ตอนที่6 แลปเคมีดูดพลังชีวิตของผมไปเยอะอยู่ อาทิตย์นี้เป็นสัปดาห์ที่สองของการเรียนการสอนแต่เป็นสัปดาห์แรกที่ได้ลงมือทำแลปจริงๆจังๆ แต่แลปเคมีคงมีอิมแพคต่อชีวิตของผมน้อยกว่าครอสพอตัวเพราะแม้วันนี้จะเลิกแลปค่อนข้างเย็นด้วยความเป็นครั้งแรกเลยงกๆเงิ่นๆกันทั้งห้องแต่ผมก็ลากสังขารตัวเองกลับมาถึงบ้านจนได้
บ้านที่ผมใช้ซุกหัวนอนเป็นทาวน์โฮมขนาดสี่สิบตารางวาสามชั้น ในบ้านมีผมอาศัยอยู่แค่คนเดียวเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านใหญ่ ผมมาอยู่ที่นี่เพราะมันอยู่ใกล้มหาลัยมากกว่า ตอนแรกแม่ก็จะซื้อคอนโดให้แต่ผมไม่เอาเพราะไม่ชอบอยู่ที่สูงๆคนเดียวเพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว(?)
ครอบครัวของผมทำธุรกิจเกี่ยวกับยา คุณตามีโรงงานอยู่แถวลาดพร้าว พื้นฐานที่บ้านมีอันจะกินพอสมควรแต่ก็ไม่ถึงกับรวยล้นฟ้าคับแผ่นดิน เอาเป็นว่าหม่าม๊าของผมมีเงินพอที่จะส่งลูกชายคนนี้เรียนนานาชาติค่าเทอมเทอมละสองแสนได้ก็แล้วกัน อิอิ
“เหนื่อยโคตร!”ผมลงจากแท็กซี่ได้ก็รีบเข้าบ้านวิ่งขึ้นชั้นสองกระโจนเข้าหาที่นอนนุ่มๆทันที ในรั้วบ้านมีออดี้จอดอยู่คันนึง แม่ซื้อไว้เผื่อผมอยากขับเพราะผมมีใบขับขี่อยู่แล้ว แต่ไอ้ใบขับขี่ที่ว่ามีก็เหมือนไม่มี นอกจากตอนเรียนแล้วผมก็ไม่เคยขับออกไปไหนเลย
“ส่องเฟสพี่นารายณ์ดีกว่า”ผมกางแมคบุ๊คออก เริ่มกิจวัตรประจำวันที่ไม่ได้ทำเสียนาน คีย์แค่ตัว N ลงในช่องค้นหาชื่อของคนที่ต้องการก็โผล่ขึ้นมา
เฟสพี่แกนอกจากรูปที่เพื่อนแท็คมาก็ไม่มีอะไรอีก เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ครั้งสุดท้ายก็เมื่อครึ่งปีที่แล้ว ผมยังไม่ได้แอดเฟรนซ์พี่เค้าเพราะเมื่อวานมัวแต่คิดนู่นคิดนี่อยู่ รวบรวมความกล้าอยู่พักนึงผมก็เลื่อนเม้าส์ไปคลิกขอเป็นเพื่อน
“เห้ย รับเร็วเว่อร์”กดปุ๊ปรับปั๊บเลยสงสัยว่าจะออนไลน์อยู่เหมือนกัน”ทำไงดีอ่ะ ทำไงดีๆๆๆๆๆ”สติพังหมดแล้ว
ผมควรจะโพสต์ทักพี่แกแบบคนเสล่อชอบทำกันว่า ‘แต้งค์รับแอดนะครับ’ ไหม?
ไม่ๆ มันไม่คูลเลย ให้ตายเถอะ
จะแทครูปที่ถ่ายไปเมื่อวานก็กลัวจะสะดุดตาเกินไปเพราะนอกจากรูปคู่กับพี่เขาแล้วผมก็ไม่มีรูปอะไรในงานเมื่อวานอีกเลย
Naraii SA. : เพลินป่ะ
ย๊ากกกกก พี่!เขา!ทัก!มา!
หมอนเน่าถูกผมใช้เป็นที่ระบายความฟิน ทั้งจิกทั้งทึ้งจนถ้ามันมีชีวิตคงร้องโอดครวญตายเลย
Parich : ครับ
ตอบสั้นโคตร พี่แกจะคิดว่าผมไม่อยากคุยด้วยไหมเนี่ย
Parich : มีอะไรเหรอครับ
ตอบเพิ่มไปอีกสักหน่อย ผมเห็นพี่แกกำลังพิมพ์อะไรสักอย่างแล้วก็ลบทิ้งเมื่อเห็นข้อความของผม พี่แกนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนส่งมาว่า
Naraii SA. : เพื่อนพี่มันเป็นพี่รหัสเราน่ะ แต่หาทางติดต่อเราไม่ได้เลย บุคคลลับแลชิบหาย
โดนด่าอยู่สินะ ก็ผมไม่เก่งเข้าสังคมหนิ!
Naraii SA. : ได้เป็นเดือนคณะได้ไงวะ แถมยังได้ป๊อปปูล่าโหวตอีก
Parich : เพราะผมหล่อไง อิอิ
Naraii SA. : หล่อจริงต้องได้ที่หนึ่งครับน้อง
อู่ยยย เจ็บ!
Naraii SA. : เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนแอดไปนะ
Parich : ครับผม
เงียบเลย พอผมตอบกลับไปก็ไม่มีการสานต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น คิดในแง่ดีคือพี่เขากำลังแชทบอกชื่อเฟสผมกับเพื่อนอยู่ คิดในแง่ร้ายก็คือเขาทักเพื่อคุยกับเอ็งเท่านั้นแหละอย่าหวังเลย
ครืด... ผมควรจะหาอะไรคุยต่อดีไหม? อย่างเรื่องเพื่อนพี่นารายณ์ที่เป็นพี่รหัสของผม จะว่าไปโลกกลมจังวุ้ย สงสัยจะเป็นพรหมลิขิต หุหุ
ครืด... เสียงโทรศัพท์ซึ่งยังอยู่ในกระเป๋าของผมสั่น”ใครโทรมาวะ”ผมหยิบมันขึ้นมาดูแต่เป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้เลยกดรับไปอย่างไม่ใส่ใจนักเพราะคิดว่าโทรผิด”ฮัลโหลครับ...”
“เยส! ในที่สุดก็เจอตัวจนได้” เหอ? ไรเนี่ย พวกโรคจิตรึป่าว เย๊ด เยิ๊ด อะไร?
“โทรผิดรึป่าวครับ?”อย่ารบกวนเวลาคุยกับพี่นารายณ์จะได้ไหม ชิส์ๆๆๆๆๆๆ ผมกัดเล็บกึกๆเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย เวลาเครียดหรือคิดอะไรไม่ออกต้องทำแบบนี้ทุกที ในหัวของผมมีแต่เรื่องของพี่นารายณ์เลยไม่ได้เอะใจเสียงอันแสนคุ้นเคยของปลายสายเลยสักนิด
“โหย ไรวะ ใจร้ายโคตร โทรผิดมาเยอะแล้วคราวนี้ขอโทรถูกบ้างเหอะ ให้เบอร์มาก็ไม่ครบกว่าจะเจอดันจำเสียงกันไม่ได้ซะอีก” ผมชะงักมือที่กำลังจะพิมพ์หาพี่นารายณ์ด้วยความตกใจ
“ครอสเหรอ...?”ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าใช่มันไหม ผมเขียนเบอร์ใส่กระดาษให้มันก็จริงแต่ก็ขาดไปสองหลัก
“เออดิ ทำไมทำเสียงงงๆ ทำไรอยู่” คุยกับพี่นารายณ์อยู่ โถ ตอบอย่างงั้นได้ที่ไหน ความลับระดับชาติถูกเปิดเผยหมด
“อ่า...ซักผ้า...”
“อ้าวเหรอ”น้ำเสียงของปลายสายฉายแววผิดหวังเล็กน้อย”งั้นเดี๋ยวเสร็จแล้วยิงมานะ”
“อือๆ”
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะมีคนแอดผมมาซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคนนี้แหละพี่รหัสผม ผมกดรับก่อนจะเข้าไปดูที่หน้าไทม์ไลน์ของอีกฝ่าย คนๆนั้นอยู่คณะเดียวกับผมแต่ปีสอง(แหงล่ะ) ดูจากรูปโปรไฟล์ทำให้รู้ว่าพี่เขาเป็นผู้ชาย...ที่โคตรน่ารักเลย
ตาตี่ๆยิ้มให้กล้องเป็นรูปสระอิ ตัวขาวๆเล็กๆดัดฟันด้วย
“น่ารักว่ะ”
Feng fenG : หวัดดีครับน้องเพลิน พี่ชื่อเฟิงนะเป็นพี่รหัสเรา กว่าจะหาเฟสได้แทบแย่แหนะ!
Parich : ขอโทษครับ แหะๆ ^^;
Feng fenG : ไม่เป็นไรๆ ไอ้พี่ก็มัวแต่ตื่นเต้นที่ได้น้องรหัสเป็นคนดังเลยแอบเขินนิดหน่อยไม่กล้าทักมา เราเป็นน้องโรงเรียนพี่ด้วยนะ
Parich : อ้าว เหรอครับ ดีเลยๆ
ผมไม่เคยเห็นหน้าพี่เขามาก่อนเลยแฮะ แต่เป็นเพื่อนพี่นารายณ์ก็ต้องเป็นพี่โรงเรียนผมด้วยนี่เนอะ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้สนิทกันเร็ว
Feng fenG : เดี๋ยวพี่นัดเลี้ยงสายอีกที ต้องรอนายน์ว่างก่อนนะ
นายน์ไหนวะ? ข้อสงสัยของผมก็ได้รับการชี้แจงทันที่เหมือนพี่เฟิงอ่านใจผมได้
Feng fenG : หมายถึงไอ้นารายณ์น่ะ รู้จักใช่มะ เดือนมหาลัยปีก่อน รอบตัวพี่ก็มีแต่คนดังเนอะทั้งเพื่อนทั้งน้องรหัสเลย แย่งเรตติ้งพี่กันหมด
Parich : พี่ก็ออกจะน่ารัก ผมเห็นแล้วยังชอบเลย
Feng fenG : เห้ย...อย่าแกล้งดิเขิน แค่ไอ้นายน์คนเดียวทุกวันนี้ก็แย่แล้ว 5555
ผมคิดว่า...มันชักยังไงยังไงละนะสองคนนี้ ผมอาจจะคิดมากไปเองเพราะเป็นเรื่องของพี่นารายณ์ก็ได้
Parich : ก็น่ารักจริงๆนี่ครับ
พวกเราสองคนคุยกันต่ออีกพักใหญ่ๆตามประสาพี่หรัสน้องรหัส พี่เฟิงเป็นคนพูดเก่งเราเลยคุยกันได้ยาว ขืนปล่อยให้ผมเป็นคนต่อบทสนทนาสิมันคงจบตั้งแต่สามประโยคแรก
หลังจากเลิกคุยกับพี่เฟิงได้สักประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็จะปิดคอมแล้วก็เข้านอน แต่หน้าต่างแชทก็เด้งขึ้นมาเสียก่อน ที่สำคัญชื่อคนทักก็คือพี่นารายณ์
Naraii SA. : เป็นไง ได้คุยกะเฟิงยัง
Parich : ครับ พี่เขาพูดเก่งดีนิสัยน่ารัก
Naraii SA. : เนอะ น่ารัก
อา...งานนี้ต้องส่งไอ้ซังไปสืบซะแล้ว
" ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " '
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ ทั้งคนที่เม้นต์ในนี้และคนที่เม้นในเพจ หรือคนที่แชทมาคุยกันหลังไมค์
ได้รับกำลังใจจากทุกตัวอักษรที่คนอ่านส่งมาจริงๆ
จำได้มั้ยที่เคยบอกไปตอนแรกว่าเรื่องนี้เราแต่งตอนสอบ
ตอนนี้ผลสอบออกครบแล้วค่ะ
#ลาก่อย 