ตอนที่ 13
วันเสาร์เชอเบทกับปริ๊นซ์ตื่นกันสายๆก่อนจะออกมาดูหนังที่พึ่งเข้าเมื่อสัปดาห์ก่อนเพราะเพื่อนบ่นอยากดูมาหลายวัน
“เรื่องนี้แน่นะปริ๊นซ์”
“อื้อๆ อันนี้แหละ ที่มีหมาจิ้งจอกกับกระต่าย”
“ซูโทเปียสองใบครับ”
หนังแอนิเมชั่นสไตล์ปริ๊นซ์ ชีวิตเชอเบทไม่ชอบดูการ์ตูนเลยแต่ก็ต้องพาเพื่อนมาดูประจำ ทั้งเขี้ยวกุด มาดากัสการ์ เอลซ่ายังมาดู
“เอาน้ำไรปริ๊นซ์ สไปรท์เหมือนเดิมปะ?”
“เค”
“สไปรท์ครับ แล้วป๊อปคอร์นเอารสชีสกับเค็มผสมกัน”
จ่ายตังค์ก็ส่งป๊อปคอร์นถังใหญ่ให้เพื่อนส่วนตัวเองถือน้ำแก้วใหญ่ ยิ้มขำเพื่อนที่พยายามจะกินข้าวโพดแต่ก็ไม่ถนัด จะถือมือเดียวก็ไม่ได้
“อ้าปาก กูป้อนเอง”
“อ้า”
หยิบป๊อปคอร์นใส่ปาก คนได้กินก็ยิ้มตาหยีเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วก็อ้าปากใหม่
“มึงนี่น่าดีดจริงๆ ค่อยกินต่อในโรงนะเมีย”
“เชี่ยเสียงดัง”
คนใกล้ๆที่รอยื่นตั๋วพากันมองด้วยสายตาแปลกๆ ภาพผู้ชายตัวสูงผมยาวมีหนวดกับแว่นทรงกลมในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เดฟสีดำรองเท้าหนังและผู้ชายตัวเล็กในชุดเสื้อยืดสีฟ้ากางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีขาวรองเท้าผ้าใบสีขาว ก็เหมาะกันดี
“หึหึ น้องปริ๊นเขินไรครับบบบบ”
“ปล่อยไอ้เหี้ย โอบเอวกูทำไมเนี่ย”
ง้องแง๊งกันไปจนถึงในโรง…หนังเริ่มฉายเชอเบทก็เริ่มเอนตัวพิงไหล่เพื่อน หันหน้ามองเจ้าของไหล่บางที่จ้องหนังตาแป๋วแล้วอมยิ้ม
ก็เหมาะดีกับมัน
“ข้าวโพดหน่อย”
อ้าปากให้ปริ๊นป้อน
“อย่ามาดูดนิ้วกู!”
โวยวายเสียงเบา
“มันโดนเองเหอะ”
ไม่ถึงครึ่งเรื่องข้าวโพดก็หมด ตาเรียวก็ปรือ…หลับไปบนไหล่บาง
ปริ๊นหันมองเพื่อนที่หลับไปแล้ว เชอเบทไม่ชอบดูการ์ตูนแต่ก็มาดูด้วยทุกเรื่องแต่มากี่เรื่องก็หลับ กลับกันถ้าอีกฝ่ายอยากดูหนังที่เขาไม่ชอบก็ไม่คิดจะฝืน ไปชวนเด็กหรือกิ๊กไปแทน
สายตาที่มองไม่ออกของปริ๊นจ้องอยู่ชั่วครู่ก็เปลี่ยนกลับไปที่จอ…
ฟ้าลั่นเดินนำสาวน้อยในชุดบิกินี่สีชมพูสดใสไปตามผืนทรายสวย ลมเย็นๆพัดจนผมที่ไม่ได้เซ็ตปลิวไปตามลม ดวงตาคมใต้แว่นกันแดดมองหาโลเคชั่น
“ผึ้งร้อนมั้ย?”
หันไปถามนางแบบ
“ร้อนนนนน ฮ่าๆๆ แต่ลมเย็นดีค่ะ ผึ้งชอบ”
สาวน้อยยิ้มโชว์เหล็กดัดฟันสีชมพู ฟ้าลั่นยกมือตบหัวใต้หมวกปีกกว้างของอีกฝ่ายเบาๆ
“โอ๋ๆ ทนหน่อย อ่ะยืนตรงนี้ มุมดี”
จัดตำแหน่งให้นางแบบก็ปล่อยอีกฝ่ายโพสไปตามสะดวก ฟ้าลั่นถอดแว่นคล้องกับเสื้อกล้ามสีดำสนิทของตัวเองแล้วยกกล้องขึ้น…
แชะ
ถ่ายกันไปเรื่อยเปื่อยทั้งภาพยืน ภาพนั่ง หรือนอนบนผืนทราย และจบด้วยลงไปอยู่ในน้ำประมาณครึ่งเข่า ยิ้มสดใสก็ยังไม่ตก
ผึ้งน่ารัก
“ป่ะพอละ เดี๋ยวดำหมด”
“แบบพี่ฟ้าใช่มะๆ”
“เดี๋ยวโดน เขาเรียกสุขภาพดี”
บีบจมูกรั้นเบาๆ ก่อนมือหนาจะเลื่อนโอบเอวบางให้เดินไปด้วยกัน อีกฝ่ายก็ไม่ได้ถือตัวกลับชวนคุยเรื่อยเปื่อย…มาค้างทะเลแบบนี้ฟ้าลั่นต้องพาคนรู้งานมาด้วยอยู่แล้ว
ผึ้งเป็นตัวเลือกที่ดี น่ารัก สดใส และเอาใจเก่ง ที่สำคัญไม่เรื่องมาก
“เหนียวตัวจังเลยยย”
สาวน้อยเดินเข้ามาที่บ้านพักแล้วหันมาทำปากยื่นใส่ตากล้อง ฟ้าลั่นยกยิ้มมุมปากวางกล้องลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วเดินไปช้อนคนตัวเล็กขึ้นอุ้ม
“คิกคิก ทำอะไรคะพี่ฟ้า”
“ช่วยพาผึ้งไปส่งที่ห้องน้ำ”
“ขี่ตู่ ทำหน้าหื่นแบบนี้รู้นะคิดอะไร”
ย่นจมูก แต่สองแขนก็ยกขึ้นโอบลำคอแกร่ง
“ของแบบนี้เก็บไว้ทำกลางคืนดีกว่า เดี๋ยวไม่ได้กินข้าวพอดี”
ทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยร่างเล็กในชุดสายเดี่ยวขาสั้นจุ๊ดจู๋ถึงได้จับจูงร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นออกมาหาข้าวกิน ร้านริมชายหาดที่คนไม่ค่อยเยอะ วิวดี อากาศดี
ฟ้าลั่นยกเบียร์ขึ้นจิบมือสไลด์หน้าจอมือถือไปเรื่อยเปื่อย สะดุดเล็กน้อยกับภาพผู้ชายผมยาวในร้านไอติมที่ถ่ายเซลฟี่คู่กับเพื่อนตัวเล็ก…
เชอเบทยิ้มปกติ…แต่เป็นยิ้มที่น่ามอง
หนูก๊องอย่างปริ๊นซ์ก็ยิ้มตายิบหยี
แคปชั่น ‘พาเด็กมากินไอติม’
นิ้วกดเข้าไปดูในเฟสเชอเบท อะไรบางอย่างบอกให้กดดูที่รูปที่อีกฝ่ายเคยลง….นอกจากภาพตัวเอง ภาพวิวทิวทัศน์แล้ว คนที่อยู่ในเฟสของเชอเบทอีกคนคือปรินซ์
มันมีฝาแฝด…แต่ไม่มีรูปคู่ฝาแฝดเลย
ไม่มีครอบครัว ไม่มี
เลื่อนไปไกลแค่ไหนก็ไม่มี
มีแต่รูปปริ๊นซ์
“พี่ฟ้า พี่ฟ้าคะ?”
“หือ ผึ้งว่าไง”
“เป็นอะไรคะ อาหารไม่อร่อยหรอ คิ้วขมวดแล้วน้า”
“เปล่าๆ คิดอะไรเพลินๆ อร่อยมั้ยล่ะ?”
“อร่อยค่า พี่ฟ้าถ่ายรูปคู่กันมั้ย ผึ้งจะลงไอจี”
“ได้สิ”
ยกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายหันโทรศัพท์มาเซลฟี่ ถ่ายไปสองสามรูปให้ผึ้งได้อัปโหลดลงไอจีของตัวเองแล้วแทกมา ปล่อยให้อีกฝ่ายคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย..
เพราะในสมองยังวนเวียนไปแค่เรื่องเดียว
เชอเบทชอบปริ๊นซ์จริงหรอ?
อารมณ์ที่ไม่มั่นคงทำให้บทรักที่คิดจะดำเนินไปกับสาวน้อยถึงกับชะงักเมื่อภาพคู่ของอีกฝ่ายวาบขึ้นมาในหัวจนเผลอขบผิวเนียนแรงๆ
“พี่ฟ้า ผึ้งเจ็บ…”
“พี่ขอโทษนะผึ้ง…เดี๋ยวพี่มา”
ดึงผ้าห่มคลุมร่างบาง ดึงถุงยางที่พึ่งแกะแต่ยังไม่ใช่โยนทิ้งถังขยะใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมาที่ริมทะเล อารมณ์กรุ่นๆในอกมันยังไม่หมดตั้งแต่เย็น
“เชี่ยเอ้ยยยยยยยยยย”
เตะทรายระบายอารมณ์ก่อนจะทึ้งหัวตัวเองแรงๆ
ทำไมต้องหงุดหงิดขนาดนี้วะ?? รู้จักกันก็แค่อาทิตย์เดียวทำไมต้องขนาดนี้ ทำไมต้องอยากไปถามมันให้รู้เรื่องว่าความจริงคืออะไรกันแน่
ถ้าโทรไปตอนนี้มันจะยังอยู่กับปริ๊นซ์หรือเปล่า?
ไหนว่ากลัวเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ไปนอนบ้านมัน แล้วทำไมไม่ติดต่อ ไม่ไลน์หา ไม่โทร ไม่เฟส มีทุกอย่างทำไมไม่ติดต่อวะ หรือเพราะมีปริ๊นซ์แล้ว
พาลไปทุกอย่าง…
ไม่สนว่าจะเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่า ฟ้าลั่นกดโทรหา ‘SB’ ในโทรศัพท์
สายแรกไม่รับ….แต่ก็ยังโทรอีกจนรอบที่สาม
“กี่โมงแล้วไอ้เหี้ย”
เสียงแหบที่คุ้นเคยส่งเสียงรำคาญมาตามสาย
“เชอ ทำอะไรอยู่”
อยากถาม…แต่คำพูดที่หลุดออกมาก็แค่นั้น
“….มึงมีไร”
“มึงทำอะไร”
ความรู้สึกมันบอก เซนส์หรืออะไรก็ตาม…เชอเบทไม่ได้นอนและไม่ได้อยู่คนเดียว
“ก็…อะไรล่ะวะ?”
“อยู่กับใคร”
“….”
“มึงกำลังทำอะไรและกับใคร?”
“ฟ้า…กูต้องตอบคำถามมึงด้วยหรอ”
“ตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบล่ะ?”
“กูก็คงทำแบบที่มึงทำกับน้องนางแบบมึงที่ทะเลอ่ะ”
“เชอ…คุยกับใคร”
เสียงลอดมาตามสาย….แต่จับไม่ได้ว่าเสียงใคร
“แปปนะ”
เสียงอีกฝ่ายเดินไปเปิดประตู คงออกจากห้องนั้นไปคุยที่อื่น ฟ้าลั่นขยี้หัวแรงๆทำไมต้องหงุดหงิดกว่าเดิม จริงๆเขาไม่มีสิทธิ์เลยด้วยซ้ำที่จะโทรมาถาม มาโวยวายกับอีกฝ่ายแบบนี้
“อ่ะฟ้า มึงว่ามาครับ มึงหงุดหงิดอะไร เป็นเหี้ยไร โทรมาโวยวายถามกูอยู่กับใครเอาตอนจะตีหนึ่งเนี่ย เมาปะวะ หรือหญิงไม่เด็ด”
ถามกลั้วหัวเราะมาตามสาย
“เออ ไม่เด็ด”
“หึหึ…สมน้ำหน้า เชี่ยเอ้ยอยากดูดหรี่”
“มึงเอากับใครอยู่รึไง?”
“ห้ะ อะไรนะ?”
“มึงกับเด็กมึง เอากันอยู่หรอ?”
“….”
เงียบ
เคยมีคนบอกว่าการเงียบคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ร่างสูงถอนหายใจยาวก่อนจะเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบนี้เอง
“เอ้ออออ ก็กำลังจะเริ่มมึงก็โทรมาพอดี”
ได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสาย…
“อือ…”
เงียบทั้งคู่
“กลับพรุ่งนี้หรอ”
เชอเบทถามทำลายความเงียบ
“อ่าห้ะ อยากได้ไรมั้ยล่ะ?”
“ไม่รู้ดิ ไม่ได้ไปทะเลนานแล้ว”
“อาหารทะเลเป็นไง”
“กูกินไม่ค่อยเป็นหรอก”
“เออเชื่อ”
ขนาดไปกินอาหารญี่ปุ่นยังเลือกแล้วเลือกอีก เชอเบทคนกินยาก
“แล้วสนุกมั้ยทะเล?”
“ก็งั้นๆ”
“นางแบบสวยดีนี่ เห็นแทกกันในเฟส น้องผึ้งอย่างขาวเลย”
“ขาวเท่าคนที่อยู่กับมึงมั้ยล่ะ หึหึ”
“ไม่ค่อยว่ะ หึหึ”
หัวเราะอารมณ์ดีมาตามสาย…
“เชอ”
“หือ”
“ที่มึงเคยบอกเป็นพ่อสื่อให้เพื่อน นี่ปริ๊นซ์หรือเปล่า?”
“ก็ใช่ ทำไมอ่ะ อย่าบอกนะชอบปริ๊นซ์ของกู กูเคยถามปริ๊นซ์ว่าชอบมึงมั้ยมันบอกไม่ชอบว่ะ กูเลยไปติดต่อคนอื่นแล้วอ่ะ”
“แล้วมึงเคยเอากับมันปะวะ?”
“เป็นเพื่อนกันเอากันไม่ได้หรอวะ” ……
เหมือนหายใจติดขัด จะโวยวายก็ไม่ได้ จะพูดอะไรก็ไม่ได้เพราะสถานะตัวเองก็เป็นแค่เพื่อนที่มีอะไรกับเพื่อนเหมือนกัน
“มึงนี่เห็นกูเป็นคนยังไงวะฟ้า”
“แล้วมึงทำปะล่ะ”
“….ก็แบบไงอ่ะ ก็เคยจูบเฉยๆ แบบเฟรนด์ๆ”
“friend-kiss?”
“เออ ที่เมกากูก็จูบกับเพื่อนบ่อยไป บางทีก็กูอยากจูบไม่มีใครให้จูบ มีปริ๊นซ์อยู่กับกูคนเดียวไม่ให้จูบมันกูจะไปจูบใครวะ”
ตรรกะของเชอเบท…เหี้ยที่สุดในความรู้สึกฟ้าลั่น
“มึงเคยอยากได้เพื่อนเป็นแฟนมั้ย”
ถามแม่งไปตรงๆเลย อ้อมไปอ้อมมาดูมันก็ไม่รู้เรื่องสักนิดว่าตัวเองทำบ้าอะไร
“เพื่อนนี่หมายถึงมัน หรือหมายถึงเพื่อนคนไหนก็ได้”
“รวมๆ”
“ก็ case by case มั้ง”
“ชอบมันหรือเปล่า ปริ๊นซ์ของมึง”
“ชอบดิ”
“แล้วทำไมไม่คบไปเลยล่ะวะ”
“ก็กูไม่อยากมีแฟน แล้วมันก็ไม่ได้ชอบกูแล้ว”
เหมือนมีเสียงแก้วแตก…ไม่ได้ชอบแล้ว? นี่หมายถึงว่าเคยชอบหรือเปล่า?
“ไม่ชอบแล้วให้จูบทำไม”
“ก็เฟรนด์คิสไง”
ยิ่งคุยยิ่งวน ยิ่งวนยิ่งคุย
“อยากเจอมึงว่ะ”
เอาความอะไรไม่ได้…ก็ได้แต่บอกคิดถึง ปลายสายเงียบก่อนจะหัวเราะออกมา
“ไปกับสาวเสือกคิดถึงกูหรอฟ้า”
“ผลกระทบจากการตัวติดกับมึงหลายวัน”
ยิ้มกับคำพูดตัวเอง ขายาวพาตัวเองเดินเลาะริมหาดมืดๆไปเรื่อยเปื่อย
“ก็มาหา…”
เสียงแผ่วจากเชอเบทแต่ได้ยินชัดเจน
“คิดถึงพี่ฟ้าหรือเปล่าน้องเชอ”
“จะให้เชอบอกคิดถึงทั้งๆที่เชอกำลังจะเอาเด็กหรอพี่ฟ้า”
“ตัดองค์ประกอบรอบข้างออกไปดิวะ”
“ก็…มาหาดิ พรุ่งนี้อยู่บ้าน”
“แล้วคืนนี้ล่ะครับ”
“ก็กกเด็กแบบที่พี่ฟ้ากกหญิง วินวิน”
“ฟังเสียงน้องเชอก็กลับไปกกหญิงไม่ไหวแล้ว พี่อยากกลับไปกกน้องเชอ”
“พี่ฟ้าไร้น้ำยาก็แบบนี้ แค่นี้นะกูจะไปสวีท ไม่ต้องโทรมาขัดเลยสัส”
ฟ้าลั่นมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดก่อนหลุดหัวเราะ
…เชอเบทก็คือเชอเบท บอกคิดถึงแล้วยังกลับไปต่อกับเด็กได้นี่มันหาคำบรรยายไม่ถูกเลย ก็คงต้องยอมให้มันทำของมันต่อ เหมือนที่เขาก็ต้องกลับไปหาผึ้งแต่คงไม่มีกระจิดกระใจทำอะไร ใจมันอยู่ที่กรุงเทพซะแล้ว
“เชอมีไรหรอ”
หนุ่มน้อยตัวเล็กนั่งตาแป๋วอยู่บนเตียงเอ่ยถามเมื่อคนผมยาวในร่างเปลือยเปล่าเดินเข้ามาจากระเบียง เสื้อผ้าไม่มีสักชิ้นเหมือนกันแต่เพราะมันมืดแล้วจึงไม่ต้องกลัวใครเห็น
“เปล่า…ไม่มีอะไร เพื่อนโทรมาน่ะ…”
ปิดประตูระเบียงเดินกลับไปนั่งที่เดิม ตรงหน้าอาโป….เด็กผู้ชายที่กัดผมจนเป็นสีทองซีด ตัวขาวเนียน…และเสียงครางน่าฟัง
“ต่อมั้ย…”
หลบตา…แต่ก็ยกมือโอบคอคนผมยาวช้าๆ
“หึหึ อ่อยหรอ”
“เปล่านะ อื้อ…”
ครางประท้วงแต่ก็ยอมให้จูบ…จูบเหมือนที่เคยจูบ ก่อนเชอเบทจะเป็นฝ่ายผละออกเอง
“คืนนี้คงไม่ได้ละ เดี๋ยวเชอกลับบ้าน”
“หือ เวลานี้เนี่ยนะ…ปกติก็ค้าง”
เสียงหวานครางประท้วง คลอเคลียกับเชอเบทไม่ห่าง แต่เชอเบทกลับผละออกอย่างนุ่มนวล
“ก็…ต้องทำงานน่ะ ที่เพื่อนโทรตาม”
อ้างไปเรื่อย…ไม่รู้ทำไมพอได้ยินเสียงฟ้าลั่นก็เริ่มไม่อยากทำอะไร ทั้งๆที่ตลอดวันไปใช้ชีวิตกับปริ๊นซ์ก็ไม่ได้นึกถึงแต่พอได้คุย…มันก็อยากเจอ
สงสัยจะเหมือนที่ฟ้าลั่นพูด….’ผลกระทบจากการตัวติดกับมึงหลายวัน’
================================================
ความหวานในความระแวง(ของคนอ่าน) 55555555
สงสารพี่ฟ้า
#ทีมฟ้าลั่น ค่ะ 5555 +
มีใครทีมพี่ฟ้าเหมือนเราบ้างนะ
==================================================
ประกาศๆ ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ กรุณานั่งประจำที่ รัดเข็มขัดให้เรียบร้อย ปรับเบาะให้ตรง.... ปิดสัญญาณโทรศัพท์