❄ SKY CHAT ❄
หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดปี ก็ได้เวลาพักผ่อนจริง ๆ สักที เลยสิ้นปีมาได้เกือบสองเดือนก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางไปผ่อนคลาย
ผมจองตั๋วเครื่องบินแบบง่าย ๆ ก่อนวันเดินทางเดือนกว่า เก็บของใส่กระเป๋าลากขนาดเล็กกับแบกเป้สีดำอีกใบไว้ที่หลัง
เดินทางมาถึงสนามบินตอนหกโมง เช็คอินและเดินมารอเข้าเกตตอนเจ็ดโมง มากี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่าแอร์สนามบินนี้มันหนาวจนตัวสั่น
ผมนั่งรอเวลาและมองซ้ายมองขวาไปเรื่อยอย่างสบายใจ ช่วงเวลาก่อนออกเดินทางเป็นช่วงเวลาที่ผมชอบมาก
เพราะเป็นเวลาที่รู้สึกว่ากำลังจะได้ปลดระวางภาระหน้าที่ความกังวลทั้งหมดไว้ที่หน้าประตูทางออก
ไปหาประสบการณ์และความสุขเข้าตัวให้เต็มที่ ก่อนที่จะกลับมาเก็บทุกอย่างที่ทิ้งไว้ใส่เข้าหัวอีกครั้ง
มองอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่นานก็ไปสะดุดอยู่ที่ผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันคนนึง เขาเป็นผู้ชายผิวขาวและไม่สูงมาก
แบกกระเป๋าใบใหญ่ คิดว่าคงไม่ได้โหลดของลงเครื่องแน่ ๆ แต่ด้วยขนาดกระเป๋าที่ว่าก็ไม่ได้ใหญ่พอที่จะทำให้ผมหันไปสนใจ
หากสิ่งที่สะดุดคือท่าทางงุนงงทำอะไรไม่ถูกต่างหากที่เรียกสายตาให้หันมอง
และที่สำคัญ...เขาใส่แจ็คเก็ตยีนส์ยี่ห้อเดียวรุ่นเดียวสีเดียวกันกับผม
ท่าทางสับสนแต่ดูแล้วน่าเข้าไปช่วยแบบนั้นทำเอาเผลอหันหน้าตามอย่างไม่รู้ตัว ไม่นานกว่านั้นนักเสียงเรียกขึ้นเครื่องก็ดังขึ้น
ผมกระชับสายสะพายเป้และลุกขึ้น เหลือบตามองคนเลิ่กลั่กตรงนั้นแล้วก็อมยิ้มเดินช้า ๆ ตามเขาขึ้นเครื่อง
แต่พอจะถึงประตูอีกฝ่ายก็ชะงักหยุดยืนแล้วค้นอะไรบางอย่าง ประจวบเหมาะกับที่มีคนเดินเข้ามาเยอะ
ผมเลยต้องขยับเดินเข้าด้านในเครื่องไปก่อนทำให้คลาดสายตาไป
ผมยื่นตั๋วเครื่องบินให้พนักงานดูแล้วก้าวยาว ๆ ไปนั่งที่ เที่ยวบินนี้เป็นเครื่องบินลำใหญ่2ชั้น ที่นั่งเป็น3แถว
ซ้ายขวา3ที่นั่ง ตรงกลาง4ที่นั่ง ผมนั่งชั้นล่าง หมายเลข 58A ติดหน้าต่าง นั่งมองอะไรด้านนอกไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลาเครื่องขึ้น
ยังคงมองไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งเครื่องบินเคลื่อนตัวเตรียมจะขึ้นสู่ท้องฟ้า
ละสายตาจากนอกหน้าต่างเมื่อเครื่องบินทรงตัวนิ่งหลังจากทะยานขึ้นสู่เบื้องบนเรียบร้อยแล้ว
และเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมเหลือบไปเห็นเลิ่กลั่กนั่งอยู่แถวตรงกลาง เก้าอี้หมายเลข 58D ถัดจากผมไปสองคน
แอบเหล่มองเจ้าตัวที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการเสียบหูฟังและกดหน้าจอของตัวเองอย่างงุนงง ผมเลยหันมาหยิบของตัวเองขึ้นมาบ้าง
เห็นเขายิ้มและเอนหลังนั่งสบาย ๆ แล้วก็ต้องยิ้มตาม สงสัยคงเลือกหนังถูกใจได้แล้วแน่ ๆ
ผมกดเลื่อนดูรายชื่อหนังที่คิดว่าจะดูตลอดการเดินทางครั้งนี้ แต่เลื่อนเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่ถูกใจรายชื่อหนัง
เพราะเกินครึ่งในลิสต์ผมดูแล้ว เลยกดเลื่อนไปเรื่อยจนออกมาเจอหัวข้อ Onboard Services
กวาดตามองจนไปสะดุดอยู่ที่ปุ่ม Sky chat ผมเลิกคิ้วเมื่อพบฟังก์ชันไม่คุ้นตา กดเลือกมันแล้วก็ต้องอมยิ้มอีกครั้งเมื่อพบหน้าจอแชท
ผมส่ายหน้าไปมาเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่าความเพ้อเจ้อของตัวเองนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว
Enter your name58A
ผมสูดลมหายใจเข้าและลบหมายเลขตัวเองออกก่อนจะแทนที่ด้วยชื่อใหม่
Enter your nameXXX
และหยุดมือเมื่อย้ายสายตาไปที่ช่องด้านขวา
Invite for chatผมเหลือบตามองคนตรงนั้นอีกครั้ง ชั่งใจอยู่ไม่นานสุดท้ายผมก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะหน้าจอตรงปุ่มตัวเลข
58D แล้วลากมือไปแตะเบา ๆ ที่
send invitataionXXX : : )
ผมแทบจะเผลอยกมือตบหน้าผากตัวเอง นี่ผมส่งอีโมติคอนโง่ ๆ นี่ไปได้ยังไง
ระหว่างกำลังก่นด่าตัวเองในใจ ข้อความสั้น ๆ ก็ถูกส่งกลับมา
58D : ใครครับ?
XXX : ดูหนังเรื่องอะไรอยู่ครับ?
ผมรีบตีหน้านิ่งและทำเป็นไม่สนใจหน้าจอตัวเองเมื่อเขาหันซ้ายหันขวามอง
58D : ผู้ชาย?
XXX : ครับใช่ แล้วดูหนังเรื่องอะไรอยู่
58D : Intern
58D : ว่าแต่คุณคือใคร นั่งเบอร์ไรเนี่ย
XXX : ผมเคยดูเรื่องนี้แล้ว
58D : จริงปะ นี่เพื่อนแนะนำมาว่าน่ารักดี
XXX : ลองดูไป
58D : เฮ้ย ตอบก่อน คุณเป็นใครเนี่ย
XXX : มาเที่ยวคนเดียวเหรอ?
58D : ครับ พอดีเพื่อนที่จะมาด้วยมาไม่ได้แล้ว
XXX : อ้าว เซ็งแย่
58D : นิดหน่อย แต่โอเค พอดีมันติดงาน
XXX : เคยไปฮ่องกงมาก่อนหรือเปล่า
58D : ไม่เลย ขึ้นเครื่องครั้งแรกด้วย
XXX : เหรอ ผมเคยมา5ครั้งแล้ว
58D : จริงดิ เจ๋งมากกก
XXX : คุณพักที่ไหน
58D : ถามเยอะแบบนี้ ตอบผมสักข้อหรือยัง
XXX : ผมพัก empire hotel
58D : เฮ้ยจริงดิ โรงแรมเดียวกัน
XXX : จริง?
58D : จริง
58D : เดี๋ยวนะ คำถามนี้ผมไม่ได้ถาม
XXX : แทน ๆ กันไปก่อน
58D : ผมกำลังคุยกับคนแปลกหน้า
XXX : มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ผมรู้จักร้านอร่อยแถวโรงแรมเยอะ แถมยังถูกด้วยนะ
58D : คุณกำลังหลอกล่อผมหรือเปล่าเนี่ย
58D : น่ากลัวชะมัดที่คุณรู้ว่าผมคือใคร แต่ผมไม่รู้
XXX : : )
58D : คุณกำลังกวนผมเหรอ
XXX : ไม่ ผมไม่กวนแล้ว คุณดูหนังเถอะ
58D : คุณเป็นคนประหลาด
ผมหลุดยิ้มเมื่อเขาทำหน้าบึ้งแล้วยกมือกอดอกอย่างไม่พอใจ มองเขาอยู่แบบนั้นและยังไม่ทันได้พิมพ์อะไรส่งกลับไป
พนักงานก็เริ่มเสิร์ฟอาหารบนเครื่องแล้ว ผมฟังเมนูอาหารและเลือกมันไปง่าย ๆ โดยไม่ได้คิดอะไรมาก
ผิดกับคนตรงนั้นที่ขมวดคิ้วและเม้มปากน้อย ๆ อย่างลังเล กว่าจะได้ถาดอาหารวางลงที่โต๊ะตรงหน้าก็ใช้เวลาไปหลายนาที
XXX : เลือกยากอะไรขนาดนั้น
58D : จะให้ผมเลือกได้ยังไง ข้าวมันไก่ กับ ออมเล็ทชีส มันน่าอร่อยทั้งคู่!
XXX : ขอเบิ้ลเลยดีไหมล่ะ
58D : ผมกินไม่หมดหรอก
XXX : แล้วเลือกอะไรไป
58D : ออมเล็ทชีสสสสสส
ผมหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อตัวอักษรบนหน้าจอกับสีหน้าจริงของเจ้าตัวนั้นไปด้วยกันได้ดีจนน่าขำ
เขาเปิดฟอยล์ห่ออาหารออกแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิมตอนที่หั่นออมเล็ทแล้วใช้ส้อมจิ้มขึ้นมาจนเห็นชีสยืดตามเข้าปาก
XXX : อร่อยมากไหม
58D : สุด ๆ ไปเลย!
58D : นี่คุณมองผมอยู่ตลอดเลยหรือไง โรคจิตแล้ว!
XXX : อย่าลืมกินครัวซองล่ะ อร่อย
58D : ไม่ลืมอยู่แล้ว! ครัวซองน่ะของโปรดผมเลย แน่นอนว่ามันต้องถูกกินทีหลัง
58D : ว่าแต่คุณกินอะไรล่ะ
XXX : ข้าวมันไก่
58D : คุณต้องเสียใจที่พลาดออมเล็ทชีสที่อร่อยสุด ๆ แบบนี้ แล้วยังมันบดที่กรอบนอกนุ่มในนี่อีก
XXX : ข้าวมันไก่ก็อร่อยไม่แพ้ชีสยืด ๆ ของคุณหรอก
58D : ตอนนี้อะไรก็ทำผมเปลี่ยนใจไปจากความนุ่มของออมเล็ทตรงหน้าไม่ได้
ความร่าเริงของอีกฝ่ายทำผมยิ้มไม่หุบตั้งแต่ขึ้นเครื่องมา แถมยังเป็นคนที่ถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่ายจนน่ากลัว
นี่ผมนับครั้งไม่ถ้วนแล้วที่อีกฝ่ายลืมที่จะกลัวผมเวลาที่ถูกลากประเด็นไปเรื่องอื่น
XXX : เป็นอะไร?
หลังจากอาหารทุกอย่างถูกจัดการจนเรียบ และอีกฝ่ายก็ตั้งหน้าตั้งตาดูหนังในจอของตัวเองไปโดยที่ผมไม่ได้รบกวนอีก
แต่ไม่นานผมก็สังเกตเห็นเขาขมวดคิ้วแล้วทำหน้าเหมือนกำลังเป็นอะไรอยู่สักอย่าง ถึงได้ตัดสินใจทักไป
58D : หูผมอื้อ
58D : ผมกลืนน้ำลายไปจนคอแห้งแล้วก็ไม่หาย
XXX : ปิดจมูกแล้วพ่นลมสิ
58D : แล้วจะพ่นยังไง
XXX : นี่คุณไม่เคยทำเลยเหรอ ปิดจมูกของคุณให้แน่น ๆ แล้วทำเหมือนสั่งขี้มูก
ผมเหล่ตามองอีกฝ่าย ก็พบว่าเขากำลังปิดจมูกตัวเองแล้วหลับตาปี๋ก้มหน้าทำตามที่บอกด้วยท่าทางน่ารัก
ก่อนที่จะลืมตาขึ้นและปล่อยนิ้วออกจากปีกจมูกตัวเอง พลางทำหน้าดีใจ แล้วรีบกดหน้าจอตอบข้อความผม
58D : ไม่อยากเชื่อว่ามันได้ผล
XXX : ดีใจด้วยนะ แล้วดูหนังถึงไหนแล้ว
58D : ยังไม่ถึงครึ่งเลย เพราะคุณนั่นแหละ
XXX : อีกครึ่งชั่วโมงเครื่องจะลงแล้ว ต้องไม่ทันแน่ ๆ
58D : ให้ตายเถอะ! ผมต้องค้างคาแน่
XXX : ผมเล่าให้คุณฟังทีหลังได้นะ
58D : คุณจะเล่าได้ยังไงล่ะ พอเครื่องลงก็แยกย้ายแล้ว
58D : ไม่ต้องพิมพ์มาแล้วนะ ผมจะรีบไปดูต่อ!
ท่าทางตั้งใจที่จะดูหนังให้จบของเขาทำเอาผมต้องส่ายหัว เพราะต่อให้ตั้งหน้าตั้งตาจ้องจอแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้มันจบเร็วขึ้น
หรือเครื่องบินช้าลงได้หรอกนะ ยังไงสุดท้ายก็ดูไม่ทันอยู่ดี ผมเคาะนิ้วลงที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ ระหว่างกำลังตัดสินใจอะไร
บางอย่าง
เหลือบตามองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปกดตัวอักษรบนหน้าจออย่างช้า ๆ
XXX : อีกสักชั่วโมงเราอาจจะได้เจอกัน : )
58D : จะเจอได้ไง คุณนั่งเลขอะไรผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
XXX : แต่คุณรู้โรงแรมผมนะ
58D : แต่คุณรู้ที่นั่งผม รู้โรงแรมผม รู้ว่าผมมาคนเดียว รู้เยอะกว่า ขี้โกงนี่
XXX : ขี้บ่นจังเลย ดูหนังเถอะ
58D : ก็ถ้าไม่มีใครส่งข้อความมากวนละก็นะ
XXX : ผมไม่กวนคุณแล้ว
อีกฝ่ายนิ่งไป จนผมคิดว่าเขาคงออกจากหน้าจอแชทแล้ว แต่ไม่ทันที่ผมจะทำอะไรต่อข้อความใหม่ก็เข้ามาอีกครั้ง
58D : แล้วคุณทักผมทำไม
ผมเลิกคิ้วมองคำถามนั้น เลียริมฝีปากตัวเองและขยับยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนชื่อของตัวเองกลับไปเป็นหมายเลขที่นั่งตามเดิม
Enter your names58A
58A : คงเป็นเพราะ…เราบังเอิญใส่เสื้อแบบเดียวกัน : )
ผมอ่านทวนข้อความของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจกดส่งไป เพียงแค่อึดใจเดียว อีกฝ่ายก็หันมามองผมอย่างรวดเร็ว
เราสบตากัน ก่อนที่ผมและเขาจะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม
บางทีต่อไปผมอาจจะชอบเวลาบนเครื่อง...มากกว่าเวลารอขึ้นเครื่องเสียแล้ว : )
E N D
สวัสดีเดือนมีนาค่า กลับมาจากฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ เลยเอานิยายสั้นตอนเดียวจบมาให้อ่านกัน
ได้รับแรงบันดาลใจจากตอนที่นั่งเครื่องบิน เป็นเรื่องสบาย ๆ น่ารัก ที่อ่านแล้วอยากให้ยิ้มค่ะ ^^