คุณรุ่นพี่ครับ รับผมเป็นแฟนเถอะ [ตอนที่ 6 100% P.6 12/6/2559]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณรุ่นพี่ครับ รับผมเป็นแฟนเถอะ [ตอนที่ 6 100% P.6 12/6/2559]  (อ่าน 30969 ครั้ง)

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แค่พี่น้องเองเหรอเพลงงง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รุกอีกนิดให้พี่เพลงเห็นความจริงใจ ไม่นานคงได้คบกันแน่

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอเคๆตอนนี้ก็แค่พี่น้องไงเพราะว่าบาสยังไม่ขอเป็นแฟนเบย ขอจีบยังไม่ขอเลย. ฮ่าๆ
พี่กริมไซโคเข้าไป ดูออกขนาดนี้แล้วมันต้องเชียร์.
ขอบคุณค่ะรอๆ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :เฮ้อ: ไอ้เราก็เห็นหวานกันขนาดนี้ พี่น้องเองเหรอจ๊ะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ต้องให้กริม ชงเข้มๆ อิอิ
ขำตรง จะเก็บซิงไว้ชิงโชคนี่แหละ กร๊ากกก

รอตอนต่อไปน๊า

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ทุกคนเชียร์อยู่  บาสรุกเพลงเยอะๆเลยยย    อิอิ

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
กริม...กระหน่ำใส่เพลงไปอีกๆ กระหน่ำเยอะๆเลย

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ชอบซื่อบื้อจัง

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ตอนนี้ก็พี่น้อง ต่อไปก็ค่อยว่ากันเนอะ5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ karuwarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
งื้อออ อยากอ่านต่อละอ่ะ คิดถึงซื่อบื้อ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เพลงยังเป็นพี่น้อง แต่บาสกำลังจีบแบบเนียนๆนะ รู้ป่ะ :hao3:

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
บทนำ










...และแล้วก็รู้ ว่าคนที่จบกันไป ด้วยคำที่บอกว่าเราจะมาพบกันใหม่ มักจะไม่พบกันอีก
จากกันคราวนี้ ไม่อยากให้ดูโหดร้าย รู้ดี อย่าห่วงไม่เคยจะทำให้เธอต้องลำบาก และอยากจะให้รู้เอาไว้...





[พี่บาสคะ เราเลิกกันเถอะคะ]



[เจนขอโทษ แต่เจนจะไม่ทนอีกแล้ว]



[เจนไม่อยากมีแฟนเป็นอันธพาล มีเรื่องชกต่อยไม่เว้นวัน]



[เจนขอหยุดแค่ตรงนี้ เราเป็นพี่น้องกันนะคะ]



[ลาก่อนค่ะ ถ้ามีโอกาสเราคงพบกัน]




...ถ้าเธอรักใครมากสักหนึ่งคน และผลคือเขาจะไป เพราะรักนั้นเธอจะไม่ยอมแม้แต่ปล่อยให้ เขากังวลแม้แต่น้อย เจ็บเท่าไรยินดีให้เขานั้นเดินไป...




คนรักที่คบกันมา 2 ปีส่งข้อความมาบอกเลิกผม ทำไมกัน...ทั้งที่ผมรักเขามากขนาดนี้ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะจากผมไป
อะนะ...แต่คำตอบคงไม่ต้องไปหาคำตอบหรอก ผมรู้อยู่แล้ว เจนมีคนอื่น ผมรู้มาสักพักแล้ว แต่ผมยังไม่กล้าที่จะปล่อยเธอไป แต่ตอนนี้มันคงจะถึงเวลาแล้วสินะ



[ครับ]



นั่นคือข้อความที่ผมตอบกลับเธอ




...อย่างที่ฉันกำลังที่จะทำ เจ็บช้ำด้วยความเต็มใจ ขอแค่สักครั้งที่อย่างน้อยเธอสุขใจแม้ ทำได้เพียงตอนสุดท้าย ก่อนจะลาไม่ว่าเธอจะพูดอะไร คำไหนก็ยอมโดยดี...




มันคงไม่มีเหตุผลที่จะต้องยื้อกันอีกต่อไปแล้วสินะ เจนคงจะตัดสินใจได้แล้ว ว่าคนที่เธออยากจะอยู่ด้วยคือใคร และใครคนนั้นก็ไม่ใช่ผม



แต่...ทำไมกันนะ



ทั้งๆที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแท้ๆ



ทั้งๆที่คิดว่าถ้าเจนมาบอกเลิกผมคงจะไม่เป็นไร



ทำไม...ทำไมมันถึงได้เจ็บขนาดนี้







*********************************************************

หลังจากที่อ่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่นาน ผมก็ตัดสินใจรีไรท์เรื่องนี้ใหม่นะครับ

ขอปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดหน่อย แต่คาแร็กเตอร์ตัวละครจะยังคงเดิมนะครับ

ชอบไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นต์กันได้น้าาาาาาาาาา



FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จัดไป
ขอแค่ไม่ดองก็พอแล้ว
ขอบคุณจ้า สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 1










ช่วงนี้บรรยากาศยามเย็นเริ่มมีอากาศหนาว ทำให้บรรยากาศโดยรอบของสนามบาสเก็ตบอลในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ดูสดชื่นและน่านั่ง การออกกำลังกายเป็นไปอย่างคึกครื้น เพราะอากาศไม่ร้อนอบอ้าวเกินไปเหมือนอย่างที่ผ่านมา เสียงเจือแจวดังไปทั่วทิศรอบกายชายหนุ่ม แต่ร่างสูงกายกำยำทำได้เพียงแค่เหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย



“ไอ้บาส ทำไมช่วงนี้มึงเงียบๆวะ แล้วเจนไปไหน กูไม่เห็นเขาจะมาหามึงเลย” เสียงเพื่อนสนิทเอ่ยทักร่างสูง ที่เห็นมันเงียบๆ ซึมๆร่วมสองสัปดาห์แล้ว



“กูกับเจนเลิกกันแล้ว” ร่างสูงตอบเสียงเรียบและไม่ดังมากนัก แต่คนฟังก็ยังได้ยินชัดเจน



“.....” เพื่อนสนิทอย่าง ‘คราม’ ทำได้เพียงเงียบ ก่อนจะตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ เขารู้ว่าเพื่อนเขาคนนี้รักแฟนมาก เหตุผลที่เลิกกันนั้น ตัวเขาเองก็อยากรู้ แต่ตอนนี้มันคงจะไม่เหมาะนัก ถ้าเขาจะถามออกไป คงต้องให้เพื่อนของเขาเอ่ยปากบอกเอง



“แฮกๆ พวกมึง ...ใครมีน้ำบ้าง” เสียงหอบดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของเสียงจะนั่งลงข้างๆร่างสูงของบาส



“ไปซื้อเองดิ เฮ้ย!..นั่นมันของไอ้วิน” ครามเอ่ยบอก ก่อนจะรีบท้วงเมื่อคนที่วิ่งเข้ามาขอน้ำ เอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำของเพื่อนอีกคนมาเพื่อจะกระดกดื่มอย่างไม่ไถ่ถามว่าของใคร



“กูไม่สน อ่อก!!” หัวขโมยว่าอย่างไม่สนใจก่อนจะเปิดฝาขวดน้ำแล้วยกขึ้นกระดก แต่เจ้าของนั้นมาทันได้ยินคำพูด จึงตบหัวที่ถูกปกคลุมไปได้เส้นผมทรงอันเดอร์คัทสีคล้ายเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นสีผมธรรมชาติของ ‘น่านฟ้า’ เข้าอย่างจัง



“เดี๋ยวกูตบคว่ำ” เจ้าของฝ่ามือพูดเสียงเหี้ยม



“มึงตบกูไปแล้ว!” คนโดนตบโวยวาย



“ก็มึงขโมยน้ำกู” ‘วินเทอร์’ ว่าก่อนจะแย่งขวดน้ำในมือของน่านฟ้าคืน แล้วยกกระดกน้ำลงคอจนหมดขวด



“ไอ้วิน ...ทำไมไม่เหลือให้กูบ้าง แงงงงงงงง” คนหิวน้ำโวยวายหนักกว่าเก่า แต่คนโดนโวยวายหาได้สนใจไม่ กลับนั่งลงข้างๆบาส ก่อนจะเอนหัวพิงขาของ ‘เพลิง’ ผู้ซึ่งง่วงได้ทุกทีทุกเวลา เพื่อนเล่นบาสแต่มันเสือกมานอนหลับ แทนที่จะทำตัวเป็นประโยชน์ไปหาซื้อน้ำมาให้เพื่อนอะไรอย่างนี้



ซึ่งน้ำใจดีงามที่มีต่อเพื่อนฝูงแบบนั้น หาไม่ได้จากผู้ชายที่ชื่อเพลิงหรอก



“หนวกหู ...เฮ้ย! พวกมึง หกโมงล่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะว่ะ” วินเทอร์ว่า ก่อนจะเก็บของใส่กระเปาเป้ของตัวเอง



“เออว่ะ กูก็หิวแล้วเหมือนกัน” ครามเอ่ยปากอย่างเห็นด้วย



“งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่เปิดใหม่กันป่ะ” น่านฟ้าว่าอย่างตื่นเต้น



“อ๋อ ที่มันเป็นชามยักษ์ด้วยใช่ไหม เห็นคนเขารีวิวกันเยอะอยู่ว่าอร่อยมาก”



“ก็ดี เอารถกูไปไหม เอาไปหลายคันเดี๋ยวไม่มีที่จอด”



เสียงพูดคุยของเพื่อนฝูงดังขึ้น แต่บาสก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลยแม้แต่น้อย เขาทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง



“มีอะไรเปล่าว่ะ ไอ้บาส?” น่านฟ้าถามเพื่อนหน้าหล่อและโหดของตัวเอง



“เปล่า ขอตัวกลับก่อน” บาสพูดเพียงแค่นั้น ก่อนจะเดินออกจากกลุ่มเพื่อน ท่ามกลางความสงสัยและเป็นห่วงเล็กๆของเพื่อนๆ



“ไอ้บาสมันเป็นอะไรวะ กูเห็นมันซึมๆมาหลายวันแล้วนะ” น่านฟ้าพูดออกมาอย่างอดไม่ได้



“มันเลิกกับเจนแล้ว”



“ห๊ะ!”



สิ้นคำตอบของคราม เสียงตกอกตกใจของทุกคนก็ดังขึ้น ดังจนหนุ่มขี้เซาอย่างเพลิงสะดุ้งตื่นขึ้นมา



“มันเลิกกับเจนแล้วเหรอวะ” น่านฟ้าว่าเสียงเบา เพราะเขารู้ว่าเพื่อนเขานั้นรักผู้หญิงคนนี้มาก



“เออ แล้วก็ไม่ต้องถามต่อ มันบอกกูแค่นี้”



“ทำไมมันถึงเลิกกันวะ”



“จะไปรู้ไหมล่ะ แต่กูว่า...ดูจากอาการ คงไม่ใช่ไอ้บาสที่เป็นคนบอกเลิก” วินเทอร์ว่าไปตามเนื้อผ้า เพราะดูอาการของเพื่อนเขาแล้ว มันทำให้คิดได้แบบนั้น



“เจนบอกเลิกเหรอวะ” น่านฟ้ายังคงถามต่อไป



“กูว่าไม่” เพลิงที่ตื่นขึ้นมาเอ่ยปากบอกอย่างช้าๆ



“ไม่ใช่เจนที่บอกเลิก?” น่านฟ้าถามเพื่อนขี้เซาอย่างอยากรู้



“ไม่ควรเสือก ...กูว่าเราไปหาอะไรกินกันเถอะ” เพลิงว่าก่อนจะเดินนำไปเป็นคนแรก



“พวกมึง...นี่เราจะไม่ไปหาไอ้บาสกันเหรอวะ” น่านฟ้าร้องถาม



“ปล่อยมันไปเถอะ บางทีมันก็อยากให้เวลากับตัวเองบ้าง” วินเทอร์ว่าก่อนจะลากคอเพื่อนให้เดินตามกันไป












“เฮ้อออ..” บาสส่งเสียงถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน เขายังไม่กลับบ้าน แต่เลือกที่จะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้านแทน



ความรักนี่มันคืออะไรกันนะ ทำไมมันถึงทำให้คนๆนึงมีความสุขล้น และก็ทำให้เจ็บจนแทบจะหมดเรี่ยวแรง




ตุบ




ร่างสูงกำยำทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นหญ้า ก่อนจะล้มตัวลงนอนราวกลับคนที่หมดแรง



ลืมเจนได้แล้วบาส คิดถึงเขาต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร



“เฮ้อ...” บาสถอนหายใจออกมาอีกหน ถ้าการถอนหายใจมันทำให้คนเราอายุสั้นลงจริงๆ ป่านนี้บาสคงใกล้จะตายเต็มทีแล้วล่ะมั้ง




โฮ่ง!!




“เฮ้ย!” เสียงร้องไล่เลี่ยกันดังขึ้น ทำเอาคนรอบข้างต่างพากันหยุดมอง เมื่อจู่ๆเจ้าสุนัขแสนซนสายพันธุ์บีเกิ้ล วัยกำลังดื้อกำลังซน วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ก่อนที่มันจะเอาเนื้อตัวเปื้อนโคลนของมันพุ่งเข้าใส่บาสที่ยังราบไปกับพื้นหญ้า ร่างสูงรีบยกแขนขึ้นป้องใบหน้าเมื่อเจ้าสุนัขจอมซนพยายามจะถูไถตัวมันบนใบหน้าของเขา



“ซื่อบื้อ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทุ้มเอ่ยเสียงดัง ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาเจ้าสุนัขจอมซนที่กำลังประทุษร้ายผู้ชายคนนึงที่กำลังนอนเล่นอยู่บนพื้นหญ้า



โฮ่ง!



เจ้าบีเกิ้ลหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงเจ้าของ แต่ยังไม่ยอมลงมาจากตัวของร่างสูง กลับนั่งทับเข้าที่อกของเขาซะงั้น



“ซื่อบื้อ ลงมาเดี๋ยวนี้ ไปนั่งทับคนอื่นแบบนั้นได้ยังไง” เสียงเจ้าของเอ่ยดุ ทำเอาเจ้าบีเกิ้ลครางเสียงงี๊ดๆ ก่อนจะเดินเตาะแตะไปหาเจ้าของ



“เอ่อ...คุณครับ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” ร่างสูงโปร่งเอ่ยถามชายที่ถูกเจ้าซื่อบื้อของเขาประทุษร้ายซะเนื้อตัวเปื้อนโคลนไปด้วย



“ไม่เป็นไรครับ” บาสเอ่ยตอบเสียงเรียบพลางก้มมองดูสภาพของตัวเอง



เฮ้อ...ดูไม่ได้เลยว่ะ



“เสื้อของคุณเปื้อน เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจ ที่รถของผมมีเสื้อผ้าสำรองอยู่ ผมว่าคุณควรเปลี่ยน” เจ้าของสุนัขเอ่ยบอกอย่างคนมีความรับผิดชอบ



“.....” บาสนิ่งเงียบไปสักพักอย่างลังเลใจ ก่อนจะพยักหน้าตกลง เพราะชุดนักศึกษาของเขาตอนนี้มันเปื้อนโคลนไปทั้งเสื้อและกางเกง หากเขาจะกลับในสภาพนี้ ก็คงจะไม่ค่อยสบายตัวเสียเท่าไหร่ อีกอย่างรถเขาก็จะเปื้อนได้



เปลี่ยนเสื้อผ้า ...มันคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด



“มาครับ ผมช่วย” ร่างสูงโปร่งรีบปรี่เข้าไปช่วย เมื่อเห็นว่าบาสกำลังจะลุกขึ้นยืน ซึ่งบาสก็ยอมรับความช่วยเหลือนั่นแต่โดยดี



“ขอบคุณครับ” บาสเอ่ยของคุณเสียงเรียบ ก่อนจะได้มองหน้า (เจ้าของ) คู่กรณีอย่างเต็มตา



ผู้ชายตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายที่สูงมาก แต่เตี้ยกว่าเขาเล็กน้อย ตัวบางกว่านิดหน่อย ใบหน้าธรรมดาแต่กลับมีเสน่ห์เมื่ออีกฝ่ายยิ้ม และเสน่ห์อีกอย่างก็คงจะเป็นนัยน์ตาสีน้ำตาลของคนตรงนี้ด้วยล่ะมั้ง โดยรวมก็ถือว่าดูดี



ตาใสๆเหมือนลูกแก้วเลยแฮะ



“ถ้างั้น ...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะครับ รถของผมอยู่ทางนั้น” ร่างสูงโปร่งตรงหน้าเอ่ยบอกก่อนจะชี้ไปยังทิศทางที่เป็นลานจอดรถ



“ครับ” บาสรับคำ ก่อนจะมองอีกคนที่ดึงสายจูงของเจ้าบีเกิ้ลที่ชื่อซื่อบื้อให้เดินตาม



“นี่เสื้อผ้าครับ” เมื่อมาถึงยังรถยนต์มินิคูเปอร์สีดำ ร่างสูงโปร่งก็เปิดประตูรถเข้าไปหยิบเสื้อผ้าที่เจ้าตัวมักมีจะมีสำรองติดรถเสมอ ก่อนจะยื่นให้บาส



“ขอบคุณ” บาสขอบคุณก่อนจะมองหาห้องน้ำ



“เดี๋ยวผมพาไปห้องน้ำนะ” ร่างสูงโปร่งเสนอตัว



“ครับ” บาสตอบตกลง เพราะถึงเขาจะไม่ค่อยแคร์อะไร แต่เขาก็อายนิดๆหากจะต้องเดินไปห้องน้ำใส่สภาพแบบนี้



บาสและชายแปลกหน้าเดินเข้ามาในห้องน้ำของสวนสาธารณะ ก่อนที่บาสจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนร่างสูงโปร่งที่มาด้วยก็ยืนรอแถวๆกระจกกับเจ้าบีเกิ้ลจอมซน



“คุณ...ผมขอถามอะไรหน่อยสิ” อยู่ๆร่างสูงโปร่งก็เอ่ยขึ้น ทำให้บาสที่กำลังจะถอดเสื้อชะงักเล็กน้อย



“...ครับ” ด้วยความสงสัย บาสจึงตอบตกลงไป



“คุณเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย XXX ใช่ไหมครับ”



“ใช่ครับ” บาสตอบพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจว่าจะถามเขาไปทำไมกัน



“อ่า...คือผมก็เรียนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน เรียนศิลปกรรม ปีสี่ครับ” ร่างสูงโปร่งเอ่ยบอก



“ครับ ...ผมเรียนสถาปัตย์ ปีสามครับ” บาสเอ่ยบอกไปบ้าง และตกใจไม่น้อยเมื่อคนตรงหน้าบอกว่าอยู่ปีสี่ ทั้งที่ดูโดยรวมแล้ว ต้องบอกตามตรงว่าหน้าเด็กกว่าอายุจริงสามถึงสี่ปี



“ถ้าอย่างนั้น เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมขอเลี้ยงข้าวสักมื้อนะ ต้องขอโทษแทนเจ้าซื่อบื้อมันด้วย ปกติมันไม่ซนขนาดนี้นะครับ”



“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเลี้ยงข้าวผมหรอก” บาสปฏิเสธอย่างนิ่มนวล เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร ไอ้ความซนนั่นคงจะมาจากสายพันธุ์ที่ไม่อยู่นิ่งของบีเกิ้ลอยู่แล้ว



“อ่า...ครับ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษอีกครั้ง”



“ไม่เป็นไรครับ” บาสตอบ และร่างสูงโปร่งก็ไม่ได้ถามหรือคุยอะไรกับบาสอีก เขาจึงรีบจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จเรียบร้อย



“เอ่อ...คุณจะกลับเลยหรือเปล่า” เมื่อบาสเดินออกมา ร่างสูงโปร่งก็รีบเอ่ยถามทันที



“ครับ” บาสตอบพลางพยักหน้าเบาๆ



“อ๋อ ...เอ่อ ผมชื่อเพลงนะ ...จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอถามชื่อของคุณ?” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งแนะนำตัวเองก่อนจะถามกลับอย่างมีมารยาท



“เรียกผมว่าบาสก็ได้” บาสตอบกลับเสียงเรียบ



“อ่า...งั้นเรียกผมว่าพี่เพลงก็ได้นะ เราอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันนี่” เพลงว่าพลางยิ้มให้อย่างกับคนอัธยาศัยดี ซึ่งมันก็เป็นนิสัยของเขา



“ครับ” บาสตอบรับ



“งั้น...พี่ไม่กวนบาสแล้วนะ แล้วก็ขอโทษแทนเจ้าซื่อบื้ออีกครั้งนะ” เพลงเอ่ยขอโทษแทนสุนัขของตนอีกครั้ง



“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อนนะ” บาสเอ่ยขอตัว เพราะตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว คนในสวนสาธรณะแห่งนี้ก็แทบจะไม่มีแล้ว
“อืม”



“พี่ก็รีบกลับซะ มันใกล้ค่ำแล้ว” บาสเอ่ยบอกอีกคน...ตามมารยาท



ยังไงซะตอนนี้ก็กลายเป็นคนรู้จักกันแล้ว เย็นชาเกินไปก็คงจะไม่ดี แถมอีกฝ่ายยังเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยด้วย แม้ว่าจะคนละคณะก็เถอะ



“อืม กลับดีๆนะ” เพลงยิ้มจนตาหยี แม้ว่าคนตรงหน้าจะพูดหน้านิ่งออกแนวโหดๆใส่เขา แต่เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ดูเป็นคนเลวร้ายอะไร



“เช่นกัน...ครับ”




...เธอไม่ใช่คนที่ฉันเฝ้ารอ เธอไม่ใช่คนที่ฝัน แต่ความจำเป็นทำให้เราใกล้กัน ไม่รู้จะทำยังไง...
(อยู่ๆก็มาปรากฏตัวในหัวใจ – พิจิกา)





********************************************************************


แนะนำว่าให้อ่านใหม่ทั้งหมดเลยนะครับ เพราะผมปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องตั้งแต่บทนำ

ผมจะแก้ไขและทยอยเอาลงนะครับ




FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  ก็ยังคล้ายๆ อันเดิมที่เคยลงอยู่นะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    ดีนะที่ลืมๆตอนแรกไปบ้างแล้วแต่สัมผัสได้ถึงรายละเอียดของการพบพานกันครั้งแรกของทั้งคู่นะ
พี่เพลงยิ้มตาหยีด้วยอะ อิมเมจแม็กซ์(แฟนเภา)ลอยเขเามาในหัวเลยอะ. ขอบคุณมากค่ะ
รอตอนเขาจีบกันนะ

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 2












สองเดือนผ่านไป ซึ่งการใช้ชีวิตโดยไร้คนรักข้างกายของบาส ก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าตัวยังแสดงอาการซึมๆออกมาบ้าง เหม่อบ้าง แต่ไม่หนักเท่าตอนแรกๆ ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นว่าบาสคงจะเริ่มทำใจได้ในระดับนึงแล้ว



“ไอ้บาส วันนี้พวก ‘ไอ้แคน’ มันจะติวกัน เราไปติวกับพวกมันเถอะว่ะ” ครามเอ่ยบอกคนข้างๆ ตอนนี้พวกเขากำลังทานอาหารกลางวันอยู่ที่โรงอาหารกลาง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสามคณะคือ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์



“ติวเหรอวะ?” บาสทวนคำ ก่อนจะพยักหน้าตกลงไป เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว เวลาเป็นเดือนๆที่ผ่านมาเขาก็ไม่ค่อยมีสมาธิกับการเรียนเสียเท่าไหร่ ไปติวกับเพื่อนเพื่อทบทวนบ้างมันก็ดี



“พวกไอ้แคนมันไปติวกันที่ไหนวะ” วินเทอร์เอ่ยถาม



“เห็นว่าไปร้านห้องสมุด” ครามเอ่ยบอกถึงสถานที่ติวหนังสือ ซึ่งมันก็คือร้านคาเฟ่ที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก เป็นร้านคาเฟ่ขนาดใหญ่ มีสามชั้น และมีอาณาบริเวณกว้างขวาง อาหารเครื่องดื่มหรือของหวานก็รสชาติดี



“กี่โมง”



“ห้าโมงเย็น มันให้เพื่อนจองไว้แล้ว”



“อืม กูขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวกูตามไป” บาสว่าก่อนจะลุกขึ้นเอาจานข้าวที่กินแล้วไปเก็บ แล้วขอตัวกลับที่พัก เนื่องจากช่วงบ่ายไม่มีเรียน เขาจึงกะว่าจะกลับไปนอนเอาแรงเสียหน่อย เพราะช่วงนี้งานเริ่มเยอะ ตัวเขาเองก็นอนน้อยแทบทุกวัน
บาสขับรถออกจากมหาวิทยาลัย มุ่งตรงสู่ที่พักของเขา ซึ่งนั่นก็คือบ้านชั้นเดียวหลังขนาดกลาง ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีก็ถึง แต่ถ้ารถติดก็ประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นบ้านที่แม่ของเขาซื้อเอาไว้ให้ ซึ่งบ้านเกิดจริงๆของบาสนั้นอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตัวเขาเองก็จะกลับบ้านในทุกๆวันหยุดยาว หรือไม่ก็ปิดเทอม
ระหว่างทางเขาก็จะขับผ่านสวนสาธารณะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งทุกวัน และทุกครั้งที่ผ่าน ชายหนุ่มเองก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยคล้ายกลับกำลังอมยิ้มอย่างขำๆ เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อน ที่เขาโดยเจ้าบีเกิ้ลที่มีนามว่าซื่อบื้อนั้นกระโจนใส่ จนเนื้อตัวเปื้อนโคลนไปตามๆกัน



สายตาชายหนุ่มมองไปยังกระจกส่องหลัง ซึ่งมันทำให้เห็นถุงที่ใส่เสื้อและกางเกงของเพลง เจ้าของเจ้าบีเบิ้ลจอมซน เพราะเจ้าตัวบอกว่าอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขา บาสจึงเอาเสื้อผ้าที่เพลงให้เขาเปลี่ยนติดรถไว้เสมอ เผื่อวันไหนบังเอิญเจอกัน เขาจะได้เอาคืนเจ้าของ











Rrrrrr… Rrrrrr…
เสียงริงโทนโทรศัพท์แผดเสียงร้องราวกลับเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี ให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับ กวาดมือหาต้นตอของเสียง



“...ฮัลโหล” เสียงอู้อี้เพราะยังไม่ตื่นดีของบาสเอ่ยพูดกับปลายสาย เมื่อเขากดรับสายโทรศัพท์



(ไอ้บาส มึงนอนอยู่เหรอวะ นี่มันหกโมงเย็นแล้วนะเว้ย) เสียงโวยวายของน่านฟ้าดังมาในสาย ทำเอาคนที่ยังเมาขี้ตาอยู่เริ่มจะมีสติขึ้นมาเรื่อยๆ



“เออ กูหลับเพลินไปหน่อย เดี๋ยวตามไป” บาสพูดแค่นั้นก่อนจะตัดสายเพื่อน แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที เพราะตั้งแต่เขากลับมาถึงบ้าน เขาก็เข้าห้อง เปิดแอร์ แล้วก็นอนทันที



บาสเลือกชุดสบายๆมาใส่อย่างเสื้อยืดคอกลมสีเทา และกางเกงขาสามส่วน ตบท้ายด้วยรองเท้าแตะ การแต่งตัวที่เหมือนจะไปจ่ายตลาด แต่พอมาอยู่บนตัวชายหนุ่มรูปร่างกำยำอย่างบาส มันกลับทำให้ดูดีอย่างหน้าเหลือเชื่อ ตัวช่วยคงจะเป็นไปไม่ได้นอกจากใบหน้ารูปไข่ คิ้วเข้มได้รูป รับกับจมูกโด่งเป็นสันอย่างชาติตะวันตก เพราะมีเชื่อสายเป็นลูกเสี้ยวอังกฤษ ประกอบกับดวงตาเรียว ขนตาเป็นแพหนา นัยน์ตาสีน้ำตาลอมเขียว ปากกระจับสีสด



คำเดียวที่จะนิยามตัวบาสได้ก็คือ ...หล่อ



ชายหนุ่มเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลา แต่ค่อนข้างจะเป็นคนแข็งกระด้าง ไม่ค่อยพูด เลยทำให้ดูหยิ่งไปหน่อย และทำให้เป็นที่น่าหมั่นไส้ในเพศเดียวกัน เขาจึงมีเรื่องชกต่อยอยู่เป็นประจำ



เมื่อแต่งตัวเสร็จ ชายหนุ่มก็รีบออกเดินทางไปยังร้านคาเฟ่ห้องสมุด ที่เขาได้นัดกับเพื่อนๆเอาไว้
ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ จึงทำให้กว่าจะมาถึงก็นานพอสมควร บาสเลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดรถของร้าน ก่อนจะเข้าซองจอดอย่างเรียบร้อย บาสดับเครื่องก่อนจะเอื้อมมือไปหอบเอาหนังสือและสมุดจด ก่อนจะลงจากรถ



“เฮ้ย!” บาสร้องอย่างตกใจ เมื่อเขากำลังจะเดินเข้าทางประตูหลังร้าน ก็มีสุนัขที่ไหนไม่รู้วิ่งมาพันแข้งพันขาเขา



...อืม พันธุ์บีเกิ้ลอีกแล้วเหรอ



รู้สึกว่าทำไมระยะนี้เขาจะต้องมายุ่งกับสุนัขพันธุ์นี้ด้วยนะ ยังดีที่เจ้าตัวนี้มันไม่เปื้อนโคลน



โฮ่ง!



เจ้าบีเกิ้ลเงยหน้าขึ้นมามองเขา ก่อนจะเห่าออกมา แถมยังกระดิกหางเหมือนจะเชื่องๆอีก แต่จะว่าไป...รู้สึกคุ้นๆแฮะ



“ซื่อบื้อ มาทำอะไรตรงนี้คะ พี่เพลงไปไหน” แต่บาสต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเจ้าบีเกิ้ล
แต่ว่า...



ชื่อซื่อบื้อ???



มันจะบังเอิญไปหรือเปล่า?



“.....” บาสได้แต่มองหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียม แถมยังมีใบหน้าที่สวยหวานและดูเรียบร้อย เขาจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้ มีสามีและลูกแล้ว



แต่ว่า นอกจากจะคุ้นชื่อหมาแล้ว ไอ้คนที่ผู้หญิงตรงเขากำลังถามหานี่สิ



พี่เพลง...อย่างนั้นเหรอ???



“ต้องขอโทษแทนซื่อบื้อด้วยนะคะ มันออกจะซนไปหน่อย” หญิงสาวรีบขอโทษแทนสุนัขของน้องชายตน



“ไม่เป็นไรครับ” บาสเอ่ยอย่างไม่ติดใจอะไร ก่อนจะเดินต่อ แต่เจ้าซื่อบื้อมันดันไม่ยอมเสียนี่ กลับวิ่งเข้าไปขัดขาชายหนุ่มจนเจ้าตัวเกือบล้ม และสุดท้ายบาสก็ต้องหยุดเดินอีกครั้ง



“ซื่อบื้อ ทำไมดื้อแบบนี้ อย่าไปแกล้งคุณเขาสิ” พี่สาวเจ้าของสุนัขเดินเข้าไปทรุดนั่งแล้วจับปลอกคอเจ้าซื่อบื้อเอาไว้



“ขอบคุณครับ” บาสขอบคุณหญิงสาวก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าไปในร้าน



“จริงๆเลยนะ ไปถูกใจอะไรคุณเขาเนี่ยซื่อบื้อ” เสียง ‘เพลิน’ เอ่ยบอกซื่อบื้ออย่างสงสัย เพราะเธอไม่เคยเห็นมันสนใจหรือวิ่งเข้าหาคนแบบนี้มาก่อนเลย



โฮ่ง!



ราวกลับจะฟังรู้เรื่อง ซื่อบื้อเห่าตอบพี่สาวเจ้านาย ก่อนจะกระดิกหางเมื่อเห็นเจ้านายของตนกำลังเดินมาทางนี้



“มีอะไรเหรอพี่เพลิน” เพลงเอ่ยถามพี่สาวที่อายุมากกว่าถึงสิบปี ที่กำลังนั่งคุยกับซื่อบื้อ แทนที่จะเดินเข้าไปในร้าน



“ก็ซื่อบื้อน่ะสิ ไปวิ่งซนพันแข้งพันขาลูกค้าเข้า ดีนะไม่ถูกเขาเตะเอา เอ๊ะ...หรือเพราะว่าลูกค้าคนนั้นหล่อ สาวน้อยซื่อบื้อของเราเลยหลงเสน่ห์ หืม?” ประโยคเพลินถามเจ้าบีเกิ้ล ก่อนจะเคาะหัวเบาๆอย่างหมั่นไส้



“อีกแล้วเหรอซื่อบื้อ คราวก่อนนะพี่เพลิน ซื่อบื้อมันเอาตัวเปื้อนโคลนไปถูไถรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของเพลงซะเนื้อตัวนี่เปื้อนไปหมด ดีนะที่เขาไม่เอาเรื่องเพลงอ่ะ” เพลงว่าก่อนจะเดินนำพี่สาวเข้าไปในร้าน




“ซนจริงๆ วันนี้งดกินขนมดีไหมซื่อบื้อ?”



หงิง...



เพลินว่าอย่างหยอกล้อ แต่ดูท่าว่าเจ้าซื่อบื้อจะไม่เล่นด้วย เหมือนรู้ว่าจะอดทานขนม เจ้าตัวก็ร้องครางหงิงๆออกมาอย่างน่าสงสาร



“ไม่ต้องมาทำท่าน่าสงสาร สองครั้งแล้วนะซื่อบื้อ” เพลงว่าอย่างดุๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสาม อย่างที่รู้ๆกันว่าคาเฟ่แห่งนี้มีสามชั้น เพลินจะคอยดูอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ‘แซม’ สามีของเพลินจะอยู่ที่ชั้นสอง ส่วนเพลงที่ตอนนี้เริ่มจะว่างช่วงเย็น เลยมาช่วยพี่สาวดูแลร้านแห่งนี้ โดยอยู่ที่ชั้นสาม



“วันนี้ก็ขอให้ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนอย่างทุกวันนะซื่อบื้อ” เพลงเอ่ยบอกซื่อบื้อ เนื่องจากวันนี้เจ้าบีเกิ้ลดันทำนิสัยไม่น่ารัก ไปก่อกวนลูกค้าแบบนั้น



แต่เจ้าบีเกิ้ลน้อยหาได้สนใจไม่ กลับวิ่งนำเจ้าของขึ้นไปยังชั้นสาม ทำเอาเพลงรีบวิ่งตามขึ้นไป กลัวว่าเจ้าซื่อบื้อจะไปก่อกลัวลูกค้าอื่นๆ




“ซื่อบื้อ!” เมื่อวิ่งมาถึงชั้นสาม เพลงก็เพิ่มความเร็วจนจับตัวซื่อบื้อเอาไว้ได้ ก่อนจะอุ้มขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงดุ



“ซื่อบื้อ ถ้าดื้อแบบนี้เพลงจะไม่พามาที่ร้านแล้วนะ” เพลงเอ่ยเสียงดุจนเจ้าบีเกิ้ลต้องเอาถ้ามาถูไถที่อกเขาอย่างออดอ้อน



“น้องเพลง เป็นอะไรเหรอ?” เสียงสาววัยยี่สิบหก ผู้เป็นพนักงานคนแรกๆของร้าน



“ก็เจ้าซื่อบื้อสิครับ ‘พี่แนน’ วันนี้เป็นอะไรไม่รู้ ดื้อจริงๆ” เพลงว่าก่อนจะก้มฟัดเจ้าบีเกิ้ลในอ้อมกอดอย่างหมั่นไส้



“มันก็ซนไปตามประสาแหละ” แนนว่าก่อนจะลูบหัวเจ้าซื่อบื้ออย่างเอ็นดู ก่อนจะขอตัวไปล้างมือแล้วกลับมาทำงาน



“ไม่ซนนะซื่อบื้อ” เพลงว่าก่อนจะปล่อยให้เจ้าบีเกิ้ลซื่อบื้อลงพื้น ซึ่งเจ้าสุนัขแสนซนก็วิ่งไปหาเบาะนอนของตัวเอง และฟัดลูกบอลในนั้นเล่น เพลงเห็นอย่างนั้นก็วางใจ เลยเดินไปนั่งยังมุมส่วนตัวที่สามรถมองเห็นทุกส่วนในโซนของชั้นสาม ก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่แผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อยืดสีเทาของผู้ชายคนหนึ่ง



เพลงรู้สึกคุ้น แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่คนรู้จัก เพราะถ้าเป็นคนที่เพลงรู้จัก เขาจะจำได้แม้จะมองจากข้างหลัง แต่กลับกัน คนๆนี้เขาแค่รู้สึกคุ้นเฉยๆ










ในตรงนั้นไม่ได้มีแค่ผู้ชายคนนั้นเพียงคนเดียว แต่ยังมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงอีก รวมกันก็...สิบสามคน คงจะมาติวหนังสือกัน เพลงยิ้มนิดๆเมื่อนึกไปถึงสมัยที่เขาอยู่ปีหนึ่ง เขาเองก็เคยมารวมตัวกับเพื่อนติวหนังสือที่นี่เหมือนกัน ถึงจะเรียนศิลปกรรมศาสตร์ แต่มันก็ต้องติวหนังสือเหมือนกันเมื่อต้องสอบวิชานอกสาขาอย่างภาษาอังกฤษหรือสังคม ตอนนั้นเขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เรียนนานาชาติมา เรื่องภาษานั้นเขาไม่มีปัญหา วิชานอกสาขาอื่นๆก็พอถูไถได้



ในเวลาเดียวกัน เหล่านักศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ก็กำลังจะจุกตายเพราะศัพท์ภาษาอังกฤษที่กำลังท่องจำอย่างเอาเป็นเอาตาย



“ไอ้เพลิง นั่งดีๆ” ครามเอ่ยเตือนเมื่อเพลิงเริ่มโงนเงน จนสุดท้ายก็ซบลงที่ไหล่ของครามในที่สุด



“กูไม่ไหวแล้ว มีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด” เพลิงบ่นงึมงำจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์



“งั้นก็พักกันก่อนเถอะ” วินเทอร์ว่าอย่างสรุป เพราะเขาเองก็เริ่มตาลายแล้ว



“”กูไปข้างล่างแป๊บนึง” บาสว่าก่อนจะลุกออกมาเลย เพราะจะให้นั่งพักมันก็เมื่อยซะเปล่าๆ ขอลงไปเดินเล่นแถวนี้ดีกว่า
บาสออกมาเดินเล่นแถวลานจอดรถของร้าน ก่อนจะล้วงเอาซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะจุดสูบแก้เซ็ง แต่เขาไม่ได้เครียดจาดการอ่านหนังสือหรอก แค่เบื่อๆที่จะต้องนั่งอ่านหนังสืออยู่กับที่ ลุกไปไหนก็ไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กลับบ้าน เขาก็คงจะไม่ได้อ่านหนังสือ น่าจะนอนเอาแรงเสียมากกว่า



“อ้าว...นึกว่าใคร พี่บาสสถาปัตย์นี่เอง” บุหรี่มวนแรกยังไม่ทันหมด ก็มีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา เมื่อหันไปก็พบกับ...คู่อริ



ก็ไม่ได้เคียดแค้นอะไรมาก ก็แค่แฟนของผู้ชายคนนั้นมาหลงเขา ก็แค่นั้น แล้วเรื่องของเรื่องคือตัวเขาเพิ่งเลิกกับแฟนได้เกือบสองเดือน ก็แค่ออกเที่ยวตามผับตามบาร์อย่างคนไม่อยากอยู่คนเดียว และมันก็เป็นธรรมดาที่ถ้ามีผู้หญิงมาเสนอถึงที่ ทำไมเขาจะไม่สนองล่ะ แต่ใครก็จะไปรู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว ก็เจ้าหล่อนเล่นบอกว่าตัวเองโสดนี่นา ตอนที่รู้ความจริงตัวเขาก็ไม่ติดต่อกับเจ้าหล่อนอีกเลย ผู้ชายคนนั้นดันแค้นเสียจนมีเรื่องชกต่อยกันจนได้



แต่เขาก็ชนะน่ะนะ



“.....” บาสปลายตามองก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงพื้น ใช้เท้าเขี่ยอย่างไม่รีบเร่ง 



“อะไรกัน ขี้ขลาดว่ะ แค่เจอหน้ากันก็จะหนี” ผู้ชายคนนั้นยังพูดด้วยท่าทียียวน ทำเอาหนุ่มบาสขากระตุกไปนิด



“.....”



“คราวก่อนมึงทำกูไว้เจ็บแสบมากเลยนะ”



“.....”



“ครั้งนี้กูขอทวงคืน...”



ผัวะ!



ไม่ต้องรีรอหรือพูดอะไรให้มากความ ในเมื่อความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัด ลับาสก็ไม่จำเป็นจะต้องอดทนฟังผู้ชายตรงหน้าพล่ามเสียด้วย หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่โหลกแก้มอย่างจัง ...แน่นอนว่าบาสเป็นคนชก



“แม่งเอ๊ย!” แต่อีกฝ่ายก็มีทักษะพอตัว สวนกลับได้ทันควันจนบาสหน้าหัน



ทางบาสเองใช่ว่าจะยอมจบแค่หมัดแลกหมัด ตั้งตัวได้ก็ยกเท้าขึ้นถีบท้องอีกฝ่ายเต็มแรง แต่ทางนั้นก็ดันหลบได้ แต่ด้วยทักษะที่มี บาสจึงศอกใส่เข้าที่ปลายคางของอีกฝ่าย จนฝ่ายนั้นล้มลง บาสจึงเดินไปคร่อมฝ่ายนั้นและกระหน่ำชกไม่หยุด อีกฝ่ายไม่ยอม ด้วยความแค้นที่มีมากจึงจับคอเสื้อบาสแล้วเหวี่ยงลงข้างตัวอย่างแรง แล้วขึ้นคล่อมบาส ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปทันที
“คุณตำรวจครับ! ทางนี้มีคนตีกันครับ!!”



ในจังหวะที่ทางฝ่ายนั้นได้เปรียบ ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้น จนทั้งคู่ชะงัก แต่บาสเป็นฝ่ายได้สติก่อน จึงยกเท้าขึ้นถีบอีกฝ่ายเต็มแรง แต่ด้วยความตกใจ ชายที่เข้ามาหาเรื่องบาสก็รีบวิ่งไปที่รถ ก่อนจะสตาร์ทออกไป ดูท่าว่าทางนั้นคงจะมาร้านนี้เหมือนกัน แล้วคงบังเอิญเห็นเขาที่เดินออกมาสูบบุหรี่แน่ๆ



“คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงพลเมืองดีวิ่งเข้ามาหาบาสที่กำลงันั่งชันเข่าและลูบหน้าท้องด้วยความจุก



“ไม่ครับ” บาสตอบปฏิเสธ ก่อนจะมองหาตำรวจ แต่...ไม่มี



หึๆ ไม่นึกว่าจะยังไม่คนใช้มุกนี้อยู่บนโลกด้วย นึกว่าจะมีแค่ในละคร



แต่ก็นะ มีคนหลงเชื่อจนวิ่งหนีแบบนั้น มุกนี้ก็ถือว่าไม่เลว



“แต่เลือกคุณออก ไปหาหมอที่คลินิกใกล้ๆนี้กันเถอะ”



“...อืม” บาสเงียบไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะตอบตกลง ไปหาหมอเอายาแก้ฟกช้ำดีกว่า



“เดี๋ยวผมพาไปนะ” พลเมืองดีว่าก่อนเข้ามาช่วยพยุงบาสที่กำลังจะลุกขึ้นยืน



จนบาสได้ทันสังเกตพลเมืองดีคนนี้



ใครวะ?



นัยน์ตาสีน้ำตาล และใสๆเหมือนลูกแก้วแบบนี้...



...คุ้นๆว่ะ













************************************************************************


FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พี่เพลงมาช่วยบาสแน่ๆเลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พี่เพลงแม่น้องซื้อบื้อนี่เอง น่ารักจังค่ะ พอได้บรรยายเต็มๆแบบฉบับเขียนใหม่นี้แล้วรู้สึกละเอียดดีค่ะ
พลเมืองดีควรได้รางวัลเป็นหนุ่มหล่อนะคะ   :katai2-1:
มีคำผิดนิดนึง ปรายตามอง

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 3












“แผลไม่น่าเป็นห่วงนะครับ ไม่มีอาการช้ำใน มีแค่การฟกช้ำเล็กน้อย ไม่กี่วันก็หาย เดี๋ยวเชิญรับยาข้างนอกลยนะครับ” เสียงนายแพทย์วัยกลางคนเอ่ยบอกพลางยิ้มอย่างอบอุ่น ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆของคลินิกแห่งนี้



“ขอบคุณครับ” บาสยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอ



“ครับ” คุณหมอยิ้มรับ



แล้วบาสก็ลุกขึ้น เดินออกมาจากห้องตรวจเพื่อรอรับยา



“เป็นไงบ้าง” เสียงพลเมืองดีที่นั่งรออยู่ตรงบริเวณหน้าเคาท์เตอร์จ่ายยาเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างสูงกำยำของบาสเดินเข้ามาใกล้



“รอรับยา” บาสตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆกับพลเมืองดี



“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่...ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณจัง เราเคยเจอกันหรือเปล่า” เจ้าของนัยน์ตาลูกแก้วเอ่ยถามพลางจ้อมบาสตาแป๋ว
จะว่าไป ...เขาเองก็รู้สึกคุ้นหน้าพลเมืองดีคนนี้เหมือนกันนะ



“อาจจะเคย” บาสตอบไปตามที่ใจคิด



“คุณเองก็คิดเหมือนผมนี่นะ แต่เราเคยเจอกันที่ไหนนะ?”



“ผมชื่อบาส” บาสแนะนำตัวเอง



“บาส?”



“...?”



“ ...เฮ้ย! บาสเหรอ? ผมนึกออกแล้ว!!” หลังจากที่บาสแนะนำชื่อตัวเองออกไป พลเมืองดีนิรนามก็ร้องขึ้น



“...?”



“พี่เอง เพลงไง ที่เราเคยเจอกันเมื่อ...ก็เป็นเดือนๆแล้วนะ ที่หมาของพี่วิ่งคลุกโคลนแล้วไปกระโจนใส่ตัวบาสไง จำได้ไหมๆๆๆ” ชายที่แนะนำตัวเองว่าชื่อเพลงพูดติดสปีทจนคนฟังจับคำแทบไม่ทัน แต่ก็พอเข้าใจได้



พอลองนึกดูดีๆ ...



...เออว่ะ มันเคยมีเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆด้วย



“อ๋อ” บาสร้องคราง พลางพยักหน้าเมื่อนึกออกเหมือนกัน



เหตุการณ์มันก็ตั้งนาน เกือบสองเดือนเห็นจะได้ แถมยังเจอกันแค่ครั้งเดียวในเวลาสั้นๆอีก ใครจะไปจำหน้ากันได้



“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หล่อขึ้นนะ” เพลงว่าพลางฉีกยิ้ม



“หึๆ” บาสหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เพราะคนตรงหน้าดูเด็กกว่าอายุจริง ...หมายถึงนิสัยลักษณะท่าทางด้วยน่ะนะ



“แล้วนี่ไปทำยังไงถึงได้มีเรื่องได้ล่ะเนี่ย” เมื่อเห็นว่าเป็นคนรู้จัก เคยเจอกันมาแล้ว เพลงจึงถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้



“ก็...อริเก่า” บาสพยายามตอบด้วยคำที่ได้ความหมายมากที่สุด อืม...ก็อริเก่าจริงๆนี่นา



“แปลว่าเคยมีเรื่องกันมาก่อน?”



“ครับ” บาสพยักหน้า ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรับยาเมื่อเภสัชกรที่เคาท์เตอร์จ่ายยาเรียกชื่อเขา



บาสฟังเภสัชกรอธิบายเกี่ยวกับยาของเขา เมื่ออธิบายเสร็จเขาก็จ่ายเงิน แล้วเดินกลับมาหาเพลง



“เสร็จแล้วใช่ไหม กลับกันเถอะ” เพลงเอ่ยขึ้นเมื่อบาสเดินกลับมาหา เจ้าตัวเลยพยักหน้าหน่อยๆ เพลงจึงลุกขึ้นแล้วเดินนำไปที่รถของเขา โดยมีบาสเดินตามหลัง



“บาสใช่กลุ่มที่มาติวหนังสือที่ร้านพี่รึเปล่า?” เพลงเอ่ยถามพลางสตาร์ทรถ



“ครับ”



“แสดงว่าคนที่พนักงานในร้านพูดถึงจะต้องเป็นบาสแน่ๆเลย” เพลงพูดความยิ้มให้คนข้างๆ ที่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างตั้งคำถาม



“...?”



“ก็คืองี้ พวกพนักงานสาวๆที่ร้านนะ ซุบซิบกันว่ามีกลุ่มนักศึกษามาติวกันที่ชั้นสาม เห็นว่าหนึ่งในนั้นมีลูกครึ่งหล่อๆหน้ากินๆอยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง” เพลงอธิบาย



“แล้วทำไมพี่เพลงถึงรู้ล่ะครับ” บาสถามกลับ



“ก็พวกพนักงานมาเมาท์ให้ฟังน่ะสิ”



“หืม?” แล้วทำไมพนักงานจะต้องมาเล่าให้พี่เพลงฟังด้วยวะ??



“คือพี่สาวของพี่เป็นเจ้าของร้าน แล้วช่วงนี้พี่ว่างเลยมาช่วยพี่สาวดูแลร้านน่ะ” เพลงขยายความจนบาสร้องอ๋อในใจ ที่แท้ก็น้องชายของเจ้าของร้าน



“จะกลับบ้านหรือจะไปที่ร้าน?” เพลงเอ่ยถามพลางแตะเบรกเมื่อไฟจราจรตรงหน้าเป็นไฟแดง



“ไปที่ร้านครับ” บาสตอบ



“อืม นี่...อย่าหาว่าพี่สอนเลยนะ แต่ว่าการมีเรื่องชกต่อยแบบนี้มันไม่ดีหรอกนะ ถึงเกิดมันถึงชีวิตขึ้นมามันจะไม่คุ้มเลย แล้วคนที่เสียใจก็จะเป็นคนที่บาสรักและก็รักบาสเองนั่นแหละ” เพลงกึ่งสอนกึ่งเตือน



“ครับ ผมก็ไม่ได้อยากมีเรื่องสักหน่อย” น่าแปลกที่บาสกลับไม่รู้สึกโกรธหรือโมโหอะไร ที่อยู่ก็มีใครก็ไม่รู้มาสั่งสอนเขา อาจเป็นเพราะเขาฟังจากน้ำเสียงของเพลง



น้ำเสียงที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า..เป็นห่วง



น่าแปลก...ที่เขารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้รับการห่วงใยจริงๆ



“พูดไปเถอะ ดูท่าบาสก็คงจะเป็นคนใจร้อนพอตัวล่ะสิ ถึงได้ชกเขาซะมันขนาดนั้น” เพลงเอ่ยอย่างประชด



“เห็นด้วยเหรอ?”



“เห็นตั้งแต่ต้นนั่นแหละ กำลังตกใจอยู่ ไม่รู้จะทำยังไงดี” เพลงสารภาพ ตอนนั้นเขากลับมาเอาโน๊ตบุ๊คที่อยู่ในรถพอดี



“หึๆ”



“หัวเราะพี่เหรอ” เพลงว่าก่อนจะเอื้อมมือมาหยิกแขนบาสไม่เบานัก



“โอ๊ยๆ ผมเจ็บ” บาสร้องพลางดึงมือเพลงออก



“ที่มีเรื่องต่อยตีนี่ไม่เจ็บเลยนะ” เพลงว่าพลางยิ้มขำ



“มันคนละเรื่องกันน่าพี่เพลง ...มองถนนสิ ไฟเขียวแล้วครับ” บาสว่าก่อนจะจับปลายคางรุ่นพี่ต่างคณะให้หันไปมองทาง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ amewa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขาสองคนเจอกันอีกครั้งแล้วค่ะแม่! แอร้ยยยย
คือชอบบรรยากาศของเรื่องนี้ ดูเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไปดีค่ะ
รอมาต่ออย่างใจจดใจจ่อเลย :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โถ่บาส. ไม่ยอมอ้อนพี่เพลงเลย คู่นี้ดูค่อยเป็นค่อยไปเนอะ  :pig4:

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ต่อ









การสอบกลางภาคผ่านไปด้วยดี โดยที่บาสมั่นใจว่าตัวเขาสามารถทำข้อสอบได้ผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่รู้ว่าคะแนนนั้นจะได้มากแค่ไหน



“พวกมึง...พี่กูชวนไปแดกเหล้าตอนทุ่มนึง ไปป่ะ??” น่านฟ้าเปิดปากพูดเป็นคนแรก หลังจากที่อาจารย์ที่สอนในคลาสเรียนสุดท้ายของวันนี้ได้เดินออกจากห้องไปแล้ว



“ไปดิ” วินเทอร์ตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น



“เออ น่าสน วันนี้ก็วันศุกร์แล้วด้วย” ครามว่าอย่างเห็นด้วย



“ไปๆ อยากกินเนื้อย่าง” เพลิงตอบด้วยน้ำเสียงยานคางนิดๆ เพราะเพิ่งตื่น แต่...มันคนละเรื่องเลยนะนั่น



“ไปกินเหล้า ไม่ใช่เนื้อย่าง” ครามว่า



“ก็ซื้อเนื้อย่างเข้าไปสิ พี่มึงไม่ว่าอะไรใช่ป่ะ” เพลิงบอกครามก่อนจะหันไปถามน่านฟ้า



“ไม่ว่าหรอก แต่กูว่าพวกพี่กูก็คงจะสั่งเนื้อย่างกันมาอยู่แล้ว แต่ถ้ามึงจะซื้อเพิ่มก็ไม่ว่ากัน”



“เห็นไหมคราม พาไปซื้อเนื้อย่างเลย” เพลิงว่าก่อนจะหันมาบอกคราม



“เออๆ” ครามพยักหน้าตกลงเมื่อเถียงอะไรไม่ได้



“แล้วพี่มึงนี่พี่คนไหนวะ?” วินเทอร์ถามบ้าง



“ก็พวก ‘พี่หมอก’ ไง” น่านฟ้าเอ่ยถึง ‘ม่านหมอก’ พี่ชายตัวเอง เรียนอยู่ปีสี่คณะเกษตรศาสตร์ แต่เห็นว่าจะชวนเพื่อนจากคณะอื่นมาด้วย



ที่วินเทอร์ถามก็เพราะว่าครอบครัวของน่านฟ้ามีลูกชานสี่คน และพวกเขาก็สนิทกับพวกพี่ชายของน่านฟ้าเป็นอย่างดี



“อ๋อ กูไปๆ แล้วมึงล่ะไอ้บาส นั่งนิ่งเป็นอนุสาวรีย์เลย” วินเทอร์หันไปถามเพื่อนที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา



“อืม” คนถูกถามส่งเสียงเพียงแค่นั้น



“อืมนี่คือ???”



“ไป” บาสตอบเสียงแข็งนิดหน่อย



“ก็แค่นั้นแหละ ทำอย่างกับพูดแล้ววิญญาณจะหลุดออกจากร่าง” วินเทอร์ประชดเข้าให้



“เดี๋ยวกูตามไปก็แล้วกัน ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ...กูนอนบ้านมึงนะ” บาสหันไปบอกลูกเจ้าของบ้าน ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ล่ำลาหรือกล่าวอะไร แต่ทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันเป็นนิสัยของเจ้าตัวอยู่แล้ว อีกอย่างเดี๋ยวก็ต้องไปเจอกันที่บ้านของน่านฟ้าอยู่ดี



บาสกลับบ้านมาก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสบายๆด้วยเสื้อยืดสีขาวตัวบางกับกางเกงขาสามส่วนแบบที่ใส่อยู่บ้าน แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้ร่างสูงใส่กางเกงบ็อกเซอร์เจเจก็ยังดูไม่น่าเกลียดอะไรอยู่ดี



บาสเช็คความเรียนร้อยของบ้าน ก่อนจะเดินออกมาสวมใส่รองเท้าแตะหูหนีบสีขาวขอบสีฟ้า ในมือถือกระเป๋าเสื้อผ้าที่เอาไว้เปลี่ยนพรุ่งนี้ ก่อนจะเดินไปที่รถที่จอดอยู่หน้ารั้วบ้าน ล็อคประตูรั้วบ้านให้เรียบร้อยก็ขึ้นรถแล้วตรงไปยังบ้านของน่านฟ้าทันที



“โหย ไอ้บาส ใส่ชุดนี้มากินหรือมานอนครับเพื่อน” น่านฟ้าเอ่ยแซวทันทีที่เห็นการแต่งกายของเพื่อน



“นอน” บาสตอบนิ่งๆ ก่อนจะเดินไปสวัสดีม่านหมอกและพวกเพื่อนของเขา



“ไงไอ้หล่อ วันนี้เต็มที่เลย วันเกิดเพื่อนพี่เอง” ม่านหมอกว่าพลางตบบ่าบาสเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าไปยังเพื่อนของเขา



“สุขสันต์วันเกิดนะครับ แล้วก็ขอโทษที่ไม่มีของขวัญให้ครับ” บาสหันไปบอก ‘แดน’ เพื่อนของม่านหมอก



“ไม่เป็นไรเว้ย แค่มาพี่ก็พอใจแล้ว หอพี่มันเล็ก จัดงานไม่ได้เลยต้องมารบกวนบ้านไอ้หมอกมัน” แดนว่าอย่างไม่ถือสา



“ครับ” บาสยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขอตัวกลับไปหาเพื่อน



“พ่อแม่มึงล่ะวะ?” บาสเดินกลับมาก่อนจะถามน่านฟ้า



“ไปฮันนีมูนว่ะ” น่านฟ้าตอบอย่างเอือมเล็กๆ เพราะพ่อแม่ของเขาไปฮันนีมูนทุกสามเดือน ไปเที่ยวด้วยกันสองคนจนจะรอบโลกแล้วล่ะมั้งนั่น



“.....” บาสพยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนจะเดินไปหาเพลิงที่กำลังปิ้งบาบิคิว



“เนื้อย่างมึงล่ะ” บาสถาม



“ยังไม่ย่าง พวกพี่เขาบอกว่าค่อยย่างตอนดึกๆ” เพลิงว่าพลางพลิกไม้บาบิคิวไปมา



“แล้วครามไปไหน” บาสถามถึงเพื่อนอีกคนที่ตั้งแต่มาก็ยังไม่เจอกันเลย



“อยู่กับเพื่อนพี่หมอกที่อยู่คณะศิลปกรรม เห็นว่าไปทำกับข้าวน่ะ” เพลิงตอบก่อนจะงับบาบิคิวในมือ อะนะ...ปิ้งไปกินไป



“.....” บาสพยักหน้าก่อนจะช่วยเพลิงปิ้งบาบิคิว เพราะดูท่าว่าถ้าจะให้เพื่อนของเขาทำ คนอื่นๆคงไม่ได้กินกันแน่ๆ



เวลาร่วงเลยมาจนถึงหกโมงเย็น เพื่อนของม่านหมอกและแดนก็ทยอยมา บางคนก็มีของขวัญมาให้ แต่ส่วนมากจะเป็นแอลกอฮอล์ ลังโซดา ลังเบียร์ทั้งนั้น



“อาหารมาแล้วพี่” ครามร้องบอกเสียงดังพลางยกจานอาหารน่าทานมาวางตรงกลางวง พวกเขาเลือกที่จะปูเสื่อนั่งกินกันตรงสนามหญ้าของบ้าน จะได้ไม่ทำเลอะเทอะในบ้าน



“ไอ้เพลงล่ะวะ” แดนถามคราม



“เห็นว่าคุยโทรศัพท์กับพี่สาวน่ะพี่แดน” ครามตอบก่อนจะเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง



แต่บาสขมวดคิ้วหน่อยๆกับชื่อของบุคคลที่เขายังไม่เจอตัว



เพลง...เหรอ???



ทำไมพอพูดถึงชื่อนี้แล้วมันมีใบหน้าของรุ่นพี่ต่างคณะที่เจอกันเพียงสองครั้งลอยเข้ามาในหัวได้เนี่ย แต่...คนชื่อเพลงก็มีเป็นแสน อาจจะไม่ใช่ก็ได้



“ไอ้บาส มึงจะสูบให้ปอดหายไปข้างเลยรึไง” วินเทอร์ถามอย่างประชดเมื่อเพื่อนหน้านิ่งกำลังจะจุดบุหรี่ตัวที่สาม นี่เพื่อนเขาจะสูบสามมวนติดเลยหรือไง



“อีกตัวเดียว” บาสตอบก่อนจะยืนพิงเสาสูบบุหรี่ต่อไป



“ปลาหมึกย่างมาแล้ว” เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัว



หึ...เซ้นท์ของบาสไม่เคยพลาดเลย ให้ตายสิ



“ทำไมนานจังวะไอ้เพลง” แดนถามเพื่อนของเขา



“กูเผลอปัดถ้วยน้ำจิ้มถ้วยแรกหก เลยเสียเวลาทำใหม่ว่ะ” เพลงตอบพลางยิ้มอย่างสงสัย ราวกลับว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเขา



“มึงแม่งซุ่มซ่ามจริงๆ เมื่อไหร่จะแก้หายวะ?” ม่านหมอกถามกึ่งประชดเล็กๆ



“มันเป็นส่วนหนึ่งของตัวกูไปแล้วว่ะ” เพลงตอบพลางทำหน้ากวน ก่อนสายตาของเขาจะมาหยุดอยู่ร่างสูงที่ยืนพิงเสาอยู่
ออกจะบังเอิญไปสักหน่อย เพลงตกใจเล็กน้อยที่เห็นบาสอยู่ที่นี่ โลกกลมไปไหม???



“.....” เพลงยิ้มจางๆให้บาส



“.....” บาสทำเพียงพยักหน้าทีนึงเป็นการทักทาย ก่อนที่ตัวเขาจะโดนแดนที่ลงทุนลุกขึ้นมาลากตัวเขาให้ไปร่วมวงด้วยกัน ซึ่งที่ที่เขานั่งก็คือข้างๆแดน แต่มันก็ดันอยู่ข้างๆเพลงด้วยนี่สิ



“มาๆ มากินเหล้ากับพี่ดีกว่า วันนี้ใครไม่เมากูงอนนะครับ” แดนพูดด้วยน้ำเสียงเฮฮา



และแล้วปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น...





*******************************************************************

TBL-425-920
ขอโฆษณานิดนึง เรื่องเผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้วได้มีการรีปริ้นแล้วนะครับ คลิกเลย



FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    วี้ดวิ้ว. แบบนี้ต้องหาคนดูแลนะคะพี่เพลง. เจอกันสามครั้งแล้ว. ยังไม่มีท่าทีจะจีบกันเลยน้อ
ยินดีด้วยกับการพิมพ์ครั้งที่สองจ้า. มีคำผิด. ล่วงเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 4











ปาร์ตี้ ต่อให้มันจะยาวจนถึงเช้าแค่ไหน ยังไงก็ต้องจบ และเก็บของ



“หมอก ...เดี๋ยวตื่นมาค่อยเก็บของนะเว้ย ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” สายแข็งผู้อยู่รอดจนถึงเช้าเอ่ยบอกเจ้าของบ้านที่เมาหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนจะค่อยพยุงร่างสูงของตัวเองให้ยืนให้มั่นคงแล้วเดินขึ้นบันได แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให่ร่ายกายนั้นโงนเงน แล้วล้มลงไปตามแรงดึงดูดของโลก แต่ด้วยความที่อยากนอนเตียงนุ่มๆ เปิดแอร์เย็นๆ จึงฝืนสังขารคลานขึ้นบันไดไปยังห้องรับรองแขกของบ้าน



ตุบ



ทันทีที่เปิดประตูได้ ร่างสูงก็เดินเข้าไปในห้อง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงเตียงนอน เมื่อเขาสะดุดเข้ากับขาของคนที่นอนอยู่ที่พื้น ในห้องนี้มีแปดชีวิตที่นอนอยู่ในนี้ แต่ด้วยความมึนเมาทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีใครอยู่บ้าง



“อืมม...ทำไมอุ่นๆ” เขาล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น ก่อนจะกวาดไปมาอย่างสะเปะสะปะ แล้วปะทะเข้ากับแผงอกและหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อย่างคนออกกำลังกายอย่างหนัก



ด้วยความเมาทำให้เขาเผลอตัวไปนอนกอดกับคนที่ไม่รู้ว่าพี่ เพื่อน หรือน้อง แต่ด้วยความหนาวเหน็บจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ตกกระทบลงตรงเขา และความอุ่นจากอุณหภูมิของร่างกายของคนที่เขานอนกอด ทำให้ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอย่างขอความอบอุ่น หัวเกยที่อกแกร่งฟังเสียงหัวใจเต้นอย่างสม่ำเสมอ คล้ายกลับช่วยกล่อมให้คนเมาหลับไปอย่างง่ายๆ
คนถูกกอดลืมตาตื่นขึ้นมา ก้มมองมองเล็กน้อยก่อนจะหลับไปอย่างคนละเมอ แต่สองแขนแกร่งกลับยกขึ้นโอบกอดร่างที่นอนเกยอยู่บนตัวเขา และหลับสนิทไปอีกครั้ง












“หืมม...พี่หมอก ทำไมมานอนตรงนี้ พี่แดนด้วย...ตื่นๆๆๆ” เสียงน่านฟ้าปลุกพี่ชายและเพื่อนของเขา เมื่อเขาตื่นมาในเที่ยงวัน แล้วลงมาจากห้องนอนเพื่อหาอะไรกิน ก็พบพี่ชายและเพื่อนนอนหลับเป็นตายอยู่ที่พื้นในห้องนั่งเล่นๆ



“อืมมม...” เสียงคนเมาที่เพิ่งจะได้นอนเอาตอนเช้าครางออกมาอย่างรำคาญ ก่อนจะพลิกตัวหนีแล้วนอนต่อ



“อะไรเนี่ย ...ปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็แล้วกัน” ด้วยความที่ยังติดง่วง และด้วยความหิวที่มีมากกว่า น่านฟ้าจึงเลือกที่จะปล่อยทั้งคู่เอาไว้แบบนั้น ส่วนตัวเองเดินไปทำอะไรๆง่ายๆกินในครัวแทน



ถัดมายังห้องรับรองแขก ทั้งเก้าชีวิตยังคงนอนสลบกันอยู่เต็มเตียงเต็มพื้นห้อง ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆ และอีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ เมื่อคืนพวกเขาจึงดื่มมากเป็นพิเศษ



สองมือใหญ่โอบกอดหมอนข้างในนิ่มและอุ่น บาสะกดหน้าฝังลงไปกับหมอนข้างที่เขากอดอยู่ กินหอมอ่อนทำให้รู้สึกสบายและอยากจะหลับนอนไปอีกครั้ง แต่เสียงประท้วงจากความหิวทำให้เขาไม่สามารถต้านทานมันได้เท่าไหร่นัก



เอายังไงดี ...จะไปหาอะไรกินหรือจะนอนต่อดี



อ่า...แต่นอนต่อก็ไม่เลวนะ หมอนข้างก็นุ่ม กลิ่นก็หอม



บาสกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น



“อื้อ!” เสียงครางอู้อี้ดังขึ้น แต่บาสไม่ทันได้สนใจ ด้วยความที่แอร์มันตกกระทบลงตรงที่เขานอนพอดีและเขาดันไม่ได้ห่มผ้าห่ม เขาจึงพยายามหาที่อุ่นๆ



แต่ว่า...เมื่อคืนเขานอนที่พื้นและมีแค่หมอนที่หนุนอยู่ใบเดียวนี่นา...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด