[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me  (อ่าน 3541 ครั้ง)

ออฟไลน์ frodo_slave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ frodo_slave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #1 เมื่อ24-09-2015 01:00:40 »

เพิ่งจะเคยลงเรื่องสั้นที่นี่เป็นครั้งแรก ยังไงขอฝากตัวด้วยนะคะ >_<

เรื่องนี้เกิดขึ้นจากความบ้าดาราจีนของเรานั่นเอง หากมีอะไรติดๆ ขัดๆ ไปบ้างต้องขอคำชี้แนะด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

............................................................................


You caught me


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการลาพักร้อน แสงแดดตอนบ่ายจัดจ้าเสียจนคนชอบอยู่กลางแจ้งอย่างจางฉียังรู้สึกรำคาญเหงื่อที่ไหลย้อยเป็นสายลงมาตามขมับ ถึงอย่างนั้นเขายังคงยกกล้องในมือ กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ เมื่อพบอะไรน่าสนใจ ชายหาดตอนบ่ายของวันหยุดเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ชนิดที่ถ่ายภาพไปก็ต้องคอยระวังไปไม่ให้เหยียบใครสักคนเข้าตามทาง กระนั้นเขายังเผลอชนคนนั้นคนนี้เข้าบ้างจนได้


ปกติแล้วจางฉีชอบถ่ายภาพทิวทัศน์ที่ปราศจากสิ่งมีชีวิต หรือหากมีบ้างก็มักจะเป็นสัตว์ใหญ่สัตว์น้อยซึ่งมีวิถีเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมนั้นๆ แต่ผู้คนล้นหลามบนชายหาดเวลานี้ก็ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกัน คือเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอย่างแยกไม่ออก ทำเอาเขาอดหยิบกล้องที่พกติดตัวเป็นประจำขึ้นมาบันทึกภาพไม่ได้


ทรายเปียกถูกอัดเข้าไปในแบบพิมพ์และเคาะออกมาเป็นรูปทรงกำแพงเมือง เรียงต่อกันรายล้อมปราสาททรายกองย่อม มือเล็กๆ ของเด็กชายง่วนอยู่กับการโกยทรายเข้าไปในแบบพลาสติกครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีมืออีกคู่ของคนที่น่าจะเป็นพ่อคอยจัดเรียงส่วนต่างๆ ประกอบกันขึ้นเป็นทรงปราสาทสวยงาม


ทีแรกเขาไม่ทันได้สนใจกิจกรรมของพ่อลูกคู่นั้น แต่หลังจากถ่ายรูปผู้คนไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสังเกตเห็นสายตาหลายคู่ที่มองไปยังจุดเดียวกัน ด้วยความสงสัย จางฉีเลื่อนโฟกัสไปยังปลายสายตาเหล่านั้น จนพบกับเด็กชายในชุดกางเกงว่ายน้ำขาสั้น นั่งก่อปราสาททรายร่วมกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง


เด็กชายนั่งอยู่ในตำแหน่งหันหลัง ขณะที่ชายอีกคนนั่งหันข้างให้กล้องของเขา มันเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปตามชายหาด แต่นอกจากปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่ทำให้เขาสนใจแล้ว ลายเส้นโค้งมนบนรูปหน้าด้านข้างของฝ่ายพ่อยังดึงดูดสายตา จนเผลอรัวชัตเตอร์กล้องในมือไม่รู้ตัว


หมวกสีขาวปกคลุมส่วนศีรษะทั้งหมด ในขณะที่แว่นตากรอบใหญ่ทำให้มองเห็นดวงตาจากด้านข้างไม่ถนัด ทว่าเค้าโครงน่าประทับใจของใบหน้า ผิวเนียนสีน้ำตาลไม่ขาวจัดเหมือนคนจีนทั่วไปกระตุ้นความสนใจ ทำให้จางฉีอยากเห็นใบหน้าเจ้าตัวชัดๆ ประกอบกับท่าทีของคนที่ผ่านไปมาและวิธีการแต่งกายเหมือนไม่อยากให้ใครสนใจแต่กลับกลายเป็นจุดเด่นเมื่ออยู่ในสถานที่เช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก ไม่แน่ว่าฝ่ายนั้นอาจเป็นคนดังมาจากไหนก็ได้ เพียงแต่ปกติเขามักจะถ่ายรูปอยู่ตามป่าตามดง เลยตามข่าวสังคมกับใครเขาไม่ค่อยจะทัน


ดวงหน้าสีน้ำตาลหันมาพูดคุยกับเด็กชายเป็นระยะ จางฉีอาศัยช่วงเวลานั้นเก็บภาพในหน้าที่ตนใคร่อยากเห็นนักหนาเอาไว้ จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากสีเข้มตามสีผิวคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม แนวขอบปากเด่นชัด ทั้งรอยหยักของริมฝีปากบน และมุมปากหยักยกน้อยๆ ทำให้ดูเหมือนคนอมยิ้มตลอดเวลา ทว่าสิ่งโดดเด่นที่สุดบนดวงหน้าใบนั้นคือดวงตาสีน้ำตาลเข้ม แฝงความลุ่มลึกและแววโศกซึ้ง แน่ละ เวลานี้ชายหนุ่มดูมีความสุขอย่างไม่ต้องสงสัย มีก็เพียงดวงตาคู่สวยเท่านั้นที่ฉายร่องรอยความเศร้าสร้อยออกมา ไม่รู้ว่าคนคนนี้เคยผ่านชีวิตมาอย่างไรบ้าง หรืออาจเป็นเพียงธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา แต่มันก็ทำให้เขาอยากค้นหา และรู้จักเจ้าของนัยน์ตาคู่นี้อย่างบอกไม่ถูก


อยากมองให้ใกล้กว่านี้ อยากเห็นให้ชัดกว่านี้ อยากเก็บภาพไว้ด้วยสายตาตัวเองโดยไม่ผ่านตัวกรองใดๆ


ความคิดเมื่อผุดขึ้นมาจางฉีก็สาวเท้าใกล้คนทั้งคู่เข้าไปเรื่อยๆ ปลายนิ้วยังคงกดชัตเตอร์ไม่หยุด จนเข้าใกล้ในระยะที่อีกฝ่ายรู้ตัว เขาก็ได้สบกับนัยน์ตาคู่ที่ดึงดูดให้ตนเข้าหาโดยตรง ชายหนุ่มลดกล้องลงอย่างตกใจ ประสานสายตาเข้าให้อย่างจัง ฝ่ายนั้นไม่หลบเลี่ยง เขาเองก็ละสายตาไปไม่ได้ ยังดีที่เจ้าของดวงตาคู่นั้นไม่ได้แสดงอาการขุ่นเคืองไม่พอใจอย่างไร เพียงแต่มองเขานิ่งๆ ไม่บ่งบอกความรู้สึก แต่นั่นกลับยิ่งทำให้จางฉีถูกตรึงติดกับดวงตาคู่สวย กล้องในมือลดระดับลงมาห้อยอยู่ข้างตัว ยืนนิ่งซึมซับภาพจำของชายคนนั้นด้วยสายตา


ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่สักพัก จนกระทั่งอีกฝ่ายหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เขาถึงรู้ตัวว่าตนเองเสียกิริยาไปมากแล้ว ตากล้องหนุ่มผงกศีรษะเป็นเชิงขอโทษ ก้าวถอยหลังไปอย่างประหม่า แล้วก็พลาดเหยียบเครื่องมือตักทรายของเด็กเล่นด้านหลังเข้าให้ เท้าลื่นพรืด ร่างสูงใหญ่ทรงตัวไม่อยู่ หงายหลังผลึ่ง ล้มก้นกระแทกพื้นทราย เฉียดร่างหนูน้อยแถวนั้นไปเพียงนิดเดียว


เสียงด่าทอของคนเป็นแม่ประสานกับเสียงเด็กร้องไห้ตกใจดังขึ้นด้านข้าง


ก่อนจะเบนสายตามายังคู่กรณี จางฉีทันได้เห็นรอยยิ้มบนมุมปากของชายคนนั้นขณะมองมายังเขาด้วยแววตาขบขัน แล้วเจ้าตัวก็หันกลับไปหาลูกชายโดยไม่สนใจเขาอีก ส่วนตัวเขาก็ต้องรีบหันกลับมาขอโทษขอโพยสองแม่ลูกโทษฐานเดินไม่ระวัง ทำให้ตกใจและยังอาจทำให้หนูน้อยเป็นอันตรายด้วย


หลังจากโดนด่าจนหูชา ในที่สุดจางฉีก็หลุดจากตรงนั้นมาได้ เขาหันกลับไปมองสองพ่อลูกตามที่ใจคิด ทั้งคู่ยังนั่งอยู่ที่เดิม สายตาสนใจใคร่รู้ของคนรอบข้างก็ยังมองมาเป็นระยะเช่นเดิม แต่หนึ่งพ่อหนึ่งลูกเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว ทำกิจกรรมของตนไปโดยไม่สนใจใคร จนกระทั่งชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาแจ้งอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มคนนั้นพยักหน้า เก็บของเล่นทั้งหลายรวบใส่ถุง ลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือลูกชายจากไปโดยมีชายหญิงทั้งสองเดินขนาบไปด้วยกันข้างละคน


จางฉีมองส่งตามร่างคนทั้งสี่ไปจนลับตา เส้นสายในชุดสีขาวดูเล็กบาง สมส่วนอย่างที่คำนวณไว้แต่แรก แม้กระทั่งแผ่นหลังของชายคนนั้นก็ยังแฝงไว้ด้วยความเหงาและเศร้าสร้อย เขาเป็นใครกันนะ จากวันนี้ไปจะมีโอกาสได้เห็นดวงตาโศกๆ คู่นั้นอีกหรือเปล่า


..............................


โชคชะตานำพาความสมหวังมาส่งเร็วกว่าที่คิด


เที่ยงวันจันทร์ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สะพายกระเป๋ากล้องใบโต เดินดุ่มๆ ผลักประตูออฟฟิศสำนักพิมพ์นิตยสารชื่อดังเข้าไปโดยแรง ขายาวสาวพรวดๆ ผ่านโต๊ะพนักงานหลายคนที่หันมาทักทายอย่างคุ้นเคย ตรงดิ่งไปยังห้องหัวหน้ากองบรรณาธิการโดยไม่เสียเวลาทักตอบ


“เจ้านาย ผมเป็นตากล้องนิตยสารท่องเที่ยวนะครับ ไม่ใช่ตากล้องข่าวซุบซิบดารา!”


เขาโวยวายทันทีหลังเคาะประตูตามมารยาทสองสามทีแล้วเปิดพรวดเข้าไป กระแทกมือข้างหนึ่งลงกับโต๊ะ และเกือบจะกระแทกกระเป๋าบุนวมที่สะพายมาลงไปแล้วด้วย ถ้าไม่ทันนึกออกเสียก่อนว่ามันคือกระเป๋าเครื่องมือทำมาหากินที่กว่าจะเก็บหอมรอมริบซื้อมาได้ก็เล่นเอาเลือดตาแทบกระเด็น


“เอาน่า เอาน่า ฉันแค่ให้นายไปถ่ายรูปเฉยๆ เอง ก็มันไม่มีใครแล้วนี่นา ส่วนเรื่องข่าวน่ะปล่อยให้สาวๆ เขาทำไป”


เจ้านายของเขาเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุคบนโต๊ะ โบกไม้โบกมือเหมือนไม่รับฟังคำโต้แย้ง แถมทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่โทรฯ ไปจิกเขามาจากการทำงาน ก่อนเดินไปชะโงกหน้าผ่านประตูห้อง ตะโกนเรียกหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่งเข้ามา


“ฉันจะให้อิ๋งอิ๋งไปกับนายด้วย จะได้คอยบอกนายว่าใครเป็นใคร ถือว่าช่วยสำนักพิมพ์เราให้มีข่าวหน่อยก็แล้วกัน ตากล้องที่ฉันจะส่งไปดันปวดท้องขึ้นมากะทันหัน ไม่รู้ดันไปกินอะไรผิดสำแดงเข้า ตากล้องคนอื่นๆ ก็ออกไปทำข่าวกันหมดแล้ว เหลือแต่นายนี่แหละที่ไว้ใจได้ที่สุด งานนี้เป็นงานประกาศรางวัลใหญ่ประจำปีเลยนะ ฉันไม่อยากใช้พวกหน้าใหม่หรือพวกเด็กฝึกงาน ถ้าเป็นนายล่ะก็ ฉันมั่นใจว่าต้องได้ภาพสวยๆ ช่วยเพิ่มยอดขายให้นิตยสารของเราได้แน่ๆ”


ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ ถึงอย่างนั้นจางฉีก็ทำได้แค่อ้าปากค้าง ถ้อยคำที่คิดจะคัดค้านตกไปตั้งแต่คำว่า ‘ฉันไว้ใจนายที่สุด’ แล้ว บก.เติ้งเป็นคนที่ให้โอกาสตากล้องหน้าใหม่อย่างเขาได้เข้ามาทำงานในสายการท่องเที่ยว ทั้งยังผลักดันให้เขาก้าวหน้า สามารถเบียดเสียดขึ้นมาพอมีชื่อเสียงบ้างในทำเนียบนักถ่ายภาพด้านวิวทิวทัศน์อย่างเช่นทุกวันนี้


เสียงถอนหายใจดังเฮ้ออย่างปลงๆ แทนคำตอบตกลงอย่างจำยอม ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเป็นคนประเภทมีบุญคุณต้องทดแทน อย่าว่าแต่เรื่องถ่ายรูปมันก็เป็นอาชีพของเขาอยู่แล้ว งานนี้ลำบากแค่เพียงยกมือ เพียงแต่เขาไม่ค่อยชอบสถานที่ที่มีคนมากมายไปแออัดกันอยู่เท่าไร โดยเฉพาะคนเหล่านั้นดันเป็นพวกเรื่องมากน่ารำคาญอย่างบรรดาเซเลป ไฮโซทั้งหลายด้วยนี่สิ


หลังจากตกลงรับงาน อิ๋งอิ๋งลากจางฉีมานั่งลงตรงโต๊ะว่างตัวหนึ่ง แบกกองนิตยสารตั้งใหญ่มาวางตึงลงบนโต๊ะพลางพลิกไปทีละหน้าพร้อมไล่เรียงรายชื่อไปทีละคน


“คนนี้กำลังมาแรงเลยล่ะพี่ฉี แต่มีข่าวลือไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนตัวฉันว่าเธอดูแอ๊บแบ๊วไปหน่อย”


นักข่าวสาวประจำแผนกบันเทิงบรรยายชื่อ สรรพคุณและความเห็นส่วนตัวที่มีต่อดาราแต่ละคนคร่าวๆ ขณะที่คนฟังได้แต่นั่งเท้าคางมองผ่านอย่างไม่สนใจนัก เขามีหน้าที่ถ่ายรูปอย่างเดียว แค่เห็นใครหน้าตาดีพอมีราศีเป็นดาราหรือไฮโซก็ถ่ายๆ รูปไปเท่านั้นพอ คงไม่ต้องมานั่งจำหน้าว่าใครเป็นใครหรอก


แต่แล้วความคิดพลันประหวัดไปถึงคู่พ่อลูกที่ชายหาด ว่าไปแล้วคนคนนั้นก็หน้าตาดีพอจะเป็นดารากับเขาได้เหมือนกัน แม้ไม่ใช่หน้าตาพิมพ์นิยมอย่างที่ชอบกันทุกวันนี้ แต่ก็จัดว่ามีรูปลักษณ์โดดเด่นไม่น้อย หรืออย่างน้อยที่สุดน่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงในวงสังคมบ้าง เห็นได้จากการเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง ว่าแต่เขาจะมางานอย่างนี้ไหมนะ


อาการกระตือรือร้นสนใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จางฉีนั่งตัวตรง ดูรูปภาพในนิตยสารที่ถูกพลิกไปทีละใบๆ จนกระทั่ง


ปั่บ!


มือข้างหนึ่งตะปบลงบนภาพขาวดำในหน้านิตยสารที่อิ๋งอิ๋งเพิ่งเปิดผ่าน มันเป็นภาพสีขาวดำเต็มใบ ตรงกลางเป็นร่างของชายในชุดสีขาวคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้ เอียงหน้าด้านข้างให้กล้อง สายตาทอดมองไกลออกไป แนวโค้งมนของหน้าผากและสันจมูกบ่งบอกว่าเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มบนหาดทรายคนนั้นไม่ผิดแน่ ทั้งยังแผ่นหลังที่ดูเปลี่ยวเหงา เปราะบาง แต่ยังคงความแข็งแกร่งแบบชายหนุ่มเต็มวัยที่มากด้วยประสบการณ์ชีวิต ยิ่งยืนยันความทรงจำของเขา


“คนนี้ใครน่ะ”


“อะไรของพี่เนี่ย รูปสาวๆ สวยๆ มีตั้งเยอะไม่สนใจ ดันมาสนใจผู้ชายเนี่ยนะ” คนถูกถามบ่นอย่างงงๆ ก่อนตอบ “คนนี้ชื่อเฉินจิ้งหลิน ปีนี้ได้เข้าชิงบทสมทบด้วย ว่าแต่เค้าดังมาตั้งนานแล้วนะ พี่ไม่เคยดูหนังของเขาสักเรื่องเลยเหรอ”


“ไม่รู้สิ ถึงดูก็คงจำไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ อย่าว่าแต่จำได้เลย ทีวีเขาแทบไม่ได้เปิดดู โรงหนังก็ไม่ได้เข้ามาเนิ่นนานจนลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายดูเรื่องอะไร แล้วจะเอาอะไรที่ไหนไปจดจำว่าใครเป็นใครบ้าง แต่ใบหน้าแบบนี้เชื่อว่าถ้าได้เห็นสักครั้งเขาคงจำไม่ลืมแน่


“มิน่า บก.เติ้งถึงสั่งให้เอานิตยสารดาราพวกนี้มาให้พี่ดู คนไม่สนใจโลกแบบนี้ก็มีด้วย”


จางฉียิ้มเฝื่อนให้กับประโยคค่อนขอด ก่อนคว้านิตยสารทั้งตั้งนั้นมาพลางลุกขึ้นยืน “ฉันขอยืมไปก่อนนะ ช่วยส่งเมสเสจบอกสถานที่กับเวลามาให้ด้วย แล้วไปเจอกันที่งานเลย”


“อ้าว เฮ้ย พี่ไม่ไปด้วยกันเหรอ” หญิงสาวตะโกนถามตามร่างสูงที่เดินลิ่วๆ ไปพร้อมกับหอบหนังสือปึกใหญ่


“ฉันยังมีงานค้างอยู่นิดหน่อย โทษที ไว้เจอกันที่งานเลยแล้วกัน”


ประโยคสุดท้ายกล่าวโดยไม่เหลียวหลัง ก่อนลับร่างออกประตูไป


............................



ออฟไลน์ frodo_slave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #2 เมื่อ24-09-2015 01:05:33 »

(ต่อค่ะ)


จางฉีไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ก็ไม่เคยประหม่าหรือปฏิเสธการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เขาแค่เลือกอยู่ในที่ที่ตัวเองสบายใจเท่านั้น แต่สำหรับวันนี้จางฉีกลับตื่นเต้นเป็นพิเศษ


หลังกลับถึงที่พัก เขาตั้งหน้าตั้งตาค้นหาข้อมูลของผู้ชายชื่อเฉินจิ้งหลินเท่าที่พอจะหาได้ ตามด้วยการเลือกเฟ้นเสื้อผ้าที่คิดว่าน่าจะดูดีและเหมาะกับงานประเภทนี้ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเป็นแค่ตากล้องตัวแทนนิตยสารฉบับหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนขึ้นไปรับรางวัลเสียหน่อย และต่อให้ได้พบกับเฉินจิ้งหลินแล้วยังไง อีกฝ่ายจะจำเขาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สุดท้ายจางฉีจึงลงเอยด้วยเสื้อยืดสีขาว สูทหลวมๆ ตัวหนึ่งและกางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบ


สถานที่จัดงานเป็นฮอล์ขนาดใหญ่ที่มีไว้สำหรับงานประเภทนี้โดยเฉพาะ ชายหนุ่มมาถึงงานไล่เลี่ยกับอิ๋งอิ๋ง และถูกลากมายืนอยู่หลังเส้นกั้นนอกพรมแดง เหล่าดารา คนดังในวงสังคมเริ่มทยอยกันมาให้ถ่ายรูปเรื่อยๆ จนแทบไม่ได้พักมือ หญิงชายหลายคนในอาภรณ์หรูหราเดินผ่านมาโพสต์ท่า ยิ้มให้กล้อง แล้วก็เดินจากไปคนแล้วคนเล่า


ตากล้องหนุ่มถ่ายภาพตามคำบอกของเพื่อนร่วมงานภายใต้การรอคอยอย่างอดทน และแล้วโชคชะตาที่เขาเฝ้ารอก็มาถึง


“นั่นไง เฉินจิ้งหลินมาแล้ว” อิ๋งอิ๋งหันมากระตุกแขนเสื้อ ดูเหมือนเธอจะจำได้แม่นว่าเขาให้ความสนใจผู้ชายคนนี้มากกว่าดาราคนอื่นๆ


วันนี้เจ้าของร่างเล็กบางที่เคยเห็นบนชายหาด มาในชุดทักซิโดผ้าไหมสีดำขนาดสมส่วนพอดีตัว ผมที่เคยต้องลมยาวเรี่ยแก้มถูกเสยไปด้านหลัง จัดแต่งเป็นทรงเรียบกริบไม่มีกระดิก ต่างหูเพชรข้างซ้ายสะท้อนไฟแฟลชวิบวับ พร้อมรอยหยักยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปาก ส่งผลให้รูปลักษณ์โดยรวมดูเรียบหรูเป็นทางการ แต่ก็ให้ความรู้สึกกรุ้มกริ่มขี้เล่นอยู่ในที


เฉินจิ้งหลินเดินช้าๆ โบกมือให้ตากล้องพร้อมหยุดยืนเป็นระยะมาตามทาง จะด้วยความบังเอิญหรือจงใจไม่มีใครรู้ ดาราหนุ่มรูปสวยดูจะหยุดยืนด้านหน้าเขานานเป็นพิเศษ แม้ไม่หันมองมาทางกล้องเขาเลยสักครั้งก็ตาม


ตากล้องหลายคนรวมทั้งแฟนคลับจำนวนหนึ่งกรูกันเข้ามา โชคยังดีที่จางฉีตัวสูงกว่าคนทั่วไปอยู่สักหน่อยเลยไม่โดนบดบังหน้ากล้องไป แต่เขาก็ถ่ายรูปได้ไม่นานนักก่อนจะลดกล้องลงมาแล้วมองด้วยตาเปล่าเหมือนอย่างที่อยากทำ จังหวะเดียวกันนั้นเอง หนุ่มร่างเล็กก็เบือนสายตาจากกล้องตัวอื่นมาทางนี้พอดี นัยน์ตาคู่โศกนั้นมีแววยั่วเย้าและมุมปากยกเป็นรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะหันเดินช้าๆ ไปตามพรมแดงต่อ


จางฉีกะพริบตาปริบ คนคนนั้นจำเขาได้อย่างนั้นหรือ?


ขณะจะก้าวเดินตามไป แขนเสื้อก็โดนกระตุกอีกครั้ง


“พี่ฉี ถ่ายรูปคนนั้นไว้ด้วย นั่นตัวเต็งรางวัลดารานำฝ่ายหญิงเลย”


ชายหนุ่มหันมองตามเฉินจิ้งหลินไปเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างเสียดาย ก่อนยกกล้องขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ


กว่าขบวนคนดังจะเดินผ่านพรมแดงเสร็จกินเวลาไปร่วมสองชั่วโมง หลังจากช่วงพรมแดง จางฉีกับอิ๋งอิ๋งถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่สำหรับสื่อ ซึ่งยกพื้นสูงกว่าส่วนที่นักแสดงและคนดังทั้งหลายนั่งอยู่ตรงกลาง


ฮอล์หลังนี้สร้างเป็นรูปวงรีคล้ายสนามกีฬา พื้นที่ตรงกลางและเวทีใช้สำหรับจัดงาน โดยส่วนรอบนอกยกพื้นสูงขึ้น มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับถ่ายทอดสดรวมทั้งเป็นที่ทางสำหรับสื่อหัวต่างๆ จางฉีกับอิ๋งอิ๋งก็ถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่นี้ด้วย


การประกาศรางวัลเริ่มต้นและดำเนินไปอย่างเรียบร้อย คั่นสลับกับการแสดงชุดต่างๆ เฉินจิ้งหลินมีชื่อเข้าชิงด้วยหนึ่งรางวัล แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย หลังการประกาศรางวัลมีการจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ซึ่งบรรดานักข่าวทั้งหลายจะได้มีโอกาสพูดคุย สัมภาษณ์นักแสดงทั้งที่ได้รับรางวัลและพลาดรางวัลก็ตอนนี้เอง


จางฉีเดินตามอิ๋งอิ๋งไปสัมภาษณ์ดาราคนนั้นคนนี้จนเกือบทั่วงานพร้อมสอดส่ายสายตาหาคนที่อยากเจอ แต่ก็ดูเหมือนจะคลาดกันได้ตลอด จนสุดท้ายอิ๋งอิ๋งทนเห็นเขาชะเง้อชะแง้คอมองไม่ไหว บวกกับรูปที่ได้ก็มากเกินต้องการแล้วจึงไล่ให้ไปหาอะไรรองท้องก่อน หลังจากเธอสัมภาษณ์ครบคนที่ต้องการแล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกัน


อาหารง่ายๆ แบบงานเลี้ยงค็อกเทลไม่ช่วยให้อยู่ท้อง มีแต่แชมเปญชั้นดีที่ดื่มได้ไม่อั้น น่าเสียดายที่จางฉีไม่เคยชอบรสชาติของแอลกอฮอล์เลยหยิบอาหารเบาๆ แค่สองสามชิ้นใส่ปากพอประทัง ก่อนกลับขึ้นไปยังพื้นที่สื่อซึ่งมีระดับพื้นสูงกว่า ล้วงเลนส์ซูมกระบอกใหญ่ออกมาจากกระเป๋าสอดส่ายไปทั่วงาน


มุมหนึ่งของงานเลี้ยง ภาพเฉินจิ้งหลินปรากฎขึ้นในช่องมองภาพ กำลังจิบแชมเปญพลางสนทนากับกลุ่มคนดังทั้งหลาย คราวนี้จางฉีไม่ได้รีบร้อนกดชัตเตอร์เหมือนอย่างเคย แต่ค่อยๆ ละเอียดชมดูไปเรื่อยๆ จนได้จังหวะที่ต้องการถึงจะกดชัตเตอร์สักครั้งหนึ่ง ตั้งใจว่าภาพเหล่านี้จะเก็บเอาไว้เองส่วนตัว ไม่ส่งให้อิ๋งอิ๋งนำไปลงข่าว


สักพักคนถูกมองดูจะเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย เหลียวมองไปรอบตัวอย่างสงสัย จางฉีรีบลดกล้องลง นึกถึงครั้งแรกที่พบกันบนชายหาด ผู้ชายคนนี้ท่าทางจะประสาทสัมผัสไวน่าดู ทั้งที่คนเป็นดาราน่าจะคุ้นเคยกับการถูกจับจ้องจนแทบชินชาไปแล้ว หรือเพราะเขาแฝงความรู้สึกแปลกๆ ลงไปในการมองแต่ละครั้งกันนะ คิดแล้วจางฉีก็หน้าแดง จนถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยด้วยซ้ำว่าทำไมภาพของดาราชายคนนี้ถึงติดตานัก ทำไมถึงละสายตาไปไม่ได้ แล้วที่มาคอยตามถ่ายภาพ ตามเฝ้าดูอยู่อย่างนี้มันคืออะไรกันแน่


ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นอีกครั้ง เป้าหมายของเขายังอยู่ที่เดิม กำลังยกแชมเปญขึ้นจิบ แต่เพียงขอบแก้วแตะริมฝีปากเจ้าตัวก็ชะงักค้าง ลดมือลงแล้วหันควับมาทางนี้อย่างกะทันหัน


คลิก


“เฮ้ย!”


เสียงกดชัตเตอร์กับเสียงอุทานตกใจดังขึ้นแทบเป็นเสียงเดียวกัน จางฉีเกือบทำกล้องพร้อมเลนส์ราคาแพงแสนแพงหลุดมือตกพื้น ยังดีที่ปฏิกิริยาไวใช้มือซ้ายจับกระบอกเลนส์ไว้ได้ทัน


เขามองไปยังทิศทางเดิม ภาพไกลๆ แสดงให้เห็นว่าเฉินจิ้งหลินหันกลับไปอีกทางแล้ว ด้วยขนาดของฮอล์และระยะห่างระหว่างพวกเขา เชื่อว่าฝ่ายนั้นไม่มีทางเห็นชัดว่าเขาเป็นใคร อย่างมากก็จดจำลักษณะกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้เท่านั้น แต่คนอย่างเขาน่ะหรือ ทั้งไม่มีอะไรให้น่าจดจำ ทั้งไม่เคยรู้จักกันเป็นส่วนตัว แล้วจะเอาอะไรที่ไหนให้คนระดับเฉินจิ้งหลินมาจำได้ หนำซ้ำยังทำตัวเหมือนพวกโรคจิตคอยตามสตอล์คไอดอลเสียอีก คิดแล้วพาลรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


เลนส์กระบอกใหญ่ถูกถอดออกจากตัวกล้องเก็บเข้ากระเป๋า จางฉีเก็บข้าวของ รู้สึกหมดอารมณ์จะอยู่ตรงนี้ต่อจึงส่งเมสเสจบอกอิ๋งอิ๋งไปว่า ข้างในอึดอัดจะออกไปรออยู่ด้านนอกข้างๆ ฮอล์ เสร็จงานเมื่อไหร่เธอค่อยตามออกไป


ร่างสูงเดินออกมาด้านนอก ทรุดนั่งลงบนขอบฟุตบาท ถัดไปไม่ไกลมีที่นั่งสำหรับสูบบุหรี่ แต่ด้วยความไม่ถูกกับกลิ่นควันเขาเลยเลือกนั่งห่างออกมาเล็กน้อย  กล้องในกระเป๋าถูกล้วงออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเปิดเช็คภาพคร่าวๆ ไปทีละใบพลางคำนวณในใจว่าจะใช้รูปไหนได้ มีอ้อยอิ่งอยู่บ้างก็เห็นจะเป็นบรรดารูปของเฉินจิ้งหลินนั่นแหละ


นี่เขาถ่ายภาพผู้ชายคนนั้นมามากมายขนาดไหนกันนะ ตากล้องหนุ่มคิดพลางทำจมูกฟุดฟิดเมื่อเริ่มรู้สึกได้กลิ่นควัน คงจะพัดมาจากส่วนพื้นที่สูบบุหรี่นั่นเอง แต่ด้วยความที่มันยังบางเบาไม่ก่อกวนความรู้สึกจึงนั่งไล่เปิดภาพไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดย้ายที่ ยิ่งมาภาพของเฉินจิ้งหลินยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นบุหรี่ก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหมือนกัน จางฉีละสายตาจากจอดิจิตอลหันมองซ้ายขวาเพื่อหาต้นตอของกลิ่น ทว่าควันบุหรี่ดูเหมือนจะถูกพ่นมาจากเหนือหัวเขานั่นเอง


“ดูต่อสิ”


ฉับพลันก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านบน จางฉีแหงนศีรษะไปข้างหลังด้วยความตกใจ แล้วชนเข้าให้กับขาคู่หนึ่ง เจ้าของขาคู่นั้นไม่หลบ ซ้ำยังมองลงมาอีกด้วย ดวงตาโศกซึ้งที่เวลานี้แฝงรอยขบขันไว้เต็มเปี่ยมสบมอง ร่างในชุดสูทสีดำยืนล้วงกระเป๋ามือหนึ่ง ขณะที่อีกมือคีบบุหรี่ห้อยไว้ข้างตัว คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายได้แต่เบิกตากลมกว้าง แหงนมองตนเองอยู่อย่างนั้น สุดท้ายเลยเป็นฝ่ายเคลื่อนตัวลงมาหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ พลางแบมือขอกล้องมาดูแทน


ฝ่ายเจ้าของกล้องก็ยื่นกล้องในมือให้อย่างเชื่องเชื่อ ปลายนิ้วสีน้ำตาลที่ยื่นมารับแตะกับนิ้วที่สีผิวค่อนข้างขาวของเขา ตอนนั้นเองจางฉีถึงได้ผงะออกมา


“เฉินจิ้งหลิน!”


เจ้าของชื่อพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่มอง ขยี้บุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดทิ้งข้างๆ ตัว แล้วกดดูภาพในกล้อง


“นายถ่ายรูปสวยดีนะ”


“หา...อ่า...ขอบคุณครับ” หลังจากรวบรวมสติได้เขาก็นั่งมองคนข้างๆ กดดูภาพไปเรื่อยๆ สายตาเหล่มองภาพบนจอสลับกับดูปฏิกิริยาคนข้างเคียงไปด้วยอาการใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ พอได้เห็นมุมปากเจ้าของภาพมีรอยยิ้ม ริมฝีปากของเขาก็ฉีกยิ้มตาม ขนาดไม่เห็นภาพตัวเองเวลานี้ ยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้าอย่างไรอย่างนั้นเลย


“ไม่มีรูปที่ทะเลเหรอ” จู่ๆ เฉินจิ้งหลินก็ถามทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากกล้อง


“คุณจำได้ด้วยเหรอ” จางฉีเลิกคิ้ว ย้อนถามกลับอย่างลืมตัว ก่อนจะนึกได้ว่าอีกฝ่ายถามอะไร “ขอโทษครับ ผมถ่ายออกจากเมมโมรี่ใส่ลงคอมฯ ไปแล้ว”


“นายคงไม่เขียนข่าวอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเขาหรอก ใช่มั้ย” หางเสียงแฝงแววคุกคามเด่นชัดจนคนฟังเริ่มแปลกใจ


“เขา? หมายถึงเด็กที่อยู่กับคุณน่ะเหรอครับ”


เฉินจิ้งหลินไม่ตอบแต่เงยหน้าจากหน้าจอดิจิตอล เอียงคอมาทางเขาเล็กน้อย สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ทว่านัยน์ตาคู่สวยที่ปรายมองมาไม่ชวนให้รู้สึกโศกซึ้งเหมือนอย่างเคย กลับกลายเป็นเย็นชาและกดดัน มุมปากที่ปกติเป็นรอยหยักขึ้นเล็กๆ จนดูเหมือนคนยิ้มตลอดเวลาทำให้ดูขัดกับสีหน้าอย่างบอกไม่ถูก ทำเอาคนมองใจสะท้าน


“ฉันเคยตอบคำถามเรื่องของเขาไปแล้วมากมาย หลังจากเปิดเผยเรื่องของเขาก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ฉันไม่มีอะไรปิดบังอีก พวกนายนักข่าวย่อมรู้ดี ขอแค่ให้เขาได้มีชีวิตอย่างเด็กธรรมดาคนหนึ่ง สำหรับคนเป็นพ่อ ฉันคงไม่ขอมากเกินไปใช่มั้ย”


จากข้อมูลที่ขุดคุ้ยได้ในอินเตอร์เน็ต ข่าวอันดับต้นๆ ที่มักถูกดึงขึ้นมาอยู่บรรทัดบนสุดของเสิร์ชเอนจินคือข่าวลูกชายลับๆ ของเฉินจิ้งหลิน เรื่องราวทั้งหมดได้รับการเปิดเผยออกมาเมื่อราวสี่ปีก่อนจากการติดตามถ่ายภาพของปาปารัสซี่ ช่วงแรกเจ้าตัวยังคงบ่ายเบี่ยง แต่ในท้ายที่สุดก็ยอมรับอย่างแกนๆ ว่าเด็กคนดังกล่าวคือลูกชายแท้ๆ ของตนเอง ประเด็นที่ทำให้ข่าวนี้ยังเป็นที่พูดถึง นอกจากด้วยความดังของเจ้าของข่าวแล้ว เฉินจิ้งหลินเป็นผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีการกล่าวถึงแม่ของเด็กเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างยังเป็นความลับที่มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นจะให้ความกระจ่างได้


แต่แม้จะปิดบังเรื่องแม่เด็กได้อย่างเงียบเชียบ ความรักและอาการปกป้องลูกกลับเป็นที่เปิดเผยอย่างออกนอกหน้า เขาตอบคำถามเรื่องลูกตรงๆ และขอร้องบรรดานักข่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่าอย่าได้รบกวนลูกชายเขาอีก อันที่จริงมันไม่ได้ผลสักเท่าไร ตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดจะเก็บลูกเอาไว้ในบ้าน สองพ่อลูกจึงมีกิจกรรมนอกบ้านด้วยกันเสมอทุกครั้งที่เฉินจิ้งหลินว่าง ถึงอย่างนั้นเขาก็คอยพยายามสอดส่องเรื่องราวข่าวคราว พยายามกันปาปารัสซี่ทั้งหลายแหล่ไม่ให้รบกวนหรือสร้างเรื่องไม่ดีซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจลูกชายได้


คิดมาถึงตรงนี้จางฉีก็เข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร


“วันนั้น...ผมไม่ได้ถ่ายภาพเขาเลย” ชายหนุ่มยกมือเกาต้นคออย่างเขินๆ “ผมถ่ายแต่ภาพคุณเท่านั้น แล้วก็...ตั้งใจจะเก็บภาพพวกนั้นเอาไว้เอง”


คิ้วได้รูปของดาราหนุ่มเลิกขึ้นข้างหนึ่ง แววกดดันในดวงตาลดลงแปรเป็นความสงสัย แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ขยายความมากกว่านี้เจ้าตัวก็ไม่สะดวกใจที่จะถาม เขาหันกลับไปเลื่อนดูภาพในกล้องอีกสักพัก คราวนี้ริมฝีปากที่มีรอยหยักยกคลี่ออกเป็นรอยยิ้มจริงๆ


เฉินจิ้งหลินส่งกล้องคืนให้เจ้าของ พร้อมใช้นิ้วจิ้มไปที่ภาพบนจอ


“ฉันชอบภาพนี้ นายน่าจะใช้ภาพนี้นะ” กล่าวจบก็ลุกขึ้น หันหลังเดินกลับไปทางฮอล์


จางฉีก้มมองภาพนั้นแล้วยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน ภาพที่ว่าเป็นภาพใบสุดท้ายซึ่งถ่ายเอาไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะทำกล้องหลุดมือพอดี


“อ๊ะ” ร่างสูงใหญ่รีบลนลานลุกขึ้นเมื่อนึกอะไรได้ “เฉินจิ้งหลิน! เดี๋ยวครับ” ขายาวสาวเร็วๆ เข้าหาคนที่หยุดยืนคอยอยู่หน้าประตู


“มีอะไรเหรอ”


“ผมขอเบอร์คุณได้มั้ยครับ เอ้ย...เอ่อ...” ใบหน้าขาวเกลี้ยงเป็นสีเรื่อทันทีเมื่อสำนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป นี่เขากำลังทำตัวเหมือนจีบผู้ชายชัดๆ ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายมองมาอย่างสงสัยปนขบขัน มือไม้ก็ยิ่งรู้สึกเกะกะ หาที่ทางของมันไม่ถูก คำพูดในประโยคต่อมาตะกุกตะกักติดขัดจนน่าหัวร่อ “คือ...คือ...ผมหมายถึงเบอร์อีเมล รูปพวกนั้น เผื่อคุณอยากได้...”


กล่าวจบแล้วจางฉีก็แทบจะยกมือตบหน้าผากตัวเอง อีกฝ่ายจะฟังเขาพูดรู้เรื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้ มันฟังดูกระท่อนกระแท่นไม่เป็นประโยคเอาเสียเลย กระนั้นเฉินจิ้งหลินก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบซองบุหรี่ยับๆ ออกมาฉีกกระดาษห่อส่วนหนึ่งออก แล้วแบมือยื่นมาตรงหน้าเขา กระดกปลายมือสองสามที


“ปากกา”


“อ๊ะ ครับ”


มือใหญ่ตบไปตามเนื้อตัวแต่ไม่พบสิ่งที่ต้องการ จึงย้ายไปขุดหาทุกซอกทุกมุมของกระเป๋ากล้องจนแทบจะปลิ้นมันออกมา แล้วในที่สุดก็พบปากกาด้ามหนึ่งจนได้ อันที่จริงปากกากับกระดาษจดเป็นสิ่งที่จางฉีพกติดกระเป๋ากล้องเผื่อยามจำเป็นมาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งในเวลาปกติเขารู้ดีว่ามันอยู่ที่ไหน แต่กว่าจะคิดได้ถึงข้อนี้ก็หลังจากนี้ไปอีกหลายชั่วโมง


หนุ่มใหญ่รับปากกามาเขียนขยุกขยิกลงในกระดาษแล้วยื่นคืนให้ทั้งสองอย่าง


“อีเมลฉัน อย่าให้ใครล่ะ ...มันเป็นอีเมลส่วนตัว”


ประโยคนั้นทำเอาจางฉีที่กำลังก้มหน้าแกะลายมือเงยพรึ่บขึ้นทันที


เฉินจิ้งหลินจากไปแล้ว แผ่นหลังเล็กดูเปราะบางและเปลี่ยวเหงาเหมือนอย่างที่เคยเห็น แต่จะเป็นเพราะอยู่ในชุดสูทหรือเปล่านะ เขาถึงรู้สึกว่าภายใต้ความเปราะบางนั้นแฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง เป็นแผ่นหลังที่สามารถแบกรับความหนักหน่วงของชีวิตไว้ได้อย่างมั่นคงเหลือเกิน


.....................................


ไม่กี่วันหลังจากนั้นนิตยสารดาราฉบับที่จางฉีไปถ่ายรูปให้ก็ตีพิมพ์ออกมาอย่างเร่งด่วน บก.เติ้งชมเชยไม่ขาดปากว่ารูปของเขาดูมีเรื่องราวของมันเองทุกรูป คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ส่งเขาไป รวมทั้งรูปใบสุดท้ายของเฉินจิ้งหลินใบนั้นก็ยังได้ตีพิมพ์ลงหนึ่งหน้าเต็มๆ ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้รางวัลอะไรเลยสักรางวัลเดียว


วันนี้เป็นอีกวันที่จางฉีต้องนั่งคัดรูปอยู่ที่บ้านเพื่อส่งให้นิตยสารท่องเที่ยวที่รับงานมา ทว่าจิตใจกลับไม่ได้จดจ่ออยู่กับรูปทิวทัศน์ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เขาคลิกย่อหน้าจอปัจจุบันลง จิ้มเคอร์เซอร์เข้าไปในกล่องจดหมายอิเล็คโทรนิกส์ และพบว่ายังไม่มีจดหมายใหม่ส่งเข้ามา


สี่วันแล้วหลังจากส่งไฟล์ภาพไปให้เฉินจิ้งหลินทางอีเมล แต่ก็ไม่มีจดหมายตอบกลับ ไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกว่าคนคนนั้นได้รับภาพเหล่านั้นหรือไม่ ชายหนุ่มหยิบเศษซองบุหรี่ขึ้นมาตรวจสอบที่อยู่อีเมลที่เขียนไว้กับที่อยู่ที่ตัวเองส่งไป ซึ่งก็เป็นเมลเดียวกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ โชยมาชวนให้นึกถึงใบหน้าคนที่มอบมันให้เขา


นึกแล้วก็น่าขำ ด้วยความอยากรู้ จางฉีเอาเศษซองบุหรี่นี่ไปให้คนสูบบุหรี่ดูเพราะอยากรู้ยี่ห้อของมัน แต่สิ่งที่ได้รู้กลับมาด้วยคือมันเป็นบุหรี่สัญชาติจีนที่คนแก่ค่อนข้างนิยมสูบกันมากกว่า เขายกเศษกระดาษที่ยังติดกลิ่นอ่อนๆ ขึ้นมาสูดเข้าไปเต็มปอด


เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นตัดภวังค์ในอากาศ ร่างสูงสะดุ้งน้อยๆ ส่งเสียงกระแอมแก้ขวยทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในห้องด้วยแม้แต่คนเดียว ก่อนเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย


“พี่ฉี ฉันโอนเงินค่าถ่ายรูปให้พี่แล้วนะ บก.เติ้งเพิ่มให้เป็นพิเศษด้วย ค่าที่เรียกพี่มาแบบกะทันหัน”


อิ๋งอิ๋งบอกธุระทันทีหลังได้ยินเสียงตอบรับจากเขา


“ขอบใจมาก ฝากขอบคุณ บก.เติ้งให้ด้วยนะ”


“อ้อ แล้วก็พี่เห็นรูปจากเว่ยปั๋วของเฉินจิ้งหลินแล้วหรือยัง เขาลงรูปที่พี่ถ่ายด้วยนะ อ๊ะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว แค่นี้นะพี่ฉี”


“เฮ้ย เดี๋ยว...”


สัญญาณจากปลายสายตัดไปแล้วเรียบร้อย โดยที่ยังไม่ทันถามเลยด้วยซ้ำว่าเว่ยปั๋วของเฉินจิ้งหลินคืออะไร แต่ยุคสมัยนี้แล้วต่อให้เขาเป็นคนไม่ถูกกับเทคโนโลยีแค่ไหนก็ยังใช้อินเตอร์เน็ตเป็น


สิ่งที่ต้องการค้นหาโผล่ขึ้นมาในหน้าแรกของเสิร์ชเอนจิ้น จางฉีคลิกเข้าไปในเว่ยปั๋วของเฉินจิ้งหลินอย่างไม่รอช้า แล้วก็ยิ้มออกมาจนแก้มแทบแตก


ภาพดิสเพลย์เป็นรูปเฉินจิ้งหลินในหมวกสีขาว สวมแว่นตากรอบใหญ่หันมองมาทางกล้องพอดี ซึ่งเป็นรูปที่เขาถ่ายไว้เองที่ชายหาด นั่นแสดงว่าอีกฝ่ายได้รับรูปของเขาเรียบร้อยแล้ว ถึงจะเศร้านิดหน่อยที่ไม่มีอีเมลตอบกลับแต่มันก็ถูกปัดตกลงไปทันที โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นรูปจากสเตตัสล่าสุดพร้อมข้อความใต้ภาพ


รูปนั้นคือรูปใบสุดท้ายที่เขาถ่ายได้ในคืนประกาศรางวัล เป็นภาพของเฉินจิ้งหลินที่อยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายในงาน ทุกคนต่างพูดคุยและมีอิริยาบถต่างๆ กันไป ทว่ามีเพียงชายคนนี้เท่านั้นที่แหงนมองขึ้นมาหากล้อง


มีข้อความใต้ภาพเขียนเอาไว้ว่า


You Caught Me


“You Caught Me” จางฉีทวนประโยคนั้นออกมาเบาๆ “ผมต่างหากที่โดนคุณจับได้ แต่สักวันนะ สักวันผมจะเป็นฝ่ายไขว่คว้าคุณไว้ให้ได้บ้าง”


..........................


จบแล้วค่า

ตั้งใจให้มันจบอยู่แค่นี้แล แม้ว่าจริงๆ จะมีเรื่องราวต่อไปอยู่ในหัวบ้าง แต่ไม่ถนัดเขียนอะไรยาวๆ เลยค่ะ

ถึงจะทิ้งปลายเอาไว้แบบนี้แต่เราก็คิดไว้ในหัวแล้วนะคะว่ายังไงเค้าก็ต้องสมหวังแน่ๆ ฮี่ฮี่

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 10:14:29 โดย frodo_slave »

ออฟไลน์ M i l k T e a

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #3 เมื่อ24-09-2015 07:02:58 »

มีต่อไหมคะ สนุกมาก ชอบเลยค่ะ รออ่านต่ออ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #4 เมื่อ24-09-2015 19:19:55 »

เนื้อเรื่อง แต่งได้ดูน่าติดตาม จบแบบเข้ากับชื่อเรื่องมากเลยคะ สนุกมาก จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #5 เมื่อ27-09-2015 21:58:07 »

สุดยอดมากค่ะ คืออ่านแล้วลุ้นมากว่าจะเจอกันอีกไหม ยังไง
จบแบบนี้โอเคเลย ไปจินตนาการต่อเพลินแน่นอน 555
ขอบคุณมากๆนะคะ

ออฟไลน์ B.Lumi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #6 เมื่อ28-09-2015 09:54:57 »


ชอบเนื้อเรื่องมากๆ

ขอบคุณที่มีเรื่องสนุกๆแบบนี้มาฝากกัน

แต่ก็แอบหวังให้มาต่ออีกนะ  ถึงแม้จะบอกว่าจบแค่นี้จริงๆ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #7 เมื่อ01-10-2015 17:11:16 »

ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ @///@

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #8 เมื่อ01-10-2015 18:22:06 »

จบแบบนี้ก็ฟินสิคะ

#ต่อมจิ้นทำงานหนักมากกกก

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
«ตอบ #9 เมื่อ26-11-2020 23:58:57 »

โอ๊ยยยมาต่ออีก  :call: มันดีมาก ชอบเนื้อเรื่อง คุณช่างภาพกับเซเลปดัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You Caught Me
« ตอบ #9 เมื่อ: 26-11-2020 23:58:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด