[จบในตอน] Somewhere series: ณ ที่แห่งนั้น | Somewhere in Saraburi (20-09-15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบในตอน] Somewhere series: ณ ที่แห่งนั้น | Somewhere in Saraburi (20-09-15)  (อ่าน 4458 ครั้ง)

ออฟไลน์ ArgèntaR๛

  • "ความสุข" แบ่งปันได้
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
    • turelight's Fanpage
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************






  "ความรักไม่เคยเลือกสถานที่ของมัน"



แม้จะไม่ค่อยได้เดินทาง แต่ทุกครั้งที่ขาก้าวออกจากบ้าน สายตาได้เห็นมุมมองใหม่ๆ เรื่องราวมากมายที่ได้เจอะเจอ หลายครั้งซึ่งอยากจะนำมาถ่ายทอดผ่านลงตัวหนังสือ และสุดท้าย Somewhere series รวมเรื่องสั้น “ณ ที่แห่งนั้น” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา

นำพาความคิดให้ได้โลดแล่น เหมือนกับไปเยือนสถานที่แห่งนั้น... นั่นคือจุดประสงค์ของรวมเรื่องสั้นชุดนี้ โดยเนื้อหาสอดแทรกแง่คติ มุกตลกเล็กๆ น้อยๆ และข้อความให้กำลังใจ ผ่านตัวละครนิสัยน่ารัก และเนื้อเรื่องอุ่นหัวใจ

 

ปล. เรื่องสั้นที่นำมาลงจะเป็นเรื่องสั้นเก่าๆ ที่เคยแต่งไว้



ผลงานเรื่องอื่นๆ
Only 'Wan' เพียงหนึ่ง (จบ) คลิกที่นี่
°•.✿*❉ ไ ก ล ก ว่ า รั ก ❉*✿.•° (จบ) คลิกที่นี่

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2015 16:04:35 โดย ArgèntaR๛ »

ออฟไลน์ ArgèntaR๛

  • "ความสุข" แบ่งปันได้
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
    • turelight's Fanpage
❉ Somewhere in Saraburi ❉
[ซัน&ซัน] พระอาทิตย์กับดอกทานตะวัน



นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
พบเจอกันอย่างง่ายๆ และจากไปอย่างง่ายๆ
แต่ไม่ว่าจะจากกันไปอีกสักกี่ครั้ง สุดท้ายก็จะกลับมาบรรจบกัน
...อย่างง่ายๆ
บนโลกสีเหลืองสดซึ่งอาบด้วยแสงจากอรุณใบนี้



   

ถ้าเกิดพูดถึงทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรีคงโผล่ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ น้องซันก็ไม่ค่อยรู้นักหรอกนะว่าทำไม แต่บ้านใหม่ที่น้องซันย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อตอนหนึ่งขวบนั้น เต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลืองหน้าตาคล้ายพระอาทิตย์ละลานตา มองไปทางไหนก็เจอแต่สีเหลืองสดใส...
   

น้องซันเกลียดสีเหลือง แล้วก็เกลียดชื่อที่คุณแม่ตั้งให้ด้วย ‘ซันฟลาวเวอร์’ ย่อสั้นๆ เหลือเพียงแค่ ‘ซัน’ ชื่อเล่นของ เด็กชายทานตะวัน ที่ทางบ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับดอกทานตะวัน
   

สวนหน้าบ้านของเขามีทุ่งทานตะวันทุ่งเบ้อเริ่ม พอเข้าช่วงเที่ยงทีไรแดดแรงๆ จะสาดลงมา สีเหลืองจะสะท้อนจนตาปวดแปลบๆ ซึ่งน้องซันก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ทำไมคนถึงได้ชอบเจ้าดอกไม้นี่นักหนา มองมากๆ ไม่แสบตาบ้างหรือ? ขนาดน้องซันมองทุกวันยังทนมองได้ไม่เกินสิบนาทีเลย
   

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนประถมพอดี ถึงจะอยู่จังหวัดสระบุรี แต่บ้านเกิดเขาก็คือกรุงเทพ เพราะคุณแม่ดันทุรังอยากจะทำไร่ดอกไม้เหลืองนี่ ถึงได้กระเตงเขาออกมาอยู่ไกลจากเมืองใหญ่ เสาร์อาทิตย์ว่างๆ ก็กลับเข้าไปที่บ้านใหญ่บ้าง แต่ช่วงนี้ไม่ได้กลับไปหลายเดือนแล้ว...
   

คุณพ่อของน้องซันเสียไปก่อนที่น้องซันจะเกิดเสียอีก ไม่เคยเห็นหรอกนะว่าคุณพ่อตัวจริงเป็นอย่างไร แต่น้องซันก็เอาไปอวดใครต่อใครได้ล่ะว่า คุณพ่อน่ะหล่อที่สุดในสามโลก!
   

“มัวแต่นั่งยิ้มอะไรอยู่ครับน้องซัน”
   

เสียงนุ่มๆ เอ่ยทักตามมาด้วยสัมผัสอุ่นบนศีรษะ น้องซันชะงักไปแล้วเงยหน้ามองคนที่เข้ามาขัดความคิดของเขา ก่อนจะต้องหรี่ตาลง เพราะยิ้มที่ถูกสาดมาให้นั่นสว่างจ้าจนแสบตาไม่ต่างจากสีทานตะวัน
   

“เข้ามาทำไมอ่ะ วันนี้คุณแม่ไม่อยู่บ้านหรอกนะ ออกไปเลย ชิ่วๆ ” พอระลึกได้ว่าใครก็ออกปากไล่อย่างเคยชิน ผู้ชายคนนี้นี่แหละที่ทำให้น้องซันไม่ได้กลับไปบ้านใหญ่หลายเดือนแล้ว พวกคนงานซุบซิบกันยกใหญ่ว่าคุณแม่อาจจะแต่งงานใหม่ แล้วเจ้าบ่าวในอนาคตนี่ก็คือคนตรงหน้าเขานี่แหละ
   

“น้องซันใจร้าย มาไล่กันแบบนี้ คราวหน้าจะไม่ซื้อขนมมาให้แล้ว” เสียงทุ้มนุ่มแสร้งทำท่าน้อยอกน้อยใจ ใบหน้าคมคายนั่นเบะปาก แล้วซุกจมูกโด่งจนขึ้นสันมาที่แก้มของเขาอย่างมันเขี้ยว
   

“ปล่อยนะ ปล่อย!” น้องซันตะโกนโวยวายพลางดิ้นสุดแรงเกิด พอหลุดออกมาจากมือปลาหมึกพวกนั้นได้ก็วิ่งจู๊ดหนีออกไปนอกบ้านทันที ไล่หลังยังมีเสียงหัวเราะขำขันตามมาหลอกหลอนให้เจ็บใจเล่นอีกต่างหาก
   

มาทีไรก็ชอบหยอกเขาแรงๆ อย่างเช่นทุกครั้งเสมอ ทำเหมือนเขาเป็นตุ๊กตายัดนุ่น บางทีก็ชอบซื้อเสื้อผ้ามาให้แล้วก็จับเปลี่ยน แถมยังถ่ายรูปเก็บไว้เป็นปึก แต่เขาก็ชินเสียแล้วล่ะ ถ้าคนคนนั้นจะเข้ามาเป็นคุณพ่อให้ น้องซันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ผู้ชายที่ตามตื้อคุณแม่มาได้หลายปีขนาดนี้มีไม่มากนักหรอกนะ
   

“น้องซัน! อย่าวิ่งไปไกลนักนะครับ!”


   




“ร...ร้อน”
   

ไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งออกมาไกลแค่ไหนแล้ว พอมารู้ตัวอีกทีรอบๆ ก็เต็มไปด้วยต้นทานตะวันสูงลิบ น้องซันใช้มือเล็กๆ แหวกลำต้นแล้วเดินเอื่อยอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่กลัวหลงสักนิด ก็นี่มันบ้านเขานี่นา...ทุ่งนี่เขาก็วิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้อยู่ประถมสามแล้ว ให้หลับตาเดินก็ยังได้เลย
   

“เป็นแค่ดอกไม้แท้ๆ ทำไมถึงสูงนักนะ” ว่าอย่างโมโหแล้วก็เขย่าลำต้นของทานตะวันโชคร้ายอย่างหงุดหงิด แขนขาก็เริ่มจะคันแล้ว กลับเข้าบ้านไปคงต้องอาบน้ำใหม่อีกรอบ
   

ครืน...
   

เสียงร้องครืนๆ ของฟ้าครึ้มทำเอาชะงักขา น้องซันเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ จู่ๆ ขาก็สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ก้าวไม่ออก ถึงจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ขยับ
   

อากาศร้อนอบอ้าว และอีกไม่นานสายฝนเย็นเฉียบอาจจะเทโครมลงมา... หากไม่รีบกลับบ้านล่ะก็เขาต้องเปียกแน่ๆ ถ้าเปียกก็จะไม่สบาย พอไม่สบายก็ต้องนอนซมทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ทำให้คุณแม่ต้องเป็นห่วง พอห่วงเขามากๆ งานก็จะเสีย น้องซันไม่เอาแบบนั้นหรอกนะ!
   

ครืน...เปรี้ยง!
   

“อึก!”
   

เสียงฟ้าฟาดดังสนั่น เขาทรุดตัวนั่งห่อเข่ากับพื้น สองมือเล็กๆ ยกขึ้นปิดหู ดวงตาสีเข้มคลอหน่วงหยดน้ำใสๆ เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว... น้องซันไม่ได้กลัวเสียงฟ้าผ่าหรอกนะ แต่ว่าทุกครั้งที่ได้ยินทีไร อาการพวกนี้ก็จะกำเริบทุกที ...ผวาจนเนื้อตัวสั่น หายใจไม่ทัน บางครั้งก็ร้องไห้จนหยุดไม่ได้
   

“อึก...” กลั้นก้อนสะอื้นแล้วสูดหายใจลึก พยายามบังคับขาสั่นๆ ของตัวเอง รวบรวมแรงทั้งหมดแล้วออกวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ฝนเม็ดเล็กๆ กำลังโปรยปรายลงมา หูแว่วยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองมาจากที่ไกลๆ
   

เปรี้ยง!
   

“หวา!!”
   

แสงสีขาวสว่างวาบจนตาพร่า พื้นที่ยืนอยู่คล้ายสั่นสะเทือนอย่างน่ากลัว ข้อขาสะดุดเข้ากับอะไรสักอย่างจนล้มคะมำ เสียงผ่าของฟ้าดังติดต่อกันอีกหลายครั้ง ก่อนที่สายฝนเย็นยะเยือกจะโปรยปรายลงมา
   

น้องซันได้แค่ห่อตัวร้องไห้อย่างทำอะไรไม่ได้ท่ามกลางต้นทานตะวันสูงชะลูด เสียงเรียกชื่อห่างออกไปไกลทุกที พยายามขานตอบเท่าไหร่ ความกลัวก็กระชากเสียงให้หายไปจากลำคอ
   

“อึก ฮึก...” สะอื้นแผ่ว ปลายนิ้วของเขาเย็นเฉียบจนปวดหนึบ ฝนกระหน่ำลงมาเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงซาซ่าดังก้องอยู่ในหู เนื้อตัวแสบซ่านไปหมด
   

เปรี้ยง!
   

เสียงฟ้าฟาดดังกึกก้องอีกครั้ง ทว่า...
   

“...เป็นอะไรหรือเปล่า?”
   

เสียงแหบห้าวไม่คุ้นหูดังขึ้นตัดกับเสียงกัมปนาทนั่น ไออุ่นจัดแตะลงบนท่อนแขน ความรู้สึกคล้ายกับมีใครสักคนช้อนตัวเขาขึ้นอุ้มนั้นทำเอาลืมกลัวไปชั่วขณะ นิ้วมือเย็นเฉียบโชกไปด้วยฝนลูบเข้าที่หลังศีรษะของเขาเบาๆ ไม่มีถ้อยคำปลอบโยนอะไร แต่ไออุ่นที่แบ่งปันมาให้ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
   

“เด็กผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอกนะ” คำพูดนั่นกระซิบเบาๆ อยู่เหนือศีรษะ น้ำเสียงติดจะขำปนเอ็นดูทำเอาเขาหน้าเบ้ ก่อนจะสะดุ้งโหยงมือกำเสื้ออีกฝ่ายแน่น เมื่อเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง
   

“กลัวเสียงฟ้าเหรอ?” คนปริศนานั่นเอ่ยปากถามเขาอีกครั้ง น้องซันพยักหน้าหงึกหงัก เสียงหัวเราะแผ่วดังขึ้นมาอีกครั้ง น้องซันเหลือบดวงตากลมขึ้นมองเจ้าของเสียง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อดวงตาสีน้ำผึ้งนั่นมองสบมา
   

“พี่เป็นใครอ่ะ...” ถามอย่างลืมตัว ถึงเขาจะจำคนงานในไร่ของคุณแม่ไม่ได้ แต่ต้องไม่มีใครที่หน้าตาแบบนี้แน่นอน เด็กหนุ่มที่มีดวงตาสีอ่อน ผิวขาวจัดเหมือนชีวิตนี้ไม่เคยโดนแดด เด่นสุดคงเป็นวงหน้าที่ไม่รู้ว่าน้องซันจะบรรยายอย่างไรดี เหมือนเคยเห็นหน้าแบบนี้จากที่ไหนมาก่อน ทว่านึกอย่างไรก็นึกไม่ออก...
   

“ใครงั้นเหรอ? ไม่รู้สินะ...” เจ้าตัวทำหน้าแปลกใจ ริมฝีปากแต้มสีอ่อนยกยิ้มบางมาให้ ก่อนจะลูบศีรษะเขาเบาๆ
   

“จำไม่ได้เหรอว่าตัวเองเป็นใคร?” ถามอย่างนึกสงสัย พลันต้องสะดุ้งโหยงเพราะเสียงฟ้าดังขึ้นมาอีกครั้ง
   

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่ตอนนี้กำลังสับสนอยู่น่ะ...ว่าจริงๆ แล้วตัวเองสมควรจะเป็นใครกันแน่...” ถ้อยคำชวนเข้าใจยากนั่นทำเอาน้องซันขมวดคิ้วมุ่น
   

“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย... จะเป็นแบบไหนก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่นา?” น้องซันก็เป็นน้องซันอยู่แบบนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องพยายามเป็นใคร หรือว่าโลกของผู้ใหญ่คงจะซับซ้อนเกินไป คุณแม่บอกว่าบางทีก็ต้องเรียนรู้อะไรให้สมกับวัย เพราะฉะนั้นเขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วกันนะ
   

“ยังไงล่ะ?” ใครคนนั้นถามพลางเริ่มออกเดิน น้องซันเอียงคอทำท่าคิด
   

“คุณแม่ชอบบอกว่า ‘แบบไหนทำแล้วสบายใจก็ทำๆ ไปเถอะ’ ”
   

“งั้นเหรอ?” เสียงห้าวหัวเราะขัน แววแห้งแล้งในดวงตาคู่นั้นคล้ายกับจะเจือจางลงเล็กน้อย
   

น้องซันซุกหน้าลงกับบ่ากว้าง ในหัวไม่ได้คิดสงสัยเลยว่า พี่ชายแปลกหน้ามาโผล่แถวนี้ได้อย่างไร และก่อนที่จะได้เอ่ยพูดอะไรออกไปอีกนั้นเสียงฟ้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง
   

สะดุ้งโหยงสุดตัวอย่างเช่นทุกครั้ง ก่อนที่เพลงละมุนจะดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน... เพลงที่เขาฟังไม่ออก แต่หวานนุ่มชวนให้ใจอบอุ่นดีเหลือเกิน... และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ดวงตาถึงค่อยๆ ปรือปรอยปิดลงอย่างช้าๆ โลกทั้งใบกลายเป็นสีดำ หูไม่ได้ยินแม้เสียงซาซ่า มีก็แต่เพลงนุ่มนั่นที่คลอไปกับฝันประหลาดของตัวเขาเอง


   




เสียงพูดคุยดังเบาๆ อยู่ข้างตัว น้องซันค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ปวดไปทั้งตัว ทั้งยังหายใจไม่สะดวก หนาวจนต้องซุกกายกับผ้าห่มหนา ภาพเบลอๆ แตกเละจนดูไม่รู้เรื่อง มึนอยู่นานจนสติชัดเจนขึ้น
   

“คุณแม่...” งึมงำเรียกมารดาที่นั่งอยู่ใกล้สุด เธอยิ้มมาให้ เอื้อมมือเย็นเฉียบมาทาบกับหน้าผากของเขา ห่างออกไปมีพี่ชายปริศนาซึ่งยืนพิงขอบประตูอยู่เงียบๆ คนที่เข้ามาช่วยเขานั่นเอง...
   

“พี่...” เอ่ยเรียกอย่างลืมตัว คนคนนั้นเอียงคอมองมาอย่างสงสัย แต่ก็ยอมเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งที่อีกฝั่งของเตียง น้องซันไม่ค่อยรู้นักหรอกนะว่าจะบรรยายท่าทีนั้นอย่างไร ถ้าหากจำกัดความได้สั้นๆ พี่ชายคนนี้ไม่ต่างจากพวกคุณชายในละครเลย
   

“เป็นยังไงบ้าง?” เสียงห้าวเอ่ยถาม นิ้วเรียวเกลี่ยอยู่ข้างแก้ม ท่าทางกับรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นนั้นทำเอาเขาอุ่นใจอย่างประหลาด ความรู้สึกเหมือนว่าจะมีพี่ชายปรากฏขึ้นมาในใจ และกว่าจะรู้ตัว ปากก็ขยับถามไปเอง...
   

“จะมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” ถามด้วยเสียงอ่อนแรง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกนะ แต่น้องซันแค่อยากให้คนคนนี้อยู่ด้วยกันอีกนานๆ ก็เท่านั้น
   

“อ้าว...ตื่นมาก็อ้อนพี่เขาเลยนะ” คุณแม่ว่าเสียงกลั้วหัวเราะ ชั่วแวบหนึ่งที่ดวงตาอบอุ่นนั้นเหลือบมองพี่ชายคนนั้น “จริงๆ แล้วพี่เขาจะมาอยู่ด้วยกันสักพักนะ” เธอว่าเสียงใจดี แต่น้องซันกลับยู่หน้า
   

“ตลอดไปเลยไม่ได้เหรอ?” มือเองก็คว้าแขนเสื้ออีกฝ่ายแน่น ใบหน้าละมุนส่งยิ้มบางมาให้เขา ไม่ได้มีคำพูดใด แต่เขาก็พอจะรู้คำตอบอยู่ “ทำไมอยู่กับน้องซันตลอดไปไม่ได้ล่ะ?” ถามอีกครั้งอย่างดื้อดึง
   

“พี่เขาอยู่ตลอดไปไม่ได้หรอกนะคะ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีกำหนดที่จะกลับเหมือนกัน” คุณแม่ว่าเสียงนุ่ม ก้มตัวลงจูบหน้าผากน้องซันเบาๆ แล้วก็หันไปพูดอะไรกับใครอีกคน ก่อนจะเดินถือกะละมังใบเล็กออกไปจากห้องซึ่งถูกทิ้งให้ตกอยู่ในความเงียบ
   

“พี่ชื่ออะไรเหรอ?” ถามทั้งที่เริ่มจะสะลึมสะลือ พลิกตัวเขยิบกายเข้าไปหาไออุ่นที่ไม่ได้ถอยหนีไปไหน
   

“ซัน” เสียงห้าว แต่ไม่ได้ระคายหูอะไรกล่าวตอบ น้องซันเบิกตากว้าง
   

“น้องซันก็ชื่อซันเหมือนกัน ซันที่มาจากคำว่า ซันฟลาวเวอร์”
   

“หืม...ดอกทานตะวันน่ะเหรอ?”
   

“อื้อ แล้วของพี่ซัน ย่อมาจากอะไร?” ถามอย่างสงสัย ในใจก็แอบลุ้นว่าให้ย่อมาจากคำเดียวกัน แต่ก็ต้องหน้ายู่ทันทีที่ได้รับคำตอบ
   

“ซันเฉยๆ ซันที่แปลว่า ดวงอาทิตย์” เด็กหนุ่มว่าเรียบเรื่อย แต่ก็ต้องเลิกคิ้วแปลกใจ เมื่อน้องซันที่แจ้วๆ มาตลอดกลับเงียบลงกะทันหัน เหลือเพียงแต่ใบหน้ามู่ทู่อย่างคนไม่พอใจเท่านั้น
   

“ทำไมต้องมีแต่น้องซันด้วยนะที่ชื่อไม่เท่เลย” ตีโพยตีพายแล้วก็อ้าปากหาว เพราะพิษไข้ทำให้เพลียหนัก และตอนนี้ก็เริ่มจะบังคับหนังตาต่อไปไม่ไหวแล้ว
   

“ดอกทานตะวัน...พี่ว่าเท่ดีออก”
   

“ยังไงอ่ะ...พี่ซันชอบพูดแต่เรื่องเข้าใจยาก...” บ่นงุ้งงิ้งพลางปรือตา เมื่อมืออุ่นๆ นั่นเอื้อมมาลูบศีรษะเขาเบาๆ จากที่ง่วงอยู่แล้วยิ่งง่วงหนัก ไม่นานนักก็เริ่มจะเคลิ้ม
   

“เพราะไม่ว่าพระอาทิตย์จะไปอยู่ตรงไหน ดอกทานตะวันก็จะมองตรงไปแค่ที่ตรงนั้นน่ะสิ” เสียงห้าวเบาหวิว ถ้อยคำที่ถูกถ่ายทอดสู่น้องซานเริ่มแผ่วลงไปทุกที
   

“ความยึดมั่นไม่สั่นคลอนนั่น...พี่เองก็อยากจะได้มาสักเสี้ยวเหมือนกัน...”
   

เขาไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดนั่นสักเท่าไหร่ รับรู้ก็แค่ว่าเสียงนั้นเศร้าเหลือเกิน อยากจะพูดอะไรออกไปสักอย่าง แต่เขาก็ฝืนลืมตาตื่นต่อไปไม่ไหวแล้ว
   

สติลับเลือนหาย สุดท้ายก็จมลงสู่นิทราฝัน...



.
.
.
(มีต่อ)

ออฟไลน์ ArgèntaR๛

  • "ความสุข" แบ่งปันได้
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
    • turelight's Fanpage
   


ฝันครานั้น...น้องซันฝันเห็นทุ่งทานตะวันทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แต่มันไม่ได้เต็มไปด้วยสีเหลืองที่เขาเกลียดอีกแล้ว... ดอกทานตะวันกลายเป็นสีขาว ก้านดอกและใบถูกทาด้วยสีดำ... โลกของสีขาวและสีดำกว้างใหญ่ บนท้องฟ้าไม่มีเมฆ ไม่มีแม้แต่นก หรือแมลงปอฝูงใหญ่ ไม่มีแม้แต่ดวงอาทิตย์ เป็นฟ้าโล่งๆ สีขาวไม่มีสิ่งใด
   

พลันลูกบอลก้อนกลมปริศนาก็ค่อยๆ ลอยละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้า ลูกบอลสีเทาๆ ริบหรี่ปราศจากแสงสีทอง... เหมือนก้อนขี้เถ้าที่ใกล้จะมอดดับ และนั่นก็ชวนให้รู้สึกหดหู่ขึ้นมาอย่างประหลาด
   

“น้องซัน! ตื่นค่ะลูก ร้องไห้ทำไมคะ ฝันร้ายเหรอ? โอ๋เอ๋ ไม่เอานะไม่ร้อง...”
   

เสียงสะอื้นฮึกฮักคือสิ่งแรกที่น้องซันได้ยิน จากที่หายใจยากอยู่แล้วยิ่งหายใจไม่ออก คุณแม่โอบกอดเขาแน่น ถ้อยคำปลอบแผ่วเบาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่นัก ดวงตากลมโตเปื้อนหยดน้ำใสๆ กวาดมองไปทั่วห้องตัวเอง แล้วชื่อแรกที่ร้องเรียกออกมาหลังตื่นจากฝันร้ายก็ทำเอาคนเป็นแม่ประหลาดใจ
   

“ฮึก พี่ซัน อึก อยู่ไหน...อึก ”
   

“ครับ?”
   

สิ้นเสียงร้องโยเย เสียงแหบห้าวก็ดังขึ้นขัด เขาถูกส่งให้อ้อมกอดแข็งแรงนั่น มือกำเสื้ออีกฝ่ายแน่นโดยอัตโนมัติ แผ่นหลังถูกลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน หูเองก็แว่วยินเสียงหัวเราะเอ็นดูจากมารดา
   

“เจอกันไม่ถึงวันก็ติดพี่เขาแจเชียว”
   

“คงเพราะชื่อเหมือนกันน่ะครับ” เด็กหนุ่มตอบ มุมปากยกยิ้มอ่อน
   

“พี่ซันมาจากไหน?” เขาโพล่งถาม จู่ๆ ก็นึกสงสัยขึ้นมา ทำไมคนคนนี้จู่ๆ ถึงโผล่มาท่ามกลางสายฝนกันนะ? เป็นภูตฝนหรือเปล่า? ถ้าเป็นภูตฝนล่ะก็...คงทำให้ฝนตกได้ทุกวัน แล้วน้องซันก็จะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน
   

“มาจากที่ไกลๆ ครับ” ฟังดูเหมือนแค่ตอบปัดๆ ไป แต่น้ำเสียงกลุ่มอุ่นนุ่มอย่างประหลาด
   

“ไกลมากไหม?” น้องซันขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำว่าไกลของอีกฝ่าย “หรือว่ามาจากบนฟ้า? พระอาทิตย์ก็ต้องมาจากฟ้าสิเนอะ?” พูดเออเองเสร็จสรรพไม่ฟังคำตอบ ก่อนจะดิ้นขลุกขลักลงไปนอนซุกกับเตียงอุ่นอีกครั้ง ตลบผ้าห่มขึ้นมาคลุมพลางมองคนสองคนในห้องตาแป๋ว
   

“ถ้าอย่างนั้นแม่ไปก่อนแล้วกัน ฝากดูแกหน่อยนะคะ...แล้วเท้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม” ประโยคท่อนแรกหันมาพูดกับเขา ส่วนท่อนหลังหันไปถามพี่ชายคนนั้น
   

น้องซันก้มลงมองเท้าของเด็กหนุ่ม ก่อนจะพบว่ามันพันด้วยผ้าพันแผล ยังมีเลือดซึมอยู่เล็กน้อย เห็นแล้วเขายังอดเจ็บแทนไม่ได้ น้องซันไม่เคยมีแผลใหญ่หรอกนะ แต่แค่โดนมีดบาดเขาก็น้ำตาซึมแล้ว
   

“ครับ พอยาชาหมดฤทธิ์แล้วก็เดินลำบากนิดหน่อย เจ็บอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร” พี่ซันยิ้มอ่อน ท่าทีนอบน้อมเหมือนหลุดมาจากในหนัง
   

“แล้วคืนนี้จะนอนที่ห้องรับแขกจริงๆ หรือคะ? ห้องนอนยังว่างอยู่อีกห้องแท้ๆ ”
   

“ไม่เป็นไรครับ อีกอย่างผมมารบกวนขนาดนี้ ห้องรับแขกก็มีโซฟากว้างอยู่ แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ แค่มีที่ให้พักก็เป็นพระคุณมากแล้ว” เจ้าของเสียงห้าวโค้งศีรษะลงให้กับคุณแม่ น้องซันมองท่าทีนั้น ก่อนจะลุกขึ้นคลานเข้าไปหาคนตัวสูง
   

“พี่ซันนอนห้องนี้ก็ได้” ว่าแล้วก็กอดแขนเจ้าของชื่อหนึบ
   

“แต่ว่า...”
   

“นะ นะ นะ น้า...” พอเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะปฏิเสธ น้องซันก็เริ่มใช้วิธีออดอ้อนอย่างที่ชอบทำ
   

คนตัวโตกว่าจ้องหน้าเขาอย่างไม่แน่ใจ ดวงตาสีน้ำผึ้งสวยเองก็เหลือบไปมองคุณแม่ซึ่งยังยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูห้อง
   

“แกอ้อนขนาดนั้นแล้ว ยังไงก็ขัดใจไม่ได้หรอกค่ะ”
   

แล้วฟูกพร้อมหมอนผ้าห่มก็ถูกนำมาวางไว้ข้างเตียงน้องซัน ทีแรกเขาก็ไม่ยอมหรอกนะ อยากให้พี่ชายขึ้นมานอนเตียงเดียวกันมากกว่า แต่เพราะว่าอาจจะติดหวัดกันได้ คืนนี้เลยยังต้องแยกที่นอนกันไปก่อน
   

น้องซันลืมตาโพลงในความมืด ไม่ได้รู้สึกง่วงงุนเลยสักนิด อาจเพราะนอนมาทั้งวัน ทั้งพิษไข้ก็เริ่มทุเลาแล้ว เสียอย่างเดียวตรงอากาศเย็นจัดจนทำให้ไม่อยากลุกออกจากผ้าห่มนุ่มๆ หูเองก็แว่วยินเสียงพลิกตัวของใครอีกคนซึ่งดังเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้
   

“พี่ซันนอนไม่หลับเหรอ?”
   

เสียงพลิกตัวพลันชะงักกึกทันทีที่เขาเอ่ยปากถาม น้องซันลุกขึ้นจากเตียง ชะโงกหน้าลงไปมองแผ่นหลังกว้างนั่น จริงๆ แล้วเขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้านัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเพิ่งเจอกันครั้งแรกแท้ๆ
   

“นี่...นอนไม่หลับเหรอ?” พอไม่เห็นปฏิกิริยาจากอีกคน น้องซันก็กระโดดผึงลงจากเตียง มือเล็กๆ ตรงเข้าไปเขย่าไหล่ของคนตัวโตกว่าเบาๆ
   

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ นอกจากกายสูงนั่นที่พลิกตัวหันกลับมา ดวงตาสีสวยสะท้อนแสงจากไฟด้านนอกดูแวววาว มือซึ่งประกอบด้วยนิ้วเรียวยกขึ้นลูบศีรษะของเขาเบาๆ ชวนให้เคลิ้มง่วงอย่างประหลาด
   

“ถ้านอนไม่หลับ เดี๋ยวน้องซันนอนเป็นเพื่อนให้ก็ได้” เขาว่าเสียงใส ก่อนจะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ทิ้งตัวนอนเบียดกับอีกคน ไออุ่นๆ ชวนให้รู้สึกดี
   

“เรานี่เอาแต่ใจจริงๆ ” เสียงห้าวหัวเราะแผ่ว และแม้จะยิ้มอยู่ แต่สิ่งที่น้องซันสัมผัสได้กลับรู้สึกว่าคนข้างๆ นี้ดูหงอยเหงาเสียเหลือเกิน
   

“นี่...พระอาทิตย์ดับได้หรือเปล่า?” ถามออกไป เพราะจู่ๆ ก็นึกถึงความฝันขึ้นมา
   

“ดับได้สิครับ” คนที่ชื่อเดียวกับพระอาทิตย์ตอบเขาเสียงนุ่ม
   

“ทำไมล่ะ? พระอาทิตย์ดวงเบ้อเริ่ม สว่างจ้าจะตาย” แถมร้อนด้วย ยิ่งวันไหนที่แดดแรงๆ เขาแทบไม่อยากกระดิกตัวไปไหนเลย
   

“ก็มันกำลังเผาตัวเองอยู่ยังไงล่ะ เลยได้แสงสว่างจ้าแบบนั้น”
   

“จริงอ่ะ?” น้องซันตาโต ความรู้ใหม่ที่ได้รับวันนี้ทำเอารู้สึกสงสารพระอาทิตย์ขึ้นมาหน่อยๆ ...ถ้าแบบนั้นก็ต้องเจ็บแย่เลยสิ ว่าไหม?
   

“แถมแสงที่ได้ยังจ้าบาดตาจนไม่มีใครอยากมองตรงๆ ด้วย...” ความเจ็บปวดฉายชัดอยู่บนดวงตาสีน้ำผึ้งคู่นั้น มุมปากสีสวยยกยิ้มอ่อนให้เขา แต่เป็นยิ้มแสนเศร้าที่ชวนให้ใจหดหู่เหลือเกิน
   

“ไม่จริงหรอกนะ” น้องซันว่าเสียงเข้ม พยายามเลียนแบบท่าทางของคุณครูสอนคณิตเวลาจะดุเด็กๆ
   

“ครับ?”
   

“ทานตะวันยังไงล่ะ”
   

“หือ?” คราวนี้เป็นฝ่ายคนตัวโตกว่าบ้างที่เลิกคิ้วสงสัย
   

“ก็พี่ซันบอกเองนี่นาว่า ไม่ว่าพระอาทิตย์จะไปอยู่ตรงไหน ดอกทานตะวันก็จะมองตรงไปแค่ที่ตรงนั้นน่ะ” น้องซันพูดเสียงซื่อ ก่อนจะต้องสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆ คนข้างตัวก็หัวเราะออกมากะทันหัน
   

“เรานี่มัน...” เสียงแหบห้าวติดๆ ขัดๆ อ้อมแขนแข็งแรงคว้าเขาเข้าไปกอดแน่น ไหล่กว้างนั่นสั่นเทิ้มเหมือนคนที่พยายามจะกลั้นขำเอาไว้เต็มที่
   

“ขอบคุณนะครับ... ขอบคุณจริงๆ ”
   

น้องซันไม่รู้หรอกนะว่าอีกฝ่ายขอบคุณเขาเรื่องอะไร แต่แค่คนตรงหน้ายิ้มได้ขนาดนั้นก็ดีแล้ว
   

คืนนั้นพี่ซันเล่าเรื่องมากมายให้เขาฟัง ทั้งเมืองแปลกๆ ทั้งหิมะ สารพันอย่าง อย่างกับวิ่งอยู่ในโลกความฝัน และก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน รู้ก็แค่ว่าในความฝันของเขามีทุ่งทานตะวันกว้างใหญ่กับพระอาทิตย์ดวงเล็กๆ ที่แผ่แสงอบอุ่น
   

เป็นอาทิตย์ที่นวลตา และอ่อนโยนเหลือเกิน...


   




“ต้นไม้ต้นเบ้อเริ่มเลย!”
   

เสียงใสๆ ดังขึ้นท่ามกลางเสียงน้ำตก ป้ายทางเข้าอุทยานเด่นหราอยู่ตรงหน้า ขาเล็กๆ วิ่งปร๋อเข้าไปโดยไม่รอคนซึ่งเดินตามอยู่ข้างหลัง
   

น้องซันกระโดดหยองแหยง ตากลมๆ เงยมองต้นไม้ขนาดยักษ์ประกอบเสียงน้ำตก อากาศในนี้เย็นกว่าด้านนอก บรรยากาศชื้นๆ ชวนให้รู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด และเพราะมัวแต่ดีใจจนเกินเหตุ ถึงได้วิ่งสะดุดหินก้อนเล็กๆ จนล้มโครมไปกับพื้น...
   

“ซัน!”
   

เสียงแหบคุ้นหูตะโกนลั่น ร่างของเขาถูกพยุงให้ลุกขึ้นจากพื้น ดวงตากลมคลอหน่วงด้วยน้ำตา ปากเล็กๆ เม้มแน่น ในขณะที่มือใหญ่ค่อยๆ ปัดเศษฝุ่นและใบไม้ตามตัวออกให้
   

“มีแผลหรือเปล่า” เสียงของคุณแม่ดังมาไกลๆ น้องซันส่ายหน้าหงึกหงัก มือเองก็จับนิ้วคนตัวสูงกว่าแน่น คงไม่กล้าวิ่งไปนู่นมานี่อีกสักพัก
   

วันนี้พวกเขาพาพี่ซันมาเที่ยวที่อุทยานมวกเหล็ก น้องซันเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่งสมัยยังเล็กมากๆ และก็จำอะไรไม่ได้หรอกนะ มาคราวนี้เลยเหมือนมาเปิดโลกกว้าง และธรรมชาติสวยๆ ก็ทำเอาเขาตาโต
   

เสียงแจ้วๆ ชี้มือชี้ไม้ไปตลอดทาง น้ำตกขนาดไม่ใหญ่ส่งเสียงซาซ่า โขดหินเรียงซ้อนเป็นชั้นเตี้ยๆ เหมือนในตู้ปลาที่บ้าน มีบ้างบางโขดเป็นผาสูงดูน่ากลัว ซึ่งคุณแม่ก็กำชับเสียงเข้มว่าห้ามเข้าไปใกล้จุดนั้น
   

พวกเขาปูเสื่อนั่งกันตรงริมน้ำตกใต้ร่มไม้ครึ้ม คนบางตา แต่เขาสังเกตได้นะว่าพวกผู้หญิงเหลือบมองมาทางพี่ซันบ่อยๆ ก็คนคนนี้หน้าตาดีน้อยซะเมื่อไหร่ มองไกลๆ ก็สว่างจ้าเสียแบบนั้น สมกับเป็นพระอาทิตย์จริงๆ
   

คนตรงหน้าอยู่กับเขามาได้ครบอาทิตย์หนึ่งแล้ว และเพราะพี่ซันเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน วันนี้กว่าจะกล่อมให้ออกมาเที่ยวได้ น้องซันต้องใช้สารพันวิธี ทั้งอ้อน ทั้งงอแง กว่าจะทำให้พระอาทิตย์ใจแข็งยอมใจอ่อนให้ก็เหนื่อยแทบแย่
   

“ไปเล่นน้ำกัน” ฉุดมือใหญ่ให้อีกฝ่ายลุกขึ้นจากเสื่อ คุณแม่มองมาที่เขาพลางอมยิ้มเล็กๆ
   

พี่ซันยอมตามมาแต่โดยดี คนตัวสูงพับขากางเกงขึ้นจนพ้นหน้าแข้ง ท่าทางเก้ๆ กังๆ เหมือนจะไม่ชินกับอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่
   

“พื้นมันลื่นนะ น้องซันระ... !”
   

ซ่า!
   

เสียงน้ำสาดกระจายดังลั่น เขาหันขวับไปมองต้นเสียง ก่อนจะต้องหัวเราะ เมื่อคนที่เพิ่งจะเอ่ยปากเตือนไปเมื่อครู่กลับลื่นหินล้มลงไปแทน กายสูงเปียกโชกจนเสื้อสีขาวเนื้อบางแนบลู่ไปกับร่างกาย หูแว่วยินเสียงวี้ดว้าย และนั่นก็ทำเอาเขาหน้ามุ่ย ก่อนที่ขาเล็กๆ พาตัวเองวิ่งเข้าไปหาคนที่ยังนั่งสำลักน้ำอยู่บนพื้น
   

“ย้ายที่เล่นกัน”
   

“ทำไมครับ?” คนถามเสยผมไปข้างหลัง ดวงหน้าขาวสะอาดมีหยดน้ำเกาะพราว ตาสีน้ำผึ้งกวาดมองไปรอบๆ เหมือนหวาดระแวงบางอย่าง
   

น้องซันเอียงคอมองท่าทีนั้น จริงๆ แล้วพี่ซันก็มีท่าทีกระสับกระส่ายตั้งแต่ออกมาจากบ้านแล้ว ถึงจะแสร้งยิ้มสนุกสนานเฮฮากับเขาก็เถอะ...
   

“ไม่ชอบให้ใครมามองพี่ซันเลย” ว่าเสียงหงุงหงิง ไม่เข้าใจความนัยจากประโยคที่ตัวเองพูดหรอก แต่เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
   

“อะไรกัน เดี๋ยวนี้มีหวงด้วยเหรอ” เด็กหนุ่มพูดเสียงกลั้วหัวเราะ มือใหญ่ยกขึ้นยีศีรษะเขาจนผมยุ่งไม่เป็นทรง
   

“ก็หวงอ่ะ!” น้องซันโวยวาย หน้ายู่กว่าเดิม ก่อนจะต้องชะงักกึก เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งที่คล้ายจะหลุดออกมาจากในหนังสืบสวนที่คุณแม่ชอบดู
   

“น้องซันครับ...มีอะ...” เสียงห้าวพลันเงียบหาย เมื่อดวงตาสีสวยหันไปมองตามทิศที่เขาเพ่งไป
   

จู่ๆ บรรยากาศก็คล้ายกับจะกดดันขึ้นมา พี่ซันลุกขึ้นจากน้ำ เสียงแหบห้าวกระซิบกับเขาแผ่วๆ ว่าให้รออยู่ตรงนี้ เมื่อชายปริศนามองเห็นพวกเขาแล้ว และกำลังเดินเข้ามาหา
   

“คุณซันครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อคนข้างตัว
   

น้องซันยืนนิ่ง มองภาพแผ่นหลังเปียกโชกของพี่ซันซึ่งกำลังเดินตามคนปริศนานั่นไป... ใบหน้าของพระอาทิตย์ไม่ได้แย้มยิ้มอีกแล้ว แต่มันดูเรียบนิ่งเย็นชาเหมือนกับเป็นคนละคน...
   

คุณแม่วิ่งเข้ามาหา อุ้มเขาขึ้นจากน้ำ ย้ำเสียงเครียดว่าอย่าวิ่งไปไหนไกล ก่อนจะเดินตามเข้าไปสมทบกับสองคนนั้น น้องซันกำมือแน่น อยากจะเข้าไปร่วมด้วยอยู่หรอก แต่เขาเองก็พอจะรู้ว่าควรอยู่ตรงไหน แล้วสิ่งที่สัมผัสได้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องดี
   

คุณแม่เหมือนพยายามจะพูดอะไรสักอย่างกับชายปริศนา แต่ดูไม่เป็นผล พี่ซันเอาตัวเองมาขวางเธอไว้ พร้อมพูดอะไรสักอย่างกับผู้ชายคนนั้น ก่อนที่เดินแยกออกมาหาเขาที่นั่งอยู่ ส่วนคุณแม่เองก็เอาแต่ยืนหน้าเครียดอยู่แบบนั้น
   

“กลับกันเถอะครับ ดูท่าคงต้องมาเล่นน้ำตกกันวันหลังแล้วล่ะ”
   

เสียงแหบห้าวพูดกับเขา มือใหญ่ฉุดแขนเขาขึ้นมา ก่อนจะพาเดินกลับไปที่รถ น้องซันเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง อยากจะชวนคุยสารพันเรื่อง แต่ก็ต้องเงียบเสียงลง ใจเขาวูบโหวงอย่างประหลาด
   

รู้สึกคล้ายกับว่าอีกไม่นานคงต้องลาจากกัน...


   




บนโต๊ะอาหารวันนี้ดูจะมีของเยอะแยะกว่าเดิม น้องซันตาโตทันทีที่เห็นปลาทอดตัวใหญ่ พี่ซันกับคุณแม่พูดคุยและหัวเราะ สองคนนั้นเอาอกเอาใจเขากว่าทุกที เอาเสียลืมไปเลยว่าเมื่อกลางวันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง
   

หลังจากกินจนอิ่ม อาบน้ำเรียบร้อย น้องซันก็กระโจนลงเตียงที่มีหมอนอยู่สองใบ กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่แบบนั้น ก่อนจะเคลิ้มง่วงอยู่หน่อยๆ เมื่อศีรษะถูกลูบด้วยมืออุ่น
   

“ราตรีสวัสดิ์ครับ” หน้าผากถูกกดด้วยจูบก่อนนอน พักนี้ชักจะชินเสียแล้วกับการกระทำแบบนี้
   

ไฟหัวเตียงถูกดับ ห้องตกอยู่ในแสงสลัว ก่อนที่เสียงเพลงเพราะๆ จะดังกล่อม...
   

เขาปรือตาปิด แต่ก็ยังไม่ได้หลับไปเสียทีเดียว สะลึมสะลือ... ก่อนจะพบว่าแรงยุบยวบจากข้างเตียงจางหายไป เสียงเปิดปิดประตูดังแผ่ว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
   

น้องซันลุกขึ้นจากเตียง หูแว่วยินเสียงฟ้าร้องเบาบาง ดวงตากลมมองเลยออกไปนอกหน้าต่าง ต้นทานตะวันกำลังพัดไหวลู่ไปกับลมแรงกระหน่ำ เขาทิ้งปลายเท้าลงกับพื้นไม้อุ่น เดินช้าๆ ไปที่ประตูห้อง ค่อยๆ แง้มมันออกก่อนจะต้องชะงักกึก
   

“ไม่บอกแกจะดีหรือคะ?” เสียงของคุณแม่แว่ววานมา
   

“ถ้าบอก...เขาคงไม่ยอม” ตามด้วยเสียงของพี่ซันดูเศร้าซึมไม่ต่างจากวันแรกที่เขาได้เจอ
   

“พรุ่งนี้เช้าสินะคะ?”
   

“ครับ... ต้องขอบคุณมากจริงๆ ที่คุณยอมให้เด็กหนีออกจากบ้านอย่างผมได้พักที่นี่ ขอบคุณจริงๆ ครับ...”
   

น้องซันยืนนิ่ง มือกำลูกบิดแน่น น้ำตามันเหมือนจะเอ่อขึ้นมา สุดท้ายก็ตัดสินใจผลักประตูออกไป... และคนสองคนในห้องนั่งเล่นก็สะดุ้งเฮือกทันทีที่เห็นเขา
   

“พี่ซันจะไปไหน?” เขาถาม น้ำตาร่วงเผาะอาบสองแก้ม “จะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม?” ยิ่งพูดยิ่งสะอึกสะอื้น เขาเกลียดการจากลาเหลือเกิน เมื่อคิดว่าคนตรงหน้าจะไม่อยู่ด้วยกันแล้วก็อดเศร้าขึ้นมาไม่ได้
   

“พี่ต้องกลับแล้วครับ ชู่ว...ไม่ร้องนะ” กอดอุ่นๆ ถูกส่งมาให้ และนั่นก็ทำเอาเขาร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม
   

“ไม่...ไม่กลับไม่ได้เหรอ?” เขาถาม “อยู่กับน้องซันตลอดไปเลยไม่ได้เหรอ?”
   

“ขอโทษครับ...ถึงจะอยากทำแบบนั้น แต่พี่ก็ต้องกลับไป“ เสียงห้าวปลอบแผ่วพลางอุ้มเขาขึ้นจากพื้น แล้วพาเดินกลับเข้าไปในห้อง คุณแม่ที่ยืนอยู่ไกลๆ ได้แต่ส่งยิ้มอ่อนมาให้พวกเขาทั้งคู่ ท่าทางของเธอเองก็คงไม่อยากให้พี่ซันจากที่นี่ไปสักเท่าไหร่นัก
   

“ทำไมต้องกลับล่ะ...” เขาถาม สมองคิดไปถึงการเจอกันครั้งแรกที่กลางทุ่งทานตะวันนั่น
   

“พี่หนีบางอย่างมาน่ะ แต่ว่าตอนนี้จะกลับไปสู้กับมันใหม่ น้องซันไม่อวยพรหน่อยเหรอ? อวยพรให้พี่ชนะ...” เด็กหนุ่มวางเขาลงกับเตียง ก่อนจะนั่งคุกเข่ากับพื้นไม้ ดวงตาสีน้ำผึ้งสวยทอดมองมา พร้อมกับมือใหญ่ที่ช่วยเช็ดน้ำตาให้
   

“ไม่เอา” เขาส่ายหน้าดิก “ฮึก...ไม่อยากให้พี่ซันไปเลย” ว่าแล้วก็ปล่อยโฮลั่นยิ่งกว่าเดิม ปิดตาแน่น ไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้ว ก่อนจะต้องสะดุ้ง เมื่อวัตถุเย็นเฉียบถูกสวมเข้าที่คอ...
   

“นี่ไง ทีนี้พี่ก็อยู่ข้างน้องซันตลอดไปแล้ว ไม่เอาไม่ร้องนะครับ ถ้าไม่อยากอวยพร...แค่ช่วยยิ้มกว้างๆ ให้พระอาทิตย์ดวงนี้หน่อยเนอะ”
   

สร้อยคอสีเงินกับจี้รูปพระอาทิตย์ที่เคยอยู่บนคอของอีกฝ่าย ตอนนี้มันถูกสวมให้เขาเสียแล้ว น้องซันนิ่งงันไป เม้มปากแน่น เขาพอจะเข้าใจอยู่ว่า งอแงอย่างไรเสีย สุดท้ายคนตรงหน้าก็คงต้องจากไปอยู่ดี... ไม่ช้าก็เร็ว สุดท้ายก็ต้องยอมรับ
   

“ยิ้มหน่อยนะครับ” เสียงแหบห้าวยังคงกล่อมเขาต่อไป “ยิ้มหน่อยนะเด็กดี นะ นะ นะ” ว่าแล้วก็กอดเขาหมับ จมูกโด่งสวยหอมฟอดเข้าที่ข้างแก้ม จั๊กจี้จนต้องหลุดหัวเราะออกมา พอเห็นท่าทีแบบนั้น คนตัวโตก็แกล้งจี้เอวเขาเล่นยกใหญ่ น้องซันหัวเราะเสียงใส ลงไปดิ้นขลุกขลักกับเตียง ก่อนจะยิ้มออกมาให้ใครอีกคนได้จริงๆ
   

“ขอให้ชนะ... พี่ซันทำได้อยู่แล้ว” เขาชูสองนิ้วให้คนตรงหน้า
   

ดวงตาสีสวยนั่นเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มอ่อนโยนมาให้ คนตัวสูงทิ้งกายลงกับเตียง ดึงเขาเข้าไปกอดอย่างที่ชอบทำ เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะดังอยู่ข้างหู รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก และเสียดายไปในเวลาเดียวกัน... เพราะว่าวันพรุ่งนี้คงจะไม่ได้ยินเสียงนี้อีกแล้ว
   

“โชคดีจริงๆ นะที่ได้มาเจอกับเรา” มือใหญ่ยกขึ้นลูบศีรษะน้องซันอย่างที่ชอบทำ เห็นบอกบ่อยๆ ว่าผมของเขานุ่มมือเหมือนขนแมวดี
   

“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ลืม” เขาโพล่งถามออกไป ลุ้นระทึกหน่อยๆ กับคำตอบ
   

“ครับ...สัญญา”
   

คืนนั้นเรื่องเล่ามากมายที่ผ่านเข้ามาตลอดหนึ่งอาทิตย์ถูกนำมาเล่าใหม่อีกครั้ง เสียงหัวเราะดังแผ่ว ก่อนที่จะเงียบหาย เมื่อแต่ละคนจมลงสู่นิทรา เสียงฝนโปรยปรายอยู่ด้านนอก และน้องซันก็รู้อยู่เต็มอกว่าวันพรุ่งนี้...สายฝนพรำก็จะพาดวงอาทิตย์อุ่นๆ ของเขาไปด้วย
   

เช้าวันต่อมาที่ลืมตาตื่น แสงแดดส่องอ่อนๆ เข้ามาภายในห้อง ข้างเตียงไม่มีใครอีกคนต่อไปแล้ว... สายฝนจากเมื่อคืนเหลือเพียงหยาดน้ำเป็นประกายไล้กับกลีบทานตะวัน ลมเย็นๆ โชยอ่อน... และพระอาทิตย์บนฟ้าแลดูสว่างไสวกว่าทุกที
   

ไม่มีแม้ถ้อยคำบอกลาใดๆ ทว่าความรู้สึกที่สัมผัสได้ก็ทดแทนคำพูดนั้นไปจนหมดสิ้น... เพราะพระอาทิตย์ดวงนั้นไม่ได้จากน้องซันไปไหนไกลเลย และสักวันเขาเองก็เชื่อว่าจะได้พบกันอีก... ไม่ช้าก็เร็ว ในอนาคตที่ต้องดำเนินหมุนเวียนต่อไป
   

“น้องซัน...ตื่นหรือยังคะ?”
   

เสียงของแม่ตะโกนเข้ามา แว่วยินเสียงพูดคุยของผู้ชายอีกคนที่ดูท่าว่าจะยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะจีบเธอ น้องซันยิ้มร่าให้กับประตูห้อง ดวงตาหันออกไปมองนอกหน้าต่าง จ้องพระอาทิตย์ยามเช้าด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะขานรับคุณแม่เสียงใส
   

“ตื่นแล้วคร้าบ!”


‘เพราะไม่ว่าพระอาทิตย์จะไปอยู่ตรงไหน
ดอกทานตะวันก็จะมองไปแค่ที่ตรงนั้นยังไงล่ะ’
.
.
.


   


“นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป ให้ตายเถอะ...คนเรานี่มันคาดเดายากจริงๆ ว่าไหมซัน?”
   

เสียงใสๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบลอยอยู่ข้างหูเขา ทำเอามือที่กำลังพิมพ์เอกสารเป็นระวิงพลันต้องหยุดชะงัก ดวงตาสีเข้มสวยตวัดมองเพื่อนสนิท ก่อนจะต้องถอนหายใจเฮือก
   

“อู้บ่อยๆ ระวังฝึกงานไม่ผ่านนะ”
   

“นี่ เมื่อเช้าได้ดูข่าวหรือเปล่า” เธอเหมือนยังไม่สนใจ ไม่วายยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเขาเก็บไว้อีกแน่ะ
   

ซันยกยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างระอา ใบหน้าคมคายยังจับจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์เครื่องเดิม พยายามไม่สนใจเสียงวี้ดว้ายของผู้หญิงข้างๆ ทั้งที่คิ้วเข้มสวยขมวดมุ่นนิดๆ
   

“ดาราที่โมเมว่าเป็นแฟนกับลูกชายเจ้าพ่อค้าเพชร เพิ่งโดนเจ้าตัวปฏิเสธกลางงานแถลงข่าวแหละ” เธอว่าแล้วก็หัวเราะสะใจ “หนุ่มหล่อแต่ปากร้ายสุดๆ ซันเคยเห็นหรือเปล่า? ขนาดมองรูปยังรู้เลยว่าตัวจริงต้องร้ายมากแน่ๆ ”
   

“เราไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอก กลับไปทำงานเถอะ เดี๋ยวเราเอาเอกสารไปส่งก่อน” ว่าเสียงขันพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ หอบแฟ้มที่เพิ่งเรียงเสร็จขึ้นมาในอ้อมแขน กายเหยียดตรงเต็มความสูง
   

“นี่ ถามอย่างสิ ทำไมซันไม่มีแฟนสักที จะเรียนจบแล้วนะ” คำถามประหลาดถูกส่งมา เหมือนจะรั้งเขาไว้ไม่ให้เดินหนี
   

“ก็...คู่แท้ยังไม่โผล่มาสักทีมั้ง” เขายกยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันหลังเดินจากมาอย่างรีบๆ
   

เสียงรองเท้าหนังดังก้องไปตามโถงทางเดินไร้คน แสงแดดจากหน้าต่างสูงจรดเพดานส่องอาบทางเดินสีขาวจนนวลทองหน่อยๆ เขาอดที่จะหันไปมองท้องฟ้าวันนี้ไม่ได้ ...ไม่รู้ว่าติดนิสัยมองฟ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงแค่ว่ามองมันทีไร เรื่องราวสมัยเด็กก็ผุดวาบขึ้นมาในหัวทุกครั้ง
   

จู่ๆ หยาดฝนก็เทโครมลงมาทั้งที่แดดยังแผดเปรี้ยงอยู่แบบนั้น เขาเผลอหลุดหัวเราะออกไป วันนี้ดูจะมีแต่อะไรๆ ที่ชวนให้รำลึกถึงความหลังเสียจริง...
   

“คิดถึงจังเลยน้า...” บ่นพึมพำกับตัวเอง ขาก็ยังก้าวเดินต่อไป และเพราะมัวแต่ดูวิวข้างทาง ถึงไม่ทันได้ระวัง...
   

ปึก! โครม!
   

“!”
   

แฟ้มหนาร่วงกระจายเกลื่อนพื้น พอๆ กับที่ร่างของเขาลงไปจ้ำเบ้าอย่างทรงตัวไม่อยู่ ผิดกับอีกฝ่ายที่แค่เซเสียหลักไปเท่านั้น ...อย่างกับฉากในละครหลังข่าว ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเกิดกับตัวเอง
   

“ข...ขอโทษครับ” รีบเอ่ยขอโทษออกไปอย่างเคยชิน แค่เหลือบเห็นว่าอีกฝ่ายใส่สูทสีเข้มเรียบกริบ เขาก็พอจะรู้แล้วว่า ฐานะของคนตรงหน้าต้องสูงพอตัว เอาซะไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ได้แต่กุลีกุจอก้มลงเก็บข้าวของของตัวเอง และโดยที่ไม่ทันได้ระวัง สร้อยสีเงินที่ใส่ติดคอมาเป็นสิบปี จู่ๆ ก็หลุดจากตะขอ หล่นแกร๊กลงกับพื้นขาว
   

รีบเอื้อมมือไปหยิบกลับมา แต่เหมือนคนตรงหน้าจะเร็วกว่า มือใหญ่นั่นช้อนเอาจี้พระอาทิตย์ขึ้นไปถือไว้ และตอนนั้นเองที่เขาจำต้องเงยหน้าขึ้น เพื่อร้องขอให้อีกฝ่ายคืนมันมา
   

“นั่นของ... ผม...”
   

เหมือนเสียงจะโดนดูดหายไปอย่างลึกลับ... เวลาเหมือนหยุดค้างอยู่ชั่วขณะ... ไม่ใช่เพราะว่าผู้ชายตรงหน้าเหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารเสื้อสูทหรูระยับ หรือหน้าตาดีจัดจนหัวใจกระตุก ทว่าดวงตาสีน้ำผึ้งคู่นั้นต่างหากที่สะกดเขาจนนิ่งงัน
   

หัวใจเหมือนกำลังเต้นกระหน่ำ คำพูดมากมายคล้ายจะถ่ายทอดออกไปท่ามกลางความเงียบ... และเขาซึ่งควานหาเสียงของตัวเองอยู่ได้ก็เป็นฝ่ายทักทายออกไปก่อน
   

“สวัสดีครับ...”
   

มุมปากสีสวยบนดวงหน้าคมเข้มดูดุนั่นหยักยิ้ม ก่อนที่เสียงทุ้มหนักจะเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล...
   

“สวัสดี”


.
.
.
นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
พบเจอกันอย่างง่ายๆ และจากไปอย่างง่ายๆ
แต่ไม่ว่าจะจากกันไปอีกสักกี่ครั้ง สุดท้ายก็จะกลับมาบรรจบกัน
...อย่างง่ายๆ
บนโลกสีเหลืองสดซึ่งอาบด้วยแสงจากอรุณใบนี้


ตราบเท่าที่พระอาทิตย์ยังคงส่องแสง และทานตะวันยังชูช่ออยู่ที่เดิม
ซัน ที่มาจากคำว่า ดอกทานตะวัน
กุมภาพันธ์ 7, 2014

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นเรื่องที่สุดยอดมากจริงๆค่ะ  สำนวนภาษาลื่นไหล ชวนติดาม เนื้อเรื่องดำเนินได้ดี ในตอนเเรกคิดว่าพระเอกเป็นมนุษย์ดาวพระอาทิตย์เสียอีก 555
เสียดายที่เป็นเรื่องสั้นนะค่ะ มันเป็นความรักที่ละมุนอบอุ่นเหมือนเเสงอาทิตย์ยามเช้า มโนไปนั่น 555 สถานที่ในเรื่องเป็นโลเคชั่นของ จังหวัด สระบุรี ยไม่เคยมีโอกาสได้ไป อ่านเเล้วอยากไปมากเลยค่ะ เยี่ยมจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
กว่าพี่ซันกับน้องซันจะได้เจอกันก็เล่นเอาซะน้องซันเป็นหนุ่มเลยนะ

ออฟไลน์ theG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เพิ่งเห็นว่ามีเรื่องนี้เลยเพิ่งได้เข้ามาอ่าน
เห็นด้วยกะเม้นก่อนหน้าว่าเสียดายจังเลยค่ะที่เป็นแค่เรื่องสั้น อยากให้เรื่องนี้ยืดๆยาวๆออกไปอีก ยังไม่ทันได้รู้จักพี่ซันเท่าไหร่เลย พอได้เจอกันอีกครั้งต่องละมุนมากแน่ๆ จินตนาการไปไกลละค่ะ งื้อออ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ lukYRKM

  • Yesung ♥ Ryeowook | Kyuhyun ♥ Sungmin | FOREVER!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากอ่านแบบเรื่องยาว คงละมุนน่าดู ความรัก(?)ความผูกพันธ์ในวัยเด็ก หลังจากที่น้องซันกับพี่ซันเจอกันอีกทีคงหวานละมุนมากแน่ๆ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านจบแล้วอบอุ่นหัวใจ
การรอคอยคุ้มค่าเสมอเลยเนอะซันๆ
 :L2:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อ่านแล้วก็จิ้นกันไป 555  :hao7:  แต่พี่ซันไม่กลับมาหาน้องซันเลยร่วม 10 ปี... น้องยังจำได้นี่ถือว่าโชคดีแล้วนะพี่ซันนะ

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือดีงามมากเรื่องนี้
ภาษาสวย เนื้อเรื่องละมุน ตัวละครน่ารัก
เราชอบฟีลดอกทานตะวันกับพระอาทิตย์นะ อ่านแล้วเพลินมาก อยากให้เป็นเรื่องยาวเลย
แต่งดีจริงๆค่ะ   o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2016 18:44:19 โดย peaceminus1 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สนุกกกกก ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ตามต่อด้วย  :mew1: :mew1: :mew1:
เจอกันแล้วสินะ พี่ซัน น้องซัน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องซันน่ารัก

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกค่ะ น่ารักมาก
แอบหวังอยากให้เป็นเรื่องยาว  :katai5:

ออฟไลน์ noonit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราไปอยู่ไหนมา...ทำไมเพิ่งมาเจอกัน ภาษาสวยมากค่ะ
ดึงความรู้สึกให้อินตามอย่างไม่ยากเลย น้องซันน่ารักมากจริงๆ พี่ซันก็ผู้ชายอบอุ่น(กับน้องซันคนเดียวรึเปล่าน้อ) ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นดีๆอีกเรื่องค่ะ

ออฟไลน์ TanyaWikit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากมากนะคะ เรื่องนี้
เนื้อเรื่อง ดำเนินมาได้อย่างน่าติดตาม อ่านไปคิดตามไป
เสียดายที่เป็นเรื่องสั้น พล็อตแบบนี้ ทำเรื่องยาวต่อไหมคะ
เดี๋ยวตามไปอ่านเรื่องอื่นของ นักเขียน ก่อนนะคะ

ชอบมากค่ะ
ปล. มาช้า ดี กว่า ไม่มา .... อ่านช้ากว่าคนอื่น ดีกว่าไม่ได้อ่านจ้า

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
หู้ยยยเจอกันแล้ววววว อยากได้ตอนพิเศษจัง ภาษาสวย อ่านลื่น สนุกอ่ะ น้องซันน่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด