:) อยากกลืนกินผู้ชายทั้งโลก :) +++อัพเดท 06/04/2016 / เวลา 00.00 น. +++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :) อยากกลืนกินผู้ชายทั้งโลก :) +++อัพเดท 06/04/2016 / เวลา 00.00 น. +++  (อ่าน 27402 ครั้ง)

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไอ้มาร์ชไปมาหาสู่ผมอยู่แบบนี้จนกระทั่ง เราสองคนขึ้น ม.๖
ความรักของเราก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมนัก

แต่สิ่งที่ผมขาดไม่ได้ คือ มัน
ผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ถ้าถามว่าเป็นแฟนกันไหม ก็ไม่นะ
แต่ถ้าเป็นเมียมันน่ะ ใช่....
แล้วเมีย กับแฟน มันต่างกันตรงไหน ผมก็ยังงงตัวเอง

"มึงอะ ไม่เคยสนใจกู ไม่เคยยอมรับกูหรอก"

ประโยคนี้ มันมักพูดกับผมทุกครั้งที่กำลังจะซึ้ง แล้วผมตัดบทมันว่า "มึงไม่ใช่แฟนกู"

จริงๆ มันก็เกือบทำให้ผมใจอ่อนหลายครั้งนะ
ผมต้องยอมรับในความหล่อเหลา และความมีเสน่ห์ของมัน
มันดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทางด้านร่างกาย ไรขนที่หน้าอก ขนตา คิ้ว ที่คมเข้มกว่าเดิม
ผิวสีแทนของมัน และอื่น ถ้าเทียบกับดาราสมัยนี้ ก็เหมือน ท๊อป จรณ อย่างที่ผมเคยบอกไปนั่นแหละ

แต่ถ้าจะใจอ่อนเพราะรูปลักษณ์ภายนอก นั่นไม่ใช่ผมแน่....
ความรักที่จะเกิดกับผม นอกจากคนผู้นั้นจะเป็นคนดี
เป็นคนมีแรงดึงดูด ก็ต้องเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ขี้เล่น ขี้เอาใจ และ....ขี้เอา

ฮ่าๆๆๆๆ ข้อหลังนี้ ไอ้มาร์ช ชนะเลิศ

ผมไม่เคยปฏิเสธความเก่งฉกาจฉกรรจ์ของมันในเรื่องนี้
และหลยๆ ครั้งที่มีผู้ชายหล่อๆ ปังๆ มาจีบผม ผมไม่เคยยุ่ง
เพราะไอ้มาร์ชตามไปรังควาน และจับได้ตลอด
จริงๆ ผมก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรมันนะ
แต่พอนึกถึงหน้าของมัน เวลาที่มันพูดว่า

"เมื่อไหร่มึงจะเลิกนอกใจกูสักที กูเจ็บ มึงรู้ไหม"

ผมก็จะใจอ่อน และมีสติทุกครั้ง เมื่อผู้ชายคนอื่นกำลังจะจูบ หรือพยายามจะลวนลามผม

มีนัดกับผู้ชายคนอื่นๆ ทีไร ผมก็ต้องใจอ่อน และไม่ยอมให้คนอื่นมาซ้ำรอยไอ้มาร์ชมัน
ผมไม่ได้รักไอ้มาร์ช ถูกไหมครับ?

เพียงแต่....ผมอาจจะแค่ไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ

แล้วเพื่อนแบบไหนกันที่แสดงความเป็นเจ้าของ และเพื่อนแบบไหนกัน ที่กลัวเพื่อนเสียใจ
ผมก็ยังงงกับตัวเอง แต่ในใจผมก็ยังคงคิดไว้เสมอ ว่าผมต้องเจอคนที่ดีกว่ามัน
ความคิดนี้แหละ มันสกัดกั้นผมไม่ให้รักมัน และผมเชื่อว่าผมก็ต้องเจอคนที่ดีกว่ามันแน่นอน

อ้อ.... ผมไม่อยากจะบอกว่า ผมเอนทรานซ์ติดคณะศิลปกรรมศาสตร์
ไอ้มาร์ชก็ตามผมมาเรียนที่มหาลัยฯ เดียวกับผมเช่นกัน แต่เรียนกันคนละคณะ
ผมเรียนเอกขับร้องสากล ภาควิชาดุริยางค์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์

มันเรียนคณะนิเทศฯ ก็แหงแหละครับ คนหล่อๆ แบบมันก็หนีไม่พ้นการเป็นดาวคณะ
และเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ ส่วนผมหรอ ก็ไม่ใช่น้อย...กลายเป็นขวัญใจสาวๆ ไอ้หนุ่มผมยาว
มีความสุขกับการร้องเพลง โดยเฉพาะเพลงขวัญใจวัยรุ่นทั่วไป

แม้ผมจะเรียนเอก voice ที่เขาจะร้องเพลงแบบโอเปร่า ร้องเพลงฝีมือลูกคอเก้าชั้น
แต่ผมจะบอกว่า ผมนี่ไม่เอาไหนเลย สอบร้องเพลงสากลได้ที่โหล่ ผลการเรียนไปไม่ถึงดวงดาวเพราะคะแนนวิชาเอกได้น้อย เกรดเลยฉุกทุกอย่าง แต่พรสวรรค์ของผมที่ติดตัวมา คือการร้องเพลงแล้วถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเยี่ยม
ผมเอาเทคนิคต่างๆ ของการขับร้องสากลมาปรับใช้กับแนวเพลงของผม จนในที่สุด ผมได้ทำสัญญากับค่ายเพลง
และเป็นศิลปินเต็มตัว มีผลงานเพลงได้สี่ห้าเพลงแล้ว และกำลังดัง

ผมก็เจ๋งใช่ไหมล่ะ !

ตอนนี้แหละ ที่หน้าของผมได้พบกับการศัลยกรรม และการเปลี่ยนโฉมจากสไตลิสต์ของค่ายเพลงยกใหญ่
ผมกลายเป็นนักร้องที่มีผลงานติดอันดับ และเป็นนักร้องที่มีใบหน้างดงามจากศัลยกรรมที่วันรุ่นและแฟนเพลงกรี้ดผม

ไม่ว่าจะไปออกรายการทีวีช่องใด ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ไหน
ผมก็จะได้ยินเสียงกรี้ดของแฟนเพลงแบบสุดใจขาดดิ้นตลอด แรกๆ ก็ไม่ชิน แต่หลังชักเป็นสิ่งที่ผมขาดมันไม่ได้
ผมชอบเสียงกรี้ดของแฟนเพลง และผู้คน ผมหลงในความมีชื่อเสียงของตนเอง
คงามหล่อเหลา และความมีเสน่ห์ของตนเอง

แรกๆ เวลาไปไหน ผมก็จะมีไอ้มาร์ชตามไปทุกที่
แต่พักหลังๆ ผมกับมันไม่ค่อยได้เจอกัน แม้เราจะเช่าคอนโดอยู่ห้องเดียวกันก็ตาม

อ้อ..ผมลืมบอก แม่ผมรับไอ้มาร์ชเป็นลุกบุญธรรม และส่งเสียมันเรียนต่อ
มีจุดประสงค์เดียวคือ ให้ช่วยดูแลผม และด้วยความที่แม่เอ็นดูที่มาร์ชมันเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่
ที่ต้องอยู่กับตากับยายมาตั้งแต่เด็ก
ยิ่งเพิ่มดีกรีให้ครอบครัวผมเอ็นดูสงสารมันมากขึ้น รวมทั้งผมด้วย

ผมกับมันเลยร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาตลอด จนมาทุกวันนี้แหละ ที่เราเริ่มห่างกัน เพราะงานของผม
ที่ต้องเล่นดนตรีตามผับ และทัวร์คอนเสิร์ตทุกๆ วัน ผมมีความสุขกับช่วงชีวิตนี้มาก
เพราะได้ท่องเที่ยวไปที่ที่ไม่เคยไป โดยเฉพาะสถานที่อโคจรต่างๆ

แต่ก่อนจะมีไอ้มาร์ชคอยประกบไปไหนมาไหนทุกที่ แต่คราวนี้พอผมเริ่มเป็นศิลปินดัง
ผมก็มีผู้จัดการส่วนตัว ไปไหนมาไหนก็มีพี่กบ ผู้จัดการส่วนตัว สาวผู้มุ่งมั่น ทะเยอทะยาน
และเคร่งครัดกับชีวิต และพฤติกรรมของผมมาก เพราะผมเป็นศิลปินดัง การที่จะประพฤติตัวเป็นตัวอย่างกับสังคม
และระวังไม่ให้มีข่าวคาวๆ เกิดกับผมในทางที่ไม่ดี ย่อมเป็นผลดีที่สุด เพราะมันจะทำให้ผมก้าวหน้าในชีวิตศิลปินของผม

ระหว่างที่ไอ้มาร์ชต้องซ้อมเชียร์หนักๆ เพราะกีฬาฟุตบอลประเพณี และกีฬามหาวิทยาลัย
และอีกหลายๆ กิจกรรมที่มันต้องเข้าร่วม นี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ พี่หมอบี

แฟนเพลงคนหนึ่งของผมที่ติดตามผมมาตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ผมลงผลงานในยูทูป หรือในช่องทาง ในบล็อคต่างๆ
เรียกได้ว่า ติดตามผมไปทุกหนทุกแห่ง แต่ไม่เคยแสดงตัวในฐานะแฟนคลับคนหนึ่ง
ที่เขาพอจะมีเวลาว่างหลังจากทำงาน มาตามเชียร์ผม จนในที่สุด
เขามาว่าจ้างให้ผมไปร้องเพลงในงานวันเกิดของเขาที่จัดอย่างหรูหราที่บ้านส่วนตัวของเขาในซอยทองหล่อ

"สวัสดีครับน้องจัน"

เสียงทุ้มๆ กล่าวทักทายผม เจ้าของเสียงรูปร่างสูงใหญ่ นัยน์ตาตี่ สวมแว่นกรอบสีดำ รอยยิ้มมีเสน่ห์ เดินเข้ามาหาผม

"อ้อ....สวัสดีครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ"

ผมกล่าวขอบคุณ และอวยพรให้เจ้าของวันเกิดขณะที่ผมยืนรอพี่กบอยู่ข้างๆ รถตู้ของผม


"วันนี้ร้องเพลงเพราะมากเลย"

"อ้อ... ขอบคุณครับ"

"นี่น้องจันรู้ไหม ว่าพี่ติดตามน้องจันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิ้ลแรก หรือไปเปิดตัวครั้งแรกที่เทศกาลดนตรีเขาใหญ่"

"อ้าว หรอครับ ผมไม่ทราบเลย"

ผมถามด้วยความแปลกใจ พลางสังเกตว่า ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ไม่หล่อเลย
แต่มีเสน่ห์เมื่อตอนพูด ดูอ่อนโยนในแบบฉบับของคุณหมอ

พี่กบเคลียร์เรื่องต่างๆ ในงานเสร็จแล้ว
เดินมาหาผม พร้อมพูดคุยกับผู้ชายคนนั้น

"อ้าวคุณหมอบี"

พี่กบทักทายชายคนที่พูดคุยกับผม

"ครับคุณกบ นี่ผมกำลังคุยกับน้องจันอยู่ ว่าผมเป็นแฟนเพลงของเขาตัวยงเลย"

"อ้อ..ใช่ พี่ลืมแนะนำเลย น้องจัน ที่พี่หมอบีค่ะ คนที่ชอบส่งคุ๊กกี้มาให้น้องจันบ่อยๆ ไง ที่น้องจันบอกว่าไม่เคยกินคุ๊กกี้ที่ไหนอร่อยได้เท่านี้ นี่แหละ ฝีมือของพี่หมอบีเขา"

"อ้อ....... เจ้าของคุ๊กกี้คนนี้เอง"

ผมกล่าวขึ้นอย่างแปลกใจ

"ใช่ครับ อ้อ วันนี้พี่มีคุ๊กกี้มาให้ด้วยนะ"

พอพูดจบ พี่หมอบียืนถุงกระดาษใบงามมาให้ผม ข้างในถุงมีโหลคุ๊กกี้เป็นแก้วเจียระไนอย่างดี

ผมรู้สึกขอบคุณในของขวัญอันล้ำค่าของพี่หมอบี และรู้สึกว่า ผมเริ่มสนใจในตัวพี่หมอคนนี้
ไม่ใช่เพราะเขารวย เขาดูดี แต่เพราะ....เขาเป็นคนที่ผมคิดว่า ผมต้องได้เจอคนที่ดีกว่าไอ้มาร์ช

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13  แอบดีใจที่มาร์ชกับจันโตมามีอนาคต อะจ้าพ่อซุป'ตาร์
อ่านจนถึงตอนนี้เราก็ยังแอบสงสารน้องมาร์ชอยู่ดี เราเชื่อนะว่าจันน่ะไม่ผิดหรอก คนเรามันต้องค้นหาคนของเรา ที่ของเรา ตามหาสิ่งที่ดีที่สุดและคู่ควรกับตัวเรา
แล้วมาร์ชล่ะได้ตามหาไหม หรือว่ายึดติดแต่กับจันคนเดียว ถ้าเกิดพี่หมอเป็นคนที่จันรักจริงๆ งานนี้จันต้องแยกแยะแล้วล่ะว่ารักใครแล้วอยากอยู่กับใครไปตลอดกันแน่
ให้ได้แค่สถานะเพื่อนแต่ก็เอากันเรื่อยๆ หนว่งป้ะ

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จริงๆ  ไอ้คอนโดที่ผมมาเช่าอยู่กับไอ้มาร์ชเนี่ย ตอนแรกก็นอนห้องเดียวกันแหละนะ
แต่พอผมเริ่มที่จะเป็นซุปตาร์ เริ่มมีคนแอบถ่ายรูปผมไปลงนิตยสารซุบซิบดารา
พี่กบก็เลยยื่นคำขาดว่าผม กับไอ้มาร์ชต้องแยกกันอยู่

ตอนแรกมันโวยวาย บอกว่าไม่อยากจะแยกกับผม
แต่ในที่สุดก้ต้องจนมุม ด้วยเล่ห์กลของพี่กบ
จริงๆ ผมก็อยากจะแยกห้องกับมันด้วยแหละ เพราะผมก็อยากมีความเป็นส่วนตัวบ้าง
เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ห้องนอน หรืออะไรๆ ที่เป็นของผม
มันเป็นอาณาจักรของผมมาแต่ผู้เดียวมาแต่ยังเล็ก
จนเมื่อไอ้มาร์ชเข้ามาในชีวิตผมอย่างเต็มตัวนี่แหละ

ความเป็นส่วนตัว และอาณาจักรที่ผมเคยครอบครอง เลยโดนบุกรุกทำลายไป
จริงๆ เราก็ไม่ได้ไปไหนไกล จากที่ผมเคยเช่าห้องอยู่กับไอ้มาร์ช
ผมก็ใช้เงินที่ได้จากการทำงานของผมซื้อห้องนั้นไว้ แต่ก็ให้ไอ้มมาร์ชมันอยู่ไป

แต่ผมสิ....ขยับขึ้นมาอีกนิดนึง
บนสวรรค์ชั้นเพนท์เฮาส์ ห้องสุดหรูชั้นบนสุดของคอนโด
ที่บนสวรรค์ชั้นเพนท์เฮาส์ของผมนี้
ผมมอบให้พี่กบตกแต่งสไตล์ loft ในแบบที่ผมชอบ มันอาจจะดูขัดๆ กับความเป็นเพนท์เฮาส์
แต่สไตล์ลอฟท์ เป็นสไตล์ที่ผมชอบ และปลื้มมาแต่ไหนแต่ไร
อาจเรียกได้ว่ามันออกแนวๆ อาร์สติสในแบบผมก็ได้นะ

เพนท์เฮาส์ของผม เป็นน้ำพักน้ำแรงที่ผมทำงานหาเงินเอง
ผมเก็บหอมรอมริบ จนในที่สุดผมมีในสิ่งที่ผมฝัน ถึงแม้จะยังเรียนไม่จบ และการเรียนไม่ดีเท่าไรนัก
แต่สิ่งทีผ่มได้ทำ และมอบให้กับตนเอง ซื้อบ้าน ซื้อรถ และมีเงินส่งให้พ่อแม่ ตั้งแต่ผมยังเรียนไม่จบ
ผมว่ามันก็คุ้มค่า และเกินพอสำหรับชีวิตนักศึกษาซุปตาร์อย่างผม

เมื่อผมเป็นซุปตาร์ เวลาจะเดินไปไหน ผมก็จะเป็นที่สนใจในมหาวิทยาลัย
แม้แต่แฟชั่นแนวอาร์ตๆ ของผม ก็เป็นที่สนใจให้กับรุ่นน้องที่เรียนเอกดนตรี
หรือเด็กคณะอื่นที่ชื่นชมในผลงานของผม

ทำอะไรนิด ทำอะไรหน่อย ก็เป็นกระแส ก็แน่แหละ....ผมมันซุปตาร์นี่นา

ผมยอมรับเลย ว่าช่วงชีวิตนี้ ผมได้รู้จักคนเยอะแยะ
ได้เรียนรู้ถึงการหาเงิน ความเหนื่อยยากจากการทำมาหากิน
แม้ผมจะเรียนอยู่แค่ชั้น ปริญญาตรีปีสอง ผมก็รู้สึกว่าผมมาไกลมากในฐานะนิสิตคนหนึ่งที่หาเงินเองได้แล้วในอายุเท่านี้
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทุกอย่างที่จะสอนผมให้เรียนรู้ชีวิต

แค่การหาเงินเองได้ ไม่ได้หมายถึงการมีเหตุผล การรู้จักใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ผมบอกแล้วไง ว่าช่วงชีวิตมหาลัยฯ ของผมนี่แหละ ที่ความแรดทะลุดีกรี

เมื่อผมมีห้องส่วนตัวของผม ที่แม้แต่ไอ้มาร์ชก็ไม่สามารถเข้ามาได้เพราะผมไม่ให้กุญแจกับใคร
นอกจากพี่กบ ผมเริ่มมีรุ่นน้องที่ค่ายเพลงหน้าตาดีมาติดพัน
ที่เพนท์เฮาส์ของผม ได้กลายเป็นฮาเร็ม ห้องเชือดสำหรับผม

เงินที่ผมมีสามารถปรนเปรอ เหล้า และยาเสพติดให้กับชายหน้าตาดี ทั้งนายแบบ
ดารา ศิลปินฝึกหัดในค่ายเพลง และค่ายละคร โมเดลลิ่งต่างๆ

การเสพยา และมี Sex เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมจะต้องทำทุกคืน ผมไม่สามารถที่จะขาดเซ็กส์ได้ แม้สักวันเดียว
สังคมศิลปิน เหล้า ยา  เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
การเข้าถึงอารมณ์เพลง การทำความเข้าใจของแก่นลึก แก่นแท้ของความเป็นเพลง
มียาเสพติดเข้ามาเป็นเครื่องมือ และข้ออ้างในการเข้าถึงสิ่งนั้นๆ

แต่ผลพลอยได้ของมัน นอกจากความสนุกสนาน
ความเพลิดเพลิน อาการที่จะสนุกสนานหลุดโลกนั้น
มันเป็นสิ่งที่หอมหวนชวนติดใจในรสชาติความหวานของมัน

การมี sex และอัพยา เป็นอะไรที่ผมโปรดปราน
ผมเสพติด....ทั้งยา และ sex
ผมรู้สึกถึงความเป็นอิสระ ความที่ทำอะไรได้ตามใจ
ไม่ต้องมาเจอไอ้มาร์ชที่มาคอยหึง คอยหวง

กีอกๆๆ

เสียงคนมาเคาะประตู ผมเดินไปเปิดประตู
ไอ้มาร์ชยืนอยู่หน้าห้อง
ด้วยความที่ผมกับมันไม่เจอกันนาน สามเดือนครั้ง หรืออย่างไวที่สุด เดือนละครั้ง
มันดูหล่อขึ้นจากการจัดแต่งทรงผม และการควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย
ส่วนผมสิ ดูร่วงโรยเมื่อลบหน้า แต่ดูเปล่งปลั่งเมื่อแต่งหน้า ถือไมค์ไฟส่องหน้าอยู่บนเวที

"อ้าว....."

ผมอุทานด้วยความแปลกใจที่เจอมัน ปกติถ้าผมอยากเจอมัน ผมจะลงไปหามันที่ห้องเท่านั้น
ผมไม่ค่อยชอบเท่าไรที่มันเดินขึ้นมาบนเพนท์เฮาส์ของผม

"มาทำไม"

ผมถามมันด้วยน้ำเสียงขุ่นข้อง

"กูมาหามึงไม่ได้หรอ"

มันไม่รอช้าให้ผมพูดอะไรต่ออีก ก็เดินชนผม และถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องของผม
ไอ้มาร์ชเห็นอุปกรณ์การเสพยาที่อยู่บนโต๊ะของผม
พร้อมร่องรอยของการมี sex อย่างบ้าระห่ำบนโซฟา และส่วนต่างๆ ของห้อง

บรรยากาศอันมืดมึด แสงสีชมพูจากโคมที่ส่องสลัวในห้อง
แอร์ที่เปิดเย็น 22 องศาฯ
ทำให้บรรยากาศดูเยือกเย็น และมืดมน

"อะไรเนี่ย....มึง?"

ไอ้มาร์ชชี้ที่อุปกรณืการเสพยาของผม และมองหน้าผม
สีหน้าของมันดูจะผิดหวังกับความเหลวแหลกของผม

"ถ้าพ่อแม่มึงรู้ เขาจะเสียใจมาก มึงรู้ไหม?"

ไอ้มาร์ชกล่าวอย่างหัวเสีย ผมแทบจะไม่สนใจในคำพูดของมัน เดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่
หลังจากนึกขึ้นได้ว่าผมยังยืนเปลือยเปล่าต่อหน้ามันอยู่
สักครู่ เจมส์ ศิลปินที่กำลังดังมาติดๆ กันในค่ายเพลงเดียวกัน ก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่า

เจมส์ตกใจเล็กน้อยที่พบไอ้มาร์ชอยู่ในห้องของผม
ผมเลยกล่าวปลอบเขา

"ไม่ต้องตกใจ นี่เพื่อนพี่เอง ไม่มีใครรู้ และเขาจะไม่พูดเรื่องที่เขาเห็นในวันนี้แน่ เจมส์ไปรอพี่ในห้องนอน่อน พี่มีเรื่องจะคุยกับเพื่อน"

เจมส์เดินไปที่ห้องนอนตามคำสั่งของผม แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรกับไอ้มาร์ช มันก็ชิงพูดก่อน

"กูจะไม่บอกพ่อกับแม่มึง กูจะไม่ยุ่ง กูแม่งโคตรผิดหวัง มึงเป็นคนดีของกูมาตลอด ถ้าการเป็นซุปตาร์ การมีชื่อเสียงมันจะทำให้มึงเสียคน กูก็ไม่อยากให้มึงเป็น และกูก็พร้อมจะรอมึงมาอธิบายที่ห้องกู อ้อ... ไม่ใช่สิ ห้องของมึงที่กูอาศัยอยู่ มึงมีความสุขต่อเถอะ กูไม่ยุ่ง"

ไอ้มาร์ชเดินน้ำตาไหลออกไปจากห้องผม
ช่างเป็นอะไรที่เลือดเย็นขจริงๆ ที่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความเสียใจนั้นอย่างที่ผมเคยรู้สึกว่าไม่อยากให้มันเสียใจ
อะไรทำให้เปลี่ยนไปขนาดนี้ ยา.... หรือ sex หรืออะไรๆ ผมก็ไม่เข้าใจ




ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :serius2:   :mew5:   :mew6:   สัมผัสได้ถึงโค้งร้อยศพที่ทอดตัวอยู่เบื้องหน้า
ไม่อยากเดาใจคนเขียนเท่าไหร่.
จันกำลังกลืนกินตัวเอง เหมือนระเบิดเวลา
มาร์ชเจ็บจนพอหรือยัง สงสารแล้วสงสารเล่า กี่ปีแล้วไม่รู้ที่ต้องทน
เคยอ่านเจอตอนครอบครัวของจัน จันมีครบในขณะที่มาร์ชไม่มี
จันบอกว่าไม่เคยต้องการความรักเพราะไม่เคยขาด แต่นี่หล่อหลอมให้จันไม่รักตัวเองหรือ
เราเชื่อว่าใครเล่นยาได้นี่ขาดความเคารพในตัวเองมากแล้ว ขัดแย้งพอสมควรนะ
เรางงกับจันมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2016 19:42:18 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :katai1: ทำไมเป็นคนแบบนี้!!! คนน่ารักของเราหายไปไหน
มาร์ชเอ็งลองเปิดใจกับคนอื่นเถอะนะ สงสารใจตัวเองบ้างดิ
ลองนึกเหมือนจันดิ หาคนที่ดีกว่าให้ได้

ออฟไลน์ cbqx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ถ้าเป็นมาร์ชจะเลิกชอบตั้งแต่เห็นว่าจันไปมีอะไรกับคนอื่นตั้งแต่แรกละ คือจะไม่ทน มาร์ชเสียน้ำตามากี่ครั้งแล้วอะ แต่มาร์ชหวังจะเอาจันเฉยๆนี่คงทิ้งไปตั้งนานแล้ว หน้าตาก็หล่อจะหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เป็นเพราะรักจันเลยยอมเจ็บบ
มาร์ชรักจันมากเลยอะ ยอมทุกอย่างเพื่อจัน แต่ก็ตามชื่อเรื่ออะนะ จันคงไม่หยุดที่ใครจนกว่านางจะได้หมดทั้งโลก
จำไว้เถอะจัน


จากที่อ่านตอนล่าสุด เราว่าสักวันมาร์ชจะลืมจันได้ ในเร็วๆนี้แหละ
สู้ๆนะมาร์ช เราทีมาร์ชนะ จันคือใครเราไม่รู้จัก :katai1:

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แรกๆก็ชอบจันนะ ถ้ามีsexกับคนอื่นนี่ยังพอรับได้แต่ติดยานี่ไม่ไหว จันพลาดมากในการใช้ชีวิต
รอวันที่จันคิดได้  :hao4:

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ผมแทบจะไม่สนใจอะไรกับไอ้มาร์ชมันเลย
ฤทธิ์ของยา ทำให้ผมลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมทั้งความรักที่พ่อกับแม่มีให้
ลืมทุกความประทับใจ ความภูมิใจของชีวิต

ชีวิตของผมตอนนี้ อยู่กับการมี Sex อัพยา และมี sex

ผมเดินเข้ามาในห้องนอน เจมส์นอนแผ่หรา นัยน์ตาเลื่อนลอยอย่างมีความสุขด้วยฤทธิ์ของยา
เจมส์ตื่นจากภวังค์เมื่อผมเข้าไปใกล้

"มานี่เลย....."
เจมส์โผเข้ากอดผม

"อะไรจ๊ะ..."

ผมตอบรับเจมส์ด้วยความสุข ประหนึ่งโลกนี้มีเราแค่สองคน

"เจมส์เป็นเมียพี่จันแล้ว พี่จันต้องไม่ทิ้งเจมส์นะ"

เจมส์กล่าวอย่างมีความหวัง นัยน์ตาของเขาดูวิงวอน
และหยาดเยิ้มประหนึ่งคนเมากัญชา

"นี่รู้ไหม.... พี่ไม่เคยรุกมาก่อน จนเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ พี่เจอเจมส์ เจมส์แม่งยั่วเยสสส พี่มาก พี่เลยจัดๆๆๆๆ"

ผมคลานเข้าหาเจมส์ ทาบทับลงไปบนตัวของเขาและกระแทกเอวเข้าใส่เจมส์อย่างมีเลศนัย

"เจมส์มีความสุขมากๆ เวลาอยู่กับพี่จัน"

"ยังไงหรอ มีความสุขตอนปกติ หรือมีความสุขเฉพาะตอนเล่นยา"

"บ้าาาา ตอนปกติสิครับ"

"ขอบคุณครับ"

"พี่จันทั้งหล่อ มีคนกรี้ดมากมายครึ่งคอนประเทศ เป็นซุปตาร์ขนาดนี้ เจมส์ถามจริงๆ นะ พี่จันทำไมเล่นยา"

"เอาคำตอบแบบไหนล่ะ แบบจริงๆ หรือแบบที่ฟังดูดี"

"แบบจริงๆ ดิ"

"คือ....พี่ไม่ได้ตั้งใจเล่นยาหรอกนะ คือ...."

"อะไรหรอครับ?"

"มันซับซ้อนน่ะ บางทีการเล่นยาก็มีเหตุผลของมัน"

"เหตุผล?"

"ตอนแรกพี่....ก็ไม่คิดจะแตะ พี่กลัว และเกลียดมัน เพราะมันทำให้พี่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในใจเป็นปีๆ"

"ยังไงหรอครับ?"
เจมส์ถามด้วยความสงสัย ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเขาดูน่ารักน่าชังนักเวลาสงสัยใคร่รู้

"ถ้าพี่บอก เจมส์จะเก็บความลับได้แค่ไหน"

"เจมส์สัญญา"

เจมส์เอานิ้วก้อยของเขามาเกี่ยวที่นิ้วก้อยของผม แสดงพันธะสัญญาที่เขาพร้อมจะรักษาความลับ

"การออกไปพบปะ การออกไปทัวร์คอนเสิร์ต ไม่ว่าจะใกล้ จะไกล
พี่ขาดมันไม่ได้..... มันไม่ใช่อาการของการเสพติด คุ้มคลั่ง
แต่มันคือ การเติมความสุข ในแบบที่พี่สามารถควบคุมได้
ความรู้สึกของคนภายนอก เมื่อมองคนเสพยา
ก็คือ เหมือนๆกันหมด คุ้มคลั่ง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ดูวิกลจริต ดูต่ำตม แต่ในอีกมิติหนึ่งของการเสพยา พี่ว่ามันก็คือ
การคลายเครียดในสิ่งที่ตนต้องเผชิญ"

"ยังไงหรอครับ"

เจมส์ถามแทรก ผมพยายามจะอธิบายให้เขาเข้าใจถึงมุมของคนที่เขาเลือกเสพให้เข้าใจได้มากที่สุด

"เจมส์เคยเห็นไหม ว่าคนส่วนใหญ่ที่เสพยานั้น เป็นคนมีเงิน เพราะยาราคาแพง โดสนึงก็หลายพัน ถึงหมื่นก็มี ไม่ใช่คนจนๆ หรอนะที่เล่น"

"ก็จริงของพี่ พอได้ยินแบบนี้ เจมส์ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสังคมชั้นสูง
หรือสังคมระดับผู้บริหารองค์กร ถึงใช้ยาเสพติด พี่ที่ทำงานเก่าของเจมส์ที่เจมส์เคยไปร้องเพลง เขามีธุรกิจมากมาย เป็นเจ้าของผับ เจ้าของโรงแรม เขามีพร้อมทุกอย่าง แต่เขาก็เล่นยา เจมส์ก็งงๆ ว่าเขาเล่นยาแล้วเขาบริหารธุรกิจทุกอย่างได้อย่างไร"

"เพราะเขาใช้อย่างมีสติไง ใช้อย่างพอดีๆ"

ผมกล่าวเสริม

"ยังไงหรอครับ"

"ยามันมีฤทธิ์ มีหลายขนาดที่คนจะเสพ ของทุกอย่างในโลกใบนี้ ถ้าไม่รู้จักใช้ มันก็จะใช้เรา ไม่ใช่เราใช้มัน"

"อืม  เจมส์พอเข้าใจละ"

"คนอื่นๆ แม้แต่พี่กบก็ดูพี่ไม่ออกว่าพี่เสพยา นั่นอาจเป็นเพราะขนาดที่พี่เสพ
และการเก็บอาการของพี่ พี่คุมตัวเองได้ แต่ที่พูดนี่ก็ไม่ได้หมายความว่า
จะสอนให้เจมส์ไปเล่นยาทุกๆ วันเหมือนพี่หรอกนะ"

"อ่าว"

"ก็พี่พยายามจะบอกไง ว่าทำอะไร ทำแต่พอดี สักวันพี่ก็คงเลิก เพราะมันส่งผลต่อสุขภาพ"

"พี่ก็เลิกตอนนี้ไม่ดีกว่าหรอครับ"

"ไม่รู้สิ พี่ยังต้องการมัน พี่มีความสุขต่อการใช้ชีวิตอิสระ แต่ก่อนพี่มีพ่อแม่คุณตาคุณยายคอยเป็นเกราะป้องกัน มีไอ้มาร์ช เพื่อนพี่ที่เจมส์เห็นวันนี้นี่แหละคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้แม่พี่ คอยควบคุมพฤติกรรมมาตลอด เจมส์นึกถึงเวลาเราถูกขังอยู่นานๆ สิ เราก็อยากจะออกจากพื้นที่ที่คุมที่ขังเราอยู่"

"ยังไง ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ"

"พูดง่ายๆ พี่ใจแตก ฮ่าๆๆๆ"

"พี่มันร้ายยยย ร้ายแบบนี้หล่อแบบนี้แหละ ที่เจมส์ชอบ"

เจมส์เผยความในใจของเขา แววตาของเขาบ่งบอกความจริงใจที่เขาคิดเช่นนั้น

"แล้วเจมส์ยังไม่เห็นเลย ว่าพี่จะใจแตกได้ยังไง มันต้องมีเหตุอะไรที่มากกว่านี้สิ"

"คือ เรื่องมันยาวอะ"

"นะๆๆๆ เล่าให้เจมส์ฟังหน่อย"

"คือ... พี่โดนรุมข่มขืน"

"รุมข่มขืน ?????? ยังไงอ่า เจมส์ว่าพี่สมยอมมากกว่าม้างงงงงงง"

"เฮ้ยยย ฮ่าๆๆๆ จริงๆ พี่โดนรุมจริงๆ"

ผมกล่าวด้วยความจริงใจ สีหน้าของเจมส์เปลี่ยนจากความตลกขบขัน มาเป็นความตกใจระคนสงสาร

"มันเกิดขึ้นได้อย่างไรอ่าครับ"

++++++++++++++++++

หนึ่งปีก่อน.....

ค่ายรับน้องคณะศิลปกรรมศาสตร์ ริมทะเลบางแสน

"เฮ้ย.... นิสิต นิสิตครับ ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้"

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ปลุกผมให้ตื่นจากอาการมึนหัว
ผมพยายามหรี่ตา และมองไปรอบๆตัว เวลาแห่งการฉลองของรุ่นพี่ในงานรับน้องได้จบลงไปแล้ว

ที่กองไฟอันเป็นจุดรวมทำกิจกรรมรับน้องของคณะ ยังมีรุ่นพี่ และเพื่อนของผมนอนระเกะระกะกันอยู่ด้วยความเมา
ส่วนผม จำได้เลือนๆ ว่าตัวเองจะเดินมาฉี่ แล้วก็มึนหัว ยืนเซ จนล้มลง

"พี่กร...."

ผมร้องเรียกเจ้าของร่างสูงใหญ่ ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มนั้น

"ใช่ พี่เอง มาๆๆๆ เดี๋ยวพี่พาไปนอน"

พี่กร รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว และขอติดตามมากับคณะรับน้อง
เพื่อมาร่วมสนุกด้วย กำลังชะโงกหน้าลงมาดูผมในสภาพที่ล้มอยู่ตรงกลาผืนทราย

พี่กรเป็นคนท่าทางใจดี ร่างกายดูกำยำล่ำสัน
แต่ก็แอบดูน่ากลัวเหมือนรุ่นพี่ว๊ากทั่วๆ ไป

พี่กรพาผมไปที่เตนท์อะไรสักเตนท์ ผมไม่รู้ ทุกอย่างเลือนรางไปหมด
รู้สึกตัวอีกที ร่างของพี่กรทาบทับอยู่บนตัวผม
กอด จูบผมอย่างทนุถนอม สัมผัสนั้น ทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม และหลงไปกับรสจูบของพี่เขา
ผมพยายามจะผละออกจากร่างสูงใหญ่ของพี่กร เพื่อรีบกลับไปนอน

แต่เรื่องร้ายก็เกิดขึ้น ประหนึ่งในคืนที่ไอ้มาร์ชขืนใจผม
ด้วยฤทธิ์ของเหล้าที่ทำให้แม้แต่เดินผมก็หัวทิ่ม
เสมือนอะไรบางอย่างชำแรกแหวกพรหมจรรย์ของผมที่เก็บไว้ให้ไอ้มาร์ชคนเดียว
น้ำตาของผมไหลพรากๆ ด้วยความตกใจ ในหัวมึน และโลกหมุนเวียนรอบตัวผม

ผมพยายามจะร้อง แต่ก็ร้องไม่ออก เพราะมืออันใหญ่และหนาของพี่กรตรึงเอาไว้ และ
ปิดปากผมไว้แน่น ดูเหมือนมือของพี่เขาจะเหนียวหนึบกว่าระยางและหนวดของปลาหมึก
ผมไปไหนไม่ได้ ได้แต่ทนทรมานต่ออาการเจ็บปวดที่โดนพี่กรข่มขืนใจ
และความรู้สึกผิดอย่างมหันต์ที่ผมไม่สามารถจะเก็บสิ่งที่สงวนไว้ให้ไอ้มาร์ชคนเดียวได้อีกต่อไป
กำลังทำร้ายผมอย่างรุนแรง

พี่กรกระแทกเอวใส่หว่างขาของผม และกระตุกด้วยความเกร็ง
เป็นสัญญาณที่รับรู้ว่า เขาได้ถึงจุดสูงสุดแห่งความปรารถนาในตัวผมแล้ว
ผมทรมานประดุจโดนจอบเสียมกระทุ้งเข้ามาที่กลางตัว
ความรู้สึกถึงความเจ็บปวด แผ่ซ่านไปทุกหนแห่ง

ผมตะเกียกตะกายออกมาจากเตนท์ที่ผมเพิ่งรู้และเข้าใจว่า พี่กรพาผมมาที่เตนท์ของแก
ผมยังคงน้ำตาไหลพราก สติคืนกลับมาเพียงครึ่งหนึ่งเพราะความตกใจ
แต่ในหัวยังคงมึนงง และมีอาการบ้านหมุนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
ผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่ตรงปากเหว จะยืนก็ไม่ตรง
จะนั่งก็กลัวจะตกจากเหว อาการมึนหัวจากแอลกอฮอล์ครั้งนี้
หนักหนามากเกินกว่าผมจะรับได้ ก่อนที่ผมจะตะเกียกตะกายต่อไปนั้น
ผมก็ทนความมึนเมาไม่ไหว และล้มลง

ร่างสูงใหญ่ที่ทาบทับตัวของผมเมื่อสักครู่นี้ เดินเข้ามาช้อนกายของผมไว้บนตัก
ผมรู้สึกทั้งโกรธ และรู้สึกกลัวในความเป็นรุ่นพี่ของเขาภายในเวลาเดียวกัน

"พี่ครับผมขอร้อง อย่าทำผมเลย"


ในความรู้สึกนั้น ผมจำภาพได้ว่าพี่กรชะโงกหน้ามาใกล้ผม
ที่กำลังนอนหมดสภาพอยู่บนตักเขา
และยิ้มย่องให้ผมอย่างมีเลศนัย

ผมเงยหน้ามองแก และยกมือไหว้พี่กรด้วยความกลัวสุดหัวใจ
ทั้งๆ ที่ผมอยู่ในตัก อาการที่ผมยกมือไหว้เอามือมาปิดหน้านั้น
ทรายที่ติดมือผม หล่นกระจายลงบนใบหน้า เมื่อลมทะเลพัดพา

มันช่างดูน่าสมเพช น่าอนาถในชะตากรรมยิ่งนัก

ผมถูกอุ้มขึ้นรถของพี่กร โลกทั้งใบเหมือนจะสลาย และสิ้นหวัง
ผมไปไหนไม่ได้ แม้แต่จะก้าวขา ก็เหมือนจะไร้พลัง

ผมนอนอยู่ในรถของพี่กรเกือบจะชั่วโมงหรือสองชั่วโมง อากาศภายในรถร้อนอบ ทำให้เหงื่อซึมไปทั่วร่างกาย
อาศัยที่พี่กรได้ลดกระจกลงนิดหนึ่งให้ผมได้มีอากาศหายใจ ผมจึงทนนอนต่อไปได้

พี่กรเหมือนจะกำลังขนย้ายอะไรบางอย่างขึ้นรถ
เสียงรุ่นพี่ของผมดังตามมาจากกะโปรงรถด้านหลัง

"พี่กร พี่จะกลับแล้วหรอ"

พี่เอส หัวหน้ากลุ่มรับน้อง ผมจำเสียงเขาได้ ผมพยายามจะร้องเรียกพี่เอส
แต่ก็หมดหวัง เพราะเหล้าป่า เหล้าเถื่อนที่เพื่อนผมอุตริเอามา มันได้ทำร้ายคอของผม ทำให้แสบ และบาดคอเวลาดื่ม

"อืม เออๆๆๆ เรามาก็ดีละ น้องจันน่ะ กลับกับพี่นะ น้องเขามาขอพี่กลับด้วย เพราะบ้านอยู่ซอบเดียวกัน"

"อ้าว ทำไมไม่กลับพร้อมเพื่อนๆ ล่ะพี่"

"เอาเหอะ แม่เขาฝากพี่มาน่ะ ไปก่อนนะ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ดูแลเอง"

พอสิ้นเสียงพี่กร ผมก็เหมือนหมดสิ้นความหวังที่จะรอดเงื้อมมือของเขา
พี่กรปิดกะโปรงหลังรถ และรีบขึ้นรถ และขับรถจากมา

ผมนอนหัวโขกไปมา เพราะพยายามจะยันตัวเองให้นั่งตรง และพยายามจะหนีพี่กร

"ไม่ต้องคิดหนี พี่ไม่ได้ทำอะไร บ้านอยู่ไหน พี่จะพาไปส่ง"

แว๊บแรกในใจนั้น ผมรู้สึกชื้นใจขึ้นมานิดหนึ่งที่พี่กรบอกว่าจะพาไปส่งบ้าน

"ไปส่งผมจริงๆ นะ อย่าทำผมพี่ ผมขอร้องครับ ผมอยู่หอกับเพื่อน พี่พาผมไปส่งหอนะครับ"

ผมกล่าวอย่างสิ้นหวัง
ในชั่วขณะที่ผมหลับไปเพราะเชื่อคำพูดพี่กร ผมตื่นมาอีกที
ผมอยู่ในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย

ฤทธิ์เหล้าได้ทุเลาลงบ้างแล้ว ผมตื่นมาพร้อมกับรับรู้ว่า
ตัวเองกำลังโดนมัดขึงพืดอยู่ และโดนมัดผ้าปิดปาก
 ด้านรอบข้างเตียงที่ผมโดนขึงพืดอยู่นั้น

มีอุปกรณ์การเสพยา และเข็มฉีดยาวางอยู่ ผมตกใจแทบสะดุ้ง
ขนพองสยองเกล้าไปหมด พี่กรเดินเข้ามาในห้องนอน
เดินเปลือยเปล่าเข้ามาหาผม ผมรู้สึกกลัวอย่างรุนแรง
หลับตาลง  และส่งสายตามองพี่กรอย่างอ้อนวอน

ผมพยายามจะโกนแต่ก็ทำไม่ได้ พี่กรเดินเข้ามาข้างเตียง แสงไฟสลัวจากโคมไฟ
ประหนึ่งแสงของไฟบรรลัยกัลป์ในขุมนรก พี่กร ยกเข็มฉีดยาขึ้นมา
และฉีดยาลงที่แขนของผม

อาการแสบ ร้อนที่แผล ยังไม่เท่ากับอาการร้อนวูบวาบ เพราะอาการหายใจขึ้นลงอย่างเสียจังหวะ

ผมกำลังโดนฤทธิ์ยาอะไรบางอย่าง
พี่กรเข้ามาจูบผม และข่มขืนผม

ที่หัวเตียงมีกล้องบันทึกวิดิโอ ไฟสีแดงส่งสัญญาณให้ผมรู้ว่า ผมกำลังโดนบันทึกภาพตัวเองกำลังโดนข่มขืน

จากความเจ็บทรมาน ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอาการสนุก และเสียวซ่าน ผมรู้สึกสนุกไปกับมัน
พี่กรแก้มัดที่ปากของผม ผมรู้สึกเงี่ยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"พี่ครับ โอ้ยยย พี่...เยสผมหน่อย"

ผมร้องเรียกให้พี่กรชำเราผม ประหนึ่งอาการที่กำลังขาดน้ำ และหิวน้ำอย่างสุดกำลัง
พี่กรทำตามคำขอของผม เขากระแทกกระทั้น และรุนแรง
แต่ด้วยฤทธิ์ยา แทนที่ผมจะเจ็บ ผมกลับร้องขอมันด้วยความคะนองใจ

"พี่ครับ อย่าหยุด พี่... พี่ทำอะไรกับผม ทำไมผมเงี่ยน"

"อย่าตกใจ..เราจะสนุกกันนะ"

"พี่ครับ เยสส ผมแรงๆ เอาอีกครับ โอ้ยยย พี่...ผมกลัว พี่ทำอะไรผม ทำไมผมเป็นแบบนี้"

อาการที่ผมอยากโดนเยสสส มันพลุ่งพล่านไปตามกระแสเลือดเพราะฤทธิ์ยา
ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผมโดนชำเราซ้ำแล้วซ้ำอีก และโดนฉีดยาเข้าที่แขน จนแขนระบมช้ำ
ค่าของการที่ถูกวางยาซ้ำๆ ทำให้ผมโดนพี่กรชำเราซ้ำๆ ซ้ำๆ ..... จนเหมือนมันจะไม่มีที่สิ้นสุด




 

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
โอยยยยอะไรเนี่ย !!!!
แต่ก็สงสารมาร์ชอ่า ออกมาเหอะๆ ให้จันมันปลดปล่อยของมันไป
มันไม่ได้รักแกถึงขนาดต้องพึ่งแกเลยอ่ะ
เป็นมาร์ชนี่มันเจ็บ ปกป้องแฟนไม่ได้
มีแฟนใจแตกก็อ่อนใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:   โถ่. เสียดาย

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมไอ้พี่กรมันเลวขนาดนี้? น้องจันน่าสงสารมาก เราว่าแล้วว่านางต้องมีประเด็นที่ใจแตก
อ่านๆมาคือไม่สงสารมาร์ชเท่าสงสารจัน คหสต.เราคือมาร์ชเป็นพวกขี้ตื้อที่รักจันมากคนนึง
แต่จันก็ไม่ผิดที่ไม่เลือกมาร์ชเพาระแน่นอนว่าอย่างจันต้องได้เจอคนที่ดีกว่ามาร์ชมากๆชัวร์
อ่านตอนนางโดนข่มขืนแล้วหดหู่แทน เฮ้อ~ มาม่ามาเต็มหม้อแน่ๆเลย ร้องไห้แปป  :o12:

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
"แล้วพี่จันรอดมาได้ไง"

เจมส์ถามชะตากรรมในอดีตของผม ดูเขาจะเห็นใจและสงสารผมมากทีเดียว

"พี่หรอ... มันยังไม่จบแค่นั้น"

"ยังไงอ่าคับ"

"พอรุ่งเช้า พี่กรก็เรียกเพื่อนเขามาอีก"

"หา....กี่คนครับ โดนรุมสองคนหรอ"

"ป่าว..... รวมทั้งหมด 5 ต่างหาก"

"หาาาาาาาา พี่ทนได้ไง"

"ก็ฤทธิ์ของยา พี่ไม่เจ็บ ไม่ปวด และมีแต่ความต้องการมากขึ้น พี่สนุกกับมัน พี่เปนดาราหน้ากล้องให้กับ 5 คนนั้น แต่สิ่งที่ตามมามันร้ายกว่านั้น"

"ยังไงหรือครับ"

ผมนึกถึงภาพในอดีตน้ำตาไหลพรั่งพรายออกมาโดยไม่รู้ตัว

" ห้าคนนั้นเอาวิดิโอพี่มาขู่ ว่าถ้าพี่ไม่ยอมไปหาพวกเขา เขาก็จะเอาวิดิโอนั้นไปแชร์"

"แล้วพี่ทำยังไง"

"พี่ทำไงได้ พี่ก็ต้องยอม จนกว่าทุกคนจะยอมทำลายวิดีโอนั่น"

" แล้วเขายอมหรอ"

"พี่ก็ทำทุกอย่างทำทุกทาง แม้แต่การยอมโดนรุมหลายๆ คน เช้าถึงเย็น ติดๆ กันสามสี่วันพี่ก็ต้องทน เพราะพี่ต้องให้วิดิโอนั่นมันหายไป โดนทำลายไป"

"พี่น่าจะมีทางมากกว่านั้น ทำไมพี่จันต้องยอม เจมส์สงสารพี่จัน"

"เจมส์จะให้พี่ทำไง ฆ่าคนพวกนั้นหรอ หรือใช้กำลังแย่งมาหรอ พี่ตัวเท่านี้ไม่เคยใช้กำลังลงไม้ลงมือใคร พี่ทำไม่ได้ พี่ก็ต้องยอม"

"แล้วเพื่อนพี่ล่ะ"

"มาร์ขหรอ มันไม่รู้หรอก"

ผมน้ำตาไหลพรากลงมาอีกคำรบหนึ่ง

"พี่ปกปิดมันไว้ พี่หายไปหลายๆ วันกลับมาสะบักสะบอม ก็ต้องเก็บงำไว้ แม้จะนอนห้องเดียวกัน พี่ก็ต้องพยายามกลบเกลื่อนความเจ็บปวดทุกอย่าง แต่พี่ก็ผ่านมันมาได้"

"ผมสงสารพี่"

"ไม่ต้องสงสารหรอก เพราะต่อมามันก็พิสูจน์แล้วไง ว่าพี่ตกเป็นทาสของมัน พี่เกลียดกลัวมัน แต่สุดท้ายพี่ก็เลือกที่จะเสพติดมัน"

"แล้ววิดิโอนั่นล่ะครับ"

"พี่ทำลายไปหมด แต่ก็ยังมีเหลืออยู่ เก็บไว้ดู เตือนตัวเองฮ่าๆๆ"

"ผมว่าพี่ควรทำลายไปนะครับ พี่เป็นซุปตาร์ ตอนนี้พี่จะมีอะไรแลบนี้หลุดออกไปไม่ได้"

"ช่างเถอะครับ พี่ว่าเรามาสนุกกัยต่อดีกว่าไหม"

ก่อนที่เจมส์จะพูดอะไรออกมาอีก ผมประกบปากจูบ ถึงเวลานี้ ความหลังของผมไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป ผมอยู่กับปัจจุบัน และการอัพยา และมี sex


ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ไม่รู้จะพูดยังไง รู้แต่ว่าเราติดเรื่องนี้  :katai1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:   ใจสลาย
จันมาไกลมากจริงๆ หัวเราะทั้งน้ำตา
ข้างในมันคงเหลวแหลกกว่าที่ตาเห็นกว่ามากนัก

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
My computer > (D:) Local disk > clip น้องจัน

Play > send to .....

ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก และพบว่าน้องเจมส์ได้กลับไปแล้ว

ผมเดินออกมาจากห้องนอน แล้วมองไปรอบๆ ห้อง นึกสมเพชกับสภาพห้องเพนท์เฮาส์เหลือสุดจะทน

กางเกงในที่ขดเป็นรูปเลข 8 วางพาดอยู่บนพนักพิงโซฟา

เศษเทียนที่หลอมละลายอยู่บนโต๊ะกินข้าว และอุปกรณ์ต่างๆ ไฟแช๊ค
ตะเกียงสูบยา และอุปกรกร์เข็มฉีดยา ทำความสะอาดแผล เกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะกินข้าว

แทนที่มันจะเป็นโต๊ะกินข้าวที่สะอาดๆ แต่มันกลายเป็นที่วางของระเกะระกะ
อุปกรณ์การเสพยาได้แทนที่จาน ชาม และแจกันดอกไม้แสนสวยที่มันเคยวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวตรงนั้น

ที่บนโต๊ะกินข้่าวอันเกลื่อนกลาดไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ นั้น
เจมส์ทิ้งโน้ตไว้ว่า.....

"เจมส์ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ วันนี้มีงานเปิดตัวน้ำอัดลมที่พารากอน
เจมส์ต้องไปร้องเพลง ไว้เจอกันครับ คิดถึง...เจมส์"

ผมยิ้มให้กับจดหมายน้อยนั้น และรู้สึกว่า เจมส์ช่างเป็นคนที่น่ารัก
เอาใจใส่กับความรู้สึกไม่แพ้ไอ้มาร์ชเหมือนกัน

แต่จริงๆ ก็เทียบกันไใม่ได้หรอกนะ เจมส์ กับมาร์ช มันคนละโลกเดียวกัน
 พอนึกถึงไอ้มาร์ช ผมก็รู้สึกสะท้อนใจ ที่เห็นมันร้องไห้ และเดินจากผมไป

บัดนี้ อาการเมายาได้สร่างซาลงไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกสำนึกผิด
และโหยหา...ไอ้มาร์ช

ผมเดินไปหามันที่ห้องชั้นล่าง และเคาะประตู

เสียงฝีเท้าดัง ตึกๆๆ เดินมาเปิดประตูห้อง
แต่คนที่เปิดประตูห้อง ไม่ใช่ไอ้มาร์ช

"อ้าว พี่จัน"

น้องหมิว สาวสวยจากคณะอักษรศาสตร์ เธอมีข่าวคราวกับไอ้มาร์ชมาสักพักแล้ว
แต่ผมไม่นึกว่า ไอ้มาร์ชมันจะกล้าหาญชาญชัยถึงขนาดพาน้องเขามาที่คอนโด

ซึ่งมันเป้นห้องที่ผมซื้อไว้ให้มันอยู่ ผมไม่ได้ต้องการที่จะให้มันพาใครมา
ผมรู้สึกโกรธเหมือนฟืนไฟที่ปะทุร้อนระอุ อาจเป็นเพราะผลข่้างเคียงจากการเสพยา ที่ทำให้ผมอารมณ์ร้อน
จะคิดอย่างนั้นก็อาจจะจริง แต่ที่จริงยิ่งกว่า คือ ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาเหยียบที่ห้องนี้ ซึ่งผมตั้งใจให้ไอ้มาร์ชมันอยู่คนเดียว

ไอ้มาร์ชเดินเข้ามาที่หน้าประตู สายตามันไร้ความรู้สึกกับผมอย่างสิ้นเชิง

"อ้าว.....มีไรวะ"
มันทักทายผม

"น้องหมิวครับ พี่จันขอตัวไอ้มาร์ชมันแป๊บนึงนะครับ"

พอพูดจบ ผมก็โน้มตัวเข้าไปในประตูห้อง แล้วคง้าข้อมือไอ้มาร์ช ลากมันออกมาจากห้อง

"มึงมานี่เลย มึงต้องคุยกับกู เดี๋ยวนี้"

ไอ้มาร์ชดูไม่ตกใจอะไรกับปฏิกิริยาของผม มันเดินตามผมมาโดยดุษฎี
ในขณะที่มือของผม ยังกำข้อมือมันไว้แน่น
พอขึ้นมาถึงบนห้อง ผมก็เหวี่ยงมันลงไปบนโซฟา

"มึงพาใครมา มึงไม่นึกถึงกูบ้างหรอ"

ผมระเบิดอารมณ์ใส่มัน

"แล้วมึงอะ คิดถึงกูบ้างไหม"

ไอ้มาร์ชลุกขึ้นมาประจันหน้ากับผม แล้วระเบิดอารมณ์ปะทะ มันจ้องหน้าผม ในวูบหนึ่งของความรู้สึกที่ผมกำลังประจันหน้ากับมัน
ผมรู้สึกถึงความเดือดดาล และความเสียใจของมัน

"ทำไม กูต้องนึกถึงมึง?"

ผมกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเอง

"เออสิ.... มึงไม่จำเป็นต้องนึกถึงกู มึงไม่เคยสนใจอะไรกูอยู่แล้ว แม้แต่การติดยา เล่นยา มั่วเซ็กส์ของมึง เป็นคนอื่น เขาหนีมึงไปแล้ว แต่นี่เป็นกู กูที่อยู่กับมึง เคียงข้างมึงมาตลอด เฝ้าดูมึงมาตลอดตั้งแต่ยังใส่กางเกงขาสั้นเรียนมัธยมด้วยกัน มึงไม่ต้องนึกถึงกูหรอกสัดดด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา กูนึกถึงแต่มึงคนเดียว"

"เลอะเทอะและ กูไม่ได้คิดจะให้มึงลำเลิกบุญคุณอะไรนะ มึงกับกูมาอยู่ด้วยกันทุกวันนี้ ก็ไม่เพราะมึงหรอ ที่ข่มขืนใจกู"

"ถ้ากูขืนใจมึงจริง ทำไมมึงยังทนล่ะ"

ไอ้มาร์ชพูดแทงใจดำผม ผมรู้สึกหน้าชาไปหมด เพราะสิ่งที่มันพูด ตรงกับความรู้สึกผม ผมขาดมันไม่ได้จริง

"ไม่รู้ล่ะ ยังไงมึงก็ห้ามพาใครมานอนห่้องนั้น แล้วเผื่อมึงยังจำได้ กูเป็นคนซื้อห้องนั้นไว้"

"เออ...มึงมันรวย กูมันเป็นเด็กกำพร้าไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาหาของพวกนี้มาปรนเปรอตัวกูได้ กูขอโทษละกันว่ะจัน"

"อะไรเนี่ย มึงเลอะเทอะแล้ว กูไม่เคยคิดว่าเป็นบุญคุณ กูให้มึงอยู่เพราะกูรัก..."

"รักกู?"

ไอ้มาร์ชทวนคำถาม ผมแอบเห็นแววนัยน์ตาของมันที่เกือบจะดีใจในคำอธิบายของผม

"ใช่ กูรักมึง แบบเพื่อน กูรักเพื่อนอยากให้เพื่อนอยู่ที่ดีๆ มันผิดตรงไหน"

"กูก็รักเพื่อนเหมือนกัน ไม่อยากให้เพื่อนติดยา มั่วเซ็กส์"

"มึงหลงประเด็นแล้วไอ้สัด กูพูดเรื่องห้องอยู่"

"กูก็พูดทั้งเรื่องห้อง เรื่องยา"

"มึงอย่ามาเสือกเรื่องกูได้ไหมวะ

"มึงจำคำกูไว้เลยนะจัน ไม่มีใครจะหวังดีกับมึงได้เท่ากูอีก ก็ได้ มึงมันซุปตาร์ คงอยากจะมีชีวิต มีเวลาส่วนตัว ไม่อยากให้คนอย่างกูเข้าไปเสือก แต่ถ้าเมื่อไร ชีวิตมึงต้องมาล่มจมเพราะยา กูก็จะไม่เสือกอีกต่อไป"

"อะไรวะ นี่เลอะเทอะใหญ่แล้ว ยาเยออะไรน่ะ กูควบคุมได้น่า"

"กูไม่เชื่อว่ะ"

"หยุดพูดเดี๋ยวนี้"

ผมชักอดทนไม่ไหว การมาตราหน้า และมาพูดปรามาสผมว่าผมจะเหลวแหลกเพราะยานั้น
เป็นเ่รื่องที่น่าโมโห และดูก้าวร้าว คุกคามต่อความรู้สึกผมมาก

"กูไม่หยุ......"

ก่อนที่มันจะเถียงผมจนจบคำ ผมซัดหมัดของผมที่ใบหน้าของมันหมัดใหญ่
ไม่บอกก็รู้ว่ามันคงจะทั้งเจ็บ ทั้งชาไปทั้งหน้า เพราะที่มือของผมที่กำแน่นอยู่นั้น ก็เจ็บเหมือนกัน

ไอ้มาร์ชหันหน้ามามองผม น้ำตาไหลพราก เลือดไหลออกมาจากจมูก และปากของมัน

ผมรู้สึกผิดที่ต่อยหน้ามันแบบนั้น และพยายามจะเข้าไปปลอบ และขอโทษ

"ไม่ต้อง.....กูไม่ต้องการ"

มันสะกัดกั้นการปลอบโยนจากผม ผมรู้สึกผิด และเศร้าใจอย่างน่าประหลาด
มือของผมเกร็ง และชา ใบหน้าก็ชาเพราะรู้สึกผิด

"กูจะเก็บของออกไปเดี๋ยวนี้ จะไม่เข้ามายุ่งกับชีวิตมึงอีก ขอให้โชคดีละกัน"

ไอ้มาร์ชเดินสวนผมออกไปจากห้อง
ณ จุดนั้น ผมรู้สึกเหมือนถูกล้วงเอาดวงใจออกไป
หวังว่ามันจะพูดไม่จริงเรื่องย้ายของออก

แต่แทนที่ผมจะเดินตามมันไปเพื่อวิงวอนให็มันอยู่กับผม
ผมกลับด้านชา ยืนหันหลังให้มัน อคติของการที่ผมต้องไม่เสียหน้า ผมเป็นซุปตาร์ และอื่นๆ มันทำให้ผมหยิ่งยะโส
จนไม่คิดที่จะหันกลับไปอ้อนวอน และขอโทษมัน

เสียงประตูห้องผมปิดดังโครม ไอ้มาร์ชเดินจากไป
ผมยังคงยืนกำหมัดแน่นอยู่ในห้อง ก้มลงมองที่เท้าของตนเอง

ถ้าฉันจะยืนอยู่เดียวดาย ก็ขอให้ฉันเข้มแข็งโดยปราศจากไอ้มาร์ชด้วยเถิด
แต่ถ้าไอ้มาร์ชไม่จากไปไหน สองเท้านี้แหละ ที่จะเดินไปขอโทษมัน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 01:24:45 โดย สรันธม »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อย่าเพิ่งโอยยยยย สิครับ 5555

เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายดราม่า ใบ้ว่าจบแบบลงเอยดีครับ แต่......จะลงเอยกับใครต้อวรอดู เพราะกลืนกินผู้ชายยังไม่ได้ครึ่งโลกเลย เดี๋ยวไม่สนุก ผู้ชายคนต่อๆ ไปจะทวีความฮอต และเรื่องราวมากขึ้น
จันกับมาร์ช จะผ่านบททดสอบมากขึ้น ต่อไปนี้แหละ จะมีเรื่องโอละพ่อมากๆๆๆๆๆๆๆ
และเรื่องแต่ละเรื่องจะพิสูจน์ความจริงใจที่มาร์ชมีต่อจัน เขาจะเปลี่ยนจันจากคนเจ้าชู้ได้มากขนาดไหน มาร์ชจะกำราบจันด้วยวิธีใด ติดตามต่อนะครับ ^_^

เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ ยาวครับ ^_^

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อ่านแล้วมันจะขาดใจ  :ling2:
อยากให้มีเพื่อนหลายๆคนมาร่วมขาดใจไปด้วยกัน  :call:

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
“กูไม่ให้มึงไป”
รู้สึกตัวอีกที ผมก็มายืนอยู่ที่ห้องไอ้มาร์ช ดูเหมือนมันจะรีบเก็บของจนไม่สนใจจะปิดประตูห้องด้วยซ้ำ
ทิฏฐิมานะที่ผมมีเมื่อสักครู่ได้มลายหายไปหมด เมื่อผมนึกถึงวันเวลาที่ต้องขาดมัน
 ขาดรอยยิ้ม ขาดสีหน้าแววตากวนๆ ของมัน ผมยอมรับอย่างไม่อายต่อตัวเอง ว่าผมขาดมันไม่ได้

ไอ้มาร์ชไม่สนใจคำสั่งของผม มันยังคงเก็บของใส่กระเป๋าลากใบใหญ่ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
น้องหมิวผู้ดูเหตุการณ์ เดินเข้ามาหาผม เธอเป็นคนสวย และน่ารักจริงๆ
ผมเพิ่งได้สังเกตก็ตอนนี้แหละ แต่แทนที่จะนึกชื่นชมในตัวหมิว
ในเวลานี้ ผมดันรู้สึกว่าเธอน่ารำคาญ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้น่ารำคาญอะไรเลย ผมไปเอานิสัยเหวี่ยงวีนแบบนี้มาจากไหนก็ยังงง

อาจเพราะฤทธิ์ยาที่ส่งผลต่อจิตใจ ทำให้เป็นคนใจร้อน?

 หรือ อาจเป็นเพราะผมเป็นซุปตาร์หรอ? .....คงไม่ใช่


หรือเพราะผมเกลียดผู้หญิง...?  นี่ไม่ใช่แน่

หรือเพราะผมเกลียดผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับไอ้มาร์ช ?

เออ...ใช่

“หมิวว่าพี่จันใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พี่กลับไปที่ห้องก่อน เดี๋ยวหมิวจะลองคุยกับพี่มาร์ชให้”

หมิวขันอาสาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผมกับไอ้มาร์ช แต่นั่นยิ่งทำให้ผมขุ่นหนักกว่าเดิม

หล่อนเป็นใครมาจากไหน.....?
หล่อนกล้าดียังไงมาแทรกระหว่างฉันกับไอ้บ้านั่น หล่อนมันสาระแน
ผมได้แต่ด่าในใจ....

“เธอไม่ต้องมายุ่ง”

ผมสุดจะทนกับความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงคนใดก็ตามที่เข้ามายุ่งกับไอ้มาร์ช ไอ้มาร์ชแปลกใจที่ผมพูดออกไปเช่นนั้น มันชะงักการเก็บของของมัน และหันมาดูผม

“เธอเป็นใคร เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งพี่ ออกไปเดี๋ยวนี้ นี่ห้องของพี่ เธอไม่มีสิทธ์มาเหยียบ”

เสมือนโลกจะถูกล้างผลาญด้วยไฟความโกรธของผม น้องหมิวก็น่าจะรับรู้ได้ถึงมหันตภัยนั้น เธอเดินไปหยิบกระเป๋าถือสีชมพูที่ผมคิดว่าดูน่าเกลียด และไร้รสนิยมที่สุด แล้วเดินออกจากห้องไอ้มาร์ชไปอย่างสงบ ดูเธอจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ได้ดีทีเดียว

“มึงเป็นอะไรวะ”

ไอ้มาร์ชถามผมด้วยน้ำเสียงฉงนฉงายสุดเท่าที่ผมเคยได้ยินจากปากของมัน

“กูเกลียดเด็กคนนั้น”

ไอ้มาร์ชได้ฟังคำผม ก็ไม่สนใจ ทำหูทวนลม และหันไปเก็บของของมันต่อ

“มึงหึงก็บอกมาเหอะ”

มันพึมพำเสียงเงียบๆ แต่ผมกลับได้ยินชัดเจน

“กูไม่คิดจะหึง”

ผมเหมือนควบคุมสติไม่อยู่ รีบเดินไปล็อคประตูห้อง แล้วเดินไปที่ตัวไอ้มาร์ช กระชากเสื้อของมันให้ตัวมันหันมาหาผม ไอ้มาร์ชเซนิดหน่อย แต่ก็ยังทำท่ากวนๆ และหันมามองผม

“เป็นเหี้ยอะไร”

มันถามผม ดูเหมือนมันจะเริ่มหมดความอดทนกับผมเช่นกัน

“กูไม่ให้มึงไป”

ผมทวนคำสั่ง

“มึงเป็นใครถึงจะมาออกคำสั่งกู”

“กู......กู....”

ผมพูดไม่ออก ได้แต่ตะกุกตะกักอยู่อย่างนั้น

“กูออกคำสั่ง มึงก็อย่าละเมิดคำสั่งกู เข้าใจไหม”

“ไม่เข้าใจว่ะ”

ไอ้มาร์ชพูดพลางส่ายหัว ตาของมันจ้องเข้ามาที่นัยน์ตาของผมอย่างมีเลศนัย เหมือนว่ามันจะรู้เท่าทันความรู้สึกของผม

“มึงไม่จำเป็นต้องเข้าใจ”

“งั้นกูไป”

ไอ้มาร์ชหันหลังกลับไปเก็บของของมันต่อ ผมรู้สึกอยากจะกระโดดถีบมันให้หนำใจ นี่มึงยังไม่รู้อีกหรือไง ทำไมต้องให้กูพูด เออ...กูหึง สัดดดดดด

“มึงรักอีหมิวนั่นหรอ”

“มึงรักไอ้เจมส์นั่นหรอ”

ไอ้มาร์ชถามสวนกลับทันควัน

“กูถามมึงมึงตอบกูสิ”

“กูก็ถามมึง มึงก็ตอบกูสิ”

ไอ้มาร์ชดูเหมือนจะรู้ทัน และเป็นคนคุมเกมในการโต้เถียงนี้ ผมเหมือนจะจนมุม แต่ก็พยายามที่จะหลุดพ้นไปให้ได้


“กูไม่ได้รัก”

“อืม....กูรักน้องหมิว.....มึงมีปัญหาหรอ”

มันหันมาหาผม พลางทำหน้ากวนตีน

ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย  มึงบังอาจขนาดนี้เลยหรอ

“ไหนมึงว่ามึงรักกูนักหนาไง แอบมองกูมาตั้งแต่ ม.หนึ่ง รักกูอย่างนั้น รักกูอย่างนี้ มึงจะทำกับข้าวให้กูแดก มึงจะ....” ผมหยุดพูด และเริ่มพรั่งพรูอารมณืออกมา ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่น้ำตามันไหล ผมพยายามพูดต่อจนน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนเด็กที่กำลังงอแง และพยายามพูด แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่อง.........”ไหนมึงบอกว่าจะเอาใจใส่กู ที่มึงบอกหลายๆ อย่างที่ค่าย รด. มึงโกหกหรอ"

ผมเริ่มสะอึกสะอื้น และรู้สึกว่าตัวเองนี่เข้าใจยากชะมัด ทำกับไอ้มาร์ชมันก็เยอะ นอกใจมันก็มาก แต่พอมันจะไป ผมกลับรู้สึกพ่ายแพ้ และเรียกร้องหาสัญญาของมัน ให้มันรักษาสัญญา ไม่ให้มันจากไปไหน ผมรู้ว่าผมน่ะ มันเลว มันเห็นแก่ตัว แต่ผมทนไม่ได้ถ้าต้องขาดมัน

“กูอุตส่าห์ลงมาง้อมึงแล้วนะโว้ยยย กูขอโทษที่ต่อยมึง เออ...กูจะเลิกยาก็ได้ กูสัญญา แต่มึงต้องไม่ไปไหน”

ผมฟูมฟายน้ำตา และพยายามพูด ดูน่าสงสาร และตลกขบขันในเวลาเดียวกัน ผมรู้สึกประหนึ่งเด็กขี้แย ร้องไห้โยเย

“อืม...ก็แค่นั้น”

ไอ้มาร์ชดูจะพอใจกับคำสัญญาของผม มันเดินเข้ามาหา
ปาดน้ำตาให้ผม และบรรจงจูบด้วยทะนุถนอม
ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ถ่ายทอดผ่านริมฝีปากของมัน

รอยช้ำที่ปากกับจมูกที่ผมได้ต่อยมันไปเมื่อครู่ยังคงเห็นชัด มันดูเซ็กซี่เป็นบ้า ที่คนหน้าสะบักสะบอมมาจูบผมในเวลาที่ผมเสียใจ และพยายามมาง้อ

ผมกอดมัน ก่อนที่พี่กบจะโทรเข้ามาหาผม ผมรับสาย...

“ครับ..พี่กบ”


“จัน ทำไมมีคลิปหลุด”

ผมขนลุกซู่เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากพี่กบ
หลุด..อะไร คืออะไร คลิป คลิปไหน ? ความคิดวนอยู่ในหัวอย่างบ้าคลั่ง

“คลิปอะไรครับ”

“เพจดราม่า และซุบซิบดารา มันพาดหัวโพสต์ว่า คลิปหลุดปาร์ตี้ยารุมโทรมนักร้องซุปตาร์อักษร จ. จริงไม่จริง ใช่หรือไม่ สังคมรอการชี้แจง พี่กำลังไปหานะจัน ใจเย็นๆ จันต้องบอกความจริงกับพี่ เราจะได้หาทางแก้ รอพี่ก่อนนะ อย่าไปไหน”

ใจผมตกลงไปที่พื้น ผมทรุดตัวลงกองกับพื้น
รู้สึกถึงการเคลื่อนตัวของโทรศัพท์มือถือออกจากอุ้งมือของผมอย่างช้าๆ
และตกกระจายลงกับพื้น ไอ้มาร์ชเข้ามาประคองผม

ผมเหมือนถูกฆ้อนปอนด์ทุบหัวเข้าเต็มแรง ทั้งมึนงง และเบลอ
เสียงไอ้มาร์ชถามว่า “เฮ้ยยย จันมึงเป็นอะไร”
ดังโหวกเหวก ผมไม่รู้สึกอะไร ได้แต่พยายามเบิกตากว้าง
 กระพริบตาปริบๆ เพื่อให้ตาโฟกัสภาพได้
เพราะตอนนี้มันเหมือนกึ่งจะเป็นลม กึ่งจะฟื้นอย่างไรบอกไม่ถูก

หายใจเข้าออกกระชั้นจนหน้าอกสะท้อนขึ้นลง และผมก็สลบไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 03:02:37 โดย สรันธม »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
กลับไปเป็นคนธรรมดาก็ดี จะได้เลิกยาเลิกเพี้ยนไปด้วย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ก็เห็นซวยเพราะ sex ตลอด เมื่อไหร่จะสำนึก

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมคิดว่าพอจะเข้าใจแนวคิดการเขียนเรื่องนี้ของคุณสรันธมนะครับ สู้ๆ 5555

เรื่องนี้เป็นเรื่องคอเมดี้เชิงอีโรติกหน่อยๆ ตัวละครเด่นเป็นเอกลักษณ์ และดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจมากครับ ซึ่งจะเห็นว่าจันจะเป็นตัวละครเอกที่แรดหน่อยๆ สนุกกับชีวิต มันเป็นคาแรกเตอร์ที่สำคัญมากในการดำเนินเรื่องแบบนี้ครับ ผมอ่านแล้วยังสนุกไปกับเค้าเลยนะ ยังมีคิดๆเลยว่า เออแฮะ ถ้ามีเพื่อนแบบนี้ในกลุ่มคงจะเป็นคนสร้างสีสันร่าเริงให้กับสังคมไม่น้อย อย่างไรก็ดี ชื่อเรื่องก็บอกอยู่ว่าตัวนางมันต้องแรดครับ ไม่แรดจะฮาได้ไง ไม่แรดจะได้นอนกับสารพัดหนุ่มๆได้ไง เนอะ 5555

แต่ที่ผมโอเคกับเรื่องนี้และคอยติดตามอยู่ตลอด ส่วนหนึ่งเพราะนิสัยจัน อีกส่วนก็เพราะว่ามันมีมาร์ชครับ คุณสรันธมสร้างมาร์ชขึ้นมาเป็นตัวพระที่มีมิติครับ ไม่ได้ดีเลิศเป็นเทพบุตร แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเป็นซาตาน (แต่ต้องระวังไม่ให้มาร์ชดูเป็นตัวละครที่เปราะบางเกินไปนะครับ ตอนล่าสุดก็ดูจะเปราะบางมากพอควรไปหน่อย จันดูแมนกว่าเลย 555) การดำเนินเรื่องแบบนี้จะทำให้เราเห็นพัฒนาการของจัน (ที่ได้กลินกินผช. จำนวนมาก 5555) และพัฒนาการของมาร์ช ว่าจะมองจันยังไง รู้สึกต่อจันยังไง เปลี่ยนแปลงจันยังไง จะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้สองคนฝ่าฟันไปด้วยกัน

ด้วยแนวคิดแบบนี้ มันจะทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่พล็อตตัวนางร่านไปเรื่อยแล้วจบแบบโศกนาฏกรรมหรือรักรันทดครับ แต่เป็นพล็อตพัฒนาการเชิงอุปนิสัยของมนุษย์ ซึ่งผมว่ามันมีคุณค่าต่อการอ่าน และด้วยทักษะการบรรยายที่สนุกสนาน มันก็ทำให้น่าติดตามดีครับ (ในบอร์ดนี้ เรื่องที่คล้ายๆกัน แต่โทนเรื่องเศร้ากว่า ก็มีเรื่อง 'ตัวกินผัว' ครับ อันนั้นค่อนข้างเป็นนิยาย tragedy ที่จบแฮปปี้เอนดิ้ง) สู้ๆครับ

ปล. มาถึงนิยายตอนนี้ ผมคิดว่าทั้งคู่อยู่ปีสอง และมาร์ชก็เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย แต่ผมยังไม่เห็นการบรรยายถึงความเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพนะครับ ผมยังงงๆว่าสรุปตอนนี้ใครเติบโตเป็นยังไงบ้างแล้ว รบกวนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็จะครบสมบูรณ์ขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ผมคิดว่าพอจะเข้าใจแนวคิดการเขียนเรื่องนี้ของคุณสรันธมนะครับ สู้ๆ 5555

เรื่องนี้เป็นเรื่องคอเมดี้เชิงอีโรติกหน่อยๆ ตัวละครเด่นเป็นเอกลักษณ์ และดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจมากครับ ซึ่งจะเห็นว่าจันจะเป็นตัวละครเอกที่แรดหน่อยๆ สนุกกับชีวิต มันเป็นคาแรกเตอร์ที่สำคัญมากในการดำเนินเรื่องแบบนี้ครับ ผมอ่านแล้วยังสนุกไปกับเค้าเลยนะ ยังมีคิดๆเลยว่า เออแฮะ ถ้ามีเพื่อนแบบนี้ในกลุ่มคงจะเป็นคนสร้างสีสันร่าเริงให้กับสังคมไม่น้อย อย่างไรก็ดี ชื่อเรื่องก็บอกอยู่ว่าตัวนางมันต้องแรดครับ ไม่แรดจะฮาได้ไง ไม่แรดจะได้นอนกับสารพัดหนุ่มๆได้ไง เนอะ 5555

แต่ที่ผมโอเคกับเรื่องนี้และคอยติดตามอยู่ตลอด ส่วนหนึ่งเพราะนิสัยจัน อีกส่วนก็เพราะว่ามันมีมาร์ชครับ คุณสรันธมสร้างมาร์ชขึ้นมาเป็นตัวพระที่มีมิติครับ ไม่ได้ดีเลิศเป็นเทพบุตร แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเป็นซาตาน (แต่ต้องระวังไม่ให้มาร์ชดูเป็นตัวละครที่เปราะบางเกินไปนะครับ ตอนล่าสุดก็ดูจะเปราะบางมากพอควรไปหน่อย จันดูแมนกว่าเลย 555) การดำเนินเรื่องแบบนี้จะทำให้เราเห็นพัฒนาการของจัน (ที่ได้กลินกินผช. จำนวนมาก 5555) และพัฒนาการของมาร์ช ว่าจะมองจันยังไง รู้สึกต่อจันยังไง เปลี่ยนแปลงจันยังไง จะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้สองคนฝ่าฟันไปด้วยกัน

ด้วยแนวคิดแบบนี้ มันจะทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่พล็อตตัวนางร่านไปเรื่อยแล้วจบแบบโศกนาฏกรรมหรือรักรันทดครับ แต่เป็นพล็อตพัฒนาการเชิงอุปนิสัยของมนุษย์ ซึ่งผมว่ามันมีคุณค่าต่อการอ่าน และด้วยทักษะการบรรยายที่สนุกสนาน มันก็ทำให้น่าติดตามดีครับ (ในบอร์ดนี้ เรื่องที่คล้ายๆกัน แต่โทนเรื่องเศร้ากว่า ก็มีเรื่อง 'ตัวกินผัว' ครับ อันนั้นค่อนข้างเป็นนิยาย tragedy ที่จบแฮปปี้เอนดิ้ง) สู้ๆครับ

ปล. มาถึงนิยายตอนนี้ ผมคิดว่าทั้งคู่อยู่ปีสอง และมาร์ชก็เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย แต่ผมยังไม่เห็นการบรรยายถึงความเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพนะครับ ผมยังงงๆว่าสรุปตอนนี้ใครเติบโตเป็นยังไงบ้างแล้ว รบกวนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็จะครบสมบูรณ์ขึ้นนะครับ





ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับตัวละครจัน และมาร์ชนี้ จันในเรื่องของการมีความสุขกับเรื่อง Sex และมีความคิดความอ่านที่ดูเป็นคนแรงๆ ชอบ ผู้ชาย พูดเรื่อง ฮี๋ ฆรวย แบบไม่อายปากนั้น
ผมขอบอกว่า "มีอยู่จริง" และเป็น "ตัวตน" ของเพื่อนรักของผมคนหนึ่งครับ เขามีความสุขกับการที่ได้ทำตัวเป็นเพลย์บอยไปวันๆ และมีคาแรกเตอร์โดดเด่นมาก ผมเลยขออนุญาตเขานำตัวตนของเขามาเขียนเป็นนิยาย
แต่ไอ้เรื่องเล่นยา เรื่องโดนข่มขืนนั้น เป็นกิมมิคของเรื่องที่ผมแทรกให้มันดูมีที่มาที่ไป ดูเป็นสิ่งเสริมให้จันยิ่งเสพติดเซ็กส์เข้าไปใหญ่
 จะเห็นว่าจันตอนเด็กๆ จะดูฮามาก และดูแรง อยากโดนคนนั้นคนนี้เอามากมาย นั่นเพราะเขาเก็บกดตอนเด็ก
จะดูเหมือนทำอะไรไม่คิด พอโตขึ้นมาหน่อยอาจจะลดดีกรีความฮาลงบ้าง เพราะเขาต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ และอยู่ในวังวนของการติดยา อารมณ์เลยต้องเปลี่ยน
ส่วนมาร์ชนั้น ผมกุคาแรกเตอร์เขาขึ้นมาให้ล้อกับความร่านของจัน จันแรงแค่ไหน มาร์ชต้องอ่อนโยน และจิตใจเข้มแข็งเข้าแลก ไม่งั้น เรื่องก็คงจบแบบคู่เกย์ทั่วไป คือ มีอะไรก็เท นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ทน ซึ่งตัวละคร "มาร์ช"นี้ ผมเอานิสัยของแฟนผมมาผสมด้วยฮะ ฮ่าๆๆๆๆ มันเลยดูมีตัวตนนิดนึง จันคิดอะไร มาร์ชต้อมตามทันตลอด และสามารถควบคุมได้ตลอด มันจะเป็นประมาณนี้ฮะ แต่เรื่องราวยังมีอีกเยอะครับ ขอให้ติดตามต่อไปนะคัรบ


อ้อ ขอฝากอีกเรื่อง คือ เรื่องลูกชายกำนันโต กับหนุ่มนักเปียโนโรแมนติค อีตานักเปียโนที่ชื่อ จัสติน นั้น

ก็เอามาจากคาแรกเตอร์จริงๆ ของรุ่นน้องผม เรียนเอกเปียโน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ และไปต่อที่ต่างประเทศ รางวัลที่กล่าวถึง ที่ได้รับเหรียญจากเจ้าฟ้าชายชาร์ล ก็ได้จริง อุปนิสัยอ่อนโยน ไนซ์ รับฟังคนอื่น รักสัตว์ และอื่นๆ ที่จะได้เห็นในบทบาทของจัสตินนั้น ผมอวตารนิสัยรุ่นน้องผมมาเลย

ไงก็ขอบพระคุณสำหรับคำติชมครับ บอกตรงๆ ว่าเป็นงานอดิเรกในการเขียนนิยายพวกนี้ แต่ก็มีความสุขดี และยินดีที่ได้ยินทุกท่านติชมครับ

                                                                             สรันธม

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คลิปจันหลุดหรอ? โหย คนปล่อยคลิปทำไมชั่วเพียวๆไม่มีดีผสมแบบนี้อ่ะ สงสารจันมากๆเลย
อ่านตอนนี้แล้วรู้เลยว่าจันรักมาร์ชมาก ขอให้จันซื่อสัตย์กับตัวเองและรับว่ารักมาร์ชได้แล้วนะ
มาร์ชก็คนดีจริงๆอยู่ข้างๆจันแม้ว่าจะโดนทำร้ายจิตใจ เราว่าเรารักมาร์ชแล้ว แย่งจันได้ปะ555
อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงดราม่าที่จะตามมาติดๆๆ ทำใจแปป ฮืออออ จะรออ่านนะคะ มาต่ออีกไวๆนะ

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงที่ยับยู่ยี่แลดูสกปรก เพราะผลงานการบรรเลงเพลงรักของผมกับเจมส์ ในหัวสมองตอนนี้รู้สึกโล่งแล้ว ผมมองไปรอบๆ ในห้องนอนที่ว่างเปล่า และเอามือมาแตะที่หน้าผาก เพื่อสำรวจว่าตัวเองยังคงสุขภาพดีอยู่หรือไม่ เพราะสองสามวันที่ผมเล่นยามานี้ แทบจะไม่ได้นอน ไม่ได้กินอะไรเลย ชีวิตอยู่กับการเล่นยา มีเซ็กส์ และเล่นยาแบบนี้ตลอดสามสี่วันที่ผ่านมา
ความจริงที่สุดในขณะนี้ คือ การที่ผมได้ตระหนักว่า คลิปวิดีโอสุดฉาวของผม ได้ถูกเผยแพร่สู่โลกภายนอกอย่างเป็นทางการ ผมไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร หรือคิดจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรดี แต่สิ่งที่ผมต้องเผชิญ คือ การตอบคำถามกับทุกคนว่าจริงหรือไม่จริง คนในคลิปนั้นใช่ผมหรือไม่
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัว คือ ใบหน้าที่ปรากฏในวิดีโอนั่น เป็นใบหน้าที่ปราศจากศัลยกรรมของผม ผมยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง ค่าของการที่ทะลึ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการหน้ามืด สิ่งแรกที่ผมทำ คือ การเดินไปที่หน้ากระจก การอดน้ำ อดอาหาร ห่วงแต่จะเล่นยา และมีเซ็กส์นั้น ได้ทำร้ายน้ำนวลของผิวพรรณผมไปจนหมด แต่อย่างน้อย ผมก็มั่นใจว่า นี่อาจเป็นทางเดียวในการดิ้นให้หลุดจากมหันตภัยครั้งนี้
ผมเดินออกมาจากห้องนอน พี่กบกำลังรับโทรศัพท์ และสนทนากับปลายสายด้วยความตึงเครียด เมื่อผมเดินเข้าไปหาพี่กบ สิ่งแรกที่พี่กบทำ คือ หันหน้ามามองผม และส่งสายตาอย่างตำหนิให้กับผม
ไอ้มาร์ชนั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง ผมเดินไปหามัน ปล่อยให้พี่กบรับโทรศัพท์ของเขาต่อไป ดูมันกำลังเจ็บปวดรวดร้าวกับสิ่งที่ได้รับรู้เสียเหลือเกิน
“ทำไมมึงไม่บอกกู”
น้ำเสียงของไอ้มาร์ชราบเรียบราวผืนน้ำที่ไร้คลื่นลมพัดพา
“กูไม่รู้จะทำไง คือ มึงอยากฟังเรื่องทั้งหมดไหมล่ะ”
“อยาก....!!!!”
พี่กบตะโกนข้ามมาจากอีกฟากหนึ่งของห้อง เธอเดินมาหาผมกับไอ้มาร์ช
“จันต้องบอกเรื่องราว และเรื่องจริงทั้งหมดกับพี่ เราจะได้หาทางแก้ไข อย่าตกใจนะ พี่ไม่คิดจะตำหนิอะไรจัน จากที่พี่ดูในคลิป ที่เขาแชร์ๆ กันมา จันก็โดนมัด เห็นได้ชัดว่านั่นคือ การข่มขืน จันบอกพี่ได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
พี่กบถามอย่างร้อนใจ ถึงตอนนี้ผมไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก การเผชิญหน้ากับความจริง และกล้าที่จะพูดความจริง ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้
“คือ.... เรื่องทั้งหมดมันเกิดก่อนที่ผมจะเข้าวงการครับพี่กบ”
“เฮ้อออออ โล่งอก”
พี่กบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับเธอได้ยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอกของเธอ
“ตอนนั้น ผมไปเข้าค่ายรับน้อง......” ผมเล่าเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเผชิญให้กับพี่กบ และไอ้มาร์ชฟัง ระหว่างที่เล่า พี่กบกับไอ้มาร์ชก็เอามือมาจับมือของผมคนละข้าง และบีบมันเบาๆ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ความอบอุ่นจากมือทั้งสองคนนั้น เปรียบเสมือนภูมิคุ้มกันที่ทำให้ผมกล้าที่จะเล่า และเผชิญกับความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อผมเล่าจบ พี่กบเกิดแนวคิดขึ้นมา
“พี่ว่า เรายังพอมีหวังนะ”
“ยังไงหรอครับ?” ไอ้มาร์ชถามพี่กบด้วยความสงสัย ดูเหมือนมันจะกระตือรือร้นที่จะช่วยให้ผมผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้
“เท่าที่พี่ดูจากในคลิป พี่ยอมรับเลย ว่าถ้าไม่บอกว่าเป็นจัน พี่ก็ไม่นึกว่าเป็นจัน”
“อ้าวพี่ ทำไมอ่า” ผมถามพี่กบด้วยประหลาดใจ
“ก็หน้าจันตอนนี้ กับหน้าจันในคลิป มันคนละหน้าเลย”
“หึหึ.... ศัลยกรรมพลิกชีวิตสินะ” ไอ้มาร์ชล้อเลียนผม ผมไม่รอช้า ถีบมันลงไปจากโซฟาเต็มแรง
“ไอ้เหี้ยยยยยย มาร์ชชชชชชชช มันใช่เรื่องเล่นไหม”
“อ้าว กูไม่อยากให้เครียด แล้วกูก็คิดว่าพี่กบต้องมีทางออก” ไอ้มาร์ชพูดพลางโบ้ยไปทางพี่กบ
“ถ้าเราปฏิเสธเสียอย่าง ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก อีกอย่างถ้าเขาขุดลึกลงไปอีก ว่าเป็นจันจริง คนที่ปรากฏในคลิปก็ต้องโดนซักทอด และซวยกันหมด เพราะมันเป็นคลิปที่โดนข่มขืนถูกไหม กี่กระทงละนั่น แล้วอีกอย่าง คือ คนที่เอาคลิปไปแชร์ก็จะซวย เพราะผิดกฎหมาย และที่สำคัญที่สุด เหตุการณ์ในคลิปนี้มันต่างกรรม ต่างวาระ เกิดขึ้นก่อนที่จันจะมาเป็นนักร้อง นั่นพิสูจน์ให้เห็นว่า คนที่ผ่านอะไรร้ายๆ มาขนาดนี้ แต่สามารถเดินตามฝันตัวเอง และมีที่ยืนในสังคมได้ นั่นน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีไปอีก เรื่องนี้พี่ทีทางที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส น้องจันอย่าห่วง และพี่ขอเตือนนะคะน้องจัน ถ้าน้องจันไม่เลิกเล่นยา พี่จะเลิกสนับสนุนหนูทุกอย่าง และจะไม่สนใจ ไม่ส่งเสริมอะไรทั้งสิ้น พี่ไม่อยากให้ชื่อเสียงของหนู และพี่ที่สั่งสมมาต้องมาเสีย ดังนั้น เลิกซะ”  พี่กบแสดงภูมิในการแก้ปัญหาของเธอ สมกับการเป็นผู้จัดการมือฉมังเสียจริง ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างที่ได้ยินพี่กบพูดแบบนั้น แต่ก็แอบกลัวในน้ำเสียงของพี่กบ ที่ยื่นคำขาดให้ผมเลิกเล่นยา
“พี่ฝากมาร์ชช่วยดูแลจันด้วยละกัน เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปเคลียร์ที่บริษัทก่อน จันอย่าห่วง เรื่องนี้พี่จัดการได้ ข่าวคาวๆ ของดาราหลายคนเห็นชัดว่าใช่จริงๆ ในคลิป เขายังดิ้นกันมาได้ นับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้”
พี่กบพูดพลางรีบเก็บของ และเดินออกจากห้องไป ไอ้มาร์ชเดินเข้ามาหาผม
“ไงมึง....ขอต้อนรับกลับสู่ความเป็นเมียของกูอีกครั้ง”
“เหี้ยอะไรไอ้สัดดด ถึงมึงจะเยสส กูหลายครั้ง กูก็ไม่นับเป็นผัวกู อย่างมึงอ่ะ กูเห็นเป็นอุบัติเหตุ ล้มแล้วฆรวยทิ่มกู”
“ปากดีนักนะมึง ไม่ค่อยได้เจอกันนาน มานี่มา มาให้กูกอดหน่อย”
ไอ้มาร์ชเข้ามาโอบกอดผม มันคงจะพยายามจะปลอบผมกระมัง เมื่อมันได้ยินเรื่องราวของผม
“กูขอโทษ กูไม่รู้ว่ามึงต้องผ่านอะไรมาบ้าง มึงกับกูเริ่มกันใหม่นะจัน”
“เริ่มอะไร กูไม่อยากเริ่ม” ผมพูดตัดบท แต่ในใจนั้น ผมแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง
“เริ่มชีวิตใหม่ไง กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้ขอให้มึงมารัก มาแคร์อะไรกูเลย ขอแค่มึงอย่าเกลียด อย่าทิ้งกู”
“กูเคยทิ้งมึงด้วยหรอ มีแต่มึงนั่นแหละจะทิ้งกู เมื่อกี้ ถ้ากูไม่ลงไปห้าม มึงก็คงไปจากกูแล้ว” ผมพูดพลางรู้สึกสะท้านสะเทือนใจลึกๆ
“กูขอโทษ กูแค่โกรธที่มึงอะมาต่อยกู คบกันมาตั้งหลายปี มึงไม่เคยทำรุนแรงอะไรกับกู แต่วันนี้ถึงขั้นลงไม้ลงมือ กูเสียใจว่ะ กูยอมโดนมึงโขกสับ ทนเห็นมึงไปนอนกับคนอื่นมาหลายต่อหลายคน กูไม่เคยคิดเป็นเรื่องใหญ่ จะทำไงได้ ก็ตูดของมึงนี่เนอะ”
“อ้าววว ไอ้เหี้ยยย มึงว่ากูกะหรี่นี่หว่า”
“ก็มึงทำตัวแบบนั้นมั้ยละ”    เออ ก็จริงของมัน อีดอกกกกกกก
“มึงจำได้ไหมไอ้มาร์ช ที่มึงโฆษณานักหนา ว่ามึงจะทำให้กูรักก่อนวันเกิดกูส้นตีนอะไรของมึงน่ะ แต่มึงก็ทำไม่ได้ และก็ก็ไม่ได้เตะมึง ไม่ได้ผลักไสมึงไปไหน เพราะมึงเป็นเพื่อนที่ดีของกู และกูก็รับมึงเข้ามาในชีวิตตั้งหลายปี ทำไมมึงไม่นึกถึงตรงนี้บ้าง”
“เออ กูรู้ว่ากูไม่สามารถทำให้มึงรักได้ แต่เชื่อเถอะ สักวันมึงต้องรักกู”
ในอ้อมกอดของไอ้มาร์ช ผมได้ยินเสียง และรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนจากการเต้นของหัวใจมัน ผมรู้สึกแปลบๆ ในใจเมื่อสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนนั้น และรู้สึกได้ถึงความจริงใจ และมิตรภาพระหว่างผมกับมันที่มีมานาน
“กูเชื่อว่าพี่กบต้องหาทางออกให้มึงได้ ต่อจากนี้ไป มึงก็ฉลาดๆ หน่อยละกันเวลาตอบคำถามสื่อ”
“เออ..มึงไม่ต้องห่วง”
“ไปอาบน้ำไป” ไอ้มาร์ชไล่ผมไปอาบน้ำ มันผละออกจากการที่มันกอดผม และมุ่งตรงไปที่โต๊ะกินข้าวที่เกลื่อนกลาดไปด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์การเสพยา
ไอ้มาร์ช เดินไปหยิบถุงดำ และกวาดของทั้งหมดลงถุงดำ เสียงตะเกียงสูบยากระทบกันดังแกร๊งๆ เมื่อมันหล่นลงไปในถุงผมรู้สึกใจหายที่ชีวิตผมจะต้องขาดมันไป แต่อีกใจก็บอกกับตัวเองว่า ดีแล้ว ดีแล้ว เริ่มชีวิตใหม่ ตั้งใจเรียน และกลับมาเป็นจันที่สดใส ไม่อมทุกข์อีกต่อไป

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ผมแก้ผ้า และเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ได้สนใจจะเขินอายไอ้มาร์ชมัน น้ำอุ่นจากฝักบัวเสมือนน้ำอมฤตที่ราดรดลงบนตัวผม การที่ไม่ได้อาบน้ำอย่างจริงจังมาหลายวัน เปรียบเสมือนฝันร้าย เมื่อผมสร่างเมาจากฤทธิ์ยา และรู้สึกว่าตัวเองนั้นโสมมมากแค่ไหน
“มึงว่า พี่กบจะจัดการได้จริงๆ หรอ” ผมตะโกนออกไปจากห้องน้ำถามไอ้มาร์ช ขณะที่มันกำลังขะมักเขม้นเก็บข้าวของ อุปกรณ์การเสพยาทุกอย่างลงถุงดำ
“กูว่าน่าจะจัดการได้แหละ อย่าห่วงเลย มึงก็หน้าด้านตอบคำถามปัดๆ ไปละกัน” ไอ้มาร์ชแนะวิธีให้ผม ซึ่งไอ้เรื่องตอแหล ดัดจริตกับผมคงไม่ต้องสอน
“มึงทำไงให้หลุดไปได้วะ” ไอ้มาร์ชถาม
“กูไม่รู้ว่ะ”
“หึ.... แน่ล่ะสิ คงจะมีคนเข้าออกห้องมึงเป็นว่าเล่น”
“สัดดดด ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”
จริงๆ ไอ้มาร์ชก็พูดถูก ตั้งแต่ผม เสพติดเซ็กส์มาประมาณปีกว่าๆ ผมก็มีเซ็กส์กับทุกคนตามแต่ผมจะพอใจ
“กูว่า ไอ้เด็กคนนั้นแหละ” ไอ้มาร์ชพยายามจะชี้ตัวผู้กระทำผิด ซึ่งผมก็ยังไม่เก็ตว่าเป็นใคร
“ใครวะ”
“น้องเจมส์อะไรของมึงนั่นไง”
“เจมส์” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่น้ำอุ่นพุ่งลงมาจากฝักบัวเป็นสาย เออ...อาจจะเป็นเจมส์จริงๆ เจมส์เป็นคนรู้เรื่องราวนี้เพียงคนเดียว และอยู่กับผมในช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง
“อืม...ไม่ว่าจะเป็นใคร มึงก็ช่างเขาเถอะ ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมา เดี๋ยวก็เป็นหน้าที่ของกฎหมายเอง” ไอ้มาร์ชปลอบโยนผม
“อืม..... แต่ถ้าเป็นเจมส์ กูก็เสียใจ”
“เสียใจทำไม ถ้ามึงรักมันชอบมันนัก แล้วมันทำกับมึงแบบนี้  มันก็ไม่ใช่คนดี ไม่ได้หวังดีกับมึงแล้ว”
“ก็จริงของมึง”
“อย่างกูนี่ กูอยู่ข้างๆ มึงมาตลอด ทำไมไม่มองกูบ้างวะ”
ไอ้มาร์ชพูดพลางเดินมาที่ห้องอาบน้ำของผม มันยื่นมือมาบีบก้นของผมเป็นเชิงล้อ
“เหี้ยยย กูตกใจหมด” ผมด่ามัน
“เออ....รีบอาบน้ำ เดี๋ยวกูทำกับข้าวให้กิน” พูดจบไอ้มาร์ชเดินเข้าไปในห้องครัว เสียงก๊องแก๊งดังออกมาจากในห้องครัว มันคงจะเตรียมทำกับข้าวอะไรของมันสักอย่าง แต่แล้วเสียงก็เงียบไป พร้อมกับเสียงเดินตึกๆ มาหาผม
“มึง....อาบน้ำเสร็จยัง”
“ทำไมอะ”
“ไปเดินห้างกัน ไปซื้อกับข้าว ในตู้เย็นมึงไม่มีอะไรจะแดกเลยว่ะ เดี๋ยวกูทำกับข้าวให้กิน รีบอาบน้ำแต่งตัวนะ”

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อยากได้มาร์ชชชชช ติดที่อิฉันเป็นหญิงเรียบร้อย ไม่เหมือนนังจัน !

ออฟไลน์ สรันธม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ผมรีบอาบน้ำ และแต่งตัวเพราะอยากจะออกไปสัมผัสโลกภายนอกบ้าง คอนโดของผมอยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้า จึงไม่เป็นการยากสักเท่าไหร่ เมื่อผมจะเลือกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใดๆ ในกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางที่รถไฟฟ้าผ่าน
“มึงจะไปซื้อกับข้าวที่ไหนอะ” ไอ้มาร์ชถามผม ขณะที่มันเดินจูงมือผมมาที่สถานีรถไฟฟ้าที่อยู่หน้าทางเข้าคอนโด
“เฮ้ยยยยย มึงจะมาจูงมืออะไรกูแบบนี้ไม่ได้” ผมพยายามสะบัดข้อมือออกจากมือของมันที่กุมข้อมือของผมไว้แน่น จริงๆ ก็อายแหละ เขินด้วย ท่าทีของมันที่เป็นห่วงเป็นใยผม แววตาเวลาที่มันกระตือรือร้นถามถึงวิธีที่พี่กบจะสามารถพาให้ผมรอดพ้นปัญหาไปได้ หรือการที่มันพยายามจะเอาใจ ปลอบใจ เก็บกวาดสิ่งร้ายๆ ออกไปจากชีวิตผม ทำกับข้าวให้ผม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ผมเพิ่งต่อยหน้ามันไป นี่มันไม่เจ็บ ไม่โกรธเลยหรือที่ผมทำแบบนั้นกับมัน ผมออกจะเห็นแก่ตัวด้วยซ้ำ ที่ไม่เคยเห็นอกเห็นใจมันเลยตลอดเวลาที่รับมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
“ทำไม เป็นเหี้ยอะไรอีกอะ”
“กูเป็นนักร้อง ข่าวเรื่องคลิปเพิ่งจะมีออกไป จะให้มีข่าวเรื่องเดินจับมือกับผู้ชายอีกรึไง”
“เออๆ กูขอโทษ กูก็แค่อยากจะดูแล เอาอกเอาใจมึงนี่หว่า” ไอ้มาร์ชพูดด้วยน้ำเสียงอ่อย ระคนความน้อยอกน้อยใจ
“เป็นเหี้ยไรล่ะ น้อยใจกูอีก”
“เปล่า กูลืมไปว่ากูมีเพื่อนเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์”
ไอ้มาร์ชปล่อยมือของมันออก และเดินนำหน้าผมขึ้นไปยังบันไดเลื่อนสู่สถานีรถไฟฟ้า ดูเหมือนมันจะแอบงอน จริงๆ ก็ไม่ได้แอบแหละ งอนจริงๆ แต่ทำไงได้ ผมไม่ใช่นายจันคนธรรมดาอีกต่อไป ผมรีบเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปจนทันถึงตัวไอ้มาร์ช
“เออ...แล้วมึงมาเมาอยู่แบบนี้ มึงไม่มีงานบ้างหรอวะ”
“ก็ไม่นะ พี่กบไม่ได้บอก ไม่ได้บันทึกไว้ในตารางงานกู กูเลยเมายาได้เต็มที่ไง”
“เออ ดีเนอะ...” มันกล่าวอย่างละเหี่ยใจ “ต่อไปนี้มึงต้องเลิกยาให้ได้ เข้าใจไหม กูนี่แหละจะเป็นคนทำให้มึงเลิกเอง”
“เออ มึงไม่ต้องห่วงหรอก ขนาดที่กูเล่น มันไม่ได้ทำให้ติด อีกอย่างยาที่กูเล่น ก็ไม่ใช่ชนิดที่เสพติด หรือหลอนประสาทอะไรมากมาย”
“อืม.... ถ้าเล่นอีก คราวนี้ กูไม่สนใจมึงจริงๆ ไม่ต้องมาคุยกันเลย”
“เออๆ กูสัญญา” คิดหรอว่าผมจะเลิกเล่นได้ง่ายๆ การสัญญาของผมที่ให้กับมันนั้น ก็เป็นเหมือนสัญญาเพื่อให้มันสบายใจ ผมยังยอมรับว่าผมยังเครียด และไม่สามารรถจะลืมภาพความเจ็บปวดในอดีตได้ หลายๆ ครั้งผมก็ฝันถึงค่ำคืนและวันเวลาอันแสนทรมาน ที่ผมต้องทนต่อการโดนชำเรา โดนผู้ชายรุมเยสสสส
โอ้ยยยยย ถึงจะมีสันดานที่อยากฆรวยมากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องให้ปรนเปรอผู้ชายตัวอ้วนๆ หุ่นเผละ ฆรวยเหม็นๆ ใครจะทนได้วะ
ผมยอมรับอย่างไม่อายเลย ว่าการที่ผมได้เล่นยานั้น มันทำให้ผมลืมเรื่องราวร้ายๆ ได้ แต่นั่นก็แค่ชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น นี่จึงเป็นข้ออ้างส่วนตัวของผมที่จะเสพยาอยู่ตลอด เพื่อมิให้สมองต้องคิดถึงเรื่องราวที่แสนเจ็บปวด
ไอ้มาร์ชเดินนำผมเข้าไปในตู้รถไฟฟ้า สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้ได้ถึงผลกระทบจากการเล่นยา คือ การกลัวสถานที่แคบๆ กลัวที่จะพบเจอคนที่ยืนอยู่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนรถไฟฟ้าที่คนยืนอัดแน่นเหมือนปลากระป๋อง
“มึงเป็นอะไร” ไอ้มาร์ชถามผม หลังจากที่มันสังเกตได้ถึงปฏิกิริยาแปลกๆ ของผม
“เปล่า” ที่หน้าผากของผมมีความรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลซึมไปทั่วหน้าผากขณะที่ตอบคำถามไอ้มาร์ช ไอ้มาร์ชเอามือมาจับมือของผม เราประสานมือกันอย่างหลบซ่อนในตู้รถไฟฟ้าท่ามกลางคนที่ยืนกันอย่างแออัด ผมหันไปมองหน้ามัน และรู้สึกขอบคุณที่อย่างน้อยมันก็ยังยืนเคียงข้างผม
ประหนึ่งความรู้สึกผิดจะประดังเข้ามาในจิตใจ สิ่งที่ผมสัญญากับไอ้มาร์ชเมื่อสักครู่ว่าจะเลิกเล่นยา กลับรู้สึกถึงความเป็นสัจจะจริงในใจที่จะต้องรักษาสัญญานั้นให้ได้ ความห่วงใยของมัน การยืนเคียงข้างผมต่อสู้กับปัญหาต่างๆของมัน หรือแม้กระทั่ง สายตาที่มันจ้องมองผม ในขณะเดียวกันที่มือของมันก็กุมมือผมอยู่นั้น ช่วยเสริมแรง และกำลังใจให้ผมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“กูขอบคุณนะ” ผมกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ
“อะไร” ไอ้มาร์ชถามผม ขณะที่มือของมันเพิ่มแรงบีบมือของผมเบาๆ เป็นสัญญาณ สายตาของมันที่มองและกำลังตั้งคำถามผมว่า ขอบคุณอะไรมัน อยู่นี้ ช่างมีพลังทำลายล้างเกราะป้องกันในจิตใจผมเสียเหลือเกิน ผมเลือกที่จะหลบสายตามันเพราะกลัวจะเผยความรู้สึกอะไรออกไปในสายตา
พอถึงสถานีสยาม ผมก็รีบสะบัดมือออกจากมือของไอ้มาร์ช และรีบเดินรี่ตรงไปยังทางออกเพื่อเดินเข้าห้าง โดยไม่สนใจที่จะชี้แจงอะไรกับไอ้มาร์ชว่าผมขอบคุณอะไรมัน
เมื่อผมลงไปชั้นกราวด์ ก็ถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่นี่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของคนเมืองที่มีอันจะกิน สินค้ามากมายเรียงรายอยู่บนชั้น จำแนกตามประเภทอย่างสวยงามละลานตา ผมยังนึกไม่ออกว่าจะกินอะไร สายตากวาดมองไปที่ชั้นวางเส้นสปาร์เก็ตตี้ ก็ไม่รู้สึกอยากจะกิน หันไปเจออาหารสำเร็จรูปต่างๆ ก็ไม่คิดอยากจะแตะ พอเดินไปที่โซนอาหารสด ก็ไปติดอยู่ตรงซี่โครงอ่อนของหมูในตู้แช่ ไอ้มาร์ชเข็นรถเดินตามผมมาจนทัน
“อยากกินซี่โครงหรอ เอาอะไรดีอะ จะผัด จะทอด หรือต้มยำ”
“ไม่รู้ดิ กูไม่ได้กินซี่โครงอ่อนมานาน คิดถึงแม่เลย”
“มึงได้โทรหาแม่มึงบ้างป่าววะ”
“ไม่เลยว่ะ”
“เออ โทรหาเขาบ้าง แม่มึงโทรมาหากูถามเรื่องมึงเกือบทุกวัน เขาไม่กล้าที่จะโทรหามึงหรอก กลัวมึงงานยุ่ง แหม.. มีลูกเป็นซุปตาร์นี่นา”
พอไอ้มาร์ชพูดจบ ก็มีนางชะนีผีโขมดสองนาง มากรี้ดกร๊าดผม
“พี่จัน.... หนูขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ” นางชะนีผีโขมดตนหนึ่งถามผม แว๊บแรกในหัวคือ ตายๆๆๆๆ อีดอก หน้า ผม ไม่ได้เซตอะไรมาเลย
“พี่หน้าสดนะ” ผมกล่าวอย่างไม่มั่นใจตัวเอง
“โอ้ยยย พี่จันขา หน้าสดก็เปะเว่อร์ค่ะ”
“อ่ะๆ ได้ครับ”
แฟนคลับของผมถ่ายรูปคู่ผมสักสามสี่ช๊อตก็กล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ หุยยยย ตัวจริงเป็นกันเองมาก น่ารักกว่าในทีวีอีก นี่พี่จันทมาทำอะไรคะ”
ในใจผมคิดว่า หล่อนจะมาเสือกอะไรยะ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันปะ ?
“อ้อ...มาหาซื้อกับข้าวน่ะครับ”
“แอร้ยยยย ทำกับข้าวเป็นด้วย แล้ว... นี่ใครคะพี่”
นางชะนีอีกคนชี้ไปทางไอ้มาร์ช ดูพวกนางจะสนใจไอ้มาร์ชขึ้นมาทันใด
“อ๋อ...เพื่อนน่ะครับ”
“โอ้ยยยยย จิ้นนนนน พี่จันหนูยิ่งเป็นสาว Y อยู่ พี่อย่ามาเดินช็อปปิ้งกับผู้ชายหล่อๆ สองต่อสองสิคะ เดี๋ยวเป็นข่าว”
“อ่อ.... ครับ” ผมรู้สึกประหลาดใจนิดหนึ่งที่ได้ยินว่าแฟนคลับของผมเธอเป็นสาว Y
“งั้นหนูไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ให้ถ่ายรูปด้วย ไปละน้า”
“อ่อๆ ครับ โชคดีครับ”
แฟนคลับชะนีของผมเดินจากไป ไอ้มาร์ชยืนทำหน้างงอยู่ข้างๆ ผม เสียงเธอสองคนพูดจาหัวร่อต่อกระซิกกันแว่วๆ ว่า “โอยยยย จิ้นมากอีดอกกกกกกก” ผมนี่ขำออกมาเลย
“เป็นเหี้ยไร” ผมถามไอ้มาร์ชทั้งหัวเราะ เมื่อเห็นมันทำหน้างงเหมือนหมางง
“สาววาย? คืออะไรวะ”
“นี่มึงไปอยู่ไหนมา ทำไมไม่รู้จัก”
“อ้าว ก็กูไม่รู้จักจริงๆ นี่หว่า”
“สาววาย มึงไปหาในเนตดูละกัน ว่าคืออะไร”
ผมรีบเลือกซี่โครงหมุอ่อนให้พนักงานชั่งน้ำหนัก และเดินจากมา ไอ้มาร์ชเข็นรถมาจนทันผมพลางถามผมในสิ่งที่ผมยังไม่ได้ชี้แจงให้มันฟัง
“ที่มึงบอกว่าขอบคุณกูอะ ขอบคุณอะไรวะ”
“ก็ที่มึงอยู่เคียงข้างกู กูขอบคุณทุกอย่าง ที่มึงทำให้กูตลอดเวลาไง จะถามอะไรนักหนา” ผมตอบมันอย่างรำคาญ
“มึงจะมาซึ้งอะไรตอนนี้วะ เป็นเพื่อนกันมานาน แค่นี้ทำไมกูจะทำให้มึงไม่ได้ หรือถ้ามึงจะให้กูเป็นมากกว่าเพื่อน กูจะทำมากกว่านี้ จะเอาใจใส่มากกว่านี้อีก”
“หึ.....นี่มึงยังไม่เลิกหวังอะไรลมๆ แล้งๆ อีกหรอ” ขณะที่ผมพูดกับไอ้มาร์ช ผมก็เหลือบไปสังเกตเห็นคนที่เดินผ่านไปมา ชี้ชวนให้เพื่อนๆ ของเขาดูว่า ผมกำลังเดินอยู่กับพวกเขา คือ ประมาณว่า เห็นดารา เห็นซุปตาร์นั่นแหละ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเบื่อ เพราะรู้สึกว่าชีวิตไม่เป็นส่วนตัว ไม่มีอิสระเอาเสียเลย
“เออ....”
“แล้ววันนี้มึงจะทำอะไรให้กูกิน”
“แกงรัญจวน”
“หา แกงอะไรนะ?” ผมรู้สึกฉงนฉงายกับคำตอบไอ้มาร์ชมาก แกงอะไรผมไม่เคยได้ยิน
“แกงรัญจวน มึงไม่เคยกินหรือ อาหารชาววังเลยนะ”
“ไม่เคย แกงอะไรชื่ออย่างกะยาปลุกเซ็กส์”
“อ่าวว ไอนี่ นี่มันแกงหนึ่งในสำรับของ รัชกาลที่ ๕ เลยนะ”
“อ่าว ก็ไม่รู้นี่หว่า”
“เออ....เดี๋ยวกูทำให้กิน”
“กินแล้วกูจะรัญจวนมะ” ผมถามไอ้มาร์ชด้วยน้ำเสียงยวนอารมณ์ ไอ้มาร์ชดูจะรู้ถึงสัญญาณที่ผมสื่อออกไป
“รัญจวนไม่รัญจวน มึงก็คอยดูละกัน” เชื่อผมเถอะ เวลาที่ไอ้มาร์ชมันทำหน้ากวนๆ ดูมีเลศนัยนี่มันน่ารักเป็นบ้า
โอยยยยย ชะตาฮี๋จะขาดอีกแล้วมั้ง หลังจากที่ได้กินแกงรัญจวนของมัน

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
うโอยขาดมานานแล้วมั้ง5555
มาร์ชเอาให้หนัก เอาให้ลืมเลยนะ

ปล.เชียร์ให้มาร์ชไปหรือไม่ไปดีนะ กลุ้มใจจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด