พี่โหดครับ มารักกับผมไหม?
ตอนที่34 รัก.......
My name's Zeusเคยคิดว่าโลกใบนี้แม่งน่าเบื่อโคตรๆ วันๆแม่งก็เจอแต่เรื่องเดิมๆ ตื่นเช้า อาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวไปเรียน ไม่มีอะไรให้ทำแล้วหรอ?
อยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากันเพราะผลประโยชน์ ต้องทำตามคำสั่งของผู้อาวุโสของบ้าน เหอะ
เคยสงสัยว่าจะมีพ่อคนไหนไหมที่มีลูกเพื่อผลประโยชน์? มีลูกเพื่อเป็นทาส น่าขำแต่ขี้เกียจหัวเราะ 'นายต้องเรียนสายวิทย์คณิต' แล้วไง ก็จะเรียนสายศิลป์แล้วใครจะทำไม? 'นายต้องเรียนต่างประเทศเท่านั้น' ก็อยากเรียนที่ไทย ก็กูรักภาษาไทย 'นายต้องเรียนบริหาร' เหอะ ก็เรียนวิศวะมาได้ถึงปี3 ไม่เหมือนไอ้พวกอ่อนแอขี้ประจบ ที่ตาแก่นั่นสั่งอะไรก็ทำตามทุกอย่าง ชีวิตพวกมึงไม่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก จะไม่ดีเท่ากูในตอนนี้ ไอ้พวกโง่
[แกมันโง่ น่ารำคาญ สร้างแต่ปัญหา แกรู้ไหมว่าแกทำอะไรลงไป ฉันจะตอบนักข่าวว่ายังไง]
โอ้โห อยากจะตบมือแล้วหัวเราะออกมาดังๆ แต่ก็เปลืองแรงชะมัด เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า ร้อยวันพันปีจะโทรมา คำพูดแต่ละคำดันน่ารำคาญชะมัด
"พูดความจริงสิ สิ่งที่เห็นนั่นน่ะมันถูกต้องแล้ว ผมไม่เคยเรียกร้องอยากจะหมั้นกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรก มีแต่พวกคุณที่มโนกันไปเอง"
[อย่ามาอวดดีกับฉันถ้าแกยังใช้เงินของฉันอยู่]
"แน่ใจหรือไง? หึ ถ้าขืนคุณยังเลี้ยงลูกด้วยเงินแบบนี้ ถ้าสักวันพวกมันหาเงินเองได้ ระวังคุณจะกลายเป็นแค่หมาแก่ตัวนึงที่คอยแต่จะเห่าไปวันๆ"
ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนพูดเยอะแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกถึงอีกคนที่ชอบพูดจนน้ำลายแห้งแล้วหัวเราะเบาๆ กว่าจะพูดได้เท่าไอ้ฮอบบิทนั่นก็คงต้องฝึกอีกเยอะ
[หยุดปากดีกับฉัน! แล้วเตรียมตัวหมั้นไว้ด้วย]
รอบๆตัวมีแต่คนพูดเรื่องหมั้น ไม่มีปัญญาเอาเรื่องน่าตื่นเต้นกว่านี้มาขู่หรือไง น่ารำคาญ
"ผมกลับห้องนะ"
มันรีบพูดทันทีเมื่อผมเดินกลับเข้ามาในห้องเหมือนยืนรอมานานแล้ว
"กลับทำไม?"
"ห้องผมก็มี ไม่อยากให้เฮียมันเสียตังค์ค่าเช่าฟรี"
"มาอยู่กับกูก็ได้"
"เรื่องดิ อยู่ก่อนแต่งได้ไง ไปขอป๊าก่อน"
"เอาก่อนได้แต่อยู่ก่อนไม่ได้?"
รู้สึกมีความสุขเวลาที่นึกถึงเรื่องในคืนนั้น ตอนที่มันร้องไห้แล้วเรียกชื่อผมซ้ำๆ และร้องขอจูบจากผม พอเวลาพูดถึง ไอ้คนตรงหน้ามันก็จะหน้าแดงประจำ น่ารัก......
"ผ้ายอมเพราะรักนี่ ไปแล้ว! มีอะไรบอกผมได้นะพี่ อาจช่วยไม่ได้หรอกแต่พร้อมรับฟังเสมอ รักนะจุ๊บๆ"
มันพูดเร็วๆก่อนจะแจ้นออกไป อยากจะดึงมาจูบสักที แต่มัวแต่ยืนยิ้มกับคำพูดของมันเลยไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด 'โลกนี้แม่งไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่เคยคิดนี่หว่า' คิดได้หลังจากที่เจอไอ้ห่าเตี้ยอย่างกับฮอบบิทเมื่อกี้มันคอยมาตามติดชีวิต ตอนเด็กแม่ไม่ให้แดกนมหรือไง เตี้ยชิบหาย แรกๆแม่งโคตรน่ารำคาญ หลังๆเหมือนขาดมันไม่ได้ เตี้ยแล้วยังสันดานเสียอีก
ติ๊ง
แปลกใจเล็กน้อยที่มันพึ่งลงไปได้ไม่นานแต่ส่งข้อความกลับมาแล้ว ถึงห้องแล้วหรอ?
'เจอคุณณัชชาอยู่ข้างล่างแน่ะ ตัวเองไม่ต้องเป็นห่วงนะ เค้าปลอดภัย เค้าเชื่อใจเทพนะ จุ๊บๆ'
หึ ข้อความปัญญาอ่อนแต่กูก็ชอบอ่านเหลือเกิน ถ้าให้ไอ้เตี้ยนั่นทำตัวแบบผมก็คงจะไม่เหมาะสุดๆ ปัญญาอ่อนต่อไปเหอะ กูจะได้มีความสุข
"มาแล้วหรอไอ้นอกคอก"
ผมเหลือบตาไปมองไอ้เจ้าของประโยคนั้นอย่างไม่ใส่ใจ ผมกับมันอยู่กันคนละขั้นแล้ว ผมอยู่เหนือกว่ามันตั้งแต่ผมเลือกทางเดินของตัวเองแล้ว
"ไม่คิดว่าแกจะตกต่ำขนาดที่เอาไอ้เด็กนั้นมาทำเมีย แกนี่มันจุดด่างของตระกูลจริงๆ น่าอับอายชะมัด"
"ถึงผ้าใบมันจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา เกิดในตระกูลไม่มีชื่อเสียง แต่จิตใจของมันสูงกว่าพวกนามสกุลดังๆซะอีก เปิดตาดูบ้างนะ จะได้รู้ว่าพวกมึงไม่ได้สูงส่งไปกว่าใครเลย"
"ซุส! ฉันเป็นพี่ของนายนะ"
"ยิ่งพวกมึงพยายามปีนให้สูงขึ้นเท่าไหร่ โอกาสตกลงมาตาย ก็จะมีมากเท่านั้น"
"แก!!!!"
"อาเรส พอได้แล้ว"
ลูซิเฟอร์เดินลงมาจากชั้นสอง พูดปรามน้องมันอย่างดุๆ แต่ก็เท่านั้น ไม่ว่าจะไอ้ลูซิเฟอร์หรืออาเรส สันดานพวกมันก็เหมือนกันหมดนั้นแหละ
"นานๆกลับบ้านที นายไม่ควรมาทะเลาะกับคนในบ้านนะซุส"
ผมกลอกตากับคำพูดที่ดูน่าเชื่อถือเหมาะกับเป็นพี่ใหญ่ ต้องฝึกกี่ปีล่ะถึงจะเสแสร้งได้เก่งขนาดนี้
"มึงควรจะถามน้องชายมึงมากกว่านะลูซิเฟอร์ คนอย่างกูไม่หาเรื่องใคร"
"นายควรจะเลือกคบคนหน่อยนะซุส ไม่คิดว่านายจะต่ำได้ขนาดนี้"
พวกเชี้ยนี่มันเป็นแต่เห่าหรือไงวะ น่ารำคาญ
"กูถึงได้เลิกยุ่งกับพวกมึงไง ยังไม่รู้ตัวกันอีกหรอ?"
"แกนี่มัน!!!!"
อาเรสจะเข้ามาใส่ผมอีกครั้งแต่โดนพี่มันห้ามไว้ ผมหัวเราะเยาะอย่างสมเพช ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา หยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความหาอีกคนว่าอยู่ที่บ้านแล้ว ก่อนมานี่ก็บอกมันไว้แล้วว่าคนที่บ้านเรียกกลับมา ปกติผมไม่ค่อยรายงานใครหรอกว่าทำอะไร อยู่ไหน
ขอเว้นไอ้เตี้ยนั่นไว้คนนึงแล้วกัน แค่คิดว่ามันอ่านข้อความแล้วยิ้มดีใจ ผมก็มีความสุขแล้ว ผมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ...........
ฮอบบิท: ไหนเซลฟี่ให้ดูหน่อย
(ปล. เหตุที่ชื่อไลน์ของผ้าใบในพาร์ทพี่ซุสคือฮอบบิท เพราะพี่ซุสเมมเบอร์ผ้าใบว่าฮอบบิทนั่นเองงงง)
Zeus: ปัญญาอ่อน แล้วมึงอยู่ไหน?
ฮอบบิท: ผ้าทำรายงานอยู่กับพวกไอ้เต้ เสร็จแล้วก็จะไปซ้อมเต้นที่บ้านไอ้หนุ่ม พี่กินข้าวยัง
Zeus: เจอหน้าไอ้พวกสัดนี่กูก็แดกข้าวไม่ลงแล้ว
ฮอบบิท: โอ้โหวววววว ไม่ได้หมายถึงพ่อของพี่ซุสใช่ปะ ยังไงเขาก็พ่อนะเว้ย ใจเย็นๆพี่ โมโหอะไรมาลงที่ผ้าก็ได้ สู้ๆ(อิโมติค่อนชูสองนิ้ว)
Zeus: เดี๋ยวโทรหา
บอกแค่นั้นก็เก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงเพราะเห็นประมุขของบ้านเดินลงมาพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยแต่ดูเจนโลกคนหนึ่ง
"เหอะ ไม่คิดว่าแกจะมา"
คำทักทายของพ่อที่เจอหน้าลูกชายหลังจากไม่ได้เจอกันมาเกือบสิบปี น้ำตากูจะไหล หึ
"ก็ไม่ได้อยากจะมาหรอก พอดีเมียไม่อยู่บ้านก็เลยหาอะไรทำแก้เซ็ง"
"ต่ำตมชะมัด"
"พูดธุระมาซะทีเถอะ ผมทนอยู่ในบ้านที่มีแต่คนเห็นแก่ตัวไม่ไหวแล้ว"
"แกต้องกลับมาอยู่ที่นี้"
ในที่สุดเขาก็พูดออกมา ไม่มีหรอกที่จะเรียกหาผมโดยที่ไม่ต้องการอะไร
"ผมได้อะไร?"
"แกได้จากฉันไปเยอะแล้ว! แกยังต้องการอะไร"
"ผมไม่เคยได้อะไรจากคุณเลย และไม่อยากได้อะไรด้วย เพราะถึงอยากได้ไป คุณก็ไม่มีปัญญาให้ผมอยู่ดี"
"ปกติแกไม่เคยเป็นแบบนี้นะซุส"
ลูซิเฟอร์มันคงทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาผลักอกผม ผมหัวเราะออกมาเสียงดังกับปฏิกิริยาที่ดูร้อนรนของพวกมัน เพราะปกติ ผมไม่เคยมีปากมีเสียงเลย
"เพราะกูเปลี่ยนไปแล้วไง"
ผมพูดพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
"เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้หรอ? กลับมาอยู่ที่นี้ ที่ที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว กลับมาอยู่ที่บ้านของแม่ผมที่มีใครก็ไม่รู้อาศัยอยู่เพราะหวังผลประโยชน์ ผมไม่เคยคิดจะพูดแบบนี้หรอกนะ แต่ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงจะละทิ้งทุกอย่าง แล้วหนีไปซะ"
เป็นเรื่องจริงที่ผมอยากจะลืมมันไปซะ ผมร้องไห้เหมือนคนขี้แพ้เมื่อหลายสิบปีก่อน กว่าผมจะเข้มแข็งได้ ผมต้องเสียอะไรไปบ้าง?
คนตรงหน้าผมเงียบเมื่อผมพูดจี้จุด เขาเห็นแก่ตัวมากกว่าที่เรามองเห็น เห็นแก่ตัวมากกว่าที่ผมจะพูดออกมาได้
"ฉันทำเพื่อพวกแก"
"ผมต้องการแม่ของผม มากกว่าเงินที่คุณปล้นแม่ของผมมา คุณมันเห็นแก่ตัว เลวโคตรๆเลย"
"ซุส!!! แกพูดกับพ่อแบบนี้ได้ยังไง"
"มึงควรจะมีสมองเป็นของตัวเองบ้างนะลูซิเฟอร์ หรือสายตามึงมองเห็นแต่เงินจนสามารถทำชั่วได้แบบพ่อมึง"
ผั๊วะ......
ไม่ได้โดนต่อยมานานแค่ไหนแล้วนะ ดีแต่ไปต่อยเขา ถ้าไอ้เตี้ยฮอบบิทมันเห็นรอยแม่งคงจะบุกเดี่ยวมาซัดไอ้ลูซิเฟอร์แน่ เตี้ยแต่ไม่เจียม
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นกลับล่ะ"
ผมเรียนรู้ที่จะกวนตีนมาจากได้เตี้ยนั่นแหละครับ ไม่ต้องแปลกใจทำไมผมเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเปลี่ยนในทางที่ดีหรือไม่ดี
"ซุส! ลืมเรื่องนั้นไปซะ"
เขาพูดเสียงดังในขณะที่ผมก้าวเดินออกมา รู้สึกไม่พอใจกับประโยคนั้น หันกลับไปมองเขาแล้วยิ้มให้กับคนโง่งมที่เรียกตัวเองว่าพ่อทั้งๆที่ที่ผ่านมา ไม่เคยทำตัวเหมือนเป็นพ่อคนสักเท่าไหร่
"มันก็ยากพอๆกับให้คุณสำนึกผิดในสิ่งที่คุณทำลงไปนั่นแหละ"
คราวนี้ผมไม่รอให้ใครได้พูดอะไรอีก เดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของแม่ผม ขึ้นรถคันใหม่ที่พึ่งเปลี่ยนมาได้ไม่นาน ทำไมถึงเปลี่ยนรถใหม่? ไม่อยากจะพูดเท่าไหร่หรอก แต่.............ก็แค่รู้สึกไม่ดีที่เห็นไอ้ผ้ามันทำหน้าควายๆเวลามีผู้หญิงร่วมรถไปด้วย
ถามว่าทำไมผมต้องพาผ้าใบมันไปไหนมาไหนพร้อมกับผู้หญิงพวกนั้น? แล้วผมจะไปรู้หรอว่าพาไปด้วยกันไม่ได้ ผมแค่อยู่กับผ้าใบแล้วมีความสุข ผมก็พามันไปทุกที่สิ ก็ผมไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกแบบไหนเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงพวกนั้น
แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วนี่ครับ
ถ้านับกันตามสายเลือดแล้ว ผมเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านอนันตยภิรมณ์ ลูกชายคนเล็กที่ใครต่อใครคงจะวาดภาพเอาไว้ว่าจะต้องโดนตามใจทุกอย่าง แต่มันไม่ใช่สำหรับบ้านหลังนี้
ผมโดนคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อเกลียดชัง เพราะดันไปรู้ความลับอะไรบางอย่างที่เขาทำเข้า ผมจึงกลายเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่วางอยู่บนกระดานคอยทำตามที่ผู้เล่นสั่งหรือหยิบยกไป
ผมรู้ตัวดีว่าเขามองผมเป็นอะไร และผมจะไม่ทำให้เขาสมหวังอย่างที่คิด พวกนั้นไม่เคยเข็ดหลาบที่โดนผมดัดหลังหลายต่อหลายครั้ง ทำไมพวกมันไม่จำสักทีว่าการที่ผมยอมทำตามคำสั่งในตอนแรก มันเป็นแผนที่หลอกให้ตายใจเท่านั้น
พวกนั้นเห็นผมเป็นของตาย โยนผมให้คนนู้นทีคนนี้ที ณัชชาไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่จะได้เป็นคู่หมั้นของผม ก่อนหน้านี้เคยมีลูกสาวของบริษัทยักษ์ใหญ่จะเข้ามาเป็นคู่หมั้นผมถึง3คน เขาทำกับผมเหมือนคนไร้ค่าที่จะโยนไปไหนก็ต้องไป
และทุกครั้งที่เขาโยนผมออกไป ผมก็จะกลับมาทำร้ายเขาทุกครั้ง ทำไมยังไม่จำกันนะ......
[ครับพี่]
แปลกใจนิดหน่อยที่คนรับโทรศัพท์ไม่ใช่ไอ้เตี้ย แต่พอจะจำได้ว่าเป็นเสียงเพื่อนมัน
"เหี้ยผ้าอยู่ไหน?"
[อ๋อ มันซ้อมเต้นอยู่พี่ เดี๋ยวผมเรียกให้ ผ้า ไอ้ผ้าาาาาา พี่ซุสโทรมาโว้ย]
แอบแสบแก้วหูกับเสียงของเพื่อนไอ้เตี้ยเล็กน้อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะรำคาญจนกดสายทิ้งไปแล้ว แต่ตอนนี้.........ผมทำเพียงหัวเราะเบาๆเท่านั้น ได้ยินเสียงตึงตังมาตามสายก่อนจะที่จะมีเสียงไอ้เตี้ยดังมาตามสาย
[โทษทีพี่ พอดีซ้อมเต้นอยู่ ออกมาจากบ้านแล้วหรอเป็นไงบ้าง]
"ก็ไม่เป็นไง โดนต่อยมาที"
[เฮ้ยไอ้เหี้ย ใครแม่งต่อยเทพวะ ต่อยทำไมอะ]
"ก็กูหล่อกว่ามัน"
[พี่แม่งกวนว่ะ]
"กูไม่หล่อหรอ?"
[หล่อดิพี่ ไม่งั้นผมจะชอบหรอ ถ้าพี่ไม่หล่อพี่ก็ไม่มีเหี้ยไรดีเลยนะเว้ย]
ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปเพราะปากหมาๆของมันนี่แหละ
"ให้ไปรับไหม?"
[ไม่ต้องหรอกพี่ พี่กลับไปพักเหอะ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าจะค้างบ้านเหี้ยหนุ่มเปล่า]
"..............."
[เอาน่า เดี๋ยวเสาร์อาทิตย์ผมจะไปสิงอยู่ห้องพี่เป็นผีเฝ้าทรัพย์เลย ผ้าไม่ทิ้งพี่หรอก โอ๋ๆ]
"บอกรักกูดังๆดิ"
ผมอมยิ้มเมื่อเสียงปลายสายมันเงียบไป คิดภาพมันคงตาเหลือกไปแล้วแหงๆ
[ผ้ารักเทพนะ]
มันพูดเสียงแทบจะกระซิบ เพื่อนมันคงแอบฟังอยู่แน่ๆ
"ไม่ได้ยิน"
[อะแฮ่ม.....เอ่อ.....ผ้ารักพี่เทพนะ!]
"คอมึงอักเสบหรือไง?"
[ปั๊ดโถ่
ผ้ารักพี่เทพโว้ย!!!! (ฮิ้วววววววววววววววว) ฮิ้วหาพ่อ สัด คนโสดอย่าพาล พี่เทพได้ยินยัง หรือจะให้เอาโทรโข่งมาพูดด้วย?]
"ก็โอเค มึงพูดเองหนิ ทำสิ"
[พี่เทพพพพพพพพ พอเหอะ กราบ]
"หึหึ แค่นี้แหละ กูขับรถอยู่"
[คร้าบบบบบ เดี๋ยววันเสาร์เจอกันฮะ พี่เทพวางนะ จุ๊บๆ]
"อือ"
ผมตอบแค่นั้นก็กดวางสาย ไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มบ่อยขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดมากขึ้นเท่าไหร่ แต่ผมว่าผมชอบตัวเองที่เป็นตอนนี้นะ
ย้อนกลับไปในตอนแรกที่ผมยังคงเป็นคนโง่คนนึง ที่ควงคนนู้นคนนี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในตอนนั้นผมคิดว่า 'นี่แหละมันคือการคบแบบถูกต้อง ต้องคบเยอะๆ เผื่ออีกคนทิ้งไปจะได้ไม่เจ็บมาก' และผมก็ไม่เจ็บจริงๆอย่างที่คิดเอาไว้ เวลาผู้หญิงพวกนั้นหายไปจากชีวิตของผม ผมรู้สึกเฉยชามาก จึงคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้องแล้ว
มารู้ในตอนหลังว่ามันไม่ใช่ความรักเลย ก็ตอนที่ทรมาณเพราะไม่มีอีกคนอยู่รอบๆตัว ไม่มีมันมาคอยป้วนเปี้ยนคอยเล็งดินสอมาทางผมอย่างเมื่อก่อน พยายามหาคนมาทดแทน แต่ก็ไม่เห็นมี ทั้งๆที่ผู้หญิงพวกนั้นส่งยิ้มมาให้ แต่ทำไมไม่เหมือนกับรอยยิ้มของได้เด็กเวรนั่นสักคน ปากที่เคลือบด้วยลิปกลอสสีแวววาวที่พูดออดอ้อน ไม่ทำให้รู้สึกดีเท่าปากเล็กๆที่มันเอาแต่พูดเหี้ยไรนักหนาก็ไม่รู้ได้เลย ต่างกันคนละระดับ แต่ก็ต้องการไอ้เด็กห่านั่นมากกว่า
แล้วความรู้สึกแม่งก็ดิ่งไปหมดตอนที่มันหายไปเลยในครั้งที่สอง ทั้งๆที่เรื่องของเราแม่งกำลังไปด้วยดี แต่พอมันมาเจอผมอยู่กับผู้หญิงคนนั้นแม่งก็หายไปอีก ยังไม่ทันที่ผมจะได้อธิบายด้วยซ้ำ แคร์มันจนไม่รู้จะแคร์ยังไงแล้วมันจะรู้หรือเปล่า นี่ผมต้องพยายามอีกเท่าไหร่วะ? ทั้งๆที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย เมื่อตอนที่คบผู้หญิงเยอะๆ พอพวกเธอมาเจอกัน ผมก็เลิกแม่งทั้งคู่ไม่เห็นยุ่งยาก แต่พอมาเป็นไอ้เด็กเตี้ยนั่น.............แค่ละสายตายังยาก แล้วนี่จะให้ทิ้งไปเลย..............แค่คิดใจมันก็เต้นเร็วๆ แล้วก็มีน้ำตาเอ่อออกมาละ
เกือบจะท้อแล้วตอนที่มันไม่ติดต่อมา ก็ไม่เคยง้อใครก่อนนี่นา? ทำไม่เป็นนี่ จนวันนึงไอ้เทสโทรมาบอก...........ว่าผ้าใบกรีดแขนตัวเอง............
ไอ้ผ้าเนี่ยนะ? ไอ้ตัวเตี้ยๆ ผมยาวๆ หน้าหวานๆน่ะนะ? คนที่ผมคิดถึงมันทุกครั้งที่ขยับตัวน่ะหรอ? กรีดแขนตัวเอง บัดซบเอ๊ย! ผมโกรธชะมัดเลย ผมโกรธมากๆ โกรธจนหากุญแจรถแทบไม่เจอ ผมโกรธตัวเอง ถ้าผมไม่ทำให้มันเสียใจ ถ้าผมไม่ทำให้มันคิดมาก ถ้าผมหาวิธีง้อมันเร็วกว่านี้ ถ้าผมไม่ทำให้มันเกลียดผม มันจะทำแบบนี้ไหม? บ้าเอ๊ย! ผมอยู่เฉยไม่ได้เลย ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะไอ้เตี้ย ไม่งั้นกูจะไปกระทืบมึงในนรกจริงๆด้วย
พึ่งจะเข้าใจว่ารักมันเป็นยังไงก็ตอนนี้แหละ ตอนที่ยิ้มบ่อยกว่าเดิม ตอนที่หัวเราะกับเรื่องเล็กน้อย ตอนที่รู้สึกอุ่นใจเมื่อนึกถึงมัน คิดถึงก็อยากเจอแม่งอีกละ
หึ เกลียดมันจริงๆเลย ไอ้เตี้ยสันดานเสีย บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแม่งก็ไม่ยอม โทรศัพท์เครื่องตั้งหลายหมื่นแม่งก็ต้องให้บังคับถึงจะเอาไปใช้ ใจคอจะไม่เอาอะไรจากกูเลยหรือไงวะ หึ ไอ้เตี้ยเอ้ย
กูหลงรักคนแคระแบบมึงหรอเนี่ย? ต่อไปกูคงต้องเป็นสโนไวท์ให้มึงสินะClick for Episode35**************************************************************************************************
และแล้วนิยายเรื่องนี้ก็เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นคนแคระตาใสกับสโนไวท์สุดหล่อ (มันใช่ไหมนิ5555) ตอนที่34แล้วววว มันเร็วมากเลย เร็วจนกลัวแต่งไม่ทัน 555
ยินดีต้อนรับคนที่พึ่งหลงเข้ามาอ่านทุกท่านนะจ๊ะ ส่วนคนที่อ่านอยู่แล้วก็อ่านต่อไป เดี๋ยวถ้าใครแอบชิ่งหนีไปกลางคันล่ะก็ คึคึ