Special Valentine
วันนี้คิงส์คลับวุ่นวายเหมือนทุกวัน
แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือหน้าประตูชั้นหนึ่งตอนนี้ ‘ควีน’ กำลังยืนลับๆ ล่อๆ ส่อพิรุธอย่างชัดเจน คล้ายพยายาม...เลี่ยงกล้องวงจรปิด
“จะไปไหนเหรอครับควีน”
“ไปข้างนอกน่ะพี่เอก” ควีนหันมายิ้มแห้ง แต่ท่าทางติดจะร้อนรนหน่อยๆ
“ไปคนเดียวเหรอครับ” ผมคิ้วขมวด หากปล่อยให้ควีนเดินออกจากคลับคนเดียวเอาตอนเที่ยงคืนคงถือเป็นความสะเพร่าขั้นสูงสุดของอัศวินอย่างผมแล้ว แต่จะให้ทิ้งตำแหน่งก็ไม่ถูกต้อง ผมเลยสอดสายตามองหาคนแทนที่ อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่วางใจ ช่วยคุมสถานการณ์ยามอัศวินชั้นหนึ่งไม่อยู่หลายชั่วโมง
“ไปกับพี่นั่นแหละ”
ควีนยิ้มเผล่ แลเจ้าเล่ห์ระคนรู้ทัน
“แค่สิบนาทีเองพี่เอก ให้เบี้ยช่วยเฝ้าก่อนก็ได้ ไม่นานหรอก”
สิบนาที?ผมฉงน นึกสงสัยว่าสิบนาทีควีนจะเดินไปไหนได้เพราะแค่อ้อมจากทางเข้าด้านหลังคลับไปถนนใหญ่ข้างหน้าก็ครบเวลาแล้ว
ถ้าเป็นคนอื่นอาจสอบถามเพิ่มเติม แต่ผมไม่ใช่คนเซ้าซี้ แม้จะสงสัยแต่ก็เชื่อใจว่าควีนคงไม่หาเรื่องใส่ตัวให้ทางคลับเดือดร้อน เลยพยักหน้ารับหนึ่งครั้งแล้วหันไปเรียกเบี้ยใกล้ตัวซึ่งพอรู้หน้าที่ดีเพื่อออกคำสั่ง
“ขอบคุณนะพี่เอก”
“ไม่เป็นไรหรอกครับควีน ว่าแต่...บอกบอสแล้วใช่มั้ย”
ควีนหันมายิ้มเป็นความนัย...ชัดเลยว่าต้องปิดเป็นความลับกับบอสแน่ๆ!
ผมลอบปาดเหงื่อ ภาวนาว่าขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้น ไม่งั้นคนที่จะซวยสุดก็คือผมเนี่ยล่ะ!
“แค่ไปตรงหน้าผับเองพี่” ควีนพยายามพูดให้ผมเบาใจหลังเดินออกมาด้วยกัน เขารู้สถานะตัวเองดีว่าการเดินดุ่มๆ คนเดียวนั้นสุ่มเสี่ยงขนาดไหน คิงส์คลับมีศัตรูเยอะ โดยเฉพาะบอสหรือคนรักของบอส ควีนนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ราชาไร้พ่ายนั้นน่าท้าทายใช่น้อย แถมยังหลายคนผูกใจเจ็บ ชอบลอบกัดลับหลังหาโอกาสเล่นงานตลอด น่าเสียดายเพราะบอสระวังตัวดี ควีนเองก็เช่นกัน เวลาอยู่ในคลับทั้งคู่จะพยายามไม่ออกไปไหน ถ้าจำเป็นต้องไปก็จะไม่ทิ้งใครอีกคนไว้คนเดียว หรือมีคนคอยคุ้มกันตลอด แต่ตอนนี้...
“พี่เอกเก่งจะตาย แถมยังเป็นคนดีด้วย ไม่งั้นผมไม่ให้ไอ้ชายมาฝึกกับพี่หรอก”
ควีนคงไม่คิดว่าชมแล้วผมจะตัวลอยและผ่อนความตึงเครียดลงหรอกนะ...ผมเหงื่อแตกซิกๆ เลยเนี่ย!
“ควีนนัดใครไว้เหรอครับ”
“พี่เอกฉลาดชะมัด!”
ผมเพียงยิ้มบางอย่างไม่ยินดียินร้าย เชื่อว่าถ้าเปลี่ยนเป็นกรหรือแว่น บิชอปทั้งสองคงจะเดาจุดประสงค์ของควีนได้เหมือนกัน ชักชวนอัศวินไปหน้าผับ ใช้เวลาแค่สิบนาที ถ้าไม่นัดคนไว้แล้วจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ นึกอยากรำโยคะหน้าถนนก็คงไม่ใช่ แถมคนคนนั้นจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับคิงส์คลับ ไม่งั้นคงไม่ต้องเสี่ยงเดินออกมาเองขนาดนี้
“พี่เอกรู้มั้ยว่าวันนี้เป็นวันอะไร”
“วันอังคารครับ”
“อ้าวพี่เอก ผมนึกว่าพี่เป็นคนโรแมนติกซะอีก ไหงเป็นงี้ล่ะ”
...จู่ๆ ก็โดนด่า ผมแสนจะไม่เข้าใจควีนเลย
“วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์! สิบสี่กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ไงพี่!” ควีนย้ำคำหนักแน่น ทำให้ผมเพิ่งมาย้อนนึกได้ว่า...อืม...ประเทศเราก็มีเทศกาลแห่งความรักด้วยสินะ ปกติผมเป็นคนลอยชายไม่ค่อยสนใจอะไร เห็นวันพวกนี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ตอนนี้...ผมมีแฟนแล้ว
พอนึกถึงหน้าคนรักที่ป่านนี้คงกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดรออยู่บนเตียงก็ส่ายหัว ไม่ไหวๆ ปีนี้นายอายุสี่สิบสองเข้าไปแล้ว จะมาทำเซอร์ไพรส์แบบวัยรุ่นโคตรจะไม่เข้ากับคู่เราเลย
ขนาดพวกวันครบรอบ หรือวันเกิดที่ถือเป็นวันพิเศษ พวกเราก็ไม่ได้นับเป็นจริงเป็นจังนัก อย่างมากก็ซื้อของขวัญให้ แล้วออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เป็นอันจบวันแบบง่ายๆ สบายๆ
“ควีนสั่งของให้บอสหรือครับ”
“ใช่!”
เทียบกับคู่ของควีนกับบอสแล้ว...แม้จะคบกันนานกว่าผม แต่ก็ขยันกันทำเซอร์ไพรส์ตลอด
“ผมเลยต้องเลือกพี่เอกไง พี่เอกน่ะทั้งเก่งและฉลาดพูด ถ้าถูกดักทำร้ายพี่ก็จัดการได้ และไม่ล้อผมเหมือนไอ้เบอร์หนึ่งด้วย!”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก หากผมเป็นอัศวินที่มีสมอง กรหรือเบอร์หนึ่ง ก็นับเป็นบิชอปที่ใช้กำลังได้ พวกเราสามารถแทนตำแหน่งทุกเมื่อแต่ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเวลามีเหตุจำเป็นเท่านั้น เพราะผมไม่ได้ฉลาดแกมโกงเท่ากร ส่วนกรก็ไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อได้นานเท่าผม
ตอนแรกนึกสงสัยอยู่หรอกว่าทำไมควีนถึงเลือกผมที่มีหน้าที่เฝ้าประตูคลับทั้งที่ผับก็ปิดแล้ว บิชอปคนโปรดอย่างกรเลยว่างงาน ไม่จำเป็นต้องมาเบียดเบียนผมสักนิด
ซึ่งผมได้คำตอบแล้ว
...ที่แท้ก็ไม่อยากโดนล้อไม่รู้ว่าอยู่กับคนแก่มากไปรึเปล่า ช่วงหลังมานี้ผมถึงมักปลงตกได้เร็ว
“แล้วควีนสั่งอะไรมาเหรอครับ” ผมถามพลางกวาดตาสำรวจโดยรอบหลังเดินออกจากซอยข้างคลับมาถึงหน้าผับซึ่งติดชิดติดริมถนนพอดี ผมยืนเยื้องขวางอยู่ข้างหน้าควีน ป้องกันหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน “ช็อกโกแลต?”
“คิงไม่ชอบกินขนม” ควีนยักไหล่ “ผมเลยสั่งดอกกุหลาบมา ช่อใหญ่ขนาดนั้นจะแอบไม่ให้มันเห็นก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะพี่ แถมต้องระวังไม่ให้ดอกไม้ช้ำหรือเหี่ยวก่อนถึงเวลาอีก ผมเลยต้องลำบากมารอรับเองนี่ไง”
บอสกับช่อดอกกุหลาบ...ถ้าเป็นฝ่ายให้ควีนก็ถือว่าพอไหว แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูกให้นี่นึกภาพไม่ออกเลยครับ
“เดี๋ยวนี้มีบริการมาส่งตอนเที่ยงคืนด้วยเหรอครับ”
“ถ้าได้เงินเพิ่มก็ยอมทั้งนั้นแหละพี่” ควีนยิ้มแสยะ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ ผมก็ขยับตัวกะทันหัน กระชากแขนเขาให้ผละหลบไปอีกทางพร้อมกับตวัดเท้าเตะใส่ใครบางคนที่จู่ๆ ก็พุ่งตัวมาจากซอยทางด้านหลังของคลับ
“ผมเองพี่เอก เบาหน่อยครับ เบาหน่อย!!”
“เบอร์หนึ่ง!” ควีนตะโกนเรียกชื่อคนที่แอบจู่โจมไม่ทันตั้งตัว “ย่องเข้ามาทำบ้าอะไร หัวใจกูเกือบวาย”
“ผมก็เกือบโดนพี่เอกเตะก้านคอตายเหมือนกันนะครับควีน” กรลูบอกอย่างโล่งใจ เพราะถ้าเขาไม่แสดงตัว ผมอาจจะปล่อยหมัดต่อเนื่องกะน็อกสลบภายในยกเดียวแบบไม่เว้นจังหวะให้ตั้งตัว
“สมน้ำหน้า” ควีนเยาะเย้ยด้วยสีหน้าสะใจสุดขีด
“แล้วพวกพี่มาทำอะไรตรงนี้ครับ” เบอร์หนึ่งถามหลังยกมือไหว้เป็นเชิงขอโทษขอโพยผมที่ทำให้ตกใจ
“มึงนั่นแหละมาทำอะไร”
“ควีนตอบก่อนสิ”
“มึงนั่นแหละ”
“ควีนนั่นแหละ”
“ไอ้เบอร์หนึ่ง!”
“ผมถามก่อนนะครับควีน”
“แต่กูคือควีน มึงต้องตอบกูก่อนสิวะ!”
เห็นทั้งคู่ใกล้จะวางมวยกันรอมร่อ ผมเลยรีบยกมือแทรกกลางก่อนที่เจ้านายกับลูกน้องจะทะเลาะกันเอง มันน่าแปลกเพราะแม้กรจะขี้เล่นไปบ้างแต่ก็ไม่เคยเล่นเลยเถิดจนทำให้ควีนนึกฉุน ท่าทางส่อพิรุธแบบนี้มีอยู่อย่างเดียว...
“บอสสั่งมาเหรอกร”
“พี่เอกรู้ได้ไง” กรมองผมอึ้งๆ พอโดนเปิดโปงก็ถอนหายใจเฮือก ยอมสารภาพแต่โดยดี “ครับ บอสเป็นคนสั่งผมเอง เรื่องนี้เป็นความลับระดับชาติ ซึ่งผมจะให้ควีนรู้ไม่ได้ เมื่อกี้ก็เลยตั้งใจยั่วโมโหควีนให้กลับเข้าคลับไปก่อน ที่ลงมือตอนแรกนั่นก็ใช่...ควีนนั่นแหละ ทำไมมายืนตรงนี้ล่ะครับ”
“กูก็มีความลับระดับชาติเหมือนกัน” ควีนกอดอกเชิดหน้า “และในเมื่อกูมาก่อนมึงก็ควรจะเป็นฝ่ายหันหลังกลับไปซะ”
“ได้ไงล่ะควีน บอสสั่งผมมานะ”
“มันคงสั่งของมาเซอร์ไพรส์กูในวันวาเลนไทน์น่ะสิ หึหึ ดีเลย เดี๋ยวกูจะรับเอง” ควีนฉีกยิ้มชั่วร้าย “มึงหมดหน้าที่แล้ว ไปไกลๆ เลยเบอร์หนึ่ง ชิ้วๆ”
“ขืนกลับไปตัวเปล่ามีหวังผมโดนบอสด่าเปิง” กรปักหลักไม่ยอมขยับ “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วยืนรอรับแล้วกลับไปด้วยกันทั้งหมดแล้วกันครับ”
“ก็ได้” ควีนตกลง คงเพราะชั่งใจคิดแล้วว่าการให้กรกลับไปก่อนนั้นจะทำให้แผนแตกเปล่าๆ ทุกคนในคลับกว่าครึ่งล้วนรู้ดีว่าบิชอปที่อายุน้อยที่สุดคนนี้เจ้าเล่ห์ขนาดไหน
“ควีนโทรตามหน่อยมั้ยครับ” ผมพูดแทรกเมื่อเห็นว่าจะเกินสิบนาทีอยู่แล้ว
“แหน่ะ ควีนสั่งอะไรให้บอสน่ะ”
“เงียบปากไปเลยไอ้เบอร์หนึ่ง” ควีนชี้นิ้วอย่างเอาเรื่องขณะกดโทรออก แต่ปลายสายไม่ทันรับมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็จอดตรงหน้าพวกเราพอดี
“คุณนิลกาฬนะครับ”
“ครับ”
“ขอโทษที่มาช้านะครับ พอดีมีคนสั่งเพิ่มกะทันหันเลยต้องเสียเวลาจัดช่อใหม่แล้วมาส่งพร้อมกัน”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ” ควีนยิ้มรับอย่างไม่ถือสาก่อนจะยื่นมือรับช่อดอกกุหลาบมาถือ สีหน้าดูอิ่มอกอิ่มใจแกมตื่นเต้นที่จะได้เซอร์ไพรส์บอส
แต่คนส่งยังไม่ไปไหน
“คุณกรกวรรษอยู่ด้วยรึเปล่าครับ”
“ใครวะชื่อแปลกฉิบ”
“...ผมเองครับ” กรขานรับหน้าเจื่อน แม้ควีนจะจำชื่อลูกน้องในคลับได้ทุกคน แต่ไม่รู้ทำไมถึงจำชื่อบิชอปคนสนิทไม่ได้สักที สงสัยจะเรียกเบอร์หนึ่งจนเคยตัว แต่ผมก็ยอมรับนะ...ว่าเทียบกับเอกภพ...ชื่อจริงของผมแล้ว ชื่อจริงกรน่ะเป็นอะไรที่จำยากกว่ามาก
“นี่ครับช่อดอกไม้ที่สั่งไว้ เพิ่งจัดให้เมื่อครู่เลย ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ”
ณ วินาทีนั้นเกิดเดดแอร์
พวกเราต่างยืนนิ่งจนกระทั่งคนส่งดอกไม้ขับมอเตอร์ไซค์จากไปไม่เห็นฝุ่น ถึงค่อยตั้งสติได้
“...ไอ้คิงให้มึงมารับดอกไม้เหรอ” ควีนถามขึ้นมาก่อน
“แล้วความลับที่ควีนบอกคือจะให้ดอกไม้กับบอสเหรอครับ...” กรเอ่ยต่อเสียงเบาปานกระซิบ สถานการณ์กระอักกระอ่วนสุดขีด คนสองคนตั้งใจทำเซอร์ไพรส์ให้กัน แต่ดันสั่งของเหมือนกัน แถมยังมาจากเจ้าเดียวกันอีกต่างหาก
ขนาดจัดช่อยังเหมือนกันเป๊ะ!
ควีนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่ดันคิดตรงกับบอส
“กลับคลับเถอะครับ” ผมเรียกสติทั้งคู่ เพราะไม่อยากยืนเป็นเป้าล่อตรงนี้นาน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มจับสังเกตแล้วเพราะคนถือดอกไม้ช่อใหญ่สองคนอยู่ข้างถนนมันเด่นใช่ย่อย
“ไอ้คิงนะไอ้คิง” ควีนก้มมองช่อดอกไม้พลางพึมพำไปมา ผมเห็นแล้วจะขำก็ขำไม่ออก ได้แต่เดินตามหลังคอยระวังให้เขา “เอ้า พี่เอก”
ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อจู่ๆ ควีนก็ดึงดอกกุหลาบในมือให้ผมหนึ่งดอก
“อะไรเหรอครับ”
“วันแห่งความรักทั้งทีพี่ก็เอาไปให้นายสักหน่อยสิ”
“ไม่ต้องหรอกครับควีน คุณตั้งใจจะให้บอสนี่นา”
“แค่ดอกเดียวเอง” ควีนว่าพลางพยักพเยิดไปทางช่อดอกไม้ที่กรถืออยู่ “ยังมีสำรองอีกตั้งเยอะ”
“ขอบคุณครับ” ผมได้แต่บอกขอบคุณเพราะถ้าควีนอยากให้ยังไงก็คงพูดกล่อมจนผมต้องรับมาอยู่ดี
“เอาน่าพี่เอก ถือว่าเติมความหวานไง นานครั้งก็เร้าใจดีออก อ๊ะ ถึงคลับแล้ว...ไอ้เบอร์หนึ่ง ส่งนั่นมาดิ๊”
“แต่ผมต้องเอาไปให้บอสนะ”
ถ้าเป็นคำสั่งของบอส กรมักจะทำตามอย่างตั้งใจไม่ยอมให้ขาดตกบกพร่อง
“มึงเป็นแฟนมันรึไงถึงจะเอาดอกกุหลาบไปให้ ส่งมา กูจัดการเอง”
มองควีนที่ถือช่อดอกไม้สองช่อใหญ่เดินเข้าไปในคลับ ผมก็ได้แต่ปิดประตูตามหลังและยืนประจำตำแหน่งเหมือนเดิม ส่วนดอกกุหลาบที่ควีนให้นั้นผมปักไว้ตรงอกซ้าย เก็บรักษากับตัวเพราะไม่อยากฝากคนอื่นดูแล
“ไปไหนน่ะกร”
ผมถามบิชอปที่ทำท่าจะย่องตามหลังควีนขึ้นชั้นสอง
“...เดินเล่นครับ”
“ไม่ต้องแอบดูควีนกับบอสหรอก มาอยู่กับพี่ที่ชั้นหนึ่งนี่”
“ผมเปล่าสักหน่อย”
ถ้าหลงเชื่อบิชอปที่ทำหน้าใสซื่ออย่างกับกระต่ายไร้พิษภัยผมก็โง่แล้ว
“มานี่”
ด้วยความอาวุโสกว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านอายุหรือประสบการณ์ทำงานของผมที่มากกว่ากร ทำให้แม้บิชอปกับอัศวินจะมีตำแหน่งเท่ากันในคลับ แต่กรก็ต้องเชื่อฟังคำของผมอยู่ดี
เห็นแก่ควีนที่อยากเติมความหวานให้ผมกับนายหรอกนะถึงยอมยื่นมือช่วย ไม่งั้นผมคงทำเป็นมองไม่เห็น ไม่สนใจอะไรเหมือนเดิมเพราะถือว่าอยู่นอกเหนือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ว่าแล้วก็เผลอจับกุหลาบสีแดงตรงอกแล้วลอบยิ้ม
นายจะว่ายังไงบ้างนะผมชักอยากกลับบ้านเร็วๆ แล้วสิ
ชีวิตคู่ของผมกับนายค่อนข้างราบเรียบ ถ้าให้เปรียบเปรย คงเหมือนคู่แต่งงานที่อยู่ด้วยกันมากกว่าสิบปี เหมือนห่างเหินแต่ไม่เย็นชา เหมือนจะไม่ใส่ใจแต่รู้ใจกัน เหมือนจะไม่หวานแต่ยังคงรัก ถึงจะไม่ติดต่อกันบ่อยๆ แต่ก็ห่วงใยเสมอ
ผมถึงคอนโดตอนตีสามย่างตีสี่ ถือดอกกุหลาบที่เฝ้าถนอมกะเซอร์ไพรส์เขา
แต่ในห้องปิดไฟสนิท
สงสัยวันนี้เขาจะหลับไปก่อนแล้ว
ด้วยเวลาที่ไม่ตรงกัน ทำให้พวกเราสองคนต้องพยายามมากกว่าคู่รักทั่วไป ตอนเช้าผมจะตื่นมาทำกับข้าวและส่งเขาไปทำงานก่อนจะนอนพักผ่อน ตอนเย็นก็ขับรถไปรับ หรือบางทีก็รอเขากลับมาแล้วทานข้าวเย็นด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นตาผมไปทำงาน
ถ้านายมีงานติดพันจากบริษัท เขาจะใช้เวลาช่วงกลางคืนทำงานรอผมบนเตียง บางครั้งก็ดูหนัง ดูโทรทัศน์ฆ่าเวลา แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยหนัก ก็มักจะปิดไฟนอนไปก่อนเป็นสัญญาณว่าวันนี้ ‘งด’
เหมือนจะลำบาก แต่เมื่อทำเป็นประจำแล้วก็กลายเป็นความเคยชิน
ผมเดินย่องเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำโดยระวังไม่ให้นายรู้สึกตัวตื่น ส่วนดอกกุหลาบก็ปักไว้ในแก้วน้ำตรงอ่างล่างหน้า หวังว่าพรุ่งนี้เขาจะเห็นก็แล้วกัน...แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ได้ให้กับมือ แต่ผมเองก็ไม่ใช่คนโรแมนติก ไม่ชอบความยุ่งยากมากเรื่อง ถ้าทำซึ้งมากไปคนปากแข็งอย่างนายจะยิ่งโวยวายแก้เก้อให้นึกขำมากกว่า
แต่แล้วก็ผิดแผนอย่างจัง
ใครจะนึกว่าจู่ๆ นายที่นอนหลับไปแล้วจะรู้สึกตัวตื่นเอากลางดึกแล้วลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกันล่ะ!
“กลับมาแล้วเหรอ...” นายเอ่ยเสียงงัวเงีย ทำตาปรือขณะควักน้องชายออกมาอวดโฉมเพื่อทำธุระเบา
“กลับมาแล้วครับ” ผมตอบด้วยสภาพเปียกโชก ระหว่างเราสองคนมีตู้กระจกขวางกั้นเพราะผมยังอาบน้ำไม่เสร็จ ฟองฟ่อดไปทั้งหัว
“อืม...” นายขานรับในลำคอ เหมือนยังตื่นไม่เต็มตานัก คนแก่ความดันต่ำอย่างเขาเวลาฝืนลุกมักจะมึนๆ งงๆ เสมอ ถ้าแหย่ผิดจังหวะก็อาจจะโดนเหวี่ยงใส่โดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าคล้อยตามให้เขาคงอารมณ์ง่วงงุนไม่ฉุนเฉียวได้จะเป็นอะไรที่น่ารักมาก
ผมลุ้นแทบตายตอนเห็นนายเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้า เขาเป็นคนรักสะอาด หลังทำธุระส่วนตัวต้องล้างมือล้างสบู่อย่างดีเป็นประจำ
“หืม...” แล้วคนแก่ตาปรือก็สังเกตเห็นของแปลกตาที่ประดับอยู่ตรงนั้น ดอกกุหลาบสีแดงโดดเด่น ตัดกับห้องน้ำโทนขาวสะอาดตาโดยสิ้นเชิง “นี่มันอะไร”
“ดอกกุหลาบไงครับ” ผมตอบตามจริง รอดูปฏิกิริยาจากคนรักที่พยายามถ่างตาให้เห็นชัดมากขึ้น
“แกเอามาเหรอ”
“ครับ” ผมตอบขณะอาบน้ำล้างตัวไปด้วย
“เอามาทำไม” นายถาม เขาดูมึนงงมากจริงๆ จนผมอยากจะเข้าไปกอดซะเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ติดว่าจะโดนคนแก่อาละวาด โทษฐานเอาตัวเปียกๆ ไปแนบทำให้เขาพลอยเปียกโชกไปด้วย
“วันนี้วันวาเลนไทน์ไงครับ” พูดเองก็รู้สึกกระดากยังไงไม่รู้ ปกติผมกับนายไม่เคยทำเซอร์ไพรส์ให้กัน การเอาดอกกุหลาบมาวางเลยทำให้บรรยากาศค่อนไปทางสับสนมากกว่าตื่นเต้นดีใจ
“ไม่ยักรู้ว่าแกชอบอะไรแบบนี้”
นายเหมือนจะตื่นเต็มตาแล้ว เลยหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาดูเหมือนพิจารณาว่าผมเล่นอะไรแผลงๆ รึเปล่า แน่นอนว่าไม่ ผมจะไปทำอย่างนั้นทำไมล่ะ
“แล้วคุณชอบมั้ย” ผมถามขณะเดินออกจากตู้กระจก ดึงผ้าเช็ดตัวตรงราวพาดมาพันรอบเอว
“ก็ดี” นายวางดอกกุหลาบใส่แก้วน้ำเหมือนเดิมคล้ายหมดความสนใจ “ฉันไปนอนล่ะ”
“เดี๋ยวสิคุณ” ผมยืนขวางหน้าประตูทั้งตัวเปียกๆ นายเลยถอยหลังกลับ ทำหน้าขยะแขยงไม่อยากเข้าใกล้
“เช็ดให้มันดีๆ หน่อย แล้วอย่าทำพื้นเลอะสิ ถ้าฉันหกล้มหัวฟาดพื้นจะทำยังไง!”
โวยวายเสียงดังฟังชัดแบบนี้แสดงว่าหายง่วงแล้วแน่นอน
“วันนี้วันวาเลนไทน์นะคุณ ไม่มีของขวัญอะไรให้ผมหน่อยเหรอ ขนาดผมยังมีดอกกุหลาบให้เลย”
“แค่ดอกเดียวน่ะนะ” นายแค่นหัวเราะ “ถ้าชอบนักพรุ่งนี้ฉันสั่งให้แกทั้งสวนก็ยังได้”
เจ้านายสายเปย์ ได้ทีก็ข่มผมใหญ่
“ผมอยากได้อย่างอื่นมากกว่า”
“อะไร” นายทำหน้าไม่ไว้ใจเมื่อผมเดินเข้าใกล้มากขึ้น คนกลัวเปียกอย่างเขาเลยยิ่งถอยหลังจนชิดขอบอ่างล้างหน้า “เอก ฉันไม่เล่นกับแกนะ จะคุยอะไรก็ไปเช็ดหัวให้มันดีๆ ก่อน”
ผมยิ้มบางขณะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดหัวแล้วคล้องรอบลำคอ
“ออนท็อปผมหน่อย”
นายมองผมตาถลน อ้าปากหมายจะตวาดด่า แต่ก็ถูกผมปิดปากด้วยปากซะก่อน
“เอก!”
ทุบอักกลางหลังมาเต็มแรง คนแก่อะไรชอบลงไม้ลงมือ ผ่านไปกี่ปีก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“วันนี้เป็นวันแห่งความรักนะครับ ผมให้คุณเลือก ระหว่างบอกรักผม กับออนท็อปให้ผม”
“แล้วทำไมฉันต้องเลือก”
“เพราะผมอยากให้คุณเลือก” ผมพูดหน้าตาเฉยขณะโอบเอวเขาให้แนบชิดกับส่วนกลางลำตัวที่เริ่มแข็ง “เติมความหวานให้กันสักหน่อย นะครับ...เจ้านาย”
ขอยืมคำของควีนมาใช้สักเล็กน้อย ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจให้มาถึงขั้นนี้หรอก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษนายที่ตื่นไม่ดูจังหวะ เดินเข้าปากเสือให้ผมจับกินเฉยเลย
ยิ่งโดนเรียกด้วยชื่อเล่นเต็มยศยิ่งหนีไม่พ้น ผมนึกครึ้มอกครึ้มใจ มองคนรักที่หน้าแดงก่ำอยากจะด่าก็ด่าไม่ออกแล้วก้มจูบอีกที รู้ทันว่าคนปากแข็งยังไงก็ต้องเลือกข้อสอง และจะไม่ยอมพูดออกมาเองด้วย
ชินซะแล้วที่ต้องทำทีเป็นยอมคล้อยตามเพื่อไม่ให้เขาเสียหน้า
หลังผละจูบผมก็อุ้มนายไปที่เตียง ถอดกางเกงเขาและจับให้นั่งบนตักอยู่ด้านบน คร่อมทับร่างกายของผมที่เปลือยเปล่าเพราะสลัดผ้าขนหนูทิ้งไปตั้งแต่ในห้องน้ำ
เพราะคนรักหน้าบางเหลือเกิน จะให้เขาเป็นฝ่ายนำก่อนย่อมเป็นเรื่องยาก ผมเลยต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ช่วยจับสะโพกคุมจังหวะจนเริ่มเคลิ้มนั่นแหละเขาถึงจะยอมขยับเอง
หลังจากนั้นก็ถูกผมบังคับให้ลากยาวไปเกือบทั้งคืน
ตอนเช้านาฬิกาปลุกนานกว่าปกติ นายตื่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวเพราะนอนไม่พอพ่วงปวดเอว เขาเดินกุมสะโพกเข้าห้องน้ำท่าทางสะโหลสะเหลจนนึกสงสาร ด้วยกลัวว่าคนแก่จะลื่นล้มซะก่อน ผมเลยแอบตามเข้าไปทำทีเป็นปวดเบา แต่พอนายเห็นดอกกุหลาบในห้องน้ำเท่านั้นแหละ วัยทองกำเริบ ขยำดอกกุหลาบจนช้ำแล้วปาใส่ผมเป็นการระบายอารมณ์ซะงั้น
ในเวลาแบบนี้ห้ามชักสีหน้าเด็ดขาด และผมก็ชินกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขาดีแถมยังเห็นว่าน่ารักด้วยซ้ำไป ความจริงเขาก็แค่เขินและนึกโมโหตัวเองที่คล้อยตามผมง่ายก็เท่านั้น ผมเลยหยิบดอกกุหลาบพร้อมหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เดินออกจากห้องน้ำให้เขาทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
นายแต่งตัวออกมาจากห้องอีกทีก็กระแทกเท้าปึงปังเดินมาทิ้งตัวที่โต๊ะ กินอาหารเช้าและจิบกาแฟจนอิ่มท้องแล้วผุดลุกไม่พูดไม่จา ร้อนให้ผมต้องหยิบกระเป๋าทำงานถือให้พร้อมออกไปส่งที่หน้าห้อง
“เดินทางดีๆ นะครับ”
ดูจากอารมณ์นายตอนนี้แล้วไม่ควรรั้งเอวเข้ามาจูบ ผมเลยยืนเท้าแขนกับประตูพร้อมแย้มยิ้มบาง
นายหลุบตาหนี หน้าดำหน้าแดงอยากจะอาละวาดอีกรอบ คงเพราะสายตาผมพราวระยับทะลุทะลวงจิตใจจนร้อนตัว แต่สุดท้ายก็หันหลังเดินตรงไปที่ลิฟต์ เพราะเกรงว่าถ้าอ้าปากปุ๊บจะโดนผมที่ตั้งท่ารออยู่แล้วคว้าจูบปั๊บ
ผมนึกขำกับคนรักตัวเอง หลังมองส่งจนเขาเข้าลิฟต์ไปก็หันมาเก็บจานชามไปล้าง ก่อนจะทิ้งตัวนอนบนเตียง หลับสนิทยาวจนถึงช่วงสายเพราะมีโทรศัพท์เรียกเข้าเสียงดังสนั่น
โทรศัพท์จากเคาน์เตอร์ของคอนโด?น่าแปลกมาก ปกติพนักงานจะไม่โทรขึ้นมาหากไม่มีธุระสำคัญหรือมีคนขอพบ แต่ก่อนคนที่ขยันมาหานายก็มีผมอยู่คนเดียว และในเมื่อผมอยู่บนห้องของเขาอยู่แล้ว...หรือจะเป็นกิ๊กของเจ้านาย?
คนแก่แสนเจ้าชู้สิ้นลายไปแล้ว ผมหัวเราะกับตัวเองแม้น้ำเสียงจะทุ้มต่ำกว่าปกติ
หลังบอกให้คนที่ขอพบขึ้นมาบนห้องได้ ผมก็แต่งตัวเรียบร้อยกว่าเดิมเพราะชอบเปลือยอกเดินไปเดินมาในห้อง พอได้ยินเคาะเสียงประตู ผมจึงเดินไปเปิดด้วยสีหน้าสงบนิ่งแต่ในใจนึกลุ้นว่านายจะทรยศผมรึเปล่า
สิ่งแรกที่เห็นคือสีแดงของดอกกุหลาบ
ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบเต็มไปหมด!
“ขอโทษนะครับ ขอทางให้พวกเราเข้าไปได้รึเปล่าครับ”
“...เชิญครับ” ผมเบี่ยงตัวถอยหลังให้พนักงานส่งของหลายคนทยอยเข้ามาในห้องเพื่อวางดอกทีละตะกร้าจนแทบจะเต็มพื้นห้องไม่มีที่เดิน นึกสาเหตุได้ไม่ยากในเมื่อนายเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ
‘ถ้าชอบนักพรุ่งนี้ฉันสั่งให้แกทั้งสวนก็ยังได้’
ถึงจะขี้โมโห ปากหนัก ชอบโวยวาย แต่ก็น่ารักที่สุด
เจ้านายของผม
---------
หลังฉาก
นิล : ไอ้คิง ดูนี่สิ //เปิดประตูพรวดพราดพร้อมกับช่อดอกไม้สองช่อใหญ่ในมือจนแทบบังหน้าตัวเอง
คิง : …
นิล : ใช่ มึงกับกูสั่งดอกไม้ร้านเดียวกัน แบบเดียวกัน มาเซอร์ไพรส์กันและกัน เป็นไง เซอร์ไพรส์มั้ยมึง
คิง : …//ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะโอบเอวนิลกาฬให้มานั่งบนตัก
คิง : แล้วมึงชอบมั้ย //ถามหลังจุ๊บไปหนึ่งที
นิล : ชอบดิ ถ้าไม่ชอบจะสั่งแบบนี้ให้มึงเหรอ //หัวเราะคิกคัก
คิง : เหมือนกัน
นิล : อะไร
คิง : ชอบเหมือนกัน
นิล : …//เริ่มงงว่าหมายถึงดอกไม้หรือตัวมันเอง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้สายตาคุณสามี อารมณ์คึกคักตีตื้น จนต้องจูงมือกันไปกินตับในห้องน้ำโดยทิ้งดอกไม้สองช่อเป็นหมันไปซะงั้น..
----------------
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่าสุขสันต์วันวาเลนไทน์!
ตอนแรกตั้งใจจะแต่งฉลองคู่คิงนิล แต่เปลี่ยนใจกะทันหันเพราะคู่นั้นเขาเซอร์ไพรส์กันบ่อยมาก ขยันทำแต้มสุดๆ ไม่มีใครยอมใคร ก็เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาคู่พี่เอกที่ออกจะเรียบเรื่อยดูบ้าง เราชอบโมเม้นท์เวลาคนไม่ค่อยทำเซอร์ไพรส์ทำให้อีกคนแปลกใจค่ะ ปฏิกิริยานายคือน่ารัก มีความงง มีความป๋า มีความเปย์คืน คนแก่อะไรน่ารักน่าหยิกสุดๆ!
แต่ถึงพี่เอกจะนำ คิงนิลก็ต้องมาแย่งซีนกันหน่อย ลูกรักก็ต้องลำเอียงกันบ้างเนอะ <3 เราคิดว่าถ้าสองคนนี้คิดตรงกันบ้างคงตลกแล้วก็ชอบเวลาพี่เอกอยู่กับควีนและเบอร์หนึ่งด้วย ความเป็นผู้ใหญ่แสนคูลนี้...ที่นิลไม่เคยมี 5555
หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^ ^