❤ Crazy Lovly รักนี้...ต้องบังคับ ❤ 05/02 พาร์ท 6 ของเดิมพัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ Crazy Lovly รักนี้...ต้องบังคับ ❤ 05/02 พาร์ท 6 ของเดิมพัน  (อ่าน 5379 ครั้ง)

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2016 18:17:04 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ผลงานที่จบแล้ว
# Accident Lovely อุบัติรัก...พ่อลูกอ่อน #เรื่องราวของหนุ่มเพลบอยที่จู่ๆดันไปไข่ทิ้งไว้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้
รู้ตัวอีกทีสาวเจ้าที่จำหน้าไม่ได้ก็เอาลูกมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง
เป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องรีบหาพี่เลี้ยงโดยด่วน
เรื่องราวสุดป่วนของหนุ่มพ่อลูกอ่อนสุดมึนกับคุณพ่อวัยใสสุดเฮี๊ยบจะเป็นยังไงต่อไป

Oh! No papa! ป๊าครับ.…อย่าคลุมถุงชน!! 01/11/58 [จบ]
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาไม่อยากจะเเต่งงานแล้วดันไปโกหกพ่อตัวเองว่าเขาเป็นตุ๊ด ความรักวุ่นๆเกิดขึ้นแล้วกับลูกชายคนเล็กของเฮียเล้งที่แสนจะแสบ

ผลงานที่OnAir
>>....................หลงจูบ.................<<เรื่องราวความรักของหนึ่งนักเขียนผู้ซึ่งมีโลกส่วนตัวสูงจนแทบไม่รู้จักวิธีการพูดคุยกับผู้คนรอบกาย
กับอีกหนึ่งผู้ซึ่งประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้
ความรักที่ต้องคอยปรุงแต่งเพื่อให้ลงตัวจะเป็นอย่างไรเมื่อต่างฝ่านต่างก็แตกต่าง
[Mpreg] ----> อลวลวุ่นรัก....กลับชาติมาเกิด <----จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ๆก็มีใครคนหนึ่งเดินมาบอกเขาว่าเขาสร้างหนี้เอาไว้เมื่อชาติที่แล้ว
แล้วเขาคือพระอภัยมณีกลับชาติมาเกิดแล้วบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของผีเสื้อสมุทร
นี่มันเรื่องบ้าอะไรไม่รู้ ทางเดียวที่จะล้างหนี้ได้ก็คือการมีลูกกับหมอนี่
แล้วเขาจะหลีกหนีการทวงหนี้ครั้งนี้ได้หรือไม่

แฟนเพจของโซอึนจ้า
กดโลด


เป็นเรื่องราวสุดวุ่นวายระหว่างครูหนุ่มที่เลือกจะไปสอนที่โรงเรียนบ้านนอก

เพื่อตามหาอะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจของตนเองมาตลอด

เขาต้องมาเจอหนุ่มชาวไร่สุดแสนจะเถื่อน และน่ากลัว

เรื่องราวมันเริ่มจะวุ่นวายเมื่อเวรกรรมเล่นตลกให้ต้องตื่นขึ้นมาบนเตียงของหนุ่มชาวไร่พ่อลูกติดคนนั้น

มิหนำซ้ำยังอยู่ในสภาพที่ล่อแหลม

เอาแล้วไง!! แล้วทีนี้คุณครูของเราจะทำยังไง เมื่อหัวใจมันดันนแรง

และก็แรงจนแทบจะบ้าตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

แล้วใครจะรู้ว่าหนุ่มชาวไร่เองก็คอยจะหาเรื่องวางแผนแอ้มคุณครูของลูกชายอยู่

ด้วยแผนการอันดิบเถื่อนซะไม่มี

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2016 14:59:04 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
พาร์ท 1   


   ใครจะคิดว่าวันนี้ของกันหาจะมาถึง วันที่เรียนจบแล้วสอบติดครู อาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝันมาตลอด

   ร่างสูงโปร่งลากกระเป๋าฝ่าถนนลูกรังแดงฝุ่นเกรอะเข้ามาในหมู่บ้าน ไกลพอควรจนผ่านไปพักใหญ่กว่าจะถึงที่หมาย

   เบื้องหน้าเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด เรียกได้ว่าสุดแสนจะบ้านนอก ต่างจากชีวิตจริงที่ต้องเจอในทุกๆวันลิบลับ แค่
เห็นกันหาก็เริ่มเหนื่อยใจ ไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

   แม้จะเป็นโรงเรียนเล็กๆที่อยู่ไกลจากตัวเมืองมากโข แต่กันหาก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่าตัวเองจงใจที่จะเลือกมาลงที่โรงเรียน
นี้ ทีที่ไม่มีใครอยากจะมา

   สภาพโรงเรียนที่อยู่ตรงหน้าบอกได้เลยว่าสุดแสนจะโทรมและกันดาร แทบจะไม่มีอะไรที่บอกได้เลยว่าน่ามอง ทว่ามันกลับ
มีเสน่ห์ในแบบเดิมๆที่บ่งบอกถึงอดีตความเป็นมาในก่อนหน้านี้

   

   “ใช่คุณครูกันหารึเปล่า”เสียงดูมีอายุร้องทัก ทันทีที่ก้าวเข้ามาในโรงเรียนได้แค่ไม่กี่ก้าว โรงเรียนที่ไม่มีรั้วล้อมเลยด้วยซ้ำ

   “อ่า ใช่ครับ เอ่อ คุณคือ”

   “ผมพิจิตรครับ เรียกว่าครูพิก็ได้ เป็นผออยู่ที่นี่น่ะ”ใบหน้าดูสูงวัยแต่ก็ท่าทางใจดีกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้

   “เหรอครับ สวัสดีครับ ผมขอโทษนะครับที่มาสาย คือพอดีที่นี่ไม่มีสนามบิน แล้วรถที่จะเข้าหมู่บ้านมันก็ไม่มี ผมเลยโบกรถ
ชาวบ้านเข้ามา เอ่อ อย่าว่าผมเลยนะครับ”พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันหาก็รีบละล่ำละลักขอโทษแทบจะทันที

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องขอโทษคุณครูกันหามากกว่าที่ไม่ได้ไปรับ”

   “อ่า ครับ”ตอบรับ ถึงได้เงยหน้าขึ้นมายิ้มแห้งให้ผอ

    แค่วันแรกก็มาสายแล้ว แถมยังมีสภาพฝุ่นลูกรังแดงเกาะเต็มทั้งหัวทั้งเสื้อผ้าขนาดนี้

   “ไปกันดีกว่าครับ คาบที่สองจะเริ่มแล้ว ครูกันหาต้องไปแนะนำตัวกับนักเรียนชั้นมอหกนะ คาบแรกปล่อยให้ว่างไปแล้ว
เดี๋ยวจะเหลิงกันไปใหญ่”

   และนี่คือจุดประสงค์ที่กันหาได้มาสอนที่โรงเรียนเล็กๆแห่งนี้ โรงเรียนที่ขาดแคลนครูสอนภาษาอังกฤษ

   ภาษาที่ยากเกินความเข้าใจของเด็กวัยกำลังโต และกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย

   

   กันหาเดินตามผอพิจิตรเข้ามาในอาคารเรียนที่เป็นไม้ทั้งหลัง มีระเบียงเปิดโล่งทอดยาวไปจนสุด

   เหนือประตูห้องมีป้ายบอกระดับชั้น กันหาเงยหน้านับไปเรื่อยๆจนถึงห้องสุดท้าย ป้ายแผ่นไม้เขียนเลขหกที่ดูจะลางเลือน
ผ่านเข้ามาในสายตาพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายตั้งแต่ยังไม่ถึงหน้าประตู

   “รอเดี๋ยวนะครับ”ผอหันมายกมือให้หยุด

   กันหาพยักหน้ายิ้มบางให้พลางกระพริบตาปริบๆ กำลังจะถึงประตูห้องอยู่แล้วเชียว อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจู่ๆถึงต้องให้
หยุด

   พักใหญ่ผอพิจิตรก็เดินออกมาพร้อมกับเสียงที่เกือบจะเงียบลงแต่ก็ยังคงมีเสียงซุบซิบเสียงหัวเราะดังลอดมาอยู่ดี

   “เชิญครับ”ผอยื่นหน้าออกมายิ้มแป้นกวักมือเรียก

   ไอ้ท่าทางที่ดูแล้วมันแปลกๆนี่มันอะไรกัน กันหากลืนน้ำลาย




   “เงียบๆหน่อยไอ้พวกลิงข้าง นี่คุณครูคนใหม่ จะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษแล้วจะมาเป็นครูประจำชั้นรู้จักไว้ซะ”

   ผอแนะนำคร่าวๆ  แต่เดี๋ยวก่อน กันหาตาโตหน้าเหรอหรามองหน้าผอแบบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

   ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะต้องมาเป็นครูประจำชั้นให้ด้วย นึกว่าแค่สอนรายวิชาภาษาอังกฤษแค่นั้นซะอีก

   “เอ่อ คือ ผมว่า”พยายามยื่นมือไปสะกิด แต่ผอมือดีก็คว้าเอาช็อกแท่งสีขาวปาเข้าไปที่หัวเด็กนักเรียนหัวเกรียนที่มัวแต่ก้ม
หน้าก้มตาวาดรูปลงบนสมุดเล่มยับยู่ยี่ไม่สนใจใคร

   “นายตริณวาดรูปอีกแล้วนะ ครูบอกกี่ทีแล้วว่าเวลาครูพูดก็ให้ช่วยเงยหน้าก่อน”

   ผอตะโกนเสียงดัง จนเจ้าเด็กหัวเกรียนลูบหัวป้อยเงยหน้าขึ้นมามอง

   กันหามองดูสภาพห้องเรียนแล้วกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่ นักเรียนในห้องเรียนมีไม่ถึงยี่สิบคนดี ส่วนมากเป็นผู้ชาย มีผู้
หญิงแค่ห้าหกคนได้

   แต่ที่ทำให้ตาเบิกกว้างก็คงจะเป็นนายตริณที่โดนช็อกปาใส่หัว ใบหน้าคมดูโตเกินวัย ดวงตาดุดัน คิ้วคมเข้มทั้งเรียวปาก
และจมูกที่ดูคุ้นเคยนั้นทำให้ใจกระตุกวูบ

   “โห่ ก็ไม่เห็นครูเขาจะพูดสักทีนี่ครูใหญ่”ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยียวน

   “ให้มันได้อย่างนี้สิ เถียงคำไม่ตกฟากพอพอกับพ่อมันเชียว เอ้าคุณครูกันหา แนะนำตัวเลยครับ อย่าไปสนใจไอ้เด็กพวกนี้
เลย พ่อแม่พวกนี้ก็ลูกศิษผมทั้งนั้น คุ้นเคยกันจนเคยตัว”

   “อ่า คะ ครับ”



   “เอ้า ช่วยฟังกันหน่อย ครูกันหาเขาพึ่งเรียนจบมา เขาอุตส่าห์มาตั้งไกลเพื่อที่จะมาสอนพวกเธอ”

   “คร๊าบบบบบบบบบ ค่าๆๆๆ”เสียงแหบห้าวพึ่งจะแตกหนุ่มประสานรับพร้อมกันเสียงก้องจนเกือบสะดุ้ง



   “ส สวัสดีครับ ครูชื่อครูกันหา จะมาสอนภาษาอังกฤษให้พวกเธอ เอ่อ อายุยี่สิบสามปี เรียนจบคณะ…จาก… ฝากตัวด้วย
นะ”แนะนำตัวไปเก้เก้กังๆ ตาก็เหลือบมองเด็กหัวเกรียนตัวสูงที่ชื่อตริณที่กำลังมองมาอย่างตั้งใจเหมือนกำลังพินิจพิจารณาใบหน้า
ของเขา



   และแล้วชั่วโมงเรียนที่แสนจะปวดหัวก็เกิดขึ้น ใครจะรู้ว่าโรงเรียนต่างจังหวัดแบบนี้จะไม่มีตารางสอน แต่จะสอนเป็นช่างเช้า
ช่วงบ่ายไปทีเดียวเลย

   ครูที่สอนก็แทบจะมีไม่ครบวิชา วิชาไหนที่ไม่มีครูสอนครูประจำชั้นก็ต้องรับผิดชอบสอนไป

   แค่คิดก็เหงื่อตกแล้ว ขนาดวันแรกยังวุ่นวายขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าวันต่อไปจะขนาดไหน


   “ครูกันหาใช่ไหมคะเนี่ย มานี่เลยค่ะ แหมหน้าตาดีเชียว”พอลากกระเป๋าเข้ามาในห้องพักครูด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อนเต็มทน

   แขนก็โดนลากไปด้วยมือของครูผู้หญิงดูมีอายุ ในห้องมีครูคนอื่นที่ดูท่าจะสูงอายุด้วยกันทั้งนั้นอีกห้าคน

   พึ่งจะรู้ก็วันนี้ว่าที่นี่มีครูรวมผอรวมตัวเขาก็แค่เจ็ดคน

   “มาทานข้าวด้วยกันสิคะ ได้ห่อข้าวมารึเปล่า”ครูวัลลีชวน

   “อ่า ไม่ได้ห่อมาครับ คงต้องไปทานที่โรงอาหาร ไม่ทราบว่าโรงอาหารนี่ไปทางไหนเหรอครับ”

   “อยู่หลังอาคารเรียนนู่นแหละค่ะ รีบไปนะคะ ขืนไปช้าไม่ทันเด็กนักเรียนแน่ แหมว่าจะซักประวัติซักหน่อย แต่ไม่เป็นไร ไว้
วันหลังก็ได้เนอะ เวลามีเหลือเฟือ”ว่าแล้วเธอก็ยกมือป้องปากหัวเราะกับบรรดาสมาคมคุณครูผู้มีอายุกันร่วน




   

   “มาใหม่เหรอคะเนี่ย ดูแลยังเด็กเชียวนะคะ”แม่ครัวยิ้มอวดฟันพลางยกถาดอาหารขึ้นตักข้าวหยอดแหมะใส่ถาดหลุมที่ดู
สภาพจะบี้บุบ ทำให้กันหาเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอีกอีกใหญ่

   ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่เลือกมาลงที่นี่ อุตส่าห์ไม่ฟังคำห้ามของคนเป็นพ่อเพื่อที่จะทำตามใจตัวเอง ดั้งด้นมาตามหาคนที่
ยังคั่งค้างอยู่นความทรงจำ

   แต่แค่วันแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เสียแล้ว

   ตาคมมองดูโต๊ะไม้ตั้งเป็นแถวยาว มีเด็กๆนั่งอยู่เป็นกลุ่มๆเต็มไปหมด ไม่มีที่ว่างให้นั่งเลย แถมสายตาเด็กๆทั้งผู้หญิงทั้ง
ผู้ชายก็มองมาตาเป็นมันเหมือนว่าเขาเป็นตัวประหลาดซะงั้น

   ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเหงื่อตก ทั้งสถานการณ์ทั้งสภาพอากาศโรงอาการที่ปูด้วยสังกะสีพอโดนแดดก็ส่งไอร้อนลงมา

   “ครู ครู”เสียงห้าวร้องเรียกแต่กันหาก็ยังคงมองหาที่นั่งอยู่ไม่ได้ใส่ใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเรียก

   “ครู ครู นี่ครู หูหนวกรึไงครู”ก็ยังคงไม่ได้ใส่ใจ



   “โอ๊ะ!!”กันหาร้องเสียงหลง

   จู่ๆก็เจ็บแปรบเข้าที่ต้นแขน พอมองไปก็เห็นอะไรแวบๆมันมาโดนแขนแล้วตกลงบนพื้น

   หนังยางรัดถุงแกงเส้นเล็กนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นเรียกให้เด็กนักเรียนกลุ่มที่ตัวโตที่สุดในโรงอาหารนี้พากันหัวเราะครื้นเครง

   จึงหันไปมองหน้าตาเหรอหราว่าหัวเราะอะไรกัน

   “เออ นึกว่าหูหนวก ยืนนิ่งอยู่ตั้งนาน มานั่งนี่มา”

   เด็กหัวเกรียนที่ชื่อตริณใบหน้าคมเข้มดูคุ้นตาเรียกพลางตบลงบนแผ่นกระดานไม้แผ่นยาวต่อเป็นเก้าอี้ให้นั่งเรียงกันได้
หลายคน

   “เอ่อ ขอบคุณ”

   เอ่ยขอบคุณทั้งที่ยังงงๆด้วยซ้ำ อาหารที่ดูท่าทางไม่น่ากินถูกกินจนหมดแทบจะแม้แต่เม็ดเดียวด้วยความหิว

   “หิวอ่าดิ”เสียงห้าวพูดให้เงยหน้าขึ้นมอง

   พอเทียบตัวกับเด็กวัยกำลังโตพวกนี้ดูแล้วรู้สึกว่าตัวดูเล็กไปถนัดตาเลยทีเดียว

   “ครูมาจากกรุงเทพเหรอ”เด็กคนหนึ่งถาม

   “ใช่”

   “แล้วทำไมมาสอนที่นี่ล่ะ”อีกคนถามบ้าง

   “เอ่อ จะว่าไงดีล่ะ ครูเคยมาที่นี่ตอนเด็กๆครั้งหนึ่ง เลยคิดว่าอยากมาอีก”

   “อ่อ นึกว่ามาตามหาใครซะอีก”นายตริณคนที่นั่งข้างๆพูดขึ้นมาทำเอาเกือบสะดุ้ง

   “มะ ไม่ใช่สักหน่อย”ปฏิเสธทั้งที่มันเป็นความจริง

   “แล้วครูจะตกใจทำไมเนี่ย ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ใครว่าอะไร”เด็กหัวเกรียนหน้าคมที่นั่งข้างๆยักไหล่

   ความจริงก็คือความจริงที่ว่ามาเพื่ออยากจะเจอใครคนหนึ่ง



   ย้อนไปเมื่อสิบสามปีที่แล้วได้ จำได้ว่าได้ตามผู้เป็นพ่อมาบริจาคทุนเพื่อสร้างอาคารเรียน ซึ่งเป็นหลังที่ใช้เรียนอยู่ทุกวันนี้
หลังจากที่มันถูกพายุพัดจนพังเนื่องจากความเก่าของมัน

   ความอยากรู้อยากเห็นเพราะเป็นเด็กจึงได้วิ่งเล่นซน และไม่เคยเห็นแม่น้ำลำคลองใกล้ๆสักครั้ง

   พอเดินมาเรื่อยๆเห็นว่าหลังโรงเรียนมีคลองและมีศาลาท่าน้ำจึงได้เดินตามบันใดลงไป

   น้ำในคลองใสจนเห็นตัวปลาตัวเล็กที่ว่ายใกล้เข้ามา จึงได้เอื้อมมือเข้าไปใกล้

   ใครจะรู้ว่าจู่ๆก็เกินพลัดตกลงไปเพราะปลาตัวเล็กตัวเดียวแท้ๆ

   พอรู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าลมร้อนๆมันถูกเป่าเข้ามาในปาก เหมือนมีอะไรนิ่มๆอุ่นๆแตะเบียดลงมา

   พอลืมตาขึ้นมาก็ถึงกับหน้าแดง ใบหน้าหล่อเหลา คมเข้มอยู่ใกล้จนชิด ดวงตาคมดุมองมาจนรู้สึกว่าจะละลายหายไปด้วย
สายตาคู่นั้น

   แล้วที่สำคัญ ตัวเองกำลังถูกจูบ มันทำให้รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงจนบอกไม่ถูก ทั้งรู้สึกดีและอบอุ่น

      เป็นคนที่ให้ชีวิตกลับคืนมาและกับขโมยหัวใจไปพร้อมๆกัน ตั้งแต่นั้นมาก็ต้องยอมรับมาตลอดเลยว่าลืมใบหน้านั้น
ไม่ลงจริงๆ แล้วที่สำคัญ

   มันทำให้เขาไม่เคยจะมองใครและสนใจใครเลยสักนิดทั้งผู้หญิงและก็ผู้ชายคนอื่น

   ท่าทางที่ดูห้าว แข็งกระด้างแต่ก็ใจดีมันได้ใจเขาเต็มๆ ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะแค่สิบขวบก็ตาม

   ไม่รู้ว่าป่านนี้คนคนนั้นจะเป็นอย่างไร จะมีครอบครัวไปแล้วหรือยัง

   แต่กันหาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แค่ต้องการมาเพื่อเห็นหน้าอีกสักครั้งสองครั้งก่อนที่จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อ
เลือกให้เพราะว่าตัวเขาเองไม่ยอมเลือกสักที





   ตกเย็น ชั่วโมงเรียนในช่วงบ่ายกลับกลายเป็นว่าเขาก็ต้องมาเปิดหนังสือสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆเหมือนเดิม

   และดูเหมือนว่าสิ่งที่สอนมันจะไม่ได้เข้าหัวนักเรียนเลยสักนิด แล้วหนักเข้าไปอีกเมื่อเด็กหลายคนต่างก็พากันหลับจากหนัง
ท้องที่ตึงแน่น





   สภาพบ้านพักครูหลังจากที่ลุงเอี่ยมพาลโรงประจำโรงเรียนพามาส่งพร้อมกับมอบกุญแจไว้ให้หนึ่งชุดมันดูน่ากลัวจนแทบไม่
อยากจะคิดเลยว่าจะต้องมีสิ่งลี้ลับอยู่เป็นแน่

   ตะวันเริ่มคล้อยลงมาเห็นเป็นแสงสีส้มอ่อน

   กันหาวางกระเป๋าไว้บนฟูกเตียงหลังเก่า ตัดสินใจทิ้งมันไว้ก่อนจะเดินออกมาจากตัวบ้านพักครูแล้วลัดเลาะผ่านโรงเรียนไป
ยังคลองด้านหลัง

   แต่ก่อนเท่าที่จำได้ในตอนนั้นยังไม่มีสะพานข้ามคลองแบบนี้ จะไปข้ามคลองทีก็ต้องอ้อม หรือไม่ก็ต้องพายเรือข้ามมา

   นึกถึงเรือก็ทำให้นึกย้อนไปอีกว่าเคยนั่งเล่นในคลองนี้หลังจากที่พึ่งจมน้ำไปหมาดๆ



   ปรี๊นๆๆๆๆ

   เสียงแตรรถดังแหลมมาแต่ไกลลากยาวมาจนใกล้แค่เอื้อมทำเอากันหาขนลุกซู่

   “มาทำอะไรตรงนี้ละครู ไม่กลับบ้านกลับช่องรึไง”นายตรินถามขณะที่กำลังคร่อมมอเตอร์ไซคันเก่ง

   “ครู เอ่อ ครูแค่มาเดินเล่นเฉยๆ”ปฏิเสธไปหน้าแดงก่ำ

   เพราะแค่ข้ามคลองไปก็จะเป็นบ้านของผู้ชายคนนั้นที่ทำให้เขาหลงรักมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

   พูดง่ายๆก็กำลังจะมาทำตัวเป็นท่ามมองดีดีนี่เอง

   “แน่ใจนะว่ามาเดินเล่น เดี๋ยวก็ตกน้ำตกท่าไปหรอก”

   “แล้วเธอล่ะ มาทำอะไรแถวนี้ ไม่กลับบ้านเหรอ”ถามกลับทำใจดีสู้

   “ก็กำลังจะกลับอยู่นี่ไงครู พอดีเห็นว่าครูมาด้อมด้อมมองมองแถวนี้ก็เลยสงสัยว่ามาทำอะไร”

   “ครูมาเดินเล่น”ตอบไปพลางท่าทางมองนกมองไม้



   “ขึ้นมาสิ”

   “ห่ะ?”พอถูกชวนให้ขึ้นทั้งที่ไม่ได้ปูเรื่องปูราวไว้ร่วงหน้าก็ร้องถามเสียงหลงทำหน้าเหวอ

   “ขึ้นมา จะพาไปบ้าน”

   “แล้วครูจะไปบ้าน เอ่อ ครูจะไปบ้านเธอทำไม”ถึงแม้ว่าเด็กนักเรียนตรงหน้าจะดูหน้าเหมือนคนคนนั้นมาก แต่ยังไงก็ไม่ใช่
อยู่ดี

   “ก็นี่ไง ชวนไปอยู่นี่ไงครู จะชวนไปกินข้าว ครูพึ่งมาไม่รู้ว่าต้องหาอะไรกินที่ไหนใช่ไหมล่ะ พ่อผมทำกับข้าวเก่ง ไปกินบ้าน
ผมก่อน รับรองติดใจ”เด็กหัวเกรียนชวนด้วยท่าทางเป็นกันเองจนกันหานึกงง

   “จะ ดี เหรอ”เอ่ยถามพลางครุ่นคิดเพราะเกรงใจอยู่พอตัว

   “เอ้า มัวแต่คิด ต้องให้อุ้มขึ้นมานั่งบนรถไหมเนี่ยครู มาเร็ว กลับช้าพ่อด่าผมอีก”

   “กะ งั้นก็ได้”







   “ดะ เดี๋ยว เธอ เอ่อ อยู่บ้านหลังนี้เหรอ”รถมอเตอร์ไซแต่งทั้งคันจอดลงที่หน้าบ้านทรงไทยอยู่เยื้องกับโรงเรียนไม่ไกล ติด
แค่ว่าอยู่กันคนละฝั่งคลองแค่นั้น

   ถึงจะผ่านไปแล้วสิบกว่าปีแต่สภาพของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

   ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของกันหาแดงก่ำ เขายังไม่ได้เตรียมใจจะมาเจอคนคนนั้นเลยสักนิด

   “ก็ใช่น่ะสิ ขึ้นมาสิครู ยืนรออะไร”เด็กหัวเกรียนหันมาพูดยียวนขณะที่ก้าวขึ้นไปอยู่บนบันไดบ้านได้ครึ่งทาง

   กันหาชั่งใจ หัวใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ สูดลมหายใจเรียกกำลังใจ ยังไงก็ต้องเจออยู่ดี อยู่ที่แค่เจอช้าเจอเร็วแค่นั้น

   แต่เดี๋ยว ถ้านายตริณนักเรียนของเขาอยู่บ้านหลังนี้ นั่นก็แสดงว่า

   เป็นลูกชายของเขาคนนั้นงั้นเหรอ

   แค่ลองปะติดเรื่องราวก็เริ่มจะห่อเหี่ยว งั้นก็แสดงว่าคนคนนั้นก็มีครอบครัวไปแล้ว

   

   “พ่อหวัดดี ดูนี่ วันนี้ผมพาเพื่อนมาด้วย”แค่แนะนำตัวก็น่าตกใจพอแรงแล้ว

   “เพื่อนอะไรอีกนักหนาวะ ก็เคยเจอหน้ากันอยู่ทุกวัน”เสียงเข้มดุดันกระแทกมาแต่ไกล

   แผ่นหลังกว้างดูใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อยบ่งบอกให้รู้ถึงวัยฉกรรจ์น่าเกรงขาม

   กันหาตัวชาดิกทันทีที่ก้าวพ้นหัวบันไดบ้านทรงไทยขึ้นมา

   แค่ด้านหลังก็ทำให้หัวใจมันเต้นโครมครามจนต้องยกมือขึ้นแนบอกขนาดนี้ ถ้าหันหน้ามาหัวใจไม่วายกันเลยรึไง

   เร็วว่าที่คิดไว้ร่างสูงใหญ่ดูดุดันก็หันมาเพื่อจะมารับไหว้และดูหน้าเพื่อนที่ลูกชายแนะนำ

   ใบหน้าคมคร้ามดูน่าเกรงขามควงตาคมดุ คิ้วเข้มขมวดตึง  จมูกโด่งรับกับไรหนวดขึ้นครึ้มดูหล่อในแบบดิบเถื่อน

   “นี่เพื่อเอ็งเหรอวะ ไอ้ตริณ”พ่ออดถามไม่ได้เมื่อสบตาเข้ากับแขกผู้มาเยือน

   “ไม่ใช่หรอก ผมล้อเล่น นี่ครูประจำชั้น เพิ่งย้ายมา เลยพามากินข้าว ติดสินบนน่ะพ่อ วันนี้มีไรกินบ้าง อย่าให้อายครูนะพ่อ
เดี๋ยวเขาจะกดเกรดผมเอา”

   “น้อยน้อยหน่อย ไอ้นี่”ว่าแล้วก็ยกมือทำท่าจะหลังมือลูกชาย

   “ฝากดูครูด้วยนะพ่อ ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน สงสัยคงจะช็อกไปแล้ว เห็นหน้าพ่อดุขนาดนี้”

   “เออ รีบไปเลย รำคาญ เอ็งนี่พูดมาก”



   “เอ่อ”กันหาอ้ำอึ้งมองดูสองพ่อลูกพูดกันเหมือนเพื่อซะมากกว่า

   พอคนลูกหายเข้าไปในห้อง ตาดุดุก็หันมาจ้องจนทำตัวไม่ถูก ถึงจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปเท่าไร แต่ท่าทางน่ากลัวก็ยังคงไม่ลด
ลงเลยสักนิด อีกทั้งดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเก่า

   แต่ที่ทำเอาใจดวงเล็กมันรู้สึกวูบแปลกๆก็คงจะเป็นสายตาที่ดูไม่แปลกใจอะไรเลย

   หรือว่าจะจำกันไม่ได้ แค่คิดก็เสียใจขึ้นมาแล้ว แต่จะอะไรก็ช่าง ในเมื่อจุดประสงค์ก็แค่มาเพื่อให้ได้เห็นหน้าก็แค่นั้น ไม่ได้

หวังไปมากกว่านั้น จะจำได้ไม่ได้ก็ไม่ได้ใส่ใจ

   ใช่!!ไม่ใส่ใจ ไม่ใส่ใจเลยจริงๆ แต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกเสียใจก็ไม่รู้

   “จะยืนรออะไรล่ะครู เข้ามานั่งก่อนสิ”เสียงแข็งดังขึ้นจนสะดุ้ง

   เพราะมัวแต่ยืนคิดเลยไม่ได้มองซ้ายมองขวาอะไรเลย รู้ตัวอีกทีใบหน้าดุดันมันก็ยืนเข้ามาใกล้

   คราวนี้ยืนห่างกันอยู่แค่เอื้อมมือ แค่เอื้อมมือแค่นั้นเอง ใจมันก็เต้นแรงจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้วเชียว



   ถูกเชิญให้มานั่งทำหน้าเหรอหราอยู่กลางตัวบ้าน นั่งทำตาปริบๆมองสำรวจดู หลายอย่างถูกเคลื่อนย้ายหลายอย่างก็ยังดู
เหมือนเดิม

   “เอ้า นี่ กินน้ำกินท่าก่อน แล้วมาตั้งไกลของชงของใช้มีมาด้วยรึยังล่ะ”ถามเสียงดุ

   “เอ่อ คือ ยังครับ กะจะมาหาซื้อที่นี่”พยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่ก็ทำไม่ได้สักที

   แถมยังหลบตาไม่กล้ามองตอบเพราะตาคู่ดุคู่นั้นอีก

   “งั้นเหรอ ดูท่าทางไม่น่าจะมาอยู่แถวนี้”คงจะหมายถึงผิวพรรณ ล่ะมั้ง กันหาคิดในใจ

   “ครับ”ก้มหน้าก้มตา หน้ารู้สึกร้อนจนจะละลายอยู่แล้ว

   “นี่”

   “คะ ครับ”จู่ๆมือใหญ่กร้านมันก็มาแตะลงที่หัวเบาเบา จนขนลุกไปทั้งตัว

   “ใบไม้มันติดน่ะ ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลยรึไง เด็กๆเห็นมันจะล้อเอา”

   “อะ ครับๆ”หน้าแดงก่ำ เสหน้าไปมองทางอื่น

   “แล้วมาสอนนี่ แฟนไม่ว่ารึไง”

   “ไม่มี ไม่มีแฟนครับ”ตอบไปแล้วถอยหลังกรูดออกมาไกล

   “ก็ดีแล้ว”ทิ้งท้ายไว้แล้วก็ลุกออกไป



   “ดะ เดี๋ยวสิครับ”ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยากจะตัดมือตัวเองทิ้งซะเดี๋ยวนี้ จู่ๆก็ดันเอื้อมมือไปคว้ามืออีกฝ่ายไว้

   “หือ มีอะไร”หันมาถามเสียงแข็ง

   “ปะ เปล่าครับ ขอ โทษครับ”ปฏิเสธไป มือที่จับมันร้อนวาบ จนต้องปล่อยมือออก

   “นึกว่าหิว รอเดี๋ยวแล้วกัน เดี๋ยวรอข้าวสุกก็กินข้าวได้แล้ว”

   “ครับ”กันหาตอบรับพลางเศร้าใจ

   ตกลงว่าอีกฝ่ายจำเขาไม่ได้ ทั้งที่เขาไม่เคยลืมมาตลอด แต่อย่างว่า เรื่องมันก็ตั้งสิบกว่าปีมาแล้ว ใครจะไปจำได้ ก็มีแต่เขา
คนเดียวที่บ้า



   “อ้าวครู เป็นอะไร ทำท่าทำทางเหมือนจะร้องไห้ พ่อผมดุรึไง”เด็กหัวเกรียนนั่งลงตรงข้าม

   “ไม่ใช่ไม่ใช่ แค่นึกอะไรเพลินๆ ว่าแต่”

   “ว่าแต่อะไร”

   “แม่ของเธอล่ะ ไปไหนเหรอ”ถามเรื่องที่อยากรู้ออกไป

   “โอ้ย อย่าไปถามถึงเลย ขานั้นเขาทิ้งผมกับพ่อไปตั้งแต่ผมเกิดนู่น”

   “เอ๋ ทิ้งไปเหรอ  ครูไม่น่าถามเลย”

   ไม่รู้ทำไมถึงได้ดีใจแปลกๆ จนไม่รู้ตัวว่าเผลอยิ้มมุมปากออกมา

   “ไม่เป็นไร ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ว่าแต่ครูเหอะเป็นไรมากป่าวเนี่ยเดี๋ยวก็จะร้องเดี๋ยวก็ยิ้ม”

   “ครูเปล่าสักหน่อย”





   


   “นี่ครู แกงนี่อร่อย ของชอบของพ่อเลย”

   “ขอบคุณ”กันหายิ้มรับให้กับนายตริณ แต่ก็ยังไม่กล้าสบตาคนพ่ออยู่ดี

   “เอ้านี่ กินเยอะๆ ผอมจนจะปลิวลมอยู่แล้ว”ไข่ลูกเขยถูกวางแหมะลงในจานของกันหาพร้อมกับเสียงห้วน

   แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทั้งกลัวทั้งดีใจอยู่ดี

   “ใครจะปลิวง่ายๆล่ะครับ”

   “นั่นสิพ่อ ใครจะปลิวง่ายๆ พ่อก็พูดไป”

   “ต่อปากต่อคำ กินไปเหอะ ทั้งคู่เลย เดี๋ยวจะมืดจะค่ำเอา”คนพ่อดุ
   



   มื้อเย็นจบลงด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างจะหลากหลายไปสักหน่อย กันหาแทบจะหยุดหายใจให้ได้เลยเมื่อมองไปแล้วสบตา
คู่ดุนั่น

   ยิ่งกลิ่นกายที่บ่งบอกถึงคามดิบเถื่อนยามอีกฝ่ายเฉียดเข้าใกล้ยิ่งทำให้หัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นนอกอก

   “พ่อ ฝากไปส่งครูด้วยนะพ่อ เดี๋ยวต้องไปดูรถให้ไอ้มิ่งมัน ไม่รู้เป็นห่าอะไรของมันอีกแล้ว”เวลาล่วงเลยไปทุ่มเศษๆคนลูกก็ตะโกนลั่นบ้านเสียงดัง

      “เดี๋ยวสิ เฮ้ย ไอ้ตริณ ใครไปรับปากเอ็งตอนไหนวะ”ยังไม่ทันจะตั้งตัวได้เสียงมอเตอร์ไซก็ไปไกลมากแล้ว
   “เอาไงล่ะ กลับเองก็ไปไม่ได้อีก มืดแล้วนี่”

   “ไม่เป็นไรครับ ผม เอ่อ กลับเองได้”ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่พอมองไปนอกตัวบ้านที่บรรยากาศเงียบสงัดแถมมืดสนิทขนาดนี้

   “อย่าทำเก่งไปหน่อยเลย เอานี่ไปใส่ก่อน เดี๋ยวยุงมันจะกัดจนตัวลายเอา”

   เสื้อสีตุ่นคงกลิ่นอายของเจ้าของถูกโยนมาคลุมหัว กันหาหยิบมาขึ้นมามอง ใบหน้าขาวแดงเรื่อนความมืด มองดูเจ้าของ
บ้านหายลับไปในห้องเพื่อหยิบไฟฉาย ก็แอบยกเสื้อของเจ้าของมาสูดดมแล้วยิ้มเล็กๆกับตัวเอง

   นี่คงจะเป็นความฝัน

   กันหาคิดในใจ




   “จะเดินห่างอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวงูเงี้ยวมันก็กัดเอาหรอก”ตุลกาลหันมาดุไม่ค่อยพอใจครูคนใหม่สักเท่าไรเพราะช่วงความ
ห่างที่ทิ้งกันยาวเป็นโยดจนแทบไม่เห็นตัว

   “ครับๆ”กันหาเดินก้าวเข้ามาชิดอีกก้าวหนึ่ง

   แต่ดูท่าคนนำจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร

   แขนเล็กกว่าถูกดึงจนร่างเซเสียหลักไปกระทบแผ่นอก

   เหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้ยังไงยังงั้น ถ้าไม่มีความมืดช่วยอำพรางป่านนี้ตุลกาลคงจะเห็นใบหน้าของเขาแดงจนถึงหูแน่

   

   ต่างฝ่ายต่างผละออกจากกันแต่ตุลกาลก็ยังคงไม่ปล่อยมืออกจากแขนเขาอยู่ดี ซ้ำยังดึงให้เดินคู่กันมาข้ามสะพานข้ามคลองจนมาถึงบ้านพักครูสภาพโทรม

   โชคดีที่ก่อนออกไปได้เปิดไฟบนบ้านทิ้งไว้ก่อนแล้ว



   “ขอบคุณครับ ที่มาส่ง”กันหาอ้ำอึ้งก้มหน้าก้มตาบอก

   “อืม อย่าลืมปิดหน้าต่างปิดประตูให้ดีล่ะ”ตุลกาลเตือน

   “ครับ”


   ตะ ตะ ตัก แก ตะตะ ตัก แก

   ตะ ตักแก ตักแก



   เสียงปริศนาดังขึ้น ใบหน้าจากที่แดงเรื่อเพราะความเขินอายก็ถอดสีโดยเฉียบพลัน

   “อะ เอ่อ คือ”กันหาหน้าซีด เงยหน้ามองตุลกาลที่กำลังซ่อนอมยิ้มเอาไว้เพราะความขันกับท่าทางที่ดูตลกของเขา

   “เสียงตุ๊กแกน่ะ”

   “ตะ ตุ๊กแกเหรอครับ มีตุ๊กแกด้วยเหรอครับ”

   “บ้านนอกแถวนี้เขาก็มีเกือบทุกบ้านแหละ ผมไปละนะ”ตุลกาลหันหลังเตรียมเดินออกมา

   ทว่าข้อมือใหญ่ถูกคว้าเอาไว้ มือของกันหาสั่นเล็กๆ แต่ใบหน้ากลับแดงก่ำเรียกให้สายตาคมดุจ้องมองทั้งอมยิ้ม อีกทั้ง
ดวงตาคมที่ชอบหลุบมองพื้นอยู่บ่อยๆไม่สบตาอีก

   “ว่าไงล่ะ”


   “คือผม ผมกลัว ผม กลัวตุ๊กแก”กันหาเสียงสั่น คราวนี้ตาคมคลอไปด้วยน้ำตาจมูกเล็กแดงเรื่อ

   “งั้นก็ขึ้นไปเอาเสื้อผ้ามาสิ วันนี้ไปนอนบ้านผมก่อน”

   “ตะแต่ว่า”ถ้าให้ไปนอนบ้านเดียวกัน ต้องบ้าตายแน่ๆ แค่อยู่ใกล้กันก็อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว

   แต่ถ้าจะให้อยู่กับตุ๊กแกเขาคงจะต้องบ้าตายแน่ๆ

   “รึไม่ไป”

   “ไปครับ ไป”

   “แล้วจะรออะไร ขึ้นไปเก็บของสักที”

   “ไม่เอา ผะ ผมไม่กล้าไป”

   “โตป่านนี้แล้วยังจะกลัว กะอีแค่ตุ๊กแก”

   

   สุดท้ายกันหาก็ถูกบังคับให้เดินนำขึ้นมาทั้งที่ขายังสั่น ตาคมมองซ้ายขวาหลุดหลิกกลัวว่าเจ้าตัวน่ากลัวมันโดดใส่เอา

   ด้วยความกลัวความระแวงหรือว่าอะไร ขาดันไปสะดุดเอากับบันไดขั้นสุดท้าย

   ร่างสูงโปร่งหน้าคะมำ อีกแต่ไม่กี่คืบใบหน้าก็จะวัดเข้ากับพื้นบ้านพักครูเข้าแล้ว

   ดีที่อ้อมแขนแข็งแรงเกี่ยวรัดเอาไว้ได้ทัน แต่นั่นก็หนักกว่าหน้าไปวัดเข้ากับพื้นเสียอีก

   กันหาแทบอยากจะคลั่งตาย ลืมเรื่องตุ๊กแกไปสนิทเมื่อถูกตุลกาลกอดรัดจนแน่น

   ความร้อนจากแผ่นอกส่งผ่านมาที่แผ่นหลัง กันหาจะบ้าตายอยู่รอมร่อ

   “เดินดีดีสิ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก”

   ร่างกายถูกจับพลิกให้หันมามอง จากที่ตกใจกับการถูกกอดโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว ยังจะใบหน้าที่ยื่นเข้ามาจนใกล้



   ใจมันกระหน่ำเต้นแรง แล้วก็แรง จนยากจะควบคุม

   แล้วยิ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนักกว่าเก่า เมื่อเจ้าตุ๊กแกตัวดีมันเกาะอยู่บนหลังคาเหนือหัวเขาพอดี

   เจ้าตัวลายจุดสีส้มเหมือนกับรู้ว่าเขาจ้องมองมันอยู่ มันหันมายิ้มให้ รู้ตัวอีกทีก็หมดสติไปซะแล้ว




คาแรคเตอร์ของพระเอกจะเป็นเซอร์ๆ ดิบ เถื่อน น่ากลัว
ของนายเอก จะเป็นขี้อาย ขี้กลัว ขี้เกรงใจ (แต่ก็กล้ามาหาเขาถึงที่?)

เป็นซีรี่เรื่องสั้นอีกเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าวันหนึ่งจะจับเอามาเป็นเรื่องยาวไหม

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
พาร์ท 2 เข้าใจผิด

   “อือ งือ”กันหาครางเบาในลำคอ

   รู้สึกว่าอึดอัดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายมันอบอุ่นเหมือนกำลังถูกโอบเอาไว้

   มันอุ่นจนไม่อยากจะตื่นขึ้นมา ทำให้กันหาหลับตาพริ้มแล้วยิ้มให้กับตัวเอง

   

   “เอ้า ถ้าไม่ตื่นจะไปไม่ทันเด็กเข้าแถวเอานะครู”เสียงที่เหมือนจะกระซิบแต่มันกลับแข็งกระด้างดังขึ้นข้างหู

   กลิ่นกายที่แฝงไปด้วยความดิบเถื่อนของชายวัยฉกรรจ์ลอยกระทบจมูกทำให้หวนนึกถึงคนคนนั้นขึ้นมา

   นี่คงจะเป็นฝันที่ดีมาก

   กันหาคิดในใจพลางซุกตัวเข้าหาไออุ่น

   “เอาเข้าไป”เสียงนั้นยังคงดังแว่วอยู่ใกล้ๆ


   ลมร้อนเป่ารดต้นคอชวนให้รู้สึกจั๊กจี้

   แต่เดี๋ยวก่อน ลมหายใจร้อนๆนี่มาจากไหน อีกทั้งยังรู้สึกหนักๆแถวบั้นเอวเหมือนมีอะไรมาพาดทับอีก

   ทำไมฝันมันเหมือนว่าถูกกอด แล้วทำไมฝันมันถึงได้เหมือนจริง เหมือนแม้แต่ร่างกายรู้สึกถึงร่างกายของอีกฝ่ายแบบเนื้อ
แนบเนื้อ

   กันหาลืมตาขึ้นมากระพริบตาปริบๆ ผนังไม้สีโอ๊คไม่คุ้นตาทำให้ใบหน้าดูงุนงง

   แสงแดดอ่อนๆสาดผ่านหน้าเข้ามาในห้องทำให้พอจะเห็นสภาพห้องอยู่บ้าง เครื่องใช้ที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นถูกเก็บเข้าที่อย่างมี
ระเบียบ

   แต่นี่มันไม่ใช่ห้องเขาสักหน่อย จะว่าบ้านพักครูก็ยิ่งไม่ใช่ แล้วที่นี่มันที่ไหน

   พอนึกถึงเหตุการณ์สุดท้ายก็สะดุ้ง

   “ไง ตื่นได้รึยังล่ะ แขนคนอื่นชาไปหมดแล้ว”เสียงคุ้นเคยดังข้างหู

   คราวนี้ไม่ต้องเสียเวลาแยกแยะเลยว่ามันเป็นฝันหรือว่าจริง เอาเวลาไปปะติดเรื่องราวซะยังจะดีกว่าว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

   แล้วที่สำคัญ กันหาผลุดลุกขึ้นมา แผงอกของตนนั้นเปลือยเปล่า อีกฝ่ายก็เช่นกัน

   ตาคมเบิกโพล่ง หัวใจมันกระตุกวูบ แผงอกล่ำสันของตุลกาลลอยเข้ามาปะทะสายตาของกันหา

   ใบหน้าขาวสะอาดแดงก่ำรับอรุณทำให้ตุลกาลยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย

   แต่จะว่าไปคงจะดูน่าขบขันเสียมากกว่า

   “ดะ เดี๋ยวสิ ทำไม อะ ทำไมผมถึงได้”พูดไม่เป็นประโยคแต่ก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

   ผ้าห่มมันร่นลงไปต่ำจนเห็นแผงไรขนอ่อนสีดำโผล่แพรมออกมา

   “จำไม่ได้เลยรึไง”ตุลการยักไหล่

   “มะ ไม่ได้”กันหาส่ายหน้ารัว

   “นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วความจำยังจะสั้นอีก”

   “แล้ว ผมมาที่นี่ได้ยังไง แล้ว เอ่อ เสื้อผ้า”

   “จะมายังไงได้ ผมก็อุ้มครู่มาไง ส่วนเสื้อผ้าครูผมซักตากไว้อยู่นอกระเบียง กระเป๋าของครูกองอยู่นู้น”พูดไปก็โบ้ยหน้าไปที่
กระเป๋าฝุ่นเกาะแดงเกรอะ

   “…”กันหากลืนน้ำลาย ค่อยๆยกผ้าห่มขึ้นมาปิดบังกายตัวเอง เพราะเท่าที่รู้สึกได้ คงจะมีเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียวที่เหลือ
ปิดกายอยู่แค่นั้น

   “ส่วนกางเกงใน ผมก็เอาตัวใหม่เปลี่ยนให้แล้ว ไม่ต้องห่วง”

   “ห่ะ อะ อะ อะไรนะครับ ปะเปลี่ยนกางเกงใน ดะ ด้วยเหรอ”กันหาอ้ำอึ้งหน้าแดงลามไปถึงหู

   จนอีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ

   “ก็ใช่ไง รีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก สั่งให้ไอ้ตริณมันไปซื้อโจ๊กมาเผื่อแล้ว ยังพอมีเวลากินทันอยู่”

   “อะ อะ คือ”

   “นอนทับซะแขนชาไปหมด หมอนมีให้หนุนก็ไม่หนุน แถมยังนอนดิ้นอีก ดีที่กอดเอาไว้ มั้นคงจะลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บน
พื้น”ตุลกาลบ่นทำท่าทีเป็นนวดแขนแต่ก็รอดูปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย

   “กะ กะ กอดด้วยเหรอ แถมหนุนแขนด้วย”กันหารู้สึกว่าตัวเองตอนนี้ลำคอแห้งผาก แถมอุณหภูมิร่างกายมันสูงเอาสูงเอาจน
จะบ้าตายอยู่แล้ว

   “ใช่ กอด ถ้าผมไม่กอดเอาไว้ครูตกเตียงไปเจ็บตัว ในฐานะเจ้าบ้านจะแย่เอา”





   ตกเที่ยงเด็กหัวเกรียนลูกชายของตุลกาลก็ยื่นปิ่นโตข้าวให้คุณครูหนุ่ม พอซักถามก็บอกว่าพ่อให้เอามาให้

   ใจนี่รู้สึกดีจนไม่รู้จะดียังไง แต่พอให้คิดเรื่องว่านอนด้วยกันแถมยังโดนกอด ในมันก็กลับมาเต้นแรงเหมือนกับกลองโดนตีรัว

   ไม่รู้ว่าคืนต่อๆไปจะเป็นยังไง ขอให้ลุงพาลโรงรีบไปจับตุ๊กแกที่บ้านพักครูของเขาให้หมดๆไปสักที ไม่งั้นเขาคงจะต้อง
หัวใจวายตายก่อนแน่

   ตกเย็นกันหากลับไปพร้อมกับนายตริณลูกศิษหัวเกรียน ไม่รู้ว่าจะมองหน้าตุลการอย่างไรดี

   มื้อเย็นจบลงข้าวในจานของกันหาไม่เหลือสักเม็ด ต้องยอมรับฝีมือทำกับข้าวของตุลการจริงๆที่ทำให้กันหาจากที่กินน้อย
กลับมาเจริญอาหารได้อย่างนี้

   “เป็นไงล่ะครู ติดใจฝีมือพ่ออ่าดิ อยากสมัครเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้เปล่าล่ะ อยู่ฟรีกินฟรีเลยนะครู”นายตริณยักคิ้วยียวนให้ที
เล่นทีจริง

   แต่กันหากลับคิดไปไกล และเผลอคิดจริงจังจนหน้าแดงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือแต่เนื้อหากลับไม่เข้าหัวเลยสักนิด

   “น้อยน้อยหน่อยไอ้นี่”หมอนอิงถูกโยนด้วยมือของคนพ่อที่กำลังดูรายการข่าวอยู่ไม่ไกล

   ไม่รู้ว่าเพราะไม่พอใจที่ลูกชายทำเจ้าชู้ใส่คุณครูหรือว่าอะไรกันแน่

   “เอ้า ก็ครูเขายังไม่มีแฟนนี่ จริงไหมครู”

   “อ่า ชะ ใช่”กันหาพยักหน้า

   “เอ็งอย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้หน่อยเลย ครูเขาเป็นผู้ชาย ทำการบ้านไปเถอะเอ็งน่ะ ครูก็อ่านหนังสือไป เดี๋ยวก็สอนเด็ก
ไม่รู้เรื่อง”ตุลกาลพูดกระแทกเสียง

   พอกันหาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา

   ไอ้ที่ว่าเป็นไปไม่ได้มันทำให้รู้สึกแย่จนหน้าถอดสีเลยทีเดียว

   “ครูๆ ไอ้นี่มันแปลว่าอะไร”

   กันหันไปหาลูกศิษย์ พยายามไม่ใส่ใจกับถ้อยคำตัดกำลังใจ

   ไม่รู้เลยว่ามีสายตาดุดันกำลังจ้องงมองอย่างไม่พอใจที่ตนเองนั้นให้ความสนใจกับลูกชายมากกว่าตน อีกทั้งยังใบหน้าที่
บอกบุญไม่รับเวลาที่เขาพูดขัดความสัมพันธ์ที่อาจจะเกินเลยระหว่าครูกับศิษย์

   

   

   เสียงไก่ขันรับอรุณผ่านไปไม่นานเสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังขึ้นตามมาเสียงโครมคราม

   “ครูๆ ตื่นยัง ไหนว่าจะไปตลาดด้วยกันไง”คนลูกเคาะประตูเรียก

   “ตื่นแล้ว รอเดี๋ยวนะ”กันหาตะโกนตอบรับ

   อุตส่าห์ตั้งนาฬิกาปลุกรีบแต่งตัวเพราะอยากไปหาอะไรกินที่ตลาดตอนเช้า ถือโอกาสไปเปิดหูเปิดตาด้วย

   กันหาหันไปมองคนที่ตนคิดว่ายังไม่ตื่น แต่แล้วเขาก็ต้องหลบตาวูบเมื่อเห็นว่าตาดุดันนั้นจ้องมองมาก่อนอยู่แล้ว

   อาจจะเป็นเพราะเสียงเคาะประตูที่ทำให้เจ้าของห้องตื่น ทั้งที่ปูฟูกนอนอยู่ที่พื้นเพราะไม่อยากรบกวน แต่อันที่จริงเป็น
เพราะความอายมากเกินกว่าที่จะนอนร่วมเตียงมากกว่าแต่ก็ทำอีกฝ่ายตื่นจนได้

   “จะไปไหนกัน”

   “เอ่อ จะไปตลาดตอนเช้าน่ะครับ จะฝากซื้ออะไรไหมครับ”หลุบตามองไปยังฟูกนอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วไม่กล้าสบตา

   “ไม่เอา”ตอบเสียงแข็งจนกันหาแทบจะน้ำตาเล็ด

   ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจู่ๆอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไป จากที่ดูน่ากลัวอยู่แล้วก็ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเก่า แถมยังชอบมองมาเหมือนไม่พอใจ

   บางทีอีกฝ่ายอาจจะรำคาญที่เขามาอาศัยอยู่ด้วยก็ได้

   เห็นทีคงต้องรีบไปเร่งให้ลุงเอี่ยมพาลโรงจับตุ๊กแกที่บ้านพักครูให้หมดเสียแล้ว

   ยังไงซะได้แค่นี้มันก็มากเกินกว่าที่คิดเอาไว้แล้ว

   ไอ้ที่หวังลมลมแล้งๆคงจะต้องตัดใจไปเสียที แค่เป็นผู้ชายด้วยกันมันก็ผิดมากจนไม่รู้จะมากยังไง คนอย่างตุลกาลคงไม่มี
วันสนใจเขาในแบบที่เขาคิดแน่นอน



   

   

   “ครูแน่ใจนะว่าไม่อยู่บ้านผมต่อน่ะ”ลูกศิษย์ถามมองดูคุณครูอุ้มกระเป๋าลากใบใหญ่ลงบันไดบ้านลงมาด้วยท่าทางทุลักทุเล

   “ไม่ล่ะ ลุงพาลโรงเขาจับตุ๊กแกออกให้หมดแล้ว ครูขอบใจเธอมาก”กันหาบอก เหลือบมองไปบนบ้านทรงไทยก็เห็น
เจ้าของบ้านมองมาเหมือนไม่พอใจอยู่เช่นเดิม

   “งั้นเดี๋ยวผมไปส่งแล้วกัน เดินแบกกระเป๋าหนักๆไปกว่าจะถึง”

   “งั้นก็ช่วยครูหน่อยนะ”







   กันหานอนมองเพดานด้วยจิตใจที่ค่อนข้างจะห่อเหี่ยวทั้งที่ควรจะดีใจอุตส่าห์ได้ใกล้ชิดกับตุลการซะขนาดนั้นแล้ว ทำไมถึง
ได้รู้สึกแย่อย่างนี้

   อาจจะเป็นเพราะคำพูดของอีกฝ่ายก็เป็นได้ หากรู้ว่าเขามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ตุลการคงจะรังเกียจแล้วไม่มองหน้าเขา
ละมั้ง

   กันหาปิดประตูหน้าต่างลงกลอนอย่างดีตามที่ตุลกาลเคยบอกเอาไว้ ร่างสูงโปร่งทิ้งตัวลงกับที่นอน หลายวันที่อยู่บ้านหลัง
นั้นเหมือนกับฝันที่ไม่เคยได้คาดคิดมาก่อน

   พอกลับมานอนคนเดียวแล้วมันรู้สึกโล่งๆเหงาๆยังไงไม่รู้

   วันพรุ่งนี้เป็นวันศุกร์วันสุดท้ายของสัปดาห์ คงจะต้องเอาวันหยุดที่ว่างเข้าเมืองไปซื้อของใช้จำเป็นมาเก็บไว้ อีกทั้งต้องดู
และเรื่องการกินที่ไม่ค่อยจะถนัดอีก

   คงจะต้องรับมือกับการใช้ชีวิตด้วยตัวเองอีกเยอะน่าดู



===================================================================




ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
พาร์ท 3 ยาดอง


   “ครู ครู เย็นนี้ไปกินข้าวบ้านผมไหม”

   หลังเลิกเรียนนักเรียนเกรียนประจำห้องอย่างตริณภพก็เดินมาเท้าคางชวนคุณครูประจำชั้นด้วยท่าทางสนิทสนิม

   เพื่อนในห้องกว่ายี่สิบคนต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าขาโจกประจำห้องสนิทกับคุณครูคนนี้มากแค่ไหน

   “เอ่อ ครูว่าไม่ดีกว่าครูเกรงใจ”

   กันหาตอบปฏิเสธ แต่ความจริงแล้วเหตุผลของเขาไม่ใช่ความเกรงใจ หากแต่เขาไม่รู้ว่าจะจะมองหน้าตุลกาลยังไงต่างหาก
เพราะก่อนหน้าดูท่าตุลกาลคงไม่ชอบใจเขาสักเท่าไร

   “ไปเหอะ วันนี้วันเกิดผมไปเถอะนะครู”ตริณภพเขย่าแขนกันหาท่าทางอ้อนวอน

   “งะ งั้นก็ได้”

   พอถูกรบเร้าเข้าในที่สุดก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านทรงไทยโบราณหลังนี้จนได้

   กันหาถอนหายใจเป็นไงเป็นกัน ไม่รู้หรอกว่าตุลกาลไม่ชอบใจตนเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะความเซ่อซ่าของตนความ
ชอบหาเรื่องใส่ตัวของตนก็อาจจะเป็นได้

   ไม่ได้คุยกันไม่ได้อยู่ใกล้กันกันหายังพอทน แต่พอรู้ว่าตุลการไม่ชอบตนก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา

   เขาเดินตามลูกศิษย์หัวเกรียนขึ้นมา พอพ้นบันไดบ้านก็เห็นว่าบ้านเงียบสงัดจึงได้ขมวดคิ้วมีท่าทีสงสัย

   “เอ่อ พ่อของเธอล่ะ”ถามไปพลางสอดส่ายสายตามองหาไม่รู้ตัว

   ไม่ได้รู้เลยว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาประชิดด้านหลังตอนไหน

   แสงสีส้มอ่อนของอาทิตย์ยามเย็นสาดผ่านเงาของต้นไม้ใหญ่พาดลงมา

   กันหาสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นของกายใหญ่กว่าเข้ามาใกล้จนแทบชิด

   ลำตัวสูงโปร่งแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัว จะหันไปหาลูกศิษย์ตัวแสบเพื่อขอความช่วยเหลือช่วยชวนคุยหรืออะไรก็ได้

   ทว่าตริณภพกลับหายลับเข้าไปในห้องนอนของตนแล้วทิ้งให้กันหาอยู่กับตุลกาลหนุ่มชาวไร่น่ากลัว

   “จะถามหาทำไม”เสียงแข็งถามขึ้น ไม่ไกลจากหูสักเท่าไร



   “อะ อะ เอ่อ เปล่าครับ ผม คือ ถามดู ไม่เห็นน่ะ คือ”

   “แล้วจะยืนขวางบันไดอีกนานไหม คนอื่นเขาจะขึ้นบ้าน”

   “คะ ครับ”กันหาตอบเสียงสั่น เดินตัวแข็งทื่อหลบทางให้ตุลการเดินถือตะกร้าผักสวนครัวที่เพิ่งเก็บมาหมาดๆผ่านเข้าไปใน
ครัว

   ทิ้งให้กันหาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ แต่ไม่นานก็แทนทีมาด้วยความรู้สึกน้อยใจและเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก

   ตุลกาลคงจะเกลียดเขาแล้วจริงๆ





   อาหารมื้อเย็นก็ดูท่าทางปกติไม่เห็นจะแตกต่างไปจากเก่าทำให้กันหานึกแปลกใจว่าทำไมวันเกิดทั้งทีทำไมไม่มีอะไรเพิ่ม
เติมมาเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่กล้าพูด

   “เอ่อ ไม่เป่าเค้กเหรอครับ”กันหาพูดขึ้นมาเมื่อมื้ออาหารจบลง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีการฉลองอะไรใดใดตามที่ลูกศิษย์บอก

   “เป่าเทียนอะไร”ตุลการถามเสียงกระด้าง

   “ก็วันเกิดไงครับ เอ่อ ไม่มีเค้กเหรอ”กันหาหลุบตาหลบที่มองมา

   “วันเกิดใคร”

   “ก็วันเกิดของตริณ ไม่ใช่เหรอครับ”

   “วันเกิดอะไร วันเกิดมันสิ้นปีนู่น จะมาเกิดอะไรตอนนี้”

   พอจบประโยคกันหาก็หันไปมองหน้าตริณภพใบหน้าบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจทันที

   “อ้าว ก็ถ้าไม่บอกอย่างนั้นครูจะมาไหมล่ะ”

   “ไม่มา”กันหาส่ายหน้า

   “ก็นั่นไง ถ้าไม่หลอกครูก็ไม่มาหรอก”

   ก็จริงอย่างที่ตริณภพพูด ถ้าไม่หลอกกันเขาก็คงไม่กล้ามาที่นี่อีก

   

   “หึ ต้องถึงขั้นหลอกเลยรึไง ถึงจะมาได้”เสียงเหมือนค่อนขอดไม่พอใจดังมาจากคนพ่อ

   กันหาที่ไม่ค่อยมั่นใจอยู่แล้วยิ่งเสียความมั่นใจหนักเข้าไปอีก เริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมา



   ไม่นานตริณภพก็เดินหายเข้าไปในครัวทิ้งให้กันหาต้องอยู่กับตุลกาลด้วยท่าทางอึดอัด

   “วันพรุ่งนี้วันหยุดนี่”เป็นเจ้าบ้านที่เริ่มชวนคุย

   แต่ก็ทำให้คนที่นั่งคุกเข่าเกร็งตัวจนจะแข็งทื่อสะดุ้งเล็กๆเพราะไม่คิดว่าจะโดนชวนคุยหลังจากตกอยู่ในความเงียบอยู่พักใหญ่

   “อ่า ครับ”พยักหน้าทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามอง

   ไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทีของตัวเองจะทำให้เจ้าบ้านยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม

   “แล้วของใช้ล่ะ ไปซื้อมาบ้างรึยัง”

   “ยังครับ”ยิ่งคุยก็ยิ่งงอตัวลง คล้ายกับพยายามจะหดตัวให้หายไปจากตรงนี้ให้ได้

   “แล้วจะไปซื้อเมื่อไรล่ะ ป่านนี้แล้ว”

   “พรุ่งนี้ครับ พรุ่งนี้ไป”

   “ก็ดี แล้วจะไปยังไงล่ะ”

   “ตริณบอกว่าจะพาไป”

   “สนิทกันมากเกินไปรึเปล่าครู ตริณมันยังเด็ก”

   “อ่าครับ ผม ขอโทษ”บอกขอโทษไปทั้งที่เข้าใจกันคนละเรื่อง

   “ผมไม่ชอบที่ครูสนิทกับไอ้ตริณ ผมไม่อยากให้ลูกมันชอบผู้ชายด้วยกัน”

   “หะ อะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คะ คือ ผม ไม่ได้ อ่า”จะแก้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ก็ไม่กล้าพดออกมาเต็มปาก

   เพราะว่าใจของเขานั้นก็หลงรักผู้ชายตรงหน้าเข้าเต็มเปา จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

   อาจจะเป็นเพราะตุลการรังเกียจความเป็นตัวเขาก็ได้ ถึงได้มีท่าทีไม่พอใจเขาอย่างที่เห็น

   “ผม จะไม่สนิทกับตริณไปมากกว่านี้ครับ ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณเดือดร้อน”กันหาบอกเสียงแผ่ว

   น้ำตามันพาลจะไหลลงมาอยู่รอมร่อ

   ใครจะรู้ว่าตุลกาลรู้แล้วว่าเขาเป็นพวกผิดเพศแบบนี้



   “อ้าวครูเป็นอะไรทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว ไปทำอะไรครูเขาอีกละพ่อ”

   “ใครจะไปกล้าทำครูของเอ็ง”

   “งั้นก็ดี เอานี่ครู ดื่มกัน นานๆที พรุ่งนี้ก็วันหยุด ไม่ต้องเกรงใจ”

   โหลยาดองถูกเอามาตั้งลงกลางวง กันหาเงยหน้ามองตริณภพด้วยท่าทางสงสัย

   “ก็ยาดองไงครู เคยกินไหม”

   “ไม่เคย”กันหาส่ายหน้า

   “งั้นก็รองกินดู รับลอง แจ่ม”

   “แต่มันเป็นแอลกอฮอลไม่ใช่เหรอ เธออายุถึงแล้วเหรอ”

   “ใครบอก ชื่อมันก็บอกอยู่ว่ายา กินแล้วก็ต้องบำรุงร่างกายสิครู เอานี่ ลองดู”แก้วในทรงเตี้ยบรรจุน้ำสีเกือบดำถูกจับยัดใส่
มือ

   “จริงเหรอ”

   “เอ้า มันก็บอกอยู่ว่ายา กินแล้วก็ต้องดีสิ ไม่เป็นไรหรอกครูกินไปเหอะ”

   พอถูกคะยั้นคะยอก็กลืนน้ำขมขมกลิ่นฉุนลงไปในลำคอ

   “อือ ขมจัง”

   “ยาก็ต้องขมดิ กินเยอะๆ จะได้แข็งแรง”

   “แต่ครูว่า”ยังไม่ทันปฏิเสธแก้วที่สองก็ถูกจับยัดใส่มือมาอีก

   สามแก้วสี่แก้ว ไม่นานก็เริ่มรู้สึกว่าหัวมันหมุน พื้นบ้านเริ่มโครงเครงบอกไม่ถูก

   กันหายนกมือขึ้นตีหัวตัวเองเบาเบา แต่ดูท่าพื้นบ้านมันไม่ยอมหายโครงเครงสักที

   ตาเริ่มพร่าเลือน กระพริบตาถี่ๆ





   “อือ ทำไม มัน หมุน หมุน”

   หัวเริ่มรู้สึกเบาโหวงจนทรงตัวนั่งไม่อยู่

   และแล้วในที่สุดก็ล้มตัวลงเพราะโลกมันหมุนเกินจะนั่งนิ่งๆได้

   แผ่นหลังปะทะเข้ากับอ้อมอกแข็งแรงของตุลกาลโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด

   

   “ฝากดูครูด้วยนะพ่อ วันนี้ผมค้างบ้านไอ้มิ่งมัน”

   รู้ตัวอีกทีเสียงดังอู้อี้ของลูกศิษย์ก็ดังขึ้นไกลไกล

   ร่ากายมันเหมือนกับเบาหวิว ถูกยกขึ้นอุ้มพาดบ่า แล้ววางลงบนที่นอนนุ่ม

   มือไม้คนไม่ได้สติปัดป่ายสะเปะสะปะดึงทึ้งเสื้อเชิ๊ตสีขาวออกเพราะร่างกายที่รู้สึกว่ามันร้อนรุ่ม ร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว

   “อือ ร้อน”ริมฝีบางบางส่งเสียงครางเบาแทบไม่ได้ยิน

   มือปัดเอามือใหญ่ที่จับแขนของตนเอาไว้ออก
   “ออก ปาย อย่า มา ยุ่ง”ออกปากไล่

   เพราะรู้สึกเคืองใจที่โดนเมินใส่มาตลอด

   “อยู่เฉยๆน่า”

   “ม่าย อย่ามายุ่งน่า”

   “เมาแล้วเรื้อนชิบหาย”ร่างสูงใหญ่สบถพยายามจับให้คนเมาอยู่นิ่ง

   


==================================================================

ชอบกันรึเปล่าคะ ไม่รู้ว่าแนวนี้จะมีคนอ่านรึเปล่า


ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สนุกดีจ้า สู้ต่อไปน้า
เป็นกำลังใจให้ อิอิ  :mew1:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
กันหาน่าร๊ากกกก ดูน่าแกล้งยังไงก็ไม่รู้

ตุลกาลก็อย่างแกล้งหนักมือนักสิ. 555

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เอ๋ ตรินนี่เป็นใจให้พ่อหรือเปล่า

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
พาร์ท 4 เสียท่า


   “อย่า มายุ่ง ใจร้ายอือ”กันหาพยายามผลักดันให้ตุลกาลออกห่างทิฐิที่สั่งสมทำให้เจ้าตัวค่อนข้างะต่อต้านและทำในสิ่งที่ขัด
กับสิ่งที่ใจต้องการมาตลอด

   “ฮึม”ตุลกาลเริ่มครางฮึมในลำคออย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะเจ้าสัตว์ที่ติดกับดักไม่ค่อยจะอยู่นิ่งให้ความร่วมมือ

   “ฮื้อ อึดอัด อย่าทับ”

   ร่างกำยำสมชายชาตรีตัดสินใจคร่อมทับรวมเอามือที่ปัดป่ายอยู่ไม่สุขนั้นรวมเอาไว้ด้วยกันก่อนจะตรึงเอาไว้ที่นอน

   เจ้าของกายสะอาดปรือตาขึ้นมามองอย่างไม่พอใจ จมูกเชิดได้กลิ่นจางของกลิ่นกายความเป็นชายของอีกฝ่ายแล้วก็นึก
หวั่น

   ยอมรับว่ายิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก แต่ก็เคืองที่ตุลกาลเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

   เสื้อเชิ้ตสีอ่อนถูกปลดออกอย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าตุลการที่นอนยื้อยุดอยู่ใต้ร่างจะไม่เต็มใจ แต่เรี่ยวแรงของคนที่ถูกมอมจน
เมาก็ไม่อาจจะสู้เรี่ยวแรงของราชสีห์ผู้วางแผนการทั้งหมด

   กางเกงแสลคเข้ารูปถูกรูดออกตามกันไปติดๆ กันหาสะดุ้งเล็กๆเปลือกตาที่หนักอึ้งพยายามปรือขึ้นมอง มือทั้งสองข้างบิด
ไปมาเพื่อจะให้หลุดจากพันธนาการ

   ดวงตาสีอ่อนสบช้อนมองใบหน้าของตุลกาลภายใต้แสงสลัวนิ่ง ครั้งนี้กันหาไม่ลบดวงตาคมดุที่มองมาแต่อย่างใด แต่กลับ
มองตอบด้วยความไม่พอใจ

   อาจจะเป็นเพราะอารมณ์ที่เป็นผลพวงมาจากน้ำเมาก็เป็นได้ ริมฝีปากเล็กได้รูปขบเม้มกันจนเป็นเส้นตรง ดวงตาคมเอ่อคลอ
น้ำใส

   “ปล่อย อึก ไอ้แก่งี่เง่า คนแก่ใจร้าย”

   “หึ นอกจากจะเมาแล้วดื้อ ยังจะปากร้ายอีก มันน่านัก”

   “อือ แล้วงาย จะทามอารายล่ะ คนใจร้าย นิสัยไม่ ฮึก!!”ยังไม่ทันที่ปากเล็กสั่นเครือจะต่อว่าจบ

   ริมฝีปากก็ถูกปิดผนึกเอาไว้ไม่ให้ต่อว่าถ้อยคำน่าชังพวกนั้นอีก

   กันหาเบิกตากว้างสติที่เลอะเลือนแทบจะคืนกลับมา มือทั้งสองเป็นอิสระแล้วสิ้น ทว่าก็ยังคงไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะประครอง
มือนั้นให้ผลักดันร่างที่โถมทับออกไปให้เต็มแรง

   มือทั้งสองแค่ดันอีกฝ่ายเอาไว้ที่อก จิกเกร็งอีกฝ่ายด้วยความตกใจ

   ริมฝีปากร้อนรุกล้ำจาบจ้วงโดยไม่ให้สัญญาณใดใด หัวใจของกันหาแทบจะหยุดเต้น

   ความร้อนที่ส่งผ่านทำเอาโลกทั้งใบหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ลิ้นชื้นสอดแทรกเข้ามาภายในโพลงปากอ่อนนุ่ม

   ความไม่เดียงสาทำให้กันหาแน่นิ่ง ปล่อยให้ถูกตุลกาลโอ้โลมลัดเลาะจนคล้อยตาม

   ใบหน้าหล่อเหล่าอยู่ใกล้จนชิด ดวงตาของกันหาประสานกับดวงตาของตุลกาลโดยตั้งใจ

   เขากระพริบตาถี่เพื่อประครองสติละตอกย้ำว่านี่ไม่ใช่ความฝัน

   ตุลกาลกำลังจูบเขา

   คิ้วเรียวขมวดมุ่น พยายามโกยอากาศเข้าปอด ท่าทางงกงกเงิ่นๆทำให้ตุลการถอนริมฝีปากออกมาด้วยความเอ็นดุ

   ดวงตาดุพราวระยับ มุมปากกระดับยิ้มท่าทางเจ้าเล่ห์

   

   ตุลการจ้องมองร่างเปลือยมีเพียงกางเกงชั้นในสีขาวเท่านั้นที่ปิดบังส่วนอ่อนไหวเอาไว้อยู่

   ราวกับร่างทั้งร่างถูกไฟนาบเมื่อเห็นเช่นนั้น กันหาหอบหายใจถี่ ดวงตาที่มองมานั้นแฝงด้วยความต้องการเต็มเปี่ยมจนแทบ
จะเอ่อล้น

   ความอับอายถูกแทรกเข้ามาแทนที่ทิฐิที่เคลือบเอาไว้ ตุลการคร่อมทับเขาอยู่เหนือกาย

   กันหาพยายามเน้นย้ำใจใจ สติแทบจะหลุดลอยด้วยความบ้าคลั่ง

   ร่างกายที่เปลือยเปล่ามันร้อนวูบวาบ แล้วก็ต้องสะดุ้งมือมือหยาบกร้านของหนุ่มชาวไร่อย่างตุลกาลลากผ่านแผ่นอกเปลือยเรื่อยลงไปถึงหน้าท้อง

   ขนทั้งกายลุกซู่ น้ำตาที่คลออยู่แทบจะเอ่อล้นมาเต็มทน กันหาตัวสั่นเทาปัดมือนั้นออก

   แต่ฤทธิ์ของน้ำเมาทำให้ดูเหมือนแค่ดันออกไปเสียมากกว่า

   “จะ ทำ อะไร ฮึก”ถามเสียงสั่นพลางยันตัวหันหลังหลบสายตาให้ตัวเองถอยออกห่าง


   แต่มีหรือที่ตุลการจะยอมง่ายๆ ร่างของกันหาถูกจับให้ผลิกราบลงกับฟูกนอนอีกครั้ง
   และครั้งนี้ดูจะแน่นหนากว่าเก่าเมื่อตุลการทาบทับลงมาเต็มร่างกาย


   แผ่นอกชิดแผ่นอก หน้าท้องราบเข้าหากัน ไม้เว้นแม้แต่ส่วนแข็งขืนที่พองตัวจนดุนดันกางเกงออกมา

   ดวงตาสีอ่อนสั่นวูบเอรู้สึกได้อย่างชัดเจน


   ตอกย้ำตัวเองอยู่ร่ำไปว่านี้คือความฝัน หากแต่ความร้อนที่แผ่ซ่านนั้นทำให้สำนึกได้ว่านี่คือความจริง

   ริมฝีปากหยักจูบซับลงบนขมับอย่าแผ่วเบา กันหาตัวแข็งทื่อ ร่างกายลูกโลมเล้าจนร้อนวูบ

   ทำอะไรไม่ได้แล้ว ในเมื่อร่างกายไม่ฟังจิตใจ มันอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งถูกลนไฟพร้อมที่จะโอนอ่อนตามแรงดัด

   “อะ อื้อ”

   กันหาสะดุ้ง กางเกงชั้นในถูกดึงรั้งผ่านข้อเท้าไปเร็วจนแทบจะไม่รู้สึก ดวงตาสีอ่อนหลบวูบหนีไม่กล้าสบตา

   “ยะ อย่า”เสียงบอกแผ่วเบา

   ทั้งที่หลับตาแน่น กายด้านล่างถูกเคล้นคลึงโดยมือหยาบกระด้าง อารมณ์วูบไหวก่อตัวให้เกิดความรู้สึกอึดอัดตรงช่วงท้อง

   “คิดว่าจะยอมให้เปลี่ยนใจง่ายๆงั้นรึ”

   เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ไร่เคราสากถูกไถกับพวงแก้มเนียนให้ได้สะดุ้งจนตัวสั่น

   “อะ อึก ใจร้าย”ทั้งที่อยากต่อว่าให้มากกว่านี้สมองมันก็เบลอไปหมด

   ความมึนเมาบวกกับความงุนงงกับสิ่งที่เกิดทำให้เขาทำตัวไม่ถูก

   “ปล่อย อึก อะ อือ”ทว่ากายส่วนล่างกลับไม่ฟังสิ่งที่ปากปฏิเสธ

   แก่นกายในอุ้งมือแข็งขืนตามแรงชักจูง

   ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มมุมปาก ทั้งที่เรียวคิ้วหนายังขมวดตึงอยู่

   “อะ อึก ผมจะ อึก อย่านะ หยุดที ฮะ”

   กันหาเริ่มดิ้นเร่า ความเสียซ่านมันอัดแน่นจากความวูบไหวเปลี่ยนเป็นทรมานและสุขสม หยาดน้ำในเริ่มปริ่มตรงปลายยอด
แก่นกายอันเขื่องเริ่มกระตุกเบาๆ

   “ปล่อยสิ จะไม่ไหวแล้ว ฮึก ปล่อย ใจร้าย คุณ ใจร้าย”

   “ยังจะปากดีอีก”เสียงทุ้มพูดแข็ง ทั้งที่ยังคงเร่งมือขยับไม่หยุด ตาก็จ้อมองปฏิกิริยาที่ดูน่ามองนั่น

   กันหาเบือนหน้าหนียกแขนขึ้นปิดหน้า ทั้งที่อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันก็ไม่ไหลออกมา


   อุตส่าห์รักมากขนาดนี้แต่ก็กลับโดนแกล้งให้ต้องอับอาย

   “ฮึก คุณมันใจร้าย ผม ปล่อย อึก ไม่รักคุณละ แล้ว อะ อือ ไม่ไหวแล้ว อึก อะ อื้อ”

   ร่างกายกระตุกเกร็ง นิ้วจิกเกร็งเข้ากับไหล่หนาแน่น

   น้ำสีขุ่นเอ่อล้นออกมาเต็มมือของตุลกาล

   กันหาหอบหายใจระรัว ตัวสั่นเทาไม่หยุด มือยกขึ้นปิดหน้าปิดตาไม่อยากให้ตุลกาลเห็นใบหน้าที่น่าอายของตัวเอง


   “ฮึก!!”

   กันหาสะดุ้งเฮือกอีกรอบ เรียวขาถูกแยกออกโดยไว ความรู้สึกเย็นวาบจ่อเข้ามาที่ช่องทางเร้นลับ

   “จะ จะทำอะไรน่ะ”ถามทั้งที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้าน สติยังคงมึนงงกับฤทธิ์ของน้ำเมา

   “สั่งสอนคนดื้อด้านให้หลาบจำไง จะได้ไม่ลืมอะไรง่ายๆ”

   “อะ อ๊างงง ทะ ทำอะไร อะ เจ็บ”กันหาตัวสั่นเทา

   ทั้งอึดอัดทั้งตกใจ

   จู่ๆนิ้วที่ชุ่มไปด้วยของเหลวที่มาจากตัวเขาสอดเข้ามาในช่องทางทีเดียวรวด มันรวดเร็วจนตัวเกร็งไปหมด

   ริมฝีปากเล็กสั่นระริก รู้ตัวอีกทีช่องทางข้างหลังมันก็ทั้งแน่นทั้งอึดอัด ข้างในมีนิ้วของคุลการสามนิ้วสอดเข้าออกไม่หยุด

   “อย่าคิดว่าจะให้เลิกรักง่ายๆ”ตุลการพูดออกมาคล้ายสบถ


   หากแต่คนที่ได้ยินนั้นกลับเบิกตากว้างแทบจะไม่เชื่อหูคนเอง

   “อะ ระรู้ คุณรู้ด้วยเหรอ ฮึก!!”กันหาเสียงสั่น

   แต่นิ้วทั้งสามก็ถอนออกอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ยังไม่ได้คำตอบ

   แต่เรียวขาทั้งสองก็ถูกจับแยกออกจากกันจนกว้าง


   “ไม่ จะ ทำอะไรน่ะ ไม่ อะ โอ้ย!!”

   ทั้งที่อุตส่าห์สร้างความเคยชินให้กับช่องทางที่อ่อนนุ่น แต่จนแล้วจนรอดก็ยังคงสร้างความเจ็บให้กับกันหาอยู่ดี

   ร่างกายสูงโปร่งสั่นระริก ไหวคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น

   เพียงแค่วูบเดียวที่กล้าสบตากับดวงตาดุดันที่จ้องมายามถูกถอนกายจนเกือบสุดแล้วใส่เข้าไปใหม่

   ไม่นานก็ต้องเบือนหน้าหลบ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย


   นี่ไม่ใช่ความฝัน

   เขากำลังมีอะไรกับตุลกาล กันหาเน้นย้ำ

   แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจนั้นก็คือ ทำไมตุลกาลถึงได้ทำเช่นนี้

   แรงกระทั้งบวกกับแรงปลุกเร้าของตุลกาลมันมากเกินกว่าคนที่ไม่ประสาอย่างกันหาจะรับไหว

   อารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งมันช่างง่ายดายนัก สมองมันขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกอีกต่อไปแล้ว

   รู้แค่ว่ามันรู้สึกที จนคิดอะไรไม่ออก ถึงแม้ว่าตุลกาลจะรุนแรง แต่ความรู้สึกที่ส่งผ่านมานั้นก็ยังเจือไปด้วยความอ่อนโยน

   ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่สั่นคลอนไปตามแรงกระแทกของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าต้องร้องอ้อนวอนอีกฝ่ายจนเสียงแหบแห้งนานแค่ไหน

   รู้แค่ว่าหัวใจมันรู้สึกว่ามีความสุข สติเล็กๆที่กำลังจะเลือนรางได้ยินคำว่ารักเบาเบาอยู่ข้างหู


   ไม่รู้ว่าฝันหรือว่าจริงกันแน่ รู้แค่ว่าหากนี่เป็นฝันก็ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาอีกเลย












   เสียงโวยวายดังแว่วมาจากด้านนอกทำเอาร่างที่ขดอยู่สะดุ้งตื่น


   กันหาหระพริบตาถี่ๆ รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิด พอจะยกมือขึ้นกุมหัวก็ต้องติดขัด เพราะเคลื่อนไหวตามที่ใจนึกไม่ได้

   เพดานห้องที่ค้นเคยทำให้ตาโตหันไปมองด้านข้าง

    แล้วก็เป็นดังทีใจนึก แรงกอดรัดจนแน่นนี้ไม่ได้มาจากที่ไหน หากแต่มาจากผู้ชายคนที่นอนอยู่ข้างๆ อีกทั้งความร้อนที่ส่ง
ผ่านแบบเนื้อแนบเนื้อทำเอากันหาตุกวาว


   แทบจะไม่เชื่อสายตา พยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็คิดไม่ออก

   เขาพยายามดึงเอาแขนกำยำแน่นด้วยมัดกล้ามยกออกจากเอวของตัวเองอย่างเบามือเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตื่น

   แต่ทันทีที่ขยับร่างกายมันก็เจ็บแปรบขึ้นมาโดยเฉพาะท่องทางด้านล่าง ใบหน้าขาวแดงวาบทันทีเมื่อนึกว่ามันเกิดจากอะไร

   ข้างในมันชื้นไปหมดเหมือนจะมีน้ำเหลวๆออกมาจากช่องทางตรงนั้น

   ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ กันหาย้ำ ทำไมเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลย

   จำได้แค่กินยาดองกันกับสองพ่อลูก ก็แล้วทำไมผลมันถึงออกมาได้รูปนี้ล่ะ

   

   เขารีบหยิบเสื้อผ้าที่กองระเกะระกะขึ้นมาใส่โดยไว ตาก็จ้องมองกลัวว่าร่างที่หลับอยู่บนเตียงนั้นจะตื่นขึ้นมา

   ไม่รู้เลยว่าจะมองหน้าอีกฝ่ายยังไง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

   

   กันหาเดินก้าวข้าวธรณีประตูห้องนอนของเจ้าของบ้านออกมาให้เบาฝีเท้ามากที่สุด รู้สึกฝืดเคืองทางข้างหลังมากจนแทบ

จะทรุดลงไปนั่งกับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้

   “ครู จะไปไหนน่ะ”


   เสียงเรียกทำให้กันหาสะดุ้งหันไปมอง

   แต่ก็ต้องถอนหายใจเมื่อเป็นเสียงของคนลูก

   เรื่องราวมันยิ่งชวนให้มึนงงแต่เช้าเข้าไปอีกเมื่อบนพื้นเรือนเบื้องหน้าของตริณภพมีร่างของผู้ชายที่ดูจะอายุเท่าๆเขานอนอยู่


   แล้วที่สำคัญยังถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้อีก

   สงสัยก็สงสัย จะเอ่ยถามก็กระไรอยู่ มันพะวงหน้าพะวงหลังกลัวเจ้าบ้านจะตื่น

   “เอ่อ คือ”

   “ผมว่าครูกลับเข้าห้องไปดีกว่า ถ้าพ่อรู้พ่อโมโหบ้านแตกแน่”

   ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็ถูกดักทางเอาไว้เหมือนจะรู้

   “อะ เอ่อ ครู เอ่อ จะไปห้องน้ำ”บอกไปตาก็มองร่างที่ดิ้นอยู่บนพื้นเบื้องหน้าลูกศิษย์สุดรัก

   “มัวแต่มองอยู่นั่นแหละ ช่วยกันก่อนสิ”พอจ้องมากๆก็ถูกต่อว่าจากคนที่เขาจ้องมอง

   “มะ มีอะไรกันรึเปล่า”จึงได้ถามออกไป

   “ไม่มีหรอกครู ผมว่าครูอย่ายุ่งดีกว่า  ไม่งั้นผมเรียกพ่อจริงๆด้วย”ตริณภพขู่

   “ไม่ๆ ครู เอ่อย ไม่ยุ่งก็ได้”

   “อ่าวเฮ้ย เป็นครูไม่ใช่เหรอ ช่วยกนก่อนสิ อุ๊บ!!”

   “มึงอะ หุบปากไป อย่ามาลามปรามครูของกู ฤทธิ์เยอะนักนะ เผลอไม่ได้เลยมึง มานี่”


   ว่าแล้วลูกศิษย์ก็เอาผ้าเช็ดหน้ายัดเข้าใส่ปากแล้วก็จัดการดึงขาของอีกฝ่ายลากไปตามพื้นเรือน

   “ไม่มีอะไรหรอกครู รู้กันดี ครูเองก็รีบกลับเข้าห้องไปก่อนที่พ่อจะตื่น”

   “อะ เอ่อ อืม”

   ใครจะไปกล้ามีอะไร ตอนนี้ของห่วงเรื่องตัวเองก่อนแล้วกัน

   ดูท่าก็น่าจะรู้จักกันดี คงไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แค่อาจจะ

   พอพระตูห้องของตริณภพปิดลง กันหาก็ไม่รอช้า ขืนอยู่ต่อมีหวังต้องบ้าตายไปก่อนแน่ๆ

   อย่างน้อยก็ขอเวลาให้ได้ตั้งตัวสักหน่อยก็แล้วกัน



=================================================================
ขอบคุณทุกกำลังใจจ้า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คุณพ่อจำน้องได้นี่นา ทำไมไม่ตามหาเลยเหรอ 13 ปีเลยนะ ถ้าน้องไม่กลับมาที่นี่จะปล่อยไปรึไง

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
กันหานี่ดูยังไงก็น่าแกล้งเนอะ

เบาๆมือหน่อยละกันนะตุล

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อั๊ยยย คู่ลูกแอบซาดิสนะ อิอิ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ตุลนี่แอบเดาใจยากนะเนี่ย :ruready

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
พาร์ท 5 เพราะรัก End

   กันหากลับมายังบ้านพักครูด้วยสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่ร่างกายแทบจะไม่มีแรงเดินขึ้นบันไดบ้าน อีกทั้งช่องทางข้างหลังยังรู้สึก
ขัดๆ ร่างกายปวดไปทั้งตัว

   ให้ตายเถอะ หากเป็นไปได้เขาอยากจะให้เรื่องทุกอย่างเป็นความฝัน เมื่อตื่นมาก็จะพบเจอกับความเป็นจริง

   ตกลงแล้วตุลกาลคิดยังไงกับเขากันแน่

   ความอ่อนเพลียฉุดดึงให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทราโดยง่ายทั้งสภาพไม่น่าดูแบบนั้น

   ยังไม่ทันที่ที่นอนจะอุ่นดี กันหาก็ต้องสะดุ้งตื่น ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากหน้าประตู



   ปังๆๆๆๆ

   เสียงเคาะประตูดังกระหน่ำอย่างบ้าคลัง

   เจ้าของใบหน้าขาวสะอาดปรือตาที่หนักอึ้งขึ้นมาขยี้ถี่ๆ ใครกันที่กล้ามากวนเขาในวันหยุดเช่นนี้

   ในที่สุดก็ทนแรงตื๊อของผู้มาเยือนไม่ไหว จึงได้เดินไปเปิดประตู

   ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของคนที่ไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตก็ฉายขึ้นมาบนม่านตา

   ประตูแทบจะปิดลงในทันทีทันใด ร่างสูงใหญ่ท่อนบนเผยด้วยมัดกล้ามสีเข้มเปลือยไม่ปกปิด

   กลิ่นกายสมบุรุษลอยปะทะเข้าจมูกเต็มเปา กันกาเหงื่อตกพยายามดันประตูให้ปิดลง ทว่าก่อนที่ประตูจะบรรจบกับวงกบ
มือใหญ่ก็สอดเข้ามาขวางเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที

   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้”

   “มะ ไม่ ผม เอ่อ ผมไม่เปิด”เสี่ยงสั่นละล่ำละลักบอก

   ก้มหน้าก้มตาพยายามดันประตูให้ปิดลง

   แต่แรงของกันหาหรือจะสู้แรงชาวไร่ชาวสวนอย่างตุลกาลได้

   ในที่สุดประตูก็ถูกเปิดออก ตุลกาลย่างกรายเข้าหาครูหนุ่มด้วยท่าทางหงุดหงิดเต็มทน

   ทันทีที่ตื่นมาไม่เห็นว่าคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างกายนอนอยู่ด้วย ก็รีบลุกขึ้นสวมกางเกงแล้วบึ่งมาทันทีจึงทำให้อยู่ในสภาพ
ล่อแหลมเช่นนี้

   “มา ทำ มะ ไม ครับ”กันหาก้มหน้าก้มตาถามพลางถอยหลังหนีเข้าไปในห้องนอน จะปิดประตูใส่ แต่มือมันก็เหมือนจะสั่น
จนไม่มีแรง ทำให้ถูกต้อนเข้ามาในห้องนอนได้โดยง่าย

   ใบหน้าดุดันนั้นยังคงความน่ากลัวไว้ไม่มีลดหลั่น กันหาเหลือบมองอยู่วูบเดียวก่อนจะหลบตาหนี

   “คุณตุล เอ่อ คุณ มีธุระอะไร ระ รึเปล่า”

   “ธุระงั้นเหรอ มีแน่ ถ้าถามถึงธุระน่ะ”ตุลกาลตอบเสียงแข็ง ในที่สุดก็ต้องคุณครูตัวดีถอยหลังไปหงายเงิบอยู่บนเตียงจนได้

   “ธุ ระอะไร ระ เหรอครับ”

   “ผมให้เวลาสิบห้านาที เก็บข้าวของใส่กระเป๋าให้หมด”

   “หา? เก็บ เอ่อ เก็บ ทำไมครับ”กันหาเงยหน้าถาม แต่ก็ต้องกระพริบตาปริบๆ หลบตาหนี เพราะตุลกาลดูท่าไม่พอใจเขา
อยู่มาก

   “ไม่ต้องถามมาก บอกให้เก็บก็เก็บ อย่าให้ต้องพูดย้ำ”

   “แต่ว่า”

   “ตกลงจะไม่เก็บใช่ไหม”ตุลกาลถามเมื่อกันหานั่งก้มหน้ากุมมือตัวเองนิ่ง อีกทั้งยังเม้มปากเหมือนกับว่าจะไม่ยอม

   “ผมไม่เก็บ ผมจะอยู่ที่นี่ อุตส่าห์มาได้แล้ว อึก ยังไงก็ไม่ไป”

   “ดี ถ้าไม่เก็บก็ไม่ต้องเก็บ ดูเหมือนว่าเรื่องบางอย่างมันจะยังไม่ชัดเจนพอที่ครูจะยอมรับใช่ไหม”ตุลกาลเคลื่อนเอาใบหน้า
เข้าไปใกล้

   ไรหนวดสากเฉียดแก้มร้อนไปวูบหนึ่งส่งผลให้กันหาสะดุ้ง

   เงยหน้ามอง แต่ก็ไม่ทันได้มีเวลาตั้งตัวซะแล้ว ตุลกาลผลักร่างสั่นเทาลงไปกับเตียง

   ร่างกายใหญ่กว่าขึ้นทาบทับอย่างง่ายดาย ดวงตาคมสีอ่อนเบิกกว้างด้วยความตกใจ

   ใบหน้าขาวแดงเรื่อเมื่อริมฝีปากนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้จนจูบลงบนขมับแล้วไล่ลงมาเรื่อย

   กันหาได้แต่หลับตา มือเล็กกำอยู่บนลาดไหล่กำยำแน่น ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   รู้แค่ว่าหัวใจมันเต้นแรง แรงมาก พอๆกับเสียงหัวใจที่ตัวเองได้ยินจากอีกฝ่าย

   “คิดอะไรอยู่กันแน่”เสียงทุ้มต่ำกระซิบถามข้างหู

   แต่ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว หัวสมองมันอื้ออึงไปหมด

   เขาโดนตุลกาลกอด โดนตุลกาลจูบ โดนตุลกาลหอม ราวกับว่าเป็นคนรัก

   ทว่าเขกับตุลกาลไม่ได้เป็นคนรักกัน ทำไมตุลกาลถึงทำอย่างนี้ล่ะ กันหาส่ายหน้าพยายามสลัดความคิดของตัวเอง

   “มาให้ท่าคนอื่นถึงที่ แล้วจะหนีไปง่ายๆรึไงกัน”

   “มะ ไม่ใช่นะ”พอได้ยินตุลกาลพูดก็รีบแก้ตัวทันที

   ยอมรับว่ามาหาเอง แต่ไม่ได้ให้ท่าอะไรอย่างที่ว่าสักหน่อย

   “ครั้งที่แล้วเห็นว่ายังเด็กอยู่ ถึงได้ปล่อยไป ครั้งนี้อย่าหวังว่าจะปล่อยไปง่ายๆ เตรียมใจไว้ได้เลย”

   “อะ อะไรนะ คุณ จะ จำได้ด้วยเหรอ?”กันหายิ่งร้อนวูบหนักกว่าเก่า

   ความอายยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจำตัวเองได้

   “หน้าตาเซ่อๆแบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนอีกล่ะ”

   “ละ แล้วทำไมถึง”กันหาหน้าแดงลามไปจนถึงหู นี่เขาถูกจับได้ตั้งแต่เริ่มเลยหรือนี่

   “ก็อยากจะดูว่าลูกคุณหนูอย่างครูจะมาทำอะไรแถวนี้ได้”ตุลกาลเหยียดยิ้ม

   เวลาที่ผ่านมาเขายอมเสียไปเพื่อใช้สังเกตพฤติกรรมของกันหา เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

   ใบหน้าที่ดูใส่ซื่อบวกกับน่าแกล้งแสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนเมื่อสิบสามปีก่อน

   เวลาที่ตาคู่นั้นมองมาทีเขาทีไรจะต้องหลบตาไปมองทางอื่น แต่ว่าใบหน้ากลับแดงกล่ำอย่างน่าสนใจ

   สิบสามปีที่แล้ว กันหายังอยู่ในสถานะของเด็กที่มีอายุเพียงสิบขวบซึ่งตอนนั้นเขาอายุยี่สิบห้า อีกทั้งมีลูกอยู่แล้ว ถึงแม้ว่า
จะเป็นพ่อหม้ายเต็มตัวอยู่ก็ตาม

   ด้วยวัยสิบปี เขาไม่กล้าเลยที่จะล่วงเกิดหรือแม้แต่จะสานต่อ จำได้ว่าตอนนั้นพายเรือเพื่อจะข้ามฟากมารับลูกชายที่
โรงเรียน

   ทว่ากลับเห็นเด็กผู้ชายผิวขาวจัดยืนอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ

   ท่าทางน่าขันนั่นทำให้เขามอง หัวใจมันเต้นแรงจนน่าแปลกใจกับตัวเอง ท่าทางงกงกเงิ่นๆเอื้อมมือไปจะจับอะไรสักอย่างที่
อยู่ในน้ำจนตกน้ำลงไป

   ดีที่เขาช่วยเอาไว้ได้ทัน ยังจำรสชาติของริมฝีปากนุ่มๆนั้นได้ดี จำได้แม้กระทั่งเผลอสอดลิ้นเข้าไปยามที่ผายปอดให้อีก
ฝ่าย

   เพราะว่าอายุที่ห่างกันถึงสิบกว่าปี อีกทั้งกันหายังเป็นเด็กมีโอกาสที่จะเจอใครอีกหลายคน

   แต่แล้วเหมือนโชคจะเข้าข้างการรอคอยที่ไม่มีวันรู้ว่าจะจบลงเมื่อไร ลูกชายได้พาครูคนใหม่เข้ามาในบ้าน

   แวบแรกที่เห็นก็จำได้ทันที แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ ได้แต่รอดูท่าทางอีกฝ่าย

   แต่พอหนักเข้า ความใกล้ชิดของกันหาที่มีต่อลูกชาย ถึงแม้จะเป็นแบบครูกับศิษย์แต่มันก็อดขุ่นเคืองไม่ได้

   อีกทั้งท่าทางของกันหาที่หวาดกลัวตัวเอง ไหนจะห่างเหินราวกับว่าตัดใจ ไม่เหมือนก่อนหน้าทำให้เริ่มร้อนรน

   จนวันที่กันหาตัดสินใจกลับไปพักที่บ้านพักครู เหมือความอดทนมันขาดสะบั้นลง ยอมรับว่าไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำเหมือนกับ
ว่ารักตน แต่จู่ๆก็ตัดใจ

   อาจจะเป็นเพราะช่วงอายุที่ห่างกัน หรือไม่ก็เจอใครที่ดีกว่า แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมให้เรื่องนั้นมันเกิดง่ายๆ

   อุตส่าห์รออย่างไม่มีหวังมาสิบกว่าปี ขืนรอต่อไปคงจะไม่ได้ในสิ่งที่หวัง ก็มีแต่จะต้องรวบหัวรวบหางเท่านั้น

   สุดท้ายพอตื่นขึ้นมาเจ้าตัวก็ดันหนีมาอีกหน ทั้งหงุดหงิดทั้งโมโห มีทางเดียวที่จะมั่นใจก็คงจะต้องให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน จะ
ได้มองเห็นกันได้ตลอด



   “คุ คุณตุล ผมขอโทษ อะ คือ ผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีกก็ได้ ผม ผมไม่ตั้งใจ”กันหาบอกเสียงเบา

   “เข้าใจอะไรยากนัก อยากจะบ้าตาย”

   “ผม ผมจะพยายามตัดใจ แต่คุณ เอ่อ”

   “ใครอนุญาตให้ครูตัดใจจากผม เป็นถึงครู แต่เข้าใจอะไรยากนักนะ”

   “ทำไมล่ะ ผม อื้อ”

   คำพูดน่ารำคาญถูกปิดเอาไว้ไม่ให้พูดออกมา ริมฝีปากร้อนผ่าวจูบลงไม่พูดพล่ามทำเพลง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนยับยู่ยี่ก็ถูกปลด
ออกอีกครั้ง

   “รักเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่ยอมให้เปลี่ยนหรอก”เสียงทุ้มกระซิบ จมูกโด่งกดลงที่พวงแก้มนิ่ม เคราสากถูลงบนซอกคอพา
ให้ขนลุก

   แต่กันหาก็ยังคงเป็นกันหา ยังคงมันงงและยังกลัวเกรงตุลกาลอยู่ดี

   จนร่างกายถูกเปลื้องจนเปลือยเปล่า ผิวขาวเปลี่ยนเป็นแดงเรือไปทั้งตัว

   “คุณตุล เอ่อ จะ จะทำอะไรครับ คือ ผม”อ้ำอึ้ง ไม่กล้าสบตา แต่ก็ถามออกไป

   “ทำให้ครูไม่กล้าเลิกรักผมไง”

   “ดะ เดี๋ยวสิ ผม ไม่เข้าใจ อะ อือ”ยังไม่ทันจะตั้งตัว นิ้วแข็งก็สอดเข้ามาทางด้านหลัง


   ครั้งนี้ง่ายยิ่งขึ้นเอช่องทางยังคงคั่งค้างไปด้วยน้ำรักที่ถูกทิ้งเอาไว้เป็นพยาน

   กันหาหน้าแดง จนไม่รู้จะเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนได้แต่ซุกไว้กับอกกำยำของอีกฝ่าย

   “รัก”คำว่ารักสั้นๆแต่กลับตอกย้ำอยู่หลายรอบหลายหนในจิตสำนึก

   กันหาแทบจะตัวลอย หัวใจมันแทบจะหลุดออกมาเต้นข้างนอก ถ้าไม่ติดว่าร่างกายถูกสอดประสานด้วยกายอันใหญ่จนต้อง
ร้องเสียงหลงกอดรัดกายอีกฝ่ายเอาไว้แน่น

   สิ่งที่ความทรงจำหลงลืมกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง อ้อมกอดเมื่อคืนกับคำว่ารักที่อีกฝ่ายเฝ้าบอกวนเวียนอยู่ข้างหูเรียกให้
น้ำใสใสมันเอ่อขึ้นมาคลอที่หน่วยตา

   “ฮึก ผะ ผม รักคุณตุล”

   คราวนี้กันหาเองก็กล้าที่จะบอกรักอย่างเต็มปาก เลิกที่จะเก็บมันเอาไว้ เลิกที่จะอายแล้วกล้าบอกมันออกไป

   

   End

   
===========================================================
จบภาค ตุลกาล x กันหา
เดี๋ยวต่อตริณกับอีกคนสักสามสี่ตอนเนอะ
น่ารักๆกันไปเนอะ เน้นน่ารักๆอบอุ่นๆ หื่นเล็กๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2016 17:21:48 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น่ารักน่าแกล้งตลอดเลยเนอะกันหาเนี่ย

และรอลุ้นคู่ตริณต่อ อิอิ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กันหาซื่อ(บื้อ)มากอ่ะ ยิ่งซื่อมาก นายตุลยิ่งหวง หึง และลงท้ายด้วยหื่น จับกดดะเลยนะ 5555 :m10: :m10: :m10:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

ต่างคนต่างปิ๊งกันตั้งแต่ครั้งแรก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อุ้ยตุลพรากหัวใจผู้เยาว์อายุสิบขวบ
กันหาจิตใจมั่นคงมาก นับถือทั้งคู่จริงๆ

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮียตุลกินเด็กกกกกกกก  :hao6:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
คือขุ่นตุลอายุากกว่ากันหาสิบห้าปีจ้า ตอนนี้ขุ่นตุลอายุปาเข้าไป38 แก่ไหมละ :heaven

กันหาอายุมากกว่าตริณแค่ห้าปี ตุลจะหึงก็ไม่แปลกเพราะรุ่นๆเดียวกับลูกชาย


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ชอบพระเอกเถื่อนๆ ขี้แกล้งแบบนี้ :z1:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
รักนี้ต้องบังคับ (ตริณภพ x เมรี)


   เรื่องของเรื่องที่ทำให้ตริณภพต้องออกมาจากบ้านมาในช่วงค่ำแบบนี้ก็เพราะว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ข่าวมาจากเพื่อนใน
ห้องว่าจะมีนัดแข่งรถกันมันก็เหมือนกับทุกทีที่คนที่แข่งจะต้องเอาเด็กมาซ้อนท้ายเพื่อเป็นของเดิมพัน

   แต่เขาจะไม่สนใจอะไรเหมือนทุกทุกทีถ้าไม่ใช่เด็กซ้อนท้ายหรือเดิมพันครั้งนี้ของไอ้สุทนลูกชายเจ้าของโรงสีหมู่บ้าน
ข้างๆจะเป็นเมรีพี่ชายของมัน

   ผ่านมาพักใหญ่แล้วที่ไอ้สุทนลูกชายเจ้าของโรงสีขาประจำเด็กแว้นชอบมาท้าแข่งรถกับตริณภพ เพราะอยากจะกู้ศักดิ์ศรี
คืนครั้งที่เคยแพ้กันเมื่อนานมาแล้ว

   แต่ตริณภพไม่ได้สนใจเรื่องแข่งขันหรือเรื่องของเดิมพันอะไรอยู่แล้ว ที่แข่งครั้งนั้นก็เพราะเพื่อนสนิทอยากได้เด็กซ้อนท้าย
ของอีกฝ่ายแต่ดันท้องเสียก่อนจะลงแข่ง

   และครั้งนี้ได้ยินว่าไอ้สุทนมันจะแข่งกับเพื่อนในห้องและถึงขั้นหลอกเอาพี่ชายมันมานั่งซ้อนท้ายเป็นเดิมพัน เดือดร้อนตริ
ณภพต้องออกโรงแข่งเอง

   อันที่จริงเขาจะไม่สนใจก็ได้ ถ้านั่นไม่ใช่เมรี เมรีเป็นลูกชายคนโตของเจ้าของโรงสี เป็นนักศึกษาสัตวแพทย์ในมหาลัยที่
อยู่ในกรุงเทพ ไม่รู้ว่าโดนหลอกอีท่าไหนถึงได้มานั่งซ้อนท้ายให้น้องชาย แค่คิดมันก็น่าปวดหัว

   อุตส่าห์เรียนตั้งสูงแต่ดันโดนหลอกให้มาซ้อนท้ายง่ายๆ ถ้าเจอน่าล่ะน่าดู

   “กูไม่นึกเลยว่ามึงจะยอมแข่งกับกูอีก ครั้งนี้กูไยอมแพ้มึงแน่ไอ้ตริณ”สุทนตะโกนแข่งกับเสียงรถพร้อมกับบิดคันเร่งจนเสียง
ท่อดังสนั่น

   “เออ”เขารับคำสั้นๆ อย่างไม่ใส่ใจ เพราะสายตากำลังมองหน้าเชิดๆของตัวเดิมพันที่นั่งซ้อนท้ายอีกฝ่ายอยู่มากกว่า

   “มองหน้าทำบ้าอะไร”เมรีพอเห็นตริณภพมองก็หันมาตวาด ชักสีหน้าใส่

   ไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างแรงที่เห็นว่าหนึ่งในคนที่มาแข่งด้วยคือตริณภพ ลูกเจ้าของไร่ส้มโอหมู่บ้านข้างๆ ไอ้ปากหมาที่
ชอบกัดเขาทุกครั้งที่เจอ ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายคือตริณภพเขาคงไม่ยอมนั่งซ้อนให้น้องชายแน่



   “แค่มองแค่นี้จะตายรึไง ไม่เจอตั้งนานปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะมึง”ตริณภพตอบกลับ


   “เออขอให้แพ้ทีเถอะ ไอ้เด็กปากหมา”ว่าแล้วเมรีก็สะบัดหน้าพรืดใส่


   “จะลองแบ่งหมาในปากกูไปบ้างปะละ”


   “เฮ้ยอะไรของมึง ตกลงมึงจะแข่งกับกู หรือมึงจะมาชวนพี่กูทะเลาะวะ”สุทนตะโกนแข่ง

   “เออๆ”

   



   พอรู้ตัวอีกที ก็ถึงเส้นชัยตริณภพถอนหายใจ รถอีกสองคันจากหมูบ้านอื่นได้แต่ส่ายหัวให้กับความพ่ายแพ้ หันไปมองทาง
ผู้ท้ากับของเดิมพันที่กำลังเถียงกันยกใหญ่

   “ไอ้ทน ไอ้น้องเวร อะไรวะเนี่ย ไหนบอกไม่แพ้ไง ไอ้บ้า แล้วนี่มันอะไรวะ”

   “แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าจะแพ้ไอ้ตริณมันอีกแล้ว”น้องชายแก้ตัวหลบฝ่ามือพี่ชายที่ตบลงมาบนกบาล

   “อีกแล้วนี่อะไร ไหนบอกว่าไม่เคยแพ้ใครไง”

   “ก็ไม่เคยแพ้ใครไงนอกจากไอ้ตริณ”

   “อะ อะไรนะ แล้วรู้ว่าจะแพ้แล้วจะมาทำไม อั๊วจะไปฟ้องเตี่ย”

   “เฮ้ย จะฟ้องทำไม แค่แข่งรถแพ้”

   “แค่แข่งแพ้ที่ไหน รู้ว่าจะแข่งแพ้แล้วเอาอั๊วมาเป็นเดิมพันหาเตี่ยลื้อเหรอวะ”เมรีเท้าสะเอวด่าน้องชาย

   มันจะไม่ใช่อะไรเลยถ้าไอ้ของเดิมพันที่ว่าจะไม่ต้องตกไปอยู่ในกำมือของไอ้เด็กปากหมา

   “มันไม่ทำอะไรลื้อหรอกน่า ไปกับมันแค่คืนเดียวเอง”สุทนบอกเสียงอุบอิบ

   “ไอ้น้องไม่รักดี คอยดู อั๊วะจะฟ้องเตี่ย ไอ้ อะ อื้อ”

   ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ มือที่โผล่มาจากด้านหลังก็ปิดปากทำให้เมรีพูดต่อไม่ได้

   ตาเรียวเล็กเบิกกว้าง ส่งเสียงอู้อี้เมื่อรู้ว่าเจ้าของมือนั่นคือไอ้เด็กปากหมาที่มันชอบมาหาเรื่องพูดกัดตลอด

   “ไปกันได้แล้ว กูง่วงนอน”ตริณภพพูดเสียงต่ำจัดการลากของเดิมพันชิ้นใหญ่กลับไปที่รถ

   “ไม่ไปโว้ย ไอ้ทน ลื้อมานี่เลย มาช่วย  อะ ไอ้ตีน ไอ้เด็กเวร จับห่าอะไรวะ”เมรีสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าไอ้มือที่อยู่ไม่สุขของอีก
ฝ่ายมันที่ที่ก้นโดยที่น้องชายไอ้แต่ยืนมองอยู่ไกลๆ

   “ก็รีบขึ้นรถสักที ปากหมาอยู่ได้”

   “ไม่ขึ้นโว้ย”

   “ขึ้นรถ”

   “ไม่ขึ้น”

   “ต้องให้กูอุ้มใช่ไหม มึงถึงจะขึ้นได้”

   “มะ ไม่ใช่ บอกว่าไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้นไง”ว่าแล้วก็ยืนกอดอก

   “มากท่านักนะมึง มานี่!!”

   เท่านั้นแหละ ลูกชาวไร่มันก็ดึงแขนของเขาเข้าไปหาจนหน้าปะทะเข้ากับอก

   ทั้งที่เป็นแค่เด็กมัธยม แต่ทำไมหุ่นของมันถึงได้ล่ำขนาดนี้ จมูกเล็กๆดันเผลอสูดหายใจเอากลิ่นกายอันดิบเถื่อนเข้าเต็ม
ปอดทำเอาหน้าแดงวูบ

   หัวใจเต้นตึกตักไม่ยอมหยุด

   รู้ตัวอีกทีก็ถูกมือใหญ่จับเอวทั้งสองข้างยกให้นั่งคร่อมบนมอเตอร์ไซแต่งยกคันตามด้วยเจ้าของที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง

   “อะ อะไรวะ ทำไมต้องให้นั่งหน้าวะ”ถามเสียงขาดๆหายๆเมื่อแขนกล้ามแน่นกล้ามเนื้อเอื้อมมาจับแฮนจนกลายเป็นเหมือน
กับว่าถูกกักเอาไว้

   “นั่งเฉยๆ ถ้าดุกดิกกูจับมึงโยนทิ้งดงหมามุ่ยแย่”

   “บ้านมึงสิ”ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่กล้าขยับไปไหน

   ไม่ใช่เพราะว่ากลัวโยนทิ้งลงดงหมามุ่นอะไรที่ว่านั่น แต่กลัวว่าไอ้ที่มันแข็งๆแทงอยู่ที่ก้นข้างหลังมันจะแข็งไปมากกว่านี้
ต่างหาก

   รถคันเก่งแล่นบนถนนประดับสองข้างทางด้วยทุ่งนาป่าละเมาะ เพียงความเงียบและเสียงลมที่พัดผ่านแค่นั่น

   เมรีนั่งนิ่ง ลมหายใจร้อนๆของตริณภพเป่าเข้าหูตลอดทางที่ผ่านมา จนมาจอดที่หน้าบ้านทรงไทยโบราณ


   “ขึ้นไป”สั่งด้วยเสียงแข็ง

   “ทำไมต้องขึ้น”


   “ขึ้น!!”

   “ไม่ ฮะ เฮ้ยยยยยยย”

   และมันก็เป็นอย่างนี้ตลอด ร่างกายลอยหวือขึ้นมา ถูกจับให้พาดอยู่กับไหล่แข็งแรงของตริณภพ ไอ้เด็กป่าเถื่อน

   “ปล่อย ไอ้ห่านี่ จะอุ้มห้าบ้านแกเหรอวะ”

   “เงียบๆน่า เดี๋ยวพ่อกูก็ออกมาเจอหรอก”

   “ก็ดีสิวะ จะได้ปล่อยๆไปสักที อะ ไอ้เด็กห่านี่ ยะ อย่ามาจับตูดนะเว้ย”

   “เออ งั้นก็เงียบสักที ไม่งั้นกูไม่จับแค่ตูดแน่”

   ได้ผลเกินคาด คราวนี้เมรีทั้งนิ่งทั้งเงียบปล่อบให้ลูกชายเจ้าของบ้ายอุ้มขึ้นบันไดบ้านมาด้วยฝีเท้าที่เงียบกริบ



   เสียงครางอือ อาดังลอดประตูห้องนอนใหญ่แว่วมาทำเอาเมรีหน้าแดงวูบ

   “นั่น พ่อนายมีเมียใหม่เหรอ”เมรีถามเสียงเบาหน้าร้อนวูบเมื่อได้ยินเสียงคราง แถมเสียงนั่นถ้าหูไม่ฟาดหรือเดาไม่ผิด นั่น
มันเสียงผู้ชายชัดๆ เสียงแหบพร่าที่เหมือนจะร้องครางจนเสียงแหบ

   “เออ”ตริณภพตอบห้วนเดินเข้าห้องตัวเอง


   “อะ โอ้ย วางเบาเบาสิวะ”เมรีคลำก้นตัวเองป้อยเมื่อถูกโยนลงบนเตียง

   ห้องนอนที่แสนเรียบร้อยผิดธรรมชาติของเด็กผู้ชายทำเอาอึ้งไม่น้อย

   ว่าแล้วก็มองสำรวจ สำรวจจริงๆ รู้ตัวอีกทีก็ต้องสะดุ้งเมื่อหันมาเห็นว่าเจ้าของห้องมันยืนเปลือยอกอยู่กลางห้อง

   “ถอดทำบ้าอะไร ไอ้เด็กโรคจิต”พูดเสียงดังหน้าแดงเรื่อ

   พลางถอยหนีไปชิดกำแพงห้อง

   “กูถามจริงๆ นี่มึงพูดมากอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดนี้เปล่าวะ น่ารำคาญ”

   “รำคาญก็ปล่อยไปสิ”

   “เรื่องอะไรกูจะปล่อย ตอนนี้มึงเป็นของกู กูสั่งอะไรก็ทำตาม”

   “ฉันไม่ใช่ของนายสักหน่อย อย่ามาพูดจาห่าเหว ไอ้เด็กปากหมา”พอถูกบอกว่าเป็นของของอีกฝ่ายแล้วมันนึกไม่ชอบใจ
ยังไงไม่รู้

   “ลองดูไหมล่ะ”ตริณภพพูดเสียงแข็งห้วน

   เขาไม่พอใจ ไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่ก้ามขึ้นเตียงคืบคลานเข้าหาร่างของอีกฝ่าย

   ผิวขาวจัดนัยน์ตารีเล็กบ่งบอกเชื้อสาย เมรีถอยหนีจนชิดกำแพง ตามองซ้ายขวาเลิกลั่กหาทางหนี
   ดูท่าตริณภพคงจะเอาจริง

   “อย่าเข้ามานะเว้ย ถ้าเข้ามาจะร้องเรียกให้คนช่วยจริงๆนะเว้ย”

   “ก็ร้องดิ พ่อกูจะได้คิดว่ามึงเป็นเมียกู”

   “มะ ไม่ใช่สักหน่อย เป็นห่าอะไรเนี่ย ถอยไปเลย”

   หมอนใบใหญ่ใกล้มือถูกยกมาขู่เป็นอาวุธ

   แต่มันดูจะช่วยอะไรไม่ได้เลย ตริณภพเคลื่อนตัวเขามาใกล้จนแทบชิด

   คนที่ดูจะเหมือนเก่งแต่ปากสั่นงกๆไม่รู้ตัว ก้มหน้าก้มตาหนี หน้าแดงก่ำ กระพริบตาปริบๆเมื่อจมูกโด่งๆก้มลงเฉียดแก้ม

   แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างถูกแรงที่มีมากกดให้นอนราบบนที่นอน ดวงตาลีเล็กกระตุกวูบ ร่างทั้งร่างถูกกอดด้วยแขน
แข็งแรง



   “นอนได้แล้ว กูรำคาญ”

   เหมือนเป็นคำขาด ไม่รู้ว่าเพราะประโยคคำสั่งหรืออ้อมกอดกันแน่ที่ทำให้เมรีหยุดนิ่งไม่พูดมาก ไม่โวยวายเหมือนก่อนหน้า

   ลำตัวแข็งทื่อแผ่นหลังปะปะเข้ากับแผ่นอกถูกแขนดึงให้ขยับเข้าไปหาจนชิด

   รวดเร็วมากที่ลมหายใจที่เป่ารดหูหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ  อีกฝ่ายหลับไปแล้ว แล้วเมรีล่ะ ยังคงนอนลืมตาอยู่ท่ามกลาง
ความมืด หัวใจมันเต้นแรงไม่หยุด

   จู่ๆก็ถูกลากมาเป็นหมอข้าง ถูกนอนกอดแน่นขนาดนี้ แถมอุ่นจนจะร้อนแบบนี้ ใครมันจะไปนอนหลับลงกันเล่า!!!!

   ไอ้เด็กบ้าเอ้ยยยยยยยยยยยย




ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ซึนทั้งพ่อและลูกสินะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ชอบคู่พ่อ จบไวจัง


><

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รุ่นขุ่นพ่อนี่ก็น่ารัก แบบน้องเอ๋อกะพี่หื่น
แต่รุ่นลูกท่าทางจะร้อนแรงกว่า

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยยยยกรี๊ดดดดสนุกกกมากกก ชอบบว้อยย ชอบความดิบเถื่อนของพ่อลูกคู่นี้ คู่พ่อมันกร๊าวใจจริง มันสั้นไป น่าจะเป็นเรื่องยาวววววว  :call: :call: ชอบคาแรกเตอร์ครูกันหา รักแรกปักใจจนตามมา นึกว่าเขาจำไม่ได้ ซที่ไหนละเขาจำได้ไม่ลืมแถมรอแบบไม่มีหวังอีกต่างหาก 555 ถึงว่าละเนาะคู่กันแล้วไม่แคล้วกกัน แต่กว่าจะพูดกันรู้เรื่องทำเอาครูกันหาน้อยใจไปหลากยก 555 ชอบอ่ะชอบมาก อยากอ่านอีก  :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด