[Short Series] D E S T I N Y :: เทศกาลชะตา 'รัก' by AzeY.RWY
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Short Series] D E S T I N Y :: เทศกาลชะตา 'รัก' by AzeY.RWY  (อ่าน 4977 ครั้ง)

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การ สนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้าง ความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่อง เล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้ เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ใน ความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกัน สร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็น ทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวด เล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกัน โดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ด อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่า เป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะ แม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูด คุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่าง ของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้ เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 21:27:41 โดย AzeY.RWY »

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
 

• BEGINNING •

'คุณเคยเชื่อในโชคชะตาไหม?
ผมก็ไม่เคยเชื่อมาก่อนเหมือนกัน
ชีวิตของผมเต็มไปด้วยความเรียบง่าย ซ้ำซาก และจืดจาง
จนกระทั่งในวันนั้น... วันที่ผมได้พบกับคนๆหนึ่ง...
...คนที่มาเปลี่ยนแปลง มาเติมเต็มโลกทั้งใบของผม...
.
.
.
 ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง...'


 
 
            ให้ตายเถอะ...
            ผมเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ บนหน้าจอแสดงวันที่ 24 ธันวาคม โดยด้านล่างแสดงการแจ้งเตือนขึ้นว่ามีสายที่ไม่ได้รับไม่ต่ำกว่าสิบสาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย... แม่ผมเองครับ
            ตอนนี้ผมกำลังขับรถอยู่ครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าผมไม่ได้มาขับรถเล่นหรืออะไรเทือกนั้น แต่ผมกำลังหนีแม่...
            ใช่ ตอนนี้ผมกำลังหนีแม่แท้ๆของตัวเองอยู่!
            ส่วนสาเหตุก็ไม่มีอะไรมากเลยครับ ก็แค่หนีแม่ตัวเองที่กำลังจะจับผมแต่งตัวใส่สูทแล้วต้อนขึ้นรถไปดูตัวครั้งที่สิบสี่กับสาวสวยก็เท่านั้นเอง...
            ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่ผมไม่ชอบวิธีการแบบนี้เลยสักนิด ไม่ว่าฝ่ายนั้นเขาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม แต่ที่แน่ ๆ ผมไม่เคยเต็มใจเลยสักครั้ง ช่วงที่โดนหลอกไปนั่งติดแหง็กครั้งแรก ๆ ก็พอสนใจอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นบอกได้เลยว่าไม่เอาแล้วครับ! ส่วนครั้งต่อ ๆ มาน่ะเหรอ? หึ ก็โดนผมตีเนียนชิ่งออกมาทุกครั้งเลยน่ะสิ! จนถึงตอนนี้ผมทนมาได้ตั้งสิบสามครั้งก็เก่งแล้วครับ ถึงแม่ผมจะพยายามกล่อมผมหลายครั้งว่า ดู ๆ กันไปก่อนเดี๋ยวก็ดีเอง แต่ผมกลับแปลได้ว่า มันเหมือนจะออกแนวคลุมถุงชนยังไงชอบกล...
            โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่าผมเรื่องมาก ถึงแม่ผมจะพยายามหาสาวสวยเพียบพร้อมมาให้ผมมากมายก็ตาม แต่เข้าใจไหมครับ ถ้าคนที่ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยผูกพันกันมาก่อน อยู่ ๆ จะให้มารักกันได้ยังไง ต้องดูใจกันมานานพอสมควร ไม่ใช่มาปุบปับอะไรแบบนี้ ถึงฝ่ายหญิงอาจจะพึงพอใจเพียงเพราะผู้ใหญ่แนะนำก็เถอะ แต่ในขณะที่ผมไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย คิดดูสิครับ มันจะไม่เป็นการทำร้ายเธอหรอกเหรอ?
            อืม... ยอมรับอีกก็ได้ว่าผมเป็นคนขวางโลกพอสมควร แต่ที่แน่ ๆ ผมเป็นคนจริงจังกับความรักมาก ผมคิดเสมอว่า ถ้าจะมีความรักแล้วล่ะก็ ควรจะใส่ใจ ทุ่มเท ให้เวลากับมัน ทั้งคนที่ผมรัก และทั้งคนที่รักผม อีกอย่างตอนนี้หน้าที่การงานผมกำลังไปได้สวย และแน่นอนภาระหน้าที่ก็ต้องหนักขึ้นเป็นธรรมดา ผมถึงยังไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่นโดยเฉพาะเรื่องความรัก
            ...ถึงผมจะยังไม่เคยรักใครจริง ๆ จัง ๆ เลยก็เถอะนะ
            แน่นอนว่าผมอธิบายให้แม่ฟังทั้งหมดแล้วทุกครั้งที่มีการดูตัวเกิดขึ้น แต่ผมก็ยังต้องมาดูตงดูตัวไม่เว้นแต่ละเดือนแบบนี้อยู่ดี ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมถึงต้องมานั่งซบพวงมาลัยรถอยู่บนถนนแบบนี้ เฮ้อ... ทำไมไม่มีใครเข้าใจผมเลยนะ ใช่ว่าผมจะไม่ต้องการมีความรักสักหน่อย เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้นเอง เพราะผมไม่อยากรักใครเพียงแค่แรกสบตาอะไรแบบนั้น ผมทำไม่ได้จริง ๆ และที่สำคัญ...
            เพราะผมไม่เคยเชื่อ... เรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตอะไรนั่น
            ผมขับตามทางมาเรื่อย ๆ ผ่านร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่เริ่มมีการประดับตกแต่งสถานที่รวมถึงต้นคริสต์มาสน้อยใหญ่ทั้งหลาย แสงไฟสว่างไสวสวยงามละลานตาตลอดสองข้างทาง ผมอดที่จะถอนหายใจขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้
            คริสต์มาสปีนี้ก็อยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ...
            ผมขับออกนอกชานเมืองมาได้สักพัก โทรศัพท์มือถือที่ตอนแรกนิ่งสนิทก็ได้สั่นขึ้นอีกครั้ง ผมเลยแวะจอดข้างทางแถวนั้น แล้วหยิบมันขึ้นมาดู เมื่อเห็นรายชื่อคนโทรฯเข้าผมก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อกทันที ไม่รับอีกก็คงไม่ดีแน่ ผมเลยตัดสินใจกดรับสายในที่สุด
            "สวรรค์! ตาฮัก! ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน!? แม่โทรฯหาสิบกว่ารอบติดบ้างไม่ติดบ้าง เฮ้อ... รู้ไหมว่าคนอื่นเขาตามหาลูกกันให้ควั่กขนาดไหน วุ่นวายไปหมดแล้วตอนนี้"
            "อา... แบบว่าวันนี้อากาศดี๊ดีผมเลยออกมาขับรถเล่นน่ะครับ"
            "อ๋อ อย่างงั้นเหรอจ๊ะ แหม บังเอิญจังเลยเนอะ ตรงกับเวลานัดพอดิบพอดีเลย ไม่ได้ตั้งใจจะหนีตั้งแต่แรกแล้วหรอกเหรอจ๊ะ หืม?"
            "หนีเหนออะไรกันครับแม่ ไม่มี๊!" งานเสียงสูงต้องมาครับ
            "เฮ้อ... นี่ใครกันจ๊ะตาฮัก แม่จะไม่รู้เชียวเหรอว่าลูกของแม่แผนสูงและลื่นไหลเป็นปลาไหลขนาดไหน"
            "แม่ก็ชมผมเกินไปครับ ฮ่ะฮ่ะ"
            "ไม่ต้องมาเนียนเลยนะ ลูกคนนี้นี่ ดื้อจริง ๆ เลย ไม่รู้แหละ กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าไม่กลับมาล่ะก็ พรุ่งนี้เตรียมซักสูทรอได้เลย!"
            "ก็ได้ครับ..."
            ในที่สุดผมก็ต้องจำใจกลับรถไปหาคุณแม่สุดที่รักจนได้...
            แต่ในระหว่างที่ผมกำลังขับรถไปเรื่อย ๆ เพื่อหาจุดยูเทิร์น ทันใดนั้นเอง...
            ปึก!
            "เฮ้ย!!!"
            เอี๊ยดดด!
            ผมรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรผ่านหน้ารถผมไป มันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมต้องรีบเบรครถกะทันหัน ดีนะที่แถวนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านไปผ่านมาเท่าไร
            ผมรีบลงจากรถก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ตรงข้าง ๆ ล้อรถของผม
            "คุณ... คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
            "..." ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากชายคนนี้ ผมเลยกลัวว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พอสำรวจดูแล้วกลับไม่มีบาดแผลร้ายแรงอะไรนอกจากรอยขีดข่วนกับแผลถลอกเล็กน้อย แล้วเนื้อตัวก็มอมแมมใช้ได้เลย ภายนอกไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่ว่าภายในล่ะ?
             เมื่อเห็นเขานั่งนิ่งไม่ขยับเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมเลยค่อย ๆ พยุงเขาขึ้นมา แล้วพาไปนั่งในรถ แทนที่จะได้กลับรถไปหาแม่ ผมเลยต้องขับไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแถวนี้แทน เพื่อไปตรวจดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ
            คือว่าแม่ครับ ครั้งนี้ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะหนีจริง ๆ นะครับแม่...
     
            ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาลครับ... หรือถ้าจะให้ถูกก็คือนั่งอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนในสวนหย่อมของโรงพยาบาล คนที่มาใช้บริการคนอื่น ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกผมเลยครับ เพราะผู้ชายที่นั่งก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาข้าง ๆ ผมนี่แหละ สภาพเขานี่แบบ... ดูไม่ได้เลยล่ะครับ มอมสุดยอดเลย
            แต่อาการบาดเจ็บเขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ มีก็แค่พวกแผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็จัดการทำแผลเรียบร้อยแล้วด้วย
            อืม... แต่ที่ผมสงสัยคือ เขาเป็นใบ้รึเปล่าเนี่ยสิ... ก็เล่นไม่พูดอะไรเลยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ถึงเขาจะดูมอมแมมไปหน่อย แต่เท่าที่ผมสังเกต เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวเขาน่ะ นั่นมันของแบรนด์เนมชัด ๆ เลย!
            "คุณครับ เอ่อ... ถ้าคุณไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
            เอาล่ะ จะได้กลับไปหาแม่สักที ป่านนี้คงบ่นแย่แล้ว...
            แต่พอผมจะลุกจากที่นั่งก็มีมือข้างหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ปิดแผลคว้ามือผมไว้ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ คนข้างๆผมนี่แหละ
            "?"
            "อย่า... อย่าเพิ่งไป"
            ...ก็พูดได้นี่? ไม่สิ นี่ไม่ใช่ประเด็น
            "มีอะไรเหรอครับ? ก็คุณไม่เป็นอะไรแล้วนี่"
            "..."
            "อ้อ ถ้าเรื่องค่ารักษาพยาบาลล่ะก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเป็นค่าปลอบขวัญก็แล้วกัน อีกอย่าง... คุณเองก็ไม่มีอะไรพกติดตัวมาเลยนี่ แล้วก็..."
            "ขอผมไปด้วย"
            ห๊ะ?
            "ขอผมไปกับคุณด้วย"
            เดี๋ยวนะ
            "เมื่อกี้... คุณว่าอะไรนะครับ" เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ? อะไรไป ๆ สักอย่าง
            "ผมขอ... ไม่สิ ผมจะไปอยู่กับคุณด้วย"
            "..."
            "ตกลงตามนั้นนะ"
            เดี๋ยวนะ ไอ้หมอนี่มันเพี้ยนรึไง เจอกันไม่กี่ชั่วโมงจะมาขอไปอยู่ด้วยเนี่ยนะ!? เป็นมิจฉาชีพเรอะ!
            "นี่คุณครับ ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีจุดประสงค์อะไร แต่การที่จะให้คนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกไปอยู่ด้วยเนี่ยมันไม่พิลึกไปหน่อยเหรอครับ?"
            "แต่... คุณก็รู้นี่ว่าผมไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แล้วคุณก็ขับรถมาเฉี่ยวผมด้วย ถือว่าเป็นค่าตอบแทนกับค่าทำขวัญในส่วนที่เหลือก็แล้วกัน อีกอย่างผมไม่ได้จะอยู่ถาวรซะหน่อย"
            ...ได้ข่าวว่าหมอนี่มันกระโจนมาหารถผมเองไม่ใช่เรอะ! แล้วไหงถึงพูดซะเหมือนมันมีเหตุผลเสียเต็มประดาขนาดนี้ได้ล่ะเนี่ย...
            "คุณไม่มีบ้านรึยังไง บอกไว้ก่อนเลยนะ อย่ามาหลอกผมว่าเป็นนักท่องเที่ยวหลงทางอะไรแบบนั้น ถึงสภาพคุณตอนนี้จะแย่ยิ่งกว่าคนไม่อาบน้ำมาสามวันก็เถอะ แต่เสื้อผ้าที่คุณใส่อยู่น่ะ เผลอ ๆ อาจจะเท่ากับเงินเดือนครึ่งปีของผมเลยก็ได้!"
            "แต่ว่าผม... ยังไม่อยากกลับไปตอนนี้"
            "..."
            มีบ้านแต่ไม่อยากกลับ? ท่าจะเพี้ยนแฮะ
            "เงียบแบบนี้ แสดงว่าคุณให้ผมไปอยู่ด้วยชั่วคราวแล้วใช่ไหม?"
            "ห๊ะ ดะ เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้ตอบตก..."
            "ขอบคุณมากเลย! คุณเป็นคนดีจริง ๆ "
            "..."
            ไอ้หมอนี่มัน...
            หน้าด้านสุด ๆ !
            แต่ก็แปลกนะ ไปขอบ้านชาวบ้านอยู่ทำไมกัน? เอ๊ะ คะ คงไม่ใช่ว่าหมอนี่ไปติดหนี้อะไรใครเข้าแล้วโดนพวกแก๊งมาเฟียตามล่าทวงหนี้อะไรเทือกนั้นหรอกนะ!? ถ้าเป็นแบบนี้ก็แย่น่ะสิ!
            แต่ก่อนที่ผมจะได้มโนอะไรไปมากกว่านี้เสียงคนข้าง ๆ ก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
            "ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก ผมแค่มีปัญหานิดหน่อยก็เท่านั้นเอง"
            แล้ว... แผลพวกนั้นอ่ะ?
            "เกิดการผิดพลาดทางเทคนิคตอนออกมาจากบ้านเฉย ๆ ไม่มีอะไรหรอก"
            อืม... แบบนี้นี่เอง ว่าแต่... หมอนี่รู้ได้ยังไงว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่?
            "แค่มองหน้าคุณผมก็รู้แล้ว ก็คุณเล่นแสดงสิ่งที่คิดทุกอย่างออกมาทางสีหน้าหมดเลยนี่"
            อะ อ้อ เหรอ...
            "อื้ม"
            "เอ่อ... อะแฮ่ม! ก็ได้ ๆ เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ผมไม่รับรองเรื่องความปลอดภัยกับความเป็นอยู่ของคุณหรอกนะ" ขืนปฏิเสธไปยังไงหมอนี่ก็ต้องตื๊ออยู่ดี ตกลงไปก่อนก็แล้วกัน
            "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้น่าคุณ...?"
            "ฮัก ผมชื่อฮัก"
            "คุณ... หัก?"
            อื้อหือ... คำที่ออกมาจากปากหมอนี่ทำเอาผมมือเท้ากระตุกเลยทีเดียวล่ะครับ
            "ฮัก ฮอนกฮูก ไม้หันอากาศ กอไก่"
            "อ้อ ฮักที่แปลว่ากอดหรือรักในภาษาเหนือสินะ"
            "จะแปลยังไงก็แล้วแต่คุณเถอะ เรียกไม่ผิดเป็นหักก็พอ"
            "หึหึ เข้าใจแล้ว อ้อ ผมชื่อคิสนะ"
            "โอเค คุณคิด ผมจะบอกอะไรเอาไว้อย่าง ผมไม่ให้คุณอยู่ฟรี ๆ หรอกนะ"
            เรื่องอะไรล่ะ! มาอยู่บ้านคนอื่นเขาแบบนี้ มันก็ต้องมีอะไรตอบแทนกันบ้าง กำลังขาดคนทำความสะอาดห้องอยู่พอดีเลย หึหึ
            "หือ...?"
            "ก็ตามนั้นแหละ เอาล่ะ แล้วจะไปกันได้รึยังครับ?"
            เมื่อผมหันไปมองก็เห็นคนที่นั่งอยู่ส่งยิ้มบางมาให้
            เออ... ยิ้มก็เป็นนี่

            ตอนนี้ผม... ไม่สิ พวกผมอยู่ที่คอนโดฯของผมเองครับ ขืนพาหมอนี่กลับไปที่บ้านล่ะก็โดนซักจนซีดแน่ อ้อ ส่วนเรื่องแม่ผมไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ ผมจัดการโทรฯบอกเรียบร้อยแล้ว
            ถึงแม้ว่าตอนกลับไปก็คงต้องโดนขูดรีดข้อมูลชุดใหญ่แน่ ๆ ...
            ตอนนี้ผมให้ไอ้หมอนั่น... เอ่อ ผมหมายถึงให้คิดไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อน สภาพแบบนั้นนึกว่าไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ผมก็เลยต้องมานั่งคุ้ย ๆ ดูเสื้อผ้าที่เขาพอจะใส่ได้ โชคดีที่ขนาดตัวเขากับผมไม่ค่อยต่างกันเท่าไร และผมก็เป็นพวกชอบใส่เสื้อตัวหลวมๆอยู่แล้วด้วย พอผ่านไปสักพักนึงผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ
            "นี่ฮัก ไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำเหรอ แบบนี้ผมไม่ค่อยชินเท่าไรเลย"
            เรื่องมากจริงวุ้ย!
            "ก็มีเท่าที่คุณเห็นแหละครับ แล้วก็นี่เสื้อ..." พอผมหันไปทางอีกคนก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่
            ผมขอถอนคำพูดที่ว่าขนาดตัวเขากับผมไม่ต่างกันเท่าไรเมื่อกี้ครับ!
            ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพผ้าขนหนูคาดเอวผืนเดียวเหมือนผู้ชายทั่วไปหลังอาบน้ำเสร็จ แต่ที่ไม่ทั่วไปก็คือหุ่นของเขานี่แหละครับ ใครจะคิดล่ะว่าเขาจะซ่อนรูปแบบนี้! ที่สำคัญหน้านั่น...
            "หน้าผมมีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ?" เมื่อเห็นผมนิ่งไป ไอ้คนตรงหน้าก็ยื่นมือมาโบกไปมาอยู่ตรงหน้าผม
            คุณพระช่วย... นี่มันใช่คน ๆ เดียวกันแน่เรอะ!
            "เฮ้ ได้ยินผมรึเปล่า?"
            ใครจะคิดล่ะว่าหมอนี่จะหน้าตาดีขนาดนี้! เส้นผมดกดำ ดวงตาคมเรียวยาว แล้วนั่นจมูกหรือสันเขื่อน? ให้ตายสิ แค่อาบน้ำล้างคราบสกปรกออกถึงกับเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเรอะ!
            "ฮัก? เป็นอะไรไป?" กว่าผมจะหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ก็เห็นหน้าของอีกฝ่ายลอยเด่นอยู่ตรงหน้าแล้ว
            อย่าเข้ามาใกล้นักเซ่! มันเหมือนเป็นการเปรียบเทียบเลยนะนั่น...
            "เปล่า ๆ ไม่มีอะไร เอ้า เอาไปเปลี่ยนซะ" ผมขยับออกมา ก่อนจะยัดเสื้อผ้าให้เขา แล้วเตรียมตัวไปอาบน้ำ จะได้เข้านอนซะที
            ในที่สุดวันอันยาวนานนี้ก็จบลงซะที...

            25 ธันวาคม
            เช้าแล้ว...
            นอกจากวันนี้เป็นคริสต์มาสแล้วก็ยังเป็นวันหยุดด้วยครับ แต่วันนี้ผมก็ยังต้องตื่นเช้าอยู่ดี ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะไอ้ตัวต้นเหตุข้างหน้าผมนี่แหละครับ!
            ตอนนี้ที่ระเบียงห้องของผม เต็มไปด้วยฟองสีขาวโพลน...
            "โทษที ผมไม่คิดว่ามัน เอ่อ จะออกมาในสภาพนี้"
            "..."
            "ก็คุณบอกให้ผมจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเองนี่นา แล้วผมก็เห็นว่ามีเครื่องซักผ้าอยู่ตรงระเบียงก็เลย..."
            "ผมมีคำถาม"
            "?"
            "คุณใช้เครื่องซักผ้า... ไม่สิ ซักผ้าเป็นรึเปล่า?"
            "อา... ก็เคยเห็นมาบ้าง"
            "..." เคย 'เห็น' อย่างนั้นเรอะ!? ให้ตายสิ ถึงผมจะไม่ค่อยได้ใช้เจ้านี่เท่าไรเพราะส่งซักเอา แต่ก็จะมีซักเองบ้างตอนที่เร่งด่วน ทำให้มันยังใหม่ใช้งานได้ดีอยู่ สงสัยคงต้องได้เวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็คราวนี้ซะแล้วมั้งเนี่ย...
            "ซักไม่เป็นก็รอถามผมก่อนสิครับคุณ เฮ้อ... แล้วนี่ทำอีท่าไหนฟองถึงได้เยอะขนาดนี้ล่ะเนี่ย" ผมเตะๆฟองแถวนั้นออก แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปยังเครื่องซักผ้า ก็เห็นกล่องผงซักฟอกนอนแหมะอยู่บนพื้นเลยหยิบมันขึ้นมา
            หือ ทำไมถึงเบาแบบนี้ล่ะ? คราวก่อนยังเหลือเยอะอยู่เลยนี่
            "พอดีว่าผมเห็นมันเหลืออยู่แค่ครึ่งนึงเอง แล้วก็กลัวผ้าจะไม่สะอาดด้วย ก็เลยเทลงไปหมดเลย"
            "..."
            "แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้นี่นา เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมช่วย..."
            "คุณคิด"
            "หือ?"
            " กรุณาออกไปรอข้างนอกด้วยครับ"
            "ไม่ให้ผมช่วยเหรอ เผื่อจะได้เร็ว..."
            "ออกไปรอข้างนอก"
            "แต่..."
            "เดี๋ยวนี้เลย"
            "...ก็ได้"

            กว่าจะจัดการเจ้าฟองพวกนี้เสร็จก็สายแล้วครับ ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินเลยด้วย... แต่แล้วในตอนนั้นเองผมก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่าง กลิ่นมันเหมือน
            ...มีอะไรไหม้
            ผมเลยรีบเข้าไปในห้องก็เห็นคนที่ผมไล่ให้ออกไปก่อนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงโซฟากลางห้องประหนึ่งเป็นบ้านของตัวเอง
            "นี่คุณคิด... คุณได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ บ้างรึเปล่า?"
            "กลิ่นเหรอ ก็ไม่นี่... อ้อใช่ ผมทำอาหารเช้าเอาไว้ให้แล้วนะ"
            "อาหารเช้า?"
            "ใช่ ตอนนี้เหลือแค่อีกอย่างเดียว แต่คงใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ"
            เดี๋ยวนะ ใกล้จะเสร็จแล้ว? ก็หมายความว่ายังทำไม่เสร็จสินะ แล้วไหงเจ้าตัวถึงมานั่งสบายใจเฉิบอยู่ตรงนี้ล่ะ หรือว่า...
            "คุณกำลังจะบอกผมว่า คุณปล่อยอาหารไว้บนเตาอย่างนั้นเหรอ?"
            "ใช่"
            "รอให้มันเสร็จเอง คุณก็เลยมานั่งรออยู่ตรงนี้?"
            "ก็... ใช่"
            ไอ้หมอนี่...
            "มีอะไรเหรอ?"
            "คุณคิด... ตอบผมมา คุณทำอาหารไม่เป็นใช่ไหม?"
            "เอ่อ... ก็เคยเห็นมาบ้าง"
            "..." 
            "มีอะไรเหรอ? "
            "ตามผมไปที่ห้องครัว เดี๋ยวนี้เลย!"
            "ทำไมเหรอ?" ผมไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ แต่รีบพุ่งไปทางห้องครัวทันที
            ไอ้บ้าเอ้ย! ทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย!?
            และแล้ว โครงการทานมื้อเช้าของผมก็เป็นอันต้องพับเก็บไปก่อน...

            ตอนนี้ผมอยู่ในลิฟต์ครับ...
            ข้าง ๆ ผมนั้นมีตัวปัญหาที่กำลังหาทางชวนผมคุยอยู่หนึ่งคน
            "ไม่เอาน่าฮัก ยิ้มหน่อยสิ"
            "...ต่อไปนี้คุณห้ามหยิบจับอะไรในห้องผมเด็ดขาด"
            "ก็ได้... แล้วนี่เราจะไปไหนกันเหรอ?"
            "กินข้าว"
            พอออกจากลิฟต์ ผมก็เดินตรงไปยังประตูทางออกทันที แต่ก็โดนอีกคนที่เดินตามมาดึงตัวเอาไว้ก่อน
            "ไม่ไปเอารถเหรอ?"
            "นี่ คุณคิดว่าสภาพการจราจรในช่วงนี้เป็นยังไงครับ ขืนเอารถไปเองก็ได้กินข้าวเที่ยงแทนข้าวเช้าแล้วล่ะครับ"
            "แล้วจะไปกันยังไง?"
            ได้ยินดังนั้น ผมเลยหยุดเดินแล้วหันไปตอบอีกฝ่าย
            "รถเมล์"

            เฮ้อ...
            ตอนนี้ผมกำลังยืนโหนอยู่บนรถเมล์ครับ ซึ่งมันก็เป็นกิจวัตรประจำวันอันแสนปกติของผมและคนทั่ว ๆ ไป
            ...แต่คงไม่ปกติสำหรับคนแถวนี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม
            "ฮัก อยู่ ๆ ก็ขึ้นมาแบบนี้เลยจะดีเหรอ ไม่ต้องซื้อตั๋วก่อนเหรอ?"
            "ไม่ต้องครับ"
            "แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าต้องนั่งตรงไหน"
            "ตามอัธยาศัยครับ"
            "แต่นี่พวกเรายืนอยู่นะ แบบนี้ก็แปลว่ารับผู้โดยสารเกินอัตราน่ะสิ"
            "นี่มันรถเมล์นะคุณ ไม่ใช่รถตู้"
            "แต่..."
            "พอเลยคุณคิด ยืน ๆ ไปเถอะ ป้ายหน้าก็ถึงแล้ว เฮ้อ... คุณนี่จริง ๆ เลย เคยออกไปไหนบ้างไหมเนี่ย?"
            "ก็ออกนะ บ่อยด้วย"
            "แต่คงไม่ใช่วิธีแบบนี้สินะ"
            "ครั้งแรกเลยล่ะ" อีกฝ้ายยิ้มจนตาหยีตอบกลับมา
            ถึงไม่บอกก็รู้อยู่แล้วน่า...
            พอรถหยุด พวกผมก็รีบลงทันที ก่อนที่ผมจะเดินเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ ข้างป้ายรถเมล์ ก็เจอกับซุ้มร้านโจ๊กเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง
            "เข้ามาสิคุณ ไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ไม่หิวรึไง นี่ก็จะสายแล้วนะครับ" ผมหันไปเรียกอีกคน เมื่อเห็นว่าไม่ยอมเดินตามเข้ามาสักที
            "กินที่นี่เหรอ?"
            "ก็ใช่น่ะสิ นี่ร้านอร่อยเลยนะ"
            พอผมพูดแบบนั้น เขาก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาในร้าน มองซ้ายทีขวาทีทำท่าเหมือนจะสำรวจดูรอบ ๆ ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงข้ามกับผม
            ไม่ต้องเดาเลย ไม่เคยมาร้านแบบนี้แหง ๆ
            "จะสั่งอะไรครับ"
            "อา... เอาเหมือนคุณก็แล้วกัน"
            ได้ยินแบบนั้นผมก็มองหน้าเขา แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า 'แน่ใจนะ' พอเขาพยักหน้ายืนยัน ผมก็หันไปสั่งกับเด็กในร้านทันที
            "คุณมากินที่นี่บ่อยเหรอ?"
            "ก็เป็นบางวันครับ ผมกินก่อนไปทำงานน่ะ"
            "อ้อ แล้ว... คุณทำงานอะไร?"
            "พนักงานบริษัทธรรมดา ๆ ครับ" พอผมพูดจบ โจ๊กร้อน ๆ ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
            "หวังว่าคุณคงเคยกินโจ๊กหมูใส่ไข่นะ"
            "เคยสิ ตอนเด็ก ๆ กินบ่อยเลยล่ะ"
            "...นานไปนะครับ"
            "ผ่านมาไม่กี่ปีเองคุณ"
            "อ้อเหรอ"
            ผมลงมือกินไปได้สักสองสามคำ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นคนตรงหน้าผมหน้าแดงเถือกเลย
            "เป็นอะไรไปคุณคิด?"
            "...เผ็ด"
            "ห๊ะ? เผ็ดอะไร? พริกก็ไม่ได้ใส่นี่ครับ"
            "ไอ้นี่" พอผมมองตามนิ้วอีกฝ่าย ก็เข้าใจทันที
            "อ้อ แค่ขิงเอง"
            "ไม่ใช่แค่นั้นนะ มันมีพริกไทยด้วย"
            "อย่าบอกนะว่าคุณกินเผ็ดไม่เป็น?"
            "..."
            "คุณนี่มันเหลือเชื่อเลย ขิงกับพริกไทยแค่นี้เนี่ยนะ" ผมยื่นทิชชู่ไปให้อีกฝ่ายที่ตอนนี้น้ำหูน้ำตาเล็ดหมดแล้ว
            "ลองมาเป็นผมสิ" เจ้าตัวรับไป แล้วกระดกน้ำตามจนหมดแก้ว ผมเลยรินให้ใหม่ทันที เพราะกลัวไม่ทันใจคุณชายเขา ที่ตอนนี้ยังหน้าแดงเถือกไม่หายเลย
            "กินน้ำเยอะก็ยิ่งเผ็ดนะคุณ"
            "ทำไงได้ล่ะ..."
            "หึหึ"
            "ขำอะไรน่ะฮัก"
            "เปล่า... เอาล่ะ หายเผ็ดแล้วก็รีบกินต่อเถอะครับ" ผมอมยิ้มมองคนหน้าบูดตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังนั่งเขี่ยขิงกับส่วนที่มีพริกไทยออกอยู่
            รู้สึกเหมือนพาเด็กโข่งมากินข้าวเลย...


            // เดี๋ยวมาต่อจ้า
       
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 21:26:43 โดย AzeY.RWY »

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
[ต่อ]

            "แล้วนี่เราจะไปไหนกันต่อ?"
            "ตลาด"
            "ตลาด?"
            "ใช่ คุณจะกลับไปก่อนก็ได้นะ"
            "ไม่เอา ผมจะไปกับคุณ" ดูทำหน้าเข้าสิ รู้หรอกน่าว่าที่ไม่กลับไปก่อนเพราะไม่รู้จะขึ้นรถเมล์คนเดียวยังไงล่ะสิ
            "ก็ตามใจคุณ"
            "ว่าแต่ทำไมถึงต้องไปตลาด ทำไมไม่ไปซุปเปอร์มาเก็ตหรือห้างก็ได้"
            "แล้วทำไมถึงต้องไปซุปเปอร์มาเก็ตหรือห้างด้วยล่ะครับคุณคิด ตลาดที่ผมจะไปเนี่ย อยู่ใกล้ๆแถวนี้เอง เดินไปเดี๋ยวก็ถึงแล้ว"
            "แล้วคุณจะไปซื้ออะไร?"
            "ซื้อของสดสิคุณ ของในตู้เย็นที่ห้องผมหมดเกลี้ยงแล้วนะครับ" พอได้ยินผมพูดแบบนั้น ตัวต้นเหตุก็ทำหน้างอขึ้นมาทันที
            "ก็ผมไม่รู้นี่ว่ามันจะเป็นแบบนั้น"
            "ก็ใครใช้ให้คุณใส่ทุกอย่างที่มีลงไปทั้งหมดแบบนั้นล่ะครับ ถึงมันจะไม่ได้ไหม้ไปซะก่อน แต่พอเสร็จออกมาก็คงกินไม่ได้แน่ ๆ "
            "โอเค ๆ ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการไถ่โทษ คุณต้องแสดงฝีมือทำอาหารให้ผมทานด้วยนะ" พอพูดจบคนตรงหน้าก็หันมายิ้มหล่อให้ผม
            ห๊ะ? เดี๋ยวสิ คนที่ต้องไถ่โทษมันต้องเป็นไอ้หมอนี่ไม่ใช่เรอะ? แล้วไหงถึงกลายเป็นว่าผมต้องมาทำอาหารให้หมอนี่กินล่ะ?
            "คุณบอกเองนี่ ถ้าผมทำอาจจะออกมาในรูปแบบเดิมอีกก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องเป็นคนทำให้ผมกินแทนนะฮัก"
            เออ ก็มีเหตุผล
            ...รึเปล่าหว่า?
            ช่างมันเถอะ...
            "ว่าแต่คุณชอบทำอาหารเหรอฮัก?"
            "ก็ไม่ได้ชอบอะไรนักหรอก แต่มันต้องเอาตัวให้รอด ก็ผมอยู่คนเดียวนี่ จะให้กินข้างนอกหรือซื้อเข้ามากินทุกวันก็คงไม่ไหวหรอก อีกอย่างนาน ๆ ผมจะกลับบ้านทีด้วย" ...ถึงช่วงนี้จะเข้า ๆ ออก ๆ บ้านตัวเองบ่อยเกินไปเพราะไอ้เรื่องดูตัวของแม่ก็เถอะ...
           
            ตอนนี้พวกผมเดินเข้ามาในตลาดได้สักพักแล้วครับ ผมก็เดินดูของสดทั่ว ๆ ไปตามแผงร้านต่าง ๆ ผิดกับอีกคนที่เอาแต่มองซ้ายทีขวาที เดี๋ยวก็ชะเง้อมองนั่นทีมองนี่ที เจออะไรที่ตัวเองไม่เคยเห็นก็ถามเป็นเจ้าหนูจำไมเลย
            เหมือนพาเด็กมาเที่ยวเลยแฮะ...
            "ฮัก นั่นอะไรน่ะ?" ผมมองตามนิ้วที่อีกคนชี้
            "อ้อ นั่นน่ะเขาเรียกว่าน้ำตาลปั้นโบราณ สวยใช่ไหมล่ะ สมัยนี้หายากนะคุณ ดีจริง ๆ ที่ที่นี่ยังมีขายอยู่"
            "งั้นเดี๋ยวผมมานะ"
            "?" ผมยังไม่ทันได้ถามอะไร เด็กโข่งข้างๆผมก็ตรงดิ่งไปยังร้านขายน้ำตาลปั้นซะแล้ว เห็นยืนดูอยู่พักนึง แล้วก็ถือน้ำตาลปั้นสีสันสวยงามสองตัวกลับมา
            "อะ นี่ของคุณ"
            "ให้ผมทำไมเนี่ย" ผมมองเขาอย่างงง ๆ ที่อยู่ ๆ ก็ยัดน้ำตาลปั้นที่ซื้อมาอีกตัวใส่มือผม ...แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเงินผมนั่นแหละ
            "ก็มันเป็นแบบคู่นี่ ดูสิพอเอามือมาต่อกันแบบนี้ก็กลายเป็นรูปหัวใจแล้ว น่ารักจะตาย" ผมมองเจ้าหมีน้ำตาลปั้นในมือผม แล้วหันไปมองเจ้ากระต่ายน้ำตาลปั้นในมือของอีกคนข้าง ๆ ผม แต่ดูยังไงก็ไม่น่าจะคู่กันได้นะ หมีกับกระต่ายเนี่ย
            "แล้วทำไมของผมถึงเป็นหมีล่ะครับ?"
            "เมื่อก่อนมีคนชอบบอกว่าผมเหมือนหมี แล้วผมก็คิดว่าคุณเหมือนกระต่ายนี่"
            "ห๊ะ?" ผมเนี่ยนะ? แต่เดี๋ยวสิ บอกว่าผมเหมือนกระต่าย แต่ดันเอาเจ้าหมีนี่มาให้ผมกิน แล้วตัวเองกลับเอาเจ้ากระต่ายนั่นไปกินซะเองเนี่ยนะ อะไรของเขา
            พอผมกำลังจะหันไปถาม เจ้าตัวก็หัวเราะหึหึ แล้วเดินนำไปก่อน ปล่อยให้ผมยืนงงอยู่ที่เดิม ก่อนจะรีบเดินตามไป
            "อร่อยไหม?"
            "ก็โอเค พอหายคิดถึงบ้าง"
            "หวานไปหน่อย แต่ก็... อร่อยดี"
            "คุณชอบกินของหวานเหรอ?" ผมหันไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังละเลียดชิมเจ้ากระต่ายน้ำตาลปั้นในมืออย่างเอร็ดอร่อย
            "...เปล่า" พอพูดจบก็หันมามอง... ไม่สิหันมาจ้องผมเลยแหละ จ้องนานซะจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาออกมาก่อน
            "เอ่อ ไปกันต่อเถอะ ผมมีของที่ต้องซื้ออยู่อีกเยอะเลย" ผมงับหูเจ้าหมีน้ำตาลปั้นที่อยู่ในมือแกเก้อ แล้วรีบเดินนำไป
            ให้ตายเถอะ เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน...

            ตอนนี้สองมือของผมและคนข้าง ๆ ผมเต็มไปด้วยถุงนู่นนี่นั่นมากมาย แน่นอนว่าผมมาซื้อพวกของสดหรือไม่ก็พวกวัตถุดิบไปตุนเก็บไว้ แต่ที่เยอะมากมายซะขนาดนี้ก็เพราะคนข้าง ๆ ผมนี่แหละครับ เห็นอะไรแปลก ๆ ที่ตัวเองไม่เคยเห็นก็อยากกินอยากลองไปซะหมด แถมเวลาที่หมอนี่แวะร้านไหนก็จะได้ของแถมกลับมาเกือบทุกร้านเลย พอบอกว่าเยอะไปแล้วก็ดันอ้างว่าถือว่าฉลองวันคริสต์มาส จนสุดท้ายต้องมาเดินหอบของกันพะรุงพะรังซะขนาดนี้ และประเด็นคือนั่นมันเป็นเงินของผมทั้งหมดเลยนะครับนั่น...

            ถ้ากินไม่หมดนะ พ่อจะกระโดดถีบขาคู่เลยคอยดู

            แต่ที่แปลกอีกอย่างคือเวลาพวกผมเดินไปทางไหนก็จะมีแต่คนมอง ก็รู้อยู่หรอกนะว่าไอ้หมอนี่ มันหน้าตาดี แต่ว่านะ มองกันเยอะไปไหม? ผมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลาก็เหมือนกลายเป็นเงาไปเลย แล้วก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แวะร้านไหนทีก็คุยกับคนขายได้เป็นวรรคเป็นเวรเชียว รู้จักกันหมดทั้งตลาดแล้วมั้งนั่น
            "ร้อนไหมฮัก" ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเองเมื่อเห็นมือของคนที่ผมกำลังนินทาอยู่ในใจยื่นถุงน้ำอัดลมเย็นๆมาให้
            "นิดหน่อย ก็คุณเล่นแวะแทบจะทุกร้านเลยนี่"
            "หึหึ ถือว่าพาผมมาเที่ยวก็แล้วกัน"
            "ทำตัวเป็นเด็กไปได้นะคุณ"
            "ผมรู้นะว่าคุณก็สนุกเหมือนกัน เห็นเดินยิ้มตลอดทางเลยนี่ แล้วตอนนี้คุณก็ยังยิ้มอยู่นะ เผื่อคุณไม่รู้ตัว" ห๊ะ? ผมยิ้มเหรอ?
            "ใช่ ตลอดเลยล่ะ"
            ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวเลยล่ะ เดี๋ยวสิ นี่แสดงว่าสังเกตผมตลอดเวลาเลยเรอะ?
            "ใช่"
            เอ่อ... ทำไมทำเหมือนว่าอ่านใจผมได้อีกแล้วล่ะเนี่ย
            "อย่าลืมสิว่าคุณน่ะคิดอะไรก็ออกมาทางสีหน้าหมดเลย"
            "เอ่อ อื้ม กลับกันเถอะ"
            "เดี๋ยวฮัก" ผมกำลังจะเดินไป เขาก็ดึงมือผมไว้ซะก่อน
            "อะไรเหรอครับ" พอผมหยุด เขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนผมเผลอหดคอหนี
            "ทำหน้าบึ้งอีกแล้ว ผมสังเกตตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าคุณน่ะชอบทำหน้างอ ยิ้มสิ คุณยิ้มแล้วดูดีจะตายไป ผมชอบ"
            "..." เอ่อ... เดี๋ยว อยู่ๆก็มาพูดอะไรเนี่ย พอพูดจบแล้วก็เดินหนีไปเฉยเลย อะไรของเขากันนะ อยากจะแวะก็แวะอยากจะไปก็ไป ผมนี่เดินจนเมื่อยขาแล้วเนี่ย
            แต่ก็... ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะ

            พอพวกผมแวะกินมื้อเที่ยงเสร็จก็กลับทันที แต่มาถึงห้องได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี คนแถวนี้ก็รบเร้าให้ผมพาไปเที่ยวต่ออีก นี่คิดว่าตัวเองกำลังพักร้อนอยู่รึไง? แต่สุดท้ายผมก็แพ้ทางคนหน้าด้านจนได้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมกำลังขับรถอยู่...
            "นี่เรากำลังจะไปไหนกันเหรอฮัก?"
            "เดี๋ยวก็รู้" ผมขับออกมานอกตัวเมือง ใช้เวลาไม่นานเท่าไรก็ถึงที่หมาย
            "เอ้า ถึงแล้วครับคุณชาย" พอพวกผมลงจากรถ สายลมอ่อน ๆ เย็นสบายก็เข้าปะทะใบหน้าทันที รอบข้างอบอวลไปด้วยกลิ่นอายอันคุ้นเคย
            "ที่นี่มัน..."
            "ใช่แล้ว ทะเลไงล่ะ"
            "..."
            "เอาล่ะ ไปเดินเล่นกันเถอะ" ผมเดินนำอีกคนไปทางชายหาดที่ตอนนี้คึกคักและอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย
            พวกผมเดินคู่กันบนริมหาดไปได้สักพัก ผมก็สังเกตเห็นว่าคนข้าง ๆ ผมเงียบผิดปกติเลยหันไปถาม
            "เป็นอะไรไปคุณคิด ไม่ชอบที่นี่เหรอ?"
            "เปล่า ไม่ใช่ ผมแค่... คิดว่ามันวิเศษมาก"
            "?"
            "ผมไม่เคยมาทะเลน่ะ"
            "โกหกน่า" ไม่เคยมาทะเลเนี่ยนะ คน ๆ นี้... อยู่ในสังคมแบบไหนกันแน่นะ
            "แปลกใช่ไหมล่ะ"
            "ก็แปลกอยู่หรอก แต่ถ้าเป็นคุณก็คงไม่แปลกเท่าไร"
            "คงงั้น ...ว่าแต่ ที่ทะเลนี่มีอะไรให้ทำบ้างนะ"
            "ก็เยอะแยะครับ หันไปดูข้างหลังคุณสิ จะได้รู้ว่าคนอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง" ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้สังเกตว่าคนข้าง ๆ ผมไม่ได้เดินตามมาด้วย จนอีกฝ่ายเรียกผม
            "ฮัก"
            "หือ มีอะ..."
            ซ่า...!
            พอผมหันกลับไปก็เจอกับน้ำทะเลสาดเข้าเต็ม ๆ หน้าเลยครับ!
            "ถึงผมจะไม่เคยมาทะเล แต่ผมก็รู้นะ มาถึงทะเลทั้งทีก็ต้องเล่นน้ำสิถูกไหม ฮ่าฮ่า" พอพูดจบก็สาดน้ำใส่ผมอีกระรอกใหญ่ จะหลบก็ไม่ทันซะแล้ว
            "จะบ้าเรอะ เล่นน้ำในเดือนธันวาคมเนี่ยนะ คุณคิด! ไม่เล่นนะ เปียกหมดแล้วเห็นไหม!"
            "ผมไม่ได้เล่นสักหน่อย ผมเอาจริงต่างหาก ฮ่าฮ่าฮ่า"
            "ไม่เอาครับ! ผมต้องขับรถนะ" นี่ก็สาดมาจริง!
            "ขากลับผมขับให้น่า แต่ผมรู้นะว่าจริงๆแล้วคุณน่ะก็ไม่เคยมาทะเลเหมือนกัน"
            "อย่ามามั่วนะ หยุดสาดได้แล้วคุณคิด!"
            "ผมไม่เชื่อหรอก คนเคยมาอะไร มาอีกทีไม่ยักจะเล่นน้ำ ผมสาดมาก็ไม่สาดกลับ อ่อนจริงๆเลย!"
            อ่อน...?
            อ่อนงั้นเหรอ?
            มาหาว่าเราอ่อนอย่างนั้นเหรอ!?
            ไม่รู้จักไอ้ฮักซะแล้ว
            ได้!!!
            " รู้จักผมน้อยไปแล้วคุณคิด เอานี่ไปกินซะ!" ผมถลกแขนเสื้อ ใช้สองมือวักน้ำขึ้นมาแล้วสาดไปที่อีกคนทันที
            ให้รู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร!
            "อะไรกัน มีแรงแค่นี้เองเหรอฮัก! ของจริงมันต้องอย่างนี้ต่างหาก!" พอพูดจบ มวลน้ำมหาศาลก็เข้ามาปะทะตัวผมเต็ม ๆ เลย ไอ้หมอนี่... มันเอาแรงมาจากไหนเนี่ย!
            ไม่ได้การแล้ว
            "แค่ก... แค่ก ๆ !"
            "เป็นอะไรรึเปล่าฮัก" คิดทำหน้าตื่น ๆ แล้วรีบเข้ามาหาผม แต่ในจังหวะนั้นเอง...
            ผมก็สาดน้ำกลับเข้าไปเต็ม ๆ เลย
            "ขี้โกงนี่ฮัก! หลอกผมเหรอ ต้องเจอนี่หน่อยแล้ว!"
            "ฮ่ะฮ่ะ แน่จริงก็ตามผมมาให้ทันสิ" จะอยู่เฉย ๆ ทำไมล่ะครับ หนีสิ! ต้องไปตั้งหลักก่อนแล้วค่อยเอาคืน
            ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามีเด็กโข่งอยู่สองคนที่วิ่งเล่นสาดน้ำกันไปมาอย่างสนุกสนานอยู่ตรงริมชายหาด จนพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปในที่สุด
            "แฮ่ก แฮ่ก... เหนื่อยเป็นบ้าเลย..." ผมนั่งหอบอยู่บนผืนทราย ในขณะที่อีกคนกำลังนอนแผ่อยู่ข้างๆผม
            "ก็ฮักแรงน้อยเองนี่ ดูเมื่อกี้สิ วิ่งไม่ทันผมสักที ฮ่าฮ่าฮ่า"
            "หนวกหูน่า คุณทึกเกินไปต่างหาก"
            "ขอบคุณสำหรับคำชมครับ" ได้ยินแบบนั้น ผมก็หันไปมองค้อนคนข้าง ๆ ด้วยหางตา เรียกเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจากเจ้าตัวอีกครั้ง ก่อนที่เราจะไม่ได้พูดอะไรกันอีก ปล่อยให้บรรยากาศอันเงียบสงบโดยรอบเข้าปกคลุม นั่งมองทะเลที่ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั่งมองท้องฟ้าที่ยามอัสดงที่กลายเป็นสีส้มสวยงาม
            "พระอาทิตย์ตกดิน... สวยจังเลย"
            "อืม..."
            "แถวนี้ไม่มีต้นคริสต์มาสเลยแฮะ"
            "จะบ้าเหรอคุณ นี่มันทะเลนะ"
            "ก็ไม่แน่นะ ทะเลบางที่ยังมีต้นสนเลย"
            "คนละเรื่องกันเลยคุณ"
            "หึหึ"
            ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง สายลมอ่อน ๆ ยามสนธยาเข้ามาปะทะใบหน้าอย่างเงียบเชียบ ฝูงนกนับสิบบินผ่านห้วงนภาเพื่อกลับถิ่นตน เช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ แต่ไม่ใช่พวกผมสองคนในเวลานี้


            // เดี๋ยวมาต่อนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 21:29:35 โดย AzeY.RWY »

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
 [ต่อ]


            "คุณคิด... คุณมีปัญหาอะไรกับที่บ้านกันแน่?" ผมตัดสินใจถามออกไปในที่สุด ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะที่จะถามได้รึเปล่าก็ตาม
            "...คุณแน่ใจเหรอว่าอยากรู้"
            "บอกมาเถอะ เก็บเอาไว้ก็อึดอัดเปล่า ๆ ใช่ไหมล่ะ"
            " คุณนี่มันจริง ๆ เลย" เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง
            "ผม... ถูกบังคับให้แต่งงาน"
            "ห๊ะ?" ผมหันขวับไปหาคนข้าง ๆ ทันที
            "ตลกใช่ไหมล่ะ จะให้ไปแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แบบนั้นน่ะ มันบ้าชัด ๆ "
            "..."
            "ให้คนไม่ได้รักกันมาแต่งงานกันมาอยู่ด้วยกัน แบบนั้นมันจะไปมีความสุขได้ยังไง" พอเขาเงียบไปสักพัก ผมก็ตัดสินใจพูดขึ้นมา
            "แบบนั้นน่ะ... เหมือนกับผมเลยนะ"
            "อะไรนะ?" พอได้ยินผมพูดแบบนั้น คิดก็หันขวับมาหาผมทันที
            "ก็ไม่เชิงหรอก แต่ผมก็ถูกแม่จับไปงานดูตัวบ่อย ๆ อยู่เหมือนกัน" ผมพูดไปหัวเราะไป
            "แล้วตอนนี้คุณ...?"
            "เปล่า ผมชิ่งหนีทุกทีนั่นแหละ ก่อนเจอคุณเมื่อวานผมก็ชิ่งออกมาก่อนเหมือนกัน"
            "แล้วคุณทำยังไง?"
            "ก็ไม่ทำยังไง แค่บอกเหตุผลไปก็เท่านั้น"
            "เหตุผล?"
            "ใช่ บอกเหตุผลที่ผมยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ ก็เหมือนกับคุณนั่นแหละ แล้วก็ต้องรับฟังเหตุผลของผู้ใหญ่ด้วย แต่ล่ะคนล้วนมีเหตุผลของตัวเองอยู่นะ"
            "เหตุผลของแม่คุณคืออยากรีบอุ้มหลานเร็ว ๆ อะไรทำนองนั้นรึเปล่า"
            "เปล่าเลย"
            "ถ้างั้นอะไรล่ะ?"
            "แม่ผมบอกกับผมว่าที่อยากให้ผมแต่งงานเร็ว ๆ ก็เพราะว่าจะได้มีคนมาดูแลผม มาอยู่เคียงข้างผม ผมจะได้ไม่เหงาเวลาอยู่คนเดียว ตั้งแต่ผมบอกเหตุผลของผมให้แม่ฟัง และรับฟังเหตุผลของแม่ แม่ก็ดูไม่ค่อยจะจริงจังเท่าไรเวลาผมชิ่งหนี แต่เป็นเพราะผมยังไม่ยอมมีแฟนสักที ก็เลยโดนหิ้วไปงานดูตัว หรือพาไปเจอพวกลูกสาวของเพื่อนแม่อยู่บ่อย ๆ แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน"
            "อย่างงั้นเหรอ..."
            "คุณก็เหมือนกันนะคุณคิด ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเติบโตมาในครอบครัวแบบไหน แต่เชื่อเถอะ ทุกการกระทำ ทุกเหตุผลของพ่อแม่ ล้วนเต็มไปด้วยความหวังดีและความรักทั้งสิ้น คุณหนีมาแบบนี้ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ ไปเผชิญกับมันสิ ลองไปคุยกับพวกท่านดู บอกเหตุผลของเรา และรับฟังเหตุผลของพวกท่านดู"
            "ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพ่อเลย..."
            "เห็นไหมล่ะ" เขาเงียบไปพักนึง เหมือนกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
            "เข้าใจแล้วฮัก ผมได้คำตอบที่จะกลับไปบอกกับพ่อแล้ว"
            "อะไรเหรอ?" สิ้นคำถามของผม เขาก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แล้วแหงนหน้าขึ้นมามองผม
            "ผมจะบอกกับพ่อว่า... ผมเจอคนที่ใช่แล้ว" พอผมหันไปมองก็เห็นดวงตาคมเข้มเรียวยาวคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาในตาของผม ราวกับต้องการที่จะสื่ออะไรความนัยอะไรบางอย่าง ผมเลยเป็นฝ่ายเบนหน้าหนีมาแทน
            "เอ้อ... ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว" ผมถูจมูกแก้เก้อ รู้สึกหน้าร้อน ๆ อย่างบอกไม่ถูก หลังจากนั้นบรรยากาศโดยรอบก็ตกอยู่ในความเงียบ มีแต่เสียงของคลื่นทะเลอีกครั้ง
            ผมล้มตัวนอนลงบ้าง เงยหน้าขึ้นไปก็พบกับกลุ่มดาวระยิบระยับมากมายบนท้องฟ้าที่หาดูไม่ได้ในตัวเมือง
            "สวยจัง ดีนะคืนนี้ฟ้าเปิดเลยได้เห็นอะไรแบบนี้"
            "คุณดูดาวเป็นไหม?"
            "ก็พอได้ อย่างเช่น... นั่นน่ะ เรียกว่าสามเหลี่ยมฤดูหนาว" ผมชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า
            "ไหนอ่ะ"
            "นั่นไง สามจุดใกล้ ๆ กันตรงนั้นน่ะ สามเหลี่ยมฤดูร้อนเกิดจากการที่ดาวฤกษ์สามดวงในแต่ล่ะกลุ่มดาวลากมาเชื่อมต่อกัน อย่างนั่นน่ะเรียกว่าดาวบีเทลจุสในกลุ่มนายพราณ"
            "นั่นน่ะเหรอ"
            "นั่นมันดาวศุกร์คุณ ตรงนั้นต่างหาก" ผมจับมือของอีกคนที่ชี้มั่วซั่วไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง
            "แล้วนั่นก็ดาวซิริอสในกลุ่มหมาใหญ่" ผมจับมือเขาลากไปยังดาวที่อยู่ใกล้ ๆ กันเมื่อมองด้วยตาเปล่าอีกดวง
            "ไม่เห็นเหมือนหมาเลย"
            "จิตนาการน่ะคุณ รู้จักไหม? แล้วก็สุดท้ายดาวโพรซิออนในกลุ่มดาวหมาเล็ก" ผมจับมือคนข้างๆลากเป็นรูปสามเหลี่ยมไปมา
            "แล้วขาว ๆ ฟ่า ๆ ที่ตัดผ่านสามเหลี่ยมฤดูร้อนนั่นคืออะไรน่ะฮัก เมฆเหรอ?" คิดจับมือผมชี้ไปยังตำแหน่งที่เขาหมายถึง
            "เปล่า นั่นมันทางช้างเผือก สวยใช่ไหมล่ะ หาดูยากนะเนี่ย ถ้าท้องฟ้าไม่โปร่งจริง ๆ ก็คงไม่เห็น" ผมชี้ตามแนวที่ทางช้างเผือกที่ผ่านเป็นทางยาวอยู่บนท้องฟ้า
            "แล้วมีกลุ่มดาวน้ำตาลปั้นไหม?"
            "ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไงกันเล่า"
            "อ้าวเหรอ เสียดายจัง..."
            "คุณนี่มัน... "
           "หึหึ ว่าแต่ฮัก... คุณเคยเชื่อเรื่องซานตาคลอสไหม? "
           "หือ ซานตาคลอสเหรอ อืม... ไม่รู้สิ ซานตาคลอสกับวันคริสต์มาสสำหรับผมก็คือวันดี ๆ วันหนึ่งที่จะได้เห็นแสงไฟกับของสวย ๆ งาม ๆ กับของขวัญที่บางคนในบริษัทผมเอามาให้กันนั่นแหล" ผมหันไปมองเขาที่อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อ ๆ
           "ตอนผมยังเด็ก ทุกคืนวันคริสต์มาสอีฟผมจะตื่นเต้นมาก จนบางปีนี่แทบไม่ได้นอน เพราะมัวแต่รอจับคุณลุงซานต้า อยากจะขอของขวัญที่อยากได้ แต่สุดท้ายก็เผลอหลับไปทุกที"
           ผมนึกภาพเด็กชายตัวน้อยนั่งตาแป้วรอคุณลุงซานต้าเพื่อขอของขวัญจากเขา จนอดยิ้มขำออกมาไม่ได้
           "แล้วคุณอยากจะขออะไรล่ะ แฟนเหรอ? " ได้ยินแบบนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
           "นั่นสินะ ใคร ๆ เขาก็ขอแบบนั้น แต่... สำหรับผมไม่จำเป็นหรอก"
           "หือ? " ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
           "ก็ปีนี้ผมก็ได้ของขวัญแล้วด้วย แล้วอีกอย่าง... ไม่จำเป็นต้องให้คุณลุงซานต้าช่วยหรอก"
           คราวนี้ผมได้แต่เลิกคิ้วสูงกว่าเดิม
           "แค่ให้คุณช่วยก็พอแล้ว" ว่าพลางหันมายิ้มบาง ๆ ให้ผม
           ดะ เดี๋ยวนะ... ขะ เขากำลังหมายถึงอะไร
            "เอ่อแล้ว... เป็นยังไงล่ะ มาทะเลเป็นครั้งแรก ชอบไหม?" คราวนี้เป็นผมเองที่อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
            "อ้อ ชอบสิ... ชอบมากเลย" แล้วเขาก็หันกลับมายิ้มให้ผม จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผมอีกแล้ว
            สะ สายตานั่นมันอะไรกันน่ะ
            นี่มันยิ่งกว่าเดิมอีก!
            พอเห็นแบบนั้น ผมก็เลยหันหน้าหนี ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าพวกเราต่างคนต่างเงียบ เงยหน้ามองดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า เก็บความประทับใจในช่วงเวลานี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
            "ฮัก"
            "หืม?"
            "ขอบคุณนะ"
            "ขอบคุณเรื่องอะไร"
            "ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง คุณเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้จักกับอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้รับรู้ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทั้งรถเมล์ที่ผมเพิ่งรู้ว่าไม่ต้องซื้อตั๋วไว้ก่อน ทั้งโจ๊กใส่ไข่ที่เผ็ดสุด ๆ ตั้งแต่ที่เคยกินมา ทั้งน้ำตาลปั้นแสนอร่อยที่ผมไม่เคยเห็น ทั้งทะเลที่ผมไม่เคยได้เหยียบมาก่อน ทั้งดวงดาวมากมายบนท้องฟ้าที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะสวยงามและมีเรื่องราวน่าสนใจขนาดนี้ และที่สำคัญ..." เขาเว้นจังหวะ แล้วหันหน้ามาหาผม ก่อนที่จะส่งยิ้มมาให้ "ขอบคุณ... ที่ทำให้เราได้เจอกัน ขอบคุณนะฮัก"
            เราจ้องตากันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะรู้สึกร้อน ๆ ที่หน้าขึ้นมาอีกแล้ว
            หวา... นี่มันอะไรกันเนี่ย...
            "ผะ... ผมว่าเรากลับกันดีกว่า นี่ก็มืดมากแล้ว" ผมดีดตัวลุกขึ้น ก่อนที่คนข้าง ๆ ผมจะลุกตามมา
            "นั่นสินะ ไม่มีคนเลย"
            "ก็เพราะคุณนั่นแหละคุณคิด มัวแต่สาดน้ำใส่ผมอยู่ได้ เอาล่ะ กลับกันได้แล้ว"
            "ฮัก"
            "หือ?"
            "ผมไม่เคยเชื่อมาก่อน จนกระทั่งในวันนี้... การที่เราได้เจอกัน อาจจะเป็นเพราะโชคชะตา หรือพรหมลิขิตก็ได้ แล้วก็... ตอนนี้คุณดูเป็นกันเองกับผมมากขึ้นด้วย ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณ วันนี้เป็นวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดในรอบหลายปีของผมเลย"
            "ยะ... อยู่ ๆ ก็พูดอะไรน่ะคุณ กะ... กลับได้แล้ว" เอาอีกแล้ว... อาการแบบนี้
            "ฮัก"
            "อะไรอีกล่ะคุณคิด?" นี่ก็เรียกจัง ผมหันขวับกลับไปหาอีกฝ่ายทันที
            "ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้ว เวลาที่คุณเรียกชื่อผมน่ะมันแปลก ๆ อยู่นะ"
            "แปลกยังไง ก็คิดไง คิดที่แปลว่าคิดหรือแปลว่าเด็กไม่ใช่เหรอ?"
            "เปล่า..." เขาพูดแค่นั้นก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผม
            "ชื่อของผมน่ะคือ คิส..." และแล้วเขาเดินเข้ามาประชิดตัวผมในที่สุด
            "ที่แปลว่า... จูบ"
            พูดจบเจ้าของชื่อก็ยื่นหน้าเข้ามา จนตอนนี้ปลายจมูกของเราห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนฯ ผมยืนแข็งเป็นหินอยู่กับที่ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก ดวงตาจ้องมองอีกฝ่ายที่มองกลับมาเหมือนกัน ผมเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในดวงตาของเขา แล้วเขาเองก็คงเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในดวงตาของผม เราต่างเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในดวงตาของกันและกัน จนในที่สุดก็ไม่มีช่องว่างระหว่างเราอีกต่อไปแล้ว...
            ในขณะที่ริมฝีปากทั้งสองกำลังจะสัมผัสกันเพียงชั่ววินาที... เขาก็เป็นฝ่ายยิ้ม แล้วถอยห่างออกไปก่อน
            "เอ้า กลับกันเถอะฮัก" ผมมองตามแผ่นหลังของเขาที่เดินนำไปก่อน
            ตอนนี้ผมรู้สึกก้าวขาไม่ออก มือไม้เย็นเฉียบ ดวงตายังคงเบิกกว้าง รู้สึกร้อน ๆ ที่หน้า ที่สำคัญ... ทำไมหัวใจถึงตื่นแรงเหมือนไปวิ่งมาขนาดนี้ล่ะเนี่ย
            เมื่อกี้... มันอะไรกัน
            ไม่ไหวแล้วแบบนี้... อาการหนักแล้ว...
             แต่ก็...
             ...เป็นคืนวันคริสต์มาสที่ไม่เลวนะ

            หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นก็ผ่านไปอาทิตย์นึงแล้ว คิด เอ่อ... คิสตัดสินใจที่จะกลับบ้านไปคุยกับพ่อในเช้าวันต่อไป ซึ่งผมก็สนับสนุนแบบนั้น เพราะอยากให้เขาได้กลับไปเคลียร์กับที่บ้านเร็ว ๆ
            พูดก็พูดเถอะ นึกถึงชื่อหมอนี่ทีไร ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นที่ทะเลก็ย้อนกลับมาฉายวนซ้ำในหัวผมทุกทีเลย... ดูท่าจะเป็นเอามากนะเนี่ย ผมน่ะ
            ตอนนี้ผมอยู่บ้านครับ... เตรียมไปงานวันเกิดเพื่อนของแม่กับแม่เย็นนี้ ซึ่งพนันได้เลยว่าเพื่อนของแม่คนนี้ต้องมีลูกสาวแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่หนีบผมที่เอาแต่ทำหน้าบูดตลอดเวลาที่มีงานเลี้ยงไปด้วยหรอก
            ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงไปที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน วันนี้เป็นวันหยุด ผมก็เลยตื่นสายเป็นพิเศษ
            "วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ?" ผมถามป้าแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารอยู่
            "ตื่นแล้วเหรอคะหนูฮัก วันนี้ป้าทำโจ๊กหมูใส่ไข่ของโปรดของหนูฮักไว้ให้ด้วย"
            "ขอบคุณครับ ว่าแต่... แม่ล่ะครับ?"
            "ออกไปทำผมตั้งแต่เช้าแล้วล่ะจ้ะ" ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
            "วันนี้คุณพ่อจะกลับมาแล้วสินะคะ"
            "เห็นแม่ก็บอกแบบนั้นเหมือนกันครับ" ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในมือก่อนที่จะนึกขึ้นได้ "อ้อ โจ๊กของผมไม่ต้องใส่ขิงกับพริกไทยนะครับ"
            "อ้าว แปลกจัง นั่นเป็นของโปรดของหนูฮักเลยนี่นา"
            "มัน... เผ็ดน่ะครับ" พอพูดแบบนั้นผมก็ยิ้มขำกับตัวเอง นึกถึงคนบางคนขึ้นมาทันที
            ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ... คุณคิส
            ปี๊น!
            "สงสัยจะกลับมาแล้วล่ะค่ะ"
            "เดี๋ยวผมไปดูเองครับ" ผมลุกขึ้น แล้วเดินออกเปิดประตูบ้าน ก็เห็นแม่ของผมกำลังลงจากรถ หอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มไปหมด
            "ไปชอปปิงมาด้วยเหรอครับเนี่ย?"
            "แน่นอนสิจ๊ะ จะพลาดได้ยังไง"
            "มาครับผมช่วย"
            "ไม่ต้องๆจ้ะ ไปช่วยแม่รับแขกเถอะ แม่พาเพื่อนมาด้วยน่ะ ฝากด้วยนะตาฮัก เดี๋ยวแม่เอาของไปเก็บก่อน" ผมมองตามแม่จนเข้าไปในบ้าน แล้วเดินไปหาเพื่อนของแม่ที่เพิ่งลงจากรถมา
            "สวัสดีครับคุณน้า" ผมยกมือไหว้แล้วเชิญเพื่อนของแม่เข้าไปในบ้าน
            "สวัสดีจ้ะ ดูสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนานโตขึ้นเยอะเลยนะ หล่อเหมือนพ่อเราไม่มีผิดเลย"
            "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ" ผมยิ้มแหยกลับไป ถึงจะจำไม่ได้ก็เถอะว่าเป็นเพื่อนของแม่คนไหน แต่ดูท่าทางจะรู้จักกับพ่อผมด้วย ผมเลยเออออไปก่อน
            "เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะครับ"
            "อ๋อไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แต่ว่าน้าฝากให้ช่วยไปดูลูกน้าให้ทีได้ไหม เห็นว่าจะขับรถตามมาน่ะ กลัวจะมาไม่ถูก หนูฮักช่วยไปดูให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?"
            ห๊ะ?
            นี่เดี๋ยวนี้แม่ผมถึงขนาดพาลูกสาวเพื่อนมาดูตัวถึงบ้านเลยเรอะ
            ร้ายกาจ...
            ปี๊น!
            "อ้าว สงสัยจะมาถึงแล้ว"
            "เดี๋ยวผมไปดูให้ครับ" ผมยิ้มค้าง แล้วเดินออกมาเปิดประตูบ้านให้รถของลูกสาวเพื่อนแม่เข้ามา
            หนีไม่พ้นสินะวันนี้...
            "เชิญครับ" ผมเปิดประตูรถให้อีกฝ่ายลงมา ซึ่งตอนนี้ผมก้มมองพื้นเพื่อทำใจอยู่ครับ แต่แล้วในระหว่างนั้นเอง...
            "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ... ฮัก"
            เสียงนี้มัน...
            ผมเงยหน้าขึ้นทันที ก็พบกับใบหน้าอันคุ้นเคยที่แสนคิดถึง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าดวงตาของผมจะเบิกกว้างมากแค่ไหน หรือปากของผมจะฉีกรอยยิ้มกว้างมากเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบเท่าได้กับความรู้สึกอันท่วมท้นและจังหวะการเต้นของหัวใจของผมที่กำลังพองโตอยู่ในตอนนี้ได้
            ผมเชื่อแล้ว... ผมเชื่อแล้วจริง ๆ ผมเชื่อที่คุณบอกในวันนั้นแล้วจริง ๆ
            ...คุณคิส

            แม้กาลเวลาจะผ่านเลยไปนานเท่าไร แต่ด้วยพลังแห่งโชคชะตาและพรหมลิขิตก็ทำให้ทั้งสองคนโคจรมาพบกันอีกครั้งประหนึ่งกลุ่มดาวบนฟากฟ้าที่ไม่ว่าเมื่อไรก็มีกันและกันตลอดมา และต่อจากนี้ไป เขาทั้งสองจะเป็นคนกำหนดโชคชะตาของกันและกันภายใต้อ้อมกอดและรอยจูบแห่งรัก

            แล้วคุณล่ะ เจอโชคชะตาอันหอมหวานของตัวเองแล้วรึยัง?
           
 

- END of BEGINNING -
Next Chapter >> Coming Soon



สวัสดีค่า AzeY.RWY หรือเรียกว่าเอซก็ได้ค่า
เป็นนักเขียนหน้าใหม่ค่ะ เพิ่งเล่นเล้าครั้งแรกเลย หลังจากสิงมานาน 555555
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่แต่งขึ้นเลยค่ะ เนื้อเรื่องเน้นสไตล์เรื่อยๆ ชิวๆ
ตอนแรกกะไว้ว่าเป็นแค่เรื่องสั้น ไปๆมาๆเลยทำเป็นซีรี่ส์เรื่องสั้นจบในตอนเลยดีกว่า 555
มีประมาณไม่ถึง 10 ตอนนะคะ จากชื่อเรื่องก็น่าจะเดากันได้ว่าจะมาเป็นเทศกาลนะคะ 555
จะ(พยายาม)มาทยอยลงน้า ต่อให้มาลงช้า ก็จะลงย้อนหลังให้แน่นอนค่า
ซึ่งอาจจะหายไปบ้างเพราะงานเยอะมากค่ะ T T ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
แล้วก็ขอฝากเนื้อฝากตัว ฝากหัวใจ แต่ไม่ฝากตังค์ (ฮา) ด้วยนะคะ
มีอะไรแวะไปคุยกันที่แฟนเพจอันเงียบเหงา(?)ได้เลยค่า
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

- AzeY.RWY -


 
:katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2016 22:33:22 โดย AzeY.RWY »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #4 เมื่อ11-01-2016 00:33:54 »

มีตอนพิเศษมั้ยคะ   :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #5 เมื่อ11-01-2016 12:25:28 »

คุณคิสสสสสส
ขอตอนพิเศษด้วยคน อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ คึคึ

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #6 เมื่อ17-01-2016 14:51:43 »

ละมุนดีค่ะ ถ้ามีตอนพิเศษก็ดีนะ   :3123:

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #7 เมื่อ17-01-2016 17:57:18 »

น่ารักมากเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคนแต่ง

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #8 เมื่อ05-02-2016 18:07:36 »

มีตอนพิเศษมั้ยคะ   :pig4:

ถ้าว่างแล้วจะมาต่อค่า >~<

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #9 เมื่อ05-02-2016 18:08:48 »

คุณคิสสสสสส
ขอตอนพิเศษด้วยคน อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ คึคึ

ถ้าว่างแล้วแต่งต่อแน่นอนค่า ขอบคุณมากๆนะคะที่ติดตาม ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-02-2016 18:08:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #10 เมื่อ05-02-2016 18:09:41 »

ละมุนดีค่ะ ถ้ามีตอนพิเศษก็ดีนะ   :3123:

ขอบคุณมากค่า ตอนพิเศษรอหน่อยนะคะ >|<

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #11 เมื่อ05-02-2016 18:10:44 »

น่ารักมากเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคนแต่ง

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเช่นกันค่า ดีใจมากเลย >_<

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #12 เมื่อ05-02-2016 19:27:05 »

น่ารักดีค่ะ ละมุนมากเลยยยยยย  :impress2: o13

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #13 เมื่อ05-02-2016 21:18:09 »

อ่านแล้วอยากได้ตอนพิเศษเลย
อยากอ่านตอนมุ้งมิ้ง

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #14 เมื่อ01-08-2016 13:47:15 »

น่ารักดีค่ะ ละมุนมากเลยยยยยย  :impress2: o13

ขอบคุณมากเลยค่า ><

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
Re: [Short Story] Attack on Destiny by AzeY.RWY *END*
«ตอบ #15 เมื่อ01-08-2016 13:48:07 »

อ่านแล้วอยากได้ตอนพิเศษเลย
อยากอ่านตอนมุ้งมิ้ง

เดี๋ยวว่างแล้วจะมาต่อให้เลยนะคะ ><

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น่ารักกกกกกกกกกกก ชอบคิสอ่ะ สกิลเนียนเต็มแม็กแน่ๆ เนียนเกิ๊นนนนนนนนนนนนน

รอตอนพิเศษค่าาาาาา :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ AzeY.RWY

  • AzeY.RWY
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • AzeY.RWY
รีไรท์เนื้อหาให้เหมาะสมเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสค่า
แล้วเจอกันปีใหม่นะคะ  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด