[Series: เรื่องสั้นจบในตอน] :: E n c o u n t e R s (2) Christmas
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Series: เรื่องสั้นจบในตอน] :: E n c o u n t e R s (2) Christmas  (อ่าน 4980 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

****************************************************

ใครเบื่อ รุกคุณชาย รับสาวๆ เนื้อเรื่องละครๆ อยากได้บทแมนๆ ของคนเป็นเกย์จริงๆ เชิญทางนี้ จะมาลงเรื่องใหม่ให้เรื่อยๆ ในกระทู้นี้ เมื่อมีอารมณ์แต่งครับ ติดตามกันไปเรื่อยๆ นะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2015 23:49:47 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Encounter 1: Asoke

ประเทศกรุงเทพฯ นี่แม่งร้อนสิ้นดี!

ชายหนุ่มคนหนึ่งบ่นในใจขณะกำลังเดินไปยังตึกออฟฟิศของตัวเองในย่านอโศก ควันรถและมลพิษที่เกิดจากรถจำนวนมหาศาลบนถนนอโศกมนตรีในเวลาเช้าแบบนี้ยิ่งทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นไปอีก แล้วไหนจะมนุษย์ออฟฟิศจำนวนมากมายที่เดินกันขวักไขว่บนฟุตบาทจนชวนอึดอัดนี่อีก

หรือครั้งหน้ากูควรจะขึ้นมอเตอร์ไซค์วะ เขาคิดขณะใช้ผ้าเช็ดหน้าที่พกมาด้วยซับเหงื่อที่หน้าผาก แย่หน่อยที่เขาเป็นคนเหงื่อออกง่าย และเขาก็ไม่อยากจะไปทำงานวันแรกในสภาพสุดโทรมแบบนี้ด้วยสิ แต่เขาก็ผิดเองที่หลงคิดว่าตึกออฟฟิศของเขาอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าในระยะที่พอจะเดินได้

จริงๆ ก็เดินได้แหละ... แต่เหนื่อย!

ชายหนุ่มตัดสินใจแวะเข้าเซเว่นเพื่อตากแอร์สักครู่ก่อน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาจะได้แวะซื้อน้ำดื่มและอาหารกินเล่นเบาๆ เป็นอาหารเช้าซะเลย

ในขณะที่กำลังยืนรอจ่ายเงิน เขามองออกไปข้างนอกแล้วเห็นพนักงานออฟฟิศเดินผ่านไปมาหลายคนพลางนึกในใจว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ที่ทำงานของเขานี้ไม่ต้องใส่เชิ้ตแขนยาวผูกเนกไทแบบบริษัทอื่น ไม่อย่างนั้นเขาคงอึดอัดตายแน่ๆ

เขาคนนี้มีชื่อว่า บลู เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาหมาดๆ และกำลังจะเริ่มต้นชีวิตทำงานครั้งแรกของตัวเองในวันนี้ เขาเป็นคนสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม แต่ก็มีแววตาขี้เล่นแบบเด็กๆ เขาเป็นคนประเภทที่คนมักจะทายอายุกันไม่ค่อยถูก และก็เป็นคนที่มีนิสัยขี้อายขี้ประหม่าต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกลิบลับเลยด้วย

“เชิญท่านต่อไปค่า” พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ส่งเสียงเรียก

“ครับๆ นี่ครับ” เขาวางนมถั่วเหลืองกับแซนด์วิชลงบนเคาน์เตอร์

“รับซาลาเปาเพิ่มมั้ยคะ”

“ไม่ครับ”

“แซนด์วิชอุ่นร้อนมั้ยคะ”

“เอ่ออ ไม่ครับ” แซนด์วิชไส้ปูอัดยำสาหร่ายยี่ห้อนี้มันไม่ได้กินกันเย็นๆ หรอกเหรอวะ

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ บลูก็เดินออกจากเซเว่นและมุ่งหน้าตรงไปยังตึกออฟฟิศที่อยู่ข้างหน้าซึ่งก็อีกไม่ไกลแล้ว แต่ก่อนอื่น เขาต้องหาจังหวะข้ามถนนให้ได้เสียก่อน

สำหรับคนที่ไม่เคยมาย่านนี้มาก่อนแบบเขา ทำให้เขาอดกังวลนิดๆ ไม่ได้ เพราะทั้งรถใหญ่และรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งแข่งขันกันรีบไปยังจุดหมายของตัวเองนี้มันก็น่ากลัวไม่เบา โดยเฉพาะวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างพวกนี้แหละตัวดีเลย เขายังจำเมื่อครั้งก่อนที่เขามาสัมภาษณ์งานที่นี่แล้วซ้อนมอเตอร์ไซค์เข้ามาได้

ไม่รู้จะถูกรถชนตายหรือหัวใจวายตายก่อนกัน ใครเคยขึ้นพี่วินแถวอโศกคงรู้ดี

เขามองหาทางม้าลายหรือจุดที่เขาสามารถข้ามถนนได้แบบไม่เสี่ยงต่อชีวิตมากนัก แล้วก็เจอสัญญาณไฟคนข้ามอีกไม่กี่เมตรข้างหน้า ซึ่งก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังยืนรอข้ามถนนอยู่พอดี แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินไปถึงตรงนั้น คนเหล่านั้นก็เริ่มเกาะกลุ่มออกเดินกันไปก่อนแล้ว

บลูรีบสาวเท้าข้ามถนนเพื่อจะตามคนกลุ่มนั้นให้ทัน แต่ด้วยความเร่งรีบ ทำให้เขาลืมมองรถที่กำลังมาจากฝั่งขวามือของตัวเองเสียสนิท โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ที่ซอกแซกไปมา และกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาเขา

“ระวังครับ!” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของบลู พร้อมกับดึงเสื้อของเขาอย่างแรงจนทำให้เขาต้องเซไปทางด้านหลังถึงสองก้าว

มอเตอร์ไซค์รับจ้างคันนั้นเบรกสุดตัวพร้อมกับเสียงกรี๊ดของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้โยสาร ตามมาติดๆ ด้วยคำหยาบอีกมากมายจากคนขับ

“ขอโทษครับๆ” ผู้ชายคนที่ช่วยชีวิตของบลูไว้พูดกับมอเตอร์ไซค์ พลางคว้าแขนของบลูแล้วรีบดันตัวเขาให้ออกวิ่งไปพร้อมๆ กัน “เร็วๆ เข้า”

บลูจ้ำเท้าให้ตามทันจังหวะการเดินของเขา และเมื่อรู้สึกตัวอีกที เขาก็ข้ามมาอยู่อีกฝั่งของถนนเรียบร้อย

“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ น้อง” ชายคนนั้นพูดขึ้นพลางส่งยิ้มให้บลู

ทันทีที่ได้เห็นหน้าของเขาชัดๆ บลูก็รู้สึกปั่นป่วนในท้องขึ้นมาทันที ทั้งรอยยิ้มและแววตานั่น มันช่าง...

“เฮ้ย น้อง เป็นไรป่าวครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า พี่กระชากแรงไปเหรอ พี่ขอโทษ”

“อ... เอ่ออ ไม่ครับ ขอโทษทีครับ ขอบคุณครับ” บลูตอบไปอย่างตะกุกตะกัก

“ครั้งหน้าก็ระวังหน่อยนา รถมอไซแถวนี้มันขี่กันอันตราย ยิ่งเช้าๆ ด้วย ข้ามถนนอะไรต้องมองให้ดีๆ รู้ป่าว”

“ค... ครับ ผมลืมมองเอง”

ชายคนนั้นมองหน้าของบลูอยู่ครู่หนึ่ง “น้องชื่ออะไรเหรอครับ”

“ห... เหอ ผมเหรอครับ”

“ก็ต้องน้องสิ จะใครล่ะ” เขาหัวเราะ

“บลูครับ ผมชื่อบลู” เฮ้ย เขาว่าเขาเขินว่ะ นี่เขากำลังถูกผู้ชายที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาถามชื่อว่ะเฮ้ย

ผู้ชายคนนี้ดูน่าจะอายุราว 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้น ตัวไม่สูงมากนัก แต่ดูกำยำ สมส่วน นอกจากนั้นยังมีผิวขาวละเอียด ดวงตาชั้นเดียวคู่นั้นก็กลมโต แล้วไหนจะไรหนวดอ่อนๆ ที่เหนือริมฝีปากเรียวบางนั่นอีก

“ทำงานแถวนี้รึเปล่า” เสียงของเขาปลุกบลูให้ตื่นจากภวังค์

“หา เหอ อ๋อ ครับ ใช่ครับ”

“พี่ก็เหมือนกัน งั้นถ้า... เราได้เจอกันอีกก็คงดีนะครับ”

“อ... เหอ” บลูเลิกคิ้วขึ้น “ยังไงนะครับ”

“เฮ้ยๆ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น... คือ” เขาดูเลิกลั่กขึ้นเล็กน้อย แก้มขาวๆ นั้นก็เริ่มแดงระเรื่อ “พี่หมายถึงว่าถ้าได้เจอกันอีกก็ทักทายกันได้นะ อะไรแบบนี้น่ะ”

“อ๋ออ ครับ ขอบคุณครับ” คราวนี้เป็นทีของบลูที่ต้องเขินบ้างแล้ว

ชายแปลกหน้ายิ้มออกมาอีกครั้ง “งั้นก็... โชคดีนะน้อง พี่ต้องไปละ ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้ว” เขาพูดก่อนจะเดินจากไป แต่แล้วสักพักก็ชะงักฝีเท้าลง หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตังค์แล้วทำท่ายุกยิกๆ

บลูยืนมองชายที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเขาหันกลับมาหาบลูอีกครั้ง บลูถึงกับสะดุ้งและรีบหันหลบไปทางอื่นทันที ชายคนนั้นเดินกลับมาหาเขาพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อ

“เอ้านี่ พี่ให้” เขายื่นกระดาษใบนึงให้บลู “ไปจริงละนะน้อง” เขายิ้มอายๆ ก่อนจะรีบเดินจากไป

บลูมองตามจนกระทั่งเขาเดินหายไปกับฝูงชน เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังยืนเหม่ออยู่เหมือนคนบ้า เขาก็รีบออกเดินพร้อมกับดูกระดาษใบนั้น

มันคือนามบัตรที่มีชื่อของชายคนนั้นอยู่ เขาชื่อว่า น้ำมนต์ นอกจากนั้นยังมีเบอร์ติดต่อ อีเมล และ... ด้านหลังของนามบัตรที่เขียนไว้คือ

“เขินครับ... แต่อยากรู้จัก”

บลูหยุดยืนนิ่ง มือไม้สั่น และรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนผ่าวไปหมด เขาเพิ่งถูกผู้ชายจีบ(?) กลางอโศก!!


................................................................................................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2015 23:50:06 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ winnie_the_far

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
เข้ามาประเดิมอ่า :L2:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อุ๊ย เขินกันไป

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านแล้วเขิน..
คุณต้นหายไปนานมาก คิดฮอด!!
 :hao7:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
กล้าจีบกันแบบนี้เลยหรอ ความกล้าสูงล้ำมากครับ เหอๆ อ่านไปยิ้มไป นะเนี่ย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
กรีดร้องงงง อยากมีโมเม้นนี้บ้างงงงงง

ออฟไลน์ Schizophrenia

  • /ˌskɪtsɵˈfrɛniə/
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ติดตาม ; )

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
มาเจิมเรื่องใหม่แบบเขินๆ
เขินแทนพระเอก(?) อะ

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ชอบบบบบบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่ารักจังเลยย เขินตามเลยนะคะเนี่ย 555

ออฟไลน์ Sye.B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อยากรู้เหมือนกันค่ะ!
อยากรู้ว่าเป็นยังไงต่อ ฮือออออ *เขินน*

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
อร้ายยยยย อยากโทรหาครับ เเต่โทรสับไม่มีเงิน 555

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น่ารัก  :mew2:

ออฟไลน์ taltal020441

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักอ่ะ. ชอบบ

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เหยยยยย อันนี้คือเป็น one shot หรออ
เสียดาย แต่น่าร้าก

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่ารักจัง บลูทำงานตึกไหนน๊อ...แยกอโศก ข้ามถนนยาก เดินมุดลงสถานี mrt สิคะ บลู

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ว้ายยยยเขินนนนน :katai5:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อร๊าย คุณต้นหายนานมาก

แต่เขิล เขาจีบกันงี้เลยอ๋อ???

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Encounter 2: Christmas



Jingle bells, jingle bells,
Jingle all the way
Oh! what fun it is to ride
In a one-horse open sleigh


เสียงเพลงแห่งเทศกาลแห่งความสุขแว่วลอยมาตามลมเย็นๆ ที่พัดมาปะทะผิว

ถึงแม้กรุงเทพฯ จะไม่ได้รู้จักกับคำว่าฤดูหนาวจริงๆ มานับสิบปีแล้ว แต่พอมาถึงช่วงสิ้นปีแบบนี้ นานๆ ทีอุณหภูมิก็จะลดต่ำลง มีลมเย็นๆ พัดมาพอให้รู้สึกชื่นใจกันได้บ้างอยู่เหมือนกัน

บางคนอาจจะบอกว่าชื่นใจ ในขณะที่บางคนอาจจะบอกว่า “เหงาใจ”

อิฐ นักศึกษาหนุ่มปี 3 ที่เพิ่งสอบไฟนอลเสร็จ เดินอยู่ตามลำพังแถวสยามที่ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟหลายสีสันและต้นคริสต์มาสที่แลดูจะผิดที่ผิดทางกับประเทศเมือง (โคตร) ร้อนอย่างบ้านเราเหลือเกิน

แต่เอาน่ะ ปีละหน คงไม่เป็นไรมั้ง

ที่จริงอิฐควรจะไปฉลองกับเพื่อนๆ ที่สอบวันสุดท้ายเสร็จ แต่เขากลับไม่อยากทำอย่างนั้น แทนที่จะไปกินเหล้า เขาเลือกที่จะกลับบ้าน เปลี่ยนชุด แล้วคว้ากล้องตัวโปรดของเขาออกมาเดินถ่ายรูปบรรยากาศ แสงไฟ และผู้คน ในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่แบบนี้ดีกว่า

อิฐเป็นคนรักความสงบ ชอบอยู่คนเดียว แต่ก็รักที่จะมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะเวลาแห่งเทศกาลแบบนี้ ช่วงเวลาที่หลายๆ คนมีความสุขกับการได้เลือกจับจ่ายซื้อของขวัญ เตรียมตัวจะได้หยุดพักผ่อนยาว ได้เดินเคียงคู่กับคนรัก ออกมาถ่ายรูปกับเพื่อนฝูงตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการประดับประดาตกแต่งด้วยแสงไฟ มันคือช่วงเวลาแห่งปีที่ผู้คนรอบกายของเขามักมีรอยยิ้มประดับบนหน้าแทบทั้งสิ้น และเขาก็อยากจะซึมซับบรรยากาศเหล่านี้เอาไว้

อิฐถือกล้องกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแสงสีของตัวเมืองกรุงเทพไปหลายสิบรูป และภาพของบรรดานักท่องเที่ยวและคนเดินถนนอีกรวมนับร้อยรูป เขาเดินตั้งแต่สยาม ไปมาบุญครอง วนกลับมาสยามอีกรอบ แล้วเดินไปจนถึงเซ็นทรัลเวิล์ด หลังถ่ายรูปต่อสักครู่ใหญ่ เขาก็หาที่นั่งพักและกดดูรูปที่ตัวเองถ่ายมาตั้งแต่เย็น สายตาของเขาไปสะดุดเข้าที่รูปหนึ่ง เขาตั้งใจจะถ่ายผู้หญิงที่กำลังเซลฟี่ตัวเองอยู่หน้าต้นคริสต์มาส แต่ในเฟรมนั้นมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งติดเข้ามาด้วย

เด็กผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง

เขากดปุ่มซูมเพื่อมองดูใบหน้าของชายคนนั้นชัดๆ แล้วก็...

เฮ้ย สเป็กว่ะ

เด็กคนนั้นยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน หัวเกรียนๆ แขนข้างหนึ่งหนีบกระเป๋าจาค็อบ ส่วนมืออีกข้างกำลังถือแก้วน้ำดูดอยู่พลางมองไปด้านข้างของตัวเอง

‘ถ้ายิ้มคงจะน่ารักเนอะ’ อิฐคิดในใจ ‘คงคล้ายไอ้น็อตเลย’

เขากดเลื่อนไปดูรูปอื่นหลังจากนั้น ซึ่งก็ยังคงเป็นรูปในมุมเดิม ทำให้ยังคงติดน้องคนนั้นเข้ามาในภาพอีก 3-4 รูป แต่รูปสุดท้ายทำให้เขาต้องชะงักลงอีกครั้ง เพราะคราวนี้ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะกำลังมองตรงมาที่กล้องของเขา เขากดขยายภาพเพื่อดูหน้าของน้องคนนี้ให้ชัดๆ แล้วก็ยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ

นี่ถ้าหากบรรยากาศแบบนี้ เขามีแฟนหน้าแบบนี้ให้เดินด้วยก็คงดีเนอะ

อิฐไม่มีแฟนมา 21 ปีแล้ว นานเท่าๆ กับอายุของเขานั่นแหละ เขารู้ตัวว่าชอบผู้ชายก็ตอนตัวเองอยู่ ม. 5 แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รู้ตัวนั้นไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก

ตอนนั้นเขามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง ชื่อว่าน็อต ทั้งสองคนสนิทกันมาก ไม่ว่าจะเรียน เล่นกีฬา ทำงาน เที่ยว กินเหล้า หรืออะไรก็ตาม เขาสองคนจะทำด้วยกันและไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ น็อตเป็นคนตัวเล็ก สูงแค่ 170 เซนติเมตร แต่มีใจที่ใหญ่เกินตัว เป็นคนลุยๆ เอาจริงเอาจัง และกล้าพูดกล้าแสดงออก ต่างจากอิฐ ที่แม้จะตัวสูงใหญ่กว่าถึงสิบเซนติเมตร แต่เป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและขี้อาย ขัดกับร่างกายและหน้าตาลิบลับ

บ้านเกิดของทั้งคู่นั้นอยู่ตอนเหนือของประเทศไทย ดังนั้นในช่วงนี้ของปีจะมีอากาศค่อนข้างหนาวทีเดียว คืนหนึ่งในช่วงเดือนธันวาคม น็อตมานอนค้างที่บ้านของอิฐ อิฐไม่ได้เปิดแอร์ แต่เปิดพัดลมและหน้าต่างรับอากาศเย็นๆ จากข้างนอก ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทั้งสองคนรู้สึกหนาวจนต้องนอนกอดกัน

“เพื่อนกันนอนกอดกันมันปกติปะวะ” น็อตถาม

“กู... ก็ไม่รู้ว่ะ กูก็เคยนอนกอดแต่กับมึงคนเดียวนี่แหละ” อิฐที่นอนลืมตาอยู่ตอบ ใบหน้าของเพื่อนสนิทของเขาอยู่ห่างจากใบหน้าของเขาไปแค่ไม่กี่คืบ

เขาเองก็รู้สึกใจเต้นแปลกๆ กับเพื่อนคนนี้มาสักพักแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ เพราะเขากลัวความจริงมันจะเจ็บปวดเกินที่จะรับได้ จึงพยายามบอกตัวเองเรื่อยมาว่าเขาไม่คิดอะไรกับน็อตมากกว่าคำว่าเพื่อน  และเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะชอบผู้ชาย รวมทั้งไม่คิดด้วยว่าคนอย่างน็อตจะชอบเขา

“กูก็กอดผู้ชายแบบนี้แค่กับมึงเหมือนกัน” น็อตพูดพร้อมกับลืมตาขึ้น “มึงตัวใหญ่ กอดอุ่นดี กูชอบ”

“มึงก็ตัวอุ่นดี ตัวเล็กๆ กอดง่าย” อิฐหัวเราะในลำคอเบาๆ พร้อมกับรัดวงแขนแน่นขึ้น

“ตัวเล็ก... กอดง่าย ปล้ำง่ายด้วย”

“หือ อะไรนะ”

“กูบอกว่ากูปล้ำง่าย ถ้าจะปล้ำก็ปล้ำได้ ตัวมึงใหญ่กว่ากูตั้งเยอะ”

อิฐตกใจและรู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว “พ... พูดเหี้ยอะไรของมึง”

น็อตเงียบไปพักหนึ่ง “กูชอบมึงอะ ไอ้อิฐ”

อิฐคลายวงแขนออกและชันตัวขึ้นนั่งทันที “มึงพูดเล่นป่าววะ ไอ้น็อต มึงพูดเล่นใช่มั้ย”

หากว่าอิฐลองหันไปมองใบหน้าของน็อตตอนนี้ เขาคงจะเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังมีสีหน้าหวาดหวั่นอยู่มากแค่ไหน แต่น็อตก็ยังคงต้องฝืนทำเป็นเข้มแข็งและพยายามพูดสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของเขามานานแล้วออกไป

“กูบอกว่ากูชอบมึง กูไม่ได้พูดเล่น กูขอโทษถ้ากูทำให้มึงลำบากใจ”

ใจของอิฐเต้นแรง เขาแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย และแม้เขาจะรู้สึกดีใจ แต่เขาก็สบสันมากไม่แพ้กัน เพราะเขาบอกตัวเองมาตลอดว่าเขาไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้คิดอะไรกับน็อตมากกว่าแค่คำว่าเพื่อน และถ้าหากหลังจากนี้พ่อกับแม่เขารู้ล่ะว่าเขาชอบผู้ชาย ชีวิตของเขาจะเป็นยังไงต่อไป

“ถ้ามึงรังเกียจกู กูกลับบ้านก็ได้นะเว้ย กูขอโทษที่ทำลายทุกอย่างลงแบบนี้” น็อตขยับตัวจะลุกออกจากเตียง

“อย่าเพิ่ง” อิฐคว้าข้อมือของน็อตเอาไว้ “กูไม่ได้รังเกียจมึง กูไม่เคยรังเกียจมึงเลย แต่กู...”

อิฐไม่สามารถพูดต่อให้จบประโยคได้ หัวสมองของเขาดูจะทำงานไม่ดีนัก เซลล์สมองของเขาดูราวกับจะถูกความหนาวเย็นแช่แข็งจนไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไป

ความเงียบงันเข้าปกคลุมทั้งสองคน อิฐไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่ใช่คนแสดงความรู้สึกเก่งมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาแบบนี้ เขาก็ยิ่งไม่สามารถสรรหาคำพูดอะไรมาบอกให้น็อตเข้าใจสิ่งที่เขาคิดอยู่ได้ ให้ตายเถอะ ที่จริงเขากำลังคิดอะไรอยู่นั้นเขาก็ยังไม่รู้ตัวเองเลย

“มึงทำเป็นเหมือนมึงไม่ได้ยินที่กูบอกไปก็พอ ไอ้อิฐ กูเข้าใจ” น็อตพูดด้วยความเจ็บปวด “แล้วขอกูนอนกอดมึงอย่างนี้อีกสักคืน เป็นครั้งสุดท้ายจะได้มั้ยวะ”

อิฐหันไปมองหน้าของน็อต แม้ในความมืด อิฐก็ยังเห็นว่าดวงตาของน็อตนั้นรื้นไปด้วยน้ำตา

“มานอนเถอะ” อิฐดึงตัวของน็อตให้กลับลงมานอนบนเตียงอีกครั้ง เขาจัดการห่มผ้าคลุมตัวเพื่อนตัวเล็กของเขาแล้วก็กอดเขาเอาไว้จากทางด้านหลัง “กูขอโทษนะ ไอ้น็อต กูพูดไม่เก่ง ตอนนี้กูนึกอะไรไม่ออก กูทำได้เท่านี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราค่อยคุยกันนะ”

น็อตไม่ตอบอะไร แต่กลางดึก อิฐรู้สึกตัวว่าน็อตนอนร้องไห้ เพราะร่างกายของน็อตสั่นเทาเบาๆ และเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้น อิฐคิดอยากจะเอื้อมมือออกไปกอดเพื่อนของเขาอีกครั้ง แต่ก็กลัวว่าจะยิ่งทำให้เรื่องราวมันแย่ลง เขาจึงได้แต่นอนหงายมองเพดานอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเสียงสะอื้นนั้นหยุดลง เขาจึงจะหลับลงต่อได้

เขาอยากจะขอเวลาอีกสักนิด ให้สมองได้ถามหัวใจของตัวเองดูอีกสักครั้ง แล้วเขาจะให้คำตอบแก่น็อตอย่างแน่นอน อาจจะไม่ใช่คืนนี้ แต่อาจจะเป็นพรุ่งนี้ หรือวันถัดๆ มา คงอีกไม่นานหรอก เขาเชื่ออย่างนั้น

แต่ทว่าทุกสิ่งก็ไม่เป็นดั่งที่เขาคิดเอาไว้ เมื่อเช้าวันถัดมา น็อตขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านของตัวเองแล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ วันนั้นเป็นวันที่อิฐรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต เป็นวันที่เขาได้รู้จักหัวใจตัวเองจริงๆ เป็นครั้งแรกในยามที่สายเกินไป มันคือวันที่เขาได้รับบทเรียนอันยิ่งใหญ่ว่าอย่ารอให้ต้องสูญเสียบางอย่างไปก่อนจะเห็นค่าของมัน ได้เรียนรู้ว่าหากรู้ตัวแล้วว่ารัก ก็อย่ารอที่จะพูดออกไป มันเป็นวันที่เขาเสียน้ำตามากที่สุดตั้งแต่เกิดมา และเป็นวันที่เขาคิดว่าหัวใจของเขาคงจะไม่มีวันกลับมาเยียวยาเป็นดังเดิมได้อีกแล้ว

เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เขาได้รู้จักหัวใจของตัวเอง เป็นเดือนที่ทำให้เขาได้รู้จักคำว่ารัก และเป็นเดือนแห่งการสูญเสียคนที่เขารักมากที่สุดไปตลอดกาล

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วร่วมสี่ปี เขายังคงไม่เคยลืมน็อตและความรักที่เขามีต่อน็อต แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตต่อไป หัวใจของเขายังคงบอบช้ำ แต่มันก็เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ทุกครั้งเมื่อเขาเริ่มรู้สึกถึงลมหนาว เขาจะนึกถึงใบหน้าของน็อต มันทำให้เขาอยากจะออกมาเดินเล่นคนเดียว เดินดูผู้คน ซึมซับบรรยากาศรอบข้าง ความสุขและไออุ่นที่ได้รับจากคนแปลกหน้าเหล่านี้ช่วยเยียวยาหัวใจของเขาได้เล็กน้อย และทำให้เขาไม่รู้สึกเศร้าจนเกินไปนัก

น้องคนที่เขาถ่ายรูปติดมาโดยบังเอิญนี้มีโครงหน้าคล้ายกับน็อตเลย เขามองรูปในกล้องแล้วยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็กดปิดกล้องแล้วลุกขึ้นยืน ความทรงจำเก่าๆ หวนกลับมามากมายจนทำให้เขาอยากจะเดินเล่นผ่อนคลายปล่อยสมองให้โล่งกว่านี้อีกสักหน่อยถึงจะกลับบ้าน

แต่เมื่อเขาลุกเดินออกออกจากเก้าอี้ที่นั่งได้แค่ไม่กี่เมตร ก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกจากทางด้านหลัง

“พี่! พี่!”

ตอนแรกเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวเองที่ถูกเรียก แต่ก็ตัดสินใจหันกลับไปดู

“พี่ลืมกระเป๋าครับ”

อิฐตบสีข้างของตัวเองแล้วก็ใจหายวาบ เขาลืมวางกระเป๋าสะพายข้างทิ้งเอาไว้จริงๆ ด้วย

“ขอบคุณครับ” เขารีบเดินกลับไปยังเก้าอี้ที่เพิ่งลุกออกมา และตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งสังเกตว่าคนที่เรียกเตือนเขานั้นคือใคร

น้องคนนั้นนั่นเอง

“ลืมกระเป๋าใบขนาดนี้ได้นี่แปลว่าต้องใจลอยขั้นสุดละนะพี่ ไหวป่าว” เด็กหนุ่มหัวเกรียนพูดแซวพร้อมรอยยิ้มกว้าง

ได้เห็นหน้าน้องเขาชัดๆ แบบนี้แล้วทำให้อิฐใจเต้นแรงขึ้นทันที “ข... ขอโทษครับ”

“ขอโทษผมทำไมพี่”

เออ นั่นสิ ขอโทษทำไม

“งั้นก็ ขอบคุณนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ยินดี” เด็กหนุ่มยิ้มให้เขา ลักยิ้มที่มุมปากนั้นทำให้ใจของเขาละลาย แววตากลมโตคู่นั้นก็ช่างดูคล้ายน็อตเมื่อสมัยก่อนไม่มีผิด “พี่เป็นตากล้องเหรอ”

“อ๋อ เปล่าครับ แค่ชอบถ่ายรูปน่ะ”

“ผมเห็นพี่ถ่ายรูปอยู่แถวนี้มาสักพักแล้ว นึกว่าเป็นตากล้องมาถ่ายรูปบรรยากาศงานคริสต์มาสหรืออะไรพวกนี้ซะอีก”

“เปล่าหรอกครับ แค่เดินเล่นถ่ายรูปไฟ รูปคนไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“แปลว่าพี่ก็พอมีความรู้เรื่องกล้องเรื่องถ่ายรูปใช่มั้ย”

“ก็มีบ้างครับ นิดหน่อย”

เอ๊ะ เมื่อกี้น้องเค้าบอกว่าเค้าเห็นอิฐมาสักพักแล้วรึเปล่านะ

“ดีๆ ว่าแต่พี่ชื่อไรอะ ผมชื่ออั้มนะ”

“พี่เหรอ พี่ชื่ออิฐครับ”

“ชื่อ อ. อ่าง เหมือนกันเลย แปลว่าเข้ากันได้ นี่พี่มาคนเดียวใช่ป่าว”

“ครับ มาคนเดียว”

“แบบนี้แปลว่าไม่มีแฟนแน่ๆ ช่วงนี้ใครเค้าเดินคนเดียวกัน”

อิฐทั้งเขินทั้งอึ้งจนรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง

“งั้น... ไปเดินเล่นกับผมหน่อยมั้ยพี่ ผมเบื่อๆ อะ ยังไม่อยากกลับบ้าน สอนผมเรื่องกล้องหน่อยก็ได้”

อิฐตาโต นี่ตั้งแต่เขามาอยู่ในกรุงเทพฯ เขายังไม่เคยเจอคนแปลกหน้ามาชวนเขาคุยหรือกระทั่งชวนเขาเดินเล่นด้วยกันแบบนี้มาก่อนเลยนะ

“เฮ้ย ไม่ต้องตกใจพี่ ผมไม่หลอกพี่ไปทำอะไรหรอกน่า นี่ๆ ถ้าไม่เชื่อ ผมเอาบัตรประชาชนกับบัตรนักเรียนให้พี่ดูก็ได้” อั้มพูดพร้อมควักกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบบัตรทั้งสองใบออกมาชูให้อิฐดู “นายชนวีร์ นักเรียน ชั้น ม. 6 โรงเรียน xxx ตัวจริงเสียงจริง”

“โอเคๆ ครับ เชื่อแล้วครับ” อิฐชูมือขึ้น

“ฮ่าๆๆ นึกว่าไม่เชื่อ เรื่องของเรื่องคือพอดีวันนี้ผมนัดเพื่อนไว้ ว่าจะไปเดินดูกล้องด้วยกัน กะว่าจะซื้อไปถ่ายช่วงเที่ยวปีใหม่อะพี่ แล้วปรากฎมันไม่มา เลยเซ็งๆ แล้วเห็นพี่เดินไปเดินมาสักพักละ แล้วนี่มาลืมกระเป๋าไว้อีก เลยคิดว่าสงสัยดวงมันจะทำให้เราได้รู้จักกันอะพี่ เนอะ”

“อย่างนั้นเลยเหรอ” อิฐเผลอยิ้มออกมาน้อยๆ

“สรุปวันนี้พี่ว่างไปกับผมป่าว ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ ไว้วันอื่นก็ได้ แลกไลน์ไว้คุยกันมั้ย”

“วันนี้ก็ได้ครับ เพิ่งจะสองทุ่มกว่า ไม่เป็นไร”

“โอเค... เอ๊ะ หรือว่าพี่ไม่อยากแลกไลน์กะผม” อั้มเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น แต่โห... นี่ถ้าน้องไม่ใช่ผู้ชาย พี่จะนึกว่าน้องจีบพี่แล้วนะเนี่ย” อิฐพูดไปก็เขินไป เขาจึงหัวเราะในลำคอกลบเกลื่อนเบาๆ

“แล้วถ้าผมเป็นผู้ชาย ผมจะจีบพี่ไม่ได้เหรอ” อั้มตอบกลับทันที “ผมไม่ได้เข้าหาใครแบบนี้ทุกคนหรอกนา เห็นหน้าตาผมแบบนี้ เห็นผมพูดเก่งแบบนี้ จริงๆ ก็รู้จักเขินเหมือนกันนะ...”

สิ่งที่อั้มเพิ่งพูดออกมา ทำให้อิฐถึงกับต้องชะงัก และพอมองดูดีๆ แล้วอิฐถึงเห็นว่าอั้มเองก็กำลังหน้าแดงอยู่เหมือนกัน แถมมือข้างที่ไม่ได้ถือกระเป๋าอยู่ก็ยุกยิกๆ ไปมาอยู่ไม่สุขด้วย

“แต่ถ้าพี่ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมกลับละ ไงคราวหน้าคราวหลังก็อย่าลืมกระเป๋าทิ้งไว้อีกอะพี่”

“เดี๋ยว” อิฐพูดพร้อมกับคว้าต้นแขนของน้องเอาไว้ก่อนที่เขาจะทันได้เดินหนีไป เขามองใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มแล้วกลืนน้ำลาย เขาจะไม่ทำพลาดเหมือนเมื่อหลายปีก่อนนั้นอีกแล้ว “ไป... เดินเล่นด้วยกันต่ออีกสักหน่อยก่อนสิ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2015 23:50:28 โดย ExecutioneR »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ้ากกก เหงา เย็น แต่ก็อบอุ่นนน
ชอบค่ะชอบ  :hao5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ มะฮอกกานี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบจัง เคยทำงานแถวอโศกมาเป็นสิบปี และตอนนี้ก็อยู่คนเดียว แต่ชอบเดินดูคนรักกันในวันคริสมาสแถว
เซ็นทรัลเวิล์ด เดินคนเดียวมาหลายปีแล้ว

อบอุ่นมากที่ได้อ่าน
ขอบคุณนะ

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
จบแล้วหรอ เหมือนกำลังจะออกวิ่งแล้วสะดุดขาตัวเองล้มเลย ฮือออออออ

จากที่ตามอ่านมาหลายเรื่อง รู้สึกว่าเรื่องนี้ให้อารมณ์เหงา เหงามาก ถึงตอนสุดท้ายอิฐจะยอมเปิดใจ ก็เถอะ
แต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่า มันเหงาๆอยู่ดี

ขอบคุณคนแต่งน้าาา

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
น่ารักอ่ะ  :m3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด