☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59) [END] จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 43344 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #120 เมื่อ04-03-2016 22:15:33 »

 :ling1:

รถไฟสวนทางกันสินะตอนนั้น แต่ตอนนี้น้องแมทเดินหน้าเต็มที่แล้ว เฮฮฮฮฮฮฮฮ

ดีใจจริง หวังว่ามาม่าจะไม่ได้มาจากคู่นี้นะ  :ruready

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #121 เมื่อ05-03-2016 19:15:06 »

สมหวังสักทีเนอะ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #122 เมื่อ05-03-2016 22:22:29 »

 o13

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.17 (04/03/59)
«ตอบ #123 เมื่อ07-03-2016 17:20:27 »

ไม่เป็นไรค่า คำผิดตอนนี้นะตัวเอง

ลูบบนขนของเต้าหู > เต้าหู้

ดูเป็นธรรมชาจิ >> ชาติ

ทำให้แมทธิวทั้งว้าวุ้น >> ว้าวุ่น

สายตาจับจ้องไปยังรอยช่ำ >> รอยช้ำ

 มือของแมนถูกดึงไปถุม >> กุม

ถูกรื้อออกมาสูบใส่ล้อ >> อันนี้ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดไหม สูบลมใส่ล้อ หรือเปล่าคะ

เสียงทุ้มที่พูดประยค >> ประโยค

ค้ลายไม่พอใจ > คล้าย

หน้าตาอือมระอา >> เอือม

แล้วหัวเราะนำลำคอ >> ใน ลำคอ ใช่ไหมคะ?

ประลาดใจ >> ตก ห.หีบค่ะ ประหลาด

ใจหวาบหวิว >> ห.หีบจากคำข้างบนมาอยู่นี่เอง555 หมายถึง วาบหวิว หรือเปล่าคะ แต่ส่วนตัวคิดว่าบริบทนี้ใช้ ใจมันหวิวๆ น่าจะเหมาะกว่าค่ะ

อยู่ข้าใต้ >> ข้างใต้

 คงไม่ได้ทำและเนอะ >> อันนี้ภาษาพูดเนอะ แต่ถ้าสะกดตามคำออกเสียง ส่วนตัวเราคิดว่าเป็น แหละ หรือเปล่าคะ
แต่ถ้าผู้เขียนคิดว่าเป็น และ ทิ้งไว้ก็ได้ค่ะ

คิดว่าหมดแล้วว พี่แมนนี่ได้ทีเอาใหญ่นะคะ 55 ว่าไม่ได้ ช่วงเวลากอบโกยของนาง


เราชอบซีรีส์จีนเหมือนกัน ตามดูแบบซับไทยหลายเรื่องเลยค่ะ ดูเสร็จหานิยายมาอ่าน บางทีแบบไทยยังไม่แปลต้องหาแบบอังกฤษ บางเรื่องหาไม่ได้(อาจจะเพราะง่าวเอง) ทำเอาเสียใจเลยทำไมเมื่อก่อนฉันไม่ตั้งใจเรียนภาษาจีนเนี่ยยย

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #124 เมื่อ24-03-2016 17:16:50 »

Chapter 18 : You can’t even remember!!!





“ไม่! เฮือก!!!” ผมผวาตื่นและผุดลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มเลิกออกจากตัว ทั้งจมูกและริมฝีปากร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อหายใจเอาอากาศเข้าปอด ในขณะที่มือก็ยกกุมหน้าอกตรงตำแหน่งขอหัวใจที่เต้นรัว



ใจเย็นๆ สิ... เมื่อกี้ก็แค่ฝัน ตอนนี้ตื่นแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว



หางตาผมเหลือบมองแมทธิว คนที่อยู่กับผมทั้งยามหลับ และยามตื่นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตะแคง



ใบหน้ายามหลับของแมทธิวยังน่าหลงใหลเหมือนเดิม มันอาจไม่ทำให้ใจผมเต้นแรงเหมือนตอนเรารู้จักกันใหม่ แต่ผมประทับใจที่ครั้งที่ได้จ้องมัน



....มันคงแย่มากสินะที่ผมยอมให้เขากลับมาในชีวิต ทั้งๆ ที่ผมต้องเจ็บเพราะเขามานาน



แม้มันจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดที่เรื้อรังมานานก็ตามที...



คิดแล้วอยากจะทุบอกแมทธิวแล้วด่าว่าไอ้บ้ารัวๆ แต่มันจะดูผู้หญิงไปหน่อยเลยไม่ทำ แต่ไม่รู้แหละ ทำให้ผมฝันร้ายก็ต้องรับผิดชอบหน่อยสิ จริงป่ะ!?



ผมขยับตัวเข้าไปหาแมทธิว ขยับแขนที่ขวางอยู่ให้ยกขึ้น แล้วเอาตัวเองเข้าไปแทรกแทนเพื่อซุกแผ่นอกแกร่ง เท่านั้นแหละครับ คนที่หลับอยู่ก็รวบผมไปกอดรัดอย่างแรง พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวลืมตา และริมฝีปากบางนั้นคลี่ยิ้ม



เด็กฝรั่งนี่มันร้ายกาจจริงๆ ไอ้ครั้นจะดีดดิ้นตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้วด้วยสิ ดันพาตัวเองไปหาเขาก่อน เสียฟอร์มชะมัด



อะ งั้นยอมให้กอดละกัน



“โอเคหรือยังครับ?” อ้าวเฮ้ย ตื่นนานแล้วทำไมไม่บอก หลอกให้คนอื่นแต๊ะอั๋งตัวเองอยู่ได้



แววตาอ่อนโยนปนสำนึกผิดทอดมองผมพร้อมรอยยิ้ม ผมพยักหน้าน้อยๆ ความคิดที่จะต่อปากต่อคำหายไปเพราะความห่วงใยที่แสดงออกบนใบหน้านั้น



“ขอโทษนะ ผมทำให้พี่ต้องฝันร้ายแบบนี้”



“ไม่หรอก...” ผมวางมือลงบนกรอบหน้าที่มีไรหนวดขึ้นเป็นตอชวนให้จักจี้ “รู้ไว้เลย ต่อให้นายจะเกลียดฉันจริงๆ ฉันก็จะไม่โทษนายเลยสักนิด”



เพราะความรักบางครั้งก็เป็นเหมือนอาหารรสเลิศใส่ยาพิษ บางคนก็ยอมเจ็บปวดเพื่อให้ได้รู้รสชาติมันสักครั้งก่อนตาย



“...”



“นายคือความทรงจำที่ดีที่สุดของฉันที่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งตัวทั้งใจเชียวนะ ถ้าฉันจะโทษว่าเป็นความผิดนาย ฉันโทษที่ตัวเองยอมเจ็บไม่ดีกว่าเหรอ?”



“...” ผมมองเห็นรอยยิ้มกว้าง และมันทำให้ผมยิ้มออกเช่นกัน แมทธิวกระชับอ้อมแขน “งั้น... พี่บอกผมได้ไหมว่าฝันว่าอะไร?”



ผมหุบยิ้มลงทันควัน และหลบสายตาของร่างสูง แมทธิวขยับใบหน้าลงมาชิด และถามซ้ำอีกครั้ง



“ฝันว่าอะไร บอกผมหน่อย”



“...ทำไม?” จะเอาไปเล่นหวยหรือไง



“ก็อยากรู้ บอกหน่อยสิ นะ...” มานะ มาเนอะอะไร วู้... ผมขืนตัวออกพลางหลบตา แต่คนอย่างแมทธิวนะเหรอ ดื้อ รั้น ร้ายกาจ เจ้าเล่ห์ แต่หล่อ น่ารัก ดังนั้น เมื่อเจ้าตัวขยับริมฝีปากมากระซิบอยู่ตรงใบหู ผมจึงขนลุกเพราะความสยิวกิ้ว แถมยังตัวอ่อนยวบยาบอย่างเลี่ยงไม่ได้



“ว่าไงครับ?”



“บ... บะ... บอกไม่ได้”



“ทำไมล่ะครับ?” ลมหายใจอุ่นรดอยู่ริมใบหู แต่มันทำให้ผมร้อนวูบไปทั้งใบหน้า ระยะประชิดระดับนี้ ถ้าขู่ให้ผมยกบ้านพร้อมที่ดินให้ก็อาจจะสมยอมโดยง่ายดาย



แต่ไม่ใช่กับเรื่องที่ผมฝันโว้ย



จะให้บอกยังไงว่าฝันถึงตอนที่เราแซบกัน มันน่าอายนะ แล้วก็ไม่รู้แมทธิวจะรับได้ไหม... ยังไงก็คนก็เคยฝังใจกับเกย์



“พี่แมน บอกหน่อยไม่ได้เหรอ?” ตอนนี้ริมฝีปากเริ่มเฉียดใบหู และคาดว่าอีกนิดแมทธิวต้องกินหูผมเข้าไปแน่ๆ ผมหลับตาเกร็งตัว รวบรวมลมปราณทั้งห้าเพื่อตะโกนตอบสิ่งที่ร่างสูงสงสัย



“ฝันถึงตอนที่นายเมาน่ะแหละ !!!”



“.......” อ้อมกอดคลายลง พร้อมกับแมทธิวที่เอาริมฝีปากออกห่างจากใบหูผม ผมขยับปากพูดต่อปากคอสั่น



“ต่อให้เป็นเกย์หน้าไหน ก็คงไม่มีใครอยากถูกข่มขืนหรอกนะ....” ผมกวาดจามองใบหน้าคม แมทธิวมีสีหน้าสลดแบบที่ผมเห็นแล้วใจหายวาบ



เกลียดตัวเองที่เอาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้ง ทั้งๆ ที่มันถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือไงที่อีกฝ่ายจะสำนึกผิด แมทธิวควรจะโดนหนักกว่านี้ด้วยซ้ำในส่วนที่ทำแบบนั้นกับผม



ถึงสมองผมจะคิดอย่างนั้น แต่ใจมันรั้นไม่ฟังเหตุผล ดูแล้วเหมือนคนพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม...



“ฉันไม่ได้โกรธหรือเกลียดนายหรอก แต่มันก็ยังฝังใจ บางทีถ้านายให้ฉันลงโทษอาจจะหายก็ได้



“จริงเหรอ? ผมต้องทำยังไงอะ พี่บอกผมมาเลย ผมพร้อมทำทุกอย่าง อ้อ ยกเว้นให้หายไปจากชีวิตพี่นะ อันนี้ต่อให้พี่จะเกลียดผมแค่ไหน ผมก็จะไม่ยอมไปแน่ๆ”



“อืม รู้แล้วๆๆ...” ผมขมวดคิ้ว พลางกลอกตาคิด “หลับตาสิ”



“หืม?” แมทธิวเลิกคิ้วสงสัยแต่ก็ทำตามอย่าว่าง่าย ผมอมยิ้ม อาศัยว่าร่างสูงไม่ได้กอดผมแนบแน่นแล้ว ยกมือขึ้นเล็งที่หน้าผาก และ...



เป๊ะ!



ดีดหน้าผมนั้นอย่างแรง จนร่างสูงขมวดคิ้วแน่น พลางปล่อยแขนที่กอดผมไว้



“นี่คือการลงโทษผมเหรอ?”



“อือฮึ” ผมยักคิ้วข้างหนึ่ง มองแมทธิวที่ค่อยๆ เปลี่ยจากใบหน้างุนงงเป็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ ผมถูกดึงไปในอ้อมแขนอีกครั้ง เรากอดกันแนบชิด สัมผัสเสียงหัวใจที่เต้นแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน และผมขอเรียกมันว่าจังหวะของความสุข



“ทำตัวแบบนี้ถ้าผมเผลอทำแบบนั้นอีกจะโทษกันไม่ได้แล้วนะ” แมทธิวเขี่ยปรอยผมออกจากหน้าผม ริมฝีปากบางยิ้มชั่วร้าย แต่ขัดกับแววตาอ่อนละมุนที่เจ้าตัวส่งมาใหเ



“ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงสมยอมด้วยนั่นแหละนะ” ผมยิ้มมุมปาก ลอยหน้าลอยตาในความมืด แมทธิวย่นจมูกท่าทางคงหมั่นไส้ผม ก่อนที่ร่างสูงจะกดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของผม ขยี้เบาๆ พอให้รู้สึกดีแล้วผละออก



“...รู้ไหม ช่วงนี้นายลวนลามฉันถี่มาก” ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เขาก็สนองความต้องการที่ผมเคยมีเมื่อครั้งยังเป็นแฟนคลับตัวน้อยๆ ในบรรดาคนรอบตัวมากมายของแมทธิว คนถูกว่ายิ้มออกมาให้ผมแบบที่เจ้าตัวชอบทำ



“เหรอครับ? แล้วไม่ชอบเหรอ” แมทธิวขยับใบหน้ามาชิด นั่นๆๆ อย่า... อย่าเอาหน้าผากมาแตะ และเอาปลายจมูกมาชนกัน อย่ามาคาดคั้นให้ผมพูดความจริง



“.......ชอบดิ ชอบมาก”



นั่นไง.... ตอบออกไปอย่างกับโดนสะกดจิต เสียงหัวเราะดึงให้ผมรู้ตัวว่าโดนแกล้งเข้าให้แล้ว ผมยกกำปั้นทุบออกแมทธิว แต่มันลำบากไปเพราะถูกกอดอยู่ เลยเปลี่ยนเป็นบิดหัวนมแทน



“โอ๊ยๆ ฮ่าๆๆ” แมทธิวรวบผมแน่นจนไม่มีช่องว่างให้ขยับตัว “นอนนะครับ เดี๋ยวตื่นมาใส่บาตรไม่ทันแบบเมื่อวานนะ”



“อืม...”



เหมือนคลายปมในใจไปได้อีกอย่าง ผมฝังหน้าลงบนไหล่กว้าง ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ และเคลิ้มหลับไป

 

.

.

.

เช้านี้ผมไม่พลาดใส่บาตรเหมือนเมื่อวานแล้ว อากาศยังคงเย็นเหมือนเดิมแม้ว่ามันจะผ่านช่วงเวลาที่ควรหนาวมาเป็นเดือนแล้วก็ตาม ผมยืนขนลุกขนชันเมื่อลมเย็นๆ พัดผ่าน พลางมองพระสงฆ์เดินไปรับบิณฑบาตที่บ้านหลังถัดไป ก่อนจะหมุนตัวกลับมาเจอแมทธิวที่นั่งเล่นอยู่กับเต้าหู้



ภาพแมทธิวชี้นิ้วสั่งให้หมาตัวใหญ่นั่งลงแต่ก็โดนเจ้าขนยาวตะกายไปถึงเอวสอบ จนแมทธิวต้องเคาะหัวเต้าหู้เบาๆ ก่อนจะหัวเราะออกมายกใหญ่ เป็นภาพที่มองแล้วช่างอบอุ่นหัวใจและทำให้ผมกลัวเหลือเกินว่าถ้าผมก้าวเดินเข้าไปตรงนั้น ทุกอย่างจะพังทลายลงกลายเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ของผม



“พี่แมน! เสร็จแล้วเหรอ?” แมทธิวตะโกนเรียก ในขณะที่เต้าหู้ออกตัววิ่งนำร่างสูงมาหาผมเรียบร้อยแล้ว ผมมองแมทธิวก้มหารองเท้าแล้วหัวเราะในใจ หาให้ตายก็ไม่เจอหรอก เพราะมันอยู่ที่เท้าผมนี่! เจ้าสี่ขากระโจนใส่ผมอย่างกระดี๊กระด๊า ผมตั้งหลักรับน้ำหนักไปทันเลยแอบเซเล็กน้อย พอตั้งตัวได้ก็ลูบหัว ลูบตัวมันแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว พลางเหลือบมองคนที่ยืนทำหน้างอเพราะวิ่งมาหาผมไม่ได้



ดูซิดู กับหมายังอิจฉา ผมเคยบอกไปหรือยังว่าแมทธิวกับหมาแบบเต้าหู้น่ะ เหมือนกันไม่มีผิด... ทั้งขนาดตัว ทั้งนิสัย



ผมเดินถือขันเงินเปล่าเข้าบ้าน แมทธิวเดินตามมาระยะประชิด และมีเต้าหู้ตามหลังแมทธิว ช่างให้ความรู้สึกเหมือนผมเป็นหัวหน้าฝูงอะไรสักอย่าง



“พี่แมน สายๆ ไปซื้อของกันหน่อยนะ”



“หืม ก็เอาสิ”





.

.

.

ร่างสูงของแมทธิวเข็นรถเข็นเดินทิ้งห่างผมอยู่ 2-3 ก้าว ผมไล่สายตาจากเท้าไปถึงท้ายทอยพลันสมองมันก็ฉุกคิดถึงอะไรขึ้นมาได้



มันคุ้นๆ นะว่าไหม มาเดินซื้อด้วยกันแบบนี้เนี่ย...



“พี่แมน!!” แมทธิวหยุดเข็นรถแล้วหันมาเรียกผม ผมทำหน้าเหรอหรา แล้วก็พยักหน้าพลางสาวเท้าตามอีกฝ่ายให้ทัน



เราสองคนเดินขนาบข้างไปตามโซนของสดแบบไม่รีบร้อน ดูแล้วท่าทางแมทธิวตั้งใจจะมาซื้ออะไรพวกนี้โดยเฉพาะนั่นแหละ สงสัยจะไม่อยากกินหมู หมึก กุ้ง หุงอุ่นตุ๋นต้มนึ่งและผัดกับน้ำพริกเผาที่ทำให้กินแน่ๆ ไม่ได้การและ ต้องแสดงเสน่ห์ปลายจวักกับอาหารอื่นๆ บ้างแล้ว



“แมทธิวทำชีสบอลดีไหม” ผมหยิบมอสซาเรลล่าชีสขึ้นมาตอนที่เราเดินผ่านตู้แช่ชีส แมทฑิสหยิบมันไปจากมือผมแล้ววางไว้ที่เดิม



“ที่บ้านมีแล้วครับ”



“มีมาร์คาโปนด้วยนะ ซื้อไปลองทำทีรามิสุกันไหม?” ผมเรียกแมทธิวที่ทำท่าจะเข็นรถเข็นไปจากตรงนี้



“ถ้าอยากกินไว้กลับไปกินที่ร้านผมนะครับ มีให้กินทุกอย่างเลย เจ้าของร้านก็กินฟรี” พูดจบก็ยักคิ้วข้างหนึ่งใส่ ผมเบะปากพลางยกมือขึ้นตีแขนแมทธิวเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้



 

“จำปี แกคิดเหมือนที่ฉันคิดไหม?”



“ฉันก็คิดเหมือนแกแหละซ่อนกลิ่น” ผมได้ยินเสียงนางสาวดอก...ไม้ทั้งสองกระซิบกระซาน แน่นอนว่าด้วยระยะห่างและความดังของเสียงเจ้าหล่อน เสียงเหล่านี้ก็ลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของผมอย่างชัดแจ๋ว ผมลอบกลอกตา 360 องศาด้วยความเบื่อหน่าย และไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตถึงเจอแต่สาวๆ ประเภทนี้บ่อยเหลือเกิน



“เขาเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันอะแก”



“ถ่ายรูปไปลงเน็ตดีป่ะ”



เดจาวูกว่านี้ไม่มีอีกและ... ผมเตรียมจะหันไปห้าม แต่ก็ถูกแขนแกร่งของแม?ธิวล็อคคอไว้



“ปล่อยเขาเถอะครับ เนอะ” รอยยิ้มกว้างส่งมา ก่อนที่มือที่ล็อคคออยู่จะเลื่อนมาโอบอยู่ตรงเอว



“ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตอนนั้นปล่อยให้ได้ยินซะก็ดี”



.

.

.

“แก ดูผู้ชายคู่นั้นสิ อย่างกับคู่แต่งงานใหม่มาซื้อของเข้าบ้าน”



“เกย์รึเปล่าอ่ะส้ม”



“ฉันว่าใช่นะชมพู่ ดูสิ รุกเดินตามต้อยๆ อยู่ในโอวาทสุดๆ” แมนหันขวับไปมองตามเสียงผู้หญิงที่ดังมาจากข้างหลัง เจ้าหล่อนยังไม่รู้ตัวว่าชายหนุ่มได้ยิน รวมถึงคนที่เลือกชีสอยู่ข้างๆ คนตัวเตี้ยกว่ามองซ้ายมองขวาลุกลี้ลุกลน ก่อนจะสะกิดร่างสูงเบาๆ



“แมทธิว ไปเลือกเนื้อหมูรอเลย เดี๋ยวฉันเลือกชีสเอง” แมนออกปากไล่ให้ชายหนุ่มรุ่นน้องเดินไปจากตรงนี้ แมทธิวทำหน้างงๆ ใส่เขาแต่ก็ยอมเดินนำไปแต่โดยดี แมนหันขวับไปมองผู้หญิง 2 คนที่มองมาทางนี้อยู่แล้ว ทำให้เขาสบตากับพวกเธอพอดี



“ชู่...” แมนทำเสียงชู่เบาๆ แล้วยิ้มให้พวกเธอ รู้สึกพึงพอใจระดับสิบ ที่มีคนมองว่าตัวเองกับแมทธิวดูเหมือนคู่รักกัน


.

.

.

 

“พี่แมนว่าไงนะ?”



“นายจำตอนเรารู้จักกันใหม่ๆ ได้ป่ะ?”



“...ตอนไหนเหรอ?”



“วันนั้นไง ที่นายแวะซูเปอร์ ซื้อของไปทำคาโบนาร่ากินกันอะ”



“...เหมือนจะจำไม่ได้แฮะ” ทำหน้านึกแป๊บเดียวแล้วก็ตอบผมเลย ผมขมวดคิ้ว ในใจตอนนี้เริ่มงอแงและ มันกำลังโวยวายว่า อะไรวะ จำไม่ได้จริงอะ?!!!



เอ๊อ ก็ไม่สำคัญขนาดนั้นไง เรื่องมันก็หลายปีแล้ว ใครจะมาจำอยู่ได้...



“งั้นก็ช่างมันเหอะ ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอก” ผมยิ้มแล้วเดินนำแมทธิวไปเข็นรถซะเอง เฮ้ย ไม่ได้งอนนะ แต่แบบ ถ้าชวนคุยตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะตอบอะ



มีแค่ผมหรือไงที่จำเรื่องระหว่างเรา และอธิบายออกมาเป็นฉากๆ ได้น่ะ!?





 

ผมลงจากรถแทบจะทันทีที่มันจอดสนิท ก่อนจะเปิดประตูหลัง คว้าข้าวของที่ซื้อมาเดินดุ่มๆ ไปวางไว้ในครัว



ผมเดินสวนกับแมทธิวที่เดินตามเข้ามา ร่างสูงอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ผมรีบพูดขัดขึ้นมาก่อน



“ฉันขึ้นห้องก่อนนะ ดูซีรี่ส์ค้างไว้” ใช่ๆ ผมดูค้างไว้จริงๆ แต่มันตั้งแต่วันนู้น... แล้ว เดี๋ยวต้องไปดูต่อแล้วเนี่ย



“พี่แมน เดี๋ยวก่อนสิ” แมทธิวสาวเท้าเข้ามาใกล้ แล้วทำท่าจะจับศอกผม ผมเบี่ยงตัวหลบเบาๆ จนแมทธิวทำหน้าไม่เข้าใจ “พี่โกรธผมเหรอ ที่จำเรื่องตอนนั้นไม่ได้”



“...” เออ ยอมรับว่าโกรธ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักหรอก... ผมเสมองไปทางอื่นก่อนจะหมุนตัวขึ้นบันได



“พี่แมน ผมขอโทษ...”



“....แมทธิว พอเถอะ”



“...!??” แมทธิวทำหน้าไม่เข้าใจ ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ



“ไม่ใช่ฉันไม่คิดนะ”



“...”



“แต่มันไม่มีเหตุผลเลยนะว่าไหม ที่อยู่ๆ นายก็กลับมา ลักพาตัวฉัน แล้วก็พูดว่าขอโทษซ้ำๆ”



“...”



“นายตอบฉันได้ไหมว่าทั้งหมดที่ทำไม่ใช่แค่เพราะนายอยากแก้ไขความรู้สึกผิดของตัวเองน่ะ!?”









หายไปนานอย่าว่ากัลเหลย เห็ดก็รักทุกคนเหมือนเคยนั่นแหละ ♥

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและคอมเมนท์นิยายเรื่องนี้ค่ะ

ปล. เจอคำผิดบอกทิ้งไว้ได้เหมือนเคยนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #125 เมื่อ24-03-2016 18:18:48 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #126 เมื่อ24-03-2016 18:28:56 »

แมทธิว พยายามเข้า เรื่องมันคาราคาซังมานาน จะให้มาดีเหมือนเดิมในไม่กี่วันคงยาก

ขำเดจาวูในซุปเปอร์ฯ เมื่อก่อนเป็นสองสาวผลไม้ ตอนนี้เป็สองสาวดอกไม้ กร๊ากกกก :laugh:

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #127 เมื่อ24-03-2016 20:08:26 »

 :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #128 เมื่อ24-03-2016 20:15:40 »

จะทะเลาะกันต่อหรือ

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #129 เมื่อ24-03-2016 21:32:46 »

 :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
« ตอบ #129 เมื่อ: 24-03-2016 21:32:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #130 เมื่อ24-03-2016 22:08:20 »

เอาน่าแมทธิว เรื่องมันปล่อยทิ้งไปนานแล้วจะให้กลับมาดีเลยคงไม่ได้ มันคงต้องใช้เวลาน่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #131 เมื่อ24-03-2016 22:09:19 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.18 (24/03/59)
«ตอบ #132 เมื่อ24-03-2016 23:42:01 »

การที่แมนจะเชื่อว่าแมทธิวกลับมาเพราะรักเพราะชอบตัวเอง
มันคงเป็นอะไรที่ยากจริงๆ
คงเพราะเคยเจ็บแล้วก็เลยระแวงสินะ
แมทธิวอย่าเพิ่งท้นะ ต้องสู้นะพ่อหนุ่ม
รออ่านต่อค่า

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.19 (25/03/59)
«ตอบ #133 เมื่อ25-03-2016 19:09:27 »

Chapter 19 : I’m ready.





แมทธิวไม่ได้คุยกับแมนทั้งครึ่งวันบ่าย



ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าตอนหัวค่ำเริ่มมืดมิด แมนเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องนอนแถมยังล็อคประตูอย่างแน่นหนา โดยไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าของบ้านอย่างแมทธิวจะเอากุญแจไขเข้าไปเมื่อไรก็ได้



แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ทำ เข้าใจว่าอีกฝ่ายอาจจะต้องการเวลาส่วนตัว  แต่เหตุผลหลักที่จะเรียกว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายก็ได้ แมทธิวมีเซอร์ไพรส์



ก๊อก ก๊อก ก๊อก



แมทธิวเคาะประตูห้องนอนอย่างใจเย็น ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้ร่างสูงต้องเคาะประตูใหม่อีกครั้ง



ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“พี่แมน หลับอยู่หรือเปล่า?”

 



“...” แมนเงยหน้าจากโน้ตบุ๊ก เหลือบตามองประตูแวบหนึ่งก่อนจะสะบัดหน้ามาดูซีรี่ส์ตามเดิม



“ถ้าไม่ได้หลับก็ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม?”



“..” แมนกดหยุดวิดีโอ แล้วขมวดคิ้ว



ตั้งนานเพิ่งจะมาง้อหรือไง บอกเลย ไม่ใจอ่อนหรอกนะ



“พี่แมน... นะ”



แมนเริ่มชำเลียงมองประตูอย่างลังเล เขามีเหตุผลให้ตัวเองเสมอสำหรับแมทธิว ยิ่งมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานใส่แบบนี้ด้วยล่ะก็... ที่มันน้อยๆ ใจนี่เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน



“...เราเสียเวลาไปเพราะผิดใจกันมาหลายปีแล้วนะพี่แมน เราจะยอมเสียเวลาเพิ่มเพราะไม่ยอมพูดกันจริงๆ เหรอ?”



“...” คราวนี้แมนถึงกับพับฝาโน้ตบุ๊ก แล้วลุกจากเตียงไปยืนอยู่หน้าประตู มือกำลูกบิดประตูเหมือนจะลังเล แต่เอาจริงๆ ใจนี่ลอยทะลุไปสู่อ้อมอกแมทธิวเรียบร้อยแล้ว



“เปิดประตูให้ผมเถอะพี่... แมน”





แกร๊ก!



แมทธิวยิ้มเผล่ มองหนุ่มรุ่นพี่ที่เก๊กหน้าขรึม ยืนกอดอกมองตัวเอง แมนคันปากยุบยิบ อยากจะกระแนะหระแหนใส่ร่างสูงที่ไม่มีวี่แววของคนสำนึกผิดตามน้ำเสียงที่พูดก่อนหน้านี้ ยิ่งช่วงนี้เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ด้วย คิดอะไรใส่ไม่ยั้ง…



อย่างตอนที่เผลอน้อยใจเป็นนางเอกนิยายรักก็เกินความคาดหมายของแมนเหมือนกัน แปรปรวนเหลือเกิน สงสัยเป็นเพราะประเดือนไม่มาตั้ง 20 กว่าปีแน่ๆ



“เดี๋ยวๆๆ” แมทธิวร้องห้ามแทบไม่ทันเมื่อแมนทำท่าจะปิดประตูใส่ ร่างสูงเอามือดันประตูไว้ พลางสบตากับแมนอย่างอ้อนวอน “พี่แมน ออกมาหาผมเถอะนะ ผมมีอะไรจะให้ดู”



แมนกลอกตา ก่อนจะเปิดประตูกว้างแล้วพาตัวเองออกมายืนข้างนอกตามความต้องการของอีกฝ่าย ย้ำว่าของอีกฝ่ายนะ ไม่ใช่ตามใจตัวเองแต่อย่างใด



ข้างนอกมืดจนสายตาปรับแสงไม่ทัน แมนกะพริบตาถี่ๆ พลางกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย



นี่ไฟดับ หม้อแปลงระเบิด แล้วเขาไม่รู้ตัวหรือไง ก็ไม่น่าจะใช่ ในเมื่อไฟในห้องนอนยังสว่างอยู่ทนโท่เนี่ย...



“ลงไปข้างล่างด้วยกันหน่อยสิครับ” ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าแมนดื้อๆ แล้วก้าวถอยหลังหนี พลางเหลือบตาจ้องมือหน้าแมทธิว สลับกับมือของเจ้าตัว



อะไร สรุปที่เรียกออกมานี่คือกลัวความมืดใช่ไหม? ที่มาเคาะประตูเรียกก็แค่หาคนลงไปเป็นเพื่อนเองงั้นเหรอ?



“ทำหน้าแบบนี้ คงไม่ได้คิดอะไรแปลกๆ อยู่ใช่ไหมพี่แมน?” แมทธิวยิ้มน้อยๆ และฉวยโอกาสคว้ามือแมนไปจับเอง แล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้อีกฝ่ายเดินตามมา





ร่างสูงเดินนำแมนลงบันได อาศัยแสงสลัวหลอดไฟนอกบ้านก็ทำให้ลงถึงชั้นล่างอย่างปลอดภัย แมทธิวจูงมือแมนเลี้ยวพ้นบันได ดวงตาเรียวของชายหนุ่มรุ่นพี่เบิกกว้างอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า



ทั่วทั้งห้องเล่นที่มืดสนิทสว่างได้ด้วยแสงไฟจากเทียนหอมอันเล็กอันน้อยที่วางอยู่ทั่วทุกมุมห้อง กลิ่นหอมของเทียนลอยอบอวลเข้ากับอากาศเย็นๆ เป็นอย่างดี ขนแขนแมนลุกชันตามความประหลาดใจที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มรุ่นพี่ไล่สายตามองตามมือที่จับไปแขนตัวเองไปยังใบหน้าลูกครึ่งของแมทธิว ร่างสูงหันมายิ้มให้กับแมนที่ทำปากพะงาบๆ คล้ายจะพูดอะไร



ลงทุนไปแล้วได้เห็นรีแอคชันประหลาดขนาดนี้แมทธิวก็คิดว่าคุ้มแล้วแหละ



“แมทธิว...”



“ครับ... พี่แมน” รอยยิ้มและสายตาอ่อนละมุน มือหนาปล่อยให้แขนของแมนที่ตัวเองจูงมาเป็นอิสระ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรวบมือทั้งสองข้างมากุมไว้



“มัวทำไร! นี่ไม่ใช่ในนิยายหรือละครนะ!! จุดเทียนทิ้งไว้เดี๋ยวเกิดไฟไหม้ทำยังไง!?” แมนทำท่าจะถลาไปดับเทียน แมทธิวยังไม่ทันได้คิดตามคำพูดแมน ก็ต้องตั้งสติรั้งแขนแมนไม่ให้ถลาเข้าไปดัลเทียนที่เขาอุตส่าห์บรรจงจุดอยู่นาน



“ไม่ไหม้หรอกพี่แมน ใจเย็นๆ ครับ มาทางนี้นะ”แมทธิวปล่อยแขนแมนเป็นอิสระ แล้วออกแรงดันหลังให้เจ้าตัวเดินไปทางประตูที่เชื่อมออกไปหาโต๊ะอาหารมื้อค่ำริมสระว่ายน้ำที่เขาจัดเตรียมไว้



ดวงไฟดวงน้อยใหญ่ห้อยระย้าตามพุ่มไม้รอบสระน้ำ ส่องแสงระยิบระยับตาในความมืดสะท้อนกับผิวน้ำในสระ นัยน์ตาของแมทธิว แมนหันไปสบตาร่างสูงสลับกับมองภาพรอบตัว



“ชอบไหมครับ?” แมทธิวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขายินดีและเต็มใจที่จะทำให้พี่แมนมากๆ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวอาจจะไม่ชอบความยุ่งยาก “ผมตั้งใจทำให้ หวังว่าพี่จะไม่บอกว่าไม่ชอบเพราะมันอลังการไปนะครับ”



“...” แมนใจเต้นผิดจังหวะเมื่อได้สบตาสายตาจริงจังที่สะท้อนแสงไฟแพรวพราว ทุกครั้งที่ชายหนุ่มรุ่นน้องอยู่ตรงหน้าและยิ้มให้เขา



...แมนแทบไม่กล้าก้าวไปใกล้กว่าจุดที่ตัวเองอยู่เพราะกลัวว่าภาพตรงหน้านั้นจะเป็นแค่ความฝัน



มาวันนี้... แมทธิวทั้งใส่ใจและลงทุนกับเขาที่เกลียดความยุ่งยากวุ่นวาย ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเคยชินกับมัน ร่างสูงยอมพาตัวเองอกจากแสงสว่าง เพื่อนำความสว่างมาสู่ชีวิตเขา



ทั้งๆ ที่แมทธิวจะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ แต่ร่างสูงก็ไม่ทำแบบนั้น แมนยิ่งรู้สึกได้เลยว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่ได้รับความพิเศษนี้



“ฉันชอบมันนะ...” แมนเม้มปากแน่น ดวงตาที่แอบมีน้ำตาคลอเหลือบมองแผ่นอกกว้าง แล้วพาตัวเองไปซบมันแบบกล้าๆ กลัวๆ แมทธิวตกใจนิดหน่อยแต่ก็อ้าแขนรับร่างของแมน แล้วโอบกอดอย่างแผ่วเบา แมนแนบใบหน้ากับแผ่นอกกว้างนั้น สัมผัสความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และรับไออุ่นกาย



“พี่แมน ผมขอโทษ...” แมทธิวก้มกระซิบข้างหู  แมนเงยหน้าสบตากับแมทธิวอีกครั้งในอ้อมกอด พลางส่ายหัวช้าๆ



“ไม่...”



“ฟังผมก่อน... ที่ผมพูดว่าขอโทษ และทำไปทั้งหมด มันไม่ใช่เพราะผมรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ต้องเจอเรื่องแย่ๆ ผมแค่อยากชดเชยเวลาที่เราควรใช้ร่วมกันตั้งนานแล้ว อยากทำให้พี่ได้รู้สึกดีบ้าง อยากให้พี่รู้ว่าพี่ไม่จำเป็นต้องเก็บความรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป...”



“ไม่... ไม่ใช่ความผิดนายหรอก” แมนยกมือขึ้นเอื้อมไปลูบผมแมทธิว แล้วยิ้มออกมา “ฉันงี่เง่าเอง ที่หวังว่านายจะจำอะไรเกี่ยวกับเราได้บ้าง”



“ผมยังไม่ทันได้รู้จักพี่ดีพอเลย เรายังไม่ทันได้รู้จักกันให้ดีก็มีเรื่องให้ห่างกันไปซะก่อน” แมทธิวจับมือของแมนออก แล้วเชยคางแมนขึ้น โน้มใบหน้าลงจนหน้าผากแตะกัน “หลังจากนี้ต่างหาก คือเวลาที่เราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน”



“...” แมนกัดริมฝีปากแน่น พลางปล่อยมือที่กอดแมทธิว และขยับตัวยุกยิกเป็นเชิงให้อีกฝ่ายปล่อย



ตอนนี้ปรอทความเขินใกล้แตกแล้ว ต้องพาตัวเองออกจากสถานการณ์นี้ก่อน... ใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นพี่เห่อร้อนทั้งๆ ที่อากาศข้างนอกก็ออกจะเย็น



อาจจะเป็นเพราะแมทธิวที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้นไปอีก จนกระทั่งแมนทนความเขินไม่ไหว ต้องทำร้ายร่างกายด้วยการทุบอกแมทธิวระบายความเขิน ตอนนั้นแหละ ที่แมทธิวยอมปล่อยให้แมนเป็นอิสระ



แมทธิวมองใบหน้าขึ้นสี และริมฝีปากสีสด เจ้าตัวคงไมรู้ตัวหรอกว่ามันทำให้ผิวขาวซีดๆ ของตัวเองดูน่ามองมากขึ้นไปอีก แววตาหลุกหลิกที่ไม่ยอมสบมองเขา ริมฝีปากเม้มและปล่อยซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น จนมันฉ่ำเยิ้มสะท้อนแสงไฟดวงตาเรียวที่ลอบมองเขาขัดกับใบหน้าเรียบเฉยเพื่อเก็บอาการเขิน ช่างเป็นปฏิกิริยาที่ดูแล้วยากเกินความคาดหมายและยากที่จะข่มใจ



แมทธิวกำมือแน่นออย่างสุดทน ก่อนจะกระชากร่างแมนกลับเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง แล้วเชยคางกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากแมน



ริมฝีปากที่บดเบียดขยับลากเป็นจังหวะ ขบ และดูดเม้มริมฝีปากบนและล่างสลับกับจูบซับที่มุมปาก แมนอ้าปากหอบเอาอากาศเข้าปากเมื่อแมทธิวผละริมฝีปากอกมาพรมจูบทั้งใบหน้า พลางมือเรียวของแมนก็ยกขึ้นทาบบนไหล่กว้างเป็นหลักยึด



ปล่อยให้ริมฝีปากแมนเป็นอิสระอยู่พักหนึ่ง แมทธิวก็ประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง มือหนาข้างหนึ่งรั้งเอวแมนให้ร่างกายแนบชิด อีกข้างกดท้ายทอยแมนลงมาเพื่อให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกันแนบแน่นยิ่งขึ้น ลิ้นอุ่นเริ่มรุกล้ำแตะสลับและไล้วนไปทั่วโพรงปาก แมนอ้าปากกว้างขึ้น และขยับลิ้นตามอีกฝ่ายเป็นจังหวะเพื่อตอบรับจูบด้วยความรู้สึกเหมือนกินเยลลี่นิ่มๆ



มือหนาของแมทธิวที่รั้งอยู่เอวเริ่มขยับขึ้นไล้วนทั่วแผ่นหลังของแมน  ริมฝีปากเลื่อนมาขบเม้มสันกรามของแมนเรื่อยมาถึงลำคอ ก่อนที่จมูกโงจะฝังลงที่ซอกคอ สูดกลิ่นหอมที่เป็นแบบเดียวกันกับร่างสูง เพราะทั้งครีมอาบน้ำ แชมพู หรือแม้แต่โลชันทาตัว แมนก็ใช้ของแมทธิวทุกอย่าง



มือที่ลูบไล้อยู่ที่แผ่นหลังเริ่มเลื่อนลงต่ำมาถึงสะโพก แมทธิวขบลำคอขาวอย่างแรงในจังหวะที่ฝ่ามือหนาบีบแก้มก้นจนแมนร้องเสียงหลง



“เฮ้ย!” คล้ายๆ จะพาสติที่หลุดลอยไปไกลกลับมาได้ แมนใช้มือที่วางอยู่บนไหล่แมทธิวตอนไหนไม่รู้ผลักเจ้าตัวออก พลางถอยกรูดไปยืนตั้งหลัก



 ริมฝีปากสีแดงสดของแมนสั่นน้อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ และเขาไม่อยากจะยอมรับว่ามันต้องกำลังโหยหาการเติมเต็มจากร่างสูง



“เอ่อ... อะแฮ่ม ขอโทษครับ หึๆ” แมทธิวหัวเราะในลำคอ แล้วยิ้มแห้งออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ พลางก้าวเท้าเข้าไปหาแมน “บรรยากาศมันพาไปนิดหน่อย ลืมนึกไปว่าพี่ยังไม่พร้อม ขอโทษจริงๆ นะ”



“...” แมนลอบกลืนน้ำลาย มองดวงตาเป็นประกายของแมทธิวที่ส่งมาพร้อมใบหน้าหล่อๆ มันช่างเชิญชวนให้เสียตัวได้ง่ายๆ



แมทธิวยิ้มขำกับแววตาอ่านไม่รู้เรื่องของแมน มันดูสับสน ลังเล สงสัย หวาดระแวง น่ารักจนต้องข่มใจอย่างหนักไม่กระชากชายหนุ่มรุ่นพี่มาบดจูบอีกครั้ง ร่างสูงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา



“ผมไม่ทำอะไรแล้วพี่แมน” แมทธิวแตะเบาๆ บนไหล่แมน นัยน์ตาสีเข้มของแมนเหลือบมองฝ่ามือหนาบนไหล่ ใช้เวลาปลอบตัวเอง และทำใจให้สบายอยู่เสี้ยววินาทีจนเลิกเกร็ง “ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวมันเย็นหมด”

 

แมนเงยหน้าจากการหั่นเนื้อเพื่อพบกับแมทธิวที่เท้าคางจ้องหน้าตัวเองอยู่  มือเรียวยกส้อมขึ้นจิ้มเนื้อเข้าปาก ทำเป็นไม่สนใจคนตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็เลี่ยงสบตาไม่ได้อยู่ดี



“...อร่อยไหม ผมทำเองเลยนะ”



“อือ” ดักคออย่างนี้แล้วจะตอบอย่างอื่นได้เหรอ แต่มันก็รสชาติดีจริงน่ะแหละนะ



“ดีใจจัง... ผมเพิ่งทำครั้งแรกเลยนะ”



“...หือ!?” แมนชะงักปากที่กำลังเคี้ยว พลางทำสีหน้าเหลือเชื่อ คือรสชาติมันดีจนไม่น่าเชื่อว่าทำครั้งแรก



“แปลกใจล่ะสิ ผมโทร.ไปขอสูตรแม่มา คราวหลังไปกินฝีมือแม่ผมด้วยกันสิ อร่อยกว่านี้อีก”



“...” แมนก้มหน้าลงส่งกระแสจิตคุยกับเนื้อในจานแทนการสบตากับแมทธิว และซ่อนรอยยิ้มร้ายของตัวเอง



พูดแบบนี้เหมือนจะพาแมนไปโชว์ตัวเลยนะ ไม่ไปหรอกนะ เป็นผู้ชายต้องไว้ตัว ถ้าให้แม่มาขอก็ว่าไปอย่าง...



“ท้องจะเสียไหมเนี่ย” แมนบ่นพึมพำเบาๆ แต่ก็ยังกินทุกอย่างตามปกติ แมทธิวยิ้มขำ สายตาจ้องมองแมนทุกการกระทำจนแมนชักเริ่มทนไม่ไหว



“จ้องขนาดนี้กินฉันแทนเลยดีไหม?” แมนวางมีดกับส้อมลง แล้วเลิกคิ้วหน้านิ่งตามแบบฉบับของตัวเอง มองใบหน้าเปื้อนยิ้มแทนที่จะสำนึกผิดของแมทธิวก็ทำให้แมนได้แต่คิดว่า แมทธิวก็คือแมทธิวอยู่วันยังค่ำ



“ได้เหรอครับ”



นั่นไง แมนพูดอะไรผิดที่ไหน



“ไม่ได้น่ะสิ” แมนส่งสายตาอำมหิตพร้อมเบ้ปากใส่แมทธิว เหนื่อยใจกับความสบายๆ ของแมทธิวทั้งๆ ที่เขาวางตัวไม่ถูกจะแย่…



“ล้อเล่น ผมไม่ทำหรอก อย่างน้อยๆ ก็ตอนนี้ จะรอจนกว่าพี่จะพร้อม ให้รอนานแค่ไหนก็รอได้”



แหนะ... มาอีกแล้ว พูดหยอดพูดหว่าน... ไถกลบด้วยเลยไหมล่ะ เผื่อจะออกดอกออกผล



“เฮ้อ!” แมนถอนหายใจประชดออกมาแรงๆ ก่อนจะยัดทุกสิ่งเข้าปากแก้เขิน



ถึงแมทธิวจะพูดเหมือนไม่คิดอะไรจริงจัง... แต่สัมผัสตามใบหน้าและลำคอที่ร่างสูงทิ้งไว้เมื่อครู่นี้ก็ทำให้แมนตัวหวิวๆ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว



 

หลังเสร็จการกินและเก็บกวาดหลังมื้ออาหาร แมทธิวก็พาตัวเองไปอาบน้ำเพราะต้องรีบเคลียร์บัญชีที่ร้าน แมนเข้าไปอาบน้ำที่หลังร่างสูง พอออกมาก็พบว่าไอ้คนที่บอกว่ามีงานต้องเคลียร์ดันนอนกระดิกเท้าอ่านหนังสืออ่านเล่นอยู่บนเตียงซะงั้น



แมนทรุดนั่งลงกับเตียง เช็ดปลายผมที่เปียกน้อยๆ พลางคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อค ก่อนจะลุกเอาผ้าเช็ดตัวไปตากผ้าเช็ดตัวแล้วคลานขึ้นไปบนเตียง เพื่อจะนั่งพิงหัวกับเตียงแบบแมทธิวบ้าง



ร่างสูงชำเลืองตามองที่ว่างบนเตียงข้างๆ ตัวเองที่ยุบตามน้ำหนักตัวของชายหนุ่มรุ่นพี่ ร่างโปร่งในชุดนอนประจำของเจ้าตัว คือกางเกงบอล กับเสื้อยืดตัวโคร่งคอย้วย นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ แมทธิว ก่อนจะชันเข่าขึ้นข้าหงนึ่ง พลางเอนหลังพิงหัวเตียง



แมนปลดล็อคโทรศัพท์อีกรอบ มือไถหน้าจอแต่เหลือบมองร่างสูงข้างๆ เล็กน้อย ดวงตาเรียวหรี่ลงจับผิด แมทธิวทำท่าทางอ่านหนังสือ ทั้งๆ ที่เมือกี้เพิ่งชำเลืองตาจ้องเขาจนแมนรู้สึกได้ พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไร แมนจึงเบนสายตากลับมาที่หน้าจอโทรศัพท์ตามเดิม



แมทธิวเบนสายตาออกจากหนังสือมองต่ำไปยังต้นขาเนียนที่โผล่พ้นกางเกงบอล ยิ่งข้างที่แมนชันเข่า กางเกงยิ่งเลิกขึ้นไปถึงโคนขา ขาว เนียน จนแมทธิวเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่



ถึงเขาจะชอบฉวยโอกาสชายหนุ่มรุ่นพี่บ่อยๆ เพราะความน่าหมั่นเขี้ยวของเจ้าตัว แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าอยู่ดีๆ จะเกิดอารมณ์แรงกล้าขนาดว่ามองเห็นขาอ่อนแล้วจะจินตนาการเตลิดเปิดโปงขนาดนี้



“แมทธิว...” เสียงแมนเรียกสติแมทธิวให้เบนสายตากลับมายังหนังสือ ร่างของชายหนุ่มรุ่นพี่ขยับมาใกล้เขา แขนข้างหนึ่งเท้าลงกับเตียง ส่วนอีกมือหยิบหนังสือเขาออกจากมือไปอย่างง่ายดาย



...ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะสมาธิแมทธิวไม่ได้จดจ่ออยู่กับหนังสือในมือตั้งนานแล้ว



“เห็นสายชาร์จไหม?”



“...” แมทธิวลอบมองต่ำเข้าไปในคอเสื้อย้วยๆ ของแมนที่แค่เท้าแขนก็มองทะลุเห็นไปถึงเอว ถ้าเป็นผู้หญิงที่เคยนอนกับเขาที่ผ่านมาทำแบบนี้คงเจออะไรดีๆ อย่างภูเขานมสด 2 ลูก



...แต่พอเป็นพี่แมนคนนี้ นอกจากมองเลยไปเห็นสะดือ ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าดึงดูดใจเลยแม้แต่น้อย



แล้วแมทธิวมวนท้องทำไม…



“แป๊บนะครับ” แมทธิวเอื้อมไปหยิบสายชาร์จที่หัวเตียงฝั่งตัวเองให้แมนรับมันไป ก่อนที่แมนจะวางหนังสือคืนให้แมทธิวตามเดิมบนต้นขา



ขยับขึ้นมาอีกนิดก็เป้าแล้ว... แมทธิวลอบถอนหายใจ พลางหันไปมองแมนที่ก้มลงเสียบสายชาร์จกับปลั๊กไฟข้างล่าง



สะโพกกลมลอยเด่นชัดตรงหน้า แมทธิวเบิกตาขึ้น พลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาไม่ควรคิดอะไรแบบนี้... แต่พอเห็นแล้ว ภาพเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำก็วนซ้ำเข้ามาในหัวแมทธิว แถมยังมีภาพตัดสลับเป็นช่วงๆ กับภาพวันนั้นเมื่อหลายปีก่อน



ทั้งๆ ที่เมาจนจำอะไรแทบไม่ได้ แต่ใบหน้าชื้นเหงื่อขึ้นสีของแมนกลับชัดเจนในความทรงจำ ทำเอาร่างสูงปั่นป่วนไปหมด



เขาอยากจะลิ้มลองสัมผัสนั้นอีกสักครั้งจัง...



“!!!” แมทธิวสะบัดหัวไล่ความคิดสัปดนของตัวเองออกไป แมนหันมามองแมทธิวที่ทำท่าทางแปลกๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากน้อยๆ



“เป็นอะไร ง่วงเหรอ?”



“...ครับ” แมทธิวพยักหน้าเบาๆ แล้วยิ้มแหยให้ แมนเม้มปากสลับกับกัดริมฝีปากเหมือนชั่งใจ



“งั้นฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง ปิดไฟนอนก่อนเลยก็ได้” แมนลุกขึ้นเดินหายเข้าห้องน้ำไป แมทธิวมองตาม ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก



“เฮ้อ...”



อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันเพิ่งจะมีวันนี้แหละ ที่มีอาการแบบนี้





 

“แมทธิว...” เสียงแมนดังจากปลายเตียง แมทธิวผงกหัวขึ้นมองแมนที่กำลังยื่นทำหน้าตาแปลกๆ



“ครับ?”



“ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว...”



“...?” แมทธิวมองตามแมนที่คลานขึ้นมาบนเตียง คร่อมขาที่วางเหยียดของเขา และขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนร่างโปร่งเคลื่อนมาถึงแผ่นอก



“ฉันน่าจะพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้วล่ะ”



“...”



แมทธิวสบตาแมน พลางขบกรามแน่น ทันทีที่รอยยิ้มมุมปากปรากฏบนใบหน้านิ่งๆ ของแมน ร่างสูงก็พลิกมาเป็นฝ่ายคร่อมแทน พร้อมๆ กับยึดแขนแมนทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา กันเจ้าตัวเปลี่ยนใจ



แมทธิวโน้มใบหน้าลงไปเรื่อยๆ มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง “เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ...”



“หึ”



งั้นก็ไม่มีคำว่ารออีกต่อไป....









นิยายเรื่องนี้มี 21 ตอนจบค่ะ นั่นแปลว่าไม่นับรวมตอนนี้ อีก 2 ตอนก็จะจบแล้ว ฮือ

ขอบคุณทุกคนนะคะ ขอโทษที่ให้รอ สุดท้ายหวังว่าจะชอบกันค่ะ ด้วยรัก จาก เห็ดหอม
  :heaven

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.19 (25/03/59)
«ตอบ #134 เมื่อ25-03-2016 19:34:59 »

กรี๊ดดดด ตัดฉับได้ค้างมากค่า
 :jul1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.19 (25/03/59)
«ตอบ #135 เมื่อ25-03-2016 19:37:09 »

ตอนนี้พี่แมนจงใจอ่อยใช่ป่ะ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.19 (25/03/59)
«ตอบ #136 เมื่อ25-03-2016 19:41:17 »

อ้ายย แมทธิวน่ารักเอ๊าะ เด็กขี้หื่น555
พี่แมนพูดงี้ ตอนหน้ามีได้เสัยกันใช่ไหมคะ55
อีกสองตอนจะจบแล้วหรอเนี่ยะ
โหยย แอบใจหายเบาๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.19 (25/03/59)
«ตอบ #137 เมื่อ25-03-2016 21:45:22 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.20 (26/03/59)
«ตอบ #138 เมื่อ26-03-2016 17:53:40 »

Chapter 20 : How the fuck I did it!!?





เขินว่ะ...

ผมกึ่งนอนกึ่งนั่งพึ่งไหล่หนาขของแมทธิว ริมฝีปากอุ่นยังคลอเคลียทั่วใบหน้าของผม พรมจูบเหมือนจะย้ำเตือนว่าเขาไม่ได้ไปไหน...

เออเนี่ย แต่ยิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งเขิน เข้าใจป่ะ รีบๆ นอนไปได้แล้วไป๊...

“พี่แมน...” โอ๊ย... อีเสียงทุ้มพร่าๆ ของแมทธิวมันจะอีโรติคเกินไปแล้ว ผมเนียนหลับตาแต่ก็ไม่วายโดนเรียกซ้ำ “พี่แมนครับ”

“.........หือ?”

“เจ็บมากไหม?” เป็นคำถามที่ดีน

“อยากลองไหมล่ะ!?” ผมลืมตามองตาขวาง แมทธิวยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ชวนหัวใจงอแง จนผมต้องหลบตาอย่างไว

“ถ้าเอาของพี่ยัดมาก็คงไม่เจ็บเท่าไรมั้ง...” บ๊ะ! ผมนี่ตวัดหางตากลับมามองค้อนอีกรอบอัตโนมัติเลย มันขึ้น มันขึ้น!

รู้แล้วว่าขนาดสู้ไม่ได้ แต่ไม่ต้องพูดข่มขนาดนี้ก็ได้ป่ะ หมั่นไส้โว้ย

“ล้อเล่นนะ” แมทธิวก้มลงฝังปลายจมูกลงบนหัวไหล่ผม แล้วพรมจูบเรื่อยขึ้นมาถึงไหปลาร้า และต้นคอ ก่อนจะขบเบาๆ ที่ปลายคาง แล้วขยับขึ้นมาบดจูบบนริมฝีปาก

“...” เราจ้องตากันเล็กน้อยทันทีที่แมทธิวผละริมฝีปากออก นัยน์ตาของเขากำลังยิ้ม ริมฝีปากบางนั้นก็เช่นกัน

“ขอบคุณครับ” แมทธิวกระชับแขนที่โอบไหล่ผมอยู่ให้ผมขยับไปแนบชิดตัวเองยิ่งขึ้น ผมหันไปมองฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่บนหัวไหล่ตัวเองแล้วกัดแรงๆ

“โอ๊ย!!”

“หึ” ผมมหัวเราะสะใจในลำคอ ก่อนที่ปลายคางของผมจะถูกจับให้หันไปหาแมทธิว

“เดี๋ยวจะหัวเราะไม่ออก” สิ้นประโยค แมทธิวจับตัวผมกดลงกับเตียงอย่างแรง ใจผมกระตุกวูบเพราะความตกใจ ก่อนจะดิ้นพล่านทุรนทุรายเหมือนปลาไหลโดนไฟลน

“แมทธิวอย่า! ไม่ไหวแล้ว...” ผมอ้อนวอนเสียงอ่อนแรง กิจกรรมบนเตียงมันเหนื่อยกว่าคาร์ดิโอสักหนึ่งชั่วโมงอีกครับ นี่ไม่ได้เวอร์นะ เหนื่อยไม่พอ เจ็บคอด้วย ก็ระหว่างใช้กำลังกายมันต้องคราง เหนื่อยแทบขาดใจ

“...” ริมฝีปากบางหยักยิ้มพอใจ แต่แมทธิวก็ไม่วายโน้มใบหน้าลงมาชิดอยู่ดี ผมหลับตาลง รู้สึกได้ถึงสัมผัสนิ่มๆ บนหน้าผาก ก่อนที่ริมฝีปากที่ว่านั้นจะเลื่อนลงมางับเบาๆ บนปลายจมูกของผม “งั้นก็นอนเถอะครับ”

พอใจแล้วร่างสูงก็พลิกตัวออกจากร่างของผมไปนอนราบบนเตียง ไม่วายตบที่ต้นแขนตัวเองเบาๆ ให้ผมขยับไปหนุน

“พี่แมนมานี่” ผมพลิกตัวไปหนุนแขนแมทธิวอย่างว่าง่าย แมทธิวหลุบตามองผม ในขณะที่ผมเหลือบตาขึ้นมองเขา เราสบตากันน้อยๆ และยิ้มให้กัน ก่อนที่มือหนาของแมทธิวจะยกขึ้นลูบหัวผมเบาๆ

“ฝันดีครับ”

 

.

.

.

“พี่แมน โทรศัพท์พี่ดังอะ...” ผมชะงักขาที่กำลังจะก้าวลงอ่างอาบน้ำเพราะเสียงแมทธิวที่ดังมาจากข้างนอก เท่านั้นแหละ ความเจ็บนี้ไม่มีเสียงแล่นปลาบจากสะโพกแผ่กระจายไปทั่วร่าง จนต้องร้องเสียงดังยิ่งกว่าวัวถูกเชือดเพื่อระบายความเจ็บปวด

“อ๊าก!!!”

“พี่แมน เป็นอะไร!!?” มันคงจะดังไปนิด คนที่อยู่ข้างนอกเลยได้ยิน และสติแตกยิ่งกว่าคนเจ็บอย่างผม เพราะแมทธิวตะโกนถามอย่างเดียวไม่พอ… ยังพังประตูห้องน้ำที่กดล็อคอย่างดีเข้ามาด้วย

เออดี... บ้านตัเองจะพังอะไรก็ได้ว่างั้น

“เปล่า ก้าวผิดท่า” นี่ดีนะว่ายืนหลังหลังให้ ไม่งั้นจะตะโกนด่าด้วยความรักและเขินอายไปแล้ว “จะจ้องอีกนานไหม ออกไปได้แล้ว”

ผมหันไปบอกร่างสูงที่ยืนนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยท่อนบน แต่แมทธิวก็คือแมทธิวที่จะเดินตีมึนมาหาผม พร้อมๆ กับรอยยิ้มมุมปากโคตรเจ้าเล่ห์

“เฮ้ยๆๆ” ร่างของผมลอยหวือไปอยู่อากาศโยเด็กฝรั่งตัวโต เจ้าตัวค่อยๆ หย่อนผมลงในอ่างอาบน้ำช้าๆ ชนิดที่ว่าไม่ให้น้ำกระฉอกสักหยด ก่อนจะกระชากผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออก

หือ กระชากผ้าเช็ดตัวออก!?

“เฮ้ย ทำไร!?” พอแมทธิวก้าวขาเข้ามาในอ่างเท่านั้นแหละ คำถามผมได้คำตอบเลบ อยากจะลุกขึ้นห้ามแต่สังขารดันไม่อำนวย ก็ได้แต่ร้องเฮ้ย แล้วปล่อยให้แมทธิวลงมาในอ่างเต็มตัว

“ขยับหน่อยครับ”

“จะลงมาทำไมเนี่ย...” ผมบ่นอุบแต่ก็ขยับตัวเล็กน้อยให้ร่างสูงนั่งได้ แมทธิวเหยียดขาคร่อมร่างผม ทำเอาผมเกร็งตัวสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้ไปโดนอะไรไม่พึงประสงค์อย่างขาที่สามของแม?ธิว

เฮ้ย คิดไรเนี่ย คิดเองเขินเองจนไม่กล้าหันไปมองหน้าแมธิวแล้ว แล้วเขินทำไม เมื่อคืนทั้งเห็นทั้งจับกันมาหมดแล้ว แต่เฮ้ย มันไม่เหมือนกัน เมื่อคืนมันมืด อารมณ์มันพาไป แต่นี่ไม่ นี่สว่างโล่งแจ้งมากเลยนะ…

“พี่แมน...” แมทธิวยื่นหน้ามาเกยคางบนไหล่ผม ทำเอาผมสะดุ้งใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

คนกำลังทะเลาะกับตัวเอง เขาห้ามขัด ไม่รู้หรือไง

“นั่งเกร็งทำไม มานี่” พูดเสร็จก็ใช้กำลังดึงร่างผมให้ขยับไปชิดแผ่นอกแกร่ง แขนทั้งสองข้างยกขึ้นกดบ่าผมให้นั่งนิ่งๆ ก่อนที่มันจะขยับมาโอบกอดผมจากด้านหลัง และเลื้อยลงมาถึงหน้าท้องแบนๆ ของผม

“มากไป” ผมหันไปบอกหน้านิ่ง มุมปากกระตุกยิ้มสื่อความหมาย อยากห้เธอรู้ความในใจ

“ฮึๆ” แมทธิวยอมปล่อยมือที่ทำรุ่มร่ามกับผมแล้วยิ้มกว้างมาให้ ผมสะบัดหน้าพรืด อยู่นานกว่านี้รู้สึกเสียเปรียบ เห็นทีผมควรจะรีบอาบรีบออกจากห้องน้ำซะและ

“พี่แมน” แมทธิวจับศอกผมที่กำลังขัดถูร่างกายเป็นเชิงให้หยุด ก่อนจะพูดประโยคสั้นๆ ด้วยเสียงทุ้มที่ผมฟังแล้วพ่ายแพ้ตลอดๆ “หันมาคุยกันหน่อย”

“...” ผมเอี้ยวคอกลับไปหาอีกฝ่าย แมทธิวยังมีสีหน้ามพึงพอใจตามที่ควรจะเป็น  และทันทีที่เขายกปีกแขนผมจนตัวลอย แล้วจับพลิกตัวให้หันไปนั่งเผชิญหน้ากับร่างสูง ผมก็เข้าใจประโยคที่บอกให้หันไปคุยกันหน่อยของเจ้าตัวทันที

เราก็แค่อยากสนทนากัน... ทางสายตา... ไม่ต้องการคำพูดใดๆ แค่สายตาและภาษากายเท่านั้นที่เขาต้องการ ไม่ต่างจากผม

แมทธิวยกหลังมือขึ้นแตะแก้มผมเบาๆ พลางส่งยิ้มบางให้...

ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นกุมใบหน้าน้อง ความรู้สึกทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาในหัว

นี่มันวันที่เท่าไร ครบ 7 วันวันไหน ผมไม่ได้นับเลย แค่รู้ว่าตลอดเวลาที่เราใช้เวลาร่วมกันมันมีความสุขจนลืมวันเวลาไปหมดสิ้น

ผมค่อยๆ ยิ้ม ยิ้มออกมาให้กว้างที่สุด คงไม่มีอะไรมีความสุขไปมากกว่าปัจจุบันที่เราสองคนสบตาและยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันอีกแล้ว

 



แช่น้ำจนตัวเปื่อยผมก็กลับมานอนวภาพอยู่เตียง ข้าวเขิ้วนี่ถ้าไม่แมทธิวไม่หอบหิ้วมาเสิร์ฟให้ถึงที่ก็คงไม่ได้กิน แมทธิวยืนกอดอกยิ้มขำ ทอดสายตามองผมที่นอนเอาหัวพิงเตียง และยกโน้ตบุ๊กมาวางบนอกเพื่อให้นอนเล่นได้สะดวก

ผมละสายตาจากหน้าจอ แล้วจ้องหน้าแมทธิวตอบด้วยความหมั่นไส้

“อะไรครับ ทำไมมองผมแบบนั้น พี่เชิญชวนผมเองนะ”

“...” ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน หน้านี่หงิกเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียแล้วมั้ง “ก็นายมันไม่มีมีน้ำอดน้ำทนเอง!”

โธ่เอ๊ย! รู้ตัวว่าโดนอ่อยแล้วยังทำเป็นทนไม่ได้

“จริงเหรอ? ผมไม่อึดจริงเหรอ..” นั่น... พูดอย่างตีความไปอย่าง แล้วมาทำสายตาเจ้าเล่ห์เพทุบายร้ายกาจอีก พอเลย ไม่ต้องยื่นหน้ามาชิดขนาดนี้ก็ได้โว้ย “งั้นขอผมแก้ตัวได้ไหมครับ?”

“ไม่!” ผมกลอกตาอย่างเอือมระอาใส่อีกฝ่าย แมทธิวทรุดนั่งลงกับเตียงแล้วหัวเราะในลำคอ

“ผมจะเข้าร้าน เอาอะไรไหมพี่แมน?”

“ไปด้วยไหมล่ะ?” ผมพูดทีเล่นทีจริง แบบถ้าให้ไปด้วยก็กะว่าคงไม่กลับมา แต่แมทธิวนี่สิ... หุบยิ้มทำจริงจังขึ้นมาเลย

“พี่ไม่อยากอยู่กับผมเหรอ?”

“...” อยากสิ... ก็แค่แกล้งเล่น ทำไมต้องทำหน้าขรึมขนาดนั้น ผมพับฝาโน้ตบุ๊กวางข้าวตัว ก่อนจะยกนิ้วจิ้มหว่างคิ้วของแมทธิวแรงๆ “อยากสิ อยากอยู่ด้วยกันตลอดไปเลย!”

“......พี่แมน” นั่น พอู้ว่าโดนแกล้งก็ทำเสียงอ่อนแรงใส่เลย แมทธิวรวบตัวผมไปกอด แล้วฝังจมูกลงบนกลุ่มผมของผมเบาๆ “พี่รู้ไหม เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ถึงแค่พรุ่งนี้เองนะ”

“...!?”

I’m so sorry but I love you ทา คอจิซมัลอียา มลรัซซอ อีเจยา อารัซซอ~

I’m so sorry but I love you นัลคาโรอุน มัล...~


“เอ่อ... โทรศัพท์ฉันเอง แป๊บนะ” ผมผละออกจากอ้อมกอดของแมทธิว แล้วตะปบหาโทรศัพท์ที่น่าจะนอนแอ้งแม้งอยู่สักทีบนเตียง

ภาพของคุณนายโรงงานน้ำพริกที่โชว์หราทำเอาผมแปลกใจไม่น้อย

Mom

“ฮัลโหลครับ”

(แมนลูก ทำงานอยู่เหรอ?)

“เอ่อ... เปล่าครับ” ผมเหลือบมองแมทธิว พลางหลุบตามองมือตัวเองที่ว่างอยู่บนตัก

(อ๋อ... จ้ะ แมน แม่มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย แม่รู้นะว่ามันจะดูก้าวก่ายชีวิตลูกเกินไปหน่อย แต่แม่อยากให้แมนกลับมาช่วยงานที่โรงงานได้ไหม?)

“ครับ?!!”

(คือเพื่อนป๊าแกเขาหาตลาดส่งออกนอกให้ได้ แต่แม่อยากให้ลูกช่วย ยังไงลูกก็จบมาทางด้านนี้… ช่วยแม่หน่อยนะแมน)

“....ครับ”

(อืม ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดีนะลูก ขอบใจมาก)

“ครับแม่ เดี๋ยวแมนจะรีบเคลียร์ทางนี้แล้วกลับไปครับ”

(จ้า แม่กะป๊ารออยู่นะ ทุกคนคิดถึงแมนมาก โดยเฉพาะเฮียฮวง เห็นบอกว่าจะแวะไปหาแมน ได้เจอเฮียเขาบ้างไหมล่ะลูก?)

“เอ่อ ยังครับ ยัง” ผมเผลอครับหน้าแดกรับประทาน นี่ถ้าเฮียแกแวะมาหาจริงๆ ยังไงก็ไม่เจอหรอก ก็ผมหนีจามมาอยู่กับผู้ชายที่นี่ จะเจอได้ยังไง...

(โอเค งั้นแม่ไม่กวนแล้ว รักลูกนะ)

 

ติ๊ด!

 

“...” ผมวางสายโทรศัพท์ มีแต่ความเงียบเกิดขึ้นไปชั่วขณะ ผมหันไปสบตากับแมทธิว เหม่อมองเข้าไปในนัยน์ตาสีประหลาดนั้นอย่างใช้ความคิด

แม่อยากให้ผมกลับไปช่วยงานที่บ้านนานแล้ว แต่ก็ตามใจผมมาตลอดเพราะเห็นว่าเป็นลูกคนเล็ก ที่โทร.มาขอขนาดนี้ แสดงว่าต้องการให้ช่วยให้เร็วที่สุดจริงๆ นั่นแหละ

“มีอะไรเหรอพี่แมน?” แมทธิวเลิกคิ้วน้อยๆ ในขณะที่ผมไม่รู้จะแสดงอารมณ์ไหนบนใบหน้าดีเลย

“...ฉันต้องกลับกรุงเทพ เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“...” แมทธิวมีแววตาไม่เข้าใจ แต่ความเรียบเฉยบนใบหน้าผมคงจะสื่อได้เป็นอย่างดีว่าต่อให้ถามอะไรมาผมก็ไม่พร้อมจะตอบทั้งนั้น

ภายในผมกำลังกระทบกระเทือน คล้ายว่าความสุขของผมกำลังจะจบลง เหลือเพียงแค่ฝุ่นควัน และเศษซากความทรงจำซะแล้ว

“โอเคครับโอเค พรุ่งนี้เช้าเราค่อยกลับละกันเนอะ”

“...” ผมหลบตาพร้อมๆ กับที่แมทธิวเอื้อมมือมายีหัวผมเบาๆ

“ผมไปทำงานก่อน เจอกันตอนเย็นครับ”





.

.

.

ผมเลื่อนหน้าจอโทณศัพท์รอข้อความตอบกลับจากพี่แจง ทั้งๆ ที่เจ๊แกร่วมมือกับแมทธิวลักพาตัวผมขนาดนี้ แต่หลังจากโดนผู้ชายออดอ้อนจนใจอ่อน ผมก็ไม่เคยโทร.หรือส่งข้อความไปตำหนิเจ๊แกเลยแม้แต่น้อย

พอได้ติดต่อกันอีกที ดันเป็นธุระที่น่าใจหายอย่างการที่ปมจะลาออกจากออฟฟิศซะนี่

“พี่แมน ทำอะไรเหรอ?” แมทธิวที่นอนอยู่ข้างๆ ชะโงกหน้าผ่านไหล่ผมมามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ ผมรีบกดล็อคหน้าจอ แล้วหันหน้าไปคุยกับร่างสูง

“เปล่า จะนอนยัง ปิดไฟได้เลยนะ”

“ยังอะครับ นี่ยังไม่ดึกเลย”

“เหรอ งั้นฉันนอนก่อนนะ ง่วง” ผมว่าพลางทิ้งหัวลงบนหมอน แมทธิวมองตามเงียบๆ คล้ายอยากจะพูดอะไร ผมพลิกตัวหนีจะได้ไม่เห็นแววตาอีกฝ่ายให้ลำบากใจ แสงไฟในห้องดับลงจากฝีมือของแมทธิวที่ปิดโคมไฟให้ผม เพราะประโยคที่ผมบอกว่าจะนอนแล้ว ผมลอบถอนหายใจ พลันสัมผัสโอบกอดจากด้านหลังก็ทำให้ร่างกายอุ่นวาบ

“พี่แมน หันมาหาผมหน่อย” เสียงกระซิบดังข้างหู มันแผ่วเบาแต่ชัดเจน เพราะมันเป็นเสียงของคนที่ผมหลงรักมาตั้งหลายปี

“...” ผมเงียบและนอนนิ่ง จนแมทธิวกระตุกแขนผมน้อยๆ ผมจึงพลิกตัวไปอยู่ในอ้อมกอดตามที่อีกฝ่ายต้องการ

เกิดเป็นชาย อย่าเล่นตัวมากครับ ยิ่งเหลือเวลานอนซบกันอีกแค่ข้ามคืนนี้ไปแล้วด้วย...

“ทีนี้ใจเราก็ตรงกันแล้วนะครับ”

โอ้โห... เสี่ยวเวอร์!!! คนกำลังซึ้งนี่มาขัดอารมณ์กันมากๆ

ผมแกล้งบิดเนื้อตรงหน้าอกอย่างหมั่นไส้ พรอ้มกับซุกอยู่ในอ้อมแขนให้แนบแน่นแบบไม่มีช่องว่างให้อากาศแทรกได้ เราสองคนไม่พูดอะไร แต่จมูกและริมฝีปากของแมทธิวก็คลอเคลียไม่ห่างจากใบหน้าผมเลย

ความเงียบยามค่ำคืนทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายชัดเจน ผมเงยหน้ามองสันกราม พยายามเติมเต็มความรู้สึกวูบโหวงในใจที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เราก็แค่จะกลับไปเจอโลกความจริง...

แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมขอหยุดเวลาไว้แค่นี้ได้ไหม...

“...” แรงกดแผ่วเบาบนหน้าผาก ทำให้ผมเงยหน้าสูงขึ้นเผื่อสบตากับอีกฝ่าย ท่ามกลางความมืด ร่างสูงส่งแววตาจริงจังมาให้พร้อมรอยยิ้ม

“ไม่ต้องกลัว ผมจะไม่ไปไหน”

...ขอบคุณ ผมบอกเขาในใจ และภาวนาว่าพรุ่งนี้ตื่นมาเรื่องราวทั้งหมดจะไม่ใช่แค่ผมฝันไปฝ่ายเดียว

 



.

.

.

เป็นเช้าที่ยื้อสุดอะไรสุด ตื่นก็สาย ทำบุญตักบาตรอะไร วันนี้ขอบายเลยละกัน

อาบน้ำเสร็จผมก็สวมชุดเดิมที่เป็นชุดเดียวกันกับวันที่ถูกอุ้มมาที่นี่เดินลงจากชั้นล่าง แมทธิวกำลังขนของ ทั้งโน้ตบุ๊กและเสื้อผ้าผมขึ้นรถ ในขณะที่ผมเดินไปรอบบ้านเพื่อซึมซับบรรยากาศของสถาที่ที่เต็มไปด้วยความทรงดีๆ ให้ได้มากที่สุด

ลังใส่น้ำพริกเผาที่ขนมาจากคอนโดผมยังวางอยู่ในครัวอยู่เลย น้ำพริกเพิ่งเปิดกินไปได้แค่ 2-3 กระปุกเอง ไม่รู้ว่าแมทธิวจะเอาไปทำอะไรกินได้ไหม แต่ทิ้งมันไว้ที่นี่ละกัน...

ซากเทียนห้องสีอ่อนที่ถูกจุดยังวางไว้ตามมุมต่างๆ ในห้องนั่งเล่นของบ้าน ผมเดินทะลุออกไปยังสระว่ายน้ำ โชคดีหน่อยที่หลอดไฟเล็กๆ ระโยงรยางค์พวกนั้นถูกเก็บไปแล้ว ผมถอนหายใจด้วยความใจหาย ภาพทุกการกระทำที่แมทธิวทำให้มันฝังลึกอยู่ในหัวอย่างที่คิดจริงๆ นี่แหละ... เหตุผลที่ผมไม่อยากให้เขากลับเข้ามาในชีวิตน่ะ

“พี่แมน เก็ยของเสร็จแล้ว ไปหรือยังครับ?” แมทธิวเดินเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่ริมสระ รอยยิ้มของเจ้าตัวยังกว้างและน่ามองเสมอ ผมตีหน้านิ่ง แม้ว่าแววตาคงแสดงสิ่งที่รู้สึกออกมาหมดทุกอย่างก็ตาม

“...” แล้วนี่เต้าหู้ไปไหน... ผมมองเลยตัวแมทธิวไปรอบๆ เพื่อหาเต้าหู้

นี่ผมจะไปแล้วหมามันยังไม่มาลาเลยอะ เศร้าไหมถามใจดู

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ?”

“...” ผมเบ้ปากน้อยๆ แล้วยักไหล่ ก่อนจะถอยหายใจออกมาอีกรอบ “เฮ้อ...”

“เอาน่า พี่แมน ใช่ว่าเรากลับไปแล้วเราจะไม่เจอกันอีกซะเมื่อไร พี่พามาที่นี่ก็แค่มัดมือชกจีบพี่เฉยๆ พี่ใจอ่อนให้ผมบ้างหรือยังล่ะ?!”

“...” ผมไม่ตอบแต่มองตาขุ่น ขนาดนี้ยังจะถาม ทำอะไรไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้าไม่เรียกใจอ่อน ก็ต้องเรียกใจง่ายแล้วแหละ

“นั่นไง อย่างนี้ผมก็จีบพี่ติดแล้วใช่ไหม ต่อไปนี้เราจะอยู่ด้วยกันอีกเท่าไรก็ได้ ห้องเราก็อยู่ใกล้แต่ตรงข้ามกันเองนะ” ผมจ้องรอยยิ้มและท่าทางแบะมือยักไหล่ของอีกฝ่าย แล้วยิ้มเฝื่อนออกมา

ช่างเป็นคนที่สดใสและมองโลกในแง่ดีจริงๆ อยากรู้ว่าถ้ารู้ว่าผมกำลังจะเตรียมกลับไปทำงานที่บ้าน เจ้าตัวจะยังพูดแบบนี้อยู่ไหม

“ถ้างั้นเราขึ้นรถกันเถอะ เดี๋ยวถึงกรุงเทพจะรถติดไปใหญ่”

“อืม...”

 








ขอบคุณมากๆ นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2016 19:35:55 โดย เห็ดหอม:) »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
«ตอบ #139 เมื่อ26-03-2016 20:05:07 »

 :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
« ตอบ #139 เมื่อ: 26-03-2016 20:05:07 »





ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
«ตอบ #140 เมื่อ26-03-2016 20:39:44 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
«ตอบ #141 เมื่อ26-03-2016 21:04:31 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
«ตอบ #142 เมื่อ27-03-2016 01:11:53 »

ใกล้จบแล้ว คงไม่มาม่าเนอะ
 :hao5:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.50 (26/03/59)
«ตอบ #143 เมื่อ27-03-2016 05:52:11 »

 :pig4:

ออฟไลน์ เห็ดหอม:)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
    • นิยายของเห็ดหอม
Re: ☼รักใสๆ ของนายแมน☼| up ch.21 (27/03/59)
«ตอบ #144 เมื่อ27-03-2016 19:43:39 »

Chapter 21 : Thank you but I won’t definitely say goodbye.



รถแล่นเข้าสู่สิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย สองข้างทางเริ่มเป็นตึกสูงสลับกับอาคารสำนักงาน และร้านรวงต่างๆ ผมที่นั่งเงียบตลอดทางละสายตาจากวิวรอบข้างมาคุยกับแมทธิว

“แวะส่งฉันที่ออฟฟิศละกัน” แมทธิวพยักหน้า ก่อนจะหันมาหาผม

“ให้ผมรอรับไหม?”

“ไม่ต้อง จะขับรถกลับคอนโดฯ” นับตั้งแต่วันที่ทุกคนรวมหัวกันส่งมอบผมให้แมทธิวก็ไม่รู้ว่าป่านนี้รถผมโดนทุบกระจกเอาอะไรไปบ้างหรือเปล่า เล่นจอดอยู่หน้าออฟฟิศนานขนาดนั้น...

ใช้เวลาไม่นานรถก็แล่นมาจอดเทียบหน้าออฟฟิศพี่แจง ผมปลดเข็มขัดนิรภัย เตรียมจะลงจากรถ

“เดี๋ยว พี่แมน...”

“ใกล้ถึงคอนโดแล้วโทร.บอกด้วยนะ”

“ทำไม?”

“จะได้สั่งข้าวมากินด้วยกันไง พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะตั้งแต่เช้า”

“....อืม โอเค”

“เจอกันครับ”

ผมลงจากรถ ยืนมองจนแมทธิวขับมันจนลับสายตาไป ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าออฟฟิศ

 

“อ้าว น้องแมน” พี่ปอสังเกตเห็นผมเป็นคนแรกจึงร้องทักออกมา ตอนนั้นเองที่ทุกคนในออฟฟิศวังเกตเห็นผมบ้าง พี่กายยิ้มแหยๆ คล้ายคนมีชนักติดหลัง พี่หวานส่งยิ้มซื่อมาให้ ในขณะที่คนที่น่าจะเป็นหนึ่งในตัวการอย่างทราย...

“เฮียแมน กลับมาแล้วเหรอ ดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะคะ”

...นอกจากจะไม่สำนึกผิดแล้วยังมีหน้ามาแซว ผมกะพริบเปลือกตาช้าๆ แล้วยิ้มเย็นออกมา

ดีนะว่าพี่แมนเป็นผู้ชายแมนๆ ไม่ทำร้าย เด็ก สตรี และสุนัข ไม่งั้นน้องทรายได้มีเคลียร์บัญชีกับเฮียแมนแน่ๆ

“พี่แจงอยู่ไหม?”

“อยู่ในห้องค่ะ” ทรายยิ้มหวานตอบกลับผม ผมพยักหน้าน้อยๆ ไม่ลืมชี้หน้าคาดโทษ

ฝากไว้ก่อนเถอะ ฝากถาวรเลยด้วย พี่แมนไม่สู้คน

 

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

ผมเคาะประตูห้องที่เปิดอ้าซ่าให้คนเข้าออกได้ตลอดเวลาแบบพอเป็นพิธี แล้วเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามพี่แจง ใบหน้าสวยแอบมีริ้วรอยเงยหน้าจากแฟ้มงานตรงหน้ามามองผม ก่อนจะพ่นลมหายใจออกยาวๆ

“มาแล้วเหรอ? ไวจนพี่ไม่ทันทำใจเลยนะ”

ไม่รู้ว่าหมายถึงผมมาไว หรือหมายถึงการลาออกของผมนะ ที่ไว…

“....แมนโกรธพี่ใช่ไหม ที่พี่ทำลงไปแบบนั้น”

“ไม่ครับ” ผมยิ้มพลางส่ายหัว ก็มีแวบแรกที่รู้สึกไม่พอใจ คนไว้ใจกัน ไม่น่าทำกันได้ลงคอ แต่ผมก็เข้าใจเจตนาดีของพี่แจงน่ะแหละ

“งั้น... พี่ใช้งานหนักไป หรือเงินเดือนน้อยไปหรือเปล่า?”

“ไม่เลยครับ ทำงานที่นี่ดีมากๆ”

“แล้วจะลาออกทำไมล่ะ!?”

“...ผมต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน” ผมพยายามยิ้มให้เห็นความจริงใจว่าผมไม่ได้โกรธเกลียดที่จะทำงานที่นี่ แต่มีเหตุผลที่ต้องไปจริงๆ

“อืม... เหตุผลแบบนี้รั้งให้ตายก็ไม่มีผลสินะ” พี่แจงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงาน “แล้วจะยังส่งต้นฉบับให้พี่อยู่ไหม?”

“อันนี้ต้องดูอีกทีนะพี่” ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีเวลาว่างหรือแรงบันดาลใจจะทำมันอีกไหม

แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผมรัก และพาผมมาไกลได้ขนาดนี้ก็ตาม....

“เอ่อ... อะ โอเค เรื่องเงินเดือนเดือนสุดท้ายพี่ให้เต็มเดือนละกัน”

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้พี่แจง เจ้าหล่อนยกมือห้ามมองตาเขียว ลืมไป... เจ๊แกไม่ชอบให้ใครทำเหมือนตัวเองเป็นผู้อาวุโส

“แล้วจะบอกลาใครหน่อยไหม?”

“ไม่ล่ะครับ” ผมไม่ชอบความรู้สึกของการจากลา แค่ออกจากออฟฟิศไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกซะหน่อย เพราะฉะนั้น เดี๋ยวผมค่อยแอบมาเก็บของที่ออฟฟิศตอนทุกคนไม่อยู่ละกัน...

“บอกหน่อยเหอะ หวานกับกายมันอยากรู้จนแทบจะเข้ามายืนฟังในห้องและ”พี่แจงพยักเพยิดหน้าไปทางประตู ผมมองตามก็เห็นชายไม่จริงหญิงแท้ 2 คนสะดุ้งเพราะโดนจับได้

“...”

 

“แมน แกจะลาออกจริงๆ เหรอ?” นี่คือประโยคแรกจากพี่หวานผู้ซึ่งแอบฟังผมกับพี่แจงคุยกัน เรียกความสนใจของคนในออฟฟิศคนอื่นให้มองผมเป็นตาเดียวอีกครั้ง

เออ วันนี้เป็นจุดสนใจบ่อยดีเว้ย

“ครับ” ผมพยักหน้า ไหนๆ ก็ไหนๆ รู้กันหมดออฟฟิศแล้ว เก็บของที่พอจะขนไปได้เลยละกัน

“ทำไมอะแมน?” พี่แตนเดินมายืนข้างๆ ผมพยายามจะยิ้มให้หน้าไม่ดูเครียดเกินไปนัก แต่พี่กายก็ทำบรรยากาศเสียหมด

“แมนมันโกรธที่พวกเจ๊รวมหัวกันยกมันใส่พานถวายน้องแมทธิวไง”

“จริงเหรอแมน?!”

“เฮียแมนลาออกเพราะโกรธทรายเหรอ!?”

นั่นไง... ไปกันใหญ่แล้วโว้ย!!!

“เฮียแมน ทรายขอโทษ...” ดวงตาคมเฉี่ยวของทรายฉายแววสำนึกผิดเป็นเด็กน้อยเลย มือเรียวบางของเจ้าตัวเกาะแขนผมเบาๆ ผมถอนหายใจออกเป็นรอบที่ล้านของวัน ก่อนจะยกมือขึ้นยีหัวทรายเบาๆ

“ฉันไม่ได้โกรธใครทั้งนั้น”

“แล้วแกลาออกทำไม!?”

“ไปช่วยงานที่บ้าน โอเคไหม?”

“อ๋อ.../อ้อ.../อ้าวเหรอ...” ทุกคนพยักหน้าเข้าใจกันอย่างง่ายดาย ผมเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะยกกล่อง เตรียมเดินไปขึ้นรถ

“มานี่ พี่ช่วย” พี่กายยกเอากล่องใส่ของที่โคตรจะเบาไปถือ ทุกคนเดินตามผมออกมาหมดออฟฟิศ ยกเว้นพี่แจง ซึ่งท่าทางจะงานหนักมากจริงๆ ทรายช้อนตามองผม ก่อนที่ผมจะเดินอ้อมไปขึ้นรถ

“อย่าลืมแวะมาหาพวกเรานะเฮียแมน”

“อือ แวะแน่ เร็วๆ นี้ด้วย ของยังเก็บไม่หมด” ผมพยักหน้าพลางเดินไปขึ้นรถท่ามกลางใบหน้าเหวอแดกของทุกคนที่รีบเอ่ยคำลา

นี่แหละหนา มนุษย์... ชอบคิดไปเองอยู่เรื่อย

 

ผมกดโทร.ออกหาแมทธิวตามที่ให้สัญญาไว้กับเจ้าตัวตั้งแต่ขับรถออกจากหน้าออฟฟิศ นี่ไม่ได้รีบนะ ก็แค่คิดว่าถ้าจะสั่งอาหารมันต้องใช้เวลาไม่ใช่หรือไง อีกอย่างออฟฟิศกับคอนโดก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก รีบโทร.ตั้งแต่เนิ่นๆ แหละ ถูกแล้ว

“ออกจากออฟฟิศแล้วนะ”

(โอเคครับ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?)

“...” ผมกลอกตาคิดอยู่แป๊บนึง “ไม่มีอะ จะสั่งอะไรก็สั่งละกัน”

“ครับ เจอกันนะ”



.
.
.
ผมเดินออกจากลิฟต์พร้อมกล่องใส่ของที่ขนมาจากออฟฟิศ ก่อนจะมาหยุดล้วงหาคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงหน้าประตูห้องอย่างทุลักทุเล

แกร๊ก!

“!!!”

ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ผมก็ผงะไปกับลูกโป่งสีสวยนับร้อยลูก ทั้งที่มีเชือกห้อยระโยงระยางลอยติดเพดานห้อง กับอีกส่วนที่วางระเกะระกะตามพื้น

มันยากมากที่จะควบคุมไม่ให้ตัวเองกวาดตาไปรอบๆ แล้วผายมือเริงระบำประดุจเจ้าหญิงงามในเทพนิยาย ผมกอดกล่องในมือแน่น ใจเต้นรัว พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่าคนที่ทำเซอร์ไพรส์แบบนี้คือ...

“พี่แมน”

“...แมทธิว...”

โครม!

ผมเผลอปล่อยของในมือร่วงแบบเทกระจาด รอยยิ้มสวยของแมทธิวสร้างดาเมจรุนแรงจนเข่าแทบทรุด

ครั้งนี้ผมไม่ได้คิดไปเอง แมทธิวตั้งใจเซอร์ไพรส์ผม ถึงมันจะอลังการเวอร์วีว่าแบบที่คนแบบผมไม่มีทางคุ้นเคยกับมันง่ายๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมชอบและดีใจมาก ทำยังไงดี... กระโดดกอดเลยดีไหม!? ขนาดยังไม่เข้าใจว่าโดนเซอร์ไพรส์เรื่องอะไรนะเนี่ย...

“พี่แมน...” ไม่รอให้ผมตัดสินใจว่าจะแสดงรีแอคชันอะไร แมทธิวก็ส่งเสียงทุ้มมาดึงความสนใจผมไปก่อน ผมมองตามมือร่างสูงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง จนกระทั่งมันออกมาพร้อมกับกล่องหนังขนาดเล็ก มือหนาจบลงที่การเปิดฝากล่อง เผยให้เห็นแหวนเกลี้ยงสีเงินที่อยู่ในนั้น

“เป็นแฟนกันนะ”

“!!?”

ว่าอะไรนะ!?

“คบกับผมนะพี่แมน”

“...” ผมจ้องตาแมทธิวอยู่นาน และความจริงจังที่ส่งมานั้นก็ยิ่งทำให้ข้างในอกผมมันวูบแปลกๆ

ผมยิ้ม ฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ปากคอสั่นไปหมด ตอนนี้ผมอยากจะร้องไห้จริงๆ นะ

มันเป็นช่วงเวลาที่คาดฝันที่ดีที่สุดในชีวิตผม ผมไม่อยากร้องไห้หรอก... แต่คนแมนๆ แบบพี่แมน จะร้องไห้ไม่ได้…

“ขอบคุณนะ...” ผมก้าวเข้าไปหาแมทธิว แล้วปิดกล่องแหวนนั้น พลางสบตาเขา

มันใช้เวลานานแค่ไหน นับตั้งแต่วันที่ผมเป็นแฟนคลับแมทธิว วันที่เรารู้จักกัน ช่วงเวลาที่เราเข้าใจผิด จนถึงวันที่เขากลับมาหาผม และยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้

ทุกช่วงเต็มไปด้วยความทรงจำ ทั้งสุขและทุกข์ ผมไม่เคยคาดฝันว่าจะมีวันที่แมทธิวจะเป็นคนพาตัวเองมาผูกมัดกับผม ความคิดเดิมวนกลับเข้ามาในหัว...

มันดีจนน่าเหลือเชื่อเกินไป

“แต่ฉันคงคบกับนายไม่ได้”

เพราะเกือบ 7 วันที่ผ่านมาผมได้รับความทรงจำดีๆ มามากมาย

เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้

เพราะคนตรงหน้าควรได้เจอใครที่ดีกว่าผม... และผมคงทนไม่ได้ถ้าเรื่องราวของเราต้องมีจุดจบ

“ทำไม...”

“อย่าเข้าใจฉันผิดนะ สิ่งที่นายทำให้ฉัน...ที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำที่ดีมาก...”

“...”

“...มากจนฉันคงทนไม่ได้ ถ้าวันนึงเราเลิกกัน และนายจะทิ้งความทรงจำพวกนั้นให้ทำร้ายฉัน” ผมรู้สึกแข้งขาอ่อนจนอยากทรุดลงนั่งกับพื้นไปเลย เมื่อเห็นสีหน้าเจือความไม่เข้าใจปนเจ็บปวดของแมทธิว น้ำตาที่คิดว่าจะไม่ยอมให้มันไหลก็เอ่อล้นขอบตา อาบใบหน้าผม “นายเข้าใจฉันไหมแมทธิว อนาคตนายยังเลือกได้อีกตั้งมากมาย อย่ามาผูกติดตัวเองกับคนอย่างฉันไปมากกว่านี้เลย ถ้าวันนึงนายจะไป”

“พี่แมน...” แมทธิวก้าวเข้ามาวางมือบนบ่าผมเบาๆ แล้วเชยคางผมขึ้นสบตากับเขาโดยตรง “ผมไม่มีอะไรมารับประกันอนาคตหรอก แต่ได้โปรดเชื่อเถอะว่าผมรักพี่ ผมเลือกแล้ว ตัดสินใจแล้วที่จะรักพี่ พี่อย่าปฏิเสธความรักของผมได้ไหม?”

“...”

“...เราไม่ต้องคบกันเป็นแฟนก็ได้นะพี่แมน เราแค่จะเป็นแบบนี้ให้สม่ำเสมอ 1 ปี 5 ปี 10 ปี เรื่อยๆ ไปจนแก่” นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาบนใบหน้า พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนโยนปลอบใจผม “อยู่ด้วยกันแบบ... เรียกว่าสถานะอะไรดี ความสุขของกันและกันดีไหม?”

เดี๋ยวๆๆ

ผมเผลอชักสีหน้าอัตโนมัติ ไอ้ความสุขของกันและกันมันคือสถานะอะไรล่ะนั่น คู่นอนเหรอ!? ฟินๆ ทั้งคู่แล้วก็แยกทางอย่างนี้อะนะ!?

“แหนะ ทำหน้างออีกและ คิดอะไรแปลกๆ อีกแล้วเหรอครับ?” แมทธิวทำท่าจะขำ ผมเลยปัดมือเขาทิ้งแล้วมองค้อนเบาๆ จนเจ้าตัวใช้หลังมือข้างที่ถูกปัดถทิ้งยกขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ

เกลียดนักคนรู้ทัน

“ผมหมายถึง เราจะอยู่กันแบบ... ผมอยู่กับพี่แล้วสบายใจ พี่อยู่กับผมแล้วสบายใจ เราก็แค่อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ...”

“...” ผมขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจ เออออไปก่อน ให้เขารู้ว่าเราตั้งใจฟังนะ

“อ้อ.. แต่ที่สำคัญคือพี่ห้ามมีใครนะ ห้ามคุยกับผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ผมเองก็จะไม่ยุ่งกับใครอีกเหมือนกัน” แมทธิวพูดพลางเปิดกล่องแหวนอีกรอบ แล้วหยิบมันขึ้นชูตรงหน้าผม “ตกลงตามนี้ไหม!?”

“อือๆ” ผมพยักหน้าเออออตามสเต็ปทั้งๆ ที่สมองผมมันยังประมวลผลไม่เคลียร์เลยด้วยซ้ำ แต่แค่อือสั้นๆ นั่นแหละ รอยยิ้มของแมทธิวก็สว่างจ้าขึ้นทันที

“ถ้างั้นก็ส่งมือมาหน่อยครับ จะสวมแหวนให้” ถึงจะบอกให้ผมส่งมือไป แต่ร่างสูงกลับคว้ามือผมไปเองดื้อๆ ผมมองแหวนเงินที่ค่อยๆ ถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างขวาจนสุดโคนนิ้ว ก่อนจะเงยหน้ามองเขา แต่ร่างสูงดันฉวยโอกาสหอมแก้มผมซะได้

ฟอด~

“ขอบคุณสำหรับความรักใสๆ ที่พี่มีให้ผมตลอดมาครับ ผมรักพี่แมนนะ”

แมทธิวยิ้ม...

ผมก็เลยยิ้มออกมาบ้าง... ทั้งๆ ที่ในใจยังคาราคาซังอยู่ไม่น้อย

ก็ไอ้สถานะที่แมทธิวขอเป็นกับผมมันไม่ใช่ แฟน หรือไงวะครับ!?





FIN.







ขอบคุณมากๆ ค่ะ  :pig4:
เห็ดคงไม่ได้มาไกลขนาดนี้หากไม่มีนักอ่านทุกคน ขอบคุณอีกครั้งที่อยู่ด้วยกันจนจบ เห็ดรักและซาบซึ้งกับทุกคนมากจริงๆค่ะ ว่างๆ จะมาแก้คำผิดนะคะ  :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
พี่แมนคนคิดเยอะ คิดมาก
แต่ก็ตามคนอื้นเขาไม่ทันตลอดด
สถานะความสุขของกันและกัน หูย เหมือนดาราเลยอะ555
แต่ก็ยังดีที่พี่แมนตกลง ไม่งั้นคงช้ำใจทั้งแมทธิวทั้งคนอ่าน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ขอให้มีผลงานใหม่มาเรื่อยๆยะคะ เราจะติดตามเอง
อิอิ เป็นกำลังใจให้น้า
+1 ให้ด้วยค่า

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ไม่ใช่แฟน แต่เป็น "คู่ชีวิต" นะพี่แมน

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
 :give2: :give2:

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
 :ruready ไม่ใช่แฟน แต่งเป็นคนรัก  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด