ต่อ
บาสตื่นมาอีกทีก็ในช่วงเย็นของวันแล้ว แต่คนในห้องก็ยังไม่มีใครตื่น รวมถึงกริมที่ตื่นมาในจังหวะนรกพอดีก่อนจะหลับไปอีกครั้ง ตอนนี้ก็ยังไม่ตื่นเลย
“.....” บาสหันมองคนข้างๆ ที่ยังคงหลับสนิทอยู่เหมือนเดิน แต่ตอนนี้ไม่ได้กอดเขาแน่นแล้ว แต่กลับเป็นเขาที่กอดอีกฝ่ายเสียแน่นซะเอง
เฮ้อ...ดูท่าว่าจะต้องตื่นจริงๆเสียแล้ว
บาสค่อยๆคลายอ้อมกอดของตัวเอง ใช้มืออีกข้างจับหัวของรุ่นพี่ไว้ แล้วค่อยเอาแขนของตัวเองที่ถูกให้กลายเป็นหมอนของเพลงออกเบาๆ เพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหมอนมาหนุนหัวให้เพลง เมื่อเสร็จแล้ว บาสก็ค่อยๆลุกขึ้น หยิบโทรศัพท์และกุญแจรถมาถือไว้ในมือ แล้วเดินออกจากห้องไป
“ไงวะบาส ตื่นกันหมดแล้วเหรอ” เสียงครามเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองเดินลงบันไดมา
“เปล่า มีแค่กูที่ตื่น” บาสตอบเพื่อน
“อ๋อ ก็เห็นนอนกันอยู่ไง เลยไม่อยากปลุก” ครามตอบก่อนจะยกแก้วน้ำอัดลมในมือขึ้นดื่ม
“นอน?” บาสทวนคำ
งั้นก็แสดงว่ามันก็เห็นเขานอนกอดพี่เพลงด้วยน่ะสิ
“เออ นั่นแหละ” ครามเลี่ยงที่จะไม่อธิบายอะไร
แปลว่ามันเห็น ชัวร์!
“กูจะไม่แก้ตัว และกูกับเขาก็ไม่ได้รู้จักอะไรกันมาก” บาสตอบ
“เออ พี่เขาเป็นเพื่อนพี่กริม เลยพลอยสนิทกับพี่แดนที่อยู่กันคนละคณะไปด้วย กูยังเคยไปกินเหล้ากับพวกพี่เขาแค่สองสามครั้ง มึงจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก”
“.....”
“แต่แปลกที่มึงกับพี่เขาดันไปนอนกอดกัน”
“ก็คนเมา” ก็คนมันเมานี่หว่า จะให้ไปหาสติจากไหนล่ะ
“เออๆ”
“.....” บาสไม่ได้อธิบายถึงเรื่องของเพลง ที่เขากับเพลงเคยเจอกันมาก่อนหน้านั้นให้เพื่อนฟัง และสุดท้ายบาสก็ขอตัวกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน
หลังจากกลับมาจากบ้านของน่านฟ้า บาสก็เอาแต่อยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน จนถึงวันจันทร์ บาสก็มาเรียนตามปกติ
“คราม อยากกินชาเขียว” เพลิงหันไปพูดเสียงเรียบกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เลิกเรียนก่อน” ครามตอบ ตอนนี้พวกขากำลังเรียนวิชาสุดท้ายของวัน เลิกเรียนก็ตอนห้าโมงเย็นพอดี
“จะพาไปใช่ไหม?” เพลิงถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“อืม”
“น่าน วิน บาส ไปร้านห้องสมุดกัน” เพลิงไม่สนใจอาจารย์ที่กำลังสอน แต่กลับหันไปถามเพื่อนอีสามคนที่นั่งเรียงกันอยู่ข้างหลังเขา
“เอาดิ สเต็กร้านนั้นอร่อย” วินเทอร์ว่า
“เออๆ ไปหมดแหละ” น่านฟ้าตอบอย่างไม่เลือกมาก ส่วนบาสที่นั่งถัดจากวินเทอร์ไปก็พยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตกลง เพราะเขาก็ขี้เกียจทำกับข้าวกินเอง
“เพลิง เลิกคุยแล้วหันมาจด พวกมึงด้วย” ครามว่าเสียงดุนิดๆ เพลิงจึงแอบเบะปากใส่แต่ก็ยอมหันกลับมา แล้วจดในสิ่งที่อาจารย์พูดต่อ ส่วนอีกสามคนก็พากับส่ายหน้าเบาๆกับการกระทำแบบเด็กๆของเพลิง
“เพลง พี่ขอโทษนะ ที่ต้องมาให้ช่วยงานแบบนี้” เพลินเอ่ยขอโทษน้องชาย เนื่องจากวันนี้พนักงานของชั้นสามลาป่วยสามคนเนื่องจากท้องเสียจากการกินส้มตำด้วยไปเมื่อตอนราวๆสี่โมงเย็น ทำให้พนักงานไม่พอ จนเพลินต้องลงมาเสริฟเอง จนกระทั่งเพลงมาถึงที่ร้าน เพลินก็ขอให้น้องช่วยเสริฟ ทั้งคู่เดินจนขาแทบขวิดกัน กระทั่งพนักงานจากชั้นสองเดินมาบอกว่าพนักงานสองคนที่ไปกินส้มตำร้านเดียวกันกับสามคนก่อนหน้านี้ท้องเสียเหมือนกัน ทำให้ชั้นสองเริ่มวุ่นวายและล่าช้าในการเสริฟ
“ไม่เป็นไรครับ พี่เพลินลงไปดูชั้นสองเถอะ เดี๋ยวฉันสามผมจะจัดการเอง” เพลงเอ่ยบอกพี่สาว
“ยังไงพี่ก็ฝากด้วยนะ”
“ครับ” เพลงรับคำก่อนจะเดินไปเสริฟอาหารเมื่อคนในครัวของชั้นสามยกออกมา
“พี่เพลงคะ รับออร์เดอร์โต๊ะสิบสามด้วยค่ะ” เสียงพนักงานเอ่ยเรียกเพลง เพราะเธอยังคงวุ่นกับการรับออร์เดอร์จากโต๊ะสี่อยู่
“ได้ๆ” เพลงรับคำก่อนจะรีบเดินไป เขาเพิ่งจะทำเป็นครั้งแรก เลยยังทำให้มีความช้าและมองคนไม่ทันอยู่
“อ้าว พวกน่านเองเหรอ” เมื่อเพลงเดินมาที่โต๊ะ ก็เอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นคนรู้จัก ก่อนหน้านี้เขารู้จักน่านฟ้าเพียงคนเดียว เพราะเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกัน ต่อมาก็ได้รู้จักคนอื่นๆเพราะเคยไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่คนสุดท้ายคือบาส ได้รู้จักกันเพราะเจ้าบีเกิ้ล ลูกสาวตัวดีของเขาดันไปสร้างเรื่องเอาไว้
“อ่าวพี่เพลง สวัสดีครับ ...วันนี้เป็นเด็กเสริฟเหรอครับ” น่านฟ้าเอ่ยทักก่อนที่เขาและคนอื่นๆจะยกมือไหว้เพลง เพราะเพลงก็เป็นรุ่นพี่ ก่อนจะเอ่ยถามกึ่งๆแซว
“เด็กเสริฟท้องเสียห้าคนน่ะ จะเรียกพวกพาร์ทไทม์ก็ไม่ทัน คงต้องรอพวกนั้นเลิกเรียนก่อน” เพลงเอ่ยตอบ แต่เขาจ้องเพียงหน้าของน่านฟ้าคนเดียว
“มีอะไรให้พวกผมช่วยป่ะพี่” วินเทอร์เอ่ยถาม
“ช่วยอุดหนุนร้านพี่เยอะๆก็พอแล้ว” เพลงตอบอย่างยิ้มๆ
“งั้นก็แล้วแต่พี่เลยครับ งั้นผมส่งเลยละกัน...” จากนั้นพวกเขาก็อาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงพวกขนมในคราวเดียวกัน จนเพลงแทบจะจดไม่ทัน
เขาไล่จดรายการอาหารและเครื่องดื่มจนกระทั่งมาถึงคนสุดท้าย
“.....” เพลงมองบาสนิ่งๆ
“.....” ส่วนบาสเองก็มองเพลงแต่ไม่พูดอะไร สายตาของบาสทำเอาเพลงรู้สึกอึกอัดแปลก จนต้องเสตาหลบ พลางเม้มริมฝีปากเข้ากันอย่างลืมตัว
“ผมขอมักกะโรนีหมู ...กับชามะนาว” บาสเอ่ยบอก แต่สายตายังคงจ้องเพลงอยู่อย่างจับผิด เพราะวันนี้รุ่นพี่ตรงหน้ามีท่าทีแปลกกับเขา ทั้งที่เดินมาที่โต๊ะแต่ทักน่านฟ้าก่อน บาสไม่ได้ติดใจอะไรในเรื่องนี้ เพราะน่านฟ้าเป็นน้องของม่านหมอก เพื่อนของเพลง เพลงจะรู้จักอยู่ก่อนแล้วมันก็คงจะไม่แปลกอะไร แต่นี่เพลงจงใจหลบเลี่ยงสายตาเขานี่สิ มันกำลังทำให้เขาสงสัย
‘จะจ้องอะไรนักหนาวะ!?’
เพลงคิดในใจ เขารีบจด ก่อนจะเอ่ยทวนอีกครั้ง แล้วรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น
พยายามจะไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่...
ใครมันจะไปมองหน้าคนที่ตัวเองนอนกอดนอนเกยเขาแบบนั้นได้ล่ะวะ!?!!!
ความจริงแล้ว ในวันนั้นก่อนที่บ้านจะกลับบ้านไป เขาตื่นก่อนที่บาสจะตื่น แถมยังตื่นมาแล้วเห็นตัวเองกอดรุ่นน้องหน้าหล่ออย่างเต็ฒไม้เต็มมือแบบนั้นก็ตกใจจนรีบเอามือออก แต่คงจะแรงไปหน่อยจนบาสรู้สึกตัว อารามตกใจทำให้เพลงแกล้งหลับ
เขารับรู้ว่าบาสปล่อยมือตัวเองที่กอดเขาอยู่เบาๆ คล้ายๆกลับว่ากลัวเขาจะตื่น
เขารับรู้ถึงมือใหญ่ที่ประคองหัวเขาได้ด้วยมือเดียว
แรงสอดหมอนหนุนเข้ามาให้เขาได้หนุนมันอย่างแผ่วเบา
เพลงรับรู้ทุกอย่าง
ฮือ...เขาอาย ที่เมาจนเละแล้วไปนอนกอดรุ่นน้องแบบนั้น
เพราะอย่างนี้ไง เขาถึงไม่กล้าสู้หน้าบาสเลย
อายเว้ย!
**********************************************************************
คนอ่านเริ่มหาย
ขอความเห็นกันหน่อยว่านิยายเรื่องนี้โอเคหรือเปล่า
รู้สึกกำลังใจเริ่มถดถอย ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน (ว่าไปนั่น)
มันเป็นยังไงบอกหน่อยน้าาาา
จะได้รู้ว่าควรจะแต่งต่อหรือไม่แต่งดี
FANPAGE