ในที่สุดภารกิจการงานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยซักทีครับ(ที่หายไปนี่เคลียร์งานเรื่องเรียนนะยังไม่โดนระเบิดตาย)

ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าจะได้มาเล่าเรื่องต่อเมื่อไหร่..
แล้วพอกลับมาจะยังมีคนรออยู่มั้ย..แต่พอเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกดีจริงๆ
ย้ำอีกรอบว่ารู้สึกดีจริงๆและขอบคุณมากครับที่ยังคิดถึงกันเสมอ 
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
.
.
วันรุ่งขึ้นตื่นมาตอนเช้าไอ้ต่อก็ออกไปข้างนอกแล้วแต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเลยเพราะเชื่อไปตามเหตุผลที่มันบอกเมื่อวานก็อาบน้ำแต่งตัวลงมากินข้าวแล้วออกไปส่งงานที่มหาลัยฯ
.
กว่าจะไปถึงมหาลัยฯก็เกือบๆเที่ยงส่งงานอะไรเรียบร้อยบังเอิญเจอไอ้เต้กับไอ้แหม่มพอดี(มาส่งงานเหมือนกัน)เลยโดนลากไปหาอะไรกินมื้อกลางวันที่มาบุญครอง(กรูเพิ่งฟาดข้าวเช้ามาเนี่ย - -*)พอก้นแตะเก้าอี้สั่งอาหารเรียบร้อยก็โดนยิงคำถามทันที
.
"พ่อคุณของแกไม่มาด้วยเหรอปกติเห็นตามต้อยๆๆนี่" ดูไอ้แหม่มมันถาม
"ไม่มาอ่ะมันไปทำธุระให้พ่อ" ตอบมันไป
"แน่ใจเหรอเมิง..ไม่ใช่ว่ามันแอบไปกับกิ๊กที่ไหนเหรอ" ดู..คำพูดเพื่อนแต่ละคน..
"ช่างมันดิ๊..จะไปกับใครก็ไปเหอะ" ปากดีไปงั้นแหละในใจก็กลัวๆเหมือนกัน..
.
พออาหารมาก็นั่งกินไปคุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อยๆไอ้เรื่องที่กังวลๆเมื่อครู่ก็ค่อยๆละลายหายไปช้าๆจนลืมไปแล้วอยู่ๆไอ้เต้ก็ถามขึ้นมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
.
"ทำไมเมิงกับไอ้ต่อถึงคบกันแบบนั้นได้วะ" นิสัยพูดตรงๆถามตรงๆมันก็ดีหรอกนะแต่บางทีมันก็เล่นคนฟังสะอึกได้เหมือนกัน
"เออนั่นสิชั้นก็ไม่เคยถามพวกแกเลย.." เสริมกันดีจริง..
"ไม่มีอะไรมากนี่ก็..ก็.." จะให้ตอบยังไงล่ะบอกตามตรงก็ละอายแก่ใจยังไงไม่รู้
.
ยิ่งเราอึกๆอักๆมันยิ่งเงียบกดดัน(นิสัย!)วินาทีนั้นอึดอัดมากอยากจะวิ่งออกไปตะโกนหน้าร้านว่า"ปล่อยกรูไปเห้อออออ~!!"แต่ก็เท่านั้นเพราะยังไงพวกมันก็ไม่เลิกจนกว่าจะได้คำตอบอยู่ดี
.
"ก็..ไม่มีอะไรนี่นาผู้หญิงผู้ชายเค้าจีบกันยังไงมันก็แบบนั้นแหละ" แถๆไปก่อน
"เหอะ..ไม่เชื่อตอนแรกเห็นเกลียดกันจะเป็นจะตาย" ความจำดีนักน๊ะ!
"ไม่รู้เว้ย..ไปห้องน้ำก่อนนะ.." ชิ่งหนีไปซะกลับมาหวังว่าคงหายบ้ากันแล้วนะ
.
ออกจากห้องน้ำมาก็เลยเดินไปซื้อยาร้านที่อยู่ใกล้ๆด้วยเลยจะได้ไม่ต้องเดินมาอีกตอนที่กำลังรอให้เภสัชจัดยาตามใบสั่งแพทย์อยู่ก็มองดูคนเดินผ่านไปมาเรื่อยเปื่อยไปจนเห็นหลังใครบางคนท่าทางคุ้นๆเดินหายเข้าไปในซอกแต่จะวิ่งตามไปก็ไม่ได้เพราะรอยาอยู่พอจ่ายเงินอะไรเสร็จรีบตามไปดูก็ไม่เจอใครแล้ว(ใครจะไปอยู่รอเอ็งล่ะ)เลยเดินกลับไปหาไอ้เต้กับแหม่มที่ร้านพอเดินเข้าไปปุ๊ปยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมันรีบมาฉุดดึงลงนั่งจนเกือบหัวทิ่ม
.
"นี่เมิง..เมิงบอกว่าไอ้ต่อไปธุระให้พ่อใช่มั้ย" ไอ้เต้ถามทันที
"เออสิทำไมเหรอ" คือลางสังหรณ์มันก็บอกน่ะนะว่าต้องมีอะไรบวกกับไอ้ที่เพิ่งเห็นแว่บๆมาเมื่อกี้อีก
"เมื่อกี้ตอนแกไปห้องน้ำชั้นกับเต้เห็นต่อมันเดินไปกับใครก็ไม่รู้" ได้ยินแล้วก็ใจเต้นแรงนิดๆ
"จำคนผิดรึเปล่า..มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก" ปลอบตัวเองด้วยนะเนี่ย..
"ไม่ผิดชัวร์พอมันหันมาเห็นพวกกรูมันก็รีบเดินหลบหายไปเลย" ย้ำทันที..ไอ้เรื่องที่จะเออออตามเพื่อนนี่ไม่มีหรอก..
.
หลังจากนั้นตลอดช่วงเวลาที่นั่งอยู่ในร้านพวกมันสองตัวก็คุยกันแต่เรื่องนี้วิเคราะห์กันไปต่างๆนาๆชนิดที่ว่าออกรสออกชาดมากจนลืมเห็นหัวเจ้าทุกข์ที่นั่งหัวโด่อยู่เลยจนมารู้สึกตัวอีกทีตอนมันเห็นเราตาแดงๆถึงได้ยอมเลิกพูดกันไปได้ไอ้แหม่มรีบปลอบทันที(หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลัง)
.
"เฮ้ย..อย่าคิดมากสิแกมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้" แล้วเมิงมาบอกอะไรป่านนี้..(เหมือนดากานดามั้ย)
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วทำไมมันต้องหลบล่ะ" คือนี่คิดในแง่ร้ายไปแล้วไง
"มันอาจจะไม่ได้หลบก็ได้พวกกรูอาจจะคิดไปเอง" ตอนแรกกรูก็เชื่อแบบนั้นน่ะนะพวกเมิงน่ะแหละพูดซะจนกรูคิดในแง่ดีไม่ออกเลย
.
สุดท้ายพวกมันเลยอาสาจะเลี้ยงหนังเผื่อว่าอารมณ์จะดีขึ้นตัวเราก็ไม่อยากจะกลับบ้านไปตอนนี้เพราะขืนกลับไปอยู่คนเดียวมีหวังฟุ้งซ่านคิดมากเกินกว่าเหตุแน่ๆพอขึ้นนไปถึงชั้นโรงหนังกำลังจะเดินไปซื้อตั๋วคราวนี้เจอจังๆหน้าห้องน้ำเลยไอ้ต่อกำลังยืนรอใครบางคนอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำเราก็ยืนจ้องมันเขม็งเลยอารมณ์ตอนนั้นคือไม่อยากเชื่อมากกว่าไม่คิดว่ามันจะโกหกยังภาวนาในใจนะให้มันมีเหตุผลที่ดีพอมาอธิบายเช่นมาแวะซื้อของเดี๋ยวจะไปอะไรแบบนั้นแต่พอมันหันมาตาสบตามองเห็นกันเท่านั้นแหละทำหน้าตกใจมากแล้วตั้งท่าจะเดินหนีแต่เสียใจไม่ปล่อยให้รอดหรอกแทบจะกระโดดไปคว้าตัวเอาไว้พร้อมกับลากไปตรงที่ๆปลอดคนโดยมีไอ้เต้กับไอ้แหม่มตามมาติดๆ
.
"ไหนว่าไปธุระให้พ่อ.." เปิดฉากการเฉ่งทันที
"...." เงียบไม่มีคำอธิบาย
.
ไอ้แหม่มตั้งท่าจะพูดอะไรแต่เราโบกมือห้ามเอาไว้ขอเคลียร์เองมันเลยเงียบไปแล้วนั่งดูอยู่ห่างๆกับไอ้เต้
.
"แล้วมาทำอะไรที่นี่เนี่ย" ไม่ตอบกรูก็จะถาม
"แล้วเมิงล่ะมาทำอะไรที่นี่" แน๊ะ..มันย้อน
"ส่งงานที่มหาลัยฯแล้วเลยแวะมากินข้าว..จะดูหนังด้วย" กรูตอบแล้วนะ..
"ทำไมไม่กลับบ้านล่ะไหนว่าจะไม่ไปไหนไงวันนี้" ดูมันพยายามโวยเรากลับ..อย่ามาเบี่ยงประเด็น
"กลับจะได้มาเห็นเหรอว่ามีคนโกหกน่ะ"
.
ยังไม่ทันจะได้ชำระสะสางกันให้เสร็จสิ้นดีเสียงโทรศัพท์ไอ้ต่อก็ดังขึ้นอีกมันรีบรับอย่างรวดเร็วแล้วทำท่าจะเดินไปคุยที่อื่นแต่เราดึงเสื้อเอาไว้มันก็เลยหยุดยืนคุยตรงนั้นคุยอยู่ไม่นานก็วางสายไปก็เลยถามย้ำคำถามเดิมไปอีกด้วยอารมณ์เกือบจะหมดความอดทนอยู่รอมร่อละ
.
"แล้วมากับใครไอ้เต้กับไอ้แหม่มมันเห็นอยู่"
"โน่นไง.." ตอบแล้วพยักเพยิดให้หันไปมองด้านหลัง
.
พอหันกลับไปก็เจอคนที่คุยกับมันเมื่อวานที่มหาลัยฯผู้ชายอายุน่าจะเท่าๆกันมาในชุดที่เกือบจะเหมือนเดิมคือเสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนท์แต่ที่เด่นสะดุดตามากที่สุดก็คงจะเป็นแว่นกันแดดสีดำที่ขนาดอยู่ในห้างยังไม่ยอมถอดำแดนมาเห็นเราก็ยิ้มให้แต่ในอารมณ์นั้นไม่มีกะจิตกะใจจะยิ้มตอบหรอกก็มองหน้ากลับไปเขาก็หน้าเจื่อนๆไปนิดแล้วก็หันไปถามไอ้ต่อ
.
"นี่เหรอคนที่บอกน่ะต่อ"
"อืมนี่แหละ..ผิดจากที่พูดให้ฟังมั้ยล่ะ" แกแอบไปคุยอะไรกันมา
"ดีแล้วแหละ..แบบแกเจอแบบนี้ก็คงดี" แบบไหนไม่ทราบ - -*
.
ปล่อยให้เรายืนงงอยู่พักใหญ่ไอ้ต่อถึงเพิ่งจะอธิบายให้ฟังอย่างนึกขึ้นได้
.
"เนี่ยเพื่อนกรูตอนเรียนมัธยมชื่อเอสมันเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลีย"
.
ไอ้ต่อพูดแค่นั้นเอสก็สะกิดให้หยุดเป็นนัยๆว่าจะอธิบายต่อเองโดยเริ่มจากการถอดแว่นตาดำออก
.
"ก็อย่างที่ต่อบอกน่ะเรารู้จักกันมาตั้งแต่ม.ปลายแล้วสนิทกันมากเรียกว่าซี้เลยแหละแล้วพอจบม.6ก็แยกย้ายกันไปเราก็เลยห่างๆไปพอมีโอกาสกลับมาเลยอยากจะเจอมันซักหน่อยเมื่อวานก็ไปหามันที่มหาลัยฯว่าจะชวนออกมาดูหนังกินข้าวคุยตามเรื่องแต่เค้าบอกว่าต้องรอนายก็เลยเปลี่ยนเป็นวันนี้แทน.." อธิบายซะยาว
"แล้วทำไมไม่บอกกันตรงๆล่ะ" หันไปถามไอ้ต่อที่ยืนยิ้มอยู่
"ก็เป็นซะแบบนี้อ่ะ..บอกไปจะเชื่อหรือไงว่าแค่เพื่อน" ชั้นผิดใช่มั้ย..
.
หันไปหาเพื่อนรักทั้งสองที่นั่งอยู่เมื่อครู่กะจะเฉ่งที่เป่าหูยุแยงตะแคงรั่วสารพัดก็หนีหายกันไปหมดแล้วหลังจากนั้นวันนั้นทั้งวันก็เลยไปกับไอ้ต่อแล้วก็เอสทั้งวันจนเรียกว่าสนิทกันไปเลยแล้วก็ถึงได้รู้ว่าที่ต้องใส่แว่นกันแดดตลอดเวลาเพราะตาของเค้าแพ้แสงอย่างมากทั้งจากหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือแสงอาทิตย์ถ้าสว่างจ้ามากๆน้ำตาจะไหลไม่หยุดและเคืองมากพอดูหนังเสร็จก็ดึกมากแล้วตอนจะแยกกันกลับก็เลยเดินไปส่งเค้าขึ้นแท๊กซี่
.
"แล้วจะอยู่ที่ไทยอีกกี่วันล่ะ" ก็ถามไป
"พรุ่งนี้ค่ำๆก็บินกลับแล้ว.." มิน่าล่ะไอ้ต่อถึงต้องมาวันนี้ให้ได้
.
พอหันไปมองก็เห็นไอ้ต่อยืนอยู่ห่างๆออกไปรถแท๊กซี่มาพอดีก็เลยส่งขึ้นรถไปจังหวะที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออกกระจกหน้าต่างก็เปิดเอสยื่นหน้าออกมาและกวักมือเรียกเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้
.
"มีอะไรเหรอ.." ทำไมไม่เรียกเพื่อนนายล่ะ - -*
"ฝากดูแลเพื่อนเราด้วยนะ..อย่าให้เค้าเสียใจล่ะ"
"อืม..ครับ" หน้าแดงเลย..บ้าที่สุด..
.
เสียงแตรรถคันหลังบีบไล่ทำให้แท๊กซี่คันของเอสต้องรีบเคลื่อนตัวออกไปพอรถออกไปแล้วก็เลยเดินกลับไปหาไอ้ต่อที่ยืนเต๊ะจุ๊ยอยู่
.
"กลับยัง.." มันถาม
"อืม.." พูดอะไรไม่ออกรุ้สึกแย่ที่ไปสงสัยอะไรมันแบบนั้น
"เป็นอะไรอีกล่ะทำหน้าแบบนั้น" มันถามเสียงเป็นห่วง (ยิ่งรู้สึกแย่ไปใหญ่เลย)
"กรูขอโทษนะที่คิดสงสัยอะไรแบบนั้น" ผิดก็ต้องยอมรับผิด
"ไม่เป็นไรหรอก..อารมณ์คนหึงน่ะกรูเข้าใจ" ได้ทีนะเมิง..
"ใครหึงเมิงไม่ทราบ"
"ไม่หึงเหรอ..ก็ด๊าย..ไม่หึงก็ไม่หึง" มันไซโคสุดชีวิต "งั้นกรูก็เปลี่ยนคำพูด..กรูโกรธมึงน่ะที่เมิงไม่ไว้ใจกรู"
"ไม่ใช่ว่ากรูไม่ไว้ใจนะแต่เห็นแบบนั้นน่ะ.." พยายามบีบน้ำตาทำไมมันไม่ออกไม่รู้ "จะให้กรูทำไงล่ะขอโทษก็ขอโทษแล้ว.."
"เมิงพูดดิ..ว่าที่ทำไปเพราะหึงกรู.." หนอย..
"ไม่.." ไม่พูดซะอย่าง
"โอเค๊..จะได้รู้ไว้ว่าคนเราน่ะมันไม่เคยให้ใจกันเลย.." ดู..ดูมัน
"โอ้ย.." ปวดหัวตุ๊บๆ "ถ้าไม่ให้ใจจะยอมอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืนงี้เหรอวะ.."
.
ไอ้ต่อทำเป็นไม่ได้ยินที่พูดแล้วเดินนำลิ่วๆไปเราก็รีบเดินตามสุดๆเหมือนเด็กที่โดนทิ้งน่ะ(เข้าข้างตัวเองให้ดูน่ารักนิดนึง)บทมันจะใจแข็งขึ้นมาก็ใจแข็งได้ดีจริงๆไม่หันมามองไม่สนใจเลยสุดท้ายเลยกลั้นใจพูดไป
.
"เออ..กรูหึงเมิง.."
"หือ..บ่นอะไรอ่ะไม่ได้ยินเลย" ชิ...ได้ทีขี่แพะไล่
"กรูเหิงเมิงงงง..~!" ก้มหน้าพูดแล้วลากเสียงย้ำๆ
"ดังๆ.." สั่งเป็นเจ้านายเลย
"กรูหึงเมิง..ได้ยินมั้ย..หึงมากด้วยคิดมากจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย..ได้ยินรึยังพอใจรึยัง !" หลับหูหลับตาตะโกนออกไปเลย
.
โชคช่วยที่ไม่มีใครอยู่ตรงที่กำลังเดินแต่ถึงยังไงพอตะโกนออกไปแล้วมันก็อายอยู่ดีถึงกับไม่กล้าเงยขึ้นมามองหน้าไอ้ต่อเลยได้แต่ก้มนิ่งอยู่อย่างนั้นซักครู่หนึ่งก็เดินมาหยุดตรงหน้าแล้วเอามือลูบผมอย่างที่เคยทำทุกที
.
"กรูก็แค่อยากให้เมิงพูดให้ฟังมั่งเท่านั้นแหละว่ารู้สึกยังไง..ไม่ใช่มีอะไรก็คิดไปคนเดียว" มันพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบ
"ก็เมิงทำอะไรชอบไม่บอกนี่..ไม่ให้กรูคิดได้ยังไง" รู้สึกเหมือนจะร้องให้แฮะ
"ครับ..ต่อไปจะบอกหมดเลยแต่พลาดก็ต้องบอกต่อหมดทุกอย่างเหมือนกันรู้มั้ย" มาทำเสียงนุ่มนิ่มเรียกชื่อแทนตัวฟังแล้วจั๊กจี้ยังไงไม่รู้..
"อืม.." พยักหน้าหงึกหงัก "แล้วก็ไม่ต้องมาครับ..จั๊กจี้หู"
.
ไอ้ต่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วก็เดินกอดคอฮัมเพลงๆเดิมที่มันเคยฮัมทุกครั้งจนขึ้นรถกลับมาถึงบ้านก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยบอกมันไป
.
"นี่งานน่ะยังไม่ส่งไม่ใช่รึไง..ไฟล์น่ะมีอยู่นะเอาไปดัดแปลงเอา" ว่าแล้วก็กดเปิดคอม
"เก็บไว้ในไหนอ่ะไฟล์.." ถามแล้วก็กระโดดลงไปเกลือกกลิ้งบนเตียง..น้ำก็ยังไม่อาบเสื้อผ้าก็ยังไม่เปลี่ยน
"ไดรฟ์ซีมายด๊อกหาเอาชื่อไฟล์ตั้งเป็นชื่อเมิงไว้น่ะ" นี่ขนาดงานมันเองนะเนี่ย - -"
"แล้วความรักของเราเธอเก็บเอาไว้ตรงไหน.."
.
ยืนจ้องหน้าไอ้ต่อไว้อาลัยมุขสามสิบวินาทีแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างเงียบเชียบ...
.
.
เดี๋ยวจะมาต่อให้เน้อ
