้น

                “เจ้าพาฉางเอ๋อที่หนึ่งไปตามหาเยว่เอ๋อ หากเขาประสบภัยจงช่วยเหลือกลับมา หากเถล่ไถลให้ทุบให้สลบแล้วโยนเข้าคุกหนึ่งเดือน”หนานหมิงเยว่ถึงกลับกล้าทำให้เขาเป็นห่วง

                “ข้าน้อยรับบัญชา”บุรุษผู้ถูกเรียกว่าเหลยที่หนึ่งทำความเคารพอย่างนอบน้อมก่อนจะถอยห่างออกมาเพื่อไปจัดการภารกิจของตน

                “เหลยที่สอง”

                “รับคำสั่งท่านประมุข”

                “เจ้าไปหอบุปผาแดงบอกให้พวกเขารวบรวมข้อมูลของพรรคตำหนักจันทราโดยเฉพาะเรื่องของฮัวเหลียนเหลียนแล้วนำมารายงานข้า”

                “ข้าน้อยรับบัญชา”

                หอบุปผาแดงคือสถานที่สำหรับซื้อขายข่าวที่ก่อตั้งขึ้นโดยมู่อิง ในฐานะประมุขพรรคจันทร์กระจ่างฟ้าเขามีหน้าที่หางานให้เหล่าผู้คนในสำนักตามความสามารถของแต่ละคน  เช่นนี้คนในหอบุปผาก็เป็นเพียงแค่พวกชอบซุปซิปนินทาที่ถูกส่งออกไปหาข่าว เพียงแต่ว่าข่าวแต่ละเรื่องที่พวกเขาหาได้เกือบต้องแลกด้วยชีวิต ความจริงนั้นช่างหน้าสงสารยิ่งนัก แต่ความจริงที่ยิ่งกว่าความจริงก็คือ...เหล่าผู้คนในหอบุปผาแดงถูกท่านประมุขมองแล้วเห็นว่าเสียสายตาถึงได้ถูกส่งไปอยู่ห่างไกลจากพรรค

                “เหลยที่สาม”

                “รับคำสั่งท่านประมุข”

                “เจ้าไปสืบดูที่พรรคตำหนักจันทรา  หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติจงเข้าไปเยี่ยมชมในสำนัก จำไว้ว่าหากต้องเข้าไปอย่างเปิดเผยต้องไปอย่างมีหน้ามีตา จะให้ข้าเสียชื่อไม่ได้”

                “ข้าน้อยรับบัญชา” เหลยที่สามไหลแทบงองุ้ม ไปแบบมีหน้ามีตาของท่านประมุขคือการอวดเบ่งให้เต็มที่ เหตุใดผู้อื่นได้งานสบาย แต่ของเขาไปทำให้ผู้อื่นอยากฆ่ากันเล่า ท่านประมุขนะท่านประมุขจะให้เขาเข้าไปแบบไม่มีผู้รู้เห็นนั้นง่ายเสียยิ่งกว่าเข้าไปแบบมีหน้ามีตาดังเช่นที่ท่านประมุขต้องการเสียอีก

                บุรุษชุดดำทั้งสามตอนมารวดเร็วฉับไวตอนจากไปก็ไร้ซึ่งผู้พบเห็น มีแค่สามคนหากแต่เรียกว่ากองกำลัง ฝีมือของแต่ละท่านนั้นแทบสูสีกับมู่อิง ถึงมีแค่สามคนแต่สามารถล้มคนได้ทั้งกองทัพ ผู้ที่หมายเป็นศัตรูกับมู่อิงนั้นนับว่าโง่เง่ายังดูน้อยไป บรรดาท่านเหลยนั้นแทบอยากเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ฮัวเหลียนเหลียนผู้นั้น  หญิงคนนั้นต้องสติวิปลาสไปแล้วถึงกล้าท้าทายท่านประมุข

อันที่จริงการที่ฮัวเหลียนเหลียนบุกเรือนจำฝังกระดูกนั้นมิใช่การตั้งตัวเป็นศัตรูกับมู่อิงโดยตรง แต่ใครจะคาดคิดว่าเขามีความสัมพันธ์ฉันท์ศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหัวหน้าผู้คุม จะตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ หากฮัวเหลียนเหลียนรู้เช่นนี้แต่แรกคงไม่กระทำการบุ่มบ่ามเป็นแน่

 

                ในขณะที่มู่อิงสั่งงานลูกน้องของตนเอง ทางด้านหลิวเฉินซางเองก็ส่งนกพิราบหลายตัวออกไปยังเจ้าสำนักฝ่ายธรรมะหลายแห่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในขณะที่เขายังเป็นผู้นำฝ่ายธรรมะ หากเขาไม่เคลื่อนไหวบ้างคงดูผิดปกติมากเกินไป ยามนี้หากทำตัวสนิทสนมกับน้องมู่อิงคงเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เห็นทีเขาคงใกล้ได้เวลากลับพรรคเรือนเมฆาเสียแล้ว

                “เชียกัง”หลิวเฉินซางเรียกองค์รักษ์คนหนึ่งออกมาจากมุมมืด คนผู้นี้ซ่อนตัวได้แนบเนียนเสียยิ่งกว่ามือสังหาร ตลอดเวลาไม่มีผู้ใดรู้ตัวว่ามีเขาอยู่

                เชียกังสวมชุดดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าเคร่งครึมดูไร้อารมณ์ความรู้สึกราวกับไม้ท่อนหนึ่ง  เขาทำความเคารพหลิวเฉินซางอย่างนอบน้อมก่อนจะยืนรอรับคำสั่งอย่างเงียบเชียบ

                “เจ้าไปติดตามน้องมู่อิง  อย่าให้เขามีอันตรายถึงชีวิต”น้องมู่อิงมีฝีมือไม่ธรรมดาแต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ผู้ที่สามารถทำอันตรายเขาถึงชีวิตได้มองไปทั่วแผ่นดินนับว่าแทบหาไม่เจอ เพียงแต่เขาไม่อยากเสี่ยง

                “แต่นายท่าน...”เชียกังคิดเอ่ยขัด เขามีหน้าที่ติดตามดูแลรับใช้นายท่านมาเนิ่นนาน สำหรับเขาแล้วความปลอดภัยของหลิวเฉินซางมีค่ายิ่งกว่าชีวิตของตนเองหรือกว่าชีวิตของผู้ใดจะเทียบติด มาวันนี้นายท่านกลับสั่งให้เขาไปตามคุ้มครองบุรุษผู้หนึ่ง ที่สำคัญบุรุษผู้นั้นยังเป็นถึงจอมมาร คนผู้นั้นนั้นเห็นได้ชัดว่าแทนที่จะคุ้มครองให้ปลอดภัยมิสู้คุ้มกันให้เขาไม่ไปทำร้ายผู้อื่นยังดีเสียกว่า

                “คำพูดข้าชัดเจนไม่พอหรือ”หลิวเฉินซางมองหน้าเชียกัง คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

                “ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ นายท่านโปรดวางใจข้าน้อยเชียกังจะทำหน้าที่อย่าสุดความสามารถ”เชียกังรับคำเสียงหนักแน่น บัญชาจากหลิวเฉินซางถือเป็นคำสั่งสูงสุด เขามีหน้าที่แค่ทำตามไม่อาจบังอาจไปสงสัยหรือทักท้วงความต้องการของนายท่าน

                เอาเถิด...อย่างน้อยมู่อิงผู้นั้นในใจของนายท่านก็นับว่ามีความสำคัญไม่ใช่ชั่ว

 

 

                เมื่อมู่อิงสั่งการคนของตนเองเสร็จเขาจึงแวะไปดูอาการของกู่อิ๋งอิ๋งก่อนนอน อย่างไรเสียหญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นยังไม่นับว่าหายดี วิ่งไปวิ่งมาทั้งวันเช่นนั้นหากอาการยังดีขึ้นก็คงเป็นเทพเซียนไปแล้ว

เรือนพักของกู่อิ๋งอิ๋งนั้นตั้งอยู่ใจกลางเกาะเป็นเรือนพักชั้นเดียวไม่ใหญ่ไม่เล็ก หน้าเรือนเป็นลานกว้างสำหรับฝึก
วรยุทธ์  มีโต๊ะสำหรับนั’jพักผ่อนรับลมอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ บนเก้าอี้สำหรับรับลมตัวนั้นมีสตรีร่างเล็กหน้าตาธรรมดานั่งอยู่ นางคร่ำเคร่งอยู่หน้าสมุดเล่มหนึ่งราวกับคบคิดอย่างไรก็ไม่อาจเข้าใจได้ ทำให้ไม่รับรู้การมาถึงของมู่อิง

“เจ้าขัดสนเรื่องเงินหรือ”มู่อิงเหลือบมองไปทางสมุดบัญชีที่กู่อิ๋งอิ๋งถืออยู่

สำหรับมู่อิงแล้วเรื่องเงินทองนั้นไม่นับเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรเสียเขาก็มีคนมากมายให้ล้างผลาญหากเงินทองไม่พอใช้ก็กลับบ้านไปข่มขู่ผู้คนสักสองสามคำก็สามารถสร้างภูเขาเงินภูเขาทองได้แล้ว

“ข้าต้องซ่อมเรือนหลายหลังทั้งยังต้องให้เงินเลี้ยงดูครอบครัวของผู้คุมที่เสียชีวิต ทรัพย์สินที่ยึดมาจากนักโทษก็น้อยนิดยิ่งนัก”กู่อิ๋งอิ๋งยกมือขึ้นเท้าคางพรางโยนสมุดบัญชีไปอีกทาง เอาเถิดดูอย่างไรนางก็ไม่เข้าใจ ไม่สามรถหาเงินมากมายเช่นนี้ได้แน่

“มิสู้ไปปล้นผู้อื่น”

“ปล้นเจ้านะสิ!”นางเป็นถึงหัวหน้าผู้คุมเรือนจำฝังกระดูกเชียวนะ เรื่องปล้นชิงผู้อื่นผิดมโนธรรมมากเกินไป ไม่อาจทำได้

“เจ้ากล้าหรือ”มู่อิงจิ้มหน้าผากกู่อิ๋งอิ๋งไม่แรงนัก หญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ช่างกล่าววาจาไม่กลัวตาย หรือว่าเขาควรสั่งสอนนางให้รู้จักศิษย์พี่ศิษย์น้องสักหน่อย

“พี่มู่อิง ศิษย์น้องผู้นี้ยากจนนักหากศิษย์พี่จะมีน้ำใจสักหน่อย”กู่อิ๋งอิ๋งเกาะแขนมู่อิงพรางทำน้ำเสียงปะเหลาะ

นางรู้ดีมู่อิงชอบวางตัวเป็นศิษย์พี่ที่สุด ยิ่งหากเรียกเขาว่าศิษย์พี่อย่างเต็มอกเต็มใจสักคำไม่ว่านางต้องการสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นมาตลอด เรื่องที่พูดอย่างไรเขาจึงจะยินยอมนั้นนางถนัดยิ่งนัก

“เจ้าต้องการเท่าไหร่ก็ไปบอกเฉียนหลี ถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีวันจน”มู่อิงพูดอย่างเย่อหยิ่ง วางท่าราวกับเรื่องเงินทองเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรสนใจ ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีภูเขาเงินภูเขาทองอีกหลายลูกให้รีดไถ

“ขอบคุณมากศิษย์พี่รอง อิ๋งอิ๋งซึ้งใจนักขอคารวะท่านหนึ่งจอก”กูอิ๋งอิ๋งรินน้ำในกาให้มู่อิงหนึ่งจอกและรินให้ตัวเองอีกหนึ่งจอก กลิ่นดอกกุ้ยฮวาหอมรวยรินออกมาจากกาน้ำ

มู่อิงยกขึ้นดื่มในทันที

 “ชากุ้ยฮวาหรือ”

“สุรากุ้ยฮวาต่างหากเล่า”กู่อิ๋งอิ๋งตอบด้วยใบหน้าแป้นแล้น

อนิจจา...มู่อิงผู้คออ่อนราวกับทารกดื่มสุราลงคอไปเสียแล้ว เขาลืมไปได้อย่างไรว่ากู่อิ๋งอิ๋งกระเพาะเหล็กคอทองแดงดื่มสุราต่างน้ำ

 

 

 

หลังจากที่หลิวเฉินซางจัดการเรื่องของตนเสร็จสิ้นเขาก็มารอมู่อิงที่เรือน เพื่อบอกกล่าวเรื่องของเชียกังไม่เช่นนั้นหากจู่ๆ เขาเกิดจับได้เองว่าเชียกังติดตามตนเองไม่แน่ว่าอาจเกิดการเข้าใจผิดทำให้เสียเลือดเสียเนื้อทั้งสองฝ่าย

หลิวเฉินซางยืนอยู่หน้าเรือนพักแสงจันสาดส่องต้องอาภรสีขาวและเส้นผมสีเงินยวงของเขาทำให้ร่างทั้งร่างดูเหมือนเปล่งรัศมีออกมาบางๆ ใบหน้าหล่อเหลางามสง่าดูสงบนิ่ง ดูน่าลุ่มหลงดึงดูดใจคนยิ่งนัก แลดูคล้ายเทพเซียนผู้งามสง่าหากแต่ก็เหมือนปีศาจรูปงามที่คอยล่อลวงมนุษย์ เมื่อมู่อิงผู้เมามายมาเห็นภาพเช่นนี้เข้าถึงกับจ้องมองอยู่เนิ่นนาน

หลิวเฉินซางรับรู้ถึงสายตาของมู่อิงจึงมองไปยังเขาเช่นกัน ริมฝีปากคลี่ยิ้มอันล่อลวงคนประการหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว น้ำเสียงเขายามเอ่ยชื่อท่านจอมมารนั้นช่างชวนให้คนหลอมละลายราวหิมะโดนแสงอาทิตย์แผดเผา

“น้องมู่อิง ข้ามีเรื่องอยากพูดกับเจ้าสักครู่”

 

 

 

 

********************

 คนเขียนไม่มีเวลาเขียน + อัพนิยายเลยค่ะ

ต่อไปคงต้องอัพตามมีตามเกิด ขออภัยคนอ่านทุกท่านด้วยนะคะที่ต้องรอนาน

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
รอบนี้โดนแน่มู่อิง 5555555 รวบหัวรวบหางกินเลยย :z1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอกาสล่อลวงมาแล้ว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1:   รออะไรล่ะค่ะท่านประมุข. จับกินๆๆ
คนเขียนสู้ๆนะคะอย่าหายไปนาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
หรือน้องมู่อิงจะได้สามีก็ครั้งนี้แหละ.  :-[

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โอ น้องมู่อิงงงงงงงง จะเสียซิงก็งานนี้เสียละม้าง

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ตอนต่อไปมีฟินแน่นอน  :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เสร็จข้าล่ะ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
น้องมู่อิง เจ้าเสร็จแน่  :hao6:
คนแต่งสู้ๆนะคะ คนอ่านจะติดตามกันเรื่อยเจ้าค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาให้อยากแล้วก็จากไป
จะเอา จะเอา มาต่อเร็วๆๆ น้าาาา

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ทำไมนางมาเหมือนนกรู้ มาตอนมู่อิงเมาพอดิบพอดีเช่นนี้ น้องมู่อิงของข้ามิถูกหาประโยชน์โดนมิควรหรือ เจ้าประมุขพรรคธรรมะที่น่าตายนี่!

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
โว้วววววววว~ เรื่องนี้สนุกจัง ฮาด้วย 555+ ชอบบบบบบบค่ะ!!  :m3:

ออฟไลน์ Y_type

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
    • Night dating, no obligations, one night only
+++ตอนพิเศษพี่ชาย 1 : อุ้ม+++ (5/6/59)
«ตอบ #89 เมื่อ05-06-2016 14:31:06 »

           

             ผู้คนในเมืองหลวงต่างทราบกันดีว่าท่านชายจวนมู่อ๋องนั้นต่างมากความสามารถ บุตรชายคนโตมู่หรงนั้นเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ถือตราบัญชาทัพสูงสุดไว้ในมือ เมื่อยกธงรบไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ ดุดันแข็งแกร่งสมเป็นบุรุษชาติอาชาไนยมีระเบียบวินัยและน่าเคารพยำเกรง ส่วนบุตรชายคนรองมู่ชิงนั้นใจเย็นสุขุมเป็นบัณฑิตผู้ทรงความรู้ ถึงมิได้สอบจอหงวนหากแต่กลับกินตำแหน่งราชครูอบรบสั่งสอนความรู้ให้แก่รัชทายาทแม้แต่ขุนนางใหญ่ยังต้องเกรงใจเขาอยู่สามส่วน ส่วนมู่ตงบุตรชายคนที่สามนั้นกลับมิสนใจรับใช้ราชสำนักดังเช่นพี่ชายทั้งสองเขาเป็นผู้หลงใหลในเงินทองจึงทำการค้าเท่านั้น มู่ตงนั้นนับว่าเป็นที่รักใคร่ของเทพไฉซิ้งเอี้ย* อย่างยิ่ง ไม่ว่าเขาทำการค้าใดก็เจริญรุ่งเรืองจนขึ้นเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุด

                ท่านอ๋องมู่นั้นนับว่ามีแต่บุตรชายที่มากความสามารถบุตรชายทั้งสามนี้นับว่าสร้างความภาคภูมิใจให้กับเขาไม่น้อย หากแต่ท่านอ๋องมีบุตรชายตั้งสามคนแล้วกลับไม่มีบุตรสาวเลยสักคน อันลูกชายนั้นก็น่าภาคภูมิใจอยู่หรอกหากแต่ตัวท่านอ๋องเองก็ยังอยากได้ลูกสาวน่ารักอ่อนหวานสักคนให้ท่านคอยตามอกตามใจ ดังนั้นท่านอ๋องมู่หยงป๋อจึงพยามอย่างสุดความสามารถที่จะมีบุตรสาว

                นับว่าความพยายามของมู่อ๋องนั้นไม่สูญเปล่าหลังจากนั้นห้าปีพระชายาก็ให้กำเนิดทารกคู่มังกรหงส์ ทำให้ท่านอ๋องมู่หน้าตาแจ่มใสเบิกบานสำราญใจอย่างยิ่งทารกทั้งสองนั้นต่างหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราดูน่ารักใคร่ทะนุถนอมแตกต่างจากบรรดาพี่ชายที่ดุดุดันราวกับพยัคฆ์เหล่านั้น ช่างเป็นบุตรที่ทำให้บิดาชื่นอกชื่นใจอย่างแท้จริง

                เพราะความอยากมีลูกสาวของท่านอ๋องนี่เองทำให้เขาตามอกตามใจลูกแฝดจนไม่สนถูกผิดรักลูกจนเสียคน หากไม่มีพระชายาคอยห้ามปรามมิทราบว่าสองฝาแฝดจะเติบโตมามีนิสัยเช่นไร

 

 

                ใช่ว่าจะมีแต่ท่านอ๋องที่ดีอกดีใจบรรดาพี่ชายทั้งสามเองก็หลงรักคู่แฝดตัวน้อยๆทั้งสองไม่ต่างจากบิดา น้องทั้งสองนั้นถึงจะเป็นแฝดชายหญิงหากแต่หน้าตากลับคล้ายกันอย่างยิ่งโตขึ้นมาจะต้องงดงามน่ารักอย่างมากเป็นแน่

                “พวกท่านดูสิ ตานเอ๋อยิ้มให้ข้า”ท่านชายสามมู่ตงอุ้มมู่ตานไว้ในอ้อมอก พอน้องยิ้มก็เอ่ยบอกพี่ชายอย่างอวดโอ่

                “ตานเอ๋อแค่อ้าปากเจ้าก็หาว่านางยิ้มแล้วหรือ”มู่หรงมองดูเจ้าสามอย่างไม่ชอบใจนัก ส่วนเจ้ารองกลับเอาแต่จ้องหน้าอิงเอ๋อไม่วางตา อิงเอ๋อหลับไปแล้วพวกเขาจะเสียงดังรบกวนน้องชายหรือไม่

                “พวกท่านอย่าเสียงดังเมื่อกี้ข้าเหมือนเห็นเปลือกตาอิงเอ๋อขยับ”พี่รองผู้ซึ้งนั่งมองดูน้องชายอย่างไม่รู้เบื่อเอ่ยขึ้น

                พวกเขาทั้งสามนั้นต่างอายุมากกว่าน้องๆจนแทบจะเป็นพ่อพวกเขาได้แล้วหากแต่ก็ยังทำตัวราวกับไม่เคยเห็นทารกวันๆมาชุมนุมกันอยู่ภายในห้องเด็ก ตื้นเต้นราวกับไม่เคยมีน้องมาก่อน

                ใครใช้ให้ท่านพ่อทำแต่น้องชายออกมา หากทำน้องชายออกมาได้หน้าตาดังเช่นน้องมู่อิงแต่แรกพวกเขาก็คงจะไม่ตื่นเต้นเพียงนี้ ดูสิแม้แต่น้องมู่อิงที่เป็นน้องชายยังน่ารักอย่างยิ่ง

                พี่ชายทั้งสามคนต่างมองหน้ากันไปมา...

                หึ! แต่ละคนหาความน่ารักไม่เจอเลยแม้สักส่วนเดียว

                “อ่า...อิงเอ๋อตื่นแล้ว!”แม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกรทำน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับเด็กเมื่อเห็นมู่อิงลืมตาขึ้น เขาปลี่ไปอุ้มน้องชายราวกับกลัวโดนใครแย่งชิง หากแต่ก็โดนท่านชายรองที่อยู่ใกล้กว่าชิงอุ้มไปก่อนจริงๆ “เจ้ารองส่งอิงเอ๋อมาให้ข้า”มู่หรงมองน้องชายอย่างวางอำนาจ

                “พี่ใหญ่ท่านมือหนักหากอุ้มอิงเอ๋ออาจทำให้เขาเจ็บ”มู่ชิงกอดทารกน้อยแน่นขึ้น เขาอุตส่ารอน้องตื่นมาตั้งนาน นั่งจ้องน้องมู่อิงอยู่ถึงหนึ่งชั่วยามเขาถึงยอมลืมตาขึ้นมา จะปล่อยให้พี่ใหญ่ชิงไปง่ายๆได้อย่างไร

                “พวกเจ้าสองคนยังเห็นข้าเป็นพี่อยู่หรือไม่”มู่หรงตะเบ็งเสียงดังลั่น

                “พี่ใหญ่ใครใช้ให้วันนี้ท่านมาช้ากว่าผู้อื่นข้ามารอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างน้องมู่ตานถึงตื่น ส่วนพี่รองก็มาทีหลังข้ารอจนน้องมู่อิงตื่น ท่านมาช้าที่สุดแล้วยังคิดแย่งชิงใช่มีความยุติธรรมหรือไม่”

                “ใช่เมื่อวานท่านมาก่อนผู้อื่นกลับอุ้มพวกเขาสองคนไว้ในอ้อมแขนคนละข้าง วันนี้มาช้ายังจะเรียกร้องสิ่งใดอีก”

                “พวกเจ้า!”มู่หรงจนด้วยคำพูด น้องๆน่ารักเพียงนี้ พวกเขาใครเสร็จงานก่อนล้วนรีบกลับจวนมาเล่นกับพวกเขา ครั้งนี้เขามาช้ากว่าใครถึงไม่ได้อุ้มรอพรุ่งนี้ก่อนเถิด

                เรื่องแย่งกันอุ้มน้องยังเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ท่านชายทั้งสามนั้นหากเป็นเรื่องของฝาแฝดแล้วพวกเขาต่างแย่งชิงกันเพื่อให้น้องๆชอบตนมากกว่าพี่ชายคนอื่นๆ ตามอกตามใจไม่แพ้ท่านอ๋องผู้เป็นบิดา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด