ไหนสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะ?
คุณจำสัญญาของตัวเองได้หรือเปล่า
ฮึ่ย....
คิดว่านั่งเก๊กแล้วผมจะง้อเหรอ
แก่แล้วนะเว่ย งอนอยู่ได้
เขาอยากได้ที่ๆสงบ ผมก็พามา
เขาอยากอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ....ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว
มันก็ต้องมีคนใจตรงกันบ้างล่ะน่า
จะบ้าเหรอเที่ยวกันอยู่สองคน ผีหลอกตาย
“ไม่ง้อเขาสักหน่อยเหรอ”
อ้ะมัวแต่โมโหเขา เลยลืมทัชไปเสียสนิท
ผมบอกหรือยังว่าพาเขามาเที่ยวไหน
แกลเลอรี่ไงล่ะ!
คนแข็งทื่ออย่างคุณภพน่ะ ควรมาชมงานศิลปะซะบ้าง เผื่อจิตใจจะได้อ่อนโยนขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงก่อน....
เราสองคนตื่นแต่เช้า คุณภพตื่นเต้นมาก เพราะเราไม่ได้เที่ยวที่ไกลๆมานานตั้งแต่ทะเลครั้งก่อน
พูดแล้วก็คิดถึงพี่แพนนะ ป่านนี้ง้อพี่กัสได้หรือยังไม่รู้
คุณภพไม่ใช่พวกขี้นินทา เวลาที่เราเจอกันก็น้อยลง ผมจึงลืมถามเรื่องนี้ไป
ผมเก็บเรื่องสถานที่ไว้เป็นความลับ
เพราะว่าเราหวังดีกับเขา อยากให้เขารู้จักที่ทำงานเราบ้าง
และอยากให้หายเครียดจากงานจากการดูศิลปะ
แน่นอนผมเป็นคนขับรถ
เราคุยกันตลอดทาง บางครั้งผมก็ร้องเพลงให้ฟัง
“เปลี่ยนเพลงรักบ้าง”
เขาเลื่อนหน้าจอเพื่อเลือกเพลง
“คุณฟังเพลงด้วยเหรอเนี่ย?”
แปลกใจมาก เขาแทบไม่เคยเปิดเพลงตอนขับรถเลย
นานๆทีถึงจะเปิดวิทยุฟังข่าวกีฬา
“พี่ก็คนธรรมดานะครับน้องนัท”
“แหม่ ก็มาดอย่างกับพระเอกละครนี่นา ทั้งเย็นชา ทั้งหื่นทั้งโหด โอ๊ยผมเสียทรงหมดแล้ว เดี๋ยวโดนแผล…”
ผมร้องคราง โยกหัวหลบคนขี้แกล้ง
รู้มั้ยว่ามือตัวเองหนักแค่ไหน ตาโหดเอ๊ย
ยังไม่ได้ตัดไหมเลย เดี๋ยวไหมขาดก่อนกำหนดนะเว่ย
เถียงยังไม่ทันชนะ เสียงเพลงฝรั่งก็ดังแทรกสงครามของเราสองคน
ว่าแล้วเชียว อย่างเขาเนี่ยนะจะฟังเพลงไทย
“ร้องให้ฟังหน่อยสิ”
ผมแกล้งอ้อน
“เรื่องอะไรจะร้องให้ฟัง”
ไม่ตกหลุมพรางเราแฮะ
“เพราะจัง...”
ผมฮึมฮัมเพลงStop And Stareของวง One Republicในลำคอ
อดจินตนาการไม่ได้ว่าเขาชอบเพราะมันตรงกับชีวิตตัวเองหรือเปล่า
เดี๋ยวเราต้องหาลิสต์เพลงรักหวานๆมาใส่มั่ง
“ไหนบอกจะฟังเพลงรัก”
ผมนึกขึ้นได้ เขาหรือเปล่าที่บอกว่าฟังเพลงรักบ้าง?
แต่ทำไมเปิดเพลงเศร้าวะ
“อ้อ ลืมไป พอดีเพลงนี้เพลงโปรด เปิดเจอเลยกดเลย ฮ่าๆ”
คุณภพหัวเราะ!
หัวเราะดังมาก....
ผมกัดปากกลั้นรอยยิ้ม เห็นคนหล่อหัวเราะแล้วทั้งเขินทั้งงง
“อ่ะเพลงนี้เพลงรักแน่นอน”
เอิ่ม....Your Love Is A Lieเนี่ยนะเพลงรัก
ผมกลอกตาไปมา ตามใจเขาละกัน
เพลงนี้มันส์ดี อยากฟังอยู่
ขับรถไม่ถึงยี่สิบนาที เหมือนคุณภพจะรู้ว่าผมจะพาเขาไปไหน
อยู่กับเขามานาน....ผมจับอารมณ์เขาได้หมดแล้ว
ผมรู้ทันทีว่าคุณภพไม่พอใจ
“เที่ยวนี่เหรอ?”
เสียงห้วนเอ่ยถาม
ผมสะดุ้งนิดๆ แต่ยังเก็บอารมณ์เสียวสันหลังได้อยู่
“อยากให้คุณเห็นที่ทำงานผม แล้วก็ชมศิลปะ หัวจะได้โล่งๆไปสู้กับปัญหา”
ใบหน้าเครียดเริ่มคลายลงเมื่อฟังผมพูดจบ
“ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้รู้ชีวิตของอีกคนมากขึ้น”
“ช่าย เหมือนที่ผมเพิ่งรู้ว่าคุณชอบฟังเพลงฝรั่งไง”
เขาเอื้อมหน้ามาหอมแก้ม
ผมจึงหายกังวลใจว่าเขาจะไม่ชอบ
แต่ไม่รู้เวรกรรมอะไร ทั้งทัชทั้งมาร์คอยู่ครบ....
แล้วยังยืนต้อนรับหน้าประตูด้วยนะ!
.......................................
ผมมองเขาอยู่นาน อย่างคนจนปัญญา
ความตั้งใจของเราพังครืนเมื่อมันสวนทางกับความต้องการของเขา
คุณภพไม่ได้สนใจผมเลย
นั่งเลื่อนหน้าจอ แชทกับใครบางคน....
“ไปขอโทษเขาสิ”
มาร์คแนะนำ
“เดี๋ยวเราไปด้วย เพราะพวกเราก็ผิด”
ผมส่ายหน้า
“ไม่เกี่ยวหรอก คุณภพต่างหากที่เอาแต่ใจ แทนที่จะคุยกันดีๆ กลับชวนทะเลาะ”
พ่นลมหายใจด้วยความเซ็ง
บ่ายแล้ว นี่เราจ้องคนขี้งอนมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย
ผมตัดสินใจลุกขึ้นไปหาเขา
คุณภพแค่เหลือบตามอง แล้วก้มลงกดมือถือต่อ
“กลับกัน”
ผมเอนหัวซบลาดไหล่หนา
ตาแอบมองหน้าจอมือถือ ปรากฏว่าเขาไม่ได้แชทกับใคร แค่เล่นเกม2048คลายเครียด
“นี่...จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
ผมจิ้มๆกล้ามแน่นของเขา อ่อยเต็มที่แล้วนะคุณภพ ช่วยสนใจหน่อยสิ
“ไหนใครน้าบอกว่าจะไม่ทะเลาะ”
“ไม่ได้ทะเลาะ แค่เซ็ง”
ในที่สุดก็หลุดปาก
“งั้นกลับกัน ไม่ก็ไปที่อื่น ตามใจพี่ภพเลยครับ”
“ได้เหรอ?”
“อื้ม...ทะเลก็ดีนะ นอนเล่นริมหาดสองคน....เนอะ”
เกาะแขนเขาเขย่า ทำอ้อนสุดฤทธิ์ ร้อยทั้งร้อยหลงทุกราย
อย่างคุณภพน่ะเหรอ คนขี้ใจอ่อนแบบนี้จะไปไหนรอด
“ยอมคนเดียวเลยนะ”
เขาพูดเบาๆ
“ยอมเพราะรัก...”
.................................................
“ถามจริงทัชมันทำงานอะไร”
คราวนี้คุณภพเป็นคนขับรถ เขาปิดเพลงฉับ ผมนึกว่าพี่แกจะฟังเพลงร็อคต่อไปซะอีก
แหม่ๆ ปากบอกไว้ใจทัช เอาเข้าจริงก็แอบหึงเราตามเคยนั่นแหละ
ผมผละจากเฟซบุ้ค เพิ่งอัพเดตสเตตัสไปสดๆร้อนๆว่าเที่ยวกับแฟนพร้อมติดแท็กคนหน้าเข้ม
“ยังไม่ได้ทำงาน มันเพิ่งกลับมา กำลังตกแต่งบ้านอ่ะ”
ทัชมันเคยบอกว่าขี้เกียจ...คำเดียวจบ
วันๆสนุกไปกับการหาของแต่งบ้าน และอยู่กับผม....เพื่อนเก่า
“มีแฟนหรือยัง”
“ทัชเหรอครับ....ไม่มี..มั้ง”
นั่นสิ...ไม่ได้คุยหรือแซวมันเรื่องนี้เลย
แต่ทัชก็ไม่มีทีท่าให้จับผิดนะ มันไม่เคยออกไปคุยโทรศัพท์ มันไม่มีใครมาบอกคำหวานในโซเชียล
“อืม ...เห็นขลุกด้วยบ่อยๆเลยสงสัย”
“ฮั่นแน่! หึงล่ะสิ แล้วมาร์คล่ะยังหึงมั้ย”
เขาเงียบไปสักพัก ราวกับว่านับหนึ่งสองสามในใจอยู่
“หึงทุกคน เบื่อ”
“อ้าว ใจเย็นๆสิ”
“เบื่อ ไม่อยากให้มีใครเลยด้วยซ้ำ”
“คุณนี่น้า วัยทองหรือไง....คุ้มดีคุ้มร้าย...เครียดเรื่องงานมากไปรึเปล่า”
ผมลูบต้นแขนคนข้างๆ สัมผัสผ่านเสื้อผ้าช่วยผ่อนอารมณ์ฟึดฟัดของเขาเป็นอย่างดี
“ก็คงจะอย่างนั้น”
“ให้ผมขับรถให้มั้ย”
“ไม่เป็นไร อยากขับให้แฟน”
เขาฉีกยิ้ม อารมณ์ดีแล้วสินะ
ผมอดที่จะดึงหนวดเฟิ้มเล่นไม่ได้
นับวันยิ่งน่าเอ็นดู แต่ก็น่าโมโหพอๆกัน
ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง ก็มาถึงพัทยา
วันนี้ขับรถทั้งวันเลยก็ว่าได้ แต่ก็สนุกดี
เพราะเราได้คุยกันตลอดทาง และหลายๆเรื่องเป็นเรื่องดีต่อการอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่นับที่เขาอยากมีลูกอ่ะนะ
คุณภพดันได้แรงบันดาลใจจากครอบครัวคุณวิว
ทำให้ผมยืนมึนรอเขาจองห้องพักอยู่แบบนี้ไง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา....ผมอาจมีแพลนบ้าๆบอๆกับเขา
และมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆจนผมเองยังสับสน ว่าตกลงเราจะทำอะไรกันแน่วะ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งมั่นและตั้งใจคือ....ผมจะไปอยู่บ้านนอก
เชื่อขนมกินได้เลยว่า...คุณภพไปด้วยไม่ได้หรอก
แล้วเราจะมีลูกด้วยกันได้ยังไง?
“ขึ้นไปดูห้องมั้ย วิวสวยนะ”
ผมยิ้มหน้าบาน บางทีก็มากไป
“เคยมาแล้วเหรอครับ”
“เคย”
มือหนากอบกุมมือเราประสานไว้
ผมเดินตามหลังเขาเงียบๆ
ตะลึงกับการตกแต่งของโรงแรมระดับห้าดาว
พนักงานบางคนมองเราแล้วยิ้มให้
บางคนก็ทำหน้าเฉยๆ
ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องพรรค์นี้มานานมากแล้ว
เกย์แขวะกันเองในโซเชียลยังรู้สึกแรงกว่านี้ซะอีก เจอจนชิน
ไม่ว่าเพศไหนก็ชอบนินทาและแขวะกันทั้งนั้น
กับอีแค่มองหน้า ...บอกเลยไม่สะเทือนคนน่ารักอย่างกระผม
“โห....”
แค่ทางเดินก็ทำเอาผมปากหวอแล้ว
ปลายโถงทั้งสองด้านเป็นกระจกทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของพัทยาทั้งเมือง
พรมเนื้อดี นุ่มเท้าจนอยากถอดรองเท้าสัมผัสเสียเดี๋ยวนี้
การตกแต่งเน้นไม้เงาวับสีแดงกับน้ำตาล
หรูหราตามสไตล์คนมีเงิน
ห้องพักมีเพียงฝั่งละสองห้องเท่านั้น ผมไม่อยากจินตนาการเลยว่าข้างในจะอลังการขนาดไหน
“นี่คุณจองห้องประเภทไหนกันเนี่ย”
“ถามจริงหรือถามเล่น?”
“ถามเล่น...โหย ดูก็รู้แล่ว”
“หลับตาก่อน”
เขาสั่งเมื่อหยุดยืนหน้าประตูห้องริมสุด
วิวคงสวยมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำเซอร์ไพร์ส
คนอย่างคุณภพ หายากที่จะมีสิ่งใดมาทำให้ประทับใจ
แฟนหน้านิ่งปิดตาผมไว้ ผมค่อยๆเดินตามยุกยิก
จนรู้สึกได้ว่าเข้ามาในห้องแล้ว
ลมหายใจคุณภพสัมผัสอยู่ข้างหู ขนลุกซู่ด้วยความตื่นเต้น
“ลืมตาสิ”
เขาไม่ลืมประทับรอยจูบแถวต้นคอ
ภาพเลือนรางเพียงเสี้ยววิ...ก่อนจะกลายเป็นวิวมุมโค้งทั่วทั้งเมืองพัทยา
ทะเลจากมุมนี้มันวิเศษจริงๆ
สีเขียวน้ำทะเลเข้ม ดูสดใส
ผมเผลอเกาะกระจกแล้วมองทะลกับท้องฟ้าสีตัดกัน
วันนี้เมฆอารมณ์ดี สีขาวเป็นปุยสวย ไม่มีวี่แววของความเศร้าเลยสักนิด
“ชอบมั้ย”
ร่างสูงยืนประกบหลัง
ผมหันไปจูบปากขอบคุณ
นี่คงเป็นคำขอโทษของเขาสินะที่ทำให้เราทะเลาะกัน
“ขอโทษนะที่ทำตัวไม่ดีอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ...คนขี้หึง”
“แต่จริงๆก็ไว้ใจทัช”
เขาพูดเสริม
“จุ๊ๆ เลิกพูดเรื่องอื่นเถอะน่า ...มาทำอย่างอื่นกันดีกว่า”
ผมคล้องคอคนตัวสูง รั้งเขาให้โน้มลงมาหา
ลมหายใจรินรดใส่กัน ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะทักทายกันอย่างเร่าร้อน
RRRRRRRRRRRRRRRR
เขาจิ๊ปาก ล้วงมือถือ ทำท่าจะขว้างทิ้ง แต่ผมเสียดายของ
“เดี๋ยวมันพัง รับไปเถอะ”
“แม่”
เขายิ้มเจื่อน เปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วย
-“นี่แม่นะ”-
“ครับ มีอะไรแม่”
-“ได้ข่าวว่าบริษัทมีปัญหาแล้วทำไมยังเที่ยวเล่นอยู่อีก”-
น้ำเสียงแม่คุณภพดูไม่พอใจเอามากๆ
เขาเลื่อนนิ้วกดปิดลำโพง แต่ผมห้ามเอาไว้
อยากฟังด้วยกัน จะได้ช่วยพูด
-“นัทก็อีกคน แทนที่จะช่วยกันแก้ปัญหา กลับพาลูกเที่ยวได้ยังไง แม่มองคนผิดไปจริงๆ”-
ผมหน้าซีด
มองคนผิดไป
มองคนผิดไป
มองคนผิดไป
มองคนผิดไป...
สะท้อนก้องในหัว
คุณนายคงไม่รู้ว่าผมฟังอยู่...
กว่าจะรู้ตัวอีกที...ก็พบว่าคุณภพกดวางไปแล้ว
สีหน้าเขาไม่ดีเลย
อะไรกัน...
วันนี้มันวันบ้าอะไรวะ!
............................
