พิมพ์หน้านี้ - โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: AGELA ที่ 13-09-2015 17:02:23

หัวข้อ: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 13-09-2015 17:02:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





เรื่องใหม่นะครับ ก็เดิมๆเน้นแกงจืด หลากหลายอารมณ์ คราวนี้เสนอเป็นแบบโคลงสี่สุภาพ อาจจะใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง เพราะไม่ถนัดกาพย์กลอนสักเท่าไหร่ เรียกว่าแต่งได้ แต่แต่งพอเอาตัวรอด ไม่ชำนาญ ลองติดตามกันดูนะครับ โคลงสุภาพ แต่เนื้องเรื่องอาจจะมีภาษาไม่สุภาพบ้างนะครับ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 13-09-2015 17:05:18
โคลงที่ ๑

๑๗ สิงหาคม ๒๕๕x
๑๖.๑๐ น.
โรงเรียนเลิกเรียนแล้ว นักเรียนหลายคนทยอยออกจากโรงเรียน บางคนเดินกลับเป็นกลุ่ม บางคนมีพ่อแม่มารับ บางคนเดินกลับเป็นคู่ อืม คำว่าเป็นคู่นี่มันของแสลงสำหรับผมจริงๆ รองเท้าก็มีซ้ายมีขวา เป็นคู่ ปากกาก็มีน้ำเงิน มีแดง เป็นคู่กัน อะไรๆในตัวผมมีของคู่กันแทบทั้งนั้น ยกเว้นอย่างเดียวคือดวงใจ อือ มันก็ไม่ต่างอะไรจากผม ใจดวงเดียว อยู่ตัวคนเดียว เปลี่ยวจิต เฮ้อ

“เรากลับบ้านก่อนนะหมี เจอกันพรุ่งนี้ บายๆ”

“กลับแล้วนะหมี ฝากปิดประตูห้องด้วยนะ”

“แฟนเรามารอหน้าห้องแล้วอ่ะหมี เราขอตัวนะ”

เพื่อนร่วมห้องที่มีเวรทำความสะอาดด้วยกันกับผมก็ทยอยกันกลับ หลังจากที่ตัวเองทำความสะอาดเสร็จแล้ว ส่วนผมทำหน้าที่ปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย ก่อนจะปิดประตูห้อง งานเสร็จแล้ว ข้าศึกบุกต้องรีบย้ายตัวเองเข้าห้องน้ำโดยพลัน

ดูสิ กลอนประตูห้องน้ำมันมีคู่มารองรับเวลาล็อก ชักโครกยังมีฝา ผนังห้องน้ำก็มีซ้ายขวาเป็นคู่ เศร้าใจมากเลยเรา นั่งชักโครกแล้วมองของคู่กัน เพราะความเหงาทำให้เรากล้าที่จะทำอะไรบ้าๆ

หยิบโพสต์อิตสีเหลืองอ่อนขึ้นมา หมึกซึมสีน้ำเงิน มีอะไรก็ระบายมันลงไปแล้วกัน

                                                 โสดมานานเนิ่นช้า                 เดียวดาย
                                                 มีเพื่อนมิตรมากหลาย             หมู่ล้น
                                                 หากเหมือนเดินดุจพลาย         พนาใหญ่ ไพรสณฑ์
                                                 ครวญครุ่นหาสักคน                กุมมือ เดินไป

ก็แค่อยากระบาย หึ ไอ้หนุ่มหุ่นควายเกิดมาปีนี้ก็ ๑๘ แล้ว ยังไม่มีวี่แววจะมีคนเดินควงจับแขนเคียงคู่สักที ได้โปรดเถิดฟ้า ส่งใครก็ได้สักคนหนึ่ง หน้าตาพี่ไม่เกี่ยง อายุพี่ไม่สน หุ่นยังไงก็ได้ ขอแค่หัวใจที่มีรักก็พอ เอิ๊ก

เหยินฟ้า – อยู่ไหน
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – เข้าห้องน้ำ
เหยินฟ้า – เดี๋ยวไปหา
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – มีไร
เหยินฟ้า – ยืมกุญแจรถมอไซด์ โอเคนะเพื่อน

ครู่หนึ่ง


“ไอ้หมู เอ๊ย ไอ้หมี มึงทำอะไรอยู่วะ หาของเก่ากินไง”มาแล้วครับ เจ้าของบทสนทนาที่คุยกับผมเมื่อครู่

“เออ รอแปบก็ไม่ได้ จะรีบไปไหนวะ”ผมตะโกนออกไป คนกำลังระบายอารมณ์อยู่

“เร็วดิ จะรีบไปส่งน้องใบเฟิร์น”

“อ้าว เวร”เอะอะอะไรก็น้องใบเฟิร์น หายใจเข้าออกก็น้องใบเฟิร์น เขาจึงเมินน้องใบหนาดอย่างผม ใช่สิ “อะไรๆก็น้องใบเฟิร์น น้องใบหนาดอย่างกูนี่ไม่มีค่าเลยใช่ไหม”

“ตายคาส้วมไปเหอะ เร็วดิ”

“แปบๆ”

ปื๊ดดดดดดดดดด กริ๊ก คร็วกๆๆๆ จินตนาการว่าเป็นเสียงรูดซิบและเสียงกดชักโครกแล้วกันนะครับ ปลดล็อกประตูออกมาด้านนอก เจอไอ้เหยินฟ้า จริงๆมันชื่อแต๊ง แต่มันจัดฟันใส่หินสีฟ้า เลยเรียกเหยินฟ้ามหาเสน่ห์ มันนั่งบนขอบอ่างล้างหน้า กอดอก อย่างเท่อ่ะเพื่อนผม

“เอากุญแจมา กูจะไปส่งใบเฟิร์น น้องเขารอนานแล้วเนี่ย ปล่อยให้ผูหญิงรอไม่ดีนะ”

“อ้าว แล้วกูล่ะ จะกลับยังไง”

“เออ ก็รอหน่อย กูไปส่งน้องเขาก่อน เดี๋ยววนมารับ โอเคป่ะ”

“เติมน้ำมันให้ด้วยนะ”

“เอาตังค์มาดิ”

“แหม่ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอาภาระค่าน้ำมันมาให้กันอีก มึงได้น้องเขาเป็นแฟน กูจะได้หอมแก้มน้องด้วยไหมวะ”

“ไม่มีทางอ่ะ ของใครของมัน เอากุญแจมา อย่าชักช้า จะให้ไม่ให้อย่าลีลา ค่าน้ำมันด้วย”

“เรื่องดิ มึงเติมเอาเองแล้วกัน เอาเต็มถังนะ หรือถ้าเกินกว่านั้นก็เอาขวดลิตรไปใส่ด้วย จะได้ไม่ต้องเข้าปั๊มบ่อยๆ”

“ฝันเฟื่อง กูไปละ เดี๋ยววนมารับนะจ๊ะ”จีบปากจีบคอเชียวนะ ได้กุญแจมอไซด์ไปแล้วก็ตัวปลิววิ่งลงจากตึกเรียน ส่วนผมเดินอุ้ยอ้ายตามประสาหมีควาย เอ่อ ก็หุ่นดีอยู่นะครับ สูง ๑๘๔ หนัก ๑๔๘




๑๘.๒๒ น.
นั่งรอไอ้แต๊งร่วม ๒ ชั่วโมง นี่มันไปส่งน้องใบเฟิร์นหรือมันพาน้องใบเฟิร์นไปไหนวะ โมโหแล้วนะ ปากบอกว่าครู่เดียว รอจนไข่เหี่ยวแล้วยังไม่มา ตะวันตอนนี้คล้อยต่ำย่ำอัสดง ท้องฟ้าเป็นผีตากผ้าอ้อมแดงเรื่อเจือสีทอง ไฟส่องทางดวงแดงๆทยอยสว่างพร่างพราว แต่ใจเรากลับหดหู่ หึหึ ก็ว่ากันไปครับ

เอี๊ยดดดดดดด ว่าจะเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง มอไซด์คันเก่งมาจอดตรงหน้าพอดี แบบนี้ต้องด่า

“ไม่ต้องบ่นเลย กูรู้ว่ามึงจะด่าอะไรกู รีบขึ้นมา”จะอ้าปากต่อว่าสักหน่อย แต่ปากมันไวกว่า ผมจึงต้องจำใจไม่ด่า รีบซ้อนท้ายมอไซด์ของตนเอง แบบไม่กลัวโช๊คหักเพราะน้ำหนักผมเกิน คือไปเสริมโช๊คมาใหม่ล่ะ จริงๆอยากจะใส่แหนบรถสิบล้อให้รู้แล้วรู้รอดแต่มันไม่เหมาะ ก็เลยเปลี่ยนโช๊คให้รับน้ำหนักร่วม ๒๐๐ โลระหว่างผมกับไอ้แต๊งให้ได้

ไอ้แต๊งน่ะมันหุ่นดี หน้าตาหล่อเหลาขาวเฟี้ยวเป็นนักบอลโรงเรียน เป็นที่หมายปองของสาวๆ บ้านมันเยื้องๆกับบ้านผม โตมาด้วยกัน บ้านผมขายข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ส่วนบ้านมันไม่ได้ขายอะไรเพราะพ่อมันเป็นตำรวจ แม่เป็นพยาบาล

“กูว่าเอารถไปต่อเป็นซาเล้งดีไหมวะ มึงจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนโช๊คบ่อยๆ”

“ไอ้นี่ ไม่ต้องมาตอกย้ำกูขนาดนั้นก็ได้ ถึงน้ำหนักกูจะเกินมนุษย์ไปหน่อย แต่น้ำใจกับเพื่อนฝูงนี่ไม่เคยขาดนะเว้ย”

“แหม่ ช่างประเสริฐเริ่ดซะแมนแตนจริงๆเพื่อนกู บ้านรวยแต่โดนเพื่อนหลอกแดกละไม่ว่า”

“รวมทั้งมึงด้วย”

“กูเป็นเพื่อนรักมึงนะ”

“ถุ้ย แอบอ้าง เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดละไม่ว่า ปากบอกไปส่งน้องเฟิร์น มึงไปส่งน้องเฟิร์นหรือไม่ทำอะไรน้องเฟิร์นแน่วะ”

“แหม่ ก็นิดหนึ่งหลังเลิกเรียน”

“เอาแล้วไหมละ สดหรือใส่ถุง เกิดน้องเฟิร์นท้องไส้ขึ้นมามึงจะจบม.๖ ไหม สงสารพ่อแม่มึงหน่อยเถอะ”

“ไอ้ห่านี่คิดไปไกล กูจะไปทำอะไรเขาได้วะ เขาให้ไปส่งถึงบ้านนี่ก็บุญคุณใหญ่หลวงกับกูแล้ว แล้วที่มาช้าน่ะ กูช่วยพ่อน้องเฟิร์นขนต้นไม้ขึ้นรถกระบะตากห่าง”

“ต่างหาก”ผมพูดแก้

“เออ ลิ้นพันกัน ก็ตามนั้นอ่ะ นี่มึงดูนี่ ตามเนื้อตัวอันสะอาดสะอ้านของกูแปดเปื้อนไปด้วยมลทิน”

“หึ พูดแบบนี้กูอยากให้ไอ้เฟียสจับตุ๋ยมึงซะจริง แปดเปื้อนเอย สะอาดสะอ้านเอย มลทินเอย พ่อเกรด ๔ ภาษาไทย ปากนี่ดีจริง สอบทีไรได้แต่เกรด ๒”

“อ้าว ก็กูเกิดมาไม่ได้เป็นหลวงธีรศักดิ์โกศล กูรูภาษาไทยนี่หว่า (ธีรศักดิ์ชื่อจริงไอ้แต๊งมัน)”เถียงกันตลอดทางครับพวกผมอ่ะ ไม่เคยคุยกันดีๆหรอก แล้วเราก็มาถึงบ้านอันแสนจะอบอ้าวเอ๊ย อบอุ่น “ป้าพิมพ์สวัสดีครับ ป้า มีโครงไก่เหลือๆให้หนูสักจานไหมอ่า หนูอยากทานข้าวมันไก๊ เอ๊ย ข้าวมันไก่”เสียงหวานหยดย้อยยิ่งกว่าน้ำอ้อยคั้นสดแบบนี้คือมาถึงบ้านผมแล้วครับ น้ำเสียงช่างออดช่างอ้อนเสียจริง ทีกับผมนะ น้ำเสียงแทบจะเอามีดมาเฉือน พอคุยกับแม่นี่ หนูแบบนั้นน้องแบบนี้ นี่แหละคือไอ้แต๊ง

“ไอ้เตาแก๊สมันเอาไปทานหมดแล้วอ่ะลูก เหลือแค่น้ำซุปให้หนูแดก เอ๊ย ป้าก็พูดผิด ไอ้เตาแก๊สมันเอาไปกินแล้ว หนูกินข้าวมันไก่ทอดแล้วกัน”แม่ผมก็ขี้อำใช่เล่น ไอ้เตาแก๊สนี่คือหมาบ้านผมเอง หุ่นดีเหมือนจ้าของมัน หึหึ

“จ๊ะป้า ป้าว่ายังไง หนูก็ว่าตามป้า”

“ข้าวขาหมูให้หนูจานหนึ่งนะแม่”

“ป้าดูมันอยากกินข้าวขาตัวเองอ่ะ”

“เดี๋ยวกูได้ก้านคอมึงไอ้แต๊ง กวนประสาททั้งวันจริงไอ้นี่”คาดโทษมันไปก่อน ผมเตะก้านคอมันไม่ไหวหรอก แค่ยกขาสูงๆยังยากลำบากเลยครับ “เออแม่ เฮียมวยฝากมาบอกว่า มะรืนเฮียมวยจะออกค่ายนะแม่ ขอตังค์แม่แสนเจ็ด”

“หา แสนเจ็ด มันจะเอาไปสร้างคอนโดรึไง ขอแบบนี้เดี๋ยวแม่ได้เซ้งร้านเอาเงินให้พวกเอ็งใช้พอดี”

“เซ้งเลยป้า ให้ไอ้หมีมันรู้สึกถึงความยากลำบากบ้าง กินดีอยู่ดีจากหมีกลายเป็นหมูแล้วเนี่ย”นี่ก็ช่างยุเสียเหลือเกิน

“ล้อเล่นนะแม่ ไม่รู้เฮียแกเอาเท่าไหร่นะ น่าจะ ๒ พัน เดี๋ยวเฮียต้องดอดมาเอาที่บ้านอยู่ดีอ่ะแม่”

“ขอบคุณครับป้าพิมพ์”แม่เอาข้าวมันไก่วางบนโต๊ะ ไอ้แต๊งเดินไปรับ

“จานนี้ป้าคิด ๗๐ บาท”แม่ทำท่าแบมือออกมา

“ว้าย หนูไม่มีเงิน หนูกลับละ”แต๋วแตกซะแล้วเพื่อนผม “ฮ่าๆๆๆ”ก็ขำๆกันไปครับ มันมาบ้านผมทีไรกินฟรีตลอด พอได้ข้าวมันไก่แล้ว แม่จัดการสับหมู ไม่เอาหนังครับ ไขมันผมเยอะกว่าไขมันหมูอีก กินไม่ไหวอ่ะแบบนั้น หึหึ รู้สึกว่าจานที่ตัวผมกินมันก็นะ ไม่ต่างอะไรเลย แม่สับหมูเสร็จ ราดน้ำซอส ผมเดินไปหยิบ ตักน้ำจิ้ม พริกขี้หนู กระเทียม มานั่งที่โต๊ะกินข้าวหลังจากเอากระเป๋าไปวาง ช่วงนี้มีลูกค้ามาเรื่อยๆ ขอกินก่อนนะครับเดี๋ยวจะช่วยแม่บริการลูกค้า

๒ ทุ่มร้านปิดแล้วครับ ที่จริงมีลูกค้าเข้ามาถามมาซื้อเรื่อยๆนะ แต่ของหมดแม่ไม่ทำเพิ่มเพราะจะได้มีเวลาพักผ่อน ส่วนผมกับแต๊งไปเข้าไปช่วยล้างถ้วยชาม แม่ผมอ่ะหุ่นเพรียวไม่เหมือนแม่ค้าข้าวขาหมูหรอก มีแต่ผมคนเดียวที่ผิดแผกชาวบ้านเขา อ้วนที่สุดในบ้าน ก็อยากจะลดน้ำหนักอยู่นะ แต่ไม่มีแรงบันดาลใจ

“จะนอนนี่เหรอ”

“เออดิ คืนนี้พ่อแม่กูติดเวรทั้งคู่เลย ไม่อยากนอนบ้าน มึงนอนพื้นนะ กูนอนเตียง”

นี่แหละครับ คำว่าเพื่อนกัน กวนตีนสลัดผัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 13-09-2015 17:10:16
สวัสดีนะ นายเหยินฟ้า และนายหมีเพื่อนเรียกหมู
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 13-09-2015 17:19:36
เรื่องนี้ออกแนวลูกเป็ดขี้เหร่หรือเปล่าคะ? ดูจากส่วนสูงแล้ว ถ้าหากลดน้ำหนักลงไปได้ ก็น่าจะหุ่นน่ามองดีนะคะ

รอดูเหตุการณ์ต่อไปเจ้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 13-09-2015 18:10:29
 :mc4: ฉลองเรื่องใหม่

เพื่อนรัก รักเพื่อน

เป็นกำลังใจให้น้องหมีลดน้ำหนักได้เร็ววัน

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-09-2015 19:08:10
น้องหมูเอ้ย น้องหมีน่ากอด คงอุ่นดี
มันต้องมีเหตุให้น้องต้องลด นน. รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-09-2015 19:42:32
ถ้าน้องหมีได้เจอกับคนๆ นั้นที่น้องหมีต้องการเมื่อไร เดี๋ยวแรงบันดาลใจก็มาหาน้องหมีเองนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-09-2015 20:28:24
ต้องรอน้องหมีลดหุ่นคงจะน่ารัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-09-2015 20:29:30
เรื่องใหม่คุณเมฆ ดีๆๆ อยากอ่านจนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 14-09-2015 17:25:29
โคลงที่ ๒

๑๘ สิงหาคม ๒๕๕x
๐๖.๓๐ น.
เป็นเวลาที่ผมต้องตื่นแล้วครับ แต๊งมันตื่นก่อนผมอีก เพราะมองไปทีเตียงไม่เห็นมันนอนยู่ เมื่อคืนก็ตามที่มันพูด ผมนอนพื้น มันนอนเตียง แขกสบายกว่าข้าวของห้อง แต่ปกติผมไม่ค่อยนอนเตียงหรอกครับ มีไว้ประดับห้องอย่างนั้นเอง มีให้เขารู้ว่ามี เพราะผมเคยทำเตียงหักไปแล้ว ๒ เตียงครับ ฮ่าๆๆ อันนี้ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว ผมไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ เอาไว้นั่ง กับเอาไว้ให้แต๊งมันนอน ถ้าจะนอนจริงๆปูที่นอนนอนบนพื้น

นั่งรอครู่หนึ่ง ไอ้แต๊งเดินออกมาจากห้องน้ำ

“แต่เช้าเชียวนะมึง ไอ้แต๊ง”

“บ่นอะไรของมึงอีกเนี่ย รีบๆอาบน้ำเลยไป”

“ทำไมกูจะบ่นไม่ได้ มึงดูผลงานมึงดิ มึงทำอะไรลงไป เนี่ย ไอ้คราบติดผนังห้องน้ำเนี่ย”

“เฮอะ กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะหมี มึงชอบปรักปรำกู มันมีที่ไหนล่ะ ใครจะบ้าว่าวแต่เช้าก่อนไปเรียนวะ สมองยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย ว่าวไปสมองโล่งๆ ไปเรียนนี่เอ๋อเลยนะมึง จะอาบก็รีบอาบ รีบทำเลยมึง เสร็จช้ากูฟ้องป้าพิมพ์อ่ะ”

“เฮอะ เออ ฝากรีดชุดให้ด้วยนะ”

“เห็นกูเป็นทาสรึไง ชุดอย่างกะกระสอบป่านกูจะรีดทันไหมเนี่ย”

“มีบ่นๆ ค่านอนบนเตียงกูยังไม่คิด ค่าแอร์ ค่าข้าวมันไก่เมื่อวานด้วย อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย”

“ทำตัวเป็นควายให้ลูกท่านใช้งี้เหรอ โว่ว บุญคุณท่วมท้น”ต่อปากต่อคำกันพอหอมปากหอมคอครับ ก็แบบนี้ประจำแหละพวกผมอ่ะ

ผมรีบเข้าไปอาบน้ำอย่างว่องไว เอ่อ ก็ครึ่งชั่วโมงครับ ออกมาแต่งตัวให้เรียบร้อย ไอ้แต๊งมันบ่นก็จริงนะ แต่มันจะใช้ง่ายครับ ให้รีดชุดให้มันก็รีด เอ่อ ชุดผมก็อย่างที่รู้ๆ กระสอบป่านเรียกพี่ นี่ถ้าเอาผ้าจากเสื้อ ๑ ตัวของผมเอาไปตัดเป็นชุดของเด็กปกติคงได้สัก ๓ ตัวอ่ะ คนบ้าอะไรน่ารักกว่าหมี เอิ้ก ก็หมีอย่างผมนี่แหละครับที่น่ารักกว่าคน ฮ่าๆๆ


๐๗.๑๒ น.
“ไม่มีโจ๊กกุ้งเหรอป้า”

“เรื่องมาก ทำให้กินแล้วร้องหานั่นร้องหานี่”ผมรีบพูดขัดทัพทันที

“อะไรกันนี่คู่นี่ ทะเลาะกันแต่เช้าเชียว”แม่ส่ายหน้าแบบเอือมระอา “วันนี้มีแต่โจ๊กหมู กินแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน วันหลังถ้าอยากจะกินโจ๊กกุ้งก็บอกป้าก่อนแล้วกัน”

“งั้นหนูจองไว้ ๒ ชาม”นิ้วเรียว ๒ นิ้วชูขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแป้น หึ ไอ้เหยินฟ้า

“จองไว้ตลอดแต่ลืมมากินทุกที”แม่ผมส่ายหน้า มันชอบพูดแบบนี้ตลอด จองล่วงหน้า แต่พอให้มากินจริงๆมันแผล็วไปหาอะไรกินจากข้างนอกมาแล้วครับ “รีบกิน รีบไปเรียนได้แล้วมั้งลูก สายแล้ว”

“ครับ”

๐๗.๓๕ น.
พวกเราออกจากบ้าน ผมเป็นคนขับมอไซด์คู่ใจ มาถึงโรงเรียนก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ ๑๐ นาที ไอ้แต๊งเอารถไปจอด ส่วนผมเดินไปที่ลานเสาธงหน้าโรงเรียน แค่เดินนิดเดียวเหงื่ออาบเต็มตัว เสื้อผ้านี่เปียกโชกเหมือนเดินฝ่าสายฝน

“ธีรศักดิ์ ศุภกร เล่นอะไรกันในแถวน่ะ”ครูผู้หญิงเอ็ดพวกผมเบาๆ เมื่อเห็นพวกผมทำตัวเป็นลิงเป็นค่าง เอ่อ ลิงค่างนี่ให้ไอ้แต๊งมันครับ ส่วนผมนี่ หมู หมี กูปรี และควายป่า อ้วนเกิ้นนนนนน

กิจกรรมหน้าเสาธงผ่านไปอย่างน่าประทับใจ ฮ่าๆๆ ขอพูดเป็นตรงข้ามนะครับ เรารู้ๆกันว่ามันมีความสุขแค่ไหนกับการที่ ผอ. บอกว่าวันนี้ครูขอคุยเป็นเวลา ๑๐ นาที แต่เอาเข้าจริงคือ มันคูณด้วย ๓ นี่ถ้ายกกำลังได้อีกก็คงจะทั้งวันอ่ะครับ


๒ คาบแรกเป็นวิชาฟิสิกส์ของแม่ครูญาณี ที่เรียกแม่ครูเพราะครูท่านเกล้าผมเป็นปมคล้ายๆพวกหมอดูอ่ะครับ แต่สอนฟิสิกส์ได้เทพโคตรขัดกับบุคลิกหมอดูของท่านมาก

“การบ้านสำหรับวันนี้นะคะ”สายตาที่มองลอดแว่นผ่านเด็กๆในห้อง

“แม่ หนูไม่อยากได้ยินคำนี้เลยอ่ะ มันจี๊ดๆที่หัวใจ”ไอ้แต๊งขากวนประจำห้อง ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเรียกครูว่าแม่ คือ เราสนิทกัน

“จะเอา ๐ ประดับปพ.อีกสักตัวไหมล่ะ หืม อ่ะ งั้นไม่สั่งการบ้านก็ได้ ขอเรียกมันว่า กิจกรรมเพิ่มคะแนนแล้วกัน ทั้งหมดในหนังสือนี่ ๒๐ ข้อ งั้นครูจะแบ่งอย่างนี้ โซนนี้ทำข้อคู่ ส่วนโซนนี้ทำข้อคี่ ส่งพรุ่งนี้เช้านะจ๊ะหนูๆ”

“นักเรียนเคารพ”หัวหน้าห้องก็ไวเกินครับ

“นี่ แพรวพรรณ เหลือเวลาอีกตั้ง ๑๕ นาที รีบไล่ฉันไปไหนยะ มาเต้นไก่ย่างเลยหัวหน้าห้อง”แม่ครูแว๊ดขึ้นมาทำเอาพวกผมตกใจ “ยังช้าอีก เร็วเข้า”หัวหน้าห้องเป็นผู้หญิงใส่แว่นเนิร์ดๆเดินไปด้วยสายตาอันสลด “เอ้า มิวสิค”

“ไก่ย่างถูกเผา....”หัวหน้าห้องเต้นได้มันมากเลยครับ หน้านิ่งๆแต่ท่านี่จัดเต็ม

“เอาล่ะค่ะ วันนี้ครูพอใจมากที่หัวหน้าห้องเป็นผู้นำที่ดี งั้นเวลาที่เหลือก่อนจะเรียนคาบต่อไป ขอให้ทุกคนพักผ่อนตามสบายนะคะ สวัสดีค่ะ”

“นักเรียนเคารพ”

“ขอบคุณครับ/ค่ะ”


๑๑.๕๓ น.
ถึงเวลามื้อกลางอันแสนจะหฤโหด มันโหดจริงๆครับเพราะต้องลงจากอาหารเดินไปโรงอาหารแล้วแก่งแย่งกับฝูงชนร่วมพันคน ไหนจะคนเดินไปมา ไหนจะเสียงดังจ๊อกแจ๊กจอแจ แล้วไหนจะอากาศ นี่หน้าฝน แต่ไม่รู้ว่าฝนสอบผ่านมั้งเลยไม่ตกสักที ฮิๆ มุกผมกากเนอะ

วันนี้ผมกินก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ กับผัดไทยวุ้นเส้น กลุ่มผมที่สนิทกันก็จะมีไอ้แต๊ง และไอ้แต๊ง คือไม่มีใครคบคนอ้วนอย่างผมหรอกครับนอกจากไอ้แต๊ง อ่อ ยกเว้นคนหนึ่ง ว่าที่แฟนไอ้แต๊ง

“แต๊ง เห็นแต๊งชอบทานบ่อยๆ ผมซื้อมาฝากแต๊ง”ไอ้เฟียสวางเค้กชิ้นเล็กๆและชานมเย็นตรงหน้าไอ้แต๊ง นี่แหละครับว่าที่แฟนไอ้แต๊งที่ผมพูดถึง เอ่ยถึงปั๊บก็มาปุ๊บ

“ขอบใจนะเฟียส กูกำลังหิวพอดีว่ะ”ผมถือวิสาสะดึงมาวางตรงหน้าตัวเอง ไม่อยากจะเสียมารยาทหรอกครับ ก็แค่อยากแกล้ง ไอ้เพื่อนตัวดี

“เฮ้ยๆ ไอ้หมี นี่ของแต๊ง อ่ะนี่ของมึง”เค้กชิ้นใหญ่กว่าวางลงตรงหน้า สังเกตดูความแตกต่างนะครับ เวลาพูดกับไอ้แต๊งนี่ไม่มีไอ้ไม่มีอีนำหน้าหรอก แต่กับผมนะ ดีหน่อยก็ไอ้หมี ถ้าจะให้อัปรีย์ก็ไอ้หมีร่างหมู แหม่ มันน่าน้อยใจ

“นั่งดิเฟียส กินข้าวด้วยกัน ไอ้แต๊งมันเหงาอ่ะ มีแค่กูกับมันแค่นี้ มันกินข้าวไม่อร่อย มันว่างั้นนะ”ผมโมเมและชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ไอ้แต๊งเหล่ตามองผมแบบเอือมระอา

“เห็นแก่กินถึงต้องกับขายเพื่อนเลยนะมึง”ดูมันพูดเหน็บผม

“โห แต๊ง หมีอุตส่าห์มีน้ำใจ ผมซาบซึ้งนะที่ไอ้หมีชวน”เฟียสแก้ต่างแทนผม

“กูเห็นหน้ามึงกูกินข้าวไม่ลงว่ะ”ไอ้แต๊งหน้าบูดละ วางช้อนลง หันหน้าไปที่อื่น สาวแตกแล้วเพื่อนกู

“หึหึ ไม่ต้องเขินผมก็ได้”ไอ้เฟียสยิ้มอ่อนโยนแบบคนอารมณ์ดี คือ มันหล่อนะเวลายิ้ม จริงๆมันหล่อทุกอิริยาบถน่ะไอ้นี่

“กูเกลียดขี้หน้ามึง ไอ้เวร กูไม่ได้เขิน เดี๋ยวเตะยอดหน้าเข้าให้”

“หึหึ ยอมเขาหน่อยนะหมี ขาโหดก็งี้ อ๊ะๆ แค่เห็นหน้า ๕นาที วันนี้มีความสุขละ เย็นนี้เจอกันที่สนามบอลนะ เลิกเรียนปั๊บ เลทได้ไม่เกิน ๑๕ นาที กูไปละหมี และคุณ ว่าที่ที่รักของผม แต๊ง”ไอ้เฟียสโบกมือหยอยๆแล้วเดินจากไป

มาพูดถึงไอ้เฟียสกันหน่อย มันเป็นกัปตันทีมฟุตบอลของโรงเรียนเราครับ ผลงานก็เป็นที่ประจักษ์เลื่องชื่อลือชา เอาฮ่าไฮ่ ที่สำคัญคือมันหล่อมากและรวยสุดๆ ใครๆก็รุมชอบไอ้เฟียส มีคนจะพยายามทำลายกำแพงหัวใจของไอ้เฟียสแต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ ผู้หญิงสวยๆระดับดาวโรงเรียนก็ตามจีบ ผู้ชายหล่อๆลูกคุณหนูก็ตามชอบ แต่ไอ้เฟียสไม่สน ไม่เคยคบใคร ไม่มีข่าวเรื่องผู้ชายหรือผู้หญิงกับมันเลยครับ ที่ไม่มีข่าวเพราะมันมาชอบเพื่อนผม นานแค่ไหนถ้านับได้ปีนี้ก็น่าจะปีที่ ๕ แล้วครับ เพราะผมเห็นมันด้อมๆมองๆไอ้แต๊งตั้งแต่มัธยม ๒ แน่ะ นี่มัธยม ๖ แล้วมันยังเหมือนเดิมทุกอย่างครับ ผมเคยถามมันนะครับว่าทำไมมันไม่ตกลงปลงใจไปกับคนอื่นซะ คนหล่อคนสวยกว่าไอ้แต๊งมีตั้งเยอะ มันก็ให้คำตอบกับผมว่า

‘ไอ้หมี กูเกิดมาเพื่อรักและดูแลแต๊ง เกิดมาเพื่อเป็นแฟนของแต๊ง กูไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นแฟนของใคร กูชอบแต๊ง และกูจะจีบแต๊ง มึงเข้าใจกูป่ะ กูจะจีบและทำให้แต๊งรักกูให้ได้’ ง่อววววววววววววว เหตุผลมันล้ำลึกสาส อ่อ แล้วที่สำคัญ มันตามจีบจริงจังไอ้แต๊งตั้งแต่ม.๒ นี่จะจบม.๖ แล้วครับยังไม่สำเร็จสักที

“มึงทำหน้าปลาบปลื้มมากเกินไปละไอ้หมี ชอบมันมากก็ไปคบกับมันดิ”

“กูไม่ใช่ตัวจริงของมัน เพราะตัวจริงของมันคือมึง อ๊ะๆ ไล่กูแบบนี้ไม่หึงเหรอ”

“หุบปากเลยสัส จะกินไหมเนี่ยผัดไทย กูกินหมดนะ”อ้าว พูดถึงเรื่องของกินแบบนี้ก็สวยสิครับ เรื่องกินผมไม่ยอมใครนะ ว่าแล้วก็จัดการโซ้ยมื้อกลางวันทันที


๑๒.๔๒ น.
“กูเข้าห้องน้ำแปบนะแต๊ง”

“เออ กูฝากล้างมือด้วย”มันยื่นมือทั้ง ๒ ออกมา แล้วตบที่ฝ่ามือผมทั้ง ๒ ข้างแล้ว กวนมากไอ้นี่

เข้าไปไม่กล้ายืนเยี่ยวที่โถด้านนอกหรอกครับ อายน่ะ ผมจึงเข้าไปด้านใน ห้องเมื่อวานที่ผมเข้ามานั่นเอง วันนี้โพสต์อิตที่ผมเขียนโคลงสี่สุภาพหายไป เมื่อวานเป็นใบสีเหลืองอ่อน วันนี้เป็นใบสีส้มอ่อนแทน พร้อมกับโคลงอันใหม่

โสดมานานเนิ่นช้า         เดียวดาย
หรือว่าปิดใจตาย           แน่แท้
ลองเปิดใจรับสาย          น้ำใจ คลายโสด
ว่าที่โอดนั่นแน่               แลเหตุ มีไฉน

เยี่ยวไป อ่านไป แหม่ มาหาว่าเราปิดใจ ใจเราอ่ะเปิดตลอดอ่ะแต่ไม่มีคนมาจีบสักที บ้านก็รวย มีรถมอไซด์ขับ ความสูงก็ให้ถึงน้ำหนักก็เพียบพร้อม เอ่อ ยอมรับว่าอ้วน แต่อย่ามองคนที่ภายนอกสิ คนอ้วนก็มีหัวใจนะเว้ย

ผมดึงกระดาษนั้นออกมาแล้วนำมาแปะไว้ที่สมุดบันทึก จริงๆมันก็ไม่ได้บันทึกอะไรหรอกครับ สมุดวาดรูปของผมอ่ะ จะมีรูปวาดบ้าง บันทึกบ้างเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินออกจากห้องน้ำพลางคิดในใจ จะเขียนอะไรแก้ดีนะ

“วันนี้ครูไพบูลย์งดนะ เมียครูคลอดลูกอ่ะ”เข้าไปในห้องตอนนี้เจี๊ยวจ๊าวเสียงดัง พอผมนั่งลงไอ้แต๊งก็รายงานทันที

“เหรอ สบายไปคาบหนึ่ง”

“ครูไม่อยู่เหรอ”ไอ้เฟียสยิ้มหน้าแป้นยื่นหน้าเข้ามาในห้อง สาวๆที่กำลังนั่งเม้าท์กันนี่ยุดมองกันเป็นตาเดียว ก็อย่างที่บอก ไอ้นี่มันหล่อครับ

“ถ้าอยู่ก็เห็นดิ”ไอ้แต๊งกวนตีนใส่

“ขอบคุณที่คุยกับผมนะแต๊ง ไปเรียนละ”แค่เนี่ย

“ท่าจะบ้า”

“เออ ก็มันรักมึงมาตั้งเท่าไหร่แล้ว แค่มึงคุยกับมัน มันก็ดีใจดิวะ”นี่ผมเชียร์ไอ้เฟียสสุดๆ เชียร์แบบออกหน้าออกตาเลยนะ

“มึงชอบทำตัวเป็นหมูบ่อนไส้”

“หนอนบ่อนไส้”

“ก็มึงอ้วนนี่ หนอนบ้าหนอนบออะไรน้ำหนักตั้งร้อยกว่าโล โว๊ะ”มีบีบพุงผมอีกครับ เอาที่มึงสบายใจเหอะแต๊ง

“อวยกู ว่ากูหุ่นดีบ้างก็ได้”ผลักหัวมันไปทีหนึ่ง แบบนี้ก็สั่งสอนครับ พูดไม่รู้จำ บางทีคำพวกนี้ฟังบ่อยๆแล้วมันแสลงใจ ก็กูหนักของกูคนเดียวนี่หว่า ไม่ได้หนักบนหัวใคร ก็อีแบบนี้ผมจึงทำใจลดไม่ได้สักที หึหึ ข้ออ้างทั้งนั้น

คาบว่างผ่านไป คาบต่อไปเรียนต่อครับ นั่งง่วงบ้างอะไรบ้าง จนหมดคาบ เรียนวิชาอื่นอีก แล้วเลิกเรียนช่วงเย็น ไอ้แต๊งไปซ้อมบอลตามปกติ ส่วนผมมีหน้าที่รอครับ ว่างๆไม่มีอะไรทำ อ่านหนังสือเตรียมสอบเอนทรานซ์ เอ่อ แอดมิชชั่นครับ ฮ่าๆๆ เอนทรานซ์มันเก่าไป อ่านไปก็คิดถึงบทกลอนของคนที่มาเขียนแก้ไว้ เอาไงดีนะ ไปเยี่ยวบิ๊วอารมณ์ดีกว่าครับ

เปิด   ใจรับแอ่นอ้า                   อกกว้าง
เปิด   เนิ่นนานจนอ้าง(ว้าง)       เหว่ว้า
เปิด  รอคนมาง้าง                    อกอิ่ม เอมอุ่น
เปิด  สี่ห้องคอยท่า                   บ่แย้ม สักคน

เขียนมันลงไปแล้วเอาไปแปะที่ห้องเดิม โรแมนติกมากเลยครับ
ความรักของพี่เกิดที่ห้องน้ำ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 14-09-2015 17:47:28
แต๊งมีคนจับจองแล้ว :-[ แล้วใครกันหนอที่สนทนากับน้องหมีผ่านกลอนบทนั้น~~
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 14-09-2015 18:02:44
สู้ๆนะพ่อหมูน้อย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-09-2015 20:39:36
ถ้าแต็งจะคู่กับเฟียส พี่หมีเราจะคู่กับใคร
เจ้าบทเจ้ากลอนจริงนะพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-09-2015 20:47:25
รอคนมาตกหลุม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-09-2015 21:31:39
โอ๊ยน้องหมี น้องอ้วนมากลูก5555อ้วนเกินไปป้ากลัวขาหนูจะรับน้ำหนักไม่ไหว ลดเหลือสัก90-110ต้นๆก็ยังดีนะพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Nighttime ที่ 14-09-2015 21:52:20
อร้ายยยโรแมนติกคร่าชอบๆ :-[ :o8: ตอบโต้ด้วยบทกลอน แบบน้านนใด้ใจๆ..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-09-2015 12:48:32
ใครหนอมาสนทนากับน้องหมีผ่าน
โคลงกลอนในห้องน้ำ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 15-09-2015 14:19:26
เดี๋ยวนะคนที่เข้าห้องน้ำห้องเดียวกับหมีได้ก็ผู้ชายอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๔๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๒ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-09-2015 14:27:30
ชอบหมีอ่ะ
รอคนมาตกหลุมรักหมู เอ้ย หมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 15-09-2015 18:54:54
โคลงที่ ๓
๒๑ สิงหาคม ๒๕๕x
๑๔.๕๖ น. วันศุกร์แห่งชาติ วันนี้เป็นวันที่นักเรียนต้องเข้าชมรม ไอ้แต๊งเข้าชมรมฟุตบอลของมันไปครับ ส่วนผม ชมรมอะไรดี คนเลี้ยงหมีให้กลายเป็นหมูดีไหม เหอๆ ไม่มีหรอกครับ ผมเข้าชมรมเกษตรครับ

ก็ไม่มีอะไรมากครับ ไปดูแลผัก ชมรมผมปลูกหลายอย่างแล้วแม่ผมก็จะซื้อผักจากชมรมของผมบ่อยมาก พวกคะน้า ผักชี หอม อะไรพวกนี้อ่ะครับ สนับสนุนของโรงเรียน

๑๕.๔๔ น.
หลังจากดูแลแปลงผักเสร็จแล้วผมไปดูไอ้แต๊งซ้อมบอล มันพลิ้วครับ เห็นแล้วก็อิจฉาหุ่น ไหนจะหน้าตา ไหนจะกีฬาก็เก่งอีก แต่การเรียน แต๊งเอาแค่ผ่าน หึหึ ผมนั่งเชียร์ข้างสนาม ตอนนี้มีสาวน้อยกลอยใจระดับม.ต้น กับสาวใหญ่ผูกโบว์ระดับม.ปลายมาเชียร์ ก็เชียร์ตัวหลักๆของทีม ไอ้เฟียสผู้กัปตัน ไอ้แต๊งปีกขวา ไอ้ม่อนผู้รักษาประตู มือเหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแก เห็นพวกเขาเล่นแล้วอยากลงไปเล่นบ้าง แต่อย่างผมนี่ต้องไปเตะที่เพนียดคล้องช้าง กีฬาสำหรับสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฮ่าๆๆ

“น้ำค่ะพี่เฟียส”หลังจากเกมส์ในสนามจบไปด้วยความมัน พอไอ้เฟียสเดินออกมาข้างสนาม สาวๆรีบส่งน้ำให้ จะเอาน้ำอะไร น้ำแดงก็มี น้ำดำก็มา น้ำชาก็หลายขวด ส่วนผมมีน้ำเปล่าเย็นๆให้ไอ้แต๊ง แฟนคลับมันก็มีแค่ผมนี่แหละครับ

“อ่ะ”ผมยื่นให้

“อันนี้เย็นกว่าค่ะพี่แต๊ง”สาวน้อยน่ารักยื่นตัดหน้าผมไป ไอ้แต๊งรับขวดนั้น ผมไม่น้อยใจ เพราะไม่ใช่คนใจน้อย ดูตัวผมสิ มันน้อยซะเมื่อไหร่ ใจใหญ่เท่าตัวนั่นแหละเว้ย แมนๆเตะบอล

“ขอบใจนะ”

“ดื่มนี่ดีกว่าพี่แต๊ง ทำให้ร่างกายสดชื่น”หนุ่มน้อยคนหนึ่งเดินเอาน้ำดื่มเกลือแร่มาให้ ฮอตเว้ยเพื่อนผม มันก็รับไปและยิ้มให้แฟนคลับ ไอ้แต๊งวางน้ำลงแล้วกินมันทุกขวด ขวดละอึกครับ ไม่กินเดี๋ยวแฟนคลับหาว่าไม่ใส่ใจ เฮ้อ เกิดมาหล่อก็งี้ อยากมีแฟนคลับบ้างจังเลย เออ ถ้าผมมีแฟนคลับเขาจะเอาอะไรมาให้กินดีนะ กลูต้า คอลลาเจน หรือยาลดความอ้วน ผมว่าอย่างหลังเป็นไปได้สูง ไม่เป็นไร ผมมันพวกใสใสวัยรุ่นชอบ กินได้ทุกอย่างครับ

“อยากกินขวดนี้”ไอ้เฟียสเดินฝ่าฝูงแฟนคลับมาหยุดที่หน้าไอ้แต๊งแล้วชี้ไปที่ขวดน้ำซึ่งไอ้แต๊งกำลังยกซด

“กวนประสาท”

“กินขวดนี้ก็ได้เฟียส ขวดนี้ไอ้แต๊งกินหมดแล้ว มึงกินขวดไหนก็เหมือนได้จูบไอ้แต๊งทางอ้อมหมดแหละ”รู้ฤทธิ์ไอ้หมีน้อยไป ไอ้แต๊งมันไม่ว่าอะไรผม แต่มันเอาคืนด้วยวิธีนี้

“พร่วดดดดดดดดดดดดดดด”น้ำเย็นๆจากปากมันเต็มหน้าผมเลยครับ เฮ้อ เย็นนี้ผมไม่ต้องอาบน้ำแล้วละมั้ง “ขายเพื่อน”

“แกล้งหมีทำไมอ่ะแต๊ง”เฟียสปกป้องผมแล้ว สุภาพบุรุษมาก

“รึมึงจะเอาอีกคนไอ้เขียด”เวลาโมโหก็แบบนี้ จากเฟียสเป็นเขียด เดี๋ยวคอยดูจากเขียดมันจะเป็นอะไรต่อไป

“แต๊งให้อะไรมา ผมรับได้ทุกอย่าง”ไม่ทันขาดคำไอ้แต๊งก็พ่นน้ำใส่หน้าไอ้เฟียสแล้วยักคิ้วหลิ่วตา คิดเหรอว่าไอ้เฟียสมันจะโกรธ ‘แต๊งทำอะไร ผมไม่เคยโกรธแต๊ง’ นี่คือเหตุผลที่มันทนจีบตั้งแต่ม.๒ จนถึงวันนี้ หวานสลัดผักกาดแก้วใส่ยอดหน่อไม้ฝรั่ง

“พี่แต๊งแกล้งพี่เฟียสทำไม”เหล่าแฟนคลับที่คลั่งไคล้ไอ้เฟียสแทบจะบูชาเป็นเทพเจ้าเอาทิชชูมาซับหน้าให้ ไอ้แต๊งเห็นอย่างนั้นก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้ นี่เขาเรียกว่าการแกล้งกันครับ แล้วไอ้เฟียสจะสนใจของใครล่ะครับ มันตายรังอยู่แต่กับไอ้แต๊ง

“กลับบ้านกันหมี หิวข้าวแล้ว วันนี้อยากกินหมูพะโล้”ลากผมกลับซะแล้วครับ “วันจันทร์ซักมาคืนด้วยนะ”

“ครับผม คืนนี้ฝันดีนะแต๊ง”ไอ้เฟียสโบกมือหยอยๆ แค่นี้มันก็สุขใจยิ่งกว่าได้ทองได้เบนซ์แล้วครับ

“ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหม”ผมถามเพื่อนรัก เหงื่อแตกพลั่กเต็มตัว ไปล้างเหงื่อสักหน่อยก็ดี

“ก็ดี”


พอเข้าห้องน้ำอารมณ์มันก็มาทุกทีครับ หลวงศรีศุภกรวาจกกำจรวรปราชญ์ นี่ตั้งเองนะ อารมณ์มันมาครับ เลยเพ้อสักหน่อย ผมเข้าห้องน้ำ โพสต์ใบนั้นถูกดึงไปแล้วมีใบใหม่แปะไว้แทนที่

                                         เปิด  ใจรับแอ่นอ้า         อกกว้าง
                                         เปิด  กล่องตาแลบ้าง     ส่องค้น
                                         เปิด  กายก่อบ่ร้าง         เก็บเปลี่ยว
                                         เปิด  อ่อนโอษฐ์เลิศล้น  ห่อนว้าง กลางหทัย

ให้เราเปิดกาย วาจา ใจ เหรอ สาธุ ก็ตัวใหญ่ในโรงเรียนอยู่นะ เดินไปไหนมาไหนใครๆก็แลเห็น ตัวไม่ใช่น้อยๆ เออ เพราะตัวไม่น้อยนี่แหละใครๆถึงไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะหน้าพี่ใหญ่ ใจพี่เลยต้องแฟบ กิ๊วๆ

                                         เปลี่ยน  ตัวตนใหม่แล้ว           จักมี
                                         ที่         ไม่เลือกบอดี้             หุ่นพร้อม
                                         คุย        คนอื่นถามวลี            มีบ่ คนตอบ
                                         นะ        ร่วมฤดีน้อม               บ่ายหน้า วาที
(อธิบายนิดหนึ่ง ตรง มีบ่ ในที่นี้หมายเอาถึง บ่มี แต่เพื่อให้ถูกตามบังคับโคลงเลยต้องเป็น มีบ่  ส่วน นะ มาจากคำบาลี แปลว่า ไม่)

ก็อยากรู้นะ จะมีสักกี่คนที่ไม่เลือกบอดี้ เอาจริงๆนะ ใครๆก็อยากได้แฟนหุ่นดี หุ่นกูปรีเลยต้องอยู่ในป่าเป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธ์ ผู้ชายที่ใครหมายปองก็ต้อง สูง หล่อ ขาว ยาว หุ่นดี ผู้หญิงก็ต้อง สวย หมวย อึ๋ม นมสบึม ตูดสบำ พวกเตี้ยม่อต้อข้อเดียวเป็นมะขาม กับพวกที่หามน้ำหนักมาเกิด บุรุษใดจะชายตา นารีใดจะมามอง ก็เลยต้องอยู่คนเดียว

ผมเขียนโคลงลงกระดาษ จะไม่คุยในห้องน้ำแล้ว หาที่คุยใหม่ดีกว่าครับ ถ้าตีความหมายออกเราคงจะได้เจอกันที่ อาคารวาทีมธุรส อาคารจอดรถของโรงเรียนเราเองครับ

“เล่นว่าวอยู่เหรอไอ้หมู”

“จะบ้าไง ใครจะมีอารมณ์”รูดซิปเสร็จเรียบร้อย เปิดประตูห้องน้ำออกมา พร้อมจะกลับบ้านกันแล้วครับ


มาถึงบ้าน ไอ้แต๊งไม่ยอมเข้าบ้านตัวเองหรอกครับ มาช่วยแม่ผมขายข้าวมันไก่ มันบอกว่าหารายได้เสริม แม่ผมก็ให้ละ ชั่วโมงละ ๕๐ บาท ทำ ๒ ชั่วโมงได้มาคนละ ๑๐๐ ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรล่ะครับ

“จะกินอะไรกันวันนี้”แม่เคาะตะหลิวรอแล้วครับ

“อยากกินหมูกระทะ”ผมตอบ

“เพิ่งกินไปเมื่อต้นเดือนไม่ใช่เหรอ จะกินอีกแล้ว จะเพิ่มน้ำหนักทำลายสถิติโลกรึไง ไอ้ลูกหมู”แม่เสียงดังใส่ หึหึ

“มันบอกมันอยากกลิ้งไปโรงเรียนอ่ะป้า แค่นี้มันยังไม่สะใจ”ไอ้แต๊งตัวชง

“นั่นสิ ลดๆบ้างนะเรา เห็นแม่ไม่ว่านี่ไม่ใช่แม่ไม่ห่วงนะ คนอ้วนอ่ะโรคเยอะจะตายไป”

“ไม่มีแรงบันดาลใจอ่ะแม่”

“ต้องเข้าโรงบาลก่อนรึไง เห็นเอากระทู้นั่นนี่มาให้แม่ดู ปากบอกจะลดๆ แต่ไม่เห็นทำสักที แล้วแบบนี้ลูกชายแม่จะขายออกไหมเนี่ย”

“อ้าว ถ้าเขาจะรักหมี เขาต้องรักที่หมีเป็นหมี ไม่ใช่รักที่หมีเป็นอย่างอื่น”

“แต่หมีเป็นหมูแบบมึงใครจะรักลงวะ นี่ถ้าป้าพิมพ์ยกไอ้หมีให้หนู แถมข้าวสารอีก ๕ เกวียน หนูขอเอาแต่ข้าวสารนะ หนูไม่เอามันหรอกป้า”

“เออ ไอ้แต๊ง ถ้ากูหล่อก็จะตั๊นหน้ามึงเข้าให้ ไม่อ้วนอย่างกูให้มันรู้ไปสิวะ”

“เฮอะ เอาไปล่อยป่าจะดีไหมนะ อยู่ในเมืองมันอยู่ดีกินดีเกินไปแล้ว ออกกำลังกายบ้างละกัน ขยับแขนขยับขาสักหน่อย แม่ล่ะเซ็งกับแก”แม่ส่ายหน้า บ่นไปงั้นๆแหละครับ ถามว่าผมสำนึกไหม ไม่อ่ะ ฮ่าๆๆๆ มึนเกิ้นนนนน


๒๑.๒๓ น.
แต๊งกลับบ้านมันไปแล้ว ผมมานั่งเล่นโน๊ตบุ๊คในห้อง ท่องเว็ป อ่านกระทู้ เผือกเรื่องชาวบ้านที่เขาเอามาแชร์ อ่านการ์ตูน วันนี้วันศุกร์แห่งชาติ ขอพักผ่อนสมองสักวันครับ งดอ่านตำราวิชาการ แต่วิชาเกิน วิชาพอกะเทินนี่ชอบใจผมนัก หึหึ บันทึกรักนักเผือก

เหยินฟ้า – อยู่ห้องป่ะ
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – เปล่า ตอนนี้อยู่เหล้าเป็ด
เหยินฟ้า – ตอบดีๆครับหมู
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – อือ ก็อยู่ห้องดิวะ จะไปไหนอ่ะ
เหยินฟ้า – เดี๋ยวไปหานะ ไม่มีเพื่อนดูหนัง
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – ก็ไอ้เฟียสไง
เหยินฟ้า – เลว
-   อีก ๕ นาทีกูถึงห้องมึง
-   เปิดประตูให้ด้วย
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – ไม่ได้ล็อก
เหยินฟ้า – โอเคร

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูพร้อมกับการเปิดเข้ามาของเพื่อนรัก เสื้อกล้ามสีน้ำเงิน กางเกงสีดำ หน้าใสๆ ไอ้เฟียสชอบ อย่ายัดเยียดให้ผมรักมันนะ ชอบไม่ลง เอิ้ก

“เรื่องอะไรอ่ะ”

“หนังโป๊ ฮ่าๆๆ จะบ้าเหรอ กูไม่ใช่คนหื่นกาม นี่ แฮรี่ พอตเตอร์”

“ก็เคยดูแล้วนี่”

“อยากจะดูอีก มีปัญหาป่ะ”

“ใครจะกล้ามีอ่ะ เอามา”ผมรับแผ่นมาจัดการ เรื่องนี้เราดูไปรอบหนึ่งแล้วครับ แต่มันอยากดูอีก เอาเถอะ ผมไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว ดูอีกสักรอบจะเป็นไรไป

หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 15-09-2015 19:09:44
แม่น้องหมีพูดเหมือนพ่อเราเลย555 ออกกำลังกายบ้างลูก ขยับแขนขยับขาบ้าง555

แต่ขานั้นไม่เกี่ยวว่าอ้วนไหม เขารักสุขภาพมากก

ป้าล่ะกลัวน้องหมีแข้งขาหัก หาคนหามไม่ได้ แต่ชอบคนแบบน้องหมีนะ ตลก555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 15-09-2015 19:10:44
ใครกันน๊า! จะเด็ดพ่อลูกหมูไปชม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-09-2015 19:24:27
เมื่อไรหมีจะเจอแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 15-09-2015 19:25:37
ใครอ่ะ  อยากรู้จัง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 15-09-2015 19:39:04
น้องหมีมองโลกในแง่ดีมากๆ เลย~~ :heaven
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 15-09-2015 19:45:25

ชีวิตหมีนี่ชิวมากอ่ะ  :laugh: ส่งใครมารักหมีที จะได้มีแรงบันดาลใจลดน้ำหนัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-09-2015 20:23:22
เค้าคือใครหนอรีบๆบอกให้เค้า
ปรากฏตัวได้แล้วน้องหมีอย่ามัว
แต่แต่งกลอนจีบกันไปมาไม่ทันใจ
คนอ่านแถวนี้ :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 15-09-2015 20:41:22
ช้าอ่ะ

 :hao3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 15-09-2015 20:57:43
นี่แอบดีใจ มาอัพทุกวันเลย 55555555555555555555
ทำดีค่ะ
ถ้าหมีผอมเนี่ยก็โคตรสูงเลยนะ ตั้ง184 โหหห  :a3: :a3: :a3:
อยากรู้ว่าจะหาแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักได้เมื่อไหร่ รอรอรอ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 16-09-2015 01:03:34
อยากมีแรงบันดาลใจ ต้องมีความรัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๕๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๓ หน้า ๑
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 16-09-2015 01:44:02
ใครหนออออ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 17-09-2015 00:26:48
โคลงที่ ๔
๒๒ สิงหาคม ๒๕๕x
๐๗.๑๑ น.
ผมกับไอ้แต๊งมาช่วยแม่ขายข้าวมันไก่ แม่รับออเดอร์ ผมสับไก่ ไอ้แต๊งเสิร์ฟ ลูกค้ามาเรื่อยๆครับ สายๆของหมดปิดร้าน และเตรียมของทำขายในช่วงกลางวัน ร้านผมทำ ๓ เวลาครับ เช้า เที่ยงเย็น แต่ก็ไม่ทำเยอะเท่าไหร่นะครับ ต่อเวลาอ่ะ ของอร่อยทำน้อยๆครับ แต่ก่อนแม่ขายช่วงเช้าอย่างเดียว แต่ลูกค้ามาขอให้เปิดขายช่วงกลางวันด้วย ไปๆมาๆขอให้ขายช่วงเย็น แต่ช่วงเย็นจะทำน้อยกว่าช่วงเช้ากับช่วงกลางวันครับ บางวันก็ไม่ทำเลยก็มีครับ

ช่วยขายของเสร็จก็ออกไปเดินเล่น วันนี้อากาศครึ้มๆ ไม่รู้จะตกกี่โมง ออกกำลังกายสักหน่อย ช่วงกลางวันก็มาช่วยแม่ขายของต่อ ช่วงเย็นเหมือนกันครับ เสาร์อาทิตย์ก็แบบนี้ เราหารายได้เสริมกัน ได้วันละ ๓๐๐ ไอ้แต๊งหน้าบานเลยครับ ส่วนผมไม่ต้องพูดถึง ถาดหลังร้านไม่รู้จะปิดหน้าผมมิดหรือเปล่า ใบหน้านี่เท่าฝาโอ่ง ส่งชิงโชคก็ไม่ได้ ฮ่าๆๆ

๒๕ สิงหาคม ๒๕๕x
มาโรงเรียนตามปกติ เมื่อวานแวะไปที่โรงจอดรถแล้ว ยังไม่มีโพสต์อิตใบใหม่มาแปะไว้ แต่โพสต์อิตที่ผมเขียนไว้ในห้องน้ำหายไปแล้ว ผมไม่ได้อยากรู้ตัวของเขาหรอกว่าเป็นใคร แค่มีคนรับฟังผมนอกจากไอ้แต๊ง ผมก็ดีใจแล้วครับ

ก็อย่างที่ผมบ่นไปในโคลงนั่นแหละครับ คือช่วงนี้อารมณ์มันเหงาๆ อยากมีแฟนบ้าง ก็เลยเขียนระบายไป ก็อยากจจะจีบใครอยู่นะ แต่เดิยเข้าไปคุยบางคนนี่ ถ้าติดเทอร์โบแล้วโดดหนีผมได้อย่างว่องไว เขาคงทำไปแล้ว ไอ้คนที่สมควรจะมี มันก็ไม่ยอมมีสักที นี่พูดถึงไอ้แต๊งนะครับ ไอ้นี่ไม่ยอมรับรักไอ้เฟียสสักที แต่ผมก็นับถือความพยายามของไอ้เฟียสนะ อุตส่าห์ตามตื๊อตามจีบและเปิดเผยด้วยว่าจีบใคร แต่ถามว่าคนที่ชอบไอ้เฟียสรังเกียจไหม ไม่อ่ะครับ เคยได้ยินจากปากของเขาเหล่านั้นมาว่า ตราบใดที่ไอ้เฟียสยังไม่ควงแขนใคร ทุกคนมีสิทธิ์หมด ผมยุไอ้แต๊งหลายที ยุไม่ขึ้นเลยครับ ไอ้นี่มันก็มึนๆ จีบสาวคนนั้นทีคนนี้ที กะล่อนไปทั่วโรงเรียนครับ แต่มันก็ไม่คบใครสักที ไปส่งน้องคนนั้น เทคแคร์น้องคนนี้ ไม่กี่วันมันก็เปลี่ยนซะแล้ว หรือบางทีก็อยู่มึนๆกับผม ไม่ได้จีบใคร

“อ่ะแต๊ง ผมขอโทษที่เมื่อวานลืมเอามาคืน”ไอ้เฟียสเดินยิ้มแป้นเอาผ้าเช็ดหน้าไอ้แต๊งมาคืน บางทีผมก็คิดว่ามันมีใจให้ไอ้เฟียสอยู่นะ แต่บางทีมันก็ไม่ได้มีใจ งงกับมันอยู่เนี่ย

“อืม”สั้นๆได้ใจความ

“ไม่อยากคืนเลยอ่ะ อยากเก็บไว้เป็นของที่ระลึก จะได้ไหม”

“ของเอาไว้ใช้ ไม่ใช่เอาไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ มึงคิดว่าผ้าเช็ดหน้ากูเป็นของฝากจากภูทับเบิกรึไง”

“ก็เป็นของชิ้นแรกที่แต๊งให้ผมนี่นา ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆที่ผมได้ครอบครองมัน...”

“เลิกทำหน้าเคลิ้ม หยุดเพ้อ แล้วมาอยู่ในโลกความเป็นจริง ที่ให้ยืมเอาเช็ดเพราะกูพ่นน้ำใส่หน้ามึง”

“เดี๋ยวๆ พ่นน้ำอะไรวะแต๊ง มึงนี่ร้ายกว่าหนังญี่ปุ่นอีกนะ”ผมรีบแทรกทันที

“ไอ้หมูขึ้นอืด สมองมึงนี่ สมองหมูกระจู๋มดจริงๆ ทะลึ่งได้โล่ หน้าตาบ้าๆแบบนี้เสือกสอบได้ที่หนึ่งของห้องอีก จะไปไหนก็ไปไอ้เฟียส เหม็นขี้หน้ามึงละ”

“เมื่อไหร่แต๊งจะหอมขี้หน้าผมสักทีนะ”ไอ้เฟียสยิ้มทะเล้น

“ก็บอกว่าขี้หน้า จะให้หอมยังไง เข้าใจคำว่าขี้ป่ะ กูไม่ได้บอกน้ำหอมหน้านี่ ไปๆ กูจะคุยกับไอ้หมี”ดูมันไล่สิครับ

“ก็ได้ เย็นนี้เจอกันที่สนามนะ ไปละหมี”ไอ้เฟียสเดินยิ้มแป้นออกไปจากห้อง พอผมหันไปมองหน้าไอ้แต๊งและถาม

“มีอะไรจะคุยกับกูอ่ะ”

“ไม่มี กูแค่ไม่ชอบให้มันมาเพ้อเจ้อต่อหน้ากู เฮอะ หน้าด้านหน้าทนจริงไอ้นี่ คนไม่มีใจยังจะมาตอแย”

“กูว่ามึงมีใจนะแต๊ง แต่มึงกลัว”

“มึงอย่ามาเดาใจกูให้ยาก กูชอบผู้หญิงเว้ย”

“ความรักไม่มีหญิงชายนะแต๊ง มึงไม่เปิดใจบ้างวะ”

“มึงยังเด็กอยู่ จะไปรู้ประสาอะไรวะหมี เรามีหน้าที่เรียนเว้ย พ่อแม่ให้มาเรียน ไม่ได้ให้มาหาผัวหาเมีย”

“แหม ไอ้สัส เมื่อวานยังเอารถมอไซด์กูไปส่งน้องเจนอยู่เลย นั่นก็ไม่ได้หาเมียเลยใช่ไหม เออ ตกลงว่าน้องใบเฟิร์นนี่ไม่จีบแล้วเหรอ”

“ไม่อ่ะ เขาไม่ได้สนใจกูเท่าไหร่ กูมันหน้าหนาเองที่ขอไปส่งเขา อย่าใส่ใจ กูก็แบบนี้ ตะลอนไปเรื่อยๆ”

“เออ แต่บางทีกูอยากให้มึงเปิดใจดูบ้างนะเว้ย ไอ้เฟียสหน้าตามันก็ไม่ได้ขี้เหร่ มันก็อันดับต้นๆในโรงเรียนด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างมันมั่นคงนะ คิดดู ปากบอกว่าชอบมึงตั้งแต่ม.๑ ตอนนี้มันก็ยังบอกว่าชอบมึง เป็นคนอื่นกูว่าได้ฟินน้ำกระจายไปนานแล้ว”

“ก็ไม่ไปเอาคนอื่นเล่า จะมาเอาอะไรกับคนอย่างกู ต่อให้หล่อเท่าเทวดากูก็ไม่สนอ่ะ”

“จริงเหรอวะ”

“เออดิ”คอยดูไอ้ปากแข็ง มึงเสร็จไอ้เฟียสเมื่อไหร่ กูจะเลี้ยงหมูกระทะทั้งซอย


๑๒.๒๕ น.
กินข้าวเสร็จแล้ว ผมกับไอ้แต๊งมานั่งใต้ร่มไม้ คุยกันเหมือนเดิมครับ แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมานั่งตรงข้าม

“พี่ชื่อแต๊งใช่ไหมคะ”

“ครับ มีอะไรเหรอ”ไอ้แต๊งพยักหน้า ยิ้มแป้นแล้วเพื่อนกู เอาเถอะ ผู้หญิงเข้าหาดีกว่าไม่มีคนอยากคบ นี่พูดเข้าตัวเองชัดๆ

“คือ หนูอยากให้พี่ปล่อยพี่เฟียสได้ไหม”

“อ้าว”หน้าหุบซะแล้วเพื่อนผม ทีแรกคิดว่าผู้หญิงจะมาจีบ ที่ไหนได้ มาขอผู้ชายนี่เอง “เอ่อ ก็ไม่ได้มัดมันไว้นี่ เห็นมันเป็นควายเหรอ ถึงอยากให้พี่ปล่อย”

“ชิ กวนจริงๆ หนูหมายถึง พี่เข้าใจป่ะ พี่เป็นผู้ชาย”

“อืม ก็ไม่ได้สับสนอะไรนี่ เป็นผู้ชาย ใส่ชุดผู้ชายอยู่อ่ะ”ปากไวครับ ถามมา โต้กลับ

“ผู้ชายไม่ควรทำตัว แบบ เอ่อ ร่าน เข้าใจไหมคะ”

“เฮ้ย น้องมาพูดแบบนี้ได้ไง คือ มีอะไรว่ามาตรงๆเลยดีกว่านะ อยากได้ไอ้เฟียสทำผัวเหรอน้อง อยากได้มันก็ไปจีบมัน ไปจับมันทำผัวสิ ไม่ต้องมาใส่ความกันแบบนี้”

“หนูจีบแล้ว แต่พี่เฟียสบอก เขามีพี่แต๊งคนเดียว คือ หนูไม่เข้าใจว่าพี่มีอะไรดีตรงไหน ทำไมพี่ไม่ชอบผู้หญิงคนอื่น ทำไมพี่ต้องมาให้พี่เฟียสชอบด้วย”

“น้อง พี่ไม่เคยทำให้มันชอบเลยนะ มันจะชอบใคร ชอบอะไรนั่นมันเรื่องของมันป่ะ พี่อยู่ส่วนพี่ มันก็อยู่ส่วนมัน มันจะชอบพี่หรือชอบใครพี่ไม่รู้ด้วย”

“อย่าทำตัวแบบนี้เลยพี่แต๊ง หนูว่าพี่ปล่อยให้เขาไปเจอผู้หญิงดีๆดีกว่านะ ยังไงผู้หญิงก็ต้องสมควรกับผู้ชาย พี่ไม่ได้คบพี่เฟียส พี่ก็อย่ากั๊กไว้คนเดียวสิ คนอื่นเขาชอบพี่เฟียสตั้งเยอะตั้งแยะ”

“เฮ้อ พี่ว่าน้องเข้าใจอะไรผิดแล้วละ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่พี่ ปัญหาอยู่ที่ไอ้เฟียส พี่ไม่เคยชอบมัน ไม่เคยคิดจะคบกันมัน แล้วมันจะชอบใครไม่ชอบใครมันเรื่องของไอ้เฟียสมันป่ะ ทำไมน้องไม่ดูตัวเองวะ ไอ้เฟียสไม่ชอบน้อง แต่กลับมาชอบพี่ แสดงว่าหน้าของน้องก็ไม่ได้สวยเท่าไหร่ ถ้าสวยจริงทำไมถึงสู้หน้าเหี้ยๆอย่างพี่ไม่ได้วะ ป่ะไอ้หมี กูชักจะเบื่อผู้หญิงงี่เง่า”ไอ้แต๊งลุกขึ้นอย่างหน้ารำคาญ “เออ ฝากไว้อย่าง หน้ากับคอสีผิวไม่เท่ากันนะ”ทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำหน้าออกไป เออ ก็จริงของไอ้แต๊งมัน หน้านี่ขาวเหมือนนางเอกลิเก คอนี่เหมือนไปมุมดเก็บถ่านมา มันตัดกันเกิ้นนนน

“ไอ้บ้า ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย เห็นแมนๆเตะบอลกูคิดว่าชายแท้ แมนบ้าแมนบออะไร แมนให้เขาเอาตูดละไม่ว่า ไอ้หน้าหอย”ผู้หญิงด่าไล่หลัง

“นี่ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง กูจะกระทืบให้ แม่ง”ไอ้แต๊งหัวเสียแล้วครับ

“เออ มึงก็อย่าไปใส่ใจดิวะ”

“ไม่ใส่ใจได้ไง กูอยู่ของกูดีๆ มึงดูดิ มันเรื่องอะไรที่กูต้องมาเจอด้วยวะ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เฟียส กูไม่โดนแบบนี้แน่ วันนี้กูเตะยอดหน้ามันให้หงาย หาเรื่องให้กูซะเหลือเกิน”

“มึงอย่าไปโทษไอ้เฟียสมันดิ กูว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยนะ”

“พูดได้ไงวะไอ้หมีว่าไม่เกี่ยว แล้วที่ผู้หญิงมาด่ากูปาวๆนี่เพราะใครวะ ถ้าไม่ใช่เพราะมันอ่ะ”

“มึงอย่าพาลดิแต๊ง ไอ้เฟียสมันก็ชัดเจนของมันอยู่แล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ผู้หญิงมันไม่สนใจเองป่ะ แล้วมโนมาว่ามึงอ่ะ ถ้าผู้หญิงมันฉลาดพอ มันคงไม่บ้าไปจีบคนที่ชอบมึงแบบไอ้เฟียสหรอกมั้ง”

“เข้าข้างยกหางมันเข้าไป ใช่สิ กูไม่สำคัญเลยนี่ มึงถึงได้เห็นมันสำคัญกว่ากู”

“ไม่ใช่แบบนั้นนะแต๊ง มึงเข้าใจกูดิ คือ กูก็พยายามไม่เข้าข้างใครเว้ย แต่กูว่าผู้หญิงอ่ะผิด ไอ้เฟียสมันไม่ผิด มึงอย่าไปพาลใส่มันดิ”

“หุบปากมึงเลยไอ้หมี”ไอ้แต๊งเดินไปอย่างว่องไว ทิ้งให้ผมเดินเอื่อยเฉื่อยอยู่คนเดียว จะวิ่งตามก็ไม่ไหว น้ำหนักเกิน นี่ถ้าหนังผมมีเกล็ดผมจะม้วนตัวเป็นตัวนิ่มแล้วกลิ้งตามมันซะเลย ปราดเปรียวเกิ้นนนนน


๑๕.๒๘ น.
ช่วงบ่ายไอ้แต๊งหน้าบูดทั้งวันครับ ผมคุยอะไรมันก็ไม่ยอมคุยด้วย เป็นแบบนี้ไม่บ่อยครับ ปกติแต๊งจะร่าเริง ใจหนึ่งก็อยากจะเดินไปด่าผู้หญิงคนนั้นจริงๆ มีอย่างที่ไหนอ่อยผู้ชายไม่ติดแล้วมาโบ้ยให้คนอื่น

เลิกเรียน ผมมานั่งรอไอ้แต๊งเตะบอลเหมือนเดิม หยิบหนังสือมาทบทวนใต้ร่มไม้ วันนี้ไอ้แต๊งเตะบอลรุนแรงมากเลยครับ จากที่ผมอ่านหนังสืออยู่ดีๆ ไม่เป็นอันอ่านเลย ต้องไปยืนข้างสนาม มันเตะบอลอัดไอ้เฟียสบ่อยครั้ง ทีแรกก็คิดว่าพลาด แต่บ่อยเกินจนผมคิดว่ามันตั้งใจ

“แต๊ง เป็นไรวะ ไม่พอใจก็ไม่ต้องลงสนามดิ”โค้ชเรียกไอ้แต๊งออกมา

“ไม่เป็นไรครับโค้ช แต๊งไม่ได้ตั้งใจ”ไอ้เฟียสออกปากแทน

“เฟียส อย่าคิดว่าโค้ชมองไม่ออกนะ ไม่ต้องเล่นละ มารวมกันให้หมด”ว่าแล้วไอ้แต๊งก็โดนโค้ชต่อว่าและโดนลงโทษให้เป็นคนเก็บอุปกรณ์ของชมรมฟุตบอลหลังเลิกซ้อมทุกครั้งเป็นเวลา ๑ เดือน


“แต๊งเป็นไร มีอะไรไม่สบายใจบอกผมได้นะ”ไอ้เฟียสยังใจดีทั้งที่ตัวเองโดนเตะบอลอัดตั้งหลายครั้ง

“ไปไกลๆกูเลยไป อย่าให้กูต้องโดดถีบยอดหน้ามึง”

“มึงมีเหตุผลหน่อยดิแต๊ง มึงบ้าป่ะเนี่ย แยกแยะอารมณ์หน่อยดิวะ”ผมรีบปรามไอ้แต๊งทันที พอโมโหทีไร แม่งบ้าทุกที

“ยุ่งอะไรกับกูด้วยไอ้หมี”

“อย่าพาล เดี๋ยวกูต่อยหน้าเข้าให้ มึงนี่ อ่ะน้ำ”ผมยื่นเครื่องดื่มเกลือแร่ให้มัน มันรับไปดื่ม ส่วนไอ้เฟียสมองหน้าผมอย่างคนจะป่วยตาย

“เก็บอุปกรณ์ด้วยนะแต๊ง ส่วนคนอื่นกลับบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้เจอกันเหมือนเดิม”โค้ชย้ำเตือนไอ้แต๊ง ไอ้แต๊งหน้าจ๋อย วางขวดน้ำลงแล้วเดินไปเก็บอุปกรณ์ ไอ้เฟียสจะไปช่วย

“มานี่ก่อน กูจะเล่าอะไรให้ฟัง”ผมดึงแขนไอ้เฟียสไว้ แล้วเกริ่นเรื่องวันนี้ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

“เฮ้อ”ไอ้เฟียสถอนหายใจ “ขอบใจนะหมี กูก็คิดไปไกลว่าเพราะเรื่องอะไรทำไมแต๊งถึงได้โกรธกู แต่มึงต้องเข้าใจกูนะหมี กูชอบใครไม่ได้จริงๆ”

“เออ กูเข้าใจมึงอ่ะ มึงไม่ผิดหรอกที่มึงชอบไอ้แต๊ง แต่มันผิดที่คนแอบชอบมึงอ่ะไปว่าไอ้แต๊งมัน มึงต้องอดทนนะเว้ยเฟียส”

“อืม กูทนได้อยู่แล้ว กูไม่เคยโกรธแต๊งหรอก เดี๋ยวกูไปช่วยแต๊งเก็บของก่อนนะ”แล้วมันก็วิ่งไปช่วยไอ้แต๊งเก็บของ มันก็น่าเห็นใจทั้งคู่อ่ะ ผมเองก็เห็นใจไอ้แต๊งด้วย บางทีมันก็บอบช้ำมาเกินพอที่มีคนมาต่อว่าแบบนี้ คือเรื่องแบบนี้เกิดทุกปีเลยครับ ปีละหลายครั้งด้วย แล้วบางปีก็โดนแกล้งจากรุ่นพี่ที่แอบชอบไอ้เฟียส จนมันโตขึ้น สู้คนได้ ไม่ค่อยมีคนแกล้ง แต่จะมีพวกจดหมายมาต่อว่า หรือ มีนัดมาเป็นกลุ่มแล้วรุมด่า มันเคยคิดจะย้ายโรงเรียนนะ แต่ก็อดทน

ไอ้เฟียสช่วยเก็บของไอ้แต๊งเสร็จแล้ว

“ผมขอโทษอีกทีนะแต๊งที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่จะให้ผมชอบเขา ผมทำไม่ได้หรอก”

“มึงไม่ชอบเขา แต่มึงเลิกชอบกูได้ป่ะ”ไอ้แต๊งมองตาดุ อีกคนก็ดีแสนดี แหม่ ถ้ากูเป็นมึงนะ ไอ้แต๊งนะ กูจับไอ้เฟียสทำผัวตั้งแต่ม.๑ อ่ะ ฮ่าๆๆ จากหมีกลายเป็นแรดซะแล้วกู “ได้ป่ะ เลิกชอบกูได้ป่ะ”

“ไม่ได้หรอก”

“ทำไมวะ แค่มึงไม่ชอบกูแค่อย่างเดียว ทุกอย่างมันก็จบ มันไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ มึงเข้าใจความรู้สึกกูป่ะ บางทีกูจีบผู้หญิงไม่ติดก็เพราะมึง และหลายๆทีกูก็ต้องโดนด่าเพราะเขาหาว่ากูกั๊ก แค่มึงเลิกชอบกู หันไปชอบคนอื่น เรื่องมันก็จบ”

“แต๊ง การที่คนเราจะรักใครคนๆหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ผมพูดได้เลยว่าต่อให้ในโลกนี้มีคนเหลือแค่ ๒ คน คือผม กับคนอื่น ผมก็ทำใจให้เราเขาง่ายๆไม่ได้หรอก แต๊งไม่รับรักผม ผมไม่ว่า แต่อย่าให้ผมไปรักคนอื่นเลยนะ”ไอ้เฟียสพูดแบบคนจะขาดใจตาย

“มึงเพ้อเจ้อ หัดอยู่ในโลกของความเป็นจริงบ้าง”

“ผมอยู่กับความเป็นจริงที่สุดแล้วนะแต๊ง ผมซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ต่อหัวใจของตัวเอง ผมรักใครนั่นคือผมรัก ผมไม่ชอบต่อให้เขาดีอย่างไร ผมก็ไม่ชอบ ผมขอแค่แต๊งเข้าใจผมแค่นี้ก็พอ ถึงวันหนึ่งผมจีบแต๊งไม่สำเร็จ ผมอาจจะอยู่ตัวคนเดียว แต่ผมขอแค่มีแต๊งให้ผมคิดถึง ผมขอแค่นี้ก็พอ”

“เฮอะ”ไอ้แต๊งหยิบของแล้วเดินนำหน้าไป

“กูเข้าใจมึงนะเฟียส ไอ้แต๊งมันก็แบบนี้แหละ เวลามันโมโห เดี๋ยวให้มันใจเย็นมันอาจจะฟังเหตุผลของมึงบ้าง มึงอย่าคิดมากนะ”ตบไหล่ปลอบไอ้เฟียสอย่างเข้าอกเข้าใจ

“อืม”อีกฝ่ายพยักหน้า แววตาดูหม่นหมองมากเลย

ผมเดินตามหลังไอ้แต๊งไปที่โรงจอดรถ โรงเรียนเงียบแล้ว โรงจอดรถโหรงเหรง ไอ้แต๊งไปล้างหน้าล้างตาที่อ่างใกล้ๆ ส่วนผมหยิบกุญแจ แลตามองไปทั่วๆ เจอโพสต์อิตสีส้มอ่อนใบหนึ่งติดอยู่ จึงเดินเข้าไปดู เก่งแฮะ หาที่เราเจอด้วย

                                                     เปลี่ยน   ความคิดใหม่แล้ว     จักมี
                                                     ที่          ไม่คิดเรื่องนี้            เล็กน้อย
                                                     แล้ว       ใยใส่ใจวจี              คนอื่น
                                                     นะ         ที่มธุรสด้อย            ส่ายหน้า ไปที 

ให้ผมเปลี่ยนความคิดซะใหม่เหรอ แล้วต้องเปลี่ยนยังไงวะ คือจากที่เห็นๆมาอ่ะ มีใครไม่เลือกคบแฟนบ้าง ก็อย่างที่บ่นไปในคราวก่อน ต้องหุ่นดี หน้าตาต้องได้ เงินต้องมี อ้วนพีเป็นหมีควายความต้องการมันก็น้อย เอาจริงๆแบบไม่โลกสวย ใครๆก็ต้องการคนหุ่นดีทั้งนั้น มันจะไม่คิดได้อย่างไรวะ ถาม ๑๐๐ ตอบมา ๙๐ ว่าต้องการแฟน หล่อ หุ่นดี เรียนเก่ง ตัวเท่าเข่งก็ได้แค่เบ่งอยู่ในห้องน้ำ ผอมแห้งแรงน้อย ก็ได้แค่ลูบปากป้อยๆกลับไปนั่งซึมที่บ้าน จะไม่สนใจคำพวกนี้ก็ไม่ได้ มันเป็นโพลล์ ถึงแม้ค่าเบี่ยงเบนมันจะเยอะก็เถอะนะ

แต่จะพูดไปนะ ถ้ามีคนมองข้ามเรื่องหุ่นกับหน้าตานี่ ผมว่าเขาต้องเป็นคนที่วิเศษคนหนึ่งเลยละครับ จิตใจเขาต้องดี เฮ้อ จริงๆผมก็ไม่เกี่ยงนะคนที่จะมารักผม แต่มันไม่มีนี่สิ เหงาจะตายอยู่แล้ว น้องแก้วใยไม่เห็นใจบ้าง หึหึ ฟุ้งซ่านเกินไปก็ไม่ดี

“ทำอะไรวะหมี มีพิรุธนะมึง”เสียงเตือนจากเพื่อนที่ยืนจังก้ารอหน้าปากทางออก ผมต้องรีบสตาร์ทมอไซด์ขับออกไปด้านนอก วันนี้คงไม่ได้ตอบโคลง คิดอะไรไม่ออก

ก็เหมือนอย่างที่ไอ้แต๊งว่า ผมยังเด็กเกินไปมั้ง มุ่งมั่นการเรียนดีกว่า
เอ๊ะ หรือเรามาหาเมียทิ้งทวนม.ปลายดีวะ เอิ้ก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 17-09-2015 00:56:34
สงสารเฟียสแต่ก็เข้าใจแต๊งนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 17-09-2015 01:07:29
รักแท้จะแพ้หมีหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-09-2015 01:36:49
นาทีนี้สงสารเฟียส
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-09-2015 02:13:21
สงสารเฟียสจัง แต๊งอย่าใจร้ายนักเลย
แต่เป็นแต๊งก็ไม่ง่าย ถ้าเจอแบบนี้ ชีวิตช่างวุ่นวาย

ส่วนพี่หมี อยากรู้จังว่าใครเป็นคนตอบโคลง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-09-2015 06:44:03
เฟียส~~ :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 17-09-2015 08:06:41
สู้ๆนะเฟียตเอ้ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-09-2015 08:14:29
เฟียสมั่นคงดีจังแต๊งใจอ่อนเร็วๆคงดี พี่หมีก็รอต่อไปนะ อาจจะมีคนมองข้ามหน้าตารูปร่างไปก็ได้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 17-09-2015 09:19:31
เอาใจช่วยเฟียสให้แต๊งใจอ่อนเร็วๆ
เราเห็นความพยายามและความมั่นคง
จากนายมาเฟียส
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-09-2015 09:20:03
เย้....เรื่องใหม่ของคุณเมฆมาแล้ว  :katai2-1:

หมีจะผอมหรือเปล่านะ  :ruready
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 17-09-2015 10:19:44
เฟียสไปรักคนอื่นเถอะ แต๊งมีคนที่เขารักแล้ว

 :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 17-09-2015 10:28:06

รอหนุ่มคนนั้นของหมี  :katai5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 18-09-2015 10:37:12
ดูแล้วหมีเป็นคนไม่ค่อยมุ่งมั่นเข้มแข็งเด็ดขาด  เฉื่อยๆขี้เกียจออกกำลังด้วยจะให้ลดหุ่นหมูจากแรงบันดาลใจคงยาก  คิดว่าน่าจะต้องให้มีเรื่องกระทบจิตใจให้ซึมจนไม่อยากอาหาร ถึงจะลดได้

อยากรู้จัก หนุ่มที่มาตอบโคลงน้องหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 18-09-2015 11:16:22
สงสารเฟียสจัง รักมั่นคงมากหลุดมือไปเสียดายแย่เลยนะแต๊งค์
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 18-09-2015 12:19:48
ตอนแรกกะว่าให้ได้หลายๆตอนก่อนค่อยมาเก็บ แต่พอลองมาอ่านแล้ว โอ้ยยยยย ติดเลย ชอบจัง แนวแต่งกลอนจีบ อิอิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-09-2015 13:49:15
ใครที่คุยกับหมีอ่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 18-09-2015 20:55:05
ติดใจความชิลของหมีมาก
เห็นบอกว่าเฟียสเป็นคนดังลำดับต้นๆ งี้แสดงว่าอาจจะมีคนดังคนอื่นๆ อีก ไม่รู้ว่าคนต่อกลอนจะเป็นคนดังไหม แต่คิดว่าคงจะไม่ได้เจอคนต่อกลอนในเร็ววันแน่ๆ
อนึ่ง อยากเจอเฮียมวย ทำไมเฮียไม่โผล่มาสักที  :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 18-09-2015 23:17:09
โคลงที่ ๕

๒๘ สิงหาคม ๒๕๕x
๑๒.๑๑ น.
หลายวันมานี้ผมไม่ได้ไปตอบโคลงเลยครับ มัวแต่ยุ่งกับหนังสือกับรายงาน อาจารย์ก็สั่งมาได้ ๒๐ หน้า ส่งอาทิตย์หน้า นั่งเขียนจนมือหงิก ดีนะทำเป็นคู่ ผมเป็นคนเขียน ไอ้แต๊งวาดรูป ไอ้แต๊งถึงหัวทางวิชาการมันพอแค่เอาตัวรอด แต่ศิลปะถือว่าใช้ได้ครับ

นั่งละเลียดไอติมกะทิกับไอ้แต๊งคนละถ้วย ผู้หญิงที่มาโวยกับไอ้แต๊งเดินแล้วมาทำปากเบ้ใส่

“เฮ้อ ถ้าเรียนจบกูคงได้สบายใจ”ไอ้แต๊งถอนหายใจก่อนจะเสมองไปด้านอื่น

“ทำไมวะ”ระหว่างที่เผลอ กูขอก้อนใหญ่ๆนะเพื่อน เหอๆ

“อ้าว ก็จะได้หลุดพ้นเรื่องบ้าๆพวกนี้ไปสักทีสิ ผู้หญิงอะไร รู้ว่าเขาเป็นเกย์แล้วอยากได้เขาเป็นผัว นี่มันใช้อะไรคิดวะ”

“หึหึ ก็จริง แล้วมึงอ่ะ เมื่อไหร่จะเปิดใจสักทีวะ”

“มึงลดความอ้วนได้เมื่อไหร่ กูอาจจะคบมันก็ได้”ยักคิ้วให้ผม

“มึงพูดจริงนะ”ผมตาโตเลยครับ ถ้าไอ้แต๊งเอาจริง ผมจะลดเลยครับ เพื่อเพื่อนเว้ย

“เฮอะ มึงนี่มัน”ทำหน้าเอือมระอาใส่ผม “นี่ถ้าไม่สนิทกันตั้งแต่เล็กจนวันนี้นะ มึงปากแตกแน่ไอ้หมี”

“ถ้ามึงทำ กูฟ้องน้าหมอนอ่ะ”ชื่อเล่นแม่ไอ้แต๊งครับ ชื่อ หมอนอิง น่ารักมาก แต่ดุนะ ฮ่าๆๆ

“ไอ้เด็กขี้ฟ้อง เออ นี่ใกล้จะสอบกลางภาคแล้วเหรอ ทำไมมันไวจังวะ”

“อืม อย่างเซ็งอ่ะ แทบไม่ได้พัก ถ้าขึ้นมหาลัยคงสบายเนอะ มึงคิดได้ยังว่าจะเข้าคณะไหน”

“ก็นิติอ่ะ อย่างอื่นคงไปไม่ไหว ถ้าเป็นวิศวะ เลขกับพวกฟิสิกส์กูไม่ค่อยได้ พวกอื่นๆก็ไม่น่าสนใจ สายนี้น่าจะเหมาะมั้ง”

“อืม ก็จริง กูเริ่มจะเบื่อเลขแล้วละ ปวดหัวกับมันจริงๆ”

“แต่กูก็ไม่รู้ว่าจะแอดติดหรือเปล่านะ คะแนนกูไม่ค่อยจะดีอ่ะ”

“ก็ตั้งใจอ่านหนังสือดิ ทิ้งทวนหน่อย”

“เฮ้อ เห็นตัวหนังสือแล้วตาลาย”

“แหม่ แล้วก็อยากจะเรียนนิตินะ กูเห็นในกระทู้มีบ่นว่าหนังสือเป็นตั้งเลย แทบต้มกินแทนข้าว ขี้เกียจอ่านแบบมึงจะไหวเหรอวะ”

“เออ นั่นดิ แต่กูก็อยากจะเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมนะเว้ย ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง พวกเราก็พร้อมที่จะแถลงไข”

“เพื่อปกป้องความดีไม่ให้ถูกทำลาย”

“เพื่อปกป้องสันติภาพของโลก เปิดเผยความบ้าไร้สาระและความรัก”

“คนอ้วนผู้แสนน่ารักและทรงเสน่ห์”

“ฉัน แต๊งซาชิ”

“ส่วนฉัน หมีจิโร่”

“เรา ๒ คน แก๊งสมองเป็ดแห่งจักรวาล”

“ไวท์ฮอล พรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่”

“ส่วนฉันก็เฟียสไง”ไอ้เฟียสโผล่หน้ามาพอดี

“ยุ่งนะมึง”ไอ้แต๊งถลึงตาใส่

“อ้าว ก็เห็นหมีกับแต๊งกำลังสนุก อยากจะแจมนี่หว่า หึหึ ตะกี้แต๊งน่ารักว่ะ ผมใจละลาย”

“มึงมาทีไรมีปัญหาทุกที”

“ก็อยากเล่นด้วยนี่หว่า ตัวโกงมันมันมี ๓ ตัว ผมเป็นเนียสก็ครบทีมพอดี”ยิ้มหน้าแป้นแล้นให้พวกผม “เฟียสเนียส คล้องจองดีเนอะ”อย่างหลังนี่บ่นกับตัวเองเบาๆ

“กูจะเอาไฟช็อตล้านโวลด์ให้มึงไปไกลๆจากกู เฮอะ”

“หายหน้าไปหลายวันนะเฟียส”ผมทักหลังจากไอ้แต๊งดุไอ้เฟียสจนพอใจ

“อืม การบ้านเยอะ ต้องอ่านหนังสืออีก แต๊ง ยังมีคนมาว่าแต๊งอีกไหม”ตอบผมแล้วหันไปถามที่รัก เฮ้อ ถ้ามีคทาวิเศษกูจะเสกให้พวกมึงรักกันเลยละ

“เมื่อไหร่ที่ยังมีมึง กูไม่มีวันสงบหรอก”

“ใจร้ายกับผมจัง แต่ถ้าวันไหนที่แต๊งมีผม แต๊งจะมีความสุขที่สุดในโลก”

“อย่าเลยเฟียส กูเสียดายไอติมว่ะ แล้วนี่เย็นนี้ซ้อมบอลป่ะ”

“ก็ซ้อมปกติ หมดสัปดาห์นี้แล้วก็จะให้อ่านหนังสือสอบกลางภาคน่ะ หลังจากสอบกลางภาคแล้ว น่าจะก็ซ้อมปกติ แล้วปิดเทอมจะมีเก็บตัวด้วยนะแต๊ง”

“อืม กินข้าวแล้วเหรอมึงอ่ะ”

“กินแล้ว อยากกินไอติมถ้วยเดียวกับแต๊งอ่ะ”ไอ้เฟียสยิ้มหวาน ไขมันกูละลายไป ๕ กิโลเลยเนี่ย หล่อมากว่าที่เพื่อนเขย หึหึ

“ฝันไปเถอะ”

“วันหลังนะเฟียส เดี๋ยวมานั่งกินด้วยกัน กูไม่อยากกินกับมันแล้ว มึงแย่งถั่วแย่งงากูหมด”

“ถ้ย ไอ้หมู ซื้อมา ๑ ถ้วย กูได้กิน ๒ คำอ่ะ มึงล่อไปซะครึ่งถ้วยแล้วหาว่ากูแย่งถั่วมึงอีก คราวหน้าเดี๋ยวกูคลุกรำใส่แม่งซะเลย”

“สับผักตบกับหยวกกล้วยให้กูด้วยนะ ไอ้บ้าเอ๊ย เห็นกูเป็นหมูอยู่เรื่อย มันน่าน้อยใจ”

“อ้าว ก็ไม่ได้เป็นหมูอยู่เหรอ”ไอ้เฟียสเข้าข้างไอ้แต๊งซะแล้ว เดี๋ยวเหอะมึง กูไม่ยุมึงกับไอ้เฟียสซะเลย

“ไปไกลๆเลยไอ้เฟียส ถ้าจะมาว่ากูแบบนี้ เบื่อพวกมึงจริง”ผมลุกหนี งอนเว้ย

“อย่าไปโดดน้ำตายนะมึง มันไม่จมหรอก”ไอ้แต๊งแซวไล่หลังแล้วคำคิกกับไอ้เฟียส พอกันทั้งคู่

๑๔.๑๒ น.
วิชาชีวะที่ผมอยากจะสละชีวิต อาจารย์ผู้หญิงน่ารักครับ แต่สอนไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆๆ สวยเกินมันเลยเพลินกับสายตา มองครูไม่ได้มองกระดาน กว่าจะผ่านชั่วโมงนี้ไปใจพี่ก็ลอยละล่องไปกลางท้องทิวปลิวใบไผ่ เอิ้ก เพ้อเจ้อสิ้นดี

“อย่าลืมทบทวนก่อนสอบนะคะนักเรียน ครูจะออกเนื้อหาทั้งหมด”

“โหยยยยยยยยยยยย”

“ล้อเล่น ก็จะออกเนื้อหาสำคัญๆ รอบหน้าครูจะมาติวสรุปให้นะคะ”

“ครับ”

“สำหรับวันนี้ พอแค่นี้ สวัสดีค่ะ”แล้วหัวหน้าห้องสั่งทำความเคารพ ครูเดินออกไป ไอ้หมีมองตาละห้อง น่ารักเว่อ อายุยังไม่ถึง ๓๐ ใสใสวัยทโมนชอบ

“ไม่สนใจเค้าแล้วเหรอตัวเอง”ไอ้แต๊งทำเสียงหวานใส่

“เฮอะ กูอยากอ้วกว่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

เรียนคาบต่อไปเป็นวิชาสังคม ชิวมาก ไอ้แต๊งชอบ จริงๆมันไม่น่าจะมาเรียนสายวิทย์เลยนะครับ พวกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็คะแนนกลางๆ ไม่เคยตก แต่ก็ไม่เคยได้เกรด ๔ เกรดจะอยู่ประมาณ ๒ ขึ้นครับ กับวิชาสังคมมันก็โอเคของมัน ส่วนผม เห็นอ้วนๆแบบนี้ เรียนเก่งนะจะบอกให้ เอิ้ก

วันนี้เหมือนเดิม มานั่งอ่านหนังสือรอไอ้แต๊งซ้อมบอล ไอ้แต๊งใจเย็นไม่โกรธไอ้เฟียสแล้ว แต่ว่ามันก็พยายามห่างๆ ไอ้เฟียสหลายวันที่ห่างหายไป วันนี้มันก็ยังมาทำคะแนนเหมือนเดิม เวลาอยู่ในสนามไอ้เฟียสจะมีเหตุผลมากๆ ไม่ดุน้อง แต่คำพูดที่เตือนน้องๆและเพื่อนร่วมทีมจะแหลมคม สมกับที่มันเป็นกัปตันทีมแหละครับ

พอซ้อมบอลเสร็จ แฟนคลับมานั่งรอเหมือนเดิม ไอ้แต๊งไม่มีคนเอาน้ำมาให้ครับ มาเป็นบางวัน วันนี้ไม่มีมันก็ไม่เคยซีเรียส บางครั้งมันก็เกรงใจนะที่ต้องกินน้ำฟรีของชาวบ้าน

“พี่แต๊ง แจมขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม”สาวมัธยม ๕ มาคอยตั้งแต่ไอ้แต๊งลงสนาม

“อืม ได้ๆ”

“ถ่ายคู่กับพี่เฟียสนะ พี่เฟียสมานี่ ถ่ายรูปกันหน่อย”ไม่ทันที่ไอ้แต๊งจะได้พูดอะไร ไอ้เฟียสก็เดินมายืนข้างไอ้แต๊งซะแล้ว ครั้นจะพูดปฏิเสธก็คงยากเพราะตอนนี้ “ยืนใกล้ๆกันหน่อยนะคะ”ว่าแล้วสาวเจ้าก็จัดการถ่ายรูปหลายรูปเลยครับ “พี่แต๊งยิ้มหน่อย”ไอ้เหยินฟ้าของผมมันก็แย้มน้อยๆ

“เต็มใจยิ้มหน่อยสิ”ไอ้เฟียสสะกิด ไอ้นี่ถูกใจมันครับหน้าบานเป็นกระด้ง

“ยุ่งนะมึง”

“อีก ๒ รูปนะคะ พูดคำว่า มิดซีลี”เอ่อ บ้านเราอยู่อีสานนะครับ ฮ่าๆๆ จะเปปซี่ก็ไม่ได้ค่าโฆษณา ก็ต้องแบบนี้ มิดซีลี โชว์เหล็กดัดเหยินฟ้ามหาเสน่ห์ของมัน ส่วนไอ้เฟียส โชว์ฟันเรียงขาว วิ๊งทั้งคู่เลยครับ เหมาะสมกันดี “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณพี่แต๊งมากๆนะคะ น้ำค่ะ แจมซื้อมาฝาก ของพี่แต๊งเป็นน้ำส้ม ของพี่เฟียสน้ำมะเขือเทศค่ะ”

“ขอบคุณครับ ไม่น่าลำบากน้องแจมเลย”ไอ้เฟียสยิ้มใจดีให้สาวๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเป็นแฟนคลับของพี่ ๒ คน อยากให้พี่ ๒ คนรักกันมากๆ หนูกลับบ้านแล้วนะคะ บายๆ”อันนี้มันอาการของสาววายป่ะวะ เออ นอกจากคนด่าแล้ว ยังมีคนยุอยู่เยอะเหมือนกันนะครับ ไอ้ประเภทไม่ห่วงว่าจะหมดผู้ชายเอาไว้ทำผัวนี่มีอยู่ในโรงเรียนเราเยอะเลย ไอ้ประเภทอยากได้ผู้ชายเอาไปทำผัวจนต้องทำตัวไม่เหมาะสมก็เยอะ หลากหลายทางชีวภาพมากๆเลยในโรงเรียนแห่งนี้

ระหว่างรอไอ้แต๊งกับไอ้เฟียสเก็บอุปกรณ์ผมก็ไปถอนมอไซด์มารอที่ข้างสนามละครับ เราจะได้ไม่ต้องไปไหนไกล หยิบกุญแจรถขึ้นมาได้ก็ผิวปากแบบคนอารมณ์ดี มีความสุขเว้ย เพื่อนเราได้ถ่ายรูปกับว่าที่แฟน ระหว่างเดินไป กลิ่นน้ำมันเครื่องมันลอยปลิว แหม่ อารมณ์เกิดเลยครับ เจอโพสต์อิตพอดีด้วย เขาเขียนว่าอะไรนะ

                                                            ห่าง    หายหลายวันเว้น          พูดจา
                                                            หาย    แผ่นใบสนทนา            เจื้อยแจ้ว
                                                            หลาย  หลากเรื่องปุจฉา          ถามไถ่
                                                            วัน      วี่มาคอยแล้ว               อย่าเก้อ เหมือนวาน

อ้าว เขามารอเราเหรอ ดูมีคุณค่าขึ้นมาทันทีเลยเรา แล้วมีอะไรจะถามเราอ่ะ ผมก็ไม่ใช่เซเลปซะด้วย เอ๊ะ หรือว่าเราก็ดัง ฮ่าๆๆ ดังแต่ท่อล้อไม่หมุนอ่ะดิ

                                                            ห่าง     หายไปว่างเว้น         กิจมี
                                                            หาย     แผ่นใบตอบวจี         ต่อน้อง
                                                            หลาย  หลากเรื่องเร่งรี่          ทำส่ง ครูเอย
                                                            วัน      วี่มาตอบพ้อง            ไม่เก้อ สมฤดี

ดึงโคลงแผ่นนั้นมาแปะในสมุดของผม และผมก็เขียนแปะไว้ที่ผนัง หวังว่าลมไม่พัดกระดาษแผ่นนี้จนปลิว หรือหวังว่าคนอื่นจะม่หยิบมันไปอ่านนะ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าคนเดิมหรือเปล่าที่มาตอบโคลง เพราะนักเรียนเป็นพัน ความสามารถเรื่องโคลง เรื่องฉันท์ มันก็ต้องมีบ้างแหละครับ แต่สังเกตว่าเป็นลายมือเดียวกัน น่าจะคนเดียวกัน เอาเถอะ มีคนมาคุยกับเราแก้เหงาก็ยังดี บางทีคุยกับไอ้แต๊งแล้วมันเพ้อ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 19-09-2015 02:21:48
กว่าจะรู้ว่าใครนี่สงสัยเฟียสได้กับแต๊งก่อน  5555555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-09-2015 02:37:22
ร้องเพลงรอต่อไป
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 19-09-2015 03:16:54
น่ารักอ่ะมีมารอด้วย อยากรู้ๆ ใครกันน๊า
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 19-09-2015 04:37:35

เรารอผู้ชายคนนั้นของหมีต่อไป
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-09-2015 10:44:41
ตอนทั้งสองคนแนะนำตัวแบบแก๊งค์ร็อคเก็ตนี่เล่นเอาขำไม่หยุดเลยค่ะ :m20:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 19-09-2015 12:41:50
เมื่อไหร่พระเอกของเราจะปรากฏตัวหนอ
ปล่อยให้เฟียสกะแต๊งทำคะแนนนำโด่งแล้ว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 19-09-2015 15:46:20
อ่านเพลินๆ มาสำลักเอาตอนเฟียสโผล่มาแจมกับมุกแก๊งร็อกเก็ตนี่แหละ
หมียังคงชิลกับชีวิตต่อไป ส่วนแต๊งนี่ก็ใจแข็งได้ใจแข็งดี หมียุไม่ขึ้นเลยทีเดียว
แต่ดูชีวิตแต๊งชินกับการมีเฟียสเข้ามามากเกินไปแล้ว ถ้าจู่ๆ เฟียสหายไปอย่างที่แต๊งชอบไล่ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าไอ้คนที่จะอยู่ไม่ได้นี่จะเป็นใครกันแน่  o3
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-09-2015 16:01:37
พี่หมีลดน้ำหนักเถอะเผื่อแต๊งค์จะใจอ่อนกับเฟียสสักที :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 19-09-2015 16:15:52
 :impress3: น่ารักมาก ๆ เลยอ่ะ พอมาเขียนเรื่องแนวนักเรียนก้อสุดยอดเหมือนเดิมเลยน่ะ ตกลงหมีจะได้แรงบันดาลใจเมื่อไหร่เนี่ย สงสารเฟียสเหมือนกันเนอะ แต่เรื่องความรักนี่มันก้อพูดยากน่ะ หรือแต็งจะหลงชอบหมีอยู่รึเปล่าเอ่ย  :mew4: อยากรู้จังว่าใครโต้โคลงกับหมีน่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: comkacom ที่ 19-09-2015 18:19:14
ว๊ายๆ เค้าต่อเพลงยาวกันด้วยนะคุณขาาาา ใครน้าาาาา รอลุ้นพร้อมพี่หมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 19-09-2015 19:13:27
เนื้อเรื่องน่ารักใสๆ ดีจัง ชอบแต๊ง&เฟียส รอคู่พ่อหมีเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๕ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 20-09-2015 08:29:29
อยากรู้ๆๆใครต่อโคลงกับหมีอ้วน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 20-09-2015 19:36:07
โคลงที่ ๖

๒๙ สิงหาคม ๒๕๕x
๐๖.๑๑ น.

“ไอ้ลูกหมูเว้ย”เสียงห้าวๆจากด้านนอกดังเข้ามาข้างในห้องของผม ผมได้ยินแต่ไม่ตื่น ไอ้แต๊งต้องตื่นไปเปิดประตูให้ เอ่อ คือ เมื่อคืนไอ้แต๊งมานั่งดูการ์ตูนกับผมครับ ก็นอนที่นี่เลย

“เฮีย สวัสดี”

“สวัสดีน้องรัก ไหนไอ้ลูกหมูมันตื่นยัง ไอ้หมูเว้ย เฮียมานี่ไม่ลุกมาต้อนรับรึไงวะ”

“อืม มาก็มาแล้วไง ทำไมต้องพิธีการด้วย ขอนอนต่อนะ”

“นอนเข้าไป ไม่คิดจะช่วยแม่เลยเหรอ”

“แหม่ วันหยุดขอพักผ่อนนิดหนึ่ง แล้วนี่ทำไมมาแต่เช้าอ่ะ”ไม่นอนมันละครับ เพราะถ้านอนเฮียก็ไม่ยอมหยุดคุยแน่ๆ

“มาขอตังค์แม่ดิ ไม่ยอมโอนให้เลย”

“หึหึ อยากหายไปนานเองนี่ ปากบอกว่าเสร็จค่ายแล้วค่อยกลับ ไม่เห็นกลับ สมน้ำหน้า”

“เออ เอาเข้าไป แล้วนี่เมื่อไหร่จะผอมวะหมู”

“อ้าว ถ้าผอมก็ไม่ใช่หมูดิเฮีย ฮ้าว มึงจะอาบน้ำบ้านกูหรืออาบที่บ้านมึงอ่ะแต๊ง”

“อาบบ้านกูดิ ไปแล้วเฮีย เดี๋ยวมาช่วยป้าขายของ เจอกัน ๗ โมงนะไอ้หมี”

“เออๆ ฮึบ”ผมค่อยๆลุกขึ้น มองหน้าเฮีย ตอนนี้ไม่เป็นผู้เป็นคน หนวดเครายาวเฟื้อยเลยครับ นี่มันมนุษย์หรือคนป่าวะเนี่ย เรียนเมืองกรุงซะดิบดีแต่ไม่มีอะไรที่เป็นเมืองกรุงเลยพี่ชายผม

มาพูดถึงเฮียของกันครับ บ้านเรามีกันอยู่ ๔ คน มีพ่อผม แม่ เฮียมวย และผมไอ้หมี พ่อผมนี่เป็นข้าราชการครับ อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง กลับบ้านไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าไปมีเมียน้อยหรือเปล่า เอิ้ก พ่อได้ยินคงจะแพ่นกระบาลอ่ะ และแม่ก็เป็นแม่ค้าข้าวมันไก่ ทำตั้งแต่เช้ายันเย็น มีผมเป็นลูกมือบ้างกับไอ้แต๊ง ส่วนเฮียมวยตอนนี้อายุ ๒๐ เรียนชั้นปีที่ ๒ คณะเศรษฐศาสตร์ครับ คือได้ข่าวมาว่าคณะนี้ก็มีลูกผู้ดิบผู้ดีไปเรียนกันก็เยอะ แต่ทำไมเฮียผมกลับป่าเถื่อนแบบนี้วะ ไว้ผมยาว หนวดเคราไม่อยากจะโกน เฮียผมนี่จะสูง ๑๘๕ ตัวเท่าๆผมแหละครับ แต่เขาเฟี้ยวกว่าเยอะ ไม่ผอม ไม่ล่ำ ไม่เหมือนผม น้ำหนักผมนี่ต้องเอาน้ำหนักเฮียมาคูณ ๒ อ่ะ

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงมาข้างล่าง แม่บ่นเฮียมวยใหญ่เลยครับ เรื่องผมยาวเคราครึ้ม

“เฮอะ ฉันมีลูกเป็นผู้เป็นคนสักคนไหมเนี่ย หรือว่าฉันให้ลูกกินนมผงมากเกินไป อีกคนก็ลิงป่าอีกคนก็หมูฟาร์ม เอาเข้าไป”แม่บ่นไปสับไก่ไป

“โหยแม่ วัยรุ่นอ่ะแม่”

“วัยรุ่นก็ทำตัวให้เป็นผู้เป็นคนหน่อยสิ จะเพื่อชีวิตไปถึงไหน ดูซิ หน้าตาดีๆ ไว้หนวดไว้เคราแล้วสาวใดจะมาแล”

“เฮียเขาชอบผู้ชายอ่ะแม่ ไม่มีสาวแลหรอก”ผมแซวเฮีย

“ไอ้ลูกหมู เดี๋ยวเตะกลิ้งเลยเอ็ง”เฮียขู่ จริงๆเฮียผมผู้ชายแมนๆปกติครับ ไม่มีเบี่ยงเบนมาตรฐานแบบผม อย่างผมนี่ไม่ซีเรียส คือจะผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ดี ไม่มีเรื่องมาก นี่ขนาดเปิดกว้างเท่านี้ ยังไม่มีคนเข้าหา ก็อย่างว่า ควายป่ายอย่างเรามันไม่เป็นที่นิยม

ทั้งวันเราช่วยแม่ขายข้าว ก็เรื่อยๆลูกค้ามาเรื่อยๆ วันนี้แม่สบายหน่อยเพราะมีคนช่วย ๓ คน ผมก็อู้บ้างอะไรบ้าง ช่วยกันจนเย็นเก็บร้านเรียบร้อยแล้วก็พักผ่อน มานั่งดูหนังกันเป็นครอบครัว พอผมน่าจะมาสัปดาห์หน้าครับ ปกติจะมาทุกเสาร์อาทิตย์ แต่ช่วงนี้มีงานบ้างอะไรบ้าง จึงไม่กลับมาเกือบ ๒ เดือนแล้วครับ

“ไปตัดผมไปลูกป่ะ ให้มันสะอาดหูสะอาดตาแม่บ้าง”

“วัยรุ่นอ่ะแม่ ขอเซอร์สักหน่อย”

“งั้นเดือนนี้ใช้ ๓๐๐๐ ก็พอ”

“แม่”เฮียโอดครวญ

“ถ้ายังขอตังค์แม่ อย่าหืออย่าอือกับแม่ ไปตัดผมเดี๋ยวนี้”

“ก็ได้”เฮียงอนแม่ซะแล้วครับ แต่ถามว่างอนแล้วได้อะไร ไม่ได้อะไรหรอก หืออือกับแม่เยอะไปไม่ได้ เพราะยังขอตังค์แม่ใช้อยู่ ฮ่าๆๆ “โกนแค่หนวดนะแม่ เดี๋ยวมวยค่อยไปตัดเอาที่แถวๆหอ ร้านแถวบ้านมีแต่ลุงแก่ๆ ทรงไม่โดนใจ”

“เฮ้อ ฉันล่ะหน่ายพวกพวกแกจริงๆ ข้อต่อรองเยอะ จะไว้ทรงไหน ทำอะไรก็ให้มันเหมาะสมบ้างสิลูก รกรุงรังอย่างกะลิงกะค่าง ใครเข้ามากินข้าวร้านเราเขาจะหาว่าเป็นขโมยขโจร หน้าตาเราก็ดูดี ทำตัวให้สะอาดสะอ้านหน่อยสิ จะเซอร์จะโทรมไปถึงไหน”แม่บ่นยาวเลยครับ

“ใสใสวัยรุ่นชอบอ่ะแม่”

“เออ วัยรุ่นมันชอบ แต่แม่ไม่ได้ชอบด้วย ไปๆ โกนหนวดโกนเคราให้เรียบร้อย หมีด้วย แม่จะบังคับหนูแล้วนะ”

“อะไรนะป้า เรียกมันว่าหนูเหรอ นี่มันโอ่งมังกรราชบุรีชัดๆ”ไอ้แต๊งขากวนป่วนแม่ผมอีกคน

“ไอ้เจ้านี่ก็กวนป้าจริง ไอ้ลูกหมี เดี๋ยวแม่จะทำอาหารคลีนให้กิน เราต้องลดความอ้วนแล้วนะ กินแบบนี้ไม่ไหวแล้ว อ้วนขึ้นทุกวี่ทุกวัน”

“อ้าว ไม่ดีเหรอแม่ ใครๆจะได้ชมว่าบ้านนี้พ่อแม่เลี้ยงดี ลูกอ้วนพียิ่งกว่าหมูอีก”ผมกวนแม่อีกคน

“มันน่าตีเชียว เลี้ยงดีเกินชาวบ้านชาวช่องอ่ะ ไม่ได้ละ แม่ต้องบังคับ ไม่เต็มใจทำแม่ไล่ออกจากบ้านด้วย คราวนี้เอาจริงนะ”แม่ทำเสียงเข้ม

“ป้าพิมพ์ ข้าวมันไก่กินนี่จานหนึ่ง แล้วใส่ห่ออีกห่อหนึ่งจ๊ะป้า”

“จ้า แปบหนึ่งนะ เออ แล้วนี่ลูกชายออกจากโรงบาลแล้วเหรอหนุ่ม”

“เพิ่งออกเมื่อเช้าจ๊ะป้า”

“อ้อ ช่วงนี้อากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อย คนไม่สบายง่าย อ่ะ หมี เอาไปเสิร์ฟ”แม่สั่ง ผมก็ลุกเดินอุ้ยอ้ายเอาจานข้าวมาวางและตักน้ำซุปให้ ระหว่างนี้ลูกค้ามาเรื่อยๆ เฮียขึ้นไปโกนหนวดครับ ไม่ยอมตัดผม คือหนวดเฮียแกยาวมาก มันไม่เหมือนคนอ่ะ ไหนจะผมยาวเลยไหล่ไปหลายนิ้ว นี่ตั้งแต่ขึ้นมหาลัยเฮียไม่เคยตัดผมเลยนะครับ ผมอยากไว้แบบนั้นบ้างจัง แต่สภาพออกมาผมว่าผมคงดูไม่เท่เหมือนเฮียหรอก

ระหว่างที่เฮียมวยขึ้นไปโกนหนวด น้าหมอนแม่ไอ้แต๊งก็มาที่ร้านของผม มากินข้าวมื้อเช้า มาถึงก็คุยฟุ้งเลยครับกับแม่ คุยถูกคอกัน ส่วนผมกับไอ้แต๊งนั่งมองตาปริบๆ ลูกค้ามานี่แม่ไม่ได้แคร์ครับ ปล่อยให้ผมสับไก่ ไอ้แต๊งเป็นคนเสิร์ฟ

“น้าหมอน สวัสดีครับ”เฮียโกนหนวดเสร็จแล้ว ลงมาเจอหน้าหมอนพอดีก็เลยทักทาย พอโกนหนวดโกนเคราแล้วเฮียดูหน้าใสมากขึ้นกว่าเดิม หล่อโคตรๆอ่ะเฮียผม

“จ่ะ แหม หายหน้าหายตาไปนานเลยนะเรา น้าคิดว่าจะหาทางกลับบ้านไม่ถูกซะแล้ว”

“งานเยอะอ่ะน้า”

“อย่าไปเชื่อมันหมอน มันบ่นว่ารำคาญพี่ ไม่อยากกลับบ้านกลับช่อง ก็ใช่สิ ฉันมันแค่ตู้เอทีเอ็ม คิดถึงยามสตางค์หมด”

“คิดไปไกลแล้วแม่ มวยไม่เคยพูดสักหน่อยว่ารำคาญ วัยทองก็งี้ คิดเล็กคิดน้อย”

“หนอย มาว่าฉันวัยทอง สักเส้นยังไม่มีประดับคอเลย มัวแต่ทำงานง๊อกๆส่งพวกแกเรียนอยู่เนี่ย ดูคุณหญิงคุณนายบ้านอื่น ทองเส้นเท่าโซ่ล่ามหมา”หมดกันแม่กู เปรียบเทียบซะ

“อ้าว ๕ บาทที่ซื้อเมื่อต้นปีเอาไปไหนแล้วแม่ เอาไปขายแล้วเหรอ”

“ยังอยู่ ซื้อไว้รอแกแต่งเมียแหละ อ๋อ นี่ไม่ค่อยกลับบ้าน แกติดหญิงที่ไหนหรือเปล่า”

“ก็ดูหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว หญิงไม่ติดนี่ก็เกินไปแล้วพี่ ไม่เหมือนเจ้าแต๊ง”น้าหมอนเหล่ตามองลูกชาย

“อะไรแม่ วัยนี้วัยเรียนเหอะ”ไอ้แต๊งรีบตอบ

“ย่ะ เรียนยังไงให้เจ้าหนุ่มนักฟุตบอลมาชอบเนี่ย”น้าหมอนแซวลูกขำๆ

“อ้าวนี่ยังไม่เปลี่ยนใจอีกเหรอลูก”แม่ผมทำหน้าประหลาดใจ

“เปลี่ยนใจอะไรอ่ะป้า หนูก็แมนปกตินี่”

“ป้าหมายถึงหนุ่มหล่อคนนั้นไง หูย พ่อเป็นถึงข้าราชการผู้ใหญ่ นี่ถ้ารู้เข้าไม่อกแตกตายเหรอ เฮ้อ แต่ก็อย่างว่านะหมอน ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก”

“หนูก็ว่างั้นแหละพี่ แต่หนูงงมากกว่า เจ้าลิงทโมนมีอะไรดีเขาถึงได้มาชอบนะ เออ แม่ก็ไม่เห็นเขานานแล้วนะแต๊ง เขาเปลี่ยนใจแล้วเหรอ”

“ยังไม่เปลี่ยนหรอกน้า”ผมตอบแทนไอ้แต๊ง “ช่วงนี้มันยุ่งๆอ่ะ แต่เห็นที่โรงเรียนประจำ”

“อ๋อ น้าก็คิดว่าเขาเปลี่ยนใจแล้ว”

“เฮ้อ แม่อ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ นี่กำลังสนับสนุนให้ลูกของตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชายใช่ไหม”ไอ้แต๊งทำหน้าบูดใส่แม่ของตัวเอง

“เปล่า แกจะเป็นอะไรก็เป็นไปเถอะ จะชอบใครก็ดูดีๆ แต่แม่ไม่เห็นเขาไง แม่ก็อยากรู้ว่าหายหน้าไปไหน แค่นั้นเอง”

ว่าแล้วแม่ผมก็ฉ้งเฉ้งกับน้าหมอนต่อครับ มีลูกค้าที่สนิทกับแม่มาร่วมวงด้วย ร้านผมนี่ฮาเฮกันเลยทีเดียว จนข้าวมันไก่รอบในรอบบ่ายจึงพากันแยกย้าย เด็กๆอย่างพวกผมได้แค่ทำตาปริบๆ


พอวันอาทิตย์เราก็เหมือนเดิม ทำงานในร้าน ตอนบ่ายเฮียก็กลับมหาลัยแล้ว ก็ได้เงินไปเป็นกอบเป็นกำแล้วนี่


๒ กันยายน ๒๕๕x
๐๘.๑๒ น.
กิจกรรมหน้าเสาธงยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากครูเวรประจำจำมีเรื่องสนทนาพาทีเยอะมากเลยครับ เพราะใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว คนฟังก็ฟังไป คนพูดก็พูดไป จนได้เวลาถึงจะปล่อย ไม่เคยมีวันไหนปล่อยก่อนเวลาเลยสักนิด บางทีนะ กินเวลาคาบแรกไปซะครึ่งชั่วโมง ก็อย่างที่เราคุ้นชินครับ ถามว่าทำอะไรได้ไหม เหอๆ

สัปดาห์ใกล้สอบมาแล้ว ครูจะแนะนำเรื่องการสอบ ไหนจะสอบกลางภาค ไหนจะเตรียมสอบแกทแพทอีก หลากหลายเวอร์ชั่นของชีวิตม.๖ ถามว่าไม่สอบได้ไหม ก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่สอบเราจะไม่ได้เรียนมหาลัยที่เราต้องการ ก็อย่างที่รู้กัน ความเหลื่อมล้ำมันมีเยอะ ขนาดพุงผม ตอนยืนยังพอไหว แต่พอนั่งนี่สิ เสื้อแทบปริ ล้ำหน้ามาเกิ้นนนนน

คาบเรียนชั่วโมงแรกครูมาบ่นๆแปบเดียวก็หมดชั่วโมง เพราะโดนโกงเวลาเมื่อเช้า เป็นปัญหานะเนี่ย หมดคาบย้ายห้อง ครูยังไม่เข้า ผมจองเก้าอี้ให้ไอ้แต๊ง มันแอบไปเข้าห้องน้ำ พอไม่มีใครสนใจ ผมเปิดสมุดที่เอาไว้เก็บความลับ คือเมื่อเช้า เห็นโพสต์อิตใบนั้น แต่ว่ายังไม่ได้อ่าน รีบเดินไปดึงแล้วแปะใส่สมุดอย่างรวดเร็ว เขาเขียนว่าอะไรนะ

                                                               คุยกันหลายวันแล้ว        ใคร่ถาม
                                                               บอกชื่อเสียงเรียงนาม     ใคร่รู้
                                                               มีเฟซเผื่อติดตาม           ส่งต่อ
                                                               หรือว่าไลน์ลงทู้             แก่ข้า อย่าเชือน

โห ไอ้นี่ร้ายว่ะ มาขอเฟซขอไลน์ แบบนี้กูก็อายอ่ะดิ แค่อยากได้เพื่อนคุย ไม่ได้อยากเปิดเผยไปมากกว่านี้ อ่านโคลงนี้แล้วคิดหนัก เฮ้อ

ไอ้แต๊งมา ครูก็มาพอดีครับ เรานั่งเรียนกันต่อ เรียนไปหาวไป ไอ้แต๊งก็ยุกยิก นั่งๆอยู่ก็มาบีบพุงของผมแล้วขำ ไอ้นี่เป็นหนักครับ


๑๒.๑๒ น.
มื้อเที่ยงหลังจากที่บุกป่าฝ่าดงพงไพรเหล่าไพรี เอ๊ย ไม่ใช่ แหวกผู้คนซื้ออาหารมื้อกลางวัน พูดเหมือนซะกำลังออกรบ วันนี้กินข้าวราดแกงกับหอยทอดครับ ไอ้แต๊งกินข้าวราดแกงอย่างเดียว ผมนั่งคู่มันเหมือนเคย พักหนึ่งไอ้เฟียสถือจานข้าวเดินยิ้มแป้นมาขอนั่งด้วย

“ขอนั่งด้วยคนนะ”ไอ้เฟียสนั่งข้างไอ้แต๊งโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้เอ่ยปาก คือ มันจะพูดแล้วแต่ห้ามไม่ทันครับ เฮ้อ มึงก็ไม่รู้จะเอือมไอ้เฟียสไปถึงไหนนะ คนดีๆแบบนี้มีแต่ใครเขาต้องการ นี่ถ้าไอ้เฟียสชอบคนอื่นได้นะ ผมว่าคนนั้นเหมือนได้รับพรจากเทพเจ้าบนยอดเขาคีรีมันจาโรเลยละ

“ไม่มีเพื่อนคบแล้วเหรอมึงอ่ะ”

“มีครับ แต่ผมอยากคบกับแต๊งบ้าง”ตาเยิ้ม วุ้ย หล่อเว้ย สมฉายาเทวดาของโรงเรียนจริงๆ

“อืม รีบกินไอ้หมี จะได้ไปไกลๆ”

“จะไกลแค่ไหนมันก็เหมือนเงาที่ตามตัวมึงอ่ะแหละแต๊ง”ผมตอบก่อนจะโซ้ยถั่วงอกที่วางมากับหอยทอด

“นี่เหรอเพื่อน”

“ก็ใช่ไง”ผมพยักหน้า

“เยี่ยมมากเลยหมี”ไอ้เฟียสยกนิ้วให้ ไอ้แต๊งทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อ แล้วมันก็รีบกินอย่างรวดเร็ว เอาจานไปวางเดินหนีผมไปดื้อๆ

“กูตื๊อเขาหนักไปป่ะวะ”

“ไม่หรอก มึงทำดีแล้วละ มึงต้องมาเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ใจอ่อน”

“มันก็ใกล้จะ ๖ ปีแล้วนะ ถ้าจบม. ๖ แล้วกูไม่รู้ว่าเวลานั้นมันจะเป็นยังไง”

“รวบหัวรวบหางเลยดิ”

“บ้าเหรอหมี แค่เขายอมคุยกับกู กูก็ปลอบใจตัวเองมามากเท่าไหร่ว่าเขามีใจ ทั้งที่จริงเขาไม่ชอบ แต่จะให้กูไปชอบคนอื่นก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ”

“มึงไม่เปิดใจตัวเองหรือเปล่า มึงลองเปิดใจตัวเองดูสิ คนดีๆ หน้าตาดี ฐานะดี นิสัยดี ก็มีหลายคนนะ เขาอาจจะเหมาะกับมึงมากกว่าไอ้แต๊งก็ได้ ที่กูพูดแบบนี้กูสงสารมึงนะเฟียส มันเหมือนมึงคว้าอากาศมากำ คว้ามาเท่าไหร่มันก็ไม่อยู่ในกำมือมึง”

“แต่ก็รู้ได้มันมีอยู่นะ เฮ้อ กูไม่ท้อหรอก กูจะทำหน้าที่ของดีให้ดีที่สุด จนวินาทีสุดท้ายที่กูมีอยู่ แต่ถ้าเขาจะมีแฟนกูคงไม่รบกวน ตอนนี้เขาไม่มีใคร กูก็ต้องทำคะแนน วันไหนที่เขามีใครกูก็รู้ฐานะตัวเองดี”

“กูจะกันคนอื่นให้ แต่กูเชื่อนะว่าไอ้แต๊งยังไงมันก็เหมาะกับมึงที่สุดแล้ว”

“อืม กูก็อยากให้เป็นแบบนั้นเร็วๆ แล้วมึงอ่ะ ไม่คิดจะมีแฟนเหรอ”

“คิดนะ คิดทุกวัน แต่ไม่มีใครเข้ามา หรือว่าดวงกูมันมีดวงกาลกินีกับเนื้อคู่วะ”

“กูว่าต้องมีคนชอบมึงสักวันหนึ่งแหละ”

“กูเข้าใจนะเฟียส คนอ้วนๆมันหาแฟนยาก นี่ขนาดบ้านกูก็รวยนะ ไม่เห็นมีใครจะมาคบกูหลอกแดก นี่ขนาดว่ารวยแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ”

“ก็ว่าไปนะมึง แต่มึงไม่คิดจะลดหน่อยเหรอ กูไม่ได้รังเกียจนะ แต่อยากให้คิดถึงสุขภาพบ้าง ตอนนี้ใครๆก็ดูแลสุขภาพนะเว้ย”

“อือ ก็อยากจะออกกำลังอยู่นะ แต่มันขี้เกียจมากกว่า”

“เย็นนี้ก็เดินรอบสนามสัก ๕ รอบสิ ทำวันละน้อยๆ ไม่ต้องใจร้อน ที่พูดนี่เป็นห่วงนะ ถ้ามึงเกิดตายเพราะไขมันอุดตัน แล้วใครจะช่วยยุกูกับแต๊งวะ”

“อ้าว ไอ้เวร ฮ่าๆๆๆ นี่พูดให้กูอยากลดเพราะผลประโยชน์ป่ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ”ขำขันกันไป ผมไม่ซีเรียสครับ ก็เห็นด้วยกับไอ้เฟียสนะ เอ๊ะ หรือว่าเราจะต้องทำเพื่อเพื่อนบ้าง เอ่อ กูเคยคิดอะไรเพื่อตัวเองบ้างวะเนี่ย จิตสาธารณะเกิ้นนนนนนน

ช่วงบ่ายติวสรุป และเรียนอีกนิดหน่อย จนถึงเวลาเลิกเรียน ผมมานั่งอ่านและทำสรุปของสรุปอีกที หึหึ หลายขั้นตอนมาก นั่งรอไอ้แต๊ง นี่ต้องทำชีทติวมันด้วยครับ ไม่งั้นไม่ได้ ไอ้นี่มันต้องป้อน ทำสรุปเสร็จแล้ว ผมลุกเดินเล่นรอบสนาม ๕ รอบตามที่ไอ้เฟียสขอ แค่เดินยังเหนื่อยเลยครับ นี่ถ้าให้วิ่ง ผมขอกลิ้งดีกว่า

เดินเสร็จแล้วมาทวนโคลงที่ดึงมาเมื่อเช้า ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เอาเวลาไหนมาตอบ บางทีจิตใจก็วอกแวกอยากจะตามหา แต่ว่า ขอแค่พื้นที่เล็กๆบนกระดาษสี่เหลี่ยมให้ผมได้ระบายก็พอ ผมไม่ใจกล้าหน้าด้านออกไปพบใครหรอกครับ

อีก ๒๐ นาทีน่าจะได้เวลาเลิกซ้อมแล้ว ผมเดินไปถอยมอไซด์มารอไอ้แต๊ง ระหว่างเดินไปก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คุณครับ เฟซผมคงยังจะไม่ให้ ไลน์ก็ขอผัดเอาไว้ก่อนนะ หยิบกระดาษ หยิบปากกาคู่มือและนึกโคลงด้วยความว่องไว

                                                                       ตัว   กลมอุดมถ้วน      สมบูรณ์
                                                                       ผม   ผ่องผิวจรูญ        ท่วมท้น
                                                                       ชื่อ   เสียงแซ่เพิ่มพูน   เกิดก่อ
                                                                       หมี   ไม่หมูอ้วนล้น      พุ่งล้ำ กายา

                                                                       เพื่อน   สนิทมักเอ่ยเอิ้น       ฉายา
                                                                       ชอบ    บ่อนหมายนามา       ตอกย้ำ
                                                                       เรียก    ขานชื่อโคธา           ยามก่อ ไฟโกรธ
                                                                       หมู      ใคร่ถามกลับซ้ำ       ช่วยร้อง  บอกที

วันนี้เขียน ๒ โคลงครับ อันแรกแนะนำตัวเอง อ้วนพีอุดมสมบูรณ์เพราะพ่อแม่เลี้ยงดี มีบอกนามสกุลด้วยนะ นามสกุลผม ทองเพิ่มพูน แต่ไม่ได้ใส่ทองไป ฮ่าๆๆ อันที่ ๒ นี่ ขอระบายหน่อยเหอะ คำว่าหมี ทำไมต้องกลายเป็นหมู ถึงหุ่นจะให้ แต่ใจมันรัก ไอ้แต๊งนี่ตัวดีชอบตอกย้ำ ชื่อดีๆไม่อยากจะเรียกอ่ะ จนบัดนี้บางทีผมก็คิดว่า ตัวผมชื่อหมี เพื่อนชอบเรียกหมู แม่ตั้งให้ศุภกร แต่เวลาครูไม่พิศมร สุกรล้วนๆ เอาเข้าไป เอิ้ก ถามว่าโกรธไหม ไม่อ่ะ หนึ่งเพราะชิน สองเพราะไม่รู้จะโกรธไปทำไม แต่บางทีก็มีนิดหนึ่งนะ เออ แล้วนอกจากชื่อหมู มันชอบมีคำบุพบทหรือคำสร้อยแปลกๆ เหี้ยหมี นี่แต๊งชอบเรียกเวลาไม่ได้ดังใจ หมีเหี้ย นี่แต๊งด่า เวลาแต๊งโกรธ ที่พูดถึงไอ้แต๊งบ่อยๆเพราะผมไม่รู้จะพูดถึงใครนะครับ อย่าได้จับคู่ผมกับมันเลย ผมอ่ะอยากได้แฟนใสๆ ถ้ามีแฟนจังไรแบบแต๊ง ไอ้หมีขอตายใต้ต้นกัญชา เอิ้ก หลอนเกิ้นนนนนนน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-09-2015 20:14:26
ยิ่งกว่าเรียลลิตี้อีกกก อยากรู้เลยว่า ใครนะ เขียนกลอนโคลง โต้ตอบน้องหมู เอ้ย หมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-09-2015 20:38:20
 :o8: เขาขอเฟซไลน์ทำไมไม่ให้เขาไปล่ะ จะได้คุยกันเยอะขึ้น 555 อยากระบายแต่ไม่อยากเจอหน้า อะไรจะใจตรงกับเราน่ะ  :ruready อยากรู้จังว่าเป็นใครน่ะ  :L3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 20-09-2015 20:42:00
บอกแต่ชื่อ ทำไม่ไม่บอกเฟซ ไม่บอกไลน์ :hao3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 20-09-2015 20:45:21


ตามติดจริงๆเรื่องนี้  เพราะอยากรู้ว่าหนุ่มคนนั้นเป็นใคร.
ทำไมแกไม่ให้ไลน์ให้เฟสเขาไปล่ะหมี 
รอตอนต่อไปน้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-09-2015 20:49:16
ตอนนี้พี่หมีของเราก็แนะนำตัวแล้ว ตอนหน้าคนๆนั้นจะแนะนำตัวเองบ้างมั้ย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 20-09-2015 20:53:09
หนุ่มตอบโคลงน่าจะหาหมีเจอง่ายมาก บอกทั้งลักษณะชื่อและฉายา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-09-2015 21:06:31
ทำความรู้จักกันผ่านโคลงไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็โรแมนติกดีนะคะ :-[ เอาไว้ใกล้จบม.6 เมื่อไรค่อยคิดเรื่องให้ไลน์หรือให้เฟสอีกทีแล้วกันเนอะ ^^
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 21-09-2015 04:11:51
น้องหมีบอกแล้ว แล้วคนนั้นล่ะจะบอกบ้างป่าว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 21-09-2015 06:52:25
มุกเยอะมาก แต่งโคลงรักได้น่าอ่านมากค่ะ
รู้สึกอบอุ่นเวลาอ่าน คงไม่ใช่เพราะไขมันของน้องหมูเอ้ยหมี แต่เป็นมิตรภาพและความรัก
ของครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน และใครคนนั้น
ขอตามนะคะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 21-09-2015 08:36:35
ถ้าหมูลดแล้วจะกลายเป็นหมีหล่อไหม 55555 ไม่รู้ทำไม แต่แอบจิ้น หมี กะ เฟี๊ยต
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 21-09-2015 09:16:11
รอน้องหมีลดความอ้วน  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 21-09-2015 10:12:06
 :hao6:

รอโคลงเฉลยตอบกลับ 5555

 :ling1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 21-09-2015 13:59:34
รักแท้จะแพ้หมีหรือเปล่านะ

เราคิดเหมือนความเห็นนี้เลย
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 21-09-2015 14:04:10
ในที่สุดเฮียมวยก็โผล่มาเป็น ref. ให้ดูว่าหมีตอนผอมมันจะเป็นคือไหน
คุณแม่ก็อินเทรนมาก มีอาหารคงอาหารคลีนด้วย (หัวเราะ) แต่นิสัยอย่างหมีมันต้องบังคับจริงๆ นั่นแหละ
ไอ้จะรอลดนน.เองเห็นจะยาก แรงกระตุ้นก็ดูแทบจะไม่มี บังคับกันนี่แหละเข้าท่าสุดละ
ส่วนหนุ่มโต้โคลงนี่จะเป็นใคร จะแนะนำตัวเองกลับมาไหมมมม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-09-2015 17:27:01
เรามาลดกันเถอะหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-09-2015 20:35:48
อยากรู้แล้วว่าใครตอบโคลงกับหมี
มีขอไลน์กันด้วย ถ้าเจอกันจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๖ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 22-09-2015 11:23:20
แอบเล่นตัวนะเนี่ยร้องหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 22-09-2015 20:20:44
โคลงที่ ๗
๔ กันยายน ๒๕๕x
๑๑.๕๔ น.

เมื่อวาน ไม่มรโพสต์อิตจากอีกฝ่าย หรือว่าเขารู้แล้วว่าเราคือใคร ก็เล่นเขียนไปแบบนั้น ไม่รู้ก็ให้มันรู้ไปสิว่าตีความไม่ออก ที่ผมไม่ให้เฟสไม่ให้ไลน์ไป เพราะอย่างน้อยถ้าเขารู้ว่าผมเป็นใคร สิ่งที่เขียนไปมันจะเสียเปล่า ผมเขียนบอกเรื่องราวของตัวเองผ่านโคลงบทนั้นหมดแล้ว ตัวผมคงหาได้ไม่ยากนัก เพราะจะมีใครตัวใหญ่เท่าผมอีกล่ะ อ่อ ก็มีห้องอื่น แต่รวมทั้งโรงเรียน อ้วนแบบนี้มันมีไม่ถึง ๑๐ คน แล้วคนที่ชื่อหมี ที่อ้วนๆเป็นหมู มันก็แค่ผมคนเดียวครับ

มาตอนเช้าไม่เห็นอะไรผมก็โล่งใจ เพราะอยากคุยผ่านแค่ใบนี้เท่านั้น จริงๆตนเขียนกลอนคราวแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีใครมาตอบนะครับ แบบเขียนทิ้งไปลอยๆ แต่มีคนมาคุยด้วยผมก็ดีใจแล้วละ ถึงจะไม่กี่วันก็ตามทีเถอะนะ ต่อไปผมคงได้อยู่ตามปกติสุขกับไอ้แต๊งเหมือนเดิม

เอ๊ะ ไหนๆไม่มีใครสนใจ จีบไอ้แต๊งดีไหม

“หมี กูซื้อเค้กมาฝาก”เสียงไอ้เฟียสดังมา ทำให้ผมต้องรีบหันไปมอง โอเค เฟียส แต๊งเป็นของมึง กูยกให้เพื่อแลกกับเค้กชิ้นนี้แล้วกัน

“ขอบคุณมากเพื่อน”

“อันนี้ของแต๊ง เค้กมะพร้าว อร่อยดีนะ”

“อืม”ไอ้แต๊งรับ พักหลังดูโอนอ่อนผ่อนตามกับไอ้เฟียสมากขึ้นนะ หรือว่ามันจะเริ่มเปิดใจแล้ว แบบนี้ผมก็ต้องง้างประตูหลังเอ๊ย ประตูใจ ไอ้ประตูหลังนี่คอยไอ้เฟียสเจ้าของตัวจริงเขามาแง้มเถอะ ผมทำหน้าที่ยุ ยุขึ้นไม่ขึ้น ก็ต้องยุ

“อร่อยไหม”หล่อหล่อๆเอียงคอถามหลังจากอีกฝ่ายชิมคำแรก

“ถ้าไม่อร่อยเขาจะทำมาขายไหม ถามอะไรบ้าๆ”

“แสดงว่าชอบ”มึงเคยรู้สึกน้อยใจบ้างไหมวะเฟียส กูเห็นใจจริงๆ ไอ้แต๊งมีแต่พูดคำหักหารน้ำใจ

“ก็อร่อยดี ทีหลังไม่ต้องซื้อมาให้ก็ได้ หมดตังค์กับกูไปเท่าไหร่แล้ว”

“ไม่เท่าไหร่หรอก”

“ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้า เขาจะไม่ลงทุนในตลาดแบบนี้นะ ลงมาเท่าไหร่ไม่เคยได้อะไรคืน”

“ตอนนี้อาจจะยังขาดทุน แต่เมื่อถึงเวลา กำไรที่ได้มามันจะทวีคูณ”

“ใช่เลยเฟียส วันไหนได้คบไอ้แต๊ง มึงเอาคืนทบต้นทบดอกเลยนะ”ผมสนับสนุน

“กูเพื่อนมึงนะหมี”ย้ำซะเหลือเกิน

“ก็ใช่ไง แต่กูอยากให้มึงเป็นฝั่งฝากับไอ้เฟียสสักที”

“เมื่อไหร่ที่มึงยังอ้วนอยู่ กูก็ไม่เปลี่ยนความคิด”เอาล่ะสิ ความอ้วนของฉันสัมพันธ์กับความรักของเพื่อน เอ๊ะ หรือว่าเราจะหลอกไอ้เฟียสให้มันซื้อคอร์สลดน้ำหนักหรือสมัครสมาชิกฟิตเนสดี มันลงทุนกับผมไม่เท่าไหร่ แต่ได้ใจไอ้แต๊งไปไปทั้งตัว เอิ้ก นี่ก็ฟุ้งซ่านเกิน

“หมี ลดน้ำหนักดิ ทำเพื่อกู ถ้ามึงลด แต๊งก็จะยอมเปิดใจกับกูไง”ไอ้เฟียสหัวไวมาก

“โว้ย เป็นตุเป็นตะนะมึง ต่อให้ไอ้หมีมันจะลดไม่ลด กูก็ไม่ยอมคบกับมึงอ่ะ”

“ทำไมอ่ะแต๊ง ผมไม่ดีตรงไหน”

“ทุกตรง”

“ฮ่าๆๆๆ”ขำไอ้เฟียส โดนว่านี่หน้าหุบทันที

“หึหึ พยายามหน่อยแล้วกันเฟียส พอดีคิวพี่มันเยอะ”ยักคิ้วท้าทายคนที่มาหมายปอง

“ถุ้ย กูอยากจะอ้วก”ว่าแล้วก็แย่งเค้กมะพร้าวไอ้แต๊งมากิน

“ไอ้หมี”เสียงดุจากคนซื้อเค้กมาฝาก ถามว่าไอ้หมีสนใจไหม ไม่อ่ะ ผมแย่งประจำ


๑๗.๑๕ น.
เลิกเรียนแล้วมานั่งเฝ้าไอ้แต๊งซ้อมบอล ผมนี่ชักจะทำตัวเหมือนเป็นเมียไอ้แต๊งเข้าไปทุกวัน แล้วธุระของตัวเองก็ไม่เคยมีกับเขาซะด้วย ผมนั่งเฝ้าแบบนี้ตั้งแต่ไอ้แต๊งเข้าชมรมบอลใหม่ๆ ก็หลายปีแล้วครับ บางคนก็คิดว่าผมกับไอ้แต๊งคบกัน แต่ก็ไม่ใช่ ใครจะเอาคนอ้วนแบบผม เอิ้ก หล่อสัสรัสเซีย

ผมนั่งทบทวนหนังสือเช่นเคย อ่านเองครับ ไม่ชอบติว ไม่อยากเสียตังค์ แล้วอีกอย่างโรงเรียนติวจังหวัดผม มันก็ไม่กี่ที่ และที่สำคัญ ผมชอบของฟรีมาก ไปดูคลิปจากตรงนั้นตรงนี้บ่อยๆ ประหยัดได้เยอะ ก็นั่งเขียนๆ เย็นนี้ก็ต้องติวให้ไอ้แต๊ง อย่างที่บอกไป ถ้าไม่ป้อนมัน มันไม่อยากจะทำอะไรหรอกครับไอ้นี่

เขียนเสร็จ ไปซื้อผักจากแปลงของชมรมให้แม่ ออกมาข้างสนาม ไอ้แต๊งนั่งโอดครวญพร้อมกับมีไอ้เฟียสคอยปรนนิบัติ

“เป็นไรเหรอ”

“ไอ้ไก่อ่ะดิ ไม่เตะบอล เสือกมาเตะแข้งกู”นึกออกไหมครับ กระดูกหน้าแข้งปะทะกับกระดูกหน้าแข้ง ร้าวเลย

“แต๊งไปหาหมอไหม”ใจดีแบบนี้ จะมีใครเหมือนเฟียส

“เดี๋ยวให้แม่ดูให้ก็ได้ ซี้ด อย่ากดดิ มันเจ็บ”

“ทายาให้อยู่ ไม่ได้กด”นิ้วเรียวยาวขาวผ่อนค่อยๆวนตัวยาลงบนหน้าแข้ง หัวเข่ามึงด้านมากเลยไอ้แต๊ง นี่มันหัวเขาคนหรือหัวเขาควายวะ

“ไม่ต้องยุ่งเลยมึง”ทำหน้ายู่แล้วปัดออก ขี้งอนนะสัส

“ไม่ได้ แต๊งเจ็บผมก็เจ็บ”ยังนวดวนยาบนรอยช้ำต่อไป

“เจ็บตรงไหน”ไอ้แต๊งถามซื่อๆ

“เจ็บใจที่ดูแลแต๊งไม่ได้”

“ฮิ้ววววววววววววววววววววววว พี่เฟียส แต่งเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะพี่ ผมช่วงยาดองโหลหนึ่ง”เสียงร้องแซวจากน้องๆชมรมฟุตบอล

“คืนนี้พ่อไอ้แต๊งเข้าเวร น้าหมอนคงกลับดึก มึงไปค้างบ้านไอ้แต๊งได้นะเฟียส”ผมร่วมวงกับเขาด้วย

“เดี๋ยวได้ปากแตกทั้งคู่ พวกมึงด้วย”ชี้หน้าผม ไอ้เฟียส และคนอื่นๆที่แซว

“ทำเป็นเขินนะพี่แต๊ง”

“เฮ้ย อย่าแซว”ไอ้เฟียสทำเสียงเข้ม พวกนั้นเงียบเลยครับ นี่แหละอิทธิพลของเฟียส เงียบคือเงียบ

“มึงรออยู่นี่แล้วกัน เดี๋ยวกูไปเอารถมาก่อนนะ หรือว่าจะให้ไอ้เฟียสไปส่ง”

“ถ้ามึงให้กูกลับกับไอ้เฟียส กูยอมเดินกลับดีกว่า”

“เออ คุณชาย”ส่ายหน้าแล้วเดินไปที่โรงรถ โรงรถยังโหวงเหวงเหมือนเดิมครับ ไม่มีคนแล้วครับ แต่ก็มีรถของพวกนักบอลอยู่หลายคัน อ่อ มีนักกีฬาคนอื่นด้วย เย็นๆจะซ้อมกันหลายประเภท พวกบอลก็ซ้อมกันไป พวกบาส ตะกร้อ วอลเลย์ หลายอย่างครับ ระหว่างที่เดินไปยังรถ ก็เจอโพสต์อิตแปะที่ลับๆ ใช่ของเราหรือของคนอื่นนะ

                                                       ตัว   ตนสกนธ์ข้า                ไพบูลย์
                                                       ผม  ผ่องผิวพรรณดูลย์         เรี่ยมเร้
                                                       ชื่อ  กระฉ่อนเหล่ามนูญ        ถ้วนทั่ว ณ สถาน
                                                       ภู   เลื่องนามล้ำเด้              เด่นด้าว

                                                       เพื่อน   ผองปองเอ่ยเอิ้น          ย่อย่น
                                                       ชอบ    เอ่ยตามตัวต้น             อักษร
                                                       เรียก    ติดปากเพิ่มพ้น            ลืมเก่า นามเดิม
                                                       พี        เพื่อนทวงถามว้อนท์     ที่แล้ว สื่อกลาง

ใช่จริงๆด้วย วันนี้เขาบรรยายสุขลักษณะ เอ๊ย บุคลิกภาพของเขา รูปร่างไพบูลย์นี่ยังไงนะ เต็มเนื้อเต็มหนังแน่เลย น่าจะมีกล้ามด้วยมั้ง ผิวพรรณผ่องดูลย์นี่ ขาวเสมอต้นเสมอปลาย หรือว่าดำเสมอต้นเสมอปลายวะ แต่มีคำว่าผ่อง ผิวผ่องๆ นี่มันน่าจะผิวขาว เรี่ยมเร้ ก็สะอาดสะอ้านหมดจด แสดงว่าเป็นคนที่ตัวน่าจะขาวหมดจดแน่เลย

ชื่อกระฉ่อน แสดงว่าต้องเป็นคนดัง ถ้าคนดังมันก็แก๊งเทวดา แก๊งเทวดานี่นักเรียนโรงเรียนพวกผมจะจัดลำดับเอาไว้ คือใครที่หน้าตาดีโดดเด่น ก็จะถูกจัดอยู่ในทำเนียบแก๊งเทวดา ตอนนี้มีอยู่ ๒๐ กว่าคนครับ ไอ้เฟียสคือหนึ่งในนั้นด้วย อ่อ แล้วการที่จะเป็นแก๊งเทวดา หน้าตานอกจากจะต้องหล่อแล้ว การเรียนต้องเก่งด้วย ไอ้แต๊งนี่เพราะเกรดไม่สวย เลยได้เป็นแค่นรชน คือจะมี ๓ เกรดครับ หล่อ เก่ง นี่เขาเรียกว่าแก๊งเทวดา อันดับต่อมา เก่งแต่ไม่หล่อ กับ หล่อแต่ไม่เก่ง อันนี้เขาเรียน นรชน ส่วนพวกหน้าตาธรรมดา บ้านๆเลี้ยงวัว อย่างผมก็เลี้ยงหมู จัดอยู่ในระดับ บรรพชน คือ หน้าตามึงได้ต้นฉบับบรรพชนมามาก แต่นี่เขาจัดขำๆนะ ไม่ได้จริงจัง เคยมีคนประท้วงด้วยเรื่องการจัดลำดับ แต่ว่า ทางโรงเรียนไม่เกี่ยว เราจัดกันเอง โดยมีคณะกรรมการคือ สาวสอง จากทุกชั้นปี และสองสาว จากทุกชั้นปี คือ สาวสองก็กะเทยอ่ะ เป็นตัวแทนการโหวต และสองสาว คือผู้หญิงสวยๆ ทำกันเอง ถามว่าการเรียนเราจริงจังไหม ไม่อ่ะ อะไรที่มันไร้สาระเราชอบนัก เอิ้ก

มาต่อๆ ชื่อเสียงกระฉ่อนก็แสดงว่าต้องดัง เฮ้ย แต่บางคนดังแค่ในโรงเรียนนะ ออกนอกโรงเรียนก็ดับแล้วละ มันไม่แน่หรอก แล้วคนดังมันเยอะมาก เอาจริงๆนะ ในโรงเรียนบางคนนี่โคตรหล่อ พอออกไปข้างนอก กูคิดว่าอาแปะขายหมู คือความหล่อมันโดดกลบ แต่หล่อแบบไอ้เฟียสนี่ หล่อเสมอต้นเสมอปลาย หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อไม่ปรึกษาใคร หล่อยันเม็ดสิวอ่ะ คนอื่นก็เหมือนกัน หล่อเวอร์

มาท่อนสุดท้าย ชื่อภู คนชื่อ ภู นี่มีเป็นสิบ ไปไล่มาสิว่าภูไหนบ้าง เยอะมาก นอกจาก ภู นี้แล้ว พู แบบนี้มันก็มีด้วยนะ หลายคนอ่ะ ไม่รู้หรอกว่าใคร มาอ่านโคลงที่ ๒ อืม ชื่อ ภู แต่เพื่อนเรียกว่า พี จนติดปากแล้วลืมคำว่าภูไปเลยเหรอ แสดงว่าชื่อ ภู ไม่ได้ถูกใช้งานมานานแล้ว ถ้าเราจะเจอเขา เราต้องเจอเขาในนามว่า พี แล้ว พี มันกี่พี พีรเดช พีระพงษ์ พีรพัฒน์ พีรพรรณ อ้าว นี่ชื่อพี่มหาตวงนี่หว่า พีรพรรณ วงษ์กฤษณ์ ไอดอลผม อิอิ มาวิเคราะห์ต่อครับหรือว่า มันตัว พี ตัวแรกของภาษาอังกฤษ เออ เขาบอกว่าเพื่อนชอบเรียกว่าว่า พี ตามต้นอักษร คือเวลาที่เขาเขียนชื่อเป็นภาษาวิลาศ เอิ้ก ภาษาอังกฤษสิ มันต้องใช้ตัว พี นำหน้า โห ถ้าแบบนี้มันก็หายากแล้วละ เพราะ พี นี่มันย่อได้เยอะมาก ภูมิ ภพธร พีรวิชญ์ พงศกร ศุภกรก็ใช่ เอ๊ย ไม่ใช่ ฮ่าๆๆ หลอนเกิ้นนนนนน เอ่อ จริงๆหาแค่ พี น่าจะเจอง่ายกว่ามั้ง

มาบรรทัดสุดท้าย ทวงถามที่ว้อนท์ ยูว้อนท์อะไรของยูวะ สลัดผักเสี้ยนดองใส่เกลือสินเธาว์ วอนท์ที่แล้ว สื่อกลาง คืออะไรวะ สื่อกลาง มันก็ นกพิราบงี้เหรอ เอ๊ย หรือว่าของเราเป็นนกฮูกแบบแฮรี่ พอตเตอร์ คงไม่ใช่แล้วละ ถ้าจดหมายของผมมันร่อนมาคงต้องใช่หมูป่าในไลอ้อน คิงส์ เฮ้อ ขอสื่อกลาง คือจะเอาเบอร์ เอาไลน์ เอาเฟซ งี้เหรอ ปั๊ดโธ่ พ่อคุณเอ๋ย ถ้าเจ้าประคุณจะพรรณนาถึงตนเองแบบนี้ บ่าวก็มิกล้าให้อะไรติดต่อหรอก บ่าวเจียมตัว

หยิบโพสต์อิตแปะใส่สมุดของตนเองแล้ว ถอยรถมอไซด์ชวนไอ้แต๊งกลับบ้าน

ตัว พี ชื่อย่อ เพื่อนเรียกจนคุ้นปาก เอ้ พี นี่มันย่อมาจากอะไรดีนะ

พงษ์พิสิษฐ์ ฉิบหาย นี่มันชื่อไอ้เฟียส




























แต๊งถาม : มันใช่เหรอไอ้หมี   :m16:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 22-09-2015 20:33:23
มันใช่เหรอน้องหมีตัวกลม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 22-09-2015 20:38:00
ท่อนท้ายกลัวเป็นเฟียสจัง หล่อเสมอต้นเสมอปลาย  :hao5: แต่มาเจอท้ายกวาา แต๊งเราบอกเป็นนัยๆว่าไม่ใช่  :laugh:  โอเคเชื่อ เพราะเฟียสเป็นของเเต๊งคนเดียว ต่อไปต้องมาลุ้นกันว่า ใครคือ พี คนนั้น :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-09-2015 20:43:52
เห็นแต๊งเฉยๆ แต๊งก็หวงของแต๊งเหมือนกันนา :hao7: ..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 22-09-2015 20:50:54
 
เดาทางไม่ถูก แต่คงไม่ใช่เฟียสหรอก เพราะเฟียสเป็นของแต๊ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-09-2015 21:03:13
มันต้องมีอีกซิหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-09-2015 21:06:38
ไม่น่าจะใช่เฟียส เดามาเกือบถูกแล้ว
มองข้ามใครไปป่าวหมี นึกดูดีๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 22-09-2015 21:10:54
ไม่ใช่เฟียสมั้งหมี รายนั้นเขาหัวปักหัวปำกับแต๊งไม่แลใครแล้ว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-09-2015 22:07:55
อ่านกลอนแล้ว งง เช่นกัน ตีความไม่ออก 5555 กลายเป็น้ฟียสขึ้นมานี่ ฮาเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 22-09-2015 22:10:14
ใครกันน้าาาา
ชอบเรื่องนี้ บรรยายลื่นไหลมากก ><
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-09-2015 22:22:58
เหมือนมันจะหาไม่ยากแต่มันก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ แหมๆๆ คู่พี่หมีของเราซับซ้อนจริงๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 23-09-2015 01:12:01
เฟียสเค้าเป็นของแต้งนะหมี~
ว่าแต่เทพบุตรคนนี้จะมาเป็นเมียหรือสามีน้องหมีล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-09-2015 01:36:59
ไม่ใช่เฟียสหรอก ถ้าเฟียสก้คงถามไปแล้วใกล้กันซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-09-2015 01:52:33
เขาบอกอยู่ว่าเขาชื่อภูนะคะหมี55555555555555555555

ที่วอนท์สื่อกลางเขาหมายถึงไลน์กับเฟสไงคะคนดี5555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 23-09-2015 08:12:16
มันไม่ใช่ละน้องหมี
เฟียสนั่นของเพื่อนแต๊งนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 23-09-2015 08:22:39
น่ารักมาก อยากรู้มากใครกันที่เขียนตอบหมี
แต่เฟียสไม่ใช่หรอกเพราะเฟียสของแต๊ง คึคึ

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 23-09-2015 09:46:18
สนุกเกินไปแล้ววววว โอ้ยชอบ ลุ้นๆ ใครคือ พี จริงๆคือ คนที่คุณก็ลุ้นว่าใคร ยังไม่เปิดตัวใช่ไหมอ่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 23-09-2015 11:35:51
อ้าว
ตอนแรกเราเดาว่าแต๊ง ถ้าเป็น เฟียสก็ 3P อ่ะดี โหยยยยยยยยย
ถูกใจคอดคอด
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 23-09-2015 11:46:13
ชื่อจริงชื่อภู แต่คนชอบเรียกพี แสดงว่าไม่ใช่เฟียสแล้ว
แนะนำให้หมีไปเปิดรายชื่อทำเนียบเทวดาซะ เผื่อจะเจอคนที่เข้าเค้า แต่ก็คงจะไม่เจอง่ายๆ หรอกมั้ง
ชอบแอบมาแปะตอนเย็นๆ ก็คงจะซ้อมกีฬาเหมือนกัน หมีเอาเวลาว่างรอเจ้าแต๊งไปเดินหาก็ได้นะ
อนึ่ง หนุ่มเขาขอสื่อกลางมา ก็ให้ๆ เขาไปเถอะหมีอย่าได้เล่นตัว  :katai5:
...ว่าแต่ มหาตวง นี่เขาคือไผ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๒๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๗ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: su40747 ที่ 23-09-2015 18:23:51
อยากรู้ใครกันที่เขียนกลอนตอบกลับหมู เอ๊ย หมี
เมื่อไรพระเอกของเราจะได้เผยโฉม ชะเอิงเอย
รอยล รอชม ทุกเมื่อเชื่อวันค่าา :hao3:

ปล. แอบมีพี่มหาด้วย อิอิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 23-09-2015 21:31:28
โคลงที่ ๘

๕ กันยายน ๒๕๕x
๒๐.๓๔ น.

นั่งติวหนังสือกับไอ้แต๊งที่บ้านน้าหมอน จริงๆไอ้แต๊งก็ไม่ได้มึนไปซะทุกเรื่องนะครับ แค่มันขี้เกียจอ่านเท่านั้นเอง ช่วงนี้สอบแล้ว เราก็มานั่งติวกันทุกวัน นอนเที่ยงคืนกว่าๆ เพราะนอนดึกกว่านี้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวตอนเช้าตื่นไม่ไหว เคยอ่านโต้รุ่ง พอไปสอบนี่แทบอ้วก มันไม่รู้เรื่อง พยายามฝืนอย่างมาก สมองไม่แล่น ผมจึงคิดว่า การอ่านโต้รุ่งไม่เหมาะกับผม

“นี่มันก็จะ ๖ ปีแล้วนะแต๊ง มึงไม่ยอมใจอ่อนกับไอ้เฟียสจริงเหรอ”

“ความรักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน”

“ถุ้ย เอาจริงๆนะ มึงรังเกียจมันไหมวะ”

“จะถามทำไมเนี่ย ถ้ากูรักมัน กูรักไปนานแล้ว แต่กูไม่รัก มึงเข้าใจป่ะ คนไม่รัก ต่อให้ดียังไงมันก็ไม่รัก คนที่ใช่ ต่อให้เลวยังไง ถ้าใช่ มันก็ต้องรักอยู่ดี”

“อืม งั้นกูจะให้ไอ้เฟียสตัดใจ กูก็สงสารมันนะ แต่ถ้ามึงยืนยันแบบนี้ กูก็ต้องไปบอกมันตามตรงอ่ะ มันจะได้ทำใจได้แต่เนิ่นๆ”

“เออ มึงอย่ายุกูเลย กูอยู่ของกูอ่ะดีอยู่แล้ว”สายตาดูหวั่นไหวเล็กน้อย ถุ้ย ไอ้เพื่อนเวร แอบชอบเขาแล้วมั้งเนี่ย ผมแอบยิ้มมุมปากเบาๆ แบบนี้มันต้องวางแผนสิวะ โด่ว


๙ กันยายน ๒๕๕x
๑๓.๓๔ น.
สอบเสร็จแล้วเหมือนปล่อยทาสให้เป็นไท โล่งมากเลยครับ วันนี้ก็เป็นวันหยุด มานั่งเฝ้าร้านให้แม่ แม่ไปหาหมอครับ ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ไอ้แต๊งไปเป็นเพื่อนแม่ ผมก็เฝ้าร้านคนเดียว ที่จริงอยากจะไปด้วยนะ แต่ว่าผมอ้วนอ่ะ ลำบากแม่ ฮ่าๆๆ แม่เลยบอกว่า อยู่บ้านขายของ

“ข้าวมันไก่ที่หนึ่ง อ้าว วันนี้ป้าพิมพ์ไปไหนอ่ะหมี”

“ไปหาหมออ่ะพี่เฟิร์ส เอาหนังป่ะพี่”

“เอาๆ ขอแบบพิเศษเลยนะ”

ว่าแล้วก็สับโป้กๆ ตักข้าว โปะไก่ลงไป วางแตงกวา โรยผักชี เอาไปวางบนโต๊ะแล้วตักน้ำซุปร้อนๆให้ ลูกค้ายังมาเรื่อยๆ ผมก็ทำแบบเรื่อยๆด้วยความแข็งแรง หมูสับหมู เอ๊ย หมีสับหมู ไม่ทันใจลูกค้าให้มันรู้ไปสิ

พอของหมดแม่ก็มาถึงบ้านพอดี วันนี้ไม่ทำขายในช่วงเย็นครับ ให้แม่ได้พัก ส่วนผมกับไอ้แต๊งก็ลุยล้างถ้วยล้างหม้อ แล้วมานั่งดูการ์ตูนกับแม่ เห็นแม่ผมอายุมากแบบนี้ก็ติดการ์ตูนเหมือนกันนะ แม่ชอบวันพีช เฟี้ยวมากแม่ผม แต่แม่ไม่อ่านนะ แม่ดูเฉยๆ เอิ้ก

“หนูไปนอนแล้วนะป้าพิมพ์”ไอ้แต๊งบอกลา

“อืม รีบนอนลูก พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า หมีด้วย ไปนอนได้แล้วไป”

ผมเดินไปส่งไอ้แต๊งและล็อกประตูบ้าน ขึ้นมาบนห้องตัวเอง นั่งอ่านกระทู้ลดความอ้วนนิดหน่อย แล้วมานั่งอ่านโคลงที่ยังคาใจ นี่หลายวันมากเลยนะครับที่ผมไม่ได้เขียนอะไรลงไป เขาก็ไม่ได้เขียนอะไรมา พรุ่งนี้วันจันทร์ ไม่รู้จะมีใบนั้นอีกหรือเปล่า


๑๐ กันยายน ๒๕๕x
๐๗.๑๕ น.
กินมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่งตัวขับมอไซด์ไปโรงเรียน จริงๆบ้านไอ้แต๊งมีมอไซด์นะครับ แต่ว่าตั้งแต่พี่ชายมันขึ้นมหาลัย พี่ชายก็เอาไปใช้ ส่วนมันก็อาศัยผมมาตลอด ผมก็โอเค ไม่คิดอะไรมาก สนิทกันอยู่แล้ว บ้านมันบ้านผมนี่แทบเป็นบ้านเดียวกัน ถ้าเกิดมันเป็นผู้หญิง หรือผมเป็นผู้หญิง แล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชาย ๒ บ้านคงได้จับเราแต่งงานอ่ะ สนิทกันเกิน ฮ่าๆๆ

ใกล้เวลาเข้าแถว ผมเห็นไอ้เฟียสเดินโปรยเสน่ห์ มันยิ้มเรี่ยราดมากเลยครับ คนไหนทักมันก็ยิ้มใจดี คนไหนขอถ่ายรูปก็ให้ถ่าย มีบางคนเอาขนมเอานั่นเอานี่มาให้ มันก็ยิ้มขอบคุณ

“เฮ้ยน้อง อย่ามายุ่งกับผัวพี่”ผมพูดเสียงดังระหว่างแฟนคลับไอ้เฟียสกำลังรุมล้อมอยู่

“อี๋ พี่หมีพูดมาได้”รุ่นน้องคนหนึ่งเบ้ปาก

“ฮ่าๆๆๆ ก็เห็นรุมมันดีนักนี่ แล้วนี่พากันชอบคนมีเจ้าของแล้ว ไม่กลัวเจ้าของเขาว่าเหรอ”

“อะไรยังไงคะพี่หมี พี่เฟียสมีเจ้าของแล้วเหรอ ใครคะ ใครช่างหน้าด้านหน้าทนมาจีบพี่เขาคะ”อันนี้เสียงของน้องชายใจสาว เสียงแรดมากเลยมึง อีบอย ฮ่าๆๆ

“หึหึ น้องจีบไอ้เฟียสก็เสียเวลาเปล่า เหมือนที่มันเสียเวลากับไอ้แต๊งเปล่าๆนี่แหละ”

“อ้าว พูดงี้ก็มีปัญหาดิมึง”ไอ้เฟียสเสียงเข้มขึ้นมาทันที “ไม่ยุยงอย่ายุแยงครับเพื่อนหมู”

“กูชื่อหมี”

“หมีบ้าหมีบออะไรน้ำหนักอย่างกะแชมป์นักซูโม่”น้องคนเดิมเบ้ปาก กูต่อยดีไหมวะ ฮ่าๆๆ

“หึหึ รู้ว่าหล่อหรอกน่า คุยเสร็จยัง”

“มีอะไรว่ามา”ไอ้เฟียสถาม

“มานี่ เป็นความลับ”ผมลากไอ้เฟียสไปที่เงียบๆ ไอ้แต๊งไปไหนไม่รู้ตัวไม่ติดกันครับ ช่างมัน คุยเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า

“มีอะไรวะ จับมือกูแบบนี้เดี๋ยวแต๊งเข้าใจผิด”

“แหม่ ยังจะห่วงความรู้สึกคนอื่นอีก เรื่องความรู้สึกของตัวเองนี่เคยคิดบ้างไหม”

“มีอะไรว่ามา”หน้าเริ่มเข้มแล้วละครับ

“เมื่อคืนก่อนกูคุยกับไอ้แต๊ง คือ กูเชียร์มันกับมึงนะ แต่คำตอบมันก็เหมือนเดิม มันบอกว่า คนที่ใช่อ่ะ ต่อให้เลวแค่ไหน มันก็จะรัก แต่คนที่ไม่ใช่ ต่อให้พยายามแค่ไหน มันก็ไม่รัก”

“แต๊งพูดแบบนี้จริงเหรอ”หน้าเน่อไปแล้วเพื่อนกู กูรู้ว่ามึงเศร้า เฟียส

“เออ ที่กูพูดให้ฟังไม่ใช่เพราะอะไร กูก็สงสารมึงอ่ะ แต่ว่า กูก็พูดไปว่า งั้นกูจะให้มึงไปจีบคนอื่น หน้าหุบเลยว่ะ ฮ่าๆๆ”

“จริงดิวะ”คราวนี้หน้าบาน แหม่ ไอ้จิ้งจก เปลี่ยนสีปรับสภาพไวจริง

“แต่มันต้องมีแผนสักหน่อย ว่าแต่มึงจะกล้าร่วมมือกับกูหรือเปล่าแค่นั้นแหละ”

“ทำยังไง”

“แกล้งเมินมันสักระยะ เดี๋ยวกูจะดูอารมณ์ ถ้ามึงเมินมันแล้วมันรู้สึกขาดอะไรไป กูจะยุมึงต่อ แต่ถ้ามึงเมินมัน แล้วมันไม่รู้สึกอะไร อันนี้กูก็อยากให้มึงทำใจ”

“กูจะทำได้เหรอวะ แค่เห็นหน้าเขากูก็มีความสุขแล้วนะ”

“มันต้องเสี่ยงดิวะ มึงเอาใจมันมากี่ปีแล้ว มึงลองทำเป็นสนใจคนอื่นก่อน เดี๋ยวกูจะดูอารมณ์มัน กูคบกับไอ้แต๊งมาเท่าไหร่แล้ว กูรู้นิสัยมันยังไง ว่าแต่มึงจะร่วมมือกับกูหรือไม่เท่านั้นแหละ”

“เฮ้อ ทำใจยากอ่ะหมี การที่กูทำแบบนั้นทุกวัน กูชินไปแล้ว แล้ววันหนึ่งให้กูเมินแต๊ง กูทำใจยากว่ะ”

“อันนี้แล้วแต่มึงนะ กูแค่มีข้อเสนอเฉยๆ ถ้าเห็นด้วยก็บอกกู กูจะได้สังเกตมัน แต่ถ้าไม่เอาด้วยก็แล้วแต่ เดินหน้าของมึงแบบนี้ต่อไป”

“อืม เดี๋ยวจะเอาไปคิด”

จากนั้นเคารพธงชาติ ฟังครูพูด เข้าชั้นเรียน การเรียนมาสู่ภาคปกติแล้ว เราต้องตั้งใจ ชีวิตม.ปลายนี่มันเหนื่อย เอิ้ก

ระหว่างเรียนผมนั่งคิดอะไรไปเพลินๆ มองกระดานบ้าง คิดตีปัญหาจากโคลงบ้าง ชื่อภู เพื่อนเรียกพี เออ เขามีส่วนเหมือนเรานะ เราชื่อหมี เพื่อนเรียกหมู แต่หมีกับหมูนี่โอกาสใช้เท่านั้น แต่ว่าเขาตอนนี้ไม่มีใครเรียกว่า ภู แล้ว เรียก พี อย่างเดียว แล้วพีในโรงเรียนเรามันมีกี่คนนะ นักเรียนโรงเรียนผม เฉพาะมัธยมปลายมันก็ ๑๐๐๐ กว่าคนแล้ว คนชื่อพีน่าจะมีเยอะอยู่นะ แต่รหัสของเขาที่ส่งมาอีกอย่างนั่นคือ เขาเป็นคนดัง มันใช่คนนั้นหรือเปล่านะ หลายคนซะเหลือเกิน

พักเที่ยงไปนั่งกินข้าวกับไอ้แต๊งเหมือนเดิม พวกเราหาที่นั่งเงียบๆกิน ช่วงนี้มันช่วงชุลมุนครับ นักเรียนหลายคนต่อแถวเสียงดังล้งเล้ง ไม่ว่ารุ่นใหญ่รุ่นเล็ก เวลามีแก๊งเทวดามากินข้าว หนุ่มสาวที่คลั่งไคล้ในหน้าตาก็จะหันไปมอง อย่างไอ้เฟียส ยิ้มโดดเด่นมาแต่ไกล ใครๆก็รักเฟียส แต่เฟียสรักใครไม่ได้ นอกจากแต๊ง วันนี้เดินหน้าเด่นมาแต่ไกล แต่ทำไมมามือเปล่าวะ

“หวัดดีหมี ดีครับแต๊ง”

“หวัดดีเพื่อน”ผมพยักหน้าก่อนจะจ้วงข้าวเข้าปาก ไอ้แต๊งหันไปมองแล้วทำหน้าเฉยๆ “นั่งก่อนดิ”

“อ๋อ ไม่เป็นไร แค่อยากมาบอกว่า กูตกลงนะ ฝากด้วยเพื่อน”เฟียสตบไหล่ผม ผมก็งงเอ๊ะมันเรื่องอะไร คิดอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าตัวเดินไปแล้วถึงได้คิดออกว่าจะร่วมมือกับผม โอเค เอาแบบนั้นก็ได้ อยากรู้ดีนักว่าคนไม่ใช่กับคนใช่ของมึงมันเป็นแบบไหนไอ้แต๊ง

ระหว่างกินผมก็ไม่ได้มองไอ้แต๊ง มองไปทั่วโรงอาหารพลางนึกว่าใครนะ คนชื่อพี ใช่ครูพละหรือเปล่าวะ ครูพละคนหนึ่งชื่อ พีรวิชญ์ สอบอยู่ชั้นมัธยมต้น หน้าตาก็หล่ออยู่นะ แต่มันก็น่าสงสัยว่าเขาเคยชื่อภูหรือเปล่า เอ แต่ครูพีรวิชญ์แกมีแฟนแล้วนี่นา หรือว่าจะเป็นเสือไบอะไรแบบนี้วะ แต่ผมว่าครูพีรวิชญ์ไม่น่าจะเก่งเรื่องกาพย์กลอนนะ คงจะไม่ใช่หรอกมั้ง

หรือว่าจะเป็น น้องพี เชษฐพงศ์ คนนี้อยู่ชั้นม. ๒ เป็น ๑ ในแก๊งเทวดาเหมือนกันครับ หล่อ เก่ง แต่น้องเขายังเด็กอยู่นะ เออ จะว่าไป ม. ๒ ก็ไม่เด็กหรอกครับ มันโตแล้ว แต่มันจะใช่หรือเปล่าเท่านั้นเอง หรือว่า น้องพี ภัทรพงศ์ คนนี้อยู่ ม. ๔ แต่เขาเป็นนรชน เฉยๆ คนนี้หล่อ การเรียนกลางๆ เอ๊ะ หรือว่าจะเป็น พี ภูริ คนนี้อยู่ ม. ๖ ห้อง ๑ เรียนเก่ง แถมเป็น ๑ ในแก๊งเทวดาด้วยครับ แต่เขาก็ชื่อ พี มาตลอดนะ เท่าที่ผมรู้ๆมาอ่ะ เอ๊ะ หรือว่าบ้านเขาจะเรียก ภู ด้วย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะเนี่ย

“กูอยากกินน้ำมะพร้าวอ่ะแต๊ง มึงจะกินป่ะ”

“ไม่อ่ะ อิ่มแล้ว”

“เออ รออยู่ตรงนี้แล้วกัน”ผมเดินไปซื้อน้ำกิน เมื่อกี้กินน้ำลำไย ไม่อิ่ม อยากกินน้ำมะพร้าว ชีวิตหนีไม่พ้นน้ำตาล ฮ่าๆๆ ก็เพราะพี่ชอบหวาน น้ำตาลจึงห่างกายไม่ได้ เอาละสิ ไม่อ้วนให้มันรู้ไป

“พี่พี น้ำค่ะ”

“อ๋อ ขอบคุณครับ ไม่น่าลำบากน้องเลย”

“ไม่เป็นไรคะ หนูเป็นแฟนคลับพี่”

“ขอบคุณมากเลยนะครับ”อืม การเป็นแก๊งเทวดามันดีอย่างนี้นี่เอง แล้วเรา สมมติถ้าเราหล่อเราจะเป็น ๑ ใน แก๊งเทวดาได้ไหมนะ การเรียนเราก็โอเคนะ ๑ ใน ๕ ของห้องมาทุกเทอม มองกระจกที่ติดใกล้ๆร้าน อืม ก็ใช่ได้นี่หว่าเรา เหอๆ

ผมหันไปมองคนชื่อ พี คนนี้บุคลิกนิ่งๆ หล่อด้วย พ่อเป็นนักธุรกิจ เคยได้ข่าวมาว่าแม่เคยเป็นนางงามมาหลายเวที เคยเจอแม่เขาด้วย สวยดีครับ

“โอเลี้ยง ๑ แก้วครับป้า”เสียงของคนนี้ต้องทำให้หันไปมอง อืม นี่มันน้องพี ชั้นม. ๒ นี่นา กำลังโตเลยครับ วัยขบเผาะ เหอๆ เนื้ออ่อนๆนี่พี่ชอบนัก

“น้ำมะพร้าวแก้ว ๑ ครับ”น้าแม่ค้าให้อย่างรวดเร็ว แถมเนื้อมะพร้าวให้ด้วย หอมชื่นใจจังเลยครับ

“ชานมเย็นแก้วครับ”เสียงนุ่มๆของคนที่ต่อหลังผม ผมหยิบหลอดแล้วหันตัวกลับ อืม หน้าคุ้นๆ เออ จะใช่คนนี้หรือเปล่าวะ คนนี้เขาก็น่าจะชื่อพีนะ อยู่ชั้น ม. ๕ เออ แต่ชื่อจริงเขาชื่ออะไรน่ะสิ

“ขอโทษครับ”มองเขาจนลืมว่าตัวเราอ้วน ชนไหล่เลยกู รีบกระถดตัวออกจากรวดเร็ว คนอ้วนทำอะไรผิดเสมอครับ เดี๋ยวโดนเขายำตีนเอา หึหึ




“กินด้วยดิ”ไอ้แต๊งขอน้ำมะพร้าว

“กูถมน้ำลายใส่แล้ว”

“เลว”ด่าผม แต่รับแก้วน้ำไป เออ คนเมื่อกี้เขาชื่ออะไรวะ ผมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา แล้วเข้าเฟส เสิร์ทไปที่เพจของแก๊งเทวดา ไล่ดู โห มันตั้ง ๓ พีนี่หว่า
๑. พี ภูริ นักเรียนชั้นม. ๖/๑ เคยเข้าโอลิมปิกวิชาการนั่นด้วย เก่งสุดยอดอ่ะคนนี้
๒. พี ภูมิภัทร คนนี้ชั้น ม. ๖/๑๑ ห้องศิลป์ – ญี่ปุ่น คนนี้วาดรูปเก่งด้วย
๓. พี ภูธเรศ คนนี้ชั้น ม. ๕/๒ คนนี้เป็นนักบาส เรียนเก่ง
ทั้ง ๓ คนนี้สมชื่อกับที่เป็นเทวดาครับ มีความโดดเด่นกันทั้งนั้นเลย แต่ว่าใครล่ะที่จะเป็นคนเขียนโคลงตอบผม แต่ผมคิดว่า คนที่น่าจะเป็นไปได้คือ คนที่ ๒ อ่ะ เพราะเขาเรียนสายศิลป์ การเขียนโคลงมันต้องอาศัยหัวใจที่เป็นศิลป์ เอิ้ก นี่ยอตัวเองด้วยนะ ส่วนคนแรกเขาจะเด่นพวกวิทย์อ่ะ ผมรู้จักเขาดีพอสมควร แต่ถามว่าเขารู้จักผมไหม ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ มาที่คนสุดท้าย อืม เขาเด่นกีฬามาก ดังพอๆกับไอ้เฟียส เออ แต่ว่าการแต่งโคลง แต่งกาพย์ นี่ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวนะผมว่า ไม่รู้ว่าใครในนั้นมีใจรักบ้าง มันก็เป็นไปได้ทั้ง ๓ คน เฮ้อ แล้วเราจะโยนพวงมาลัยไปให้ใครดีล่ะ เอิ้ก พูดเหมือนตัวเองเป็นนางรจนา

๑๗.๒๓ น. ที่เดิม เวลาเดิมนั่งดูเขาซ้อมบอลกัน วันนี้เล่นเบาๆ เอาแค่เหงื่อออกครับ ระหว่างรอ ผมไปซื้อผัก และเดินไปเดินมา ออกกำลังกายตามที่ไอ้เฟียสแนะนำ วันนี้เดิน ๕ รอบครับ เดินเสร็จมาพักเหนื่อย และเดินไปซื้อน้ำให้ไอ้เฟียส ไอ้แต๊ง ตอบแทนน้ำใจพวกมันหน่อยครับ โดยเฉพาะไอ้เฟียส มันคิดถึงไอ้แต๊ง ซื้ออะไรมาฝาก มันก็เผื่อแผ่มายังผมตลอดเลย แวะร้านค้า จึงไปแวะโรงรถต่อครับ มีนักเรียนไปที่โรงรถหลายคน เป็นผู้หญิง แล้วมีคนหนึ่งหล่อมาก หล่อจนทะลุหมวดกันน็อก ขับมอไซด์ผ่านผมออกไป ผมเดินเข้าไปหาโพสต์อิต เผื่อเจอ มันก็เจอจริงๆด้วย

                                                             จับ   ใจจนแจ่มจ้า          เจอจริง
                                                             ได้    ด่ำเดินด้วยดิ่ง        เด่นด้าว
                                                             แล้ว  ลมล่องลากลิง       เลียบไหล่
                                                             นะ    หนึ่งโน้มแนบน้าว   นั่นไน้ นองนอย

เอาละสิ พออ่านจบนี่ตัวชาเลยครับ แสดงว่าเขาเจอผมแล้ว และเขาก็ตั้งใจที่จะเดินดิ่งมาหาผม ผู้เด่นด้าว สัส กูรู้ว่ากูอ้วน ถ้ากูไม่เด่นในด้าวแดนนี่ใครจะเด่นไปกว่านี้อีกวะ โอ่งมังกรราชบุรีเรียกพี่เลยนะเว้ย การที่เขาตรงมาหาผม เพราะลมพัดมา ลมอะไรวะ สงสัยเป็นลมบ้าหมู ฮ่าๆๆ มีเลียบไหล่กันด้วย เอ่อ ก็เข้าแถวซื้ออะไรหลายอย่างมันก็มีเลียบมีชนบ้างสิครับพี่ท่าน นะหนึ่งโน้มแนบน้า นี่คืออะไรวะ โน้มแนบ จะเข้ามากอดงี้เหรอ โห หุ่นกูดูอบอุ่นมากเลยนะ หน้าหนาวกอดอุ่น หน้าน้ำไปเล่นน้ำก็ไม่มีวันจม หน้าร้อนนี่กอดไม่ได้ น้ำมันพรายมันไหลเยิ้ม เอิ้ก ดูน่ากลัวเกิ้นนนนน สุดท้ายมีหยอดด้วยว่าเราไน้ (nice) เฮ้อ พ่อคุณเอ๋ย คุณใช้ตาอะไรมองอ่ะ ผมมันก็แค่คนธรรมดา หยิบโพสต์อิตใบนี้มาใส่กระเป๋าแปะในสมุดเรียบร้อย แล้วหยิบใบใหม่มา

                                                          ยู      ยอยาเยิ่นเย้อ               ยองใย
                                                          เป็น  ป่วนเปิดป่วยไป             ป่นเป้ย
                                                          ใคร  ครวญใคร่ครองไคร้         ครุ่นครู่ ครองแครง
                                                           นะ   นั่นน้อมแนบเน้ย            นิ่วหน้า โนเนม

คุณยอคุณชมผมมากไปแล้วนะ ชมซะจนผมมาครวญครุ่นคิด เกิดป่วยขึ้นมา มันป่นปี้หมดเลยนะ อยากรู้จริงๆ ช่วยน้อมเฉลยแก่เน้ยด้วย อย่าให้เน้ยนิ่วหน้า เพราะไม่รู้ว่าโนเนมคนนี้เป็นใคร เออ สลัดผักอีเลิดใส่ยอดหัวหอม เขาชื่อภู เฮ้อ ภูเอ๋ย เอ๋ยพี เจ้าจงมาเฉลยกับพี่ ชะเอิงเอย เอยนอยแน้

โอ๊ะ ไม่ดีกว่า กินอยู่อย่างหมู อยู่อย่างหมา อ่ะเจ้ย ภาษิตนี้ไม่เข้ากับสถานการณ์ ผมขออยู่เหมือนเดิมแล้วกันนะ มันก็อยากจะรู้หรอกว่าเป็นใคร แต่ถ้าเธอดีเกินไป กรุณาทิ้งฉันไว้ที่กลางทาง

หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 23-09-2015 21:33:12
 หมีอย่าเล่นตัวเลย o18 ทำไมเราเชียร์นักบาสส.(ชอบส่วนตัว)  :o8:
คนที่เดินมาทีหลังแน่ๆ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 23-09-2015 21:59:10
โดนแน่ๆนายหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 23-09-2015 22:02:54
โอ้ยยย น่ารักมากค่ะ
ชอบหมี 55555
คนแต่งเก่งมาก แต่งโคลงสี่สุภาพ ด้วย
 o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 23-09-2015 22:13:25
น้องนักบาส ร้านน้ำ?
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-09-2015 22:38:49
หมีอยากมีคนเคียงข้าง แต่ดันกลัวฝนตกใส่นี่ เริ่มแล้วต้องไปต่อน่ะ เขารู้แล้วยังมาต่อกลอนใส่ก้อแสดงว่าเขายังมีท่าทีที่ดีต่อเราอยู่น่ะ สู้ต่อไปน้องหมีผู้น่ารัก นี่คือแรงบันดาลใจในการทำตัวผอมแล้วน่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 23-09-2015 22:57:46
ตกลงเป็นนักบาสใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 23-09-2015 23:04:20
เดาไม่ถูกกันเลยทีเดียว โผล่มาทีเดียว 3 คนเลย  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: NB ที่ 23-09-2015 23:25:04

เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกน่าติดตามดีครับ 
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2015 23:40:14
ตื่นเต้นแทนหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-09-2015 00:05:58
มันต้องมีหนึ่งในสามที่ต่อแถวซื้อน้ำกันอยู่นั่นแหละ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-09-2015 01:20:40
คนที่เป็นนักบาสแน่เลย เดาล้วนๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-09-2015 04:35:58
คนนั้นก็ดี คนนี้ก็โดน ใช่ไหมคะหมี ^^
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 24-09-2015 04:46:52
นี่ั่นั่งมโนรอบโรงเรียนเบยยยยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-09-2015 05:01:33
ดิฉันว่าไม่ภูริก็ภูธเรศ... น้องคนสองนอกจากเด็กไปแล้วยังชื่อภูมิด้วยไม่ใช่ภู

ชนไหล่น่าจะภูธเรศ แต่อ่านคนแรกแล้วรู้สึกโพรไฟล์เด่นจนไม่น่าเป็นไปได้แล้วรู้สึกเป็นไปได้พิกลนะคะ(....)
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-09-2015 06:19:26
มีผู้ต้องสงสัยล่ะ จะได้เจอกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 24-09-2015 08:06:07
ต้องเป็นคนที่ซื้อชานมเย็นแน่ๆ คนนี้ใกล้ชิดสุดละ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 24-09-2015 08:33:44
รอลุ้นๆๆๆๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-09-2015 09:13:41
มารอ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 24-09-2015 09:26:37
แอบบเดาว่าจะเป็นเมียสินะ หมีของเจ๊
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 24-09-2015 09:41:12
แหม่ โผล่มาพร้อมกัน 3P เลย หมีเลือกไม่ถูก ก็จับรวบกินหัวกินหางให้หมดนั่นแล /ถูกตบ
เดาว่าไม่ ภูริ ก็ ภูธเรศ ชอบโปรไฟล์คนแรก แต่แอบมีใจให้คนหลัง เป็นนักบาสจะได้จับหมีออกกำลังกายได้ไรงี้ แต่โรงรถมีสาวๆ ตรึม แสดงว่าแฟนคลับเยอะ ภูริก็ดูเข้าเค้า ....ก็ได้แต่เดากันไป รอเฉลยฮับ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 24-09-2015 10:17:25
นี่มารอลุ้นบุคคลปริศนาของน้องหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 24-09-2015 14:54:17
โอ๊ย ลุ้นแทนหมี หมีต้องได้สามีนะ อย่าเป็นรุกเลยเชื่อเขา  :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 24-09-2015 16:06:54
หมีเป็นรจนา อยากให้เจ้าเงาะ (ที่หล่อกว่าหมี) โผล่มาไวๆ  :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 24-09-2015 18:03:10
เอ๊ ใครกันน้า  :katai3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 25-09-2015 11:12:49
สวัสดีคนแต่งจ้า มาติดตามเรื่องใหม่อ่านตามทันและ 5555 น้องหมีๆๆๆๆ จะได้ใครเป็นคู้น้อ หน้องหมีต้องรุกๆๆๆ จะเจอรับผู้น้ารัก (หล่อน้ารัก) ไหมน้อ ดีแล้วน้องหมีที่มีพี่มหาตวงเป็ยไอดอล 5555

รออ่านตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๓๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๘ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 25-09-2015 17:00:41
จะเป็นภู พีไหนกันนะ ใครขับรถมอไซต์คันที่สวนหมีออกไปกัน
เรื่องของเฟียสกับแต๊งก็ลุ้นมาก แต๊งจะรู้ใจตัวเองไหม

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 27-09-2015 01:49:28
โคลงที่ ๙

๑๔ กันยายน ๒๕๕x
๑๘.๒๔ น.
มาถึงบ้านแม่ยังเปิดร้านขายของเหมือนเดิม วันนี้ขายได้ปกติแล้วครับ มาถึงเอากระเป๋าวาง แล้วช่วยแม่สับไก่ต่อ มื้อเย็นมีมาเป็นครอบครัวก็มีครับ ไอ้แต๊งถึงมันจะเหนื่อยจากการซ้อมบอล แต่ว่ายังช่วยงานเสมอ มันบอกว่า จะได้มีเงินใช้

ช่วงเย็นน้าหมอนกับน้าชาติ พ่อไอ้แต๊งมานั่งคุยกับแม่ผมและกินมื้อเย็นด้วยกัน มีต้มไส้อ่อนหมู กับต้มยำไก่ อร่อยมากเลยครับ

“เออ แม่ลืมว่าหนูต้องกินอาหารคลีน”แม่ผมฉุกคิดขึ้นมาได้

“ไม่ทันแล้วแม่ จานที่ ๒ แล้ว”กับข้าวอร่อยหมดข้าวไป ๒ จาน ไอ้แต๊งก็เหมือนกัน มันชอบใจมาก

“หมีต้องไปวิ่งกับน้าแล้วนะ ลดๆหน่อย สาวๆจะได้มอง เอ๊ะ หรือว่าหนุ่มๆจะได้มองเหมือนเจ้าแต๊ง”น้าชาติขำให้ลูกชาย

“พ่อพูดแบบนี้เดี๋ยวหนูได้พาแฟนผู้ชายมาเปิดตัวซะหรอก เฮ้อ อะไรก็ไม่รู้”

“เอ้า พามาก็มาสิ ฮ่าๆๆๆ”

“คุณก็ไปยุลูก”น้าหมอนตีไหล่ “เออ ว่าแต่พามาพรุ่งนี้เลยก็ดีนะแต๊ง แม่ไม่เจอเขานานแล้ว”

“แค่กๆๆๆๆ”ถึงกับสำลักข้าวเลยทีเดียว

“เออ ดูพวกนี้ เอ้าๆ ค่อยลูก อ่ะน้ำ”แม่ผมกุลีกุจอเอาน้ำมาให้อย่างรวดเร็ว ส่วนไอ้แต๊งหน้าแดงเลยครับ มันหล่อนะไอ้นี่ เวลายิ้ม แววตาอะไรแบบนี้อ่ะ ใกล้ๆไอ้เฟียสเลย แต่ไอ้เฟียสนี่ จะแนว ตี๋หน่อย ขาว สูง ๑๘๗ หุ่นล่ำ ขาใหญ่ เป้าตุง อะเจ้ย ของเพื่อน อย่าไปแลของเขา มันจะเสียของ หึหึ ไอ้แต๊งนี่สูง ๑๘๒ ตัวก็ขาวๆ คิ้วเข้มนิดหนึ่ง รวมๆ ทั้ง ๒ คนเหมาะกันดีครับ ส่วนผม ถ้ามองจากรูปร่างของเฮีย ผมหล่อกว่าเฮียนะ เคยทำโฟโต้ชอป ลดหุ่นของตัวเองให้อยู่ในสภาพปกติ โหหหหห หล่ออ่ะกู ฮ่าๆๆๆ

กินอิ่มแล้ว ผมก็ไปช่วยแม่ล้างจาน แล้วมานั่งคุยกับน้าชาติ ก็อย่างที่รู้น้าชาติเป็นตำรวจครับ อายุ ๔๘ แล้ว แม่ผม ๕๒ ยังสวยอ่ะแม่ผม วัยรุ่น ใสๆ ส่วนพ่อผม ๕๓ อีก ๗ ปีจะเกษียณแล้ว ผมต้องรีบเรียนให้จบนะเนี่ย จะได้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ อยากพาพวกท่านไปเที่ยวต่างประเทศ ที่เคยไปก็มีแต่ไปเวียงจันทร์ กับไปเจดีย์ชเวดากอง อยากพาไปหลายๆที่ นี่กำลังฝันใหญ่ แล้วเราต้องไปให้ถึง ไฟติ้งกระดิ่งวัว กระดิ่งแมวมันไม่ค่อยดัง ต้องกระดิ่งวัว ดังสนั่นลั่นทุ่งหนองอีเป็ด

ถึงเวลาพอสมควรไอ้แต๊งไปนอนที่บ้าน ผมก็ขึ้นมาอ่านหนังสือ ดูขยันเนอะ แต่หนังสือที่อ่านนี่มันหนังสือคลายเครียด ฮาๆ ข้ออ้างของเราที่พูดกันบ่อยๆก็คือคำว่า ขอกูพักสมองบ้างเหอะ แต่บางทีพวกมึงก็พักสมองจนสมองมันโล่ง เอ๋อ เบลอ มึน โหวงเหวง พักนานเกิ้นนนนนนนน

๑๔ กันยายน ๒๕๕x
๑๒.๑๔ น.
ผมนั่งจองโต๊ะ ไอ้แต๊งเดินไปซื้อน้ำ รอครู่หนึ่ง น้ำกระเจี๊ยบของผมถูกส่งมา ส่วนเจ้าตัวซื้อน้ำเก๊กฮวย วันนี้ผมกินข้าวราดแกงอย่างเดียวครับ แต่มีขนมมาเพิ่มเล็กน้อย ผลไม้อีกถุงหนึ่ง นั่งกินกับไอ้แต๊ง ๒ คน และก็มองหญิงสาวภายในโรงเรียน สดใสน่ารักดี อีกไม่กี่เดือนเราจะจบจากโรงเรียนนี้แล้ว คิดๆไปก็ใจแป้วนะ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดี เพราะจะได้ไม่ต้องฟัง ผอ.บ่นกินเวลา ฮ่าๆๆ

“กูไม่สอบแกทแพทดีไหมวะหมี”

“ทำไมอ่ะ”

“ฉันรู้ตัวดี ว่าฉันไม่มีความรู้”แหม่ เอาเพลงที่หนึ่งไม่ไหวมาดัดแปลงซะนะ

“ลองดูก่อน มีกูอยู่ทั้งคน กูจะติวให้”

“อืม ไม่คิดว่ายิ่งโตยิ่งเรื่องเยอะ”

“เป็นโคนันดิ สืบคดีมาเป็นร้อยคดี ห่าแดก ยังไม่จบป.๑ เลยมั้ง”

“หึหึ มีแบบนั้นก็ดีสิวะ เป็นเด็กตลอดกาล”

“แต่เราก็ต้องโต”

“ใช่ แต่ก็อยากโตไวๆเหมือนกันนะ อยากเข้ากรุงเทพ อยากเจอแสงสี”

“อืม ที่เที่ยวเยอะด้วย ถ้างั้นก็ต้องพยายามอ่ะ ทำให้เต็มที่”

“ตกลงนี่เราจะไปเรียนจริงๆใช่ไหมวะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

วันนี้เจอไอ้เฟียสมายืนเลียบเคียงไกลๆ แล้วมันเดินออกไปครับ ผมก็เอื่อยๆ คุยกับไอ้แต๊งไปเรื่อยๆ อยู่ๆก็มีใครคนหนึ่งมานั่งร่วมโต๊ะด้วย

“สวัสดีครับ ขอนั่งด้วยคนนะ”ก้มหัวให้ผมเล็กน้อย ผมนี่ตัวชาวูบเลยครับ

“คะครับ”

“.......”ไอ้แต๊งหันไปมองแล้วคงจะคิดว่า กูไปรู้จักกับมึงเมื่อไหร่วะ อีกคนกำลังทำท่าสงสัย ส่วนอีกคนทำท่าจะชีวาบรรลัย มึงโผล่มาทำไมครับ

“ผมมาดี ทำไมต้องมองแบบนั้นด้วยอ่ะพี่แต๊ง”

“รู้จักกูด้วยเหรอ”ไอ้แต๊งชี้หน้าตัวเอง ส่วนผมก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ ถึงจะสั่นแต่หิวครับ ขอโซ้ยเอาแรงก่อน

“ทำไมจะไม่รู้จักอ่ะพี่ ก็พี่เป็นนักบอลโรงเรียน แล้วพี่เฟียสจีบพี่อยู่ไม่ใช่เหรอ”

“กวนตีนละมึง ไม่ได้จีบโว้ย”

“อ่อ”เขาพยักหน้า “พี่หมีเงียบเลย”

“เอ่อ กินข้าวอยู่”ผมพูดไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก ไอ้บ้าเอ๊ย ใครให้มึงโผล่มาเวลานี้วะ

“ขอโทษที่รบกวนพี่”ว่าแล้วเจ้าตัวก็โซ้ยข้าวเงียบๆ เงียบกันทั้งวงครับ


๑๒.๔๑ น.
อิ่มแล้ว แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญยังไม่ไปสักที

“พี่ไม่คุยกับผมหน่อยเหรอ”

“แฮะๆ คุยไม่เก่ง”ผมยิ้มแห้งๆและตอบแบบสิ้นคิด

“อ้าว ก็เห็นแต่งกลอนชั้นเชิงอย่างดี ทำไมถึงคุยไม่เก่งอ่ะพี่”มียักคิ้วหลิ่วตาให้ผมด้วย

“อ้าว ไอ้นี่ ก็คนคุยไม่เก่ง ก็ตรงตัวแล้วป่ะ แล้วนี่มีธุระอะไร กูงง”ไอ้แต๊งโวยวายล่ะครับ

“อ๋อ ก็อยากเจอพี่หมีไง อยากคุย แต่ดูเหมือนพี่ไม่ค่อยอยากคุยกับผมเลย”

“เพื่อนกูก็งี้ แล้วมีอะไรอีกป่ะ จะได้ไปที่อื่นต่อ”

“ไม่มีแล้วพี่ เอ่อ พี่หมี ผมขอเฟซ ขอไลน์พี่หน่อยดิ นะพี่ วันก่อนขอแล้วก็ไม่ให้”

“มันจะดีเหรอ”

“ดีสิพี่ นะๆ ขอคิวอาร์โค้ดหน่อย เฟซพี่ด้วย”น้องมันตื่นเต้นมาก ผมก็ต้องจำใจ เดี๋ยวเขาหาว่าใจร้าย ทั้งไลน์ ทั้งเฟซ เรียบน้อย “ขอบคุณครับ ไม่รบกวนพี่แล้ว ขอตัวนะ”ยิ้มให้แล้วเดินออกไป

“มึงไปรู้จักกับไอ้พีได้ไงวะ”

“เรื่องมันยาว”

“เหรอ เล่าสั้นๆได้ไหม”

“เออ อย่าเพิ่งรู้ตอนนี้เลย เดี๋ยวว่างๆเล่าให้ฟัง แล้วนี่ไอ้เฟียสไปไหนวะ ไม่เห็นหน้าเห็นตา ปกติมันก็มาตะลอนแล้วนี่หว่า”ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องครับ

“เฮอะ สนใจอะไรมันมากวะ ให้มันมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างเหอะ”

“อือ กูแปลกใจไง ปกติมันต้องมีขนมมีนั่นมีนี่มาให้”

“มึงอยากกินขนมของมันเหรอ กูซื้อให้มึงกินก็ได้นะ”

“เปล่า มันผิดปกติไง เออ ป่ะๆ เข้าห้อง”

ผมเดินแบบคนเหม่อลอยไปยังห้องเรียน ไม่คิดว่าเขาจะมาหา ไม่ต้องสงสัยใดๆทั้งสิ้นแล้วว่าคนที่ตอบโคลงของผมเป็นใคร
พี ภูธเรศ นักเรียนชั้นม.๕ นักบาสของโรงเรียน แก๊งเทวดาซะด้วย เฮ้อ เจอคนหน้าตาธรรมดาก็ไม่ได้ ทำไมต้องเจอคนหน้าตาดีด้วยวะ

ช่วงบ่ายผมเรียนไม่มีสมาธิเลยครับ คิดไปเรื่อยเปื่อยจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เริ่มคิดไปต่างๆนานา เขาจะหาว่าเราบ้าไหมวะ หรือเขาจะแกล้งอะไรเรานะ ถ้าแกล้งผม ผมก็ไม่มีจุดยืนในโรงเรียนนี้แล้วครับ คนไม่ค่อยชอบผมมันก็มีหลายคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นี่ถ้าโดนซ้ำจากแก๊งเทวดา ไอ้เฟียสก็ช่วยผมไม่ได้ เฮ้อ คิดหนัก

เอ๊ะ จะเครียดไปทำไม เครียดไปก็ไม่ใช่ไอ้หมีอ่ะดิ โด่ว หล่อๆอย่างพีมีดีที่หุ่นเว้ย หึหึ ตอนเย็นเลิกเรียนแล้ว ผมต้องทำเวร เฮ้อ ชะเองเอย ต้องทำกรรม เอ่อ ก็ความสะอาดในห้องอ่ะแหละครับ กวาดๆ อย่างรวดเร็ว ช่วยกันคนละไม้ละมือให้เสร็จไป จากนั้นจึงลงไปด้านล่าง ไอ้แต๊งรอที่สนามแล้ว มันกำลังวอร์มร่างกายอยู่

ผมก็มายืนมองพฤติกรรมของไอ้เฟียส เออ ไอ้นี่ตีบทแตกครับ ไม่แยแสอะไรไอ้แต๊งมากเท่าไหร่นัก แค่ทักไม่กี่คำก็หันไปวอร์มร่างกายของตัวเองเป็นปกติ ถ้าเมื่อก่อนนะ ต้องแต๊งอย่างนั้นอย่างนี้ คุยเอาอกเอาใจไอ้แต๊งก่อน มองตามัน มันก็ยิ้มให้ผม

“กูรู้ว่ากูหล่อไอ้เฟียส ไม่ต้องโปรยเสน่ห์”

“ฮิ้ววววววว”

“เอาจริงๆนะพี่หมี ถ้าพี่หมีไม่อ้วนนะ ผมว่าพี่เฟียสเทียบพี่หมีไม่ติดหรอก”รุ่นน้องคนหนึ่งเอ่ยชม เออ แบบนี้ค่อยมีกำลังใจในการกินต่อ เอ๊ย ในการลดน้ำหนัก

“พูดแบบนี้โดนใจพี่เลย เดี๋ยวเลี้ยงข้าวมันไก่จานหนึ่ง”ผมชูนิ้วโป้งให้

“โหยย พี่หมีสุดหล่อแล้วพวกผมล่ะ”

“ใช่ๆพี่ ทั้งหล่อทั้งใจดี ถึงจะอ้วนแบบนี้ ยังไงก็หล่ออยู่แล้ว”

“เฮ้ยๆ พวกมึงยอมันเกินไปละ มันหล่อตรงไหนวะเนี่ย”ไอ้แต๊งขัดทัพ

“หล่อที่เลี้ยงข้าวมันไก่นี่แหละพี่แต๊ง ฮ่าๆๆๆ”

“ขอบคุณสำหรับคำชม”ผมโค้งให้ จากนั้นในสนามก็เริ่มซ้อมกันตามคำสั่งของโค้ช

นั่งดูเขาเล่นบอลจนลืมไปว่าต้องไปซื้อผักให้แม่ ผมจึงเดินไปที่สวนผักของโรงเรียน วันนี้ไม่มีใครอยู่ดูแลแล้วครับ แต่ผมก็เข้าไปเก็บผักได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเอาเงินมาให้กับชมรม เก็บผักเสร็จแล้วเอาไปล้างน้ำแล้วใส่ถุง เราจะเก็บได้อีกกี่วันวะเนี่ย ต้นโตๆมันใกล้จะหมดแล้ว ที่ปลูกใหม่ก็ยังโตไม่ทัน เก็บผักเสร็จจะเดินกลับไปที่สนามบอล ไอ้ตัวดีมายืนยิ้มแป้นหน้าชื้นด้วยเหงื่อ

“เก็บผักเหรอครับ”จำโฆษณายาสีฟันใกล้ชิดเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วได้ไหมครับ ที่จะมีประกายวิ๊งๆออกมาจากฟันอ่ะ ปิ๊งๆๆๆ แบบนั้นแหละครับ

“หือ ตกใจ โผล่มาได้ไง”

“ตามพี่มา ทำไมพี่กินผักเยอะจัง”

“เอาไปขาย แล้ว...”คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร

“อะไรเหรอครับ?”

“ไม่กลับบ้านเหรอ”

“ก็ใกล้แล้วครับ แต่แวะมาหาพี่ก่อน”

“แวะมาหา”ผมชี้ที่หน้าตัวเอง น้องมันพยักหน้าหลายที “มีอะไรเหรอ”

“ก็อยากคุยกับพี่ไง”

“อ๋อ”ผมพยักหน้า “พี่มีอะไรน่าคุยด้วยอ่ะ”

“มีสิพี่”

เดินมาเรื่อยๆ น้องถามคำ ผมก็ตอบคำ รู้สึกประหม่าครับ คือ ผมคุยกับคนน้อยมาก นอกจากไอ้แต๊งกับไอ้เฟียส คนอื่นก็ไม่เท่าไหร่ ยิ่งพวกดังๆ ผมไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้ กลัวมีปัญหา อย่างไอ้เฟียสผมก็เคยโดนหางเลขมาเหมือนกันนะครับ หาว่าอ้วนไม่เจียมบ้าง คือบางทีผมก็ไปหยอกล้อไอ้เฟียสขำๆไรงี้ พวกแฟนคลับก็หาว่าผมเป็นตัวฉุดรั้งระดังหน้าตาของไอ้เฟียส เฮ้ย มึงเอ๊ย ถ้ามึงจะจริงจังแบบนี้ กูว่ากูตายซะดีกว่า

“ผมกลับบ้านแล้วนะ เดี๋ยวเย็นนี้ทักเฟซไป คุยกับผมด้วยนะพี่”

“อืม”ผมพยักหน้า น้องมันยิ้ม คนหล่อแม่งหล่อเสมอต้นเสมอปลาย หล่อยังแต่ปลายผมยันเล็บขบ มันทำอะไรน่าดูไปหมดทุกอย่างจริงๆ

“มาด้วยกันได้ไงวะ”ไอ้แต๊งทำหน้าเข้มใส่ผม หงุดหงิดอะไรอีกวะเนี่ย

“ก็...”ไม่รู้จะตอบยังไง “แล้วนี่เป็นไรของมึงเนี่ย ขึ้นเสียงใส่กูทำไม”

“ก็เป็นอย่างงี้ของกูอ่ะ”ผมงงเลยครับ อยู่ๆมาขึ้นเสียงใส่ โดนไอ้เฟียสเตะบอลอัดป่ะวะ

“เออ กูงง”

“แล้วตกลงว่ามาด้วยกันได้ไง”ไม่ยอมปล่อยครับ พ่อกูก็งี้

“กูไปเก็บผัก น้องมันเดินไปทักชะเองเอย เดินไปคุย”

“กูไม่ตลกนะหมี”อารมณ์เสียซะแล้ว ผมส่ายหน้า กูก็ไม่ตลกนะที่มึงมาขึ้นเสียงใส่ ผมเดินไปที่โรงรถไปขับมอไซด์มารับพ่อ แหม่

มาถึงบ้าน ไอ้แต๊งไม่ช่วยทำงานครับ แต่ไม่เป็นไรผมทำคนเดียว วันนี้มันเงียบตั้งแต่กลับมาถึงบ้านจนตอนนี้
๒๑.๑๕ น.
 
ผมก็ไม่คิดอะไรนะ แต่มานั่งคิดถึงน้องพี ภูธเรศ ไม่รู้ว่าเขาจะยังไง เฮ้อ

                                                                  ขออภัยปราศรัยน้อย     วาจา
                                                                  ก็ไม่คิดว่าจะมา           พบพ้อ
                                                                  ตั้งตัวไม่ทันอา-           รมณ์ซ่าน พล่านพุ่ง
                                                                  ไม่หยิ่งอยากคุยจ้อ       จัดจ้าน สนทนา

ส่งไปขอโทษเขาหน่อยครับ เดี๋ยวเขาเข้าใจผิดหาว่าเราหยิ่งผยองลำพองตน เห็นคนดังมาคุยด้วยก็ทำเป็นหยิ่งอะไรแบบนี้

เขียนใส่โพสต์อิตแล้วถ่ายรูปก่อนจะส่งไปที่กล่องข้อความในเฟส




เอ๊ะ P. Phu นี่มันเฟสน้องพี














ฉิบหาย Thank TC. นี่มันเฟสของไอ้แต๊ง












เหยินฟ้า – มึงส่งอะไรมาให้กูวะหมี
   
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 27-09-2015 02:13:02
น้องพีนักบาสจริงๆด้วยยยย พี่หมีจีบเลยๆ น้องเขามารุกซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 27-09-2015 02:24:52

เป็นนักบาสจริงด้วย  o18
มีการเข้ามาหาก่อนด้วย รอต่อนต่อไป  :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-09-2015 02:29:32
หมีน้องมันมาคุยด้วยก็คุยกับน้องด้วยสิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-09-2015 02:48:43
จะเป็นอย่างไรต่อไป~~~
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-09-2015 06:49:07
ส่งไปผิดแบบนี้ มีสิทธิ์ถูกแต๊งซักฟอกจนขาวสะอาดแน่ๆ เลยนะคะหมี :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-09-2015 08:37:01
อ้าวๆๆ พี่หมี ส่งจดหมายผิดซองซะแหล่ว ไม่ขาวตอนนี้จะให้ขาวตอนไหน โดนยอดชายนายแต๊งซักจนขาวแน่
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 27-09-2015 09:22:47
เหยินฟ้าถึงกับงง55555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 27-09-2015 09:23:53
เด็กรุกได้ใจมาก o13

นายเหยินฟ้าหวงเพื่อนรึไง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 27-09-2015 09:57:44
ส่งผิดคน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 27-09-2015 12:04:45
ส่งผิดหรอหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 27-09-2015 12:12:24
 :mew3: :mew3:เข้ามาเป็นกำลังใจให้พี่หมีคร้าาาา!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 27-09-2015 13:19:17
ลุ้นๆๆๆ ต่อไปตอนท้ายคงไม่เพื่อนกุรักมึงวะนะ
หลังๆ แต๊งชักยังไงๆ กับหมี  :z2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 27-09-2015 14:22:19
เย่ะ พระเอกเพิ่งออก กินเด็กซะด้วย 555555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-09-2015 14:28:25
พี่หมีส่งผิดส่งใหม่ก็ได้ แต่พี่ต้องยอมให้เพื่อนแต๊งค์ซักฟอกสักนิดนึงนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 27-09-2015 15:55:32
ตามอ่านทันจนได้ ชอบมากๆ ค่ะ เหมือนได้ตามติดชีวิต ม.ปลายของหมู...เอ๊ย...หมี ดิฉันเป็นคนชอบโคลงโดยส่วนตัวอยู่แล้ว ได้มาอ่านอย่างนี้ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่

ดิฉันว่าเรื่องมันเริ่มจะอีรุงตุงนังก็ตอนที่น้อง พี ภูธเรศเข้ามาเฉลยตัวนี่แหละค่ะ เพราะรู้สึก(และคิดวิเคราะห์)มาตั้งแต่อ่านแรกๆ แล้วว่า ถ้าเฟียสจีบแต๊งมานานตั้งหกปี แต่แต๊งกลับไม่สนใจเลยสักนิด ก็อาจจะแสดงว่า...แต๊งไม่ได้มีจิตพิศวาศใดๆ กับเฟียสเลย แล้วแต๊งชอบใคร จะไม่ผิดใช่ไหมที่จะอนุมานเอาว่า...แต๊งชอบคนที่ตัวเองอยู่ด้วยมาตลอดหกปี คนที่กลับบ้านด้วยกันตลอดหกปี คนที่ไปคลุกคลีตีโมงด้วยที่บ้านตลอดหกปี ใช่ค่ะ...แอบคิดว่า จริงๆ แล้วแต๊งน่าจะชอบหมีหรืออย่างน้อยก็ผูกพันมากจนความรู้สึกเริ่มเปลี่ยน ดังนั้นพอเห็นว่าน้องพีภูธเรศเข้ามายุ่มย่ามกับหมี ซ้ำหมียังแสดงอาการแปลกๆ เมื่ออยู่ต่อหน้ารุ่นน้องคนนี้ จึงทำให้แต๊งรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก

ดิฉันวิเคราะห์อย่างนี้ ไม่รู้ผิดหรือถูก

ตามตอนต่อไปอย่างใกล้ชิด
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 27-09-2015 19:14:17
โอยหมี ถึงขั้นเคยโฟโต้ชอปตัวเอง (หัวเราะ)
ลดน้ำหนักเถอะหมี น้องพีก็จับพี่หมีไปลดน้ำหนักด้วยก็น่าจะดี โยนบอลรับบอล เดี๋ยวหมีก็วิ่งเก็บลูกจนน้ำหนักลงเอง
ส่วนแต๊งก็ดูคลุมเครือ อาจจะชอบหมีจริงๆ ก็ได้ หรือไม่ก็หงุดหงิดเฟียส
เพิ่งรู้ว่าเฟียสสูงนะนี่ เข้าใจตลอดว่าหมีสูงที่สุดในเรื่อง แล้วน้องพีนี่ตัวใหญ่ขนาดไหน จะล้มหมีได้ไหมนิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-09-2015 19:31:02
อยากรู้อยากอ่านต่อค่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: nicedog ที่ 27-09-2015 21:44:45
ชอบเรื่องนี้จัง

อ่านสบายๆออกแนวละมุม

รอชมตอนต่อไปว่าจะเป็นยังไงคะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 27-09-2015 22:21:28
ส่งผิดดดดดดดดดด
เตรียมโดนซักฟอกเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 28-09-2015 07:52:10
เป็นพีนักบาสสินะ น้องตามหาพี่หมีเจอแล้วนะเข้ามาหาก่อนด้วย
จากนี้คงชวนกันออกกำลังกายบ่อยๆเพราะน้องก็เป็นนักกีฬา
แต่ฮาหมีส่งผิด 5555 ถูกซักฟอกขาวแน่ๆงานนี้หมีเอ๋ย
ว่าแต่แต๊งหงุดหงิดอะไรน้า >.<

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 28-09-2015 10:45:39
น่ารักอ่ะ น้องพี รุกพี่หมีหนักมากกกกกกก  นี่สิ จีบตั้งแต่ยังไม่หล่อ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 28-09-2015 12:00:58
ชอบบบบบบ เอาอีกๆๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๗๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๙ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 28-09-2015 12:27:35
แต๊งมันต้องคิดอะไรกับหมีแน่ๆ
อยู่ดีๆ มาอารมณ์เสียไม่มีปี่มีขลุ่ยซะแบบนี้
ถามซักซะ หมีงง

พวกมาว่าหมีนี่เดี๋ยวหมีหล่อเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะหาว่าหมีไม่เตือน :m19:
-------
รอหมีหล่อ   :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 28-09-2015 21:48:13
โคลงที่ ๑๐

เหยินฟ้า – มึงส่งอะไรมาให้กูวะหมี
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – เปล่า
เหยินฟ้า – มึงมีพิการ
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – พิรุธ
เหยินฟ้า – เออ
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – ไม่มีอะไร มึงอย่าใส่ใจ
เหยินฟ้า – เหมือนมึงกำลังมีเรื่องปิดบังอะไรกู
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – มึงคิดมากไปเองป่ะ
-   กูนอนละนะ
เหยินฟ้า – มึงกำลังหนีความผิด
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – กูนอนละนะ ฝันดี จุ๊บๆ

กวนตีนมันสักหน่อยครับ อย่ามาไล่เบี้ยผม ผมขอเวลาสักระยะ





๒๑.๓๔ น.
ผมส่งโคลงไปให้น้องพีใหม่แล้วรอครู่หนึ่ง น้องไม่ส่งกลอนมาแต่ส่งรูปที่ตัวเองยิ้มหล่อมาให้ โห ใจละลาย มายิ้มละลายไขมันพี่บ่อยๆนะน้อง
P.Phu – ยังไม่นอนเหรอครับ
Boar Su – ยังครับ
-   แล้วน้องยังไม่นอนเหรอ
P.Phu – นอนแล้วครับ
Boar Su – อ้าวเหรอ ขอโทษที่รบกวน
P.Phu – ล้อเล่น ยังไม่นอนครับ รอพี่ทักมา

กูขอเขินสัก ๕ วินาที มีรอคุยด้วย เอิ้ก เธอจะมีใจหรือเปล่า ... อย่ามนง อย่ามโน อะเจ้ย

Thank TC. – ไหนว่านอนแล้ว

เอาแล้วไงพ่อผมทักมาอีกแล้ว เออ กูผิดเอง กูผิดที่ไม่คุยไลน์ ผิดที่คุยเฟซ
Boar Su – ก็จะนอนแล้ว
Thank TC. – มึงทำตัวมีความลับ มาเปิดประตูบ้านให้กูด้วยนะ กูต้องถามมึง
Boar Su – คุยพรุ่งนี้ก็ได้
Thank TC. – ไม่ได้

ได้แต่นั่งส่ายหน้า แปบเดียวไอ้แต๊งมาเคาะประตูบ้าน ผมต้องลงไปด้านล่างเปิดประตูให้มันเข้ามา เสื้อกล้ามสีขาว กางเกงบอล หน้ายุ่งๆ จะรำคาญก็ไม่ได้ครับ ไอ้นี่ พักนี้มันขี้งอน

“มีอะไรวะดึกๆดื่น”

“มึงอ่ะมีความลับกับกู ทำตัวน่าสงสัย”มันเดินนำผมขึ้นไปด้านบนแล้วครับ ผมเดินตามหลังแล้วบอกกับน้องพีว่าขอตัวนอนก่อน เฮ้อ ให้กูคุยกับผู้ชายบ้างก็ไม่ได้ รู้ไหมกูกระสัน เอ๊ย ไม่ใช่ แหม่ อยากมีคนคุยด้วยนิดหนึ่งอ่ะ

“กูว่ามึงอ่ะทำตัวน่าสงสัยมากกว่ากู”ปิดประตูห้องแล้วครับ

“กูแปลกตั้งแต่มึงส่งกลอนมาแล้ว กูว่ามึงกำลังมีอะไรแปลกๆกับกู แอบชอบกูป่ะ”

“ถุ้ย ไอ้แต๊ง มึงใช้หัวอะไรคิด หน้าอย่างมึงนี่นะ แถมไข่ปลาคาเวียร์กูก็ไม่เอาอ่ะ”

“กูออกจะหล่อ กูถามจริงหมี มึงกำลังมีความรักรึเปล่า”มันจ้องหน้าผมเขม็งเลยครับ

“ความรักอะไร มึงนี่ก็แปลก”

“มึงอ่ะแปลก ตกลงว่าปิดบังอะไรกู มึงไปคุยกับคนอื่นมารึเปล่า”

“แล้วทำไมกูจะคุยไม่ได้ล่ะ กูก็คุยของกูปกติดีนี่”

“เหรอ กูว่ามึงไม่ปกติ ไอ้เฟียสด้วย พวกมึงแปลกๆกับกู ไอ้บ้านั่นไม่ต้องพูดถึง แต่มึงอ่ะ”มันชี้หน้าผม

“กูอะไรอีก กูก็ปกติของกู มึงอ่ะแปลก เออ ถามก็ถามที่มึงพูดเมื่อกี้ ไอ้เฟียสมันเป็นไร”

“กูจะไปรู้กับมันเหรอ”หึหึ มึงหลุดปากมาแล้วไอ้แต๊งเอ๊ย อย่างน้อยๆก็เป็นการเริ่มต้นของต้นรักที่ปลูกมาตั้ง ๖ ปี เมล็ดเพิ่งจะแตก เดี๋ยวอีกไม่กี่วันคงจะมีโผล่รากมาบ้าง

“อ้าว ก็มึงว่ามันไม่ปกติ เออ แต่มันก็ไม่ปกตินะ”

“เออไง มันก็แปลกไปคนหนึ่งแล้ว มึงก็แปลกอีกคน”

“เออ นั่นสิ มันแปลกยังไงวะ”ผมตะล่อม แสร้งเป็นสงสัย ขยับไปนั่งใกล้ขามัน คือมันนั่งบนเตียง ผมนั่งพื้น เป็นเกียรติมากเลยเจ้าของห้องอย่างกู

“กูก็ไม่รู้ ก็ไม่เห็นคุยกับกู แล้วมึงก็อีกคนวันนี้ ไอ้นั่นกูไม่สนใจเท่าไหร่ มันเป็นบ้าอะไรก็เรื่องของมัน แต่มึงอ่ะ”

“แหม่ กูก็อยากให้มึงสงสัยบ้างอะไรบ้าง กูส่งกลอนผิด”

“แล้วมึงจะส่งให้ใคร”

“เปล่า กูเห็นน่ารักดี ก็ถ่ายรูปเล่นๆ แล้วมือมันพลาดไง”ต้องใจเย็นๆ อย่าให้เพื่อนรู้ว่าหมูกำลังกลายเป็นแรด หึหึ กูกำลังจีบๆหยอดๆเทวดาโรงเรียนดูเว้ย มึงอ่ะแมนๆเตะบอล เขาอ่ะแมนๆชู๊ตบาส แล้วกู แมนๆปลูกผัก

“เหรอ แล้วมึงว่าไอ้บ้าเฟียสมันเป็นอะไรของมัน ไม่เห็นมันคุยอะไรกับกู เออ ช่างมัน มึงอย่าเข้าใจผิดว่ากูอะไรกับมันนะ กูนอนดีกว่า”

ถุ้ย อู้ร้ายปากแข็ง เขาไม่เอาอกเอาใจแค่อาทิตย์เดียวมึงก็ออกอาการซะแล้ว

“หรือว่ามันกำลังจะตัดใจจากมึงวะแต๊ง”ผมพูดกระตุ้นสักหน่อย

“ก็ช่างมันดิ สนใจอะไร ดีซะอีก กูจะได้ไม่ต้องมีชนัก ไปจีบใคร ใครๆก็ว่ากูเป็นของมัน เฮอะ”

“เหรอ อืม แต่ว่ากูก็เห็นมันไปเลียบๆเคียงๆ น้องอะไรวะ จำไม่ได้ ที่เป็นดรัมเมเยอร์โรงเรียนอ่ะ”

“เหรอ”น้ำเสียงแปลกๆ “เออ นอนเหอะ กูไม่สนอ่ะใครจะยังไง ก็เรื่องของมัน”กลิ้งกอดหมอนข้างเรียบร้อยแล้วครับ ผมต้องลุกไปปิดไฟ แล้วส่งข้อความไปหาน้องพี

ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – ฝันดีครับ
พี – นอนไม่หลับอ่ะ
ผมชื่อหมีเพื่อนเรียกหมู – อ้าว ทำไม
พี – ไม่มีคนกอด
-   ๕๕๕๕
-   ฝันดีครับ เจอกันพรุ่งนี้
นี่เขาเรียกว่าอ่อยป่ะวะ











“หมี ถ้ากูจะมีแฟนสักคน มึงจะหวงกูป่ะ”อ้าว กูคิดว่าหลับซะแล้ว

“ไม่อ่ะ”ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้คิด แต่ถ้ามีจริงขอเป็นไอ้เฟียส

“นี่กูถามจริงๆนะ กลัวมึงจะน้อยใจไงหาว่ากูให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่ามึง”อ๋อ มีเหตุผลดี เพราะผมกับมันก็คือตั้งแต่เกิดอ่ะ ๑๘ ปีคบกันมา มีมันนี่แหละยาวนานที่สุด

“ยังไม่รู้ รอมึงมีแฟนก่อนดิ มึงจะจีบใครอ่ะ”

“ไม่รู้ แต่พูดเผื่อไว้ไง แต่ถ้ามึงจะมีแฟนกูก็หวงมึงนะ”

“เหรอ งั้นมาเป็นแฟนกับกูป่ะ จะได้ไม่ต้องหวงกันและกัน”

“หึหึ เราเป็นเพื่อนกันมาเท่าไหร่แล้วหมี ไม่เอาๆ”

“โห กูเสียเซลฟ์นะเนี่ย ฮ่าๆๆ”

“มึงมีแฟนเมื่อไหร่มึงต้องบอกกูคนแรกนะ ห้ามบอกแฟนมึงว่าขอคบ ต้องบอกกูก่อนแล้วค่อยไปบอกคนที่มึงชอบว่ามึงคบกัน”

“อ้าว ถ้าเกิดกูบอกมึงก่อนแล้ว แล้วกูไปบอกเขาขอเป็นแฟนงี้ เขาปฏิเสธกูขึ้นมา มันก็ไม่มีประโยชน์ดิ”

“เออ นั่นดิ งั้นมึงขอแฟนมึงเป็นแฟนแล้วมึงก็ต้องบอกกูอย่างด่วนที่สุด”

“เออๆ ได้ๆ ว่าแต่มึงมีใครมึงก็บอกกูด้วยนะ กูจะได้ช่วยกูให้ ใครผ่านใครไม่ผ่าน”

“อืม กูนอนละ”



















“หมี ไอ้หมี มึงเป็นอะไรของมึง เฮ้ยๆ”เสียงดังสอดเข้าโสตประสาทของผม “ไอ้หมี”

ก๊อกๆๆๆ “มีอะไรแต๊งลูก”

“ไอ้หมี ตื่นสิมึง”

“เป็นอะไร หมีเป็นอะไรแต๊ง ไหนป้าดูซิ หมี เป็นอะไรลูก”คราวนี้ผมรู้สึกเหมือนมีใครตบที่ร่างกาย แล้วผมก็รู้สึกตัวขึ้นมา

“แม่ ฮือๆๆๆๆ”รู้สึกตัวได้ร้องไห้เลยกู

“เป็นไรลูกร้องไห้ทำไม”

“ฮือๆๆๆ หนู ฮึก”สูดน้ำมูกแปบแล้วพยายามตั้งสติ “หนูยังไม่ตายใช่ไหมแม่”

“ยังนี่ เป็นไร ฝันร้ายเหรอ”แม่ลูบหัว ผมเผ้าแม่นี่กระเซอะกระเซิง ไอ้แต๊งหยิบทิชชูมาให้ผมเช็ดน้ำตา ผมพยายามตั้งสติทั้งที่หัวใจก็เต้นรัว

“มึงเป็นไรวะหมี กูตกใจนะ”ไอ้แต๊งมานั่งข้างๆผม มันหน้าเสียอยู่เหมือนกันครับ

“นั่นสิลูก เป็นไร”

“เมื่อกี้ หนูฝันว่าหนูตาย”

“ห๊ะ โถ มันก็แค่ฝันแหละลูก”

“แต่มันเศร้ามากเลยนะแม่ หนูฝันว่าหนูตาย แล้วแม่กับพ่อก็ยกศพหนูไม่ไหว เขามายกศพหนูตั้ง ๑๐ คนแน่ะ แล้วแม่ก็ร้องไห้ หนูก็ตกใจไง พยายามดิ้นๆไม่อยากตาย แต่ไม่ฟื้น”

“หนูก็ตกใจอ่ะป้า อยู่ๆไอ้หมีก็พูดอะไรไม่รู้ อื้อๆอ้าๆ ดิ้นใหญ่เลย เรียกก็ไม่ยอมตื่น”

“ก็พยายามดิ้นไง ว่าจะเดินลงไปเอง สงสารคนมายกศพ”

“เฮ้อ”แม่ถอนขายใจ “ฮ่าๆๆ”แล้วก็หัวเราะทั้งไอ้แต๊งทั้งแม่ ผมนี่งงครับ ยังกลัวอยู่เลย คือมันหลอนจริงๆ ฝันว่าตัวเองตาย แล้วแม่มาปลุกจะเอาศพลงไป แต่ยกไม่ไหว ต้องมายกตั้ง ๑๐ คน วิญญาณผมก็อยู่ข้างศพ ผมก็ว่าจะเข้าร่างตัวเองแล้วลงไปด้านล่าง ไม่ต้องให้คนแบกแล้วตายต่อไรงี้ มันก็หลอนๆอ่ะ

“นี่เราต้องลดน้ำหนักแล้วนะ นี่ฝันแบบนี้แสดงว่ายมบาลมาเตือนว่าเวลาจากไปอย่าให้ลำบากคนอื่น”

“น่ากลัวอ่ะแม่ แต่หนูยังไม่อยากตายตอนนี้นะ ยังไม่ได้พาแม่ไปญี่ปุ่นเลย”

“อื้ม ก็ต้องดูแลตัวเองได้แล้ว อย่าขี้เกียจ ต้องออกกกำลังกาย เดี๋ยวแม่จะช่วยรีดไขมันเอง”

“เหรอแม่ กี่โมงแล้วอ่ะ”

“ตี ๓ แล้ว เออ เดี๋ยวแม่ไปตลาดแล้วกัน จะนอนต่อก็ได้นะ”

“ไม่กล้านอนอ่ะแม่ กลัวตายอีกรอบ หลอน”

“อืม ดูหมีด้วยนะแต๊ง ป้าไปซื้อของก่อน อย่าคิดมาก เขาว่าบางที เรากินเยอะ มันก็จะฝันเป็นตุเป็นตะ”

“ครับแม่”แม่ออกไปแล้ว ผมมานั่งคุยกับไอ้แต๊งเรื่องความฝันเมื่อกี้ ผมเล่าเป็นฉาก ไอ้แต๊งก็เล่าที่มันปลุก มันบอกว่าปลุกผมนานมาก เฮ้อ หรือว่าเป็นเวลาที่ผมจะต้องมาสนใจน้ำหนักตัวเองอย่างจริงจังซะแล้ว

ไอ้แต๊งขอนอนต่อเพราะนอนยังไม่อิ่ม ส่วนผมไม่ง่วงแล้วครับนั่งอ่านกระทู้ลดน้ำหนัก ผมต้องลดแล้วละ ไม่ใช่เพื่อความหล่อของตัวเอง อันนั้นมันหล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อิอิ หลงตัวเองมากเลยกู นั่งอ่านรีวิวหลายกระทู้มากเลยครับ มึนๆกับการนับแคลอรี่ กูไม่นับแล้วกัน ก็ต้องควบคุมอาหารกับออกกำลังกาย เพราะคนอ้วนหลายๆคนเวลาควบคุมอาหารไปแล้ว พอน้ำหนักลดมันจะย้วย ต้องออกกำลังกายให้มันกระชับ แล้วต้องทำยังไงดีนะ เพราะว่าคนอ้วนมากๆเขาไม่ค่อยแนะนำให้วิ่ง ต้องไปว่ายน้ำนั่นแหละครับ

แต่ที่กังวลคือการควบคุมอาหาร คือผมเป็นคนที่กินอะไรก็ร่อยทุกอย่าง ของหวาน มัน คาว หมีชอบ ไม่เคยเลือก จะทำใจได้ไหมนะ

แม่ไปตลาดแปบเดียว ซื้อไก่มา ผมลงไปช่วยแม่หุงข้าวและช่วยจัดของยามเช้า ร้านเราขายตี ๕ ครึ่งก็พอดี ข้าว ๑ หม้อ ต้มไก่ให้สุก ผมเดินไปเปิดประตูร้าน แปบหนึ่งก็มีลูกค้ามากินข้าวมื้อเช้า ผมขึ้นไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ปลุกไอ้แต๊งด้วย

“หมี เสร็จรึยังลูก มาใส่บาตรเร็ว พระมารอแล้ว”แม่ตะโกนเสียงดัง ผมต้องรีบลงมาใส่บาตรกับไอ้แต๊ง บางวันก็ใส่บาตรทัน บางวันลงมาไม่ทันแม่ใส่บาตรแทน พอใส่บาตรเสร็จแล้วก็มานั่งกินมื้อเช้า ข้าวมันไก่ ไม่เอาหนัง เสียดายอ่ะ ฮ่าๆๆ

“แต๊งมีเงินไปโรงเรียนรึยัง”น้าหมอนเดินมาถามลูกชาย

“ไม่มีอ่ะแม่ วันนี้ขอ ๑๐๐๐ นะ”

“นี่ เอาไปทำอะไร”

“ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ขอ ๑ ใบแดงก็พอแม่”น้าหมอนหยิบแบงค์ร้อยให้ไอ้แต๊ง พอถึงเวลาไปโรงเรียนเราก็ไปตามปกติ

ผมไปรายงานผลให้ไอ้เฟียสรู้เรื่องที่ไอ้แต๊งสงสัยพฤติกรรมของมัน

“มึงอย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปนะ เดี๋ยวขอกูดูอาการมันสักระยะก่อน แต่กูว่ามันน่าจะมีอะไรแต่มันไม่กล้าเปิดปากก็แค่นั้น”

“อืม ก็ดีใจว่ะหมี ถึงจะยังไม่แน่ใจก็ช่างเหอะ อย่างน้อยมันก็พอจะมีหวังบ้าง”

“เออ สู้เว้ย”











๑๐.๐๑ น.
อาจารย์ติดประชุมแต่ก็สั่งงานให้พวกเราทำ คนเล่นก็เล่นกันไป แซวไปเรื่อยเปื่อย ไอ้แต๊งก็ไปร่วมวงกับเขาด้วย ส่วนผมนั่งทำงานแล้วมองเขาเล่น แค่นี่ผมก็มีความสุขแล้วครับ งานเสร็จผมลงไปเดินเล่นด้านล่าง ชิวมาก แล้วก็ไปเจอน้องภู ขอเรียกแบบนี้ดีกว่า เรียกพีคนอื่นเรียกเยอะแล้ว ไอ้เราจะพิเศษ มันต้องมีอะไรพิเศษสักหน่อย

“อยากกินขนมอ่ะพี่หมี เลี้ยงหน่อยดิ”

“อ่ะ”ผมล้วงกระเป๋าละ

“ล้อเล่น เมื่อคืนนอนไม่หลับ”

“ทำไมอ่ะ ท้องเสียเหรอ”

“เปล่า ไม่มีคนกอด ฮ่าๆๆๆ”ยังจะขำ

“พี่ก็นอนไม่หลับ”

“ทำไมอ่ะ”

“ฝันร้ายอ่ะดิ....”แล้วผมเล่าเรื่องที่ผมฝันร้ายให้น้องภูฟัง

“น่ากลัวนะพี่”

“ใช่ มันน่ากลัวมาก ตื่นมาพี่ร้องไห้เลย คิดว่าตายไปแล้วจริงๆ แฟนก็ยังไม่มี ยังไม่ได้พาพ่อแม่ไปเที่ยวด้วย พี่ต้องลดน้ำหนักแล้วละ”

“ครับ มีเทรนเนอร์ยัง ภูช่วยไหม”

“รบกวนเปล่าๆ”

“ไม่เป็นไร คนกันเอง”

“จะดีเหรอ พี่เกรงใจ”นี่ผมเกรงใจน้องจริงๆนะครับ ไม่ได้อยากจะเล่นตัว

“เอาน่าพี่หมี เดี๋ยวเย็นนี้ก็เป็นเล่นบาสกับภูที่สนามก็ได้ ไปเล่นเบาๆก่อน”

“เพื่อนๆจะไม่ว่าเอาเหรอ”

“ไม่ว่าหรอก ขอแค่พี่หมีไปก็พอ”โอเคเอาวะน้องชวนแล้ว ผมพยักหน้ารับจากนั้นก็คุยกันเรื่อยเปื่อยเป็นการสร้างความคุ้นเคย จนถึงเวลาพักเที่ยงไปกินมื้อกลางวัน ผมก็รอไอ้แต๊ง ส่วนน้องไปหาเพื่อนๆแล้ว







๑๕.๒๒ น.
นั่งทำแบบฝึกหัดในห้องกับไอ้แต๊ง เวลาเรียนมันชอบเหม่อๆ ผมต้องอธิบายมันซ้ำอีกครั้ง บางครั้งก็หงุดหงิดนะที่มันไม่สนใจ แต่ถามว่าผมด่าอะไรมันได้ไหม ไม่อ่ะ ปากเปียกปากแฉะไปหมดแล้วครับ ก็เลยจำใจยอมรับสภาพ ไม่บ่นแต๊ง ไม่ด่าแต๊ง







๑๖.๓๔ น.
เลิกเรียนแล้ว ลงไปด้านล่าง ระหว่างทางแอบดูเฟซสักหน่อย ส่องคนหน้าตาดี หึหึ
P.Phu ส่งข้อความมาด้วย มีอะไรนะ

                                                      เพียงได้คุยผ่านพ้อ       โคลงกลอน
                                                      ไออุ่นแผ่นกำจร           แตะได้
                                                      พอเจอดั่งไฟร้อน         พวยพุ่ง แผดเผา
                                                      เอนอ่อนดุจเทียนไล้      ซ่านซึ้ง ในทรวง

หึ ไอ้ปากหวาน

 




ปล. เราไปกันแบบเอื่อยๆ จืดๆเนอะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-09-2015 21:58:54
แอบขำตอนคน ๑๐ คนยกศพน้องหมีไม่ขึ้น  :laugh:

ตอนนี้สนุกดีค่ะ ได้รู้แล้วว่าอันที่จริง แต๊งก็แค่หวงเพื่อน แต่ตัวจริงของเขาคือเฟียสคนเดียวเท่านั้น

ดิฉันอ่านไปก็หวาดหวั่นไปว่า กลัวน้องภูจะเข้ามาหลอกหมีเล่นๆ เท่านั้น เหมือนพนันอะไรกับเพื่อนไว้? ไม่รู้ล่ะ เพราะรู้สึกว่าภูจะแอบหวานมากเกินไป และจู่โจมมากเกินไป หรือว่าน้องเขาจะเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายในกายหมี?

วุ้ย...น่าลุ้นมากค่ะคุณเมฆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 28-09-2015 22:06:43

หมีจะหล่อแล้ว ลดน้ำหนักให้ได้นะสู้ๆ
แอบคิดเหมือนกันว่าน้องพีจริงใจกับหมีแน่ๆไหม  :ling3:
ถึงจะรู้ว่าเฟียสชอบแต๊งคนเดียว แต่ทำไมถึงแอบจิ้นกับหมีได้ก็ไม่รู้   :beat:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 28-09-2015 22:08:38
ขอหมีเป็นรับนะ
พีเห็นร่างที่แท้จริงของหมีหรือเปล่านะ?
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 28-09-2015 22:09:16
ไปแบบละลาย
ละลายไขมันให้หมีด้วย
หมีจะผอมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-09-2015 22:11:36
แม้กระทั่งอยู่ในความฝันหมีก็ยังขี้เกรงใจไม่เปลี่ยนเลยนะคะ :m20:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 28-09-2015 22:12:07
เด็กมันขี้อ่อยจริงๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-09-2015 22:21:00
มีเรียกแบบพิเศษด้วย
หมีมีกำลังใจลดน้ำหนักแล้ว ขอบคุณความฝัน
แถมมีคนช่วยอีก หมีสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 28-09-2015 22:31:05
โอยๆๆๆๆ เด็กมันอ่อย ยอมใจเลย

แต่กลัวว่ามาตีสนิทเพราะมีเหตุผลบางอย่างนี่แหละ กลัวหมีโดนหลอกอ่ะ

หมีก็สู้ๆนะ เพื่อตัวเองทั้งนั้น จะได้ทำตามฝัน ไม่มีอุปสรรคเป็นโรคที่ติดมากับความอ้วน  :laugh:

แหมๆๆๆๆ แต๊งปากแข็งนะเรา ต้องให้เฟียสตัดใจจริงๆก่อนใข่ไปม ถึงจะรู้สึก  :mew5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-09-2015 22:41:51
น้องภูแต่งกลอนว๊านหวาน เหอๆๆ หมีจะใจอ่อนมั้ยน้า
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 28-09-2015 23:40:24
อิน้องก็อ่อยแรงค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-09-2015 23:49:59
อิน้องอ่อยจนดิฉันไม่ไว้ใจค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 29-09-2015 02:04:33
คุยกันได้ลื่นแล้วดิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-09-2015 03:33:44
น้องภูก็หยอดพี่หมีตลอด :katai5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 29-09-2015 08:13:36
จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง เพลงนี้ให้น้องภู

หมีจะผอมแล้ว ผอมสักที เย้  :ling1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 29-09-2015 09:19:42
มารอ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 29-09-2015 09:33:53
น้องเขาคิดยังไงนิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: 6488 ที่ 29-09-2015 11:26:11
ปกติไม่ค่อยอ่านพวกโคลงกลอนยกเว้นเวลาเรียน
แต่พออ่านกลอน ตอบโต้กันแล้ว ชอบมากเลย หวานๆ
เขิลๆ จีบกัน
ขอบคุณครับที่มีเรื่องดีๆ ให้อ่านเรื่อยๆ ครับ
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 29-09-2015 11:41:31
หวังใจให้เรื่องนี้เป็นเรื่องรักเบาๆใสๆ
ไม่อยากให้เป็นดราม่าจีบหมีเพราะพนันกับเพื่อนเลย... อยากให้หมีมีความสุข

แต่ไม่ว่าอย่างไร เราก็จะรออ่านค่ะ...
ชอบกลอนมากๆเลยค่ะ คนเขียนเก่งมากๆค่ะ  o13
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 29-09-2015 11:53:20
น้องหมู เอ้ย น้องหมี จะรักจะชอบใคร
ก็คิดตริตรองดีนะลูก อย่าใจเร็วด่วนได้
กลัวว่าเขาจะมาหลอกหนู เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง
แต่ถ้าหนูมุ่งมั่นในการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
เหมือน นัท Dance Your Fat Off อิอิ
ลดแล้วหล่อ หนูก็จะมีคนมาจีบเยอะแยะ
จนเลือกไม่ถูกอีก คริคริ

 :mew4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 29-09-2015 12:46:27
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-09-2015 12:47:37
ขนาดฝันหมียังนิสัยน่ารัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 29-09-2015 13:39:15
หมีน่ารัก 5555 น้องภูมาชวนออกกำลุงกายแล้ว มีจุดหมายแล้วนะหมี

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 29-09-2015 13:43:48
 :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 30-09-2015 14:22:26
โถหมี ฝันอะไรล่ะนั่น... แต่ถ้าฝันแบบนี้ทำให้ฮึดลดน้ำหนักได้นี่ก็เยี่ยมเลยนะ
ส่วนน้องภู? ไม่รู้น้องเฟรนลี่เกินไปหรือเปล่า แต่จะพยายามมองว่าเป็นเด็กดีไว้ก่อนแล้วกัน
พยายามจะไม่ระแวงอะไรมาก แต่ก็อดระแวงเป็นนิสัยไม่ได้อยู่ดี
 :try2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๐ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 30-09-2015 15:45:18
น่ารักอ่ะ มาเจอแก๊งค์เทวดา ไปไม่เป็นเลยน้องหมีของเรา  :mew4: น้องพีนี่ท่าจะร้ายไม่เบาแฮะ งานนี้แอบมองพี่หมีอยู่แล้วแน่ ๆ รู้จักกันแล้วแต่ยังส่งกลอนให้กันอีก  :mew3: น่ารักจริง ๆ เลยอ่ะ น้องหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 30-09-2015 21:53:27
โคลงที่ ๑๑


๑๗.๑๕ น.
ผมไปที่สนามบาสเพราะน้องภูไลน์มาตามให้ผมไปออกกำลังกายด้วย ตอนนี้หลายๆคนในชมรมบาสทยอยกลับบ้านแล้วครับ ผมก็เดินอุ้ยอ้ายไป

“เริ่มเลยไหมพี่หมี”น้องภูทำท่าจะโยนลูกบาสมาให้ ผมพยักหน้า น้องก็โยนลูกบาส เราก็โยนรับกันไปมา เหนื่อยเหมือนกันนะครับ

“โห คิดว่าง่ายๆ ที่ไหนได้เหงื่อท่วมเลย”เสื้อนักเรียนผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“วันนี้พอแค่นี้ไหมพี่ หรือว่าจะลองชู๊ตบาสด้วย”

“ขอลองสักหน่อยดีกว่า”

“งั้นดูภูนะ วันนี้ท่าง่ายๆก่อน”น้องไปยืนห่างจากแป้นบาสพอสมควร ก็ไม่ไกลและไม่ใกล้เกินไปครับ แล้วก็ทำท่าให้ผมดู โอเค ง่ายๆ “อ่ะ ตาพี่หมีแล้ว”

“ตาพี่เสียแล้วนะ”

“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่แบบนั้น ลองดูสัก ๓ ครั้งดีไหม”

“ขอ ๕ ครั้ง”

“แต่ภูมีเงื่อนไขว่าพี่หมีต้องไปเก็บลูกบาสเองนะ จะได้เดิน มันจะเผาผลาญไขมันด้วย”

“ได้ๆ”ว่าแล้วผมก็ลองชู๊ตบาส ไม่ลงห่วงเลยครับ ลูกกระดอนไปไกล ผมก็ต้องเดินไปเก็บ ลูกแรกไม่เท่าไหร่ ลูกที่ ๒ ยังพอโอเค มาลูกที่ ๓ ลูกบาสกระเด็นไปอีกฟากเลยครับ ผมรีบวิ่งไปเก็บน้องภูก็คอยเชียร์ผม มาลูกที่ ๔ เริ่มตาลาย

“พี่หมีไหวไหม ภูว่าพอแค่นี้ก็ได้นะ โหมหนักไปไม่ดี”

“อีกรอบๆ จะครบ ๕ แล้ว”ผมก็ใจแข็ง พอมาลูกสุดท้าย เฮ้อ เหนื่อยมากเลยครับ ลูกบาสกระเด็นไปไกล น้องภูก็วิ่งไปเก็บมาให้ “เหนื่อยจริงๆ”ผมถอนหายใจออกมา

“พักก่อนนะ เดี๋ยวมาวอร์มดาวน์เบาๆ”



ก็พักเกือบๆ ๑๐ นาที จากนั้นก็วอร์มดาวน์เบาๆครับ สะบัดมือสะบัดขา ท่าง่ายๆครับ


“ถ้าปวดก็พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วปวด ต้องพักก่อนนะ หรือไม่ก็ทำอะไรเบาๆไปก่อน อย่าเพิ่งโหม ถ้าหายแล้วก็มาซ้ำอีก”

“ไม่ง่ายเลยนะเนี่ย”

“ง่ายๆนะภูว่า แต่เราต้องเข้มแข็ง พี่หมีต้องนึกถึงวันที่เราหุ่นดีสิ”

“อืม นั่นสิ เวลาเราตายไปงี้ เขาจะได้มายกศพเราง่ายๆ”

“หือ พูดอะไรก็ไม่รู้อ่ะพี่”

“ฮ่าๆๆ ก็มันหลอนๆเรื่องเมื่อคืนนี่นา”

“แต่มันก็น่ากลัวจริงอ่ะ ขนาดภูฝันว่าโดนผีดิบไล่ ภูร้องลั่นบ้านเลย ฮ่าๆๆ ป่ะ กลับกันดีกว่า”น้องเก็บอุปกรณ์แล้วก็เดินออกจากสนามบาส ผมเดินไปที่สนามบอลครับ ส่วนน้องก็แยกย้ายกันไปแล้ว ได้เวลาที่เขากลับบ้านแล้ว พอไปถึงสนามบาส ไอ้แต๊งหน้าบูดเช่นเคย

“ไปไหนมาวะ”

“ไปออกกำลังกาย”

“ที่ไหน”

“สนามบาส”

“ทำไมต้องไปที่นั่น สนามบอลมึงออกไม่ได้เหรอ”ดุมากเลยพ่อผม

“ออกได้ แต่กูอยากไป มึงมีปัญหาป่ะ”

“เออ”ทำหน้ามุ่ยใส่ผม ไอ้ขี้งอน ผมโยนกุญแจมอไซด์ให้มัน

“ไปเอารถด้วย กูจะรอตรงนี้ ให้เวลา ๕ นาที เริ่ม”ผมทำท่าจับเวลา แต่เรื่องอะไรที่แต๊งจะเล่นด้วย แลบลิ้นให้ผมแล้วเดินสะบัดตูดไป ไอ้เหยินฟ้าเอ๊ย

“แต๊งหงุดหงิดอะไรวะหมี วันนี้กูโดนเตะบอลอัดด้วย ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้”

“หึหึ คนปากแข็งไง”

“อืม แต่แกล้งหนักไปก็ดีนะหมี กูสงสารอ่ะ”ไอ้เฟียสทำตาละห้อย

“มึงเคยสงสารความรู้สึกตัวเองบ้างป่ะละ ไอ้คนปากแข็งมันต้องเจอแบบนี้แหละ ต้องเล่นมันหนักๆ”

“อืม อยากให้เขารู้ใจตัวเองไวๆอ่ะ”

“เอางี้ ลองแกล้งคุยกับสาวๆดู”

“ไม่อยากใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ”

“ไม่ๆ ก็คุยธรรมดา แต่เราก็ยิ้มให้มาก ใครทักก็อย่าหยิ่ง เดี๋ยวกูจะดูอาการไอ้แต๊งมัน ว่ามันเป็นยังไง”

“อืม คิดดูอีกทีแล้วกัน แต่กลัวทำไปแล้วผลจะเป็นตรงข้ามนี่ดิ”

“ตัดใจก็ยังทันนะเฟียส กูว่าเวลา ๖ ปีมันทำอะไรได้มากกว่าจมอยู่กับคนๆเดียวว่ะ รักคนไม่มีใจ ยุยังไงมันก็ไม่ขึ้น ไอ้แต๊งก็มึนเกิน เฮ้อ พวกมึงนี่นะ”

“มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาก็ได้มั้งหมี กูมีหน้าที่รอ ก็รอต่อไป กูเชื่อว่ามันต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสม กูเชื่อแบบนั้นนะ นี่กูอยู่ได้เพราะความเชื่อ เชื่อว่าสักวันมันจะเป็นวันของกู”

“อืม กูเชียร์มึงอยู่แล้วเพื่อน คนอื่นกูไม่รู้ไส้ไม่รู้พุงว่าเป็นยังไง กูก็ห่วง แต่มึงกูไม่ห่วง กูมีแต่จะยกมันให้มึง มีแต่มันนี่แหละไม่ยกตัวเองสักที มันมาแล้ว เดี๋ยวเจอกันนะ”

“อือ”ไอ้เฟียสพยักหน้า คนขับรถจอดเทียบท่าผมก็ซ้อนท้าย เถียงกันเรื่อยเปื่อยตลอดทาง

มื้อเย็นผมก็ลองทำอาหารคลีน ทำในปริมาณที่พอดีครับ ไอ้แต๊งบอกอยากลองกินด้วย ผมก็โอเค นี่ดูสูตรตามเน็ตเอานะครับ พอลงมือกิน ไม่ค่อยอร่อย ฮ่าๆๆ เพราะปรุงรสน้อยมากอ่ะ แต่ต้องกินครับ ไม่กินเดี๋ยวตายไปคนยกศพไม่ไหว หลอนอ่ะ

“อร่อยไหม”ถามไอ้แต๊ง

“เหมือนอยู่ในยุคเครื่องปรุงแพงเลยว่ะ”

“หึหึ อยากหล่อก็ต้องทำใจ”

“ดีนะกูหล่อตั้งแต่เกิด”

“เออ พูดแบบนี้ก็ดี กูจะได้ไม่ต้องยัดอะไรลงไป มันกินไม่ลงจริงๆ”

“ฮ่าๆๆๆ”









ดึกแล้ว ไอ้แต๊งไปนอนที่บ้านมัน ส่วนผมนั่งแชทกับน้องภูนิดหน่อย เข้าไปดูในไทม์ไลน์น้องไม่ค่อยโพสต์อะไรหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปที่มีคนแท็กมา แต่เวลาน้องโพสต์ทีมีคนไลค์เพียบ ส่วนผมโพสต์เอง ไลค์เอง ตอนเช้าไอ้แต๊งถาม มึงคิดยังไงถึงได้โพสต์เฟส ฮ่าๆๆ ขำๆน่ะ ก็มีไลค์บ้างนะ แม่ เฮีย กับคนรู้จัก รูปตัวเองนี่ผมโพสต์นานๆทีครับ

คุยกับน้องแปบหนึ่งถึงเวลาก็ไหว้พระสวดมนต์ ต้องสวดครับ ยังไม่อยากตาย หลอนเรื่องเมื่อคืนอ่ะ










๑๘ กันยายน ๒๕๕x
๐๙.๓๓ น.

ช่วงนี้ไอ้เฟียสก็ทำตามแผนไปเรื่อยๆครับ ใครมาทักถ้าอยู่ในสายตาของผมกับไอ้แต๊ง ก็จะยิ้มแย้มแจ่มใสใส่คนที่มาคุยเป็นพิเศษ ไอ้แต๊งก็มีหันไปมองบ้าง ก็เป็นแบบนี้หลายวันครับ มีหลุดบ่นมาบ้างเป็นบางครั้ง แต่เหมือนจะเตือนสติตัวเองได้ว่าอย่าพูดมาก แสร้งเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ใจมันเต้นเร่าๆเมื่อเห็นเขาดีกับคนอื่น ไม่ดีกับตัวเองเหมือนที่เคยคุ้นชิน ไอ้หน้ามึนเอ๊ย มึนเกิ้นนนนน

ส่วนผมกับน้องภู ก็เรื่อยๆน้องคุยสนุก พอเจอกันก็ไม่ได้ส่งกาพย์ส่งกลอนกันสักเท่าไหร่ครับ ผมก็มาออกกำลังกายทุกวัน เย็นๆ สนุกดีครับ ได้ทำความรู้จักกัน น้องโอเคดีนะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามีลับลมคมในอะไรหรือเปล่า กลัวเหมือนกัน จึงพยายามไม่ค่อยอะไรมากมาย ออกกำลังกายและหาคนคุยอย่างเดียวครับ

“ไอ้หมี พรรคนี้มึงสนิทกับไอ้พีไปนะ”

“อ๋อ ก็น้องมันชวนไปออกกำลังกาย กูก็ไป”

“ทีกูชวนทำไมมึงไม่มา คนอื่นชวนไปเหมือนกระดี่ได้น้ำ”น้อยใจอีกแล้วเมียกู

“มึงนี่นะ ขี้งอแงจริงๆ มึงชวนกูก็ไป กูก็ยังเดินข้างสนามนี่ น้องชวนเล่นบาส กูก็ไปกับเขา ให้กูทำอะไรใหม่ๆบ้างสิ”

“หมายความว่ากูเป็นตัวฉุดรั้งความเจริญของมึงงี้เหรอ”

“มึงคิดมากแล้วไอ้เหยิน”ผมเสยหน้าผากไอ้แต๊งขึ้น ไอ้ขี้เหร่เอ๊ย ไอ้เฟียสหลงรักได้ไงวะ

“เออ ก็จริงนี่หว่า”

“มึงนี่คิดเล็กคิดน้อยจุกจิก ยังไงมึงก็เพื่อนกู มึงคืออันดับ ๑ ของกูเข้าใจป่ะ ไอ้เหยินฟ้า”

“อืม มึงแปลกๆกูก็สงสัยบ้างอะไรบ้าง ไอ้เฟียสด้วย ยังไม่ได้ถามมันเลย โคตรแปลกอ่ะไอ้นี่”

“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ บางทีกูเห็นก็รำคาญแทนนะ”นี่ต้องเป็นพวกนกสองหัวอ่ะผม เออ ยังไงก็ช่างเหอะ เราทำเพื่อเพื่อน ตอแหลบ้างอะไรบ้าง แต่หวังดีทั้งนั้น

“อือ อย่าไปสนใจมัน กูจะได้มีอิสระสักที”ถุ้ย อิสระบ้าบออะไรวะ มองตามตาแทบไม่กะพริบ










๒๓ กันยายน ๒๕๕x
๑๖.๔๓ น.

เอากระเป๋าไปวางที่ข้างสนามบาส วันนี้ฝนตก นักฟุตบอลไม่ต้องซ้อมครับ แต่ผมก็มาตะลอนกับสนามบาส นักบาสส่วนใหญ่ยังไม่กลับ ยังเล่นกันสนุกสนาน ผมยังไม่ลงสนาม ไปนั่งดูกับสาวๆหนุ่มๆที่มาเชียร์นักบาส

“พี่หมีๆ มาเล่นด้วยกันพี่”น้องภูกวักมือเรียก

“เล่นกันไปก่อน เดี๋ยวพี่เล่นทีหลัง”

“มาเหอะพี่ คนกันเอง”ว่าแล้วก็ลากแขนผมไปจนได้ครับ ผมก็ลงสนามไปรับโยนลูกบาส มีบางคนทำหน้างงๆใส่ผมว่าไอ้นี่มาได้ไง ผมก็เล่นไป เกรงใจคนอื่นไป

“ชมรมบาสเขาซ้อมอยู่ยังจะมายุ่งอีกนะมึง”สมาชิกคนหนึ่งมองผมตาขวางหลังจากที่น้องภูไปเข้าห้องน้ำ

“ก็...”พูดไม่ออกครับ ไม่รู้จะพูดอะไร

“หัดมองตัวเองนะบ้างนะว่ามันน่ารังเกียจแค่ไหน หึ อย่าคิดว่ากูไม่รู้จุดประสงค์ของมึงนะไอ้อ้วนหมูตอน คิดจะจีบน้อง ดูสารรูปตัวเองบ้าง”โห แรงว่ะ

“น้ำเย็นๆพี่หมี”น้องภูเดินยิ้มมาหาผมแล้วยื่นน้ำขวดให้

“ขอบคุณนะ”ผมรับมาด้วยหน้าเจื่อนๆ

“เหนื่อยเหรอพี่ ดูหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”

“หน้ามันเคยมีดีด้วยเหรอพี”คนที่ด่าผมเมื่อกี้พูดแล้วยิ้ม

“มีสิพี่ชิน พี่หมีเท่นะจะบอกให้ เนอะพี่”ตอบเขาแล้วพยักหน้าใส่เรา ค่อยโล่งอกโล่งใจมาหน่อยครับ เคยโดนด่าแบบนี้มาเยอะ แต่ถามว่าทำอะไรไอ้หมีได้ไหม ไม่อ่ะ ชั้นไขมันมันดักเอาไว้หมดแล้ว พี่มหาพูดว่า ของไม่ดีก็เหมือนขี้ เราอย่าเดินไปเหยียบมัน มันจะติดตีน คำพูดไม่ดีเราก็อย่าเอามาใส่ใจ หล่อๆอย่างเรา อ่ะโด่ว

พักเสร็จเล่นต่อครับ ก็โยนลูกกับน้องภูกัน ๒ คนไปมา มีชู๊ตบ้างอะไรบ้าง น้องเทคแคร์ผมดีครับ ผมก็ไม่คิดอะไรมาก เราอยากลดน้ำหนักด้วย ถ้ามันเกิดอะไรขึ้น มีสัมพันธ์ที่ดีมากกว่านี้ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้จากโคลงกลอนครั้งนี้แล้วกัน

“จะกลับบ้านรึยังพี”คนชื่อชินถามน้องภู

“อีกแปบพี่ชิน”

“พี่ไปส่งเอาป่ะ”

“ไม่เป็นไรพี่ ผมเอารถมา”

“อ้าว ไหนว่ามอไซด์เสียวะ”

“เออ ลืมไป ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้ พี่ชินกลับไปก่อนเลย”

“เหรอ อืม งั้นเจอกันพรุ่งนี้”

“ครับพี่”น้องภูทำท่าตะเบ๊ะ แล้วชวนผมเล่นบาสต่อ ผมรู้สึกสนุกเมื่อคนน้อยๆ

“สู้ๆพี่หมี”ส่งเสียงเชียร์ยามผมเลี้ยงลูกชู๊ตลงแป้น

“แฮกๆ”เหนื่อยครับ หายใจแทบไม่ทัน

“เอาให้ลงแป้นเลยพี่หมี ลูกชู๊ตสแลมดังก์”ทำท่าประกอบให้กำลังใจผม

“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”ร้องเป็นหมูโดนเชือดเลยกู

แปะๆๆๆๆๆ “เยี่ยมมากเลยพี่หมี”นิ้วโป้งซ้ายขวาชูยื่นมาด้านหน้า ผมยิ้มแป้นชื่นอกชื่นใจ จากนั้นเล่นกันต่อนิดหน่อย มองออกไปด้านนอกโรงยิม ฝนหยุดแล้ว เดินไปดูนาฬิกาที่วางบนกระเป๋านักเรียน อืม จะ ๖ โมงเย็นแล้ว “วันนี้พอแค่นี้ดีกว่านะพี่หมี เดี๋ยวมันจะดึกกว่านี้”

“โอเค ชอบใจภูมากที่เล่นเป็นเพื่อน”

“ไม่เป็นไร ผมเป็นกำลังใจให้พี่ลดน้ำหนักให้ได้”เดินมาดึงๆพุงของผม เริ่มสนิทกับเริ่มจะมีการแตะเนื้อต้องตัว ผิวน้องเนียนมากอ่ะ ขาวทั้งตัว ผมแพ้คนขาว เอิ้ก

“แล้วนี่จะกลับยังไงอ่ะ แล้วรถมอไซด์เป็นไรเหรอ”

“อ๋อ ยางแตกเมื่อเช้าอ่ะพี่ ขับมาแล้วเหยียบตะปู ภูก็เอาเข้าร้าน แล้วมาเรียนสายซะด้วย ฮ่าๆๆ โดนลงโทษเลย”

“อ๋อ แล้วจะกลับยังไง”

“ก็รอให้พี่หมีไปส่ง”พูดตรงๆเลย หึหึ เอาวะ น้องขอมา เราจัดไป

“โอเค งั้นรอตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปบอกไอ้แต๊งก่อน”วิ่งออกไปด้านนอก ชมรมบอลเขาซ้อมในร่มครับ ซ้อมออกกำลังกายตามปกติ เพราะสนามใช้ไม่ได้ การออกกำลังกายจะทิ้งห่างมันจะขี้เกียจ เราต้องทำ ท้องฟ้ามืดครึ้มอีกครั้งไม่รู้จะตกเมื่อไหร่

“แต๊ง เดี๋ยวกูมารับนะ”ผมบอกไอ้เหยินฟ้าที่ยืนหอบฟังโค้ช

“ไปไหนวะ”

“ไปส่งเด็กสักหน่อย เดี๋ยวมา โอเคนะ”ไม่ให้มันต่อความยาวสาวความยืดไปมากกว่านี้ครับ กลับมาค่อยตอบคำถามทีเดียว ผมวิ่งไปโรงรถ หอบมากเลยกู วิ่งไปวิ่งมา น้ำหนักลดให้มากๆเถอะ ใจร้อน ฮ่าๆๆ จากนั้นก็ขับไปรับน้องภูที่ข้างสนามบาส แล้วขับไปส่ง

“ขอบคุณครับ”ไม่ได้ส่งถึงบ้านนะครับ ส่งมาถึงร้านซ่อมมอไซด์

“ครับ”ผมยิ้มให้

“ขับดีๆนะพี่ อย่าแวะรับคนอื่นกลับด้วยนะ”

“ฮ่าๆๆ โอเคๆ ไปละนะ”ผมโบกมือแล้วขับกลับไปที่โรงเรียน ไปถึง โบ๋เบ๋ ไม่มีใครอยู่แล้ว อ้าว มองหาไอ้แต๊งก็ไม่เห็น มาถามลุงยามหน้าโรงเรียน ลุงแกบอกว่าแก๊งนักฟุตบอลกลับหมดแล้ว ผมก็คิดว่าไอ้แต๊งคงจะกลับแล้วละ ส่วนใครจะไปส่งนั้นเดี๋ยวค่อยไปถามเอาที่บ้าน







๑๘.๔๑ น.

ไอ้แต๊ง ไอ้เฟียส มาช่วยที่ร้านของผม อ่อ แล้ว ยังไงวะเพื่อนกู ทั้งไอ้เฟียส ทั้งไอ้แต๊ง แม่ผมก็รีบกวักมือเรียก ไล่ให้ไปอาบน้ำเพราะเหงื่อผมนี่ เหม็นมากเลยครับ ผมอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แต่อาบแบบสะอาดนะครับ ไม่ใช่อาบแบบซกมก อาบแบบวิ่งผ่านน้ำ แล้วลงมาด้านล่าง น้าหมอนมานั่งคุยกับไอ้เฟียสครับ ส่วนไอ้แต๊งไปยืนสับไก่แทนแม่ผม ฟ้าครึ้ม ฝนจะตกแล้ว ท้องฟ้าร้อง

“คุณแม่ งั้นเฟียสขอตัวก่อนนะครับ”ไอ้เฟียสยกมือไหว้แม่ผมกับน้าหมอน ยังไม่ทันได้วางมือลง ฝนเทลงมาอย่างกะเทน้ำครับ

“ไม่ทันแล้วลูก ฝนเทลงมาแล้ว”น้าหมอนรีบห้ามเอาไว้ ไอ้เฟียสมองท้องฟ้าแล้วยิ้มแหยๆให้ผม

“รอให้ฝนหยุดก่อนก็ได้ลูก ถ้าไม่หยุดก็นอนนี่แหละ หรือจะไปนอนห้องแต๊งก็ได้ แม่ไม่ว่า”น้าหมอนรีบประเคนลูกชายให้ไอ้เฟียสทันที

“ไม่เป็นไรครับ เกรงใจคุณแม่”ปากบอกไม่เป็นไร แต่ใจมึงยิ้มใช่ไหมไอ้เฟียส กูมองตากูก็รู้ว่ามึงคิดอะไร

“แม่ถามหนูยังว่าหนูให้นอนหรือเปล่า”ไอ้แต๊งถามแม่ตัวเองหน้าเรียบ

“อ้าว ก็บ้านแม่ แม่จะให้นอนตรงไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ”น้าหมอนนี่ใช่เบานะครับ ชอบแกล้งลูกจริงๆ

“งั้นให้มันนอนห้องหนู แต่หนูจะมานอนกับไอ้หมี”

“เฮ้ยๆ คืนนี้ห้องไม่ว่าง มึงนอนบ้านมึงอ่ะดีแล้ว”ผมรีบโยนเผือกให้ทันที

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวถ้าฝนซาเฟียสกลับเองได้ครับ”

“มันอันตรายนะลูก ถ้าไม่หยุดแม่ว่านอนที่นี่แหละ ดึกๆดื่นๆถนนมันลื่น เราอย่าเพิ่งไว้ใจถนนหนทาง เราไม่ชนเขา เดี๋ยวเขาจะชนเรานี่สิ อะไรมันเกิดขึ้นได้”แม่ผมเอ่ยปากบ้าง

“เออ ถ้าไม่หยุดก็นอนบ้านกูก็ได้ ไอ้แต๊งให้มันนอนกับไอ้เตาแก๊ส”จำได้ไหม หมาบ้านผมเองชื่อเตาแก๊ส ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่เพราะมันอ้วนมาก ฮ่าๆๆ จริงๆไม่อ้วนครับ หุ่นดีกว่าผมอีก แต่มันก็นิ่งๆ ไม่ค่อยมีบทบาท

นั่งเถียงกันกับไอ้แต๊งเรื่องไอ้เฟียสจนได้เวลาปิดร้านครับ ๓ ทุ่ม ฝนไม่ยอมหยุด ไอ้เฟียสจึงโทรไปบอกพ่อแม่ และก็นอนที่บ้านผม ขาดไม่ได้คือไอ้แต๊งครับ น้าหมอนบังคับว่าให้นอนที่นี่ แม่ผมด้วย หึหึ เก็บของเสร็จแล้วขึ้นมาด้านบน ไล่ไอ้เฟียสไปอาบน้ำ ไอ้แต๊งไปอาบที่บ้านของตัวเอง พักใหญ่นั่นแหละครับ ไอ้แต๊งเอาชุดมาให้ เพราะถ้าให้ไอ้เฟียสใส่ชุดผมนี่ ตัวโคร่งมาก

ตอนไอ้เฟียสอาบน้ำเสร็จนะ ตอนมันนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา โห หุ่นนี่ดีมากเลยครับ กล้ามเนื้อส่วนสัดก็ตามวัยมัธยม ๖ ตามธรรมดาของนักกีฬา อาจจะไม่ล่ำเท่าผู้ใหญ่แต่มันสมวัยครับ อย่างที่ผมเอ่ยไปคราวก่อนนู้น พอเห็นตอนเปลือย อืม มิน่าใครๆก็อยากได้ไปเป็นแฟน ทุกสัดส่วนของมันนี่สมบูรณ์แบบมากๆเลยครับ

ระหว่างที่ไอ้แต๊งนั่งหน้าบูดดูการ์ตูนบนแท็ปเล็ต ผมก็แอบถ่ายรูปที่เขียนโคลงไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ส่งไปให้น้องภูสักหน่อยครับ เขาทักมาแล้วแต่ยังไม่มีจังหวะตอบคำถาม ก็เขียนไปขอบใจเขาสักหน่อย

                                                                     อิ่มใจที่ไม่ยี้               ตัวอาตม์
                                                                     นึกว่าจะตัดขาด          คบค้า
                                                                     ขอบคุณที่เว้าวาทย์     อบอุ่น เอมใจ
                                                                     แช่มชื่นเช่นหยาดฟ้า   ตกต้อง ผืนดิน








เราไปแบบใสๆ เรียบง่ายเนอะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 30-09-2015 22:00:38

น้องภู น่ารัก อ่านตอนนี้แล้วเบาใจลงได้นิดนึง
รอวันที่หมีหล่อ แต๊งปากหนักจริงๆ

เรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆแต่เรารออ่านทุกวันเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 30-09-2015 22:04:29
นิยายละมุนๆ เหมือนอ่านผ่านdiary ชอบค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-09-2015 22:18:41
หมีสองหัว 5555 แต่เพื่อเพื่อนแล้วสู้ๆ  หมีออกกำลังได้หลายวันแล้วแต่ทางเขาอะยังเลย จะผอมทันหมีไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 30-09-2015 22:51:09
บอกแล้วว่าตามติดชีวิตหมี เราก็จะยังติดตามต่อไป

แม้จะเรียบเรื่อยอย่างไรก็ไม่หวั่น เพราะความเรียบเรื่อย คือรายละเอียดที่เราจะได้รับรู้ และจะยิ่งทำให้เราผูกพันกับตัวละครจนเขาเหมือนเพื่อน เหมือนพี่ เหมือนน้องเรา

ยังไม่รู้เลยว่า หมีจะเป็น top หรือ bottom แต่ก็คงต้องติดตามต่อไปเนอะ ตอนนี้น้องภูน่ารักนะ ดิฉันว่าน้องเขาคงเห็นรูปทองในกายหมูของหมี จึงปวารณาตัวเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว เพื่อรีดไขมันออกจากหมี แล้วสักวันหนึ่งรูปทองจะก้าวออกมาให้เชยชม อิอิ

ขอบคุณคุณเมฆมากๆ ค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 30-09-2015 23:14:56
หมี ตัวสูงเป็นทุนอยู่แล้ว บิ้วรูปร่างให้ดีสมส่วน ก็ดูสง่าน่ามอง  สู้ๆนะหมี
อิพี่ซินปากหมา พูดจาไม่คิดถึงใจคนอื่น
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 30-09-2015 23:44:16
พี่ชินอะไรนั้นปากมอมมาก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-09-2015 23:49:02
คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้าค่ะชิน..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-10-2015 00:36:06
อย่าให้น้องหมู เอ้ย หมีผอมนะแก ตาเฟียสตาพีงี้ก็ไม่สู้  55555555555. อวยน้องหมูแรงมาก /ปาไขมันหมีใส่อิชิน ย้าก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: meon2255 ที่ 01-10-2015 00:39:21
 อยากให้หมีเป็น bottom อยากเหมหมีโดนกด  :call: :call:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-10-2015 00:49:13
พี่หมีสู้สู้ ผอมเมื่อไหร่ยกเท้าฟาดปากไอ้ชินสักที ปากหมาดีนัก :m16:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 01-10-2015 01:02:38
้ราเชื่อว่าหมีหล่อสุดแดนสยามค่ะ คนเราต้องมีความเชื่อ :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 01-10-2015 01:40:06
ดี๊ดี แต่กลัวหักมุมจัง
อิพี่ชินนี่ออกตัวแรงนะ แหม่
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 01-10-2015 02:36:24
ใสใสวัยรุ่นชอบ  :heaven :heaven

เรื่องดำเนินไปเรียบๆแต่ให้ความรู้สึกถึงความผูกพันธ์ในตัวละคร มันช่างละมุ่นจริงๆ  :man1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 01-10-2015 04:23:32
เกลียดไอ่พี่ชินแม่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Chanik ที่ 01-10-2015 18:54:57
เย้ๆๆ ตามทันสักที สนุกมากๆๆ ตลกด้วย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: -I....IIว่u- ที่ 01-10-2015 21:30:30
ติดตาม ! เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง คาร์แรคเตอร์ของตัวละครน่าสนใจดี ในตอนละตอนก็ฮามาก !!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๐๐๙๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๑ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 01-10-2015 21:54:36
รอวันที่พี่หมูเลิกเป็นหมู!!!!

ขอให้น้องภูทำสำเร็จไวๆ!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 02-10-2015 19:46:15
โคลงที่ ๑๒

๒๒.๑๒ น.
ไอ้แต๊งยังนั่งหน้าบูดเป็นตูดเป็ดเหมือนเดิมครับ ส่วนไอ้เฟียสก็มานั่งคุยกับผม ผมก็แชทบอกกับน้องภูว่ามีธุระ วันนี้ไม่สะดวกคุย น้องไม่ว่าอะไร นั่งคุยกับไอ้เฟียสเรื่องอนาคต เรื่องเรียนต่อมหาลัยครับ เราใกล้จะจบแล้ว นี่อีกไม่กี่วันก็จะสอบปลายภาคแล้ว ไหนจะแกทแพทอีก จริงๆมันกระชั้นมากเลยนะครับ เพิ่งสอบกลางภาคไป ๑ เดือน ปลายภาคมาจ่อรอละ ผมต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือ คุยไปคุยมาวกมาที่เรื่องสาวๆหนุ่มๆ

“น้องนิวเป็นไงบ้าง มึงว่าน่ารักดีป่ะ”ผมเป็นคนเริ่ม แหย่ไอ้หน้าตูดหน่อย

“อืม ก็โอเคดีอ่ะ เป็นดรัมเมเยอร์ด้วย”ตอบคำถามพลางมองหางตาไปยังอีกคนที่นั่งเงียบ

“เต้นเก่งด้วยนะ กูชอบตอนงานสุนทรภู่อ่ะ ที่เขาแต่งสั้นๆ”

“หึหึ ทะลึ่งนะมึง”ไอ้เฟียสผลักไหล่ผม แต่มีเหรอผมจะสะเทือน

“อ้าว หรือว่ามึงไม่ได้มอง”

“ก็มองบ้างนิดหน่อย”ตอบแบบไม่เต็มเสียง เกรงใจเมียอ่ะดิมึง

“ฮ่าๆๆ ก็ว่าแต่กูนะ แต่เขาเด็ดทั้งแก๊งเลยนะ ขาขาวๆ”

“อืม ใช่ น่ารักทั้งแก๊ง เคยคุยด้วยกันหลายครั้ง นิสัยโอเคดีนะ ใครได้เป็นแฟนนี่โชคดีอ่ะ”

“มึงไม่สนใจเหรอเฟียส”ผมถาม

“เฮ้ยพวกมึง สงสารคนหาเงินส่งเรียนบ้างไหม แทนที่จะตั้งใจเรียนคุยกันเรื่องผู้หญิง”ไอ้แต๊งแหวขึ้นมา ทำเอาพวกผมตกใจ

“อ้าว ก็คุยเรื่องเรียนจบแล้ว คุยเรื่องอะไรที่มันชุ่มอกชุ่มใจบ้างดิวะ ใครจะไปอยู่แบบเหี่ยวๆแห้งๆ จะจริงใจกับใครก็ไม่จริงใจสักคน เนอะเฟียส เออ แต่น้องนนท์ก็ออกตัวแรงนะ เอากุหลาบมาให้มึงด้วย”

“หึหึ คนอื่นเขาฝากมา”แค่ขำมึงยังหล่อเลยไอ้เฟียสเอ๊ย

“แต่ดูท่าน้องนนท์เขาก็มีใจนะ คนมีใจลองจีบดูดิ ดีกว่าคนไม่มีใจ”

“อืม ก็น่าสนใจอ่ะ เดี๋ยวจะคิดดูอีกทีแล้วกัน เผอิญคนจีบเยอะอ่ะ”

“เดี๋ยวนะ มึงพูดอะไรไอ้เฟียส”เอาแล้ว ไอ้แต๊งเอาแล้วครับ วางแท็บเล็ตแล้วมาขึ้นคร่อมตักนั่งหันหน้าเข้าหาว่าที่สามี มือนี่ดึงเสื้อไอ้เฟียสแน่นเลยครับ

“เฮ้ยๆ มึงใจเย็นดิ”ผมแสร้งเป็นปราม เล่นละครหน่อย

“มึงหยุดเลยไอ้หมี”ชี้หน้าผม ก่อนจะจ้องหน้าคนที่ตัวเองคร่อมอยู่“มึงพูดอะไรเมื่อกี้ ใครจะจีบมึง หน้าเหี้ยๆแบบมึงคิดว่าหล่อตายไงวะ”

“เปล่า ไม่มีอะไร แต๊งอย่าดึงเสื้อสิ มันจะขาดเอานะ”ไอ้เฟียสทำหน้านิ่งๆพยายามแกะมือคนขี้โมโหออก

“ขาดก็ช่างมันดิ เสื้อกู กวนตีนนะมึงอ่ะ”กระแทกกำปั้นใส่หน้าอกไอ้เฟียสดังตุบ กูเจ็บแทนเลย

“เฮ้ย มึงรุนแรงไปป่ะวะไอ้แต๊ง ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วยวะ ไม่พอใจอะไรทำไมต้องใช้กำลังด้วย”

“ทำไมกูจะใช้ไม่ได้”เริ่มขึ้นเสียงครับ หน้าแดง หูแดง เวลาโกรธก็แบบนี้ เป็นฟืนเป็นไฟ

“มึงรู้ป่ะว่าไอ้เฟียสมันเจ็บเป็นเหมือนกัน มึงชักจะไม่มีเหตุผลขึ้นทุกวันแล้วนะแต๊ง”ผมดุมันบ้าง

“ไม่เป็นไรหมี”ไอ้นี่ก็ใจดีเกิ้นนนนนนน

“กูไม่รู้ละ คนบ้าอะไรไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ถามจริง ไอ้เฟียสทำอะไรให้มึง ทำไมมึงถึงต้องรุนแรงแบบนี้ด้วย”

“มึงเข้าข้างมันเหรอไอ้หมี มึงดูมันพูดดิ มึงไม่ได้ฟังเหรอมันพูดอะไรออกมา”หันมามองหน้าผมแต่ยังกำคอเสื้อไอ้เฟียสไว้แน่น ไอ้เฟียสนี่มือไวครับ ๒ ข้างโอบเอวไอ้แต๊งไว้แล้ว พอไอ้แต๊งไม่จ้องหน้าก็หันมายิ้มหน้าบานให้ผม พอไอ้แต๊งจ้องหน้าก็ทำเฉไฉ ไอ้หล่อหน้าจิ้งจก

“แต๊งปล่อยดีกว่านะ ผมหายใจไม่ออก”

“ตายๆไปซะก็ดี กวนตีนอ่ะพวกมึง มึงเตรียมตัวดีๆไอ้เฟียส มึงเจอกูแน่”ไอ้แต๊งปล่อยแล้วลุกออกจากตัวไอ้เฟียส เดินกระแทกตีนลงออกจากบ้านผมไป ผมตามลงไปปิดประตู มีด่าบ้างเล็กน้อยครับ พอขึ้นมาด้านบน

“ตัวของแต๊งแม่งโคตรอบอุ่นอ่ะหมี กูมีอารมณ์เลยว่ะ”

“ไอ้หื่น”มองเป้า เออแม่งตุงจริงอะไรจริง

“จริงๆนะ เป็นบุญของกูจริงๆ กูไม่คิดไม่ฝันว่าแต๊งจะยอมให้กูกอด กูโคตรมีความสุขเลยว่ะ”

“ทั้งๆที่มันโกรธมึงนี่นะ”

“อืม กูไม่เคยโกรธแต๊งหรอก กูยอมเขาทุกอย่าง นี่ขนาดโกรธกูนะ กูยังรู้สึกอบอุ่นแบบนี้ ถ้าเป็นวันที่เขารักกูล่ะ กูคงจะสำลักความรักตายแน่ๆ”

“ไอ้เวร อยู่เสวยสุขก่อนดิ แต่มันก็โมโหจริงๆนะ กูลุ้นอ่ะ ได้กันไวๆนะเพื่อน อีกนิดเดียวหัวใจมันก็จะมีแต่มึงแล้วละ ตอนนี้มันแค่ปากแข็งไปงั้นๆอ่ะ”

“หึหึ กูมีความสุขวะหมี แผนมึงนี่ใช้ได้จริงๆ”

“เออ เห็นไหม ถ้ามึงทำแบบนี้ตั้งนานกูว่าหน้ามึงบานเป็นกระด้งกว่านี้แน่ๆ”

“นั่นดิ แต่แอบหวั่นๆอยู่เหมือนกันนะ วันไหนที่กูเกิดพลาดแล้วแต๊งหึงกู เขาคงจะดุกูกว่านี้แน่เลย”

“เดี๋ยวๆ ยังไม่ได้กันเลย มึงนี่จอมมโนจริงๆนะสัส”

“ฮ่าๆๆๆ ก็กูอยู่ด้วยความหวังนี่แหละ เพ้อบ้างอะไรบ้างเว้ย มันเป็นยาชูกำลัง”

“เออ แต่แม่งหึงโหดอ่ะ มึงต้องระวังตัวนะ”

“อือ กูคิดว่ากูคงไม่พลาดหรอก กูมีแต่เขาคนเดียวมาตลอด กูมองคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็น่ากลัวว่าคนอื่นจะเล่นหูเล่นตากับกูจนแต๊งเข้าใจกูผิดนี่ดิ หึหึ นี่กูมโนมากไปป่ะวะ”

“เออ กูก็คิดตามมึงไปไกล ฮ่าๆๆๆ”แล้วเราก็ขำพร้อมกันลั่นห้อง มีความสุขจริงๆครับ

“มึงนอนข้างล่างเหรอหมี”

“อือ กูนอนพื้นจนปกติละ มึงก็นอนด้านบนไปเลย ที่นอนกูสะอาด บนเตียงก็ของไอ้แต๊งทั้งนั้น นอนกอดกลิ่นมันไปก่อนแล้วกัน”

“แต๊งมานอนบ้านมึงบ่อยป่ะ”

“ก็แล้วแต่ละ บางสัปดาห์ก็มาบ่อย บางสัปดาห์ก็ไม่มา แล้วแต่อารมณ์ของมันอ่ะ”

“กูอิจฉามึงจัง ที่มึงสนิทกับแต๊ง”

“ไม่ต้องอิจฉาหรอก กับมันสนิทกันแค่ ๑๘ ปี แต่ถ้าวันไหนมึงกับมันคบกัน เวลาที่เหลือก็มากกว่ากูอีก”

“ปากหวานนะมึงอ่ะ เออ ช่วงนี้เห็นมึงออกกำลังกายด้วยนี่หว่า ไปเจอใครมาทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำเหรอ”

“มันก็ไม่เชิงนะ แต่ที่กูอยากลดอ่ะเพราะกูฝัน...”ผมเล่าความฝันวันนั้นไอ้ฟัง ไอ้เฟียสขำน้ำตาเล็ดเลยครับ

“แล้วนี่รู้สึกว่าน้ำหนักลดลงบ้างไหม”

“ยังไม่ได้ชั่งนะ แต่ก็คิดว่าน่าจะลดบ้างอ่ะ เดือนละ ๒ โลก็ยังดี”

“อืม ลดให้เหลือสัก ๑๐๐ โลก่อน แล้วก็เพิ่มเวลาฟิตให้เต็มที่ จบม. ๖ มึงก็จะหุ่นดีอ่ะ”

“หุ่นดีไม่ใช่เป้าหมาย แต่กูกลัวว่าตายแล้วคนจะยกศพไม่ไหว ฮ่าๆๆๆๆ”ขำกันอีกรอบ

๒๔ กันยายน ๒๕๕x
๐๕.๔๔ น.

ผมตื่นรีบกระเด้งตัวนั่งมองซ้ายมองขวา เช้าแล้วเหรอเนี่ย อากาศดีมากเลย อยากจะนอนต่ออีก พอผมตื่นไอ้เฟียสก็ตื่นตามผมอีกคน

“เช้าแล้ว จะรีบกลับบ้านหรือว่ารอเจอหน้าไอ้แต๊งอ่ะ”

“แต๊งชอบมาบ้านมึงแต่เช้าเหรอ”

“ก็มากินข้าวบ้านกูประจำอ่ะ แต่มา ๗ โมงนะ”

“อ๋อ งั้นคงไม่ทัน เดี๋ยวต้องกลับไปอาบน้ำแต่งตัวอีก”

“อืม งั้นก็รีบกลับ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”

ได้เวลาจึงแยกย้ายจากไอ้เฟียส ก็ตามปกติกิจวัตรครับ อาบน้ำ กินข้าว ไปโรงเรียน วันนี้ไอ้แต๊งหน้าปกติ ไม่ได้อะไรมาก เฮฮาของมันไป ตะลอนไปเรื่อยครับ

๒๗ กันยายน ๒๕๕x
๐๙.๑๗ น.
ข้าวมันไก่ช่วงเช้าขายหมดแล้ว ก็พักร้านเตรียมทำมื้อกลางวันขาย ผมช่วยแม่ทุกอย่าง ส่วนไอ้แต๊งน่าจะยังไม่ตื่นครับเพราะยังไม่เห็นหน้าเลยตั้งแต่เช้า อ่อ วันนี้เป็นวันอาทิตย์แห่งชาติครับ

ระหว่างที่เตรียมของทำข้าวมันไก่กับข้าวขาหมูขายในช่วงกลางวันก็มีรถหรูมาจอดหน้าบ้าน ไม่ทันได้สงสัยว่าเป็นใคร เจ้าของรถก็ลงมาอย่างรวดเร็ว ไอ้เฟียสนั่นเอง แต่วันนี้ไม่ได้ว่าคนเดียวครับ เหน็บลูกมาด้วย

“ใครอ่ะเฟียส แอบไม่มีลูกเมื่อไหร่วะ”หน้าตาคล้ายกันมากเลยครับ เป็นเด็กผู้ชายน่าจะ ๔ ขวบได้

“หลานกู สวัสดีน้าหมีก่อน”

“เดี๋ยวๆ เรียกพี่หมีก็ได้ ยังไม่อยากแก่”

“สวัสดีครับ”เด็กน้อยยกมือไหว้

“ครับ ลูกใครอ่ะ น่ารักดี”

“ลูกของพี่สาวคนโตอ่ะ ชื่อวิน”

“อ๋อ”ผมพยักหน้าก่อนจะไปหาน้ำท่ามาบริการ น้องวินหลานไอ้เฟียสอายุ ๔ ขวบครับ หล่อแต่เด็ก หล่อเหมือนน้าเขาไม่มีผิด ดูท่าน่าจะซนอยู่พอตัว แต่แปลกที่จึงยังไม่แผลงฤทธิ์อะไรมาก ตอนนี้จึงนั่งตักไอ้เฟียสอย่างเดียว ผมก็มานั่งคุยไปพลางๆ แม่หุงข้าวทิ้งไว้ก็มานั่งคุยบ้าง ไปดูบ้าง พอใกล้จะ ๑๐ โมงไอ้แต๊งแต่งชุดสบายๆเดินยิ้มแป้นมาบ้านผม

“ป้า มีอะไรให้หนูกินบ้างอ่ะ”แหกปากดังลั่นเลย กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าหิวข้าวหรือไง

“ไม่มีอ่ะลูก ข้าวหมดแล้ว ป้าเพิ่งจะหุง”แม่ตะโกนตอบ

“ครับ อ้าว มาทำไม”พอเจอว่าที่แฟนนี่หน้าเรียบทันที

“มารอกินข้าวมันไก่อ่ะ”

“เหรอ”พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในบ้านผม ไปคุยกับแม่ผมอยู่ครู่หนึ่ง น้องวินเริ่มคุ้นที่คุ้นทางแล้ว จึงเล่นทั่วเลยครับ “ใครอ่ะ หลานเหรอ”พอเห็นไอ้ตัวเล็กเดินซน แต๊งก็มีความสนใจ

“ใช่ ลูกของพี่สาวอ่ะ ชื่อวิน วินนี่น้าแต๊ง”

“สวัสดีครับ ทำไมหน้าเหมือนที่น้องวินเคยเห็นในห้องน้าเฟียส”เด็กน้อยเริ่มจ้อละ

“เอาแล้วมึง แอบไปมีใครไว้ในห้อง”ผมถามไอ้เฟียส

“มีใครที่ไหนเล่า ไม่มี”

“ก็น้องวินเคยเห็นในห้องน้าเฟียส”

“ใครเหรอ บอกน้าได้ไหม”ไอ้แต๊งดึงเด็กมานั่งตักละ

“ในห้องน้าเฟียสไง ก็มีคนหน้าแบบนี้เยอะเลย น้องวินก็เปิดดูในฮาโหลของน้าเฟียสด้วย”ฮาโหลคือมือถือมั้ง

“พอๆ พูดมากอ่ะเรา”ไอ้เฟียสรีบปรามหลาน

“ตกลงว่าไม่ใช่คนใช่ไหม”

“ช่ายยยย เป็นรูปเยอะๆ น้าเฟียสไม่ชอบถ่ายรูปน้องวิน น้าเฟียสชอบถ่ายรูปคนอื่นเต็มเลย”

“วิน เดี๋ยวน้าพากลับบ้านนะ”ขู่หลานอีกครั้งแล้วเพื่อนกู

“ไม่ วันนี้น้องวินจะเล่นที่นี่ด้วย”ปีนไปกอดคอไอ้แต๊งซะแล้ว

“ป้าไม่มีอะไรให้หนูกินจริงๆอ่ะ”ตะโกนถามแม่ผมอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ไม่มีลูก ที่บ้านแม่ไม่ทำกับข้าวเหรอ”

“ไม่อ่ะป้า แม่คงรีบมากเลยลืม เดี๋ยวหนูไปหาอะไรกินข้างนอกแล้วกัน”

“น้องวินอยากไปด้วย”เอาล่ะสิ

“วิน อย่าไปกวนน้าเขา มานั่งนี่มา ให้น้าไปทานข้าวก่อน”

“ไม่เอา น้องวินมีเรื่องจะคุยกับน้าคนนี้”

“น้าเขาชื่อแต๊ง”ไอ้เฟียสเตือน

“น้องวินอยากไปกับน้าแต๊ง เนอะ เราไปด้วยกัน น้องวินก็จะบอกความลับน้าเฟียสให้น้าแต๊งฟัง”

“โอเค เดี๋ยวมานะ ห้ามตามด้วย”ไอ้แต๊งชี้ห้ามไอ้เฟียส เอาล่ะสิ บัญชาเมียมีเหรอแต๊งจะกล้าหืออือ


เรื่องของแต๊ง

“กุญแจรถอ่ะหมี”

“ในเก๊ะมั้ง”

“วิน”ไอ้เฟียสทำเสียงดุใส่หลาน ถ้าเป็นในสนามก็น่ากลัวอยู่นะ แต่ตอนนี้ ผมยักคิ้วแล้วอุ้มน้องไปหาอะไรกิน

ขึ้นคร่อมมอไซด์ให้น้องวินนั่งด้านหน้าก่อนจะขับเบาๆไปหาอะไรกินมื้อเช้า เห็นไอ้ตัวเล็กบอกว่าจะมีความลับมาเล่าให้ฟัง

“ทานอะไรไหม”

“น้องวินอยากทานน้ำแข็งไส”

“เอาสีอะไร”

“สีแดงกับสีเขียว”น่าเอ็นดูดีครับ ผมเคยฝันอยากจะมีน้องนะ แต่ก็มีแค่ผมกับพี่ชาย พี่ชายตอนนี้เรียนแพทย์ปี ๓ ครับ จริงๆแม่เคยบอกว่าผมเกือบจะมีน้องอีกคนแล้ว แต่ว่าแท้งไปซะก่อน ก็เลยไม่มีตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

น้องเขาสั่งน้ำแข็งไส ส่วนผมสั่งข้าว แม่คงรีบมากอ่ะเมื่อเช้า ไม่มีอะไรติดตู้เลย ส่วนพ่อก็ไปทำหน้าที่ วันนี้มีเวร

“ไหนว่ามีความลับเล่าให้ฟัง”ผมถามเด็กน้องที่ค่อยๆเล็มเลียน้ำแข็งไส

“อันนี้ลูกอะไรเหรอ น้องวินชอบ”ตกลงได้ฟังกูป่ะวะ นิ้วน้อยๆชี้ไปที่ลูกจาก

“ลูกจากอ่ะ ไม่เคยกินเหรอ”

“เคย แต่แม่น้องวินไม่อยากให้น้องวินทาน แม่บอกว่าน้องวินทานแล้วจะฟันผุ”

“เหรอ แล้วปกติทานอะไร”

“ทานที่เป็นถ้วยใหญ่ๆ แต่น้องวินอยากทานแบบนี้มากกว่า”อ๋อ ติดหรูนี่เอง กินของบ้านๆไม่ได้ แล้วนี่กูให้กินลูกเขาจะท้องเสียป่ะวะ หลานคนใหญ่คนโตด้วย

“ห้ามบอกใครนะว่าน้าให้ทานน้ำแข็งไส”

“ครับ”พยักหน้าแล้วตั้งใจกิน ตกลงว่าความลับคืออะไร ผมก็ค่อยๆกินข้าวไป เจอใครคุ้นหน้าก็ทักทายตามประสาคนเฟรนลี่

“วิน ในห้องไอ้ เอ่อ น้าเฟียสมีรูปใครบ้าง มีแค่รูปน้าคนเดียวเหรอ”

“ช่าย ก็มีหลายคนเลย แต่ก็มีรูปน้าแต๊งเยอะมาก น้องวินก็ถามว่า รูปใคร น้าเฟียสก็บอกว่าคนพิเศษ”อืม ไอ้ขี้เพ้อ เพ้อไปเรื่อย

“แล้วมีอะไรอีก”

“ก็มีหุ่นยนต์ มีฟุตบอลด้วย น้องวินชอบให้น้าเฟียสพาเตะบอล แต่น้าเฟียสกลับบ้านดึกมาก”

“เหรอ กลับบ้านกี่โมงอ่ะ”

“ก็กลับตอน.....”เป็นละครก่อนข่าวเรื่องหนึ่งครับ น่าจะ ๑ ทุ่ม ผมก็คิดว่ากลับ ๔ ทุ่ม “พอน้าเฟียสกลับมาถึงบ้าน น้องวินก็ไม่อยากเตะบอลแล้ว”

จากนั้นก็คุยเรื่อยเปื่อย คุยฟุ้งเรื่องน้าของเขา เรื่องกิจกรรมที่เขาไปทำ ไปเจอนั่นเจอนี่ สรุปคือ ผมไม่ได้ความลับอะไรเลย

เออ แล้วผมจะอยากรู้ไปทำไมวะ ไม่ได้อยากจะสนใจอะไรมันสักหน่อย จะทำอะไรก็ทำไป จะมีความลับความไม่ลับก็เรื่องของมัน

กินเสร็จจ่ายตังค์กลับบ้านไอ้หมี


๑๑.๑๕ น.
ร้านเปิดขายอีกครั้ง ลูกค้ามาเรื่อยๆเบาๆ ไอ้เฟียสมาช่วยเสิร์ฟแทนไอ้แต๊งซึ่งตอนนี้หายหัวไปกับน้องวิน ๒ คนครับ เมื่อกี้ก็เอามอไซด์มาคืนแล้วนะ ไม่รู้พากันไปไหน

“ใครอ่ะน้าพิมพ์ไม่เคยเจอหน้า”หญิงสาววัยมหาลัยกระซิบถามเมื่อเห็นหน้าไอ้เฟียส

“เพื่อนลูกชายน้าน่ะ ชอบล่ะสิเรา”

“น้าก็...”มีเขินอายด้วยครับ

“เขามีเจ้าของแล้วหนู เนี่ย มีแต่ลูกชายน้ายังว่าง”

“ผมว่าพักนี้เหมือนหมีจะไม่ว่างนะแม่”ไอ้เฟียสพูด

“เหอๆ ใครช่างกล้าเสี่ยงตายเนี่ย”แม่ขำ

“มันก็ต้องมีบ้างสิแม่ ที่เห็นใจหมี เขาชอบที่หมีเป็นหมี”

“ย่ะลูกชาย เอ แต๊งหายไปนานล้วนะ พาลูกเขาไปเถลไถลที่ไหนไกลหรือเปล่า”

“เดี๋ยวไปดูให้เองแม่ น่าจะอยู่บ้านมั้ง”ผมเดินออกจากร้านโดยไม่ลืมลากไอ้เฟียสมาด้วย บ้านไอ้แต๊งเป็นบ้านเดี่ยวครับ มีพื้นที่รอบๆไม่กว้าง แต่ไม่แคบ บ้านสวย ๒ ชั้น เข้าไปในตัวบ้าน นั่งเอกเขนกกัน ๒ คน คนโตนั่งเอนบนเก้าอี้ แบบชายทะเลอ่ะ แต่ปรับจนแทบจะนอนได้แล้ว ส่วนอีกคนก็นั่งซ้อนเอนทับเต็มที่พี่น้องดูการ์ตูน พอมองหน้า คนโตหลับ คนเล็กยังตาแป๋ว

“ชู่ว์”ไอ้ตัวเล็กยกนิ้วขึ้นป้องปาก รู้งานเว้ยเด็กคนนี้ ไอ้เฟียสได้โอกาส หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไอ้แต๊งหลายรูปเลยครับ หนำใจของมัน

“ขอดูหน่อยดิว่ามึงคลั่งมันจริงหรือเปล่า”ผมหน้าด้านขอดูรูปในมือถือ ไอ้เฟียสก็ยอมเปิดให้ดู พันกว่ารูปมีรูปไอ้แต๊งอยู่น่าจะ ๗๐๐ ที่เหลือเป็นรูปของตัวเอง

“อันนี้แค่ส่วนหนึ่ง”เจ้าตัวตอบ แสดงว่าที่บ้านมีเป็นหมื่น

“หืม มีอะไรกัน”ตื่นแล้วครับ ตาแดง

“เปล่า แม่ให้มาดู คิดว่ามึงหายไปไหน”

“อืม”พยักหน้าแล้วเกาพุงไอ้ตัวเล็ก คนโดนเกาก็ขำกิ๊กกั๊กไป สนิทกันไวจริง

“วิน ป่ะ อย่ากวนน้าเขามาก”ไอ้เฟียสทำท่าจะอุ้ม

“ยุ่งอะไรด้วย จะทำอะไรก็ทำไปดิ น้องบอกจะอยู่ทั้งวันไม่ใช่เหรอ”ไอ้แต๊งกอดน้องไว้ ไอ้ตัวเล็กนี่รีบพลิกตัวซุกอย่างรวดเร็ว เอาล่ะสิ น้าในสายเลือด มันจะแรงไปกว่าน้าสะใภ้ได้ไงวะ มึงไม่รู้อะไรแล้วเฟียส

“งั้นฝากด้วยแล้วกัน ป่ะหมี”เปลี่ยนหน้าที่กันแล้วครับ กลับไปที่ร้านคนเยอะมากแม่ทำแทบไม่ทัน ยิ่งไอ้เฟียสไปช่วยเสิร์ฟคนก็มาเยอะเรื่อยๆ กูว่าให้ไอ้แต๊งนอนอยู่บ้านอ่ะดีแล้ว ต่อไปให้ไอ้เฟียสมาช่วยเสิร์ฟแทน เพราะหน้าตาเรียกลูกค้าซะเหลือเกิน โดยเฉพาะสาวๆ และยิ่งขายดีเมื่อมีใครสักคนมาหาถึงบ้าน

“สวัสดีครับ”น้องภูนั่นเอง มาถึงยกมือไหว้แม่ผม

“เอ๊ะ ทำไมวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นนะ”แม่บ่นอุบอิบ

“อะไรแม่”

“มีแต่คนหล่อมารุมล้อมแม่”แล้วก็ขำ น้องภูมาถึงก็มายืนดูผมสับไก่ แม่ผมเข้าไปหลังร้าน ไปล้างจานแทนครับ ผมสับไก่ ไอ้เฟียสกับน้องภูคอยเสิร์ฟ พอคนน้อยๆผมจึงเลี้ยงข้าวมันไก่แบบพิเศษๆครับ ไอ้แต๊งเดินตาเยิ้มแบกน้องวินมา ก็หิวแล้วนี่ครับ ได้เวลาแล้ว

“กว่าจะมานะพ่อคุณ ไม่รู้เวล่ำเวลาเหรอว่าน้องหิวข้าว”แม่เอ็ด

“หนูหลับอ่ะป้า วินกินอะไรดี”

“เอาข้าวมันไก่หรือข้าวขาหมูลูก”แม่ถามเสียงอ่อน

“ข้าวขาหมูครับ”น้องวินตอบ

“แต๊งล่ะ”

“เหมือนกันครับป้า”แปบหนึ่งแม่ก็จัดการสับๆหมูราดน้ำซอสเรียบร้อย ไอ้แต๊งไปหยิบมาเสิร์ฟ ปล่อยให้ทั้งคู่กินกัน ๒ คน ใครก็ห้ามยุ่งครับ


๑๕.๑๒ น.
ได้เวลาที่น้องภูและไอ้เฟียสต้องกลับบ้านแล้วครับ ร้านผมเงียบลงไปถนัดตา ตอนเย็นพ่อแวะเข้ามาที่บ้านนิดหน่อยครับ คือพ่อไปเยี่ยมปู่กับย่ามาครับ สัปดาห์ที่แล้วพ่อก็มานอนบ้านนะ สัปดาห์นี้ก็ไปหาปู่กับย่า ปู่ย่าผมนี่อยู่อีกจังหวัดใกล้ๆครับ แก่แล้ว ส่วนยายอยู่จังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอ ปิดเทอมว่าจะไปหมกตัวอยู่บ้านยายสักหน่อยครับ แต่ไปทีไร ยายเลี้ยงดีทุกทีครับ ไม่เคยบ่นว่าผมกินเยอะ หึหึ คิดถึงยายจัง

ช่วงเย็นแม่ก็ทำข้าวมันไก่อีกแต่ไม่มากเท่าไหร่ ส่วนผมเองขึ้นไปรีดชุดนักเรียนครับ รีดเสร็จก็ลงมาช่วย มานั่งโม้กับแม่ เฮียวิดีโอคอลมาโม้กับแม่อยู่ครู่หนึ่ง แกตัดผมแล้ว หล่อมาก พอไม่มีอะไรก็ว่างๆ รอสักพัก แม่ใช้ให้ไปซื้อของ ผมก็ไปซื้อมาให้ แวะชั่งน้ำหนัก นี่มันร่วม ๒ สัปดาห์แล้ว ลดลงไปเท่าไหร่นะ

๑๔๒ อืม ก็โอเคดีครับ ผมต้องฟิตให้มากกว่านี้ ๒ สัปดาห์ลดได้ ๖ โล นี่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะ ทำเองทั้งนั้น แสดงว่าผมเริ่มมาถูกทาง แต่ก็กังวลนิดหน่อยคือเวลาลดๆไปแล้วมันจะย้วยอ่ะ คือหนังหน้าท้อง หนังตรงหน้าอกอะไรแบบนี้มันจะย้วย คือผมเข้าไปอ่านบางคนมันย้วยมากจนน่าเกลียดนะครับ ผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไง แต่คงไม่ให้มันลดเร็ว น่าจะไปแบบช้าๆ ต้องใช้เวลาหลายปีครับ เดี๋ยวต้องอ่านบทความเยอะๆครับ เพราะถ้าลดเร็ว หนังย้วยเราต้องเสียเงินไปเอาหนังที่มันย้วยๆออก ก็ศัลยกรรมอีกนั่นแหละครับ เสียเงินอีก ช่วงนี้พยายามทำแบบพอดี ผมไม่เร่ง เพราะความหล่อมันต้องใช้เวลา นี่ผมว่าจะต้องว่ายน้ำกับเล่นเวทเพิ่มด้วยครับ ว่ายน้ำร่ายกายจะได้ออกทุกสัดส่วน เล่นเวทก็เพิ่มกล้ามเนื้อ เล่นบาส เดินรอบสนาม ก็เป็นการคาร์ดิโอเบาๆ ก็ไม่รู้ว่าต้องโยคะด้วยหรือเปล่าให้ผิวหนังมันกระชับ กินอาหารคลีนด้วย ตอนนี้เริ่มชินปากแล้วครับ ก็มีมื้อกลางวันที่จะตามใจปากบ้าง แต่จะไม่ตามใจมันมากเกินไป คิดๆไปแล้วผมว่าผมต้องทำทุกอย่างแหละครับ ผสมๆกันไป


๒๐.๕๕ น. ปิดร้านแล้ว ผมขึ้นมาบนห้อง ไอ้เหยินฟ้านอนที่บ้านของตัวเอง ผมเตรียมสมุดหนังสือที่จะต้องเรียนพรุ่งนี้ และเปิดอ่านอะไรนิดหน่อยตามประสาเด็กม.ปลาย เอ๊ะ ดูหนังโป๊ดีไหม หึหึ อย่าเลยดีกว่า

                                                         กรุ่นกลิ่นหอมอุ่นไอ     ข้าวมันไก่ชวนลิ้มลอง
                                                         ขาหมูอีกน่าปอง         ต้องไตร่ตรองเลือกอย่างใด
                                                         แต่สิ่งไม่ลังเล            ชวนรวนเรให้หลายใจ
                                                         คือคนขายนั่นไง         คว้าหทัยไปดวงเดียว



ไอ้น่ารัก ส่งกาพย์ยานี ๑๑ ยออาหารไม่พอ ยังยอคนขายอีก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-10-2015 20:11:18
อัยย่ะ อัยย๋า มันชัดเจนมาก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 02-10-2015 20:14:01
ปากหวานมากน้องภู... หวานจนระแวง มันไม่มีที่มาที่ไป
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-10-2015 20:28:47
น้องภูส่งพี่หมีเข้านอนด้วยกาพย์หวานๆ แบบนี้พี่หมีคงได้หลับฝันดีทั้งคืนแน่ๆ เลยน้า :-[

แต่แต๊งนี่สิ หึงเฟียสขนาดหนักเลยนะคะนั่น :m20: ..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 02-10-2015 20:40:08
น้องภูนี่ปากหวานจริงๆ ชอบๆๆ แล้วแบบนี้หมีจะไปไหนรอด  :katai2-1: :katai2-1:

แล้วแต่นี่อะไร  :hao7: อาการขนาดนี้ยังจะปาดแข็ง ขึ้นคร่อมซะไม่เกรงใจคนอ่านเลย  :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 02-10-2015 21:14:11
เอ่อน้องภูจีบซึ่งๆหน้าเลยนะลูกกก :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-10-2015 21:25:25
น้องภูส่งกลอนมาจีบพี่หมีอีกแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: DuenTwinBII ที่ 02-10-2015 22:15:45

ทำไมแต๊งปากหนักเเบบนี้  หึงออกหน้าออกตาเชียว
น้องภูน่ารักนะ ปากหวานจริงๆ  อย่ามาทำให้หมีเสียใจเชียวนะ (ระแวงไปเรื่อย) o18
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 02-10-2015 23:44:26
ปากหวานไปแล้วพ่อเอ้ย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-10-2015 00:55:33
น้องหมีสู้ ๆ น่ะ จะช่วยเชียร์มีภูอยู่ข้าง ๆ เป็นกำลังใจให้ น่ารักจริง ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-10-2015 01:22:42
แต็งออกอาการแล้ว เฟียสมีกำลังใจสู้ต่อ
ส่วนหมีของเราก็โดนเด็กอ่อยแบบเนียนๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 03-10-2015 07:28:39
แต๊งหึงโหดนะ 5555 นั่งคร่อมเลย เฟียสเดินหน้าต่อไปนะอีกไม่นานหรอก
น้องภูน่ารัก มาช่วยพี่หมีออกกำลังกายมาช่วยขายข้าวด้วย หมีสู้ๆนะ

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-10-2015 09:30:55
น้องหมีกับน้องภูนี่น่ารักจริง ๆ เรื่อย ๆ ก้อไม่เป็นไรจ้า นิยายต้องมีหลายอารมณ์  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 03-10-2015 09:47:29
โห น้องภูนอกจากหน้าจะหล่อแล้ว ใจยังต้องหล่อด้วยเพราะหมีน้ำหนักเยอะมากกก ก็ต้องอ้วนมากจริงๆ ชอบได้นี่นับถือ  o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: Zyse ที่ 03-10-2015 10:11:58
ขนาดน้องหมีตัวโตยังงี้ น้องภูยังหลง ถ้าน้องหมีผอมแล้ว น้องภูจะหลงกว่าเดิมมั้ยเนี่ย
กลัวอย่างเดียว กลัวภูมาแกล้งหลอกให้หมีรัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-10-2015 18:54:31
อ่านจบแล้ว อยากกินข้าวมันไก่และข้าวขวหมูขึ้นมาทันทีเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 03-10-2015 19:30:24
รอวันน้องหมีถอดรูป  :L1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๒ หน้า ๗
เริ่มหัวข้อโดย: benze13 ที่ 04-10-2015 00:51:21
ึคนแต่งเก่งมากค่ะ ใช้บทกลอนมาสื่อความได้เยี่ยมจีจี
ชอบโครงเรื่องที่วางไว้มากเลย น่ารักและฟินมากกับคู่หมีภู 
:haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 04-10-2015 22:31:04
โคลงที่ ๑๓

๒๙ กันยายน ๒๕๕x
๑๒.๑๑ น.
พักเที่ยงของวันใกล้สอบ สัปดาห์หน้าแล้วครับ ชีวิตม.ปลายก็จะจบไปอีก ๑ เทอม เหลือเทอมสุดท้ายที่เราจะพ้นจากภาระการเป็นนักเรียนขาสั้น ช่วงนี้ผมไปเล่นบาสบ้าง เดินบ้าง ไปว่ายน้ำบ้าง แต่ใช้เวลาไม่นาน ชมรมกีฬาต่างๆก็ไม่ค่อยซ้อมกันแล้วครับ ปล่อยให้เด็กๆเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบปลายภาค

ผมกับน้องภูยังคุยกันร่าเริงปกติ หลังจากที่น้องส่งกาพย์น่ารักๆมาให้หลายวันก่อน ผมก็เขินจนแทบสำลักไขมันตาย หึหึ ไม่ถึงขนาดนั้นครับ

ผมนั่งกินข้าวกับไอ้แต๊งเหมือนเดิม ๒ คน น้องภูก็นั่งกินกับกลุ่มเพื่อนของเขาครับ กินเสร็จไอ้แต๊งไปซื้อลูกชิ้นมากิน เราก็เดินไปเรื่อย ชมโรงเรียน ชมนกชมไม้ แล้วมันก็เดินไปเฉียดๆไอ้เฟียสก่อนจะทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิด

“กินดิ”ลูกชิ้นถูกจ่อไปที่ปากของหนุ่มฮอตซึ่งกำลังคุยกับสาวๆอย่างมันปาก

“ขอบคุณครับ”ไอ้หล่อหน้าบานเลยครับ พอป้อนลูกชิ้นเสร็จก็ชวนผมเดินคุยฮาเฮต่อไป ผมแสร้งเป็นไม่อยากรู้อะไรมากทั้งที่ใจนี่ร่ำร้องว่าเพื่อนกูมันเป็นอะไรของมันวะ

“ช่วงนี้ไอ้เฟียสมันฮอตขึ้นเนอะมึงว่าป่ะ กูว่าเป็นเพราะมันเปิดใจกับคนอื่นเยอะแน่เลย”

“เหรอ คงงั้นมั้ง”ไม่ใส่ใจอีกละ ตกลงว่ามีความรู้สึกป่ะวะ บางทีก็เหมือนจะรัก บางทีก็เหมือนไม่รัก

“พี่หมี”น้องภูทักแต่ไกลเลยครับ

“มีปัญหาอะไรไอ้ภู”ไอ้แต๊งมองตาดุ

“ยังไม่ได้ถามเลยพี่ งั้นอะไรเอ่ย”

“กวนละมึง”

“สอบเสร็จไปเที่ยวที่ไหนอ่ะพี่”คราวนี้หันมาถามผมอย่างจริงจังละครับ

“สอบเสร็จเหรอ เฮ้ย ชีวิตม.๖ เคยมีคำว่าสอบเสร็จด้วยเหรอวะ ปลายภาคเสร็จก็แกทแพทต่อ”

“โหย ได้พักบ้างป่ะพี่”

“ก็ได้พักนะ”

“มึงดูหุ่นมันดิ พักจนอืดไปหมดละ”ไอ้แต๊งหยิกพุงผม เวลาหมั่นเขี้ยวก็แบบนี้ชอบหยิกพุง

“กูหุ่นดีเว้ย หุ่นแบบมึงเขาเรียกว่าแห้ง ไอ้เหยิน”จริงๆมันไม่แห้งหรอกครับ หุ่นดี ผมก็พูดกลบปมของตัวเองไปงั้นแหละ

หยอกกันพอหอมปากหอมคอก่อนจะคุยเรื่องทั่วๆไปของเด็กม.ปลายครับ หาสาระไม่ได้ พอใกล้เวลาเข้าห้องเรียนจึงได้แยกย้ายกัน พักกลางวันมันช่างไวกว่ารถไฟความเร็วสูงอีกแน่ะ เพิ่งจะกินข้าวเสร็จเมื่อกี้นี่เอง ต้องเข้าเรียนภาคบ่ายซะแล้ว

ก่อนเข้าห้องเรียนก็มีไอ้หล่อมายืนยิ้มหวานโปรยเสน่ห์หน้าห้อง ไอ้เฟียสนั่นแหละครับ ไม่ใช่ใคร น้องภูเขาไม่มาอ่อยแบบนี้หรอก ต้องรอใจกาพย์โคลงกลอนนู้นแหละ หึหึ ไอ้น่ารัก

“อะไรมึง”ไอ้แต๊งถามขึ้นก่อน

“อยากจะมาขอบคุณ”

“เรื่อง?”

“ลูกชิ้น อร่อยมาก”

“อ๋อ มันตกพื้นอ่ะ จะทิ้งก็เสียดาย เห็นปากมึงว่าก็ช่วยๆกันเนอะ ของมันแพง”ยักคิ้วเท่ๆให้ว่าที่แฟนก่อนจะเดินเข้าห้องไป ไอ้เฟียสทำหน้างงเลยครับ

“อย่าไปเชื่อมัน มันหึงที่มึงคุยกับผู้หญิง ไหนจะไอ้น้องอะไรนั่นมาจับมือมึงอีก เชื่อกู ลูกชิ้นไม่ได้ตกพื้น แต่ใจมันอ่ะตกหลุมรักมึงเต็มๆ”หน้าบานเลยครับคราวนี้

“อืม ขอบใจมากหมี มึงเองต้องสู้นะ ต้องหล่อให้ได้อย่าให้ใครดูถูก มึงดูกูสิ มีความพยายามมาตั้ง ๕ ปี ใกล้จะสำเร็จแล้ว มึงเองต้องหุ่นดีนะ”

“เออน่า กูมันเรื่อยๆ แต่มึงก็อย่าเพิ่งมโนมากไปนะ บางทีมันก็แค่แกล้งเล่น”พูดตัดกำลังมันซะหน่อย เดี๋ยวเหลิงจนผิดแผน “เออ คุยกับคนอื่นอย่าไปหลงเสน่ห์เขาแล้วกัน”

“หึหึ ไปแล้วนะ”ตบไหล่ผมก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปมองไอ้แต๊งและยิ้มให้หวานๆ



๒ ตุลาคม ๒๕๕x
๑๖.๑๖ น.
วันศุกร์แห่งชาติเหมือนเดิมครับ แยกย้ายกันเข้าชมรม ผมมาดูแปลงผักและทำการสับๆดินเพื่อจะปลูกผักรุ่นต่อไป ทำ ๒ แปลงเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงเดินไปที่ชมรมบาส แล้วก็ได้ยินเขาคุยกันแว่วๆเรื่องขงผมนี่แหละครับ ทำให้ผมต้องหลบฉากยังไม่เข้าไป

“ตกลงว่าไงวะ”

“อะไรของพี่อ่ะ ผมจะสนิทกับใครมันก็เรื่องของผม พี่ถามเหมือนเป็นพ่อผมเลย พ่อไม่เคยถามแบบนี้เลยนะ”เสียงน้องภูครับ

“มึงก็บอกมาดิ ว่าไปสนิทกับมันทำไม”

“ทำไมจะสนิทไม่ได้ด้วย แล้วทำไมผมต้องบอกให้พี่รู้ทุกอย่าง เรื่องบาสก็ส่วนเรื่องบาสดิ อันนี้เองของผมกับพี่หมี”

“มึงจะจีบมันเหรอ”

“มันเรื่องของผมป่ะพี่”เสียงน้องภูดูหงุดหงิดอยู่พอสมควร

“มึงกวนตีนขึ้นนะพี แต่ก่อนไม่เป็นแบบนี้นี่หว่า มีอะไรมึงก็บอกกู แต่เดี๋ยวนี้มึง...”

“พี่ บางเรื่องมก็เล่า บางเรื่องผมก็เก็บไว้คนเดียว ชีวิตผม จะยังไงก็เรื่องของผม”

“มึงโดนไอ้หมีล้างสมองมาใช้ไหม”

“พี่พูดเหมือนผมไม่เจอพวกเผด็จการยังไงก็ไม่รู้ พี่ไม่รู้จักพี่หมีดี พี่อย่าพูดอะไรเลยดีกว่า เรื่องมันจริงพูดไปคนอื่นเขาเสียหาย”

“ก็เพราะแบบนี้ไง กูถึงอยากรู้ว่าทำไมมึงไม่เหมือนเดิม”

“ผมปกติดีพี่ แต่พี่อ่ะไม่เหมือนเดิม พี่เป็นอะไรของพี่ ผมแปลกใจนานละ ผมสนิทกับใครพี่ก็ต้องรู้ตลอด จะให้ผมคุยกับพี่คนเดียวเหรอ”

“ก็ใช่ไง นี่มึงไม่รู้เหรอว่ากูคิดอะไรกับมึงอยู่”

“ก็มองออก แต่พี่ก็น่าจะมองผมออกนะว่าผมคิดอะไรกับพี่ ถ้าผมคิดกับพี่ แบบที่พี่คิด มันก็คงจะถูกใจพี่ แต่นี่ผมไม่ได้คิดกับพี่แบบที่พี่คิด แต่ผมคิดแบบของผม มันจึงขัดใจพี่ พี่ก็น่าจะรู้ตัวนี่”

“มึง ทำไมวะพี กูทำดีกับมึงมาตลอดเลยนะ”

“พี่ คนที่ใช่ต่อให้เลวแค่ไหน เขาก็คือคนที่ใช่ คนที่ไม่ใช่ ต่อให้ดีแค่ไหน เขาก็คือคนที่ไม่ใช่”กูคุ้นกับประโคนี้ว่ะ ก๊อปคำพูดไอ้แต๊งมาทั้งดุ้นเลย ไอ้แต๊งก็แบบนี้ แต่ตอนนี้ไอ้เฟียสก็จะกลายเป็นคนที่ใช่แล้ว เฮ้อ ความรักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน ตกหนักเกิ้นนนนนนนนน


ผมเดินกลับไปที่สนามบอล นั่งดูไอ้เฟียสดีกว่า ไปถึงปรากฏว่าหน้าอาคารชมรมบอล คือมันจะมีเป็นอาคารชั้นเดียวนะครับ และจะมีหลังคายื่นออกมา มีม้าหิน หลายตัวครับ และก็มีคนมาสุมหัวกัน นักบอลก็ล้งเล้งกันอยู่นอกห้องชมรม ส่วนด้านในตอนนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ผมเปิดประตูเข้าไปเขากำลังติวกันอยู่

โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีที่นั่งฝั่งละ ๔ ตัว คนนั่งเป็นผู้หญิงไปซะ ๖ คน ผู้ชายอีก ๒ ท้ายโต๊ะนั่งอัด ๒ คน เก้าอี้คนละตัว เป็นผู้ชายหน้าตาน่ารัก พอมองมาที่หัวโต๊ะ เก้าอี้กว้าง นุ่ม เป็นเก้าอี้ที่ดีที่สุดในชมรม แต่นั่งอัดกัน ๒ คน ไม่ใช่นั่งข้างกันด้วย นั่งซ้อนกัน คนด้านหลังสูง ๑๘๗ กัปตันทีม คนด้านหน้า ๑๘๒ ปีกขวา

ไอ้เฟียส ไอ้แต๊ง มึงไปนั่งท่าแบบนั้นได้ยังไงวะ

ไอ้เฟียสเป็นคนนั่งตอบคำถามที่เพื่อนๆสงสัย ส่วนเสือแต๊งคนขี้หวงซบกับโต๊ะฟังไปด้วย เขียนไปด้วย ต้องทำตัวให้ต่ำๆเพราะเขาจะมองไม่เห็นหน้าคนติว

“เดี๋ยวเฟียส ไม่ใช่มันเป็นแบบนี้เหรอ”ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆขยับเข้ามา ไอ้แต๊งรีบยืดตัวมาพิงอก เมื่อเห็นว่าคนติวเข้ามาใกล้เกินรัศมีที่จำเป็น

“อืม อ๋อ ใช่ๆ”ไอ้เฟียสก็ตอบคำถาม นี่ผมยังไม่ได้เข้าไปนะ ผมยืนอยู่ข้างหลัง แอบมองไอ้คนปากแข็ง ปากบอกไม่รักแต่พฤติกรรมเนี่ย หวงของ ไอ้เฟียสอธิบายพอสมควร ไอ้แต๊งก็นั่งพิงฟังๆไป มันสนใจใครที่ไหนล่ะครับ แล้วพักหนึ่งก็มีคนหนึ่งออกมาจากวง เป็นผู้หญิงน่ารัก เขาเดินออกมาแล้วยิ้มให้ผม หายไปครู่หนึ่ง อ๋อ ไปเข้าห้องน้ำมา

“หมี แต๊งกับเฟียสเป็นแฟนกันแล้วเหรอ”หน้าบานถามผม คือ หน้าเขาไม่ได้บานนะครับ แต่เขาดีใจอ่ะ ดูท่าน่าจะเป็นสาววาย

“เปล่า ยังไม่ได้คบ”

“แต่ทำไมเขาน่ารักกันอ่ะ แต่ก่อนแต๊งไม่เป็นแบบนี้เลย วันนี้น่ารักมาก เราฟินอ่ะหมี เราแอบถ่ายรูปหลายรูปด้วย เราอยากกรี๊ด ติวไม่รู้เรื่องเลย”พรุ่งพรูมาเต็มที่ มองไปด้านในตอนนี้ไอ้แต๊งเอาหน้าซบโต๊ะแล้วเขียนลงกระดาษ

“ไอ้แต๊งมันปากแข็งอ่ะ ไม่ยอมตกลงกับไอ้เฟียสสักที ที่นี่เราก็ยุให้เฟียสจีบคนอื่น แล้วก็อย่างที่เห็น หวงของ”

“จริงเหรอ เราอยากเห็นเขาเป็นแฟนไวๆจัง แค่นี้ก็น่ารัก ฟินอ่ะหมี อยากกรี๊ด”

“แกล้งไอ้แต๊งดีไหม”

“ยังไงเหรอ”

“ก็.....”ผมบอกแผนให้สาวน้อยคนนี้ สาวเจ้ายกนิ้วโอเคแล้วเดินยิ้มหน้าบานเข้าไปด้านใน ผมรอดูผลงานด้านนอก แปบเดียวผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดำเนินตามแผนครับ

“เฟียส เมื่อกี้คุยเรื่องอะไรกันเหรอ เราตามไม่ทัน”ยกเก้าอี้มานั่งข้างๆ ไอ้แต๊งยังคิดเลขอยู่ครับ ผู้หญิงคนนั้นขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ ไอ้เฟียสเอี้ยวตัวเข้าไปตอบคำถาม มือซ้ายหยิบโพยของตัวเอง มือขวาชี้ไปที่โพยของผู้หญิง นี่ผมไม่รู้จักชื่อเขานะ รู้แค่เขาเรียนร่วมห้องกับไอ้เฟียส

“เข้าใจยัง”

“อืม แล้วตรงนี้ล่ะ”คราวนี้ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด มือขวาของไอ้เฟียสจากที่ถือโพยตอนนี้ไอ้แต๊งดึงไปกอดเอวแล้วครับ ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาอีก คราวนี้มือซ้ายครับดึงเข้าไปให้กอดเอวอีกข้าง ไอ้เฟียสกำลังจะอธิบาย

“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจ “ดูคำตอบให้หน่อยดิ มันถูกไหม”ถามว่าเฟียสจะสนใจใคร ถ้าไม่สนใจเมีย หึหึ

“ยังไม่ถูก”เสียงเบาๆที่ข้างหู แขน ๒ ข้างโอบเอวเอาไว้ อกแนบชิด ขาก็ติดกัน ผมแอบถ่ายรูปสักหน่อยครับ ถ่ายให้ไอ้เฟียสมันมีความสุข ๖ ปีวันนี้มันเริ่มจะได้ค่าตอบแทนที่สุดคุ้มแล้วละ

“ทำอะไรพี่หมี ทำไมไม่เข้าไป”น้องภูแตะที่ไหล่ผม สะดุ้งเลยครับ “แอบดูใครอ่ะ”คราวนี้จับไหล่ผมทั้ง ๒ ข้างแล้วยื่นหน้าเข้าไปด้านใน เจอฉากฟินๆ “พี่แต๊งเปิดตัวแรงเนอะ เขาเป็นแฟนกันเมื่อไหร่อ่ะ”

“ยัง แต่มันหวงไอ้เฟียสแค่นั้นเอง...”ผมจึงเล่าย่อๆให้ฟัง

“อยากโดนกอดแบบนั้นบ้างจัง ดูน่าอบอุ่นดี”พูดเบาๆ ผมก็ยิ้มครับ

“หาแฟนดิ”

“หึหึ หาได้แล้ว กำลังจีบ”

“เหรอ ใครนะ”

“โด่ว คิดว่าจะรู้”

“อ้าว ไอ้หมี ยืนทำแป๊ะอะไรของมึง ทำไมไม่เข้ามา”อ้าว เห็นซะแล้ว “อ้าว ไอ้นี่ มือไวนะมึง”แกะแขนออกแล้วซะแล้วครับ แหม ทำเป็นเขิน

“ตกลงว่าเข้าใจที่ผมติวให้ไหม”ไอ้เฟียสยังมือไวกอดเอวไว้ครับ

“เดี๋ยวให้ไอ้หมีติวให้ มึงใช้ภาษายาก กูไม่เข้าใจ จะกลับบ้านแล้วเหรอหมี ป่ะ”ลุกออกจากเก้าอี้ ไอ้เฟียสหันมามองผมเลยครับ

“ยัง มึงจะติวก็ติวไปดิ กูนั่งรอได้ แล้วทำไมไปนั่งตรงนั้นวะ กูหวงมึงนะเนี่ย”แกล้งไอ้เฟียสหน่อยครับ

“เก้าอี้ไม่มี”ตอแหลสัส เก้าอี้ยังมีอีกบานเลย “ป่ะ กลับบ้านกัน อะไรของมึงไอ้พี ชมรมบาสไม่ซ้อมเหรอวันนี้”

“เขาหยุดให้อ่านหนังสือสอบแล้วพี่ ผมว่าเดี๋ยวผมทำแบบพี่ดีกว่า หาคนมาติวให้ แล้วให้เขากอด หึหึ”มีแซวรุ่นพี่อีก แต่ผมนี่หน้าหุบ หาคนติวแล้วทำแบบไอ้แต๊ง ไอ้ชินป่ะวะ เห็นคุยกันเมื่อกี้ เขาสนิทกันมาเท่าไหร่แล้ว ไอ้ชินไม่หล่อแต่เรียนเก่ง เฮ้อ

“พี่หมีติวใหภูหน่อยนะ”น้ำทิพย์ชโลมใจเลยละคราวนี้

“โอเค”ผมพยักหน้า พอหันไปมองด้านใน ใครๆหลายคนก็รุมถามไอ้เฟียส

“หมี มึงกลับบ้านไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวกูหาทางกลับเองได้”เดินเข้าไปแทรกกลางวง นั่งที่เดิม โธ่ ไอ้ขี้หวง ปากบอกไม่มีเก้าอี้ ไม่มีเก้าอี้หรือกลัวเขาแย่งวะ

“กลับบ้านดีกว่าเนอะ”ผมพยักหน้าและเดินกลับกับน้องภู

๑๐ ตุลาคม ๒๕๕x
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพวกเราก็ตั้งใจการการสอบปลายภาคอย่างเต็มที่ครับ สอบอันนี้เสร็จก็เตรียมรับแกทแพทต่อไป ไอ้แต๊งยังเหมือนเดิมครับ อ่านหนังสือกับผม ส่วนเฟียสเจอหน้าบ้าง แต่แปบๆครับ คุยกันนิดหน่อย กับน้องภูก็ติวให้นิดหน่อยไม่เยอะมาก น้องเขาเก่งอยู่แล้ว เด็กห้อง ๒ นี่ครับ ผมมันเด็กห้อง ๕ อาศัยว่าเรียนมาก่อน แต่ใช่ว่าจะจำได้นะ มึนๆ จึงช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่นัก

ตอนเย็นส่งโคลงไปหาน้องภูสักหน่อยครับ หวานๆ

                                                               สอบแล้วขอส่งสู้           แรงใจ
                                                               คิดครุ่นคำตอบใด         ผ่องแผ้ว
                                                               ตัวเลือกสี่ตัวไซร้          กาใส่ ไม่ผิด
                                                               ช้อยส์คู่เคียงดวงแก้ว    เลือกไว้ ใครแล

หึหึ คำตอบของคำถาม มันมี ๔ ตัวเลือกให้เลือกตอบ แต่คำตอบของหัวใจนี่มันมากมาย อยากจะรู้ว่าเลือกใครไว้หรือยัง ไอ้น่ารัก 

หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-10-2015 23:20:01
น้องภูนี้อ๋อยน่าดูเลย หมีเอ๋ยรีบผอมแล้วรีบมากอดภูเร็วน่ะ อย่าให้คู่นั้นเขาแซงไปไกล
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-10-2015 23:54:54
แต๊งเด็กขี้หวง  :hao7: :hao7: ออกตัวเเร(ด)งนะเรา

หมีโดนเด็กอ่อย  :hao6: น้องภูน่ารักอ่าาาาา  :katai2-1:  น่ารักกับพี่หมีไปนานๆนะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 05-10-2015 00:03:20
น่ารักมากเฟียสกับแต๊ง

 :mew4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-10-2015 00:39:14
แต๊งเอ้ยยยยย หวงเฟียสแล้วล่ะสิ มีนั่งซ้อนตักกอดเอวกันด้วย :laugh:  ส่วนน้องภูก็หยอดพี่หมีตลอด :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 05-10-2015 00:50:13
อิแต๊งหวงได้น่ารักมาก ส่วนเฟียสเนียนใหญ่เลยนะดีแล้ว อิอิ สงสารเฟียสให้ได้กำไรบ้างยังดี

คนแต่ง แต่งโคลงเก่งเนอะ สู้ๆ จ้า
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 05-10-2015 01:17:37
แอบแรงนะน้องภู
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 05-10-2015 01:32:56
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: benze13 ที่ 05-10-2015 09:44:38
ฟินมากเลยค่ะ ทั้งสองคู่ น่ารักมาก ชอบที่เนื้อเรื่องมันเอื่อยๆ แต่ก็สนุก สู้ๆ นะคะคนเขียน รออ่านอยู่นะ :mew3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 05-10-2015 10:12:34
ชอบอาการหวงของ ของแต๊ง
แหม แต่ตอนแรกๆ ด่าเฟียสสาดเสียเทเสีย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 05-10-2015 10:51:12
ถึงแม้จะเรื่อยๆมาเรียงๆ แต่มันก็มีความคืบหน้าเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-10-2015 12:34:22
แต็งตกลงใจกับเฟียสเหอะ ออกอาการสะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Snt_z ที่ 05-10-2015 13:43:36
แต๊ง เลิกซึนได้แล้วน้าาาาา ขี้หวงเหมือนกันนะเราอ่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 05-10-2015 13:47:50
น่ารักกันจริงๆเลย :o8:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ถ้วยฟู ที่ 05-10-2015 14:28:12
 :-[ ไอ้น่ารัก!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ArgèntaR๛ ที่ 05-10-2015 19:43:56
แต๊งเอ๊ยจะซึนไปไหน แต่ภาพผู้ชายสูง 18x นั่งซ้อนกันนี่ดูตลกชอบกล
ส่วนหมีก็พยายามเข้า อีกเดี๋ยวก็จะหมดเทอมแล้ว คงได้ใช้ช่วงเวลาปิดเทอมกับน้องภูมากขึ้น แต่พอเข้าวัยมหาลัยแล้วต้องห่างกันนี่เหงาน่าดู
อยากให้หมีหุ่นเข้ารูปเข้ารอยก่อนเข้ามหาลัย (แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นไปไม่ได้) ยังไงก็ลดจาก xxl เหลือ xl ก็ยังดี รีบลดเดี๋ยวหล่อเร็ว ค่อยหล่อตอนภูมาเรียนด้วยกันพอ (มันจะนานไปไหมนิ)

ปล. ชอบความนิ่งๆ เรื่อยๆ แบบนี้ฮับ สบายๆ ดี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-10-2015 19:57:13
แต๊งแสดงออกชัดเจนว่าหวงแบบนี้ก็กำไรเฟียสเขาเลยล่ะเน้อ~~ :-[

ส่วนหมีกับน้องภูก็น่ารักนะคะ หวานๆ หยอดกันนิดหน่อยพอให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจ ^^
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 05-10-2015 21:38:22
น้องแต๊งปากแข็งจริงๆ น้องภูน่ารักจริง ๆ จีบพี่หมีไปเลยน่ะจ้ะ  o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 05-10-2015 21:55:36
ขอรูปปลากรอบเฟียสกับแต็ง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 05-10-2015 22:18:12
อ๊ายยยย เรางี้ฟินฉากเฟียสแต๊ง  :z3:

เรื่องนี้จะยาวไปถึงขึ้นมหาลัยไหมคะเนี่ยยย ไม่ถึงปีพี่หมีไม่น่าหล่อเร็ว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 05-10-2015 22:58:13
ภูอ่อยยยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 06-10-2015 00:18:58
แต๊งค่ะ ขนาดนี้ก็ถวายตัวเลยเถอะค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 06-10-2015 00:24:01
อืม แต๊งเอ๊ย... หนูไปไวมากลูก
ให้ป้าเป็นเฟียสหน่อยไม่ได้
ป้าจะปิดประตูห้องติวแล้วตีแมวยั่วสวาทชื่อแต๊งเสียเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ส่วนน้องหมี... หล่อเรื่อยของเราต่อไปเนอะ
หากรักจะมา เดี๋ยวรักก็มาหาเราเองแหละ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: honny214 ที่ 06-10-2015 17:02:08
 :m20: ขนาดไม่ได้ชอบเค้ามากนะหมีเอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 06-10-2015 17:29:21
เฟียสแต๊งงงง น่ารักกกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 06-10-2015 19:27:10
อะหือออ แต๊งหึง ยอมรับแล้วเป็นแฟนกันไวไวน้าาาา

ทั้งๆ ที่หมีลดความอ้วนอยู่ ทำไมพอเสิร์ฟข้าวมันไก่หรือข้าขาหมูทีไร ป้าหิวทุกทีเลยอะ 555
ไม่ต้องรีบ ช้าๆ ให้ผูกพันธ์กันไปเรื่อยๆ นะคะ หมีกับน้องภู

 :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 06-10-2015 21:58:01
น้องภูอ่อยหนักมาก 5555
แต๊งหึงหวงหนักมากเลย
ถ้าจะขนาดนี้คบกันเถอะแต๊ง คึคึ

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: w-for-winnie ที่ 07-10-2015 10:58:34
ยังแอบระแวงว่าน้องภูชอบหมีจริงๆมั้ยหรือแค่เอาไว้ตีห่างพี่ที่ชมรมบาส

โคลงน่ารักดี คนแต่งแต่งเก่ง อิอิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 07-10-2015 11:57:15
คืออ่านจบแล้วต้องร้องว่า รักนี้...อีกนาน

ทั้งของเฟียส-แต๊ง, กับหมี-ภู เลยแหละ กว่าหมีจะลดน้ำหนักได้จนเป็นที่น่าพอใจ น้องภูจะยังตามจีบอยู่ไหม เขาชอบแบบอวบๆ ใช่ไหม (มีคนที่รสนิยมชอบคนอ้วนอยู่ใช่ไหม) น้องภูชอบหมีจริงใช่ไหม ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงใช่ไหม ถ้าไม่ดูที่หน้าตา ก็แสดงว่าน้องภูแกเคยเห็นหมีทำอะไรสักอย่างที่มันโดนใจ จึงได้ตกหลุมแล้วก็ชอบแล้วเริ่มจีบ

ติดตามต่อไปค่ะ แต่ขวากหนามเริ่มปรากฏ ก็หนุ่มชินนั่นไง ท่าจะเป็นหนามเสี้ยนอันโตทีเดียว ขอให้หมีอย่าได้แคร์

ปล. แต๊งรู้สึกจะปากกับใจไม่ค่อยตรงกันนะ แต่คนฟินนี่คือเฟียสเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๓ หน้า ๘
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 07-10-2015 20:32:37
แต๊ง..แสดงอาการแล้ว :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 09-10-2015 00:55:39
โคลงที่ ๑๔
๑๒ ตุลาคม ๒๕๕x

วันนี้วันสอบวันสุดท้ายของระดับมัธยมปลาย เราก็เต็มที่ครับ ปลดปล่อยพลังเต็มที่ ครูออกข้อสอบ เฮ้อ มันก็ทำได้นะส่วนใหญ่ แต่อยากได้เต็ม ก็ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไหร่ ไอ้แต๊งนี่ชิวครับ ง่ายๆสบายๆไม่เห็นจะซีเรียสอะไร ก็อย่างที่เคยกล่าวเอาไว้ แต๊งไม่เคยตกแต่ก็ใช่ว่าคะแนนจะเลิศหรู มันกลางๆครับ

“จะเอาที่หนึ่งเลยรึไง”ไอ้แต๊งนั่งรอผมหน้าห้อง แหม่ เราต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าสิ

“มึงก็ทำไวเนอะ ได้คิดบ้างป่ะ”

“คิดดิ ข้อไหนทำได้ก็ทำ ข้อไหนทำไม่ได้มาว่ากันทีหลัง”

“แล้วไอ้ทำไม่ได้นี่มันมากกว่าหรือน้อยกว่าข้อที่ทำได้ล่ะ”

“หึหึ เอาน่า กูไม่ตกหรอก”

“เออ ก็ให้มันได้คะแนนสูงๆบ้างดิวะ กูก็เต็มที่กับมึงทุกอย่าง ติวให้ไม่เคยกั๊ก กูรู้อะไรมึงก็รู้เหมือนที่กูรู้ มึงก็ช่วยสอบให้มันได้คะแนนดีๆให้สมกับที่กูติวให้มึงหน่อยดิ มันเป็นรางวัลนะเว้ย”

“มึงชอบบ่น คราวหน้ากูให้ไอ้เฟียสติวให้ก็ได้”

“เออ ทุกวันนี้กูไม่มีความหมายแล้วนี่ ตั้งแต่ไปตีสนิทกับไอ้เฟียสนี่กูหมดคุณค่าเลยใช่ไหม”แกล้งงอนสักหน่อยครับ

“กูสนิทกับไอ้เฟียสเมื่อไหร่”ทำหน้างงใส่ผมครับ

“อ้าว ก็เห็นนั่งติวด้วยกัน นั่นไม่สนิทเหรอ”

“เฮ้อ มึงเลอะเทอะ กูก็อยู่ส่วนกู มันก็อยู่ส่วนมัน แล้วจะไปสนิทกันได้ยังไง”

“อ้าว ไอ้ห่า แล้วที่กูเห็นนั่งกอดนั่งซบแทบจะเอากันอยู่แล้วเนี่ย ไม่เรียกว่าสนิทเหรอวะ”

“มันไม่มีที่นั่ง คิดมากนะมึง ป่ะๆ ไปหาอะไรกินดีกว่า”

“อืม”พอพูดถึงเรื่องกินนี่ กูขอลืมเรื่องมึงไปก่อน ช่วงนี้ผมยังคุมอาหารเรื่อยๆนะครับ พยายามจะกินของคลีนๆให้มากๆ แต่ก็ต้องตามใจปากบ้าง สัปดาห์ละครั้ง คือกินจำเจแล้วมันเบื่อๆ แล้วน้ำหนักผมก็ลดแล้วนะ ตอนนี้เหลือ ๑๔๐ สมกับความตั้งใจครับ เราลดเรื่อยๆ ปลายปีก็น่าจะอยู่ที่ ๑๒๐ มั้ง เดาๆเอาครับ



“แต๊ง เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม”ไอ้เฟียสเดินยิ้มมาถามเมียละครับ

“ไม่รู้เรื่องเลย มึงติวกูผิดป่ะวะ”ไอ้แต๊งทำหน้าเข้มๆใส่

“อ้าว ก็ติวทุกอย่างไปแล้วนี่นา ผมทำข้อสอบมันก็ไม่ต่างจากที่ผมติวเท่าไหร่นะ”

“มึงอย่าโทษตัวเองเฟียส ไอ้นี่มันมึนเอง”ผมชี้ไปที่ไอ้จอมมึน

“เพราะมึงอ่ะ ติวไม่ดี กูติวกับไอ้หมียังรู้เรื่องกว่าเลย”โทษไปทั่วเลยครับ ไอ้เฟียสทำหน้าจ๋อยไปเลย

“แล้วจะสอบตกป่ะวะ”

“เฮ้อ มึงอย่ากังวลไปเลยเฟียส มันเคยสอบตกที่ไหนเล่า ถึงมันตกก็ไม่ใช่เพราะใคร ทำตัวของตัวเองนี่นา อย่าใส่ใจมันมาก”

“นั่นสินะ โตแล้วเนอะ”ไอ้เฟียสยิ้มออกมา แต่ไอ้แต๊งหน้าเป็นตูดไปละ

“เออ ต่อไปก็ไม่ต้องมายุ่งนะ”งอนตุ๊บป่องไปแล้วครับ

“แต๊ง เดี๋ยวสิ ผมขอโทษ”ไอ้เฟียสรีบคว้ามือเอาไว้

“ปล่อยมันไปเหอะ แล้วไปหาเอาใหม่ข้างหน้า”ผมยุแยง

“จะดีเหรอหมี”

“เออ มึงดูนั่นน้องนนท์ นู้นน้องเอ๋ย นั่นน้องยิม ไอ้คิมก็น่าสนใจ ใบหม่อน น้ำฟ้า มึงเลือกเอาเลยดีกว่า แค่มึงไปบอกว่ามึงสนใจเขา มึงไม่ต้องทำอะไรเลยละ เขารอถวายตัวมึงอยู่แล้ว”

“ไอ้เหี้ยหมี ปากเหรอนั่น ห๊ะ กวนประสาทนะมึงอ่ะ”

“อ้าว ก็ถ้ามึงไม่ชอบไอ้เฟียส มึงจะรั้งเอาไว้ทำไม ก็แบบนี้ ยึกยัก เฮ้อ ปล่อยๆมันไปเหอะ เฟียสมึงก็หาใหม่เอา ๖ ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์ คนเรามันต้องมีสมหวังกับผิดหวังบ้างดิวะ”

“อืม”ไอ้เฟียสทำท่าครุ่นคิดแต่ไม่ยอมปล่อยมือไอ้แต๊ง

“ถ้ามึงปล่อยกู มึงซวยอ่ะกูบอกเลย”ไอ้แต๊งมองหน้าไอ้เฟียส ไอ้หน้าหล่อทำท่าครุ่นคิด

“มันก็จริงนะหมี กูตามมา ๖ ปี เหมือนกูเดินตามเงา จับต้องไม่ได้”

“ไอ้เฟียส”

“ครับ?”

“รออีกหน่อยไม่ได้รึไงวะ ถ้าไม่รอมึงซวยอ่ะกูจะบอกให้”ไอ้แต๊งบิดมือนิดหน่อยจนมือของไอ้เฟียสหลุดไป แล้วเดินออกไปโดนไม่สนใจผม ไอ้เฟียสยิ้มเลยครับ

“มันใกล้แล้วใช่ไหมวะหมี”

“อ้าว นี่เมื่อกี้มึงแสดงเหรอวะ”

“เออดิ มึงยุ กูก็ไหลไปตามน้ำอ่ะ”

“แต่กูยุจริงนะ”

“ไม่มีผลหรอก มีความสุขว่ะหมี รอสักหน่อย เฮ้อ เอาวะ คงไม่นานหรอกมั้ง”

“เออๆ ถ้าเป็นแฟนกันเร็วๆก็ดี แล้วนี่จะไปไหนต่อ กลับบ้านหรือว่าไง”

“กลับบ้าน อยากนอนว่ะ นอนไม่เต็มอิ่มมาหลายวันละ แล้วเจอกันหมี”

“เออๆ ขับรถดีๆนะมึง อย่าลืมว่าเมียรออยู่”

“ฮ่าๆๆๆ”



๑๕.๓๔ น.
“ภู”ผมเรียกเมื่อเห็นเขาเดินอยู่ด้านหน้า น้องหันหน้ามามองพร้อมกับเพื่อนๆ มีทั้งเพื่อนผู้หญิงกับเพื่อนผู้ชาย

“ครับ สอบเสร็จแล้วเหรอพี่”

“เสร็จแล้ว”

“จะกลับเลยเหรอ ไปกินขนมกันป่ะ เดี๋ยวเลี้ยงๆ”

“แหะๆ ดูท่าเพื่อนจะรอภูนะพี่ว่า พี่ไม่รบกวนดีกว่า”

“ไม่เป็นไร ไปด้วยกันเหอะ แล้วนี่พี่แต๊งไปไหนอ่ะ”

“ไม่รู้มัน งอนพี่กับไอ้เฟียสหายหน้าไปเลย”

“อ้าว นะๆ ไปด้วยกัน”เอาวะ น้องมันอ้อนขนาดนี้แล้ว ผมจึงต้องไปร่วมวงกับเพื่อนน้องภู มีอยู่ ๕ คนครับ ผู้หญิง ๓ คน ที่เหลือก็ผู้ชาย ผมเข้าไปร่วมก็เป็น ๙ เราไปหาอะไรกินที่ห้างครับ แก๊งน้องเขาก็คุยงุ้งงิ้งกันไปครับ ผมเหมือนไม่มีตัวตน คือไม่ทักไม่ว่า แต่ทำหน้าเหมือนกูไปเผาบ้านมางั้นแหละ

น้องภูก็พยายามเทคแคร์ทั้งเพื่อนตัวเองและก็ผมด้วย นั่งนานรู้สึกอึดอัด อึดอัดรุ่นน้องพวกนี้ก็ส่วนหนึ่ง อึดอัดเสื้อผ้าของตัวเองก็อีกส่วนหนึ่ง นี่เราลดลงหรือว่ามันเพิ่มขึ้นวะเนี่ย นั่งมองๆเพื่อนน้องภู ครึ่งหนึ่งดูท่าจะไม่ชอบผม ส่วนอีกครึ่งน่าจะเฉยๆ ไม่ค่อยมีใครกล้าคุยด้วยเลยครับ ไม่หล่อก็แบบนี้แหละครับคนเขาไม่อยากจะเสวนาด้วย แต่ถามว่าไอ้หมีเดือดร้อนไหม ก็ได้แค่บ่น กูอ้วนของกูคนเดียว กูขี้เหร่ของกูคนเดียว ไม่ได้ไปแบ่งอ้วนแบ่งขี้เหร่มาจากใคร คอยดูถ้ากูหล่อแล้วพวกมึงจะหนาว (เพราะเปิดแอร์ต่ำ หึหึ) ชิวๆน่า คนอย่างไอ้หมีคิดมากไปก็เท่านั้น

“จะกลับเลยป่ะพี”เพื่อนคนหนึ่งถาม

“พวกมึงรีบก็กลับไปเลย กูไม่รีบ เนอะพี่หมี”

“อืม”

“ถ้างั้นกูกลับก่อนนะ”หลายคนจึงทยอยกลับ เหลือผู้หญิงสวยๆ ๓ คนครับ นั่งหน้าสลอนคุยกับน้องภู ก็ช่างของเขา เราได้แค่ฟัง น้องผู้หญิงชวนเดินดูของ ผมก็เป็นเหมือนการ์ด

“พี่คะ พี่กลับไปได้ไหมคะ หนูมีธุระจะคุยกับพี”คนหนึ่งมาแอบกระซิบกับผม คือน้องภูเดินนำหน้ากับอีก ๒ คน อีกคนก็มาบอก แบบนี้แหละครับ ผมล่ะสงสัยว่าเขากำลังจีบน้องภูอยู่หรือเปล่า แต่ก็ไม่แน่นะ น้องภูออกจะฮอต หน้าตาไม่ธรรมดา ผมมันคนธรรมดาเขาคุยด้วยก็โอเคละ

“เหรอ เดี๋ยวพี่ขอบอกภูก่อนแล้วกัน”

“เดี๋ยวหนูบอกให้เองค่ะ หนูขอเวลากับเพื่อนหน่อยนะ”ยิ้มให้โบกมือบายๆ ไอ้หมีก็กลับไปที่ลานจอดรถครับ

๑๗.๕๔ น.
กลับมาถึงบ้านขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วมาช่วยแม่ขายข้าวมันไก่ครับ ลูกค้ายังเยอะปกติ ผมก็สับไก่เหมือนเดิม วันนี้ไอ้แต๊งอู้งานครับ เห็นแม่บอกว่ามันนอนอยู่บ้าน เออ ก็ให้พักผ่อนไปหน่อยครับ ลำบากกันมาหลายวัน

“ปิดเทอมก็ไปนอนบ้านยายสัก ๕ – ๖ วันนะหมี”

“แม่ไม่ไปเหรอ”

“ไปสิ แต่คงไปไม่กี่วัน หนูอ่ะต้องไปพักผ่อนบ้าง”

“แล้วใครจะช่วยแม่”

“ฉันยังสาวย่ะ มีแรงเลี้ยงพวกแกยันลูกพวกแกเลยด้วยซ้ำ”

“อ้าว ถ้าหนูไม่มีเมียมีลูกอ่ะแม่ จะเลี้ยงใคร”

“เออนั่นสิ ก็เลี้ยงลูกเฮียมวยของแกน่ะสิ เออ แต่แม่ว่าถ้าหนูลดน้ำหนักลูกชายแม่ก็หล่อขึ้นเป็นกอง สาวๆหนุ่มๆคงมารุมบันไดไม่แห้งแน่เลย”
 
“หนูไปเป็นนายแบบได้ไหมแม่ ถ้าหุ่นดีอ่ะ”

“จะเป็นอะไรก็เป็นเถอะ แต่ถ้าเป็นแล้วเราต้องเดินให้สุดทาง เหมือนแม่ขายข้าวมันไก่ ใครในจังหวัดจะสู้แม่ได้ล่ะ”

“แม่แอบใส่กัญชาหรือเปล่า”

“ฮ่าๆๆๆ ก็ว่าไปเจ้าคนนี้ ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ คนสวยทำกับข้าวต้องอ่อนโยน ใส่ใจลงไปเยอะๆ”

“ก็ใจมันหายละลายๆไปกับข้าวมันไก่”ผมทำท่าดุ๊กดิ๊ก

ขำกัน ๒ คนแม่ลูก ลูกค้ามาเราก็ทำ ลูกค้าบางเบาเราก็นั่ง ตอนเย็นน้าหมอน น้าชาติ ไอ้แต๊งยกหม้อมากินข้าวที่บ้านผมเหมือนอย่างเคยครับ วันนี้มีอาหารหลายอย่าง อยากกินอ่ะ แต่ผมต้องกินอาหารคลีนจืดๆของผม เฮ้อ ลาบหมูสูตรเด็ด ขอกินสัก ๒ ช้อนแล้วกัน กระเพาะมันเรียกหา

กินข้าวอิ่มแล้วรุ่นใหญ่นั่งคุยกันตามประสา ส่วนผมขึ้นไปบนห้องกับไอ้แต๊ง ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ๕๐ สาย กับ ๔๓ ข้อความจากทางไลน์ ใครวะ พอเปิดเข้าดูมีแต่ของน้องภูทั้งนั้นเลยครับ เออ ผมไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปด้วยนี่หว่า

อันดับแรกก็เปิดอ่านข้อความ น้องก็ถามว่ากลับเมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่ตอบไลน์ โกรธอะไรเขาหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ครับ ผมจึงตัดสินใจโทรหา

“ฮัลโหล”ผมพูดก่อน

“ครับพี่หมี ว่างแล้วเหรอครับ”

“อื้ม ขอโทษที่ไม่ได้รับสายนะ พอดีพี่เอาโทรศัพท์ไว้ด้านบนอ่ะ แล้วลงไปช่วยแม่ขายของ”

“อ๋อ ภูก็คิดว่าพี่ไม่อยากจะคุยกับภูแล้วซะอีก”

“เปล่า พี่ลืมพกลงไปจริงๆ ขอโทษด้วยนะ ว่าแต่มีอะไรเหรอ”

“เปล่า ภูก็อยากรู้ว่าทำไมกลับแล้วไม่บอกกัน”

“อ้าว แล้วเพื่อนของภูเขาไม่ได้บอกเหรอว่าพี่ขอกลับก่อน”

“เหรอ ไม่เห็นเขาพูดอะไรนี่นา ตอนภูรู้ว่าไม่เจอพี่แล้ว เพื่อนก็บอกว่าพี่ไม่พอใจแล้วกลับไปก่อน ภูอยากรู้ว่าพี่ไม่พอใจอะไรทำไมถึงกลับแล้วไม่บอก จึงโทรมาถามไง”

“เปล่า ไม่มีอะไร ขอโทษทีนะ เพื่อนภูเขาบอกว่าอยากมีเวลาส่วนตัว เขาก็ให้พี่กลับก่อน พี่ก็โอเค แต่พี่ว่าจะไปบอกภูอยู่นะ แต่เพื่อนภูบอกกับพี่ว่าเขาจะบอกกับภูให้”

“เหรอ ทำไมเขาพูดไปอีกอย่างอ่ะ หาว่าพี่โกรธภู ภูก็ไม่เข้าใจว่าทำอะไรให้พี่ไม่พอใจหรือเปล่า”

“ไม่ๆ ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าเราลืมเรื่องนี้ไปแล้วกันเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เลี้ยงข้าวมันไก่เอาป่ะ”

“เฮ้อ อยากดูหนัง พรุ่งนี้ไปดูหนังด้วยกันนะ”เสียงอ้อนๆ อยากจับมาฟัดจริงๆ

“อืม”

“ชวนพี่แต๊งมาด้วยก็ได้ครับ”

“ไม่อ่ะ เกะกะ”ผมพูดแล้วเตะขาไอ้แต๊ง ไอ้นี่มันเลื้อยครับ กินอิ่มแล้วเลื้อยเหมือนงู

“ไปไหนเหรอ เกะกะอะไรอีกวะ พูดแปลกๆนะมึง”ไอ้แต๊งถาม

“ไม่มีอะไร กูมีธุระ...”ว่าแล้วก็คุยกับน้องภูอีกครึ่งชั่วโมงครับ โอเคพรุ่งนี้เราจะไปดูหนังกัน

๑๓ ตุลาคม ๒๕๕x
๑๓.๒๒ น.

“แม่ วันนี้หนูไปดูหนังนะ กลับมาเย็นๆ”

“ฮันแน่ แอบไปเดทกับใครหรือเปล่า”

“เปล่าแม่ อ้วนๆอย่างหนูใครจะมาชอบ”

“มันก็ไม่แน่หรอกนะ มันต้องมีคนที่เห็นรูปทองบนกองไขมันของหนูบ้างสิ”

“ฮ่าๆๆ แม่ก็นะ”

“เอ้า จะไปก็ไป เดี๋ยวเขารอนาน แล้วอย่ากลับดึกล่ะ”

“ครับผม”ว่าแล้วก็ขับมอไซด์คู่ใจไปครับ

เรามาดูที่ห้าง โอเค หนังสนุกดีครับ ผมดูได้ทุกแนวนะ หนังผี หนังไทย จีน ฝรั่ง ดูหมดครับ จะบู๊ล้างผลาญหรือบ้าบอคอแตกก็ดู ดูเสร็จแล้วมานั่งกินไอติม เฮ้อ ชีวิตนี้ไม่พ้นน้ำตาลเลยจริงๆ

“น่ารักเนอะ”

“ใครอ่ะ”

“ไม่รู้จัก แต่น่ารักดี”น้องภูพูดและมองไปที่คู่วัยรุ่นชายคู่หนึ่งเดินจับมือกันซื้อของ คุ้นๆเหมือนเคยเจอที่โรงเรียนครับ ไม่แน่ใจว่าอยู่ชั้นไหน

“อยากมีอ่ะดิ”ผมยักคิ้วให้

“ใช่”

“เล็งใครไว้หรือเปล่า อย่างเรานี่ไม่น่าจะโสดนะพี่ว่า”

“แต่มันก็โสดอ่ะพี่หมี เห็นหล่ออย่างนี้ไม่ใช่จะควงใครไปทั่วนะ เลือกและเรื่องมากด้วย”น้องภูตอบ คำนี้ผมนี่ตกไปอยู่ในท้ายตารางเข้าชิงเลยครับ

“เหรอ”

“แล้วพี่อ่ะ สเปคแบบไหน”

“สเปคเหรอ อืม ก็คนที่เข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง รักที่พี่เป็นพี่ ไม่ได้รักที่หล่อหรือไม่หล่อ ไม่รังเกียจคนอ้วน”ผมพูดพลางคิดไปเรื่อยๆ ขอแค่คนที่เปิดใจรักผม ไม่เรื่องมากก็พอครับ น้องภูก็ดูเหมือนจะมีใจนะ แต่คำว่าเลือกและเรื่องมากของเขาทำให้ผมต้องหยุดคิด

“เหรอ แล้วไม่อยากรู้สเปคของภูบ้างเหรอ”

“บอกมาหน่อยสิว่าชอบแบบไหน”

“ชอบคนอารมณ์ดี หึหึ”

“แค่นี้เหรอ”

“ใช่ มีแค่นี้ ข้อเดียว”

“แล้วเจอรึยังอ่ะ”

“เจอแล้ว”

“เหรอ ใครนะ บอกหน่อยดิ”

“อืม ใครน่ะเหรอ เขาเป็นคนที่อารมณ์ดี เฮฮา ไม่ค่อยเด่นในสายตาใคร แต่เขาเด่นในสายตาของภู แล้วเขาก็มีความเป็นศิลปิน มีลูกล่อลูกชนเวลาต่อโคลงกับภู”สาธยายมาขนาดนี้ก็บอกมาเลยว่าเป็นพี่ แหม่ พ่อคุณ “แล้วตอนนี้เขาก็อยู่ตรงหน้าภูด้วย”

“หึหึ เขินจัง”หน้าแดงเลยครับ อายม้วน เอ่อ ม้วนไม่ไหวแล้วล่ะอีท่านี้ ต้องกลิ้งอย่างเดียว แล้วน้องภูก็หยิบโพสต์อิตแผ่นเล็กขึ้นมา ก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่าง ก่อนจะยื่นให้ผม

                                                            เรียน  อ่านในกล่องแก้ว    ดวงใจ
                                                            รู้       ร่วมชีวิตใน            เด่นหล้า
                                                            กัน    ทุกข์ก่อสุขไสว       ไปสู่
                                                            ไหม  หม่อนคู่ไม่ว้า          เหว่ว้าง  อุปมา 

ผมรับมาอ่านแล้วยิ้มหน้าบาน ส่วนน้องภูทำหน้าเขินๆ ผมจึงขอกระดาษน้อง เผอิญว่าไม่ได้พกแบบนี้มาอ่ะครับ จึงต้องยืมทั้งกระดาษและปากกาขึ้นมา

                                                              เรียน  ให้ทราบแก่เจ้า             กล่องแก้ว
                                                              รู้       ร่วมเจตนาแล้ว             ไม่ช้า
                                                              ด้วย   เต็มอิ่มเพริศแพร้ว         ฟูฟ่อง
                                                              ใจ     อ่อนตกลงท้า               ร่วมรู้ เรียนรัก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 09-10-2015 01:16:35
สั้นจุง!!!!!!!  :ling1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-10-2015 01:39:18
เรียนรู้กันแล้ววววว เย้ ๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 09-10-2015 01:40:57
ตกลงคบกันแล้วสินะ!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-10-2015 01:59:30
สั้นนนนนนนน


เขาคบกันแล้วใช่ไหมค้าา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2015 02:00:07
ต้องฉลอง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 09-10-2015 02:07:27
นอนอ่านอยู่บนเตียง ดิ้นไม่กลัวเตียงพังเลย ตอนขอคบกัน

เขาจะคบกันแล้ว เขาจะคบกันแล้ววววว  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 09-10-2015 02:53:46
อ่านตอนนี้แล้วเริ่มเชื่อขึ้นมานิดหน่อยว่าน้องภูจริงใจ กระนั้นก็ต้องการการพิสูจน์อีกหลายอย่างกว่าจะสรุปออกมาได้ว่า ใครหมู่หรือจ่า แต่อยากจะบอกว่า โคลงสองบทตอนท้ายนั้น...หวานจริงๆ ค่ะ แหม...จีบกันด้วยโคลงกลอนนี้มันคลาสสิกจริงๆ นะคะ มันปลาบปลื้มเข้าไปถึงข้างในเลยเชียว

ขอบคุณคุณเมฆมากๆ ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-10-2015 05:09:15
คนคิดไม่ดีก็มีอันปราชัยไปอีกตามเคยนะคะ เพราะว่าหมีกับน้องภูคืบหน้ามากกว่าจะถอยหลังอย่างที่พวกเขาต้องการเสียอีก :oni1: ..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-10-2015 05:14:07
เป็นแฟนกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 09-10-2015 06:02:35
 :mc4:
น้องหมีจะมีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 09-10-2015 08:53:17
ตกลงกันได้แล้วววว :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 09-10-2015 09:10:40
ฟินนน เขินนน. แต่กลัวมาม่าจัง รู้สึกเหมือนภูทำไปเพราะมีจุดประสงค์บางอย่างเลยอ่ะ (คิดไปเอง555)
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 09-10-2015 09:29:07
น่ารักจัง  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Zyse ที่ 09-10-2015 09:32:22
เค้าบอกรักกันล๊าวววววววว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอให้น้องภูไม่มีลับลมคมในเน้อ สงสารน้องหมี
น้องหมีผอมไวๆๆน๊า คนที่ชอบดูถูกจะได้เงิบบบบกันให้หมอเลยยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 09-10-2015 11:14:52
เขินนน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 09-10-2015 12:48:45
โฮ๊ยยยยยย เป็นแฟนกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 09-10-2015 13:56:06
มาน้อยจังอยากให้เขาฟินกันเยอะๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 09-10-2015 15:22:07
ดีใจจจจ เป็นแฟนกันแล้วสินะ เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: 6488 ที่ 09-10-2015 17:18:03
 :haun4: เขิลเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๔ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 09-10-2015 21:01:33
คู่แต๊งเฟียสก็ใกล้แล้ว รักแต๊งรอแต๊งหน่อยนะเฟียสอีกไม่นาน หึหึ
คู่หมีกับภูก็ตกลงเรียนรู้กันแล้ว :mc4: หวังว่าภูจะจริงใจไม่มีอะไรแอบแฝงนะ (แอบกลัว 5555)

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 12-10-2015 21:17:55
โคลงที่ ๑๕ เรื่องของแต๊ง

๑๘ ตุลาคม ๒๕๕x
ไอ้หมีกลับบ้านยาย ส่วนผมต้องมานั่งแกร่วอยู่ขอบสนามเพื่อซ้อมฟุตบอล ช่วงนี้ต้องเก็บตัว แต่ก็ไม่ได้เก็บอะไรมากครับ แค่มาซ้อมในช่วงบ่าย ตอนเย็นกลับบ้านนั่งดูหนังดูการ์ตูนเรื่อยไป

ช่วงซ้อมไอ้เฟียสชอบแปลกๆกับผม จริงๆมันเป็นแบบนี้มาสักระยะใหญ่ๆแล้ว น่าจะ ๒ เดือนเห็นจะได้ คือเมื่อก่อนมันจะมารุ่มร่ามกับผมเสมอ เช้า กลางวัน เย็น แล้วแต่จังหวะแล้วแต่โอกาส มันมักจะเดินยิ้มแป้นมาแต่ไกล แล้วทำตัวน่ารำคาญใส่ คือ มันก็มาจีบอ่ะ แต่ผมรู้สึกไม่ชอบไง มันก็อาจจะคิดว่ามันทำตัวน่ารัก แต่สำหรับผมมองไปแล้วมันน่ารำคาญ

แล้วที่มันทำแบบนี้ก็หลายปีแล้วนะ ตอนม.๑ ผมจำได้ว่ามันชอบมองผมทั้งปี คือก็ไม่รู้จะมองอะไร มองแล้วยิ้มเหมือนคนเมากัญชาอ่ะ แล้วมาช่วงม.๒ มันเข้ามาทักเข้ามาคุย ผมก็อืม ใครทักผมก็คุยด้วย ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร ทีนี้มาช่วงม.๓ มีข่าวรั่วว่ามันน่ะชอบผม ก็เป็นแบบนั้น ผมก็ขำๆ ไม่ได้อะไรมาก แค่นานๆไป เออ มันชอบกูจริงป่ะวะ

พอมาช่วงม.๔ นี่แหละครับ มันเข้ามาคุยเข้ามาจีบอย่างเปิดเผย แรกๆผมก็กวนตีนมันไป พอนานๆกูชักจะไม่ตลกแล้วละ ผมก็เรื่อยๆนะ จะจีบก็จีบไปดิ ผมก็หันไปคั่วคนนั้นทีคนนี้ที คบกันเล็กๆน้อยๆ ช่วงที่ผมมีแฟน มันก็จะเงียบๆ แต่ผมก็คบกับแฟนได้ไม่นาน อย่างมากก็ ๑ เทอม แล้วเลิกกัน ทั้งชีวิตผมมีแฟนมาแล้ว ๓ คนนะ คบไม่นานหรอก ที่เหลือก็แบบเพิ่งเริ่มจีบ แต่ไม่ได้คิดจริงจังกับใคร กะล่อนไปทั่วอ่ะผม

หลังๆนี่ไอ้เฟียสมันก็มาทุ่มกับผมเต็มที่ ผมก็ไม่รู้ว่ามันไม่อายหรือไงที่ถูกคนตราหน้าว่าเป็นเกย์ หน้าตามันก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่นะครับ ก็อย่างพวกกรรมการบ้าบอจัดอันดับหน้าตาว่าเป็นเทวดาของโรงเรียนนั่นแหละครับ มันก็หล่อนะ แต่ทำไมมันไม่ชอบผู้หญิง ผมสงสัยแบบนี้มาตลอด ผมเคยถามไอ้หมีนะ ไม่ผมถามมันหรอก แต่ถามไอ้หมี มันก็บอกว่า

“คนที่มั่นใจว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันดีที่สุดสำหรับเขา เขาเลือกที่จะไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ว่าคำสรรเสริญเยินยอ หรือคำสาปแช่งจะไม่มีผลกับเขาเลย เมื่อเขาคิดว่ามันดีพอ”ก็งงนะ แต่มันก็ด้านจริงๆนะไอ้นี่อ่ะ คือมีคนมาว่ามันก็เยอะนะเรื่องจีบผม แต่คนมาว่าผมน่ะเยอะกว่า หาว่าผมเป็นตัวฉุดความเจริญ ฉุดโอกาสของพวกเขาบ้าง ผมโดนดักตบบ้าง ด่าบ้าง ตอนผมยังเด็กๆยังสู้ใครไม่ได้นะ โหย ชุลมุนชุลเกเชียวครับ วันไหนหลบทันก็โอเคไป วันไหนซวยก็มีเจ็บตัวบ้าง ผมโดนด่าบ่อยนะ จนมันชินชา บางทีพอด่าเสร็จก็มานั่งขำกับไอ้หมีอ่ะ เฮ้ย ทำไมคนเรามันเป็นได้ถึงขนาดนี้วะ อยากมีผัวจนตัวสั่นถึงกับพาลมาทำร้ายคนอื่น ตกลงว่าเราอยู่ในยุคขาดแคลนทรัพยากรผู้ชายรึไงวะ ถึงต้องมาดักตบดักตีเพื่อจะได้สามีดีๆกลับเอาไปกก ผมนี่ฮาอ่ะ มันทำไปได้

แต่ก็มีช่วงที่อารมณ์ขึ้นเหมือนกันนะ เวลาโดนด่ามากๆอ่ะ บางทีผมก็เครียด แล้วผมจะไปลงกับใคร ไอ้หมีหาว่าผมพาลชอบไปลงกับไอ้เฟียส อ้าว ผมว่ามันก็จริงนะ ทำไมจะลงกับมันไม่ได้ มันเป็นใคร ตัวต้นเหตุก็เพราะมัน ผมก็เอาคืนมันบ่อยๆ เตะบอลอัดบ้างอะไรบ้าง มันต้องหาที่ลง ใครจะหาว่าผมยังไงก็ช่างเถอะ

แล้วมีช่วงที่ผมโตขึ้นมา ผมไม่ค่อยโดนทำร้ายร่างกาย แต่โดนด่าซะเยอะ อีกส่วนหนึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า เออ ถ้าพวกมึงหนังหน้าดีพอ สันดานดีพอ ทำไมไอ้เฟียสมันไม่ไปรักวะ ทำไมมันยังจมปลักกับกู แสดงว่าปัญหามันไม่ได้เกิดจากผม เพราะผมก็ไม่เคยตกลง ผมไล่มันทุกครั้งด้วยซ้ำว่าให้ไปจีบคนอื่น หรือก็ด่าแรงๆ ทั้งว่าต่อหน้าคนหลายคนและว่าต่อหน้าไอ้หมี แล้วมันยังมึนครับ เหมือนเดิม ทำหน้าจ๋อยๆ เช้ามาหน้าบานเหมือนเดิม ผมล่ะทึ่งกับมันจริงๆครับ มันทนได้ไง เป็นคนอื่นเขาโดดถีบกลับละถ้าจะโดนด่าสาดเสียเทเสียซะขนาดนั้น

และมาถึงช่วง ๓ เดือนก่อน ตอนที่ผมไปส่งน้องใบหนาดเอ๊ย นั่นมันชื่อไอ้หมี คือผมไปส่งน้องใบเฟิร์น พอไปถึงบ้านก็ช่วยพ่อเขาขนต้นไม้นะ มันลำบากมาก ยากกว่าเสิร์ฟข้าวมันไก่ ผมจึงเลิกจีบน้อง ฮ่าๆๆ แล้วมาคิดทบทวน คือไอ้หมีก็ยุผมมาตลอดนั่นแหละ ทีนี้ผมก็เริ่มย้อนกลับมาคิดว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไรที่คนๆหนึ่งตามตื๊อตามจีบอยู่เกือบ ๖ ปี แล้วยังคงมุ่งมั่น กลายเป็นว่าผมยอมรับความสามารถของมัน ที่มันอดทนและจริงใจเสมอ

ผมมานั่งคิดนอนคิดนะ ไอ้หมีให้หาข้อดีแต่ผมจะหาเจอได้ยังไง มันบอกให้มองมุมกลับ ผมก็คิดมาหลายวัน พยายามคิดให้มากๆ และอ่านบทความเรื่องความรัก คืออ่านพวกกระทู้อ่ะที่เขาเอามาลงๆกัน ผมก็อ่านเรื่อยๆ แล้วมาคิดว่า ผมรังเกียจมันหรือเปล่า คิดไปคิดมากลับกลายเป็นว่า เฮ้ย กูชินกับการที่มีใครคนหนึ่งมาฉอเลาะว่ะ มันตกใจนะ คือจะว่าผมมึนหรืออะไรก็ช่างเถอะนะ แต่รู้สึกว่า มันเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผมจนผมมานั่งมองไทม์ไลน์ชีวิตของตัวเอง ส่วนประกอบของมัน นอกจากครอบครัวผม ครอบครัวไอ้หมี ก็มีมันที่มีส่วนร่วมอยู่มากพอสมควร กลางคืนผมคิด กลางวันผมด่า ปากไม่ตรงกับใจ ไม่รู้ใครว่าไว้แต่มันโดนมากเลยตอนนี้

จนมาถึงวันที่มันทำตัวแปลกๆ มันเริ่มห่างผมไป แรกๆผมก็ไม่คิดอะไรมากหรอกครับ แต่จาก ๑ สัปดาห์เป็น ๒ สัปดาห์ เฮ้ย มันแปลกว่ะ คือมันน่าตกใจนะที่วันหนึ่ง เราเริ่มจะเปิดใจแล้ว แต่มันเรากลับมารู้ว่า นี่กูสายไปป่ะวะ ในวันที่กูจะเอื้อมมือไปจับเชือกเส้นนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเชือกมันม้วนตัวกลับไม่ให้กูจับ

ยิ่งมันทำตัวแปลกเท่าไหร่ ผมก็มานั่งคิดทบทวนมากขึ้น ปากก็บอกไอ้หมีไปงั้นแหละว่าช่างมัน สนใจอะไรมัน แต่ผมก็มาคิดเสมอว่า มันจะเลิกจีบผมจริงๆเหรอ แล้ววันนั้นผมไปอ่านกระทู้หนึ่ง ก็เรื่องความรักแหละมั้ง ที่รักกันแล้วเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความลังเลหรือกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมา มันย้อนมาถามตัวผมเองเลยครับว่า ถ้าเป็นเรา เราต้องการให้มันเป็นแบบไหน

ผมเปิดใจให้มันแล้วนะ ใจผมเปิดแต่ปากผมยังไม่ยอมเปิด เดี๋ยวมันเหลิง ผมมาทบทวนตัวเองทุกวันว่ายังไง แล้วไปเจอข้อความหนึ่ง เขาก็ว่า คนเราเวลาของมีค่าอยู่ใกล้ตัว เรามักจะเมินเฉยกับมัน พอมันไม่อยู่ที่เดิมแล้ว เรากลับเสียใจว่าทำไมมันถึงจากเราไป ไอ้เฟียสมันก็เหมือนส่วนหนึ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ชีวิตของผม มันมีค่านะ แล้วผมก็ต้องการให้มันเป็นสิ่งที่มีค่ากับผมต่อไป แล้วผมก็ตัดสินใจว่า เอาวะ ความรักมันก็คือความรักละวะ มันรักผม มันคงจะถึงเวลาแล้วละมั้ง ผมก็ตกลงใจกับตัวเองได้ว่า มันคงถึงเวลาแล้วที่เราจะตอบสนอง

บางครั้งผมเห็นมันคุยกับคนอื่นผมก็ระแวงนะว่ามันจะทิ้งห่างผมไป คือมันไม่คุยกับผมเหมือนเดิม ผมก็ใจแป้วแล้ว แต่พอมันยิ่งสนิทสนมกับคนอื่น มันทำให้ผมรู้สึกว่า เชือกที่หย่อนมาทางผมมันค่อยๆหดตัวกลับ แล้วเราต้องทำยังไง มันอาจจะสิ้นคิด กูเดินไปป้อนลูกชิ้นบ้าง คุยกับมันบ้าง เป็นการส่งสัญญาณว่า กูยังสนใจมึงอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีผลหรือไม่มีผล ผมไม่รู้ใจมันหรอกครับ จนวันนั้นก็ติวกัน เห็นหลายๆคนรุมล้อม ผมไม่รู้ไปได้ลูกบ้ามาจากไหน นั่งแทรกกลางตรงหว่างขามันแม่งเลย เอาซิ กูยอมเปลืองตัว กูยอมถูกคนอื่นหาว่ากลืนน้ำลายตัวเอง ตอนนี้อะไรก็ได้นะ แต่ถามว่าถึงเวลารึยังที่ผมจะบอกกับมัน คือผมกะเวลาไว้แล้ว จริงๆถ้าผมจะบอกก็บอกมันได้นะว่า เออ มาเป็นแฟนกัน

แต่มันมีช่วงเวลาที่เหมาะสมไง ผมคิดว่าเมื่อถึงวันนั้นผมจะบอกมัน นี่ผมไม่ได้ดูฤกษ์ยามอะไรหรอกนะ แต่ว่ามันมีวันสำคัญวันหนึ่ง อืม ก็ตกลงใจกับตัวเองว่า ถึงวันนั้นเราค่อยบอก ส่วนไอ้หมีมันก็ยุผมมาตลอดนะ เบื่อมันบ้างอะไรบ้าง แต่ด่ามันเยอะไม่ได้ ไอ้หมีน่าสงสาร มันโดนคนอื่นดูถูกมาเยอะ แล้วคนเขาก็ไม่ค่อยสนใจ มีแต่ผมเท่านั้นแหละครับที่เป็นเพื่อนมัน ผมไม่ได้จะยกตัวเองว่าเป็นเพื่อนที่ดีนะ แต่เป็นเพื่อนที่ อืม เราไปด้วยกัน ที่ผมไม่ยอมมีแฟนก็เพราะกลัวว่ามันจะเหงาด้วยล่ะครับ เคยเป็นนะช่วงที่ผมมีแฟน ผมก็ไม่ค่อยได้มาสุงสิงกับมันเท่าไหร่ สงสารมันครับ วันๆมันก็แทบจะไม่ทักใครอยู่แล้ว อย่างน้อยก็มีผมเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา

พักหลังไอ้หมีมันแปลกๆ มันไปสนิทกับไอ้พีเด็กม.๕ ผมก็ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันได้ยังไงนะ ผมสงสัยเหมือนกัน มันบอกจะเล่าๆ แต่ก็ไม่ได้เล่า ผมก็ไม่ได้ถามด้วย มัวแต่เคลียร์กับตัวเอง หลังๆไอ้หมีไปไหนมาไหนกับไอ้พีบ่อย มีติวให้กันด้วย มันหลบไปติวให้ไอ้พี แล้วผมล่ะ คิดอะไรไม่ออก โทรตามไอ้เฟียส ไอ้นั่นก็ไวครับ แปบเดียวแค่บอกว่าผมอยู่ไหน มันก็มาติวให้ ไม่มีว่าไม่ว่าง มันติวดีนะ คนบ้าบออะไรวะ เรียนก็เก่ง หน้าตาดี กีฬาเด่น นิสัยดีอีกต่างหาก ก็นั่งคิดๆไป เออ มิน่าใครๆถึงอยากได้มันเป็นแฟน ผมก็ติวหลายวันนะ แต่วันละไม่กี่ชั่วโมง อันไหนที่อ่านเองได้ผมก็ผ่านๆไป เอาแค่ยากๆ พอมาถึงวันสอบก็โอเค ผมมั่นใจนะ ถึงเวลาผมสอบคะแนนอาจจะไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่ถึงกับต้องสอบซ่อมอ่ะ

แล้วมาถึงวันสอบเสร็จ วันที่โดนไอ้หมียุยงให้ไอ้เฟียสเลิกชอบผม โห ไฟขึ้นหน้าเลย กูอุตส่าห์ตกลงปลงใจว่าจะเดินหน้า จะมาทางนี้ ไอ้เฟียสก็นะ ทำหน้าอึกอักลังเล เหมือนจะไปไม่ไปดี พอไอ้หมีพูดชื่อน้องๆแต่ละคน คือ แม่งพวกนั้นบางคนก็กลุ่มนางฟ้า บางคนมันก็กลุ่มเทวดา หน้าตา การศึกษา ฐานะนี่สูงกว่าผมหลายเท่าตัว ผมรู้ตัวดีนะว่าผมมันก็ลูกของชนชั้นกลางๆ ไม่รวย พอมีพอกิน การเรียนก็กลางๆ คือมันกลางๆหมดอ่ะในตัวผม แต่กับพวกนั้นฐานะทางบ้าน ความรู้ หน้าตา มันโดดเด่น ผมก็ใจแป้วสิ ถ้าไอ้เฟียสไปผมร้องไห้แน่ๆอ่ะพูดเลย

ผมจึงได้ขู่ว่าถ้ามันปล่อยจากผม มันจะซวย ขู่ไว้ก่อนแต่ถ้ามันไปจริงๆผมก็ต้องมานั่งช้ำแล้วใครจะยอมช้ำล่ะ เราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว จุดที่ผมเปิดใจกับมันเต็มที่แล้ว ผมต้องกัดฟันขู่มันไว้ก่อนและกัดฟันอดทนรอ ผมขอให้มันรอ มันไม่นานหรอกครับ ๖ ปีมันยังรอผมได้เลย แค่อีกไม่กี่วันทำไมมันจะรอไม่ได้วะ ผมขอแบบนั้นจริงๆนะ อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าอย่าให้มันเปลี่ยนใจก่อนที่จะไรจะสาย

อาจจะงงว่าทำไมผมยึกยักไม่บอกมันสักที ผมอยากจะบอกมันนะว่าผมพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้ไปกับมัน คือผมรอเวลาสำคัญน่ะ และแล้วไอ้หมีก็กลับมาจากบ้านยาย ตอนเย็นผมซ้อมบอลเสร็จก็ไม่มีอะไรทำละ ไอ้เฟียสมันก็เงียบๆของมันไป ทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวคอยดูเหอะมึง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปกูคงจะต้องเล่นบทโหด

“ไงมึง เพิ่งเลิกซ้อมเหรอ”ไอ้หมีมาแล้วครับ

“เออ แล้วนี่มาถึงเมื่อไหร่อ่ะ”

“ตอนบ่ายโมงกว่าๆ แล้วใครมาส่ง ไอ้เฟียสเหรอ”

“เปล่า ขึ้นสองแถวกลับ”ไอ้เฟียสมันไม่สนใจผมแล้วครับ นี่ยังเคืองมันอยู่ เดี๋ยวคอยดูว่าวันนั้นมาถึงมันจะยังไง แกล้งกูเข้าไป แล้วจะรู้สึกว่าของจริงเป็นยังไง

“เหรอ ทำไมมันใจร้ายกับมึงวะ”

“สนใจมันมากไป แล้วมีอะไรมาฝากบ้าง”

“ไม่มีอ่ะ กูอยากกินข้าวเม่ายังไม่ได้กินเลย”

“เหรอ ออกกำลังกายบ้างป่ะมึง เหมือนจะอ้วนขึ้นมาอีกป่ะวะ”

“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้ชั่งเลย ดูการ์ตูนป่ะ”

“เดี๋ยวอาบน้ำก่อน”

“อืม”มันพยักหน้า ผมเดินกลับมาที่บ้านของตัวเอง บ้านผมเป็นบ้านเดี่ยว ๒ ชั้น มีพื้นที่เล็กๆรอบบ้าน พ่อชอบปลูกพวกพืชพันธุ์ต่างๆไว้ดูเล่น ผมขึ้นไปบนห้องแล้วอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อจะไปดูการ์ตูนกับไอ้หมี ผมสนิทกับมันมากเลยนะ บ้านมันบ้านผมนี่เหมือนเป็นบ้านเดียวกัน ผมเคยคิดนะถ้าไอ้หมีเป็นผู้หญิงผมว่ามันคงเป็นเมียผมไปนานละ สนิทกันเกิ้นนนนนน

“เกรดออกรึยังแต๊ง”พ่อถามระหว่างที่นั่งอ่านนิตยสารพระเครื่องอยู่ด้านล่าง เลิกงานแล้วก็เป็นพ่อบ้านพ่อเรือนที่ดีครับพ่อผม

“ยังมั้งพ่อ รอเปิดเทอมอ่ะ”

“อืม เอาให้ผ่านนะ”

“พ่อไม่ต้องห่วงหนูหรอก ไอ้หมีติวให้ทั้งคน”ยกความดีให้เพื่อนหน่อยครับ เรียนผ่านมาได้ถ้าไม่มีไหมีนี่ผมคงจะก๊อกแกไปทำอย่างอื่นแล้วมั้ง

“เออ แล้วหมีกลับวันไหน”

“กลับมาแล้วนี่พ่อ นี่หนูจะไปดูการ์ตูนกับมันอ่ะ เออพ่อ เย็นนี้กินอะไร”

“ไม่รู้สิ อยากกินหมูย่างว่ะ เบียร์เย็นๆ”

“ขอกินด้วยนะพ่อ อยากกินเบียร์”

“เป็นเด็กเป็นเล็ก”

“ฮ่าๆๆ”ผมก็ขำ ปกติผมไม่ค่อยได้แตะพวกแอลกอฮอล์เท่าไหร่ ถึงผมจะทะเล้นแต่เรื่องแบบนี้ผมไม่ค่อยสนใจนะ เหล้า เบียร์ บุหรี่ ก็เคยลองมาแล้ว แต่คิดว่าไม่ใช่ทาง ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ ประจำเลยครับ ในชมรมบอลอ่ะก็เยอะนะที่ติดเบียร์ติดเหล้า แต่ว่าทางใครทางมัน ผมก็ขอเป็นเด็กใสๆดีกว่า


มาถึงบ้านไอ้หมีขึ้นไปบนห้องนั่งดูการ์ตูนกัน ๒ คน เฮ้อ บางทีผมก็คิดว่าตัวเองยังเด็กนะ ยังไม่เหมาะกับการมีความรัก เพิ่งจะ ๑๘ ปีเอง ไม่น่ารีบ ไอ้เฟียสไม่รู้บ้านมันปลูกมะม่วงแรดไว้หลังบ้านหรือเปล่า ทะลึ่งอยากมีความรักตั้งแต่เด็ก แรดเกิ้นนนนน ไอ้นี่


๑๙ ตุลาคม ๒๕๕x
ปิดเทอมผมตื่นสายหน่อย แต่ก่อนตื่น ๖ โมง ช่วงนี้ตื่น ๘ โมงครับ ตื่นมาก็อาบน้ำแปรงฟัน หาอะไรกิน วันไหนแม่ไม่รีบก็จะมีกับข้าว วันไหนแม่รีบมากก็จะไปกินที่บ้านป้าพิมพ์ อย่างวันนี้แม่ไม่รีบจึงมีอะไรให้ผมกิน กินอิ่มแล้วก็ไปนั่งเล่นนั่งคุยกับป้าพิมพ์

สายๆระหว่างที่ป้าพิมพ์หยุดพักเพื่อทำมื้อกลางวันผมก็ไปทำธุระอีกฟากหนึ่ง ไปคนเดียวครับ ไปซื้อของนิดหน่อยจากนั้นก็คงจะรอเวลา ระหว่างนี้จึงกลับมาช่วยป้าพิมพ์ขายของ ผมช่วยประจำจนเก็บเงินได้เยอะเหมือนกันนะ เงินแม่ให้ผมก็ใช้ ส่วนเงินของตัวเองเก็บเอาไว้เผื่ออยากได้อะไร จริงๆอยากได้รถมาก แต่เก็บได้ไม่เท่าไหร่อ่ะ คงอีกหลายปี

๑๔.๑๗ น.
ไอ้หมีขับมอไซด์มาส่งที่โรงเรียนวันนี้เราก็มาซ้อม อ่อ มาซ้อมแบบนี้ได้เบี้ยงเลี้ยงด้วยนะครับ คือเปิดเทอมหลังจากสอบแกทแพทประมาณ ๑ สัปดาห์จะมีแข่งฟุตบอลกับโรงเรียนอื่นในเขตพ้นที่การศึกษาเดียวกัน โรงเรียนเราไม่ได้แชมป์มาหลายปีแล้ว ก็อยู่ที่อันดับ ๒ หรือไม่ก็ ๓ ครับ ปีนี้ผมก็กะว่าจะต้องทำให้เต็มที่กอบกู้เกียรติยศของรุ่นพี่ที่เคยทำไว้หน่อยครับ

มาถึงสนามไอ้หมีคุยกับไอ้เฟียสฟุ้งเลยครับ ดูมัน ทีกับผมนะ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่อะไรแล้ว เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง เวลามันจะตัดสินเองว่าจะหมู่หรือจ่า ผมซ้อมปกติ วันนี้ก็เรื่อยๆของผม ตั้งใจซ้อม ผมชอบกีฬานะ พอมันเด่นกีฬาเลยทำให้วิชาการก็กลางๆ ไม่เละเหมือนคนอื่น แต่ก็ไม่เด่นเหมือนไอ้เฟียส ไอ้นี่มันเกิดมาสมบูรณ์แบบของมันจริงๆ ระหว่างที่ผมซ้อมไอ้หมีก็ขับมอไซด์ตะลอนไปไหนไม่รู้ครับ อาจจะไปหาไอ้พีก็ได้มั้ง มันเริ่มสนิทกันแล้วนี่

๑๗.๑๓ น.
เราหยุดซ้อมกันแค่นี้ และมาฟังโค้ชแนะนำข้อดีข้อด้อยของการเล่นวันนี้ จากนั้นก็คุยกันเรื่อยเปื่อยไม่ได้จริงจังอะไรมาก

“พี่เฟียส พรุ่งนี้วันเกิดพี่แล้วนี่นา จัดที่ไหนอ่ะพี่”

“จัดที่บ้านเหมือนเดิม ต้องเชิญพวกมึงป่ะวะ”

“เชิญดิพี่ เดี๋ยวเขาหาว่าผมหน้าด้าน”

“อ้าว ปกติมึงก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไอ้น็อต”

“ไอ้เกี๊ยก เดี๋ยวมึงได้ปากแตก”

“ฮ่าๆๆ”

“เออ กูเชิญทุกคนเลยนะ เย็นๆอ่ะ ไปกินกัน”ไอ้เฟียสพูดกับทุกคน ส่วนผมนั่งแผ่อยู่ห่างๆ

“อยากกินสาโทว่ะพี่ มีป่ะ”

“โห มึงก็ไม่บอกกูนะ กูจะหาที่ไหนทันวะ”เจ้าภาพตอบ

“บ้านยายผมทำไว้โอ่งหนึ่งอ่ะพี่ ไม่รู้หมดไปยัง มีใครสนใจบ้าง”อีกคนเสนอมา

“กูๆๆๆ”

หลายคนสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ แล้วก็คุยขโมงกัน เฮ้อ อนาคตของชาติ แต่ผมก็อยากกินนะ สาโทอ่ะ มันหวานดี ฮ่าๆๆๆ

“พรุ่งนี้ไปได้ป่ะ”ไอ้เฟียสมานั่งขางๆผมละ มันชวนผมทุกปีแต่ผมไม่เคยไปเลยสักครั้ง ใจดำไหมล่ะผมอ่ะ เออ จะว่าไม่ไปก็ไม่ได้นะ เคยไปครับ แต่ว่าประมาณว่าเอาแค่ของขวัญไปให้ กินน้ำแก้วเดียวก็กลับบ้าน แต่ของขวัญผมให้มันทุกปีนะ ที่เคยซื้อให้ก็ ตะเกียบ ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้าพันคอ แค่นี้แหละครับ ให้มันไปงั้นๆ ผมให้มันในฐานะเพื่อนร่วมทีม “ว่างไหม หรือว่ามีธุระ แม่ผมอยากให้แต๊งไปนะ”

“อย่าเอาผู้ใหญ่มาอ้าง”ต้องเล่นบทร้ายเข้าไว้ จริงๆผมใจดีจะตาย

“นะครับ”

“เออๆ ถ้าไปก็เจออ่ะ ถ้าไม่เจอก็แปลว่าไม่ได้ไป”

“โอเค ต้องไปให้ได้นะ”จากนั้นก็คุยกันพอสมควรครับ เรื่องทั่วๆไป ผมก็ตอบกวนประสาทมันไปจนไอ้หมีขับรถเข้ามาในโรงเรียนรับผมกลับบ้าน

ตกเย็นผมก็ไปช่วยป้าพิมพ์ขายของอีกนิดหน่อย พอสักทุ่มหนึ่ง ผมก็ขอยืมมอไซด์ไอ้หมีไปทำธุระ เห็นพ่อและแม่ไปนั่งกินข้าวบ้านป้าพิมพ์ซะแล้ว เอาของไปเก็บไว้ในตู้เย็นจากนั้นจึงเดินมากินข้าว

“ไปไหนมาอ่ะ”แม่ถาม

“ไปซื้อของมาอ่ะแม่ วันนี้กินอะไรเหรอ”มองไปบนโต๊ะกับข้าวหลายอย่างครับ ไอ้หมียังคงกินอาหารคลีนของมันตามปกติครับ ไม่รู้ว่าลดหรือไม่ลดนะครับ ยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนปลงมากเท่าไหร่นัก หรือบางทีผมอาจจะอยู่กับมันจนชินตาไปแล้ว อาจจะมองไม่ออก จริงๆผมอยากให้มันลดน้ำหนักตั้งนานแล้วนะครับเพราะจะได้มีคนมาเตะบอลกับผม อยากเห็นมันพลิ้วด้วย แต่นี่ที่มันตั้งใจลดผมก็ดีใจ เป็นกำลังใจให้มัน อยากให้มันหล่อครับ โครงหน้ามันดีนะ เฮียมวยอ่ะ แก๊งเทวดาของโรงเรียนเลยนะ ไอ้หมีก็ไม่ต่างหรอก ดีไม่ดี ลดน้ำหนักไปแล้วหน้าตาอาจจะเด่นกว่าเฮียมวยอีกก็ได้ใครจะไปรู้ล่ะ

กินอิ่ม เป็นหน้าที่ของเด็กๆอย่างพวกผมต้องล้างจาน ล้างเสร็จมานั่งคุยกับพ่อแม่และป้าพิมพ์ คุยไม่นานหรอกครับ ผมก็ขึ้นไปนั่งเล่นในห้องไอ้หมี ไปคุยมันเรื่อยเปื่อย

“เออ กูมีเรื่องจะบอก”ไอ้หมีเกริ่น

“อะไรเหรอ”ผมกำลังอ่านการ์ตูนรอบที่ร้อยกว่าแล้วละ จำได้ทุกตัวอักษรละเรื่องนี้

“กูกับน้องภู”

“อืม มีอะไรวะ”

“อยู่ในช่วงดูใจกันนะ”

“จริงเหรอวะ โห เพื่อนกู นี่เก็บเงียบมาตั้งนานนะมึง”

“เออ ก็ไม่มีจังวะจะบอกมึงสักทีไง...”จากนั้นมันก็เล่าเรื่องให้ผมฟัง ย่อๆ ผมก็ไม่อะไรนะ เห็นเพื่อนมันมีความรักเราก็โอเค แล้วผมก็มีเรื่องจะบอกมันคืนนี้แหละครับ ก็คุยๆกันไปเรื่องความรักความใคร่จนได้เวลาผมจึงไปอาบน้ำ

๒๒.๓๗ น.
ที่บ้านปิดไฟนอนแล้ว ผมก็มาที่บ้านไอ้หมี เอาของมาด้วยครับ วางเอาไว้ด้านล่างในตู้เย็นในครัว ป้าพิมพ์นอนแล้วครับ เหลือผมกับไอ้หมีที่นั่งคุยกัน ปิดเทอมก็งี้ล้งเล้งบ้าบอกันไป จริงๆผมง่วงนอนแล้วนะ เพราะเหนื่อยกับการซ้อมบอล อยากนอนใจจะขาด แต่ขอทำภารกิจก่อนครับ

๒๓.๔๐ น.

“หมี ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”

“ไปไหน”

“เหอะน่า”

“มีความลับอะไรป่ะวะ มึงแปลกๆนะ”

“เออ เดี๋ยวมึงก็รู้”

“ตกลงว่าไปไหนเนี่ย”

“เออ เดี๋ยวมึงก็รู้ ขอร้องอย่าเพิ่งถาม”

“เออๆ ไอ้นี่ เอ๊ะ หรือจะพากูไปตีหลี่”

“ทำเป็นเหรอมึง”

“ฮ่าๆๆๆ กูก็พูดไปงั้น”

“เออ มึงเอามอไซด์ออกไปด้วยนะ ลงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูเตรียมของแปบ”

“อะไรของมึงวะ”มีบ่นครับแต่ยอมทำตามคำพูดของผม พอมันเอารถออกไปแล้วผมจึงถือของอย่างระมัดระวัง ให้ไอ้หมีซ้อนท้าย ผมเป็นคนขับ ผมขับไม่เร็วเท่าไหร่ครับ


๒๐ ตุลาคม ๒๕๕x
๐๐.๑๒ น.
“มาบ้านไอ้เฟียสทำไม”

“หึหึ เดี๋ยวมึงก็รู้เองน่า”ผมรับของแล้วจัดการ โอเค การ์ดเรียบร้อย เค้กเรียบร้อย “กูมาเซอร์ไพรส์วันเกิดมัน”

“อ้าว วันเกิดมัน เออจริงว่ะ วันเกิดมัน ๒๐ นี่หว่า โห ความนี้ทำตัวน่ารักนะมึง”

“เออน่า เออ โทรหามันดิ ให้มันลงมา กูจะได้จุดเทียนรอ”ว่าแล้วไอ้หมีก็จัดการโทรหาเจ้าของวันเกิด กูขอจัดให้มึงก่อนแล้วกันนะ แล้วอะไรๆมันจะได้สมหวังในวันนี้ ทุกอย่างที่มึงต้องการกูโอเคกับมึงแล้วเฟียส

“โหล เออ มีดิถึงได้โทรหา นอนยังวะ เหรอ อืม ลงมาหน้าบ้านมึงหน่อยดิ เออน่า อยากรู้ต้องลงมา ไม่งั้นมึงจะพลาดไปตลอด เออ เร็วๆ ๓ นาที”จากนั้นไอ้หมีวางสาย ผมจึงรีบจุดเทียน เค้กนี่เป็นแบบหลายรสรวมกันอ่ะ ผมชอบ ฮ่าๆๆ ไม่ได้นึกถึงเจ้าของวันเกิดเลย เอาความต้องการของตัวเองล้วนๆ พอจุดเทียนหมดแล้ว ผมก็ดักรอที่หน้าประตู ไอ้หมียืนข้างมอไซด์ สักพักได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านใน กูตื่นเต้นว่ะ

แกร๊ก แอ๊ด ประตูเปิดเข้าไปด้านในตัวบ้าน ไอ้หน้าหล่อมองออกมาด้านนอกกำลังก้าวออกมาได้ไม่กี่ก้าว ไอ้หมีร้องเพลงคนเดียวครับ แฮปปี้เบิร์ทเดย์

“เฮ้ย แต๊ง”มันตกใจหันมามองหน้าผม

“เออ กูเอง”

“เซอร์ไพรส์โคตรๆอ่ะ”

“รับไปดิ อ้าว เร็วดิ”

“ขอเป่าก่อนนะ”เออ ทำอะไรก็ทำ ผมถือให้มันเป่า แล้วมันก็รับไป จากนั้นผมก็ให้การ์ด

“เฟียส กูมีเรื่องจะบอก”

“หืม อะไรเหรอ”ดูมันตั้งใจมากเลยครับ

“เป็นแฟนกับกูนะ”



นี่แหละครับที่ผมบอกว่าให้รอ รอเวลาสำคัญ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 12-10-2015 21:30:18
อ๊ายยยยยย เซอร์ไพรส์โครตๆเลยแต๊งงงง   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 12-10-2015 21:39:57
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :hao5: :hao5: :hao5: <<<<< เป็นความรู้สึกหลังอ่านจบ กรี๊ดมาก ยาวมาก โหง่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เขิน ถือเป็นเรื่องราวดีๆค่ะ
ถ้าเฟียสไม่ตกลง >> :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 12-10-2015 21:47:26
แต๊งมาแรงนะ กว่าจะยอมรับใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 12-10-2015 21:48:40
บทจะน่ารักก็สุดๆเลยอ่ะแต๊ง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-10-2015 21:50:14
ของขวัญชิ้นไหนๆ ก็ไม่ถูกใจเท่ากับที่แต๊งขอเฟียสเป็นแฟนแล้วล่ะเน้อ~ :m3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 12-10-2015 22:46:12
เอร๊ยยยยยบทจะง่าย ก็ง่ายเลยนะแต้ง
เฟียสคงปลื้มมากได้ของขวัญที่ดีที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 12-10-2015 22:47:38
โว้ววววววว นังหนูแต๊งนี่ใช้ได้แหะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-10-2015 23:45:29
นังหนูแต๊ง~~~~ ใจอ่อนแล้ววววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 13-10-2015 01:03:40
 o13 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 13-10-2015 01:26:01
แต๊งลูกกกกได้ใจป้ามาก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 13-10-2015 01:56:34
แหม แต๊ง เยี่ยม
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-10-2015 01:56:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: su40747 ที่ 13-10-2015 05:35:23
ปริ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
 :man1: :man1: :man1: :man1: :man1: :man1:  :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 13-10-2015 06:58:09
เป็นแฟนกันแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 13-10-2015 08:17:10
ว๊ายยยยยแต๊งทำเซอร์ไพรส์เฟียสซะลืมไม่ลงเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 13-10-2015 09:12:58
สมกับหกปีไหมล่ะเฟียตเอ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 13-10-2015 09:55:25
 :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 13-10-2015 12:30:01
ดีงามมากลูกแต๊ง!!
อยากอ่านฝั่งเฟียสเลย ไม่รู้จะฟินไปถึงไหนแล้วป่านนี้
วันเกิดทั้งที ได้แฟนที่แอบรักมาตั้งหกปีแล้วเนอะ

ส่วนหมีก็... พี่รอหนูหวานกับพ่อพี/ภูอยู่นะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Snt_z ที่ 13-10-2015 14:38:02
แต๊ง โดนใจพี่มากกกกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 14-10-2015 20:43:24
อ๊ายยยยยเขิลแทนเฟียนนน  :o8: :-[ ในที่ก็ได้แฟนทั้งสองคนเลยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 16-10-2015 18:03:53
แต๊งยอมใจอ่อนรักเฟียสแล้ว
ดีใจกับเฟียสมากในที่สุดก็สมหวังแล้ว :mc4:
แต๊งก็เขาใจเซอร์ไพรส์นะ วันเกิดเฟียสเลย ^^

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-10-2015 01:43:09
อยากอ่านแล้วอะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 17-10-2015 05:03:56
คบกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๒๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๕ หน้า ๙
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-10-2015 20:28:50
ว้ายๆๆๆ ในที่สุดเฟียสก็ฝนทั่งเป็นเข็มจนได้ ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ให้ผลสำเร็จอย่างงดงาม แต๊งเป็นคนขอคบก่อนเสียด้วย คิดว่าเฟียสคงฟินทั้งคืนแน่ๆ โฮะๆๆๆ ส่วนหมีของเรากับน้องภูก็กำลังดูใจกันสินะ เป็นกำลังให้หมีลดน้ำหนักได้เร็วๆ นะจ๊ะ จะได้หล่อกับเขาเสียที

ขอบคุณคุณเมฆสำหรับตอนนี้มากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 19-10-2015 17:01:23
โคลงที่ ๑๖
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕x
๐๐.๒๔ น.

เคยเห็นผู้ชายตัวโตๆร้องไห้ไหมครับ ไอ้เฟียสนี่ไม่ต่างจากพวกนั้นสักเท่าไหร่ เค้กที่ผมให้มันให้ไอ้หมีเป็นคนถือ ส่วนมันกอดตัวผมไว้แน่นแล้วร้องไห้

“เฮ้ย มันควรจะดีใจไม่ใช่เหรอวะ มึงจะร้องไห้ทำไม คนอื่นเห็นอายเขาตายห่า”

“ก็ดีใจนี่นา ฮึก”

“เอาเค้กไป กูจะกลับบ้านแล้ว”

“ไม่เอา คืนนี้นอนบ้านผมนะ หมีด้วย”

“อย่ายุ่งยากดิมึง”

“นะ นอนบ้านผมเหอะ มันดึกแล้ว ขับมอไซด์กลับดึกๆดื่นๆมันอันตราย ป่ะ”รับเค้กจากไอ้หมีแล้วลากมือผมเข้าไป แล้วทำไงได้ผมก็ต้องยอมตกลง อย่างน้อยไอ้หมีนอนด้วยละกัน ไอ้เฟียสเปิดประตูให้ไอ้หมีเข็นมอไซด์เข้ามาในบ้าน แล้วก็ลากผมเข้าไป พอผ่านประตูเจอพ่อไอ้เฟียสเลยครับ ใจผมนี่ร่วงไปอยูที่พื้น กูเซอร์ไพรส์มึง มึงก็เซอร์ไพรส์กูกลับ

“อ้าว พ่อคิดว่านอนแล้วซะอีก แล้วนี่ใคร คุ้นๆ คนที่เราจีบอยู่เหรอ”โห เอามีดมาปักกลางอกผมเลยดีไหมครับ

“ใช่ครับ เอ่อ เราเป็นแฟนกันแล้วนะพ่อ”

“หืม เป็นแฟนแล้วเหรอ”

“ใช่ครับ”

“หึหึ สมหวังซะทีนะเรา อ๋อ นี่มาเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยเหรอ”

“ครับ”ไอ้เฟียสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“พ่อรู้แล้วเหรอว่ามึงชอบกู”ผมกระซิบเบาๆที่ข้างหู

“อืม บอกตั้งนานแล้ว”ดูมันครับ เฮ้อ

“ตามสบายนะ พ่อจะนอนแล้ว เออ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้านะ จะได้ไปทำบุญที่วัด”พ่อเดินมาตบไหล่ลูกชายทีหนึ่ง ผมทีหนึ่ง จากนั้นจึงขึ้นไปด้านบน ไอ้เฟียสก็ปิดประตูบ้านลงกลอนเรียบร้อย เอาเค้กไปแช่ในตู้เย็น มันดึกแล้วเนอะ จะกินตอนนี้ไม่ไหวอ่ะ แล้วมันก็ลากผมกับไอ้หมีไปบนห้องมัน ผมไม่เคยเข้าห้องมันเลยนะ ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง เพราะมาบ้านมันทีไรก็แค่เข้ามาในบริเวณบ้านเท่านั้น

พอเข้ามาในห้อง อืมก็ใหญ่โตสมฐานะของเขาละครับ มีรูปหลายรูปและมีรูปผมด้วย ดูมันคลั่งผมเอามากๆเลยนะ ไอ้หมีตาปรือแล้วครับ มันหาที่นั่งได้ก็เอนตัวแผ่กับพื้นเลย

“เฮ้ยหมี เดี๋ยวกูหาที่นอนมาปูให้ มึงอย่าเพิ่งนอนดิ”ไอ้เฟียสกุลีกุจอออกจากห้องไปอีกห้องหนึ่ง ครู่หนึ่งได้ที่นอนมาให้ไอ้หมี

“ไม่ไหวแล้ว พวกมึงจะทำอะไรก็ทำนะ ก็ง่วง”ไอ้หมีพอได้ที่นอนก็ อืม กลิ้งสบายใจเฉิบ

“ใครจะทำอะไรวะ ขยับไปกูนอนด้วย”ขอเบียดๆไอ้หมีนอนแล้วกันครับ

“มึงนอนบนเตียงกับไอ้เฟียสไปดิ มาเบียดอะไรกูวะ ที่นอนมันก็แค่นี้”

“อย่ากวนประสาทกูไอ้หมี”ใครจะไปนอนกับมันล่ะครับ มันเขินๆนะ

“นอนบนเตียงก็ได้นะแต๊ง อย่าเบียดหมีเลย”ไอ้นี่ก็นะ เห็นกูใจอ่อนหน่อยไม่ได้

“เออ นอนก็นอนวะ”จะกลัวอะไรล่ะครับ แรงผมกับแรงมันไม่ต่างกันเท่าไหร่ อีกอย่างมันต้องตามใจผมอยู่แล้ว ถ้าไม่ตามใจเดี๋ยวกูได้ก้านคอ พักหนึ่งไอ้เฟียสไปปิดไฟห้องแล้วนอนใกล้ๆผม ตื่นเต้นนิดหนึ่งครับ ถึงแม้จะเคยไปเก็บตัวข้างนอกและนอนด้วยกันบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ไม่ได้นอนในฐานะเพื่อนร่วมทีมแต่นอนในฐานะแฟนกัน

“ขอบคุณมากนะ”มันตะแคงแล้วจับมือผมข้างหนึ่ง “ผมไม่คิดว่ามันจะเซอร์ไพรส์มากขนาดนี้ เออ อยากรู้ว่าทำไมถึงได้ยอมคบกับผมทั้งที่ก่อนหน้านี้”

“มันถึงเวลาแล้ว”

“ก็คิดว่าอีกนาน ดีใจอ่ะแต๊ง มันเป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดในชีวิตผมเลยนะ”เริ่มพล่ามแล้วละไอ้หล่อมึง ส่วนผมชักจะง่วงๆ เหนื่อยมาก อยากนอน ตอนนี้ไอ้หมีคงหลับไปแล้ว

“นอนเหอะ กูไม่ไหวละ ง่วงมาก”

“อืม”

“อยากกอดไหม”

“อืม”

“อืมนี่คืออะไร”

“อยากกอดครับ ขออนุญาตนะ”ว่าแล้วมันก็รีบปรี่มากอดผมอย่างไว

“กอดอย่างเดียวนะ ห้ามยั่วโมโห”

“ยั่วโมหื่นได้ป่ะ”

“เดี๋ยวเรื่องดีๆมันจะกลายเป็นเรื่องซวย ฮ้าว นอนๆ”ผมก็นอนให้มันกอดไปทั้งอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้อ่อยนะ ก็แค่อยากให้มันสมหวังบ้าง เอิ้กกกกก


๐๖.๑๕
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีใครมากอด เกือบจะศอกไอ้คนข้างหลังแล้วครับถ้าไม่คิดได้ซะก่อนว่ามันเป็นแฟนผม ผมค่อยๆขยับตัวแล้วลุกขึ้นนั่งมอง เออ ตอนหลับมันก็ดูกวนๆดีนะ

“ตื่นแล้วเหรอ”

“ยังมั้ง”

“อยากมอนิ่งคิสจัง”

“มันคืออะไร”

“ก็จูบกันตอนเช้า”

“เลอะเทอะ”

“รู้ว่าใจแข็ง ลองขอไปดูเล่นๆ”พูดแล้วก็เอาแขนก่ายหน้าผากจะหลับต่อ

“เอาไว้อาบน้ำแปรงฟันก่อนแล้วกันจะให้จูบ”ผมก็พูดเล่นๆ

“จริงดิ งั้นรอแปบนะผมไปอาบน้ำก่อน”มันทะลึ่งพรวดขึ้นมา ผมนี่หัวใจจะวาย อะไรจะขนาดนั้น

“ไอ้บ้า ยังไม่ใช่เวลานี้”

“อ้าว แต่ผมอยากจูบ นะๆ ขอเป็นของขวัญอีกอย่างหนึ่ง แล้วผมจะไม่ขออะไรเลย”

“ให้มันแน่แล้วกันนะมึง ไอ้ที่ไม่ขออะไรเนี่ย ไม่ใช่คบๆไปแม่งขอให้กูเอามึงนะ”

“หึหึ ผมไม่ขอแบบนั้นหรอก แต่ผมจะขอ...กับแต๊งต่างหาก”

“คิดไปไกล นี่ยังไม่ถึงไหนเลยคิดข้ามฉากไปแล้วนะมึง”

“ขอโทษครับ ว่าแต่ อาบน้ำเสร็จแล้วขอจูบนะ”

“มึงจะขอแค่นั้นเหรอเฟียส ไหนๆก็ไหนๆจับทำเมียเลยดิ”ไอ้หมีเสนอความเห็น อ้าว ตื่นเมื่อไหร่วะ

“มึงอ่ะมาเป็นเมียไอ้เฟียสเลย ชอบยุกูดีนัก”

“ไม่อ่ะ กูมีเมียแล้ว”ไอ้หมียิ้มย่อง ตามึงเยิ้มมากไอ้หมู

“เฮ้ย พูดจริง มีเมื่อไหร่วะ”ไอ้เฟียสดูท่าสนใจมากเลยครับ เดินไปนั่งบนเตียงฝั่งไอ้หมี ส่วนไอ้หมูอ้วนมันนอนหงายก่ายหน้าผาก

“บอกไปดิไอ้หมีว่ามึงมีผัวแล้ว”ผมยุไอ้หมีบ้าง

“ใครจะเป็นเมียเหมือนมึงวะ เป็นผัวดิ เออ แล้วตกลงว่าเมื่อคืนเสร็จกันไปยังวะ กูหลับลึก”

“อย่าเพิ่งข้ามขั้นเลยหมี แค่แต๊งเป็นแฟนกูก็ดีใจตายห่าอยู่แล้ว ถ้าเป็นวันไหนเดี๋ยวมึงก็ได้รู้อ่ะ”

“เพราะไอ้แต๊งขาถ่างใช่ไหม”ไอ้หมียิ้ม

“ไอ้เขียด ไอ้หมู วอนตีนแล้วพวกมึง ใครจะเป็นเมียไอ้เฟียสวะ มึง”ชี้หน้าพวกมัน มันน่าเตะจริงๆ

“ขอโทษ อย่าหงุดหงิดดิ วันนี้วันเกิดผมนะ”

“แววกลัวเมียมันโผล่ตั้งแต่วันแรกเลยเว้ย หึหึ อย่าเรียนวิศวะแล้วกันนะมึง เดี๋ยวเกียร์มัว ฮ่าๆๆๆ”

“ไม่ได้กลัวเว้ย ให้เกียรติ เนอะ”มันพยักหน้าให้ผม

“เออ จะกลัวกูทำไม เพราะกูไม่ใช่เมีย มึงต่างหากไอ้เฟียสต้องเป็นเมียกู”

“อย่าเลยแต๊ง เอาเป็นว่าวันนั้นค่อยตัดสินกันเนอะ ขอหอมได้ไหม”

“ตีนกูนี่ กูกลับบ้านดีกว่า ป่ะหมี”

“มึงอ่ะต้องอยู่ช่วยเขา ส่วนกูจะมากินตอนเย็น หมู ๕ โลจะพอสำหรับกูป่ะวะ มึงทำอะไรกินอ่ะเย็นนี้”หันไปถามไอ้เฟียส

“ก็หมูกระทะ เบียร์ หลายอย่างมั้ง แล้วแต่แม่จะจัดให้อ่ะ ตอนนี้กูอิ่มใจกินอะไรไม่ลง เกิดมาเพิ่งจะมีแฟนกับเขา ดีใจอ่ะ นะแต๊ง ขอหอมทีหนึ่ง”

“กวนประสาทจริงมึง เดี๋ยวถึงเวลาค่อยว่ากัน คิดว่ากูไม่อายรึไง คนอื่นอยู่ต่อหน้า”

“มึงก็ทำๆไปเหอะ มากกว่านี้เรายังเคยทำกันแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ทำอะไรวะหมี”ไอ้เฟียสสนใจ

“แก้ผ้าชักว่าว”

“หุบปากเลยไอ้หมี ไอ้ห่า กูก็แค่อยากลองหนังโป๊แผ่นใหม่เท่านั้นเอง”

“เหรอ แล้วใครใหญ่กว่า”

“เท่ากันมั้ง ใช่ป่ะหมี หรือว่าของมึงเล็กกว่าวะ”

“เออ คนอ้วนๆมันจะเพิ่มส่วนอื่นมากกว่าส่วนนั้นนะ”

“หุบปากเลยพวกมึง กูไม่ด้อยกว่ามึงแล้วกันไอ้เฟียส เออ แล้วนี่คุยกันเรื่องอะไรวะ โว๊ะ ไปๆ กูกลับบ้านก่อน ไม่ได้บอกแม่เลย เดี๋ยวสายๆจะมาช่วยล้างผักหมักหมูนะ”

“โอเคๆ”

“จุ๊บ กูไปละไอ้ทะลึ่ง”เดินไปจับหน้าไอ้เฟียสหอมแก้มให้สมใจอยากมัน ไอ้ห่านั่นตาโตเลยครับ จับแก้มตัวเองแล้วหน้าแดง ส่วนผม รีบออกนอกห้องทันที กูก็ทำไปได้นะ


ผมกับไอ้หมีกลับมาถึงบ้าน ป้าพิมพ์ถามใหญ่เลยครับว่าไปไหนทำอะไรยังไง แล้วคิดเหรอว่าจะปกปิดป้าพิมพ์ได้ เวลาดุนี่เอาเรื่องเหมือนกันอ่ะ ผมก็เลยต้องสารภาพทั้งหมดว่าไปทำอะไร ไม่เล่าไม่ได้ครับ อยากร้องไห้

“เอ้า เงินเอาไปซื้อของขวัญ”ให้ผมกับไอ้หมีคนละพัน หึหึ ถึงจะบ่นแต่ยังใจดี “แรดแต่เด็กพวกอ่ะพวกนี้ ฉันล่ะหน่ายจริงๆ”

“อะไรอ่ะป้า วัยรุ่นใสๆ ป๊อปปี้เลิฟ”

“ย่ะ แต่คบผู้ชายก็ดีป้าไม่ต้องกังวลว่าเราจะไปทำใครท้อง กลัวเรียนไม่จบ”ป้ายืนขำ

“ป้า”อยากร้องไห้จังเลย

“ฮ่าๆๆๆ”

ทั้งวันผมอยู่บ้านครับ เพราะแม่กับพ่อนั่งถามผมใหญ่เลยครับเรื่องไปขอไอ้เฟียสเป็นแฟน เพราะป้าพิมพ์แท้ๆถามจนผมต้องเปิดปากพูด

“พ่อแม่เขาไม่ว่าอะไรใช่ไหม”พ่อถามหน้าเครียด

“ไม่แน่ใจอ่ะพ่อ แต่เมื่อคืนก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ”

“แล้วแน่ใจนะว่าเราจะเป็นแบบนี้”

“พ่อไม่ชอบเหรอ”

“ก็ถามเพื่อความแน่ใจ อยากเป็นอะไรก็เป็นไปสิ ยังไงเอ็งก็เป็นลูกเหมือนเดิม”

“ครับ หนูก็ไม่แน่ใจ อนาคตมันกำหนดไม่ได้อ่ะพ่อ ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวอะไรๆมันก็คง อืม ก็ตามนั้นแหละพ่อ ถ้ามันไม่ใช่ก็เลิกกัน แต่ถ้ามันโอเคก็ไปเรื่อยๆ”

“แล้วแม่เขาล่ะ”

“ยังไม่เจอเลยพ่อ น่าจะเย็นนี้มั้ง”

“อืม ทำตัวดีๆแล้วกัน พ่อก็กังวล พ่อแม่เขาคนใหญ่คนโตไง แต่พ่อก็ไม่อะไรมากหรอก เลี้ยงลูกเลี้ยงได้แต่ตัว ใจอยากเป็นอะไร ใฝ่ฝันอะไรเราก็ทำหน้าที่ของเราไป”

“ครับ”ว่าแล้วก็กอดพ่อหน่อย ส่วนแม่ไม่ว่าอะไรครับ เพราะเชียร์ผมมาตลอดเหมือนไอ้หมีอ่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 19-10-2015 17:02:24
ปี้นๆ เสียงแตรดังจากหน้าบ้าน ใครวะ ผมก็คิดว่าคนอื่น พอครู่หนึ่งมีคนเดินเข้ามาในบ้าน ไม่ใช่ใคร แฟนสดๆใหม่ๆของผมเอง มาทำไมวะ

“พ่อ แม่ สวัสดีครับ”

“ใครพ่อเอ็ง”ไอ้ทำหน้าเข้มเสียงดุ

“เอ่อ”ไอ้เฟียสหน้าซีด

“มาทำไม”

“คือ มาชวนแต๊งไป”มันตอบแบบอึกๆอักๆ

“ไปไหนก็บอกมาสิ ติดอ่างเหรอ”เอาแล้ว พ่อขึ้นเสียงแล้ว เมื่อกี้ยังคุยดีๆอยู่เลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้นะ

“มาชวนแต๊งไปทำบุญครับ พ่อให้ชวนคุณพ่อคุแม่ของแต๊งไปด้วยครับ”

“ไม่ไป ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้รู้จักกันมาชวนได้ไง”

“พ่อ”ผมสะกิดพ่อ ทำไมพูดแบบนั้นนะพ่อกู

“คุณพูดอะไรแบบนั้น”แม่ผมถามพ่อด้วยความสงสัย

“ได้ข่าวว่าชอบแต๊งเหรอ”

“ครับ”

“คบกันแล้วด้วย”

“ใช่ครับ”

“ทำอะไรปรึกษาผู้ใหญ่บ้างไหม เมื่อก่อนไม่ว่าอะไรนะ แต่นี่เป็นแบบนี้ได้ไง”

“พูดอะไรอ่ะพ่อ ก็เมื่อกี้”ผมสะกิดพ่ออีกครั้ง

“เมื่อกี้อะไร เงียบเลยเอ็ง ทำตัวแบบนี้ไม่รู้เหรอว่าข้าก็เสียใจเป็น เอ็งด้วย ทำแบบนี้ไม่รู้เหรอว่าพ่อแม่เขาจะคิดยังไง”มองหน้าไอ้เฟียสเขม็งเลย

“ก็...”เกิดช่องว่างระหว่างวัย เอ๊ย มันเหมือนมีอะไรมืดๆมาขวางอยู่อ่ะ พ่อเงียบ ไอ้เฟียสเงียบ ส่วนผมอึ้งนะสิ ไม่คิดว่าพ่อจะพูดแบบนี้







“ฮ่าๆๆๆ โธ่เอ๊ย แค่นี้ก็ใจฝ่อไปได้ มาๆ นั่งๆ มีอะไรอ่ะเรา”

“อ้าว นี่พ่อแกล้งเหรอ”ไก่ตาแตกผมไม่รู้มันเป็นยังไง แต่ผมนี่สิ มึนมาก มันยิ่งกว่าไก่ตาแตกละมั้ง

“เออ ไม่ได้เรื่องเลยเอ็ง ไม่มีความมั่นใจเลย ทีคบกันมันขอคบกันยังไงวะ เออ เข้มแข็งดิ ว่าแต่ทำบุญกี่โมงอ่ะ”

“ก็จะไปถวายเพลครับ แฮะๆ เมื่อกี้ใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม หัวใจจะวาย”

“เออ พ่อหยอกเล่นหรอกน่า อย่าไปจริงจัง แล้วนี่พ่อกับแม่ต้องไปด้วยเหรอ”

“ครับ พ่อแม่ของเฟียสอยากให้ไปครับ จะได้ทำความรู้จักกัน”

“เกรงใจว่ะเอ็ง พ่อเอ็งคนใหญ่คนโต พ่อก็แค่ตำรวจปลายแถว”

“พ่ออย่าคิดแบบนั้นสิครับ พ่อเฟียสอยากรู้จักพ่อของแฟนเฟียส ไม่ได้อยากรู้จักที่พ่อเป็นตำรวจนี่นา”

“เออ มันก็ถูก เดี๋ยวแปบนึง ไปแต่งตัวหล่อๆแปบ คุณก็แต่งตัวสวยๆด้วยนะ งานแต่งไอ้แต๊งมัน ขันหมากเขาเอามาเท่าไหร่ก็ไม่รู้เนี่ ย๑๐ ล้านได้รึเปล่าก็ไม่รู้”เอาแล้วพ่อผม

“แต๊งเอาสินสอดเท่าไหร่”ไอ้เฟียสถามหน้าระรื่น

“พันล้านอ่ะ”

“แฮะๆ ลดหน่อยได้ไหม”

“โห พ่อแม่กูเลี้ยงมาดีนะเว้ย ข้าวนี่ข้าวอินทรีย์ ไก่บ้านเลี้ยงไม่มีสารเร่งเนื้อแดง ผักนี่ปลูกในห้องควบคุมอุณหภูมิ อ๊ะๆ เห็นแก่หน้าขี้เหร่ๆแบบมึง ลดให้เหลือพันห้าก็ได้ ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆๆ”

ครู่หนึ่งพ่อแม่ผมแต่งตัวดูดีมาเลยครัย ส่วนผม เอ่อ ลืมไปว่าต้องแต่งตัวดีๆ ก็เปลี่ยนชุดแปบเดียวครับ เอาชุดที่เหมาะสมไม่เท่เกินไปเดี๋ยวหล่อกว่าใครหลายๆคน หึหึ จากนั้นไอ้เฟียสก็เป็นคนขับรถพาไปที่วัดเลยครับ ไอ้หมีล่วงหน้าไปก่อนผมแล้ว เร็วมากอ่ะรายนั้น

ไปถึงผู้ใหญ่ก็คุยกันดีครับ ส่วนผมเขินๆเพราะแม่ไอ้เฟียสก็สวยมากอ่ะ แล้วมีพี่ๆ เออ มีไอ้ตัวดื้อด้วยครับ นั่งตักผมไม่ยอมลุกไปไหนเลย

“วันนี้น้องวินจะกินเค้กของน้าเฟียสเยอะๆเลย”นั่งโม้กับผมไม่หยุดครับ

“ไม่แบ่งน้าบ้างเหรอ”

“แบ่งครับ แต่น้องวินจะทานเยอะกว่า”

“อ้าว แล้วคนอื่นเขาจะทานอะไรอ่ะถ้าวินทานคนเดียว”

“ก็มันเป็นชิ้นใหญ่ไง แต่น้องวินจะทานชิ้นใหญ่ที่สุด”

“แล้วอย่างอื่นไม่ทานเหรอ มันมีหลายอย่างเลยนะ”

“อืม ต้องทานนิดเดียวเหรอน้าแต๊ง”

“แล้วแต่ แต่ถ้าอยากทานอย่างอื่นด้วยก็ต้องทานเค้กนิดหน่อย ทานอันนั้นนิดหน่อย อันนี้นิดหน่อย”

“เหรอครับ เดี๋ยวน้องวินไปถามแม่ก่อน”โล่งอกไปที ถึงแม้จะอยากมีน้องแต่ป่วนๆแบบนี้มันก็ไม่สนุกนะ ไอ้เฟียสคลานมานั่งข้างๆผมและคุยเบาๆ วันนี้มีญาติๆเขาหลายคนครับมาทำบุญด้วยกัน ผมรู้สึกเขินๆนะ คือญาติๆก็ ผู้หลักผู้ใหญ่ ตำแหน่งไม่ใช่น้อยๆ ตำรวจบ้าง ข้าราชการอื่นๆระดับสูงๆอ่ะ ส่วนผมมันแค่ไอ้เด็กกิ๊กก๊อก

พักใหญ่ก็เสร็จงานนั่งรถกลับบ้านครับ ผมต้องไปช่วยที่บ้านไอ้เฟียส ส่วนพ่อแม่ผมก็ไปนั่งสบายใจเฉิบที่บ้านละ ช่วยก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ไปช่วยเล่นกับน้องวิน เล่นไปเล่นมา หลับครับ หลับคาโซฟา น้องนอนพื้น พี่นอนด้านบน เอาซิ แม่เขาเห็นคงมีโวยวายอ่ะ

แล้วก็จริงด้วยครับ แม่เขามาเจอดุลูกชายใหญ่เลยครับ แล้วคิดเหรอว่าไอ้ตัวเล็กจะยอม เถียงแม่เก่งมาก

“น้องวิน พูดไม่ฟังนะเรา”

“ก็แม่ชอบดุน้องวินทำไม”

“เฮ้อ มันดื้อได้ใครวะเนี่ย”

“เชอะ เล่นกับน้าแต๊งดีกว่า”แล้วปีนมานั่งตักผม

“คนดื้อ ไม่อยากเล่นด้วยหรอก”ผมต่อว่าเด็ก

“น้องวินไม่ดื้อนะ”

“ไม่ดื้อได้ไง เถียงแม่เมื่อกี้อ่ะ”

“ไม่ได้เถียงสักหน่อย”

“เสียงดังอ่ะวิน”ไอ้เฟียสทำเสียงเข้ม

“น้องวินไม่ได้เสียงดังสักหน่อย”

“มีเถียงอีกเรา”กอดอกทำหน้าดุ

“ไปเล่นที่อื่นดีกว่า มีแต่คนดุเลย”ไม่ไปคนเดียวมีดึงผมไปด้วย เฮ้อ

จากนั้นผมก็ไปวุ่นๆเขาเรื่อยเปื่อย จนถึงตอนเย็นครับ ผมกลับไปอาบน้ำที่บ้าน คิดไปคิดมา กูไม่น่าขอมึงเป็นแฟนเมื่อคืนเลยว่ะ แม่งโคตรเหนื่อย หัวใจจะวายหลายครั้งเพราะเวลาผู้ใหญ่ถามว่าใคร ไอ้หล่อมันจะบอกว่าแฟน ก็โดนซักประวัติอ่ะดิผมอ่ะ กูคิดผิดจริงๆ รู้งี้บอกวันหลังดีกว่าว่ะ

อาบน้ำเสร็จไอ้เฟียสโทรตาม กูไปดึกๆได้ป่ะวะ เหนื่อยมาก มันคุยไม่กี่คำ แม่ก็มาย้ำ เอาล่ะสิ ผู้ใหญ่ขอมา ผมก็ขัดไม่ได้ ตกลงว่า ผม ไอ้หมี ป้าพิมพ์ พ่อแม่ผม ไปพร้อมกัน นี่เงินพันบาทที่ป้าพิมพ์ให้มายังคิดไม่ออกเลยว่าจะซื้ออะไร ไว้วันหลังแล้วกันครับ

“หิวรึยัง”

“มึงหิวมึงเดินไปกินเลยไอ้หมี ไม่ต้องชวนกู”

“กูว่ากูอ้วนขึ้นอีกแน่เลย”

“มันจะขึ้นสักเท่าไหร่เชียว”

“ไม่รู้แต่มันก็ลดไปเยอะแล้วนะ เกือบ ๑๐ โล”

“งั้นก็กินน้อยๆ”

“มึงดูดิ มันจะกินน้อยได้ยังไงวะ มีแต่ของอร่อย”

“เออว่ะ”

“ลมอะไรหอบมาอ่ะพี่แต๊ง”รุ่นน้องถามเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปร่วมวง

“ลมหนาวมั้ง มีอะไรน่ากินบ้างวะ”

“มีเยอะเลยพี่”

“แต๊ง ทานอะไรรึยังลูก”คุณแม่คนสวยของไอ้เฟียสเดินยิ้มมาถาม สวยและใจดีมากเลยครับ มิน่าไอ้เฟียสมันถึงได้หน้าตาดี แม่พิมพ์เขาดีนี่เอง

“ยังครับ”

“ป่ะ ไปหาอะไรทานกัน”ว่าแล้วก็ถูกลากไป ไปถึงก็เจอผู้ใหญ่ ผมเป็นโรคกลัวผู้ใหญ่นะ ฮ่าๆๆ กลัวเขาดุ แต่อย่างน้อยมีแม่อยู่ด้วย อุ่นใจนิดหนึ่ง ใครที่รู้ว่าผมคบไอ้เฟียส ผมไม่รู้เขารู้สึกยังไงนะ ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น คือทีแรกคิดว่า เออ บอกแค่ไอ้เฟียสก็พอแล้ว ส่วนผู้ใหญ่ค่อยว่ากันทีหลัง เอาไว้สักหลายๆปีค่อยมาบอกว่าเราคบกัน นี่ยังไม่ถึงไหน ญาติฝ่ายเฟียสรู้ไปตั้งหลายคนแล้ว ส่วนผมพ่อแม่ ป้าพิมพ์ก็รู้แล้ว มันเหมือนระเบิดอ่ะ ที่ตู้มลูกนี้แล้วลูกอื่นๆมันก็ตู้มไปด้วย ผมไม่ทันได้ตั้งตัวตั้งใจอะไรเลยสักนิดเดียว

“อะไรอ่ะแม่ นี่รู้จักกันแค่วันเดียวกลายเป็นลูกรักไปซะแล้ว”ไอ้เฟียสเดินมาแซวแม่ของตัวเอง เอากับมันสิครับ อิจฉากันได้

“แหม่ คุณลูกชาย ยังไงคุณลูกชายก็สำคัญเสมอนั่นแหละค่ะ แต่แฟนคุณลูกชายมันสำคัญกว่าก็เท่านั้นเอง”แม่หยิกแก้มไอ้เฟียส น่ารักมากเลยครับ “พอๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้ แม่รู้ว่าข้าวใหม่ปลามัน ห่างกันไม่ได้ อ่ะๆ จะสังสรรค์กันเถอะเด็กๆ แม่ๆจะนั่งอยู่แถวนี้แหละ เออ บอกเพื่อนๆด้วยนะเฟียส ถ้าเมาอย่าขับรถ ใครเมาเดี๋ยวแม่จะยึดกุญแจรถไว้ ใครห้าวเดี๋ยวแม่เตะก้านคอ”

“โหดอ่ะแม่”

“มันต้องแบบนี้แหละพวกแกอ่ะ แม่รู้ วัยรุ่นมันเลือดร้อน อ่ะ ตามสบายลูก”

ว่าแล้วผมก็ออกจากวงเดินไปทักคนนั้นทีคนนี้ที ไอ้หมีนั่งคุยกับคนอื่น กินไปคุยไป ส่วนผมไอ้เฟียสตามต้อยๆ

“กลัวกูหนีกลับบ้านรึไง ตามอยู่ได้”มันไม่ชินน่ะ ปกติไปไหนมาไหนกับไอ้หมีมาตลอด

“ก็อยากอยู่ใกล้ๆ”

“เออ ไม่หายหรอกน่า มึงก็ไปพูดกับคนอื่นบ้างดิ เขามางานวันเกิดมึงนะ ไม่ได้ฉลองปีใหม่ เจ้าภาพอ่ะ เข้าใจป่ะ”

“ก็อยากอยู่ใกล้ๆนี่นา”มันทำหน้าอ้อน ผมจึงเตะมันไปหนึ่งที เตะเบาๆนะ หยอกๆมัน แล้วก็ลากมันไปทักทายชาวบ้าน เฮ้อ วันแรกก็เอาเรื่องแล้วมึง สาธุ ขอให้ตามต้อยๆแบบนี้ตลอดไป ไม่ใช่พอสักระยะแล้วเบื่อกู ต้องให้กูตามง้อนะสัส กูไม่เอาด้วยหรอก

“พี่เฟียสตกลงว่ายังไงอ่ะพี่ ตามพี่แต๊งไม่ห่างเลยว่ะ นี่กะจะขอเป็นแฟนในงานวันเกิดเหรอพี่ ตามตื๊อพี่แต๊งมากี่ปีแล้วพี่ ถอดใจบ้างเถอะ”

“พูดมาก เดี๋ยวเตะเลยมึงไอ้จั๊ม”ไอ้เฟียสขู่

“พี่แต๊งอ่ะ เมื่อไร่จะใจอ่อนอ่ะพี่”

“เรื่องของกู กูไม่ได้ใจง่ายเหมือนมึงนี่”

“อะไรพี่”

“อย่าเลยจั๊ม กูรู้ว่ามึงแอบกินตับกับไอ้ต๊อดอยู่อ่ะ”ผมพูดส่งเดชไปงั้นแหละ พวกนี้มันก็ทะเล้นไปเรื่อย

“ไปเรื่อยอ่ะพี่ ไม่มี”

“เสียงสูงแบบนี้มันน่าสงสัย”

“พวกนี้มันไม่นด้วยหลักฐานมันไม่ยอมพูดหรอก”ไอ้เฟียสพูดบ้าง แสดงว่ามันต้องมีมูล แต่เซ้นส์กูนี่ใช้ได้เหมือนกัน หึหึ ชอบผู้ชายวันแรกก็เอาเรื่องซะแล้วกู มีเซ้นส์

ผมนั่งกินเรื่อยเปื่อย เจ้าของวันเกิดเดินไปทั่ว ที่มางานวันนี้หลายคนมากเลยครับ ไหนจะรุ่นน้องชมรมฟุตบอล เพื่อนร่วมห้อง คนรู้จัก ร่วมๆร้อยคนมั้ง หรือบางทีน่าจะมากกว่านั้น ระหว่างที่มันเดินไปคุยกับคนอื่นผมก็นั่งกินกับไอ้หมี ไอ้หมีมันกินเรื่อยๆ กินไปบ่นไปว่ากลัวอ้วน

“ไม่หวงแฟนมึงหน่อยเหรอ”ไอ้หมีกระซิบเบาๆเมื่อไอ้เฟียสถูกหลายๆคนรายล้อม แหงล่ะสิ กินอิ่มแล้ว ได้เหล้าเบียร์กรอกปากเข้าไป มันเลื้อยได้

“กูไม่กังวลเรื่องนี้ กูว่ามันจัดการตัวเองได้”ผมรู้สึกหวงนะ แต่คิดว่ามันควบคุมตัวเองได้ มันคงไม่กล้าทำอะไรหรอก ผมอยู่ทั้งคน “มึงอยากกินเบียร์ไหม”

“ไม่อ่ะ ไม่ชอบ กูชอบหวานๆ ขมๆไม่ชอบ มึงอยากกินเหรอ”

“ไม่อ่ะ แม่อยู่ไม่กล้ากิน”

“น้าหมอนคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง”

“อือ”พยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็ไปมั่วๆกับคนอื่นครับ มีชนแก้วบ้าง ผมปฏิเสธบ้าง ไม่อยากกิน มันขม ผมไม่ชอบด้วย ส่วนคนอื่นตอนนี้เต็มที่ของมันไปครับ ของชอบของพวกมันนี่นา

๒๑.๑๕ น.
รู้สึกว่าตัวเองจะเริ่มกึ่มๆ จึงมานั่งคุยกับไอ้หมี ไอ้หมีนั่งตบมือร้องเพลงของมันไป กินบ้างร้องบ้าง ส่วนผมกินไปหลายแก้วแล้ว ไม่ไหวแล้วล่ะครับ ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็ยังนั่งกินของเขาไป พ่อผมกับพ่อไอ้เฟียสนั่งจิบเบียร์คุยกันเฮฮาเหมือนรู้จักกันมานาน ๑๐ ปี

“ขอโทษนะที่มัวแต่สนใจเพื่อน”ไอ้หล่อมันลากสังขารมานั่งข้างๆผมล่ะครับ

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ เมายังวะ”มองหน้ามันตอนนี้ก็แดงก่ำ ดูท่าน่าจะเมาแล้ว

“อืม ก็กึ่มๆอ่ะ”อ้าว ผมก็คิดว่ามันจะตอบว่าไม่เมา พวกคนเมามันจะปากแข็ง

“อืม ไปดูเพื่อนๆต่อก็ได้ ถ้าเมาก็อย่าใจง่าย”

“ไม่หรอก ผมรู้ว่าแต๊งหวง”

“หึหึ บางทีอาจจะไม่หวงก็ได้”

“ไม่เชื่อหรอก ขนาดวันติวก่อนนั้นที่แต๊งมานั่งให้ผมกอด ผมก็รู้ว่าแต๊งหวงผมมากแค่ไหน”

“นะ ถ้ารู้ว่าหวงงั้นก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าให้ต้องโมโห โอเคป่าว”

“ครับผม ชนแก้วกับผมสักครั้งดิ”

“ไอ้ขี้เมา”ว่าเขาแต่เราก็รับแก้วมา รินเบียร์ค่อนแก้วแล้วชน

“ผมจะบอกคนอื่นได้ไหมว่าเราเป็นแฟนกัน”

“ไม่ต้องเลย ปล่อยให้พวกมันสงสัยไปงั้นแหละ”

“แต่ผมอยากให้คนอื่นรู้นะ”

“เชื่อกูดิ เอาไว้ให้มันผ่านไปสักระยะก่อนไม่ได้เหรอ”

“แต่พ่อแม่กับญาติก็รู้ไปหลายคนแล้วนะ”

“ฟังกูนะ ที่ยังไม่อยากบอกตอนนี้เพราะเพื่อความแน่ใจว่าเราจะไปกันรอด จริงๆกูยังไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้ด้วยซ้ำเพราะกลัวใจตัวเองว่าจะไปกับมึงไม่รอด แต่มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ส่วนเพื่อนๆขอเหอะ ให้พวกมันรู้ทีหลัง”

“ครับ แต๊งว่างั้นผมก็ว่าตาม”

“ดีมาก เชื่อฟังกู เป็นเด็กดีนะมึง”ผมลูบหัวไอ้ตัวยุ่ง

๒๓.๓๗ น.
ดึกแล้ว บางคนที่เมา กลับบ้านยังไหวก็พากันกลับ ไอ้หมีเองก็ขับรถไปส่งคนนั้นทีคนนี้ที ส่วนผมอยากจะไปส่งแต่ว่าพ่อห้ามเอาไว้ พ่อไอ้เฟียสนะครับ ไม่ใช่พ่อผม ผมจึงต้องมานั่งแกร่วแล้วช่วยลากบางคนที่เมาหนักเข้าไปในตัวบ้าน ไอ้เฟียสเองตอนนี้ขึ้นไปอาบน้ำแล้วครับ มันกินเยอะนะ แต่ยังทำอะไรได้เอง พอลากคนมาได้แล้ว พ่อแม่ผมก็กลับบ้าน คนอื่นเขาก็ไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ไอ้หมีกลับมา มันก็ไปอาบน้ำ ไอ้นี่มันหอบผ้าเช็ดตัวมันมาด้วยครับ ส่วนผมก็ใช้ของไอ้เฟียส แต่เป็นผืนใหม่นะครับ ไม่กล้าใช้ร่วมกันหรอก เขินๆ พออาบเสร็จไอ้หมีมันก็นอนพื้น ส่วนไอ้เฟียสหายไปไหนไม่รู้ ก็รอสักพักไม่เห็นมันขึ้นมา ผมจึงลงไปดูว่าหายไปไหน

แล้วก็มาเจอมันอยู่มุมมุมหนึ่งกับชายคนหนึ่งครับ เทวดาของโรงเรียนเรานี่หว่า เห็นเกาะหนึบไอ้เฟียสอยู่หลายครั้งแล้ว ตอนนี้คุยจับมือถือแขนกัน ผมเห็นก็โมโหนะ

“เป้ มันไม่ดีนะ กูว่ามึงปล่อยกูดีกว่า”

“ทำไมอ่ะเฟียส ก็เราชอบเฟียส”

“แต่เรา อุบ...”กูเดินไปจูบปากแม่ง

“ขอโทษนะ แฟนกู กูหวง”แล้วจูบอีกที

เฮ้อ บางทีการที่กูต้องคบคนหน้าตาดี มันก็มีความเสี่ยงต่ออาการหึงหวงนะ ก่อนหน้ากูสู้กับหัวใจของตัวเอง แต่คราวนี้กูต้องมาสู้กับพวกมารุมตอมแฟน เอาล่ะสิ ชีวิตไอ้แต๊ง มันดิบเถื่อนไปน้อยซะเมื่อไหร่เล่า


ตอนหน้าให้ไอ้หมีเล่านะครับ เรื่องผมมันจืดๆแล้วละ เอิ้ก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 19-10-2015 17:06:04
น่ารักตรงมีกลอนนี่แหล่ะ...
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-10-2015 17:43:37
แต๊งพูดชัดขนาดนี้แล้วหวังว่าเป้คงจะเข้าใจนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 19-10-2015 17:56:37
โรงเรียนมันมีหนุ่มๆชอบกันเยอะแหะ 55555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-10-2015 18:10:13
แต๊งพอรู้ใจตัวเองแล้วนะ เต็มที่เลย เฟียสเห็นแววเกลียมัวมาแต่ไกล
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-10-2015 18:32:35
  o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 19-10-2015 20:27:20
จ๊ะ แต๊งงงงงงงง ออกตัวแรงนะ ฮ่าๆๆๆ
ว่าแต่หมีจะเป็น "ผ" หรอโอ๊วววววว

ม๊ายยยยยย!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 19-10-2015 20:54:06
แต็งออกตัวเเรงเฟ่อออออ~~~  :katai5:  :katai5: :katai5: แหมๆๆๆๆ เมื่อก่อนทำเป็นปากเเข็ง ตอนนี้คือ.......(?) หึงแรงนะเรา

เฟียสโดนแน่ๆถ้าออกนอกลู่นอกทางอ่ะ :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 19-10-2015 20:56:10
 :HBD2:
สุขสันต์วันเกิดครับเฟียส อิอิ สุขสมหวัง
คริคริ
 :mew4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-10-2015 21:18:23
รอน้องหมีคิดถึงน้องภู
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 19-10-2015 21:35:21
ไม่ค่อยเลยนะ แต๊งนะ 555

อยากเห็นหมีหล่อแล้วว  :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 19-10-2015 21:40:28
แต๊งชัดเจนได้ใจมากลูกกกกกก :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 19-10-2015 21:41:05
พอยอมรับใจตัวเอง แต๊งนี่ชัดเจนมาก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 19-10-2015 22:02:11
น่าจะแยกเรื่องนะคะเราชอบที่มีตัวเด่นคู่เดียวจัง รอหมีกับภูนะคะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 19-10-2015 23:24:12
ร้ายมากกกกกกกกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 19-10-2015 23:28:03
เรื่องนี้สนุกดี
นี่เราพลาดไปได้ไงเนี้ย
เรื่องของหมีน่ารักดี
แอบลุ้นอยู่ตลอดเลย ว่าเมื่อไหร่หมีจะลดได้
ลดได้เท่าไหร่
แอบเอาใจช่วยเบาๆนะเนี้ย น้องภูนี่ก็อ่อยเหลือเกิน
เค้าเหมือนจะตกลงคบกันแล้วรึเปล่านะ
เราก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องกาพย์กลอนเท่าไหร่ แปลความก็ไม่ออก แฮ่ๆ
 :really2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-10-2015 00:16:49
แต๊งจัดเต็มมากลูก... ป้างี้ดีใจกับเฟียสเลย ในที่สุดเฟียสก็สมหวังกับรักครั้งนี้เสียที
แต่คิดดีแล้วเหรอลูกที่จะตั้งตนเป็นสามี แต๊งนี่แววเคะนอนมาเลยนะคะ
เดี๋ยวป้าต้องบอกให้เฟียสช่วยติวตัวต่อตัวให้เสียแล้ว แต๊งจะได้เข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น
(การออนท็อปไม่ได้หมายความว่าหนูกดเฟียสนะลูก - อุ๊ย! นี่ป้าหลุดพูดอะไรไป?!!)

รออ่านเรื่องของหมีกับแฟนค่ะ ^^ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 20-10-2015 00:50:06
แรงงงงงงงงงค่ะ
แต่เริ่ดมากๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-10-2015 02:45:08
มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจนะแต๊ง :katai5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 20-10-2015 02:45:50
ว้าวสุดยอดแต๊ง o13 :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 20-10-2015 08:19:46
น่ารักจังเลย แต๊ง+เฟียส  :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๙๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๖ หน้า ๑๐
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-10-2015 16:28:28
ของใคร ใครก็หวง รบกวนเป้จำข้อนี้ไว้ด้วย อย่ามาข้องแวะของคนอื่น เดี๋ยวจะได้กินฝ่าเท้า

ป้าถือว่าแต๊งชัดเจนมากๆ เลยลูก เป็นอย่างนี้ต่อไป ตอนนี้ก็ต้องมาลุ้นเรื่องของหมีแล้วสินะ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 20-10-2015 18:57:41
โคลงที่ ๑๗

หลังจากปิดเทอมเรียบร้อยแล้วผมก็กับบ้านยาย ไปอยู่นั่นหลายวันเหมือนกันครับ ที่บ้านยายก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำหรอกครับ ตามประสาบ้านนอกบ้านนา ช่วงนี้ข้าวเพิ่งตั้งท้อง ก็ได้แค่เดินเก็บบรรยากาศฟินๆแบบสโลว์ไลฟ์

แล้วผมก็กลับบ้านมาตามปกติ อย่างที่ไอ้แต๊งมันกล่าวไปนะครับ คือผมเองเซอร์ไพรส์มากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่ามันจะทำแบบนี้ไง คิดว่าน่าจะแกล้งอีกสักพักใหญ่ๆ ให้มันร้อนใจกว่านี้ แต่จริงๆแล้วมันคงจะถึงจุดเดือดแต่มันปกปิดได้แนบเนียนมาก มากซะจนผมมองไม่ออก กว่าผมจะรู้ว่ามันทำอะไรก็ไปถึงบ้านไอ้เฟียสซะแล้ว

ช่วงมันขอเป็นแฟน ไอ้ผมนี่หยิบมือถืออย่างไว ที่จริงเตรียมจ่อรอถ่ายรูปถ่ายคลิปเอาไว้แล้วครับ แล้วก็ตามนั้น ผมนี่เขินแล้วเขินอีก ไอ้เฟียสถึงกับร้องไห้ เอากับมันสิครับ ๖ ปีของมึงมันสมหวัง มันคุ้มค่า มันเต็มภาคภูมิแล้วเว้ยเฟียส ผมถ่ายคลิปอยู่ประมาณสัก ๑๐ นาที จากนั้นก็เข้าไปนอนในบ้าน

วันถัดมามีการไปทำบุญวันเกิดและตอนเย็นมาการเลี้ยงฉลอง ผมนี่กินอย่างเดียว กลัวน้ำหนักจะขึ้นก็กลัวอยู่หรอก แต่ว่าของกินมาล่อตาล่อใจ เฮ้อ ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวกินน้อยๆ



๒๑ ตุลาคม ๒๕๕x
๐๐.๑๕ น.
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะปวดเยี่ยว มองดูบนเตียง เออ ให้มันได้อย่างงี้สิเพื่อน ไอ้แต๊งกอดไอ้เฟียสไว้กลมดิ๊กเลยครับ

“ไปไหนมาวะหมี”เข้ามาในห้องอีกทีไอ้เฟียสงัวเงียถามผม

“เข้าห้องน้ำมา จะฉึกๆกันป่ะ กูจะได้หาที่อื่น”

“บ้า ที่รักกูยังไม่อนุญาตเลย”

“เต็มปากเต็มคำเลยเนอะมึง”

“เออ ก็รอคำนี้มานานแล้ว”

“จะคุยกันอีกนานไหม”ไอ้แต๊งพลิกตัวหนีละครับ

“อยากเขกหัวให้กะโหลกร้าวจริงมึง”ผลักหัวกวนประสาทมันสักหน่อยครับ ทุกวันนี้ตั้งแต่มีคนถือหางเต็มไม้เต็มมือนี่ ใครจะหืออือกับมึนไม่ได้เลยนะ นี่แค่วันแรก เดี๋ยวเหอะ ถ้าเป็นแบบนี้หนักๆผมจะถีบเข้าให้สักวัน

ว่าแล้วก็นอนต่อครับ


๒๔ ตุลาคม ๒๕๕x
๐๗.๑๗ น.
เขาว่ามีหมอกลงมาบางๆหลายจังหวัดแล้ว ตอนนี้บ้านผมก็อากาศเย็นลงนิดหน่อย กลางวันแดดร้อน กลางคืนอากาศเย็น ก็แบบนี้อ่ะเมืองไทย

“มอนิ่ง”ไอ้แต๊งเดินยิ้มแฉ่งโชว์ฟันเหยินๆของมัน

“แต๊งกิ้ว ซิตดาวน์”แม่ผมตอบแล้วขำ “กินอะไรมายังอ่ะลูก”

“ยังครับป้า วันนี้มาฝากท้องที่บ้านป้าอ่ะ”

“อ้าว มึงท้องกับไอ้เหียสแล้วเหรอ โห แสดงว่าน้ำยามันดี”

“เดี๋ยวได้เตะโชว์ไอ้เตาแก๊สนะมึง โว๊ะ”

“หึหึ แบบนี้ทุกเช้าเลยนะเรา ๒ คนเนี่ย กับข้าวอยู่ในครัวอ่ะ เข้าไปดู หรือว่าจะกินข้าวมันไก่”

“ในครัวมีอะไรอ่ะป้า”

“ก็น้ำพริกปลาร้า”

“อ๋อ ของชอบเลย ลาภปาก”

“อ่ะ นี่เอาแตงกวาไปจิ้มด้วยลูก”แม่หยิบแตงกวาให้ ๒ ลูกครับ ไอ้แต๊งเข้าไปกินข้าวในครัวเรียบร้อย ส่วนผมก็นั่งรอลูกค้า พอลูกค้ามาผมก็สับไก่ แม่เป็นคนเสิร์ฟ

ช่วงนี้น้ำหนักผมขึ้นมาเป็น ๑๓๙ ครับ จากคราวที่แล้ว ๑๓๖ ขึ้นไวมาก นี่ขนาดกินไปนิดเดียว ผมคงต้องควบคุมให้มากกว่านี้แล้วละ ไม่น่ากินเยอะเลยเรา

ตั้งแต่ไอ้แต๊งมันเป็นแฟนกับไอ้เฟียส ดูมันสดชื่นขึ้นนะ ไม่รู้ว่าเพราะมันได้ระบายความหนักอกหนักใจทางความคิดออกไปหมดแล้วหรือเปล่า จึงทำให้มันดูร่าเริง แต่ตัวมันก็ติดผมตลอดทั้งวันแหละครับ เย็นๆจะมีไอ้เฟียสมาร่วมวงอ่านหนังสือ ถ้าไม่บ้านผมก็บ้านไอ้แต๊ง คือเราจะต้องสอบแกทแพทกันนะครับ บางคืนก็จะค้างบ้านผมบ้าง บ้านไอ้แต๊งบ้าง เราไม่ค่อยได้ไปบ้านไอ้เฟียสครับ



๑๑.๑๒ น.
ไอ้เฟียสมาแล้วครับ มาช่วยแม่ผมขายข้าวมันไก่ ช่วงนี้ขายดีมากขึ้นกว่าเดิม นักเรียนจะมากินร้านผมเยอะ ที่มานี่เพราะมาดูไอ้เฟียสครับ มันก็บริการดีนะ มีชวนคุย เฟรนลี่ บางทีก็มีขอถ่ายรูป ไอ้แต๊งเองก็ไม่พูดอะไร มันรู้ครับว่าควรวางตัวยังไง

“สวัสดีครับ”ไอ้น่ารักของผมมาแล้วครับ

“จ๊ะ หายหน้าไปหลายวันเลยนะเรา”

“ไปบ้านย่ามาครับ มีขนมมาฝากด้วย”

“ทีหลังไม่ต้องก็ได้นะลูก แล้วนี่กินข้าวกินปลามารึยัง”

“ยังครับ”

“อยากกินอะไรล่ะ ส้มตำไหม เดี๋ยวแม่จะทำให้”

“ลาภปากอีกแล้วสิเรา เอาตำป่านะแม่”ผมถึงกับต้องลูบปากเลยครับ

“เครื่องมันครบหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“เอาตำปูปลาร้าธรรมดานี่แหละ เดี๋ยววันหลังจะทำตำป่าให้ เอ๊ะ หรือจะกินตำซั่วดี”

“เอาตำซั่วครับป้า หนูชอบ”ไอ้แต๊งเสนอ

“อ่ะๆ งันไปหาเครื่องมา ดูไก่ในตู้สิแต๊งยังมีเหลืออยู่รึเปล่า ถ้าเหลือก็เอาไปย่างไฟอ่อนๆ”ไอ้แต๊งอย่างไวครับ ไปดูไก่แล้วก็เตรียม ส่วนผมต้องไปซื้อมะละกอ ขนมจีน แปบเดียวเครื่องก็ครบล่ะครับ น้องภูนั่งปอกถั่วลิสง ขูดเส้นมะละกอ ส่วนผมขายข้าวอยู่หน้าร้านครับ ไอ้แต๊งปิ้งไก่หลังบ้าน ไอ้เฟียสเป็นคนคอยเสิร์ฟ พอไก่สุก แม่ผมก็ไปตำส้มตำละครับ

“แต๊ง ไปซื้อข้าวเหนียวไปลูก”

“๕๐ บาทพอไหมครับป้า”

“น่าจะพอนะ หรือจะซื้อมาเผื่อก็ได้ กินให้อิ่ม หมีก็กินน้อยๆแล้วกัน”

“อ้าว ทำไมพูดงั้นอ่ะแม่”

“ก็เห็นบ่นว่าน้ำหนักขึ้นไม่ใช่เหรอ”

“พี่หมี ข้าวมันไก่ใส่กล่อง ๒ กล่อง ไม่เอาหนังนะ ไม่เอาเลือดด้วย น้ำซุปขอกระดูกไปแทะได้ป่ะ”ลูกค้ามาสั่งละครับ รุ่นน้องโรงเรียนผมเอง

“เอาไปแทะเองหรือให้หมาแทะ”

“แทะเองเอ๊ย ให้หมาแทะดิพี่”ว่าแล้วผมก็สับไก่โป้กๆจัดการใส่กล่องอย่างรวดเร็ว ลูกค้าออกไปก็ได้เวลาโซ้ยส้มตำ แปบเดียวเท่านั้นแหละครับ หมดถาด น้องภูตอนกินของเผ็ดๆ แล้วปากจะแดงๆ หน้าแดงๆ น่ารักอ่ะ ผมจึงแอบๆถ่ายรูป แล้วก็ถ่ายทั้งวง ลงเฟสสักหน่อย ฮ่าๆๆ

“เป็นไง รสชาติ”

“ไม่อร่อยเลยป้า”ไอ้แต๊งตอบปากแดงมากเลยมึง น่าจูบ หึหึ

“แหม เห็นกินเอาๆ”

“ฝีมือป้าอร่อยทุกอย่างอ่ะ”คราวนี้ยกนิ้วชม

“ภูเงียบเลย ไม่อร่อยเหรอ”

“อร่อย แต่เผ็ดไปนิด พี่หมีเหงื่อท่วมเลยอ่ะ ดีๆ จะได้เผาผลาญ”

“มึงอย่าไปหวังกับมันมากไอ้ภู สามวันดี สี่วันแดกอ่ะไอ้นี่”ไอ้แต๊งส่ายหน้า

“หุ่นดีก็พูดได้เนอะมึง คอยดูเถอะ กูหล่อเมื่อไหร่ มึงอ่ะมันปลายแถว”ผมผลักหัวแก้แค้น

“กูไม่จำเป็นต้องหล่อเว้ย การได้ครอบครองคนหล่อต่างหากมันคือสุดยอด”หน้าบานเชียวครับมึง ได้แฟนหล่อหน่อยนี่คุยโวยโอ้อวดไป ๓ บ้าน ๘ บ้าน โด่ว

“กูอยากจับหน้าไอ้เฟียสไปไถกับถนนซะจริง ให้มันรู้ไปซิว่าจะหล่อได้กี่น้ำ”

“ยังไม่ได้สักน้ำเลยหมี สงสัยถ้าถึงวันนั้น ๕ โอ่งคงจะล้นอ่ะมึง”ไอ้เฟียสยิ้ม

โพ๊ะ “ทะลึ่งนะ เห็นหงิมๆเหงียมๆนี่ร้ายนะมึง”ไอ้แต๊งตบหัวไอ้เฟียส ลั่นเลยมึง หึหึ

“แต๊งชอบใช้ความรุนแรงจัง บางทีผมก็มีความรู้สึกนะ”

“โอ๋ๆ กูก็คิดว่าหนังมึงหนา”

“หนังผมไม่หนาหรอก แต่หน้าผมนี่เรียกว่าโคตรหนาเลยละ แต่ก็หนาเพื่อจะได้รักใครบางคนนะ”

“ไอ้หน้าด้าน”

“ฮ่าๆๆๆ”ขำกันทั้งวง

“กูว่าจะซื้อจักรยานมาปั่น”ผมเสนอความเห็นเมื่อทุกอย่างสงบลง

“ซื้อดิพี่หมี ภูก็เพิ่งซื้อมาอ่ะ”

“อะไร จะปั่นลดความอ้วนเหรอมึง”ไอ้แต๊งถาม

“อืม เห็นเขารีวิวว่ามันช่วยได้ กูก็คิดว่าน่าจะลองดูนะ จากบ้านไปโรงเรียนมันก็ ๖ กิโล ไปกลับรวมเป็น ๑๒ น่าจะช่วยได้”

“อืม เอาดิ กูจะได้ซื้อด้วย ตังค์เยอะว่ะอยากใช้”

“แหม พ่อคุณเอามาให้ป้ายืมสักแสนซิ”แม่ผมเดินไปหลังร้านได้ยินพอดีครับ

“ป้ารวยอยู่แล้ว นี่หนูว่าจะขอเบิกล่วงหน้ากับป้านะ”

“ค่ะคุณลูกชาย จะซื้ออะไรกันล่ะ”

“ซื้อจักรยานอ่ะแม่ เอามาปั่นไปโรงเรียน มันจะได้บริหารร่างกายไปด้วย”

“เหรอ อืม ก็ดีนะ แต่อย่าเพิ่งเล่นของแพงแล้วกัน เอาราคาพอไหวก่อน แม่ก็ไม่อยากจะห้ามหรอก แต่ถ้าซื้อของแพงมา ปั่นไม่กี่ทีแล้วเบื่อนี่ มันก็ไม่คุ้มราคา เอาราคากลางๆ ๕ พัน ๖ พัน เอาไว้เราขั้นเทพเมื่อไหร่ค่อยซื้อของแพง”

“ครับแม่ แม่ออกให้ครึ่งนึงนะ”

“เชอะ เงินตัวเองก็มีเป็นกอบเป็นกำยังจะขอแม่อีก”

“ฮ่าๆๆ เผื่อฟลุ๊คอ่ะแม่”

“พี่หมีจะซื้อเย็นนี้เลยหรือเปล่า เดี๋ยวภูพาไปที่ร้านของน้าภูอ่ะ ให้เขาคิดราคาพิเศษให้”

“เหรอ อืม ลองดูสักหน่อยแล้วกันเนอะ”ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะเก็บกวาดถาดส้มตำไปล้างที่หลังบ้าน


๑๔.๑๐ น.

ไอ้เฟียสกับไอ้แต๊งไปซ้อมฟุตบอลที่โรงเรียนครับ เพราะจะมีแข่งขันกันในวันเปิดเทอม ก็ไปพร้อมกัน ๒ คน ส่วนผมว่างครับ จึงไปดูจักรยาน ไปถึงก็มีหลากหลายให้เลือกมาก ราคาตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่นปลายๆ ร้านนี้เป็นร้านของน้าน้องภูนะครับ น้องภูเพิ่งถอยไปเมื่อหลายวันก่อน คันละหมื่นกว่าครับ ส่วนผมโดนใจในราคา ๗ พัน อืม จึงตกลงใจเอาคันนี้ พอได้ลองเป็นที่หนำใจแล้วก็จ่ายเงินไปครับ จากนั้นจึงปั่นไปโรงเรียน ปั่นไปกับน้องภู

“โธ่ คนไม่เจียมนี่มันไม่เคยเจียมจริงๆ อ้วนเหมือนหมูอยากมีคู่เหมือนคนอื่น ต้องทำตัวยิ่งกว่ากระซู่กูปรีมาแซะคนหน้าตาดีแล้วมโนว่าเขาชอบ อ้วนเหมือนหมูแล้วอยากจะโชว์พาวว่าเป็นสปอร์ตแมนเลยไปถอยจักรยานมาปั่นโชว์ แล้วมโนว่าคนที่ปั่นข้างๆมันมีใจให้ โธ่เอ๊ย คนมโนนี่มันมโนจริงๆ”

“มึงว่าใครไอ้ชิน”

“กูว่ามึงนั่นแหละ ไอ้คนไม่เจียม”

“เออ ดีนะที่ว่ามึงไม่ได้ว่ากู ถ้าว่ากูนี่มีเรื่อง”ผมเล่นสำบัดสำนวนบ้าง

“อ้าว ไอ้ห่า กูว่ามึงอยู่นะ”

“เออ ก็มึงว่ามึงไง มึงไม่ได้ว่ากู ทำไม อยากว่ากูเหรอ แน่จริงมึงว่ากูดิ”

“ไอ้สัส มันบ้าหรือกูโง่กันแน่วะเนี่ย”

“พี่ชิน ผมเคยนับถือพี่นะ แต่พี่ทำตัวแบบนี้ แย่ว่ะพี่”น้องภูพูดแล้วส่ายหน้า

“แย่ยังไงไอ้ภู ใช่สิ กูมันไม่มีค่านี่ มึมาหลอกกูแล้วก็ทิ้งไป อีกไม่นานมึงก็เหมือนกูไอ้หมี อย่าไว้ใจไอ้เด็กนี้ให้มากนัก มันตอแหล”

“ผมว่าพี่อ่ะตอแหล ใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยนี่หว่า อย่าไปสนใจพี่หมี แค่คนขี้แพ้ชวนตีอ่ะ ไปเถอะ”น้องภูปั่นหนีไปที่สนามบอล

“หึ มึงดูกูนะไอ้หมี กูรู้จักมันมาเท่าไหร่แล้ว มันมาให้ความหวังกู แล้วมันก็ไป มึงก็คงไม่ต่างหรอกว่ะ เตรียมตัวให้ดีๆด้วย”

“อืม อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะวะ แต่กูคิดว่าถ้ากูโดนหลอก กูก็คงไม่พาลใส่คนอื่นแบบมึงอ่ะ”ว่าแล้วผมก็ปั่นจักรยานตามน้องภูไป ถามว่าสับสนไหม มันก็มีบ้าง แต่มันต้องดูการกระทำ ต้องดูคำพูด และที่สำคัญ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์คน


“เฮ้อ พี่หมีอย่าไปใส่ใจเขามากเลยนะ มีอะไรให้ถามภูตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจภูหรอกนะ”น้องภูตบไหล่ผม

“อืม พี่เคยสะท้านสะเทือนกับคำพูดคนซะเมื่อไหร่เล่า”หึหึ ก็พูดไป แต่บางทีโดนว่าหนักๆแบบนี้ เคยแอบไปร้องไห้ก็มีนะครับ แต่การร้องไห้ ๑ ครั้ง จะทำให้ผมเข้มแข็งไปอีก ๑ เท่าตัว ผมผ่านการร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด อะเจ้ย อันนี้ก็เกินไป แต่ก่อนมีแอบร้องไห้บ้างครับ แต่สอนตัวเองเสมอว่าเราต้องเข้มแข็ง น้ำตามีไว้สำหรับคนแพ้ ท้อแท้มันมาจากเมืองจีน ท้อไทยไม่มี มีแต่ลิงถือลูกท้อ หมูถือลูกท้อนี่ก็ไม่เหมาะสม ต้องถือกระบะรออาหารนั้นเว้ย หึหึ แมนๆปั่นจักรยาน

ตอนเย็นแยกย้ายกันกลับบ้าน น้องภูปั่นกลับ ส่วนผมซ้อมมอไซด์ไอ้เฟียสกลับ จักรยานไอ้แต๊งเป็นคนปั่น เพราะผมปั่นจนเมื่อยน่องหมดล่ะ ฮ่าๆๆ โหมหนักเกินไป นี่ไม่รู้ว่าหนังไข่มันถลอกด้วยหรือเปล่า รู้สึกแสบๆ ต้องไปดูแล้วล่ะ ไข่ถลอกนี่มีผลนะครับ เอิ้ก ทะลึ่งเกิ้นนนนนนน




ตอนเย็นหนาวหนาวพัดผ่านเบาๆ ไม่อยากจะอาบน้ำเลยครับ แต่ต้องรีบอาบ ปกติอาบดึก ช่วงนี้ต้องอาบแต่หัวค่ำ อาบเสร็จแล้วช่วยแม่เก็บร้าน ไอ้แต๊งนอนบ้านมันวันนี้ พอถึงเวลาผมก็ปิดประตูหน้าต่าง ปิดบ้าน ขึ้นมาห้องตัวเอง มองไปที่ระเบียง ใบไม้ไหวปลิว ส่งโคลงไปดีกว่า

                                                            ปลาย   ปลิวจากลิ่วล้ำ       วสันต์ฤดู
                                                            ฝน      ฉ่ำเคยพรั่งพรู        ร่อนร้าง
                                                            ต้น      วายย่ำเหยียบกู      เย็นสั่น สรรพางค์
                                                            หนาว   เนื้อแนบกายว้าง    ไผน้อ บรรเทา

(คำว่า วาย หมายถึง วาโย ที่แปลว่าลมนะครับ แต่ตัดสระโอออกให้เป็นพยางค์เดียว โคลงจะได้พอดีคำบังคับ)



กดส่งไปแล้ว และนั่งยิ้มคนเดียว กูหวานเว้ย เอิ้ก แล้วสักครู่ อีกคนก็ส่งมาบ้าง



                                                               วอน  วายเยือนย่ำแล้ว      เหมันต์
                                                               ลม    ก่อพัดทิ้งวสันต์       ร่อนร้าง
                                                               ห่ม    ผ้าผ่อนท่อนบรร-     เทาแค่ กายา
                                                               รัก     แน่เทียวช่วยสร้าง    ร่างเร้น อุ่นไอ


แหม่ พี่นี่อยากปั่นจักรยานไปกอดถึงหน้าบ้านเสียจริง ไอ้ปากหวาน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-10-2015 19:45:01
หยอดกันไปแล้วก็หยอดกันมา :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 20-10-2015 20:09:22
พี่หมีสู้ๆๆๆ
น้องภุไม่หลอกหรอกน้อ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 20-10-2015 20:12:34
อยากให้หมีผอมไวๆแล้วดิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 20-10-2015 20:29:15
ตลกอ่ะ หมี มีแรงปั่นไปได้แต่ขากลับแรงหมด
แล้วต่อไปมิต้องให้แต๊งขับมอไซค์ตามเหรอ
เผื่อแต๊งต้องปั่นกลับอีก คริคริ
สู้ๆนะหมี ซื้อตั้งแพง ปั่นกับหวานใจอีกต่างหาก
 :mew4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 20-10-2015 20:50:44
 :z2:  เป็นคู่ที่เลี้ยงด้วยลำแข้ง แต๊ง เฟียส 5555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 20-10-2015 21:49:04
หยอดซะคนอ่านเขินเลยนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-10-2015 21:57:19
หวานไป๊แล้วววว อุ้ยยย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-10-2015 22:35:57
คู่นี้เค้าหวานกันตลอดอ่ะนะ
อย่ายอมแพ้เพื่อนหมีละแต๊ง
เอาให้หวานอย่างเค้าบ้าง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 20-10-2015 22:41:40
โอ๊ยยยยยหวานเชียว แต่งกลอนเก่งจริงๆนะ
ว่าจะชมหลายครั้งแล้ว รีบผอมนะหมี ๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 20-10-2015 22:51:36
จีบกันน่ารักตลอดคู่นี้ :o8:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-10-2015 03:32:59
 :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-10-2015 06:29:43
แหม สองคนนี่เขาส่งลูกหยอดลูกจีบกันด้วยโคลงหวานๆ กันดีนักแล้ว แต่ละคนไม่ยอมแพ้กันเลยจริงๆ ทั้งน้องภู ทั้งหมีเลยแหละ ในความคิดเห็นของดิฉัน หมีเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะถูกล้อเรื่องร่างกายมานาน จึงเป็นภูมิต้านทานที่ถูกสร้างขึ้นมา ก็อย่างที่หมีบอก โดนบ่อยๆ เข้าก็ชิน แล้วก็มองว่าสิ่งนี้มันเป็นธรรมดา ไม่มีใครไม่ถูกนินทาหรอก แต่ถูกนินทาแล้วก็ต้องหัดมองให้เฉย หัดคิดให้มันเป็นเรื่องสนุกไป เราจะได้ไม่คิดมาก ข้อนี้ยกนิ้วให้หมีเลย หมีคิดบวกมากๆ

่ส่วนประเด็นน้องภู ถ้าจะใส่ใจกับคำพูดของชินสักนิดก็คิดว่า น้องภูอาจมีลับลมคมใน แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก น้องภูก็น่ารักดี คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นั่นแหละ ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย จริงๆ แล้ว น้องภูก็คงเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ที่กำลังอยากรักอยากลอง แต่ถึงน้องจะอยาก "ลอง" ก็ยังเลือกเฟ้นนานๆ กว่าจะหาสักคนที่ถูกใจ ก็นับว่าน้องไม่ประมาท ดังนั้น ถ้าจะรอไปนานๆ จนหมีผอม ก็คงเหมือนกับกรณีเฟียสที่ในที่สุดก็สมหวังจากการรอคอยมา ๖ ปี

ขอบคุณคุณเมฆมากๆ ค่ะ

ปล. แต๊งกับเฟียสนี่หวานกันจริงๆ นะ หึหึ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 21-10-2015 07:37:53
แต๊งเป็นแฟนกับเฟียสวันเดียวผู้ใหญ่รู้เกือบหมดเลย ดีแล้วๆคบกันก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ คึคึ
คบกันก็หวานกันเลยนะ แต๊งเขินใช่ไหมตบหัวเฟียสซะ 5555 เฟียสนี่แววเกียมัวมากจริงๆของแท้เลย 5555

หมีน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว อุตส่าห์ลดได้แล้วนะ ยังไงก็ต้องสู้นะ ทำให้ได้สู้ๆ
น้องภูนี่คงต้องรอดูไปนานๆจริงๆแหละ กรณีชินอาจเป็นชินที่คงชอบภูอยู่แล้ว
และก็สนิทกันชินเลยคิดเกินเลยไปแล้ว แต่ภูอาจไม่ได้คิดอะไรตั้งแต่ทีแรก
แต่มันก็คิดได้อีกนั่นแหละ คงต้องรอเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจนะได้
แต่เขาจีบกันผ่านกลอนหวานเวอร์  :-[

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 21-10-2015 07:51:14
 :mew1: :katai2-1: :mew1: :katai2-1: :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 21-10-2015 08:08:10
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-10-2015 08:09:11
น้องภูปากแดงเสียจนน่าจูบยังไม่ค่อยเท่าไรนะคะหมี เพราะน้องยังไม่มีใคร แต่แต๊งปากแดงเสียจนน่าจูบนี่คงต้องคุยกับเฟียสเขาก่อนแล้วล่ะค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-10-2015 15:59:34
รอดูต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-10-2015 01:49:49
แต๊งส์คนอวดผัว เอ้ย แฟน อยากให้น้องภูกับพี่หมีดูกันไปนานๆ ไม่รู้ว่าชินแค่อิจฉาหรือว่ายุให้เลิกคุยกันแน่
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๐๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๗ หน้า ๑๑
เริ่มหัวข้อโดย: ถ้วยฟู ที่ 25-10-2015 14:50:08
คิดถึงไอ้น่ารักแล้ว..เมืาอไหร่จะมาน้ออออ :mew2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 25-10-2015 18:12:12
โคลงที่ ๑๘


๒๗ ตุลาคม ๒๕๕x
๒๐.๔๑ น.
เรานั่งติวกันที่บ้านไอ้แต๊ง ช่วงนี้ผมช่วยแม่แค่ช่วงเช้า กลางวันเท่านั้น ส่วนตอนเย็นไม่ได้ช่วยครับเพราะว่าติดอ่านหนังสือเตรียมสอบ การอ่านหนังสือของผมก็เรื่อยๆ เน้นจุดสำคัญๆ หาข้อสอบเก่าๆมาอ่านด้วยด้วยครับ ดีนะที่ไม่เสียค่าปรินท์เพราะไอ้เฟียสรับผิดชอบครับ แต่จะทำแบบนั้นคือให้ไอ้เฟียสออกทั้งหมดก็เห็นแก่ตัวเกินไป จึงต้องช่วยๆกันหารครับ ทีแรกไอ้เฟียสไม่ยอมนะ

“มึงทำแบนี้เหมือนไม่อยากให้กูมีส่วนร่วมยังไงไม่รู้ว่ะ อย่าทำให้กูต้องเป็นผู้รับอย่างเดียวสิวะ”ไอ้แต๊งมันบ่นครับ

“ไม่เป็นไร ปรินท์ที่บ้าน ไม่ได้ปรินท์ที่ร้าน”

“จะที่บ้านหรือที่ร้านมันก็เงินป่ะวะ รวยแล้วเหรอ หาเงินเองได้แล้วเหรอ หรือว่ายังขอพ่อแม่ใช้”

“ขอพ่อแม่อ่ะ”ไอ้เฟียสหน้าหงอครับ เมียดุก็งี้

“เออ ถ้ายังขอก็ต้องหารดิ มึงอย่าทำให้ผิดใจเพราะเงินดิวะ เข้าใจป่ะ”

“ครับ”

“ดีมาก พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยอยู่ด้วยกันได้นานๆ”

“ตลอดชีวิตเลยนะ”ไอ้เฟียสพูดทำตาหวานๆ

“ให้มันจริงเหอะว่ะ ไม่ใช่เห็นคนอื่นที่ดีกว่าแล้วทิ้งกูไปหาเขานะ”

“มันก็มีคนที่ดีกว่าแต๊งเยอะนะ แต่ผมไม่ไป”

“โฮ้ พูดแรงว่ะ มึงบอกมาดิ ว่าใครดีกว่ากู”

“มีเป็นร้อยเลยว่ะไอ้แต๊ง”ผมพูด

“เออ ดูท่าจะจริง ฮ่าๆๆๆ แต่กูก็แบบนี้นะ”

“อืม ก็ชอบที่แต๊งเป็นแบบนี้แหละ ผมถึงไม่มองคนอื่นไง”

“ปากหวาน”

“ใช่ น่าจูบด้วยนะ ลองจูบดูดิ”

“ทะลึ่ง ผู้ชายบ้าบออะไรวะจูบกัน”

“ถุ้ย ไอ้ที่ไปคว้าคอเขามาจูบปากบอกกับไอ้เป้ว่าอย่ายุ่งกับแฟนกูนี่หมาตัวไหนทำวะ”ผมถีบมันเบาๆ

“อ้าว มึงเห็นด้วยเหรอ”

“ไอ้เฟียสเล่าให้ฟัง”

“ไอ้เฟียส มึงนี่”ชี้หน้าแฟนตัวเองแล้วละครับ อารมณ์ร้อนจริงๆ “บางทีก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ป่ะวะ กูอายเป็นนะเว้ย”

“ผมเล่าให้คนอื่นฟังที่ไหน หมีนี่ก็คบกันเป็นเพื่อนมาตั้งนานนี่นา”

“นั่นแหละ บางทีกูก็อายไอ้หมีบ้าง โว๊ะ”ว่าแล้วก็ซุกหน้าลงบนกระดาษ เฟียสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยครับ มันก็ติงต๊องแบบนี้แหละ ไอ้แต๊งน่ะ

“ทีงี้เสือกหน้าบางนะมึง เอาเป็นว่าถ้ามึงไม่ฉึกๆกัน มึงจะจูบจะหอมก็ทำไปเหอะ ถ้ากูได้หอมน้องภู กูก็จะหอมโชว์มึงบ้าง”

“ตกลงว่าความสัมพันธ์ถึงไหนแล้ว”

“ก็เรื่อยๆ อยู่ในช่วงศึกษาดูใจกันว่ะ ยังไม่ตกลงเป็นแฟน”

“อืม พยายามเข้านะ”ไอ้เฟียสตบไหล่ผม

“มึงไม่กลัวมันหลอกเหรอวะ”ไอ้แต๊งเงยหน้ามาถาม

“ไม่รู้ว่ะ มันก็มีบ้างที่กลัว แต่น้องบอกว่ามีอะไรให้ถาม กูก็ดูท่าทีน้องก็โอเคนะ แต่มันก็ต้องใช้เวลาอ่ะ ถ้าหลอกมันก็ต้องเจ็บ เรื่องเจ็บมันก็ธรรมดาล่ะมั้ง กูก็เซฟตัวเองอยู่บ้าง”

“เออ เผื่อใจไว้บ้าง อย่ารักเต็มร้อย เข้าใจป่ะ มึงด้วยไอ้เฟียส อย่ารักกูเต็มร้อย รักตัวเองด้วย เผื่อเกิดวันไหนกูบ้าทิ้งมึงขึ้นมา มึงจะได้เจ็บน้อยลง”

“อืม แต่ผมก็หวังว่าจะให้แต๊งรักผมไปนานๆ”

“ไม่เห็นจะต้องหวัง ตอนนี้ก็รักมึงแล้วนี่หว่า”แล้วมันก็ขยับไปกอดไอ้เฟียสจากด้านหลัง เออ เห็นแล้วอิจฉา

“อยากถ่ายรูปคู่อ่ะแต๊ง”

“อย่าเอาลงเฟสนะ พวกอื่นๆด้วย ถ้าเอาลงมีเรื่องอ่ะ”

“โอเค”ว่าแล้วไอ้เฟียสก็หยิบมือถือมาเซลฟี่ ไอ้แต๊งนั่งยองๆอยู่ด้านหลังครับแต่ตัวจะติดกับไอ้เฟียสนะ แล้วก็มีรูปที่เป็นแบบ คางไอ้แต๊งอยู่บนหัวไอ้เฟียส เห็นแล้วอยากถ่ายแบบนี้กับน้องภูบ้างจัง ผมก็มีบ้างนะ แต่เป็นแบบยืนข้างๆกัน

“พอๆไอ้ห่า กูว่ากูไม่ได้ตายเพราะเบาหวาน หรือไขมันอุดตันหรอกนะ กูจะตายเพราะพวกมึงอ่ะ ไอ้ห่า หวานเกิ้นนนนนนน”

“ฮ่าๆๆๆ”

“แน่จริงมึงไปลากไอ้ภูมาถ่ายให้ได้สิวะ”

“แหม่ กูก็ไม่อยากล่วงเกินน้องเค้า กูไม่ได้แรดเหมือนมึงนี่หว่า”

“กูมันแรดตรงไหนวะ เออ”

“กูก็ไม่รู้ว่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ”ขำกันอีกรอบ จากนั้นจึงตั้งใจอ่าน ตั้งใจติวจนได้เวลา ๕ ทุ่มเราจึงหยุดครับ

“เฮ้อ สิ้นสุดสักที”ไอ้แต๊งยืดตัวนอนแผ่ ส่วนผมเอามือค้ำกับพื้น อยากจะแผ่สองสลึงซะจริง เหนื่อยมากๆ หึหึ


พอได้เวลาพวกเราก็นอนกันครับ ผมนอนพื้นเหมือนเดิม ไอ้แต๊งกับไอ้เฟียสนอนบนเตียง ก็ยังนอนไม่หลับหรอกครับ นอนคุยกันเรื่อยเปื่อย พวกมันยังไม่มีอะไรกันนะ ไอ้เฟียสบอกว่า ให้มันผ่านไปสักระยะใหญ่ๆก่อน ไอ้เฟียสมันก็ไม่ใช่คนอื่นจ้องแต่จะล่ออย่างเดียวนะครับ ถึงจะนอนด้วยกันแต่มันก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านอนกอดกัน พวกมันไปนอนข้างนอกกันบ่อยนะ ช่วงไปซ้อมบอล อารมณ์ก็น่าจะแบบนั้น อีกอย่างพวกเราก็ใสๆกันครับ เรื่องเซ็กส์เมื่อถึงเวลาสมควรมันก็คงจะตามนั้นแหละครับ รอเวลา เออ เรื่องเคยแก้ผ้าชักว่าวนี่ ผมกับไอ้แต๊งเคยทำนะ ปีที่แล้วนี่เอง ฮ่าๆๆ คือวันนั้นผมดูหนังโป๊ไง แล้วลืมล็อกประตู จริงๆมันก็ดึกแล้ว ไม่รู้ไอ้แต๊งมันเข้ามาบ้านผมได้ไง พอเปิดมา ผมก็กำลังคลำๆ คือผมก็ใส่กางเกงอยู่นะ แต่กางเกงในไม่ใส่ ไอ้แต๊งเข้ามาพอดี ก็มีเฮครับ มันก็มานั่งดู แล้วอดใจไม่ไหว แก้ผ้านั่งชักเลย ต่างคนต่างทำนะ ไอ้แต๊งก็แซวว่าคิดว่าของผมจะเล็ก โด่ว มันก็ไม่ได้หดหายไปไหนนี่หว่า สรุปแล้วก็สบายตัวไป พอเสร็จมานั่งขำกัน ๒ คน ฮ่าๆๆ แต่นานๆทีเราจะทำแบบนี้นะ เอิ้ก พอดีกว่า พูดแล้วเขิน




๒๘ ตุลาคม ๒๕๕x
๐๖.๑๗ น.
ถ้าคิดว่าการเป็นแฟนของไอ้แต๊งกับไอ้เฟียสตื่นเช้ามาจะเจอพวกมันกอดกันกลมเกลียว คุณกำลังคิดผิดครับ สภาพตอนนี้ไอ้เฟียสไปนอนบนหัวนอนไอ้แต๊ง ไอ้แต๊งนอนแนวทแยงกับเตียง มันฝันว่ารบกันหรือเปล่าวะ

“อ้าว แต๊งไปไหนวะ”ไอ้เฟียสมันลืมตาขึ้นมา มองไปเจอหัวเตียงไม่เจอแฟนตัวเอง “อ้าว แล้วกูมานอนนี่ได้ไงวะ”แล้วมันก็ลุกคลานมานอนกอดไอ้แต๊ง

“จะล้างหน้าไก่เหรอ”

“อืม ง่วงนอนอ่ะ อยากนอนต่อ”มันตอบคำถามแล้วซุกกอดแฟนมันกลมเลยครับ เอาเถอะ ไอ้คนไม่เคยมีแฟนมันก็แบบนี้ ให้เขาหน่อยเหอะ

ผมเดินกลับบ้านขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วลงาช่วยแม่ขาย เหมือนเดิมครับ เช้าๆแบบนี้ลูกค้าเยอะ พอพระมาบิณฑบาตผมก็ใส่บาตร ต้องทำบุญหน่อยครับ จะได้ลดความอ้วน เอ๊ะ ได้บุญสิครับ เอิ้ก

อากาศเย็น ขายของได้น้อยหน่อยเพราะคนจะตื่นสายกันครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากนักร้านเราขายดีอยู่แล้ว






๐๙.๑๑ น.

แต๊งเฟียสเพิ่งออกจากบ้านมาหาอะไรกิน ระหว่างนี้น้องภูก็ปั่นจักรยานมาที่บ้านผมครับ ชวนผมไปออกกำลังกาย ไอ้เราก็แรด ทิ้งแม่ ทิ้งเพื่อน ตามเมียเว้ย วู้ว ฮ่าๆๆ

“ตอนเย็นปั่นอีกป่ะพี่หมี”

“อืม ปั่นดิ ว่างๆ”

“อย่างไวเลยนะ แอบชอบภูป่ะเนี่ย ชวนไปไหนก็ไป”

“โธ่ ถ้าไม่ชอบไม่ตาลีตาเหลือกตาตูดต้อยๆขนาดนี้หรอก ฮ่าๆๆๆ”

“ภูก็ชอบพี่หมีนะ น่ารักดี”

“หึหึ เขินจัง น่ารักตรงไหนวะ”

“ก็นิสัยไง คอยดูเหอะ วันไหนพี่หมีหล่อขึ้นมานะ วันนั้นภูนอนไม่หลับแน่”

“ทำไมอ่ะ”

“ก็ระแวงไง เผื่อมีใครเข้ามาแย่ง”

“โหย ใครเขาจะอยากได้”

“ภูแหละคนหนึ่งอ่ะ แต่ภูไม่ได้ชอบที่พี่อ้วนหรือผอมนะ ภูชอบที่นิสัยอ่ะ”

“ปากหวานจริง เดี๋ยวเหอะ จะจับจูบซะให้เข็ดเลย”

“โด่ว รออยู่นะเนี่ย ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้ไม่เหลือแล้ว”

“โหย ใจง่ายอ่ะเรา”

“ง่ายแต่กับพี่คนเดียวอ่ะ”

“ปากหวานจริง มาถ่ายรูปกันหน่อยนะ อยากมีผลงาน”น้องภูขยับจักรยานมาใกล้ๆเราก็เซลฟี่กันหลายรูปครับ

“หิวยัง”

“หิวมาก”พยักหน้าหลายที เราจึงกลับบ้านกันครับ ไอ้เฟียสกลับไปแล้วเหลือไอ้แต๊งช่วยแม่อยู่

“ตั้งแต่รู้ใจกันนี่กูไม่สำคัญเลยใช่ไหม”ไอ้แต๊งทำหน้างอใส่ผม

“อ้าว เห็นมีความสุขกับการโดนแฟนกอด กูก็ไม่อยากรบกวน มากินข้าวกันภู”ผมเดินไปสับไก่ มันเหลือแต่เศษๆแล้วอ่ะ แต่ก็ยังพอเหลือบ้าง ข้าวยังพอดี น้ำซุปเหลือก้นหมอ จัดเต็มกันเลยทีเดียว พูนจาน นั่งจ้วงกันอยู่ ๒ คน น้องภูกินจุมาก ส่วนผม หึหึ กูมีจักรยานเว้ย เดี๋ยวไปปั่นมันคงลด ถามว่าลดชาติไหนถ้ากินจุแบบนี้ คงจะชาติหน้า เอิ้กกก








วันที่พวกเราสอบแกทแพทมาถึงแล้ว ต่างคนต่างตั้งใจเต็มที่ครับ สอบเสร็จ ตอนเย็นเราก็จะมานั่งบ่นกันที่บ้าน เช้ามาตื่นไปสอบอีก เป็นแบบนี้จนสอบเสร็จครับ ไอ้แต๊งมันเฉยๆเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไอ้เฟียสก็เป็นห่วงเป็นใยครับ กลัวแฟนมันทำไม่ได้

“เป็นไงพี่หมี สอบเสร็จแล้ว ทำได้ป่ะ”

“ก็โอเคดีอ่ะ ได้บ้างไม่ได้บ้าง”

“เหรอ ไปออกกำลังกายกันป่ะ หรือว่าอยากพัก”

“เดี๋ยวเย็นๆกว่านี้ดีกว่าไหม ตอนนี้อยากนอนมาก ขอนอนสัก ๑ ชั่วโมง”

“โอเค”ว่าแล้วผมก็ขึ้นไปนอนบนบ้าน น้องภูเป็นเด็กดีครับ มาช่วยแม่ผมขายของ ไม่ได้ช่วยฟรีนะ แม่ผมให้ค่าตอบแทนด้วย



ผมหลับไป ๑ ชั่วโมงเต็ม ที่ตื่นนีไม่ได้ตื่นเอง ไอ้แต๊งมาโวยวายใส่ผมครับจนผมต้องลุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แบบนี้ล่ะ ชอบกวนตีน อยากโดดถีบมันจริงๆเลย

“มึงจะหยุดได้รึยังเมียไอ้เฟียส”

“ใครเมียไอ้เฟียส มึงพูดให้ดี”

“หมาแถวนี้นี่แหละ สัส เสียงดังจริง”

“ไอ้บ้า กูยังไม่ได้เสียตัวให้มันสักหน่อย โว๊ะ”

“ตกลงว่ามึงจะเป็นเมียใช่ไหมวะ”

“เออดิ หรือจะให้มันเป็นเมียกูอ่ะ ตัวก็ใหญ่กว่ากู กูสู้ทางมันไม่ได้หรอก”

“โห นี่รู้ตัวไวนะมึง”

“อ้าว ก็เตรียมใจเอาไว้ดิวะ พอวันนั้นจะได้ไม่ต้องมานั่งเป่ายิงฉุบว่าใครจะยังไง โว๊ะ”

“ก็ถูกของมึงอ่ะ ว่าแต่น้องภูยังอยู่ข้างล่างป่ะ”

“เออ น้องไม่กล้าขึ้นมา กลัวเห็นมึงนอนตายขึ้นอืดเหมือนศพไง มันเลยให้กูมาตาม”

“ก็ว่าไปนะมึง แต่กูก็ลดนะเว้ย ตอนนี้ ๑๓๕ แล้ว จบม.๖ ก็คงจะ ๑๐๐ โลพอดีอ่ะ”

“เออ รีบๆลดเว้ย จะได้มีเพื่อนเตะบอล ล้างหน้าดิ น้องมันรออยู่ มาเฝ้าไม่ห่างเลยว่ะ หึหึ ดูท่าจะชอบมึงจริง”

“เออ เห็นงี้กูก็หล่อนะเว้ย”

“เพ้อเจ้อเหมือนไอ้เฟียสไม่มีผิด เฮ้อ ลงไปละ หล่อบ้าหล่อบออะไรวะ หล่ออย่างกะตุ่มน้ำ”มันบ่นไล่หลัง มองดูตัวเอง เออ มันก็เหมือนตุ่มน้ำจริงๆเว้ยกู อะเจ้ย










๔ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๑๑.๕๖ น.
เปิดเทอมแล้วครับ ช่วงนี้อากาศเย็นลง กลางวันร้อน กลางคืนหนาว เช้าๆมีไออุ่น อยากมีคนกอดจังเลย ช่วงนี้ผมปั่นจักรยานไปโรงเรียนทุกวัน ไอ้แต๊งก็เหมือนกันครับ อย่างที่มันบอกไปว่าเงินมันเยอะมันจึงซื้อและปั่นเป็นเพื่อนผมไปโรงเรียน ตอนเย็นผมก็จะไปเล่นบาสกับน้องภู และปั่นจักรยานกันนิดหน่อย จากนั้นก็มาช่วยที่บ้านขายของ นี่ก็เรียนในภาคเช้าเสร็จแล้ว เราจึงได้พักกลางวันกันครับ ตั้งแต่ไอ้แต๊งยอมตกลงปลงใจกับไอ้เฟียส ไอ้เฟียสก็ตามไอ้แต๊งต้อยๆ เฝ้าไม่ห่าง ส่วนน้องภูของผมก็ทิ้งเพื่อนแล้วครับ

“อ้าว ตกลงนี่ว่ามาจีบพี่หรือจีบไอ้แต๊งอ่ะภู”มากินข้าวด้วยกัน นั่งเล่นมือถือกัน ๒ คน ปล่อยให้ผมกับไอ้เฟียสนั่งมองตาปริบๆ เห็นแล้วมันขึ้น

“มีหน้าที่กินก็กินไปดิ ยุ่งทุกเรื่องนะมึง”เสียงแบบนี้มีแต่ไอ้แต๊งเท่านั้นแหละครับที่กล้าว่าผมอ่ะ

“ใช่สิ เราไม่สำคัญแล้วนี่ เนอะหมี”ไอ้เฟียสพยักหน้าขอความเห็นด้วย

“โว๊ะ งอนเหมือนเด็กๆเลยว่ะพวกพี่เนี่ย เดี๋ยวผมคบกับพี่แต๊งให้มันรู้เรื่องรู้ราวไปซะเลย”น้องภูประชด

“....”ผมกับไอ้เฟียสมองหน้ากันแล้วยิ้มอ่อนๆ

“พี่เฟียส มีคนฝากมาให้อ่ะพี่”ขนมถุงเล็กถูกวางตรงหน้าไอ้เฟียส เด็กผู้ชายคนหนึ่งเป็นสื่อกลาง ใครหนอช่างกล้า

“ของใครอ่ะ เขาได้บอกไหม”

“เขาห้ามบอกครับ”

“อ๋อ งั้นฝากบอกขอบคุณเขาด้วยนะ แต่ทีหลังไม่ต้องฝากแบบนี้ก็ได้”ยิ้มหล่อและรับขนมไว้

“เอามาให้เรื่อยๆก็ได้นะ พี่จะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อ”ไอ้แต๊งพูดแล้วแย่งขนมจากมือไอ้เฟียสไปแกะกิน “อร่อยดีว่ะภู มึงลองดูดิ”

“อืม กรอบดีพี่”

“.....”ผมกับไอ้เฟียสมองหน้ากัน

“กวนตีน”เราพูดพร้อมกัน

“อร่อยๆ ลองดูหมี”

“กูลดความอ้วน”

“ถุ้ย แดกข้าว ๒ จานนี่นะลดความอ้วน”

“ให้กำลังใจพี่หมีหน่อยดิพี่แต๊ง เดี๋ยวเย็นนี้ว่าวิ่ง ๒๐ รอบ”น้องภูหันมายิ้มให้ ๒๐ รอบ ตายห่าพอดีอ่ะ

“พูดจริงเหรอภู”

“ล้อเล่น”






๑๗.๑๗ น.
ผมยังคงมาออกกำลังกายเหมือนเดิม มันเริ่มคล่องขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่หายใจยังหอบๆ เพราะร่างกายต้องปรับตัวอีกเยอะมาก ไอ้ชินยังคงเหน็บแนมผมครับตลอดครับ ส่วนน้องภูได้แต่ปลอบ ผมเหรอ ก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ ช่วงที่น้องภูต้องซ้อมเขาก็ซ้อมไป น้องเขาแมนๆนะครับ แต่เวลาอยู่กับผมชอบทำตัวเป็นเด็กน้อย ส่วนสูงน้องอยู่ที่ ๑๗๘ ครับ อีกไม่นานคงจะโตเท่าผมล่ะครับ

“พี่จีบไอ้ภูอยู่เหรอ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย”รุ่นน้องคนหนึ่งมานั่งข้างๆผม

“อืม จีบอยู่”

“พูดจริงอ่ะพี่”

“ล้อเล่น สนิทกันเว้ย”ผมเฉไฉไป จะว่าจีบไหม คือมันมากกว่าจีบแล้ว ตอนนี้เรายังอยู่ในขั้นตอนเรียนรู้กันและกัน ซึ่งผมว่าโอเคนะ คนนั้นถามจบเขาก็จากไปครับ ส่วนผมรอสักครู่น้องภูเลิกซ้อมจึงเดินกลับไปที่สนาม ไอ้แต๊งไอ้เฟียสกำลังหวานกันเลยครับ

“โอ๊ะ อย่าเตะแรงดิ ฮ่าๆ เฮ้ยๆ แต๊ง”

“กวนตีนนะมึง มานี่ เฮ้ย อย่าหนีดิวะ”ไอ้แต๊งไล่เตะไอ้เฟียสครับ

“จับให้ได้ดิ ฮ่าๆๆ”

“ท้ากูเหรอ อ้ากกกกกกกกกก”วิ่งจู่โจมเข้าใส่

“พี่แต๊งเขาดีกับพี่เฟียสเมื่อไหร่อ่ะพี่หมี”รุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาถามผมด้วยความสงสัย

“มันทะเลาะกันเมื่อไหร่ล่ะ”ผมย้อนถาม

“ก็แต่ก่อนเห็นไม่ชอบพี่เฟียสไง หรือว่าเขาจะเป็นแฟนกันแล้ววะพี่ ดูพี่แต๊งไม่หวงเนื้อหวงตัวเหมือนแต่ก่อน”

“แล้วมึงคิดว่าไงอ่ะ”

“ใช่ป่ะพี่ ผมว่าเป็นแฟนกันแน่ๆเลย”

“อ้าก ไอ้เฟียส ปล่อยกู กูจุก”ตอนนี้ไอ้เฟียสแบกไอ้แต๊งหัวหัวลงละครับ “จะอ้วกเลยว่ะ”ลงจากไหล่ได้แล้วก็บ่น

“พี่แต๊ง ถามหน่อยเหอะพี่ พี่เป็นแฟนกับพี่เฟียสแล้วเหรอ”รุ่นน้องที่ถามผมเมื่อกี้ถามเจ้าตัวป่วน

“มึงคิดว่าไงอ่ะ”

“ก็คิดว่า น่าจะเป็นแฟนกันแล้ว”

“เหรอ มันไม่น่าจะสักหน่อย แต่เป็นแฟนแล้วจริงๆ เนอะเฟียส”

“คะครับ”ไอ้เฟียสสะดุ้งตกใจ

“พูดจริงดิพี่”

“กูล้อมึงเล่น”ไอ้แต๊งแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ “ไอ้ภู ไปซื้อน้ำมาให้หน่อยดิ”

“ใช้ไปทั่วนะมึง”ผมดุมัน

“แตะไม่ได้เหรอ งั้นมึงไม่ต้องรู้ข้อมูลอะไรของไอ้หมีอ่ะภู”

“เออ ไม่ต้องถามมันหรอกภู มาถามพี่”

“โหย มึง ให้มีคนรับใช้บ้างเถอะ หิวน้ำ เหนื่อย เมื่อย นวดให้กูหน่อย”มันเดินมาแล้วอ้อนผม

“เฮ้อ บางทีก็คิดว่ามึงเป็นเพื่อน บางทีก็คิดว่ามึงเป็นลูก มึงจะเป็นอะไรกันแน่วะ”ผมส่ายหน้าแล้วต้องปั่นจักรยานไปซื้อน้ำซื้อขนมมาบริการ เวลาเมื่อยก็นวดให้ ผมนี่ทุกสิ่งทุกอย่างซะจริง คิดว่ามันมีแฟนแล้ว แฟนจะมาทำหน้าที่นี้แทน ที่ไหนได้ เหมือนเดิม

ซื้อน้ำท่ามาบริการ ทั้งคนของตัวเอง ทั้งคนของเพื่อน เอาสิครับ แต่ว่าแค่ได้เห็นหน้าน้องภูยิ้มได้ผมก็มีความสุขไป ๑๐ ปีแล้วล่ะครับ

“มองหน้ามีปัญหารึเปล่า”น้องภูยักคิ้วให้

“อะไรเอ่ย?”

“บ้า”









๒๑.๓๒ น.

“กลับบ้านไปได้แล้วมึง ดึกแล้ว”บ้านผม แต่เอ่ยไล่แขกของผมเหมือนเป็นเจ้าของบ้านเองเลยนะมึง

“ดึกแล้ว ขอนอนนี่นะ”ไอ้หน้าหล่อก็มีหน้าที่อ้อนเมีย

“บ้านมีทำไมไม่นอนวะ”

“งั้นไปนอนบ้านผมนะ แม่อยากให้แต๊งไปนอนบ้าน”

“อ้างตลอดอ่ะ เดี๋ยวใครจะมองกูไม่ดีนะ”

“มึงเคยมีอะไรดีด้วยเหรอ”ผมมองไอ้แต๊ง

“อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยดิ ถ้าไม่มีอะไรดีจะเกิดมาทำไมวะ”

“นะแต๊ง ไปนอนบ้านผม หรือไม่ก็นอนบ้านหมีก็ได้ อยากนอนกอดแต๊ง อยากกอดทุกคืน อยากกอดทั้งวัน ผมพูดจริงๆนะ”

“เฮ้อ มึงเป็นหนักมากเลยว่ะเฟียส กูว่ามันเป็นช่วงโปรโมชั่นป่ะวะ แรกๆนี่ทุ่มเต็มที คอยดูเหอะได้กูวันไหน นานๆไปกูนี่คงกลายเป็นหมาอ่ะ”

“อย่าดูถูกความรักของผมแบบนั้นดิ นะ ขอนอนกอด อยากกอดแฟนอ่ะ”

“อืม แค่กอดนะ อย่าล้วง”นาทีนี้ต้องยอมอย่างเดียวครับ เรายังไม่ได้นอนทันทีนะครับ นั่งดูซีรีย์ ไอ้แต๊งก็นั่งพิงอกให้แฟนมันกอด ไอ้เฟียสมัยนั่งกอดไป เวลาไอ้แต๊งเผลอก็จะหอมแก้ม

“กูลงไปกินน้ำก่อนนะ”ผมลุกขึ้นลงไปด้านล่าง หาน้ำเย็นๆกินหน่อย อากาศเย็นก็กินน้ำเย็น แม่ชอบบ่นว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย ขึ้นมาอีกที ผมก็คิดว่าจะเจอฉากน่ารักๆ แบบ เขาแอบจูบกันตอนผมไม่อยู่ไรงี้ ที่ไหนได้ ไอ้เฟียสหลับ ไอ้แต๊งก็นอนหนุนตักไอ้เฟียสไปเรียบร้อย

“เฮ้ย ถ้าง่วงก็นอนได้แล้ว”ผมทุบๆที่เตียง บนเตียงนี่ของมัน เจ้าของบ้านนี่นอนพื้น ทั้งคู่ขึ้นนอนบนเตียงแล้ว ส่วนผมปิดไฟแล้วนอน







๘ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๐๙.๑๗ น.
เขาว่าความรักที่มีอุปสรรค มันก็เหมือนกับคนที่เคยใส่กางเกงในแล้วมันเข้าวิน ความรักของผมกับน้องภูถึงแม้จะบ่มเพาะมาสักระยะแล้ว แต่ว่าอุปสรรคจากที่เราเคยชิมมาคราวก่อนๆมันก็แค่คำด่าอ่ะนะ คาบนี้ว่างผมจึงปลีกวิเวกมาเดินเล่นสัก ๑ ชั่วโมง แต่มันก็โป๊ะเช๊ะมาเจอกับคนหนึ่งครับ

“อ่า เจอตัวพอดีเลย”สาวน้อยวัยมัธยม ๕ ก็เพื่อนร่วมกลุ่มของน้องภูเขาแหละครับ

“หืม มีอะไรเหรอ”

“มีค่ะ พี่มากับหนูแปบนึงสิ”ลากผมไปละครับ ไอ้ผมนี่ก็ใจง่ายเหลือเกิน เขาลากไป เราก็ไป แล้วก็ไปเจอผู้หญิง ๓ คน รวมคนที่ลากผมด้วยเป็น ๔ และน้องเป็นตุ๊ดอีก ๒ คน น่าจะห้องเดียวกัน

“มีอะไรกันเหรอ”

“ตอนนี้ได้ข่าวว่าพี่จีบไอ้พีอยู่”

“เหรอ ไปได้ข่าวมาจากไหน”ผมทำหน้าเหรอหรา

“รู้ก็แล้วกันน่า ว่าแต่พี่ไม่กลัวโดนไอ้พีมันหลอกเหรอ กับพี่ชินมันก็หลอกไปแล้ว”

“หืม ไอ้ชินที่เป็นนักบาสนะเหรอ”

“ใช่สิ นี่พวกหนูพูดตรงๆเลยนะ แล้วไม่ใช่แค่พี่ชิน พี่เอมก็โดนไปแล้ว พี่โต้ พี่เนย ใครๆก็รู้ว่าไอ้พีมันร้ายแค่ไหน เห็นใสๆอ่ะ มันชอบหลอกแดกนะ”

“อืม แต่ก็ไม่เห็นเขาจะหลอกอะไรพี่นี่นา”

“นี่พี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ เวลางูมันจะงับเหยื่อมันก็ต้องค่อยๆทำให้เหยื่อตายใจก่อน ก็เหมือนที่มันทำกับพี่อ่ะ หลอกให้พี่ตายใจ”

“เหรอ อืม ถ้าพี่โดนหลอกเมื่อไหร่พี่จะบอกกับน้องแล้วกันนะ วันนี้ยังไม่โดนหลอก พี่ก็ไม่รู้ว่าเขามาดีหรือมาไม่ดีอ่ะ”

“พี่อย่าแกล้งมึนไปเลยค่ะ พวกหนูพูดก็ด้วยความหวังดี”

“ใช่ พี่ชินอ่ะทุ่มเทกับมันมากเท่าไหร่ ไอ้พีมันแรดจะตายไป มันหลอกผู้ชาย หลอกผู้หญิงฟันไปเรื่อย มันเห็นพี่ไม่ค่อยมีพิษมีภัยมั้ง มันก็อยากจะลอง”อีกคนเสริม

“นี่พวกหนูเตือนด้วยความหวังดีนะ หนูว่าพี่เลิกเหอะ”

“อืม ขอบใจพวกเรามากนะ”ผมพยักหน้า ส่วนจะเลิกไม่เลิกนั่นมันเรื่องของผมอีกทีหนึ่ง

คราวนี้มันก็คงเป็นแค่เรื่องซอฟต์ๆเท่านั้น คือโดนเตือน ผมก็เก็บเอาไปคิด ยังไม่ได้ถามเจ้าตัวว่ายังไงกันแน่ แต่ผมก็ฟุ้งซ่านมากไม่ได้หรอกครับ เพราะไอ้แต๊งกับไอ้เฟียสมันหวานกันทุกวันจนผมลืมคิดเรื่องตัวเอง แล้ววันเกิดเรื่องก็มาถึงครับ

วันนั้นผมเห็นน้องภูไปกับคนๆหนึ่ง น่าจะเป็นรุ่นเดียวกัน คือผมก็ไปซื้อของของผมดีๆนี่แหละครับ ไปซื้อของให้แม่ แล้วเจอน้องภูกับผู้ชายคนนั้นคุยกันหัวร่อต่อกระซิกจับมือกันด้วย ผมก็มองแล้วมองอีก มองไกลๆว่าใช่หรือไม่ใช่ มันยังไงกันแน่ ก็ยืนมองตั้งนานครับจนแน่ใจว่าเป็นน้องภูแน่ๆ  ผมหยิบกระดาษใบน้อยขึ้นมา เขียนความรู้สึกเอาไว้


                                                                 รักเอยเจ้าแผ่ส้าน            ในทรวง
                                                                 แรกเปล่งบานในดวง        กล่องแก้ว
                                                                 แต่เจ้าต้องโรยร่วง           กาลก่อน ผลิสยาย
                                                                 เจ้าคงได้แค่นี้แล้ว           ว่าโอ้  ความรัก

(ส้าน = ซ่าน แต่เขียนแบบนั้นให้ถูกตามบังคับโคลง)
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-10-2015 18:23:30
เข้าใจผิดหรือเปล่าน้าา แล้วเมื่อไหร่พี่หมีจะผอมอ่ะ ถ้าพี่หมีผอม จะจีบกี่คนก็ได้ไง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 25-10-2015 19:00:17
หมีอย่าพึงน้อยใจ
เพื่อน้องภูนี้น่าสงสัยนะ
มีอะไรถามออกไปเลย
อย่าคิดไปเองสิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-10-2015 19:12:18
หรือระยะดูใจของน้องภูไม่ได้จำกัดไว้ให้แค่หมีคนเดียวเท่านั้นกันนะคะ เจ้าตัวเขาถึงได้แสดงท่าทีสนิทสนมกับอีกคนแบบนั้น แต่ถ้าจะให้ดีหมีถามความจริงจากน้องภูอีกทีดีกว่าค่ะ เผื่อภาพที่เห็นจะเป็นแค่เรื่องที่หมีเข้าใจผิดไปก็ได้ :กอด1:

ส่วนคู่เฟียส-แต๊งนี่คนละอารมณ์กับหมีเลยนะคะ หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้ากันเลยจริงๆ :m3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 25-10-2015 19:18:34
ลุ้นเมื่อไหร่หมีจะผอม
น้องภูจะหลอกพี่หมีจริงๆหรือ?
หมีก็อย่าคิดมาก ไปถามน้องให้รู้เรื่อง
จะได้ตัดใจ หรือว่าเดินหน้ากก็ว่ากันอีกที
 :ruready
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 25-10-2015 19:31:57
ิอยากให้หมีลดความอ้วนได้เร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Nankoong ที่ 25-10-2015 19:32:48
หมีใจเย็นๆนะค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 25-10-2015 20:02:32
ญาติหรือป่าว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 25-10-2015 20:03:49
เป็นการเข้าใจผิดป่าวดูๆไว้ก่อนนะหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-10-2015 20:08:04
พี่หมีอย่าพึ่งคิดมากอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 25-10-2015 21:00:55
น้องม.5พวกนั้น มาพูดใส่ไฟ ให้หมีถอดใจรึเปล่า หมีก็อย่าเพิ่งด่วนสรุป ถามน้องหรือดูๆไปก่อน
แต่...ถ้าเสียใจจากเรื่องน้องภู แล้วทำให้หมีเศร้า ไม่อยากอาหาร ก็อาจจะดีนะ จะได้ลดน้ำหนักจริงๆจังๆซักที
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 25-10-2015 21:13:33
หาคนใหม่เลยหมี  ปล่ิอยเขาไปเถอะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 25-10-2015 21:49:01
น้องภูจะร้ายจริงๆหรอเนี่ย
ถ้าเป็นแบบที่พวกนางทั้งหลายว่ามากบัที่พี่หมีไปเห็นด้วยตาจริงๆ พี่หมีได้เสียใจของจริงแน่
แบบนี้ต้องหาคนใหม่อะสิเนี่ย(คิดไปไกลถึงโน้น~)
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 25-10-2015 21:51:33
อีกคู่ก็หวาน อีกคู่ก็ชักมีมารมาขวาง เอาเข้าจริงๆ น้องภูอาจจะแค่ลองเล่นกับหมีเฉยๆ ก็ได้ แต่ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะคะ เพราะเราไม่เคยมีโอกาสได้ฟังเสียงฝั่งน้องภูเลย บางทีคนที่หมีเห็นหยอกล้อกับน้องภูอาจจะเป็นพี่น้องหรือญาติสนิทก็ได้ (แต่ญาติที่ไหนจะจับมือถือแขน?)

แต่นั่นแหละค่ะ, หมีก็ยังไม่ได้รักน้องภูจนขาดไม่ได้ใช่ไหมคะ ดังนั้นถ้ายังสามารถถอยออกมาได้ ก็ออกมาเถอะค่ะ

ปล. เฟียสกับแต๊งหวานกันมากอะ ชอบนะ ดูเป็นธรรมชาติดี เหมือนผู้ชายรักกัน ไม่ประดิษฐ์
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 25-10-2015 22:18:48
สู้ๆ หมีลดความอ้วนก่อนนน  โรคทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 25-10-2015 23:06:09
หมีอย่าคิดมา ชีวิตเรายังอีกยาวไกล :hao3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 25-10-2015 23:29:25
หมีอย่าเพิ่งคิดมากไป รอถามน้องภูก่อนนน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 25-10-2015 23:30:53
ก็รอต่อไปนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 27-10-2015 08:14:53
เอาจริงๆนะ นี่คิดมาแต่แรกเลยว่าพี่หมีไงก็ต้องโดนกดแน่ๆ ไม่คิดว่าภูจะเป็นเคะเลย คิดว่าเป็นเมะมาตลอด ใจอยากให้พี่หมีเป็นเมียน้องภูมากมาย 55555555555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-10-2015 10:32:40
รักอย่างมีสติ ทุกเรื่องมันต้องรอเวลา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 27-10-2015 12:31:34
หมี สู้ สู้  :hao5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 28-10-2015 13:49:39
เฟียสแต๊งคือหวานกันมากเลย
แต่ภูมาหลอกพี่หมีจริงๆหรอ
หมีรอถามภูเลยดีกว่านะ อย่าคิดมากนะหมี

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๕๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๘ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 30-10-2015 23:01:43
หมี...อย่าคิดมากนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 31-10-2015 03:09:09
โคลงที่ ๑๙

๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๑๔.๑๕ น.

ผมไม่ได้คุยกันน้องภูอย่างจริงๆจังๆ คือเวลาน้องมาทักผมก็ปกติ แต่ผมไม่ได้ถามเรื่องนั้นไง แล้วผมพูดน้อยลงเพราะกำลังใช้ความคิด แต่เขาก็ว่ากันมาว่า คนมีความรักมักจะมีโรคอย่างหนึ่งซึ่งมันร้ายยิ่งกว่ามะเร็ง นั่นคือ โรคคิดไปเอง

“เออเฟียส มีคนรู้แล้วนะว่าเราคบกัน เขามาด่ากูฉิบหายเลยว่ะ หาว่ากูกลืนน้ำลายตัวเอง ฮ่าๆๆ มีจะดักตบกูด้วยนะ ดีที่กูง้างมือทันอ่ะ”

“อืม อย่าไปสนใจพวกเขามากเลย สนใจผมคนเดียวก็พอ แล้วถ้าใครมาหาเรื่องก็ต่อยเลย ถ้าไม่ไหว เดี๋ยวผมจะไปช่วยรุมยำ ดีไหม”

“น่ารักว่ะ กลับบ้านนี่ขอจูบทีนะ”

“หลายทีก็ได้นะ นะแต๊ง ทุกวันก็ได้”ไอ้เฟียสอ้อนแฟนแล้วละครับ มันบอกว่าตั้งแต่เป็นแฟนกันได้จูบครั้งนั้นครั้งเดียว เพราะไอ้แต๊งมันไม่ให้จูบเลยครับ มันก็มาบ่นกับผมว่าไอ้แต๊งงก ฮ่าๆๆ ว่าต่อหน้าไม่ได้ เมียดุ

“ทุกวันมันก็เบื่อพอดี นานๆทีดิวะ อีกอย่างเราเป็นเด็ก ทำอะไรให้อยู่ในร่องในรอย ถึงแม้ว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งท้องไม่ได้ก็ตาม เข้าใจไหม”

“ครับ”

“พูดง่ายแบบนี้ให้จูบ ๒ ทีก็ได้”

“แต๊งพูดจริงนะ”คราวนี้หน้าบานเป็นจานเชิง

“สัญญาลูกผู้ชาย”

“โอเค ขอบคุณมาก”มันจะกอดก็กอดในโรงเรียนไม่ได้ เลยได้แค่ยิ้ม เฮ้อ คนอะไรมันช่างหล่อได้หล่อดี หล่อขนาดนี้ไปขี้ใส่แปลงผักให้กูสักหน่อยเหอะว่ะ เผื่อว่าผักกูจะงามไปด้วย

“......”ผมมองหน้าไอ้แต๊งกับไอ้เฟียส เออ ตอนกัดกันนี่กัดอย่างกะหมา ตอนดีกันนี่มันยิ่งกว่าโอ่งมังกรกับฝาซะอีก เอ๊ะ มันใช่สำนวนนี้ป่ะวะ ฮ่าๆๆ

“เฟียส บางทีเราต้องห่างๆกันนะ”ไอ้แต๊งเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

“หืม ทำไมอ่ะ ทำไมต้องห่าง แต๊งไม่ชอบผมแล้วเหรอ”ไอ้เฟียสดูมันตกใจกับคำพูดของแฟนมันมาก เออ นั่นดิ จะห่างกันทำไม ทั้งที่เพิ่งคบกัน ทั้งที่กำลังไปกันได้สวย

“ชอบ แต่เราต้องห่างกัน”

“ทำไมอ่ะแต๊ง”จะร้องไห้แล้วละไอ้หล่อของกู

“ไอ้หมีมันอิจฉา ที่เห็นเราอยู่ด้วยกัน”

“หา”

“เออ มึงดูดิ ที่เราพูดเมื่อกี้อ่ะ มันมองด้วยสายตาแบบจะฆ่ากูให้ได้อ่ะ”

“โธ่ เรื่องนี้นี่เอง ไอ้เราก็คิดไปไกลว่าจะเลิกซะอีก”

“ฮ่าๆๆ แล้วหมาตัวไหนบอกให้รักมันนานๆวะ โด่ว แต่มึงต้องห่างๆกูบ้างนะ กูจะได้มีเวลากับไอ้หมี มันไม่มีแฟน มันอิจฉากูอ่ะ”

“หมี มึงอย่าอิจฉาพวกเราได้ป่ะ กูอยากอยู่ใกล้ๆกับแฟนกูอ่ะ”ไอ้เฟียสขอร้อง

“ไม่ได้ว่ะ กูตาร้อนมาก กูทวงเพื่อนของกูคืน”แกล้งไอ้เฟียสสักหน่อย

“หมี นะ ขอร้อง”

“เฮ้อ ถ้าเราได้กินเค้กมะพร้าว มันก็คงจะใจเย็นขึ้นนะ”

“ไอ้หมี ไอ้หมูหลอกแดก มึงนี่เห็นแก่กินจริงๆ”ไอ้แต๊งต่อว่าผม

“ฮ่าๆๆๆ แต่มึงไม่ได้ซื้อเค้กมาฝากกูนานแล้วนะเว้ยเฟียส”ขอแซะมันสักหน่อยเผื่อได้กินของฟรี

“งั้นเย็นนี้ก็ได้”

“กินอะไรก็ระวังอ้วนด้วยนะ ยิ่งไม่ค่อยหล่ออยู่ด้วยอ่ะมึง”

“นาทีนี้กูไม่สนใจล่ะ กูอยากกินเค้ก”


๑๗.๔๕ น.
ชมรมต่างๆเลิกซ้อมแล้ว วันนี้ผมปั่นจักรยานไปมา ๑๐ กว่ารอบครับ ปั่นรอบโรงเรียน และก็วิ่งบ้างเล็กน้อย น้องภูก็ปั่นเป็นเพื่อนนะ เราคุยกันแต่ก็อย่างที่พูดไป ผมพูดน้อยลง แล้วก็มานั่งคิดว่าเอ๊ะ เราบ้าป่ะวะ มีอะไรทำไมไม่ถามน้องดู

“พี่หมีดูเงียบๆนะ มีอะไรหรือเปล่า ภูว่าจะถามหลายครั้งแล้ว แต่รอให้พี่พูด พี่ก็ไม่พูด”

“อืม มันก็มีเรื่องมาให้คิดอ่ะ”

“เรื่องอะไร เรื่องของภูหรือเปล่า”

“ก็ใช่นะ”

“มิน่า พี่ไม่ค่อยคุยกับภูเลย บอกภูมาดิว่ามีอะไร”

“ก็มีคนมาเล่าให้พี่ฟังว่า เขาอยากให้พี่เลิกยุ่งกับภู แล้วเขาก็ว่าภูหลอกคนอื่นไรงี้”

“อ๋อ ใครเล่าให้ฟังอ่ะพี่”

“ก็นรุ่นน้องอ่ะ พี่จำชื่อไม่ได้ จะมีผู้หญิงกับผู้ชายออกสาวหน่อยเขาพูดว่าภูหลอกไอ้ชิน หลอกคนอื่นๆด้วย”

“หลอกคนอื่น หลอกพี่ชิน หลอกตรงไหน ใครพูดอ่ะพี่หมี เดี๋ยวภูจะไปต่อยหน้าแม่ง พวกนี้กวนตีน”

“ตกลงว่าหลอกจริงไหม ถ้าจะหลอกพี่จะได้ทำใจ”

“พี่บ้าป่ะวะ หลอกบ้าอะไรวะตั้งหลายเดือน นี่ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอ ทำไมวะพี่ คำพูดน้องพี่ไม่เชื่อ พี่ไปเชื่อคำพูดคนอื่น”

“พี่ก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด แต่พี่ก็อยากรู้ ถ้าพี่เชื่อพวกเขาทั้งหมดพี่จะพูดแบบนี้กับน้องเหรอ”

“หมี ไอ้หมี ไปกินเค้กกัน”เสียงไอ้เฟียสตะโกนมาแต่ไกลครับ

“ภูไปด้วยนะ ไปคุยกันด้วย”น้องพูด ผมก็ต้องพยักหน้า


ผมโทรบอกแม่ว่าวันนี้ขอเถลไถล ๑ วัน แม่ก็ไม่ว่าอะไร เราก็ปั่นจักรยานกันมาที่ร้านเค้กเล็กร้านหนึ่งครับ ทีแรกว่าจะกินที่นี่แต่ว่าแม่ไอ้เฟียสโทรตามให้พาไอ้แต๊งกลับไปด้วย แล้วคิดเหรอว่าเสือแต๊งมันจะกล้าไปคนเดียวน่ะ มันก็ลากผม ไอ้ผมเองก็ยังไม่เคลียร์กับน้องภู จึงต้องลากน้องไปด้วยคน ไอ้เฟียสเองก็อยากรู้เรื่องด้วยครับ มันบอกว่าผมเป็นกำลังใจให้มันกับไอ้แต๊งมานานแล้ว มันอยากตอบแทนผมบ้าง ช่างดีเลิศประเสริฐศรีซะจริงเพื่อนกู

“แต๊งไม่ยอมมาหาแม่เลย”คุณแม่ออกอาการงอนลูกชายคนใหม่ล่าสุดแล้วล่ะครับ

“อ่า ก็ไม่ว่างครับ ต้องช่วยป้าพิมพ์ขายของ”

“ก็น่าจะปลีกตัวหานอนเล่นที่นี่ซักวัน แม่จะได้คุยกับเราด้วย เย็นนี้นอนที่นี่แล้วกันนะ หมีด้วย”

“แฮะๆ คงไม่ได้ครับ หมีไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย”

“นั่นน่ะสิ แม่ลืมคิดไป ไม่เป็นไร วันหลังแล้วกัน แต่แต๊งคืนนี้นอนที่นี่นะลูก”

“ครับ”

“งั้นก็นั่งเล่นกันไปนะลูก เดี๋ยวแม่ไปซื้อของแปบนึง จะทำอร่อยๆให้ทานกัน”

“จะอาบน้ำก่อนไหม”ไอ้หน้าหล่อหันไปถามแฟน ใส่ใจกันดีมากเลยนะ

“สักแปบก็ได้ อยากนั่งเล่นข้างนอกสักหน่อย”

“เออ หมีกับภูนี่ตกลงว่ามีปัญหาอะไรกันเหรอ หมีมึงต้องเคลียร์นะ ส่วนภูต้องบอกความจริงมาทั้งหมด ไม่งั้นน่วม”ไอ้เฟียสเข้ามาเป็นคนกลาง ส่วนไอ้แต๊งเดินเล่นชมนกชมไม้รอบๆบ้านแฟนมัน

ผมจึงเล่าเรื่องในวันนั้นให้ฟัง ไอ้แต๊งจากที่เดินอยู่ดีๆก็มาฟังด้วยครับ มันต้องรู้เรื่องนี้ มันพูดว่างั้นนะ พอผมเล่าจบก็เป็นคราวของน้องภู

“มันไม่จริงเลยนะพี่หมี ภูก็ไม่รู้ไปทำอะไรให้พวกมัน ภูไม่เคยหลอกใคร พี่ชินเขาเข้ามาเอง ภูก็วางตัวห่างๆมาตลอด รู้ว่าเขาจะจีบแต่ก็ไม่ได้ให้ความหวัง แล้วเขาก็คิดไปเอง ส่วนพวกนั้นอ่ะ ไม่รู้มันหมั่นไส้อะไรภู เห็นภูสนิทกับคนหน้าตาดีมั้ง”

“ตกลงว่าไม่ได้หลอกนะ ถ้าหลอกก็รีบห่างจากไอ้หมีตอนนี้เลย อย่าให้กูจับได้ทีหลัง ถ้ากูจับได้อ่ะมึงเละ”

“พี่แต๊ง ผมจะมาหลอกทำไม ทำแล้วได้อะไรล่ะ ผมเข้ามาจีบพี่หมีเพราะผมชอบ ทำไมคนถึงชอบองว่าหลอก ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด เพราะผมหน้าตาดีเหรอ”

“อืม มันก็ระแวงอ่ะ ขนาดกูก็ยังมีคนเข้าใจผิดเลยว่าจะหลอกแต๊ง”ไอ้เฟียสลูบเครา

“จะบอกว่าตัวเองหน้าตาดี”ไอ้แต๊งถาม

“อืม ก็ตามนั้น”

“โฮ้ หลงตัวเองอ่ะ เห็นว่าถูกจัดอันดับหน่อยนี่เบ่งเลยนะ พ่อมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ถุ้ย”

“อ้าว ทำไมพูดแบบนี้อ่ะ มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกเหรอ”ไอ้เฟียสยังหน้ามึน

“หึหึ อ่ะๆ ก็ได้ มึงหล่อก็ได้ นี่มึงพูดจริงใช่ไหมไอ้ภู”

“สาบานก็ได้พี่แต๊ง ผมชอบพี่หมี อยากจีบพี่หมี อยากคบ ผมไม่ได้หลอก แล้วผมก็ไม่จำเป็นต้องหลอกใครด้วย มีแต่พวกนั้นที่หลอกตัวเองว่าภูไปชอบเขา”น้องภูยืนยันหนักแน่น

“แล้วพี่มีเรื่องสงสัยอย่างหนึ่ง วันนั้นเห็นภูเดินจับมือกับผู้ชายคนหนึ่งอ่ะ”

“อ๋อ นั่นมันไอ้หน่อย ไอ้หน่อยเพื่อนภูเอง ก็ลากๆกันไปอ่ะพี่หมี เราสนิทกัน”

“อืม ไม่ได้จีบใครหลายคนใช่ไหม”

“สาบานได้พี่หมี ถ้าไม่เชื่อใจงั้นเรามาเป็นแฟนกันเลยดีกว่า”

“แรดว่ะมึง”ไอ้แต๊งส่ายหน้า

“ก็น้อยกว่าพี่แต๊งอ่ะ ถือเค้กบากหน้ามาขอพี่เฟียสเป็นแฟนถึงบ้าน”น้องภูต่อปากต่อคำ

“เฮ้ยๆ อย่ามาว่าแฟนกู เดี๋ยวปากแตกนะ”อีกคนก็ออกโรงปกป้อง

“มึงกล้าทำแบบกูหรือเปล่าล่ะไอ้ภู โธ่ เขียนกลอนจีบกันไปมา แบบนี้เมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนกัน”

“อ้าว นี่มึงรู้ด้วยเหรอ”ผมถามด้วยความตกใจ

“เออ กูสงสัยตั้งแต่มึงส่งผิดวันนั้นแล้ว กูก็แอบดูในมือถือ หวานสัส อยากมีคนกอด หนาวลมห่มรัก หนาวนักแม่งไม่ผิงไฟไปล่ะไอ้สัส”

“ไอ้เหี้ยแต๊ง ปากน่ะอยากเก็บไว้กินอาหารดีๆป่ะ หรือว่าอยากหยอดข้าวต้ม”ผมขู่ฟ่อเลยครับ

“ภู พี่หนาว กอดพี่หน่อย ไขมันพี่จะได้ละลาย”แล้วมันก็ดึงแขนไอ้เฟียสไปกอดคร่ำครวญแสดงบทละคร

“เหรอพี่หมี พี่หมีหนาวมากไหม เดี๋ยวภูจะกอดแน่นๆ”ไอ้เฟียสก็อีกคนครับ

“หนาวจับใจ ผ้าห่มอันใดก็มาให้ความอบอุ่นไม่ได้”

“งั้นพี่จะกอดและหอม ให้ร่างกายมันอบอุ่นมากกว่านี้เนอะ”ฟอด

“เฮ้ยๆ ทะลึ่งแล้วมึง”

“แฮ่ ก็แต๊งน่ารักเองนี่นา วันนี้อย่าลืมสัญญาด้วยนะ จูบ ๒ ครั้ง”

“เป็นเด็กเป็นเล็ก จูบไม่เป็นเว้ย”

“เออ คนเรานะ รีบโตบ้างก็ได้นะ”

“กูไม่รู้ กูใสๆ”

“กูอ้วกได้ไหม”ผมทำท่าจะโก่งคอ

“กวนตีนแล้วมึงไอ้หมี แล้วนี่ตกลงว่าเคลียร์แล้วใช่ไหมวะ”คราวนี้ไอ้แต๊งมองหน้าผมสลับกับน้องภูไปมาด้วยสายตาจริงๆ

“เคลียร์แล้ว ไม่มีอะไร ตรวจสอบได้ทุกอย่าง”น้องภูเป็นคนตอบ

“ก็ดี มีอะไรก็คุยๆกัน เฮ้ย ลืมว่ะ ว่าจะดูการ์ตูนสักหน่อย เฟียส มีแท็ปเล็ตป่ะ”

“ดูในคอมก็ได้นะ อยู่บนห้องอ่ะ”

“ไม่กล้าเข้าห้องมึงอ่ะ มันหลอน รูปกูเยอะเกินไป”

“หึหึ ก็เอาลงมาดูข้างล่างก็ได้ ขึ้นไปหยิบดิ หรือว่าจะให้เอามาให้”

“เดี๋ยวไปหยิบเองก็ได้ วางอยู่บนโต๊ะใช่ป่ะ”

“อยู่ในลิ้นชักของโต๊ะอ่านหนังสือนะ”

แล้วมันก็หายไปครู่หนึ่ง พวกผมจึงเดินตามเข้าไปในตัวบ้าน ตอนนี้มันก็มืดแล้วครับอากาศเย็นด้วย ไม่อยากจะอาบน้ำเลย แต่ว่าก็นะ ต่างคนต่างก็เน่า เหงื่อโทรมกายทั้งมาทั้งนั้น ผมมานั่งดูการ์ตูนข้างไอ้แต๊ง ผมชอบดูไม่ต่างจากมันเลยครับ เวลามีอะไรมาดูก็ชวนผมดู อย่างแม่ผมก็วันพีช ดูวันละตอนให้อารมณ์ดี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 31-10-2015 03:09:59
๑๙.๑๘ น.
ได้เวลามื้อเย็นแล้วครับ อร่อยทุกอย่าง แหงล่ะ ก็เอาใจลูกชายคนใหม่ของบ้านนี่ครับ แต่ผมนี่กินเยอะไม่ได้ กินแค่พอดี กินอิ่มก็นั่งคุยนิดหน่อย ได้เวลาผมจึงกลับบ้าน ไปส่งน้องภูก่อนแล้วปั่นกลับบ้านตัวเอง ๑๐ กว่าโล ดีนะไฟสว่าง ทางดี มีคนสัญจรไปมา ไม่งั้นผมหลอนตายห่าแน่นอน กลับมาถึงบ้าน หิวอีกแล้ว หึหึ ก็ต้องหาอะไรมาเติมนิดหน่อย



๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๐๗.๑๗ น.
วันอาทิตย์แห่งชาติมาถึง วันนี้พ่อกลับบ้านครับ กลับตั้งแต่เย็นวันศุกร์แล้ว มารู้จักกับพ่อผมหน่อยนะครับ ก็เป็นผู้ชายร่างสูง มีพุงนิดหน่อย อายุ ๕๕ แล้ว ใกล้เกษียณแล้วครับ เป็นข้าราชการอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง นิสัยเป็นคนอบอุ่น แต่เคยโดนคนทำคุณไสยใส่ด้วยนะ เมื่อหลายปีมาแล้ว เขาจะเอาไปเป็นผัวอ่ะ แล้วเขาทำเสน่ห์ยาแฝด ทำด้วยของต่ำ ตอนนั้นเราเกือบจะเสียความเป็นครอบครัวไปแล้วครับ ทุกวันนี้พ่อจึงได้ระวังตัวทุกฝีก้าว

“พ่อเอาจักรยานไปปั่นนะหมูน้อย”พ่อเรียกผมแบบนี้เสมอล่ะครับ หึหึ เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่ยอมลดสักที เป็นหมูมานานแสนนาน

“ครับพ่อ กลับมาก่อน ๙ โมงครึ่งนะพ่อ เดี๋ยวหมีจะไปปั่นกับไอ้แต๊ง”

“อืม”แล้วพ่อก็ปั่นจักรยานออกไปครับ หน้าที่ของผมก็ช่วยแม่ อากาศเย็นลง มีลมพัดเบาๆ หน้าหนาวมาเยือน ต่างจังหวัดอาจจะหนาวกว่าหน่อยหนึ่ง ส่วนเมืองกรุงคงไม่นาน

สายๆ ไอ้แต๊งออกจากบ้านมาช่วยขายของที่ร้านของผมเหมือนเดิม

“หน้าหนาวอยากมีสาวมากอดเนอะ”ไอ้แต๊งเปรยเบาๆ จังหวะพอดีที่เสือเฟียสมันออกมาจากห้องน้ำ ลืมบอกว่าวันนี้มันมาเฝ้าแฟนมันครับ เสาร์อาทิตย์ไม่มีห่าง แต่ไม่เฝ้าเปล่านะ มันหอบหนังสือมาเฝ้าแฟนมันด้วย พอไอ้แต๊งพูดแบบนั้นไอ้เฟียสก็เหวอสิครับ

“ผมกอดไม่อุ่นเหรอ”

“ทะลึ่ง กูแค่เปรยๆ ไม่ได้ทำจริง กินข้าวมาแล้วเหรอ”

“กินแล้ว”

“อือ ทำหน้าเหมือนหมาป่วย ขี้น้อยใจไปป่ะวะ”

“ก็...”

ฟอด ไอ้แต๊งเดินไปหอมแก้มแฟนเป็นการง้อ

“อะแฮ่ม อะไรกันลูกหลานบ้านนี้ เป็นผู้ชายมาหอมแก้มกัน หืม”แม่ออกมาจากหลังบ้านเจอฉากเด็ดพอดิบพอดี

“ก็มันงอนหนูอ่ะป้า”

“จ๊ะ ง้องอนกันน่ารักเชียว แบบนี้สาวใดชายใดมาเห็นเขาก็ไม่อยากเข้าร้านป้าน่ะสิ ถ้ารู้ว่าคนเสิร์ฟมีเจ้าของแล้ว”แม่ยังแซว ตอนนี้ไอ้เฟียสเขินหน้าแดงก่ำๆยืนหลบหลังไอ้แต๊งครับ มันกำชายเสื้อแน่นเชียว

“ป้า แล้วตอนป้าง้อลุง เวลาลุงงอน ป้าทำไง”

“ก็เต้นไง ร้องเพลง แล้วเต้น”แม่ตอบ ผมนึกภาพไปด้วย ตลกดี

“แม่ก็กล้าทำเนอะ”

“เออสิ ถ้าไม่ง้อเอ็งก็ไม่ได้เกิดหรอกไอ้ลูกหมู งอแงมากก็ไม่ดี สาวๆเขาเยอะ งอนนิดง้อหน่อย แต่ทุกวันนี้ถ้างอนมากๆเดี๋ยวจะเอาปังตอพาดหัวสักที ฮ่าๆๆ”

“แม่กลายเป็นนางยักษ์ซะแล้ว แฮ่”

“แล้ววันนี้จติวกันอีกไหม รีบอ่านหนังสือนะลูก จะได้สอบเข้าที่ดีๆ พ่อแม่ก็ไม่หวังอะไรมากมายหรอก อยากให้ลูกได้ดิบได้ดีกันทุกคน มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนก็สู้ลูกได้มีฐานะการงานการศึกษามั่นคงไม่ได้หรอก”

“หนูจะเป็นผู้พิพากษา”ไอ้แต๊งพูด

“กูอ่านเจอเว้ยแต๊ง ตอนสัมภาษณ์อยากเป็นผู้พิพากษา พอปี ๒ อยากเป็นอัยการ ปี ๓ อยากเป็นทนาย แต่พอขึ้นปี ๔ ไม่อยากเป็นอะไรแล้ว ขอแค่จบเถอะ ฮ่าๆๆ”

“เออ แต่ก็ต้องฝันใหญ่ไปให้ถึง แม้จะไม่ถึงได้แค่ครึ่งของฝันก็ยังดี ไอ้เฟียสมึงอยากเป็นอะไรวะ”

“อืม ยังไม่คิดเลย เข้าวิศวะได้จบไปก็หางานทำตามสายงานที่จบล่ะมั้ง ยังไม่คิดอะไรไกลเกินไปอ่ะ เข้าวิศวะให้ได้ก่อน”

“อืม นั่นสิ กูก็เข้านิติให้ได้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”ตอนนี้ก็แค่มุ่งมั่นสอบเข้าให้ได้อย่างเดียวครับ

“เฮ้อ กูจะสอบได้ป่ะวะ คะแนนก็ไม่ดี”ไอ้แต๊งนั่งลงบนเก้าอี้ถอนหายใจ

“เรายังไม่สู้กับมันเลยนะ”

“ไม่อยากสู้ว่ะ นี่กูคิดเอาไว้นะ กูว่าจะไม่ยื่นแอด เพราะกูกลัวจะเสียใจ กูไปสมัครที่เข้าง่ายๆออกยากดีกว่า”

“ไม่ลองดูก่อนล่ะแต๊ง คะแนนแกทแพทก็ยังไม่ออกเลย ปีหน้ายังมีอีกรอบ ลองดูก่อนเผื่อจะฟลุ๊คไง ยังไม่ได้ลงสนามรบเลย ยกธงยอมแพ้ซะแล้ว”

“กูสอบเข้ามหาลัยปิดได้ มึงจะยอมเป็นเมียกูป่ะล่ะ”

“คนละเรื่องกันเลยอ่ะ เอาน่ะ ลองดูก่อน ไม่ลองไม่รู้”

“มึงก็ต้องลองเป็นเมียกูด้วยนะ ไม่ลองไม่รู้”

“หึหึ ไม่ต้องลองผมก็รู้ น่าเชื่อฝีมือผม”

๙.๓๓ น.
พ่อปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้าน มื้อเช้าแม่ขายของหมดแล้ว เตรียมมื้อกลางวันต่อครับ พ่อมา น้าชาติก็มาชวนพ่อไปคุยที่บ้าน ส่วนน้าหมอนมาช่วยหยิบนั่นหยิบนี่ให้แม่ครับ พวกผม ๓ หน่อก็พากันไปปั่นจักรยานออกกำลังกายกันครับ เรื่องน้ำหนักจะว่าลดไหม มันก็ลดนะครับ ลดไปสัปดาห์ละ ๒ โล เพราะผมออกกำลังกายหนัก คือต้องดึงไขมันส่วนเกินให้มันมาเผาผลาญให้ได้ แล้วก็กินพอดีๆ มันเหนื่อยแต่ก็ต้องกัดฟัน ไม่สู้ก็ไม่ได้ มันท้อทุกวันเลยครับ ก่อนนอนผมก็มานอนคิดนะ กูจะไปไหวไหมวะ กูจะเหนื่อยไปทำไมวะ จะฝืนตัวเองทำไมวะ คืออารมณ์ขี้เกียจมันเข้ามาทวงถามไง ไม่มีใครระบายก็ไอ้แต๊งคนแรกที่ผมคิดถึงครับ มันรับฟังทุกอย่าง และด่าทุกอย่างที่ผมบ่น พอมันบ่นผมก็ด่าทุกอย่างกลับ ฮ่าๆๆ

ส่วนคนถัดมาที่ผมระบายด้วยก็ไอ้เฟียสครับ คนนี้ดีหน่อย ไม่ด่าแต่ให้กำลังใจ ส่วนน้องภูผมฟังคำสั่งเขาอย่างเดียว มีระบายให้น้องฟังด้วยนะ แต่น้องก็บอกว่า “พี่ต้องทำให้คนอื่นเขาร้องเสียดายที่เขาดูถูกพี่ดิ” โห ไฟลุกโชนเลยครับ แต่มันประเภทไฟไหม้ฟางนะ ฮ่าๆๆ แปบเดียวมันก็มอด แต่ก็กัดฟัน ทำไป บ่นบ้าง เหนื่อยแค่ไหนเราต้องทำได้ เราสบายมาเยอะ มันก็ต้องมีช่วงที่ต้องลำบาก

๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๑๓.๑๕ น.

“นี่พี่ยังไม่เลิกกับไอ้พีอีกเหรอ ทำไมถึงโง่ให้มันหลอกอยู่ได้อ่ะพี่”

“ใช่ ทั้งโง่ทั้งเซ่อ”

“น้องเอาเวลาด่าคนอื่นไปอ่านหนังสือ ผู้ปกครองจะภูมิใจมากเลยนะ”ผมตอบกลับ ไม่อยากมีปัญหาแต่อดไม่ได้

“ทำไมต้องลามถึงพ่อแม่ด้วยวะ”

“เออ นี่อุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี มาด่าถึงพ่อถึงแม่”

“คำไหนที่ด่าถึงพ่อแม่น้อง ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับเอาไปกระเดียด”

“หึ๊ คนมันโง่ก็โง่ดักดาน เตือนดีๆแล้วไม่ชอบ”

“พี่อยากบอกอะไรให้ฟัง ไปถามน้องเขาหมดแล้ว ถามหมดแล้วทุกอย่าง พี่ไม่รู้น้องมีเจตนาอะไรนะ แต่เลิกเถอะ เลิกทำตัวแบบนี้ ยุคนี้มันไม่ใช่ยุคดึกดำบรรพ์ที่ต้องการผู้ชายคนไหนจะได้เอาไม้ตีหัวแล้วลากกับบ้าน ทำตัวดีหน่อยเถอะ”

“ว่าพวกเราเถื่อนเหรอ ว่าพวกเราไม่มีการศึกษาเหรอ”อีกคนปรี่จะมาตบ

“มาสิ พี่ไม่กลัวหรอก เข้ามาเลย”ผมง้างมือเช่นกัน

“เอาสัดดอกไหมอีเต้ สั่งสอนสักหน่อย”อีกคนตัวโย่งกว่าเดินปรี่เข้ามา แล้วเขาก็ลงมือก่อน ตุบตับๆ คนเยอะผมนี่แพ้ทางเลยครับ แต่ก็สวนไปหลายดอก ผู้หญิงผู้ชายกูไม่สน กูตบกูต่อยอย่างเดียว

“นี่พวกเธอ ทำไมถึงได้ทำร้ายร่างกายกันในโรงเรียน หยุดเดี๋ยวนี้นะ แล้วตามครูเข้ามาที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้”ครูปกครองมาเจอพอดี โหย เละสิครับงานนี้

ว่าแล้วมหกรรมสอบสวนก็เริ่มขึ้นครับ งานนี้มีแถ แถแถ่ดๆ ส่วนผมนี่ตรงไปตรงมา พูดความจริงทุกอย่าง

“ครูต้องเชิญผู้ปกครองพวกเธอมาที่โรงเรียนนะ แล้วจะต้องทำทัณฑ์บน”

“ครู”

“ไม่ต้องโอดครวญ ทีมีเรื่องกันทำไมไม่คิด เย็นนี้มารับหนังสือเชิญผู้ปกครองด้วยแล้วกัน”

“ครับ”ผมลุกออกจาห้อง ไม่ได้กลัวเพราะเราไม่ผิด


พอกลับมาที่ห้องเรียนไอ้แต๊งสืบสวนผมใหญ่เลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น จะบอกว่าไม่มีอะไร หกล้มในห้องน้ำรอยช้ำ รอยตีนก็เต็มเสื้อไปหมดก็เลยต้องเล่าครับ แล้วคนที่เดือดร้อนเป็นห่วงเป็นใยไม่ใช่แค่ไอ้แต๊งคนเดียว

“ไปดักตบอีกรอบม่ะ มันน่านักพวกนี้”แพรวพรรณหัวหน้าห้องผมเองครับ สาวเนิร์ดแต่แอบแรง

“ใช่ ตามไปถึงบ้านเลย ดักตบรายตัวไปเลย”

“โว๊ะ พวกมึงนี่หาเรื่อง มีแรงเหรอตัวเท่าหมากระเป๋าอ่ะ”ไอ้แต๊งต่อว่าเพื่อน คือคนที่ว่าเมื่อครู่นี่ตัวเล็กครับ เรียกว่าเตี้ยได้เลยล่ะ

“ก่อนที่จะได้ตบพวกนั้นกูจะตบปากมึงก่อนอ่ะแต๊ง”

“อ้าวๆ ทะเลาะกันซะแล้ว”อีกคนเอ่ยขึ้น

“เดี๋ยวรอกูหายก่อนดิ ค่อยไปฉะพวกมันพร้อม”ผมเอ่ยขึ้นบ้าง

“ดูมัน น่วมขนาดนี้ยังจะปากดี”ไอ้แต๊งทำหน้าเบื่อหน่าย

และแล้วข่าวก็ถึงน้องภูครับ น้องรีบมาหาผมที่ห้องเรียนไวมาก คือคตบมันมีทั้งห้องเดียวกับน้องและคนละห้องครับ ก็เล่นชาย ๒ หญิง ๓ มาตบกูจนคิดว่าตัวเองเป็นหมูเนื้อเด้ง ข่าวไม่ดังก็ให้มันรู้ไป น้องเข้ามาถามหลายๆคนก็มอง

“แบบนี้ต้องเอาเรื่องให้มันเข็ดสักหน่อยล่ะ พวกปากปีจอเล่นกับใครไม่เล่น”น้องเอ่ยอย่างโกรธแค้น เออ ไอ้เราก็ลืมไปว่าพ่อเขาน่ะนายตำรวจผู้ใหญ่



๑๖.๑๕
ออกจากห้องเรียน ไอ้เฟียสเดินมาถามผมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที ผมก็เล่าไปเจ็บไป เฮ้อ เด็กบ้าเด็กบอ เด็กไม่ฉลาดชาติไม่รุ่งเรืองสถาพรจริงๆ ตบมาได้ นี่คราวหน้ากูไม่โดนปืนยิงเอาหรอกเหรอ โด่ว นี่มันสงครามแย่งลึงค์ทองคำป่ะวะ

วันนี้ไม่ซ้อมอะไรเพราะโดนซ้อมมาเยอะ น้องภูตามไปทำแผลให้ถึงบ้าน มีว่าที่เมียเป็นว่าที่หมอก็ดีแบบนี้ล่ะครับ ยามเจ็บไข้ได้รับการรักษา และเยียวยาทางจิตวิญญาณ ถุ้ย หลังๆนี่ชักจะเพ้อ แม่เห็นสภาพแม่ก็ถามนะ

“เฮ้อ วัยรุ่นสมัยนี้เป็นอะไรกันกะอีแค่ผู้ชายคนเดียว มันหล่อแค่ไหนเชียวแม่อยากรู้ ถึงต้องตบต้องตีแย่งกันเนี่ย ไอ้นั่นมันเลี่ยมทองไว้รึไงวะ ถึงทำกันแบบนี้”

“เอ่อ แม่ครับ ที่เขามาตบหมีเพราะเขาจะมาแย่งคนนี้อ่ะ”ผมชี้ไปที่น้องภู

“แฮะๆ ภูไม่ได้เลี่ยมทองนะแม่ แค่หล่อเฉยๆ”น้องภูยิ้มแห้งๆ

“นี่พูดจริงพูดเล่น”แม่ทำหน้าตกใจ

“จริงสิแม่”

“ตายๆ พ่อคุณ พรุ่งนี้ต้องฉะพวกนั้นสักหน่อยล่ะ เราเลี้ยงลูกมาดีตลอด ไม่เคยสั่งให้ต่อยให้ตีให้ มีแต่จะให้ใช้ปืนอย่างเดียว เอ๊ย ลิ้นพันกัน ต้องเคลียร์แล้วล่ะ แล้วภูก็ด้วย รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆนะลูก ออกกำลังกายเยอะๆ มีอะไรจะได้สวนกลับได้ทัน”

“อ้าว คิดว่าจะให้วิ่งหนีให้ทันซะอีก”ผมขำกับคำพูดของแม่

“ก็สวนไปก่อนแล้วค่อยวิ่ง เออ นี่เขาจะด่าว่า อิป้านี่แทนที่จะสอนลูกสอนหลานดีๆ มีอย่างที่ไหนสอนให้ใช้กำลัง ฮ่าๆๆ เขาจะด่าแม่ป่ะลูก”

“ไม่รู้อ่ะแม่”ผมส่ายหน้า

“นี่ขนาดลูกฉนขี้เหร่แบบนี้ยังมีคนมาดักตี ถ้าหล่ออย่างกะยาว ลูกหยี”

“แม่ ยาว ลูกหยีหล่อตรงไหน แม่ใช้ตาอะไรมอง”

“ตาตุ่มสิจ๊ะ อ้าว ก็แม่ไม่รู้จักดารา จำได้แค่ยาวลูกหยี ก็เอาคนนี้ไปก่อนสิ เอาใหม่แล้วกัน นี่ถ้าลูกแม่หล่อระดับพระเอกหนังนะ มันไม่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลยเหรอ เฮ้อ แม่มองเห็นอนาคตรำไรแล้วล่ะ”

“แม่ก็เว่อร์ไป ไม่ขนาดนั้นหรอกแม่”พูดแล้วเขิน แม่ชมว่าหล่อ ลืมเจ็บเลยครับ

“พรุ่งนี้จะตึงๆหน่อยนะ มันจะปวดหน่อย แต่ไม่กี่วันคงจะหาย”น้องภูบอกเป็นการทิ้งท้ายการทายา มือนิ่มดีครับ แต่ว่าแขนนี่ใหญ่ดีครับ ต่อยคนได้สบายๆเลย

“คืนนี้นอนกอดพี่ดิ จะได้หายไวๆ”

“แรดมากค่ะลูกชาย”แม่เบ้ปากใส่

“ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นอ่ะแม่”

“จะนอนที่นี่ก็ได้นะลูก แม่ไม่ว่า แต่อย่าเสียการเรียน”

“แม่พูดมีความนัยอะไรหรือเปล่า”ผมหรี่ตามองแม่แบบหยอกๆ

“แม่หมายถึงอย่าตื่นสาย พี่ก็คิดไปไกล”น้องภูตอบ

“เห็นไหม น้องเขาใจตรงกันกับแม่ เอาเถอะ กินข้าวกินปลากันลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ต้องไปสู้รบปรบมือกับพวกผู้ปกครองฝ่ายนั้นอีก นี่แม่เอาปืนใหญ่ไปจ่อยิงถล่มบ้านเลยดีไหม จะได้หมดเรื่องหมดราว”

“แม่ฮาร์ดคอมาก”น้องภูขำ

“ฮ่าๆๆ พูดขำๆไปงั้นแหละลูก”



๒๑.๑๙ น.
“มึงมานอนข้างล่างเลยไอ้แต๊ง ให้น้องนอนด้านบน”

“เรื่องอะไร นี่ที่นอนกูอ่ะ แล้วให้มันนอนด้านบนจะเป็นไรไป”

“ก็เผื่อมึงกลิ้งไปกอดน้อง กูหวงบ้างดิวะ”

“งั้นภูนอนด้านล่างกับพี่หมี”น้องภูทำท่าจะลงจากเตียง

“ไม่ได้ๆ มันผิดผี”ผมโบกมือปฏิเสธ

“ผีบ้าอะไรของมึง โว๊ะ รักนวลสงวนตัวจริงๆ นอนๆไอ้ภู ถ้าหนาวกูจะกอดมึง โอเคป่ะ”ไอ้แต๊งตบไหล่น้อง

“กูจะฟ้องไอ้เฟียส”

“อย่านะเว้ย เดี๋ยวมันเตะกู เห็นพูดเพราะๆแบบนั้นแม่ง ไม่กล้าเสี่ยง”

“งั้นก็คั่นหมอนข้างด้วย เอาเป็นหมอนกลาง”

“ถ้าวางด้านบนล่ะ”น้องภูถาม

“ก็เป็นหมอนบน ด้านล่างเป็นหมอนล่าง เอ๊ย ไปเรื่อยเลยเรา ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ”ขำกันฮาเฮ ไม่รู้จะขำกับผมหรือเปล่า ไอ้มหอนข้าง หมอนกลาง หมอนบน หมอนล่าง มุกมันก็จืดๆไปเนอะ ตอนนี้ยังขำได้ เดี๋ยวคอยดูเถอะ เช้ามาแล้วมึงจะรู้สึก


เจ็บใจบ่ได้ป้อง           กำราบ
คนอื่นอาจจ้วงจาบ     แก้เจ้า
สิเข้าช่วยให้หลาบ      เลิกก่อ ครหา
ได้แค่ทายาเล้า          กล่อมช้ำ กายา

น้องภูเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่ไฟในห้องปิดไปไม่ถึง ๒๐ นาที ตอนนี้ไม่รู้ไอ้แต๊งหลับรึยัง น้องนอนริมเตียงมือข้างหนึ่งมาจับมือผมเบาๆให้กำลังใจ

ช้ำแต่กายใจสู้              เจ็บปวด
แค้นขุ่นเคืองร้าวรวด     ไถ่ทิ้ง
พิมเสนบ่เข้าอวด          แลกเกลือ ค่าสูง
คุณค่าเจ้างามพริ้ง        ก่อสร้าง น้อมมโน

ผมตอบกลับไปบ้างและเรากำมือแน่น


แล้วสักครู่ได้ยินเสียงกดโทรศัพท์

“ฮัลโหลครับแต๊ง ยังไม่นอนเหรอ”เสียงเปิดลำโพงได้ยินทั่วกัน

“ยังว่ะ มีกลอนมาฝากมึงด้วย นี่คู่รักถล่มโลกมันหวานกูก็อยากทำอะไรดีๆบ้าง ตั้งใจฟังนะ  ไอเลิฟยู ยูก็รู้อยู่แก่จิต ยูจะคิดเลิฟไอ บ้างไหมหนอ ถ้ายูคิดเลิฟไอ ไอจะรอ ไอจะขอเลิฟยู เพียงผู้เดียว”










ห่าแดก นี่มันกลอนตั้งแต่เรียนอยู่ป.๒
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 31-10-2015 05:29:36
ดีไม่เอากลอนประตู 55555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 31-10-2015 06:50:46
ก็เพราะว่าพวกหนูฟังภาษาไทยไม่แตกฉานอย่างนี้ไงคะ คำแนะนำของหมีที่ว่าให้เอาเวลาที่มีไปอ่านหนังสือแทนเสียถึงยิ่งต้องนำมาปฏิบัติตามน่ะค่ะ เผื่อจะตีความอะไรๆ ได้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่

สำหรับหมี..ได้พยาบาลถูกใจคนป่วยแบบนี้ ตรงไหนที่ได้รับบาดเจ็บคงได้หายวันคืนหายคืนแน่เลยนะคะ ^^

ส่วนคู่เฟียส-แต๊ง นับวันก็ยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆ เลยน้า อ่านไปก็เขินตามไปค่ะเวลาที่เห็นเขาหยอกล้อกัน งอนง้อกัน~~ :-[

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 31-10-2015 07:08:01
สงสารหมีโดนซะน่วม

แต๊งน่าากอ่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 31-10-2015 08:25:13
เฟียสแต๊งน่ารัากกกกก น่ารักจนลืมคู่หลักเลย 5555
น้องภูจะไม่มีพิษมีภัยใช่ไหม กลัวพี่หมีเสียใจ (ทำเสียใจนี่เจอเฟียสแต๊งก่อนเลย 55)

ฮาแต๊งโทรหาเพราะหมั่นไส้กลอน 5555555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 31-10-2015 09:02:58
สงสารน้องหมีจัง
 :mew5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2015 09:47:17
ชื่นจิตชื่นใจ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-10-2015 09:58:38
พี่หมีนี่ต้องไปฝึกพวกมวยอะไรไว้มั่งนะ จะได้สู้กลับได้
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 31-10-2015 10:48:18
ชอบแม่นายหมีมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 31-10-2015 11:13:46
แต็งนีีมันกลอนนานนนนนนนมากแล้วนะ 

555 คิดถึงตอนมัธยมต้นเลยอ่ะ

หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 31-10-2015 12:53:05
เริ่มอยากเห็นว่าถ้าหมีหล่อจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 31-10-2015 14:45:23
ความเชื่อใจเป็นสายใยเชื่อมความสัมพันธ์ ดังนั้นถ้ามีอะไรก็ต้องมาคุยกัน และต้องมั่นคงอย่าวอกแวก ถ้าน้องภูบอกว่าไม่มีลับลมคมใน ก็ต้องถือตามคำพูดน้อง ส่วนหมีก็ต้องตั้งมั่นกับการลดน้ำหนักให้ได้นะจ๊ะ เจ๊เอาใจช่วย

ส่วนเด็กพวกนั้นที่มาหาเรื่องหมี เจ๊คิดว่า พวกเขาใช้เวลาและเงินทองที่พ่อแม่เสียไป ในทางที่ผิดมากๆ อย่างน้อยถ้าไม่คิดถึงความลำบากเหนื่อยยากของพ่อแม่ แต่ก็ควรคิดถึงว่า ตัวเองควรเรียนให้จบเพื่อดำรงชีวิตต่อไป แต่ก็นะ...เด็กเขาคงไม่ได้คิดหรอก ถ้าคิดคงไม่ใช้กำลัง

ขอบคุณค่ะคุณเมฆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 31-10-2015 20:51:57
แต๊งแกรรรรรน่ารักเว่อร์ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-11-2015 04:34:46
ทำอย่างกับหมีเป็นขนมตุบตับ รุมกันใหญ่เลยนะ :m16:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 01-11-2015 09:15:01

อืม... หมีอดทนนะลูก ไว้หนูเผยร่างทองเมื่อไร
ป้าว่าคนร้ายกาจทั้งหลายก็จะกลับมาชาบู บูชาหนูกันหมด
ถึงจะไม่หล่อตอนนี้... ค่อยเข้าไปเป็นคิวท์บอยในมหาลัยก็ได้
ป้าว่าตอนนั้นหนูจะแซ่บกว่านี้เยอะ (เดินตามรอยเฮียมวยเลยก็ได้ ป้าหนับหนุน)

รออ่านตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๓๑๑๐๒๕๕๘ โคลงที่ ๑๙ หน้า ๑๒
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 01-11-2015 10:10:11
ตกลงหมีจะเป็นผัวหรอ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 04-11-2015 21:46:17
โคลงที่ ๒๐

๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๐๖.๑๑ น.
อากาศตอนเช้าหนาวมาก ผมลุกขึ้นมาด้วยอาการเจ็บไปทั้งตัว หนาวก็หนาว ปวดก็ปวด ก็พยายามลุกขึ้น มองไปบนเตียง ดีนะที่ไม่ได้นอนกอดกัน

“ตื่นเช้าจัง หนาวอ่ะ”น้องภูลืมตาขึ้นมากระชับผ้าห่ม อยากกอดซะจริง ติดที่ว่ามันเจ็บไปทั่วตัวกอดไม่สะดวก “เจ็บมากไหม”

“นิดหน่อย”ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน คือผมกติไม่ได้มีเรื่องกับใครนะครับ ผมจะอยู่เงียบๆของผม ไม่ก้าวก่ายทำร้ายใคร จะมีก็โดนเตะ โดยต่อยแบบหยอกล้อไม่ได้ต่อยแบบเอาเป็นเอาตายแบบนี้ไง พอเจอแบบนี้ก็เลยเจ็บปวด เฮ้อ ไม่น่าเลยเรา ไม่น่าไปคนเดียว น่าจะพาเพื่อนไปด้วย ฮ่าๆๆๆ

“ฮื้อ พี่แต๊งทำอะไรวะ”

“เฮ้ยๆ อย่ากวนประสาทไอ้แต๊ง ให้มันรู้บ้างว่าใครเป็นใคร กูยังไม่ได้กอดน้องเลยนะ มึง”ยื่นมือไปตีแขนไอ้แต๊ง ไอ้ทะลึ่ง ไอ้ลามปาม น้องนุ่งผมยังไม่ได้แตะเลยมันเป็นใครมาจากไหนวะ

“หวง ไอ้ขี้หวง”

“ถ้าผมไปกอดพี่เฟียสพี่จะรู้สึกยังไงล่ะ”น้องภูถาม

“ไม่รู้ดิ เออนั่นสิ ถ้าคนอื่นกอดมันกูจะรู้สึกยังไงวะ ฮ้าว ฮ่าๆๆ หน้ามึงตลกมากเลยว่ะหมี โห ฮ่าๆๆ นี่มันไม่ใช่หมีธรรมดาแล้วมั้ง มันหมีลายด่างแล้วละ เป็นจ้ำๆเลย”

“ขำกูอีก”

“เออ มันตลกนี่หว่า หน้าซื่อๆแบบมึงก็ยังจะโดนทำร้าย”

“คนเวลามันจะทำร้ายกันมันไม่เลือกหน้าหรอกนะ แต่ก็ดีเหมือนกัน มันดูถูกกูแบบนี้ กูจะทำให้รู้ว่ามันคิดผิด”

“ภูคิดถูกใช่ไหม”

“ถุ้ย ไอ้ภู ไอ้เด็กทะลึ่ง”ไอ้แต๊งผลักหัวน้องภูซะเกือบคว่ำ

“ฮ่าๆๆๆ”

“ว่าแต่มึงมีตาทิพย์หรือไงวะ ถึงได้มาชอบไอ้หมี”

“ผมไม่ได้ชอบที่พี่หมีอ้วนหรือผอมสักหน่อย ชอบที่เขียนกลอนเก่งต่างหาก”

“แต่บางทีมันก็คิดไม่ออกเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ”ขำๆกันยามเช้า จากนั้นทุกคนจึงแยกย้าย น้องภูปั่นจักรยากลับบ้านครับ ส่วนไอ้แต๊งกลับไปอาบน้ำ ผมเองก็ทำธุระส่วนตัวยามเช้า

๐๙.๑๑ น.
วันนี้นัดผู้ปกครองมาเคลียร์ครับ ตอนแรกก็สืบสวนกันรอบหนึ่ง และก็ชี้แจงให้ผู้ปกครองฟัง ก็ตามปกติ พ่อแม่เข้าข้างลูกตัวเอง บางคนไม่เชื่อว่าลูกตัวเองจะกล้าทำแบบนี้

“นี่เธอ เวลาลูกอยู่บ้านกับอยู่โรงเรียนมันไม่เหมือนกันหรอกนะ เธอเปิดหูเปิดตาบ้าง ไปดูในร้านฉันได้เลย เวลามากินข้าวนี่เห็นผู้ชายพูดกันกรี๊ดกร๊าดตาเปรี้ยวตาหวานใส่ พออยู่บ้านมันก็ทำท่าเรียบร้อย นี่ไม่ใช่ฉันว่าแค่ลูกเธอนะ ลูกคนอื่น ลูกฉันมันก็เป็น”

“เป็นก็เป็นแค่ลูกเธอไปสิ ลูกฉันมันเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่องกิริยาก้าวร้าวแบบนี้หรอก”

“โธ่ เปิดหูเปิดตาบ้าง มัวแต่ทำงานจนไม่รู้ล่ะสิว่าลูกมันโกหกไปเท่าไหร่ นี่ลูกฉัน ถ้าไม่เค้นก็ไม่พูด ฉันก็ไม่ได้ว่าลูกฉันดีหรอก แต่ให้มันรู้ซะบ้าง เด็กสมัยนี้ยิ่งโตมันยิ่งจะห่างพ่อแม่ เห็นตัวอย่างลูกไอ้ไก่ไหมล่ะ นั่นก็เรียนเก่ง แต่ทำไมอยู่ๆถึงไปท้องล่ะ ก็เพราะมันโกหกพ่อแม่ไง อยู่ต่อหน้าพ่อแม่นี่เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่ต่อหน้าผู้ชายนี่แทบกระโจนใส่ อย่าไว้ใจพวกนี้มากนัก”

“ไม่รู้ล่ะ นั่นมันเรื่องของเธอ ลูกฉันดีพอ ว่าไงคะครู ยังไงคนที่ทำร้ายผู้หญิงก็ต้องถูกทำโทษหนักกว่า ฉันจะเรียกค่าทำขวัญด้วย”

“แหม ทีลูกตัวเองปรี่มาตบลูกชายฉันก่อนนี่มันยังไงกันแน่”แม่ต่อปากต่อคำ

“มีหลักฐานไหมล่ะ ฉันไม่เชื่อว่าลูกฉันจะทำแบบนี้ ฉันเลี้ยงลูกมาจนโตฉันรู้ดี”

“เสียดายไม่มีใครถ่ายคลิปไว้ ไม่งั้นล่ะเสร็จแน่”แม่เปรยเบาๆ

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นและบุคคลสำคัญก็มาด้วย น้องภูนั่นเองและมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งน่าจะอยู่มัธยมต้นมาด้วย

“มีอะไรภูธเรศ บอกกับเพื่อนว่าให้อ่านหนังสือรอ ครูสอบวินัยนักเรียนก่อน”

“ผมเอาหลักฐานมาให้ครูดูครับ ไปสิ”น้องภูลากน้องผู้ชายมา

“เอ้า มีอะไรหลักฐานอะไร เธอนี่”

“น้องถ่ายคลิปที่พี่หมีโดนตบได้ครับครู”น้องภูบอก

“จริงเหรอ ไหนเอามาดูซิ”ว่าแล้วมหกรรมดูคลิปก็เริ่มขึ้นครับ ครูดูจบจากนั้นก็ส่งให้ผู้ปกครองดูต่อ แต่คลิปมาถ่ายเอาช่วยที่รุมตบกันแล้วนะครับ ไม่ได้ถ่ายตั้งแต่เริ่มต้น

“นี่ไง เห็นรึยัง เห็นพฤติกรรมลูกสาวเธอรึยัง ไอ้ที่อยู่บ้านมันก็ทำดี ลับตาพ่อแม่ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ไหนล่ะลูกผู้ดี ดีออกล่ะไม่ว่า ดีซ่านล่ะมั้ง ถึงได้ใช้กิริยาท่าทางแบบนี้”

“แล้วจะมาตอกย้ำให้มันได้อะไร”

“ก็ให้มันรู้ไปว่าที่ที่เธอว่าลูกเธอดีนักดีหนา นี่มันดีแต่ต่อหน้าไง ยังจะเข้าข้างลูกเธออยู่อีกเหรอ ฉันว่าเจอแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ให้มันรู้ธาตุแท้ของลูกหลานตัวเองไปเลยว่าเป็นยังไง”แม่ยังคงแรงต่อไปครับ

“แกนะแก ฉันจะกักบริเวณแก คอยดูเถอะ ทำฉันอับอายขี้หน้า”ผู้ปกครองต่างคนต่างบ่นลูกตัวเอง จากนั้นก็พอจะรู้เหตุการณ์ไปบ้างว่าอะไรเป็นอะไร สุดท้ายอาจารย์ให้พักการเรียนคนละ ๕ วัน ส่วนเรื่องค่าปรับค่าเสียหายต่างฝ่ายต่างผิด ทุกคนรับผิดชอบเอาเอง



๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๑๗.๓๘ น.
ผมมาปั่นจักยานที่สวนสาธารณะประจำจังหวัดของเรา ช่วงนี้น้ำหนักผมอยู่ที่ ๑๓๐ แล้วครับ ลดลงไปอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถือว่ายังดีที่ลด ผมยังออกกำลังกายให้หนักขึ้นทุกวัน กลับถึงห้องนี่หลับเป็นตายทุกทีครับ อาหารการกินก็พยายามควบคุมให้พอดี ไม่ขาดไม่เกิน

“กี่รอบแล้วพี่หมี”

“๗ รอบอ่ะ”

“อ้อ”

“วันลอยกระทงไปบ้านยายพี่ป่ะ”

“ที่ไหนอ่ะ”

“ที่... ไปสัมผัสบรรยากาศบ้านนอกสักหน่อย อยู่ในเมืองมากไป มันวุ่นวาย”

“เดี๋ยวถามพ่อดูก่อน แล้วต้องค้างป่ะพี่ หรือว่าไปกลับ”

“น่าจะค้างมั้ง เดี๋ยวดูก่อนว่าจะเอายังไงดี”

“อ๋อ แล้วไปกี่คนอ่ะ พี่แต๊งไปด้วยเหรอ”

“อืม ไอ้แต๊ง ไอ้เฟียส แม่พี่ น้าหมอน น้าชาติ”

“อ๋อ เดี๋ยวภูไปขอพ่อก่อนแล้วจะบอกพี่นะ อยากไปอ่ะ”


๒๑.๑๕ น.
น้องภูยังคงมาดูแลผม คืนนี้ก็นอนบ้านผม ไอ้เฟียสก็เหมือนกันมาเฝ้าแฟนมันครับ พักนี้มันไม่ค่อยนอนบ้านมันเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้มาเปล่าๆนะครับ มันยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีคือการอ่านหนังสือ มาช่วยผมติว ช่วยกันอ่าน ผู้ใหญ่จึงไม่ว่าอะไรเพราะเวลาเราอ่านนี่คืออ่านกันจริงๆ ผมเปิดประตูห้องด้วยล่ะ เดี๋ยวแม่เข้าใจผิดว่าพวกผมเล่นอะไรแผลงๆ

“ถึงเวลานอนก็นอนนะลูก อย่าเล่นกันจนดึกล่ะ”แม่เตือนพวกเรา ตอนนี้กำลังพักสมองด้วยการนั่งเล่นเกมส์เศรษฐีกันครับ

“ครับแม่”พวกเรารับปาก แม่ก็ปิดประตูไป ได้เวลาที่แม่นอนแล้วละครับ วันนี้แม่ไม่ดูการ์ตูนเพราะเหนื่อย ต้องรีบนอน ปกติแม่จะมานั่งดูเป็นเพื่อนผมบ้างนะครับ

“เอาอีกแล้ว สร้างโลกสีชมพูอีกแล้ว”ผมแซวไอ้คู่รักนักฟุตบอล อีกคนชอบกอด อีกคนก็ชอบให้กอด

“ดึงไอ้ภูมากอดก็สิ้นเรื่อง กูอุตส่าห์ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง”ไอ้เฟียสพูด ผมมองหน้าน้องภู

“ผมยังเด็กอยู่พี่เฟียส”น้องมันตอบ ส่วนผมก็อยากกอดนะ แต่มันอ้วนอ่ะ กอดพุงตัวเองดีกว่า

“เหมือนเขากำลังต่อว่าเราทำอะไรเกินวัยว่ะเฟียส”ไอ้แต๊งพูดและพยายามจะง้างมือออก

“เกินวัยที่ไหน แค่กอดกันเฉยๆ อากาศก็หนาว ใครจะมีไขมันอบอุ่นเหมือนไอ้หมีล่ะ”

“อืม มันก็อุ่นดีนะ มึงกอดกันดิ อุ่นดี”ไอ้แต๊งถีบเท้าน้องภู

“มึงจะกอดก็กอดไปเหอะ ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น ไอ้ห่า”ผมตีบขามัน จากนั้นก็นั่งดูหนัง เกมส์ไม่เล่นแล้วล่ะครับ ก็ตามประสา ไอ้เฟียสมันตอดเล็กตอดน้อยแฟนมันไปเรื่อย เดี๋ยวดึงมือไปหอม เดี๋ยวหอมแก้ม เดี๋ยวหอมไหล่ ไอ้แต๊งก็ไม่ว่าอะไรครับ ตั้งใจดูหนังของมันไป ทีเรื่องเรียนไม่เห็นมันตั้งใจแบบนี้วะ

“นมใหญ่โคตร”ไอ้แต๊งอุทานออกมาเมื่อเจอฉากเรท “มึงดูดิเฟียส โคตรนมเลยว่ะ”

“อืม”

“ไม่ชอบเหรอ”

“ไม่อ่ะ เฉยๆ”

“แล้วกับผู้ชายอ่ะ มันก็หุ่นดีนะ”ตอนนี้ไอ้แต๊งหยิมือถือขึ้นมาล่ะครับ มันเปิดรูปนมวับๆแวมๆให้ไอ้เฟียสดู

“เคยจับแล้ว ไม่รู้สึกว่ามีอารมณ์”

“แล้วเคยมากกว่านั้นป่ะ”

“ยังไงเหรอ”

“ก็กินตับไง”

“อืม เคยแล้ว”

“เหรอ แล้วชอบไหม”

“ก็โอเคดีนะ ไม่ถึงกับชอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่ามันน่าขยะแขยง”

“อ๋อ กับผู้ชายก็เคยแล้วอ่ะดิ”

“ไม่นะ กับผู้หญิงผมก็มีอะไรแค่ ๒ คน คนละครั้งเอง ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของตัวเองอ่ะ”

“ตกลงว่าไม่มีอารมณ์จริงๆอ่ะ”

“มันก็มี แต่ไม่มากเท่ากับคนที่ผมรักนี่นา แล้วผมไม่ใช่คนแบบกระต่ายนี่ที่จะเซ็กส์ได้ทั้งวัน ผมไม่อยากมั่วด้วย จริงๆกับผู้หญิงคนนั้นผมก็ควรทำนะ เพราะผมไม่ได้จริงใจกับเขา แต่ผมก็ไปมีอะไรกับเขา แต่เขาก็อาจจะอยากได้ผมด้วละมั้ง พบกันครึ่งทาง”

“อืม แต่กูก็ยังชอบนมอยู่นะ”

“ชอบได้ แต่อย่าชอบมากกว่าผมแล้วกัน”

“ฮ่าๆๆ ชอบดูเฉยๆเหอะ แต่ตอนนี้ก็มีมึงแล้ว กูก็ต้องชอบมึงมากกว่า โอเคป่ะ”

“ครับ”ไอ้หล่อมันยิ้ม

หวานหยดย้อย ผมดูหนังไปด้วยนั่นฟังพวกมันพูดไปด้วยครับ ตอนนี้นอนภูมานั่งข้างๆผมเอาหัวซบไหล่แล้วละครับ ส่วนคู่รักเขาก็นั่งกอดขยับไปขยับมาแก้เมื่อย คุยกันบ้าง มองจอทีวีบ้าง มองนมในมือถือบ้าง หึหึ จนได้เวลาเราจึงนอนกันครับ น้องภูต้องระเห็จมานอนพื้นกับผม ส่วนคู่รักนักบอลจองเตียงไปเรียบร้อยแล้ว


๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕x
๑๕.๓๔ น.
ปิดร้านเรียบร้อย ผมไม่ได้ไปเรียนนะครับเพราะติดทัณฑ์บน อีกอย่างวันนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะลงกระทอย ลอยกระทงกันแล้ว พอเหล่าเสือร้ายเลิกเรียนเราจึงออกเดินทาง อาจารย์ปล่อยเร็วครับ ไม่มีกิจกรรมในช่วงเย็นด้วย

เราออกเดินทางกันด้วยรถของพ่อครับ พ่อขับรถจากที่ทำงานมาเพื่องานลอยกระทงโดยเฉพาะ จริงๆไอ้เฟียสมันก็เอารถมันไปด้วย แหงล่ะ บ้านมันรวยนี่ แต่มันไม่ได้ขับนะครับ พ่อตามันอ่ะ น้าชาติเป็นคนขับ น้าหมอนนั่งกับแม่ผมคุยกันตามประสาผู้หญิง ส่วนผมกับน้องภูนั่งเล่นเกมส์ในมือถือ คันนั้นก็ เฟียส แต๊ง น้าชาติ ๓ หนุ่ม มาถึงบ้านยายก็ ๖ โมงเย็นแล้วครับ เราตัวอำเภอซื้อของเล็กน้อยไปฝากยาย

“เฟียส นั่นไงเพื่อนมึง”ไอ้แต๊งชี้ไปที่ควาย เป็นฝูงเลยครับชาวบ้านเขาต้อนกลับบ้าน พอชี้เสร็จก็ขำ

“พี่ก็โง่เนอะ มีแฟนเป็นคนไม่ชอบ อยากมีแฟนเป็นควาย”น้องภูพูดแล้วยักคิ้วให้

“ไอ้ภู กวนตีนนะมึง มึงก็เป็นคนดีๆไม่ชอบ อยากมีแฟนเป็นหมู”

“เออว่ะพี่”

“ตกลงว่ากูมีอะไรดีบ้างวะหมี”ไอ้เฟียสถาม

“ไม่รู้ว่ะ มีดีที่เชื่องล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆ”

แล้วเราไปไหว้ยายกันครับ จัดแจงมื้อเย็นในทันที อากาศเย็นมากต้องใส่เสื้อแขนยาวเอาไว้ครับ ลมพัดมาเรื่อยๆ แรงบ้างเบาบ้าง ดวงจันทร์ตอนนี้สว่างไสวเต็มดวงสวยงาม

๑๙.๓๓ น.
เราออกจากไปวัดกันครับ เดินไปนะครับเพราะวัดไม่ไกลเท่าไหร่นัก ช่วงเดินไปก็เจอชาวบ้านหลายคนกำลังเดินไป ยายก็ชวนเดินเข้ากลุ่ม นอกจากนี้ก็มีมอไซด์ขับว่อนไปมาตามประสาวัยรุ่นหนุ่มสาวเขาล่ะครับ ไปถึงวัดก็ ๒ ทุ่มพอดีครับ ตื่นเต้นมาก ผมมาบ่อยนะ แต่มันก็ตื่นเต้นทุกปี ปีนี้มีเวทีมวย มีประกวดนางนพมาศ กับมีกวนข้าวทิพย์ด้วยครับ

“มองหน้านี่คืออยากซื้อกระทงคู่กับกูอ่ะดิ”ไอ้แต๊งแซะแฟน

“เราซื้อด้วยกันเนอะพี่หมี ประหยัดตังค์”น้องภูพูด

“โอเค”ว่าแล้วเราก็ไปเลือกกระทง ซื้อเป็นคู่ พ่อแม่ น้าชาติน้าหมอน ยายก็ซื้อคู่กับหลานอีกคนหนึ่งครับ แล้วพวกเราลิงทโมน จากนั้นจึงไปลอยที่สระน้ำ สระใหญ่มากครับ คนเยอะมาก สาวๆหนุ่มๆมองกัน ยิ่งไอ้เฟียส ไอ้แต๊ง น้องภู หน้าตาระดับพระเอกอยู่แล้ว ใครๆก็มอง มีคนแรงๆจะเข้ามาทำความรู้จักด้วย

“อย่าไปไหนไกลนะลูก เดี๋ยววัยรุ่นมันตีกัน หมีดูเพื่อนด้วยนะ”ยายเตือนพวกเราครับ เป็นห่วงเรื่องทะเลาะวิวาท มันอันตรายทุกทีเลยครับ ในเมืองก็มีบ่อย บางทีผมเองยังไม่อยากจะออกมาเที่ยวกับเขาเลย กลัวลูกหลง

พอถึงท่าน้ำเราจึงอธิษฐานกัน ไม่ได้ใส่สตางค์กับเขาหรอก เอาไปหยอดตู้ในวัดดีกว่า

“ผมอธิษฐานขอให้ได้รักแต๊งตลอดไปรู้ไหม”

“ไม่อยากรู้อ่ะ”ไอ้แต๊งส่าหน้ากวนประสาท

“พี่หมีอธิษฐานอะไรเหรอพี่”น้องภูถาม

“ขอให้ลดความอ้วนได้สำเร็จ”ผมบอก ไม่ได้ขออะไรเยอะครับ ขอแค่นี้จริงๆ เพราะอย่างอื่นก็คิดไม่ค่อยออก

“มาลอยคนเดียวเหรอตัวเอง”ผู้หญิงใจกล้าคนหนึ่งเดินมายิ้มให้และถามน้องภู

“แฮะๆ เปล่าครับ มากับพี่”น้องยิ้มแห้งๆ

“เหรอ อยู่บ้านไหนเหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย เพื่อนเค้ามันสนใจตัวเองอ่ะ”

“อยู่ในเมืองอ่ะ ขอตัวนะ”

“เดี๋ยวสิ ไม่คิดจะให้อะไรไว้ติดต่อเลยเหรอ”

“อ๋อ ขอโทษครับ ไม่ได้ชอบผู้หญิงครับ ป่ะพี่หมี”เดินนำผมลิ่วๆไปละ ผมก็แอบยิ้มเบาๆ

“อ้าว แล้วตัวเองล่ะ”คราวนี้เป็นไอ้แต๊งกับไอ้เฟียส

“ป่ะที่รัก ไปดูมวยกัน”ไอ้แต๊งลากไอ้เฟียสตามมา เหวออ่ะดิ งานนี้มีเหวอ เหวอทั้งผู้หญิงที่รู้ว่าเป้าหมายตัวเองไม่ใช่อย่างที่คิด และเหวอทั้งไอ้เฟียส ไม่คิดว่าคำแบนี้จะหลุดจากปากไอ้แต๊ง

เรามาเดินงานวัดกันครับ งานใหญ่พอสมควรนะครับ คนเยอะดี คนแก่ วัยรุ่น วัยกลางคนเต็มไปหมด เราก็มุ่งตรงไปดูเขากวนข้าวทิพย์ นานๆจะเห็นงานแบบนี้ทีนะครับ ไม่ได้จัดทุกปี ตอนนี้สาวๆที่เขานุ่งขาวก็กวนข้าวทิพย์ประเดิมแล้วครับ อยากลองกวนเหมือนกันนะ เดี๋ยวต้องรอคิวดึกๆ ไปดูมวยก่อนครับ

“อยากลอยโคมอ่ะพี่หมี”น้องสะกิดเมื่อเห็นโคมหลายลูกลอยขึ้นฟ้า

“เอาดิ เขาซื้อที่ไหนอ่ะ”

“พี่แต๊งไปลอยโคมพี่”น้องภูสะกิดไอ้แต๊งที่เชียร์มวยอย่างใจจดใจจ่อ

“อือ จบคู่นี้ก่อน กูชอบฝ่ายแดง แม่งชกได้ใจกูจริง เฟียส กลับไปเป็นคู่ซ้อมกูนะ”

“ซ้อมบนเตียงเนอะ”

“ไอ้ทะลึ่ง”

ครู่หนึ่งเราจึงไปหาซื้อโคมมาลอยครับ ก็ลากกันไป ๔ คนหนุ่มหล่อ ไอ้ผมนี่ยังไม่หล่อตอนนี้แต่ขอเรียกว่าหล่อไว้ก่อน ระหว่างทางเราไปหาที่โล่งๆที่ริมสระ ตอนนี้คนยังมาลอยเรื่อยๆนะครับ

“กระทงลอยไป กระเทยลอยมา ตัวเอง ลอยกระทงแล้ว สนใจลอยกระเทยไหม”เอาแล้วไง มาเป็นแก๊ง น้องภูถูกจับไหล่และสาวน้อยร่างถึกทำตาหวานใส่

“แฮะๆ สนใจลอยอังคารมากกว่า”น้องภูแกะมือออก

“แหม ตัวเองก็ ว่าแต่มีตังค์ซื้อเหล้าขาวป่าว เค้าอยากเลี้ยงอ่ะ มานั่งกินกับพวกเราไหม”

“ใช่ๆ เหล้าขาวน้ำแดง นั่นกินรับลมหนาวร่างกายจะได้อบอุ่น”อีกคนพูดเสริม

“ป่ะตัวเอง”

“เอ่อ ขอตัวนะ แม่เรียกแล้ว”น้องภูแกะมือออกได้เดินหนีไปก่อน

“เออ ดูมวยแล้วอยากจะชกเหมือนนักมวย มีคนให้ซ้อมมันดีแบบนี้นี่เอง”ไอ้แต๊งตั้งการ์ดแล้วครับ

“ตัวเองก็ ชอบใช้ความรุนแรงเหรอ”

“ไม่ได้ชอบ แต่ถ้ามันคับขันก็อยากจะลองบ้าง”ไอ้เฟียสทำหน้าดุจะเอาเรื่อง แล้วพวกมันก็ฝ่าวงกะเทยไปได้ ส่วนผมจากที่โดนรุมล้อม

“อี๋ อ้วนแบบนี้ยังจะกล้ามาลอยกระทงอีก ถ้าลอยอืดเป็นศพกูจะไม่สงสัยอะไรเลยนะ ไปไกลๆเลยไอ้อ้วน”อ้าว อีห่า มาว่ากูแบบนี้ได้ไงวะ นี่กูขี้เหร่จนกะเทยไม่อยากจะเข้าใกล้เลยเหรอ เกินไปมั้ง

                                                      หรือว่าพี่สิ่อ้วน             มากไป
                                                      แม้แต่เทยน้อยใหญ่      ส่ายหน้า
                                                      อ้วนอืดที่แทงใจ          เธอบ่น ก่นด่า
                                                      กูอ้วนหนักหลังคา        บ้านมึง หรือไร
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 04-11-2015 22:04:47
อ้วนผิดอะไร
อย่าให้พี่ได้ผอม
ถึงวันนั้นพวกคุณจะเสียใจ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 04-11-2015 22:05:45
แม่ของหมีแรงดีจริง ชอบ :mew1:

อวยพรให้หมีลดความอ้วนสำเร็จไวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 04-11-2015 22:14:49
เมื่อไหร่น้าาาหมีจะถอดรูปสำเร็จ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 04-11-2015 22:17:03
แม่พี่หมีนี่ไอดอลเลย 55555

เห็นด้วยกับท่อนสุดท้ายเลย อ้วนแล้วไปหนักบนหลังคาบ้านแกรึไง :z6:

พี่หมีลดความอ้วนสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 04-11-2015 22:19:05
กูอ้วนหนักหลังคา        บ้านมึง หรือไร 


เจอประโยคนี้ซี๊ดไปถึงขั้วหัวใจเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 04-11-2015 22:32:57
 :m20:ลองถ้าออกปากบอกกระเทยแบบนั้นคงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆพ่อหมี
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-11-2015 22:40:19
เมื่ไรหมีจะเลิกเป็นหมูสักที
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 04-11-2015 23:11:30
ผอมเร็วๆน้องหมีเอาให้อีพวกนั้นเสียดายไปเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-11-2015 23:28:36
น่าสงสารหมี ขนาดกระเทยยังเมิน  :hao7: :hao7: รีบๆลดน้าาาาา จะได้ไม่มีใครดูถูก คนอ่านทุกคนรู้ว่าหมีเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง  :katai5:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 05-11-2015 00:25:32
รอ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 05-11-2015 01:03:17
พี่หมีไม่อ้วน พี่หมีแค่อวบๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 05-11-2015 01:34:40
น้องภูต้องดูแลพี่หมีดีๆนะ คู่เฟียสกับแต๊งส์ก็หวานกันขึ้นทุกวัน ระวังมดกัดนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 05-11-2015 02:00:41
สงสารพี่หมูอ้วนจัง
สู้ๆนะลดน้ำหนักให้ได้
ความหล่อคงปรากฎให้เห็น
แล้วคนที่ดูถูกมันจะเสียใจ 5555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-11-2015 03:52:04
้เพื่อนเราอ้วนๆแต่ดูสะอาดกะเทยก็ชอบหยอกชอบหยอกปกตินะคะ555

บีบก้นบ้างบีบพุงบ้าง55 เวลานึกภาพหมีจะนึกถึงคนนี้ บ้านเขาเป็นคนจีนตัวขาวจั๊ว อ้วนแต่อารมณ์ดีเหมือนหมีเลย ทำอาหารอร่อยด้วย555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 05-11-2015 09:31:25
ถึงกระเทยจะเมินหมู แต่น้องภูไม่เมินหมี   :impress3: :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-11-2015 10:12:25
ถ้าหมีหล่อแล้วไม่มองตัวเองขึ้นมาบ้างจะมาบ่นเสียดายทีหลังก็ไม่ทันแล้วนะคะ บอกเลย~ :laugh3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 05-11-2015 11:20:22
ตัดฉับ ไปช่วงที่หมีผอมเลยได้ไหม คุณเมฆ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 05-11-2015 13:06:41
ชอบกลอนเหลือเกิน :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-11-2015 15:15:52
เออ นั่นสิเนอะพี่หมีเนอะ กูอ้วนแล้วหนักหลังคาบ้านมึงหรืองัย :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 05-11-2015 17:17:18
โครงสุภาพสุดท้ายโครตจะถูกใจค่ะอิอิ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 06-11-2015 20:55:30
แม่หมีสุดยอดมากเลยค่ะ
เฟียสแต๊งก็หวานกันมาก
ชอบกลอนบทท้ายสุดยอดเลยหมี o13

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๐๔๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๐ หน้า ๑๓
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 07-11-2015 07:47:40

หมีเก่งมากลูก แต่งกลอนสะท้อนความรู้สึกได้ตรงเผง
(อ่านแล้วยิ้มเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
รอลุ้นความสัมพันธ์ของเด็กๆต่อไปเรื่อยๆค่ะ
อยากรู้ว่าหมีกับน้องภูจะเป็นยังไงต่อ ^^

ขอบคุณมากค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 10-11-2015 10:43:03
โคลงที่ ๒๑

สมมติว่าเวลาผ่านไปเร็วนิดหนึ่ง วันนี้วันอะไรดี

๒๗ ธันวาคม ๒๕๕x
๑๒.๓๔ น.
เอาเป็นว่ามันคือวันนี้กับเวลานี้ดีกว่า ความรู้สึกของไอ้หมีตั้งแต่โดนกะเทยต่อว่าด่าเช็ด “กูคิดว่าศพ” โหย มันแทงใจดำทะลุไปใจแดง หล่อๆแบบนี้ยังโดนว่านับประสาอะไรกับคนไม่หล่อ เอ่อ รู้สึกว่ากูเองนะที่ไม่หล่อ

ไอ้เราน่ะมันเข้าอกเข้าใจ ใครด่าใครว่าขอให้มันเป็นแรงผลักดัน แรงงานพลังเผาผลาญไขมัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ไอ้หมีเอาแต่กิน กิน และก็กิน เอ๊ย ไม่ใช่ครับ ไอ้เรื่องกินน่ะมันกินปกติประจำวันอยู่แล้ว แต่เรากินแล้วเราก็ต้องขี้ เอ๊ย มันถูกแล้วนี่ แล้วจะพูดทำไมวะ คือที่จะพูดก็คือ เมื่อกินแล้ว เราก็ต้องออกกำลังกาย

มาดูโปรแกรมไอ้หมี วันๆมันทำอะไรบ้าง ตื่นเช้าก็กิน กินเสร็จไปเรียน ไปเรียนพักเที่ยงก็กิน กินเสร็จก็เรียน ตอนเย็นเหล่หนุ่ม ซุ้มดูสาว หึหึ ไอ้แบบนี้น่ะมันธรรมดาไปใช่ไหม เอาเป็นว่าผมเลอะเทอะมาพอสมควร คือกิจกรรมของผมก็คือการเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ควบคุมอาหารให้พอดี ก็ตามปกติ แต่สิ่งที่ผมเพิ่มคือ ผมวิ่ง เข้าฟิตเนส เดินเร็ว ออกกำลังกาย สลับไปสลับมา อยากจะว่ายน้ำแต่ว่ามันหนาว จึงต้องใช้กำลังทางบกแทนที่จะใช้กำลังทางน้ำ แต่ถ้าลากไก่นี่ไม่แน่ว่าเราจะทำได้ หึหึ ก็มาว่ากันต่อนะครับ การออกกำลังกายของผมคือเพิ่มชั่วโมง ช่วยแม่ขายของลดลง อันนี้เฉพาะช่วงเย็นนะครับ ช่วงเช้ายังช่วยขายปกติ ก็ออกๆๆๆๆ จากวันนั้น น้ำหนักชั่งไว้ก่อนตาย เอ๊ย ก่อนชก มัน ๑๓๐ กิโลกรัม มีเศษนิดหน่อยแต่มันจำไม่ได้ ตอนนี้มันเหลือ ๑๒๐ กิโลกรัมครับ โห นี่เราเร่งรัดตัวเองหนักไปป่ะวะ แต่ก็โอเคดี มันลดไปมาก ผมดีใจนะครับที่ลด มีบางคนทัก ไปทำอะไรมาดูเป็นคนขึ้นเยอะ ไอ้เวร แล้วเมื่อก่อนเราเป็นอะไร พะยูนน้อยน่ารักพิทักษ์อ่าวไทยเหรอวะ โด่ว

การลดครั้งนี้ได้รับกำลังใจพิเศษจากแม่ผมเองแหละครับ แม่ดีใจมากที่น้ำหนักลด แม่บอกว่าถ้าหล่อเมื่อไหร่จะไปขอน้องภูให้ โหย ไอ้เรานี่ระริกระรี้ เนื้อตัวเต้น ตาเป็นประกายเลยครับ เอ่อ นี่ผมมโนเอาเองนะ เรื่องแม่ไปขออ่ะ แม่ไม่ได้พูด ผมเก็บเอาไปฝัน หึหึ แต่ถ้าเป็นจริงก็หวานหมูเลยครับ ชอบก็ให้แม่มาขอ อย่ารอให้มันนานแรง เอิ้ก

อ้อ แล้วอีกอย่างช่วงนี้เฮียเขาปิดเทอมแล้ว พอปิดเทอมเฮียมวยจึงต้องกลับบ้าน กลับมาทีไร ผมไม่เป็นผู้เป็นคนกับเขาหรอก เพราะเฮียแกขาววิ๊ง ผมเผ้าเป็นทรงดูเป็นระเบียบ แม่เองดูจะหน้าชื่นตาบาน อิ่มใจเป็นพิเศษ ผมไม่น้อยใจนะเพราะแม่รักเราไม่น้อยไปกว่ากันหรอกครับ ผมรู้ แต่บางทีก็อิจฉาเฮียนะ เพราะเขาหุ่นดี เฮ้อ

เฮียกลับมาแบบนี้ก็ต้องช่วยขายของครับ แบ่งเบาผมไปเยอะเลย ร้านเราขายดีตามปกติ เสาร์อาทิตย์ แต๊งเฟียสมาช่วยขายร้านยิ่งคึกคัก เพราะหนุ่มสาวมหาลัยเขากลับบ้านกันครับ พอปิดเทอมยาวๆแบบนี้ที่ลืมไม่ได้คือ เฮียตี้ พี่ชายของไอ้แต๊งครับ หนุ่มหล่อเป็นนักศึกษาหมออนาคตไกล 

“เพิ่งตื่นเหรอเฮีย”เฮียมวยทักเมื่อเฮียตี้มาปรากฏตัวที่หน้าบ้าน เดินโดดเด่นมาแต่ไกลเลยครับ

“เปล่า นี่ถอดจิตมา ตัวจริงนอนอยู่ที่บ้าน”

“อ้าว มิน่าล่ะ หมาถึงได้หอนแต่เช้าเชียว จะเอาอะไรไหมเฮียผมจะทำสังฆทานไปให้”

“เอามึงไปอยู่ด้วยกันอีกคนมั้ง ไอ้น้องเวร”เฮียตี้ทำท่าจะบีบคอเฮียมวย

“กินข้าวแล้วเหรอเฮีย”ผมเอ่ยถามพี่ชายเพื่อน

“กินแล้ว เออ เฮียว่าหมีดูดีขึ้นนะ เพิ่งสังเกตวันนี้”มาหลายวันแล้วเพิ่งเห็นเห็นน้องหุ่นดี โหย เฮียเรา

“เฮียอย่าไปชมมัน เดี๋ยวมันเหลิง ลดได้ไม่กี่โลคุยฟุ้งเชียว”เฮียมวยแขวะผม

“มึงนี่ก็ ให้กำลังใจน้องบ้างดิวะ ว่าแต่ลดไปกี่โลแล้วอ่ะหมี”

“ก็เกือบๆ ๓๐ โลอ่ะเฮีย ตั้ง ๔ เดือนแน่ะกว่าจะได้ขนาดนี้”

“อื้ม เก่งแล้วละ ไม่ต้องรีบนะ ทำไปเรื่อยๆ อย่าโหม”

“ครับเฮีย ว่าแต่เฮียก็ดูล่ำขึ้นนะ ไปเล่นฟิตเนสมาเหรอ”

“อืม แต่ไม่ได้เล่นบ่อยนะ เรียนหนัก สู้มวยไม่ได้หรอก ว่างเยอะเกิน ชีพจรลงหำเดินหาสาวทั่วมหาลัย”

“แน่ะๆ ไม่มีอ่ะเฮีย ผมเป็นเด็กดี”

“เฮียจะพยายามเชื่อนะ ไอ้ที่เดือนก่อนที่ไปคั่วๆเด็กคณะเฮียนี่ เฮียยังไม่ชำระบัญชีเลย”

“หึหึ แค่ไปส่งน้องเขาเฉยๆเหอะ เฮียนี่คิดไปไกล”

ก็เฮฮาปาจิงโกะกันไปนะครับ เฮียมวยกับเฮียตี้นี่แมนๆ เฮียตี้ยังไม่รู้ข่าวว่ามีแฟนหรือไม่มีกันแน่ แต่ระดับมหาลัยแล้ว ก็น่าจะมีบ้างมั้ง ส่วนเฮียมวยก็คบๆเลิกๆของเขาแหละครับ เป็นเจ้าพ่อมาลัยลอยชาย ลอยไปก็ลอยมา อย่างว่าเขาหล่อนี่ครับ เขาก็ต้องบริหารเสน่ห์ ส่วนผมนี่มันยังหาที่หล่อไม่ได้ เอาเถอะ แค่มีคนมาชอบ ๑ คนผมก็ภูมิใจแล้วล่ะ เอิ้ก

บ่ายแก่ๆ เฮียช่วยแม่ขายของ ส่วนผมออกไปข้างนอก ไปออกกำลังกาย ช่วงนี้เขาปิดต้อนรับปีใหม่แล้วนะครับ เราจึงว่าง หลายคนที่ไปทำงานก็กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน ทั้งคนทำงานคนเรียนอ่ะครับ แต่ละบ้านจึงคึกคัก ตลาดก็ขายดี ร้านแม่ผมนี่ลูกค้าแน่นทั้งวันครับ ใครที่คุ้นเคยกับข้าวมันไก้ร้านแม่ผม เขาก็จะมาชมบ่อยๆว่า กินข้าวมันไก่ที่ไหนก็ไม่ร่อยเท่ากับกินข้าวร้านป้าพิมพ์ ทั้งเยอะทั้งอร่อย ไอ้ที่ให้เยอะน่ะแตงกวานะรู้ไหม อิอิ ล้อเล่น เยอะทั้งข้าวเยอะทั้งไก่อ่ะครับ จัดเต็มแม็กซ์กันเลยทีเดียวเชียว สนนราคาก็แค่จานละ ๒๕ บาท ยิ่งช่วงนี้คนกลับบ้านเยอะแม่ผมก็ทำเต็มที่เอาอกเอาใจลูกค้า















๓๑ ธันวาคม ๒๕๕x
๒๓.๓๗ น.
อันนี้ก็สมมติว่าเวลามันผ่านไปโคตรไวอีกนะครับ วันนี้เรามาฉลองต้อนรับปีใหม่กันที่วัดครับ มาสวดมนต์ข้ามปี ทีแรกตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาฉลองที่บ้าน ตั้งวงกินสังสรรค์กันฮาเฮ แต่ว่าที่วัดบ้านยายจัดให้มีการสวดมนต์ข้ามปี ยายก็โทรมาชวนให้หลานๆไปฉลองกันที่บ้าน ครอบครัวผมจึงต้องกลับบ้านยายครับ ไปเจอญาติๆ ส่วนไอ้แต๊งก็คงจะตามประสาของมันไปครับ มันก็ดีนะครับที่เรามาทำความดีช่วงปีใหม่ อากาศเย็นๆ ผู้คนหลากหลาย คนที่กินเหล้ามีเป็นวงครับ คนที่มาทำบุญสวดมนต์ก็มีตามปกติ

“แม่หนาวไหม”เฮียถาม แม่ผมนี่จัดเต็ม เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมืออีกต่างหาก

“ไม่หนาวๆ ดูพ่อแกสิ จะทนได้กี่น้ำเชียว บอกให้ใส่ถุงมือก็ไม่ยอมใส่”

“ก็อากาศไม่ได้เย็นขนาดนั้นนี่ ฉันไม่บ้าหอบฟางเหมือนเธอหรอก ใส่อะไรรุงรัง”พ่อว่าแม่ซะแล้ว สรุปปีใหม่ของเรานี่ยังไงกันแน่

“ย่ะ ฉันรักสุขภาพไม่ทนหนาวหรอก เออใช่สิ ฉันไม่ได้หนังหนาเหมือนคุณนี่”

“แม่ พ่อ วันนี้เราจะได้บุญไหมอ่ะ”ผมถามระหว่างที่แม่และพ่อกำลังจะก่อสงครามเล็กๆ

“หึหึ ก็ไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย นี่คุยปกตินะ อ่ะๆ ตั้งใจอธิษฐานแล้วกัน พระจะพาสวดแล้วมั้ง”พ่อโยกหัวผมแล้วเราก็ตั้งใจสวดมนต์ คนเยอะดี สวดเสียงดังฟังชัด ปีนี้ผมก็ไม่ขออะไรมาก ขอให้ลดน้ำหนักได้ และขอให้มีความสุข







๑ มกราคม ๒๕๕x
๐๐.๔๔ น.
เราสวดมนต์นั่งสมาธิเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อแจกปฏิทินปีใหม่ให้ทุกคนครับ ผมยังจำได้วันที่เรามาลอยกระทง ที่มีการกวนข้าวทิพย์อ่ะ อร่อยมากเลยครับ ผมกินตั้งหลายวันแน่ะ แต่กินเยอะไม่ได้ กินทีละก้อนเล็กๆจนหมด อร่อยจนอยากกินอีก

พอรับปฏิทินแล้วเราก็กลับบ้าน พรุ่งนี้จะมีตักบาตรรับปีใหม่ แพ็กของไว้เมื่อตอนเย็นของปีที่แล้ว เออ พูดเหมือนมันผ่านไปนาน จริงๆปีที่แล้วมันก็ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ก็กลับมานอนที่บ้านครับ






๐๖.๑๕ น.
อากาศเย็นมากแต่พวกเราต้องลุกขึ้น ผมไม่อาบน้ำตอนเช้าเลยครับ แปรงฟังล้างหน้าอย่างเดียว พอตื่นขึ้นมาเจอครอบครัวน้าหมอนกับครอบครัวไอ้เฟียสมาด้วยครับ ก็มีพ่อแม่ ไอ้เฟียส น้าหมอน น้าชาติ เฮียตี้ ไอ้แต๊ง เตรียมของมาใส่บาตร น้องภูก็ลากครอบครัวตัวเองมาด้วย พ่อแม่เขาตามใจลูกครับ ก็ต้องมา น้องภูนี่มีพี่ชาย ๑ คนกับมีน้องสาวอีก ๑ คน หน้าตาดีทั้งครอบครัว

“แฮปปี้นิวเมีย”ไอ้แต๊งเดินมาทักทายผมหน้าตายิ้มแย้ม

“ใครอ่ะพี่แต๊งนิวเมีย นี่พี่หมีแอบซ่อนไว้ที่บ้านยายอีกคนเหรอ”น้องภูถามด้วยความสงสัย แต่ไม่สงสัยแบบธรรมดา สงสัยอย่างแรง ตาขวางเชียว

“ใช่ มึงไม่รู้อะไร ไอ้หมีเมียมันเยอะจะตาย”ไอ้แต๊งยังคงใส่ไฟ

“เออเฟียส น้องอ้อนเขาบอกว่าเขาเปลี่ยนไลน์ใหม่ ฝากบอกมึงด้วย”มึงแทงกู กูแทงมึงบ้าง

“ไม่มีเหอะไอ้หมี อย่ามาทำให้กูกับไอ้ตัวยุ่งผิดใจกัน”ไอ้แต๊งรีบพูดดักทางเชียว แหม

“ใช่ เรารักกันจะตาย”ไอ้เฟียสกอดคอแฟนตัวเองแน่นเลยครับ

“ให้มันน้อยหน่อยเฟียส ทำแบบนี้ไม่เห็นหัวเฮียเลยนะ”เฮียตี้ดุ

“เฮียหวงเกิ้น”

 

แล้วเราก็มาที่วัดกัน มาใส่บาตรกันครับ คนเยอะมาก สาวๆมองหนุ่ม หนุ่มๆมองสาว หนุ่มบางคนก็ไม่ได้มองสาว มามองพวกเรากันเอง เอิ้ก ใสๆวัยรุ่นชายหันมากินกันเอง พอเสร็จงานแล้วก็พากันไปกินข้าวบ้านยาย บรรยากาศเป็นกันเองมากๆเลยครับ แม่ผมนี่ลงมือเต็มที่ น้ำพริก ผักลวก ต้มไก่ หมูทอด หมึกย่าง หลายอย่างมากเลยครับ อร่อยมาก

“กินเยอะๆนะลูก”ยายพูด

“อยากกินเยอะอยู่นะยาย แต่เดี๋ยวอ้วน”ผมบ่นเบาๆ กับข้าวอย่างดี แต่กินเยอะไม่ได้ ฮือๆ ไม่น่าลดความอ้วนเลยเรา

“เอ้า ก็กินวันนี้วันเดียวสิลูก วันหลังค่อยเอาใหม่ เอานะ ยายอุตส่าห์ทำ”เกรงใจยายจัง ไอ้หมีจึงล่อไป ๒ จานพูนๆ







กินอิ่มเราจึงไปเดินเล่นที่ทุ่งนาใกล้ๆ ลมพัดเย็นๆได้กลิ่นตอข้าว เมื่อตอนเช้านี่หมอกลงและมีพระอาทิตย์สีแดงๆขึ้นฝ่าหมอก โหย บรรยากาศไม่ต้องไปไหนไกลมันก็สุขใจแล้วล่ะครับ แต่ก็อยากจะไปที่อื่นอยู่ดีนั่นแหละ ฮ่าๆๆ

“ไอ้หมี มึงอยู่ที่นี่ก็ดีนะ จะได้กินหญ้ากินผัก ลดน้ำหนักง่าย”ไอ้แต๊งเสนอระหว่างที่เรากำลังชมธรรมชาติ

“มาอยู่เป็นเพื่อนกูดิ ผักหญ้านี่ของถนัดมึงไม่ใช่เหรอ”

“ใครบอกว่าแต๊งถนัดกินผักกินหญ้า แต๊งกินอาหารจากโรงงานมีหลายรสเลย เป็นรูปกระดูกอ่ะ แต๊งบอกว่ากินง่าย”ไอ้เฟียสกวนประสาทแฟนมันซะแล้วครับ

“มึงว่ากูเป็นแมวใช่ไหม”ไอ้แต๊งหันไปมอง

“พี่เฟียสบอกว่าพี่เป็นหมาต่างหาก ฮ่าๆๆ”น้องภูขำก๊ากออกมา

“ไอ้ภู ไอ้เด็กกวนตีน มาให้เตะเลยมึง”จะคว้าเขาแต่ก็คว้าไม่ทัน แล้วเราก็ต้องขำกันเมื่อคนที่วิ่งหนีไปนั้น

“อ้ากกกกกกกกกกก”ขี้ควายเต็มตีนเลยครับ

“ฮ่าๆๆๆ”

“เป็นไงล่ะมึง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”ไอ้แต๊งขำ

“เพราะพี่เลยพี่แต๊ง ผมโดนพี่ก็ต้องโดน ย้ากกกกกกกก”ว่าแล้วก็วิ่งไล่กวดไอ้แต๊ง ไอ้แต๊งมันไวกว่าวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเราได้แต่ขำตามหลัง กลับไปถึงบ้าน ไอ้แต๊งล้อน้องอย่างเดียวเลยครับ

“ไอ้ภูเหยียบขี้ๆๆๆๆ”















๔ มกราคม ๒๕๕x
๐๘.๑๒ น.
เขาว่าวันนี้เป็นเปิดวันเรียนหลังจากหยุดปีใหม่หลายวัน หยุดหลายวันอารมณ์มันก็ไม่ต่อเนื่องใช่ไหมครับ เพราะหยุดนานความขี้เกียจมันก็พอกพูน ได้แต่กัดฟัน เอ้าคนละกรึ๊บสองกรึ๊บ ไม่ได้กรึ๊บเหล้านะครับ กรึ๊บความขยันเข้ามา แหม่ พูดแล้วน่าจะไปรับพลังจากดวงดาว ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ในวันที่ฟ้ากระจ่างไร้เมฆหมอก เดือนไม่ขึ้นค่ำย่ำท้องฟ้า ฝูงดาวเจิดจรัสเปล่งประกายแสงแห่งดารา ให้ผายลมออกมาไล่ความอัปรีย์ เอ๊ย ไม่ใช่ล่ะ นั่นมันเรียกความอัปรีย์แล้ว เขาว่าการรับพลังจากดวงดาวจะทำให้เราหน้าตาหนุ่มสาวเพิ่มคอลาเจนไปอีก ๕ พันปี อันนี้ไม่มีตำรานะ ไอ้หมีมโน ฮ่าๆๆ

คือก็ยืนดูดาวนั่นแหละครับ ดวงดาวน้อยใหญ่ที่เปล่งแสงออกมา หากมองดีมันก็เหมือนมันจะบอกเราว่า นี่ฉันเปล่งแสงเพื่อให้เธอก้าวเดินต่อไปนะ ฉันมองเธออยู่ ถึงเธอจะไม่สวยไม่หล่อ ให้ดูฉันเป็นตัวอย่าง ในวันที่เดือนดับ ฉันดูมีคุณค่า ให้วันที่เดือนมา ฉันยังอยู่ที่เดิม ถึงเธอจะมองไม่เห็นฉันในวันพระจันทร์เต็มดวง แต่เธอจงจำไว้ว่า ฉันอยู่เคียงข้างเดือน เหมือนกับเธอ ถึงจะไม่สวยไม่หล่อ แต่เธอก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสังคม โหย ดวงดาวนี่ก็ให้พลังแก่เรานะครับ

ถามว่าไอ้หมีเอานิทานนี้มาจากไหน แฮะๆ ไอ้หมีมโนเอา แต่ก็ช่างมันเถอะ ดวงดาวอาจจะพูดไม่ได้ หมายความเป็นอย่างอื่น หากแต่เรามองดาว เราก็ได้ชมกับธรรมชาติ ธรรมชาติของคนไม่เหมือนกัน เหมือนดวงดาวที่เปล่งแสงร้อนแรงไม่เท่ากัน






๑๑.๕๖ น.

เรามาพักกลางวันกันครับ เออ จำได้ วันที่จัดหนักอาหารบ้านยายอ่ะ น้ำหนักผมเพิ่มขึ้นมาอีก ๒ โลแน่ะ โห ไวมากเลยครับ ลดทีนี่ลำบ้ากลำบาก พอขึ้นนี่ขึ้นพรวดๆเหมือนจรวดนาซ่า ผมจึงต้องจัดการ รีดมันออกไป นี่ถ้าเกิดผมตายแล้วอยากได้น้ำมันพรายนะ ผมว่าได้เป็นร้อยลิตรละมั้ง ฮ่าๆๆ คนอะไรไขมันเยอะเกิ้นนนนนน

จะว่าไปไม่ใช่ผมคนเดียวที่อ้วนนะครับ มีหลายคน ทั้งหญิงชาย กะเทย ทอม อ้วนกันหลายคน เวลาเจอคนอ้วนผมจะรู้สึก เออ กูมีเพื่อน เวลาเจอคนผอม เฮ้อ กูเกิดมาทำไม อารมณ์ก็แบบนี้ละครับ ขึ้นๆลงๆ ไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของคนคิดมาก คิดมากบางทีก็ฟุ้งซ่าน ดีไม่ดีเราคิดทำร้ายตัวเอง เขาว่ากันว่า ไม่มีใครจะทำร้ายเรา เหมือนกับเราทำร้ายตัวของเราเอง โหย โดนใจจึ๊กๆ โชคชะตาฟ้าอาจจะลิขิตมา แต่เขาก็แค่ลิขิตขั้นต้น ขึ้นอยู่กับเราจะรับปากกาจากท้องฟ้าแล้วลิขิตต่อไปข้างหน้าอย่างไร คือจริงๆอ่ะ ฟ้าลิขิตเราแหละครับ แต่เราไม่ยอมรับพู่กันต่อจากฟ้า ปล่อยให้ฟ้าเขียนไปเรื่อยๆ ฟ้ามันเมื่อยมันก็เลยเขียนให้ชีวิตเราเละ แต่ถ้าเรารับพู่กันมาจากฟ้า แล้วเขียนชีวิตของเราต่อ ฟ้าอาจจะแกล้งบ้าง แต่ถ้าเราคุมมือเราได้คุมใจเราดี ชีวิตเราก็เป็นสิ่งสวยงาม ไวฮอล พรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่ ส่วนคนข้างๆแต๊งก็เฟียสไง หึหึ

“เช็ดปากดิ ข้าวติดมุมปากอ่ะ กินมูมมามหมดหล่อเลยมึง”เสือแต๊งเตือนแฟนเมื่อเห็นเม็ดข้าวติดมุมปาก ไอ้เฟียสก็เลิกคิ้วทำหน้าเอ๋อๆ โพ๊ะ “กูบอกให้เช็ดมุมปาก มึงอย่าทะลึ่งคิดว่ากูจะเช็ดให้ ไม่ต่อยหน้าก็บุญเท่าไหร่แล้ว”

“แต๊งใจร้าย”มันบ่นแฟนมันครับ แหงล่ะ โดนเบิ้ดกะโหลกไปทีนี่ หึหึ

“เออ ใจร้ายไง ไม่ได้ใจดี”

“แต่ผมก็รักของผมเหมือนเดิม รักทุกวัน”

“ไอ้ทะลึ่ง”แล้วมันก็เขินครับ ก้มหน้ากินข้าวในจานของตัวเองอย่างเดียว พอกินอิ่มหยิบน้ำขึ้นมากินตบท้ายก่อนจะบอกกับแฟนมันว่า “กูก็รักมึง แบร่”แล้วมันก็เดินไป ไอ้คนที่ยิ้มแป้นหน้าบานเป็นจานสังคโลกคือพี่เฟียสสุดหล่อของเรานี่เอง

“เขาบอกตรงๆแบบนี้เราก็เขินเป็นนะ ไอ้น่ารักเอ๊ย”

“เดี๋ยวๆ ไอ้น่ารักที่กูสงวนไว้ใช้กับน้องภูคนเดียว”

“อ้าวเหรอ”


“พี่หมีอี๋ๆๆๆๆๆ”ไอ้อี๋ๆนี่จะลากทำไมวะน้องภู

“อี๋ๆได้ แต่ถ้าไปเติมพยัญชนะมี ๒ หัวนี่จะซวยนะบอกให้”

“อะไรเหรอ อ๋อ ฮิๆ กินข้าวแล้วเหรอ ทำไมไม่รอภูอ่ะพี่”

“อ้าว ก็ไม่ได้บอกให้รอนี่นา พี่ก็หิว”

“อืม งั้นภูไปหาอะไรกินก่อนนะ เอ้อพี่หมี เย็นนี้ไปเดินเล่นกันไหม”

“ที่ไหน”

“ห้างไง ไปซื้อเสื้อเป็นเพื่อนภูหน่อย”

“อ๋อ แล้วจะไปกี่โมงอ่ะ”

“๖ โมง ออกกำลังกายเสร็จก็ไป”

“โอเค แล้วเจอกันตอนเย็นนะ”

“จุ๊บๆดิ”

“ไอ้เด็กบ้า อายคนอื่นเขา”ผมค้อนแล้วก็เกิดอาการเขิน แหม่ เด็กนี่มันอ่อยได้ใจกูจริง เดี๋ยวเหอะ จะจับทำเมียสักวัน

เออนี่เราร่ายกันมายาวนาน ความสัมพันธ์ของฉันกับเธอ ก็น้องภูนั่นแหละครับ เรายังเรื่อยๆนะ มีตัวเบี่ยงเบนมาตรฐานคอยมาตอแย มาด่าว่าเราอ้วนบ้าง ด่าว่าเราหน้าด้านบ้าง ผมใช้พลังไขมันสะท้อนกลับ เขาว่าเมื่อไหร่ที่เขามาด่าเรา แสดงว่าเขากำลังเอาขยะมาวางอยู่ตรงหน้า ถ้าเราเอาจมูกไปดม มันก็เหม็น เราก็ไม่ชอบ แต่ถ้าเอาปิดจมูกแล้วเตะขยะนั้นออกไป มันก็จะไม่เหม็น ดังนั้นผมจึงมีกลไลป้องกันด้วย ไม่ต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อ แต่ใช้สายตาหวานๆ หึหึ ยิ้มให้นึ่งที แล้วพูดว่า พวกแกก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอก

บางทีคิดกับพวกนี้มากไปมันเสียเวลา เอาเวลาของเรามาบริหารกาย บริหารใจ เอ้า ฮึบ ฮุ้ยเล่ฮุ้ย โยกซ้ายโยกขวา เด้งหน้าเด้งหลังกะดึ๊บๆ เราต้องสู้ สู้ต่อไป เออนี่พูดถึงแต่คนไม่ดี จริงๆคนดีๆก็มี อย่างน้องที่ชมรม เขาก็ถามผมว่า

“พี่หมีนี่คนหรือหมู” เอ๊ย ไม่ใช่คำถามนี้ครับ แหม่ ไอ้นี่มันถามประจำเกินไป ก็จะถามแนวว่า “ออกกำลังกายลดหุ่นเหรอ เล่นอะไรบ้าง กินอะไรบ้าง ลดบ้างไหม ลดเพื่อใคร มีแฟนแล้วเหรอ”แหม่ ไอ้คำถามหลังนี่อยากจะตอบเต็มปากเต็มคำ หนูไม่รู้ว่าแฟนมี เห็นหล่อดีหนูก็เลยชอบเขา เอิ้ก ทีแรกหนูก็ไม่ได้ชอบเขา แต่เขาหอบผ้าหนีตามหนูเอง หนูก็เลย ก็ใจมันหายละลายๆๆๆไปกับเธอ

เวลามีคนถามแบบนี้ ไอ้หมีก็จะมีแรงอกได้แรงใจ ผมจะยิ้มแย้ม มีความสุขดี มันช่วยได้นะ ช่วยตัดวงจรคนไม่ดีออกจากชีวิต บางคนก็อยากจะร่วมวงกับผมด้วย บางขอคำแนะนำ โหย ไอ้เราก็ไม่เท่าไหร่ มันแค่เริ่มต้น มันแค่ออเดิร์ฟเองนะ ก็แนะนำเท่าที่แนะนำได้ ส่งลิงค์กระทู้ให้พวกเขาอ่าน เห็นคนอยากลดหุ่นผมก็ดีใจ สู้ต่อไปนายหมีน่ารัก อิอิ










๑๘.๔๓ น.
เรามาที่แห่งในกลางจังหวัดของเราครับ เหงื่อชุ่มแล้วมาเดินห้าง ใครจะได้กลิ่นเหลื่อเราบ้างไหมหนอ เฮ้อ แต่ไม่ใช้เวลายาวนานเท่าไหร่มากนักเพราะน้องภูเขามีเสื้อยี่ห้อในดวงใจเขาแล้ว เออ ลืมบอกว่าน้องภูมาซื้อเสื้อบาสนะครับ เสื้อของโรงเรียนก็มีแต่ว่า น้องอยากได้ของยี่ห้องนี้ เสื้อของโรงเรียนเอาไว้ใส่ตอนออกไปแข่งในนามโรงเรียน ส่วนที่ซื้อส่วนตัวก็เอาไว้ใส่ซ้อม ใส่เล่น โชว์ของเขาไปครับ แขนน้องภูนี่ล่ำดีนะ หุ่นก็ล่ำๆ หน้าตาหล่อด้วย มองน้องมันก็มีอิจฉาบ้าง แต่ก็ไม่มากเพราะยังไงเดี๋ยวน้องก็ต้องเป็นของเรา

“อ่านกินภูเหรอพี่หมี”

“เปล่า” แม่ง เด็กนี้ตาไวเกิน นี่เราหื่นจนออกนอกหน้านอกตาขนาดนั้นเลยเหรอวะ

“หึหึ ก็มองภูตั้งนาน แอบมองหัวนมภูป่ะเนี่ย”

“ทะลึ่ง ป่ะๆ จะกลับรึยัง”

“อื้ม คืนนี้ไปนอนด้วยนะ”

“อะไรๆ เป็นเด็กเป็นเล็กริอาจจะหนีตามผู้ชายแล้วเหรอ”

“บ้า ก็ไปนอนบ้านแฟนไม่ได้ไปนอนบ้านคนอื่นนี่”

“หืมอะไรนะ”

“อะไรเหรอ ไปดิ กลับบ้าน ภูจะได้เตรียมเสื้อผ้าด้วย”

“เมื่อกี้ภูบอกพี่ว่าอะไรรนะ ที่ว่าเป็นฟงเป็นแฟน นี่มันยังไงเหรอ”

“อืม ก็ใช่ไง ก็แฟนไง”

“เดี๋ยวๆ เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ”

“อ้าว นี่ยังไม่เป็นอีกเหรอ อะไรอ่ะพี่หมี หลายเดือนแล้วนะ”

“ก็...”

“ไม่อยากเป็นแฟนภูเหรอ หรือว่ามีคนอื่นอยู่ในใจแล้ว”

“เปล่า พี่ไม่มีใคร”

“อืม ถ้าไม่มีใครแล้วจะตกลงได้รึยังอ่ะ หรือว่าไม่อยากคบกับภู”

“เปล่า แต่ว่า เอ่อ เราไปคุยกันดีไหม”ตื่นเต้นจัง

ลากน้องภูมาที่มุมสงบแห่งหนึ่ง ผมรู้สึกตื่นเต้น หัวใจจะวายเอา นี่เราจะเป็นแฟนกันแล้วเหรอ เธอเป็นแฟนฉันแล้วรู้ตัวบ้างไหม แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ นี่ถ้าน้องเขาร้องได้คงจะร้องเพลงนี้ไปแล้ว

“ว่าไงอ่ะพี่หมี ตกลง่าเราจะเป็นแฟนกันป่ะ มันก็นานแล้วนะ ภูว่าภูก็รู้จักพี่หมีมาน่าจะเยอะแล้ว ภูเองก็ไม่มีอะไรปิดบังพี่หมีด้วย ยังไงเรามาเป็นแฟนกันนะ”

“อืม”ผมพยักหน้าหลายที ปลื้มปริ่มยิ้มหวาน โว้ย ปีใหม่เราได้สิ่งดีๆ นี่แหละผลของการที่เราทำดี จงทำดี จงทำดี จงทำดี “โอเค พี่ตกลง”

“จริงๆภูว่าเราเป็นแฟนกันตั้งนานแล้วละมั้ง แต่เราไม่ได้พูดเรื่องนี้เท่านั้นเอง”

“อืม ก็ตามนั้น แต่ภูแน่ใจนะว่าชอบพี่จริงๆ”

“แน่ใจสิ ไม่แน่ใจไม่ตามต้อยๆขนาดนี้หรอก”

“อือ พี่อาจจะไม่ใช่คนหล่อ ไม่ใช่คนดีมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่พี่มีอยู่คือพี่ไม่นอกใจ ขอบคุณนะที่มาเป็นแฟนกับคนอ้วนๆอย่างพี่”มองตาหวาน ทำตาซึ้ง อะจึ๊ยๆ คนกำลังมีความรัก

“เรื่องอ้วนไม่สำคัญ ไขมันแค่ของนอกกาย แต่หัวใจต่างหากที่ภูเลือก”หวานมาก กูจะละลาย เดี๋ยวกลับบ้านต้องไปวัดความดันละมั้ง เราหวานจนน้ำตาลขึ้น เฮ้อ ความรักมันก็ทำให้เกิดโรคหลายโรคได้นะ เช่น ความดันรุนแรงเพราะเธอมาทิ่มแทงหัวใจ เบาหวานสะท้านโลกเพราะเธอชุ่มโชกด้วยความรักสีชมพู หัวใจจะวายยิ้มละลายจากคนแก้มป่อง ไรงี้ เหอๆ

                                                            หมู  สมหวังฉ่ำยิ้ม          สมปอง
                                                            พี    เพิ่นเอ่ยกล่าวดอง    คู่แท้
                                                            หมี  หมายที่เมืองมอง     หวานเกลี่ย ดวงใจ
                                                            ภู    ร่วมเดินหมดแม้       เคียงข้าง กายา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 10-11-2015 11:11:20
เป็นแฟนกันแล้ว                                 ดีใจจัง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-11-2015 11:34:01
เธอเป็นแฟนฉันแล้วรู้ตัวบ้างมั้ย
น้องภูคงร้องเพลงนี้มานานละนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-11-2015 11:43:52
 o13 ให้หมีมองโลกในแง่ดีตลอด
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-11-2015 12:03:57
นอกจากจะเป็นโรคความดัน เบาหวาน หัวใจแล้ว ยังลามไปถึงดวงตาด้วยนะคะหมี เพราะไม่ว่าหมีจะมองไปตรงไหนก็จะมีแต่หน้าน้องภูอยู่ในนั้น~~ :-[

ปล. แต่แฮปปี้นิวเมียของแต๊งนี่ทำเอาน้องภู
มองหมีตาขวางเลยนะคะนั่น :m20:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 10-11-2015 12:17:54
ปลื้มปริ่มแพรบบบบบบบบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: ถ้วยฟู ที่ 10-11-2015 12:25:37
ไอ้น่ารักขอเค้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 10-11-2015 13:04:46
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-11-2015 13:11:43
ดีใจกับพี่หมีและน้องภูด้วย เป็นแฟนกันแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 10-11-2015 14:29:12
เป็นแฟนกันแล้ว
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 10-11-2015 14:30:13
น้องเขาก็อยากเป็นใจจะขาดพี่ไม่รู้หรือไง
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-11-2015 14:53:30
หมี&ภู ป็นแฟนกันแล้วนะ รู้ยัง  :-[
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-11-2015 15:48:22
เป็นแฟนกันแล้ววว #ค่อยๆรักกันเบาๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 10-11-2015 18:29:42
นี่อยากรอดูตอนพ่อหมีเหลือน้ำหนักสักเก้าสิบกว่าๆ ถ้าหมีสูงจริงๆเก้าสิบกว่าๆนี่ก็เริ่มหล่อแล้วค่ะ

เป็นแฟนกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 11-11-2015 01:26:01
ในที่สุดก็บอกกันอย่างเป็นทางการแล้วว่าเป็นแฟนกัน เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: GlassesgirL ที่ 13-11-2015 18:24:26
ในที่สุดก็ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว เย้!
ภูพูดน่ารักน่าให้หมีจับฟัดจริงๆ ฮาาาาา

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 14-11-2015 09:45:25

ที่สุดก็ตกลงคบหากันอย่างเป็นทางการ...
อ๊ายยย รอหมีหล่อแบบเฮียมวยเลยค่ะ
ทีนี้นะ...น้องภูคงไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากเฝ้าแฟนสุดหล่อของตัวเองแล้วล่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :กอด1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๐๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๑ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-11-2015 04:51:45
ทำไมเขินแทน อิจฉาเบาๆ ดีใจกับน้องภูพี่หมีด้วยน๊าาา
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 16-11-2015 23:14:08
โคลงที่ ๒๒

๒๗ มกราคม ๒๕๕x
๒๒.๑๗ น.
ผม แต๊ง เฟียส นั่งอ่านหนังสือยามค่ำเพื่อจะสอบแกทแพทรอบสุดท้ายที่จะมาถึง ไอ้แต๊งมันขยันขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับ เพราะแฟนมันบังคับทุกเช้าทุกเย็น เห็นไอ้เฟียสตามใจแบบนั้น แต่เวลาที่มันจริงจังไอ้แต๊งเถียงไม่ได้ครับ

“เดี๋ยวขอพักสมองแปบนะ มึนมาก”ไอ้แต๊งทิ้งตัวนนลงบนตักแฟนมัน ส่วนผมยังคงนั่งคิดโจทย์คำถามต่อครับ “แหวะ ไอ้เฟียส กางเกงมึงได้ซักป่ะวะ”

“หืม มันเหม็นเหรอ”

“เออดิ”

“เพิ่งใส่สัปดาห์เดียวเอง”

“สกปรกว่ะ ไม่น่าเชื่อหน้าตาคุณหนูแบบมึงจะซกมก”

“ยีนส์เวลาใส่เขาไม่ต้องซักบ่อยๆ มันเสียทรง นี่แต๊งไม่รู้เหรอ”

“ไม่รู้ กูไม่ชอบใส่ยีนส์ แต่เหม็นจริงๆว่ะเฟียส กลิ่นน้ำปลาว่ะ”

“มึงก็ยังจะดมต่อเนอะ”ผมพูดเมื่อเห็นไอ้แต๊งทำท่าดมกางเกงฟุตฟิตๆ

“ดมแถวนี้ได้ แต่อย่าดมเป้าผมแล้วกัน”ไอ้เฟียสขำ

“ทะลึ่ง เปลี่ยนกางเกงเหอะเฟียส เอาไปซักด้วยนะ เหม็นสัส ถอดเลย เดี๋ยวนี้”

“ผมไม่มีอะไรเปลี่ยนนะ แต๊งมีกางเกงป่ะล่ะ”

“อยู่บ้าน เดินไปเอาเองดิ”

“ไปส่งหน่อย กลัวผี”

“มันมีเหรอผีอ่ะ เกิดมายังไม่เคยเจอ”

“แล้วถ้าเกิดผมลงไปเจอจริงๆล่ะ ใครจะรับผิดชอบ”

“เฮอะ เดินไปแปบเดียว ผีที่ไหนจะมาเดินเล่นวะ มันดึกแล้ว ผีมันง่วงนอนเป็นเหมือนกัน”

“ไปด้วยกันเนอะ”ว่าแล้วก็ก้มอุ้มแฟนมันออกจากห้องไป มึงก็บ้าพลังเนอะไอ้เฟียส น้ำหนักไอ้แต๊งไม่ใช่เบาๆ ตั้ง ๖๐ โลแน่ะ หึหึ พูดถึงเรื่องน้ำหนักของมันนี่ ครึ่งหนึ่งของผมเลยอ่ะ ส่วนของไอ้เฟียสนี่หุ่นควายหน่อยครับ น้ำหนัก ๗๐ พอดี

แล้วพวกมันก็เงียบกันไปพักหนึ่งครับ ผมเองยังคงนั่งแก้ปัญหาอยู่พลางๆ แล้วครู่หนึ่งทั้งคู่จึงมานั่งทำโจทก์ต่อ
หมูพี – นอนยังพี่หมี
หมีภู – ยังครับ อ่านหนังสืออยู่
หมูพี – อ้อ อย่าดึกมากน้า
หมีภู – ทำอะไรยังไม่นอนอีกนะเรา
หมูพี – จะนอนแล้ว
หมีภู – อะเคร เดี๋ยวคืนนี้ไปกอด
หมูพี – มาดิๆ ๕๕๕
หมีภู – อย่าท้า
หมูพี – ไม่ได้ท้า แบร่ๆ ไม่กวนแล้ว ฝันดีนะ
หมีภู – ครับ ฝันดีผีขย่มเตียง
หมูพี – น่ากลัวอ่ะพี่หมี
หมีภู – ๕๕ ฝันดีนะ

วางโทรศัพท์ลงหลังจากแชทกับน้องเรียบร้อยแล้ว มองไปที่คู่รักนักฟุตบอลเขาก็ตั้งใจกันอย่างเต็มที่ ไอ้แต๊งนั่งวงคำตอบของมันไป เห็นแล้วเราจึงเติมพลังกันหน่อยครับ ผมลงไปเทนมใส่แก้ว เอามาแค่ ๒ แก้วเท่านั้นแหละครับ

“อ่ะเฟียส”ผมส่งให้ ส่วนไอ้แต๊งให้มันลงไปเอาเอง ไอ้นี่ขี้เกียจขึ้นทุกวันครับ

“ทำไมทำแบบนี้วะหมี”มีมองหน้าตัดพ้อผมด้วยครับ แหม่ อยากเตะซะจริง

“กินด้วยกันก็ได้”ไอ้เฟียสเสนอ ไอ้แต๊งจึงหยิบล่อไปครึ่งแก้ว อีกครึ่งมันก็ให้แฟนมันกิน

“อยากกินนมรสหวานอ่ะ ไม่ชอบรสจืด”ไอ้แต๊งบ่น ปกติมันก็กินแต่รสจืดนี่หว่า วันนี้ทำมาเป็นเรื่องมาก

“อะไรของมึงวะ”ผมส่ายหน้า

“ไปซื้อให้เอาไหม”แฟนที่แสนดียื่นข้อเสนอ เอาใจเมียมึงมากเลยไอ้เฟียส กูอิจฉาลาลาลาลา

“ไม่ต้อง กูเจอแล้ว รสหวานมันอยู่ตรงไหน”ว่าแล้วมันก็กินนมรสหวานครับ ริมฝีปากไอ้เฟียสมีคราบนม แล้วก็จัดการจุ๊บปากแบบไอ้เฟียสไม่ทันตั้งตัว ดูดจ๊วบเข้าไปแล้วยิ้ม ไอ้สัส กูแอบถ่ายรูปไม่ทัน

“เขินอ่ะ”ไอ้เฟียสถึงกับหน้าแดงเลยครับ ส่วนผมก็ ฮือๆ อยากจูบน้องภู อิจฉาตาร้อนมาก

“ให้รางวัล ติวได้ดี มึงเอาไหมหมี”

“ไม่ๆ กูเสียดายนม”

“พูดไป ถามไอ้เฟียสดูดิ หวานไหมเฟียส”

“อืม หวาน แต่หวานกับผมคนเดียวก็พอ ไม่ต้องเผื่อแผ่คนอื่น”แล้วก็รวบเอวแฟนมันไปนั่งตักแล้วกอดซบของมันไป

“ปิดไฟปล้ำไอ้แต๊งเหอะเฟียสถ้าจะหอมมันซะขนาดนี้”

“บ้า ยังไม่ถึงเวลา เนอะ”ไอ้เฟียสค้อนผม

“อือ เอาไว้โตกว่านี้อีกหน่อย เอากันแต่เด็กมันเบื่อง่าย ค่อยเอากันตอน ๓๐ เนอะ”

“ผมเฉาพอดีอ่ะแต๊ง ฟอดๆๆๆๆ”แล้วมันก็ระดมหอมแก้ม คอ ไหล่แฟนมัน เหมือนอดอยากปากแห้งมาจากไหนก็ไม่รู้ มันขยี้จมูกลงบนแก้มไอ้แต๊งซะเต็มแรง ขอดั้งหักคาแก้ม สัส

“ฮ่าๆๆๆ เฟียส มันจักจี้ ฮ่าๆๆๆ”

“จะยอมแพ้หรือไม่ยอมแพ้ บอกมาซะดีๆ ฟอดๆๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆ ไม่มีทางยอมแพ้ว่ะ ฮ่าๆๆ”

“ถ้าจะหอมกันขนาดนี้ กูออกจากห้องก็ได้นะ พวกมึงจะได้เสร็จสมอารมณ์หมาย”ผมพูดประชด

“ฮ่าๆๆๆ จักจี้วะเฟียส นวดตำคอกูฉิบหาย”

“แฮะๆ ลืมโกน”ตกลงว่าพวกมัน ๒ คนสนใจผมบ้างไหมเนี่ย โอ๊ย กูจะอกแตกตาย รักกันจนมองไม่เห็นกูเลย ฮือๆ อยากจะร้องไห้

“ลองไว้หนวดดิ เข้มๆ”

“ผิดกฎโรงเรียน เดี๋ยวจบก่อน จะไว้ยาวเป็นฤๅษีเลย ฮ่าๆๆๆ”

“ไว้แบบนายจันทร์หนวดเขี้ยวดิ แล้วก็ตัดผมทรงมหาดไทย หน้าให้อยู่นะ”

“หืม ไม่กล้าหรอก ใครจะกล้าตัดทรงมหาดไทย จริงๆอยากลองตัดเปิดข้างแต่หมดยุคไปแล้ว เฮ้อ ตามแฟชั่นไม่ทันเลย”

“ตัดแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ ใสๆนะ กูว่ามันดีแล้ว”ตอนนี้ไอ้เฟียสตัดรองทรงธรรมดาครับ “เออ ลองแบบอันเดอร์คัตดูไหม พรุ่งนี้ไปตัดกัน”

“เหรอ ถ้าตัดทรงนั้นคนก็จะมองผมเยอะขึ้นดิ”

“อืม กูไม่ว่าๆ คนเรามันต้องเป็นจุดเด่นเว้ย ไม่เห็นเหรอคนเขาอยากจะเป็นไอดอลตั้งมากมาย เออ เรามาเป็นไอดอลกันไหมเฟียส ถ่ายรูปคู่แล้วก็ขายของไง ฮ่าๆๆ”

“เหรอ ขายอะไรดี ขายครีมคนก็ขายเยอะแล้ว ขายเสื้อมันก็ต้องคิดอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ ขายกางเกงในดีไหม”

“ให้ไอ้หมีเป็นนายแบบกางเกงในแล้วถ่ายรูป คงจะขายดีอ่ะ”

“ฮ่าๆๆ ขาดทุนซะมากกว่ามั้ง หุ่นไอ้หมีนี่มันพะยูนเลยนะ เขาคิดว่าเรากำลังขายกางเกงในพะยูนอยู่อ่ะดิ”

“เออ แม่งใส่กางเกงในหรือกระสอบป่านใส่ข้าวสารก็ไม่รู้”

“ไอ้พวกเวรเอ๊ย วิจารณ์ถึงกางเกงในกูจนได้ กูใส่ไซต์ใหญ่หน่อยนี่ล้อกูจริง อย่าให้กูได้ใส่ไซต์ปกตินะ กูจะเอาครอบหัวพวกมึงแม่งทั้งคู่”

“ไอ้หมีมันโหดว่ะเฟียส กูกลัว มึงต้องช่วยกูนะ”ไอ้แต๊งซุกเข้าหาแฟนมัน จ๊ะพ่อคุณ พ่อคุณที่เคยเกลียดนักเกลียดหนา พ่อคุณที่เคยด่าแบบหมามันเดินหนี บทพ่อคุณจะหวานกันนี่ เจ้าของร้านข้าวมันไก่หนัก ๑๒๐ โลไม่มีส่วนร่วมเลยสักนิด

“อื้ม ผมก็ต้องปกป้องแฟนผมดิ ถ้าไอ้หมีมันทำร้าย ผมก็จะโดดถีบมันก่อน”

“ไอ้เหี้ย พวกมึงนี่เป็นตุเป็นตะไปแล้วนะ กูจะทำอะไรพวกมึง ห๊ะ เห็นหน้ากูกระหายเลือดอยากจะกินเลือดคนมากรึไงวะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ยังมีหน้ามาขำอีก แซะกูจนหนำใจแล้วยังคิดจะทำร้ายกูอีก พวกมึงนี่มัน”

“แค่นี้ก็อารมณ์ขึ้น”

“ฮ่าๆๆ มึงฮาว่ะหมี นี่แต๊งกับหมีแหย่กันแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ สนุกดีนะ”ไอ้เฟียสขำชอบอกชอบใจ

“บางทีกูก็ไม่สนุกนะเฟียส แม่งล้อกูแต่ละทีนี่ปมด้อยกูทั้งนั้น เออ ถ้าล้อกูว่าไอ้หน้าตาดี ไอ้ซุปเปอร์สตาร์เกาหลี มันค่อยมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ไอ้ห่า ล้อบ้าล้อบออะไรไม่รู้ เดี๋ยวก็ว่าเสื้อนักเรียนกูใหญ่เอาไปห่อ ๑๐ ศพยังเหลือ กางเกงก็ว่าตัดมาจากกระสอบป่าน นี่ล้อยันกางเกงในพะยูน แหม่ ดูมันพูด ไอ้ห่า บางทีก็ก็มานั่งคิด แล้วตกลงกูเป็นคนหรือผีตาโขนกันแน่วะ ชุดแต่ละชุดนี่แม่ง ฮ่าๆๆๆ”พูดเองขำเอง มันล้อบ่อยก็จริงแต่อารมณ์มันน้อยใจมันมีบ้างแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่คืออารมณ์ขำ นี่มันพูดเมื่อกี้ กางเกงในพะยูน ไอ้เราก็คิดไปไกลมันเห็นภาพ เกือบหลุดขำ คนบ้าคนบออะไรใส่กางเกงในพะยูน ฮ่าๆๆ

“เออ นี่เราคุยกันเรื่องทรงผมนี่หว่า”

“เพิ่งคิดได้เหรอแต๊ง”

“งั้นพรุ่งนี้ไปตัดผมกันนะ หมีมึงจะตัดด้วยป่ะ”ไอ้เฟียสถาม

“กูขอคิดดูก่อน กูกลัวว่ามันจะไม่เข้ากับหน้า”ผมตอบพลางลูบหน้าตัวเอง นี่หน้าหรือฝาชีวะเนี่ย กลมเกิ้นนนน

“ทรงไหนก็ไม่เข้ากับหน้ามึงหรอกไอ้หมี”ไอ้แต๊งพูด

“เออ ไอ้หล่อ พ่อเทพบุตร แหม่ ปากดีนะมึง เดี๋ยวได้เตะปากเข้าสักวัน”

“มันขู่แบบนี้ตั้งแต่อยู่ป.๓แล้วเฟียส ยังไม่โดนมันเตะสักที”

“เหรอ แต่ถ้าโดนเตะจริง ผมว่าแต๊งคงไม่ต้องจัดฟันหรอก ซื้อฟันปลอมมาใส่หมดปากเลยดีกว่า ฮ่าๆๆ ขาไอ้หมีนี่มันเสาเข็มดีๆนี่เอง”

“เออ เห็นอ้วนๆแม่งแรงดีฉิบหาย...”สร้างโลกส่วนตัวกันต่อครับ ส่วนผมเก็บของทั้งหมดวางบนโต๊ะแล้วยกโต๊ะไปวางอีกที่หนึ่ง ไกลจากที่นอน ทั้งคู่มันยังไม่หยุดคุยกันครับ กูไร้ตัวตนไปแล้วจริงๆ เชอะ ไม่คุยกับกู กูส่งสติ๊กเกอร์ไปให้แฟนกูก็ได้ แล้วก็ส่งตัวการ์ตูนไปตัวหนึ่ง ก่อนจะปูที่นอน

“อ้าว จะนอนแล้วเหรอหมี”เย้ มีตัวตนอีกครั้ง ตื้นตันมาก

“แล้วมึงจะอยู่ทำซากอะไร มันจะเที่ยงคืนแล้ว”

“เออ นั่นสิ งั้นฝันดีนะ”แล้วพวกมันก็ขึ้นเตียงนอน ไฟก็ไม่ปิดให้ กูยกเตียงคว่ำซะดีไหม

เมื่อถึงเวลาเราจึงได้พักผ่อนกันซะที เฮ้อ เมื่อไหร่จะสิ้นสุดการสอบนะ เมื่อไหร่จะได้เข้ามหาลัยซะที มันเหนื่อยจะขาดใจอยู่แล้ว ผมเคยบ่นแบบนี้กับเฮียนะ เฮียจะบอกว่า เดี๋ยวเข้ามหาลัยแล้วเอ็งจะรู้สึก แหม่ ขอให้ได้เข้าก่อนเหอะ มาท่าไหนหมีสู้ได้ทุกท่า(มั้ง)

๓๑ มกราคม ๒๕๕x
๑๓.๒๓ น.
“หากว่าเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน”

แปะๆ

“ว้า ไม่มีอารมณ์ร่วมเลย”

“เหนื่อยอ่ะ หมดแรง”

“ให้จุ๊บเอาไหม”

“ไม่เอา เหม็นคนไม่อาบน้ำ”

“ฮ่าๆๆ ถ้าอาบน้ำล่ะ”

“จับกดแน่นอน”

“โว้ว ร้ายกาจอ่ะพี่หมี หายเหนื่อยยัง เดี๋ยวไปวิ่งอีก ๕ รอบ สุดท้ายแล้ว สู้ๆหน่อย”

“ฮึบ อีก ๕ รอบ”รำพึงเบาๆก่อนจะวิ่งเหยาะๆตามน้องภู น้องเขาน่ะพลิ้วอยู่แล้ว ส่วนผมก็กัดฟันสู้ ไอ้หมีต้องสู้เท่านั้น จะไม่วิ่งก็ต้องวิ่งครับ เพราะน้ำหนักไม่ลดมาหลายเดือนแล้ว

“ไอ้หมี มึงใจง่ายไปไหมวะ”ไอ้เฟียสตะโกนถาม ผมถึงกับงง ใจง่ายอะไรของมันวะ

“ใจง่ายอะไรของมึงวะเฟียส”ผมถาม

“ก็มึงวิ่งตามผู้ชาย ไม่เรียกว่าใจง่ายเหรอ”

“ฮ่าๆๆๆ”พวกนักบอลขำกันเป็นแถว ส่วนผม เฮ้อ มุกมึงนี่ กูอยากโดดถีบขาคู่

“...”ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ชูนิ้วกลางให้ไอ้เฟียส

“พี่เฟียสก็ช่างคิดได้เนอะว่าพี่หมีวิ่งตามผู้ชาย”น้องภูหันมาขำ

“พี่ตกเป็นเป้าโจมตีพวกมันตลอดอ่ะ”พูดแล้วก็ยิ้ม อย่างที่เคยพูดไป ไอ้หมีไม่ค่อยเก็บมาคิดเท่าไหร่นัก คิดบวก แต่บางทีก็อยากจะคิดคูณนะ จะได้เยอะๆไง

๑๘.๔๓ น.

“แม่สวัสดีครับ/ป้า สวัสดีครับ อ้าว แม่สวัสดีครับ วันนี้เลิกงานไวแฮะ”

“เลิกตั้งแต่ ๔ โมงแล้ว เฟียสล่ะไม่มาด้วยกันเหรอ”น้าหมอนมองหน้าลูกชาย

“วันนี้ไม่มาอ่ะแม่ แต่หนูก็ต้องไป”

“อืม งั้นรีบอาบน้ำกินข้าว เตรียมเสื้อผ้าไปด้วยแล้วกัน”

“นี่ไม่หวงลูกเลยเหรอ”

“อ้าว จะหวงทำไม โตแล้ว รับผิดชอบอะไรได้หลายอย่างแล้วนี่”

“บางทีก็อยากจะได้ยินคำว่า บ้านช่องตัวเองไม่ยอมนอน แบบนี้อ่ะแม่”มันดัดเสียงเลียนแบบน้าหมอน

“อ้าว ก็ไปติวหนังสือกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าทำอย่างอื่น ถ้าอย่างอื่นก็ไม่ต้องไป”

“ฮ่าๆๆ ไปติวๆ ไม่ได้ทำอย่างอื่น”

“ว่างๆก็ทำอย่างอื่นบ้างนะ ไปเดินเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ป้าล่ะกลัวอ่านหนังสือจนเครียด อะไรที่มันกดดันมากๆมันจะทำไม่ได้ดีนะลูก เราต้องทำแบบใจเราสบายๆ โล่งๆ”

“หนูโล่งทุกวันอ่ะแม่ หัวนี่โล่ง สมงสมองบินไปไหนแล้วก็ไม่รู้”ผมตอบแม่

“ย่ะ สมองไม่มี มีแต่ไขมัน ป่ะๆ ขึ้นไปเปลี่ยนชุด อาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วจะไปยังไง จะขับมอไซด์ไปเหรอ หรือว่าจักรยาน”

“เอาไงดีหมี”

“เอามอไซด์ไปแล้วกัน”พยักหน้าตกลงกัน ๒ จนจากนั้นจึงแยกย้ายไปอาบน้ำ แล้วมานั่งกินข้าวกับครอบครัวของเรา น้าหมอนลงมือทำกับข้าวเองวันนี้ อร่อยทุกอย่างเลยครับ ช่วงนี้บางวันผมก็คลีน บางวันก็ไม่คลีน คลีนมากไปมันก็เบื่ออ่ะ


๑๙.๕๖ น.

“ไปอ่านหนังสือบ้านเขาก็ทำตัวดีๆด้วยล่ะ อย่าเสียมารยาทนะ”น้าชาติเตือนพวกผม

“รู้แล้วน่าพ่อ”

“ตั้งใจอ่านด้วยล่ะ จริงๆพ่อว่าแกน่าจะเป็นแฟนกันตั้งนาน จะได้ขยันแบบนี้ เออ ถ้ารู้ว่าแกมีแฟนแล้วแกขยัน พ่อยกให้เขาตั้งแต่อยู่อนุบาล”

“พ่อ ตอนหนูอยู่อนุบาลยังใส่กางเกงไม่เป็นเลยนะ จะให้มีแฟนแล้วเหรอ”

“เออสิ แกจะได้เก่งไง”

“น้าชาติพูดเหมือนหนูไม่เคยชวนไอ้แต๊งอ่านหนังสือ”ตัดพ้อน้าชาติสักหน่อย

“เฮ้อ น้าไม่โทษเอ็งนะหมี แต่ไอ้ลูกชายนี่ ติดเล่นอย่างเดียว เอ้า ไปๆ ตั้งใจอ่าน เอาให้มันสอบได้”

“ถ้าสอบไม่ได้อ่ะพ่อ”

“สอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อยากทำอะไรก็ตามใจแล้วกัน แต่อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้พ่อ”

“หนูจะเป็นเด็กแว๊นซ์”

“สาธุเถอะพ่อคุณ หาเรื่องให้พ่อได้หน้าชื่นตาบานดีมากๆเลยพ่อคุณมหาจำเริญ”

“ฮ่าๆๆ พูดจริงนะเนี่ย จะตั้งแก๊ง จะแว๊นซ์หน้าบ้านด้วย”

“ก็ลองดู ป้าจะโยนปังตอใส่หัวคนละเล่ม ให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร”แม่ผมพูดแล้วสับปังตอลงเขียงดังปัง ตกใจ

“ปังตอป้าน่ากลัวกว่าปืนพ่ออ่ะ ฮ่าๆๆ หนูไปแล้วนะ”

“อย่าซิ่งแล้วกัน เดี๋ยวหมีมันจะกลายเป็นหมูบิน”น้าหมอนแซวไล่หลัง เฮ้อ หมูบินก็ดี จะได้มีปีกน่ารัก ทำตัวกุ๊กกิ๊ก


๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕x
๑๒.๑๔ น.

“อีก ๑ สัปดาห์จะวาเลนไทน์แล้ว อยากได้อะไรไหมแต๊ง”

“คิดไม่ออก”

“มึงก็บอกว่า เอามึงเป็นผัวก็จบแล้ว”ผมยุเพื่อน

“อืม ใช่ เอ๊ย ไอ้บ้า”

“พี่เฟียสได้พี่แต๊งแล้วเหรอ”น้องภูถาม

“มันใช่เวลาถามไหมภู”ไอ้เฟียสทำหน้าดุ

“อ้าว ก็ถามว่าเอากันรึยัง พี่ก็ไม่ยอมบอก ผมถามว่าได้กันรึยัง พี่ก็บอกมันใช่เวลาไหม อ๋อ แสดงว่ากลางวันเอาไม่ได้ ต้องเอากลางคืน”

โพ๊ะ “ทะลึ่งนะมึง”

“เจ็บอ่ะพี่แต๊ง นี่ถ้าไม่ใช่พี่ผมสวนลับอ่ะ”

“ก็ลองดู”

โพ๊ะ “แฮะๆ มือลั่น”น้องภูตบจริงครับ กูล่ะขำ

“เฮ้ยๆ พอเลยพวกมึง เดี๋ยวไม่ได้กินข้าวกันหรอก”พอคนพี่ทำท่าจะตบคนน้องอีกครั้ง ผมต้องรีบปราม เดี๋ยวเขาหาว่าเราไม่ปกป้องแฟน เอิ้ก “พวกมันยังไม่ได้กันหรอกภู ถ้าได้กันแล้วพี่ต้องรู้ดิ”

“เหรอพี่หมี”

“ใช่ เวลาได้กันครั้งแรกมันจะต้องขาถ่าง”

“เคยโดนซั่มมารึไงถึงได้รู้ดีจัง”ไอ้แต๊งถาม

“อ้าว กูก็อ่านประสบการณ์บ้างอะไรบ้างดิวะ”

“บางทีกูอาจจะได้กันแล้วก็ได้ แต่ของไอ้เฟียสเล็กกูเลยไม่เจ็บ”ไอ้แต๊งตอบ

“หืม ผมไม่เล็กนะแต๊ง”

“เออออกับกูบ้างก็ได้นะ ไอ้เวร”ไอ้แต๊งเตะขาแฟน

“เรื่องนี้เออออไม่ได้”

“เฮอะ มึงนี่ แต่บางทีกูอาจจะเป็นคนเอาไอ้เฟียสก็ได้นะ”

“อ้าว ไหนสัญญากันแล้วไงว่าแต๊งจะเป็นเมียผมอย่างเดียว”

โพ๊ะ “ไอ้หน้ามึน ไอ้หอกหัก วิชาการนี่เก่งจริง แต่เรื่องอวยกูนี่มึนตลอด ไม่เข้าข้างกูระวังเถอะสักวัน มึงจะรู้สึก”

“อ้าว ตอนนี้พี่เฟียสเป็นอัมพาตเหรอ น่าสงสารจัง น่าจะพาไปทำกายภาพบำบัด”

โพ๊ะ “มึงก็กวนตีนเกินไอ้ภู อัมพาตบ้าบอที่ไหนจะมานั่งกินข้าวได้เนี่ย”

“ฮ่าๆๆ ก็เห็นพูดว่ามึงจะรู้สึก ผมก็คิดว่าเป็นอัมพาต ประสาทเสียอะไรแบบนั้น”

“เฮ้อ กูเหนื่อยใจ”

“หึหึ น่ารักดีอ่ะ อยากเดินไปบอกคนอื่นจังเลยว่าแต๊งเป็นแฟนผม”ไอ้เฟียสขำ บางทีกูก็ว่ามึงดีนะเฟียส แต่มองๆอีกที กูว่ามึงบ้าแล้วละ

“เขารู้ทั้งโรงเรียนแล้วเถอะ ไม่เห็นเหรอบางวันกูโดนพวกแมงวันที่ชอบตอมมึงเดินมาด่ากูปาวๆ หาว่ากลินน้ำลายที่ถมลงพื้น หาว่าเป็นคนตอแหล”

“แล้วแต๊งเป็นแบบนั้นรึเปล่าล่ะ ถ้าไม่เป็นก็อย่าไปสนใจ”

“เออ กูมานั่งคิดๆดูนะ บางที กูตอแหลป่ะวะ ฮ่าๆๆ ไอ้ห่าก็เล่นด่าซะกูสำนึกไม่ทัน”

“ผมก็โดนด่านะพี่แต๊ง”น้องภูหันไปมองคู่สนทนา

“มีใครไม่โดนด่าบ้างวะ ต่อให้ดีแทบตายเมื่อมันไม่ถูกใจคนมันก็ด่าเอ่าะสิ คิดอะไรมาก”

“ผมโดนด่าว่า ทำไมมึงถึงไม่เลือกคนดีๆ ทำไมถึงเลือกหมีร่างหมูแบบนั้นวะ เขาด่าแบบนี้อ่ะพี่”เฮ้อ กระทบกระเทือนตับอ่อนกูมากเลยว่ะ

“แล้วมึงตอบไง”

“ผมก็ตอบ อ้าว ทีพ่อมึงอ้วนยังเอาแม่มึงได้เลย แฟนกูอ้วนแล้วแฟนกูไปนั่งทับคอพ่อมึงเหรอ”

“ฮ่าๆๆๆ ปากหมาจริงๆ ด่าผู้ชายหรือผู้หญิงวะ”

“ผู้หญิงอ่ะพี่ สวยก็ไม่สวย หน้ากับคอที่สีคนละเบอร์กันเลยอ่ะพี่”

“แต่มึงก็ไม่แมนนะที่ด่าผู้หญิงอ่ะ”

“อ้าว ผมก็ไม่ได้แมนนี่พี่ ผมเป็นเกย์”

“เออ ก็ถูกของมึงว่ะ แต่ก็แปลกเนอะ ทำไมคนชอบด่า”

“ปากว่างไง”ผมตอบ

“คิดอะไรมาก ยิ่งเราใส่ใจคนอื่นมากเท่าไหร่ พื้นที่ที่เราจะใส่ใจตัวเองก็น้อยลงมากเท่านั้น กูก็มีคนมาด่านะ เขาไม่ชอบที่กูชอบแต๊ง แต่กูก็ไม่ว่าอะไรเขาไง เขามีปากด่าเขาด่าไป แต่วันไหนที่เขามีแฟนเป็นผู้ชายแล้วเขาจะรู้สึก อย่างไอ้เอิ้กน่ะ ตั้งป้อมรังเกียจกูจะตาย ที่ไหนได้ โดนเด็กเทคนิคจับทำเมียซะแล้ว กูล่ะขำ”ไอ้เฟียสพูดไปเขี่ยน้ำแข็งในแก้วไป

“เหรอพี่ แบบนี้ก็มีด้วย”น้องภูให้ความสนใจขึ้นมาทันที

“อืม เพื่อนกันตั้งแต่ประถมอ่ะ เขารู้ว่าพี่ชอบแต๊งตอนม.๒ ไง เขาก็ตั้งป้อมว่าพี่ พอมันขึ้นม.๕ ดันมีผัวซะงั้น”

“กูก็เคยตั้งป้อมรังเกียจมึงนะ กูโคตรไม่ชอบมึงเลย”ไอ้แต๊งใช้หลอดแหย่น้ำแข็งแล้วป้อนแฟนมัน

“เออ แล้วพี่คิดไงถึงมาตกลงอ่ะ ผมก็งงนะพี่ เออ ถ้าเป็นแบบผมกับพี่หมี...”

“ถุ้ย ไอ้สัส หนาวลมห่มผ้า กอดหมาดีกว่ากอดเมีย กลอนบ้าบอที่พวกมึงจีบกันเหรอ เลี่ยนจนกูจะอ้วกว่ะ”ดูมันทำท่าทาง ผมรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาล้อเลียน แต่มันชอบเหน็บ ไอ้นี่มันต้องโดนเขาสักวัน

“อ้าว ก็จริงนี่หว่า หนาวลมมึงจะแก้ผ้าอาบน้ำเหรอ ถ้าไม่ห่มผ้าน่ะ”ผมตอบกลับ

“เออ เรื่องของผมเอาไว้ก่อน แต่ผมอยากรู้จริงๆ ทำไมพี่ถึงตกลงคบกับพี่เฟียส”

“ไม่มีอะไร มันตื๊อกู กูก็ใจอ่อนบ้างดิวะ คนบ้าอะไรตื๊อตั้ง ๖ ปี คนแบบนี้มันก็ต้องมีความดีให้เก็บมาคิดบ้าง กูก็พยายามไม่คิดไง แต่พอหนักๆเข้า อ้าว ฉิบหาย กูคิด แล้วพอคิดไปคิดมา เออ ก็น่าจะลองดู”

“แค่ลองดูเองเหรอ”ไอ้เฟียสหลุบตาลงต่ำ

“มึงเพ้อมากไป บอกรักกูทุกวันนี่มึงคิดว่ามันจะไม่ซึมเข้าไปในกระดองใจกูบ้างเหรอ กูก็อ่อนไหวเป็นนะสัส”

“หวานจัง”

“ใช่ ดีกว่าหนาวลมห่มผ้าห่อศพของพวกมึงเยอะเลย เนอะเฟียส”

“อืม แต่เราหนาวลมเราห่มผ้านวมแล้วกอดกัน มันอุ่นดีเนอะ”

“ครับผม ไอ้ตัวมึน”ว่าแล้วมันก็ดึงหูแฟนมัน

“มองๆไปผมว่าคู่พี่นี่โคตรเหมาะเลยอ่ะพี่”

“อ้าว แล้วมีตรงไหนที่กูกับแต๊งไม่เหมาะกันวะ เรื่องที่เราเป็นผู้ชายเหรอ”

“เปล่า พี่ก็คิดไปไกล คือไม่คิดว่าจะจูนกันติดไง”

“ก็เหมือนมึงกับไอ้หมีอ่ะ กูก็ยังคิดเลย มันบ้าหรือมันดีวะ คนดีๆไม่เอา มาเอาพะยูนแบบไอ้หมี”ไอ้แต๊งเกาคางผม

“เฮ้อ กูอ่อนใจกับมึงแต๊ง เมื่อวานเป็นหมี วันนี้เป็นพะยูน พรุ่งนี้กูจะเป็นอะไรดี”

“เป็นอึ่งอ่างดิพี่ น่ารักดี”น้องภูยิ้ม แม้แต่แฟนก็ยังไม่เข้าใจกู “ฮิๆ ชอบทำหน้าน้อยใจ พี่หมีอ่ะชอบตอกย้ำปมตัวดีว่าไม่มีอะไรดี ทั้งที่พี่อ่ะมีดีเยอะเลยนะ แต่พี่ก็ชอบคิดว่า เฮ้ย เราต้องผอม เราต้องหุ่นดี คนถึงจะมาชอบ ภูว่าไม่ใช่อ่ะ คนเราเวลาชอบชอบกันที่ใจ รูปร่างมันแค่องค์ประกอบรองลงมา แต่ก็ดีนะ อ้วนๆแบบนี้ไม่มีใครสนใจ เราก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่นอกใจ อยากให้อ้วนไปนานๆ”

“พี่ตายไป ๑๐ คนจะแบกศพพี่ไหวไหม”

“ไอ้สัส กูก็คิดว่ามึงจะกังวลเรื่องอื่น กลังวลเรื่องตาย เออ ถ้ามึงอ้วนตายกูจ้างเครนมายกศพมึงอ่ะ โลงกูก็จะสั่งต่อพิเศษ เอาไม้พยุงเลยไหมเพื่อน”ไอ้เฟียสตบไหล่

“อืม สักทองก็ได้ พยุงแพงไป ฮ่าๆๆๆ”

“แต่ถ้ามันไม่ลดน้ำหนัก ไอ้นั่นมันจะไม่โผล่มาเลยนะภู พุงแม่งบังหมด”

“อะไรเหรอ”

“หำไง”

“เดี๋ยวเอาฟาดปาก เห็นกูอ้วนแต่ทุกสัดส่วนกูพัฒนานะ ไม่ได้ใหญ่แค่พุง”

“เขินจัง เท่าของฝรั่งไหมนะ”น้องภูยิ้มทะเล้น

“ฟาดหัวมึงแตกอ่ะภู”

“จริงๆเราเพิ่งอยู่มัธยมปลายเองนะ น่าจะลดเรื่องแบบนี้ลง”

“ถุ้ยครับคุณแฟน แล้วไอ้นิคนี่ไม่ใช่มัธยมปลายเหรอที่ทำผู้หญิงท้องอ่ะ เราเรียนรู้ได้ แต่ต้องใช้วิจารณญาณ เข้าใจ๊”

“ครับคุณแฟน งั้นเย็นนี้เราไปเรียนรู้กันเนอะ”มันยิ้มตาหยีให้

“เอาแล้วเว้ย พิตบูลกับชิวาว่าจะผสมพันธุ์กันแล้วเว้ย”ผมยิ้มกริ่ม

“กูว่าพวกเราแดกกระเทียมเยอะไป ถึงได้ฟุ้งซ่านเรื่องเพศ”

“งั้นกินน้ำมะตูมเยอะๆจะได้เสื่อมไปเลย”

“เชิญกินคนเดียวเถอะไอ้สัส/พี่หมี/ไอ้หมี”อ้าว ๓ คนนี้ไม่มีใครอวยกูเลย กูไม่กินก็ได้วะ เหอๆ




๒๑.๒๐ น.
ผม ไอ้แต๊ง ไอ้เฟียส นั่งติวหนังสือบ้านไอ้แต๊ง ช่วงนี้พักสมองด้วยการดูการตูน ๑ ตอน เพิ่งได้ครึ่งเรื่อง ได้ยินเสียงเอะอะจากชั้นล่าง เหมือนได้ยินเสียงเฮียตี้ ก็ไม่มีอะไรครับ เฮียเข้าห้องไปแล้ว ไม่ได้มาทักทายเรา เราก็อ่านหนังสือกันต่อ

๒๓.๑๐ น.

“เฮีย ทำไมเฮียหนีมาแบบนี้วะ เราไม่คุยกันแล้วเราจะรู้เรื่องกันไหม”เสียงเฮียมวยดังมาจากด้านล่าง อ้าว มีอะไรกัน ผมตกใจมากเลย “เฮีย เปิดประตูดิวะ”

“มีอะไรกันลูก เสียงดัง หืม”น้าหมอนถาม

“เฮียหนีปัญหาอะน้าหมอน ไม่ยอมคุยกับหนู เฮีย เปิดประตู”

“ยุ่งอะไรกับชีวิตกูวะ ออกไป”เสียงเฮียตี้ดังจากด้านใน

“ตี้ มีอะไรก็มาคุยกับน้องให้รู้เรื่อง เราเป็นเพื่อนบ้านกันไม่คุยกันแล้วจะรู้เรื่องไหม”น้าชาติพูดเสียงเข้ม แล้วผมก็ได้ยินเสียงแม่

“มีอะไรกันหมอน ชาติ มีอะไรลูก อ้าว แล้วนี่กับมากันยังไง มหาลัยเขาปิดเหรอ”แม่ถาม

“เฮียไม่ยอมคุยกับหนูอ่ะแม่ เฮีย ที่เฮียเห็นมันไม่ใช่ที่เฮียเข้าใจนะ เฮียอย่างงี่เง้าดิ”แล้วเฮียมวยก็เคาะประตูต่อ พวกเราจึงไปยืนออกกันหน้าประตู เฮียมวยดูท่าจะร้องไห้ด้วยละ เป็นไรของเฮียกันนะ

“หมอน ชาติ พี่รู้แล้วละ”แม่ผมพูด

“อะไรเหรอพี่พิมพ์”

“อื้ม ทำใจเถอะพวกเรา แก่ตัวไปคงไม่มีหลานอุ้มแล้วละ”เอ๊ะ แม่ผมหมายความว่าอย่างไร แล้วเฮียมวยกับเฮียตี้ทะเลาะอะไรกัน
 
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Nighttime ที่ 16-11-2015 23:44:24
ตอนนี่ก็ขำจนกรามค้างกันไป...
แต่แม่หมีนี่รู้สึกจะเซ้นแรง!! ทั้งที่คนอื่นๆยังอยู่ในอารมณ์งงๆกับเหตุการณ์..
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-11-2015 23:52:22
สาระมาเต็ม 5555 มาแล้วอีกคู่
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 17-11-2015 00:00:27
เฟียสแต้งนี่หวานกันไม่เกรงใจหมีเลยนะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 17-11-2015 00:13:19
มีมาอีกคู่แล้วววววววว
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 17-11-2015 00:22:56
ดีใจที่พวกพ่อแม่เข้าใจ แต๊งส์กับเฟียสนี่คือจะหวานกันเกินไปล่ะ รอดูคู่น้องภูกับพี่หมี ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 17-11-2015 01:35:18
ตกลงเฮียๆนี่เค้าได้กันเองใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 17-11-2015 02:39:47
คุณแม่น่ารักมากมาย
เป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-11-2015 02:47:34
ยังมีอีกไหมคะนั่น รู้สึกเหมือนยังมีอีก
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-11-2015 08:56:15
มีความรู้สึกว่าเฮียมวยจะเป็นเมียเฮียตี้ เอ่ะ หรือว่าเฮียตี้เป็นเมียเฮียมวย 555
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 17-11-2015 09:11:40
เฮ้อ ประชากรจะไม่เพิ่มอีกแล้ว
 :mew4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-11-2015 09:17:20
โถ..น่าสงสารเนอะ  :m20:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-11-2015 09:25:03
เฮียตี้กับเฮียมวย :laugh: ชอบจังเวลาที่ลูกชายแทนตัวเองว่าหนูกับแม่ ถึงแม้ว่าลูกจะโตแล้วก็เถอะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-11-2015 10:22:23
OMG เฮียยยยยยยยยยยย  :hao5: :ling1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-11-2015 15:24:49
ความสุขของลูกก็คือความสุขของพวกแม่ๆ สินะคะแม่หมอน :heaven
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 20-11-2015 01:53:33
เฮีย ขำแปป แมน ๆ เตะบอล ได้กันเอง 5555
น่ารักมาก เฟียสกะแต๊ง พี่หมีก็น่ารัก น้องภูนี่ดูไปก่อน
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 20-11-2015 12:51:29
ชอบตอนนี้ 555555 ต่อล้อต่อเถียงกันได้ฮามาก ไม่มีใครยอมเลยสักคน  :laugh: :laugh:

ว่าแล้วเฮียตี้กับเฮียมวยต้องคู่กัน  :hao3:

ยกนิ้วให้คุณแม่เลย  o13
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 09-12-2015 23:14:59
รอ ร้อ รออออ...
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 10-12-2015 17:21:54
แล้วหมีมันจะมีวันผอมไหมนะ เห็นผ่อนปรนให้ตัวเองตลอด  o22
แถมบ้านขายข้าวมันไก่กะขาหมูอีก :heaven
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๑๖๑๑๒๕๕๘ โคลงที่ ๒๒ หน้า ๑๔
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 18-12-2015 07:49:29
หมีเอ๊ย ไปซุ่มลดน้ำหนักอยู่ที่ไหน ผอมหรือยัง ไม่มาเล่าให้ฟังเลย
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: AGELA ที่ 28-02-2016 00:56:27
โคลงที่ ๒๓

ผม ไอ้แต๊ง ไอ้เฟียส ยืนงงและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ตี้ มีอะไรก็ออกมาคุยกับน้องนะลูก อย่าหนีปัญหา หันหน้ามาคุยกัน”แม่ผมเคาะประตู

“นั่นดิเฮีย เฮียเล่นไม่ฟังกันแบบนี้ แล้วมันจะรู้เรื่องกันไหม”

“ตกลงว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ หืม มวย”น้าหมอนมองหน้าเฮีย

“อย่าเพิ่งถามเลยหมอน ให้เด็กๆเขาคุยกันดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยถามก็ยังไม่สาย พี่ไปนอนละ เธอก็ไปนอนได้แล้ว เด็กๆโตแล้วเขาจัดการกันเองได้”

“เฮ้อ หาเรื่องเดือดร้อนจริงๆเลยพวกนี้ ไปนอนดีกว่า อย่าเสียงดังนะ ถ้าเสียงดังพ่อเตะซ้ำนะจะบอกให้ มีปัญหาอะไรก็ไม่บอก”น้าชาติขู่แล้วก็เข้าไปนอน ส่วนผมและไอ้คู่รักนักบอลยังยืนมอง

“เฮีย ออกมาคุยกันเถอะ จะได้รู้เรื่องกันไป ผมจะได้รู้ด้วย”ไอ้แต๊งเคาะประตู

“กวนตีนนะมึง คนเขาเครียดๆอยู่ เฮีย ถ้าเฮียตี้ไม่พร้อมค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ได้ นี่มันดึกแล้ว เฮียไปนอนก่อน”ผมสะกิดเฮียมวย

“ไม่อ่ะ จะนั่งรอตรงนี้ รอจนกว่าเฮียจะเปิดประตู”

“เฮ้อ ตกลงว่าเป็นอะไรกันเหรอเฮีย ทะเลาะกันเรื่องอะไร แย่งผู้หญิง หรือรักกันเองแล้วคนอื่นเข้าใจผิด”

“คนอื่นไม่ได้เข้าใจผิด แต่เฮียตี้อ่ะเข้าใจผิด”

“ตกลงว่าแอบไปได้กันมาเหรอ”

“อืม”เฮียพยักหน้า

“เฮียตี้ มีอะไรก็ออกมาคุยกันเหอะ เฮียมวยจะอกแตกตายแล้วรู้ป่าว อย่าหนีปัญหาดิเฮีย ปัญหามีไว้แก้ เหมือนผ้าอ่ะ เราต้องแก้”

“แก้แล้วฉึกๆกันใช่ไหม”เสียงไอ้เฟียสมันหื่นผิดปกติ

“ไอ้ทะลึ่ง”ไอ้แต๊งตบหัวแฟนมัน

“เจ็บจัง คืนนี้ต้องลงโทษด้วยการหอมแก้มร้อยที”

“ใครจะหอมแก้มน้องกู ถามกูยัง”เฮียตี้ยอมเปิดประตูออกมา แล้วทำเสียงเข้มใส่ เรื่องหวงน้องนี้เห็นเงียบๆไม่อะไรกับน้อง แต่หวงหนักเหมือนกันนะเนี่ย

“ใครจะหอมก็หอมไปเถอะเฮีย เรามาเคลียร์กันก่อน”เฮียมวยเข้าไปรวบตัวเฮียตี้แล้วดันเข้าห้อง

“ปล่อยกูไอ้หมวย”

“ชื่อมวยครับ เฮียขอตัวนะ”เฮียมวยพยายามดันเฮียตี้เข้าไปในห้อง

“เฮียมวยเบาๆนะ เกรงใจน้องบ้าง ฮ่าๆๆ”คนเป็นน้องมีเหรอจะห้าม ชอบยุให้เขาได้กัน

“เราจะอ่านหนังสือกันต่อไหม หรือว่าจะพอแค่นี้”ไอ้เฟียสถาม

“ง่วงนอนแล้ว วันนี้พอแค่นี้ดีกว่า”ไอ้แต๊งกอดเอวแฟนมันออดอ้อน

“วันนี้กูไปนอนบ้านกูนะ เผื่อมึงจะทำอะไรกันสะดวก”

“กวนตีนว่ะหมี นอนบ้านกูนี่แหละ พวกมึงนี่ชอบทะลึ่ง”มันตีพุงผมแล้วเดินเข้าไปทิ้งตัวนอน ผมกับไอ้เฟียสก็ต้องทำหน้าที่เก็บของ ดูมันสิครับ ขี้เกียจขึ้นทุกวัน

“ไม่ช่วยเลย”ไอ้เฟียสบ่นครับ

“แล้วมึงก็ได้รู้ธาตุแท้ของมัน ไอ้นี่มันขี้เกียจ มันไม่ได้น่ารักอย่างที่มึงคิด”ยุพวกมันหน่อยครับ สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา

“วันนี้แปะโป้งไว้ก่อน ไม่อยากทำ มึงอ่ะไอ้หมีชอบยุกูจริง มานั่งๆ”มันตบที่นอนเรียกแฟนมัน ไอ้เฟียสก็ไปนั่งแล้วคุณแต๊งก็อ้อมหลังมานวดให้

“ต้องเข้าใจนะเว้ย ว่ากูอ่ะไม่มีอะไรดีหรอก กูขี้เกียจ ชอบเอาเปรียบ ปากหมา ทะเล้น หัวไม่ดี”

“อืม ที่พูดนี่หมายความว่าไง จะให้เลิกรักเหรอ”ไอ้เฟียสถามเสียงขุ่น

“ก็แล้วแต่มึงจะตัดสินใจ”

“ผมยังไม่ได้ฟันแต๊งเลย ยังไม่เลิกง่ายหรอก ต้องฟันก่อนแล้ว หึหึ”

“ก็เอาดิ คืนนี้จะไอ้หมีไปนอนบ้าน”

“ล้อเล่นน่า พูดแค่นี้ก็โมโหง่ายนะ”

“อ้าว อยากได้ตัวกูไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ไง แต่ไม่ใช่เวลานี้ แล้วไม่ได้อยากได้แค่ตัว อยากได้หัวใจด้วย อืม นวดดีนะ ผมเห็นแต๊งนวดให้คนอื่นแล้วอิจฉามาตลอด ต่อไปนี้อย่านวดให้ใครนะ”

“อ้าว กูนี่มันนวดให้ประจำก็ต้องห้ามนวดด้วยเหรอ”ทวงสิทธิ์ผมหน่อยครับ

“มึงก็ให้ไอ้ภูนวดให้ไง”ไอ้เฟียสพูด

“กูมาก่อนมึงอีกนะเฟียส มึงจะมาแย่งที่ที่กูเคยได้ไม่ได้นะ”แหย่มันหน่อยครับ

“งั้นเรามาทรีซั่มกันดีไหม”ไอ้แต๊งพูดขำๆ

“เอาดิ คืนนี้จะซั่มให้หนักเลย”ไอ้เฟียสเอออวยกับแฟนมันไป

“เห็นหน้าตาดีๆแบบนี้นี่หื่นใช้ได้นะเรา”

“นี่แค่พูดนะ ยังไม่ได้ปฏิบัติจริงถ้าทำจริงวันไหนล่ะก็ เดี๋ยวจะได้ร้องว่าขออีกได้ไหม ฮ่าๆๆๆ”

“ชอบพูดเรื่องทะลึ่งจริงๆพวกมึง ทีหลังอย่าพูดนะ”

“อ้าว ทำไมล่ะ”เสียงหล่อมากเพื่อน มองแฟนหน้าแบบมีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้าเลยมึง

“กูชอบเก็บเอาไปคิด ไอ้บ้า สมงสมองกูยิ่งไม่มีอะไรกับเขาอยู่ด้วย มึงก็พูดแต่เรื่องใต้สะดือ รู้ไหมว่ากูชอบ เฮอะ อย่ายั่วได้ไหมวะ กูยังไม่อยากเสียตัว”

“ฮ่าๆๆๆๆ”ผมกับไอ้เฟียสขำกลิ้งเลยครับ เอากับมันสิ

“มีอะไรน่าขำวะเฟียส”

“ที่แท้ไม่อยากให้พูดเพราะตัวเองหื่นกว่านี่เอง โด่ว งั้นจะพยายามไม่พูดแล้วกันนะ เดี๋ยวแต๊งหน้ามืดจับผมทำสามีกลางสนามบอล หึหึหึ”

“ถ้าคนอื่นรู้ว่ามึงเป็นคนทะลึ่งนี่ เขายังจะปลื้มไหมวะ”

“หืม ผมก็ไม่เคยพูดกับคนอื่นนี่ว่าไม่ใช่คนทะลึ่ง แต่ที่ผมทะลึ่งก็แค่กับแฟนผมคนเดียวนะ แฟนผมเขาน่ารัก ปากเขาน่าจูบ แก้มเขาน่าหอม เวลาเขาอ้อนผมมักจะใจเต้นแปลกๆ เวลาเขางอนผมก็ต้องรีบง้อ เขาจัดฟันด้วย เหยินมาหลายปีเพิ่มมาดูได้ปีนี้นี่เอง”

“ถ้ากูไม่มีเงินจัดฟัน แบบเหยินเหมือนตอนนั้น ยังจะรักกูป่ะ”

“รักสิครับ นอนนะ เดี๋ยวตื่นสาย”

“อืม บอกรักหน่อยดิ กอดด้วยนะ”

“ครับ รักแต๊งนะ ขอจูบนะครับ”แล้วมันก็ดูดปากกันจ๊วบจ๊าบ ผมได้ยินแค่เสียงนะ เพราะตอนนี้ปิดไฟแล้ว

“พอแล้วเฟียส เดี๋ยวจะไม่ได้หยุดแค่จูบ อ๊ะ บีบก้นกูทำไม สัส อยากเอากูเหรอ กูจะได้ไล่ไอ้หมีกลับบ้าน”

“มึงจะไล่กู ๓ ครั้งแล้วนะ พอถามว่าจะเอากันไหม กูจะได้กลับบ้านก็หาว่ากูทะลึ่ง พวกมึงนี่แม่ง จะให้กูทำยังไง กูโมโหแล้วนะ จูบกันเสียงดังมึงคิดว่ากูจะไม่มีอารมณ์บ้างรึไง มึงเข้าใจไหม ว่ากูเอาใครไม่ได้ แม่งชอบยั่วให้อยาก”

“ก็ไปเอากับไอ้ภูดิ”

“กูเอาได้ที่ไหนล่ะ พูดนี่เหมือนง่ายเลยนะ”

“ทำไมจะเอาไม่ได้วะหมี น้องแม่งก็อ่อย”

“มันติดพุงกูสัส กูแก้ผ้าเอาน้อง น้องแม่งตายห่าคาพุงกูพอดี”

“หึหึหึหึ ฮ่าๆๆๆๆ”ขำเข้าไป สัส

“จะนอนได้ยัง”ผมถามไอ้คู่รักที่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอยู่บนเตียง ๒ คน เชอะๆ


ตื่นเช้ามา ยังไม่ได้ความเลยว่าเฮียเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร พวกเราก็ต้องรี่ไปโรงเรียนก่อน ปั่นจักรยานไปเหมือนเดิม

“มองอะไร”

“มองหมูปั่นจักรยาน”

“เดี๋ยวได้กินขาหมูมื้อเช้า”

“อยากกินจัง”มีแลบลิ้นใส่ จึงจัดไปเบาๆ เตะก้นแฟนตัวเองซะ “โหยพี่หมี แฟนนะ ไม่ใช่คู่ชก”

“อ้าวเหรอ แล้วเราเป็นแฟนกันเมื่อไหร่”

“เดี๋ยวโดนๆ เออ ว่าแต่พี่แต๊งกับพี่เฟียสล่ะ”

“ให้พวกมันไปไกลหูไกลตาบ้างเถอะ เบื่อพวกมันละ เมื่อคืนก็หวานกันกว่าจะได้นอน”

“อิจฉาล่ะสิ”

“ก็มีบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง”

“งั้นเรามาหวานกัน”น้องภูทำท่าจะมากอดผม

“เดี๋ยวโดนลากเข้าห้องปกครองหรอก อ่อยแบบนี้ เย็นนี้เดี๋ยวตามถึงบ้าน”

“เปิดประตูรอเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิพี่หมี หิวอ่ะ”

ก็ต้องไปเป็นเพื่อนเขาหน่อยครับ ใครๆเขาก็มองผมกับน้องภู บางคนเบ้ปาก บางคนมองบน บางคนยิ้มขำ ก็เรื่องของเขา ถึงเวลาเราหน่อย เดี๋ยวมึงจะเสียดายทีหลัง เอิ้ก

วันนี้ก็ไม่มีอะไร ผมไปออกกำลังกายกับน้องภู เหงื่อท่วมกับบ้าน

“เฮียกลับแล้วเหรอแม่”

“อืม กลับไปแล้ว เมื่อตอนบ่ายน่ะ”

“ครับ แล้วเฮียเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร”

“ก็หึงหวงกันน่ะ”

“ตกลงคือว่าเฮียมวยกับเฮียตี้เป็นแฟนกัน”

“ใช่แล้ว”

“ไม่น่าเชื่อ ไปสปาร์คกันได้ยังไง”

“ก็ไม่รู้เขา เก็บของไปลูก อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย”

“จะช่วยแม่ขายของอ่ะ”

“อี๋ เหงื่อไหลไคลย้อยลูกค้าเขาไม่มากินหรอก ไปๆ”



เรื่องของแต๊ง

ซ้อมบอลเสร็จแล้วปั่นจักรยานกลับบ้าน วันนี้พ่อเข้าเวร แม่ก็เหมือนกัน ไม่รู้จัดตารางยังไงให้เข้าพร้อมกัน ผมก็ต้องอยู่คนเดียว แต่คิดเหรอว่าจะได้อยู่คนเดียว ไปบ้านไอ้หมีกันครับ ไปกินมื้อเย็นที่นั่น แล้วคุยเรื่องเฮีย ป้าก็ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง เล่าแค่ว่า เฮียตี้พี่ชายผม กับเฮียมวยคบกันแล้ว เฮ้อ ลูกชาย ๒ บ้านนี้นี่เป็นอะไรกันไปหมด สงสัยจะไม่เหลือให้สืบทอดตระกูล แต่ดูแล้วป้าไม่เห็นจะเครียดอะไรนะ คงจะทำใจได้

กินอิ่มแล้ว ช่วยเก็บของ ล้างหม้อล้างจาน แล้วรับค่าแรงจากป้าคนละร้อย วันนี้ช่วยน้อยได้น้อย เก็บของเสร็จวันนี้ผมกะจะนอนบ้านครับ เป็นห่วงบ้านไม่มีใครนอน พ่อแม่เข้าเวรกันหมด จะทิ้งบ้านก็สงสารมัน แต่ไม่ได้นอนคนเดียวนะ ไอ้เฟียสมานอนเป็นเพื่อน

ตั้งแต่คบกับมัน มันดีทุกอย่างนะครับ เวลาเล่นบอลก็เข้าขากันดีกว่าเดิม มันชอบติวให้ผมทุกเย็น ไม่ติวไม่ได้ กับมันผมไม่กลัว แต่ผมกลัวแม่ดุ หึหึ วันนี้แม่ไม่อยู่คงจะไม่ติว ไลน์ตามไอ้หมีมันก็ไม่ยอมมา จึงต้องอยู่กับไอ้เฟียส ๒ คน

ผมลงไปล็อกประตูบ้านให้เรียบร้อย แล้วขึ้นมาที่ห้องตัวเอง หยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำอาบท่า ดึกแล้วเดี๋ยวไอ้เฟียสมันบ่น วันนี้มันตัวหอมนะ ผมรู้สึกมีอารมณ์กับมันแปลกๆ

อาบน้ำให้ตัวหอมๆ ออกมาเช็ดตัวให้แห้ง ทาครีมเล็กน้อย ผมไม่ค่อยสำอางมากเท่าไหร่หรอกครับ หน้ายังมีสิวนะ แต่ไม่เยอะ เม็ด ๒ เม็ด ไอ้เฟียสนี่สิหน้าจะใส ตัวใหญ่ด้วย ยิ่งตอนนี้มันนั่งเล่นคอม ทำไมมันน่ามองกว่าเมื่อก่อนวะ มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรไปกว่าวันอื่นนะ กางเกงขายาวสีเทากับเสื้อแขนสั้น มันก็ธรรมดา แต่ว่าทำไมมันน่ามอง

ผมเดินไปเดินมา รู้สึกว่ามีอารมณ์ จะว่าไปก็หลายเดือนแล้วนะที่ไม่ได้ช่วยตัวเอง ไม่มีเวลา หาโอกาสไม่ได้ หรือว่าจะชวนไอ้เฟียสเล่นดีวะ มันก็แฟนของเรานี่หว่า ใจหนึ่งก็อยากลองแต่อีกใจก็ไม่กล้า ถ้าจะทำอะไรกันวันนี้คงไม่เลยเถิดไปถึงขั้นนั้นหรอกมั้ง

“ง่วงแล้วเหรอแต๊ง”ถ้ากูตอบว่าเงี่ยนมึงจะหนีกลับบ้านป่ะวะ

“ยังอ่ะ ดูไรเหรอ”ไอ้เฟียสนั่งจ้องโน๊ตบุ๊คอยู่ครับ ผมจึงดึงแขนข้างหนึ่งออกแล้วเข้าไปนั่งแทรกกลางหว่างขา สายตามองไปหน้าคอมมันอ่านอะไรก็ไม่รู้

“ดูการ์ตูนไหม”

“อือ แล้วแต่ดิ”ผมพิงหน้าอกแฟน มันก็รู้งาน หอมแถวๆหลังหูบ้าง แก้มบ้างก่อนจะเปิดการ์ตูน ผมนั่งพิงหน้าอกดูบ้างไม่ดูบ้าง จะเริ่มยังไงดีวะ ตอนนี้ได้แต่นั่งประสานมือกับมันไว้ จากนั้นก็ปล่อยมือออก จับเอามาวางแถวหน้าท้อง

“วันเสาร์เราจะไปไหนกันดี ขับมอไซด์เล่นไหม”

“ไปแถวเขื่อนก็ดีนะ ไม่ได้ปนานแล้ว”ผมขยับไปขยับมา ยั่วแฟนหน่อย ได้ผลครับผมรู้สึกว่าบริเวณเป้าของไอ้คุณแฟนจะพองขึ้น ผมรู้สึกวูบๆแถวท้อง ตื่นเต้น

“แต๊ง ถ้าผมจะพูดอะไรแต๊งจะโกรธไหม”

“มีอะไร”

“ก็ มีอารมณ์น่ะ”

“อือ ก็มีไปสิ”

“อ้าว ไม่ช่วยกันหน่อยเหรอ”

“จะดีเหรอ”

“น่าจะดีนะ ลองดูไหม”มันรีบล้วงมาลูบหน้าท้องผมทันที ผมไม่ว่าอะไร อยากลูบก็ทำไปสิ “ไม่เล่นด้วยเหรอ”มันหยุดครับแล้วถามเสียงเบาๆข้างหู

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ที่นั่งแบบนี้ก็อ่อยมึงอยู่นะ”

“งั้นจะรออะไร มาเล่นกันเถอะ”มันรีบลุกออกแล้วอุ้มผมไปทีเตียง

สุดท้าย ก็เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับแฟน


อย่าคิดว่าผมจะโดนมันเสียบนะ ยังไม่ถึงเวลา

“อย่ามองหน้าดิ กูเขิน”

“จะเขินทำไม นี่ก็คบกันมาพักใหญ่แล้วยังไม่หายเขินอีกเหรอ”

“กูไม่รู้ กูเห็นหน้ามึงทีไรกูก็เขินทุกที สัส”

“น่ารักสัส ปิดไฟนอนเนอะ”ห้องไม่มีแสงแล้ว มืดสนิท ไอ้เฟียสขึ้นมานอนบนเตียง ขยับมากอดมาหอมผม

“นอนดีๆดิ”ก่ายขามาเต็มที่เลย ท่อนขาไม่ใช่เล็กๆด้วย ขานักฟุตบอลอ่ะ ไม่ต่างจากเสาตอหม้อ “เฟียส”

“ครับ”

“มันหนักไอ้บ้า”

“ฮ่าๆๆ ฟอด นอนและ”

“กวนตีนนะมึง”

“ก็แฟนทำตัวน่ารัก นอนเนอะ ฝันดีนะ”มันกอดผมหลวมๆ แล้วก็พากันหลับเป็นตาย



“โว๊ะ แต่เช้าเลย”รีดผ้าอยู่ดีๆ ไอ้เฟียสก็มากวนประสาท หลังๆมานี่เอาใหญ่เลย เห็นยอมหน่อยไม่ได้ เดี๋ยวสักวันคงได้เตะแฟน

“ตัวหอมจัง”

“เดี๋ยวให้ดมรักแร้เลยมึง จะรู้ว่าหอมไม่หอม”

“แฮ่ อรุณสวัสดิ์ ขอจุ๊บหน่อย”

“เรื่องดิ คนสกปรกมาจุ๊บคนสะอาดนี่นะ ใครเขาทำกัน”

“งั้นไปอาบน้ำดีกว่า อาบเสร็จขอจุ๊บหน่อยนะ”

“กับไอ้หมีดิ พวกมึงเคมีเข้ากันดี”มันไม่ตอบอะไร แก้ผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปหน้าตาเฉย เห็นแล้วเพลียใจกับความหน้าด้านหน้าทนของมัน


รีดผ้าเสร็จ ก็ทั้งของผมและของมันละครับ ไอ้เฟียสมันรีดผ้าเป็นที่ไหน อยู่บ้านนี่มีแม่บ้านจัดการให้แทบทุกอย่าง อยู่นี่ผมก็ต้องทำให้ เคยให้มันลองทำแล้ว เสื้อไหม้ เตารีดแทบจะหล่นจากโต๊ะ เออ คนแบบมึงนี่ได้แค่หล่อ อย่างอื่นนี่ไม่เป็นงาน มิน่ามันไม่จีบใคร กรรมของกูจริงๆ แต่ถามว่าไอ้แต๊งยอมไหม

ยอมครับ


“โหเฟียส มึงใจกล้าหน้าด้านขึ้นทุกวันนะสัส”มันใส่กางเกงในโชว์เป้าตุงเดินตรงแน่วเข้ามาหาผม ผมนี่กลัวมันเลยครับ กลัวว่าจะโดนตะครุบแต่เช้า

“อะไร หลบทำไม เค้าแค่มาเอากางเกงใส่”มันหยิบกางเกงบนโต๊ะรีดผ้า แต่ท่าหยิบของมันก็คือผมอยู่ตรงหน้า มือ ๒ ข้างของมันวางข้างเอวผม “แฟนผมน่ารักจัง”ทำปากจู๋ใส่

“รีบแต่งตัวสิ”

“ขอจูบแฟนหน่อย นะครับ”มองตาหวานซึ้ง หวานมากจนผมแทบละลาย “นะครับ”

“อือ อย่านานนะ”สิ้นคำมันก็เต็มที่ของมัน ผมนี่แทบทรุด จูบดีเกินมนุษย์แล้วมึง

“เดี๋ยวเค้าแต่งตัวให้นะ”มันหยิบชุดนักเรียนมาให้ผม จะทำเองมันก็ไม่ยอม ต้องตามใจมันทุกอย่าง กว่าจะแต่งเสร็จนี่เปลืองเนื้อเปลืองตัวมาก

“จะกินข้าวหรือกินกูวะเฟียส”

“กินแฟน เอ๊ย กินข้าวสิ”
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-02-2016 01:32:11
นึกว่าผีหลอกซะแล้ว ดีใจๆ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 28-02-2016 01:45:47
ตอนใหม่~~~  :heaven

แต๊งน่ารักอ่า ตอนนี้ ขี้อ่อยขี้ยั่ว แล้วสมหวังไหมแต๊ง 555

2เฮียเขาเข้าใจผิดกันเรื่องอะไรน้อ~
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-02-2016 07:48:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 28-02-2016 08:42:40
แหม่ แต้งนี่ใช่ย่อยนะ  อยากได้เขาละซี่
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 28-02-2016 08:46:01
อ่อยกันไปกันมาอยู่นี่แหล่ะ
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2016 09:24:20
คู่แต็งค์เฟียสหวานมาก ขยันหยอดขยันอ่อยใส่กันตลอด
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 28-02-2016 15:12:39
มาต่อแล้ว.. :katai2-1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-02-2016 16:26:05
ขำพี่หมี อยากจะหื่นกับน้องแต่กลัวติดพุงซะงั้น :laugh:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 28-02-2016 18:53:29
แต๊งขี้อ่อย แต่ภูอ่อยกว่า
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2016 21:28:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 29-02-2016 09:24:24
คู่นี้เขาจะได้กันแล้ว แล้วคู่หมีเมื่อไหร่จะผอม
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-03-2016 12:49:32
เครื่องเฟียสติดไวสมใจเลยสินะคะแต๊ง :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: Kralua ที่ 05-06-2016 22:34:01
มารออ่านต่อค่า :mew3:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: basbas ที่ 26-11-2017 20:32:46
ยังรออย่เน้อ นานแค่ไหนก็จะรอขอแค่ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้นะ ;-; ฉันยังรอคอยปาฏิหารเชื่อว่าวันหนึ่งจะมาถึง#อิอิ มาเป็นเพลง :hao7:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 26-11-2017 21:01:33
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: โคลงรักสุภาพ ๒๘๐๒๒๕๕๙ โคลงที่ ๒๓ หน้า ๑๕
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-12-2017 01:39:47
สนุกมากกกกกกกกกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไรท์หายไปไหน คิดถึง
มาทำให้คนอ่านรัก แล้วผลักเรื่องหนี ไม่ยอมมมมม ฮืออออออ  :hao5: :hao5: :hao5:

หมี ภู  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เฟียส แต๊ง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: