โคลงที่ ๑๓
๒๙ กันยายน ๒๕๕x
๑๒.๑๑ น.
พักเที่ยงของวันใกล้สอบ สัปดาห์หน้าแล้วครับ ชีวิตม.ปลายก็จะจบไปอีก ๑ เทอม เหลือเทอมสุดท้ายที่เราจะพ้นจากภาระการเป็นนักเรียนขาสั้น ช่วงนี้ผมไปเล่นบาสบ้าง เดินบ้าง ไปว่ายน้ำบ้าง แต่ใช้เวลาไม่นาน ชมรมกีฬาต่างๆก็ไม่ค่อยซ้อมกันแล้วครับ ปล่อยให้เด็กๆเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบปลายภาค
ผมกับน้องภูยังคุยกันร่าเริงปกติ หลังจากที่น้องส่งกาพย์น่ารักๆมาให้หลายวันก่อน ผมก็เขินจนแทบสำลักไขมันตาย หึหึ ไม่ถึงขนาดนั้นครับ
ผมนั่งกินข้าวกับไอ้แต๊งเหมือนเดิม ๒ คน น้องภูก็นั่งกินกับกลุ่มเพื่อนของเขาครับ กินเสร็จไอ้แต๊งไปซื้อลูกชิ้นมากิน เราก็เดินไปเรื่อย ชมโรงเรียน ชมนกชมไม้ แล้วมันก็เดินไปเฉียดๆไอ้เฟียสก่อนจะทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิด
“กินดิ”ลูกชิ้นถูกจ่อไปที่ปากของหนุ่มฮอตซึ่งกำลังคุยกับสาวๆอย่างมันปาก
“ขอบคุณครับ”ไอ้หล่อหน้าบานเลยครับ พอป้อนลูกชิ้นเสร็จก็ชวนผมเดินคุยฮาเฮต่อไป ผมแสร้งเป็นไม่อยากรู้อะไรมากทั้งที่ใจนี่ร่ำร้องว่าเพื่อนกูมันเป็นอะไรของมันวะ
“ช่วงนี้ไอ้เฟียสมันฮอตขึ้นเนอะมึงว่าป่ะ กูว่าเป็นเพราะมันเปิดใจกับคนอื่นเยอะแน่เลย”
“เหรอ คงงั้นมั้ง”ไม่ใส่ใจอีกละ ตกลงว่ามีความรู้สึกป่ะวะ บางทีก็เหมือนจะรัก บางทีก็เหมือนไม่รัก
“พี่หมี”น้องภูทักแต่ไกลเลยครับ
“มีปัญหาอะไรไอ้ภู”ไอ้แต๊งมองตาดุ
“ยังไม่ได้ถามเลยพี่ งั้นอะไรเอ่ย”
“กวนละมึง”
“สอบเสร็จไปเที่ยวที่ไหนอ่ะพี่”คราวนี้หันมาถามผมอย่างจริงจังละครับ
“สอบเสร็จเหรอ เฮ้ย ชีวิตม.๖ เคยมีคำว่าสอบเสร็จด้วยเหรอวะ ปลายภาคเสร็จก็แกทแพทต่อ”
“โหย ได้พักบ้างป่ะพี่”
“ก็ได้พักนะ”
“มึงดูหุ่นมันดิ พักจนอืดไปหมดละ”ไอ้แต๊งหยิกพุงผม เวลาหมั่นเขี้ยวก็แบบนี้ชอบหยิกพุง
“กูหุ่นดีเว้ย หุ่นแบบมึงเขาเรียกว่าแห้ง ไอ้เหยิน”จริงๆมันไม่แห้งหรอกครับ หุ่นดี ผมก็พูดกลบปมของตัวเองไปงั้นแหละ
หยอกกันพอหอมปากหอมคอก่อนจะคุยเรื่องทั่วๆไปของเด็กม.ปลายครับ หาสาระไม่ได้ พอใกล้เวลาเข้าห้องเรียนจึงได้แยกย้ายกัน พักกลางวันมันช่างไวกว่ารถไฟความเร็วสูงอีกแน่ะ เพิ่งจะกินข้าวเสร็จเมื่อกี้นี่เอง ต้องเข้าเรียนภาคบ่ายซะแล้ว
ก่อนเข้าห้องเรียนก็มีไอ้หล่อมายืนยิ้มหวานโปรยเสน่ห์หน้าห้อง ไอ้เฟียสนั่นแหละครับ ไม่ใช่ใคร น้องภูเขาไม่มาอ่อยแบบนี้หรอก ต้องรอใจกาพย์โคลงกลอนนู้นแหละ หึหึ ไอ้น่ารัก
“อะไรมึง”ไอ้แต๊งถามขึ้นก่อน
“อยากจะมาขอบคุณ”
“เรื่อง?”
“ลูกชิ้น อร่อยมาก”
“อ๋อ มันตกพื้นอ่ะ จะทิ้งก็เสียดาย เห็นปากมึงว่าก็ช่วยๆกันเนอะ ของมันแพง”ยักคิ้วเท่ๆให้ว่าที่แฟนก่อนจะเดินเข้าห้องไป ไอ้เฟียสทำหน้างงเลยครับ
“อย่าไปเชื่อมัน มันหึงที่มึงคุยกับผู้หญิง ไหนจะไอ้น้องอะไรนั่นมาจับมือมึงอีก เชื่อกู ลูกชิ้นไม่ได้ตกพื้น แต่ใจมันอ่ะตกหลุมรักมึงเต็มๆ”หน้าบานเลยครับคราวนี้
“อืม ขอบใจมากหมี มึงเองต้องสู้นะ ต้องหล่อให้ได้อย่าให้ใครดูถูก มึงดูกูสิ มีความพยายามมาตั้ง ๕ ปี ใกล้จะสำเร็จแล้ว มึงเองต้องหุ่นดีนะ”
“เออน่า กูมันเรื่อยๆ แต่มึงก็อย่าเพิ่งมโนมากไปนะ บางทีมันก็แค่แกล้งเล่น”พูดตัดกำลังมันซะหน่อย เดี๋ยวเหลิงจนผิดแผน “เออ คุยกับคนอื่นอย่าไปหลงเสน่ห์เขาแล้วกัน”
“หึหึ ไปแล้วนะ”ตบไหล่ผมก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปมองไอ้แต๊งและยิ้มให้หวานๆ
๒ ตุลาคม ๒๕๕x
๑๖.๑๖ น.
วันศุกร์แห่งชาติเหมือนเดิมครับ แยกย้ายกันเข้าชมรม ผมมาดูแปลงผักและทำการสับๆดินเพื่อจะปลูกผักรุ่นต่อไป ทำ ๒ แปลงเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงเดินไปที่ชมรมบาส แล้วก็ได้ยินเขาคุยกันแว่วๆเรื่องขงผมนี่แหละครับ ทำให้ผมต้องหลบฉากยังไม่เข้าไป
“ตกลงว่าไงวะ”
“อะไรของพี่อ่ะ ผมจะสนิทกับใครมันก็เรื่องของผม พี่ถามเหมือนเป็นพ่อผมเลย พ่อไม่เคยถามแบบนี้เลยนะ”เสียงน้องภูครับ
“มึงก็บอกมาดิ ว่าไปสนิทกับมันทำไม”
“ทำไมจะสนิทไม่ได้ด้วย แล้วทำไมผมต้องบอกให้พี่รู้ทุกอย่าง เรื่องบาสก็ส่วนเรื่องบาสดิ อันนี้เองของผมกับพี่หมี”
“มึงจะจีบมันเหรอ”
“มันเรื่องของผมป่ะพี่”เสียงน้องภูดูหงุดหงิดอยู่พอสมควร
“มึงกวนตีนขึ้นนะพี แต่ก่อนไม่เป็นแบบนี้นี่หว่า มีอะไรมึงก็บอกกู แต่เดี๋ยวนี้มึง...”
“พี่ บางเรื่องมก็เล่า บางเรื่องผมก็เก็บไว้คนเดียว ชีวิตผม จะยังไงก็เรื่องของผม”
“มึงโดนไอ้หมีล้างสมองมาใช้ไหม”
“พี่พูดเหมือนผมไม่เจอพวกเผด็จการยังไงก็ไม่รู้ พี่ไม่รู้จักพี่หมีดี พี่อย่าพูดอะไรเลยดีกว่า เรื่องมันจริงพูดไปคนอื่นเขาเสียหาย”
“ก็เพราะแบบนี้ไง กูถึงอยากรู้ว่าทำไมมึงไม่เหมือนเดิม”
“ผมปกติดีพี่ แต่พี่อ่ะไม่เหมือนเดิม พี่เป็นอะไรของพี่ ผมแปลกใจนานละ ผมสนิทกับใครพี่ก็ต้องรู้ตลอด จะให้ผมคุยกับพี่คนเดียวเหรอ”
“ก็ใช่ไง นี่มึงไม่รู้เหรอว่ากูคิดอะไรกับมึงอยู่”
“ก็มองออก แต่พี่ก็น่าจะมองผมออกนะว่าผมคิดอะไรกับพี่ ถ้าผมคิดกับพี่ แบบที่พี่คิด มันก็คงจะถูกใจพี่ แต่นี่ผมไม่ได้คิดกับพี่แบบที่พี่คิด แต่ผมคิดแบบของผม มันจึงขัดใจพี่ พี่ก็น่าจะรู้ตัวนี่”
“มึง ทำไมวะพี กูทำดีกับมึงมาตลอดเลยนะ”
“พี่ คนที่ใช่ต่อให้เลวแค่ไหน เขาก็คือคนที่ใช่ คนที่ไม่ใช่ ต่อให้ดีแค่ไหน เขาก็คือคนที่ไม่ใช่”กูคุ้นกับประโคนี้ว่ะ ก๊อปคำพูดไอ้แต๊งมาทั้งดุ้นเลย ไอ้แต๊งก็แบบนี้ แต่ตอนนี้ไอ้เฟียสก็จะกลายเป็นคนที่ใช่แล้ว เฮ้อ ความรักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน ตกหนักเกิ้นนนนนนนนน
ผมเดินกลับไปที่สนามบอล นั่งดูไอ้เฟียสดีกว่า ไปถึงปรากฏว่าหน้าอาคารชมรมบอล คือมันจะมีเป็นอาคารชั้นเดียวนะครับ และจะมีหลังคายื่นออกมา มีม้าหิน หลายตัวครับ และก็มีคนมาสุมหัวกัน นักบอลก็ล้งเล้งกันอยู่นอกห้องชมรม ส่วนด้านในตอนนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ผมเปิดประตูเข้าไปเขากำลังติวกันอยู่
โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีที่นั่งฝั่งละ ๔ ตัว คนนั่งเป็นผู้หญิงไปซะ ๖ คน ผู้ชายอีก ๒ ท้ายโต๊ะนั่งอัด ๒ คน เก้าอี้คนละตัว เป็นผู้ชายหน้าตาน่ารัก พอมองมาที่หัวโต๊ะ เก้าอี้กว้าง นุ่ม เป็นเก้าอี้ที่ดีที่สุดในชมรม แต่นั่งอัดกัน ๒ คน ไม่ใช่นั่งข้างกันด้วย นั่งซ้อนกัน คนด้านหลังสูง ๑๘๗ กัปตันทีม คนด้านหน้า ๑๘๒ ปีกขวา
ไอ้เฟียส ไอ้แต๊ง มึงไปนั่งท่าแบบนั้นได้ยังไงวะ
ไอ้เฟียสเป็นคนนั่งตอบคำถามที่เพื่อนๆสงสัย ส่วนเสือแต๊งคนขี้หวงซบกับโต๊ะฟังไปด้วย เขียนไปด้วย ต้องทำตัวให้ต่ำๆเพราะเขาจะมองไม่เห็นหน้าคนติว
“เดี๋ยวเฟียส ไม่ใช่มันเป็นแบบนี้เหรอ”ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆขยับเข้ามา ไอ้แต๊งรีบยืดตัวมาพิงอก เมื่อเห็นว่าคนติวเข้ามาใกล้เกินรัศมีที่จำเป็น
“อืม อ๋อ ใช่ๆ”ไอ้เฟียสก็ตอบคำถาม นี่ผมยังไม่ได้เข้าไปนะ ผมยืนอยู่ข้างหลัง แอบมองไอ้คนปากแข็ง ปากบอกไม่รักแต่พฤติกรรมเนี่ย หวงของ ไอ้เฟียสอธิบายพอสมควร ไอ้แต๊งก็นั่งพิงฟังๆไป มันสนใจใครที่ไหนล่ะครับ แล้วพักหนึ่งก็มีคนหนึ่งออกมาจากวง เป็นผู้หญิงน่ารัก เขาเดินออกมาแล้วยิ้มให้ผม หายไปครู่หนึ่ง อ๋อ ไปเข้าห้องน้ำมา
“หมี แต๊งกับเฟียสเป็นแฟนกันแล้วเหรอ”หน้าบานถามผม คือ หน้าเขาไม่ได้บานนะครับ แต่เขาดีใจอ่ะ ดูท่าน่าจะเป็นสาววาย
“เปล่า ยังไม่ได้คบ”
“แต่ทำไมเขาน่ารักกันอ่ะ แต่ก่อนแต๊งไม่เป็นแบบนี้เลย วันนี้น่ารักมาก เราฟินอ่ะหมี เราแอบถ่ายรูปหลายรูปด้วย เราอยากกรี๊ด ติวไม่รู้เรื่องเลย”พรุ่งพรูมาเต็มที่ มองไปด้านในตอนนี้ไอ้แต๊งเอาหน้าซบโต๊ะแล้วเขียนลงกระดาษ
“ไอ้แต๊งมันปากแข็งอ่ะ ไม่ยอมตกลงกับไอ้เฟียสสักที ที่นี่เราก็ยุให้เฟียสจีบคนอื่น แล้วก็อย่างที่เห็น หวงของ”
“จริงเหรอ เราอยากเห็นเขาเป็นแฟนไวๆจัง แค่นี้ก็น่ารัก ฟินอ่ะหมี อยากกรี๊ด”
“แกล้งไอ้แต๊งดีไหม”
“ยังไงเหรอ”
“ก็.....”ผมบอกแผนให้สาวน้อยคนนี้ สาวเจ้ายกนิ้วโอเคแล้วเดินยิ้มหน้าบานเข้าไปด้านใน ผมรอดูผลงานด้านนอก แปบเดียวผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดำเนินตามแผนครับ
“เฟียส เมื่อกี้คุยเรื่องอะไรกันเหรอ เราตามไม่ทัน”ยกเก้าอี้มานั่งข้างๆ ไอ้แต๊งยังคิดเลขอยู่ครับ ผู้หญิงคนนั้นขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ ไอ้เฟียสเอี้ยวตัวเข้าไปตอบคำถาม มือซ้ายหยิบโพยของตัวเอง มือขวาชี้ไปที่โพยของผู้หญิง นี่ผมไม่รู้จักชื่อเขานะ รู้แค่เขาเรียนร่วมห้องกับไอ้เฟียส
“เข้าใจยัง”
“อืม แล้วตรงนี้ล่ะ”คราวนี้ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด มือขวาของไอ้เฟียสจากที่ถือโพยตอนนี้ไอ้แต๊งดึงไปกอดเอวแล้วครับ ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาอีก คราวนี้มือซ้ายครับดึงเข้าไปให้กอดเอวอีกข้าง ไอ้เฟียสกำลังจะอธิบาย
“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจ “ดูคำตอบให้หน่อยดิ มันถูกไหม”ถามว่าเฟียสจะสนใจใคร ถ้าไม่สนใจเมีย หึหึ
“ยังไม่ถูก”เสียงเบาๆที่ข้างหู แขน ๒ ข้างโอบเอวเอาไว้ อกแนบชิด ขาก็ติดกัน ผมแอบถ่ายรูปสักหน่อยครับ ถ่ายให้ไอ้เฟียสมันมีความสุข ๖ ปีวันนี้มันเริ่มจะได้ค่าตอบแทนที่สุดคุ้มแล้วละ
“ทำอะไรพี่หมี ทำไมไม่เข้าไป”น้องภูแตะที่ไหล่ผม สะดุ้งเลยครับ “แอบดูใครอ่ะ”คราวนี้จับไหล่ผมทั้ง ๒ ข้างแล้วยื่นหน้าเข้าไปด้านใน เจอฉากฟินๆ “พี่แต๊งเปิดตัวแรงเนอะ เขาเป็นแฟนกันเมื่อไหร่อ่ะ”
“ยัง แต่มันหวงไอ้เฟียสแค่นั้นเอง...”ผมจึงเล่าย่อๆให้ฟัง
“อยากโดนกอดแบบนั้นบ้างจัง ดูน่าอบอุ่นดี”พูดเบาๆ ผมก็ยิ้มครับ
“หาแฟนดิ”
“หึหึ หาได้แล้ว กำลังจีบ”
“เหรอ ใครนะ”
“โด่ว คิดว่าจะรู้”
“อ้าว ไอ้หมี ยืนทำแป๊ะอะไรของมึง ทำไมไม่เข้ามา”อ้าว เห็นซะแล้ว “อ้าว ไอ้นี่ มือไวนะมึง”แกะแขนออกแล้วซะแล้วครับ แหม ทำเป็นเขิน
“ตกลงว่าเข้าใจที่ผมติวให้ไหม”ไอ้เฟียสยังมือไวกอดเอวไว้ครับ
“เดี๋ยวให้ไอ้หมีติวให้ มึงใช้ภาษายาก กูไม่เข้าใจ จะกลับบ้านแล้วเหรอหมี ป่ะ”ลุกออกจากเก้าอี้ ไอ้เฟียสหันมามองผมเลยครับ
“ยัง มึงจะติวก็ติวไปดิ กูนั่งรอได้ แล้วทำไมไปนั่งตรงนั้นวะ กูหวงมึงนะเนี่ย”แกล้งไอ้เฟียสหน่อยครับ
“เก้าอี้ไม่มี”ตอแหลสัส เก้าอี้ยังมีอีกบานเลย “ป่ะ กลับบ้านกัน อะไรของมึงไอ้พี ชมรมบาสไม่ซ้อมเหรอวันนี้”
“เขาหยุดให้อ่านหนังสือสอบแล้วพี่ ผมว่าเดี๋ยวผมทำแบบพี่ดีกว่า หาคนมาติวให้ แล้วให้เขากอด หึหึ”มีแซวรุ่นพี่อีก แต่ผมนี่หน้าหุบ หาคนติวแล้วทำแบบไอ้แต๊ง ไอ้ชินป่ะวะ เห็นคุยกันเมื่อกี้ เขาสนิทกันมาเท่าไหร่แล้ว ไอ้ชินไม่หล่อแต่เรียนเก่ง เฮ้อ
“พี่หมีติวใหภูหน่อยนะ”น้ำทิพย์ชโลมใจเลยละคราวนี้
“โอเค”ผมพยักหน้า พอหันไปมองด้านใน ใครๆหลายคนก็รุมถามไอ้เฟียส
“หมี มึงกลับบ้านไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวกูหาทางกลับเองได้”เดินเข้าไปแทรกกลางวง นั่งที่เดิม โธ่ ไอ้ขี้หวง ปากบอกไม่มีเก้าอี้ ไม่มีเก้าอี้หรือกลัวเขาแย่งวะ
“กลับบ้านดีกว่าเนอะ”ผมพยักหน้าและเดินกลับกับน้องภู
๑๐ ตุลาคม ๒๕๕x
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพวกเราก็ตั้งใจการการสอบปลายภาคอย่างเต็มที่ครับ สอบอันนี้เสร็จก็เตรียมรับแกทแพทต่อไป ไอ้แต๊งยังเหมือนเดิมครับ อ่านหนังสือกับผม ส่วนเฟียสเจอหน้าบ้าง แต่แปบๆครับ คุยกันนิดหน่อย กับน้องภูก็ติวให้นิดหน่อยไม่เยอะมาก น้องเขาเก่งอยู่แล้ว เด็กห้อง ๒ นี่ครับ ผมมันเด็กห้อง ๕ อาศัยว่าเรียนมาก่อน แต่ใช่ว่าจะจำได้นะ มึนๆ จึงช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่นัก
ตอนเย็นส่งโคลงไปหาน้องภูสักหน่อยครับ หวานๆ
สอบแล้วขอส่งสู้ แรงใจ
คิดครุ่นคำตอบใด ผ่องแผ้ว
ตัวเลือกสี่ตัวไซร้ กาใส่ ไม่ผิด
ช้อยส์คู่เคียงดวงแก้ว เลือกไว้ ใครแล
หึหึ คำตอบของคำถาม มันมี ๔ ตัวเลือกให้เลือกตอบ แต่คำตอบของหัวใจนี่มันมากมาย อยากจะรู้ว่าเลือกใครไว้หรือยัง ไอ้น่ารัก