[เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน ตอน 3. จบ.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน ตอน 3. จบ.  (อ่าน 17267 ครั้ง)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

เพิ่มเติม >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

-----------------------------------------------------------------------------------------------------





เป็นเรื่องสั้น 3 ตอนจบนะคะ
ฝากติชมเช่นเคยจ้า
ชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้ ยินดีค่า



ผลงานอื่นๆ


➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ เรื่องยาว เรื่องของเพื่อนใหม่ที่ไปๆมาๆไม่จบแค่เพื่อน แนวน่ารัก ตอนนี้ยังใสๆ(ใช้คำว่าตอนนี้!) จ้า
➽ ลอง เจ็บซ้ำ... Try Again. ➽ เรื่องแยกจากเรื่องข้างบน (ยังมิจบ)
New!   [เรื่องสั้น] ☻☺☻ เหงา...ตัวเท่าบ้าน เรื่องของคนขี้เหงา (จบ.)


<< แวะมาแก้คำผิดแล้วนะคะ เกลี่ยๆรูปประโยคนิดหน่อย เนื้อหาคงเค้าเดิมจ้า 25/04/2017 >>

เพจคนหัดเขียน >> https://web.facebook.com/Brosohub/

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2017 05:07:22 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
- คิงไซซ์ - 1 -


----------------------------------


“สวัสดีครับ สนใจแบบไหนไซซ์ไหน สอบถามได้นะครับ”



วันๆ ผมพูดประโยคนี้ สัก 500 รอบได้ พูดซ้ำๆ คำเดิมๆ กับยิ้มหลอกๆ


60% จะเดินหนี


30% จะยิ้มให้แล้วเดินหนีอีกเช่นกัน


5% จะมีคำถามนิดหน่อย แล้วก็ไป


4% ถามเยอะมากแต่ไม่ซื้อ


และไม่ถึง 1% ที่จะตกลงใจซื้อ


ผมเข้าประจำตำแหน่งขอบเตียงเหมือนทุกวัน


ไม่ได้ขายตัว แต่ขายเตียง


ถึงเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ก็ยังมีคนซื้อบ้านซื้อคอนโดกันเยอะแยะมากมาย จากมนุษย์เงินเดือนก็เพิ่มตำแหน่งมนุษย์เงินผ่อนไปอีก เตียงผมยังผ่อนได้เลยนะครับ 0% 10 เดือน กรุณาตรวจสอบเครดิตของท่านก่อนทำการสั่งซื้อ


พอซื้อบ้านใหม่ก็มักจะซื้อเตียงกันใหม่ด้วย ดีครับ ค่าคอมฯผมกระฉูด ทำให้คนตัวคนเดียวอย่างผมมีกินมีใช้





“สร สรใช่ไหม?”


“...” ผมอึ้งกับคำถามที่แปลกออกไป ปกติจะเป็นคำถามพวก เตียงพวกนี้ทำมาจากอะไร ปวดหลังนอนแบบไหนดี อันนี้กับอันนี้ต่างกันยังไง นอนไปนานๆจะยุบไหม สะสมไรฝุ่นรึเปล่า


นี่ถามชื่อ? รู้จักกันเหรอ? แต่ขื่อถูกนะ ใช่ ผมชื่อสร


ผมเพ่งมองคนตรงหน้าดีๆ อีกครั้ง ชายดูภูมิฐาน ใส่สูทผูกไทด์ กางเกงสแลคกลีบโง้ง รองเท้าหนังเงาวับนาฬิกาโรเล็กซ์แสงเงาเข้าตา ผมหวีปาดทรงแบบคุณชายสุดๆ ไอ้ลุคนี้มันนักธุรกิจร้อนล้านเลยนะ


เดี๋ยว มองทั้งตัวลืมมองหน้า หน้า... คุ้นๆ แต่ ไม่ยักนึกออก


“ขอโทษนะครับ เรา รู้จักกันเหรอ?”


“เฮ้ย ไม่ต้องครับดิ กูกรไง กรที่นั่งข้างหลังมึงตอน ม.ปลายอ่ะ”


“กร...” ผมขมวดคิ้ว


 เชี่ยเลวกรอ่ะนะ ถ้าไม่นับเรื่องนิสัยขี้แกล้งกวนตีนของมัน มันทั้งดำทั้งซกมก แล้วดูคนตรงหน้าผมสิ ควรเรียกคุณกรแล้วกราบงามๆ เลยล่ะ


“นึกๆ สินึก”


“...”


“ลูกตาประจวบอ่ะ จำได้ยังๆ”


“อ้อ กร”


“ไมทำท่าห่างเหินงั้นอ่ะ เฮ้ย เป็นไงบ้าง” เขาตบแขนผมเบาๆ อย่างสนิทสนม 


มึงไม่ได้สนิทกับกูขนาดนั้น!


“คุณเปลี่ยนไปมากเลยนะครับ” ผมเลือกพูดด้วยคำสุภาพเหมือนเดิม มันจะได้รู้ว่า กูไม่ได้อยากสนิทกับมึง!


“เฮ้ย บอกว่าไม่ต้องครับไง คนกันเอง”


“เอ่อ ไม่ได้ครับ นี่เวลางานถ้าเมเนเจอร์เห็นจะโดน”


“อ้อ ได้ๆ งั้นกูจะเล่นเป็นลูกค้ามึง เอ่อ น้องครับรุ่นนี้ไปไงมาไง”


“หา?”


“หมายถึงทำมาจากอะไร”


“อ้อ ทำมาจาก... ก็เหมือนๆ เตียงทั่วๆ ไปนั่นแหละ ลองกดหรือนั่งกูเลยดีกว่า” ผมเลือกไม่อธิบายกับไอ้บ้านี่ให้เสียเวลาเสียอารมณ์ ชอบแบบก็เอาแบบนั้นไปเลยเถอะ อย่าให้ต้องเปลืองแรงอธิบายให้มากความเลย


“เออ ก็จริง รู้ไปกูก็ไม่เก็ทอยู่ดี แต่... ผมขอถามหน่อย ถ้าผมซื้อคุณได้ค่าคอมฯป่ะ?”


“เอาจริงๆ นะคุณลูกค้า ผมเป็นเซลของยี่ห้อตัว  T ถ้าคุณซื้อของแบรนอื่นผมก็ไม่ได้เปอร์เซ็น” ผมแอบกระซิบตอบเบาๆ


เรื่องสนิทไม่สนิทเอาไว้ทีหลัง แต่เรื่องเงินสำคัญกว่า ตอนนี้ผมขอตีสนิทจนกว่าไอ้บ้านี่จะรูดบัตรแล้วเซ็นเสร็จเรียบร้อยก็แล้วกันนะ


“เหรอครับ งั้นยี่ห้อนี้ นี่มีรุ่นไหนให้เลือกบ้าง ผมขอดูคิงไซซ์ก่อนเลย”


ผมเดินนำพาไอ้กรไปดูตามที่ขอ


“ลองนั่ง หรือจะนอนเลยก็ได้นะครับลูกค้า”


“เหรอ ก็ดีนะ” ว่าแล้วไอ้คุณกรก็ไม่รอช้า หันหลังนั่งใส่เตียง


แสงสะท้อนจากรองเท้ามันเด้งเข้าตาผมแรงมาก สูทมันเรียบกริ๊บจนผมกลัวมันนั่งเยอะกางเกงจะยับ ไม่ได้กลัวเตียงผมยุบหรืออะไรเลย


“คุณ ช่วยนั่งลงตรงนี้หน่อย” เขาตบปุๆ ที่ว่างข้างๆ


ผมมองมือมัน เอาตรงๆนะ ผมค่อยข้างลังเลและระแวงมันอ่ะ จริงๆ


“เอาน่า ผมอยากรู้ว่าถ้าผมนอนอยู่แล้วมีคนนอนหรือขยับอยู่ข้างๆ จะรู้สึกตัวตื่นไหม ผมตื่นง่าย กลัวหลับไม่สนิท”


ผมลังเล แต่ก็ยอมนั่งลงข้างๆ ไกลสุดขอบ ความทรงจำตอนที่มันเคยแกล้งผมไว้เมื่อตอนเด็กๆ ยังจำฝังใจ อย่าหาว่าผมเป็นคนขี้หวาดระแวงเลย ก็เพราะมันนั่นแหละทำให้ผมเป็นคนแบบนี้


มันนอนครึ่งตัวลงกันเตียงยกแขนไขว่รองหัวไว้ ตบที่นอนข้างๆ มันที่เดิม


“ใกล้อีกๆ นี่ๆ เดี๋ยวพี่เหมาให้สองเตียงเลย” ผมเลี่ยงไม่ได้ ไม่ได้เห็นแก่เงินนะ ลูกค้าขออะไรพอทำได้ก็ทำ ผมขยับไปใกล้อีกหน่อย พอหยุดขยับก็ถูกดึงเสื้อจากข้างหลังเสียหลักนอนแผ่ลงกันเตียงทับแขนไอ้บ้านั่นเต็มๆ


ผมเด้งตัวขึ้นทันที เดินหนีมันให้ไกล


ไอ้บ้าเอ้ย ไม่เปลี่ยนจริงๆ


“เดี๋ยวดิ นี่เทสเตียงอยู่นะ”


เทสเหี้ยอะไรกลางห้าง ไปเทสต่อที่บ้านมึงโน้นเลย


“เทสขนาดนี้เรียกแฟนมึงมาเทสเองเหอะ”


“ฮ่าๆๆ งอนอะไรว่ะ มานี่ก่อน พนักงานเดินหนีลูกค้าได้ไง” ผมไม่สน ขอแค่ไปให้ไกลๆไอ้นี่ก็พอ แต่แม่งก็ยังตามมาติดๆ


“มึงแม่ง”


“สร สร กูขอโทษ กูเล่นแรงไปเหรอ”


ผมเดินหลบเข้ามาในบล็อกโชว์ที่ไร้ผู้คน มันแม่งก็ยังเดินตาม


“ไม่เจอกับแปดเก้าปีมึงแก่จะตายห่าแล้ว ยังเอาแต่แกล้งกู”


“เฮ้ย กูขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้จะแกล้งจริงๆ แค่อยากให้มึงช่วยเลือก”


“เพื่ออะไร? มึงน่าจะมีคนเยอะแยะอยากช่วยมึงเลือกอยู่แล้วนี่หว่า กูเป็นแค่พนักงานมึงจะมาอยากรู้ความเห็นกูทำไม”


ผมไม่รู้เขามีแฟนหรือคนที่คบมั้ย ดีไม่ดีอาจจะแต่งงานแล้วก็ได้ มีตังอย่างมันคงไม่ขาดแคลน ผมสิ รู้สึกโคตรต่ำต้อย เป็นแค่พนักงานกระจอกเขาสั่งอะไรก็ต้องทำ อันนั้นกูรู้มันคือหน้าที่มันคืองานของกูอยู่แล้ว แต่พอเป็นไอ้เหี้ยนี่เข้าหน่อยทำไมความสามารถควบคุมจิตใจทำไมมันต่ำนักวะ กูก็แค่อยากให้มึงซื้อของกูแล้วจะไปไหนก็ไป อย่ามาแสดงสีหน้าสมเพสกูอย่างตอนนี้


“กูไม่มีใคร ไม่มีใครเลยต่างหาก” อยู่ๆ เขาก็ทำหน้าเศร้า เลิกเดินตามผม


อยากบอกว่ากูไม่ได้สนใจชีวิตมึงเลยสักนิด แต่เป็นความว่างเปล่าในตาเขาที่ทำให้เผลอถามออกไป


“หมายความว่าไง?”


“แฟนที่กูคบ เราคบกันเพราะธุรกิจ” มันก้มหน้าลง “เราตกลงกันตั้งแต่แรกว่าถ้าเจอคนที่ใช่จริงๆ ให้บอกอีกฝ่าย แล้ว เขาเจอแล้ว จริงๆเขามีคนรักอยู่นานมากแล้ว ก่อนเริ่มคบกับกูซะอีก”


“มึงคงรักเขาไปแล้ว”


“เปล่า เปล่า ไม่ใช่เลย แค่ กูรู้สึกพอเหมือนจะมีใคร กูดันพบว่ากูก็ไม่มีใครเหมือนเดิม รู้มั้ยตามกำหนดกูกำลังจะแต่งงานกับเขา อีกครึ่งปี นี่กูมาเลือกของแต่งเรือนหอ กูก็ต้องมาคนเดียว พ่อแม่เขายังไม่รู้เลยว่าพอถึงเวลาลูกเขาจะหนีงานแต่ง ในฐานนะเพื่อนที่ดีก็ตามน้ำไปก่อนจนกว่าเรื่องจะแดงขึ้นมาเอง”


“กูเสียใจด้วย มึงโอเครึเปล่า”


“มึงเลิกงานกี่โมง”


“วันนี้ดึกหน่อยสี่ทุ่ม เพราะพรุ่งนี้หยุด” อ้าว นี่ผมโดนมันหลอกถามเปลี่ยนเรื่องรึเปล่าเนี่ย


“หยุดวันจันทร์เนี่ยนะ”


“ก็เสาร์อาทิตย์หยุดไม่ได้อยู่แล้ว ลูกค้าเยอะ ก็หยุดจันทร์อังคารพุธ ไรเงี้ย”


“พากูไปคิดตังที”


“คิดอะไร?” เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว!


“ก็เตียงเมื่อกี้ไง”


“เอาเลยเหรอ?”


“แน่ะ มึงพูดอย่างนี้กูคิดนะ” ผมขอถอนความคิดที่สงสารมันไปเมื่อกี้ แม่งเสียดายความรู้สึกจริงๆ


“หมายถึงคุณลูกค้าจะรับเตียงเมื่อครู่เลยเหรอครับ?”


“รับครับ หกฟุตสอง ห้าฟุตอีกสองครับ”


“หา?!”


“ตกใจอะไร กูเอาจริง”


ผมกุมขมับกับไอ้บ้านี่ ดูไม่ถึงนาทีมันจะเอาแล้ว ผมไม่ยอมหรอก เตียงไม่ใช่สองสามบาทนะมึง


“มึงกลับไปดูดีๆอีกรอบเลย ที่นอนอันนึงไม่ใช่ถูกๆนะมึง แถมมึงต้องนอนทุกวัน ถ้าไม่ถูกกับมึง มึงจะนอนไม่หลับ เสียงสุขภาพ บุคลิกภาพก็เสีย มึงต้องเลือกดีๆ มันไม่ใช่เรื่องที่แค่ถูกใจก็เลือกง่ายๆนะเว้ย ตั้งใจหน่อยสิว่ะ”


“มึงว่าคนนอนต้องเลือกเองเหรอ”


“เออ ไป ไปเลือก”


“งั้นกูโทรศัพท์แปป”


หา อะไรของมันอีกว่ะ


“คุณพลอยคะ กรอยู่โซนเตียงนอน คุณพลอยมาหากรหน่อยสิคะ พากีต้าร์มาด้วยนะ จ้า จะรอนะคะ” ฟังมันพูดค่ะขาแล้วขนลุก


มั่นไส้


ไม่ถึงนาที ก็มีคนเดินเข้ามาหามัน เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ผอมบางแบบคุณหนู ใส่เดรสเนื้อผ้าบางพลิ้วไปมา อีกคนก็งามพอกันเดินตามมาห่างๆ นี่เหรอคู่หมั้น ควายแล้วมึงปล่อยให้หลุดมือ ขนาดผมเป็นคนอื่นยังเสียดาย มันได้อยู่ในมือ ปล่อยให้หลุดไปได้ไง


“คุณพลอย กีต้าร์ นี่สร เพื่อนผมตั้งแต่สมัยมัธยมเพิ่งเจอกันเมื่อกี้ โลกกลมมากเลยว่าไหม”


“จริงเหรอ โลกกลมจังค่ะ”


“มึง นี่พลอย คู่หมั่นกู นี่กีต้าร์แฟนของคู่หมั่นกู”


“คุณกร ทำไมบอกเพื่อนอย่างนั้น บอกแล้วไงไม่ให้บอกใคร” พลอยตีกรแบบไม่ยั้ง สมน้ำหน้า


“เดี๋ยวๆๆ ฟังกรก่อนๆ มานี่ทั้งสองคน” มันพาสองสาวสวยระดับมอเตอร์โชว์ไปไกลผมลิบๆ กระซิบอะไรสักพักก็กลับมา ผมจะถามได้มั้ยว่ากระซิบอะไรกัน เผือกเรื่องลูกค้าจะผิดมั้ย


“จริงนะคุณกร”


“จริง เขาบอกว่าให้คนนอนมาเลือกเอง จะได้ไม่มีปัญหาตามมา”


แต่กูว่าที่เขาถามกับที่มึงตอบมันคนละประเด็นนะ


สองสาวจูงมือกันไปเลือกเตียง ส่วนมัน เลือกคนเดียวต่อไป


“มึง กูชอบอันนี้ มึงชอบไหม?”


“ชอบ อันนี้กูแอบนอนประจำ”


“ฮ่าๆๆ จริงดิ งั้นกูเอาอันนี้ แบบห้าฟุตกับแบบหกฟุต อย่างละเตียง โครงเตียงกูให้อินทิเรียจัดการแล้ว”


“คุณกรๆ เราชอบแบบนี้” พลอยตัวเล็กชี้เตียงที่ตัวเองเลือกอยู่


“โอเคจ้า งั้นไปคิดตังกันมึง”



คนรวยนี่ทำอะไรก็ได้จริงๆ แม่งแป็ปเดียวเสียทรัพย์เป็นแสนก็ยังทำหน้าอารมณ์ดี คนอารมณ์ดีต้องกูนี่ กูได้ตัง มึงเสียตัง


“สี่ทุ่มห้านาที เดี๋ยวมารับหน้าห้างนะ กูกลับไปเคลียร์งานรอ”


“หา?”


“เอาน่า เดี๋ยวกูพาไปพักผ่อน เลี้ยงตลอดทริป ไม่ต้องห่วง”


“กูชอบของฟรี แต่ว่า...”


“แฟนมึงจะว่าเหรอ?”


“เฮ้ย กูไม่มีแฟน”


“อุ้ย ยอมบอกแล้ว ฮ่าๆๆ มึงนี่หลอกง่าย”


“ถ้ามึงยังไม่เลิกแกล้งกู กูจะไม่ไปกับมึงจริงๆ” ผมไม่พอใจมันจริงๆ ถึงมันจะมีพระคุณเป็นคุณลูกค้าระดับพรีเมี่ยมก็เถอะ


“โอเคๆ ไม่แกล้งๆ งั้นตกลงไปนะ”


“กู กูต้องกลับไปเตรียมของก่อนป่าววะ มึงชวนกะทันหัน”


“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูให้สาวๆจัดการให้ เรื่องนี้พวกเขาถนัด คุณพลอยคะ เดี๋ยวฝากดูชุดนอน กับชุดสบายๆไว้ใส่พรุ่งนี้อย่างละสองชุดนะ ของกรกับสร”


“โอเค รับทราบ ช็อปปิ้งงง ป่ะต้า” สองสาวชูกำปั้นจับมือกันเดินไป มองเผินๆ ก็เหมือนเพื่อนผู้หญิงที่ชอบจับมือกันเดิน ดูน่ารักเหมือนเด็กมัธยม


“มึงเห็นป่ะ เขาเป็นกันอย่างนี้ มึงจะไปบอกพ่อแม่เขาทำลายชีวิตรักเขาลงได้ไง มึงพอจะเข้าใจกูยังว่าทำไมกูยอมตามน้ำให้พวกเขา”


“แต่แลกกับชีวิตมึงทั้งชีวิตเลยนะเว้ย ถ้าวันข้างหน้ามึงเจอคนที่ใช่แล้วเขารับไม่ได้ที่มึงเคยแต่งงานล่ะ ถ้าเขารู้แล้วถอยจากมึงล่ะ หรือมึงอาจจะไม่มีโอกาสเจอคนคนนั้นของมึงเลยนะ”   


“กูคิดว่ากูเจอแล้ว เจอนานแล้วด้วย”


“แล้วทำไมมึงไปบอกเขา”


“กูก็กำลังชวนเขาไปเที่ยวด้วยกันนี่ไง”


“หา”


“มึงนี่ชอบหา กูบอกว่ากูเจอแล้ว รอเขาตอบรับอยู่ ฮ่าๆๆๆ อ้าปากกว้างเชียวนะมึง เดี๋ยวกูจับจูบซะหรอก”


“ไม่จริง มึงแกล้งกู” ผมเลิกเดินไปส่งเขา ผมหันกลับ ใจเต้นระรัว บ้า ไอ้บ้านั่นแกล้งผมอีกแล้ว ผมเกลียดการแกล้งของเขา ผมเกลียดการพูดจาหรือการกระทำที่ทำให้ผมใจเต้น แล้วลงท้ายเขาก็บอกว่าทั้งหมดนั่นคือการล้อเล่น ผมเกลียดความจริง


ผมเกลียดหัวใจตัวเองที่ไม่เคยเกลียดเขาได้จริงๆ สักที


หัวใจนี้ ผมตัวสั่นเพราะกลัวเขาจะตะโกนกลับมาว่า ‘เออมึงรู้ทันได้ไงว่ะ กูแค่ล้อมึงเล่นจริงๆ’


แต่สิ่งที่เขาตะโกนตามมายิ่งทำให้ความกลัวของผมทวีคุณขึ้นไปอีก


“กูจริงจังนะ ไม่ว่ามึงจะคิดยังไง คืนนี้กูจะมารอ รอจนกว่ามึงจะมา”


เพราะผมคาดหวังกับคำพูดเขาอย่างเต็มหัวใจ


ผมไม่หยุดก้าว ผมยังคงเดินห่างจากเขาห่างจากเขา ทุกทีๆ





ผมเกลียดเขาพอๆ กับที่ชอบเขา ผมดีใจแทบตายที่เจอเขาวันนี้ แล้วก็กลัวจับใจว่าเขาจะมาล้อเล่นอะไรกับหัวใจผมอีก


ผมเหรอจะเป็นคนที่คนเพียบพร้อมทุกอย่างคนนั้นเลือก ผมเหรอจะคู่ควรกับเขา ดูผมวันนี้ กับดูเขาในวันนี้สิ แค่นี้ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว









..................





สี่ทุ่มครึ่ง ผมยังเข้าออกโกดังขนย้ายเปลี่ยนสินค้าตัวโชว์ไม่เสร็จ


“สร มึงเอาแต่ดูนาฬิกา นัดใครไว้ป่าวว่ะ”


“เปล่านี่”


“เฮ้ย ถ้ามีนัดก็ไปก่อนก็ได้ ทางนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว”


“เอ่อ... ได้เหรอว่ะ”


“ได้ดิ ตอนนี้ที่นี่กูใหญ่สุด” บอลเพื่อนผมบอก ซึ่งก็จริงของมัน มันเป็นรองผู้จัดการ


“ไม่เป็นไร ก็อีกนิดเดียว ช่วยๆกันหลายๆคนจะได้เสร็จเร็วๆไง”


 แต่ผมคิดว่า กรคงไม่อยู่รอผมแล้ว ถึงออกไปตอนนี้ก็คงไม่เจอเขา สู้อยู่ทำงานไปเรื่อยๆดีกว่า กลับออกไปก็เสียความรู้สึกเปล่าๆ ถ่วงเวลาให้การเสียความรู้สึกมันไกลออกไปอีกนิดก็ยังดี


ผมออกจากห้างด้วยประตูหลัง ตอน 22.48 นาที เลทไปเกือบชั่วโมง ถ้าเขายังรอผมจะกระโดดขึ้นรถเขาอย่างไม่ลังเล แต่ถ้าเขาไม่รอ ผมว่าผมได้นอนร้องให้ที่หอคนเดียวอีกตามเคย


ชีวิตอับเฉาของผมมันเริ่มมานานและไม่เคยสิ้นสุด


ผมถอนหายใจ เดินไปหน้าห้างกะโบกแทคซี่ มีแทคซี่จอดรออยู่หลายคัน เพราะข้างๆ เป็นที่เที่ยวกลางคืน ผมไม่กล้าคาดหวังจริงๆว่าจะมีไอ้บ้ารออยู่หรือไม่รอ ผมมองไปรอบๆ ไม่มีรถแปลกๆ นอกจากแทคซี่ ผมไม่กล้ามองหามากไปกว่าบริเวณที่สายตาส่องถึง ผมกลัวยิ่งคาดหวัง จะยิ่งผิดหวัง ผมได้แค่ถอนหายใจ


ไม่มีเขา เขาไม่ได้รอ เขาแค่ล้อเล่น จบแค่นี้


กลับไปเสียใจต่อที่ห้องอีกนิดหน่อยมึงก็จะกลับมาเป็นสรคนเดิมเอาเองแล้วกันนะไอ้สร


มีแรงสะกิดที่ไหล่ ผมสะดุ้งตกใจกระโดดหนี เวลาแบบนี้ไม่ผีก็โจร


“เหี้ยแม่ง!”


“อะไร ตกใจทำไม นึกว่ามึงเห็นกูซะอีก”


“กร!”


“เออดิ”


“มึงอยู่ไหนเมื่อกี้”


“กูนั่งอยู่เนี่ย” มันชี้เก้าอี้ในป้ายรถเมล์ ผมไม่เห็น ผมไม่รู้ว่ามีคนด้วยซ้ำ ผมมองหาแต่รถ


“แล้วรถมึงอ่ะ”   


“จอดไว้หน้าเซเว่นตรงโน้นน นี่มึงกะหลบหน้ากูรึไงถึงออกมาป่านนี้แถมตกใจตอนเห็นกูอย่างกับเห็นผี”


“เปล่า งานกูไม่เสร็จ ที่ตกใจเพราะกูนึกว่าผีสะกิด”


“ฮ่าๆๆ มึงนี่ กลัวผีขึ้นสมองเหมือนเดิม ป่ะ ไปกับกู นะ”


“ไปก็ได้ พรุ่งนี้กูว่าง” ผมตอบให้เหมือนไม่คิดอะไร แต่ใจจริงผมคิดเยอะมาก


“ไม่ว่างไม่ได้เหรอ?”


“อ้าว อะไรของมึง ไม่ว่างกูก็ไปไม่ได้ดิ นี่มึงอยากรึไม่อยากให้กูไปกันแน่เนี่ย”


“หมายถึงหัวใจมึงอ่ะ ไม่ว่างได้ไหม เอากูไปใส่ให้เต็ม”


“มึงจะไม่เลิกแกล้งกูจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” ผมเริ่มโมโหอีกแล้ว


“แกล้งบ้าอะไร นี่จีบอยู่โว้ย จีบครับจีบ มึงนี่หัวช้า แวะเซเว่นหน่อย กูไปซื้อของที่ทำให้มึงหัวไว เอาอะไรมั้ย หยิบเลย หรือจะแวะหาอะไรกิน?”


“ซื้อไปกินบนรถก็ได้ ดึกแล้วขับรถอีกไกลนิ” ผมเริ่มลังเล หรือจะไม่ไปดี?


“อื้ม” มันยื่นตะกร้าให้ผม ผมไปเลือกของกินที่ต้องอุ่นก่อน แล้วไปยืนเลือกน้ำข้างใน


“หยิบชาเขียวให้ขวดนะมึง เอารสน้ำผึ้ง”


“ได้ๆ”


ผมไปเลือกน้ำของตัวเอง มีเสี่ยเลี้ยงผมเลยหยิบน้ำทับทิมร้อยเปอร์เซ็นที่โคตรแพงสำหรับผมที่ปกติถ้าจ่ายเองจะไม่ซื้อกินเด็ดขาด ไม่ลืมหยิบของกรกับน้ำเปล่าติดมาด้วย ตอนมาจ่ายเงิน ผมเห็นมันถืออยู่ถุงหนึ่งแล้ว เป็นเหลี่ยมๆ กล่องๆ สงสัยซื้อบุหรี่มันเห็นผมมองก็ยัดใส่กระเป๋ากางเกงไป




เราขับรถมุ่งลงใต้ จุดหมายปลายทางคือหัวหิน


“นี่ความใฝ่ฝันกูเลย”


“อะไร?”


“ขับรถแล้วมีคนป้อนข้าวป้อนน้ำเนี่ย”


“ความฝันมึงนี่ง่ายเนอะ”


“ไม่ง่ายนะเว้ย กว่าจะมีวันนี้ได้ กูคิดว่าจะไม่มีซะแล้ว”


“มึงให้เลขามานั่งป้อนก็ได้นี่หว่า”


“หื้อ มึงนิ คนที่ว่ากูหมายถึงมึง ให้มึงป้อน” ผมฟังแล้วแหม่งๆ เลยหยุดป้อนลูกชิ้นมัน แล้วถามกลับ


“นี่มึงจีบกูจริงๆ เหรอ?”


“เอ้า ไอ้นี่ จีบจริงดิ กูลงทุนขับรถไปหัวหินนี่ถ้าคิดแค่เพื่อนกูปล่อยมึงกลับบ้านเองไม่ไปส่งด้วยซ้ำ”


“อะไรทำให้มึงทำแบบนี้ ถ้าจะแกล้งกันไม่ตลกนะ ผมทิ้งไส้กรอกลงกับตัก”


“ไม่แกล้ง กูจริงจัง ทำไมมึงฝังใจว่ากูจะแกล้งมึงตลอดเวลาวะ กูแหย่ตามประสาคิดถึงก็หาว่ากูแกล้ง กูหยอดมุขกะทำหวานก็หาว่ากูแกล้ง”


“ก็มึงแกล้งกูมาตลอด ...ตั้งแต่เด็ก”


“เอาจริงนะ อันนี้กูขอสารภาพ ตอนม.1 ขึ้นม.2 มึงที่เคยร่าเริงกำลังเศร้ามาก” ผมฟังมาถึงตรงนี้ ภาพอดีตในตอนนั้นย้อนกลับมา ใช่ ผมเศร้าจริงๆ การสูญเสียครอบครัวทั้งหมดไปทำให้ผมเปลี่ยนเป็นคนละคน


“กูเห็นความเปลี่ยนแปลงของมึงทั้งหมด แล้วไม่อยากให้มึงจมอยู่อย่างนั้นคนเดียว ก็เลยกะชวนมึงเล่นด้วย ตอนนั้นมันอาจเป็นการดึงดูดความสนใจจากมึงแบบโง่ๆจากเด็กคนนึง แต่เวลาที่มึงจะสนใจแล้วหันมามองกูก็มีแต่ตอนที่กูแกล้งมึง กูก็เลยแกล้งมึงมาเรื่อยจนชิน ตอนนั้นกูยังเด็ก ไม่รู้หรอกว่าที่ทำไปนั่นดีหรือไม่ดี แต่พอกูโตขึ้นแล้วมาย้อนคิดดู กูผิดเอง กูขอโทษกับการกระทำที่เคยทำร้ายมึงทั้งหมดที่ผ่านมา ขอโทษจริงๆ”


“...” ผมพูดไม่ออก จริงอย่างที่เขาพูด ผมปลีกตัว ผมเอาแต่อยู่คนเดียว เขาที่คอยแกล้งทำให้ผมมีเพื่อนที่คอยกันเขาให้ผม ทำให้ผมมีคนคุยด้วย ทำให้ผมผ่านช่วงเวลามืดดำออกมาพบผู้คนรอบข้าง ทำให้ผมไม่หายไปจากเพื่อนๆ เขาคอยเดินตาม คอยเตะตัดขาผมทำให้เวลาเดินผมต้องระวังอยู่ตลอดไม่เดินเหม่อลอย ตอนเรียนที่ผมเริ่มก้มหน้าและมองรูปพ่อแม่ในกระเป๋าเงิน เขาจะคอยเอาดินสอจิ้มคอให้ผมเงยหน้ามาหาเขา


ผมไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้เลยว่าที่จริงเขากำลังช่วยผมออกมาจากอะไร


น้ำตาผมไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความเสียใจในตอนนั้นมันย้อนกลับมาชัดเจน คำพูดของเขาทำให้ผมย้อนคิด ทำไมจนถึงตอนนี้ผมไม่รู้ว่าที่จริงเขากำลังช่วยผม


“เฮ้ย ร้องให้ทำไม”


“ก็มึงแกล้งกู” ผมพูดน้ำตานองหน้า แต่ยิ้มให้เขา


ไอ้บ้าจอดรถข้างทางทันที หยิบทิชชู่เช็ดน้ำตาให้ผม


“ขี้แยไม่เปลี่ยนเลยนะมึง”


“ก็มึงเสือกทำหล่อทำไม” มารำเลิกบุญคุณเอาป่านนี้ ผมนี่ไปไม่ถูกเลย ขนาดมึงแกล้งกูชิบหาย กูก็ยอมจะตายห่า นี่ยังมาทำหล่ออีก แบบนี้จะเอาอะไรกูก็ยอมหมดเลยสิมึง


“ถ้าหล่อแล้วมึงรัก กูก็อยากหล่อ แต่ถ้าหล่อแล้วมึงเกลียดกูไม่อยากหล่อหรอกนะ”


“อันนี้จีบใช่ไหม?”


“ครับ”


“อย่าพูดเพราะๆ แบบนั้น”


“ทำไมครับ?”


“ฮื้อ...” ไอ้บ้าไม่สงสัยเปล่า ไอ้บ้ากำลังโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้ ใกล้มาก ผมเอียงจนหัวติดกระจกรถแล้วตอนนี้


“ไม่เอานะ ตรงนี้ไม่ได้”


“ทำไม เพราะเป็นข้างทางเหรอครับ”


“ก็เออดิ” เขาได้ยินแค่นั้นก็ถอยออกไปออกรถ


“งั้นถ้าไปถึงคอนโด เสร็จผมนะครับ เอ้ย ผมจัดการนะครับ เอ้ย เป็นของผมนะครับ เอ่อ ไม่มีอันที่ดูเหมือนจะดีเลยแหะ เหอๆ”






“กูขอกลับตอนนี้ทันไหม?”


“คิดว่าไงล่ะครับ?”


“ไม่น่ารอดครับ”


“น่ารักมากครับ”







-----------------------------------------------
TBC.


บอกเลยว่าที่กรซื้อไม่ใช่บุหรี่ ฮ่าาาา

สรเอ๋ย เจ้าจักมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่


เพจคนหัดเขียน >>
https://web.facebook.com/Brosohub/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2017 04:08:27 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไม่รอด!!!! 555

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :เฮ้อ:
สร
โล่งอกเข้าใจแล้วว่าทำไมกรถึงได้แกล้ง
ว่าแต่..สรเตรียมใจไว้หรือยังว่าจะโดนเชือด
กร
นี่ก็อะไรตรงแหน่วขนาดนั้นนะ พูดอ้อมๆบ้างก็ได้
บางคนยังรับไม่ทัน กับการรุกโต้ง ๆ แบบนี้
 :กอด1:
มีความสุขทั้งคู่นะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่ารักดีค่ะ
เป็นการแกล้งที่มีเหตุผลรองรับมากที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย ฮา
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เป็นรักตั้งแต่วัยเด็กแบบไม่รู้ตัวเลย อิอิ น่ารักอ่ะ
แต่ที่แน่ๆๆถึงคอนโดเมื่อไรโดนกินแน่ ฮ่าๆๆ
รอออออ

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
กรรุกหนักมาก หุหุ

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
- คิงไซซ์ - 2 -

---------------------------------------



มาย้อนคิดดูทำไมมันช่างปุบปับ


ที่ผมเลือกมากับมันเพราะเห็นแก่ของฟรีนี่ผมพลาดไปใช่ไหม หวังแค่นั้นจริงๆ คือไม่ได้มีใจอยากเพลี่ยงพล้ำเลยนะ จริงๆ


ทำไมรู้สึกว่าทั้งหมดนี่มันแปลกๆ นะ? ผมแค่ระแวงไปเอง หรือผมกำลังติดกับ


ทุกอย่างมันลงตัวเกินไป เหมือนละครฉากหนึ่งที่ถูกจัดไว้







ไอ้บ้าขับรถมาจอดในลานจอดรถของคอนโดหรูที่เคยเห็นแต่ในรายการอวดบ้านดาราไม่ก็โฆษณาในเว็บ


โห นี่บ้านพักตากอากาศ ผมคิดว่าเก็บเงินทั้งชาติก็ยังไม่มีปัญญา


“พลอยกับกีต้าร์ก็มานี่นะ แต่มีหลายห้องนอนไม่ต้องห่วง”


“จะขึ้นห้องเลยเหรอ?” ผมถาม หันไปมองทะเลที่มีดวงจันทร์เกือบเต็มดวงลอยอยู่ในน้ำ


“อยากไปที่หาดเหรอ?”


“ได้ไหม?”


“ได้อยู่แล้ว ป่ะ”


ผมเดินยิ้มไปที่หาด ถอดรองเท้าไว้ที่ขอบปูน แล้วเดินเท้าเปล่าลงไปเรื่อยๆ


ผมเดินลงไปเหยียบทรายเม็ดละเอียด รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่รู้สึกมานาน ซุกเท้าลงในทรายนิ่มๆ แล้วเดินลงไปเหยียบคลื่นที่ซัดทรายจนแตกเป็นฟอง


“อย่าลงไปลึกนะ”


“อื้ม”


ผมเดินไปเดินมา มีไอ้บ้ายืนยิ้มมองอยู่ได้ เขาไม่ว่าอะไรผม สักพักเขาเดินไปยกเก้าอี้ชายหาดมาวางกลางหาดสองตัว แล้วนั่งลง ผมเห็นเขานอนเงยหน้ามองฟ้า ก็เลยอยากทำบ้าง


“ดาวสวยกว่าทุกวันเลย”


“มีดาวที่ไหน เดือนหงายใกล้วันเพ็ญแบบนี้จะมองเห็นดาวได้ไง”


“ดาวในใจกูนี่ไง มึงมองไม่เห็นตัวเองหรอก แล้วก็เลิกคิดว่ากูแกล้งมึงได้แล้วนะ”


“...”


“เงียบทำไม นี่จีบนะ ไม่ได้แกล้ง”



“มึงทำเหมือนขาดความอบอุ่นเลยนะ”


“ก็ขาดไง” เขาพูดทั้งที่ส่งสายตามีมความหมายมาให้


ผมไม่อยากอยู่กับบทสนทนาที่อึดอัดต่อ เลยชวนเปลี่ยนเรื่อง




“พ่อแม่สบายดีมั้ย ไม่เจอนานแล้ว” ผมเปลี่ยนเรื่อง ผมชอบพ่อแม่มัน พ่อกรทำงานตลอดไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ แต่แม่กรเป็นแม่บ้านอยู่บ้านตลอดเวลาผมไปบ้านเขาทีไรแม่มันใจดีกับผมเสมอ คงเพราะรู้ว่าผมไม่มีพ่อแม่แล้ว เขาก็เลยเอ็นดูผมล่ะมั้ง เขาโตมากับครอบครัวที่อบอุ่น ผมอิจฉาเขาเสมอเวลามองพวกเขาเวลาอยู่ด้วยกัน


“...” เขาไม่ตอบ แต่มองหน้าผมด้วยยิ้มจางๆ


“ทำไมอ่ะ ไม่สบายเหรอ?”


“เปล่า ไม่ใช่ คือ พวกเขาเสียแล้ว อุบัติเหตุน่ะ สี่ปีกว่าแล้ว”


“...เสียใจด้วยว่ะ กูไม่น่าถามเลย” ผมพอเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นแล้วในตอนี้


เขาเอง ก็สูญเสีย... พ่อแม่


“ไม่เป็นไร กูก็กะจะบอกมึงอยู่แล้ว”


“บอก?”


“บอกว่ากูก็ตัวคนเดียว เหมือนมึงไง”


“...”


“เหงานะการอยู่คนเดียว กูนับถือมึงเลยทั้งที่มึงตอนนั้นอายุแค่ 13 ของกูตอน 22 กูยังร้องให้สามวันสามคืนไม่อายใครเลย”


“มั้นผ่านมาแล้วมึง พวกท่านจะต้องภูมิใจในตัวมึง”


“กูก็คิดแบบนั้น”


เราต่างมองออกไปไกลๆ ไร้จุดหมาย ไม่มีคำพูดอะไรอีก ผมเข้าใจเขามากขึ้น เขาเองก็คงคิดถึงเรื่องต่างๆ ในอดีต


มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และแสนเศร้า มีแต่คนปลอบใจบอกว่าเข้าใจๆ แต่ความจริงแล้วไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจจริงๆ ว่าเรารู้สึกยังไง การใช้ชีวิตอยู่เหมือนจะหมดความหมายไป ทุกอย่างไม่มีความสำคัญพอให้สนใจ และเรื่องราวต่างๆ ผ่านเข้ามาราวกับมันเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดขึ้นหลังม่านบางๆ


แต่ผมผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้ ผมก็เลยคิดว่าไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว เพราะคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าชีวิตผมช่วงนั้นอีกแล้ว ผมจึงใช้ชีวิตอย่างไร้ความกดดัน และปล่อยมันให้เป็นไปไม่ได้ขวนขวายอะไรให้เหนื่อย เพราะสุดท้ายตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี 





“ที่นี่คอนโดมึงเหรอ?”


“เปล่า ของคุณพลอย ของคุณพลอยทั้งโครงการ”


“หา”


“ฮ่าๆๆ รู้ป่ะ เวลามึงหาโน้นหานี่โคตรน่ารัก”


“สวยแล้วยังรวยเหี้ยๆ”


“เออดิ พ่อเขาเป็นเพื่อนกับพ่อกู ตอนกูแย่ๆยังทำงานไม่ค่อยเป็นก็ช่วยกูไว้หลายอย่าง ไม่ได้พ่อเขากูล้มไปนานแล้ว คงรักษาสิ่งที่พ่อแม่สร้างไว้ไม่ได้”


“มึงอย่าดราม่าจิ”


“เอ้ย ขอโทษๆ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังต่อ วันนี้ไปนอนเถอะ ขับรถมาล้าไปหมดแล้ว”


เรายกเก้าอี้กลับมาวางที่เดิมคนละตัว หิ้วรองเท้า เดินเท้าเปล่าไปล้างเท้าก่อนขึ้นคอนโด


มาถึงห้อง ห้องโคตรหรูหรา ในห้องมีสองชั้น ห้องนั่งเล่นเพดารสูง หน้าต่างที่สูงถึงเพดารชั้นสอง นี่มันกองถ่ายละครรึเปล่า


“พวกนั้นคงนอนห้องข้างบนแล้ว”


“ไม่บอกก็รู้มั้ง” เพราะประตูห้องนอนห้องข้างล่างเปิดอ้าไว้ชัดเจน




ผมเดินไปที่หน้าต่าง มองเห็นทะเลกับสระว่ายน้ำจากตรงนี้ เห็นพระจันทร์กับเงาที่สะท้อนอยู่ในน้ำเหมือนที่มองจากริมหาดเลย


“ตอนกลางวัน แดดตรงนี้คงร้อนเนอะ”


“ฮ่าๆๆ มึงนี่ กำลังจะโรแมนติคอยู่แล้วเชียว ป่ะ ไปอาบน้ำอาบท่า จะได้เข้านอน พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”


“เที่ยว!”


“ครับ เที่ยว ไปไหม?”


“ไปๆ”


ผมเดินเข้าห้องเกร็งๆ ยังจำที่มันท่องในรถได้ ว่าถ้าถึงห้องผมจะเสร็จมัน ผมเลยถ่วงเวลาให้มากที่สุดเนี่ยแหละ แต่คงหมดทางเลี่ยงแล้ว


เห้อ โดนคำว่าเที่ยวเข้ามาล่อ กูตกหลุมนายพรานรึเปล่าวะเนี่ย


มีชุดนอนสองชุดวางอยู่บนเตียง ผมเปิดตู้เสื้อผ้าออกดูก็มีชุดเสื้อโปโลกางเกงขาห้าส่วนของพรุ่งนี้


“มึงอาบในห้องนะ เดี๋ยวกูไปอาบที่ห้องรับแขก”


“อื้ม”


“เอ้ะ แต่ อาบด้วยได้ป่าว?”


“ไม่ได้ มึงอาบข้างนอกนั้นแหละ หรือถ้าอยากอาบในนี้ก็อาบไปคนเดียวกูไปอาบข้างนอกเองก็ได้”


“ฮ่าๆๆๆ”


ไอ้บ้าหัวเราะเยาะผมครับ ก่อนจะเดินดุ่มๆ หายไปนอกห้อง


หันไปมองเตียงแล้วใจตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างมากก็แค่เสียตัวมั้ง ผมไม่มีอะไรให้เขาหลอก บ้านก็ยังเช่า รถก็ไม่มีปัญญาดาวน์ มือถือก็ใช่เครื่องละสองพันกว่าบาทเล่นไลน์ทีก็ยังคางแล้วค้างอีก เงินในบัญชีก็มีน้อยนิด


ยกเว้นใจผมเนี่ยแหละ


ถ้าแม่งหลอกกูจริง กูจะทำใจไหวป่ะเนี่ย


บอกตรงๆทุกอย่างที่เขาพูดที่เขาทำ ทำให้ผมแทบลืมเผื่อใจ ถึงแม้ที่เขาพูดจะจริงถ้าเขารักผมจริง คบกันไปจะรอดมั้ย อีก ผมจะเป็นคนรักที่คู่ควรของเขาไหม ผมไม่กล้าคิดเลย ดูชีวิตเขาสิ ดูเขาทุกวันนี้สิ ให้กลับไปคบกับไอ้กรตัวดำหัวเกรียนขี้แกล้งยังดูเป็นไปได้มากกว่าคุณกรไฮโซขี้หยอดคนนี้อีก


ผมอาบน้ำไปก็ถอนหายใจไป ผมคิดมากไปรึเปล่า บางที ขอแค่วันนี้เรามีความสุขขี้ปากคนอื่นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนอื่นไป แบบนั้นดีกว่าไหม


ผมยอมรับว่าเขาทำให้ผมหวั่นไหว ผมชอบเขาไม่มากก็น้อย ไม่ได้โกรธไม่เกลียดแล้ว แต่จะให้บอกว่านี่คือรัก มันคงยังเร็วไป ผมควรให้เขามากแค่ไหนในวันนี้ ถ้าให้เขาหมดผมจะได้กลับมาหมดอย่างที่ให้ไปไหม?


ผมจะเชื่อเขาได้ไหม


ผมอยากเชื่อเขานะ


ผมอยากให้รักที่เขาแสดงออกเป็นเรื่องจริง


ขอให้มันจริง ผมขอเสี่ยงกับการลงทุนครั้งแรกในชีวิต



ผมใส่ชุดนอนเต็มยศออกมาจากห้องน้ำ กรนั่งอยู่บนเตียงแล้ว เขากำลังเช็ดหัวเหมือนกัน


เขาดึงผ้าผมไป โยนลงตะกร้า


“ผ้าเปียกแบบนี้เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่แห้ง มา เช็ดให้”


“นี่มุขจีบสาวเหรอ ใช้บ่อยไหม”


“สาวๆเขาอาบน้ำไม่ค่อยปล่อยให้ผมเปียกหรอกนะ”


“...” ผมขมวดคิ้ว แม่งรู้ได้ไงวะ


“ฮ่าๆๆ ดูทำหน้าเข้า ไม่เคยทำแบบนี้กับสาวที่ไหนหรอกน่า บอกแล้วกูทำแต่งาน เวลาหาแฟนยังไม่มีเลย”


สุดท้ายเขาเอาไดร์เป่าผมมาเป่าให้ทั้งหัวผมทั้งหัวตัวเอง แม่งโคตรผู้ดู กูปล่อยตามมีตามเกิดนอนเลยตลอด ไม่ได้นอนห้องแอร์อยู่แล้วนอนทั้งผมหมาดๆเลยไม่เป็นปัญหา



พูดถึงห้องแอร์ ผมก็ขนลุก แอร์ผู้ดีนี่เย็นเนอะ เปิดทิ้งไว้ไปอาบน้ำแป็ปเดียวกลับมาเย็นยะเยือก


“หนาวเหรอ เดี๋ยวปรับแอร์ให้”


“อื้ม หนาว” ผมลูบๆแขนให้ขนยุบ การอยู่แบบผู้ดีนี่มันไม่เข้ากับธรรมชาติผมจริงๆ


“ขี้หนาวเหมือนเดิมเลยนะ”


“มันเปลี่ยนกันได้รึไง”



“มีห้องนอนห้องนี้ห้องเดียวเหรอ?”


“มีอีกห้อง แต่ไม่ให้นอน จะให้นอนห้องนี้”


หมดกัน หมดทางหนี


“ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ทำอะไรหรอกน่า” ประเด็นอยู่ที่กูไม่ได้ไม่เต็มใจไง นี่กูเตรียมใจมาแล้วไงความไม่เต็มใจกูตัดทิ้งไปตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำแล้ว


“มาๆ มานอนเถอะ กูก็ไม่ใช่เด็กๆเลือดร้อนนะ ปีนี้ 27 แล้วนะเว้ย”


“ก็เท่ากันอ่ะแหละ” ผมตอบเสียงอ้อแอ้ แล้วทำไมผมต้องอ้อแอ้!





“ขอไรอย่างดิ”


เชี่ย ไวมาก! กูขอกลับไปเตรียมใจอีกรอบ นี่ยังไม่ทันหัวถึงหมอนเลย แม่งงงงงงง


“อะไร?” ผมวางท่าถาม


“ขอกอดได้ป่าวตอนนอนอ่ะ ผมขาดความอบอุ่น”


“ถ้าแค่กอดเฉยๆ ก็ได้อยู่” ต้องมีเชิงหน่อยๆ


กรหันไปปิดไฟหัวเตียง แล้วขยับเข้ามาหาผมเบาๆ โอ้ย ร้อน ร้อนมาก แอร์ยี่ห้อนี้เป็นฮีตเตอร์ได้ด้วยเหรอ


“ฮ่า อย่างกับฝัน”


ผมอยู่ในท่านอนหงาย แขนซ้ายเขาเอามาให้ผมหนุน แขนขวาโอบอยู่บนอกผม แถมขามันยังหนีบขาผมไว้ข้างนึง ผมนี่ขยับไปไหนไม่ได้เลยนอนตาแข็งมองเพดารนิ่ง


เวลาผ่านไป มีเพียงเสียงหัวใจผม ความเงียบกับลมหายใจสม่ำเสมอ...


นี่มึงหลับแล้วเหรอไอ้บ้ากร กูโคตรตาค้าง


แต่เขาก็พูดขึ้นในที่สุด








“สร”


“หื๋อ?”


“นี่ก็ไม่ได้อยู่ข้างทางแล้วนะ”


“อื้ม”


“ไม่ได้อยู่ในรถด้วย”


“ใช่”


“ขอจูบได้ไหม”


“นึกว่า จะไม่ทวงซะแล้ว”




หัวใจผมพองโตเต็มอก ทุกประสาทสัมผัสตื่นตัวและรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเขา มือขวาเขาบนอกผมลูบเลื่อนขึ้นจับปลายคางประคองแก้มผมไว้ วูบหนึ่งผมกลัวจับใจ ว่าตื่นขึ้นในเช้าพรุ่งนี้ทั้งหมดนี่จะเป็นเพียงความฝันที่ผมฝันไป กลัวว่าเขาจะบอกว่าแค่แกล้งอำผมเล่นเขาไม่ได้คิดจริงจัง กลัวทั้งหมดนี้จะไม่จริง ด้วยเหตุผลอะไรๆ ก็ตาม


“กร ใช่กรรึเปล่า”


“ใช่ นี่แหละกร”


“พิสูจน์ได้ไหม?”


เขาจูบซ้ำลงมาและดึงจนผมตะแคงไปกอดแน่น สองมือของเขาลูบไปทั่วแผ่นหลังผม วงแขนแข็งแรงที่เคยแกล้งผมต่างๆ นาๆ แต่ก็คว้าตัวผมทันทุกครั้งที่ผมทำท่าจะล้ม


มือที่ผมเคยเห็นเขาจูงมือผู้หญิงเดินผ่านไปแล้วทำให้ผมเจ็บแทบขาดใจ มือที่เพิ่งเช็ดน้ำตาให้ผมหลังทิ้งผมไว้กับน้ำตาเป็นสิบปี


มืออุ่นเลื่อนเข้ามาใต้เสื้อ เกลี่ยผิวผมไปมา สองลิ้นกระหวัดไล่เกี่ยวพันกันไปมา ลมหายใจที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นๆ มือที่ล้วงลึกล่วงล้ำมากขึ้น นี่เรากำลังสร้างความทรงจำใหม่ร่วมกัน ใช้ช่วงเวลาที่เป็นสุขร่วมกัน


กางเกงนอนของผมถูกดึงหายไปอย่างง่ายดาย การประท้วงของผมถูกกลืนหายไปพร้อมๆ กับความยับยั้งชั่งใจ  ผมปลดกระดุมของเขาทีละเม็ด วางฝ่ามือทาบกับอกกว้าง เสียงหัวใจที่เต้นหนักๆ อยู่ข้างในทำให้ผมรู้ว่าเขาเองก็ตื่นเต้น


เราจูบกันไม่ห่าง มือหนาทำให้ร่างผมเปล่าเปลือย เครื่องปรับอากาศไม่ทำให้อุณหภูมิของเราลดลงได้เลย


“อ่ะ อ้าา” เสียงครางน่าอายของผมหลุดออกมาเพราะถูกสัมผัสส่วนที่แสนจะอ่อนไหว


“สร จับให้หน่อยสิ” ผมอายจนต้องหลบตา ยกมือขึ้นแตะผ้าตรงนั้นของเขาอย่างเก้ๆกังๆ เขาปล่อยมือจากผมแล้วจัดการถอดกางเกงตัวเองออก ก่อนจะสาวมือผมให้โอบรอบส่วนนั้น มันพองเต็มมือจนผมตกใจถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่การจับของคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เคยทำ


“อ้า อ่ะ อ่ะอ่ะ กร ไม่” เขาจูบปากผมไวๆ ก่อนจะก้มลงไปทำในสิ่งที่ผมตกใจ


ปลายลิ้นอุ่นแตะยอดนิ่มๆไปมา ก่อนเขาจะสวมทั้งปากลงครอบส่วนนั้นของผม เหมือนกระแสไฟไหลพล่านไปทุกรูขุมขน ความซ่านเสียวที่ผมไม่เคยได้สัมผัส ริมฝีปากและลิ้นปลดเปลื้องอารมณ์ให้ผมจนไม่นานความสุขก็วาบไหวล้นทะลักออกมาคาปากเขา


เขาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมทั้งที่ขอบปากเต็มไปด้วยความน่าอายของผม ผมหอบหายใจถี่ เหนื่อยเกินจะขยับตัว


“อย่าเพิ่งหลับ นี่เพิ่งเริ่ม” เขาพูดหลังจากปาดน้ำของผมลงกับส่วนนั้น ปลายนิ้วสักนิ้วของเขาผลุบเข้ามาในร่างผมอย่างง่ายดายเพราะความลื่นของน้ำคาวของผม  เขาบรรจงป้ายช่องทางผมจนทั่วถึง ผมเกร็งไปทั้งตัว


ผมไม่รับรู้แล้วตอนนี้ว่าเขาใส่นิ้วเข้ามากี่นิ้ว รู้แต่มัน มัน มันจั๊กกะจี้ วูบวาบแปลกๆ


“อย่าเกร็งนะ เดี๋ยวจะเจ็บ ผ่อนคลาย ไม่น่ากลัวหรอก”


เขาผละออกไปหยิบถุงเซเว่นที่เคยใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง มันคือกล่องถุงยาง ผมอายจนพยายามดึงผ้าห่มขึ้นปิดบังร่างกาย


“มันช่วยหล่อลื่นนะ สรจะไม่เจ็บเลย”


“ไม่เจ็บได้ไง กูไม่เคยเลยนะเว้ย”


“...” พอได้ยินผมพูดเท่านั้น มันจูบปิดปากผม พร้อมๆ กับจับขาผมแยกออก เอาหมอนมาหนุนสะโพกผม แล้ววนตรงปลายจดจ่ออยู่ตรงปากทาง


ผมจะห้ามแต่ปากก็ถูกปิด รู้สึกได้ว่าเขาจับกดเข้ามาช้าๆ ส่วนหัวเข้ามาได้ผมก็แทบแยกเป็นเสี่ยงๆ ปลายนิ้วจิกไปทั่วเพราะสุดจะทน เขาช้าลงโดยที่ผมไม่ได้บอกให้ช้า ปากคอยบอกให้ผมผ่อนคลาย ผมที่เพิ่งเสร็จไปตอนนี้เหี่ยวมากเพราะความเจ็บมันมากจนไม่มีความรู้สึกอย่างอื่น


เจ็บไหมมันก็เจ็บนะ แต่แปลกที่ผมไม่คิดห้าม แปลกที่ผมยอมทน


“มึงไม่ต้องกลัวนะ กูรับผิดชอบทุกอย่าง” มึงมาพูเอาตอนใส่มามิดแบบนี้กูจะไปเถียงเรียกร้องอะไรได้อีก ไอ้บ้า จะทำก็ทำ อย่ามาค้างๆคาๆ กูอับอาบขายหน้าจะตายแล้ว


“รับดูแลมึงทั้งชีวิตเลย” พูดจบเขาก็เริ่มถอยออกแล้วกลับเข้ามาเนิบช้า


“อ๊า กร ช้าๆ อื้มๆ”


เขาจับสะโพกผมให้รับแรงของเขาให้ถูกจังหวะ ผมจับต้นแขนเขา ดึงเขาลงมาให้รับจูบ


“อื้อๆๆ อ่า อ๊า”  เหมือนการดึงเขามาจูบมันไปกระตุ้นอะไรเขาสักอย่าง แม่งลืมไปแล้วรึไงว่ากูยังไม่ชินอ่ะ


เอ้ะ หรือชินวะ มันไม่เจ็บแล้ว ไม่ทรมานจะเป็นจะตายอีกแล้ว แต่ อ๊า เสียว แปลกๆ โอ้ว นี่มัน นี่มัน


ในแสงสลัวผมเห็นตัวเองตั้งตระหง่านกลับขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้บ้าเองก็เห็น มันมองแล้วยิ้ม โคตรหื่น


“สร อื้ม สร”


เชดดดดดด เสียงแม่งโคตรเซ็กซ์


ผมไม่มีแรงพูดได้แต่นอนครางอยู่อย่างนั้น กรยกผมลอยแล้วใส่มาจนผมสั่นไปทั้งตัว มือผมกำที่นอนจนแทบขาดติดมือ


เขาจับขาแยกจนสุด สวนหนักๆ แน่นๆสองสามครั้ง แล้วก็ล้มตัวลงทับผม


ผมถึงรู้สึกตัว ว่าปล่อยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมกับเขานอนจมน้ำอยู่อย่างนั้น เราทั้งคู่แย่งกันหายใจ แล้วยังไม่วายดึงผมไปจูบให้หายใจลำบากอีก


เหนื่อยแทบขาดใจ แต่มันดีจนผมกลัวจะหลงมันเข้าซะแล้วเนี่ยสิ ไม่ใช่หลงเซกซ์นะ หลงมันเนี่ยแหละ


เขาค่อยๆถอดตัวออกในขณะที่จูบผมไม่ห่าง กระซิบข้างหูผมว่าเดี๋ยวมา มองตามเขาเข้าห้องน้ำไปเขาปิดประตู ตาผมก็ปิดไปด้วย มารู้สึกอีกทีตอนมีอะไรเย็นๆ มาโดนตัว เขาเอาผ้ามาเช็ดตัวผม เช็ดทั้งข้างหน้าข้างหลังอย่างดี


“รอแห้งก่อนนะอย่าเพิ่งห่มผ้า”


บอกตรงๆผมฟังมันไม่รู้เรื่องเลย ผมง่วงมาก ไม่รู้เขาทำอะไรยังไงต่อ ไม่รู้เขากลับมาตอนไหน แต่รู้ว่ามีร่างอุ่นโอบไว้ ก่อนจะสิ้นสติหลับไป






............................................

(มีต่อ)
   v
   v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2017 04:38:13 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

( ตอน 2 - ต่อ)  >>

............................................



ผมฝันแปลกๆ


ฝันว่าในความมืดมีมือดำฉีกเสื้อผ้าผมออกเป็นเสี่ยงๆ มือดำๆ ทำหยาบคายกับผม มันเล้าโลมแล้วก็พยายามทำให้ผมเคลิ้มตาม ขยี้หน้าอก จับน้องชาย บีบตูด ฟอนเฟ้นไปทั่ว ในความฝันผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกข่มขืน


อ้าว!


ผมลืมตาขึ้นมา รอบตัวสว่างจนเห็นทุกอย่างชัด ผมพบว่าตัวเองอยู่ในท่านอนตะแคง แล้วกำลังถูกกระแทกจากข้างหลัง


เชี่ยอะไรเนี่ย!


“กร กร เดี๋ยว นี่มันยังเช้าอยู่ อ้า เลย”


“เช้าเนี่ยแหละ มึงจะได้ไม่คิดว่าทั้งหมดนี่เป็นความฝัน” มือเขาจับผมไว้เป็นตัวประกัน ขยับไปพร้อมๆกันข้างหลังที่กระหน่ำเข้ามาชนิดที่ว่าผมอยากจะหันไปถามจริงๆ


มึงไปตายอดตายอยากมาจากไหน เมื่อหกชั่วโมงที่แล้วมึงเพิ่งเปิดซิงข้างหลังกูไปนะเว้ย!


“อ้า อ้า กูเชื่อแล้ว อ่ะ ตรงนั้นแหละ อีก อีก” ผมบีบรัดเขาสุดแรงอย่างไม่รู้ตัว


เขายกขาผมขึ้นข้างนึงเพื่อจะเข้ามาได้สะดวก จากนั้นมันก็ใส่ยับ ผมนี่ครางแทบไม่ทัน


ไม่นานผมก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกจากตรงนั้น กรกระทุ้งผมจนสุดติดๆกันก่อนจะปล่อยแช่อยู่ข้างใน



“เชื่อไหม ถ้าไม่เชื่อจะทำไปเรื่อยๆ”


“เชื่อแล้ว กูเชื่อ”  ผมยกธงขาวแทบไม่ทัน


“สร มึงทำให้กูคลั่ง”


“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”


“เนี่ย แค่มึงหายใจกูก็แทบคลั่งแล้ว” ปลายจมูกเขาแทรกมาตามคอ หอมผมมาจนถึงแก้ม


“เป็นหนักนะมึง”


“เป็นเฉพาะกับมึง มึงอย่าเบื่อนะ”


“มึงแหละ เดี๋ยวก็เบื่อกู”


“ไม่มีวัน” ไอ้บ้าที่ยังหื่นไม่จบกระทุ้งผมแรงๆอีกสองทีให้ผมแทบหงายหลัง ก่อนจะค่อยๆถอดออก 


เขาหยิบกางเกงมาใส่ เช็ดตัวให้ผมเหมือนเมื่อคืน ผมปล่อยให้มันทำไป มองนิ่งๆ ไม่มีแรงโต้ตอบอะไร เสร็จแล้วผมก็เอาผ้าห่มมาคลุมเอว สว่างขนาดนี้ เขินเว้ย


“อะไรที่ได้มาง่ายๆ มึงก็จะเสียไปง่ายๆ รู้ไหม” ผมบอกเขา เพราะชีวิตผมลำบากมามาก ไม่สามารถประมาทกับอะไรได้เลย


“ฮ่าๆๆ นี่มึงคิดจริงๆ ว่าที่กูเจอมึงนี่เป็นเรื่องบังเอิญเหรอ”


“อ้าว” ผมที่กำลังจะเลื่อนลอยไปกับความใจง่ายของตัวเองความไม่แน่ใจที่ยังค้างคาอยู่ในมโนจิตสำนึก ถูกดึงกลับเข้าร่างเพราะคำพูดและท่าทางจริงจังของเขา



“กูเสียค่าจ้างนักสืบไปเป็นแสนเลยนะเว้ย”


“หา!”


“ใช่ หา ก็ให้หามึงนั่นแหละ”


“ไอ้ ไอ้โรคจิต ไอ้บ้า ไอ้สโตรกเกอร์ ไอ้หื่น”


“กูชอบอันหลัง แสดงว่ามึงรู้จักกูจริง”


“ไอ้ ไอ้”


“กูรักมึงขนาดนี้ จะโมโหทำไม ต้องดีใจดิว้า”


“เป็นหนักนะมึงอ่ะ ไหวมั้ยเนี่ย”


“มีมึงอะไรก็ไหว”


“แหวะ” แต่ผมดีใจนะ


แม่งผมต้องหน้าแดงแน่ๆ


กรมานั่งพิงหัวเตียงข้างๆ แล้วดึงผมไปกอด ผมก็ยอมว่าง่าย ก็ขนาดนี้แล้วยังจะเหลืออะไรให้วางท่ากันอีกล่ะ


“มึงไม่รู้หรอกว่ากูทำงานมาเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะผ่านมาถึงตรงนี้ กูเสียพ่อแม่ไปตอนเริ่มงานได้ไม่ถึงครึ่งปี แล้วตอนที่กูยังเสียใจอยู่ทั้งที่อยากทิ้งทุกอย่าง กูก็ยังต้องฝืนใจทำงาน กูถามตัวเองตลอดว่า กูทำไปเพื่อใคร? เพื่ออะไร? ไม่มีจุดมุ่งหมายเลยในชีวิต กูกลับไปเปิดดูรูปครอบครัวเก่าๆ รูปสมัยเด็ก ในนั้นมีรูปมึงอยู่ด้วย กูก็เลยคิดถึงมึง ตอนนั้นกูไม่ได้คิดว่าจะทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดทุกวันนี้หรอกนะ กูแค่คิดว่า มึงที่ตอนนั้นยังเด็ก ก็ยังใช้ชีวิตต่อ ในที่สุดก็ยังละทิ้งความทุกข์แล้วยิ้มได้ทุกวัน กูก็เลยอยากทำได้อย่างมึงบ้าง แล้วก็คิดเล่นๆว่า ถ้าได้เจอมึงอีกทีในอนาคต กูจะขอบคุณมึง นั่นคือเรื่องในสี่ปีก่อน”


“นี่กูเป็นไอดอลของมึงเหรอเนี่ย” ผมเลยได้จูบปิดปากดีๆ มาที


“ฮ่าๆๆ จะว่างั้นก็ได้”


“แต่ตอนนั้นที่กูกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ เหตุผลใหญ่ๆ ก็เพราะมึงนะ”


“อันนั้นกูรู้ตัว”


“ห่า ไม่น่าชมเลย”


“ฮ่าๆๆๆ สักพักเพื่อนพ่อก็เข้ามาทาบทามคุณพลอยให้กู จริงๆ กูรู้ตั้งนานแล้วแหละว่าผู้ใหญ่เล็งๆ คนนี้ไว้ให้กูนานแล้ว แต่ด้วยคุณพลอยแก่กว่ากูเขาเลยรอกันว่าจะเจอคนอื่นกันก่อนไหม ไม่ได้อยากบังคับ แต่พอคุณพลอยใกล้จะสามสิบ เลยเริ่มแสดงออกว่าอยากให้คบหากัน”


“หา ว่าไงนะ คุณพลอยอายุเท่าไหร่?”


“ตอนนี้ 31”


“ไม่จริง หน้าอย่างกะ 21”


“เขาตัวเล็กเลยดูเด็ก”


“ตอนนั้นกูเอาแต่ทำงานไม่มีเวลาหาแฟนด้วยซ้ำ พอรู้ตัวว่า เอ้อ เป็นคนนี้นะอนาคตของเรา อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าจะทำเพื่อคนนี้ กูก็ทำงานต่อของกูเหมือนเดิม ดูแลเขาเท่าที่จะหาเวลาได้ แต่ไม่นานเขาก็พากีต้าร์มาเปิดตัว ฮ่าๆๆ จริงๆก็มาขอโทษกูแหละที่มาหลอกกู แต่เขาไม่ได้อยากปิดบังก็เลยพากันมาสารภาพ กูนี่อึ้งเลย นอกจากคู่หมั่นกูจะมีแฟนก่อนหมั้นกับกูแล้ว แฟนเขายังเป็นผู้หญิงเหมือนกันอีก”


“เป็นกูกูก็อึ้ง สวยทั้งคู่ ไม่ได้มีใครดูห้าวเลย” บอกแล้วนะครับ ว่าสองสาวสวยระดับพริตตี้มอเตอร์โชว์


“อื้ม กูเข้าใจเขาทันทีเลย ว่ากับครอบครัวที่คาดหวังมันพูดเรื่องนี้ยากขนาดไหน กูเลยอาสาช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะตอนนั้น กูคิดถึงมึง”


“คิดถึงกูทำไม?”


“ก็ถ้ากูบอกรักมึงตั้งแต่ตอนเราเด็กๆ กูก็คงต้องปิดบังพ่อแม่เหมือนที่พลอยทำ”


“อะไร แกล้งกูชิบหายจะ จะมา...ได้ไง”


“ฮ่าๆๆ ถึงสารภาพ มึงก็คงหาว่าคนเลวๆอย่างกูกำลังเล่นมุขแกล้งมึงอีกอ่ะ”


“ก็เออดิ เพิ่งรู้ตัวเหรอ” ผมพูดเบาๆ ถึงตอนนี้รู้สึกไม่กล้าขึ้นเสียงเหมือนเมื่อก่อน มันเขินๆ แปลกๆ ผมเกาขมับ เป็นจังหวะเดียวกับที่กรหอมแก้มผม


ไอ้บ้านี่!


“หลังจากนั้น กูก็ ทำงานต่อ โดยที่ยังคาใจเรื่องของมึงมาตลอด”


“อ้าว กูรอฟังตอนมึงตามหากูนะเนี่ย”


“ใจเย็นดิ หาอยู่แล้ว ก็ตอนนั้นกูยังยุ่งๆ กูต้องดูบริษัททางบ้านพลอยด้วย เพราะพ่อเขาแก่มากแล้ว คุณพลอยก็เป็นผู้หญิง บางเรื่องก็ไม่ไหว ตอนนี้เริ่มลงตัว กูก็เลยจ้างนักสืบหามึง โดยตั้งใจไว้ว่า ถ้านักสืบหามึงเจอ จะไปหามึงอย่างน้อยสักครั้ง และจุดตัดสินอนาคตกูมันอยู่ตรงนี้แหละ ว่าถ้ามึงมีครอบครัวหรือมีแฟนแล้ว กูก็คงถอย แต่ถ้ามึงยังโสด กูถือว่ามึงคือเนื้อคู่ที่ฟ้าส่งมาให้กู กูจะเอามึงมาเป็นคู่ชีวิตให้ได้”


คำพูดของเขาโอเวอร์มาก สายตาหวานเชื่อมนั่นอีก ผมได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่ได้เขินนะ อยากอ้วก ชิ้ >///<


“มึงไม่น่าเสียตังเลย ถ้ามึงเล่นเฟสแล้วแอดเพื่อนสมัยมัธยมไปเรื่อยๆ ก็หากูเจอเอง หรือไม่ก็เข้าไปในกรุ๊ปเพจโรงเรียน”


“กูทำแล้ว แล้วมึงใช้ชื่อเฟสว่าอะไรล่ะ”


“เออว่า สะออน สอนรัก”


“รูปโปรไฟล์มึงใช้รูปอะไร”


“รูปพระจันทร์ยิ้ม”


“แล้วกูจะหามึงเจอมั้ยคร้าบบบ”


“ฮ่าๆๆ ก็กูไม่ค่อยได้เล่นนี่หว่า ไม่ได้สนใจเลย”


“วันนั้นนักสืบรวมข้อมูลมึงมาให้กูตอนพักเที่ยง กูก็บอกเลขาว่าลาป่วยออกมาหามึงเลย แล้วกูก็หามึงเจอ จบ แค่นี้แหละ เล่าเรื่องของมึงบ้าง”


เขากระชับผมไปกอด จูบแก้ม จูบขมับ ผมเป็นสุขจนเกือบจะระเบิด


“อื้ม กูก็ไม่มีอะไร กูอยู่กับน้าเกตุที่แก่กว่ากูไม่มากอย่างที่มึงรู้ พอกูเริ่มเข้ามหาลัยเขาก็มีครอบครัว กูเลยแยกออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่ตอนนั้น อ้างว่าหาหออยู่ใกล้มหาลัยแล้วจะทำงานพิเศษด้วย เขาเป็นห่วงกูนะ บอกว่าเสาร์อาทิตย์ให้กลับบ้านบ่อยๆ เพราะบ้านที่เขาอยู่เป็นบ้านของกูอยู่แล้ว บอกให้กูอย่าทำตัวห่างเหิน กูก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง พยายามส่งตัวเองเรียนเพราะรู้ว่าพอเขาเริ่มมีลูก ภาระเขาก็เยอะขึ้น จะมาส่งกูทั้งหมดเหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ไหว การที่กูทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเลยใช้เวลาตั้งหกปีกว่าจะเรียนจบ แต่กูได้เกียรตินิยมนะครับ”


“แล้วไมมึงทำงานที่ห้าง ค่าตอบแทนมันไม่เยอะไม่ใช่เหรอ”


“เยอะนะสำหรับกู กูพอมีเงินเก็บ พอทำขวัญน้องได้ทุกเดือน น้องกูคนโตได้สี่ขวบแล้วกำลังน่ารักเลย เรียกพี่จ๋อนๆ กูอยากจะควักแบงค์ให้รัวๆ ฮ่าๆๆ กูเห่อหลานนะ มึงว่าทำไมไม่หางานดีๆ ทำใช่ไหม กูเริ่มจากศูนย์ แต่ละก้าวของกูถึงได้ดูเหมือนช้ากว่ามึงก็เท่านั้น” 


“กูอยากให้มึงมาก้าวพร้อมๆ กับกู”


“อะไรก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป มึงรักกูที่เป็นกูตอนนั้น แต่เวลาผ่านไปเกือบสิบปีแล้วนะ กูเปลี่ยนไปเยอะ มึงก็เปลี่ยนไป ยิ่งพอมาคบกันจริงๆ เราอาจจะคบกันไม่รอดก็ได้ใครจะรู้”


“รอดสิ กูคลั่งมึงจะตายเนี่ย”


“มึงเลิกหื่นสักแป็ปเถอะ กูกลัว” เขาลูบพุงกับหน้าอกแบนๆ ของผมไปมา


“ฮ่าๆๆ หิวยัง พวกสาวๆ ไลน์มาบอกว่ากินเค้กอยู่ร้านเค้กดังแถวนี้”


“กูอยากกินเค้กกกกกก”


“ออกข้างนอกไหวมั้ยล่ะ


“โอ้ย ไม่อ่ะ เดินไปห้องน้ำกูยังคิดอยู่นานแล้วเนี่ย”


“งั้นเปิดเว็บดูเมนู แล้วโทรฝากพวกนั้นซื้อ”


“เย่” กรยื่นไอแพตให้ผม ถึงผมจะไม่มีปัญญาซื้อใช้แต่ก็เคยเล่นของเพื่อนมาบ้างล่ะว่ะ


“มึง เดี๋ยวมานะ”


“อย่านานนะ”


“งั้นไม่ไปแล้ว” กรกลับมาซุกหน้ากับแก้มผมทันที


อร้ากกกก มึงทำแบบนี้กูก็อยากทำกับมึงนะ แม่งยั่ว แต่ต้องเก็บอาการ เดี๋ยวมันหาว่าผมใจง่าย (?)


“ไปไกลๆ เลยกูล้อเล่น” เขิน ไม่เอาดีกว่า


“ชิ แก้แค้นเหรอ”


“ฮ่าๆๆ


ผมจิ้มๆ เสิร์ชชื่อร้านตามที่มันบอก เห็นเมนูแล้วละลานตา อยากกินทั้งหมดเลย แต่เชื่อเถอะสองชิ้นก็จุกถึงคอ


ไลน์คุณพลอยเด้งแจ้งเตือนว่าส่งรูปภาพเข้ามา ผมไม่ได้เสียมารยาทกดดูเพราะไหนๆ เขาก็ไม่อะไรกับไอ้กรอยู่แล้วนี่นา รอเจ้าตัวมาดูพร้อมกันก็ได้เนอะ


กรกลับมาในห้องพร้อมถาดเต็มไปด้วยอาหารเช้า ไข่ดาว ไส้กรอก ข้าวผัด ขนมปังปิ้ง น้ำส้มแก้วโต


“มึงไปทำไว้ตอนไหน” มันออกไปแป็ปเดียว ไม่มีทางทำได้หมดนี่หรอก อย่างมากก็เทน้ำส้มเอ้า


“กูแค่อุ่น สาวๆเขาทำไว้ให้ เพิ่งไลน์มาบอก”


“อ้อ เขาส่งรูปมาด้วยเมื่อกี้”


“เหรอ ส่งงานมาแล้วมั้ง มาๆ ดูกู”


กรหยิบไอแพตไปแต่ก็ยังอยู่ตรงกลางให้ผมดูเขาจิ้มๆ กดเข้าไปในไลน์ เซพรูปที่คุณพลอยส่งมา พิมพ์ๆว่าเดี๋ยวจัดการให้


งง?


แล้วก็เข้าในแอฟอินสตาร์แกรม กดจะแชร์รูปเมื่อครู่ ก่อนพิมพ์แคปชั่น ก็เงยหน้ามาหาผม


“พิมพ์ว่าอะไรดี ช่วยคิดหน่อย”


“ปกติมึงพิมพ์อะไรล่ะ”


“ไม่ค่อยได้พิมพ์ ใส่อีโมน่ารักๆอันสองอัน กูคิดไม่ออก”


“กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ นะคะ”


“หา”


“พิมพ์ว่า กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ นะคะ ก็เขาถือเค้กตั้งสองจานนี่”


“เออเนอะ” กรพิมพ์อย่างที่ผมบอก


“มึงทำอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ”


“ก็บางทีเราก็ไปกันทั้งสามคน หรือเขาไปสองคนแล้วกูแวะไปแป็ปนึง ไปเช็คอิน บางทีก็วีดีโอคอลบอกที่บ้านเขา ว่ามากับผมนะ หายห่วง ไรงี้ แล้วก็แยกย้าย บางทีก็ถือว่าไปพักผ่อนกับเพื่อน ดูเขาเล่นกันก็สนุกดี”


“มึงนี่ยอมเขามากไปป่าว ไม่คิดจะหาแฟนเองเลยใช่มั้ย กะช่วยเขาไปถึงเมื่อไหร่วะ” ผมเริ่มจริงจัง


“ถ้าไม่เจอมึง กูก็หลอกตัวเองไปเรื่อยๆว่าเขาคือแฟน เพียงแค่เขาไม่ได้รักกูแค่นั้นเอง”


“...” ทำไมมันไม่คิดถึงความสุขตัวเองบ้างชีวิตตัวเองแท้ๆ ทำไมทำเพื่อคนอื่นมากขนาดนี้ นี่กะเสียสละทั้งชีวิตเลยรึไง


“แต่ตอนนี้กูหามึงเจอแล้ว เขาโดนลดระดับเป็นแค่เพื่อนสนิท กับมีผลประโยชน์ร่วมกัน”


เขาตอบนิ่งๆ ไม่มีท่าทางทีเล่นทีจริงเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว






จู่ๆ ผมก็พูดขึ้น


“ถ้าเรื่องพวกนี้ สรุปแล้วมึงแค่ล้อเล่นกับความรู้สึกกู กูคงร้องให้จนตาย”





“ร้องให้ทำไม มึงไม่ได้รักกูสักหน่อย มึงระแวงกูจะตาย กูสิที่ทำดีกับมึงไปตัวก็สั่นไป” ยิ่งพูด เขายิ่งสั่น


กรยกสองมือตัวเองให้ผมดู เขาสั่นจริงๆ


“กลัวว่าที่สุดแล้วมึงก็จะคิดออกว่าไม่ได้ชอบกู แล้วไล่กูไปไกลๆ เหมือนเมื่อก่อน กูรับไม่ได้จริงๆ นะ ถ้ามึงจะไม่ยอมคบกับกู ยิ่งกูดีใจที่มึงให้โอกาสกูมากเท่าไหร่ กูยิ่งกลัวเท่านั้น กูพยายามหน้าด้านหน้าทนมาจนถึงตอนนี้เพราะคิดว่ามีความหวัง แต่จนถึงตอนนี้มึงยังไม่ไว้ใจกูเลย ยังหาว่ากูแกล้งกูกลัวว่าจริงๆ แล้วมึงไม่ได้มาด้วยเพราะมีใจแต่เพราะอย่างอื่น มึงยังคอยระแวงกูทุกอย่าง กูรู้เพราะเมื่อก่อนสิ่งที่กูทำมันแย่ มึงจะเกลียดก็ไม่แปลก ถะ ถ้ามึงบอกว่าถึงกูทำดียังไงมึงก็ไม่ มึงก็ไม่มีทางรักกู กูคง กูคง...”


ผมปาดน้ำตาให้กร กรเองก็เช็ดน้ำตาให้ผม ผมทาบมือกับแก้มเขา จูบเขาเบาๆเพื่อบอกว่าผมเข้าใจแล้ว


“เข้าใจแล้ว กูเข้าใจแล้ว”


“มึงรู้ไหม เมื่อกี้ที่มึงบอกว่า ถ้ากูล้อเล่นมึงจะร้องให้จนตาย กูดีใจขนาดไหน เป็นการแสดงออกว่ามึงมีใจกับกูครั้งแรกเลยนะ กูดีใจ กูไม่ได้คิดไปเองคนเดียว”


เป็นเช้าที่อารมณ์หลายหลายต่างกันสุดขั้วมาก ลืมตามาโดนจุดๆๆอยู่ ชิลๆเปิดใจ แล้วก็ยังมาเจาะลึกเปิดถึงตับไตไส้พุงซ้ำอีก ผมคงต้องเชื่อใจเขาจริงๆแล้วล่ะ เล่นลงทุนร้องให้ขนาดนี้ แม่ง กูเลยร้องด้วยเลย ยิ่งขี้แยๆ อยู่


“ดูดิไม่เหลือลุคผู้บริหารเลยมึง” ผมยังปาดๆ น้ำตาออกอีก


“ก็มึงแกล้งกู”


“อย่ามาล้อเลียนคำกูนะ กูหวง กูเอาไว้ใช้ตอนเขิน”


“ฮ่าๆๆๆ งี้นี่เอง”


หมดกัน ไม่น่าหลุดปากเลย ไอ้บ้าเอ้ย


ในที่สุดเราก็กินอาหารเช้ากับน้ำตาเคล้าเสียงหัวเราะ ทุกอย่างมันโล้ง จนผมไม่รู้จะกังวนอะไรอีก เขาทำเพื่อหาผมขนาดนี้ เขาแสดงออกขนาดนี้ ผมจะฝืนไม่เชื่ออยู่อีกก็คงเป็นการทำร้ายตัวเองเปล่าๆ สู้เชื่อมันแล้วเริ่มต้นมีความสุขไปกับมันให้มากที่สุดดีกว่า เรื่องจะคบกันรอดไม่รอดนั้น ผมจะไม่วังวนแล้ว


“เลือดเค้กได้ยัง”


เขายังไม่ลืมสั่งเค้กให้ผม พอผมบอกไป เขาก็โทรหาคุณพลอยทันที แถมยังสั่งอาหารทะเลมาปาตี้บาร์บีคิวเย็นนี้ด้วย


“คุณพลอยว่าเย็นนี้เราบาร์บีคิวกันดีไหม เหรอ งั้นซื้ออะไรเลือกมาเลยนะ ไม่ต้องเยอะล่ะ แค่ 4 คนเอง สรอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย”


“ปู” ผมทำปากจู๋ ตาโต


“คุณพลอย สรอยากกินปูนะ แล้วก็ไม่ต้องเอาหอยติดมา สรแพ้หอยทะเล”


กร มึงในสายตากูตอนนี้หล่อมากอ่ะมึง มึงจำได้ด้วยว่ากูแพ้หอย กูต้องมองมึงใหม่จริงๆ แล้วใช่ไหม







---------------------------------------
TBC.




นอกจากเรื่องจะสั้นแล้ว มันยังใช้เวลาดูใจกันสั้นด้วย 5555+
หวังว่าเหตุและผลที่พยายามอธิบายของแต่ละฝ่าย จะทำให้คนอ่านเข้าใจสรและกรนะ
เมื่อเวลาเหมาะสม อะไรๆก็เป็นใจ ฮ่าๆ

จริงๆจะว่าจบแล้วก็ได้ แต่ยังอยากเขียนต่ออีกหน่อย 5555
เป็นบทสรุปชีวิตรักเขาเนอะ คงต้องมีอุปสรรคกันบ้างแหละ แต่จะรวบให้จบในตอนสามอย่างที่ตั้งใจไว้นะคะ



ฝากเรื่องยาวแนวนักศึกษาน่ารักอุ่นๆ ที่กำลังเขียนอยู่จ้า

ย้ำรัก. love Again.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2017 04:47:51 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบ  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เข้าใจทั้งกรและสรค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
น่ารักมากเลย
ชอบมาก
กรนี่หื่นมากจริงๆ

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เห้ยยยยย มันดี
น่ารักเข้าใจง่าย เราเข้าใจทั้งกรทั้งสรนะ ต่างคนต่างมีอดีต
 
ชอบความชัดเจนของกร เหมือนรู้ว่าเขาไม่ค่อยไว้ใจก็ใส่เต็มที่เพื่อจะได้แบบไม่พลาดไรงี้
ตามมาจากเรื่องยาว เรื่องนั้นก็รีบอัพนะคนเขียน 55555 :hao3:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เสร็จจนได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
มีใจให้กันอยู่แล้วนิเนอะ อิอิ
น่ารักๆๆๆ รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ชอบมุมมองตัวละครค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
พรหมลิขิต ..

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai2-1: ไวยิ่งกว่า5Gซะอีก

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
คนเขียนเล่นเอาร้องไห้ทุกตอนเลย ฮือ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ซึ้งน้ำตาซึมเลยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รออ่านต่ออ่ะ ซึ้งจัง

ออฟไลน์ แค่มะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารัก อ่านสบายใจ
ถึงบางอารมย์ตัวละครจะไม่ได้ชิลก็เถอะ5555
น้องสรน่าร๊ากกกด กรออล้อดี  :hao3:

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
- คิงไซซ์ - 3 -
---------------------------------------




เวลาผ่านไปสองเดือนแล้วตั้งแต่วันที่ผมได้พบกับกรอีกครั้ง


ผมยอมย้ายมาอยู่กับเขาตามที่เขาขอเพราะเขาขู่ว่าถ้าผมไม่มาเขาจะไปอยู่ในห้องรูหนูกับผมแทน ผมไม่อยากทรมานพี่แกขนาดนั้นก็เลยเก็บข้าวเก็บของตามผู้ชายมาแต่โดยดี ชีวิตบนตึกสูง 40 ชั้นลำบากขึ้นเยอะเลย ผมจิตนาการตลอดว่า ‘ชิบหายถ้าไฟดับกูจะทำไงขึ้นห้องวะ?’ มีรปภ.คอยแอบมองหน้าทั้งขึ้นทั้งลง เขินสัส ทุกอย่างดูสะอาดและบอบบางไม่น่าใช้ ห้องมันมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทั่วไปทุกวันจันทร์กับพฤหัสฯ ผ้าไม่ต้องซักเองแม้กระทั้งกางเกงใน ฮ่วย ลำบากมาก ลำบากสุดชีวิต


เขาขอให้ผมลาออกจากงานมาตลอด จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ลดความพยายาม


จริงๆผมใจอ่อนนานแล้วแต่ทำเป็นไม่สนใจ คนแบบไหนละจะทนดูแฟนทำงานหนักอย่างกับผ่านสงครามแล้วจะนิ่งนอนใจ ไม่ใช่ผมนะครับที่ทำงานหนัก เขาต่างหาก


กรตื่นเจ็ดโมง ออกจากห้องไปทำงานแปดโมงครึ่ง ทุกวันเฉลี่ยกลับถึงคอนโด 3 ทุ่ม ทั้งสัปดาห์ ไม่มีสักวันที่กลับห้าโมงเย็นเวลาเลิกงาน  อย่างเร็วก็ทุ่มนึง ถ้ามีประชุมก็สามสี่ทุ่ม ถ้ารับรองลูกค้าต่อก็ยาวไปเรื่อยๆ เที่ยงคืนตีหนึ่ง ตีสามก็เคย กลับมาก็กลิ่นเหล้าหึ่ง แต่ยังต้องจดบันทึกโน้นนี่อีก


นี่เขาใช้ชีวิตอย่างนี้ทุกวันมาจะห้าปีแล้วเหรอเนี่ย โคตรใช้ร่างกายเปลือง ตอนแรกผมไม่เข้าใจหรอกนะนึกว่าเขาพูดเล่นที่ว่าไม่มีเวลาหาแฟนเอง แต่มาเห็นแบบนี้ผมเข้าใจถ่องแท้เลย


สภาพแต่ละวันแต่ละวันของเขาทำให้ผมเป็นห่วงจริงๆ ชีวิตส่วนตัวเขาแทบไม่เหลือ เวลาพักก็ไม่มี ตอนนี้ยังหนุ่มก็เลยยังไหว ถ้าต้องใช้ชีวิตอย่างนี้อีกสักสิบปียี่สิบปีจะยังไหวอยู่อย่างนี้ไหมล่ะ?



ผมมองนาฬิกา เที่ยงคืนแล้ว เวลากลับมาถึงห้องเขาจะเข้าห้องทำงานต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมง หรืออย่างต่ำที่สุดก็ 15 นาที ทุกวันก่อนนอน ผมกะว่าใกล้เวลาเขาเสร็จงานแล้วก็ลุกจากโซฟาหน้าทีวีเข้าครัวสักหน่อย


“กร มีอะไรให้สรช่วยก็บอกนะ ไม่รู้จะช่วยได้ไหม แต่อยากช่วย” ผมยกโกโก้อุ่นมาให้เขาในห้องทำงาน ถึงขนาดจำลองห้องทำงานไว้ในคอนโดคิดดูแล้วกัน


“มาเป็นเลขาผมสิ” เขาเงยหน้ามายิ้มให้ผม ทั้งที่แววตาอ่อนล้าเกินกว่าจะทำงานไหวแล้ว “จริงๆ ผมอยากเสนอตำแหน่งผู้จัดการฝ่าย เรื่องงานหนักรับผิดชอบเยอะผมไม่ได้ห่วงนะ แต่ผมว่าแบบนั้นคุณต้องทำงานไกลผม มันต้องออกข้างนอกบ่อยต่างคนต่างไม่มีเวลา มาเป็นเลขาผมดีกว่า”


“ก็มีคุณมะลิกับเจ้าเฟื่องอยู่แล้วนี่” สองป้าหลาน กรมีเลขาสองคนครับ คนนึงเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่เก่าแก่ อยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ อีกคนเป็นเด็กจบใหม่ทำงานได้ปีกว่าๆ ผมเคยเจอทั้งสองคน เพราะกรชอบให้ผมไปออฟฟิศเขาถ้าเขาต้องอยู่เคลียร์งานดึกๆดื่นๆ


“ป้าแก่แล้ว ออกข้างนอกกับผมไม่ค่อยไหวแล้วล่ะ เขายังบอกผมเลยว่าให้รีบพาคุณไปฝึกงาน ป้าแกอยากเออรี่ไปเลี้ยงหลานที่บ้านนอกแล้ว ส่วนเฟื่องก็ขี้อายไม่อยากออกข้างนอกอยากทำเอกสารอยู่กับโต๊ะมากกว่า”


“...” เสนอตัวเอง แต่เอาเข้าจริงก็กลัวแหะ มันดูจริงจังว่าผมต้องทำจริงๆ ไงไม่รู้


“ผมให้คุณเลือกดีกว่า มีสองอย่างให้คุณเลือก” กรเลิกสนใจเอกสารหันมาจิบโกโก้ แล้วดึงมือผมให้อ้อมโต๊ะมานั่งตักเขา


“ให้เลือก?”


“ครับ เลือกระหว่าง ไม่ต้องทำงานข้างนอกอยู่บ้าน เป็นคุณพ่อบ้านเต็มตัวล้างสระว่ายน้ำให้อาหารปลาอยู่บ้านใหม่ กับเลือกรับจ็อบเป็นเลขาพ่วงตำแหน่งทอดไข่ตอนเช้าเบาๆแค่นั้นพอ แล้วไม่ต้องกลัวว่าผมกลับดึกคุณจะต้องกลับดึกกับผมอย่างนี้ทุกวันนะ ถ้าไม่ใช่การประชุมคุณกลับก่อนได้เลย”


“งี้ก็แปลว่างานคุณไม่ได้น้อยลงหรือเบาลงเลยนี่ ผมอยากให้คุณได้มีเวลาพักมากขึ้นหรอกนะที่เสนอตัวเนี่ย”


“แค่เห็นหน้าคุณผมก็ฟินแล้ว”


“ทำหน้าเหมือนอาเฮียหื่นๆ”


“ฮ่าๆๆๆ สร สรรู้ไหม?”


“รู้อะไร?” วางคางบนไหล่ผม พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆทุ้มๆ โอบและกุมมือผมไว้


“ชีวิตผมมีสีสันขึ้นเยอะเลย ตั้งแต่เราได้เจอกัน”


“ยังไง ก็เห็นเหนื่อยเหมือนเดิม ทำงานหนักๆแบบนั้นร่างกายจะแย่เอานะ”


“เห็นไหม มีคนเป็นห่วงดีจะตาย ฮ่าๆๆ ตื่นเช้ามานะ ผมก็ไม่ต้องปิดนาฬิกาปลุกเอง มีคุณปิดให้ แล้วมาปลุกผมด้วยตัวเอง น่ารักจะตาย ดี๊ดี ชุดแต่ละวันก็ไม่ต้องคิด ไม่ต้องหา ออกจากห้องน้ำทุกอย่างก็พร้อม กาแฟก็ไม่ต้องแหกขี้ตาขึ้นมาชงเอง หรือไปต่อคิวแย่งกันซื้อข้างนอก ก่อนไปทำงานก็มีคนคอยบอกตั้งใจทำงานนะ พอรู้ว่ามีคนรออยู่ เย็นๆก็อยากรีบเคลียร์งานให้เสร็จๆจะได้กลับมาหาคุณ ไปไหนมาไหนก็มีคนคอยเป็นห่วงเตือนให้ระวังนั่นนี่ เจออะไรน่ากินก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าจะซื้อไปฝากใคร ชีวิตมีจุดหมายทุกอย่างเลย”


“ทำไมพูดแล้วดูสรจู้จี้จุกจิกสั่งนั้นสั่งนี่จนน่ารำคาญนะ?”


“หึ ผมชอบจะตาย คุณจะมารำคาญตัวเองทำไมเนี่ย ฮ่าๆๆ”


ผมคิดๆ คิดมาหลายวันแล้วว่าจะบอกเขายังไง ว่าผมลาออกไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว พรุ่งนี้ก็ทำงานวันสุดท้ายแล้ว


“แล้วถ้าไปสมัคร ใครจะเป็นคนสัมภาษณ์สรอ่ะ?”


“ไม่ต้อง สัมภาษณ์ทำไม”


“กูอยากไปทำงานแบบคนธรรมดาๆนะ ไม่ใช่เส้นก๋วยจั๊บ ขอแค่นี้ทำให้หน่อยเดะ ไม่งั้นกูป๊อดไม่ไปทำกับมึงแล้วนะ”


“โอเคๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ” เขายอมผมทุกอย่างจนผมเริ่มจะได้ใจแล้วให้ตายสิ “ว่าแต่บอกแล้วไง ไม่ใช้กูๆมึงๆแล้ว เมื่อกี้มาทั้งคู่ ต้องโดน!”


มือผมถูกรวบไปกดติดโต๊ะ มือกระด้างสอดเข้ามาใต้เสื้อนอนลูบผิวใต้ร่มผ้าคว้าตรงเป้ะที่ยอดอกอย่างกับล็อกเป้าด้วยระบบอัตโนมัติ


“โอ้ย! อื้ม อึ้ กร กร เดี๋ยว”


ผมขอถอนคำพูดครับ ถอนพร้อมๆ กับเสื้อและกางเกงผมที่ปลิวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้


ไอ้ท่าทางอิดโรยอ่อนแรงเมื่อกี้คือเหยื่อล้อเป้างั้นสิ!



เห็นอย่างนี้ผมว่าผมไม่ควรห่วงสุขภาพเขาอีกต่อไป ผมว่าผมควรห่วงสวัสดิภาพตัวเองมากกว่า


จะไหวไหมเนี่ยกรู










----------------------------------------------

 3 ปีผ่านไป







ชีวิตคนเรานี่ก็ตลกดี


บทจะยาก ก็ยากแสนสาหัส บทจะง่าย อะไรๆ ก็ดูลงตัวไปหมด




ผมจะสรุปเรื่องราวของเราสี่คนยังไงดี ก็ตอนนี้ผมตื่นเต้นมาก ผมอยู่หน้าห้องคลอด ข้างในห้องคุณพลอยกำลัง... ต้องบอกละเอียดขนาดไหน? ห้องคลอดเขาก็มาคลอดลูกกันนั่นล่ะ


คลอดลูกๆ ตื่นเต้นๆ


ผมขอตั้งสติแป็บนะครับ


เอ่อ ย้อนกลับไปก่อนแต่งงานของกรกับคุณพลอยโน้นเลยครับ


อยู่ๆ คุณพลอยกับกรก็โดนพ่อแม่เรียกไปคุย ถามกับตรงๆว่าอยากแต่งงานไหม ทั้งคู่ตอบอยากตรงกันครับ ว่าอยาก แต่พอถามต่อว่ารักกันไหม  ทั้งคู่พากันเงียบครับ ผู้ใหญ่เขาก็คงมีเซ้นส์ของเขา ลูกเขาเขาก็เลี้ยงมาเนอะ โกหกทำไมจะไม่รู้ว่าโกหก ในที่สุดคุณพลอยก็ร้องห่มร้องให้จนเข้าโรงพยาบาล สรุปก็ไปสารภาพกันต่อที่โรงพยาบาล เพราะถึงตรงนี้ข้างตัวคุณพลอยมีกีต้าร์เฝ้าไม่ห่าง


อย่างที่บอก ทั้งคู่เป็นผู้หญิงหวานๆ ซึ่งผู้ใหญ่จะแพ้ทางนี้ ด้วยความที่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทมาตลอดทำให้เขาก็รักกีต้าร์เหมือนลูกเหมือนหลานอยู่แล้ว แต่ก็ยังอ้ำอึ้งลังเล สุดท้ายอาม่าคุณพลอยออกโรงเองครับเป็นคนออกปาก ว่าถ้าพวกเธอไม่รับ ฉันจะย้ายไปอยู่กับพลอยกับกีต้าร์หลานฉันเอง ปล่อยพวกเธอนั่งแก่อยู่บ้านลำพังไปเลย (ซัพไทย by กร) ก็เลยจำใจยอมรับ แม้จะบ่นงึมงำว่าแค่อยากมีทายาทไว้สืบสกุล คงต้องไปขอหลานๆของญาติๆมาอุปการะแทนเพราะพอเป็นอย่างนี้พวกท่านก็คิดไปแล้วว่าการแต่งงานก็คงเป็นหมันไป


หันมาขอโทษกรซะอีก ที่ลูกไปทำให้คาดหวังและเสียเวลา ก็เลยถึงเวลาพ่อแกสารภาพครับ ว่ารู้เรื่องนานแล้ว ขอโทษกลับเรื่องที่พากันสร้างภาพว่ารักกันดี กรเป็นคนต้นคิดและเสนอให้ทำทั้งหมดเอง ขอโทษกันไปขอโทษกันมา งงดีครับตอนกรมาเล่าให้ผมที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ฟัง


แล้วก็ปิดท้ายด้วยพ่อพระเอกบอกว่าจะแต่งงานกับคุณพลอยต่อตามกำหนดการณ์เดิม ไม่ต้องยกเลิก เพราะตัวเองก็ไม่สามารถมีครอบครัวแบบคนปกติได้อยู่แล้วเพราะ ‘ผมเป็นเกย์’


ตรงกว่านี้มีอีกไหม? ไอ้บ้าห้าร้อย ผมนี่แทบลมใส่ตามพ่อแม่คุณพลอยเลย มันกล้าบอกตรงๆ งี้ได้ไง แล้วก็ต่อด้วยเล่าชีวประวัติของผมให้ผู้ใหญ่ฟัง เขารับฟังนะครับแถมยังบอกด้วยว่าอยากเจอผมก่อนจะตัดสินใจว่าจะจัดงานแต่งงานหลอกๆต่อไปไหม


ทำไมทีจะเข้าใจล่ะเข้าใจง่ายเชียว ก่อนนี้ที่กลัวกันแทบตายนั่นอะไร?


หลังจากนั้นพวกผมคลานเข่ายกพานธูปเทียนแพขอขมาผู้ใหญ่กันพร้อมหน้าพร้อมตาสี่คนเลยครับ ผมโดนสัมภาษณ์เยอะสุดเพราะหน้าใหม่


ฮ่วย เหงื่อออกง่าม... เอ่อ ง่ามนิ้วมือที่ถือพานเลยครับ


ถามตั้งแต่ผมกับกรไปเจอกันได้ยังไง ผมกับกรเรารู้จักกันตั้งแต่ประถมครับ กรเป็นคนเล่าว่าผมกำพร้าได้ยังไง ชีวิตผมมีช่วงเวลาที่เลวร้ายคล้ายๆกับเขา เขาข้ามเรื่องจ้างนักสืบนะครับ แต่บอกว่าเมื่อเจอกันอีกครั้งตอนที่ต่างคนต่างไม่เหลืออะไรผมคือคนที่เขาอยากดูแล ผมแอบน้ำตาปริ่มๆ อย่างกับสารภาพกับพ่อแม่กรตัวจริงเลยครับ ตื้นตันบอกไม่ถูก อยากให้พ่อกับแม่ผมได้ฟังด้วยจริงๆ ถึงผมจะไม่ได้มีครอบครัวอย่างคนทั่วไป แต่ผมว่ารักก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเหมือนใครๆ


เหมือนคนอื่นก็ไม่ได้แปลว่าถูกเสมอไปนี่ครับ อะไรเหรอที่ตัดสินว่าพวกเราผิด มันก็แค่ความรู้สึกของคน ที่ต่างคนก็ต่างใจ ก็เท่านั้น


วันนั้นพ่อแม่คุณพลอยก็เลยขอ ว่านอกจากการแต่งงานเพื่อสังคมที่เราจะทำแล้ว ขอให้คุณพลอยมีทายาทไว้สืบสกุลด้วยได้ไหม แน่นนอนว่าด้วยวิธีทางการแพทย์ คุณพลอยยอมเพราะพ่อแม่เขานี่ครับ พวกท่านยอมรับความรักของเราแถมไม่กีดกันแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว กรเองก็ไม่มีปัญหา


เราเลยเสียเวลาหาบ้านใหม่ เรือนหอที่กรดูไว้ตอนนั้นก็ได้เป็นหมันไปเพราะเล็กไปสำหรับครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ คนรวยทำอะไรก็ได้ครับ ที่พวกเขาทำคือ ซื้อที่ปลูกบ้านใหม่ บ้านใหญ่ หลังใหญ่สุด เป็นของพ่อแม่คุณพลอยครับเขาบอกว่าจะตามมาเลี้ยงหลานเลยย้ายมาอยู่ด้วยกัน บ้านอีกสองหลังหันหลังชนบ้านใหญ่ หลังกลางเป็นเรือนหอของคุณพลอยกับกร สองคนนี้จอดรถไว้บ้านนี้ครับ แล้วคุณพลอยก็เดินไปบ้านใหญ่ ส่วนกรเดินทะลุข้างบ้านมานอนบ้านเล็ก ที่เป็นชื่อของผม ฮ่าๆๆๆ ครับ ผมเป็นเจ้าบ้าน ในทะเบียนบ้านมีชื่อผมคนเดียว แต่ความจริงคือกรเป็นเจ้าของ ตังมันนี่ครับ ผมแค่ให้ยืมชื่อ ดูวุ่นวายนะครับ แต่เราสนุกสนานดี เรากลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่ไปมาหาสู่กันจนผู้ใหญ่ไม่มีเหงา ดีไปอีก


เราสี่คนไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมไปในฐานะเลขาที่คนใกล้ตัวหน่อยจะรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิท คนสนิทจะรู้ว่าเป็นคนรักตัวจริง กีต้าร์ก็ถูกมองเป็นแฟนผมไปตามระเบียบครับ แต่เราก็ไม่เคยพยายามทำให้คนเข้าใจแบบนั้น เอาจริงๆพวกผมไม่อยากสร้างเรื่องวาดหน้ากากมาใส่ให้สังคมดูว่าเราปกติไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเลี่ยงได้พวกเราก็ไม่ได้อยากทำให้คนอื่นเข้าใจผิด


พอบ้านเสร็จ ก็ถึงเวลาทางการแพทย์ ทำกิ๊ฟครับ หมอเก่ง หมอดี ทำทีได้ตั้ง 2 สมกับคนรอเลี้ยงที่มหาศาล เล่นเอาแตกตื่นนัดฉลองกันยกบ้าน


แล้วก็มาถึงปัจจุบันครับ


ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องคลอด ลุ้นอย่างกับเป็นลูกตัวเอง แต่ทุกคนก็ลุ้นกันหมด ไม่มีใครพูดอะไรกันมาครึ่งชั่วโมงแล้วครับ รออย่างเดียวว่าเมื่อไหร่จะได้ยินเสียงเด็กร้อง



Pi Pi Pi    Pi Pi Pi    Pi Pi Pi!



ผมสะดุ้ง รีบลุกออกมาให้ห่างจากห้องคลอดหน่อย เดี๋ยวเจ้าหนูตกใจ


“เฟื่อง มีอะไร วันนี้ผมกับคุณกรหยุดไง”


“ลืมได้ไง ก็บอกออกชัดว่ามาคลอดลูก มีเรื่องด่วนรึเปล่า?”


สรุปคู่หูเลขาของผมก็โก้ะตามเคย จำผิดจำถูก นี่ขนาดจดไว้ในปฏิทิน นางยังไม่ดูก่อน


“เฟื่องๆ แค่นี้นะ คลอดแล้วๆ ฮ่าๆๆ” ผมกดวางไม่สนใจอีก รีบเดินเข้ามามุงรวมกับทุกคน ตายายป้ายแดงจับมือกันลุ้น ทุกคนยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องจ้ามาจากข้างใน


มันเป็นเรื่องน่ายินดี


กรจับมือผมไปกำไว้ เขาทำแบบนี้เหมือนเป็นการยืนยันว่าระหว่างเราจะไม่มีทางเปลี่ยนไปแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังเริ่มขึ้น เขายังคงแคร์ผมในทุกๆก้าวของชีวิตเขา






...............................................






“ผมมีความสุขจังเลย”


กรนั่งอ่านหนังสือพิงหัวเตียงรอผมอาบน้ำ เมื่อเห็นผมออกมาเขาวางหนังสือลงแล้วพูดขึ้น


“ผมรู้ ลูกคุณน่ารักมาก แถมได้ชายคนหญิงคน คุ้มสุดๆ”


“เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น”


“แล้วเรื่องอะไร?”


“เรื่องที่มีคนยอมรับที่เราเป็นเรา ถึงจะไม่ใช่ทุกคนแต่ก็ถือเป็นเรื่องดี ผมจับมือคุณต่อหน้าคนอื่นได้ โดยที่คุณไม่ปัดหนีเหมือนเมื่อก่อน”


“ผมทำเพื่อคุณนะ” เพื่อหน้าที่การงานของเขา หน้าตาทางสังคม กรพยายามเปิดเผย ส่วนผมพยายามในทางตรงข้าม คือปกปิด หลายครั้งที่เขาพยายามจะแนะนำตัวผมในฐานะคนสำคัญ แต่ผมก็ปฏิเสธ และพูดกลบเกลื่อนว่ากรแค่พูดล้อเล่น


ตลอดสามปีนี้ หลายครั้งที่เรามีปากเสียงกันเพราะเรื่องผมไม่ยอมให้บอกคนอื่น และเพราะเขาขอคำตอบว่าทำไม คำตอบของผมมีเหตุผลไม่มากพอให้เขาพอใจ มันแทบจะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เราทะเลาะกัน


“ผมรู้”


“ผมเองก็รู้ว่าคุณทำเพื่อผม” ครับ ผมรู้ ว่าที่เขาอยากบอกเพราะเขาแคร์ผม ไม่ได้อยากเก็บผมไว้ลับๆ แต่อยากประกาศให้โลกรู้อย่างภาคภูมิใจ แม้ผมจะบอกเขาแล้วบอกเขาอีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ผมโอเคแล้ว เขาก็ยังแอบคิดว่าผมแอบน้อยใจอยู่เรื่อย


“สร คุณไม่อยากให้ผมบอกใครๆ เหรอ ว่าเรา”


“มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ เขาจะมองเราดีขึ้นไหม? ก็ไม่ เราจะรักกันมากขึ้นไหม? ก็ไม่”


“ทำไมไม่ล่ะ?” เขาทำตาละห้อย ทิ้งแขนทิ้งขาแบบหมดแรง


ผมโยนผ้าเช็ดตัวทิ้ง กระโดดขึ้นเตียงนอนตักเขา แล้วแหงนหน้าพูด


“เพราะผมรักคุณไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วน่ะสิ” ผมยิ้มให้เขา ดึงมือเขามากุมแก้มผม “คุณเป็นคนรักที่เพอร์เฟคสุดๆแล้ว อย่าดีไปกว่านี้อีกเลย ขอร้องล่ะ ผมจะคลั่งตายยยย ไง ได้ยินอย่างนี้สบายใจขึ้นบ้างยัง”


“ขออีกหน่อยได้ไหม นานๆคุณจะยอมพูดอ่ะ” เขาต่อรอง


“แฟนผมนะ หล่อก็หล่อ รวยชิบหาย ตั้งใจทำงานนี่ที่หนึ่งเลย หล่อระเบิดเถิดเทิง แถมยังช่างเอาใจแฟน ตามใจแฟนทู้กกกกกอย่าง เลี้ยงดีจนต้องไอเอดอยู่ตลอด ไม่ถือตัวทำอะไรๆให้ผมเยอะแยะ ไม่เคยนอกลู่นอกทาง เอ้ะ หรือเคย?”


ผมจับคางเขาให้หันมาสบตา ทั้งที่รู้ว่าสายตาเขาไม่เคยเลยที่จะวอกแวกไปทางอื่น


“ฮ่าๆๆ ไหงลงตรงนี้”


“ก็คุณทำให้ผมรัก รักมากจนไม่รู้ว่าวันนึงถ้าไม่มีคุณ... ถ้าคุณทิ้งผมไปหาคนอื่น... ผมจะอยู่บนโลกนี้คนเดียวได้ยังไงต่อ ผมถึงบอกตลอด ว่าคนอื่นช่างมันเถอะผมไม่ได้สนใจ เรารู้กันก็พอ แค่... คุณรักผมก็พอ”


“ทำไมไม่บอกอย่างนี้ตั้งนานแล้ว” เขาทำหน้าขี้แย เหมือนจะร้องให้ ดึงมือผมไปจูบค้างไว้ไม่ปล่อย


เขารับรู้ เขาเข้าใจ มีอีกหลายอย่างหลายความรู้สึกที่ผมอยากบอกว่าผมรักเขามากแค่ไหน แต่ไว้ก่อนก็ได้ มีเวลาอีกทั้งชีวิต


“เพิ่งคิดคำสวยๆออก มีอีกเยอะเลยที่ยังคิดไม่ออก”


“ขอฟังได้ไหม?”


“ไว้อีกห้าปี สิบปี ค่อยบอก รอไหม?”


“รอ กรเองก็มีอีกหลายอย่างเลยที่อยากทำให้สร สรรอนะ”


“อื้ม รอ”


ผมกับเขา เรายิ้มแบบออกมาจากหัวใจให้กัน


ไม่คิดว่าชีวิตจะเจอคนที่รักผมมากขนาดนี้แล้ว คิดว่าคนที่รักเราจริงๆคงตายไปหมดแล้ว แต่ผมกลับเจอเขา ไม่ใช่เขาที่เจอผม ผมต่างหากที่โชคดีได้เจอเขา โชคดีที่เขารักและเข้ามาทำให้ผมรัก





“โชคดีจริงๆ ที่ชีวิตผมมีคุณ”


เขาพูดในสิ่งที่ผมกำลังคิด


จูบ...


เขาทำในสิ่งที่ผมรอ


อ้อมกอด...


เขามอบทุกอย่างที่ขอ


สัมผัส...


เขาปรนเปรอในทุกอย่างที่ผมต้องการ





ใจและชีวิตของผม ถึงเป็นของเขาทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย 



--------------------------------------------------------------
จบ.




อัพตอน2ไว้แล้วหายไปนานจนนึกได้ว่ามันมีหมดอายุจะโดนลบกระทู้ ถึงสำเหนียกได้ว่าต้องรีบอัพให้จบ 5555+

จบไปแล้วจ้า สำหรับ กรสร
บางอย่างสิ่งที่เรากลัวอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราอาจสร้างความกลัวนั้นขึ้นมาเองในใจของเราเนี่ยแหละ
การกลัวสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจนทำให้มีการตัดสินใจแบบฝืนธรรมชาติก็เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

ตั้งใจเขียนนิยายตลกหื่นๆ ทำไมออกมาอีหร็อบนี้นะ นั่งเท้าคางถามตัวเอง* :เฮ้อ:
เอาน่าอ่านหนุกๆ อย่าซีเนอะ

ฝากเรื่องยาวด้วยจ้า >> ย้ำรัก. love Again.  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51375.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2017 04:54:40 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นึกว่าจะไม่มาแล้ว

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :z10: จบลงด้วยดี ชอบนะๆ :mew6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Happy มาก ๆ ค่ะ

ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ ให้อ่านนะคะ ^^

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :L2: :L2:
ขอบคุณมากๆ นะ นึกว่าไม่มาต่อซะแล้ว
เห็นมีชื่่อขุดขึ้นมา คิดว่ามีคนมาทวงให้ต่อ
ก็ไม่ได้สนใจ จนวันนี้อยากจะไปอ่านตอนเดิม
คือชอบตรงที่กร บอกอะไรตรงๆ จนอีกคน
ก็รับความเขินแทบไม่ไหวนะ แอบอ่านหลายรอบ

แต่พอเจอมาเขียนต่อ ดีใจมากๆ แบบว่าชอบนะ
ไม่รู้จะว่าไงต่อไปดี 5555 ขอบคุณคนเขียนละกัน


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด