[เรื่องสั้น] ห้องข้างๆ บ้านเดียวกัน #ตอนจบ | 13/12/2558 [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ห้องข้างๆ บ้านเดียวกัน #ตอนจบ | 13/12/2558 [จบ]  (อ่าน 5843 ครั้ง)

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2015 18:22:49 โดย Be mine »

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 1

“อ้ากกกกกกกก หลบหน่อยครับๆๆๆ”

เสียงตะโกนที่ดังลั่นทางเดินแหวกฝูงคนที่เดินอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับคนตัวเล็กที่วิ่งสุดแรงเกิดจนขาแทบจะพันกัน

"นายวริปป์!!! ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามวิ่งบนระเบียง!!!”

เสียงแหลมๆของอาจารย์ฝ่ายปกครองตะคอกบอก ผมหยุดแล้วเดินช้าๆตามคำสั่ง แต่พอพ้นสายตาอาจารย์ผมก็ใส่เกียร์หมาโกยไปยังจุดหมายปลายทางทันที

“ขออนุญาตเข้าห้องครับอาจารย์”

ผมบอกอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าห้องอย่างกล้าๆกลัวๆ จะไม่ให้กลัวได้ไงก็ดูหน้าอาจารย์แกสิ ไม่รู้ว่ากินรังแตนเป็นมื้อเช้ามาหรือไงกันนะ มองผมจนแทบจะพรุนอยู่แล้ว

“ทำไมไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ”

“แต่พรุ่งนี้วันหยุดนะครับ”

ผมหยุดคิดแปบนึงแล้วตอบอาจารย์กลับไป แต่ผมคงจะตอบไม่ถูกใจอาจารย์ถึงได้โกรธจนควันออกหูอย่างนั้น ผมมองเพื่อนๆในห้องที่กลั้นหัวเราะกันจนหน้าดำหน้าแดง นี่จะไม่มีใครบอกผมหน่อยหรอว่าผมตอบอะไรผิด

“อ๋อหรอ งั้นเธอก็ไม่ต้องเรียนละกัน ไปยืนหน้าห้องจนกว่าจะหมดคาบ”

ผมจำใจเดินไปยืนหน้าห้องอย่างงงๆ



“ไงไอ้ซี ได้เรื่องแต่เช้าเลยนะ โชคดีนะที่ไม่โดนหักคะแนนอันน้อยนิดของมึงอีก”

ไอ้กายทักผมที่เดินเข้าไปนั่งที่ประจำหลังจากหมดคาบแรก

“โชคร้ายชะมัด นี่กูยังไม่รู้เลยนะว่าทำอะไรผิด แค่มาสายแต่ก็ไม่เห็นต้องไล่ไปยืนหน้าห้องจนหมดชั่วโมงอย่างนั้นเลยนี่หว่า”

“มึงนี่มันทั้งซื่อทั้งบื้อเลยนะ”

ไอ้ไทว่าผมอย่างเดียวไม่พอยังผลักหัวผมอีกต่างหาก

“อะไรของมึงเนี่ย”

ผมว่าไล่หลังไทที่เดินไปนั่งที่โต๊ะมันเพราะอาจารย์ที่สอนคาบต่อไปกำลังเดินเข้ามา แต่โชคดีที่อาจารย์คนนี้ใจดี ไม่งั้นผมคงได้ออกไปยืนขาแข็งหน้าห้องอีกชั่วโมงแน่



“เร็วๆดิ กูหิวแล้ว”

ผมเร่งไอ้เพื่อนสนิทสองคนที่กำลังเก็บของลงใต้โต๊ะ เรื่องกินผมจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ

“เออๆ เสร็จแล้ว”

ผมกอดคอไอ้ไทและไอ้กายแล้วพากันเดินไปที่โรงอาหาร ผมกับสองคนนี้เราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว จริงๆผมก็ไม่อยากจะคบพวกมันสองคนหรอก แต่ไม่มีคนคบกับผม ผมก็เลยต้องทนคบกับพวกมันไป และพวกมันก็เป็นเพื่อนที่รู้ใจผมที่สุด

“มึงนั่งนี่แหละ เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวให้”

ไอ้ไทหน้าใหญ่ใจปล้ำบอกกับผม ผมก็อมนั่งเฝ้าโต๊ะแต่โดยดีเพราะถ้าให้ไอ้ไทไปซื้อข้าวให้ ผมก็จะไม่ต้องออกตังสักกะบาท

“ขอนั่งด้วยนะ”

ผมเงยหน้ามองคนที่มาขอนั่งด้วยทั้งๆที่โต๊ะว่างก็ออกจะเยอะ

“ครับๆ”

แต่ผมก็ตอบอนุญาตไป เป็นเพราะคนที่มาขอนั่งด้วยคือ ‘พี่มิกกิ’ ที่เป็นประธานนักเรียน ผมไม่อยากจะมีเรื่องด้วยหรอก แต่ด้วยความอยากรู้ขอถามหน่อยละกัน

“ทำไมพี่ไม่ไปนั่งโต๊ะอื่นละ ผมถามเฉยๆนะ ไม่ได้อยากมีปัญหากับพี่ ผมแค่สงสัย แต่ว่าพี่จะนั่งตรงนี้ก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก”

พี่มิกกิมองผมนิ่งๆ ผมไม่ได้พูดหาเรื่องออกๆไปใช่ไหม ทำไมพี่เขาไม่พูดอะไรเลยล่ะ หรือว่าจะเป็นใบ้ แต่คงไม่ใช่หรอเพราะวันนั้นพี่เขายังไปพูดที่หน้าเสาธงเลยนี่หน่า คงไม่อยากตอบล่ะมั้ง ผมไม่อยากรู้แล้วก็ได้ ผมเลิกสนใจพี่มิกกิแล้วหันไปมองหาไทกับกายที่ไปซื้อข้าวตั้งนานแล้วแต่ยังไม่มาสักที

“ฉันแค่ไม่อยากไปนั่งกับพวกที่ชอบพูดมาก แต่ฉันคงจะเลือกที่นั่งผิด”

ผมมองพี่เขาที่เพิ่งตอบคำถามของผม ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าจะมีเรื่องกับประธานนักเรียนซะแล้ว

“ไปซื้อถึงไหนว่ะเนี่ย น้ำย่อยจะกัดกระเพาะกูหมดละ”

ผมบ่นไอ้ไทกับไอ้กายที่ไปซื้อข้าวนานเป็นชาติ

“มึงไปพาพี่มิกมานั่งด้วยได้ไงว่ะ”

ไอ้กายกระซิบถามผม ตอนนี้ไอ้ไทกับไอ้กายนั่งเบียดขนาบข้างรอฟังคำตอบจากผม

“ไม่รู้สิ อยู่ดีๆพี่เขาก็มาขอนั่งด้วย”

ผมตอบแล้วตักข้าวในจานใส่ปาก ส่วนไอ้สองคนนั้น นั่งมองพี่มิกกิอย่างเกร็งๆ จะกลัวอะไรนักหนา พี่เขาไม่เห็นจะดุสักหน่อย ผมกินข้าวจนหมดอย่างรวดเร็ว ก็คนมันหิวนี่หน่าจะให้มานั่งละเมียดละไมกินได้ไง จริงไหม

“ฉันไปก่อนนะ”

ทันทีที่พี่มิกกิเดินออกไป พวกลิงทั้งสองคนก็ขยับออกจากผมแล้วกินข้าวได้คล่องขึ้น

“ทำไมต้องกลัวพี่มิกกิขนาดนั้นด้วยว่ะ”

“มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว พี่เขาน่ะโหดตัวพ่อเลยนะเว้ย”

“หรอ”

ผมตอบไปแค่นั้น พี่เขาไม่เห็นจะดูโหดตรงไหนเลย ออกจะดูใจดี อบอุ่นเสียด้วยซ้ำ พวกนี้อคติไปเองแน่ๆ



เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณแห่งความสุขของหลายๆคน รวมทั้งผม กาย และไท

“ไปเที่ยวห้างกันไหม”

ไอ้กายชวน

“วันนี้กูต้องรีบกลับบ้าน พ่อกับแม่ไม่อยู่ไม่มีคนดูกุ๊กกุ๊ก”

“งั้นกูไปกับไอ้ไทสองคนก็ได้ มึงรีบกลับไปดูกุ๊กกุ๊กลูกมึงเถอะ”

กุ๊กกุ๊กก็คือน้องหมาของผมเอง ตัวนี้พ่อกับแม่ซื้อเป็นของขวัญวันเกิดสองปีที่แล้วเอาไว้อยู่เป็นเพื่อนผมวันที่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน

“เจอกันวันจันทร์”

ผมเดินแยกกับพวกมันหน้าโรงเรียนแล้วไปรอรถแท็กซี่



“กุ๊กกุ๊ก กุ๊กกุ๊ก พี่ซีกลับมาแล้ว”

ผมเรียกกุ๊กกุ๊กทันทีที่เปิดเข้าไปในบ้าน แต่น่าสงสัยเพราะปกติกุ๊กกุ๊กจะออกมารับผมก่อนตลอด แต่วันนี้ไม่มี ผมเดินตามหากุ๊กกุ๊กรอบบ้าน ในบ้าน ในครัว ในห้องนอนทุกห้อง หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำก็ไม่มี ผมเริ่มจะใจคอไม่ดีแล้วนะ

“กุ๊กกุ๊ก ออกมาหาพี่ซีสิ”

ผมกดโทรศัพท์ไปหาแม่

“แม่ครับ กุ๊กกุ๊กหายไปไหนก็ไม่รู้ครับ”

ผมถามแม่อย่างร้อนรน รู้สึกเหมือนน้ำตาเริ่มจะคลอเบ้าแล้ว

“อ๋อ แม่พากุ๊กกุ๊กมากับแม่ด้วย”

“แม่เอากุ๊กกุ๊กไปทำไม อย่างนี้ซีก็เหงาน่ะสิครับ”

ผมเริ่มงอแงกับแม่

“แม่จะให้ลูกไปอยู่กับเพื่อนพ่อเดือนนึง เพราะแม่กับพ่อต้องทำงานทางนี้ก่อน”

“ซีต้องคิดถึงพ่อ แม่และก็กุ๊กกุ๊กแน่ๆเลย”

“เพื่อนพ่อเขามีลูกชายอยู่คนนึง ลูกไม่เหงาหรอก พ่อโทรให้เพื่อนพ่อมารับลูกที่บ้านแล้ว อีกสักพักคงจะไปถึง แม่เก็บของใช้ของลูกเรียบร้อยแล้วนะ”

“ครับแม่”

“งั้นแค่นี้ก่อนนะ แม่ต้องไปทำงานแล้ว”

“ครับ สวัสดีครับ”

ผมวางสายอย่างเศร้าๆ โดนทิ้งอีกแล้วสิเรา

ติ่งต่อง ติ่งต่อง

เสียงกดกริ่งหน้าประตู สงสัยจะเป็นเพื่อนพ่อที่มารับ ผมรีบวิ่งออกไปเปิดประตูให้

“พี่มิกกิ”

ผมเรียกชื่อคนที่กดกริ่ง

“พ่อให้มารับนาย”

พี่มิกกิพูดด้วยหน้านิ่งๆแบบเดิม นี่ผมจะได้ไปอยู่บ้านเดียวกับพี่มิกกิหรอ น่าตื่นเต้นจัง

“ครับ ครับ รอแปบนึงนะครับ พี่จะเข้ามารอข้างในก่อนก็ได้นะ”

ผมกลับเข้าไปเอาของในห้องนอนตัวเอง ผมลากกระเป๋าสองใบที่แม่เตรียมไว้ให้ลงมาอย่างทุลักทุเล

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“ครับ”

พี่มิกกิเดินไปบอกคนขับรถให้มายกกระเป๋าของผมไปเก็บในรถแล้วขึ้นไปนั่งรอบนรถ ผมจึงรีบล็อกบ้านให้เรียบร้อยแล้วตามไปขึ้นรถ

“มานั่งนี่สิ”

พี่มิกกิบอกผมที่กำลังเปิดประตูข้างคนขับ

“ไม่เป็นไรหรอก พี่จะได้นั่งสบายๆ”

“ฉันบอกให้มานั่งนี่”

พี่มิกกิบอกผมเสียงเข้มขึ้นผมเลยต้องไปนั่งข้างๆพี่เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนผมถึงได้กลัวพี่เขานัก รถเริ่มเคลื่อนตัวออกอย่างช้าๆผมมองบ้านแล้วโบกมือให้บ้านเป็นครั้งสุดท้าย

“หึ”

ผมมองพี่มิกกิที่อยู่ดีๆก็หัวเราะขึ้นมา แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่

“พี่หัวเราะอะไร”

พี่เขาหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างไม่ตอบผม เชอะ ไม่ตอบก็ไม่อยากรู้ก็ได้



 :mew1: :mew1:



ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น่ารักกกกก มาต่ออีกเถอะ

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 2

ผมมองบ้านหลังใหญ่ที่รถกำลังเลี้ยวเข้าไปอย่างอึ้งๆ พี่มิกกิอาศัยอยู่ในบ้านนี้หรอเนี่ย

“โหว บ้านหลังใหญ่จัง พี่อยู่ที่นี่หรอ”

ผมมองพี่มิกกิอย่างตื่นเต้น นี่ผมจะได้อยู่บ้านนี้หลังจริงๆหรอ หวังว่าผมจะไม่หลงหรอนะ

คนขับรถเดินมาเปิดประตูให้ผม

“ยินดีต้อนรับจ๊ะ”

พลุกระดาษหลากสีถูกดึงเสียงดังทันทีที่ผมเดินเข้าบ้าน ผมตกใจรีบเข้าไปหลบข้างหลังพี่มิกกิที่ไม่สะทกสะท้านใดๆ

“เล่นพิเรนอะไรกันครับเนี่ย”

“มาให้แม่ดูหน่อยสิจ๊ะ”

ผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสีสดใสเดินเข้ามาลากผมออกจากหลังพี่มิกกิ

“สวัสดีครับ น้าเป็นแม่ของพี่มิกกิใช่ไหมครับ”

“ใช่จ๊ะ และนี่พ่อของมิกกิจ๊ะ”

แม่ของพี่มิกกิชี้ไปที่ผู้ชายร่างท้วมอีกคนที่ยิ้มให้ผมอย่างอารมณ์ดี ทำไมทุกคนช่างต่างจากพี่มิกกินักนะ

“สวัสดีครับ ผมชื่อซี อายุ 17 ปี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

ผมยิ้มกว้างตอบกลับไป

“มานี่มะ เดี๋ยวแม่พาไปที่ห้อง”

แม่พี่มิกกิพาผมขึ้นไปดูห้องนอนที่ถูกตกแต่งอย่างน่ารักตามสไตล์เด็กผู้ชาย ในห้องล้วนเป็นสีฟ้าสดใส

“แม่เพิ่งแต่งเสร็จ ไม่รู้ว่าน้องซีจะชอบหรือเปล่า”

“ชอบครับ ซีชอบมากๆเลย”

ผมเดินสำรวจรอบห้องอย่างสนใจ ผมโชคดีจังที่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้

“และห้องข้างๆเป็นห้องของพี่มิกกินะจ๊ะ ถ้าน้องซีมีปัญหาอะไรก็เรียกพี่เขาได้เลย”

“ครับน้า”

“เรียกแม่สิจ๊ะ ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”

“ครับแม่”

“ดีมาก แม่ขอตัวลงไปทำอาหารก่อนนะ”

“ครับ”

ผมทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง แล้วกลิ้งไปกลิ้งมา

“เตียงใหญ่จัง อย่างนี้ก็ดิ้นได้สบายแล้วสิ”

ผมจัดของอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่าง ก่อนจะลงผมมองไปที่ห้องข้างๆ พี่มิกกิจะทำอะไรอยู่นะ

“อ้าวน้องซี มานั่งนี่ๆ แม่ทำกลับข้าวที่น้องซีชอบทั้งนั้นเลยนะ”

“โห น่ากินจังเลยครับ แล้วแม่รู้ได้ไงครับว่าซีชอบกินอะไร”

ผมถามแม่อย่างสงสัย

“แม่โทรไปถามแม่ของน้องซีมาจ๊ะ”

“ขอบคุณนะครับ”

“แล้วนี่ทำไมพี่มิกกิยังไม่มาอีกนะ เดี๋ยวแม่ขอไปตามก่อนนะ”

“เดี๋ยวผมไปตามให้ก็ได้ครับ”

ผมยืนอยู่หน้าห้องพี่มิกกิ

“เข้ามาได้”

“พี่มิกกิ แม่ให้มาตามไปกินข้าวครับ”

ผมถามพี่มิกกิแต่ตามองไปรอบๆห้องที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ

“อืม”

พี่มิกกิปิดหนังสือที่อ่านอยู่แล้วลุกขึ้นเดินนำผมออกจากห้องลงไปข้างล่าง



“ไปดีมาดีนะจ๊ะ”

ผมโบกมือให้แม่ที่มาส่งผมกับพี่มิกกิขึ้นรถเพื่อไปโรงเรียน ผมอยู่บ้านพี่มิกกิมาได้ 2 วัน แต่ได้คุยกับพี่เขาน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะพี่เขาไม่ใช่คนพูดมากก็ได้

“วันนี้พี่จะกลับกี่โมงหรอ แล้วตอนเที่ยงพี่จะไปกินข้าวที่ไหน ซีขอไปกินด้วยนะ”

“วันนี้ฉันมีซ้อมเทนนิสนายกลับก่อนได้เลย และระหว่างที่อยู่โรงเรียน ช่วยทำเหมือนเราไม่รู้จักกันด้วยนะ”

ผมมองพี่มิกกิอย่างงงๆ แต่ยังไม่ทันได้ถามพี่เขาก็เดินล้วงกระเป๋าเดินเข้าโรงเรียนโดยไม่สนใจผม พี่มิกกิไม่มีเหตุผล

ผลั้ว!

ผมกระเด็นไปข้างหน้านิดนึงเมื่อโดนตบมาที่หลังเต็มๆ

“ทำไมวันนี้มาเช้าได้ว่ะไอ้ซี”

ผมมองหน้าไอ้ไทอย่างเคืองๆ

“วันนี้กูมากับพี่มิกกิ”

“ทำเป็นพูดเล่นไปนะมึง เดี๋ยวได้โดนอำนาจมืดครอบงำหรอก”

ไอ้กายว่าผมแล้วทำท่าขนลุก

“กูพูดจริงๆ กูต้องไปอยู่บ้านพี่มิกกิเดือนนึง”

“หา!!! มึงไปอยู่บ้านพี่มิก”

ไอ้สองคนตะโกนอย่างดังเรียกความสนใจจากคนรอบๆที่เริ่มหันไปซุบซิบกัน

“อย่างเสียงดังสิ พี่มิกกิยิ่งไม่ให้กูบอกใครอยู่ นี่เห็นว่าพวกมึงเป็นเพื่อนนะถึงได้บอก”

“กูสงสารมึงจริงๆวะ”

“สงสารทำไม อยู่บ้านพี่มิกกิสบายจะตาย พ่อกับแม่ก็น่ารัก แถมใจดีอีกต่างหาก”

“เออๆ กูก็ขออวยพรให้มึงโชคดีละกันนะ”



“มึงพี่มิกมา”

ไอ้กายสะกิดผมให้ดูพี่มิกกิที่เดินมากับคณะประธานนักเรียน

“พี่มิกกิ!!!”

ผมเรียกพี่มิกกิเสียงดังแถมด้วยโบกมือ กลัวพี่เขามองไม่เห็น

“โอ้ย! อะไของมึงเนี่ย”

ผมโดนไอ้ไทผมหัว ไอ้นี่ชอบทำร้ายร่างกายผม อย่างนี้ต้องฟ้องแม่มัน

“ไหนมึงบอกว่าพี่มิกให้ทำเป็นไม่รู้จักกันไง แล้วนี่แหกปากซะลั่นโรงอาหาร เขารู้กันหมดโรงเรียนแล้วมั้ง”

“เออว่ะ กูลืม”

ผมมองพี่มิกกิว่าพี่เขามีปฏิกิริยาอย่างไร  แต่เห็นพี่เขานิ่งไม่สนใจเสียงซุบซิบผมก็เบาใจขึ้นมาหน่อย

“น้องรู้จักกับมิกด้วยหรอครับ”

พี่ที่เป็นเพื่อนพี่มิกกิถามผม

“เปล่าครับ ไม่รู้จักกันเลย เนาะพี่มิกกิเนาะ”

ผมปฏิเสธแล้วหันไปถามพี่มิกกิเพื่อให้พี่เขาช่วยยืนยันอีกแรง แต่พี่เขายังคงนิ่งเหมือนเดิม ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเพื่อนสองคนของผมแทน แต่พวกมันก็ไม่ช่วยผมเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขี่ยข้าวในจาน

“ครับๆ พี่เชื่อน้อง ใช่ไหมพวกมึง”

พี่เขาหันไปถามคนที่เหลือ

“ใช่ๆ กูเชื่อ”

แล้วพี่เขาก็พากันเดินไปนั่งโต๊ะที่ไม่ห่างจากโต๊ะผมเท่าไหร่ ผมรอดตายแล้วครับทุกคน ต้องขอบคุณทักษะการเอาตัวรอดของผม

“มึงจะทำกูซวยไปด้วยรู้ไหม”

“พวกมึงสบายใจได้ กูเอาตัวรอดเก่ง”

ไอ้สองคนพร้อมใจกันสงสายตาเซ็งๆมาให้ผมโดยไม่ได้นัดหมาย



หลังเลิกเรียนผมก็เดินมาที่สนามเทนนิสเพื่อมารอพี่มิกกิซ้อมเทนนิส ผมมองหาพี่มิกกิไม่นานก็เจอพี่เขาอยู่กลางสนาม ท่าทางคงจะเหนื่อยน่าดู ผมไปซื้อน้ำมาให้พี่ดีกว่า

“พี่มิกกิ ทางนี้ๆ”

ผมตะโกนเรียกพี่มิกกิที่ซ้อมเสร็จแล้วกำลังจะเดินไปเก็บของ ผมเขามองมาทางผมแค่แว๊บเดียวแล้วเดินหันกลับไป สงสัยจะมองไม่เห็นล่ะมั้ง ผมจึงวิ่งไปห่พี่เขาแล้วยื่นน้ำที่ซื้อมาให้

“พี่มิกกิ ซีซื้อน้ำมาให้”

แต่พี่เขาทำเพียวแค่เดินผ่านไปไม่มองผมแม้แต่หางตา ผมทำอะไรผิดหรอ ตรงนี้ก็ไม่มีคนนี่หน่า ไม่เห็นจะต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันเลย

“พี่มิกกิใจร้าย ซีจะไม่สนใจพี่ต่อไปแล้ว”

ผมเดินไปบ่นไป เงยหน้ามาอีกทีก็เดินมาไกลจากหน้าโรงเรียนมากแล้ว อย่างนี้เราจะกลับบ้านอย่างไรดีล่ะ จำทางไม่ได้ด้วยสิ ฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว จะโทรหาใครก็ไม่มีเบอร์

“ฮัลโหลไอ้กาย”

ผมโทรหาไอ้กายซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่เบอร์ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ผม

“มีอะไรวะ”

“มึงอยู่ไหนอะ กูหลงทาง มารับหน่อยสิ”

“มึงนี่จริงๆเลยนะ มึงอยู่ตรงไหน”

“ไม่รู้เหมือนกัน กูเดินจากหน้าโรงเรียนมาเรื่อยๆก็มาอยู่ตรงนี้ได้ไงก็ไม่รู้”

“เออๆ มึงนี่จริงๆเลยนะ รออยู่ตรงนั้น อย่าเดินไปไหน เดี๋ยวกูไปหา”

ผมยืนรออยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหนตามที่ไอ้กายบอก ไม่นานผมก็เห็นรถไอ้กายขับมาทางผม บ้านมันอยู่ใกล้โรงเรียนเลยใช่เวลาไม่นานเท่าไหร่

“มึงเก่งจัง หากูเจอด้วย”

ผมที่นั่งอยู่บนรถข้างๆคนขับชมไอ้กายที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ

“มึงอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 500 เมตรทำไมกูจะหาไม่เจอ มึงช่วยทำตัวไม่ให้กูเป็นห่วงสักวันจะได้ไหมเนี่ย”

ไอ้กายว่าผมจริงจัง ผมไปทำอะไรให้มันโกรธอีกวะเนี่ย หรือว่ามันโกรธที่ผมให้มันออกมารับ

“กูขอโทษที่ทำให้มึงลำบาก วันหลังกูโทรไปหาไอ้ไทแทนก็ได้”

“กูไม่ได้ลำบากอะไรหรอก แต่กูเป็นห่วงมึงมากกว่า แล้วเย็นป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้าน”

“กลับไม่ถูก”

“แล้วพี่มิกล่ะ”

“ไม่รู้ คงกลับไปแล้วมั้ง”

ผมทำหน้าบึ้งเมื่อนึกถึงไอ้คนใจร้าย

“ทะเลาะกันมาล่ะสิ งั้นวันนี้ไปนอนบ้านกูก่อนละกัน”

“อืม”

และคืนนี้ผมก็ต้องนอนบ้านไอ้กาย พ่อกับแม่พี่มิกกิต้องเป้นหวงผมแน่ๆ แล้วพี่มิกกิล่ะ จะเป็นห่วงผมบ้างไหม ไม่หรอก คนเย็นชาอย่างนั้นไม่มีทางเป้นห่วงใครได้หรอก ผมข่มตาให้หลับเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงหน้าพี่มิกกิ

“ไอ้ซี”

“อะไร”

ผมถามไอ้กายที่เรียกผม

“มึงชอบพี่มิกกิหรอ”

“ไม่ได้ชอบเว้ย ใครจะไปชอบคนใจร้ายแบบนั้นกัน ไม่มีทาง”

ผมลุกขึ้นนั่งทันที มาหาว่าผมชอบพี่มิกกิได้ไงกัน

“กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีแล้ว ทำไมแค่นี้กูจะดูไม่ออก มึงไม่เคยสนใจใครแบบนี้มาก่อน ไม่เคยโกรธใครแบบนี้ถ้าไม่สำคัญกับมึงจริงๆ”

“แต่กูเพิ่งเจอพี่เขาไม่กี่วัน จะชอบกันได้อย่างไร”

“มึงไม่ได้ชอบพี่เขาก็ดี กูจะได้สบายใจ”

ไอ้กายยิ้มแล้วนอนลงอย่างอารมณ์ดี เป็นบ้าอะไรของมันเปลี่ยนอารมณ์เหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสี ผมก็นอนลงตามมันแล้วคิดตามสิ่งที่ไอ้กายพูด ผมชอบพี่มิกกิหรอ ไม่ชอบหรอก หรือว่าจะชอบ ถึงผมจะชอบพี่มิกกิแต่พี่เขาไม่มีทางชอบผมได้หรอก



สอบเสร็จแล้วแต่ยังคงเครียดๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2:  :sad12:มาลงนิยายแกเครียดดีกว่า :kikkik:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ชอบคาแรกเตอร์ของซีจัง ดูใสๆ ซื่อๆ ฮาๆ ดี

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 3


“ไอ้ซี ทำไมมึงไปเอาเสื้อไอ้กายมาใส่ได้วะ”

ไอ้ไทถามผม

“เมื่อคืนมันไปนอนที่บ้านกูมา”

“เออไอ้ซี เมื่อเช้าเห็นผู้หญิงในห้องบอกว่า พี่มิกมาที่ห้องเรา แต่ไม่ได้บอกว่ามาทำไม กูว่าเขาต้องมาหามึงแน่ๆ”

ไม่มีทางหรอก เขาคงมาเดินตรวจตามหน้าที่ประธานนักเรียนน่ะแหละ

“ไม่ไปหาพี่เขาหน่อยหรอ”

ไอ้ไทถามผมที่เดินไปนั่งที่โต๊ะไม่สนใจเรื่องที่มันบอก

“เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวครูก็เข้ามาสอนแล้ว เดี๋ยวไอ้ซีมันเข้าเรียนไม่ทัน”

ไอ้กายตอบแทนผมที่นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในใจก็ยังนึกหวังว่าพี่มิกกิจะเป็นห่วงผมบ้าง

“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

ผมบอกไอ้ไทกับไอ้กายหลังจากจบคาบแรก

“กลับมาเร็วๆล่ะ เดี๋ยวมึงได้ยืนหน้าห้องอีกหรอก”

“เออๆ”

รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำรีบออกมาแล้ววิ่งกลับไปอย่างรวดเร็วเดี๋ยวจะโดนอาจารย์มหาประลัยเล่นงานอีก แต่ยังไม่ทันถึงห้องผมก็โดนมือปริศนาลากผมไปซะก่อน

“อะไรเนี่ย ปล่อยสิ”

ผมสะบัดมือแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากมือตุ๊กแกไปได้

“เมื่อวานไปไหนมา”

พี่มิกกิถามผมที่หันหน้าหนี

“ไปบ้านเพื่อน”

“ทำไมไม่กลับบ้าน รู้ไหมว่าพ่อกับแม่ตามหากันให้วุ่น ฉันเลยต้องมาลำบากไปด้วย”

ที่หงุดหงิดนี่ไม่ได้เป็นห่วงผมสินะ แค่หงุดหงิดที่ตัวเองต้องลำบากตามหาผม

“ซีขอโทษละกัน ก็ซีกลับบ้านไม่ถูกก็เลยไปนอนบ้านไอ้กาย”

“นายนี่มันจริงๆเลย กลับบ้านไม่ถูกแล้วทำไมไม่รอฉัน”

“ก็พี่บอกว่าให้ทำเป็นไม่รู้จักกันไม่ใช่หรอ”

ผมตอบไปอย่างงอนๆ

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายต้องไปที่ชมรมเทนนิสทุกเย็น”

“ซีไม่อยากไปให้พี่รำคาญหรอก”

“นี่เป็นคำสั่ง”

พี่เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมยืนเจ็บใจอยู่คนเดียว ไหนบอกว่าให้ทำเป็นไม่รู้จักกันไง แล้วให้ผมไปที่ชมรมทำไม ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ

ผมนั่งอยู่หน้าตึกที่ปราศจากคน จะให้มีคนได้ไงก็ตอนนี้เป็นเวลาเรียนจะมีใครออกมานั่งเล่นเหมือนผมตอนนี้ เพราะพี่มิกกิคนเดียวเลยทำให้ผมเข้าเรียนไม่ทันจนต้องมานั่งรอให้หมดคาบอย่างนี้

“อ้าวน้องคนที่บอกว่าไม่รู้จักมึงนี่หว่า”

ผมหันไปมองตามต้นเสียงก็พบพี่คนที่อยู่กับพี่มิกกิที่โรงอาหารและก็เจ้าตัว

“สวัสดีครับ”

ผมสวัสดีพี่เขาเพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“โดดเรียนหรอครับ”

“เปล่าหรอกครับ พอดีผมไปเข้าห้องน้ำมาเลยเข้าเรียนไม่ทัน”

ผมมองพี่มิกกิเพื่อให้เขาสำนึกผิดบ้างที่เป็นต้นเหตุให้ผมเข้าเรียนไม่ทัน แต่เขาคงไม่สะทกสะท้านเพราะยังคงทำหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนเดินอยู่ได้

“พวกพี่ขอตัวก่อนนะครับ”

“มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูไปทำธุระแปบนึง”

พี่มิกกิบอกพี่คนนั้น พี่เขาเดินไปโดยไม่สงสัยอะไร

“มานี่”

พี่มิกกิดึงผมให้ลุกขึ้นแล้วลากผมไปที่ห้องเรียน

“ขออนุญาตครับอาจารย์ ผมพาเด็กคนนี้ไปช่วยงานที่ของโรงเรียนมาเลยทำให้เข้าเรียนไม่ทัน ขอโทษด้วยนะครับ”

ผมมองพี่มิกกิจากด้านข้างที่บอกกับอาจารย์อย่างจริงจังและหนักแน่น

“อ๋อหรอ ไม่เป็นไรๆ ฉันอนุญาตให้นายเข้ามาเรียนได้”

“ขอบคุณครับ”

ผมขอบคุณอาจารย์แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะของผมข้างๆไอ้กาย

“มึงไปไหนมาว่ะ”

“ไปเข้าห้องน้ำน่ะสิ อย่าถามมากน่า เรียนต่อๆ”

ผมทำเป็นตั้งใจฟังที่ครูสอนทั้งๆที่ไม่เข้าหัวผมเลยสักกะนิด ปกติผมก็ไม่ได้ฉลาดอยู่แล้วแถมตอนนี้ในหัวก็มีแต่เรื่องของพี่มิกกิยิ่งทำให้เรียนไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่




ตอนเย็นผมก็ไปหาพี่มิกกิที่ชมรมเทนนิส พี่เขาก็ซ้อมอยู่ที่ประจำ เมื่อพี่เขาหันมาเห็นผมก็เดินตรงมาที่ผมโดยสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ผมกับพี่มิกกิกันหมด

“พี่จะเดินมาหาซีทำไม คนอื่นมองกันหมดแล้ว”

“รอแปบนึง ฉันซ้อมเกือบเสร็จแล้ว”

“แค่นี้จะเดินมาบอกทำไม”

“เดี๋ยวนายก็งอนแล้วหนีไปอีก ฉันขี้เกียจตามหา”

พี่เขาบอกแค่นั้นแล้วเดินกลับไปซ้อมต่อ จะว่าไปแล้วพี่มิกกิก็ใจดีหมือนกันนะถึงจะไม่ค่อยแสดงออกมาก็เถอะ

ผมนั่งมองพี่มิกกิซ้อมอยู่ก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินมาหาผมอย่างหาเรื่อง

“นายรู้จักกับพี่มิกได้ไง แล้วที่เขาลือกันว่านายอยู่บ้านเดียวกับพี่มิกเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”

“เอ่อ…”

“ฉันซ้อมเสร็จแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”

พี่มิกกิเข้ามาขัดจังหวะการตอบของผมพอดี และคำพูดของพี่เขาก็เป็นคำตอบให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นอย่างชัดเจน ผมเดินตามพี่มิกกิไปอากระเป๋าแล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่

“นายคุยอะไรผู้หญิงพวกนั้น”

“เขามาถามว่าซีอยู่บ้านเดียวกับพี่จริงหรือเปล่า แต่ซียังไม่ได้ตอบอะไรไปนะ”

“น่ารำคาญ ไม่รู้จะสนใจอะไรฉันนักหนา”

“พี่น่ะหล่อและก็ดูดีจะตาย ก็ต้องมีคนชอบเป็นธรรมดา นี่ถ้าซีเป็นผู้หญิงซีก็คงจะชอบพี่เหมือนพวกนั้นน่ะแหละ”

“แล้วตอนนี้ล่ะ”

ผมมองหน้าพี่มิกกิอย่างไม่เข้าใจคำถาม แต่เห็นพี่เขาไม่ถามต่อผมก็เลยมองออกไปนอกหน้าต่างแทน

ผมเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับพี่มิกกิก็เห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

“น้องซี ไปไหมมา”

“ขอโทษนะครับที่ทำให้เป็นห่วง ซีกลับบ้านไม่ถูกก็เลยไปนอนบ้านเพื่อน”

ผมบอกอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แกก็ช่วยดูแลน้องดีๆด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้น้องกลับบ้านคนเดียวอีก”

พ่อบอกกับพี่มิกกิที่ยืนล้วงกระเป๋าไม่ตอบรับ

“พี่มิกกินี่น่าตีจริงๆ น้องซีรีบไปอาบน้ำเถอะลูก จะได้ลงมากินข้าวกัน ลูกก็ด้วยนะ”

ผมเดินขึ้นห้องไปพร้อมกับพี่มิกกิแล้วแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเอง



วันนี้เราไปสอบมาอีกแล้วล่ะ เหนื่อยๆๆ :katai5: เบื่อด้วย แต่ไม่เป็นไร เราจะสู้เพื่อพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายและชาวไทยทุกคน


ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มิกกิเริ่มจะชอบน้องแล้วสิ ช่ายป่ะ :hao3:

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 4

“แกเลือกหรือยังว่าเรียนอะไร”

พ่อถามพี่มิกกิระหว่างที่รอแม่บ้านยกกับข้าวมาที่โต๊ะอาหาร

“ผมว่าจะเรียนวิศวะ จะได้มาช่วยพ่อดูแลบริษัทของเรา”

“ก็ดีเหมือนกัน แล้วซีล่ะ ได้คิดไว้หรือยังว่าจะเรียนอะไร”

พ่อถามผมบ้าง ถ้าถามเรื่องนี้ผมต้องคิดหนักเลยทีเดียว

“ยังเลยครับ ซีเรียนไม่เก่งด้วยสิ คงจะเลือกมากไม่ได้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ซีนี่ตรงดีนะ ถ้ามีอะไรไม้เข้าใจก็ถามมิกกิได้ รายนั้นน่ะเรียนเก่ง”

“ผมไม่กล้ารบกวนพี่เขาหรอกครับ”

ผมบอกแล้วมองพี่มิกกิที่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจ ขนาดรอกินข้าวยังต้องอ่านหนังสือเลย จะขยันไปไหน

“เกรงใจอะไรกัน พี่มิกกิเขาต้องเต็มใจช่วยอยู่แล้ว ใช่ไหมพี่มิกกิ”

พี่มิกกิไม่ตอบแต่ปิดหนังสือแล้วลงมือกินข้าวโดยไม่พูดอะไร เฮ้ย จะตอบให้ชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้



“ยกกำลังสองแล้วย้ายข้างสมการตรงนี้ ได้คำตอบเท่าไหร่”

ผลสุดท้ายผมก็ได้มานั่งติวหนังสือกับพี่มิกกิเพราะเป็นคำสั่งจากแม่ พี่มิกกิถามผมที่ยังคงนั่งงงเป็นไก่ตาแตก อะไรยกๆก็ไม่รู้

“เออ…”

“เท่าไหร่”

พี่มิกกิถามย้ำอีกรอบ

“20”

ผมลองตอบไปมั่วๆเผื่อจะฟลุคถูก

“นายนี่มันโง่จริงๆเลยนะ ฉันนี่หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ”

พี่มิกกิทำหน้าเซ็งสุดขีดใส่ผม ก็คนมันไม่เข้าใจนี่หว่า

“ก็ซีมันโง่นี่ พี่ไม่ต้องติวให้ซีแล้ว”

ผมเก็บหนังสือแล้วเดินกลับห้องตัวเองอย่างน้อยใจ พระเจ้าต้องลืมใส่สมองมาให้ผมแน่ๆเลย

“sin A + sin B = …. โอ้ยยยย ทำไมมันยากอย่างนี้เนี่ย อีกไม่กี่วันก็จะสอบแล้ว ต้องตกอีกแน่ๆเลย”

ผมดึงผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างหมดหวัง

“มัวแต่นอนอยู่อย่างนี้ชาติหน้าก็จำไม่ได้หรอก”

“พี่มิกกิ”

“ฉันบอกกับแม่ไว้แล้วว่าจะช่วยติวให้นาย อย่าพยายามทำให้ฉันผิดคำพูดสิ”

พี่มิกกินั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆผมแล้วเริ่มติวกันใหม่ ผมที่เริ่มแรกไม่เข้าใจก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาทีละนิดทีละนิด

“y-x เป็นเท่าไหร่”

“อืมมม 18 ใช่ ไหม”

“ถูกต้อง”

“เย่! สำเร็จแล้ววว”

ผมเขย่าแขนพี่มิกกิอย่างดีใจ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นพี่มิกกิยิ้มกว้างแบบนี้

“ถ้านายสอบผ่าน ฉันมีรางวัลให้”

“จริงหรอ พี่ห้ามหลอกนะ ถ้าพี่หลอกซีจะให้กุ๊กกุ๊กมากัดพี่จริงๆด้วย”

อย่างนี้ผมต้องตั้งใจทำให้เต็มที่เพื่อพิชิตรางวัลของพี่มิกกิมาให้ได้



ประกาศผมสอบ!

ผมนั่งลุ้นอยู่ที่โต๊ะตัวเองระหว่างที่ครูกำลังเรียกชื่อให้นักเรียนแต่ละคนไปรับผลสอบในการสอบครั้งที่ผ่านมา อีกไม่กี่คนก็จะถึงผมแล้ว

“นายวริปป์”

ผมเดินออกไปรับอย่างลุ้นๆแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเอง

“เป็นไงบ้างวะ”

ไอ้กายที่ได้รับผลสอบแล้วชะโงกหน้ามาถามผม

“ขอทำใจแปบนึง”

ผมหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆแง้มดู

“เห้ย!”

“เป็นไงมึง ตกกี่วิชาวะ”

“ไอ้กาย กูผ่านทุกวิชา”

“เป็นไปได้ไง”

ไอ้กายแย่งผลสอบในมึงผมไปดูเพื่อความแน่ใจ มันตาโตทันทีที่เห็นว่าผมผ่านทุกวิชาจริงๆ

“มึงไปเรียนวิชาเดามาจากที่ไหนวะ”

ไอ้ไทที่เพิ่งเดินมาสมทบถามผมอย่างอึ้งๆ

“พี่มิกกิช่วยติวให้”

“กูอิจฉามึงจริงๆเลยที่ได้อยู่บ้านเดียวกับคนอัจฉริยะอย่างพี่มิก”

ไอ้ไทพูดกับผมอย่างอิจฉา แต่ไอ้กายมันเงียบไปแล้ว สงสัยจะคะแนนไม่ดี

“แล้วพวกมึงล่ะ คะแนนเป็นไงบ้าง”

“ต้องผ่านอยู่แล้ว”

ไอ้ไทอวด แต่ไอ้กายไม่ตอบผมเลยถือวิสาสะแย่งผลสอบมันมาดูเอง

“คะแนนมึงก็ดีนี่หว่า จะมานั่งทำหน้าเหมือนท้องผูกมาสามวันทำไมวะ”

ผมกอดคอไอ้กายแล้วถาม

“วันนี้เราไปเลี้ยงฉลองที่กูมันสอบผ่านกันดีกว่า”



“เฮ้!!!”

พวกผมสามคนยกแก้วโค้กชนกันโครมใหญ่จนโต๊ะข้างๆหันมามองว่าไอ้พวกนี้มันบ้าอะไรกัน ผม ไอ้กายและไอ้แทนมาเลี้ยงกันที่ร้านส้มตำหน้าโรงเรียน

“รีบกินกันดีกว่า กูต้องไปรอพี่มิกกิอีก”

“อะไรๆก็พี่มิก สนิทกับเขาแล้วหรือไง”

ไอ้กายถามผมเสียงห้วน เป็นบ้าอะไรของมันอีก เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย

“ก็เกือบสนิทแล้วล่ะ กูจะทำให้พี่มิกกิสนใจคนอื่นนอกจากตัวเองให้ได้”

“มึงนี่คิดการณ์ใหญ่นักนะ”

ไอ้ไทผลักหัวผมแรงๆ

“มึงไปอยู่บ้านกูไหม”

ไอ้กายถามผมที่กำลังนึกแผนการ ทั้งผมและไอ้ไทมองไอ้กายงงๆ ทำไมอยู่ดีๆถึงได้ถามล่ะ

“ไม่ไปอะ กูเกรงใจพ่อกับแม่มึง และอีกอย่าง อยู่บ้านพี่มิกกิก็สบายดีอยู่แล้ว”

ผมบอกมันไปตามความจริง ผมอยู่บ้านพี่มิกกิจนรู้สึกว่าเป็นครอบครัวของตัวเองไปแล้ว และเรื่องที่ผมอยู่บ้านเดียวกับพี่มิกกิทุกคนในโรงเรียนก็รู้กันหมดแล้ว คงเพราะผู้หญิงกลุ่มนั้นกระจายข่าวล่ะมั้ง แต่พี่มิกกิก็ไม่เห็นจะว่าอะไร

“มึงเป็นอะไรวะ ปกติไม่เห็นสนใจไอ้ซีมันแบบนี้ อย่าเป็นห่วงมันเลย ท่าทางมันก็มีความสุขดี”

ไอ้กายคงจะเป็นห่วงผมมั้ง ผมเลยพยักหน้าสนับสนุนคำพูดไอ้ไทเพื่อให้ไอ้กายสบายใจ

“เออๆ รีบกินสิ เดี๋ยวมึงต้องไปหาพี่มิกไม่ใช่หรอ”

ผมยิ้มกว้างให้ไอ้กายแล้วกินส้มตำต่อ ผมโชคดีจังที่มีเพื่อนที่เป็นห่วงผมขนาดนี้



“พี่มิกกิ!!!”

ผมเรียกพี่มิกกิที่กำลังซ้อมอยู่ดังลั่นสนาม ทุกคนหยุดสิ่งที่กระทำแล้วมองมาที่ผม ผมไม่สนใจแล้วรีบวิ่งไปหาพี่มิกกิทันที

“มีอะไร”

“อะนี่”

ผมยื่นผลสอบไปให้พี่มิกกิ ผมลุ้นว่าพี่เขาจะทำหน้าอย่างไรเมื่อรู้ว่าผมสอบผ่านทุกวิชา แต่พี่เขาก็ทำหน้านิ่งๆตามเดิม

“รางวัล”

ผมยื่นมือไปตรงหน้าพี่เขา พี่มิกกิขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่รู้ในสิ่งที่ผมพูด

“พี่สัญญาว่าจะให้รางวัลซีถ้าวีสอบผ่าน”

“ฉันจำได้แล้ว”

พี่เขาจับหัวผมเบาๆแล้วเดินผ่านไปเก็บของ สัมผัสแปบเดียวของพี่เขายังติดอยู่บนหัวผม ความรู้สึกอุ่นที่ถ่ายทอดมาจากมือพี่มิกกิจนผมอากจะดึงมือพี่เขามาวางอีกครั้ง

ผมยื่นอยู่กับที่ พอมองไปรอบๆก็เห็นว่าผมกำลังตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนผมจึงรีบออกจากกลางสนามมานั่งหลบมุมรอพีมิกกิ

“มานั่งทำไมตรงนี้”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ไปกันเถอะ”

ผมเดินตามพี่มิกกิไปที่รถ

“สวัสดีครับพี่สุ”

ผมทักคนขับรถเหมือนทุกวัน พี่สุยิ้มกลับให้ผม

“ไปส่งพวกเราที่ห้างด้วยนะ”

พี่มิกกิบอกพี่สุ พี่มิกกิจะไปซื้อของล่ะมั้ง

“พี่จะซื้ออะไรหรอ”

ผมถามพี่มิกกิตอนที่กำลังเดินเข้าห้างกัน

“มาซื้อของรางวัลให้นายไง อยากได้อะไร”

ผมมองพี่มิกกิอย่างดีใจ

“พี่มิกกิใจดีที่สุดเลย”

ผมคล้องแขนพี่มิกกิอย่างลืมตัว แต่ในเมื่อพี่เขาไม่ว่าอะไรผมเลยไม่เอามือออก ผมเดินดูของในห้างแต่ก็ยังเลือกไม่ได้ว่าอยากได้อะไร เพราะสิ่งที่ผมอยากได้ตอนนี้ผมมีหมดแล้ว

“เลือกได้หรือยัง”

พี่มิกกิถามผม

“ซีไม่รู้จะซื้ออะไรอะ ซีไม่เอาแล้วก็ได้”

“มานี่”

พี่มิกกิลากผมเดินไปที่ร้านตุ๊กตา ในร้านเต็มไปด้วยตุ๊กตาตัวเล็กใหญ่ผมยื่นดูตุ๊กตาไปเพลินๆจนลืมสังเกตว่าพี่มิกกิเดินหายไปไหน

“อะ”

พี่มิกกิกลับมาหาผมพร้อมกับตุ๊กตาหมาตัวสีขาวที่เหมือนกับกุ๊กกุ๊ก

“พี่ซื้อให้ซีหรอ”

“อืม”

“ขอบคุณนะครับ”

ผมกอดตุ๊กตาตัวนั้นแน่น

“อยากได้อะไรอีกไหม”

ผมส่ายหัวพี่มิกกิเลยเดินนำผมออกจากห้าง ผมจะดูแลตุ๊กตาตัวนี้ให้ดีที่สุดเลย




เอาไปแค่นี้ก่อนนะ การบ้านสูบพลังจนไม่มีแรงมาลงนิยายให้เลย :katai5:

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สนุกมากค่า มารอต่อๆ เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หลิว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอได้ค่ัะ ขอบคุณที่มาอัพให้อ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้อีกเสียงนะค้า

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling2:


พี่ซีหลอกล่อเด็ก

งานนี้ที่บ้านพี่ซีรู้ใช่ไหมว่าพี่ชอบน้องน่ะ

เหมือนหม่ามี๊จะเป็นใจยังไงชอบกล  :hao3:

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 5

“นี่ นายจะหลับให้ถึงพรุ่งนี้เลยหรือไง”

ผมมองที่ประตูที่มีพี่มิกกิยืนกอดอกพิงอยู่แล้วมองมาที่ผม

“ปวดหัวจัง”

ผมที่กำลังจะลุกนั่งแต่อยู่ดีๆก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา พี่มิกกิเดินมานั่งลงที่เตียงข้างๆผมแล้ววางมือบนหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ

“นายคงจะไม่สบาย งั้นนอนต่อไปเถอะ เดี๋ยวฉันลงไปบอกแม่บ้านให้เอายาและข้าวมาให้”

พี่มิกกิเดินออกไปจากห้องไม่นานแม่พี่มิกกิเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร ผมพยายามจะลุกไปช่วยยกเพราะรู้สึกเกรงใจ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ น้องซีนั่งไหวไหม”

แม่พยุงผมให้นั่งพิงหัวเตียง

“ขอบคุณครับ”

“น้องซีคงจะเรียนหนักสินะถึงได้ไม่สบายอย่างนี้ วันนี้น้องซีนอนพักผ่อนอยู่บ้านแล้วกันนะ”

แม่ลูบหัวผมเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ ซีกินข้าวกินยาเดี๋ยวก็หายแล้ว แค่นี้สบายมาก”

“เด็กดื้อ”

ผมมองพี่มิกกิที่เดินเข้ามาก็ว่าผมเลย

“เดี๋ยวผมจัดการเด็กดื้อเองครับแม่”

พี่มิกกิบอกับแม่แล้วเดินมานั่งลงบนเตียงแทนแม่

“อ้าปาก”

พี่มิกกิเอาช้อนมาจ่อที่ปากผม ผมเลยต้องอ้าปากรับอย่างช่วยไม่ได้ แม่พี่มิกกิยืนมองพวกเราอยู่สักพักก็ออกจากห้องไป

“กินยาซะ”

หลังจากกินข้าวหมดพี่มิกกิก็ยื่นยามาให้ผม ผมยิ่งเป็นคนที่กินยายากอยู่ ยิ่งเป็นยาเม็ดยิ่งกลืนไม่ลงเลย ถึงผมจะโตขนาดนี้แล้วแต่ผมก็ยังต้องกินยาน้ำอยู่เลย

“ไม่มียาน้ำหรอ”

“นี่นายโตขนาดนี้ยังกินยาเม็ดไม่ได้อีกหรอ”

ผมพยักหน้าให้พี่มิกกิที่ทำหน้าเบื่อหน่ายมาให้

“งั้นก็ฝึกซะ อ้าปาก”

ผมหุบปากแน่แล้วส่ายหัวไปมา พี่มิกกิเอามือบีบปากผมแรงแล้วเอายายัดเข้ามา

“แอ้กกก ขมๆ”

ผมทำท่าจะคายยาออกมาแต่สายตาพี่มิกกิทำให้ผมต้องยอมอมมันต่อไป น้ำตาผมเริ่มคลอเพราะอาการขม พี่มิกกิยื่นน้ำมาให้ผม

“กินน้ำแล้วกลืนยาลงไป”

ผมทำตามที่พี่มิกกิบอกแต่ยามันก็ไม่ยอมลงสักที ตอนนี้ความขมกระจายไปจนทั่วปากจนผมอยากจะอ้วก

“ถ้ากลืนไม่ลงก็อมอยู่อย่างนั้นแหละ”

พี่มิกกิมองผมนิ่ง ผมก็มองพี่มิกกิตอบ

“พี่มิกกิใจร้าย ฮือฮือ ซีขม ฮึก”

ผมที่ทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา พี่มิกกิยังคงนิ่งปล่อยให้ผมร้องอยู่อย่างนั้น เมื่อเห็นผมไม่ยอมหยุดสักทีพี่มิกกิเลยถอนหายใจยาวๆแล้วส่งน้ำมาให้ผมอีกที

“เฮ้ย นายนี่มันจริงๆเลยนะ เอ้า กินน้ำแล้วลองกลืนอีกที”

ผมกินน้ำแล้วกลืนยาลงไป ครั้งนี้ได้ผล ยาที่ละลายอยู่ในปากผมเคลื่อนผ่านคอผมไปแล้ว

“แค่นี้ก็จบแล้ว ดูสิตาบวมดูไม่ได้เลย”

“ก็มันขมนี่หน่า”

ผมใช้มือเช็ดน้ำตาออกแล้วลุกจะไปอาบน้ำ

“นายจะไปไหน”

“ซีจะไปอาบน้ำ จะได้ไปโรงเรียน”

“มานอนเดี๋ยวนี้”

พี่มิกกิออกคำสั่งกับผม

“ไม่เอาซีจะไปโรงเรียน”

“หึ จะไปหาไอ้กายสินะ ห่างกันแค่วันเดียวคงไม่ตายหรอก”

ผมมองพี่มิกกิแบบงงๆ ทำไมพี่มิกกิต้องพูดประชดประชันด้วย

“เกี่ยวอะไรกับไอ้กาย ซีแค่อยากจะไปเรียน”

“ไม่รู้สิ ก็เห็นว่าเป็นห่วงกันเหลือเกิน ฉันก็คิดว่าเป็นแฟนกัน”

“ซีกับไอ้กายเนี่ยนะ ถ้าซีเป็นแฟนกับมันคงตีกันตายก่อน”

ผมมองพี่มิกกิที่ยิ้มที่มุมปากนิดๆ เป็นอะไรของเขานะ เดี๋ยวก็หงุดหงิดเดี๋ยวก็อารมณ์ดี

“แต่นายต้องนอนพักวันนึงให้หายดีก่อน”

“แต่ซีอยากไปเรียนนี่หน่า ซีจะได้สอบผ่าน พี่มิกกิจะได้ดีใจ”

“นายนี่นะ แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้วที่เห็นนายตั้งใจเรียน”

พี่มิกกิลูบหัวผมเบาๆ หัวใจผมเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนทั้งๆที่คนอื่นๆก็ลูบหัวผม ผมคิดว่า ผมชอบพี่มิกกิเข้าแล้วล่ะ ผมชอบดวงตาที่นิ่งๆ ชอบคำพูดที่เย็นชาและชอบการกระทำที่จะขัดต่อคำพูดเสมอ ผมไม่รู้ว่าเริ่มชอบพี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกที ผมก็อยากจะอยู่ใกล้ๆพี่มิกกิตลอดเวลาไปเสียแล้ว

“พี่มิกกิ”

ผมเรียกพี่มิกกิแล้วหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความกล้าของตัวเอง

“ซีชอบพี่มิกกิ”

ผมหลับตาปี๋เมื่อพูดมันออกไปแล้ว กล้าอะไรอย่างนี้นะเรา ผมไม่กล้าจะลืมตามองพี่มิกกิเลยไม่รู้ว่าพี่เขาทำหน้าอย่างไรอยู่

“หึ”

ผมลืมตาข้างหนึ่งมองพี่มิกกิที่หัวเราะ พี่มิกกิมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ ผมเลยลืมตามองพี่มิกกิอย่างเต็มสองตา

“นายตัดใจซะเถอะ”

“ซีไม่มีทางยอมแพ้หรอก ซีจะทำให้พี่มิกกิชอบซีให้ได้”

“ฉันจะไปโรงเรียนแล้ว”

พี่มิกกิลุกขึ้นเดินล้วงกระเป๋าเดินออกไปจากห้อง ผมนอนบนเตียงได้สักพักก็รู้สึกหนังตาเริ่มหนัก สงสัยยาจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว



“ไอ้ซี มึงเป็นอะไรมากหรือเปล่าว่ะ”

ไอ้กายรีบาลากผมไปนั่งที่โต๊ะทันที

“กูไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

ผมสะบัดมือไอ้กายออกอย่างรำคาญ แล้วนั่งคิดแผนการที่จะทำให้พี่มิกกิชอบผมให้ได้

“เออ ไม่ได้เป็นไรก็ดีแล้ว”

ไอ้กายบอกผมงอนๆแล้วหันไปคุยกับเพื่อนคนอื่นไม่สนใจผม

“อย่าไปสนใจมันเลย ช่วงนี้ประจำเดือนมันคงมาไม่ปกติ”

ไอ้ไทว่า ไอ้กายที่นั่งใกล้ๆได้ยินเลยหันมาโบกหัวมันทีนึงแล้วหันไปคุยต่อ

“มึงรู้ยังว่าวันนี้โรงอาหารเข้าปิดปรับปรุง”

ไอ้ไทถามผม ผมส่ายหัวไปให้มัน ผมจะไปรู้ได้ไงเพราะเมื่อวานไม่ได้มาโรงเรียน

“แล้วมึงจะกินอะไรว่ะ”

“เดี๋ยวกูก็ไปซื้อที่สหกรณ์ก็ได้ หรือไม่กูก็แย่งมึงกินไง”

“ไม่ได้เว้ย แม่กูทำมาให้พอดีกูกิน ถ้าให้ผีปอบอย่างมึงมากินด้วยกูก็อดน่ะสิ”

“เชอะกูไม่แย่งมึงก็ได้”

ผมว่ามันงอนๆแล้วตั้งใจอ่านหนังสือรอครูมาสอน



“มึงไม่ได้เตรียมข้าวมาใช่ไหม”

ไอ้กายที่หายโกรธผมแล้วถาม มันโกรธผมได้ไม่นานหรอก

“อืม ก็พวกมึงไม่บอกกูนี่หว่า ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกูไปซื้อที่สหกรณ์”

“มึงกิน…”

“ซี!!”

ผมหันไปมองต้นเสียงที่กำลังเรียกผม เมื่อเห็นว่าเป็นพี่มิกกิก็เลยเดินเข้าไปหา

“พี่มิกกิมีอะไรหรอ”

“มานี่”

พี่มิกกิจูงมือพาผมมาที่ห้องเรียนของพี่เขาที่ตอนนี้ไม่มีคนเลย

“มีอะไรหรอ”

ผมถามพี่มิกกิตาปริบๆ พี่มิกกิไม่ตอบแต่นั่งลงแล้วเปิดกล่องข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ

“โหหห ทำไมเยอะจัง”

ผมมองอาหารในกล่องตาโต

“ฉันไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ ทำไมไม่แยกกล่องของฉันกับนาย เขาคิดอะไรอยู่กันแน่นะ”

พี่มิกกิบ่นนิ่งๆ ผมได้แค่ยิ้มแหยะตอบกลับไป แม่เขาอาจจะไม่อยากให้เปลืองกล่องใส่อาหารก็ได้มั้ง

“กินสิ ยืนมองแล้วจะอิ่มไหม”

ผมเลยเดินไปลากเก้าอี้มานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพี่มิกกิแล้วตักอาหารในกล่องกิน อาหารมื้อนี้เป็นอาหารมื้อที่อร่อยที่สุดของผม นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจอีกด้วย

“นายจะมองหน้าฉันอีกนานไหม”

พี่มิกกิเริ่มหงุดหงิดที่ผมเอาแต่นั่งมองหน้าพี่เขา

“ซีว่าตอนพี่ทำหน้าหงุดหงิดก็ดูดีนะ”

พี่มิกกิที่ได้ฟังผมก็ยิ่งทำหน้าหงุดหงิดเข้าไปอีก

“แบบนี้ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่”

ปั้ง!!

พี่มิกกิตบโต๊ะเสียงดัง ผมสะดุ้งแล้วเขยิบตัวออกห่างนิดนึงอย่างหยั่งเชิง

“ไม่มีเรียนหรือไงถึงได้มานั่งจ้องหน้าฉันอย่างนี้!!”

ตอนนี้เรากินข้าวเสร็จแล้วแต่ผมยังไม่ยอมกลับห้องตัวเอง ก็แหม กว่าจะได้อยู่กับพี่มิกกินานๆมันยากจะตาย

“แหะๆ งั้นซีไปก่อนนะ”

พี่มิกกิส่งสายตาเซ้งๆมาให้ผมแล้วอ่านหนังสือต่อ ผมเดินกลับห้องอย่างอารมณ์ดีทำให้ไอ้ไทที่จ้องจะกัดผมอยู่แหวะขึ้นมาทันที

“ไงมึง ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมมาเลยนะ มีอะไรเล่าให้กูฟังบ้างสิ”

ไอ้ไทลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผมแล้วสะกิดมาที่เอวผมแรงๆ

“ถ้ากูบอกมึง มึงห้ามไปบอกใครนะ”

“เออๆ กูไม่บอกหรอก”

“ถ้ามึงบอกขอให้มึงเป็นหมัน สัญญา”

“เออ สัญญา”

ไอ้ไทตอบรับอย่างรวดเร็ว

“กูชอบพี่มิกกิ”

“ฮะ!!!”

ไอ้ไทแหกปากดังลั่นทำให้เพื่อนๆในห้องหันมามองที่ผมกับมันจนหมดรวมทั้งไอ้กายที่ท่าทางมันจะโกรธผมอีกรอบแล้ว

“มึงอย่าเสียงดังดิวะ”

“เป็นไปได้ไง แล้วพี่มิกรู้หรือเปล่า”

ผมพยักหน้าอย่าอายๆ

“แล้วมึงจะทำอย่างไรต่อไป”

“กูจะทำให้พี่มิกกิชอบกูให้ได้”

“แล้วมึงจะไม่บอกไอ้กายหรอวะ”

ผมยังไม่รู้เลยว่าควรจะบอกมันดีหรือเปล่า ไม่รู้สิ ผมไม่กล้าบอกมันทั้งๆที่สนิทกับมันพอๆกับที่สนิทกับไอ้ไท แต่ผมสบายใจที่จะบอกไอ้ไทคนเดียวมากกว่า

“ไม่รู้สิ มึงว่าไง”

“กูว่ามึงบอกมันดีกว่านะ เดี๋ยวมันรู้ทีหลังแล้วจะโกรธมึงอีก”

ผมคิดตามที่ไอ้ไทบอก ถ้ามันรู้เองมันต้องโกรธผมแน่ๆ ผมมั่นใจได้

“ไอ้กาย”

ผมเรียกไอ้กายที่นั่งข้างๆผมแต่ไม่สนใจผมสักนิด

“อะไร”

เสียงห้วนได้อีก ผมนี่ใจเสียเลย

“กูมีอะไรจะบอก”

ไอ้ไทมันหันมาสนใจผมแล้ว แต่มันยิ่งทำให้ผมกดดันมากขึ้นอีก มันมองผมอย่างสงสัยแล้วรอให้ผมพูด

“กูชอบพี่มิกกิ”

มันมองผมนิ่งๆ แต่มีแว๊บนึงที่ผมเห็นมันทำหน้าเศร้าแล้วกลับมายิ้มให้ผม

“กูรู้อยู่แล้วแหละ”

มันขยี้ผมของผมแรงๆจนยุ่งไปหมด

“รู้ได้ไง”

“ก็มึงแสดงออกขนาดนั้นใครๆก็รู้”

“แต่ไอ้ไทไม่เห็นจะรู้เลย”

“ยกเว้นไอ้ไทไว้คนนึง”

ไอ้กายหัวเราะให้ผม ผมค่อยโล่งใจหน่อย นึกว่าจะโดนมันโกรธซะแล้ว

“แล้วมึงจะทำอย่างไรต่อไปวะ”

“ยังไม่รู้เลยอ่ะ แต่ตอนนี้กูคงต้องยึดหลักการที่ว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกไปก่อน”

“กูเอาใจช่วยมึงนะ แต่ถ้ามึงเหนื่อยเมื่อไหร่ก็หยุดนะ”

“ขอบใจนะเว้ย”

ผมตบบ่าไอ้กายเบาๆแล้วยิ้มให้มันอย่างจริงใจ มีเพื่อนดีก็ดีอย่างนี้แหละ




ฝันดีฝันหวานทุกคนน้า พิมพ์ไปตาจะปิดไป:a12:ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
สงสารกายยยง่ะ

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 6


“พี่มิกกิ! มานั่งนี้เร็ว”

ผมเดินไปดึงพี่มิกกิมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

“วันนี้มีแต่ของโปรดพี่มิกกิทั้งนั้นเลย”

“ใช่จ๊ะ วันนี้น้องซีลงมือทำเองด้วยนะ”

ผมยิ้มให้แม่อย่างเขินๆ ผมก็แค่อยากจะลองทำอาหารดูก็เท่านั้นเอง

“นี่ๆๆๆๆ พี่มิกกิลองกินนี้ดูสิ”

ผมดันถ้วยซุปไก่ไปตรงหน้ามิกกิ แล้วคะยั้นคะยอให้ลองชิม

“รสชาติแย่มาก”

พี่มิกกิวางช้อนแล้วดันออกห่าง ผมคอตกทันที

“ไม่เป็นไรนะน้องซี สู้ๆ”

แม่เดินมากระซิบข้างหูผม แม่รู้ว่าผมชอบพี่มิกกิ และแม่ก็บอกว่าจะช่วยผมอย่างเต็มที่ด้วย

ผมลองตักซุปมาชิมดูบ้าง รสชาติไม่น่าจะแย่ขนาดนั้นก็ได้

พรวด!!!

ผมพ่นซุปออกมาทันที ทำไมพี่มิกกิถึงได้กลืนมันลงคอไปได้นะ ขนาดผมเป็นคนทำเองแท้ๆยังกลืนไม่ลงเลย แต่ที่ผมต้องตกใจมากกว่านั้นก็คือ ซุปที่ผมพ่นออกไปเมื่อกี้ได้ปรากฏอยู่บนหน้าพี่มิกกิไปแล้ว

“ขอโทษ”

ผมยกมือไหว้พี่มิกกิได้แค่นั้นเพราะพี่เขาเดินกลับเข้าห้องไปแบบนิ่งๆ แต่ดูจากหน้าแล้วคงจะโกรธผมเอามากๆถ้าเป็นอย่างนี้ผมต้องชิ่งหนีไปโรงเรียนเองก่อนดีกว่า

“พ่อครับแม่ครับ ซีไปโรงเรียนก่อนนะครับ”

ผมบอกพ่อกับแม่แล้วรีบวิ่งออกไปทันที ตอนนี้ผมสามารถไปกลับโรงเรียนเองได้แล้ว ก็ไปกลับมาตั้งนานแล้ว ถ้าจำทางไม่ได้ก็เด็กอนุบาลแล้วล่ะ



“ทำไมวันนี้มาโรงเรียนเองได้วะ ว่าที่แฟนมึงไม่มาด้วยหรือไง”

ไอ้ไททักผมที่หน้าโรงเรียน มันเดินมาพร้อมกับไอ้กาย สงสัยเมื่อคืนไอ้ไทไปนอนที่บ้านไอ้กายมา

“กูหนีมา”

“มึงไปทำอะไรให้พี่มิกไม่พอใจหรือไงถึงได้หนีมา”

ผมพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด

“กูพ่นซุปใส่หน้าพี่มิกกิ”

ผมบอกมันเสียงเบา แต่ไอ้สองคนมันกลับแหกปากหัวเราะลั่นไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องบ้างเลย

“มึงแน่มากวะ”

ไอ้กายกอดคอผมแล้วพูด

“มึงโดนหักคอแน่”

ผมมองพวกมันอย่างหวั่นๆ ผมยิ่งใจไม่ดีอยู่พวกมันยังมาพูดให้ผมกลัวมากขึ้น
“มึงตายแน่ไอ้ซี”

ไอ้ไทตบบ่าผมแรงแล้วชี้ไปที่หน้าโรงเรียน พี่มิกกิกำลังเดินเข้ามาด้วยมาดนิ่งๆ ดูแล้วโคตรจะหยิ่งเลย ผมหลับตาปี๋ตอนพี่เขาเดินใกล้เข้ามา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

เสียงไอ้กายกับไอ้ไทหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ผมลืมตามองพวกมันงงๆก็เห็นพี่มิกกิเดินผ่านผมไปเหมือนคนไม่รู้จัก

“หยุดเลยนะมึง”

ผมบอกแล้วเดินหือนทุกวันนีพวกมันงอนๆ แต่พวกมันก็ยังวิ่งตามผมมาอยู่ดี

“อย่างนี้มึงก็เข้าใกล้พี่มิกไม่ได้แล้วสิ”

“กูขอเวลาทำใจแปบนึง อย่างไรกูก็ไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว”



ผมเดินมานั่งรอพี่มิกกิซ้อมเทนนิสเหมือนทุกวัน

“อ้าวไอ้ไทไอ้กาย มึงมาได้ไงวะ”

ผมทักไอ้เพื่อนสองคนที่เดินมานั่งลงข้างๆผม

“มึงก็ลองถามไอ้กายดูสิ มันลากกูมา”

ผมมองไอ้กายอย่างต้องการคำตอบ

“กูก็มาดูมึงไง เผื่อมึงโดนพี่มิกซ้อมกูจะได้พามึงไปโรงพยาบาลทันไง”

มันบอกติดตลก ผมเลยประทานมะเหงกให้มันไปทีนึง ผมกับไอ้สองคนนั่งดูจนพี่เขาซ้อมเสร็จแล้วเดินไปเก็บของ

“น่าเบื่อฉิบ มึงมานั่งรอแบบนี้ทุกวันได้ไงวะ”

ไอ้ไทลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วถามผม

“กูชินแล้วมั้ง”

แรกๆผมก็เบื่อๆแหละ แต่พอได้มาเฝ้าทุกวันมันก็เริ่มชิน

“กูไปก่อนนะ พี่มิกกิออกมาแล้ว”

ผมบอกลาเพื่อนๆแล้วเดินไปหาพี่มิกกิ ผมเดินตามไปอย่างเงียบๆเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิดถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่อยู่ดีๆพี่มิกกิก็หยุดทำให้ผมที่ก้มหน้าอยู่ชนเข้าเต็มๆหลัง

“โอ้ย! ดั้งจะหักไหมเนี่ย”

ผมคลำจมูกตัวเองปอยๆ

“วันนี้นายกลับเองนะ กลับถูกแล้วไม่ใช่หรอ”

พี่มิกกิขึ้นรถ ปิดประตูเสียงดัง ผมมองตามหลังรถที่เคลื่อนออกไป

“ใจร้าย พี่มิกกิใจร้ายที่สุด”

ผมพูดอย่างน้อยใจ ทำไมต้องทิ้งเขาไว้แบบนี้ด้วยแล้วเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ในเมื่อพี่มิกกิไม่อยากเห็นหน้าผม ผมก็จะไม่กลับไปให้พี่เขาเห็นหน้าอีก

“ไอ้ซี”

ผมหันไปมองข้างหลัง เป็นไอ้กายนั่นเอง แต่เวลาแบบนี้ผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่า

“อ้าวไอ้กาย มาได้ไงเนี่ย”

ผมไม่รู้จะทักมันว่าอะไร มันเดินดุ่มๆมาหาผมอย่างเร็วแล้วจับไหล่ผมทั้งสองข้างแน่น

“มึงตัดใจเถอะนะ”

“กูชอบพี่มิกกิ ชอบพี่เขามากจนคิดว่าจะตัดใจไม่ได้แล้ว”

ผมบอกมันเสียงสั่น ผมไม่เห็นเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยต้องมาร้องไห้เพราะถูกคนคนเดียวเมิน คนคนเดียวไม่สนใจ

“กูจะทำให้มึงลืมพี่เขาเอง”

ไอ้กายจับหน้าผมแน่แล้วก้มลงมาจะจูบผม แต่ผมไม่ยอม

“อย่านะ!!”

ผมบอกมันเสียงดัง ไอ้กายหยุดชะงักแล้วมองผมอย่างขอโทษ

“กูขอโทษ”

“มึงอย่าทำอย่างนี้เลยนะ เราเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว”

“กูชอบมึงนะซี ถึงจะไม่ได้ชอบกูมากกว่าเพื่อน แต่กูก็ยังยืนยันที่จะชอบมึงต่อไป”

“ขอบใจนะ มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกูเลย”

ผมกอดไอ้กายแน่น ผมหวังว่าจะได้ไอ้กายคนเดิมของผมกลับมานะ

“มึงจะไม่กลับบ้านหรอว่ะ”

ผมพยักหน้าให้มัน ตอนนี้ผมกับไอ้กายนั่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้านพี่มิกกิ

“มึงกลับไปก่อนก็ได้ไอ้กาย กูไม่เป็นไรแล้ว”

“แน่ใจนะ”

“แน่ใจดิวะ กูแข็งรงจะตาย ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”

“เออๆ ดูแลตัวเองด้วย มีไรก็โทรมานะ”

ไอ้กายขยี้ผมของผมแรงๆแล้วเดินไปจนลับตาผม ผมถอนหายใจออกมายาวๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ผมรู้ว่าทำแบบนี้แล้วพ่อกับแม่พี่มิกกิจะเป็นห่วง แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเจอหน้าพี่มิกกิตอนนี้ ถ้าเจอกันก็พาลจะทำให้ผมยิ่งโมโหเสียเปล่าๆ ขอผมนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวสักพักละกัน

ผมรู้สึกเหมือนมีคนมายืนค้ำหัวเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง

“พี่มิกกิ”

ผมเรียกชื่อนี้ออกมาอย่างแผ่วเบา

“มาทำไม พี่ทิ้งซีแล้วจะมาหาซีทำไม”

ผมอารมณ์เริ่มขึ้นมาอีกที

“ฉันก็ไม่ได้อยากมาหานายหรอกถ้าแม่กับพ่อไม่ขอร้อง”

“ก็ดี ก็ดี ต่อไปนี้ซีจะเลิกยุ่งกับพี่ เลิกสนใจ และทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน”

“นายชอบฉันไม่ใช่หรือไง”

พี่มิกกิถามอย่างเยาะเย้ยมันยิ่งเพิ่มความโกรธให้ผมมากขึ้น ผมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล แต่ผมก็ต้องกลั้นไว้ ผมจะให้พี่มิกกิเห็นน้ำตาของผมไม่ได้

“ซีจะเลิกชอบพี่มิกกิ ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ซีก็จะต้องทำให้ได้”

“นายไม่มีวันเลิกชอบฉันได้หรอก”

พี่มิกกิเดินหันหลังกลับไปเหลือแต่ผมที่กำลังสับสน พี่มิกกิมั่นใจขนาดนั้นได้อย่างไร แต่มันก็จริง ขนาดผมยังไม่มั่นใจในตัวเองเลยว่าจะเลิกชอบพี่มิกกิได้หรือเปล่า แต่ผมบอกแล้วว่าจะตัดใจ ผมก็ต้องทำให้ได้



“สวัสดีครับแม่ ซีไปโรงเรียนก่อนนะครับ”

ผมสวัสดีแม่ที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัว

“น้องซีจะไปแล้วหรอ”

“ครับแม่ ซีมีงานที่ต้องรีบไปทำน่ะครับ”

ผมบอกแล้วรีบออกจากบ้านไป ผมไม่อยากจะเจอตัวต้นเหตุของเรื่องนี้ แต่ผมก็ต้องผิดหวังเพราะพอออกมาจากบ้านก็เห็นพี่มิกกิยืนพิงรถอยู่แล้ว

“ตื่นเช้าดีนี่”

ผมไม่สนใจแล้วเดินหนีไปอีกทาง

“ขึ้นรถ!”

พี่มิกกิเดินมาดักทางผมแล้วบอก

“ไม่!”

ผมก็ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมเหมือนกัน เรายืนจ้องตากันสักพัก แล้วผลสุดท้ายก็เป็นผมเองที่ต้องยอม เพราะถ้าผมยังจ้องตากับพี่มิกกิอยู่อย่างนี้ ชาตินี้ผมก็คงตัดใจไม่ได้แน่ๆ

“หึ”

ผมหมั่นไส้เสียงหัวเราะแบบนี้ของพี่มิกกิจริงๆ เพราะมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแพ้

ระหว่างทางมาโรงเรียนผมก็นั่งเงียบมาตลอดทาง พอถึงโรงเรียนผมก็รีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปไม่รอพี่มิกกิเหมือนทุกวัน

“มึงจะรีบไปตามควายที่ไหนวะ”

ปากอย่างนี้มีอยู่สองคนเท่านั้น ไม่ไอ้ไทก็ไอ้กาย แต่คงเป็นไอ้ไทมากกว่า

“ถือว่ามึงโชคดีเพราะกูไม่มีอารมณ์จะด่ามึง”

ผมบอกไอ้ไททั้งที่ยังคงเดินไม่หยุด

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงทะเลาะกับพี่มิกกิมาแน่ๆ”

“เออ!!”

ผมหันไปกระแทกเสียงใส่ไอ้ไทเต็มๆหน้ามัน และรีบเดินหนีเข้าห้องไปก็เห็นไอ้กายนั่งอยู่ในห้องแล้ว

“ไอ้กาย กูจะตัดใจจากพี่มิกกิเหมือนที่มึงบอก”

ผมบอกไอ้กายเสียงจริงจัง

“ใจเย็นๆดิมึง อย่าใช้อารมณ์”

ผมมองไอ้กายอย่างแปลกใจ เมื่อวานมันยังบอกให้ผมตัดใจอยู่เลย ทำไมวันนี้มาบอกให้ผมใจเย็นๆ

“อะไรของมึงเนี่ย”

จากที่หงุดหงิดพี่มิกกิ ตอนนี้ผมเริ่มจะหงุดหงิดไอ้กายอีกคนแล้ว

“แล้วแต่มึงก็แล้วกัน เรื่องนี้กูไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้ามึงตัดใจจากพี่มิกกิได้เมื่อไหร่ กูขอจีบมึงได้ไหม”

ผมเงียบเลย มันถามมาตรงๆแบบนี้แล้วผมจะตอบอย่างไรล่ะ

“กูล้อเล่น กูเป็นเพื่อนกับมึงอย่างนี้น่ะดีแล้วเนาะ”

มันขยี้หัวผมจนยุ่ง ผมได้เพื่อนของผมกลับมาแล้วสินะ ผมยิ้มให้มันกว้างน้ำตาเริ่มคลอเบ้า ผมซาบซึ้งกับความหวังดีของไอ้กายจริงๆ

“ไอ้กาย มึงไปแกล้งอะไรมันเนี่ย”

ไอ้ไทที่เพิ่งเดินมาถึงตบหัวไอ้กายเสียงดัง เพราะมันรู้ว่าผมเป็นคนที่ร้องไห้ยาก และถ้าได้ร้องก็จะหยุดยาก

“กูเปล่า”

“เปล่าห่าอะไร ตามันแดงแล้วน่ะ”

ไอ้ไทรีบลูบหัวลูบหลังผมใหญ่ ผมที่เห้นพวกมันเอาใจผมอย่างนี้เลยขอแกล้งมันอีกนิด

“ไอ้ไท ฮึก กูหิวข้าว ปวดท้องด้วย ฮึก”

ผมปล่อยน้ำตาออกมาและทำเสียงสะอึกสะอื้นให้ยิ่งดูน่าสงสาร ผมไม่เคยอ้อนใครนอกจากพ่อแม่ และก็ไอ้สองคนนี้แหละ

“เออๆ เงียบๆ เดี๋ยวกูไปชื้ออะไรมาให้กิน ดูมันด้วยนะ แล้วอย่าไปแกล้งอะไรมันอีกล่ะ”

ไอ้ไทบอกไอ้กายเสียงเข้มแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ผมหัวเราะออกมาทันที

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงเห็นหน้าไอ้ไทเมื่อกี้ไหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“กูจะฟ้องไอ้ไทว่ามึงแกล้งมัน”

ถึงไอ้กายจะด่าผมแต่มันก็ร่วมหัวเราะกับผมไปด้วย




ลงไปลงมา ตอนหน้าก็จะจบแล้วอะแกรรรร  :katai1: กำลังคิดอยู่ว่าจะแต่งตอนพิเศษดีไหมน้า :katai3: ถ้าว่างๆจะแต่งละกันนะ แต่ท่าทางจะว่างยากหน่อย :hao3:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
พี่มิกปากแข็ง ก่อนจบให้มีคนมาจีบซีต่อหน้าพี่มิกเลย ชิ!!! จะดูคนปากแข็งหึงซี

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รออ่านต่อค่าาาาาาา รอๆๆๆ

ออฟไลน์ noohxuehua

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออยู่นะไรท์ มิกอ่าปากแข็งมาก ยกซีให้กายไปเลยดีไหม  :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนจบ


ทั้งวันผมได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนแทนที่จะไปตามติดพี่มิกกิเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้มันจะรู้สึกแปลกๆแต่ผมก็มีความสุขนะ เวลาที่ผมอยู่กับสองคนนี้ผมจะลืมพี่มิกกิได้

“มึงจะกลับบ้านเลยไหม”

ผมส่ายหัวแรงๆ วันนี้ผมไม่ต้องไปรอพี่มิกกิแล้ว ถ้ากลับบ้านไปก็ไม่มีอะไรทำ ไปเที่ยวกับไอ้สองคนนี้ดีกว่า

“งั้นไอ้เที่ยวห้างกัน กูจะได้ไปเลือกของขวัญให้มึงด้วย”

วันเกิดผมผ่านมาได้เดือนนึงแล้ว แต่ไอ้สองคนนี้มันยังไม่ได้ให้ของขวัญผมเลยเพราะตอนนั้นช่วงสอบพอดีมันเลยไม่มีเวลาไปซื้อให้

“กูหิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรกินแล้วค่อยมาเลือกต่อดีกว่า”

ผมบอกพวกมันที่พยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่ ผมเดินลากพวกมันเข้ามาในเคเอฟซีทันที ไม่ได้มากินนานแล้ว พวกเราใช้เวลาไม่นานก็กินหมด แต่ผมที่กินเยอะที่สุดจนไม่มีแรงจะเดินต่อแล้ว

“พวกมึงไปเลือกกันเลย กูขอนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อน”

ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวที่ห้างจัดวางไว้ให้

“เออๆ เสือกแดกเยอะอย่างกับห่าลงเอง”

ไอ้ไทบ่นแล้วเดินไปเลือกของกับไอ้กายต่อ ผมมองดูคนที่เดินไปมาเพลินๆ บางคนก็มาคนเดียว มาเป็นกลุ่ม และมากับแฟนก็มี

“ทำไมไม่มารอฉันซ้อม”

พี่มิกกิที่น่าจะซ้อมเทนนิสอยู่มายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมทำท่าจะลุกหนี แต่พี่มิกกิคว้ามือผมให้นั่งลงตามเดินข้างๆพี่มิกกิ

“มีอะไร”

“ทำไมไม่ไปรอฉันซ้อม”

“ก็ซีบอกพี่ไปแล้วนี่ว่าจะตัดใจจากพี่”

“ฉันก็บอกนายแล้วว่านายไม่มีทางตัดใจจากฉันได้”

“อะไรของพี่เนี่ย ไม่คุยด้วยแล้ว”

ผมลุกขึ้นเดินหนี แต่พี่มิกกิก็ยังเดินตามมาไม่ห่าง คนก็มองกันเต็มเลย จะไม่ให้มองได้ไง ก็พี่มิกกิดันใส่ชุดที่ใส่ซ้อมเทนนิสมาเดินห้างแถมหน้าตาพี่เขาก็ยังหล่อมากๆอีกด้วย

“พี่จะตามมาทำไมเนี่ย กลับไปซ้อมเลยไป”

“กล้าไล่ฉันหรอ”

พี่มิกกิพาผมออกมาที่ลานจอดรถแล้วผลักผมเข้าไปในรถ

“ออกรถ”

พี่มิกกิบอกพี่สุที่นั่งรออยู่ในรถแล้ว

“พี่สุจอดรถด้วยครับ”

“ไม่ต้องจอด!!”

พี่มิกกิสั่งเสียงเข้ม อย่าว่าแต่พี่สุกลัวเลย ผมก็กลัวเหมือนกัน

“พี่จะพาซีมาทำไม ซียังไม่ได้บอกเพื่อนเลย”

ผมถามเสียงเบา กลัวโดนตะคอกกลับมา

พี่มิกกิไม่ตอบ ผมนั่งเงียบๆมาจนถึงสวนสาธารณะที่ผมมาเมื่อคืน พี่มิกกิลากผมที่นั่งนิ่งลงมาจากรถ

“เป็นอะไร”

“ซีก็จะตัดใจจากพี่ไง”

“ฉันบอกแล้วนี่ว่านายตัดใจจากฉันไม่ได้หรอก”

ผมมองหน้าพี่มิกกิอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ผมพยายามจะออกห่าง แต่พี่มิกกิกลับพยายามที่จะเข้าใกล้

“พี่มั่นใจขนาดนั้นได้ไง ใช่สิ ซีไม่มีทางตัดใจจากพี่ได้ แต่ซีก็พยายามอยู่นี่ไง แล้วทำไมพี่ต้องมาทำอย่างนี้ด้วยทั้งๆที่พี่ก็ไม่ได้รักซี”

“ฉันรักนาย”

ผมที่ก้มหน้ากลั้นน้ำตาอยู่เงยหน้ามองพี่มิกกิที่พูดประโยคเมื่อกี้ออกมา

“พี่มิกกิ”

“รู้แล้วก็อย่าพยายามที่จะเลิกรักฉัน เข้าใจไหม”

ผมพยักหน้าทั้งน้ำตา พี่มิกกิดึงผมเข้าไปกอดเบา อ้ออมกอดที่เขาได้แต่ใฝ่ฝันมันช่างอบอุ่น

“ซีรักพี่นะ รักมากด้วย”

“ฉันรู้แล้ว พูดมากน่ารำคาญ”

ถึงจะโดนพี่มิกกิบ่นแต่ผมก็ยังยิ้มได้ วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด และผมจะไม่มีวันลืมไปเด็ดขาด



“พี่มิกกิรู้ได้ไงว่าซีอยู่ที่ห้าง”

ผมถามพี่มิกกิระหว่างที่กำลังนั่งอ่านหนังสือด้วยกัน ขอบอกเลยว่า หลังจากที่พี่มิกกิบอกรักผม แต่ทุกอย่างก็ยังก็ยังเหมือนเดิม พี่เขายังคงทำหน้าหงุดหงิดใส่ผมทุกครั้งที่ไม่พอใจ

“ไปถามเพื่อนนายเอาเอง”

“อะไรอะ ก็ซีอยากรู้ตอนนี้”

“กลับห้องนายไปเลย ฉันจะอ่านหนังสือ รำคาญ!”



“ไอ้ไทไอ้กาย มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกูด่วน”

ผมจิกหัวพวกมันสองคนที่กำลังสุมหัวกันเล่นเกมในโทรศัพท์

“โอ้ยย! อะไรของมึงเนี่ย กูเจ็บ ปล่อยๆๆ”

ไอ้ไทโวยวายทันที เพื่อนในห้องไม่มีใครสนใจเพราะพวกผมชอบเล่นกันแรงๆแบบนี้เป็นประจำ มือผมยังไม่หลุดจากหัวพวกมันจนไอ้กายมันตึมือผมแรงๆนั่นแหละ

“มีอะไรก็พูดมา หนังหัวกูจะหลุดอยู่แล้ว”

ไอ้กายมันว่าแล้วลูบหัวตัวเอง

“มึงเป็นคนบอกพี่มืกกิใช่ไหมว่ากูอยู่ที่ห้าง”

ไอ้ไทส่ายหูว่ามันไม่รู้ ทีนี้ก็เหลือคนเดียวแล้ว

“ไอ้กาย!”

มันสะดุ้งนิดหน่อย

“กูช่วยมึงนะ เป็นไง เคลียร์กับพี่มิกเรียบร้อยแล้วล่ะสิ”

“มึงนะมึง”

ผมชี้หน้าคาดโทษไอ้กายทันที

“กูจะยอมตัดใจจากมึง”

ไอ้กายบอกผมที่มองหน้ามันงงๆไม่ต่างจากไอ้ไทที่ไม่รู้เรื่องอะไร

“กูมั่นใจว่ามึงไม่มีทางเลิกชอบพี่มิกได้และพี่มิกก็ชอบมึงเหมือนกัน”

“มึงรู้ได้ไงว่าพี่มิกกิชอบกู”

ไอ้กายทำท่าอึกอัก มันต้องมีอะไรแน่ๆ ผมมองไอ้กายอย่างคาดครั้น

“ก็วันนั้นที่สวนสาธาณะ หลังจากที่กูออกมาจากมึง กูก็เจอพี่มิก แล้วก็คุยกันนิดหน่อย”

“คุยอะไร บอกมาให้ผม ไม่งั้นกูร้องไห้ใส่หน้ามึงแน่”

ผมขู่มันจนมันต้องยอมเปิดปากเล่า



‘พี่มิก’

‘นายชอบซีใช่ไหม’

‘ใช่ครับ ถ้าพี่รู้แล้วก็ช่วยเลิยุ่งกับซี ซีจะได้ตัดใจจากพี่สักที’

‘ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก’

‘หมายความว่าไง’

‘ฉันชอบซี นายนั่นแหละที่ต้องเลิกยุ่งกับซีเพราะซีก็ไม่มีวันตัดใจจากฉันได้’

‘ถ้างั้น ผมฝากให้พี่ดูแลซีด้วยนะครับ ถ้าพี่ทำให้ซีเสียใจเมื่อไหร่ ผมจะมาทวงมันคืนแน่’



“พี่มิกแม่งโคตรเทห์เลยวะ ว่าแต่มึงชอบไอ้ซีหรอวะ”

ไอ้ไทที่ฟังอยู่พูดขึ้นมาตอนที่ไอ้กายเล่าเสร็จ แต่ผมนี่อึ้งไปแล้ว ไม่คิดว่าพี่มิกกิจะพูดแบบนั้นออกมา

“ไอ้เพื่อนเลว มึงกล้ามีความลับกับกูหรอ”

ผมหันไปมองไอ้กายที่โดนไอ้ไทโวยวายใส่แล้วยิ้มขอบคุณให้มัน นี่แหละมิตรภาพที่ผมหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ส่วนความรักของผมน่ะหรอ ผมก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ผมขอมีความสุขกับมันให้เต็มที่ก่อนก็แล้วกัน





จอบอจบแล้ววววว  :sad11: สั้นๆได้ใจความนะ
พรุ่งนี้สอบแต่ยังไม่อ่านหนังสือเลยสักวิชา คงต้องไปนั่งโง่มองกระดาษคำตอบอย่างว่างเปล่าสินะเรา :ling1: แต่ไม่เป็นไร เอานิยายมาลงเสร็จแล้ว สบายใจ :m23:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กว่าจะเลิกปากแข็งนี่ น้องเกือบตัดใจเลยนะพี่มิก :hao7:

รอตอนพิเศษค่าาาาา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำไมไม่ปากแข็งให้ตลอดฮะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่มิกกิโคตรขี้เก๊ก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่มิกกิดูจะเย็นชากับน้องซีไปมั้ย นี่ขนาดชอบน้องนะเนี่ย

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
พี่มิกกิใจร้ายกับน้องซีจัง   o13

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รักน้องหวงน้องขนาดนี้
แสดงออกบ้างก็ได้นะพี่มิกกิ
น้องซีน่ารักขนาดนี้ เด๋วคนอื่นมาทำเขวนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด