Part 2 สองหนุ่มลูกสมุนอย่างนายฮูโต๋และและนายเมฆากรกำลังนั่งสุมหัวกันอย่างลับๆ โดยปล่อยให้จ่าฝูงตัวเล็ก นั่งอมยิ้มน้อยๆกับโทรศัพท์มือถืออยู่คนเดียว
อันที่จริงพวกเขาสองคนสงสัยกันมาซักพักแล้วล่ะ ว่าสาเหตุที่ทำให้เสือยิ้มยาก(ในความรู้สึกของคนทั่วไป)เกิดอาการเหมือนคนกำลังอินเลิฟนี่จะใช่ ภาคิน รึเปล่า เพราะตั้งแต่ได้รวมกลุ่มกันวันนั้น พอวันรุ่งขึ้นมันก็บอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าได้ไลน์ของภาคินมาแล้ว ซึ่งแรกๆก็ดูเหมือนไม่มีเกิดขึ้น แต่พอผ่านไปหลายวันอาการอมยิ้มกับโทรศัพท์ก็เกิดขึ้น ทำเอาพวกเขาเกิดอาการสงสัยปนอยากเสือกว่า พวกนั้นมันถึงขั้นไหนกันแล้ว
สุดท้ายเป็นฮูโต๋ที่อดถามขึ้น “มึงกับคินนี่คุยกันตลอดเลยเปล่าวะ”
จ่าฝูงเงยหน้าจากโทรศัพท์เลิกคิ้วใส่ให้ แล้วก็ก้มหน้าก้มตากดมือถือต่อ แต่ปากเล็กๆก็เอ่ยตอบเพื่อนรักไป
“ก็เรื่อยๆ ว่างก็ตอบ” ยักไหล่ส่งๆให้แล้วจมปลักกับโลกส่วนตัวต่อ
โต๋และกรมองหน้ากันแล้วกระพริบตาปริบๆ บทจะง่ายก็ง่ายขนาดนี้เลยหรอ ทั้งๆที่เพื่อนรักของพวกเขาแอบชอบภาคินมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้เดินหน้าจีบหรือทำคะแนนแต่อย่างใด เพราะว่าเป็นผู้ทั้งคู่ มันคงจะดูไม่ดีสำหรับทั้งคู่ และเพื่อนตัวเล็กก็ไม่ได้มีรสนิยมเป็นเกย์ มันก็เลยตีความรู้สึกชอบนั้นว่าเป็นแนวปลื้มไอดอลมากกว่า
แต่นับวันๆเข้า ความรู้สึกก็ไม่จางหายไป ยิ่งได้ฟอลโล่วไอจี ตามในเฟส ตามในทวิต เพื่อนของเขาก็ยิ่งถลำลึกเกินกว่าจะก้าวออกมาได้ แต่ก็นั้นแหล่ะ เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้คืบหน้าจนล่วงเลยมาจนถึงปี 2 ซึ่งพวกเขาสองคนคิดว่ามันอาจจะยอมแพ้ก็เป็นได้
แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น คนอย่างมันนี่ทำบุญด้วยอะไรวะ ….
เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “คินชวนกินข้าวกลางวัน ไปด้วยกันปะ” เอ่ยถามแล้ววางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะไม้ ก่อนจะหยิบชีทเล่นหนามานั่งอ่านแทน
“เอาจริงๆนะ มึงอยากให้พวกกูไปปะ” โต๋ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง โรมกลอกตาใส่เพื่อน ในใจก้ไม่อยากชวนมันไปด้วย เผื่อมันปากหมาเผาเขาต่อหน้าคินนี่จบเห่ทันที แต่อีกใจหนึ่งถ้ามีพวกมันไปด้วยจะได้รู้สึกเหมือนมีพรรคพวกด้วยล่ะมั้ง ...
“งั้นไม่ต้องไป” ว่าแล้วก็ทำปากคว่ำใส่ ร้อนไปถึงเพื่อนที่กำลังเก๊กหน้าจริงจัง ต้องมาง้อถึงที่
“โห ล้อเล่นนน กูนึกว่าพวกกูจะไปเป็นกขค.ไง” โต๋รีบบีบนวดแขนเล็กอย่างเอาใจ
กรได้แต่ส่ายหน้าขำๆ สองคนนี้แม่งตลกชิบหาย ขอถอนตัวจากการเป็นเพื่อนพวกมันตอนนี้ทันไหมเนี่ย
แล้วทั้งสามเดินเข้าโรงอาหารของมหาลัย นัยน์ตาใสของโรมสอดส่องหาคนชวน แต่แทบไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะโต๊ะที่ภาคินแอนด์เดอะแก๊งค์นั่งอยู่ ใกล้ประตูทางเข้าแค่ไม่กี่ก้าว แถมออร่าของเดือนมหาลัยนั้นมองข้ามได้ที่ไหน
“หวัดดี” อาร์ตเอ่ยทักร่างเล็กและเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนของร่างเล็กด้วย
“โย่! กูชื่อโต๋ ส่วนนี่กร” ฮูโต๋ผู้ร่าเริงเอ่ยทักตอบ ยกมือทักคนรอบโต๊ะประหนึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ก่อนแนะนำตัวเองและเพื่อนสนิท
“กูอาร์ต นั่นกาย นั่นฟิล์ม ส่วนไอหล่อนั่น น่าจะรู้จัก ฮ่าๆ” อาร์ตเองก็ไม่ต่างกัน ถ้าอยู่ด้วยกันคงปวดหัวพิลึก
โรมยิ้มน้อยๆให้คิน ก่อนจะถูกเพื่อนตัวดียัดเยียดให้ไปนั่งข้างคนหล่อ โรมทำเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆในลำคอแต่ก็ยอมนั่งแต่โดยดี
ถึงไม่ทำเขาก็เลือกที่จะไปนั่งอยู่แล้วน่า….
“กินไรกัน” อาร์ตถาม
“กูจะไปกินผัดไทวุ้นเส้นร้าน8 ” โต๋
“เหมือนกัน” กร
“อยากกินสปาเก๊ตตี้ผัดขี้เมา” กาย
“กูเย็นตาโฟ” ฟิล์ม
ก่อนที่สายตาของอาร์ตจะส่งมาที่โรมและภาคิน
“ข้าวมันไก่ทอด” ทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน สร้างความแปลกใจให้คนที่เหลือ แต่ภาคินลับยกคิ้วให้คนตัวเล็กที่หลบสายตาหนีเป็นอันที่รู้กันสองคน
จากนั้นก็ทิ้งให้กาย หนุ่มหน้าหวานเฝ้าโต๊ะเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าว
“ทำไม เงียบจัง หืม?” ภาคินถามคนตัวเล็กที่มาด้วยกัน ในขณะที่ยืนต่อแถวซื้อข้าวอยู่หน้าร้านข้าวมันไก่
ทั้งๆที่ในไลน์ก็คุยจ้อแท้ๆ แต่พอเจอหน้ากันตรงๆ คนตัวเล็กกลับเงียบเป็นเป่าสาก
“ก็..ไม่รู้จะคุยอะไร~” โรมตอบอ้อมแอ้ม สารภาพตรงๆเลยว่า เขาโคตรเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งมายืนใกล้ๆกันแล้วมือไม้ดูจะเกะกะไปเลยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่สรรหาคำพูดมาพูดเลย แค่บังคับให้หัวใจเต้นให้เบาลงยังทำไม่ได้เลย
“ในไลน์คุยออกจะเยอะ” เสียงพึมพำของภาคินเบาๆ โรมเม้มปากแน่น ครั้นจะเปิดปากพูด ก็ถึงคิวสั่งข้าวของคนตัวสูงพอดี
“ข้าวมันไก่ทอดสองครับ” คนหล่อดรกรีเดือยมหาลัยสั่งเสียงหวาน แถมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจให้แม่ค้าเขินเล่นอีก และนั่นก็ทำให้ทั้งคู่ได้เนื้อไก่ทอดแบบพิเศษในราคาธรรมดามาแทน
ทั้งคู่เดินกลับมาที่โต๊ะ โดยมีโรมที่ถือจานข้าวมันไก่สองมือ กับภาคินที่รับหน้าที่ถือถ้วยน้ำซุปร้อนๆที่ส่งควันฉุยลอยไปในอากาศ ระหว่างทางที่มาแอบแลเห็นสาวๆยกมือถือขึ้นถ่ายรูปคนหล่อตลอดทาง คนตัวเล็กนึกฉุน
เขาหวงนะ!จนมาเจอคู่หูอาร์ต-โต๋ ที่ไม่รู้ไปซี้กันตอนไหน เพิ่งเดินออกมากจากโต๊ะ
“เอ้า มาพอดี จะเอาน้ำอะไร”
“เอาน้ำแดง” ภาคินตอบ
“เหมือนเดิม” เป็นอันที่รู้กันระหว่างเพื่อนสนิทอย่างโต๋ หนุ่มลูกครึ่งจีนแต่ตาสองชั้น พยักหน้ารับ แล้วพากันไปที่โซนขายน้ำ
“กินน้ำอะไรหรอ” ภาคินเอ่ยถามดื้อๆ โรมชะงักเล็กน้อย เหลือบตามองคนหน้าหล่อที่มองมาทางเขา
“โกโก้ปั่น” ได้ยินเสียงตอบรับและหัวเราะในลำคอของอีกฝ่าย สร้างความงุนงงและความเขินให้กับคนตัวเล็กไปพร้อมกัน
“นานอ่ะ คนเยอะเหรอ” กายถาม นัยน์ตากลมมองที่ทั้งคู่อย่างสงสัย
“ก็นิดหน่อยน่ะ” เป็นโรมที่ตอบ กายพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะยิ้มแฉ่งมาให้ แล้วหันมาสนใจสปาเก็ตตี้ในจานตัวเอง
บรรยากาศบนโต๊ะระหว่างคณะวิศวะและคณะวิทยาเต็มไปด้วยเสียงเฮฮา คู่หูอาร์ต-โต๋ต่างตบมุขที่ว่าไม่มีใครยอมใคร ยิ่งอาร์ตที่อย่างกับชวนชื่นคาเฟ่ เพราะสรรหามุขกับเรื่องตลกพาให้เพื่อนใหม่หัวเราะกันข้าวกระจาย ส่วนคนที่เหลือก็มีพูดคุยกันบ้าง แต่เล่นใหญ่กว่าสองคนนั้นดูท่าจะไม่มี
.
.
.
.
.
มือเล็กเงยหน้าขึ้นมาจากชีท หลังโทรศัพท์มือถือขึ้นแจ้งเตือนของไลน์ พอเห็นชื่อคนส่ง ก็รีบคว้ามาตอบทันทีทันใด
23:40 นอนยัง ?
23:40 ยังอ่ะ
23:41 แล้วทำอะไรอยู่?
23:42 คุยกับคินไง
23:42 จริงเหรอครับ
23:43 จริงครับ
23:45 555 พน.ดูหนังกันไปไหม? อาร์ตมันเบี้ยวไม่ไป
23:46 ซะงั้น แล้วดูเรื่อง?
23:50 ไม่รู้สิ ตามใจโรม
23:51 เอ่ออออ (สติกเกอร์บราวน์หันหน้าเข้ากำแพง)
23:51 แล้วว่างรึเปล่า
23:52 ก็ว่างนะ
23:52 งั้นไว้ไปเลือกดูหน้าโรงเนอะ
23:53 บอกแล้วเหรอว่าจะไป
23:53 อ้าว ไม่ไปเหรอ
23:54 ล้อเล่น :b ไปสิ
23:55 เดี๋ยวจะโดน
23:55 เจอกันกี่โมงดี
23:56 เดี๋ยวไปรับ ^^
23:56 ห้ะ?
23:57 เดี๋ยวไปรับที่คอนโดเลย
23:57 รู้ด้วยหรอ
23:57 อืม ขับตามอยู่เมื่อตอนนั้น
23:58 ตอนไหนน
23:58 ตอนที่ไปกินข้าวด้วยกันครั้งแรกไง
23:59 ไม่เห็นรู้ตัวเลย นิสัยไม่ดี
23:59 เพราะกลับทางเดียวกันต่างหาก
00:00 ตกลงนะ เจอกันตอนเที่ยงละกัน
00:00 โอเค
00:01 นอนได้แล้วๆ
00:02 อือ ฝันดีนะ
(ส่งข้อความเสียง 0:04) นิ้วเล็กกดไปเพื่อฟังข้อความ
....
‘ฝันดีครับ’
โรมกัดปากแน่น ก่อนจะกลิ้งไปมาบนที่นอนด้วยความเขินจัด
ภาคินส่งว๊อยมาบอกฝันดี จะทำให้เขาหลงไปถึงแค่ไหน แค่นี้หัวใจเขาก็ทำงานหนักมากแล้วนะ
ด้านภาคินที่กดส่งว๊อยไปให้ปลายทาง ก็ยิ้มให้โทรศัพท์ราวกับคนบ้า นึกถึงใบหน้าน่ารักที่ชอบหลบสายตาเขาบ่อยๆ
น่าแกล้งดีนัก ...
เช้าวันใหม่ คนตัวเล็กก็ยืนครุ่นคิดหน้าตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะมองไปที่เตียงที่บัดนี้เต็มด้วยเสื้อผ้ากระจายเต็มไปหมด ผ่านมา 1 ชม.แล้วก็คิดไม่ตกว่า ใส่เสื้อผ้าแบบไหนดี แม้จะหงุดหงิดที่ดันเกิดอารมณ์แบบสาวน้อยตื่นเต้นเดทแรก แต่ก็ไม่อาจะปฏิเสธได้ว่า เขานั้นตื่นเต้นมากจริงๆ เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้เวลาก็เข้าสู่วันใหม่ไปแล้ว 3 ชั่วโมง
สุดท้ายโรมก็หยิบมั่วๆไป สำรวจตัวเองในกระจกพลางสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อผ่อนคลาย ก่อนจะรวบกระเป๋าสตางค์ คีย์การ์ดและมือถือเอาไว้ในมือเดียว แล้วออกจากห้องไป
.
.
.
.
โรมคิดว่าเขาออกมาเร็วแล้วเชียว แต่ยังมีคนที่เร็วกว่าเขาอีก
ร่างเล็กมองคนตัวสูงของเดือนมหาลัยปีที่แล้วด้วยหัวใจที่เต้นรัว ร่างสูงที่ปกติจะเห็นในมาดชุดนักศึกษาไม่ก็เสื้อช๊อป แต่คราวนี้เป็นเสื้อยืดลายกราฟิกคลุมทับด้วยแจ๊คเก็ตสีดำพับแขนเสื้อไปจนถึงข้อศอก กางเกงยีนส์เนื้อดีแบรนด์นอก ทรงผมที่ปกติดูยุ่งๆ ตอนนี้ถูกเซ็ตให้โชว์ในหน้าหล่อเหล่า ยิ่งยืนพิงกับรถBMWคันหรูแบบนี้ ……
ให้ตายนี่มาถ่ายแบบโฆษณารึเปล่าเนี่ย
พอเหลือบมองตัวเองผ่านกระจก เสื้อยืดสีเทาควันบุหรี่เรียบๆคลุมทับด้วยฮู้ดสีครีมกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าคอนเวิร์สสีน้ำเงิน เหมือนเด็กกะโปโล......
พอร่างสูงของภาคินสังเกตเห็นคนตัวเล็ก ก็ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวยิ่งกว่าโฆษณาคอลเกต จนอีกคนต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยกับออร่าของคนตรงหน้า
“มาไวจัง” คนตัวโตว่าอย่างยิ้มๆ ทำเอาร่างเล็กเกือบค้อนขวับ
“นายต่างหาก มาไว”
“เพิ่งมาถึงได้เมื่อกี้เอง” โรมส่งสายตาอย่างไม่อยากเชื่อ ซึ่งภาคินเองก็หัวเราะหึหึใส่
บรรยากาศเงียบๆในรถถูกกลบด้วยเสียงเพลงสากลที่เจ้าของรถเปิดคลอไว้ เพราะตุ๊กตาหน้ารถไม่ยอมคุยด้วย
ภาคินมองคนที่นั่งข้างๆด้วยสายตาวิ้งวับ โรมในตอนนี้นั่งตัวตรง จ้องเขม็งไปที่ทางข้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆที่ตอนนี้เขาจอดรอสัญญาไฟแดงอยู่แท้ๆ
“นี่~”
“...”
“..โรมครับ”
“ห้ะๆ อ้ะ!”
เพราะภาคินอยากแกล้งร่างเล็กที่เอาแต่สนใจแต่ข้างหน้า จึงแอบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆแล้วเรียก ทำให้ร่างเล็กที่จดจ่อกับข้างหน้าตกใจหันมาหา จนปลายจมูกเล็กชนกับปลายจมูกโด่งของร่างสูงแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างจากภาคิน
อุณหภูมิบนใบหน้าของโรมตอนนี้ถ้าเอาปรอทมาวัด คงจะสูงทะลุปรอทก็เป็นได้ เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าในรถนั้นร้อนทั้งๆที่แอร์ก็ยังคงทำงานได้ดี
ภาคินหัวเราะในลำคอกับท่าทางของคนตัวเล็ก แก้มแดงนั้นทำเอาเขาแทบจะกระโจนไปฟัดให้สาแก่ใจ ทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้นะ ...
จนแล้วจนรอดโรมก็ไม่ปริปากพูดตลอดทาง......
“ดูหนังเรื่องอะไรดี” ภาคินเอ่ยถามคนข้างๆที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดกับป้าย now showing
“Star war ไหม ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้า ทั้งสองจึงเลือกหนังแนวแอ็คชั่นไซไฟที่กำลังโด่งดังในเวลานี้
“ป๊อปคอร์นไหม เผื่อหิว” ถามแต่กลับไม่รอคำตอบจากคนที่มาด้วย ร่างสูงก็ปรี่เข้าไปที่เคาท์เตอร์ขายป็อปคอร์น ก่อนจะได้ป๊อปคอร์นถังกลางและเป๊ปซี่แก้วใหญ่กลับมา
“เดี๋ยวเราช่วยจ่าย” โรมว่าพลางควักระเป๋าตังค์มาหวังจะช่วยอีกฝ่ายจ่าย แต่ก็โดนคนหน้าหล่อเบรกไว้
“ไม่ต้องหรอก เราเลี้ยง” โรมนึกฉุนเบาๆ ค่าตั๋วภาคินก็ออกให้ ค่าป๊อปคอร์นก็ออกให้อีก แบบนี้เท่ากับเขาเอาเปรียบอีกฝ่ายมากเลยน่ะสิ ... พอโดนขัดใจเข้าใบหน้าน่ารักก็บูดลง จนภาคินต้องยีผมนุ่มเบาๆ สีหน้าขัดใจจึงเปลี่ยนมาเป็นขัดเขินแทน ก่อนคนตัวเล็กจะเดินลิ่วเข้าไปในโรง ทิ้งให้ร่างสูงยืนยิ้มจนสาวๆที่ผ่านไปมาถึงกับหันไปกันกรี๊ดเบาๆ
โรมนั่งดูทีเซอร์หนังด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ รู้สึกเสียใจกับการกระทำตัวเองที่ทิ้งให้ภาคินยืนดูหน้าโรงหนัง ส่วนตัวเองชิ่งหนีเข้ามาก่อน
แต่ผ่านมาได้ซักพักแล้วทำไมยังไม่มาอีก ......
จนกระทั่งเกิดแรงยวบของเบาะนั่งทางด้านซ้ายของเขา ปรากฏร่างสูงหน้าหล่อที่แม้แต่ความมืดในโรงหนังยังไม่สามารถปิดบังความหล่อได้
“ใจร้ายจังนะ ทิ้งกันได้ลงคอ” ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ทำให้ร่างเล็กใจเสียยิ่งเข้าไปใหญ่
“ขะ.ขอโทษ~” ร่างสูงที่แอบลอบมองคนข้างๆที่หน้าเสียก็ยิ้มกริ่มในใจ
“พูดว่าอะไรนะ” เพิ่มเสียงและใบหน้าให้ดูเรียบเฉย ส่งผลให้คนตัวเล็กขบริมฝีปากแน่นก่อนจะคลายออก ลังเลอยู่ซักพักก่อนจะ
.
.
.
.
.
“โรมขอโทษนะคิน~” เท่านั้นแหล่ะ ใบหน้าตึงๆของคนข้างๆก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างจนโรมต้องตกใจ ยิ่งจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมที่หยาดเยิ้ม ใบหน้าน่ารักก็ร้อนผ่าว
“กะ..แกล้งกัน” เสียงเบาหวิวกับใบหน้าที่ก้มหงุดๆ ทำให้ภาคินหัวเราะขึ้นมา
“อยากน่าแกล้งก่อนทำไม” ร่างเล็กได้แต่เข่นเขี้ยวในใจกับคนขี้แกล้ง ภาคินคนบ้าเอ้ย
หลังจากหนังจบ ร่างสูงก็ชวนโรมไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งอยู่ชั้นล่างของโรงหนัง ตอนแรกโรมนั้นไม่อยากเข้าเพราะราคามันค่อนข้างแพง แต่คนมาด้วยกลับมัดมือชกด้วยการจูงมือเขาแล้วลากเข้าร้านอย่างไม่ฟังเสียงทักท้วง
“ดูทำหน้าเข้า” คนตัวสูงพูดแหย่คนที่หน้ามุ่ยฝั่งตรงข้าม
“ก็คินนั่นแหล่ะ”
“เอาน่า มื้อนี้คินเลี้ยง”
ทั้งสองต่างใจกระตุกไปแว่บหนึ่ง กับชื่อเรียกที่เปลี่ยนไป ก็อดเขินๆไม่ได้
“เลี้ยงให้ตลอดเลยละกัน”
“อื้ม ตลอดไปเลย” ภาคินพูดหยอด พลางยิ้มขำเมื่อแก้มของคนตรงหน้าแดงเหมือนปูอัดที่อยู่บนโต๊ะ..
To Be Continued ...... (เจอกัพาร์ทจบเลยจ้าาา)
ฺBeva Talk :
แห่ะๆ กลับมาแล้วค่ะ เนื้อเรื่องอืดๆ เหมือนชื่อเรื่อง 55555555 นี่ค่ะพล๊อตของเรา
ขอบคุณมากสำหรับคอมเม้นท์ค่าาา รู้สึกมีแรงฮึดแต่งต่อมากมาย
ตอนหน้าก็จบแล้ว เย้ๆ (ใครเย้กับแก )
ขอฝากคิน-โรมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนอ่านทุกคนเลยนะคะ