กรงรักจักรพรรดิ : The Emperor Face [ตอนที่ 11] [16 - 4 - 59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กรงรักจักรพรรดิ : The Emperor Face [ตอนที่ 11] [16 - 4 - 59]  (อ่าน 29394 ครั้ง)

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ไอ้โรคจิต

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
มาต่ออีกน้าาาา

จะเป็นไงต่อเนี่ย โมเดล :katai1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เฮียเป็นพระเอกแนวเราที่เกลียดจริงๆ บีบไล่ต้อน ให้อับจนหนทาง ต้องศิโรราบด้วยความจำยอม = =
ีินายเอกแนวนี้ก็จะโดนปั่นหัวหมุนเป็นลูกข่างเลย พูดไรก็ไม่มีใครเชื่อ แถมอารมณ์ร้อนเสริมภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของตัวเองอีก
พระเอกชอบให้คู่ตัวเองเป็นทาสเป็นpetรึ น้องเขาก็เป็นมนุษย์มีศักดิ์ศรีนะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เดลต้องเปลี่ยนกรยุทธ์ใหม่ ไม่งั้นกวางน้อยตัวนี้โดนรุ่มทึ้งจนตายแน่

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
คำนินทานี่มันแย่จริงๆ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติอ่ะนะ

ออฟไลน์ Tequila

  • I am a follower KiHae.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากๆเลย

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไม่มีวี่แววว่า นายเอกเรื่องนี้จะต่อกรกับพระเอกได้
ถ้าให้เปรียบง่ายๆ เหมือนเอาทารกไปสู้ผู้ใหญ่
ทารกยังเดินไม่ได้เลย จะเอาที่ไหนไปสู้

ออฟไลน์ Ranmaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0




ตอนที่ 9


 

 

            โมเดลยืนตัวสั่นมือกำแน่น ในใจกำลังเดือดพล่านกับคำพูดนินทาของเพื่อนร่วมงาน มันทำให้เขาตัวชาวาบ คล้ายกับว่าโดนน้ำเย็นจัดสาดใส่หน้า


            ดวงตาเรียวคลอหน่วงด้วยน้ำตา มันพร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อ นัยน์ตาแดงก่ำ ที่เห็นมีน้ำตาไม่ใช่เพราะเขาเสียใจ แต่เป็นเพราะว่าเขากำลังโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โกรธจนแทบอยากจะเดินเข้าไปกระชากสิงหากับธนามาต่อยสักทีสองที


            ก็รู้ว่าสังคมตรงนี้มันเป็นอย่างนี้ แต่ไม่คิดว่ามันมากขนาดนี้ ถึงขนาดคิดเรื่องต่อกันไปเองได้แบบนี้


            ลูกเจ้าของแล้วไง เด็กเส้นแล้วไง แล้วไม่มีสิทธิ์ทำงานหรือไง งานที่เขาทำไม่ดีใช่มั้ย ทุกวันนี้ก็ต้องใจทำทุกอย่าง พยายามที่จะอยู่กับเพื่อนร่วมงานให้ได้ พยายามก็แล้ว อดทนก็แล้ว


            ไม่เข้าใจ เคยไปทำอะไรให้โกรธเกลียดกันขนาดนั้น  ถึงได้คอยจับผิดแล้วก็แขวะกันอยู่แบบนี้


            “เหี้ยเอ้ย!” โมเดลสบถคำหยาบออกมา เล็บมือจิกลงบนฝ่ามือจนเกือบจะได้เลือด ตวัดสายตาไปมองด้านในอีกครั้ง จารุวิทย์แยกไปที่ห้องของตัวเองแล้ว ส่วนที่เหลือก็ยังจับกลุ่มยืนคุยกันอยู่


 


            พรึ่บ


            โมเดลหมุนตัวเดินออกมา ขืนยืนอยู่ตรงนี้นานอีกนิดเขาได้ควบคุมตัวเองไม่อยู่แน่ๆ แต่มันก็ดีที่มาได้ยินอะไรแบบนี้ จะได้รู้ว่าทุกคนคิดยังไงกับเขา จะได้รู้ว่าความจริงใจมันใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ


            โมเดลเดินเข้ามาสงบสติอารมณ์ในห้องชงกาแฟ ครั้งนี้เขาโกรธจนมือสั่น โกรธจนอยากจะร้องไห้ สาบานได้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะคำว่างานแล้วล่ะก็ เขาเดินเข้าไปซัดพวกนั้นแน่


            “ปากดี ไอ้เหี้ยเอ้ย” ปากยังคงสบถไม่หยุด อารมณ์ในตอนนี้แน่นอนว่ามันไม่จางหายไปง่ายๆ แน่ แทบไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะนั่งทำงานอยู่ได้ยังไง ถ้าในหัวมันมีแต่เรื่องที่พวกนั้นพูดกันวนเวียนอยู่


            กึก


            แล้วเขาก็ต้องชะงักไป เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเดินมาทางนี้  โมเดลสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับสีหน้าตัวเองใหม่ คงไม่ดีแน่ถ้าใครมาเห็นตอนที่เขากำลังโกรธแบบสุดๆ อยู่ตอนนี้


 

            “อะ…อ้าว”


            โมเดลหันไปมองตามเสียง แล้วก็ต้องชะงักไปอีกครั้ง สีหน้าที่พยายามปรับให้มันดีขึ้นกลับกลายมาเป็นอย่างเดิม ธนาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเหยียดยิ้มให้ เสียงที่ร้องออกมาในตอนแรกไม่ได้แสดงถึงว่าตกใจที่เห็นเขาเลย มันเป็นการร้องทักพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดๆ นั่นต่างหาก


            “มายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะครับ คุณลูกเจ้าของบริษัท”


            “เรื่องของผมครับ”


            โมเดลกัดฟันตอบกลับไป คำพูดที่ได้ยินเมื่อสักครู่มันวนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง มือเรียวกำแน่น ห้ามตัวเองอยู่ในใจไม่ให้ไปต่อยไอ้บ้าตรงหน้านี่ จิกเล็บลงไปจนคิดว่ามือเขาคงได้เลือดซิบๆ มาแล้วเป็นแน่


            “งานไปถึงไหนแล้วล่ะ” ธนาเลิกคิ้วถาม คล้ายกับว่าจะถามด้วยความเป็นห่วง แต่ขอโทษ ตัวเขาไม่ได้เด็กน้อยที่จะไม่รู้ว่าท่าทางแบบนั้นมันกำลังดูถูก


            “ก็ดีครับ” โมเดลตอบกลับไป พร้อมกับจะเดินหนีออกจากห้องนี้ อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมมันยังทำให้อารมณ์ของเขาติดลบลงไปเรื่อยๆ อีก แค่เห็นหน้าอีกฝ่ายก็อารมณ์ไม่ดีแล้ว ถ้าไม่อยากมีเรื่อง เขาควรออกไปจากตรงนี้ซะ


            “เดี๋ยวซิ จะรีบไปไหน เดินหนีทั้งๆ ที่กำลังคุยกันอยู่แบบนี้ไม่มีมารยาทเลยนะ”


            แต่แล้วธนาก็ขยับมาขวางทางเขาเอาไว้ โมเดลชักสีหน้าไม่พอใจใส่ทันที แบบนี้มันกำลังหาเรื่องกันชัดๆ ไม่มีมารยาทงั้นเหรอ แล้วที่ตัวเองทำล่ะ เย้ยเหยียดคนอื่นด้วยสายตาและน้ำเสียงแบบนั้น เขาเรียกมีมารยาทงั้นเหรอ


            “ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคุย”


            “อ๋อ เป็นเด็กเส้นแล้วหยิ่งซะด้วย”


            “เลิกพูดว่าเด็กเส้นหรือลูกเจ้าของบริษัทสักทีเหอะ รำคาญ!” โมเดลโวยกลับ ตอนนี้เขาเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้ว มาหาเรื่องกันแบบนี้แสดงว่าก็ต้องพร้อมที่จะมีเรื่อง งั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทนมันต่อไป


            “เฮอะ! แล้วไม่ใช่เพราะลูกเจ้าของเหรอวะที่ทำให้ได้งานทำอยู่ตอนนี้น่ะ เป็นคนคุมงาน ทำงานไม่เห็นหัวคนอื่น”


            “แล้วไงวะ”


            “ต้องให้บอกมั้ยว่ามีคนไม่พอใจกี่คน ยังไม่รู้อีกเหรอวะแค่นี้น่ะ” สีหน้าท่าทางหาเรื่องมาเต็ม โมเดลจ้องหน้าธนาเขม็ง อีกฝ่ายก็เหมือนจะเริ่มเดือดไม่แพ้กัน


            “ขอโทษเหอะ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรแบบนั้น”


            “อ๋อ เพราะเอาเวลาไปคิดว่าจะประจบคนนู้นคนนี้อยู่เหรอไง ถึงไม่มีเวลาใส่ใจน่ะ” ธนาเลิกคิ้วหาเรื่อง ริมฝีปากแสยะยิ้มกวนอารมณ์ ต้องการยั่วให้โมเดลขึ้นอย่างชัดเจน ร่างบางชะงักไปนิด ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายพูดถูก แต่เพราะเขาไม่เข้าใจมากกว่าว่าที่พูดมาน่ะหมายความว่ายังไง


            “หมายความว่าไง”


            “เฮอะ! คิดว่าคนอื่นไม่รู้หรือไง ด่าคุณจักรพรรดิลับหลัง ทั้งๆ ที่ทำงานด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำหรือเปล่า แต่คุณจักรพรรดิกลับบอกว่านายทำงานได้ดี ว่าง่าย ไม่มีปัญหาอะไร ชมนายสารพัด แต่นายกลับด่าเขา แบบนี้จะให้คิดว่าไงได้ นอกจากเล่นละครประจบ ทำดีเวลาอยู่ต่อหน้า”


            “ไม่ใช่!”


            “เฮอะ! ปฏิเสธไปก็เท่านั้นว่ะ เพราะก็เห็นๆ กันอยู่ พวกหน้าไหว้หลังหลอก ทุเรศว่ะ” ธนาเหยียดยิ้มใส่โมเดล สายตารังเกียจฉายชัดให้คนถูกมองรู้สึกเหมือนโดนตบจนหน้าชา


            หน้าไหว้หลังหลอก? คนแบบเขาเนี่ยนะ


            “ไม่รู้เหี้ยไรอย่ามาพูดดีกว่า เอาเวลาไปทำงานดีกว่ามั้ง” ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นลง โมโหกับคนแบบนี้ไปก็เท่านั้น กดอารมณ์ในอกเต็มที่ ถึงจะทำขนาดนี้ก็ยังเก็บแววตาแข็งกร้าวของตัวเองไม่ได้


            “เออใช่ เอาเวลาไปทำงานดีกว่ามั้ย ไม่ใช่เอาเวลาไปเลียแข้งเลียขาคนอื่นเขา ให้เขาชอบให้เขาเอ็นดู” ธนาแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้โมเดลอีกนิด ไล่มองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก


            โมเดลยืนตัวแข็งทื่อ ไม่ใช่เพราะว่าเขากลัวธนา ไม่ใช่เพราะว่าคำพูดเหล่านั้นมันจี้ใจเพราะเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเพราะมันรุนแรงเกินไปต่างหาก ทั้งสายตาทั้งคำพูดมันบ่งบอกเลยว่าผู้ชายคนนี้เกลียดเขามากๆ


 

            พลั่ก!


            “พูดเหี้ยไรระวังปากไว้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่สนุกแล้วจะพูดอะไรก็ได้” อารมณ์ที่กักเก็บมา ณ ตอนนี้มันเก็บไม่อยู่แล้ว มือเรียวผลักหน้าอกของธนาอย่างแรง สีหน้าพร้อมเอาเรื่องได้ตลอด


            “ทำไม โมโหแบบนี้แสดงว่าที่กูพูดไปทั้งหมดคือเรื่องจริงสินะ ก็พอจะรู้ว่าเด็กเส้นน่ะยังไงมันก็ต้องหาทางทำให้ตัวเองอยู่ตรงนี้ให้ได้นานที่สุด เลียแข้งเลียขาเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่รู้ว่าเลียกันท่าไหนนะ ยิ่งหน้าสวยๆ แบบนี้ด้วยแล้ว” คำพูดร้ายกาจออกมาจากปากของธนา ยกยิ้มอย่างดูถูก โมเดลยืนตัวสั่นด้วยความโกรธ


            และเขาก็จะไม่ทนมันอีกต่อไปแล้ว


 

            พลั่ก!!


            หมัดหนักๆ ถูกปล่อยใส่หน้าธนาทันทีที่พูดจบ ใบหน้าหันไปตามแรงกระแทก ร่างเซถอยไป โมเดลโกรธจนเลือดขึ้นหน้าไม่รับรู้อะไรแล้ว ขาเรียวถีบเข้าที่ท้องของอีกฝ่าย ก่อนจะตามไปกระหน่ำปล่อยหมัดใส่หน้าอย่างไม่มีออมแรง


            “ปากดีนักนะไอ้เหี้ย!!”


            “สัด! ปล่อย!”


            ผัวะ!


            ธนาผลักร่างของโมเดลให้ถอยออกไป ก่อนจะสวนหมัดกลับไปเป็นการเอาคืน ใบหน้าสวยหันไปตามแรงกระแทก ก่อนจะเบนกลับ ดวงตาเรียวแข็งกร้าวมากกว่าเดิม มือเรียวกระชากคอเสื้อของธนาแล้วเหวี่ยงร่างของธนาไปชนกับตู้ใกล้ๆ


            “วันหลังถ้าไม่รู้เรื่องเหี้ยอะไรมึงก็ไม่ต้องสะเออะพูด!”


            พลั่ก!!


.


.


            ทางด้านของจักรพรรดิ เขาเห็นแล้วว่าโมเดลเดินหนีออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ มือกำแน่น ท่าทางแบบนั้นคงจะไปหาที่สงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ เขาก็ยืนรออยู่สักพัก ขืนเข้าไปหาตอนนี้ร่างบางก็ไม่ฟังอะไรหรอก


            แต่แล้วเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นมา ดวงตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นตวัดไปมองทางต้นเสียง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อจำเสียงของคนที่โวยขึ้นมาได้


 

            พรึ่บ


            ขายาวรีบก้าวเร็วๆ ไปทางนั้น ได้ยินแค่เสียงที่โวยวายแบบนี้ก็พอจะเดาได้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ พนักงานที่ได้ยินเสียงก็ต่างเดินออกมาดู


            และเมื่อจักรพรรดิเดินไปถึง ขาของเขาก็ชะงักไปนิด ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเพียงเล็กน้อยกับเหตุการณ์ตรงหน้า ร่างบางของโมเดลกำลังคร่อมร่างของธนาเอาไว้ มือก็กระหน่ำปล่อยหมัดใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ยั้งมือ ทุกคนที่มุงดูก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม เพราะในตอนนี้โมเดลดูน่ากลัวกว่าปกติมาก


 

            “โมเดล! หยุด!”


            จักรพรรดิพุ่งตัวเข้าไปห้าม มือหนารั้งแขนเรียวเอาไว้ แต่แล้วก็โดนสะบัดออกอย่างแรง โมเดลนั้นไม่สนใจแล้วในตอนนี้ว่าใครเป็นคนเข้ามาห้าม ที่รู้คือ…เขาต้องกระทืบไอ้คนปากดีนี่


            จักรพรรดิขมวดคิ้ว ดวงตาฉายแววเคร่งเครียดออกมาแวบหนึ่ง มันก็ใช่ที่เขาพอใจที่ทุกคนมีความรู้สึกแบบนั้นต่อโมเดล แต่เขาก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่ากวางน้อยของเขาจะถึงขั้นลงไม้ลงมือแบบนี้


            นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาไว้แต่แรก และถ้าปล่อยให้โมเดลอาละวาดมากไปกว่านี้เห็นทีจะไม่ใช่เรื่องดีแน่


            “โมเดล! พอได้แล้ว! เดล!”


ร่างสูงของจักรพรรดิเดินเข้าไปห้ามแล้วขั้นกลางระหว่างทั้งคู่ โมเดลเองก็เจ็บตัวไม่น้อย แต่ที่หนักกว่าดูจะเป็นด้านของธนา โมเดลนั้นอยู่ในอารมณ์ที่ใครก็ห้ามไม่อยู่ ก็ไม่แปลกที่ธนาจะโดนหนักขนาดนี้


            “เดล! พอ!...”


            ผัวะ!!


            !!


 

            ทุกคนต่างชะงักไปกันหมดรวมทั้งตัวโมเดลเองด้วย จักรพรรดิที่เดินเข้าไปขั้นกลางกันทั้งสองคนไว้กลับโดนคนที่กำลังโมโหอย่างโมเดลต่อยเข้าที่ใบหน้าไปเต็มๆ ทางด้านโมเดลที่พอรู้ว่าคนที่ตัวเองต่อยไปเมื่อสักครู่ไม่ใช่ธนาก็เกิดอาการชะงักไป


            “นะ…นาย” โมเดลพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะหันมองรอบตัว หลายๆ คนที่ยืนมองอยู่ กำลังมองมาทางเขาด้วยแววตาตำหนิเล็กๆ ในใจคงกำลังคิดกันว่าเขาเป็นพวกควบคุมตัวเองไม่อยู่ แล้วก็อาละวาทมั่วไปหมด…ถึงขนาดต่อยคนที่เข้าไปห้าม


            “โอ้ย…” เสียงร้องโอดครวญของธนาทำให้หลายๆ คนละสายตาไปจากเขา ก่อนจะเดินเข้าไปพยุงธนาขึ้นมา อีกฝ่ายจ้องหน้าเขาอย่างเครียดแค้น ถ้าร่างกายพร้อมรบคงจะเดินเข้ามาเอาเรื่องเป็นแน่


 

            “ถอย! มีเรื่องอะไรกัน”


            เสียงเข้มดังขึ้นทำให้ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมอง โมเดลหน้าซีดลงเมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองกำลังเดินเข้ามา ดวงตาดุๆ ของคนเป็นพ่อกวาดมองทุกคน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ลูกชายตัวเอง


            “พ่อ คือ…”


            “ไปคุยกันที่ห้อง นายด้วยธนา ส่วนคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องก็กลับไปทำงาน” สั่งเสียงเข้มแล้วเดินแยกออกไป โมเดลยืนกัดปากอย่างคิดหนัก ก็รู้ว่าครั้งนี้เขาผิดเต็มๆ แต่ใครใช้ให้ไอ้เวรนั่นมันปากหมาเห่าไม่เลือกเองล่ะ


            “โมเดล…”


            “ไม่ต้องมายุ่งกับกู”


            จักรพรรดิเอ่ยเรียกโมเดล แต่อีกฝ่ายก็สวนกลับไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ขาเรียวก้าวเดินตามหลังคนเป็นพ่อ ส่วนธนาก็มีคนพยุงตามไป จักรพรรดิหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย…แต่ในใจเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง


            ภายในห้องทำงานของพ่อ โมเดลยืนก้มหน้านิ่ง รู้อยู่แล้วว่าเรียกเข้ามาในนี้ยังไงเขาก็ต้องโดนด่า แล้วจากสภาพ…ธนาเละกว่าเขาเยอะ แบบนี้ก็เห็นๆ กันอยู่แล้วว่าใครที่ต้องโดนเยอะกว่า


            “จะมีใครบอกได้มั้ยว่ามันเพราะอะไร”


            สิ้นคำถามทั้งเขาและธนาก็ต่างยืนเงียบกัน แน่นอน ไม่ว่าใครก็พูดความจริงไม่ออกหรอก ทางด้านธนาเองก็กลัว เพราะคนที่ด่ายังไงก็เป็นลูกชายเจ้าของ ส่วนโมเดล…เขาก็ไม่อยากจะบอกเหมือนกันว่าโดนด่ามาว่าอะไรบ้าง


            “ฉันไม่รู้ว่าพวกนายมีเรื่องอะไรกันนะ แต่ที่นี่คือที่ทำงาน ไม่ใช่เวทีมวย คิดว่าถูกแล้วเหรอมีเรื่องกันที่นี่น่ะ” โมเดลยืนฟัง แล้วก็เถียงพ่อตัวเองไปในใจด้วย ก็ถ้ามันไม่มาปากหมาที่นี่ เขาก็ไม่ทำอะไรมันหรอก


            “จะไม่มีใครพูดอะไรใช่มั้ย”


            “…”


            “โอเค ในเมื่อไม่มีใครพูดอะไร ฉันก็จะถือซะว่าผิดทั้งคู่ อย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก ไม่งั้นฉันคงต้องเชิญออก ไม่เว้นแม้กระทั่งเรานะโมเดล” สิ้นเสียงคนเป็นพ่อโมเดลก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที ในใจรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา


            “ธนา นายเองก็เป็นคนทำงานดี ฉันก็ไม่อยากจะเสียคนแบบนาย อย่าให้มีอีกล่ะ” ธนารับคำเสียงเบา พอขยับปากแผลที่แตกก็เล่นเอาเจ็บๆ แสบๆ เหมือนกัน


            “นายออกไปก่อน” ธนาก้มศีรษะลาก่อนจะเดินออกไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ โมเดลเบือนหน้าหนีจากพ่อ ก็รู้ว่าที่พ่อพูดมาน่ะมันก็สมควรแล้ว แต่มันก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ยังไงเขาก็ลูกนะ


            “เดล”


            “พ่อจะด่าอะไรผมอีกเหรอ”


            “เดล นี่แกรู้สึกผิดบ้างมั้ยเนี่ยที่ทำลงไป พ่อไม่รู้นะว่าแกมีเรื่องอะไรกัน แต่ที่นี่คือที่ทำงานนะเดล ต้องรู้จักห้ามอารมณ์ตัวเองบ้าง พ่อรู้ว่าแกอารมณ์ร้อน แต่อะไรเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยง” คนเป็นพ่อพูดอย่างอ่อนใจ และดูจากท่าทางของลูกชายแล้ว ตอนนี้คงไม่ยอมฟังอะไรแน่ๆ


            “ทำไมพ่อต้องมาดุผมด้วย ทำไมพ่อไม่ถามผมก่อนว่า…”


            “แล้วเมื่อกี้ที่ถามแกพูดอะไรมั้ย ก็ไม่ แล้วจะให้พ่อถามอะไรแกอีก”


            โมเดลงับปากตัวเองทันทีเมื่อพ่อสวนออกมาแบบนั้น มันใช่อย่างที่บอกพ่อ แต่ความน้อยใจที่มีอยู่ตอนนี้มันก็ทำให้เขาไม่ได้คิดอะไร มันรู้แค่ว่าตอนนี้กำลังโดนดุอยู่อย่างเดียว


            “เดล ถ้าไม่รู้จักหักห้ามตัวเอง แกก็ทำงานไม่ได้หรอก” ยิ่งโดนพูดใส่แบบนี้โมเดลยิ่งรู้สึกแย่ ไม่ทันได้คิดให้ดีๆ ว่าที่คนเป็นพ่อพูดนั้นคือกำลังสอนอยู่ ไม่ใช่กำลังดุ ดวงตาเรียวเริ่มคลอไปด้วยน้ำใสๆ เจ้าตัวพยายามกลั้นสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้มันไหลลงมา


            “เฮ้อ…ไปทำงานเถอะ อย่าให้มีเรื่องอะไรอีกล่ะ”


            จบคำโมเดลก็หมุนตัวเดินออกมาโดยไม่พูดอะไร มือเรียวกำแน่น โมโหจากธนามาแล้ว ยังต้องมาเจอพ่อพูดแบบนี้ใส่อีก มันอึดอัด มันอยากโวยวาย แต่มันก็ทำไม่ได้


            โมเดลเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงาน ข้างในทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง และที่เขาชะงักอยู่หน้าห้องก็เพราะไม่อยากจะเข้าไปเจอหน้าธนาตอนนี้ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะห้ามใจตัวเองได้มากแค่ไหน

 


            หมับ


            “เฮ้ย” โมเดลร้องออกมาเบาๆ อย่างตกใจเมื่อจู่ๆ แขนก็ถูกใครบางคนจับ พอหันไปมองก็ต้องขมวดคิ้วไม่พอใจ จักพรรดิไม่สนว่าอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไง เขาออกแรงดึงให้ร่างบางเดินตาม


            “มากับฉันมา”


            “จะไปไหน กูต้องทำงาน…”


            “อารมณ์แบบนี้นายทำงานไม่ได้หรอก” จักรพรรดิเอ่ยตอบกลับไปแล้วก็ยังไม่หยุดดึงอีกฝ่ายให้เดินตาม โมเดลก็ยื้อตัวเองไว้เต็มที่ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาจะสู้แรงจากไอ้บ้านี่ได้


            “เฮ้ย…”


            “เงียบน่า”


            “ตอนนี้กูไม่พร้อมที่จะด่าอะไรมึงหรอกนะ อย่าเพิ่งมายุ่งกับกู” โมเดลว่าอย่างเหลืออด แค่เรื่องที่เพิ่งจะโดนมามันก็ทำให้เขาไม่มีใจจะไปทำอะไรอย่างอื่นแล้ว ถ้าต้องมานั่งปวดหัวกับผู้ชายคนนี้อีก เห็นทีเขาจะได้เป็นบ้า


            “ก็เพราะฉันรู้ไงว่านายไม่โอเค นายถึงต้องมากับฉัน” จักรพรรดิหันมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ ทำเอาโมเดลหยุดฟังนิ่งๆ มองหน้าร่างหนาอย่างไม่เข้าใจ แต่เพราะแววตาจริงใจไม่มีทีท่าว่าจะกวนโมโหอย่างเช่นทุกครั้ง เขาเลยปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปง่ายๆ






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
งื้ออออ ไม่มีอีกหรอออออ
อ่านแล้วแค้นตามน้ำตาจะไหล :(

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ธนาน่าเกลียดมากๆ   คือในกมลสันดานนี่เลวจริงๆ  แต่ก็ยังดีกว่าคนอื่นที่อย่างน้อยก็ยังกล้าพอที่จะออกมาพูดใส่หน้า

ถ้าเราเป็นเดลนะ   เราจะไม่ทำต่อหรอกบริษัทพ่อนี่   เราจะออกไปหาทำงานที่อื่นที่เราเริ่มเหมือนคนอื่น   สร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับให้ได้

ความอิจฉานี่มันน่ารังเกียจจริงๆ   คือมันบดบังอะไรทุกอย่างไปหมด  แม้แต่ความจริง   ธนาไม่พอใจที่เดลได้รับการชม  เดลที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากตัวเอง จากคนอื่น   หัวหน้าและพ่อของเดลก็ถือว่าใช้ไม่ได้ที่มองไม่เห็นตรงนี้  สิ่งที่เดลเจอก็คือการ Mobbing จะบอกว่าเดลไม่ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรรมองค์กรก็ใช่   แต่วัฒนธรรมแบบนี้ที่มีแต่อคติ การกดดัน รังแกคนอื่น  ไม่สมควรเรียกว่าวัฒนธรรมที่ดีได้หรอก  ชมว่าธนาดี  แต่ไม่ได้มองเห็นปัญหาเลยว่าธนาทำอะไร?   เป็นเดลเองที่ผิดมั๊งที่เกิดมาต้นทุนดี  ธนาไม่ได้สังวรณ์เลยว่าวันหนึ่งเดลเข้ามารับช่วงต่อ   ตัวเองนั่นแหละที่จะอยุ่ยากเพราะว่าตัวเองตั้งแง่ไว้ตั้งแต่แรก   ท่าจะมีปมอยู่

จักรพรรดิก็รับผิดชอบไปแล้วกัน  มีปัญญาหรือเปล่า?  เพื่อความสะใจพอใจส่วนตัว พรรดิเลือกที่จะทำลายชีวิตคนๆหนึ่ง

เดลมีนิสัยที่ไม่ค่อยน่ารัก ใจร้อน  หุนหัน  ที่ดีที่สุดก็คือการไปเริ่มต้นจากที่ๆเดลไม่มีอะไรเกินหน้าคนอื่น เริ่มค้นเหมือนคนอื่น  เราว่าชีวิตเดลจะมีความสุขกว่านี้เยอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บ้านธนาอยู่ไหนจะตามไปกระทืบให้แทนเดล คนแบบนี้น่ารังเกียจมากตัวเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีอะไรดีไปกว่าเขายังจะมากระแนะกระแหนเขาอีก เดลเป็นลูกเจ้าของบริษัทก็หาว่าเป็นเด็กเส้นเห้ยคุณมึงคะบริษัทเป็นของเขาถ้าเขาไม่มาทำงานที่นี่แล้วจะไปทำที่ไหน
คิดไหมคะคิดเด็กมาฝึกงานคืออยากได้ความรู้ ถ้าทุกคนเริ่มจากที่ไม่มีอคติอะไรเลยเดลจะได้อะไรเยอะกว่านี้
ส่วนพ่อคะนั่นลูกเป็นเจ้าของที่ดีก็ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีด้วยลูกตัวเองน่าจะรู้นะว่าฟิลขาดขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ส่วนจักรพรรดิ์สะใจไหมที่ผลลัพทธ์มันเป็นแบบนี้สะใจไหมที่ต่อไปนี้เดลเหมือนจะเหลือตัวคนเดียว
กดดันน้องมากๆมันเหลือสองทางเลือกให้น้องนะไม่เตลิดหายไปเลย ก็เกลียดกันแบบกัดแบบไม่เผาผี
บางทีก็อยากให้โดนเหมือนกันนะถ้ามารู้ตัวเมื่อสายแล้วน้องมันเกลี่ยดถึงขั้นไม่ให้อภัยตอนนั้นจะทำยังไง
รีเควสช่วงน้องเอาคืนด้วยนะคะ ให้พรรดิมันโดนมากก็ดี อ่านตอนหลังๆแล้วอยากมุดคอมไปโอน้องเดลแล้วกระโดดถีบขาคู่ตาพรรดิกับกระทืบไอธนา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ธนาน่าเกลียดมากๆ   คือในกมลสันดานนี่เลวจริงๆ  แต่ก็ยังดีกว่าคนอื่นที่อย่างน้อยก็ยังกล้าพอที่จะออกมาพูดใส่หน้า

ถ้าเราเป็นเดลนะ   เราจะไม่ทำต่อหรอกบริษัทพ่อนี่   เราจะออกไปหาทำงานที่อื่นที่เราเริ่มเหมือนคนอื่น   สร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับให้ได้

ความอิจฉานี่มันน่ารังเกียจจริงๆ   คือมันบดบังอะไรทุกอย่างไปหมด  แม้แต่ความจริง   ธนาไม่พอใจที่เดลได้รับการชม  เดลที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากตัวเอง จากคนอื่น   หัวหน้าและพ่อของเดลก็ถือว่าใช้ไม่ได้ที่มองไม่เห็นตรงนี้  สิ่งที่เดลเจอก็คือการ Mobbing จะบอกว่าเดลไม่ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรรมองค์กรก็ใช่   แต่วัฒนธรรมแบบนี้ที่มีแต่อคติ การกดดัน รังแกคนอื่น  ไม่สมควรเรียกว่าวัฒนธรรมที่ดีได้หรอก  ชมว่าธนาดี  แต่ไม่ได้มองเห็นปัญหาเลยว่าธนาทำอะไร?   เป็นเดลเองที่ผิดมั๊งที่เกิดมาต้นทุนดี  ธนาไม่ได้สังวรณ์เลยว่าวันหนึ่งเดลเข้ามารับช่วงต่อ   ตัวเองนั่นแหละที่จะอยุ่ยากเพราะว่าตัวเองตั้งแง่ไว้ตั้งแต่แรก   ท่าจะมีปมอยู่

จักรพรรดิก็รับผิดชอบไปแล้วกัน  มีปัญญาหรือเปล่า?  เพื่อความสะใจพอใจส่วนตัว พรรดิเลือกที่จะทำลายชีวิตคนๆหนึ่ง

เดลมีนิสัยที่ไม่ค่อยน่ารัก ใจร้อน  หุนหัน  ที่ดีที่สุดก็คือการไปเริ่มต้นจากที่ๆเดลไม่มีอะไรเกินหน้าคนอื่น เริ่มค้นเหมือนคนอื่น  เราว่าชีวิตเดลจะมีความสุขกว่านี้เยอะ


อย่างกับนั่งอยู่กลางใจเรา
คิดเหมือนกันเลย

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
เดลนายทำดีแล้ว 55555

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ไม่ไหวอ่ะ พระเอกโรคจิตเกินไป สงสารเดล



เป็นเด็กใจร้อนก็ลำบากอยู่แล้ว มีคนจ้องหาเรื่องตลอดเวลาไม่เป็นบ้าไปก่อนเหรอ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เม้นท์ไปครึ่งนึงในเว็บโน้น อีกครึ่งมาต่อที่นี่
เรื่องการควบคุมอารมณ์ของเดลไม่มีอะไรดีขึ้น  คือถ้าไม่พัฒนาจุดนี้อนาคตไม่เจริญ แถมก็จะเป็นแค่ตัวตลกให้พระเอกมันแกล้งเล่นต่อไป
เดลเอ๊ยออกไปทำงานที่อื่นเหอะ ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วออกมาทำของตัวเองดีกว่า ภูมิใจกว่าด้วย ใครก็มาดูถูกไม่ได้

ส่วนอิพระเอก โคตรเกลียดที่มันยอมรับว่าพอใจที่เห็นเดลดูเลวดูแย่ในสายตาคนอื่น  ความคิดส่อสันดาน น้องไปทำอะไรให้ถึงวนเวียนมาทำลายชีวิตเขาขนาดนี้ เห็นมีแต่ตัวเองนั่นแหล่ะที่ข่มเหงเดลตลอด

ไอ้ความโกรธขนาดที่น๊อตหลุดกระหน่ำกระแทกกำปั้นใส่หน้า อยากให้เดลเอามาลงที่พรรดิมั่ง ทำไมกับพระเอกเดลตอบโต้ไรไม่ได้ซักอย่าง เป็นได้แค่ตัวตลกที่ดิ้นไปตามเกมประสาทของคนโรคจิต ...เพลีย

ออฟไลน์ SOO2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ค้าง.... ทำไมรู้สึกเหมือนตอนนี้มันยังไม่จบ 5555
ก็เข้าใจอารมณ์ของพวกธนากับโมเดลนะ แต่คือตอนนี้เริ่มไม่ค่อยชอบพรรดิ์ละ เหมือนพี่แกวางแผนอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เพื่อจะฮุบตัวโมเดลเลย 5555
ส่วนโมเดลก็ใจร่มๆหน่อยจ้าาา เลือดร้อนเกินไปก็ไม่ดีน้าา สู้ๆ

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สงสารเดล โกรดทั้งธนาและพระเอกมากๆ เจอแต่พวกดีแต่ปาก

ธนายังโดนน้อยไปต้องเจอเอาคืนให้เจ็บและอายคนอื่นๆด้วย

ส่วนพระเอกมันคงเกินคำว่าเกลียดไปแล้วแค่ความสะใจของตัวเอง

ทำลายชีวิตเดลได้เลือดเย็นจริงๆ เดลพ้นช่วงนี้ไปให้ได้นะ :hao5:

หลังจากนี้มันต้องมีวันของเราฝึกงานเสร็จเราจะทำอะไรที่ไหนก็ได้แล้ว

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ธนาก็สมควรโดนต่อยแล้วล่ะ  o18

ออฟไลน์ diszalove_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เราว่า จักพรรดิจะทำลายชีวิตโมเดลมากไปแล้วนะ
การที่เราทำให้คนหนึ่งคนถูกตัดสินไปว่าเป็นคนยังไง
มันเป็นอะไรที่ยากมากนะ ที่จะเปลี่ยนความคิดคนได้
เพราะเขามีอคติกับเราไปแล้ว เขาก็จะเลือกมองแต่ในด้านที่เขาต้องการ
โมเดล ใจร้อนเกิน ถึงเวลาต้องใส่หน้ากากแล้วล่ะ จะตอบโต้แบบไหนก็เลือกเอา
แต่ต้องไม่ใช่วิธีนี้ ไม่ใช่ตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน มันต้องแยบยลกว่านี้
ถ้าคิดจะสู้กับจักรพรรดิ โมเดลต้องใจเย็น สุขุม เข้าไว้ ถ้าจักรพรรดิเป็นคนใจเย็น
โมเดลต้องเย็นกว่า ใครจะพูดไรก็ปล่อยไป อย่าไปอารมณ์ขึ้นง่ายๆ
อย่าหวั่นไหวกับการกระทำของจักพรรดิ คนอย่างนี้น่ากลัวกว่าที่คิดไว้
ทำทุกอย่างต้องมีผลตอบแทน เราไม่ชอบเวลาโมเดลสับสนเลย
มันทำให้เราเหมือนคนเข้าใจผิดอ่ะ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แต่กลับได้รับความสนใจ
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ โดนทำอย่างไงบ้าง กลับไม่สนใจ ไม่จำ ทำเหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ทำไมตอนพ่อถามไม่พูด!!
เชื่อเลยว่าต้องมีคนพูดมัาวไปอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทุกคนรุมแต่โมเดลคนเดียว โดยเฉพาะคนเป็นพ่อ ไม่คิดถามอะไรเลยบ้างหรือ เหี้ยกันทั้งบริษัท นัองโมเดลอย่าทนอยู่อีกต่อไปเลย ลาออกและตัดพ่อตัดลูกซะ พ่อเลวไมฟังลูกไม่สมควรเป็นครอบครัวเดียวกันอีก!!!  :fire:

ออฟไลน์ Tequila

  • I am a follower KiHae.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เดลสู้ๆนะ เราเป็นกำลังใจให้  ตัวเราคิดว่ามันผิดทั้งสองฝ่านน้าคือธนาผิดที่ไปยั่วยุ แหนบแนม แต่ว่าถ้าเดลลดความใจร้อนลงอีกนิดมีสติขึ้นอีกนิดต่อให้มีสิบธนาร้อยจักรพรรดิก็ทำอะไรเดลไม่ได้หรอ ส่วนเรื่องนินทาอะไรเนี้ยที่เกิดขึ้นในบริษัทต่อให้ไปที่ไหนก็เจอเพราะมันเป็นเรื่องที่หยั่งรากเข้าไปในสังคมไทยแล้ว เราควรจะต้องปรับตัว แต่ตอนนี้เดลทำดีแล้วที่รู้จักไปปรับอารมณ์ข้างนอก :katai2-1:  :katai2-1:
ปล.สะใจอ่ะที่ธนาโดนต่อย สมควร :katai3: o18

ออฟไลน์ Ranmaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0




ตอนที่ 10



 

 

            โมเดลบอกตัวเองว่าคงเป็นเพราะอารมณ์ที่ยังไม่เย็นลงมันเลยทำให้เขายอมที่จะให้จักรพรรดิพาออกมาแบบง่ายดายโดยไม่ไม่พูดอะไรสักคำ นั่นก็เป็นเพราะโมเดลเหนื่อยที่จะต้องต่อปากต่อคำในตอนนี้


            ดวงตาเรียวมองออกไปนอกหน้าต่างในขณะที่รถติดไฟแดง ใบหน้าแม้จะเรียบเฉย แต่มือก็ยังคงกำแน่นอยู่ไม่เปลี่ยน นิสัยแย่ๆ ของเขาอีกอย่างหนึ่งก็คือถึงแม้ว่าจะพยายามสะบัดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นออกไปมากเท่าไหร่ เขากลับยิ่งนึกถึงมันมากเท่านั้น


            จักรพรรดิเหลือบมองคนที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่เขาพาออกมา แล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แบบที่อีกฝ่ายไม่มีทางรู้ เขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะไปถึงขั้นนี้


            แต่ก็ดี อะไรๆ มันก็เร็วขึ้น


            แต่ดูท่ากวางน้อยของเขาคงจะเสียศูนย์ไปมากทีเดียว เข้าไปในห้องของพ่อคงจะโดนมาไม่มากก็น้อย และจากที่รู้ โมเดลไม่ใช่เด็กที่จะเก็บอารมณ์อะไรได้ดีอยู่แล้ว ถ้าโดนว่ามาหน่อยไม่พ้นเถียงกลับไปแน่ๆ


 

            “โมเดล”


 

            เสียงเข้มเอ่ยเรียก แต่เจ้าของชื่อยังคงนั่งนิ่งเหมือนเดิม ราวกับว่าเสียงที่เรียกออกไปไม่อาจจะดึงโมเดลกลับมาจากความคิดได้เลย


            จักรพรรดิยักไหล่ ตอนนี้น่ะปล่อยให้นิ่งไปก่อน เพราะยังไงเขาก็มีเวลาทั้งวันอยู่แล้ว


            จักรพรรดิเลี้ยวรถเข้ามาในคอนโดของตนเอง ที่แห่งนี้เขาไม่ได้มาบ่อยนักหรอก ล่าสุดก็ตอนที่กวางน้อยแสนพยศของเขาไม่สบายนั่นแหละ


            แต่เห็นที คงได้มาบ่อยๆ แน่


            พอจอดรถเสร็จจักรพรรดิก็โคลงหัวหน่อยๆ ริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจที่โมเดลยอมลงจากรถแล้วเดินตามเขามาแบบว่าง่าย แต่พอมาถึงหน้าประตูนั่นแหละ กวางน้อยเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว ดวงตาเบิกกว้างขึ้น คิ้วสวยขมวดฉับจ้องหน้าเขาแบบไม่พอใจ


 

            “นี่มึง!! เหี้ยเอ้ย!” โมเดลสบถออกมาด้วยความหัวเสีย ขาเรียวหมุนกลับจะเดินหนี


            หมับ


            “ปล่อย!”


            “หึ! นายคิดว่ามาถึงหน้าห้องแบบนี้แล้วฉันจะยอมปล่อยนายกลับไปง่ายๆ งั้นเหรอ” จักรพรรดิรั้งแขนโมเดลเอาไว้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยท่าทีกวนอารมณ์ จากนั้นก็ลากร่างบางเข้ามาในห้อง ในแบบที่โมเดลพยายามยื้อตัวเองไว้สุดฤทธิ์


            “จักรพรรดิ กูไม่มีอารมณ์จะมาเถียงเหี้ยอะไรกับมึงหรอกนะ”


            “ใครว่าฉันจะเถียงกับนายกัน แบบนั้นมันไร้ประโยชน์ มีอะไรอย่างอื่น…ที่น่าทำกว่าเยอะ” โมเดลตัวยืนตัวสั่นเมื่อจักรพรรดิโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สัญญาณอันตรายกำลังร้องเตือนเขาอยู่


            ที่แห่งนี้คือพื้นที่ของจักรพรรดิ และเขาก็โง่เองที่ยอมตามมาแบบไม่ทันคิดอะไร


          รู้ตัวตอนนี้ก็ดูจะสายเกินไปแล้ว


            ภาพเหตุการณ์ในผับคืนนั้น แหละบนรถของร่างหนาฉายแวบเข้ามาในหัว พามาที่ห้องแบบนี้จะให้คิดเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไงล่ะ

 


            “กลัวเหรอ”


            “ไอ้เลว!”


            พลั่ก!!


            ต้องขอบคุณความโมโหที่ยังคงค้างอยู่ในใจ ทำให้เขาไม่ต้องบิ้วอารมณ์อะไรมาก โมเดลสะบัดมือจักรพรรดิหลุดออกไป ก่อนจะปล่อยหมัดใส่ใบหน้าหล่อๆ นั่นอีกครั้ง ไม่มีท่าทีระวังตัวจากร่างสูง ไม่มีท่าทีจะเอาคืน


            มือเรียวกระชากคอเสื้อร่างสูงเข้ามา แล้วซัดใบหน้าของจักรพรรดิไปอีกครั้ง ความโกรธทำให้ใบหน้าสวยแดงก่ำ จักรพรรดิเซถอยไปนิด แล้วก็ต้องชะงักเมื่อโมเดลหันไปคว้าหนังสือเล่มหนาแล้วขว้างใส่หน้าเขาเต็มแรง


            ปึก!!


            แว่นกรอบสวยที่ใส่อยู่ตกลงมาที่สันจมูก ความเจ็บที่ได้รับทำให้จักรพรรดิกำมือแน่น แววตาวาวโรจน์แบบที่โมเดลไม่มีทางได้เห็น มือหนายกขึ้นมาถอดแว่นตาของตัวเองแล้วโยนทิ้งไปด้านหลังแบบไม่ใส่ใจ


            โมเดลเห็นท่าทางที่ดูโกรธๆ นั่นก็ชะงักไปนิด แต่เพราะตัวเขาเองก็โมโหเหมือนกันจึงไม่สนใจอะไรมาก


            “เพราะมึง…เพราะมึงคนเดียว มึงมันเสแสร้ง ทำให้ทุกคนมองว่ามึงแม่งเป็นคนดี ส่วนเรื่องเหี้ยๆ ก็ตกมาอยู่ที่กูคนเดียว!” โมเดลตะคอกด้วยใบหน้าแดงก่ำ น้ำใสๆ คลอหน่วงขึ้นมาที่ดวงตาอีกครั้ง


            จักรพรรดิเสยผมตัวเองก่อนจะถอนหายใจ เด็กน้อยโมโหร้าย แน่นอนว่าแบบนี้ไม่ฟังอะไรอยู่แล้ว ริมฝีปากสวยแสยะยิ้มร้ายกาจ ขายาวก้าวเข้าไปใกล้


            “ฉันเหรอ? หึ ไม่หรอก นายน่ะ…ทำตัวเองทั้งนั้น”


            กึก


            “มึงว่าไงนะ!”


            “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่านิสัยของนายที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ะ มันแย่ และก็แย่มาก นายมันก็แค่เด็กไม่รู้จักโต” ขายาวขยับเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น โมเดลจ้องหน้าจักรพรรดิเขม็ง


            “เพราะนายควบคุมตัวเองไม่ได้เองหรือเปล่า เพราะนายมัวแต่เก็บคำพูดของคนพวกนั้นไปคิดเองไม่ใช่เหรอ แล้วนายก็หาทางแก้ตัวให้ตัวเอง ว่าตัวนายไม่ผิด โดยการโยนทุกอย่างมาให้ฉัน” โมเดลถอยหลังหนีคนที่เดินคุกคามเข้ามาจนแผ่นหลังชิดผนัง เขาเหลือบมองข้างตัวเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีทางให้ขยับหนีก็หันไปประชันหน้าสู้


 

            “แล้วมึงคิดว่าที่มึงทำอยู่นี่มันถูกแล้วหรือไง”


            “ฉันไม่เคยคิดว่าฉันทำอะไรผิด”


 

            คำตอบแสนร้ายกาจของจักรพรรดิทำให้โมเดลถึงกับเหวอไปชั่วขณะ ไม่เคยคิดว่าผิดงั้นเหรอ


            เฮอะ ก็งั้นมั้ง ก็ถ้ามีจิตสำนึกสักนิด คงไม่ทำให้เขากลายเป็นตัวร้ายอย่างเช่นทุกวันนี้


            “ฉันขอย้ำอีกครั้ง นายทำตัวนายเองทั้งนั้น ที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นั่นก็นาย ที่ปากไม่ดี นั่นก็นาย” ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามาใกล้ ปลายนิ้วอุ่นๆ ของร่างสูงเกลี่ยแผ่วเบาอยู่ที่กลีบปากบาง


            “นั่นไม่ใช่เพราะมึงเสแสร้งใส่ทุกคนก่อนเหรอ”


            “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ทุกอย่างที่นายเห็น…นั่นแหละคือนิสัยของฉัน”


            “เฮอะ!! ไร้สาระ”


            “แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้นายลืมเรื่องเมื่อกี้ไปได้ล่ะนะ” จักรพรรดิยักไหล่พูด โมเดลชะงักกึก จริงอย่างที่ร่างหนาพูด เขาลืมมันไปแวบหนึ่งเลย จะบอกว่าที่จักรพรรดิทำอยู่นี่เพื่อต้องการให้เขาลืมมัน เพื่อช่วยเขางั้นเหรอ


            ให้ตายก็ไม่อยากจะเชื่อ


            “แล้วมึงพากูมาที่นี่ทำไม”


            “หึ พามาปลอบใจล่ะมั้ง” จักรพรรดิกระตุกยิ้ม ผู้ชายที่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะเป็นชายผู้อ่อนโยน แต่ในขณะนี้กำลังเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจและกวนโมโหเขามากที่สุด!


            “เฮอะ! ด้วยการพูดกวนตีนกูแบบนี้อะนะ”


            “เปล่า ด้วยริมฝีปากของฉันต่างหาก” จบคำมือหนาก็เชยคางโมเดลขึ้นมาแล้วประกบริมฝีปากลงไป ร่างบางสะดุ้งเฮือกในทีแรก ก่อนจะเริ่มออกแรงดิ้น แต่ก็ไม่อาจพ้นอ้อมแขนแข็งแรงที่กอดรัดตัวเขาไว้ได้


            จักรพรรดิบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างแนบแน่น กอดรัดร่างของโมเดลจนแทบจะจมหายไปกับอกแกร่ง ปลายลิ้นตวัดเลียทั่วกลีบปาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปข้างในโพรงปากอุ่น


            “อื้อ” เสียงร้องครางแผ่วๆ ในลำคอทำให้จักรพรรดิลอบยิ้มในใจ ขายาวก้าวถอยหลังพร้อมกับดึงร่างบางไปด้วย


            ตุบ


            ทั้งคู่ทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวนุ่ม รั้งร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง โมเดลขมวดคิ้วฉับเมื่อรู้สึกว่าผู้ชายร้ายกาจคนนี้เริ่มจะเอาเปรียบเขามากเกินไปอีกแล้ว แต่เมื่อคิดแล้ว ขัดขืนไปก็เท่านั้น ยังไงเขาก็ไม่มีวันสู้แรงผู้ชายคนนี้ได้อยู่ดี


            ดวงตาเรียวปิดลงอย่างยอมรับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้วจักรพรรดิก็ถอนริมฝีปากออกไป ยิ้มมุมปากส่งมาให้ ก่อนที่จะส่งปลายนิ้วมาเกลี่ยเช็ดน้ำใสๆ วาววับที่ริมฝีปาก


            “ฉันบอกแล้วไง ว่าปลอบด้วยริมฝีปากของฉัน”


            “สัด”


            หมับ


            จักรพรรดิเมินเสียงด่านั่นแล้วดึงตัวโมเดลเข้าไปกอด มือหนาวางอยู่บนศีรษะเล็ก ก่อนจะลูบๆ แล้วจับปลายผมยาวๆ ของโมเดลเล่นอย่างเพลินมือ โมเดลจะลุกหนีก็ทำไม่ได้ เพราะจักรพรรดิไม่ยอมให้เขาได้ขยับตัวเลย


            “ฉันกอดนายแบบนี้แล้วรู้สึกยังไง”


            “อึดอัด แล้วก็รังเกียจ”


            “นายรังเกียจฉันจริงๆ น่ะเหรอ” โมเดลชะงักไปกับคำถาม เขามองไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเพราะถูกกอดเอาไว้แบบนี้ และเมื่อโดนถามมาแบบนี้ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน


            ร่างบางถอนหายใจ ฝังใบหน้าลงกับไหล่แกร่งอย่างคนหมดแรง ริมฝีปากยิ้มเยาะให้กับตัวเอง ตลกสิ้นดี คนที่ทำให้เขาเจอเรื่องแย่ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่ให้อ้อมกอดในตอนที่ไม่มีใครเข้าใจเขา


            “นายอาจจะเกลียดฉัน แต่รู้อะไรมั้ย”


            “อะไร”


            “ตอนที่รู้ว่านายมีเรื่อง ฉันเป็นห่วงนายจริงๆ นะ” แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่จักรพรรดิทำให้เขาเหวอแบบตั้งตัวไม่ทัน แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนๆ จะมาพูดอะไรแบบนี้ใส่ แต่เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจมันทำให้เขาหลงเชื่อไปมากกว่าครึ่ง


            และเพราะว่ากอดอยู่แบบนี้ โมเดลเลยไม่มีทางเห็นรอยยิ้มร้ายกาจของร่างหนาที่เผยออกมาเพียงแวบเดียว


 

            สักพักใหญ่ๆ เลยล่ะกว่าที่จักรพรรดิจะยอมปล่อยให้โมเดลเป็นอิสระ จากที่นั่งอยู่บนตักก็ขยับมานั่งข้างๆ แทน แล้วก็ยังไม่พ้นมือหนาที่วางพาดพนักพิงเหมือนกับโอบกอดเขากลายๆ


            “มีอะไรอยากจะพูดมั้ย” เสียงนุ่มทุ้มถามขึ้นหลังจากที่เงียบกันไปนาน


            “ไม่มี” โมเดลก็ยังคงเป็นโมเดล ถึงแม้ว่าตอนนี้จักรพรรดิจะแสดงท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้น ดูไม่อันตรายอย่างเช่นทุกที แต่ว่า…เพราะไม่ชอบขี้หน้า จะให้มาพูดกันดีๆ ก็คงจะทำได้ยาก


            “จริงๆ นายระบายกับฉันได้นะ”


            “เพื่อให้มึงเอาไปเสแสร้งให้ตัวเองดูเป็นคนดีอีกน่ะเหรอ ฝันไปเหอะ” กวางน้อยขู่ฟ่อๆ ซะแล้ว จักรพรรดิโคลงหัวเบาๆ ก่อนจะส่งมือไปจับปลายผมนุ่มๆ นั่นเล่นอีกครั้ง


            “หึๆ พูดได้ ฉันรับรองว่าฉันจะเป็นผู้ฟังที่ดี” เห็นท่าทีที่อ่อนลงมากของโมเดลจักรพรรดิก็ลอบยิ้มในใจ แต่เด็กน้อยก็ยังคงดื้อ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง แต่ก็ไม่ปัดมือเขาที่เล่นผมของตัวเองอยู่ออก


            “นายเกลียดธนาหรือเปล่า”


            “ตอนแรกกูก็ไม่ได้เกลียดหรอก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว” เหมือนว่าคำถามจะไปสะกิดโดนจุดเดือดอีกแล้ว โมเดลยังไงก็ละทิ้งจุดนี้ไปไม่ได้สินะ โมโหง่ายเหลือเกิน เพียงแค่เอ่ยถึงก็ดูหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว


            “นายเกลียดเขาได้ แต่นายแสดงออกไม่ได้หรอกนะ”


            “ทำไม!”


            “ถ้านายอยากจะโดนคนหาว่าเป็นเด็ก แยกแยะอะไรไม่ได้ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ นายก็ไม่ต้องฟังฉันหรอก แต่ถ้านายไม่อยาก นายต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้มากกว่านี้ นายโตแล้วนะเดล” โมเดลหน้าร้อนขึ้นมา เหมือนกับว่าเขากำลังโดนผู้ใหญ่ดุอยู่แบบนั้นเลย


            “เรื่องของกู”


            “เพราะนายมันดื้อแบบนี้ไง”


            “มึงจะไปรู้อะไร มันด่ากูว่าอะไรบ้างมึงรู้มั้ย เด็กเส้น! ทำเหี้ยอะไรไม่เป็น ข้ามหน้าข้ามตา แถมยัง!...” แล้วโมเดลก็หยุดพูดไปดื้อๆ ฟันสวยขบกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ถึงไม่พูดออกมาจักรพรรดิก็พอจะเดาได้


            “ฉันรู้ มันไม่โอเค”


            “โคตรไม่โอเคเลย! ทำไมวะ! งานกูก็ทำได้ แล้วกูก็จะทำให้มันดีด้วย ข้ามหน้าข้ามตาเหี้ยอะไร เพราะพวกมันไม่สนใจต่างหาก มึงคิดดูดิ! แล้วแบบนี้จะให้กูทนได้ยังไง” จักรพรรดิพยักหน้าเบาๆ ริมฝีปากก็ยิ้มขำไปด้วย


            นี่น่ะเหรอที่บอกว่าไม่มีอะไรจะพูด


            “นายก็เอาคืนสิ”


            กึก


            โมเดลหันมองคนข้างตัว เขาถึงขั้นต้องหรี่ตามองร่างหนา จู่ๆ ก็พูดอะไรออกมาแบบนี้ อย่างกับว่ากำลังแสดงด้านร้ายๆ ออกมาเลย


            “ยังไง”


            “เอาคืนด้วยงานของนาย ทำให้พวกนั้นเห็นว่านายก็ทำได้ แล้วทำมันได้ดีด้วย ใครจะพูดอะไรก็ปล่อยมันไป โมโหก็เก็บเอาไว้ แล้วทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น แล้วอีกอย่าง…ยังไงเขาก็เป็นรุ่นพี่ นายก็ควรเคารพเขาบ้าง ไม่ต้องมากมาย แต่ให้เขารู้ว่านายเองก็มีมารยาท”


            “นี่มึงจะด่ากูว่าไม่มีมารยาทเหรอ!” โมเดลปรี๊ดแตก กระชากคอเสื้อจักรพรรดิแล้วตะคอกถาม


            “ไอ้นิสัยแบบนี้นายก็ควรจะลดลงไปด้วย” ปลายนิ้วของจักรพรรดิแตะลงบนจมูกโด่งสวยของโมเดล


            “ฮึ่ย!”


            “เข้าใจมั้ย”


            “เออ!” โมเดลกลับมานั่งที่เดิม แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่อยู่กับไอ้บ้านี่ได้เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่มีเรื่องงานหรืออะไรที่จำเป็นเข้ามาเกี่ยวข้อง


            “ไม่ต้องห่วงว่างานจะออกมาไม่ดีหรอก ยังไงนายก็ยังมีฉัน” จักรพรรดิยักคิ้วข้างหนึ่งด้วยท่าทางเจ้าเสน่ห์ ถึงมันจะน่ามองมากแค่ไหนแต่โมเดลกลับรู้สึกว่ามันกวนอารมณ์มากกว่า


            “แม่งเอ้ย!” สบถเสียงดังก่อนจะผุดลุกขึ้น เดินหนีเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นเพื่อที่จะหาอะไรกิน แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะในตู้เย็นไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากน้ำเปล่า


            “ฉันไม่ค่อยได้มาที่นี่ ไม่มีอะไรให้นายกินหรอกนะ” จักรพรรดิเดินตามมาแล้วยืนพิงขอบประตู มองดูกวางน้อยที่หัวฟัดฟัวเหวี่ยงเมื่อไม่ได้ของที่ต้องการ


            “แล้วมึงจะพากูมาทำไม”


            “ต้องการให้ฉันย้ำอีกครั้งงั้นเหรอ” จักรพรรดิถามขึ้นพร้อมกับดวงตาคมที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ ร่างหนามองไล่ลงมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบาง โมเดลเผลอตัวสั่นไปกับแววตานั่น


            “งั้นกูกลับ”


            หมับ


            “เดี๋ยวสิ หิวไม่ใช่เหรอ”


            เขาล่ะสงสัย ว่ามีใครที่เอาแต่ใจชอบบังคับแบบจักรพรรดิอีกมั้ยในโลกนี้ วันนี้คิดอยากจะลากเขาไปไหนก็ลากแบบไม่ถามความสมัครใจก่อนเลย และในตอนนี้ จักรพรรดิก็พาเขามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง


            “พากูมาทำไม”


            “ถ้านายใช้สมองนายก็น่าจะคิดได้ว่าที่นี่คือร้านอาหาร” จักรพรรดิปลายตามองคนข้างตัวแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน โมเดลยืนกำมือแน่น เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังเป็นผู้ชายอบอุ่นดูเป็นผู้ใหญ่คอยให้กำลังใจเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้ไอ้ผู้ชายปากหมาที่มีคำพูดเจ็บแสบมันกลับมาอีกแล้ว


            ร่างสูงหันกลับมามอง ใช้สายตาสื่อให้รับรู้ว่าถ้าไม่เดินตามเข้าไป รับรองได้ว่าจะได้เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์แน่ๆ


            เข้ามานั่งในร้านก็เป็นอีกครั้งที่จักรพรรดิแสดงความเอาแต่ใจ นั่นคือการสั่งอาหารโดยไม่ถามเขาสักหน่อย และพอเขาจะสั่งของตัวเองบ้างจักรพรรดิก็ชิงบอกตัวหน้าว่าเอาเท่านี้


            “มึงจะกวนประสาทกูไปถึงไหน”


            “ฉันพานายมากินข้าว” ร่างหนายักไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ


            “เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามึงกวนตีนกู”


            “มีใครเคยบอกมั้ยว่านายน่ะพูดมากและก็น่ารำคาญมากด้วย ช่วยเงียบปากสักพักคงไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกมั้ง” โมเดลแทบอยากจะคว่ำโต๊ะใส่ ไอ้บ้าตรงหน้าเขานี่ตกลงมันมีกี่นิสัย มีกี่บุคลิกกันแน่ เขาจะได้ตามมันได้ถูก


            “ว่าแต่…นายไม่ได้โดนพ่อดุอะไรมากใช่มั้ย”


            คนหน้าสวยถอนหายใจ จักรพรรดิวนกลับเข้ามาเรื่องนี้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะอารมณ์เย็นลงแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่อยากจะพูดถึงมันอยู่ดี ทำเหมือนว่าหนี แต่ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเจอ ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี


            “จริงๆ พ่อกูเขาไม่ได้ด่าอะไรหรอก กูโมโหไม่ฟังอะไรเอง”


            “หึ! ก็คิดได้เหมือนกันนี่” จักรพรรดิกระตุกยิ้มมุมปาก สาบานได้ว่าถ้าไม่ได้นั่งอยู่ในร้านที่มีคนเยอะๆ แบบนี้เขาจะฟาดหน้าหล่อๆ นั่นสักที


            “สัด!”


            “อารมณ์ร้อนตลอดเวลาไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” จักรพรรดิเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกมองมา พอถูกร่างหนามองแบบที่เจ้าตัวไม่ได้ใส่แว่นแล้วมันก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ เพราะปกติจักรพรรดิจะใส่แว่นตลอดเวลาที่เจอกัน


            ยกเว้น…ตอนทำแบบนั้นล่ะนะ


            “แล้วมึงไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ที่ต้องคอยปั้นหน้าเป็นคนดีแบบนี้” โมเดลได้ทีก็กอดอกด้วยท่าทางเดียวกันแล้วถามกลับไป แต่แทนที่จะทำให้จักรพรรดิรู้สึกขุ่นเคือง เขากลับยิ้มแบบไม่คิดอะไรออกมา


            “ฉันเคยบอกนายไปแล้วไง ว่าทุกอย่างที่นายเห็น นั่นแหละคือนิสัยของฉัน ฉันไม่ได้แกล้งทำ”


            “อ๋อ จะบอกว่าเลวแบบนี้อยู่แล้วสินะ”


            “จิตใจของนายทำด้วยอะไร ถึงได้คิดแต่ว่าคนนู้นคนนี้เลวไปซะหมดแบบนี้” จบคำโมเดลก็ผุดลุกขึ้น เขาทนนั่งอยู่กับไอ้ปากหมานี่ต่อไม่ได้แล้ว ไม่อย่างงั้นเขาได้ระเบิดกลางร้านแน่ๆ


            “นั่งลงโมเดล ยังไม่ได้กินข้าวเลย” จักรพรรดิเองก็ดูสนุกสนานกับการที่ได้แกล้งกวางน้อย


            “มึง…”


            “จะหงุดหงิดไปทำไม อย่างน้อยๆ มื้อนี้ฉันก็เลี้ยงนาย” พูดจบแล้วก็ยักคิ้ว


            โมเดลกระแทกตัวนั่งลง จ้องหน้าอีกฝ่ายแบบเครียดแค้น เฮอะ! กวนตีน!!




ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อ่านแล้วหงุดหงิดแทนเลย
รู้สึกอารมณ์เสีย55555
 
รอตอนต่อไปนะ : )

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
จักรพรรดินี่ยังไง กวนไปกวนมาอยู่ได้

รอตอนต่อไปปปป :mew1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เป็นวิธีดัดสันดานเด็กดื้ออารมณ์ร้อนในแบบของเฮียพรรดิซินะ
สอนด้วยประสบการณ์ตรง ให้โดนรุมเร้าไล่ต้อน เอาให้จนตรอก แล้วก็ลูบหัวปลอบแถมตบด้วยถ้ายังดื้อยังเถียงไม่เลิก

พรรดิมันจะกวนตีนเสแสร้งสองหน้าอะไรก็เอาเหอะ แต่อยากให้เดลใจเย็นกว่านี้ เป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์อยู่ในสังคมไม่ว่าใครก็ต้องใส่หัวโขนทั้งนั้น  อ่านแล้วมันจะสนุกกว่านี้ถ้าพระนายรู้ทันกัน ไม่วิ่งเต้นไปตามเกม ข่มกันไม่ลง

สะใจเล็กๆกับหมัดที่เหวี่ยงไปกระแทกหน้าเฮียค่ะน้องเดล ปรบมือรัวๆ แล้วก็อย่าไหลตามไปกับการจู่โจมเล้าโลมของพรรดินัก เพราะเขาจะว่าได้ว่าเรา"ง่าย" จะเอาที่ไหนเมื่อไหรก็ได้
ปล. เรียกเดลว่ากวางน้อย เราแอบคิดไปถึงพวกเพจพ่อบ้านใจกล้า  คิดตามแล้วมันไม่ใช่อ่ะ 555

ออฟไลน์ Tequila

  • I am a follower KiHae.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นวิธีดัดสันดานเด็กดื้ออารมณ์ร้อนในแบบของเฮียพรรดิซินะ
สอนด้วยประสบการณ์ตรง ให้โดนรุมเร้าไล่ต้อน เอาให้จนตรอก แล้วก็ลูบหัวปลอบแถมตบด้วยถ้ายังดื้อยังเถียงไม่เลิก

พรรดิมันจะกวนตีนเสแสร้งสองหน้าอะไรก็เอาเหอะ แต่อยากให้เดลใจเย็นกว่านี้ เป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์อยู่ในสังคมไม่ว่าใครก็ต้องใส่หัวโขนทั้งนั้น  อ่านแล้วมันจะสนุกกว่านี้ถ้าพระนายรู้ทันกัน ไม่วิ่งเต้นไปตามเกม ข่มกันไม่ลง

สะใจเล็กๆกับหมัดที่เหวี่ยงไปกระแทกหน้าเฮียค่ะน้องเดล ปรบมือรัวๆ แล้วก็อย่าไหลตามไปกับการจู่โจมเล้าโลมของพรรดินัก เพราะเขาจะว่าได้ว่าเรา"ง่าย" จะเอาที่ไหนเมื่อไหรก็ได้
ปล. เรียกเดลว่ากวางน้อย เราแอบคิดไปถึงพวกเพจพ่อบ้านใจกล้า  คิดตามแล้วมันไม่ใช่อ่ะ 555

คิดเหมือกันเลย เพจพ่อบ้านใจกล้า  :m20: :m20:

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ขอตอนต่อไปเลยได้มั้ยยย  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากจ้ารอตอนต่อไปน๊า  :hao7:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
หืมมมม สรุปว่าจักพรรดิ ดีหรือไม่ดีอะ คิดร้ายอะไรกับเดลรึป่าว สงสารเดลนะ ไม่ได้ทำไรผิดเลยยย แค่อามรมณ์ร้อน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด