รักเอย...อยู่หนใด **[ตอนที่จบ/จบแล้ว/จบแล้ว] (17/11/58)** [จบแล้ว]**[THE END]***
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักเอย...อยู่หนใด **[ตอนที่จบ/จบแล้ว/จบแล้ว] (17/11/58)** [จบแล้ว]**[THE END]***  (อ่าน 13137 ครั้ง)

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

********************************************************************************************
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่ง

ผิดพลาดประการใดขออภัยมาที่นี่ด้วย อิอิ..

รบกวนฝากติดตาม

[เรื่องสั้น]Lock On MyBeloved "ที่รักเป้าหมายรักครั้งนี้คือคุณ" http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50117.0

 [เรื่องสั้น]Hello Mybeloved ที่รักผมเอารักมาทักทาย http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51168.msg3275485;topicseen#msg3275485

 เธอ..คือหนึ่งในไม่กี่คน http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51171.0

 เริ่มต้นเรื่องร้าย ลงท้ายเรื่องรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54740.msg3422187#top

 Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรักhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55745.msg3475213#msg3475213


*******************************************************************************************

รักเอ๋ย......อยู่หนใด

ตอนที่ 1
[/size]
การจราจรบนท้องถนนบริเวณหน้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง คึกคักไปด้วยรถผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลาน
ที่หน้าโรงเรียน รถสัญชาติยุโรป สัญชาติญี่ปุ่นจอดเรียงราย อยู่ข้างทาง เด็กนักเรียนต่างทยอยเดินเข้าประตูโรงเรียน
วันนี้เป็นการเปิดเทอมวันแรกสำหรับการเริ่มต้นชีวิตมัธยมต้นของผม โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ทุกอย่างใหม่ไปหมด

เดินเข้าประตูหน้าโรงเรียนที่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยยืนคอยเปิด-ปิด ให้รถเข้าออก และทักทายคุณครูนักเรียนที่เดินผ่านไปมา ด้านซ้ายทางเดินเป็นพระพุทธรูปให้นักเรียนได้กราบไหว้ เยื้องไปเป็นห้องประชาสัมพันธ์ สำหรับผู้มาติดทางโรงเรียนจะได้ติดต่อสอบถาม และประกาศเสียงตามสาย

ตอนนี้เวลาประมาณ เจ็ดโมงเช้า เปิดเทอมวันแรกผมไม่ได้ตื่นเต้น ไม่ได้ดีใจที่ได้เข้าเรียนโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง ไม่ได้เห่อชุดนักเรียนใหม่ ผมเปิดตารางเรียนออกมาดูห้องที่นั่งประจำ ที่นี่จะเป็นเรียนระบบเดินเรียน ในที่สุดผมก็หาที่ห้องเรียนเจอ

หลังจากที่เดินหาอยู่นาน เพราะโดยปกติแล้วอาคาร 1 จะเป็นอาคารสำหรับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไล่ไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
แต่ห้องประจำของเขากลับเป็นอาคารศิลปะสาเหตุเพราะคุณครูประจำชั้นของผม เป็นครูสอนศิลปะทั้งสองคน และที่สำคัญมีอายุแล้วไม่สะดวกที่เดินไกลไปอาคาร 1 

เมื่อเดินเข้าไปในห้องเขาก็เห็นโต๊ะเลคเชอร์ขนาดใหญ่สีน้ำตาล ที่ไม่มีช่องใต้โต๊ะไว้สำหรับเก็บของ จากที่ผมรู้มาสาเหตุเพราะมีปัญหานักเรียนเก็บของสัมภาระไว้ใต้โต๊ะสิ่งที่เก็บไว้มักหาย กลายเป็นที่ทิ้งขยะ ทำให้มียุงและมีหนูซึ่งเป็นพาหนะนำโรคมา ทางโรงเรียนจึงเปลี่ยนเป็นโต๊ะเลคเชอร์ให้นักเรียน กระดานที่นี่เป็นไวน์บอร์ด ในห้องมีทีวีจอ LED ขนาด 32 นิ้ว มีลำโพง ไมค์โครโฟนสำหรับร้องคาราโอเกะอันนี้ไม่น่าจะใช่

เมื่อหาที่นั่งได้ต้นก็มองหาเพื่อน เริ่มมีคนทยอยเข้ามาในห้องเรียนเยอะขึ้นเพราะเริ่มจะสายแล้ว ต้นตัดสินใจเข้าไปคุยกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง

“สวัสดี นายเอ่อชื่ออะไร เราชื่อต้นหอม หรือจะเรียนต้นเฉยก็ได้” ผมเข้าไปทักเด็กผู้ชายตัวโต เขามีใบหน้าที่หล่อ ท่าทางใจดี และขี้อาย ผมคงเข้ากับเขาได้ไม่อยาก
“หวัดดีเราชื่อปุ” ปุแสดงท่าทางอายออกมา

หลังจากที่ได้พูดคุยเรื่อยๆ ในที่สุดผมก็มีเพื่อนคนแรกในโรงเรียนใหม่ เสียงสัญญาณออดดังขึ้นเพื่อให้นักเรียนไปเข้าแถว
ตามมาด้วยเสียงเพลงมาร์ชของโรงเรียนเพื่อเร่งให้นักเรียนไปเข้าแถว โรงเรียนเพื่อเร่งให้นักเรียนวางกิจกรรมที่ตรงหน้าแล้วรีบเร่งไปเข้าแถว

ผมและปุไม่รู้ว่าต้องไปเข้าแถวบริเวณตรงไหนของสนามหน้าเสาธงก็ต้องพากันเดินตามเพื่อนเพื่อนคนอื่นไป เมื่อเดินมาเรื่อยก็เห็นรุ่นพี่ถือป้ายโชว์ ชั้นและห้องเรียนของผม และคอยจัดแถวให้น้องน้อง จากนั้นกิจกรรมหน้าเสาธงก็เริ่มขึ้น เมื่อวงดุริยางค์เริ่มบรรเลงเพลงชาติผู้นำร้องเพลงชาติร้องขึ้น ต่อด้วยสวดมนต์ จนในที่สุดผู้อำนวยการขึ้นมากล่าวคำต้อนรับนักเรียนใหม่ แนะนำตัว เล่าประวัติโดยรวมของโรงเรียน

เมื่อนักเรียนเริ่มเบื่อเด็กเด็กก็ส่งเสียงคุยแข่งกับผู้อำนวยการ ทำให้พี่พี่คณะกรรมการนักเรียนต้องข้าไปตักเตือน ในที่สุดกลับเข้ามาในห้องเพื่อเข้าโฮมรูมมาพบครูประจำชั้นทั้งสอง คุณครูเขียนชื่อบนไวน์บอร์ด  เบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้ติดต่อยามฉุกเฉิน

หลังจากนั้นคุณครูก็ให้ออกไปแนะนำตัวทีละคน ผมรู้ตื่นเต้นที่ต้องออกไปแนะนำตัวต่อหน้าเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนไม่ใช่ว่าผมไม่เคยออกไปยืนหน้าชั้นเรียนแต่แบบไม่รู้จักใครเลยทำให้รู้สึกประหม่า หลังจากที่ทุกคนแนะนำตัวเสร็จ  วันแรกของการเปิดเรียนจะไม่มีการเรียนการสอน แต่ต้องเปลี่ยนห้องเรียนตามตารางเรียน ผมกับปุนั่งด้วยกันตลอดและเริ่มไปทำความรู้จักกับเพื่อนคนอื่นในห้อง

และผมก็ได้เพื่อนใหม่มาเพิ่มคนหนึ่งชื่อตูน ตูนเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กผิวขาว ตามเชื้อสายจีนนิสัยร่าเริง อีกคนชื่อชาญ เด็กผู้ชายตัวโต นิสัยเงียบขรึม ส่วนอีกคนชื่อน้ำ เด็กผู้ชายน่ารัก ซื่อ โก๊ะ ซุ่มซ่าม แต่น่ารัก พวกเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเริ่มสนิทกันเร็วส่วนการเรียนก็เรื่อยเรื่อย

หลังจากเปิดเรียนมาเดือนกว่าก็ถึงเวลาเลือกเข้าชมรมที่บังคับถือให้เป็นวิชาเลือก วันนี้ม.1เข้าหอประชุม หอประชุมขนาดใหญ่และกว้าง พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เมื่อนักเรียนเข้ามาครบคุณครูแจกใบชื่อชมรม ห้องและคุณครูที่ปรึกษา ส่วนใบสมัครไปให้นักเรียนไปขอเองกับคุรครูที่ปรึกษาชมรม

“ปุเข้าชมรมอะไร” ผมถามปุ เผื่อเลือกชมรมที่น่าสนใจ
“ภาษาไทยอ่ะ นายอ่ะ” ปุตอบข้อสงสัยของผม

สรุปปุเข้าชมรมภาษาไทย รุ่นพี่บอกว่าง่ายไม่ต้องทำอะไรมาก น้ำเข้าชมรมคณิตสาสตร์น้ำไม่ค่อยถนัดคณิตเผื่อจะเก่งขึ้น
ตูนกับชาญเข้าชมรมดนตรีสากล ชาญชอบเล่นกีต้าส่วนตูนชอบฟัง ส่วนผมเข้าชมรมศิลปะ ผมชอบวากรูปขีดเขียนไปตามเรื่องที่สำคัญอยู่กับคุณครูประจำชั้นง่ายไม่ต้องไปตามหาคุณครูก็ใจดีด้วย เมื่อถึงชั่วโมงที่ต้องแยกย้ายเข้าชมรม

ผมก็เกิดอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้พบรุ่นพี่คนหนึ่ง ตัวสูง ขาว หล่อ ในที่สุดผมก็เจอเนื้อคู่ ผมไม่ต้องตามสืบว่าเนื้อคู่หรือผู้ชายคนนี้ใคร ข้อมูลมันลอยเข้ามาตลอด ตลอดในชั่วโมงที่อยู่ห้องชมรม ผู้ชายคนนั้นชื่อ ป็อป อยู่ ม.5 โสด เล่นบาสเก่ง
เล่นกีต้าเก่ง วาดรูปเก่ง ท่าจะป็อปสมชื่อ ผมก็นั่งแอบมองพี่เขา อาหารตาของผมมาแล้ว แต่ท่าทางจะไม่ใช่ผมเพียงคนเดียว กระดานไม้วาดรูป สมุดสเก็ตรูป ดินสอบสองบี คัดเตอร์ พร้อมหาที่นั่งวาดรูปหัวข้อวาดรูปในชั่วโมงนี้ก็คือ ต้นกล้วย

ผมกับเพื่อนไม่รอช้าวิ่งไปหามุมดูต้นกล้วย ผมเลือกที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ในมือเพราะดูท่าต้นกล้วยผมคงไม่เสร็จ และที่สำคัญเก็ยแสงเงาไว้ได้ด้วย ผมนั่งมองต้นกล้วยที่น่าสงสารที่มีนักเรียนชายจ้องมอง ขนาดนั้นถ้ามันมีชีวิตได้มันคงอาย ต้นกล้วยผมใกล้เสร็จเหลือรายละเอียดไม่เยอะ กลับไปห้องชมรมเก็บแผ่นกระดานไม่คืน สมุดสเก็ตผมเอากลับไปวาดต่อ งานชิ้นนี้ส่งสัปดาห์หน้า

หลังจากที่เข้าชมรมมาสองสัปดาห์ ชมรมก็มีกิจกรรมรับน้องผมเลยต้องมาเข้าร่วมกิจกรรม พี่พี่พาเด็กนักเรียนม.1ไปทำกิจกรรมต่างๆภายในโรงเรียนทำเป็นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป ระบายสี ผสมสี  เพ้นหน้า ผมมีหนวดสามเส้นปลายจมูกดำ ให้เพื่อนถ่ายรูปให้ตลกตัวเอง กิจกรรมสุดท้ายจบลงที่หน้าห้องชมรมคือนั่งทานข้าว และมีแสดงคนตรีจากพี่ป็อป มื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่อร่อยมาก

ผมนั่งมองพี่เขาร้อองเพลงอยู่บนเวที พี่เขาก็ขยันส่งสายวิบวิบวับวับ กับรอยยิ้มหวานมาให้น้องเสียจริง เมื่อมีพี่ร้องก็มีน้องสลับขึ้นไปร้อง มีเด็กม.1 คนหนึ่งท่าทางจะเป็นกระเทยชัดเจนมาก ขึ้นไปร้องเพลงต้นนี้แทบสำลักข้าว ทั้งร้องทั้งเต้นสาวแตก
ดูเหมือนพี่พี่จะฮามากแต่ท่าทางพี่ป็อปของผมไม่ชอบแกทำท่าทางอารมณ์เสีย

“น้องต้น..น้องต้นใช่ไหมครับ” ผมเงยหน้าขึ้นจากข้าวกล่องฟรี สายตาก็ปะทะเข้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเจ้าของเสียง หน้าตาดี สูง หุ่นดี หล่อนะครับแต่แบบเลวเลว
“อ่า..ใช่ครับ” งงดิครับใครไม่รู้
“น้องนามสกุลเดียวกันกับพี่เลย....เราเป็นญาติกันรึเปล่า”

อ้าวอ้าวพูดอย่างก็โดนดิพี่ ไม่ใช่แต่เป็นญาติแต่เนื้อคู่กันได้ปะ  มารู้อีกทีพี่เค้าชื่อเกื้อกูล ส่วนนามสกุลเดียวกับต้นตอนแรกนึกว่าพูดเล่น จริงครับนามสกุลเดียวกันเลย  และที่สำคัญเป็นเพื่อนสนิทพี่ป็อบ พี่เขาไม่ได้อยู่ในชมรมนี้หรอกพี่เค้ามาช่วยงานพี่ป็อบ ดนตรีครับ มาเล่นคนตรี

*********************************************************************
tbc.
ผิดพลาดประการใด
ขออภัยมาณที่นี้ด้วย มือใหม่ โพตครั้งแรก
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2016 16:27:29 โดย jaengs »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 1 (24/8/58)
«ตอบ #1 เมื่อ24-08-2015 15:27:07 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 1 (24/8/58)
«ตอบ #2 เมื่อ24-08-2015 18:56:20 »

รู้สึกเหมือนเนื้อเรื่องไปเร็วๆยังไงไม่รู้ อ่านๆไก็เกือบจะดาร์กละ  ไปๆมาๆ ก็หยุด มันเหมือนโดนเบรกหัวทิ่มไรงี้  เหอๆ
แต่ว่า อิทอยก็ไม่น่าทำแบบนี้หรอก น่าจะคิดถึงตอนกว่าจะได้อินมาเนาะ  เฮ้ออออ

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 2 (25/8/58)
«ตอบ #3 เมื่อ25-08-2015 15:16:06 »

ตอนที่ 2
“สวัสดีตอนเช้าทุกคนครับ เช้าวันฝนตกอย่างนี้อาจจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางของใครต่อใครหลายคน บางคนคงไม่อยาก
ที่ลุกจากที่นอน แต่เชื่อเถอะครับสายฝนก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไปและวันนี้อาจจะเป็นวันของคุณก็เป็นได้  เช่นเคยวันนี้ผมมารับหน้าที่เป็นคนมอบความรู้สึกดีดีผ่านบทเพลง เพื่อนเพื่อน พี่พี่ น้องน้อง คนไหนอยากบอกความรู้สึกแต่ไม่กล้า สามารถฝากผมผ่านบทเพลงเพราะได้ครับ”


รายการเสียงตามสายประจำวันส่งเสียงทักทายมาตามลำโพง สายฝนโปรยปรายลงเรื่อยๆ
ผมทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียน ทันใดผมก็เห็นพี่ป็อปวิ่งผ่าสายฝนมุ่งหน้าไปที่ห้องชมรม
ตอนนี้เวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว ไปหาอะไรเติมพลังชีวิตก่อนเข้าเรียนดีกว่า

ผมตัดสินใจวิ่งเรียบไปตามอาคารเรียนเพื่อไม่ไห้โดนฝน ในที่สุดประตูบานใหญ่สีขาวติดป้ายชื่อชมรมศิลปะก็อยู่ต่อหน้าผม
ใจผมเต้นแรงมาก เมื่อคิดว่าพี่เขาอยู่ในห้องนั้น ในขณะที่กำลังคิดว่าจะหาข้ออ้างอะไรเข้าไป มือผมกำลังที่สัมผัสลูกบิดประตูคนที่อยากเจอก็โผล่หน้าออกมา

“ครับเมื่อครู่มีน้องคนหนึ่งอยากให้เปิดเพลงที่เกี่ยวกับฝนให้หน่อย
ผมเลยเลือกเพลงนี้ให้ไม่รู้ว่าจะถูกใจใครหลายคนบ้างรึเปล่า ไปฟังกันเลยครับ กับ ฝนตกที่หน้าต่าง ของพี่เสก โลโซ


Savez-vous
Que vous etes belle
Tellement irresistible
Que je ne puis m’empêcher
Devous aimer

“หวัดดีครับ พี่ป็อป” ผมทักทาย พี่ป็อปหล่อแต่เช้าเลยครับ
“อ้าวต้นมีอะไรมาที่ชมรมแต่เช้า” พี่ป็อปทักผม พร้อมรอยยิ้มละลายใจ
“คือผมจะไปโรงอาหารไปหาอะไรกินเลยจะมาขอยืมร่มที่ชมรมนะครับ” วันนี้ได้คุยด้วยแล้วมีกำลังใจเรียนทั้งวันแน่นอน
“งั้นต้นไปกับพี่ไหม พี่ไปส่ง ทางเดียวกันช่วยชาติประหยัดพลังงาน” คนหล่อเสนอ แล้วทำไมผมจะไม่สนอง
“.......ไปครับ” ผมว่าหน้าผมอาจจะกลายเป็นจานดาวเทียม

วันนี้ฝนตก ไหลลงที่หน้าต่าง เธอคิดถึงฉันบ้าง ไหมหนอเธอ
เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว สองเรายังได้เจอ เธอส่งยิ้มมา


ผมยืนมองหน้าพี่เขา ไม่รู้ว่านาทีนั้นพี่เขาคิดอะไรที่ชวนไปด้วย แต่ที่แน่แน่ผมคิดครับ คิดมากด้วย 55555 ที่จริงอยากเล่นตัวนะแต่นาทีนั้นคนบนฟ้าส่งฝนมาให้เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผม

นั่งอยู่คนเดียว เหลียวมองที่หน้าต่าง หากมีเธอข้างๆ ก็คงจะสุขใจ
เธอคงไม่รู้ ว่าฉันเองยังไม่มีใคร หากเป็นเธอก็คงเข้าที
เธออาจจะมีใครคนนั้นที่แสนดี ส่วนฉันคนนี้ก็คงจะเศร้าใจ
เธออาจจะมีแฟนแล้วก็เป็นได้ ก็ยังสงสัย ยังอยากจะรู้


ได้อยู่ใต้ร่มคันเดียวกัน ในขณะที่ฝนตกโปรยปรายลงมาเรื่อย ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงน้ำฝนตกกระทบลงบนร่ม ไม่ใช่ครับเสียงหัวใจผมเองครับ ผู้ชายตัวโตที่ผมแอบมองบ่อยบ่อย ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างข้างผมเรายืนอยู่ใกล้กันมากจนผมรู้สึกถึงไอร้อนที่ออกมาจากตัวพี่เขา กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นกายเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของผู้ชายคนนี้  นิ้วยาวเรียวจับบ่าผมไว้เพราะความสูงที่ต่างกันทำให้ผมเดินไม่ทันจังหวะการก้าวของอีกฝ่าย จึงจับบ่าผมไว้เบาๆ เพื่อจะเดินไปด้วยกัน ฝนตกลงตั้งแต่เช้าตอนนี้พื้นถนนคอนกรีตมีน้ำขัง เราสองคนเดินไปพร้อมกันโดยพี่เขาถือร่มไว้ในมือ

หวังแค่เพียงเธอมีใจให้ซักหน่อย เฝ้าแต่รอคอยเพียงเธอบอกรักมา
สุขใจยิ่งนัก ที่ฉันได้เพียงแค่มองตากับเธอ ก็สุขสุดหัวใจ
เธออาจจะมีใครคนนั้นที่แสนดี ส่วนฉันคนนี้ก็คงจะเศร้าใจ
เธออาจจะมีแฟนแล้วก็เป็นได้ ก็ยังสงสัย ยังอยากจะรู้


ผมรู้สึกเหมือนเวลาค่อยค่อยเดินไปอย่างช้าช้า โรงอาหารวันนี้อยู่ไกลกว่าทุกวันไม่รู้ว่าท่านผู้อำนวยการย้ายโรงอาหารไปไว้ที่ไหน เราเดินสวนนักเรียนคนอื่นที่เดินผ่านไปมา บางคนเดินถือร่มไปคนเดียว บางคนเดินไปกับเพื่อน บางคนเดินจับมือกันไป ผมว่าวันนี้คงเป็นวันของผม

หวังแค่เพียงเธอมีใจให้ซักหน่อย เฝ้าแต่รอคอยเพียงเธอบอกรักมา
สุขใจยิ่งนัก ที่ฉันได้เพียงแค่มองตากับเธอ ก็สุขสุดหัวใจ
ก็สุขสุดหัวใจ


“ถึงแล้ว ตอนกลับต้นกลับได้นะครับ”
“กลับได้ครับขอบคุณพี่ป็อปที่มาส่งนะครับ”
“ไม่เป็นไร งั้นพี่ไปนะแล้วเจอกัน”
“ครับ”

ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางโรงอาหารพี่ป็อปส่งผมเรียบร้อยก็ตัวแยกไปที่ห้องของเขาอาคาร 5 ผมมองแผ่นหลังหนาใต้ร่มคันใหญ่ไปจนสุดสายตา ตัดใจหันหลังกลับวิ่งผ่าสายฝนที่เบาลงมากแล้วกลับไปที่ห้องเรียน วันนี้หัวใจผมทำงานหนักมากเลย เต้นแรงไม่ยอมหยุด


ในเดือนหน้าจะเป็นเดือนแห่งกีฬาสีที่โรงเรียนผม ที่โรงเรียนให้มัธยมศึกษาปีที่ 5 ดูแลเพราะมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต้องเตรียมสอบ มี สีแดง สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า ผมและเพื่อนกำลังตรวจสอบรายชื่อของตัวเองว่าได้สังกัดสีไหน

“ต้น..ต้นอยู่สีไหน น้ำอยู่ฟ้ากับตูน”
“เราอยู่สีแดง แล้วปุกับชาญล่ะ”
“เราอยู่สีเขียวส่วนชาญอยู่สีเหลือง”

ไม่สนุกเลยงานนี้ไม่ได้อยู่กับเพื่อนสนิท การเรียนของพวกผมมีไปตามปกติ แต่ละคาบจะลดลงเหลือคาบละ40 นาที ช่วงเลิกเรียนครูจะปล่อยให้ซ้อมกีฬา ซ้อมเดินพาเหรด ซ้อมร้องเพลงเชียร์
วันนี้พี่ประธานสีแดงเรียกประชุมคณะสีแดงเพื่อแจ้งข่าวต่างๆ เกี่ยวกับกีฬาสี

“น้อง น้อง ม.1 สีแดง จะได้ขึ้นแสตนเชียร์วันแรก ที่โรงยิมสนามบาลเก็ตบอล ส่วนตอนบ่ายจะเป็น น้องม.2 และ ม.3 ส่วน ม.4 จะได้เดินพาเหรด” งั้นก็แสดงว่าผมได้ขึ้นเชียร์ครึ่งวันอีกครึ่งวันเป็นของผม พี่พี่แจ้งห้องที่ใช้ซ้อมร้องเพลงเชียร์ บริเวณซ้อมเดินพาเหรด ขณะที่ผมนั่งฟังประธานชี้แจงรู้สึกมีรุ่นพี่หลายคนมองมาที่ผม วันนี้ผมมีอะไรที่แปลกหรือผิดปกติไปจากเดิมรึเปล่า
ผมไม่สนใจนั่งฟังต่อไปเรื่อยเรื่อย

“ชีตที่พี่แจกให้คือเพลงที่ใช้สำหรับขึ้นแสตนเชียร์และเดินพาเหรด” ชีตขนาดเท่ากระดาษเอสี่ถูกส่งมาเรื่อยๆ ให้สมัครชิกทุกคน ผมเปิดอ่านเป็นเพลงที่บังคับให้ร้อง เพลงอิสระ บางเพลงต้องซ้อมกับหรีด หลังที่ประชุมเรียบร้อยสมาชิกทุกคนทยอยออกจากห้องรวมทั้งผมด้วย ขนาดที่ผมหันหลังเดินออกจากห้องมีรุ่นกลุ่มหนึ่งมองมาที่ผมและเรียกผมไว้

“น้องต้นหอม..น้องต้นหอมใช่ไหม” รุ่นพี่กลุ่มนั้นตรงมาที่ผม
“เอ่อใช่ก็ได้ครับ เฮ้ยใช่ครับพวกพี่มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ” พี่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหม
“คือน้องต้นช่วยถือป้ายสีให้พวกพี่หน่อยสิ” เอาไงดีครับ ผมจะปฏิเสธยังไง
“นี่หรอน้องต้นหอม ทำไมน้องเขาน่ารักจังว่ะ” ขอบคุณครับที่ชม
“มาดูใกล้ๆ ยิ่งน่ารักว่ะ งั้นกูว่าให้น้องถือป้ายนะ” เอ่อพี่ครับถามผมซักคำก่อนดีไหมครับ
“ก็ดีว่ะ”
“เออว่ะกูว่าน้องถือป้ายน่ารักว่ะ”
“งั้นเอาตามนี้น้องต้นหอมชื่ออะไรนะ..อ้อนี่ไงเจอแล้วเขียนลงไปเลยถือป้ายสีแดง ขอบใจนะน้องต้นหอม เดี๋ยวจะมีซ้อมเดินเดี๋ยวพี่จะให้คนมาตามอีกที ส่วนเสื้อผ้าไม่ต้องห่วงสีนี้งบเยอะ พวกพี่จัดการให้ พวกพี่ไปนะ” เอ่อ...พี่ครับไม่ทราบว่าพวกพี่จะมาถามผมทำไม ในเมื่อถามกันเองตอบกันเอง แล้วทำไมไม่ถือกันเองครับ จบครับวันนี้ผมเดินไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ขึ้นรถเมล์มาเจออากาศเย็นก็ดีขึ้นหน่อย

 “น้องต้น..ทางนี้ เดี่ยวนั่งรอตรงนี้ก่อนนะรอคนอื่นก่อน” วันนี้มาซ้อมเดินพาเหรดพี่พี่ไปตามผมครับแจ้งสถานที่เวลา พร้อม
ผมมาก่อนเวลาเดินถือน้ำเย็นแก้กระหายมาด้วย บริเวณที่ซ้อมเดินอากาศเย็นสบายลมโชยตลอด ยิ่งบ่ายๆมีร่มจากต้นไม้ใหญ่และอาคารที่ทอดเงาลงมาเป็นที่บังแดดชั้นดี

“น้องต้น..น้องต้นได้ทำอะไร” พี่ครับเพราะเดินพาเหรดเป็นพี่พี่ ม.4 แต่คนที่มาทักแน่นอนผมไม่รู้จัก
“ผมมาถือป้ายสีครับ พอดีพี่เขาพึ่งเรียกซ้อมวันนี้” ผมส่งยิ้มทักทายให้รุ่นพี่ที่ผมไม่รู้จัก
“พี่ชื่อกำปั้น ต้นคงไม่รู้จักพี่หรอก แต่พี่รู้จักน้องต้นนะ” พี่ปั้นพูดซะผมกลัวเลยครับ
“อ้าวน้องๆทุกคนเข้าแถวตามตำแหน่ง น้องต้นมานี่ลูกมายืนข้างหลังถือป้ายข้างหลังพี่บลู พี่บลูเป้นดรัมเมเยอร์สีผมน่าตาดี ขาวขาวตี๋ตี๋ หน่อยออกแนวเกาหลีเอาเลย
“เฮ้ยแกไอ้โต้งแกเอาป้ายสีมาให้น้องถือดิ” ตำแหน่งผมอยู่รองจากดรัมเมเยอร์ครับ พี่เขายื่นป้ายมาให้ผม ผมรู้สึกดีใจที่มันไม่หนักอย่างที่คิด เพราะระยะทางในการเดินพาเหรดไม่ใช่ใกล้ใกล้
ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ผมซ้อมเดินจนปวดขาครับ มีพี่พี่คณะกรรมการ พี่พี่จากสีอื่น พี่มัธยมศึกษาปีที่ 6 มานั่งดูให้กำลังใจ ผมเห็นแล้วจะดีใจไหมครับ

“น้องต้นน่ารักจังเลย”
“น้องต้นยกขาขึ้นสูงสูง”
“น้องต้นยิ้มหน่อยครับ”
พี่ครับทำไมไม่มาทำเองครับ เสร็จไปอีกวันสำหรับการซ้อมเดินและถือป้าย ไม่ยากครับ แต่ปวดขาและปวดแขน พี่เขาบอกจะแจ้งบริเวณที่มีคณะการให้คะแนนว่าอยู่ตรงจุดไหน ให้ถือป้ายให้สวย และเมื่อเดินผ่านหน้าประธานให้ทำความเคารพประธานในพิธี

ฮ้าว...เสียงหาวผมเอง เหนื่อยปวดกล้ามเนื้อ ตอนนี้พักเที่ยงพึ่งทานข้าวเสร็จ
“ต้นเป็นไงบ้างซ้อมเดิน”
“ก็ดีปวดกล้ามเนื้อดี”
“แล้วน้ำกับตูนเป็นไงบ้าง”
“ซ้อมเดินพาเหรดเหมือนกัน ร้องเพลงด้วยนะ แต่บอกไม่ได้หรอกต้นมาหลอกถามเรารึเปล่านิ”
“ไม่ได้หลอกถามตรงๆเลย”

กริ๊งงงงงงงงงงงง  เสียงออดบอกเลิกเรียนวันนี้ผมต้องไปต้องซ้อมเดินพาเหรด วันนี้ซ้อมใหญ่ครับพรุ่งนี้วันจริง วันนี้ซ้อมไม่นานพี่พี่ปล่อยให้กลับไปพักผ่อน เสื้อกีฬาสีแดงของพวกผมสวยครับพึ่งได้รับแจกไปเมื่อวันก่อน
“น้องต้นมาดูชุดหนูเร็วลูก พี่ว่าชุดน่าเหมาะกับเรานะ” เป็นชุดคอสเพลเจ้าชายสีขาวแดง สวยครับ ญี่ปุ่นมาเลย ชุดของพี่บลูก็คล้ายๆกับผม
“น้องต้นเอาไปลองสวมเลยนะ เดี๋ยวพวกพี่จะดูให้” ผมหยิบชุดที่มองจากสายตาที่คิดว่าน่าจะสวมได้ เดินหายเข้าไปในห้องซักพัก ผมเดินออกมาจากห้องผมสวมชุดเต็มยศ พร้อมรองเท้าบูทสีดำหนังยาวพื้นสูง
“น่ารักมากน้องต้น พอดีเลย”


กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กรองกิเลส ทำคนให้เป็นคน ผลของการฝึกตน .................
เสียงเพลงดังไปทั่วท้องบริเวณที่ขบวนพาเหรดเดินผ่าน  ขบวนสุดท้ายที่เดินเข้าสู่สนามกีฬากลาง
ขบวนพาเหรดแต่ละสีสวยงามมาก ผมตัดสินใจนอนที่โรงเรียนเมื่อคืนเพราะขบวนพาเหรดต้องตั้งขบวนตั้งแต่เช้ามืด
ผมช่วยพี่พี่แต่งตัว ส่วนของผมไม่มีต้องแต่งอะไรมาก

ผมยืนดูขบวนพาเหรดสีสุดท้าย เข้าสู่สนามเป็นอันว่าทุกอย่างเรียบร้อย ท่าทางอากาศวันนี้ดูเหมือนจะเป็นใจคือร้อนมาก
ดูสภาพแต่ละคนดูย่ำแย่ไม่ต่างกัน ผมอดยิ้มกับท่าทางโบกไม้โบกมือของน้ำและตูนในขวนพาเหรดสีข้างๆไม่ได้
ตากล้องโรงเรียนเดินเข้ามาเก็บภาพผม และคนอื่นๆ ท่าทางชมรมถ่ายภาพคงมีภาพถ่ายกิจกรรมเยอะทีเดียว เมื่อทุกคนพร้อม

ประธานในพิธีที่สวมเสื้อกีฬาสีประจำโรงเรียน กล่าวเปิดงาน เสียงปืนถูกยิ่งขึ้นฟ้า เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันกีฬาได้เริ่มขึ้นแล้ว เสียงปรับมือดังกึกก้องไปทั่วทั่งสนาม ขบวนพาเหรดเดินออกไปจากสนามทีละสี

“ต้นนนนน ถ่ายรูปกับน้ำหน่อย” น้ำกับตูนวิ่งมาหาผมด้วยความเร็วแสง ผมกับน้ำถ่ายรูปคู่กันโดยมีตูนเป็นตากล้องแล้วตูนสลับกันกับน้ำ จนทั้งคู่พอใจจึงปล่อยให้ผมไปเปลี่ยนชุด

ผมเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสื้อเป็นชุดกีฬาปกติ จุดมุ่งหมายที่ผลจะไปคือโรงยิมบาสเก็ตบอลชิงชนะเลิศ ไม่ได้ไปลงแข่งครับไม่ต้องตกใจ  แต่ไปดูนักกีฬาใช่แล้วครับวันนี้พี่ป๊อปลงแข่ง พวกผมเดินเข้ามาโรงยิมสแตนเชียร์ทั้งสี่สี ถูกนั่งเต็มไปหมด

“โหคนเต็มไปหมดเลยต้น” ตูนแสดงท่าทางตื่นตาตื่นใจมากที่เห็นคนเต็มไปหมด
“แน่สิคู่ชิงชนะเลิศนิ” ผมตอบข้อสงสัยว่าทำไมคนถึงเยอะ
“ตูนดูสิพี่คนนั้นตัวสูงจัง หล่อด้วย” น้ำชี้ไปทางพี่ป็อป
หนุ่มหนุ่มนักบาสเก็ตบอลทั้งสองสีลงมาพร้อมกันที่สนามทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น การแข่งขันก็เริ่มขึ้น เสียงเชียร์ข้างสนามทั้งสองสี ไม่ยอมแพ้กัน
ตึงตึง ตึงตึงโป๊ะ ตึงตึง สีแดงสู้ สู้........
ตึงตึง ตึงตึงโป๊ะ ตึงตึง สีฟ้าสู้ สู้.........


“ทำไมสีแดงเก่งจังเลย” ตูนสงสัย
“สีแดงน่าตาดีเลยเล่นเก่ง” 555 อวยตัวเองครับ

ผมดูกีฬาบาสเก็ตบอลไม่รู้เรื่องหรอก ที่ผมดูน่ะคือผู้ชายตัวโตโตน่าตาดี หุ่นเท่ๆ วิ่งไล่แย่งลูกบอลกัน แล้วพยายามชู๊ตลูกบอลลงห่วง ใครได้เยอะสุดชนะ แข่งกีฬาก็มีบ้างที่ต้องปะทะกัน ล้มบ้าง ชนกันบ้าง สุดท้ายก็จบลงที่สีแดงครับชนะเพราะสีแดงมีนักกีฬาโรงเรียนเกือบทั่งทีม 55555 ไม่อยากคุยสีผมเก่ง

หลังแข่งบาสเก็ตบอลจบแต่ความรู้สึกผมไม่จบยังจ้องมองพี่เขาอยู่อย่างนั้นชุดกีฬา เสื้อกล้าม ผิวขาวเวลาหงื่อออกเนี่ยโคตรเซ็กซี่  โอ๊ยเลือดกำเดาจิไหล รู้สึกว่าผมจะจ้องนานไปหน่อยเพราะมีความรู้สึกแปลกเหมือนว่าคนกำลังจ้องผมอยู่
ผมดึงสายกลับมามองหาคนที่มองผมอยู่  เป็นรุ่นพี่ผมกำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก

ข้าวกระเพราไข่ดาวในกล่องใหญ่ กำลังถูกผมกลืนกินอย่างช้าช้า พร้อมกับชาเก็กฮวยแก้ร้อนในของคุณตัน
โอ๊ยแซ่บหลายของฟรี กิจกรรมกีฬาสีครึ่งวันผ่านไปได้ด้วยดีหน้าที่ของผมจบแล้ว  ส่วนตอนบ่ายจะเป็นพวกรุ่นพี่ขึ้นเพราะตอนบ่ายเก็บคะแนน แข่งโชว์หลีด และแข่งฟุตบอลชิงชนะเลิศที่สนามกีฬากลาง

วันนี้อาคารเรียนปิดห้ามขึ้นเปิดแค่ชั้นหนึ่ง ป้องกันการมั่วสุม ดื่มสุรา ยาเสพติด ชู้ชาย บริเวณห้องน้ำ อาคารศิลปะ ชมรมต่างๆ ด้านหลังโรงเรียน มีคณะกรรมการนักเรียนเดินตรวจ ก่อนผมมุ่งหน้าไปที่ใต้ร่มไม้หน้าอาคารศิลปะที่นัดรวมพลผมก็ขอแวะทำธุระส่วนตัว

“ตูนกับน้ำไปก่อนนะเดี๋ยวต้นแวะเข้าห่องน้ำแล้วตามไป”
“อื้อ อย่าช้าล่ะเดี๋ยวตูนกับน้ำ แวะซื้อน้ำกับขนมไปรอที่โต๊ะนะ”

ผมเลือกเข้าห้องน้ำเพราะผมชอบความเป็นส่วนตัว พอเปิดประตูออกมาก็มีคนดันผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อกกลอนทันที
“เฮ้ย..พี่ทำจะอะไรอ่ะ” ด้วยอารมณ์ตกใจผมรีบตะโกนออกมา
“เงียบดิ พี่มีเรื่องจะคุยกับเรา” พี่ครับเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าผมไม่รู้จักพี่ พี่เขาดันผมติดกำแพง
คุยอะไรไม่รู้ทำไมต้องมาคุยในห้องน้ำ

“พี่ต้องการจะคุยอะไรกับผม” พี่ธนพี่เขาแนะนำตัวเป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษา 2 เขาบอกว่าชอบผมเขารู้สึกถูกใจผมตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ อยากให้ผมให้โอกาสเขา ที่ได้ยินข่าวมาพี่เขาก็ฮ็อตนะครับในระดับม.ต้น เห็นว่าชอบมีเรื่องชกต่อยด้วย
ถ้าไม่ให้โอกาสเนี่ยผมจะยังมีลมหายอยู่ไหม

พี่ธนมันเงียบครับ แล้วไอ้ความเงียบนี่แหล่ะที่ทำให้ผมกลัว ผมพยายามจะผลักมันออก แต่มันตัวใหญ่กว่าผมมาก ชั่วโมงนั้นร่างกายผมเย็นวาบไปทั้งตัว แล้วคนตรงที่ยืนอยู่ตรงหน้าต้องการอะไร ผมก้มหน้าหลบสายตาที่พี่เขามอง รู้ตัวว่าตอนนี้คงกำลังหน้าซีด ทันใดนั้น ดันตัวผมให้ติดกำแพง แล้วมืออีกข้างดันท้ายทอยผมขึ้นแล้วมันก็ใช้ริมฝีปากของมันทาบลงมาที่ปากผม

ด้วยความตกใจผมดิ้นแต่ก็สู้แรงมันไม่ได้ มันพยายามใช้ลิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากผมหลังจากที่มันจูบผมจนผมเริ่มอ่อนแรงลง มันผละริมฝีปากออกแล้วจ้องมองหน้าผมที่กำลังหอบเอาอากาศเข้าปอด มันยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วๆปล่อยผมให้เป็นอิสระแล้วมันโน้มตัวลงมาซบลงที่ซอกคอผม

“พี่ไม่อยากให้เราชอบไอ้ป็อป” นี่ผมหูฝาดหรือมันเมากลิ่นก้องน้ำกันแน่เนี่ย แล้วไอ้ที่กระซิบที่ข้างหูจักกะจี้นะ
“พะ...พี่มาห้ามผมทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมเกือบหาเสียงตัวเองไม่เจอ ตายแล้วจูบแรกผม ถึงไอ้พี่ธนมันจะหล่อ ก็ไม่ไห้อภัยหรอก ผมพยายามจะดิ้นออก

“เรารู้จักไอ้เกื้อกับไอ้ป็อปใช่ไหมว่าเป็นคนยังไง” ครับใช่ครับหูไม่ฟาด ผมรู้จักทั้งสองคนผมชอบมองพี่ป็อป ผมก็แค่ชอบมองอยากมีกำลังใจในการเรียนเท่านั้น พี่ป็อปผมเคยได้ยินมาว่าเค้าไม่ธรรมดา ไม่ใช่มีสามเศียรหกกรอะไรแต่ แกมีเมียเยอะทั้งหญิงชายแกเอาหมด รุ่นพี่รุ่นเพื่อนรุ่นน้อง ในนอกโรงเรียนแกเอาหมด อันนี้ผมเข้าว่าแกไม่ได้ไปข่มขืนใครใครเสนอแกก็คงสนอง
แต่พี่แกคงเล่นกับคนที่เล่นด้วย รู้อย่างนี้แล้วผมจะกระโดเข้ากองไฟให้มันไหม้ทำไมครับ ถามว่าทำไมถึงรู้ใช่ไหมครับเรื่องอย่างนี้ ในห้องผมเขาเม้ากันมาไม่ต้องสืบสังเกตุจากเลิกเรียนจะมีคนมานั่งเฝ้าซ้อนท้ายมอไซด์พี่ไม่ค่อยจะซ้ำหน้าเลย
อะอะอย่าคิดว่าผมอิจฉานะครับ ผมก็มีพี่เมล์มารับมาส่ง 25 บาทตลอดสายเพราะนั่งสบาย แอร์เย็นเถอะ 55555

ส่วนพี่เกื้อคนนี้ก็เสือครับตั้งแต่ที่เข้ามาทักผมวันนั้นแล้วบอกว่าชอบผมผมก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่แกขออยู่ในฐานะพี่ชาย ผมเลยไม่มีปัญหา
“มะ...ไม่ครับ พี่ปล่อยผมเถอะผมอึดอัด” ไอ้พี่ธนบ้าปล่อยผมเถอะก่อนผมจะใจอ่อน
“แป็ปนะให้อารมณ์พี่สงบลงกว่านี้หน่อย”
“ไม่ครับปล่อยได้แล้ว ผมนัดเพื่อนไว้จะไปหาเพื่อน”
“อย่าดิ้นนะ ถ้าดิ้น เดียวจัดตอนนี้เลย” อ้าวพูดอย่างงี้ใครจะกล้าขัดใจละคับเพ่ เชิญครับเชิญกอดให้หนำใจเลย พอใจแล้วปลุกด้วย ซักพักไอ้พี่ธนก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงผมแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดกดจิ้มจิ้มล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้ผม
“นี่เบอร์พี่ เอาไว้คุยกัน” พี่ครับรบกวนถามผมก่อนได้เปล่าว่าผมอยากได้ไหม เหนื่อยใจชิบผมพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ไม่นานมือถือในกระเป๋าผมก็สั่นเปิดขึ้นมาแทบยากจะฆ่าคนเลยครับ
“คนอะไรไม่รู้ปากหว๋านหวาน ตัวนิ่มนิ่ม หอมหอม”

เมื่อมาถึงโต๊ะใต้ต้นไม้หน้าอาคารศิลปะ เพื่อนผมก็รอกันอยู่แล้ว
“ต้นเป็นไรทำไมหน้าแดง” ปุครับยิงคำถามแสกกลางหน้าผากผมเลย
“อ้อ..เอ่อไม่มีไรร้อนแดดอ่ะ แล้วมานานยัง” ดูท่าทางน่าจะมานานแล้วเพราะขนมบนโต๊ะเปิดกินไปหลายห่อ
ไม่นานทุดคนก็ข้าสู้โลกส่วนตัวผมนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนแต่จิตใจยังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในห้องน้ำที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านผมต้องระวังตัวให้มากขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่ธนแกจะมาไม้ไหนเพราะแกก้ไม่ต่างจากเสือเท่าไหร่ ปุกำลังแชท ลงรูปที่ถ่ายกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียนวันนี้ น้ำหลับฟุบลงมบนโต๊ะท่าทางคงอิ่มกินเยอะเลยหลับโดยที่หูใส่หูฟังอยู่ ส่วนตูนกับชาญเล่นเกมส์สองคนนี้เหมือนกิ๊กกั๊กกันอยู่ไปไหนตัวติดกันตลอด

แดดค่อยค่อยอ่อนแสงลง ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือการ์ตูนดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เวลา17.03 น. ใกล้ถึงเวลา Sport night
แล้วเหมือนนักเรียนน่าจะรวมตัวกันที่สนามกีฬาแล้ว
พวกผมจึงไปรวมตัวกับคนอื่นที่สนามกีฬากลาง ให้ตายเถอะเวทีคอนเสิร์ตถูกตั้งขึ้นตอนเช้าตอนนี้เสร็จแล้วนักดนตรีกำลังเตรียมความพร้อมขึ้นเวที พี่ป็อปพี่เกื้อทั้งสองคนขึ้นเวทีเล่นดนตรีครั้งนี้ด้วย วงดนตรีมี 3 วงเล่นวงละ 20 นาที วงแรกเป็นของพี่ป็อปเล่นเปิดเวที

เมื่อสียงดนตรีขึ้นคนร้องนำพี่ป็อปก้าวขึ้นเวทีเท่านั้นแฟนแฟนก็วิ่งกรูไปหน้าเวที หันไปดูรอบข้างอ้าวผมถูกทิ้งซะแล้วเพื่อนเพื่อนของผมกำลังเต้นอย่างสนุกสนานผมขอตัวครับเต้นทั้งวันแล้วเหนื่อย (หัวใจ) เสียงเพลงจบลงไปแล้ววงที่ 2 กำลังขึ้นเวที

วงนี้ก็ฝีมือหน้าตาก็ไม่น้อยน่าวงแรกเลย สปอร์ตไลน์ถูกเปิดขึ้นเพราะแสงอาทิตย์ได้หมดไปแล้ว รุ่นพี่บางส่วนทยอยเก็บข้างของเตรียมกลับไปฉลองต่อ กับความสำเร็จของถ้วยรางวัลที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจมาตลอดทั้งเดือน เวลาแห่งความสนุกค่อยค่อยหมดลงอย่างช้าช้า ก่อนที่วงดนตรีวงสุดท้ายจะขึ้นแสดงผมคงต้องกลับก่อน ก่อนที่กลับถึงบ้านดึก
********************************************************************************************
TBC.
ขอคุณสำหรับคำติชม ดีใจมากที่มีเข้ามาเปิดอ่าน  :monkeysad: :hao5:
ที่สำคัญมีคนเข้ามาคอมเม้นด้วย  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 2 (25/8/58)
«ตอบ #4 เมื่อ25-08-2015 19:58:09 »

 :mc4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 2 (25/8/58)
«ตอบ #5 เมื่อ25-08-2015 21:44:24 »

พี่ธนนี่ก็รุกแรงไปป่ะ

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 3 (27/8/58)
«ตอบ #6 เมื่อ27-08-2015 08:30:21 »

ตอนที่ 3
พี่ธน
[/b]
ธนบวรฤทธิ์ อิทธิเดชเกื้อไพศาล หรือ ธน คือชื่อของผม เบื่อครับทำไมต้องมาโรงเรียนด้วย
วันแรกโรงเรียนไม่มีการเรียนการสอน ใช่ครับนนี้วันแรกของการเปิดเทอมใหม่ ที่บ้านสัญญาว่าจะซื้อคอนโดให้ผม
เพราะบ้านของผมไกล้จากโรงเรียนผมไม่อยากตื่นเช้า ผมเลยต้องทำตัวเป็นเด็กดี ผมเดินลงจากรถที่ที่บ้านมาส่ง

เดินเข้ามาในโรงเรียน จุดมุ่งหมายของผมวันนี้คืออาคารสอง ผมรู้สึกตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วว่ามีคนมองผมเยอะไม่รู้ว่าอะไรหรือเป็นเพราะข่าวของผมรึเปล่า ผมไม่ได้ชอบมีเรื่องกับคนอื่น แต่คนอื่นต่างหากชอบเข้ามาหาเรื่องผม ผมก็สั่งสอนไป พวกที่เข้ามาหาเรื่องผมบอกว่าผมไปแย่งแฟนพวกมัน เด็กพวกมัน ขอโทษครับอย่างผมไม่ต้องแย่ง ได้ยินข่าวว่าคนของพวกมันมาหาผมเอง
ผมหน้าตาดี แต่เพื่อนบอกผมว่าผมชอบทำหน้าดุ เสือยิ้มยาก บ้านผมมีฐานะคนที่เข้ามาก็ต้องการเงินจากผม คนที่เข้ามามีทั้งหญิงและชายพวกเขามาเสนอผม ผมก็แค่สนอง ผมไม่ได้มีอะไรกับทุกคนที่เข้ามา ผมเลือกครับ
เพราะเหตุผลนี้ผมจึงมีบ้างที่เข้าออกห้องปกครอง กลับบ้านมีรอยแผลบ้างเป็นธรรมดาลูกผู้ชาย แต่ผมไม่เคยเล่นยา
ผมรู้ลิมิตของตัวเอง อาจเป็นเพราะผมนิสัยคบเพื่อนของที่ไม่ค่อยเลือก

ขณะที่ผมมุ่งหน้าจะไปยังอาคารสอง เด็กผู้ชายตัวเล็กตาโต แก้มใส เดินตรงมาที่ผม
“ขอโทษนะครับห้อง ม.1/...อยู่ที่ไหนครับ” ผมเห็นครั้งแรกนึกว่าเด็กผู้หญิง มองไกลไกลผมว่าน่ารักแล้ว เดินเข้ามาใกล้ยิ่งน่ารัก
“โน่น..โน่นอยู่อาคารโน้น” ผมชี้ไปทางอาคารศิลปะ แต่ตากำลังจ้องมองคนตรงหน้า หน้าตาน่ารัก  ปากแดง ตัวขาวขาว
ที่สำคัญแก้มน่ะจะอมชมพูไปไหน ผมชี้บอกทางไปน้องก็ขอบคุณผมที่สำคัญส่งยิ้มหวานให้ผมด้วย ผมนี้ใจเต้นเลย
น้องเดินจากไปกำลังเดินไปตามทางที่ผมชี้ไม่รู้ว่าน้องจะเดินไปถูกใหม เด็กนักเรียนใหม่ ชุดนักเรียนใหม่ทั้งตัว ผมอยากเดินไปส่งจัง ทำไมมีความรู้สึกนี้อยู่ในสมองผมได้ สงสัยเมื่อเช้าตื่นเช้าเกินไป
พ่อนะพ่อซื้อคอนโดให้ผมวันนี้เลยต้องรอพรุ่งนี้แล้ว
และที่สำคัญผมไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น นั่นมันไม่ใช่นิสัยผม ผมไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ผมหยิบโทรโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น
แต่ตาผมคอยชำเลืองมองคนตัวเล็กที่กำลังเดินไปไกลจนสุดสายตา เด็กชายพีรวัฒนพงษ์ พัฒนไพศาลวีรกุล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ห้องคละอย่างนั้นหรอ หึหึ น่าสนใจดี


“เฮ้ยเฮ้ยนั่น..นั่นน้องต้นหอม..น้องต้นหอมมา เฮ้ยเดินมาแล้ว....มาแล้ว...น่ารักว่ะสเป็คเลย” ไอ้นุ

“ไม่ใช่แต่มึงที่มอง เขามองกันทั้งโรงเรียน เข้าถึงอยากว่ะ”ไอ้ไม้เมือง

“ทำไมว่างั้น น้องหยิ่งหรอ” ไอ้นุ

“หยิ่งบ้านแกดิ ถ้าหยิ่งคนเขาเกลียดขี้หน้าไปแล้ว แกดูดิเพื่อนสนิทล้อมหน้าล้อมหลัง ใครจะกล้าเข้าใกล้วะ” ไอ้ไม้เมือง

“เออวะ กูก็ได้แต่มองกูก็ดีใจแล้ว” ไอ้นุ

“แต่กูเห็นบางทีน้องชอบมองไอ้พี่ป็อปว่ะ” ไอ้ไม้เมือง

“พี่ป็อปไหน อย่าบอกนะไอ้เลวหน้าหล่อนั่น” ไอ้นุ

“ใช่กูเห็นมองมันบ่อยๆ วันก่อนฝนตกยังเห็นไอ้พี่ป็อปไปส่งน้องที่โรงอาหาร เห็นแล้วจี๊ด หวานซะกูนึกว่าเขาเป็นแฟนกัน หรือเขาเป็นแฟนกัน” ไอ้ไม้เมือง

“ไม่ว่ะ ข่าวกรองกูบอกมาว่าไม่ใช่ ไอ้ป็อปไม่เคยเข้ามาใกล้น้องเลย แล้วน้องก็ไม่เคยเข้าไปมาหามันด้วย
วันนั้นมันคงบังเอิญมั้งมึง” ไอ้นุ

“แล้วอีกคนไอ้พี่เกื้อเห็นว่าไปสารภาพว่าชอบน้องอ่ะมึง เรื่องจริงเปล่าวะ” ไอ้ไม้เมือง

“เรื่องจริง แต่น้องปฏิเสธว่ะ” ไอ้นุ

“ปฏิเสธแล้วทำไมตอนเที่ยงกูเห็นบางวันมันมานั่งกินข้าวกับน้อง” ไอ้ไม้เมือง

“เห็นเขาว่าคบกันเป็นพี่น้องว่ะ น่าสนใจนะมึงกูไปขอไปพี่น้องบ้างดีกว่า” ไอ้นุ

“แล้วนี่หน้ามึงเป็นอะไรไอ้ธนหน้ามึงเหมือนจะฆ่าใครอีก เบาๆหน่อยนะมึงพ่อมึงอุตส่าซื้อคอนโดให้
อย่ามีเรื่องอีกพวกกูขี้เกียจไปเคลียให้” ไอ้ไม้เมือง

“เฮ้ยมึงหน้าตามันก็แบบนี้ปกติเปล่าวะ มึงไปว่ามันทำไม” ไอ้นุ

ผมนั่งฟังเพื่อนสนิททั้งสองคนคุยเรื่องของน้อง น้องน่ารักจริงจริงครับ น้องเดินผ่านพวกผมไปพร้อมเพื่อนๆน้องอัธยาศัยดี แต่ไม่ได้ให้คนถึงเนื้อถึงตัวนะครับ ผมกำลังรู้สึกดีที่ได้เห็นคนตัวเล็ก แต่ก็ต้องรู้ไม่ดีที่ได้ยินเพื่อนผมมันมองว่าน้องชอบไอ้ป็อป
ใครใครก็รู้ฉายามัน ไอ้เลวหน้าหล่อ มันใช้ใบหน้าหล่อปิดบังความไม่ดีไว้ ช่างมันเถอะครับ แต่ผมสนใจว่าทำไมน้องต้องไปสนใจคนอย่างมัน น้องปฏิเสธไอ้พี่เกื้อ แต่ถ้าเป็นไอ้ป็อปน้องจะปฏิเสธไหม เรื่องนี้ผมคิดหนัก แต่มันไม่ใช่เรื่องของผม ผมไปยุ่งอะไรด้วย อีกเรื่องที่ผมคิดผมคิดยังไงกับน้อง ผมเริ่มจะโรคจิตเหมือนเพื่อนทั้งสองของผม ผมชอบแอบมองน้อง ผมอยากเข้าไปคุยครับแต่ไม่กล้า ผมจะถามใครได้บ้างว่าผมเป็นอะไรไป โอ้ยปวดหัว ไม่เข้าใจตัวเอง  ผมต้องหาทางพิสูจน์ว่าผมคิดยังไงกับน้องกันแน่ ที่สำคัญจะพิสูจน์ยังไง จะเข้าใกล้น้องยังไง

กิจกรรมมองต้นหอมเป็นกิจกรรมหนึ่งที่โรงเรียนผม มีขึ้นโดยมิได้นัดหมาย เวลาน้องเดินผ่านเหมือนเปล่งออร่าไปรอบรอบตัว
 เริ่มมีแฟนคลับน้องเกิดขึ้น มีคนชอบเอาขนมไปให้น้องในวันสำคัญหรือวันที่อยากให้ เฟสบุ๊คของน้องถูกเผยแพร่ไปทั่ว ภาพเก่าที่เคยถ่ายไว้คนเข้าไปดูเยอะและกดถูกใจมาก ภาพปัจจุบันก็มี ผมไม่รู้หรอกครับแต่เพื่อนผมมันชวนเข้าไปดู น้องน่ารักตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กนี่เหมือนกระต่ายมากเลยครับ

“เฮ้ยมึงรู้ยังน้องต้นอยู่สีเดียวกับกู”ไอ้ไม้เมือง

“แล้วไง มึงบอกว่าม.1ขึ้นเชียร์เช้าเกี่ยวอะไรกับมึง หรือมึงจะปลอมตัวไปอยู่ม.1”ไอ้นุ

“มึงก็คิดได้ เออหรือจะทำดีวะ ไม่ใช่ กูจะบอกว่าน้องไม่ได้ขึ้นขึ้นเชียร์แล้ว แต่น้องได้ถือป้ายสีโว้ย”ไอ้ไม้เมือง

“จริงดิวะ น่ารักอย่างนั้นถือป้ายคงน่ารักน่าดู เดี๋ยววันนั้นกูจะเตรียมกล้องเอาเม็มจุเยอะเลยมึง”ไอ้นุ

“มึงคิดว่าน้องจะให้พวกมึงถ่ายหรอ เพื่อนเขาอีก” ไอ้เน็ต

“เห็นว่าน้องอยู่สีแดงคนเดียวนะ”ไอ้ไม้เมือง

“ แต่เลิกขบวนพาเหรดเขาก็มาหากัน” ไอ้เน็ต

“กูว่าไปฉุดน้องเลยดีกว่า” ไอ้นุ

“เลวว่ะมึง” ไอ้ไม้เมือง

“กูล้อเล่น น่าไม่เป็นไรหรอกไปขอถ่ายรูปกับน้องดีดีก็ได้น้องใจดีจะตาย”ไอ้นุ

ผมนั่งฟังเพื่อนผมพูดเรื่องที่น้องจะได้ถือป้ายสีในวันแข่งกีฬา ผมไม่แปลกหรอกที่น้องได้ถือป้าย ไม่ได้ถือสิแปลก
งานกีฬาสีคงเป็นโอกาสที่ผมจะได้เข้าใกล้น้อง ผมต้องหาโอกาสในวันนั้นให้ได้

“น้องต้นน่ารักจังเลย”

“น้องต้นยกขาขึ้นสูงสูง”

“น้องต้นยิ้มหน่อยครับ”

เสียงพวกรุ่นพี่ตะโกนให้กำลังน้อง ผมยืนมองต้นหอมเดินซ้อมถือป้าย ในขบวนพาเหรดอยู่ห่างห่าง คนตัวเล็กท่าทางจะเหนื่อยเห็นซ้อมมานานแล้ว ช่วงพักซ้อมมีคนเข้ามาคุยกับน้องเรื่อยเรื่อยเป็นต้นหอมนี่ไม่เหงาเลยครับ ผมยืนรอจนน้องซ้อมเสร็จเดินออกนอกโรงเรียนแล้วขึ้นรถเมล์กลับ ส่วนผมก็กลับคอนโดผม


กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กรองกิเลส ทำคนให้เป็นคน ผลของการฝึกตน .................
เสียงเพลงดังไปทั่วท้องบริเวณที่ขบวนพาเหรดเดินผ่าน  ขบวนสุดท้ายที่เดินเข้าสู่สนามกีฬากลาง ขบวนพาเหรดแต่ละสีสวยงามมาก แต่ตอนนี้สายตาผมกำลังจำจ้องคนตัวเล็กในชุดเจ้าชายสีขาวแดงที่ยืนอยู่ในสนาม

“มึงนั่นไงน้องต้นหอมของกู”ไอ้ไม้เมือง

“ไหนมึง”ไอ้นุ

“ที่ใส่ชุดเจ้าชายสีขาวแดงอ่ะ”ไอ้ไม้เมือง

“เฮ้ยน่ารักว่ะ”ไอ้นุ

“มึงดูมีคนเข้าไปขอถ่ายรูปกับน้องด้วย”ไอ้ไม้เมือง

“เออน่าเลิกขบวนเราก็ไปดักรอน้องก็ได้ เชื่อกู” ไอ้นุ

ประธานในพิธีสวมเสื้อกีฬาสีประจำโรงเรียน กล่าวเปิดงาน เสียงปืนถูกยิ่งขึ้นฟ้า เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันกีฬาได้เริ่มขึ้นแล้ว เสียงปรับมือดังกึกก้องไปทั่วทั่งสนาม ขบวนพาเหรดเดินออกไปจากสนามทีละสี ผมกับเพื่อนไปดักรอน้องเพื่อถ่ายรูป
ดูท่าทางคงอีกนาน ระหว่างทางที่เดินมามีคนขอถ่ายรูปกับน้องเยอะมาก ในที่สุดน้องก็มาถึง
“น้องต้น น้องต้น พวกพี่ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมครับ” พวกมันไม่รอน้องอนุญาติมันถ่ายเลยครับน้องยืนให้ถ่ายรูปให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

“มึงเปลี่ยนดิกูอยากถ่ายด้วย ไอ้ธนมึงยืนอยู่หล่ออยู่ทำไมมาถ่ายรูปให้พวกกูดิ” พวกมันดึงผมไปเป็นคนถ่ายรูป จนพวกมันพอใจก็ปล่อยน้องไป

“ต้นนนนน ถ่ายรูปกับน้ำหน่อย” เป็นเพื่อนน้องทั้งสองวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเพื่อมาถ่ายรูปกับน้อง
ผมกับเพื่อนเพื่อนแยกย้ายกันแล้วครับ แต่ผมยังยืนรอน้องอยู่แถวนั้น น้องเข้าไปเปลี่ยนชุด ตอนนี้น้องเดินไปแล้วไปกลับเพื่อนทั้งสอง ไปที่โรงยิมสนามบาสเก็ตบอล ถ้าให้เดาน้องคงไปดูไอ้ป็อปเล่นบาส ผมรู้หงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่คิดว่าน้องมาเชียร์มัน เสียงเชียร์ในโรงยิมดังมาก

ตึงตึง ตึงตึงโป๊ะ ตึงตึง สีแดงสู้ สู้........
ตึงตึง ตึงตึงโป๊ะ ตึงตึง สีฟ้าสู้ สู้.......
..

ดูสายตาที่น้องมันทำให้ผมไม่ชอบใจ ไม่รู้ว่าผมมองน้องนานไปรึเปล่า น้องละสายตาจากไอ้ป็อปแล้วมองมาที่ผม
ช่วงพักเที่ยงน้องนั่งทานเข้ากับเพื่อน ซักพักทั้งสามก็แยกทางกัน นี่มันเป็นโอกาสของผม
ผมตัดสินใจตามน้องไปที่ห้องน้ำ ทันทีที่น้องเปิดประตูออกมา ผมผลักน้องเข้าไปแล้วล็อกประตูห้องน้ำ

“เฮ้ย..พี่ทำจะอะไรอ่ะ”
“เงียบดิ พี่มีเรื่องจะคุยกับเรา” ผมบอกให้น้องเงียบผมอยากคุยกับน้องสองต่อสองแต่ไม่เคยมีโอกาส เลยต้องใช้วิธีนี้ ผมไม่รู้วิธีที่จะเข้าหาน้อง ผมไม่เคยเข้าหาคนอื่นก่อน มันเป็นวิธีที่ดูไม่ค่อยดีนักแต่มามัวนั่งคิด ผมคงไม่มีโอกาส ผมรอโอกาสนี้มาเกือบปี ผมเฝ้ามองคนที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ ผมแอบเดินตามไปส่งคนคนนี้ที่ป้ายรถเมล์ทุกวัน ผมรู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้าขึ้นทุกวัน
ผมรู้ว่าผมชอบน้องแต่ถึงขั้นไหนนั้นต้องพิสูจน์

 “พี่ต้องการจะคุยอะไรกับผม”
ผมเงียบน้องพยายามขัดขืนผม ไอ้ท่าทางที่น้องขัดขืนนี่มันน่ารักน่าเอ็นดู ผมพยามยามระงับอารมณ์ตัวเองไม่นึกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะมีอิทธิพลต่อผมขนาดนี้ ผมรู้ว่าน้องกลัวผม น้องก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาผม ผมได้กลิ่นหอมอ่อนออกจากคนตัวเล็ก
 ตัวน้องนุ่มนิ่ม ผมมองไปที่ปากบางสีแดงนั่นน่าจะนุ่มและหวานอย่างที่ผมคิดไว้รึเปล่านะ ผมไม่อยากคิดไม่อยากจินตนาการอีกต่อไป ผมดันตัวน้องให้ติดกำแพง แล้วมืออีกข้างดันท้ายทอยน้องขึ้นแล้วใช้ริมฝีปากของผมทาบลงไปที่ปากบางนั้น ด้วยความตกใจน้องดิ้นแต่ก็สู้แรงผมไม่ได้ ผมพยายามใช้ลิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากน้อง หลังจากที่ผมจูบจนพอใจ ผมผละริมฝีปากออกแล้วมองใบหน้าน้องที่กำลังแดงก่ำและหอบเอาอากาศเข้าปอด น้องจูบไม่เป็นแต่น้องน่ารักมาก ปากบางนุ่มกว่าที่ผมคิดไว้และหวานถูกใจผม 

ผมปล่อยน้องให้เป็นอิสระแล้วโน้มตัวลงมาซบลงที่ซอกคอน้องเพื่อระงับอารมณ์ความต้องการของตัวเอง ผมแค่จูบน้องผมเกือบระงับความต้องการของตัวเองไว้ไม่อยู่

“พี่ไม่อยากให้เราชอบไอ้ป็อป” ใช่ผมหึงผมหวง คนที่ผมหมายตาไว้แล้วต้องเป็นของผม

“พะ...พี่มาห้ามผมทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ใช่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่หลังจากที่ผมได้จูบน้องผมแน่เริ่มแน่ใจความรู้ตัวเอง ผมชอบน้องเข้าให้แล้วและชอบมากด้วย

 “อย่าดิ้นนะ ถ้าดิ้น เดียวจัดตอนนี้เลย” ผมแกล้งน้อง  ซักพักผมก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงน้องแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดกดจิ้มจิ้มแล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้น้อง

“นี่เบอร์พี่ เอาไว้คุยกัน” นี่คือการบังคับ ถึงจะเอาแต่ใจไปหน่อยแต่ผมอยากทำ

 “คนอะไรไม่รู้ปากหว๋านหวาน ตัวนิ่มนิ่ม หอมหอม” นี่คือข้อความแรกที่ผมส่งให้น้อง หลังจากที่น้องวิ่งออกไปจากห้องน้ำได้ไม่นาน โอกาสของผมมาแล้วถึงน้องจะยังไม่ได้พูดว่าให้โอกาสผม แต่ผมได้บอกความรู้สึกของผมไปแล้วรู้สึกดีครับ ต่อไปเป็นทีผมบ้างที่จะรุก ผมเป็นคนตรง ไม่รู้วิธีเอาอกเอาใจคนอื่น พูดหวานไม่เป็น แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด   
*******************************************************************************************
ตอนนี้จะเป็นความรู้สึกของพี่ธนบ้าง
ฝีมือยังดีไม่พอ จะค่อยค่อยปรับปรุง
เป็นกำลังด้วยนะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นและคำติชม  :pig4:  :pig4:
TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2015 08:37:29 โดย jaengs »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 4 (2/9/58)
«ตอบ #7 เมื่อ02-09-2015 10:00:41 »

ตอนที่ 4
ครืน ครืน โทรศัพท์ในกระเป๋าผมสั่น เปิดอ่านข้อความเข้าตกใจนิดหน่อยกับข้อความที่ส่งมา “มาเจอที่หลังโรงเรียน ไม่มาจะหาว่าไม่เตือน” โคตรบงการเลยผมเดินออกจากบริเวณงานเงียบๆ เงียบจริงจริงครับเพราะเสียงคนตรีกับเสียงกรีดดังมาก
มาถึงบริเวณหลังโรงเรียนเห็นคนแก่ยืนหน้ายุ่งไม่ค่อยพอใจ ยังไม่ทันทักทายมันดึงผมไปขึ้นรถแท็กซี่ที่เรียกไว้
แล้วลากผมเข้าไปนั่งด้านหนังกับมัน หัวผมเกือบทิ่ม

“พะ..พี่เดี๋ยวจะพาผมไปไหน” ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลย เอะอะก็ลาก เขาไม่ชอบความรุนแรงนะ

“หิวข้าว ยังไม่ได้กินอะไรเลย” จ้าหนูเกี่ยวอะไรด้วยจ๊ะพี่จ๋า จะชวนไปกินข้าวว่างั้น

“แล้วจะไปกินที่ไหนครับ” ท่าทางจะได้กินข้าวฟรี ลาภปากไอ้ต้นครับจะกินให้จนเลย ได้ยินข่าวว่าบ้านพี่แกรวย

“คอนโดพี่”
 
“อื้อ” น่ากินดี ห๋า เฮ้ยเค้าเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะชวนขึ้นคอนโดง่ายๆได้ไง เขาไม่ได้ใจง่ายนะเอาไงดีอ่ะ จะรอดไหมวันนี้
ใครก็ได้ช่วยผมที

“น่า..พี่หิวแล้วก็เหนื่อยด้วยอยากพักเหนื่อยมาทั้งวัน...ไม่ต้องกลัวหรอกเดี๋ยวพี่ไปส่งอยู่ไม่ดึกหรอก” พูดอย่างเดียวก็ได้ครับพี่ไม่ต้องยิ้มน่ากลัวขนาดนั้นก็ได้ผมกลัว แล้วนี่พี่หัวเราะทำไม

ผมตัดสินใจไม่สนใจคนข้างๆมองออกไปข้างนอกรถ มองผู้คนที่เดินเร่งรีบอยู่ข้าทางถือโอกาสสำรวจเส้นทางคงไม่เอาผมไปขายหรอกนะ วันนี้วันศุกร์รถติด ไม่ใช่สิผมรู้สึกมันจะติดทุกวัน คุณลุงแท็กซี่เห็นบรรยากาศภายในรถเงียบเงียบจึงเปิดเพลงขึ้นทำลายความเงียบ

ไม่นานแท็กซี่ก็จอดหน้าคอนโดหรู เงยหน้าอ่านป้ายชื่อคอนโดสุดหรู สูงหลายสิบชั้น ผมต้องขึ้นไปจริงจริงหรอ

“รออะไร...ตามมาดิ” ผมรีบวิ่งตามพี่ธนที่เดินเข้าไปลิฟท์ ลิฟท์ถูกกดชั้น 25

ติ่ง เสียงลิฟท์หยุดลงที่ชั้น 25 ประตูเปิดออกเดินตามโถงทางเดินเป็นทางโล่งพี่ธนพาผมเดินมาเรื่อยแล้วหยุดลงที่หน้าประบานหนึ่ง หยิบการ์ดออกจากกระเป๋าเสียบเข้าไปช่องเสียบรูแล้วใช้กุญแจไขประตูห้อง ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก

ภายในห้องหลังประหลังประตูบานใหญ่สิ่งที่ผมเห็นคือห้องนั่งเล่นขนาดกว้างมีจอทีวีสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ติดกับผนังห้อง ภายในห้องน่าอยู่มาก สะอาดเรียบร้อยไม่ค่อยจะเข้ากับนิสัยพี่เลยครับ ผมไม่กล้าเดินสำรวจจึงนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวบนโซฟารับแขกตัวโตแถมนุ่มหน้าทีวีจอยักษ์

เจ้าของห้องไปหยิบเอาน้ำเปล่าขวดเล็กเปิดฝาออกแล้วยื่นให้ผมพร้อมเปิดทีวีให้ พี่ธนกดโทรศัพท์ออกไปคุยนอกระเบียงสักพักก็เข้ามา

“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ...พี่โทรสั่งอาหารไว้เงินวางไว้อยู่บนโต๊ะนะ”  พี่ธนหายเข้าไปในห้องซักพัก อาหารก็มาส่งเป็นอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งกับสเต็กอีกร้านหนึ่ง ผมจึงจัดสเต็กใส่จาน ส่วนอาหารญี่ปุ่นเซตข้าวเบนโต๊ะน่ากินมากเลย

พี่ธนเดินออกจากห้องแล้วสงสัยตามกินอาหารออกมา พี่แกสวมเสื้อยืดกับกางเกงกีฬากำลังใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดหัวเดินมาที่โต๊ะอาหาร ผมเทน้ำใส่แก้วแล้วยืนให้พี่ธน พี่ธนเลือกกินสเต็กแน่นอนอาหารญี่ปุ่นของผมอร่อยจังเลย
เราทั้งสองนั่งกินเงียบเงียบ แต่ท่าผมจะหิวมากกว่าพี่เขานะหรืออาหารเขาอร่อย
“ค่อยค่อยกินดิ..พี่ไม่แย่งหรอก” อ้าวพี่ไม่กินอ่ะไหนบอกว่าหิว มานั่งจ้องผมกินทำไม แล้วทำไมต้องทำหน้าดุด้วย
ผมแย่งข้าวพี่เปล่านิ

“พอดีบ้านจน ไม่เคยกินโทษทีเพ่” ไม่สนใจครับหิวอ่ะ ขอกินนะผมยิ้มให้พี่เขา

“ถึงว่าทำไม..ตัวเล็กจัง” จ้า ขอบคุณที่ชม ใครจะตัวใหญ่เหมือนยักษ์วัดแจ้งเหมือนพี่ละครับ

“อ้าว..นี่โทรบอกที่บ้านจะค้างบ้านรุ่นพี่” พี่ธนยื่นโทรศัพท์ให้ผมโทรบอกที่บ้าน

“ไหนพี่บอกว่าจะไปส่ง” โกหกผมอ่ะ หลอกเด็กอ่ะพี่

“เหนื่อย..อยากนอน..ขี้เกียจ” ดีเนอะตอบง่ายจัง

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่กลับก็ได้” กลับแท็กซี่ไม่เห็นต้องง้อเลย คนใจร้าย คนขี้โกหก

“อยากลงข่าวหน้าหนึ่งหรอ...เป็นเด็กขึ้นแท็กซี่คนเดียว” อ้าวทำไมพี่อวยพรผมอย่างนั้นละครับ นั่งนิ่งอยู่นานผมตัดสินใจโทรบอกแม่บอกว่าช่วยพี่ที่โรงเรียนเก็บของแล้วเลี้ยงฉลองถ้วยรางวัลงานกีฬาสี (เด็กเด็กอย่าเอาเป็นตัวอย่างโกหกไม่ดี)
เป็นอันจบ กินข้าวเสร็จผมก็เก็บถ้วยจานลงอ่างไม่ล้างครับให้เจ้าของล้างเองเหนื่อยแล้ว เก็บเศษอาหารใส่ถุงทิ้งลงถังขยะ อาหารที่เหลือเก็บเข้าตู้เย็น

ผมกลับนั่งโซฟาหน้าทีวี ไอ้เจ้าพี่ธนที่นั่งอยู่ก็เอนตัวลงเอามาหนุนที่ตักผมเฉยเลย

“พี่นั่งดีดิ หนักอ่ะ” มันไม่สนครับนอนเฉย

“เออนั่งไปเงียบเงียบดิ..ยืมตักแป๊บทำหวงไปได้” เอ้อนอนไป ห้ามได้ซะที่ไหนอ่ะ ดูรายการอะไรไม่รู้ผมเป็นคนที่ไม่มีความอดทนที่นั่งอยู่เฉย ทำให้ไม่สามารถนั่งดูทีวี หรือหนังได้ภาพข้างหน้าผมกำลังพร่า มัว สติกำลังหลุดลอยนั้น

“อะ...อะไรพี่”อะไรเข้าสิงอีกละทีนี้ อยู่เฉยเฉยก็ลุกขึ้นตกใจ 

“เหม็นว่ะ ลุกไปอาบน้ำดิ” จ้า แล้วพี่นอนดมน้องทำไมตั้งนาน

พี่ธนมันหาผ้าเช็ดตัวเสื้อและกางเกงให้ผม ก่อนที่เข้าไปอาบน้ำ ชดชื่นมากหลังที่ได้อาบน้ำ เสื้อไอ้พี่บ้ามันตัวใหญ่เหมือนใส่ชุดนอนมองไม่เห็นบ็อกเซอร์ เซ็กซี่อ่ะ ไม่รู้มันตั้งใจรึเปล่า

“เฮ้ย ทำไมขาเล็กจัง ตัวก็เล็กเล็กขาวขาวซีดซีด เป็นโปลิโอเปล่าหรือโรคขาดสารอาหาร” ฮึมอยากร้องให้ ผู้ชายคนนี้ทำร้ายจิตใจมากเลย แม่จ๋าช่วยน้องด้วย

“พี่ให้ผมนอนไหนอ่ะ” พี่ธนชี้ไปบนเตียงในห้องให้นอนกับพี่ ผมคงนอนอ่ะพี่

“ผมนอนโซฟานี้ไม่ได้หรอ”  โซฟานี่ก็นอนได้ผมไม่เรื่องมากแถมนุ่มไม่ต้องนอนเบียดใคร

“ได้ตามใจ..ไม่กลัวผีหรอ” หึ้ยใครจะกล้านอนพูดอย่างงี้อ่ะ ผมก็ต้องเข้าไปนอนกับมันจิ ที่นอนมันก็กว้างนะครับ พี่มันก็นอนลงข้างข้างผมดูเหมือนมันไม่สนใจผม มันนอนหันหลังให้ผม ผมไม่รู้ว่าแกล้งไม่สนรึเปล่า เพื่อให้ผมนอนหลับได้สนิท
ผมนอนไปสักพักสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียกเข้าพบครับจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

แสงแดดอ่อนลอดเข้ามาทางหน้าต่างกระจกที่แง้มผ้าม่านไว้ อากาศภายในห้องยังเย็นสบายผมขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะลืมตาขึ้น มีคนหัวมาซุกที่อกผมแล้วกอดเอวผมไว้ แล้วคางผมเกยอยู่ที่หัวใครสักคน ......ตกใจครับที่นี่ที่ไหนไม่ใช่ห้องผม ใครกำลังกอดผม ผมกำลังกอดใคร ไม่ทันคิดผมกระเด้งตัวออกจากคนตัวโตที่นอนกอดผมอยู่ แล้วเขยิบออกให้ห่าง สมองผมกำลังประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คนตัวโตขยับตัวเล็กน้อย

“ตื่นแล้วหรอ ตื่นเช้าจัง” ต้องคิดแล้วพี่ธนงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำ  ส่วนผมนั่งหน้าแดงอยู่บนที่นอน อายจังนอนกอดไอ้พี่หล่อทั้งคืนเลย ไอ้พี่หล่อมันคงไม่ได้ทำอะไรผมนะ

พี่ธนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็โผล่หน้าหล่ออกมาจากห้องน้ำ
“ล้างหน้าแปรงฟันเร็ว หิวแล้ว” อ้าวพี่ตื่นมาก็หิวเลย ใช่สิเมื่อคืนเห็นทานไปนิดเดียวเอง มัวแต่นั่งดูผมกิน ผมเดินเข้าห้องน้ำต่อจากพี่ธนส่องกระดูใบหน้าอันหล่อเหลาของผม ทำไมไม่หนวดมีเคราเหมือนป๊ะป๋าเลย ทำไมหน้าผมหน้าใสจัง แล้วทำไมต้องมีไอ้สีชมพูอ่อนที่หน้านี้ด้วย เพราะคุณแม่แน่เลยที่ผมกินน้ำมะเขือเทศทุกวัน แล้วนี่ตาผมทำไมมันโตจัง แต่โดยรวมผมหล่อแบบใสใส อิอิ

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น  ผมเปิดประตูห้องน้ำออกไป

“นี่เข้าไปนอนข้างในรึไง ทำไมช้าจัง”

“ผมเพิ่งเข้ามาเอง ”

“ไปแต่งตัว ไปหาอะไรกินแถวนี้”

“ผมไม่มีเสื้อผ้าใส่” พี่ธนเดินไปหยิบกางเกงกีฬาเสื้อยืดส่งให้ผม พี่ธนมาผมเดินลงมาจากคอนโดหรูสูงหลายชั้น แล้วเดินไปเรื่อยเรื่อย
“ตลาด พี่พาผมมาทำอะไรที่ตลาด”

“มาหาอะไรกินไง เช้าขนาดนี้ร้านอาหารที่ไหนเปิด” เออครับจริงอย่างที่พี่แกพูด

“งั้นพี่อยากกินอะไร ผมจะทำให้กิน” พี่ธนทำหน้าตาแปลกใจกับคำพูดของผม

“ทำเป็นหรอ วันนี้วันเสาร์แต่พี่ยังไม่อยากเข้านอนในโรงพยาบาลนะ” คำพูดพี่แต่ละคำให้กำลังผมมาก ขอบคุณครับ

“น่า เชื่อผมเถอะ ถ้าไปนอนโรงพยาบาลเดี่ยวผมไปนอนด้วย 555”

เสียงแม่ค้าในตลาดร้องเรียกลูกค้าให้ไปเลือกดูสินค้าของตัวเอง ผักสด เนื้อ ปลา มีขนมด้วย แต่พี่ธนดึงผมไว้ ผมไม่ด้หยิบกระเป๋าตังค์ลงมาด้วย ทุกอย่างเลยต้องขึ้นอยู่กับพี่ธนครับ พวกสาวสาวที่มาจ่ายตลาด และแม่ค้า ต่างแอบมองพี่ธนกันใหญ่ ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอาหารเช้าอะไรดี

 สายตาผมก็เหลือบไปเห็นกุ้งตัวโตกำลังแหวกว่ายอยู่ในบ่ซิเมน ที่มีสายออกซิเจนระโยงระยางเต็มไปหมด
บุง บุง เสียงออกซิเจน

“พี่ธน พี่ธนมาตรงนี้เร็ว...มีกุ้งด้วย ดูดิ” พี่ธนเดินมาหาผม ผมชี้ไปที่เจ้ากุ้งที่แหวกว่ายอยู่ในบ่

“เออ อยากินหรอ”
 
“พี่ธนชอบกินข้าวผัดกุ้งเปล่า”

“ป้าครับกุ้งนี่ขายยังไง”

พี่ธนไม่ตอบแต่เข้าไปเจรเจราคากับแม่ค้า ส่วนผมยืนมองน้องกุ้งกำลังว่ายน้ำไปมา ไม่นานพี่ธนก็กลับมาพร้อมกับศพกุ้งในถุง แวะซื้อข้าวสวยครับ ถ้าหุงเองใช้เวลานานแล้วกะจำนวนไม่ถูก กุ้งสด แครอท ต้นหอม มะเขือเทศใหญ่ มะนาว แตงกวาไข่ไก่ และข้าวสวย เป็นอันครบกลับคอนโดครับ พีธนเป็นคนถือเองผมอยากช่วยบอกว่าเดินระวังไม่ไห้ล้มอย่างเดียวก็พอ

ฉุ่ฉี่... เสียงผมกำลังจัดการข้างผัดกุ้งครับพี่ธนสั่งให้ร้านแกะเปลือกกุ้งให้เรียบร้อย พี่ธนแอบมายืนดูผมทำอาหารกลัวว่าผมจะใส่ยาถ่ายแน่เลยครับ กุ้งที่ซื้อมาเป็นกุ้งตัวโตผมจึงสับเนื้อกุ้งแบบหยาบหยาบเป็นชิ้นเล็กผัดกับข้าวใส่มะเขือเทศที่หั่นเป็นลูกเต๋า ตอกไข่ลงไป ใส่แครอทลวกที่หันเป็นลูกเต๋า ใส่ต้นหอมซอยปรุงรสนิดหน่อย น้ำปลา ซีอิ๋วขาว น้ำตาล เป็นอันเสร็จ ผมจัดข้าวผัดใส่จานฝานแตงกวาวางไว้ข้างจานพร้อมต้นหอมแลมะนาวครึ่งซีก ยกออกไปที่โต๊ะอาหารที่มีพี่ธนนั่งรออยู่ หอมน่าทานมากเลย

ท่าทางพี่ธนลังเลไม่กล้าลงมือทานแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ผมจึงลงมือนำไปก่อน พี่ธนเห็นท่าทางปลอดภัยจึงเริ่มทาน
“อืม ใช้ได้นะอร่อยดี”  แหมพี่ธนพูดดีดีกับเขาก็เป็นด้วย ไอ้พี่หล่อก็มุมน่ารักกับเขาเหมือนกัน เราทั้งสองนั่งทานข้าวไปเงียบเงียบจนหมด พี่ธนหยิบจานข้าวของแกและของผมที่ทานหมดแล้วถือเข้าไปในครัว ผมชะเง้อดูคนตัวโตกำลังจะทำอะไร
ผมเห็นสิ่งมาคาดคิดพี่ธนล้างจานครับ 555 

“ทำไมมันแปลกนักรึไง”
“เปล่า”(เสียงสูง)
ผมกำลังยืนมองคนหล่อล้างจาน ดูเขาตั้งใจมาก

“ออกไปดูหนังกันไหม” พี่ธนชวนผมออกไปดูหนัง

“พี่จะให้ผมใส่ชุดนี้ไปดูหนังกับพี่ ฝันไปเถอะ”

แต่สุดท้ายพี่ธนก็ลากผมออกมาจากห้อง หลังจากอาบน้ำเสร็จพี่ธนหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ แต่มันใหญ่กว่าผมมาก มองดูสภาพตัวเองมันไม่ใช่ และตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแบด์นหนึ่งที่พี่ธนเลือกให้ผม ผมหยิบเสื้อผ้าที่พี่ธนเลือกให้ เดินเข้าไปห้องลองเสื้อผ้าของร้าน

“พี่ธนเป็นไงบ้าง” พี่ธนหันกลับมามองผมตามเสียงเรียก กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ เสื้อสีขาวพื้นคอวี เสื้อแขนยาวแจ็คเก็ตติดกระดุม รองเท้าผ้าใบสีดำขาว คือชุดที่พี่ธนเลือกให้ผม

“ก็ดูดีกว่าที่คิดไว้” แสดงว่าดูดี

“พี่ครับคิดตังค์ทั้งชุดนี้เลย” พี่ธนเรียกพนักงานมาเก็บเงิน พนักงานมาตัดเอากระดาษบาร์โคสที่ห้อยอยู่กับเสื้อผ้าที่ผมใส่

“ทั้งหมด 6,588 บาทค่ะ” พี่ธนยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ผมกับกำลังยืนเช็คตัวเองอยู่หน้ากระจก

วันนี้วันเสาร์ห้างสรรพสินค้าเต็มไปด้วยคนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่บริเวณโรงหนังไม่ค่อยมีคนสงสัยช่วงนี้ไม่มีหนังน่าดูเข้าหรือว่าอาจเช้าเกินไปเพราะห้างเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ผมยืนดูโปรแกรมหนัง

“พี่ธน พี่ธนดูเรื่องนี้ ผมเลี้ยงเอง” พี่ธนทำหน้าคิ้วผูกโบว์ใส่ผม

“เดี่ยวพี่ไปซื้อตั๋วให้” ส่วนผมเดินไปซื้อของกินเล่นกับน้ำดื่มดูเวลาฉายตั้งสองชั่วโมง อีกสามสิบนาทีหนังจะฉายพวกผมก็นั่งเล่นแถวๆโรงหนัง เห็นพี่ธนถ่ายรูปตั๋วหนังลงเฟส แล้วเขียนลงไปว่า มาเดต 

เข้าไปในโรงหนังคนไม่เยอะ ส่วนมากกับครอบครัวน่ารักมาก

“ต้น..สนุกไหม”

“สนุกดิทำไมอะ พี่ธนไม่สนุกหรอ”

“เปล่าเห็นนั่งดูไปขมวดคิ้วไป”

“ดูแล้วมันมีอะไรให้คิดไง...โนบิตะเป็นพระเอกที่น่าหงุดหงิด อ่อนแอ เรียนหนังสือไม่เก่ง ตกลงเป็นพระเอกที่ไม่เอาไหนเลย แต่เมื่อเวลาออกไปผจญภัยเขากับเป็นคนที่เพื่อนๆทุกคนพึ่งพาได้ กล้าหาญ มีน้ำใจ อบอุ่น”

“ดูการ์ตูนนี่มันต้องคิดขนาดนั้นเลยหรอ”

“ไม่ใช่หรอกก็ดูผ่อนคลาย ไปเหอะหนังจบแล้ว” นั่งนานสองชั่วโมง ทั้งกินน้ำกินขนมผมกับพี่ธนก็ต้องแวะเข้าห้องน้ำก่อน มองดูนาฬิกาแล้วบ่ายโมงแล้ว ผมเลยชวนพี่กลับถ้ากลับเย็นมากที่บ้านจะเป็นห่วง

“เป็นไงสนุกไหมวันนี้ ไปเที่ยวกับพี่” พี่ธนถามผมขณะนั่งอยู่บนแท็กซี่ระหว่างทางไปบ้านผม

“พี่ธนผมถามอะไรหน่อยดิ ...พี่ธนคิดยังไงชวนต้นมาออกเดต จีบต้นรึเปล่านิ” ผมถามเพราะต้องการรู้ว่าพี่ธนเข้ามาหาทำไม
“ก็..บอกไปแล้วว่าพี่ต้น พี่อยากให้เราให้โอกาสพี่” พี่ธนยังยืนยันคำตอบเดิม

“เออ..เอาตรงตรงเลยนะพี่ธน ตอนนี้ต้นยังเด็กเกินไปที่จะคิดเรื่องนั้น” ผมต้องตอบไปตามตรงไม่อยากให้ความหวัง

“พี่ไม่ได้เร่งรีบหรือบังคับ แต่อยากให้เราเรียนรู้กันไปเรื่อย” เรียนรู้กันไปก่อนแต่เหมือนเป็นแฟนกันยังไงไม่รู้

“อื้ม” ผมรับปากพี่ธนครับ ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกว่าเป็นความสัมพันที่คลุมเครือไม่ชัดเจนยังไงไม่รู้เป็นแบบงง งง

“พี่ชอบต้นนะ...พี่ไมเคยจีบใครก่อน ไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง ต้องทำยังไง แต่พี่จะพยามทำให้ดีที่สุด” พี่ธนจับมือผมขึ้นมากุมไว้แล้วมองมาที่ผม เหมือนเป็นคำมั่นสัญญาหรือกำลังถูกขอความรักยังไงไม่รู้ พี่ธนพูดเสียงค่อยลงเรื่อย คงอายที่ต้องพูดออกมาตรงๆ แต่ผมก็ได้ยิน ผู้ชายตัวโตพูดความรู้สึกของตัวเองตรงออกมา เป็นผู้ชายที่ใจกล้ามาก
ทั้งวันที่ผมอยู่ด้วยก็รู้ผู้ชายคนนี้พูดไม่ค่อยเก่ง แสดงอารมณ์ไม่ค่อยหลากหลายแต่ก็แลผมได้เป็นอย่างดี พี่ธนเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่เรื่องมาก แถมดูติดดินด้วยซ้ำไป
รถแท็กซี่จอดที่หน้าประตูบ้านผม ผมลงจากรถพร้อมกับที่ธนลงมายืนส่งผมเข้าบ้าน

“พี่ธนขอบคุณนะสำหรับชุดนี้ และเลี้ยงหนังด้วย”

“พี่ก็ขอบคุณสำหรับอาหารเช้า และโอกาสนะ”ยังไม่ลืมครับท่าทางจะเป็นเอามาก ผมโบกมือลาแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปแอบดูพี่ธนที่หน้าต่างบนห้อง พี่ธนกลับขึ้นรถแท็กซี่พร้อมกับแท็กซี่ขับออกไปจากหน้าบ้านผมแล้ว ผมรีบอาบเปลี่ยนเสื้อผ้าทิ้งตัวลงบนที่นอนตาจ้องมองไปที่เพดานห้องแต่ใจยังคิดเรื่องราวต่างที่เกิดเมื่อวานและวันนี้ เหตุการณมันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ทันและไม่รูว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนฝัน เอาล่ะผมขอหลับพักผ่อนเอาแรงก่อน ตื่นมาอีกทีค่อยคิดกัน
 
********************************************************************************************
 :pig4: :pig4:
TBC.

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 4 (2/9/58)
«ตอบ #8 เมื่อ02-09-2015 10:29:36 »

พี่ธนนี่พระเอกป่ะคะ? หรือยังไม่ได้ระบุว่าใคร (แต่แอบลุ้นให้เป็นฮิมนะ)

กระทู้บอร์ดนี้มันตกไปไวมาก ถ้าไงคุณ jaengs มาดันกระทู้จะขอบคุณมากๆค่ะ *3*

ชอบน้องต้นนะ น่ารักใสๆ หวังว่าน้องจะน่ารักแบบนี้ตลอดไป  :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 4 (2/9/58)
«ตอบ #9 เมื่อ02-09-2015 14:15:50 »

ม.หนึ่ง ยังเด็กมากเลย อายุแค่นี้ผู้ปกครองปล่อยแล้วหรือคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 4 (2/9/58)
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-09-2015 14:15:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 5 (4/9/58)
«ตอบ #10 เมื่อ04-09-2015 11:54:38 »


ตอนที่ 5

ตอนนี้ผมมาอยู่ที่อาคาร 2 ห้องเรียนใหม่ดีใจนะ การเรียนเกรดเฉลี่ยเทอมแรกออกก็ 3.5 ติด 1ใน5 ของห้อง
ในกลุ่มผมคะแนนดีสุด ปุเลยชวนผมไปเรียนพิเศษอยากให้ผมได้คะแนนเยอะกว่าเดิมเห็นผลเลยคะแนนออกมา 2.8 ผมเนี้ยสะอึกครับ

ดีที่ที่บ้านไม่มาคอยสนใจเกรดเฉลี่ยผมไม่เคยขอดูเกรดเลย เพราะผมเป็นเด็กดี ไม่กลับดึก ไปเรียนแต่เช้า ทำการบ้านปกติ
ผมไม่ค่อยนั่งหน้าทีวี เกมส์ไม่เล่นเพราะขี้เกียจเล่นไม่ผ่านด่านซักทีก็รำคาญเลิกเล่น เสาร์ อาทิตย์ไม่จำเป็นไม่ออกจากบ้านรถติด เหม็นควันรถ แค่เห็นคนเยอะในห้างก็หงุดหงิดแล้ว ผมชอบหนังสือ ชอบอ่านหนังสือนิยาย การ์ตูน ดูการ์ตูน ที่ยืมมาจากร้านหนังสือและห้องสมุดโรงเรียน

เกรดเทอมแรกมัธยมศึกษาปีที่ 2 ออกผมกับมายิ้มได้ 3.5 ครับอันดับคงที่จำนวนนักเรียนในห้องของผมมี30คน แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ห้องของผมไม่ใช่ห้องเด็กเรียนเป็นห้องที่อยู่อันดับท้ายท้าย เด็กห้องคละนั่นเอง

ในห้องผมเพื่อนเขาว่ากันว่ามีเด็กขายแต่ไม่รู้ว่าใคร อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ และเผลอเผลออาจมีติดยาเสพติด บริเวณหลังห้องเป็นพื้นที่ของพวกเด็กเกเร มีหัวหน้ากลุ่มคือเจเด็กผู้ชายหน้าตาดี ตัวโต ไม่ค่อยพูด ชอบเข้าเรียนสาย ได้ยินว่าบ้านมีฐานะ
มีสาวๆ(หนุ่มๆด้วย)ติดเยอะ

หลังห้องถ้าไม่จำเป็นจะไม่เดินไปเหยียบครับ ผมเป็นเด็กหน้าห้องริมฝั่งซ้ายคือถิ่นของผม หน้าห้องตรงกลางคือถิ่นเด็กที่เก่งที่สุดหัวหน้าคือนิวหนุ่มน้อยหน้าสวย ออกสาวรักสวยรักงาม ทาแป้งทาปาก เป็นหัวหน้าห้องด้วยแต่เป็นคนที่เห็นแก่ตัวนิดหน่อยอุ้ยนินทาเพื่อน น่าน่า ขอนิดหนึง

“อ้าว..นักเรียนวันนี้ครูมีเกมส์มาให้เล่น ให้นักเรียนจับกลุ่มกัน แล้วครูจะแจกกระดาษคำถามกลุ่มล่ะหนึ่งแผ่นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มไหนเสร็จก่อนและถูกต้องครูมีของรางวัลให้”โหครูเอาของรางวัลหลอกล่อเด็ก อ้อลืมบอกไปว่าคุณครูประจำชั้นผมก็เปลี่ยนไปนะครับมาจากกลุ่มสาระคณิตศาสตร์

“ปุจัดโต๊ะเร็วหันหน้าเข้าหากัน”ผมบอกปุให้จัดโต๊ะหันหน้าเข้าหากัน

“เกมส์อะไรไม่รู้แต่เป็นคณิตศาสตร์นี่เราไม่ค่อยชอบเลย”เสียงตูนบ่น

“ไม่เป็นไรขอให้มีของรางวับเราชอบทั้งนั้น”ถ้ามีของรางวัลผมสู้
คุณครูเดินแจกกระดาษคำสั่งและคำตอบพร้อมอธิบายให้แต่ละกลุ่มฟัง

“ต้นเข้าใจเปล่า”ตูน

“ก็ตามที่ครูบอก มีโจทย์ 15 ข้อหาคำตอบเป็นตัวเลขให้ได้พอได้แล้วไปเทียบเป็นตัวอักษรแล้วก็จะได้คำตอบ”มันยากที่15 ข้อวิธีหาคำตอบในแต่และข้อไม่ซ้ำกันเลย

“น้ำทำข้อนี้บวกลบเศษส่วน”ตอนนี้กำลังแบ่งช่วยกันหาคำตอบเงียบๆ เพราะมีรางวัลเป็นเดิมพัน

“ใครได้คำตอบข้อไหนเขียนคำตอบลงไปนะ”ผม

“ยากไปเปล่า เหมือนกำลังแข่งขันทางวิชาการเลย เราหิวข้าวแล้ว”ปุ

“เออ หิวแล้วเหมือนกันใช้สมองเยอะไปหน่อย”น้ำ

กลุ่มผมเริ่มงอแง ฟลุบหน้าลงบนโต๊ะกันแล้ว

“ใช่เราก็หิวแล้ว”ผมก็หิวแล้วครับ

กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงออดดังขึ้น ตกลงไม่มีกลุ่มไหนทำสำเร็จ ยากเว่อ

เวลาพักเที่ยงมาถึงพวกผมก็ลงไปที่โรงอาหารพวกเรา ม.ต้นจะพักก่อน ม.ปลาย
“คนเยอะจังเลยเดี๋ยวต้นไปจองไว้ก่อนนะ”ผมเดินไปหาที่นั่งในฝูงมดครับไม่นานก็มีที่นั่ง

“ตรงนี้มีคนนั่งไหมครับ”เป็นพี่เกื้อครับเข้ามาทักผม ช่วงพักม.ต้นพี่เกื้อชอบแวบลงมาหาที่โรงอาหารบ่อยๆ มาทำไมอันนี้ผมไม่ทราบ ผมนั่งจองโต๊ะไม่ได้ให้ใครซื้อข้าวให้ครับ ไม่มีใครได้สิทธ์นั้นเพราะผมเรื่องมากกว่าจะตัดสินใจได้ต้องใช้เวลา
พูดง่ายๆก็คือเรื่องมากกินแต่ละวันไม่ซ้ำ แต่อยากกินซ้ำเล่นกินเป็นเดือนเดือน ถ้าลองอยากกินต้องเข้าแถวเป็นนานก็รอ
แต่ไม่ต้องห่วงครับถ้าน้องต้นไปซื้อข้าวร้านไหนแม่ค้าจะเรียกไปที่หลังร้านลัดคิวให้เลยทันที อิอิ
อะ อะ กำลังสงสัยอยู่ใช่ไหม แล้วพี่ธนละหายไปไหน พี่ธนผู้ชายอันตรายคนนั้นแกก็มานั่งทานข้าวกับผมบ้างบางวัน
แต่บ่อยที่สุดจะเป็นตอนเช้าแกจะรอผมที่หน้าประตูโรงเรียนไปหาอะไรกิน แกบอกว่าผมตัวเล็กแกจะขุนให้โตจะได้ใช้งานเร็วเร็ว คำพูดนี้ฟังดูไม่น่าปลอดภัยเท่าไหร่

“ต้นอ่ะพี่ซื้อน้ำมาให้”พี่เกื้อยื่นน้ำดื่มที่ซื้อมาให้ผม

“ตูนทางนี้”เป็นตูนกับชาญที่ซื้อข้าวเสร็จ แล้วปุกับน้ำก็ตามมา

“พี่เกื้อไม่ทานข้าวหรอครับ”

“ไม่ล่ะเดี๋ยวพี่ก็จะกลับขึ้นไปเรียนแล้ว” 

“งั้นผมไปซื้อข้าวนะครับ” ผมเดินไปตามร้านอาหารหา อาหารที่อยากกิน

“กินอะไรเราวันนี้”มีคนเข้ามาสะกิดผมจากด้านหลัง ผมหันไปไอ้พี่หล่อยืนหยักคิ้วให้ พี่ธนชอบโผล่มาแบบนี้บ่อยๆ

“ก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำ พี่ธนละครับ”

“ยังไม่รู้ ยืนอยู่ตรงนี้ก่อนเอาเส้นอะไร”

“เส้นหมี่ขาว”พี่ธนเดินไปหลังร้าน ไม่นานก็กลับออกมา

“อ่ะนี่ก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำเส้นหมี่ขาว ใส่เกี๋ียวกรอบ ระวังร้อนนะ กินให้หมดด้วย พี่ไปล่ะ”พี่ธนยื่นถ้วยก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำเส้นหมี่ขาวมาให้ผม มีเกี๋ยวกรอบ อันนี้ไม่ได้สั่งแต่รู้ได้ไงว่าผมชอบ แถมมีน่องไก่อีกต้้งสองน่อง
เยอะจังแล้วผมจะกินหมดไหมเนี่ย ต้นหอมเป็นคนนะไม่ใช่ยักษ์

ผมถือชามก๋วยเตี่ยวไก่ต้มยำมานั่ง กับเพื่อนๆส่วนพี่เกื้อกลับขึ้นไปห้องเรียนแล้ว

"ต้นกินอะไร"น้ำถาม

"ก๋วยเตี๋ยวไ่ต้มยำ"ผมตอบ

"ร้านไหนทำไมได้เยอะจัง"น้ำ

"อย่างนี้ทุกทีแหล่ะ ต้นไปซื้อข้าร้านไหนก็ได้เยอะทุกร้านน่ะแหล่ะ"ปุตอบ

"เออ อันนี้ก็จริง"ตูน
ผมจัดการก๊วยเตี๋ยวตรงหน้าไม่หมดตามคาด ต้องถอดใจครับมันเยอะจริงๆ พวกผมเก็บถ้วยจานไปส่งที่มุมวาง
ถ้วยจานที่กินเสร็จแล้ว กลับขึ้นไปบนห้องเรียน

“ทำอะไรน้ำ อ่านอะไรอยู่”ผมถามน้ำกำลังตั้งตั้งตาอ่านอะไรซักอย่าง

“กำลังอ่านดวง ชะตา สนใจบ้างเปล่า”ไม่ครับขอบคุณตามสบาย

“ดูเลย ดูเลยของต้นราศีพฤกษ์”ตูน

“ฟังนะเดี่ยวน้ำอ่านให้ฟัง”

ชาวราศีพฤษภ ชาวราศีผู้เป็นแกนหลักของกงล้อชีวิต ที่ทำให้ชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนไปได้
ชาวราศีผู้ยึดคติ “ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ” คิดช้าแต่จะไม่ผิดพลาด แม้แต่ความโกรธก็ช้า
แต่ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็...ตัวใครตัวมัน
การเงิน หมุนเวียนได้ดี ไม่มีติดขัด แต่ให้ระวังรายจ่าย โดยเฉพาะเรื่องฟุ่มเฟือย หรือให้มิตรสหายกู้ยืม
เพราะมีเกณฑ์สูงว่าจะไม่ได้คืน
ความรัก จะมีคนเข้ามาเรื่อยๆเป็นปกติ อย่าไปสนใจพวกเขาไม่ใช่เนื้อคู่

โชคลาภ การแสวงหาโชคลาภด้วยการเสี่ยง มีเกณฑ์พลิกผันไม่แน่นอน และให้ท่านระมัดระวังตัวท่านจะมีเคราะห์
“เฮ้ยน่ากลัว ต้นหนังสือบอกว่าต้นจะมีเคราะห์อ่ะ” ครับเพื่อนผมได้ยินไม่ต้องแปลซ้ำตอนนี้ผมท่าทางจะมีเคราะห์ เพื่อนไม่ต้องตกใจเพราะคนที่จะมีคือผม

“ต้นพาน้ำไปห้องน้ำหน่อย”

“ได้ ได้” ผมพาน้ำไปห้องน้ำช่วงพักห้องมักไม่ค่อยว่าง เห็นว่าบางคนมาแอบสูบบุหรี่ เล่นพนัน หรือทำอะไรบ้างไม่รู้ ผมยืนรอน้ำอยู่ข้างนอก

“เฮ้ย..ได้ยินข่าวว่าเจ๋งหรอพวกมึง รู้ไหมพวกกูเป็นใคร”ผมได้ยินเสียงคนคุยกัน เหมือนหาเรื่องมากกว่าอยู่ทางด้านหลังห้องน้ำ ด้วยนิสัยวัยรุ่น ผมจึงเดินไปแอบดู

“พวกพี่เปล่าที่วันก่อนไถ่เงินเพื่อนผม”เจ

“ใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไม”รุ่นพี่

“เปล่า ผมก็แค่จะบอกว่ามันไม่ดี อย่าทำ”เจ

“มึงเป็นใครมากล้าสั่งสอนพวกกู”รุ่นพี่

“ผมก็แค่มาบอก อย่าอารมณ์เสียซิ”เจ

“เฮ้ย มึงครูมา ไปเร็ว”รุ่นพี่

ผมเห็นเจและเพื่อนกับยืนคุยกับรุ่นพี่ มันไม่เหมือนคุยแต่เหมือนจะมีเรื่องกันมากกว่า รุ่นพี่กลุ่มนี้ต้องทำอะไรไม่ดีแน่ไม่งั้นแค่ครูเดินมาก็กลัวกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปแล้ว

“ต้น ต้น เราเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว อ้าวแล้วมียืนทำอะไรตรงนี้”ผมตกใจที่ได้ยินเสียงน้ำตะโกนเรียก

“เปล่า”เสียงสูง

ผมกับน้ำเดินกลับห้อง น้ำพยายามถามผมว่าเกิดอะไร ผมบอกว่าไม่รู้ไม่มี น้ำหน้าบึ้งงอลผมเลยครับ
จากที่ได้ยินคือรุ่นพี่มารีดไถ่เงินเพื่อนของเจ ครั้งนี้เจเข้าไปเตือนรุ่นพี่ ถ้ามีคราวหน้าอีก ผมว่าคงได้ลงไม้ลงมือ
 ท่าทางที่เจเข้าไปคุยกับรุ่นพี่ไม่กลัวเลย คงจะเหมือนข่าวลือของเขา ที่เขาว่าชอบไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น
 
“ต้นเรารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว วิชาต่อไปเรียนพละ”อ้อ เอ่อใช่ผมกับน้ำรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“วันนี้ร้อนจัง”ผมกับน้ำวิ่งที่โรงยิมที่มี ปุ ชาญและตูนไปรอแล้วอยู่ที่นั่น

“นักเรียนมาพร้อมกันรึยัง ถ้าพร้อมไปนั่งบนแสตน วันนี้ครูจะสอนการซู้ตลูกลงห่วง”บาสเกตบอลครับผมจะไหวไหมเนี่ย ความสูงผมห่างจากแป้นบาสมากเลย คุณครูเริ่มสาธิต

“ทุกคนจำได้แล้วลุกขึ้นไปหยิบลูกบาสคนละลูกแบ่งเป็นสองฝั่ง ต่อแถวแล้วหัดซู้ตลูกลงห่วงทีละคน”

“แฮก แฮก เหนื่อยจังทำไมเราไม่สูงเหมือนสองคนั้นนะ”ตูนกำลังบ่นกับผมและน้ำ อิจฉาชาญกับปุที่ทั้งสองคนมีร่างกายที่สูง ไม่เหมือนพวกผม

“เหนื่อยแล้ว ไปดื่มน้ำล้างหน้าล้างตากันดีกว่า”เหงื่อออกแล้วอยากล้างหน้าขึ้นมา ผมทั้งสามเดินไปที่ก็อกน้ำจัดการล้างหน้า
“ต้นหน้าแดงอ่ะ หน้าใสด้วย”

“โอ๊ย ตูนมาหยิกแก้มเราทำไม”

“แก้มต้นนี่นิ่ม สีแดงเหมือนมะเขือเทศเลยนะ”

“นี่แน่ะ”ผมสาดน้ำใส่ตูน ที่แกล้งผม

“จ้างก็ไม่โดน กลับมาเลยนะ”ผมสาดน้ำใส่ตูนไม่โดน แถมวิ่งหนีไปไหนไม่รู้

“ต้นน้ำไปเปลี่ยนชุดก่อนนะเหนียวตัว”

“อื้อ เดี๋ยวเราตามไป”ผมเห็นมีคนเดินเข้าไปหลังอาคารไม้ที่เก็บโต๊ะเก้าอี้ที่ชำรุด มีคนเข้าไปทำอะไรกัน ผมแอบเดินตามเข้าไปดู เห็นนิวกับรุ่นพี่คนหนึ่ง มาทำอะไรกันที่นี่

“เฮ้ย”ผมส่งเสียงร้องออกไปด้วยความตกใจ

“ใคร ใครอยู่ตรงนั้น ออกมานะ”นิวตะโกนออกมา แล้วจ้องมาทางที่ผมหลบอยู่ ผมไม่รู้ว่านิวเห็นผมรึเปล่า รึว่าผมหลบทัน ออกไปให้โง่ดิ

“ไม่มีใครหรอกหูฝาดไปเอง”รุ่นพี่ ใช่ๆอย่ามโน

“มาแอบดูอะไร”ผมตกใจ สะดุ้งเสียงกระซิบข้างๆหูผมหันกลับไปดู

“จะ..เจ มาทำอะไร”

“เปล่า เห็นเดินมาท่าทางลับๆล่อ น่าสงสัยเลยตามมา”

“แล้ว..”
“ชู่ เงียบ” เจบอกให้ผมเงียบ แล้วดึงผมออกมาจากที่นั่น นิวกับรุ่นพี่เดินออกมาแล้ว

“บอกได้ยังมาทำอะไรที่เปลี่ยวๆแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนลากเข้าไปหรอกระวังตัวหน่อยสิ ไมรู้รึไงว่ามีแต่คนจ้องอยู่ตลอด หน้าตายิ่งน่า...อยู่”อ่ะ เจบ่นอะไร ผมไม่เข้าใจ

“เออ ไม่มีอะไรแล้วเราไปก่อนนะ”เผ่นดีกว่าครับ

ผมรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมขึ้นเรียนวิชาต่อไป

“ไปไหนมาต้นทำไมมาช้า”ปุถามผม

“ไปห้องน้ำมา”

“นักเรียนดูคำถามบนกระดานนะคะ มีทั้งหมด 30 ข้อ ให้นักเรียนตอบคำถามให้ถูก ใครทำเสร็จแล้วก็เอามาส่งครู”เรียนพละมาเหนื่อยมาต่อด้วยภาษาไทย สมองไม่ค่อยไหลแถมไปเจออะไรแปลกมามาด้วย ง่วงผมฟลุบหน้าลงบนโต๊ะแล้วแอบมองไปที่นิว มองดูนิวนั่งลอกโจทย์บนกระดาษ
แอบมองเพื่อนคนอื่นในห้องก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจ
แล้วก็เป็นเจที่ยิ้มแล้วยักคิ้วให้ผมตกใจหันกลับมาทำงานของตัวเองแทบไม่ทัน เปิดหนังสือหาคำตอบไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องที่เพิ่งเจอมา

“อ้า เสร็จแล้ว ปุเสร็จยังมาตรวจคำตอบหน่อยว่าได้เหมือนกันรึเปล่า” ผมหันไปถามปุที่นั่งอยู่ข้างๆผม กำลังทำอยู่มือกำลังเขียนแต่ตานี่ไปแล้ว อ้าวนี่ผมทำเร็วไปหรอหันไปดู ตูนกับชาญอ้าวหลับไปแล้ว ส่วนน้ำกำลังจะตามตูนกับชาญไป

ไหงเป็นงั้นไป ผมเลยต้องนั่งทบทวนแบบฝึกหัดของตัวเองไปก่อน

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง ในที่สุดเสียงสวรรค์ก็ดัง

 “เลิกเรียนต้นกลับเลยรึเปล่า”น้ำดูตื่นเต้นขึ้นมาเชียว เมื่อกี้ยังง่วงอยู่ไม่ใช่รึไง คืนชีพเร็วมาก

“อืม..เราว่าจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดหน่อยน่ะน้ำไปด้วยกันไหม”

“ไม่ดีกว่าน้ำต้องรีบกลับ แล้วเจอกันวันจันทร์นะอย่าลืมการบ้านมาให้ลอกล่ะ”

“ครับผม แล้วเจอกัน”ผมแยกทางกับเพื่อนแล้วเพื่อมายืมหนังสือที่ห้องสมุด

วันนี้วันศุกร์ผมจะต้องเข้าห้องสมุดยืมหนังสือไปอ่านเสาร์-อาทิตย์ รู้สึกง่วงหลังจากเรียนภาษาไทยไม่หาย ผมเลยแวะเข้าไปล้างหน้าที่ห้องน้ำหอสมุด 

“ค่อยสดชื่นขึ้นหน่อย”ผมเงยหน้าขึ้นมองในกระจกมีผู้ชายสามคนยืนอยู่ด้านหลัง ช็อกสิครับ ผมหันหน้ามามองพวกมันทั้งสาม

“นี่หรอต้นหอมที่เขาว่ากัน” ว่ากันว่าอะไรเรื่องอะไร

“มีอะไรกับผมรึเปล่า” สติครับช่วงนี้ต้องสติก่อนสตาร์ท ต้องรู้ว่าว่าพวกมันต้องการอะไร

“พวกเราไม่มีหรอก..แต่คนที่ให้มานะมี” ว่าแล้วทั้งสามก็ต้อนผมเข้ามุมห้องน้ำ แล้วเรื่องอะไรผมอยู่เฉยให้จับ วิ่งสิครับ นั่นก็เป็นได้เพียงความคิด ทันที่ผมขยับตัวผู้ชายสองคนก็เข้าประกบผมแล้วดึงผมให้ชิดกับกำแพง ผมพยายามดิ้นแต่มันสองจับแขนทั้งสองไว้แน่น

“ตะ..ต้องการอะไร” เสียงสั่นบอกเลยว่ากลัว หน้านี้ไม่รอด สามรุมหนึ่งกลัวได้จองวัด

“เปล่า”

“น่ารักว่ะมึง กูว่าทำอย่างอื่นดีกว่าไหม”

“อย่า พี่อย่าทำอะไรผมเลย”

“จริงว่ะไม่น่าทำเลย กูว่าทำอย่างอื่นที่สนุกๆดีกว่า”

“อยากนอกเรื่อง เขาสั่งมาให้ทำอะไรก็ทำอย่างงนั้น พวกมึงสองคนจับไว้”

มันสั่งเพื่อนมันทั้งสองจับผมให้แน่นแล้วมันก็ชกมาที่ท้องผม พระเจ้าช่วยเจ็บมาก ผมทรุดลงคุกเข่าลงกับพื้น ทั้งปวดทั้งจุก
ผมไอครับไอไม่หยุด ใช่ครับมันไม่หยุดมันเตะข้างลำตัวผม ผมนอนเลยครับทีนี้
โอ้โหพื้นห้องน้ำเย็นสบายน่านอนมาก ตัวผมงอเป็นกุ้งมันเตะซ้ำที่ท้องผมครับไม่รู้ว่านานเท่าไหร่
แต่สติผมคอยลางเลือนตาเริ่มปิด
ผมเห็นคนเดินเข้ามาใหม่สองหรือสามคนผมมองไม่ชัดแต่หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ผมรู้จักใช่ผมคิดว่า
ผมรู้จักเขานะผมจำเสียงของเขาได้ แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน แล้วทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าผมก็ดับวูบลงทันที

********************************************************************************************
ขอบคุณทุกคำ ติชม  :pig4: :pig4:
แล้วจะมาใหม่  :katai4:  :katai4:

TBC.




ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 6 (28/9/58)
«ตอบ #11 เมื่อ28-09-2015 10:45:14 »

ตอนที่ 6
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา งงครับงงอีกแล้วตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงใครเตียงผมไม่ใช่ ห้องผมก็ไม่ใช่ ที่สำคัญตอนนี้ผมนอนแก้ผ้ามี
ผ้าห่มผืนเดียวคลุมตัวผมไว้

แก็ก แก็ก

เสียงเหมือนคนเปิดประตูห้องเข้า

“พี่ธน” ผมมาอยู่บนเตียงพี่ธนได้ไง พี่ธนเดินเข้ามาในห้องสวมเพียงกางเกงกีฬาตัวเดียวยืนอยู่ข้างเตียงโชว์หน้าอกนั้น โอ้ยน่า
ซบจัง สายตาของเขากำลังมองมาที่ผม ผมรู้นะว่าอยู่ในห้องตัวเองแต่ช่วยแต่งตัวดีกว่านี้ไม่ได้หรอครับ หัวใจผมจะวาย

“ฟื้นแล้วหรอ” คงไม่มั้งถามมาได้ ผมพยายามจะยันตัวลุกขึ้น สาบานให้ตายเถอะผมไม่มีแรง

“ผมมาอยู่ได้ไง” สงสัยครับ

“เห็นต้นนอนเล่น..อยู่ในห้องน้ำเลยเก็บมา” อื้อใช่พื้นห้องน้ำเย็นสบายมาก จ๊าก..บ้าเปล่าใช่ที่ไหนไอ้พี่ธนบ้าคนนะไม่ใช่อึนะ จะไปเก็บได้จากห้องน้ำ

“อ้าวหรอ งั้นก็ขอบคุณครับ...พี่ธนไม่ได้ทำอะไรผมใช่ไหม” ดูจากสถานการณ์ และสภาพตัวเองคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ถามเพื่อความมั่นใจ

“พี่ถอดเสื้อผ้าต้นออกแค่จะดูบาดแผลน่ะว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหน” น่าจะเป็นที่ท้องนะ ปวดจุก ยังไม่หายเลย จากนั้นผมก็ยืมเสื้อพี่ธนมาใส่กับบ็อกเซอร์ เสื้อพี่ธนครับใหญ่เถอะคอกว้างไหล่ตก พี่ธนอุ้มผมมานั้งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

จากที่ผมสำรวจผมมีรอยช้ำไปหมดบนบริเวณที่อยู่ใต้เสื้อผ้า มันคงกลัวคงอื่นเห็นและคงรู้ว่าผมคงไม่บอกใครแน่นอน ตอนนี้เช้าวันเสาร์พี่ธนโทรไปบอกที่บ้านผมบอกว่าทำรายงานกลับเย็นวันอาทิตย์ ถ้ากลับวันนี้ก็คงเดินไม่ไหว

ตอนนี้กำลังนั่งหยอดข้าวต้มอยู่ 

“ต้นหอมตัวเล็กนะตา จมูก ปาก ตรงนั้นก็เล็ก” หันขวับเลยครับอะไรเล็กพี่ธน พูดดีดีนะ

“พี่หมายถึงมือน่ะ ต้นคิดอะไร” ไม่มั้ง ไม่คิด

“แล้วพี่มาเจอผมได้ไง”

“เรารู้จักเจเปล่าพี่ฝากเจดูเราเอาไว้ เพื่อนเจเห็นมีคนตามต้นเข้าไปในห้องน้ำไม่ออกมาแล้วหน้าห้องก็ติดป้ายว่าชำรุด
มันเลยไปตามเจ เจจัดการพวกมันแล้วล่ะ ส่วนคนบงการเจมันไม่ให้บอกนะว่าเป็นใคร” อ้าวว่าจะถามแต่ก็ไม่เป็นไร

“อ้อ..ขอบคุณครับ”

“เจมันบอกว่ามันชอบต้น..มันอยากเป็นเพื่อนกับต้นต้นน่ารักเหมือนน้องสาวมันเลย” อ้อ เฮ้ยน้องชายดิน้องชาย สับสนทางเพศเปล่าวะ

“555 พี่พูดเล่น มันอยากเป็นเพื่อนกับต้น ดูเพื่อนเพื่อนชอบต้น มีอะไรก็ปรึกษาต้น เจมันคงอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง เพราะมีแต่คนที่กลัวมันไม่กล้าเข้าใกล้”  อาจจะเป็นเพราะข่าวลือต่างๆก็ได้นะ หลังจากที่กินข้าวต้มเสร็จผมก็กินยา ทายา

“แล้วนี่ยั่วพี่หรอ”ห๋ายั่วอะไร

“ก็นั่งโชว์ไหลอยู่เนี่ย” ก็เสื้อพี่มันตัวใหญ่ ง่ะ

เย็นวันอาทิตย์พี่ธนก็ขับไปส่งที่บ้าน

ผมตื่นเช้ามาด้วยอาการที่ดีขึ้นค่อนข้างมาก แต่ยังเพลีย ขึ้นรถเมล์แต่เช้าเพราะกลัวไม่มีที่นั่ง  สภาพผมตอนนี้ท่าจะน่าอนาถ

ตอนเช้าการไม่หนักเท่าไหร่ตอนบ่ายชักไม่ไหว ปุมาส่งผมที่พยาบาลเลิกเรียนจะมารับผมกินยาที่ติดตัวมาแล้วตัวลงนอน
 
ซักพักได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้องแล้วมาหยุดที่ด้านข้างเตียงผม รู้สึกว่ามีคนนั่งลงที่เตียง ตอนนี้ลืมตาไม่ขึ้นกระดิกตัวไม่ได้

ไม่นานคนที่นั่งบนเตียงผมก็กดริมฝีปากลงบนแก้มผมเบาๆ แล้วเดินออกไปจากห้อง ให้ตายใครวะมาลักหลับผมแต่ผมจำกลิ่น

น้ำหอมนี้ได้ ตื่นขึ้นมาอีกทีเห็นนมขนมคุกกี้ใส่ตะกร้าหวายเล็กๆ วางไว้ข้างหมอนผมพร้อมคำอวยพร ขอให้หายป่วยเร็วๆนะครับ

 ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ว่าพี่เขาจะส่งมาให้ตอนนี้ผมมีแฟนคลับที่แอบเอาขนมมาใส่ไว้ในกระเป๋า วางไว้บนโต๊ะ คนโน้นคนนี้

ฝากมาให้ เอาขนมมาให้ผมไม่ว่าทำไมต้องมาแอบขโมยหอมแก้มผมด้วย

อาการผมตอนนี้หายสนิทแล้วแต่รอยฟกซ้ำยังมีให้เห็นเยอะตามร่างกายผมต้องสวมเสื้อแขนยาวทุกวันจนกว่ารอยจะหายไป

ผมขอบคุณเจ เลี้ยงข้าวเที่ยงเพื่อขอบคุณและเป็นการกระชับมิตรเจไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คนเขาพูดกัน ผมชอบรอยยิ้มของเขา

นะดูจริงใจดี วันที่เจมานั่งทานข้าวเพื่อนผมนี่งงเลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจก็เข้ากับเพื่อนผมได้ทุกคนนะ ช่วงหลังมานี้ตอน

เที่ยงผมเป็นแฟนคลับน้ำใบบัวอย่างเต็มตัวมันไม่อร่อยแต่ เขาว่ามันช่วยอาการช้ำใน ใกล้จะปีใหม่แล้วคุณครูให้นักเรียนปรึกษา

เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมภายในห้อง มีคนยกมือแสดงความเห็น ระบำหน้าท้องบ้างล่ะ ระบำเมียงูบ้างละ เต้นรูดเสาก็มี ผมว่าพอ

เถอะ สุดท้ายเป็นการแสดงเป็นกลุ่ม ทานอาหารญี่ปุ่นเพราะร้านมีส่งถึงที่และเป็นเบนโตะ สะดวกในการกิน เครื่องดื่มน้ำอัดลม

ปกติ ส่วนของขวัญจับฉลาก ไม่ต่ำกว่า 300 บาทค่าอาหารออกคนละ 300 ขาดเหลือคุณครูที่รักจะช่วย เมื่อตกลงเรียบร้อยคณะ

กรรมการห้องเตรียมงานต่อตั้งแต่โดนรุมกระทืบในห้องน้ำผมไม่ไปคนเดียวอีกเลย ชวนเพื่อนไปด้วยตลอดก่อนจะถึงปีใหม่

จะการสอบก่อนปลายภาค พวกผมก็นัดอ่านหนังสือเลิกเรียนทุกวันถึง 18.00 น. ผมก็ขึ้นพี่เมล์กลับเช่นทุกวัน เมื่อขึ้นมาบน

รถเมล์ผมจะหาที่นั่งทันทีเพราะก่อนหน้านี้ผมไม่รู้คิดเป็นรึเปล่าว่าเหมือนถูกลวนลาม ตั้งแต่นั้นมาผมนั่งตลอดรถที่ผมขึ้นไม่ค่อย

แน่น หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน ผมเปิดเพลงฟังจากโทรศัพท์ หยิบหูฟังขึ้นอุดหู ทอดสายตามองบรรยากาศนอกรถ

สงสัยผมจะนั่งเพลินไปหน่อยมีคนมานั่งข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เอ๊ะพี่ธนผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคอนโดพี่แกอยู่ทางเดียวกับบ้านผม

“นั่งเหม่อคิดถึงพี่อยู่หรอ” บ้า

“พี่มาทำอะไร...รถเสียหรอ” พี่ธนไม่ตอบคำถามผม แต่หยิบหูฟังผมไปใส่หูตัวซะงั้น

“มาส่งเด็ก เดี๋ยวคนอื่นคาบไป” ผมมองหาเด็กพี่ธน แล้วผมก็เข้าใจที่แท้แกหมายถึงผม ผมคิดว่าคงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนวันนั้นอีกแล้วเพราะพี่ธนแก้ปัญหาให้แล้ว โชคดีจังเลยที่มีคนหน้าตาดีอยู่ข้างข้างสาวสาวบนรถคงอิจฉาผมแน่แน่

พี่ธนมาส่งถึงหน้าบ้านแล้วนั่งแท็กซี่กลับ พี่ธนเห็นผมกลับบ้านดึกเป็นห่วงเลยมาเป็นบอดี้การ์ดให้



********************************************************************************************
ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยดีเท่านี้ไหร่ หายไปนานขอโทษจ้า  :hao5: :hao5:
เมนบอร์ดเสียพอดีมันเก่าต้องตามหาอยู่นานร้านลงโปรแกรมให้ใหม่หมดไปหลายพันทีเดียว
ทางร้านลงโปรแกรมไม่ค่อยสมบูรณ์เปิดเครื่องแล้วรีสตาร์ทตัวเองตลอด เศร้า
ต่อไปน่าจะไม่มีอุปสรรคอะไรแล้ว  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 6 (28/9/58)
«ตอบ #12 เมื่อ28-09-2015 11:32:39 »

พี่ธนดูเหมือนพี่ชายเลยอ่ะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 6 (28/9/58)
«ตอบ #13 เมื่อ28-09-2015 13:59:07 »

ใครบงการทำร้ายต้น

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตอนที่ 7
“เฮ้อ..เกือบตายแน่ะต้น” น้ำวิ่งมาหากอดผมทันที่ออกจากห้องสอบ ซึ่งผมและคนอื่นๆนั่งรออยู่

“เอาน่าวันนี้ก็สอบวันสุดท้ายแล้ว” ผมให้กำลังใจน้ำทันทีวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายวันนี้พวกผมมีสอบครึ่งวัน

มัธยมศึกษาตอนปลายก็สอบวันสุดท้ายแต่สอบตอนบ่าย เด็กมัธยมศึกษาตอนต้นทยอยกลับ

“หิวจังเลย พวกเราไปหาอะไรกินไหม”ผมเอ่ยปากชวนเพื่อนๆ

“ใช้สมองไปเยอะเลยท้องน้ำก็ร้องขึ้นมาแล้วเหมือนกัน”น้ำ

“ไม่ว่าจะใช้สมองเยอะไม่เยอะน้ำก็หาเรื่องกินได้ตลอดแหล่ะ”ผมเห็นด้วยกับตูน น้ำน่ะเขาหิวได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

“งั้นไปหาอะไรกินแถวโรงเรียนดีกว่าวันนี้โรงอาหารน่าจะไม่เปิดนะ”ปุออกความเห็น เป็นว่าพวกเราเดินออกจากโรงเรียนเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆโรงเรียน

“ต้นเอาน้ำส้มเปล่า”ตูน

“ร้านเดิมใช่เปล่า”

“อื้อ เรากับชาญจะไปซื้อน้ำ”ตูนกับชาญเดินแยกออกไปอีกทางเพื่อไปซื้อน้ำให้ทุกคน

“ปุต้นพวกเราไปซื้อขนมดีกว่า”น้ำเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ประตูประอัตโนมัติพร้อมเสียงสัญญาณดังเตือนว่ามีคนเดินเข้ามา พวกเราต่างแยกย้ายเดินหาของกินส่วนผมขอแวะโซนหนังสือในร้านสะดวกซื้อจะมีหนังสือการ์ตูนที่ร้านปกติไม่มีขาย ผมยืนดูหนังสือที่ถูกจัดวางไว้บนชั้นส่วนมากการ์ตูนที่เห็นจะเป็นแบบสองสามเล่นจบไม่เกินนี้มีขายแบบเป็นแพ็คจะได้ราคาที่คุ้ม แพ็คเก็ตที่ห่อหุ่มหนังสือน่ารักตามวัยที่นิยมอ่าน

“ต้น หนังสือการ์ตูนหรอภาพสวยดีนะจะซื้อเปล่า เรายืมต่อดิ” เอ่อเพื่อนน้ำไม่คิดที่จะลงทุนเลยใช่ไหมครับ น้ำเดินมาหาผมมือ
ข้างถือตะกร้าสีส้มที่ข้างในมีขนมหลากหลายยี่ห้ออยู่ในนั้นว่วนมืออีกข้างกำลังดูดน้ำอัดลมในแก้วอย่างสบายใจ

“อืม เดี๋ยวต้นอ่านเสร้จแล้วจะให้น้ำยืมแล้วกัน ว่าแต่ขนมตะกร้าเดียวจะพอหรอ”ประชดครับ

“น่า กินแก้เครียด”

“ดีนะที่น้ำ ไม่ค่อยเครียดไม่งั้นตั้งเหมาร้านเลย”ปุเดินมาอดแซวน้ำไม่ได้

“แล้วปุไม่เอาอะไรหรอ”ผมถามปุเพราะในมือของเขาไม่ได้ถืออะไรมาเลย

“ตอนแรกว่าจะหยิบขนมวาสักสองสามอย่างแต่เห็นขนมในตะกร้าน้ำแล้วเราว่าเราจะช่วยน้ำกินดีกว่า”น้ำแลบลิ้นออกมาอายๆ น้ำคงหิวมากเลยหยิบมาเยอะ

“เสร็จแล้วเราไปจ่ายเงินดีกว่าป่านนี้ตูนกับชาญคงกลับเข้าไปรอในโรงเรียนแล้วมั้ง”ปุรับตะกร้าจากน้ำเดินไปชำระที่แคชเชียร์ ส่วนผมก็เลือกหยิบการ์ตูนสองสามเล่มจากชั้นวางเดินตามปุไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ พวกเราเดินกลับเข้าโรงเรียนที่ตอนนี้พี่ๆมัธยมปลายทยอยขึ้นห้องสอบแล้วแต่บริเวณที่พวกจะนั่งคือบริเวณหน้าอาคารพวกผมเอง เดินมาได้ไม่นานก็เห็นตูนกับชาญกับนั่งเล่นเกมส์บนโต๊ะ

“ตูน นั่นอะไรน่ากินจังเลย”น้ำถามทันที่นั่งลงม้าหินอ่อน

“ลูกชิ้นนิ่ง กับไก่ทอดกินเปล่าเราซื้อมาเผื่อทุกคนเลย นี่น้ำส้มของต้น น้ำมะพร้าวปั่นของปุและน้ำแอปเปิ้ลปั่นของน้ำ”
“ขอบคุณนะ”ผมยื่นมือรับน้ำส้มที่ตูนยื่นมาให้

“อื้ม อร่อยจังเลยตูน”ทันทีที่หยิบลูกชิ้นเข้าปากน้ำก็ร้องออกมาด้วยความพอใจ ทำให้เพื่อนคนอื่นอดใจที่หยิบไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลูกชิ้นขึ้นมาชิมไม่ได้

“อืม อร่อยจริงๆใช้ได้เลย”

“ว่าแล้วทุกคนต้องชอบ ทานเยอะๆนะเราซื้อมาเยอะเลย”ตูน งั้นไม่เกรงใจครับไม่รู้ว่าเพราะอร่อยหรือหิวกันแน่ไม่นานของกินตรงหน้าก็ค่อยๆหมดที่ละอย่างความเร็วในการกินแต่ละคนเริ่มตกลงเปลี่ยนเป็นหันหน้าเข้ากิจกรรมที่ตัวเองชอบ ผมหยิบหนังสื่อการ์ตูนที่เพิ่งซื้อมาแกะพลาสติกที่ห่อหนังสือไว้ออก อ้าในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงนั่งอ่านหนังสืออย่างสบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องเรียนไปซักพักหนึ่งชีวิตชั่งมีความสุขอะไรอย่างนี้หลังจากที่ไม่จับมานานหลายสัปดาห์นเพราะต้องให้เวลาในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ

“ทุกคนได้ของขวัญสำหรับจับฉลากพรุ่งนี้ยัง”ผมถามทุกคนในสิ่งที่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีการจัดงานปีใหม่ในห้องแต่ผมยังไม้ได้ของขวัญส่วนการแสดงอะไรนั้นจุ๊..จุ๊..ความลับ

“ตูนกับชาญได้แล้วพวกเราไปซื้อเมื่อวันก่อน”

“น้ำก็มีแล้ว”

“แล้วปุล่ะ”ผมถาม

“ปุได้แล้วให้ร้านเขาห่อให้เรียบร้อยแล้ว ถามอย่างนี้ยังไม่มีละสิ”

“น้ำว่าแล้วต้นต้องลืมแน่ๆ”จะบอกต้นขี้ลืมใช่ไหม

“งั้นตูนว่าเราไปช่วยต้นไปหาดูของขวัญพรุ่งนี้ดีกว่า”

“เป็นความคิดที่ดีนะ น้ำก็อยากไปเดินเล่นในห้างตากแอร์เย็นด้วยไม่งั้นเราก็ไปกินไอศกรีมกันเถอะ”รู้สึกว่าน้ำไม่ได้มีจุดประสงค์ที่อยากจะช่วยเหลือผมเลยนะ

“ช้าอะไรอยู่เราไปกันเถอะ”พวกผมรีบเก็บของลงกระเป๋าอย่างเร็วเดินออกจากโรงเรียนแล้วกระโดดขึ้นรถเมล์มุ่งหน้าสู่ย่านการค้า ไม่นานรถเมล์ปรับอากาศคันยาวก็จอดส่งพวกเราที่ป้ายหน้าศูนย์การค้าขนาดใหญ่แหล่งรวมวัยรุ่น รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนติดเป็นทางยาวหยุดให้ผู้คนที่สัญจรไปมาข้ามถนน ตึกสูงเสียดฟ้าเสียงเครื่องยนต์ของรถที่สัญจรไปมา เสียงผู้คนพูดคุยกันรู้สึกววุ่นวายยังไงไม่รู้ไม่ค่อยชอบเลย

“เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกนี้ร้อนมากเลย”น้ำ น้ำเดินนำพวกเราเข้าไปในศูนย์การค้า

“แล้วตูนต้องการอะไรเป็นของขวัญล่ะ”ตูนถามผม แล้วผมต้องถามใครว่าแต่ผมต้องการขอวขวัญแบบไหน

“ปุว่าพวกเราเดินดูไปเรื่อยๆดีกว่า บางทีอาจจะของที่ถูกใจก็ได้นะ”ปุพูดได้ดี ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกวิธีนี้น่าจะดีที่สุด

“ต้น ตุ๊กตานี่ก็น่ารักนะเหมาะกับต้นดีนะเราว่า”เดินผ่านร้านตุ๊กตาน้ำหยิบตุ๊กน่ารักขึ้นมา

“ต้นไม่ได้เลือกซื้อให้ตัวเองแต่กำลังเลือกซื้อไปฉลากนะอย่าลืมซิ”ปุพูดได้ถูใจเรามากเลย

“เราเดินเลือกมาหลายแล้วยังไม่มีอะไรน่าใจเลยสักอย่าง ตอนนี้น้ำหิวแล้วเราไปแวะกินไอติมกันเถอะ”น้ำเริ่มงอแง ผมเข้าใจว่าตัวแองเป็นคนเลือกมากแต่เพื่อนก็ต้องมาก่อน

“เราไปกินกันก่อนเถอะต้นก้เหนื่อยแล้วเหมือนกันเดินมาต้องแล้วกินอะไรเย็นๆเผื่อจะคิดอะไรออกก็ได้”เดินมาตั้งนานรบกวนคนอื่นตั้งนาน พวกเราเดินหาร้านไอติมนั่งกัน

“ร้านนั้นน่านั่งดีนะ”น้ำชี้ไปร้านไอติมที่ตกแต่งได้น่ารักดึงดูดลูกค้าเข้าไปนั่ง ทุกคนเห็นด้วยกับน้ำขี้เกียจต้องเดินหาแล้ว

“โอ๊ย ปวดขาเดินขาแทบลากเลย แล้วต้นจะเอายังไงยังไม่ได้ของขวัญพรุ่งนี้เลย”น้ำ

“ต้นไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งรู้ว่าหาของขวัญนี่มันยากอย่างนี้นี่เอง”เบื่อจังยากกลับบ้านแล้ว

“น่า กินไอติมเอาแรงก่อน พี่ครับขอเมนูด้วยครับ”ตูนเรียกพนักงานขอเมนู พนักงานเดินมาพร้อมเมนูวางไว้บนโต๊ะ

“โห ดูสิมีแต่แบบที่เราทั้งนั้นเลยอยากกินทุกแบบเลย”เรื่องกินนี่ไม่สามารถห้ามได้เลยเขาเต็มที่กับมันเสมอ พวกเราสั่งในแบบที่ตัวเองชอบพนักงานจดรายการแล้วเดินไป

“แล้วทุกคนห่อของขวัญอะไรกัน”

“อ๊ะ อ๊ะ อย่านะอย่าหลอกถามให้ยากน้ำไม่บอกหรอก”

“ตูนเอาพวงกุญแจที่พี่ซื้อมาฝากจากเมืองนอกอ่ะส่วนชาญเอาโมเดลรถ”

“แล้วปุล่ะ”

“กระเป๋าใส่ดินสอ”

“ทำไมทุกคนบอกหมดเลยอย่างนี้ก้ไม่ตื่นเต้นสิ ก็ได้ของเราเป็นเครื่องเขียนจากญี่ปุ่นเสียดายเหมือนกันแต่ก็อยากให้เพื่อนคนอ่านลองใช้บ้างจะได้ติดใจเหมือนน้ำ”จ้าจ้า

พวกเรานั่งกินไอติมไปจนหมดถ้วยแต่ผมยังคิดอะไรไม่ออกจึงตัดสินใจกลับดีกว่าตอนเย็นค่อยให้ที่บ้านพาออกมาหรือสั่งซื้อทางเน็ตให้เขาไปส่งที่บ้านก็ได้ตอนนี้ผมก็เหนื่อยมากแล้วอยากกลับไปหลับ

ครืน ครืน โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นใหญ่เลย ปรากฏชื่อคนโทรเข้า
“หวัดดีครับพี่ธน....อยู่ห้างกำลังจะกลับ...ครับ” พี่ธนโทรมาถามว่าอยู่ไหน ไปหาที่ที่ผมเคยนั่งไม่เจอ ผมว่าอยู่ห้างแกเลยให้ผมรอที่นี่จะมาหา รอไม่นานครับ คนหล่อหน้าบูดก็โผล่มา

“ทำไมไม่บอกพี่ล่ะว่าออกมาข้างนอก หิวไปหาอะไรกินป่ะ” สุดหล่อหงุดหงิด โมโหหิวครับ ต้องตามใจไม่งั้นมีงอล ตกลงเป็นอาหารญี่ปุ่นคงรู้ว่าผมชอบ พี่ธนบอกไม่ชอบร้านอาหารที่จับเวลาต้องนั่งลุ้นตลอดเวลา รีบกินอีก ก่อนเข้าร้านบางที่ต้องรอคิวอีก อารมณ์เหมือนผมเข้ากันได้

“เป็นไงเราไม่อร่อยรึไง ทำไมทำหน้าตาอย่างนั้น”

“ยังไม่ได้ของจับฉลากพรุ่งนี้ เลยเซ็งๆ”

“เออ เป็นเรื่องที่น่าเบื่อจริงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่ก้เกือบตายคิดเรื่องของขวัญนี่แหล่ะ”

“แล้วพี่เทียนเอาอะไรครับ”

“นาฬิกาข้อมือ” อ้อน่าสนใจแต่ไม่อยากลอกเลียนแบบใคร

“อ้าวนี่ทานเนื้อปลาแซลม่อนจะได้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น”พีธนตักเนื้อปลาแซลม่อนให้ผม ผมคีบเข้าปากแล้วเคี้ยว ไม่รูว่าเค้าไปหิวมาจากไหนกินเยอะมากเขาทานท่าทางอร่อยมากทำให้ผมอยากทานอาหารขึ้นมา ผมเลิกคิดเรื่องของขวัญมาสนใจคนตรงหน้าจากที่พี่ธนกินคนเดียวตอนนี้เราทั้งสองกำลังเริ่มแย่งกันกินแต่เขาก็ยอมเสียสละให้ผมตลอด

ผมเอนตัวนอนลงบนเตียงยังคิดไม่ออกเรื่องของขวัญแต่ยังไงก็ต้องมีของขวัญไม่มีทางเลือกผมลุกขึ้นจาดเตียงเดินไปที่โต๊ะขีดเขียนอะไรลงบนกระดาษ คนที่ได้ของขวัญของผมจะร้องไห้หรือดีใจ 555 ต้องลุ้นต่อไปผมจัดการห่อของขวัญ
นัดรวมพล 7.00 น.เตรียมสถานที่จัดงาน

"ชาญช่วยเอาสายรุ้งไปห้อยไว้ตรงนั้นหน่อยดิ"

"น้ำ นี่โต๊ะสำหรับลงทะเบียนถ้าเพื่อนคนไหนเอาของขวัญมาแล้วให้ลงชื่อแล้วเขียนได้เลย"

"ต้นหอมหวมวกปีใหม่ช่วยแจกเพื่อนที่มาแล้วด้วยนะอย่าเพิ่งใส่นะ......"อะไรของหัวหน้าผมมาถึงเห็นสั่งคนโน้นคนนี้
หัวหน้าสั่งพวกเราแล้วก็หันไปเช็คความพร้อมอาหาร เครื่องดื่มติดต่อซุ้มน้ำ ของว่างคุณครูที่รักบอกว่าเป็นเค้ก
ขนมขบเคี้ยวและผลไม้มีจากผู้ปกครองหลายคน ขอบคุณครับ แปดนาฬิกาเคารพธงชาติ ผู้อำนวยการอวยพรปีใหม่ล่วงหน้า
 
วันนี้งดการเรียนการสอน ตอนเย็นจะมีงานสำหรับคุณครูและสมาคมศิษย์เก่า นักเรียนต่างแยกย้ายเข้าห้องเรียนเสียงเพลงแต่ละห้องก็ดังขึ้น อาหารของว่างเครื่องดื่มทยอยมาส่ง คุณครูที่รักกล่าวเปิดงานและอวยพรเหล่าลูกลิงทั้งหลาย เจี๊ยกๆ

“ใกล้จะปีใหม่แล้ว ครูขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ใครที่จะเดินไปไกลไปเที่ยวขอให้ระวังตัวด้วยนะ”

“ขอบคุณครับ”

“หลังจากที่คุณครูอวยพรให้พวกเราแล้วก้เชิญนั่งดูการแสดงของพวกเราได้เลยนัครับเริ่มด้วยการแสดงของกลุ่มแรก รายชื่อกลุ่มอยู่ในมือผมแล้ว”หัวหน้าค่อยเปิดดู

“เป็นกลุ่มของต้อนหอม ต้นหอมพร้อมไหน”ผมยกมือขึ้นบอกว่าพวกผมแล้ว พวกผมจัดสถานที่เพื่อจะแสดงโชว์ มีเก้าอี้ 2 ตัวไมโครโฟน ใช่ครับร้องเพลง ผมเป็นคนร้องชาญมือกีต้า

“ผมต้นและชาญเป็นตัวแทนกลุ่มแรกที่จะมาแสดงจะมาให้อวยพรปีใหม่ด้วยเสียงเพลง ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย” เสียงกีต้าดังขึ้น พร้อมกับเสียงปรบมือ มองไปด้านหลังเห็นปุกำลังถ่ายวีดีโอจากมือถือ น้ำและตูนก็ไม่น้อยหน้า

ขอบคุณที่รักกัน (Acoustic Version)
ฉันเคยเกือบ พลาดสิ่งที่ดีที่สุด ในชีวิต
หากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมด ทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย
  *** ขอบคุณที่รักกัน ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
                จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
สักวันหนึ่ง ฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอก เธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย
( * )
( * )
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด 
 
สีกีต้าจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือ เป็นกลุ่มผมที่จับฉลากของขวัญ เปิดออกมาผมถุงกับอึ้งคนที่ไดของคือ ปุ
ส่วนคืออะไรนั้นเดี๋ยวเรามาเฉลย
กลุ่มต่อมาการแสดงเต้นcover การแสดงและการจับฉลากดำเนินไปเรื่อยเมื่อโทรศัพท์ผมสั่น

Pꞌธน: ร้องเพลงเพราะจังนะ
ต้นหอม : งง
งงคับเกิดอะไรขึ้นอีก
Pꞌธน: เปิดในเฟสครับ
ต้นหอม : เห็นแล้วคับ อิอิ
Pꞌธน : ช่วงปีใหม่นี้ว่างเปล่า
ต้นหอม: ชวนออกเดทหรอ
Pꞌธน: โทษทีพี่ไม่คิดสั้นขนาดนั้น
ต้นหอม: ง่ะ  :mew3:
Pꞌธน:จะชวนไปเที่ยว ก่อนเรียนจบอยากเที่ยวกับน้องด้วย ไปนะ
ต้นหอม: น่าสนใจใครไปบ้าง แล้วน้องเอาใครไปได้บ้าง พี่เลี้ยงน้องนะ
Pꞌธน: จำนวนยังไม่นิ่ง เอาไปได้อย่าเยอะ น้องคนเดียวพี่เลี้ยงได้
ต้นหอม :  :mew3:
Pꞌธน: รายละเอียดเพิ่มเติมบอกอีกที

ผมเปิดเฟสขึ้นชัดเลย ผมกำลังร้องเพลงมีคนเข้ามากดไลน์ คอมเม้นใต้ภาพเยอะมากดังอีกแล้ว
Tonหอม@NewYearPartyatschool with…… ปุคับเอาลงทั้งภาพทั้งเสียงชัดเจนมาก แท็กมาให้ผมด้วยขอบคุณคับ

น้ำพุ : พี่ต้นร้องเพลงเพราะจัง
MOOMEE: ร้องให้ฟังบ้างนครับ
ChangE: เป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีมาก
@@WanOnE : รักเลย
 **P’OnE: เนื้อคู่พี่เอง

และอีกรูปหนึ่ง 555  ของขวัญปีใหม่ บัตรทานอาหารคับอาหาร 500 บาท ที่สำคัญปุมันเปิดประมูล @@เปิดประมูลบัตรทานอาหารคับอาหาร 500 บาท @@ของต้นหอมนะคับไม่ใช่ตัวต้นต้นหอม เริ่มต้นที่ 500 บาท555 อายง่ะทำไปได้

ตาล : 600
Pea Pea: 700
คนนี้ที่ใช่ : 750
รักนะ เด็กเด็ก : 800
ผมนั่งเลื่อนอ่านคอมเม้นไปเรื่อย

“โตไปช่วยขนกับข้าวขึ้นมาดิ” เสียงหัวหน้าห้องกำลังสั่งให้โตไปขนอาหารที่อยู่หน้าโรงเรียนร้านเข้าไม่ได้เพราะพี่ยามไม่อนุญาติ ต้องไปรับเอง

“อยู่หน้าโรงเรียนนะนี่เงินรีบไปรีบมานะ” อ้าวบ้าเปล่าสั่งให้มันไปคนเดียวตั้งสามสิบกว่ากล่อง แล้วบอกเพื่อนพูดยังงี้หรอ ผมนั่งอยู่หน้าห้องมีโต๊ะที่ขนออกบังอยู่ เลยได้ยินทั้งคู่คุยกันโดยตั้งใจ โตนี่โตแต่ตัวจริงตั้งแต่เข้ามาก็โดนหัวหน้าใช้งานตลอด ถือว่าหัวหน้าดูเด็กใหม่

“นี่....ข้าวตั้งเยอะตั้งแยะโตถือคนเดียวคงไม่ไหว.....เดี๋ยวเราไปช่วยถือเอง”

“ขอบใจนะต้น..เป็นเหมือนที่เพื่อนพูดไว้เลย”

“เรื่องอะไร”

“ก็ใจดีไง”ไม่ชอบใจเลยนะ พูดแบบนี้หาเรื่องหรอโตก็ไม่กลัวหรอกนะ

“ปุ ชวนน้ำกับชาญไปช่วยกันของหน่อย”ผมเลยต้องลากเพื่อนผมไปช่วยกันถือ เดินผ่านห้องอื่นกำลังจัดปีใหม่กันสนุกสนาน
คนส่งอาหารอยู่หน้าโรงเรียนจ่ายเงินเรียบร้อยครับ สั่งไป 40 กล่อง

มีแถมมาด้วยน่ารักจัง ตอนไปนี่สบายตอนกลับหนักอ่ะนิดหน่อย ที่สำคัญมีแฟนคลับมาเอาขนมมาให้ทั้งนมขนม คุกกี้ เค้ก
ส่วนมากเป็นร้านอร่อยที่ผมเคยไปกินแล้วเอาลงเฟส

และบางคนทำเองน่ารักมาก วันนี้ก็มีตะกร้าหวายนมช็อคโกแลตในขวดแก้วตุ๊กตาหมีกวอดขวดนมอยู่และขนมบราวนี่ 
ตะกร้าหวายจะชอบชอบโผล่มาในวันพิเศษ นอกจากแฟนคลับอยากแสดงตัวจะเอามาให้เองที่เหลือไม่มีทางรู้ได้
เป็นมื้อเที่ยงที่กินพร้อมพร้อมตากับเพื่อนในห้อง


*******************************************


ตอนนี้ผมกำลังเดินทางจากกรุงเทพเพื่อมุ่งหน้าไปที่ เขาค้อ เพชรบูรณ์ ไปกับเพื่อนเพื่อนพี่ธนเพราะครั้งอาจจะการเที่ยวครั้ง
สุดท้ายหลังจากเรียนจบเพื่อนพี่เค้าต้องไปเรียนที่อื่นกัน ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกตอนไหน เพื่อนผมไม่มีใครว่าง

 ผมถูกที่บ้านทิ้งก็เลยมากับพี่เขาซะเลยไปด้วยกันทั้งหมด 10 คน เช่ารถตู้ไป 2 คันผมนั่งข้างพี่ธน ข้างหลังมีกระเป๋าและเหล้ากับแกล้มของสดอัดใส่ลังโฟมไป อุปกรณ์ตั้งแคมป์ ผ้าห่ม ถุงนอน พวกพี่เค้าตกลงขับไปเรื่อยแวะทานข้าวเช้าที่ปั๊มน้ำมัน

ให้รถคันผมขึ้นนำ  ตามด้วยอีกคันตามกันไป กางแผนที่ใช้เส้นไหนผ่านที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ร้านอาหาร ของกิน ส่วนของฝากต้องเป็นตอนกลับ ตัดสินใจไปเส้นหลัก ตอนนี้ผมไม่ค่อยปลื้ม เพื่อนพี่ธนน่าารักทุกคน

ออกมาตั้งแต่เช้าแวะโน่นนี่นั่นไปเรื่อยพี่แกถ่ายรูปตลอดทางที่ว่าง บอกว่าสร้างความทรงจำ พี่เขาคงคิดถึงเพื่อนเพื่อนแน่เลย
ขึ้นม.ปลายจะได้อยู่ห้องเดียวกับเพื่อนสนิทเปล่าไม่รู้ ถ้าผมมีเพื่อนสนิทแล้วต้องไปเรียนที่อื่นไกลผมก็คงเป็นคนหนึ่งที่คิดถึงเพื่อน ผมลืมบอกไปอีกเรื่องพี่เกื้อพี่ชายต้องไปเรียนต่อที่เยอรมันหลังจากที่เรียนจบ

ตอลอดเวลาเกือบ 2 ปีที่พี่เขาดูแลผมเนี่ยมีความสุขนะ เอาไว้น้องเก็บงินแล้วจะไปเยี่ยมนะโชคดีที่วันนี้ผมไม่ขี้เกียจพกกล้องมาส่วนมากผมจะเป็นคนถ่ายให้ มองรูปถ่ายในกล้องคนข้างข้างผมคงมีความสุขมากยิ้มทุกรูปเลย

ช่วงนี้รถยังไม่เยอะ ถนนยังโล่ง นั่งรถมาเรื่อยรู้สึกหูเริ่มเอื้อ แสดงเข้าเขตเขาค้อแล้ว หมอกเริ่มลงอากาศเริ่มเย็นมาที่พักที่จองไว้ประมาณ 16.30 น. เช็คอินด่วนเลยครับที่พี่เขาจองไว้เป็นโซนตั้งแคมป์ มีพวกผมเท่านั้น กางเต้นครับ 6 หลังหันเป็นแนวตรงหันหน้าเข้าหากองไฟ แต่ละเต้นทิ้งระยะห่างกันพอสมควร เลือกเองใครจะนอนเต้นไหน

ด้านหน้าเต้นเป็นกองไฟครับทางรีสอร์ทมาเตรียมให้ เก้าอี้สนามที่เตรียมถูกกางไว้ ขนของเข้าเต้นผมนอนกับพี่เกื้อตามคาด
ดูท่าอุณหถูมิคืนนี้น่าจะติดลบช่วงดึกดึก ผมก็จัดเต็มเตรียมถุงนอนอย่างหนาผ้าห่มผ้าสำลีครับถึงอุ่น ถุงมือ ถุงเท้าใส่นอน
หมวก ผ้าพันคอ ลองจอนยูนิโคลบางบางแต่อุ่นไม่หนักผ้ายืดเสื้อไหมพรม เสื้อแขนยาวด้วย

ไม่เอาเสื้อขนเป็ดอากาศไม่หนาวมากมันมีกลิ่นคาวอ่ะ พวกผมแบ่งกันไปอาบน้ำ พี่ธนไปนั่งเฝ้าผมหน้าห้องน้ำ มีห้องน้ำสำหรับคนที่ตั้งแคมป์ ห้องน้องแยกเป็นห้อง บรรยากาศรอบข้างสวยดี ห้องน้ำเป็นฟักบัวมีเครื่องทำน้ำอุ่น อาหารเป็นปิ้งย่าง

พี่เค้าเตรียมเตาปิ้งเป็นของรีสอร์ท  ผมแต่งตัวเสร็จใส่กางเกงขายาวแบบหลายกระเป๋า กับเสื้อยืด สวมถุงเท้าและรองเท้าแตะเดินไปช่วยพี่

“น้องต้น...หิวแล้วเดินตามกลิ่นอาหารมาหรอ” มาถึงก็แซวไหนบอกให้น้องไปอาบน้ำก่อน

“พี่นุให้ต้นช่วยนะครับ” พี่นุกำลังหั่นเนื้อใส่จาน เพื่อเตรียมโต๊ะอาหาร เลือกช่วยพี่นุเพราะไม่อยากอยู่หน้าเตา
ไฟสว่างขึ้นเมื่อท้องฟ้ามืดลง พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ บนโต๊ะอาหารที่ตั้งไว้

“น้องต้นไม่หนาวหรอ ไม่ใส่เสื้อแขนยาว” พี่ไม้เมืองทักผม

“พอดีทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวติดกลิ่นอาหาร” ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นอาหารติดบนเสื้อผ้า พวกพี่เขาก็คุยกันไปผมไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ผมก็ถ่ายรูปไปด้วย กินไปด้วยของฟรีคับวันนี้ กินอิ่มก็แยกย้ายอาบน้ำผมเข้ามานอนในเต้น ไอ้พี่ธนกลับมาในเต้นนุ่งผ้าเช็ดตัวสวมเสื้อยืดกับผมที่ชื้นๆ เข้ามามันก็มากอดผมเลยครับ หนาวดิครับไอ้บ้าเล่นอะไรไม่รู้

“เฮ้ยธน....ตั้งวงว่ะ” ผมโผล่หัวออกไป กินเหล้าครับแก้วพลาสติก กระติกน้ำแข็ง เหล้าเบียร์ โซดา ขนมกับแก้ม อย่างเยอะ พี่พี่นั่งรอบกองไฟ ผมนั่งเสื่อคับนั่งเก้าอี้เย็นขาใส่หมวกกับเสื้อแขนยาว ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว พี่พี่เริ่มกึ่มๆกันแล้ว ผมไม่ถูกอนุญาตให้กินครับ ยังเด็กอยู่ ห่างกันแค่ปีเดียวเอง

“น้องต้นคบกันกับไอ้ธนหรอ” เงียบครับไม่มีใครตอบ

“เป็นพี่น้องกันครับ” ผมตอบเหมือนดารา เซเลบ กลัวเพื่อนพี่แกรับไม่ได้ถ้ารู้ว่าพี่ธนตามจีบผมอยู่

“มึงถามทำไม” พี่ธนถามคับ ท่าทางไม่ค่อยพอใจ

“เปล่ากูเห็นน้องน่ารักดีว่ะ สเป็คกูเลย” อ้าวถามผมยังพี่เปคผมเปล่า เมาแล้วเริ่มรั่วอะพี่ ที่จริงพี่มันก็น่าตาดีนะพี่ธนบอกไม่ใช่เพื่อนสนิทพี่แก เพื่อนพี่กอล์ฟ

“มึงอย่ายุ่งน้องกู...เมาแล้วก็ไปนอน” พี่แกยอมลุกขึ้นดีครับ พี่ธนแกดุจริงครับ

“เฮ้ย..มามากินต่อไม่ต้องสนใจคนเมา” แล้วทุกอย่างก็กับเข้าสถานปกติ พี่จิมครับเล่าเรื่องมิติลี้ลับ เปล่าครับผมไม่ได้กลัวนั่งไกลไม่ได้ยินเลยเบียดพี่ธนนิดหน่อย

“เฮ้ย..ไม่ขึ้นมาตักพี่เลยล่ะ” พี่ธนครับคนพูด  ที่เหลือก็หัวเราะกัน ง่ะก็มันไม่ได้ยินไง มองนาฬิกาไม่นานจะเข้าปีใหม่ เตรียมนับถอยหลัง ผมก็เล่นไฟเย็นครับ น่ารักสมวัย

4
3
2
1
Happy New Year

ผมนี้ส่งคำอวยพรมือเป็นระวิงครับ ที่บ้าน เพื่อน บนเฟสบุ๊คแฟนคลับ เตรียมจะเข้านอนพี่พี่เคลียสถานที่ดับไฟ เก็บขวดเหล้าเข้าผมมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในเต้น ล้มตัวลงนอน ซักพักเต้นเปิดออก พี่ธนคงเข้ามานอน มันมุดเข้ามาในผ้าห่มแล้วใช้มือล้วงเข้าไปในถุงนอน จมูกก็ซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอผม ผมตกใจครับถึงพี่ธนจะกอดจะหอมผมแต่ไม่เคยทำอย่างนี้

 ผมลืมตาขึ้นไม่ใช่คับไม่ใช่พี่ธน มันใช้มือข้างหนึ่งรวบมือผมไว้เหนือหัวมันจูบผมพยายามจะสอดลิ้นเข้ามาในปากผมผมเลยกัดลิ้นมันเลือดออก มันเลยตบผมเป็นการสมนาคม ดาวนี้กระจายเลยครับ มันยิ้มท่าทางจะชอบ ไอ้โรคจิต ผมพยายามจะดิ้นมันใช้มืออีกข้างชกลงมาที่ท้องผม อีกแล้วคับจุก

“เอ้อ...ทั้งหอม ทั้งนุ่ม เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด” ตอนนี้ไม่มีแรงเลยครับจะร้องก็ร้องไม่ออก ไอ้บ้านี่มันใช้มือรูปไปทั่วหน้าอกผม แล้วใช้ริมฝีดูดเม้มตุ่มไตสีชมพูที่หน้าอกผม ผมขยะแขยงมากน้ำตานี้ไหลเลย

“ เอ้ย..พลั๊ว มึงทำอะไรน้องกูวะ” พี่ธนครับเข้ามาเห็นจัดการดึงไอ้บ้าที่กำลังจะข่มขืนผมออกไป ผมได้ยินเสียงคนทั้งสองแลกหมัดกันกันอยู่ข้างนอก

“เสียงเอ๊ะอะอะไรวะ” เสียงพี่นุคงได้เสียงคนทะเละกันเลยออกมาดู

“ใจเย็นเย็น...พวกมึงทะเลาะอะไรกัน”เสียงพี่ไม้เมืองเข้ามาห้ามอีกคน ข้างนอกกำลังห้ามศึกกันไปมา ก่อนที่ไอ้บ้านั้นจะโดนเหยียบจนตายผมก็ลากสังขารออกไป เห็นพี่พี่จับคนทั้งสองแยกออกจากกัน พี่ธนเห็นผมเดินออกก็รีบเดินมาหาผมแล้วสวมกอดผมไว้เบาเบาเป็นการปลอบผม จากการสอบปากคำจำเลยรับสารภาพว่าเมาขาดสติ

มันบอกว่าคิดว่าผมเป็นเด็กที่พี่ธนหิ้วมา ชั่วคราวแต่ก่อนพี่ธนเด็กเยอะแต่เดี๋ยวแกบอกว่าเลิกแล้ว หยุดแล้ว และผมปฏิเสธไม่ได้เป็นอะไรกันเลยอยากเอาผม ผมนี้อึ้งรับประทาน แต่ลองคิดดูถ้าไอ้บ้านี่ไม่โง่ก็ตาบอดพี่แกดูแลผมดีมากแต่ไม่เคยล่วงเกินผมนะ ต่อหน้าคนอื่น พูดจาให้เกียรติผม ไม่เคนแสดงเป็นเจ้าของผม แต่แกก็ดูแลผมอย่างนี้ตลอดตั้งแต่รู้จักกัน พี่แกก็ขอโทษ ผมผู้เสียก็ไม่ติดใจอะไรมากเพราะไม่อยากให้บรรยากาศมาเที่ยวกร่อยไป ผมนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยาแก้อักเสพ ยาพารา

ตื่นเช้ามาเห็นคนตัวโตนอนอยู่ซุกอยู่หน้าอกผม ผมปลุกพี่เขาขึ้นมามองดุนาฬิกา 7.15 น. ต้องออกไปทานเข้าเพราะมื้อเช้าทานที่รีสอร์ท ออกมาจากเต้นพี่พี่ทยอยกันตื่นแล้ว ล้างหน้าแปรงฝันกันเสร็จแล้วก็ทานมื้อเช้า ท่าทางจะยังเมาค้างกัน พี่เชนนี่น่าจะหนักสุด เพื่อนแกบอกว่าประจำ อาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยว ที่แรกที่ตกลงกันไปวัดครับ ปีใหม่ต้องไปไหว้พระขอพร

ล้างซวยคับ 5555 ทำบุญ ไหว้พระ ถ่ายรูปสมใจ ไปต่อที่น้ำตกครับไปเล่นน้ำ ที่นี่ตอนกลางวันอากาศร้อน แดดแรงด้วย 
พี่พี่แกอยากเล่นน้ำ ผมก็อยากเล่นแต่โดนห้าม ผมพี่ธนเลยเตรียมเครื่องดื่ม ขนมไว้รอ พี่ธนนั้งเกากีต้าพี่นุร้อง
สาวสาวแถวนั้นมองกันเต็มเลย เล่นซักพักใหญ่ก็เริ่มหิว ผมโพสลงในเฟตถามแฟนคลับ ได้ที่อยู่ชื่อร้านมาก็ไปกันโล้ด

ร้านสเต็กมีอาหารไทยด้วย บรรยากาศดี มีให้อาหารแกะ จำหน่ายของที่ระลึก สตอเบอรี่ องุ่น ผักไฮโดพอนิก เห็ดสด มะขามหวาน เรายังไม่ซื้อฝากวันนี้ตกลงว่าจะแวะซื้อพรุ่งนี้ก่อนกลับ พวกเรายืนอยู่บนหน้าผาสูงมองพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงเพลิงแต่ตอนนี้อ่อนแสงลง ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าผมหันมองหน้าพี่ธนที่ยืนด้านข้าง ผมหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจนั้น

อีกรูปถ่ายจากด้านหลังผู้ชายตัวโตทั้งเก้าคนยืนมองดูดวงตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าทั้งวันแต่ตอนรอบข้างกำลังค่อยค่อยถูกย้อมด้วยสีดำ

*******************************************************************************************
ขอบคุณสำหรับทกคอมเม้นส์ และคำติชม ผิดพลาดประการใดขอโทษด้วจ้า
 :hao5: :hao5:

TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2015 15:23:47 โดย jaengs »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตอนพิเศษ


ต้นหอม...ส่งเรียงความภาษาอังกฤษยัง” เสียงน้ำเรียกผมให้เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่อยู่ตรงหน้า

“ส่งแล้วน้ำมีอะไร”

“น้ำไม่ค่อยถนัดกลัวคุณครูอ่านแล้วไม่เข้าใจ  ต้นดูให้น้ำหน่อย”

ใช่ครับได้ยินไม่ผิดตอนนี้ผมกลับมาจากไปเที่ยวแล้วของฝากก็แจกเรียบร้อย ที่บ้านจะเป็นของสด เพื่อนๆจะเป็นขนม มะพร้าวแก้ว มะขามกวน น้ำผลไม้ ส่วนแฟนคลับเป็นพวงกุญแจครับได้ของฝากกันทั่วหน้า เปิดเรียนมามีงานครับส่งเรียงความภาษาอังกฤษวันปีใหม่ของข้าพเจ้า

“เสาร์นี้ไปเที่ยววันเด็กกันถอะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าตาคนชวน ตูนชวน นายคงไม่ชวนเราไปนั่งรถถัง ขี่เฮลิคอปเตอร์ ดูหนังฟรี อ่านข่าว วาดภาพระบายสี หรือขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีใช่เปล่า อ้อที่สำคัญอย่าลืมไปจำคำขวัญวันเด็กไปด้วยนะ

“จะไปที่ไหนกัน” ผมถาม แต่ทุกคนเงียบ ตกลงกันว่ามาเจอกันหน้าโรงเรียนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไปกันต่อ

“เอางี้มารวมตัวที่โรงเรียนก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะไปที่ไหนต่อ”ปุ

“ก็น่าจะดี เพราะถ้าให้คิดคงคิดไม่ออกหรอก”น้ำ

“น้ำ ต้นดูให้เราน้ำแก้ประโยคต้องนี้มีคำศัพท์บางคำที่ผิดแล้ว.....”ผมช่วยน้ำดูการบ้านก่อนที่จะไปส่ง

เช้าวันใหม่มาถึงวันนี้ผมตื่นแต่เช้าพยายามทำหน้าให้เด็กที่สุดในชีวิต แปดนาฬิกาผมก็อยู่หน้าโรงเรียนกำลังยืนตรงเคารพธงชาติ วันนี้รถติดมากผมได้ขึ้นเมล์ฟรีด้วยแสดงว่าว่าหนังหน้ายังได้ เพื่อนผมก็ทยอยมาตัดสินใจไปเดินตลาดหิวข้าวหาข้าวกินก่อน เดินผ่านป้ายรถเมล์ผมเห็นเจกำลังนั่งอยู่คนเดียว

“อ้าว..เจมานั่งทำอะไรคนเดียว” เจกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ เห็นผมทักก็ยิ้มหล่อเชียว

“เจโดนทิ้งอ่ะต้น” อกหักหรอไม่น่าใช่ ท่ามานั่งเล่นหรือรอใครมากกว่า

“พวกเรากำลังจะไปกินข้าวกันไปด้วยเปล่า” ใจง่ายมากครับไม่มีท่าทางอึดอัด หรือเกรงใจเลยแถมเดินตามต้อยต้อยอีก พวกเราเดินมาถึงซอยร้านอาหารเส้นนี้จะมีร้านอาหารหลายอย่างสามารถสั่งร้านไหนก็ได้เขาจะมาส่งแล้วจ่ายเงิน ร้านอาหารเส้นนี้เปิดทั้งวันเพราะใกล้ตลาด และชุมชน

“ต้นจะไปไหนกัน” เจกินข้าวมาตั้งนานเพิ่งมาสงสัยครับ

“วันนี้ต้นจะไปเที่ยววันเด็ก แต่ยังไม่รู้เลยว่าไปที่ไหน” อายตอบครับ

“หรอ...เรารู้จักที่หนึ่งรับรองพวกต้นไม่เคยไป” คงไม่ได้หลอกเอาไปขายนะเจ ปุยังทำหน้าที่นักข่าวเก็บภาพพวกเรานั่งกินข้าวกัน เปิดเข้าไปดู คนเข้ามาคอมเม้นเยอะเลย

ข้าวปั้น : พี่ต้นไปไม่ชวนปั้น
ขนมหวาน : พี่ต้นน่าตายังได้
dEETee: เจอกันนะคับพี่พี่
จอมป่วน: พี่ไปด้วย
เด็กโต: น้องต้นมาเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง
พี่ไผ่ : พี่รักเด็กครับ..ชื่อต้นหอม

กินข้าวเสร็จพวกผมเดินตามเจไป ค่อนข้างไกลพอสมควรแต่สถานที่มันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ดูเปลี่ยวเปลี่ยว พอมาถึงเจก็พาพวกผมเข้าไปน่าจะเป็นโรงหนังนะมีคนขายตั๋วเจมันซื้อให้พวกผม ราคา 40 บาท พวกเราเดินตามกันเข้าไป

บรรยากาศมีกลิ่นอัพหน่อย ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าผมนี้ยืนตาค้างเลย ผมตัดสินใจวิ่งออกมา ชาญ ปุ ตูน น้ำ วิ่งออกตามผมมา
ไอ้เจมึงตาย กูจะฆ่ามึง หันหลังกลับไปไอ้เจกำลังหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอยู่ ผมนี่หน้าร้อน เพื่อนผมแต่ละคนหน้าแดงเลย

มันหัวเราะจนพอใจแล้วเข้ามาขอโทษพวกผม ส่วนผมมันบอกว่าจะเลี้ยงขนมขอโทษสุดท้ายวันนั้นพวกผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ 


****************************************************************

สายฝนโปรยปรายลงมาอีกแล้ววันนี้ดูท่าทางจะตกทั้งวัน ผมนั่งอยู่ในรถกับพี่เกื้อนั่งฟังเพลงที่เปิดคลอเบาเบา ที่ปัดน้ำฝนยังทำหน้าที่กวาดน้ำฝนที่โปรยปรายลงหน้ากระจกอย่างขยันขันแข็งฝนตกอากาศเริ่มเย็น เราทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารที่จองไว้สำหรับเลี้ยงส่งตัวเอง พรุ่งนี้ตอนเย็นพี่เขาจะออกเดินทางแล้ว พวกเราเลยร่วมใจกันไปถล่มพี่เกื้อครั้งสุดท้าย 5555

พี่เกื้อขับรถออกมารับผมที่บ้านเพราะกลัวที่บ้านไม่อนุญาตไม่ให้ออกมาเพราะว่าเย็นมากแล้ว แต่ตอนนี้ติดแง็กอยู่บนท้องถนนเพราะฝนตก ผมมองของขวัญในมือที่จะให้พี่ชายผมในงานปาร์ตี้คืนนี้ อย่าคิดว่าผมแอบหนี้เที่ยวนะผมบอกพี่ธนแล้ว
ตอนแรกไม่อยากไม่มา สุดท้ายก็ต้องยอมต้นหอมซะอย่าง

“ต้นขอบคุณนะที่มางานส่งกับพี่” เออ ไม่เป็นไรครับมากินฟรีผมชอบ ท่าทางพี่แกหน้าเศร้ามาก เห็นใจครับ

“พี่ยังเก็บของไม่เสร็จเลยอาจจะมีของบางอย่างที่ต้องเอาไปบริจาค” คนหล่อใจดี

“พี่ไม่คิดจะกลับมาเลยครับ”

“ทำไมคิดถึงพี่หรือเรา”

“อ่ะ..นี่ของขวัญของต้นให้พี่เป็นคนแรกเลย” ผมยื่นกล่องของขวัญให้

“ว้า..พี่นึกว่าเราจะผูกโบว์ตัวเองเป็นของขวัญให้พี่ซะอีก” 55555 มามุกไหนพี่ อย่ามองน้องอย่างนั้นจิน้องกลัว ตั้งแต่ที่พี่เขาขอดูแลผม ก็ไม่เคยเห็นควงใครอีกเลย พี่เกื้อเปิดของขวัญของออกดูก็ยิ้มท่าทางจะถูกใจ

“เอาไว้ดูต่างหน้าจะได้ไม่ลืมน้อง ชอบเปล่า” เป็นจี้ครับทองคำขาวรูปต้นหอมราคาไม่แพงมาก สั่งทำพิเศษ

“ชอบ..ชอบทั้งของชอบทั้งคนให้” หยอดอีกละ 
 
รถขับเข้ามาจอดในร้านอาหารบรรยากาศเหมือนบ้านมากกว่าร้านอาหาร อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ มีคนเริ่มทยอยเข้ามาในงานแล้วเป็นเพื่อนพี่เกื้อทั้งหมด มีรุ่นน้อง รุ่นพี่ ท่าพี่แกจะกว้างขวางมาก มีเวทีเล็กเล็ก เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากร้องเพลง

พี่เกื้อลากผมไปโน่นมานี่เดินตามพี่เขาตลอดแกกลัวผมนั่งเหงาคนเดียว ผมช่วยรับของขวัญ มีเขียนคำอวยพรในสมุดด้วย
ส่วนของตอบแทนที่มางานเป็นพวงกุญแจทำเป็นรูปตุ๊กตาเรซินตัวพี่เกื้อแบบต่างๆ น่ารักเปล่าความคิดผมเอง ในงานมีซุ้มนั่งถ่ายรูป รู้สึกเหมือนงานแต่งงานยังไงไม่รู้ แขกเริ่มมากันแล้ว ก็มีร้องเพลงจากรุ่นน้อง จากเพื่อน คนแกนั่งน้ำตาคลอเลยครับ

ผมยังเดินถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ เอาไว้ส่งไปให้ดูทีหลัง เดินวนรอบอาหารของคาวของหวาน จึงตักอาหารสองสามอย่างไปให้คนแก่กลัวว่าอิ่มอกอิ่มใจไม่ทานอะไรจะเป็นลมไปซะก่อน ตอบแทนที่ดูแลผมมาตลอดแม้เป็นแค่ช่วงเวลาไม่นานแต่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเวลาหนึ่งครับ สุดท้ายคนหล่อก็ขึ้นร้องเพลงแทนความในใจ

ผมช่วยพี่เกื้อขนของและกล่องของขวัญขึ้นหลังรถ แล้วกลับคอนโดตกลงวันนี้ต้องไปค้างกับพี่ธนครับ เพราะดึกแล้วแกเลยยอมให้ผมไปงานเลี้ยงพี่เกื้อ ผมช่วยพี่เกื้อขนกล่องของขวัญขึ้นคอนโดรอพี่ธนมารับแล้วผมช่วยเก็บของลงกล่องอะไรที่จะบริจาคเก็บใส่กล่องจะให้ฝากให้พี่ป็อปเอาไปบริจาคทีหลัง กระเป๋าเดินทางพี่เกื้อมีใบเดียวสี่ล้อ 28 นิ้ว

แต่ของที่เก็บใส่กล่องเยอมากมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เกิด มันน่าใจหายนะเพื่อนเพื่อนก้อยู่ที่นี่กันหมด ของขวัญส่วนมากชิ้นเล็กๆเพื่อนแกคงรู้ว่าชิ้นใหญ่มีน้ำหนัก มีทั้งรูปถ่าย นาฬิกาข้อมือที่รวมเงินซื้อกันซื้อ ของขวัญรวมเกือบ 20 ชิ้นรวมกันแล้วน่าจะหลายแสน คนตัวโตตอนนี้หลับไปแล้วผมเข้าไปหยิบหมอนในห้องแล้วยกหัวคนตัวโตขึ้นแล้วห่มให้

 ส่วนผมพี่ธนมาแล้วอยู่ข้างล่างคอนโดผมปิดไฟกดล็อคห้องแล้วลงมาหาพี่ธน ภาพบรรยากาศเก่าเก่า ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
กินข้าวด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เกื้อเคยทำให้ หลั่งไหลเข้ามาในสมองเหมือนภาพที่ฉายออกมาให้เห็นซ้ำอีกครั้งถึงแม้จะจากกันไปไกล แต่ความรู้สึกที่มีให้กันความผูกพันยังคงอยู่

“สนุกไหมหนีพี่ไปเที่ยว”พี่ธนถามผมทันที่ที่ขึ้นรถ

“ก็ดีงานมันเศร้าอ่ะพี่ธน ร้องไห้กันเต็มเลย” พี่ธนรู้ว่าคิดกับพี่เกื้อเพียงพี่น้องแกเข้ามากอดปลอบผมเบาเบา ผมชอบจังเวลาที่พี่ธนเข้าปลอบผม อ้อมกอดนี้ กลิ่นนี้ ของผมคนเดียว

ผมยืนมองตารางแสดงเที่ยวบินที่ กรุงเทพ-เบอร์ลิน ที่จะออกจากท่าอาศยานแห่งนี้ในไม่กี่นาทีข้างหน้า ใช้เวลาในการเดินทางประมาณยี่สิบกว่าชั่วโมง ผมพาพี่เขาไปโหลดกระเป๋าส่งเข้าเกต ก่อนออกจากสนามบินถ่ายรูป ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย
ลงเฟสแท็กไปหาพี่เกื้อ ส่วนความหมายก็คือที่นี่ยินดีต้อนรับพี่เสมอนะครับ ส่วนผมก็นั่งแท็กซี่ออกมากับพี่ธน
มองดูท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยสีดำ เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายที่มา เสียงเครื่องยนต์ แสงไฟจากหลอดนีออน
รู้สึกใจหายที่จะไม่ได้เจอพี่ชายแล้วแต่อยากบอกว่า “โชคดีนะครับพี่ชายที่แสนดี ของผม”

********************************************************************************************
 :katai4: :katai4: ผิดพลาดประการใดขอโทษด้วจ้า
TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2015 15:24:13 โดย jaengs »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 8 (20/10/58)
«ตอบ #16 เมื่อ20-10-2015 08:44:08 »

ตอนที่ 8
“ นักเรียนวันนี้คุณครูมีเรื่องมาแจ้งให้ทราบนะคะ หัวหน้าช่วยครูแจกเอกสารด้วยค่ะ”

กระดาษขนาดเอสี่เพื่อนที่นั่งอยู่แถวหน้าได้รับจากคุณครูกำลังส่งต่อไปให้เพื่อนทุกคนในห้อง

“ทุกคนดูกระดาษที่ครูแจกให้นะคะ เป็นรายละเอียดการประกวดโครงงาน” พอได้ยินคำว่าโครงงานจบครับผมวางกระดาษแผ่น

นั้นลงบนโต๊ะทันที

“ มีของรางวัลด้วยนะคะ รางวัลชนะเลิศเป็นทุนการศึกษา 15,000 บาท สำหรับชนะรอบแรก ชนะรอบสอง ได้ทุนการศึกษา

45,000 บาท ส่วนรอบชิงชนะเลิศ 100,000 บาท” ได้ยินคำว่าทุนการศึกษาเท่านั้นแหล่ะ ครับหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาแทบ

ไม่ทัน เงิน หุหุหุ ผมหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านรายละเอียดทันทีรอบแรกแข่งในระดับเดียวกันหรอเนี่ยอันนี้พอจะชนะได้นะถ้า

พยายาม แต่รอบสองแข่งในช่วงชั้นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหนึ่งถึงสามก็พอไหว แต่รอบสุดท้ายตัดสินจากทั่งหมดงานนี้มันหิน

ชัดๆ แต่มองเห็นจำนวนเงินที่ชนะเลิศในแต่ละรอบทำให้ตอนนี้ตาเป็นประกายระยิบยับเลยจำนวนเงินนี่มันน่าลองจริงๆ

“ถ้าใครสนใจมาขอใบสมัครกับครูได้ค่ะ ส่วนครูที่ปรึกษานักเรียนสามารถเลือกเองได้ จำนวนสมาชิก ไม่เกิน 5 คน สงสัยอะไร

ถามครูได้ค่ะ.....” คุณครูกำลังร่ายยาวอยู่หน้าชั้นมีเพื่อนหลายๆเดินเข้าไปถามคุณครูโครงงานมีส่วนในรายวิชานี้ถึงยี่สิบคะแนน

เลยทีเดียวผมหันหน้าไปถามสมาชิกทั้งสี่คน ปุ น้ำ ตูน และชาญ ทุกคนพยักหน้าซึ่งหมายความว่าทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าจะ

สมัครประกวดโครงงาน “ต้นพวกเราจะทำเรื่องอะไร” ผมกำลังกรอกรายชื่อสมาชิกหยุดมือแล้วใช้ความคิดยังไม่รู้เพราะที่จะทำ

เดิดจากอาการเงินบังตาอยากทำโดยไม่คิดอะไรนอกจากเงิน

“เรื่องอาจารย์ที่ปรึกษาเลือกใครดีอ่ะ” ปุถามขึ้นมา

“เอาคุณครูที่ปรึกษาคุณครูดารุนาร์ท ไหม” ถามว่าทำไมต้องเลือกคุณครูท่านนี้ เพราะโสดครับต้องมีเวลาให้พวกผมแก่ครับคน

แก่ใจดีรักเด็ก มีบ้านพักในโรงเรียนครับ ที่สำคัญคุณครูสนิทกับพวกผมมมากถามว่าไปสนิทกันตอนไหนได้ยังไงก็เคยไปช่วยงาน

บ่อยคุณครูเลยตอบแทนโดยซื้อขนมมาฝากบ่อยแต่ติดตรงที่คุณครูเป็นหัวหน้าห้องปกครองทำให้ดูน่าเกรงเกรงอยู่ซักหน่อยแต่

ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรครูที่ปรึกษาไม่น่ามีปัญหา เรื่องที่จะทำนี่สิครับต้องใช้เวลาผมเลื่อนสายดูวันที่กำหนดส่ง

โครงงานรอบแรก อื้อน่าจะทันถ้าทุกคนร่วมมือกัน

“ต้นไปกินข้าวกันเถอะถึงเวลาแล้ว”อ้าวถึงเวลาแล้วหรอสงสัยตั้งใจมากไปหน่อยเลยไม่ได้ยินเสียงออดพักเที่ยง

“น้ำทำการบ้านเวิชาภาษาอังกฤษสร็จยังที่คุณครูบอกให้ส่งภายในอาทิตย์นี้....”เสียงตูนกำลังบ่นกับน้ำอยู่ข้างๆผมเดินที่โรง

อาหาร
******************************************************************************

ผ่านไปหลายวันแล้วไม่ว่าจะนั่งคิด นอนคิด กินไปคิดไป ก็ยังคิดไม่ออก

“นี่พวกเรา ดูข่าววันนี้ดิ มีข่าวแท็กซี่เก็บเงินผู้โดยสารได้เอาไปคืนด้วยอ่ะ” ครับผมดีใจกับเจ้าของเงินด้วยที่ได้คืน ต้องจุดพลุเปล่าน้ำ

“หายากนะในปัจจุบันที่คนเราจะคุณธรรม ซื่อสัตย์ต่ออาชีพตัวเอง” ปุครับสวมวิญญาณนักวิชาการ กำลังวิภาควิจารณ์สังคมไทยในปัจจุบัน

“ใช่!!!!!!!! เรารู้แล้วว่าจะทำเรื่องอะไร” 555555 ผมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่แล้วในที่สุดผมก็คิดเรื่องที่ทำโครงงาน

ประกวดผมบอกให้ทุกคนเอาหูมาใกล้ใกล้แล้วให้ตั้งใจฟังอีกไม่กี่สัปดาห์การประกวดรอบแรกจะเริ่มขึ้นแล้ว

“ปุ น้ำ ตูน ชาญ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมเอาเสื้อผ้ามาด้วยเย็นพรุ่งนี้ไปนอนที่บ้านต้น เราจะเริ่มทำโครงงานกัน”ในที่สุดเราก้เข้าใกล้ความฝันอีกขั้นหนึ่งแล้ว

บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่หนึ่งไร่เศษ พื้นที่บริเวณรอบบ้านปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นแก่ผู้พบเห็น มีศาลาสี

ขาวสำหรับนั่งเล่นในสวนสวย เด็กเด็กปูเสื่อนั่งประชุมงานเตรียมความพร้อมประกวดโครงงานอย่างตึงเครียด ใช่ครับได้ยินไม่ผิด

กำลังตรึงเครียด พวกเราจะทำโครงงานนิทานคุณธรรม เรื่อง พระรัตนตรัยที่หายไป เนื้อเรื่องได้แล้วครับน้องต้นซะอย่าง

ส่วนเรื่องรูปภาพช่วยกันครับ ในที่สุดออกมาเป็นรูปร่าเวลาที่รอคอยของพวกก็มาถึง

“ สวัสดีครับผมเด็กชายพีรวัฒนพงษ์ ..... เป็นตัวแทนกลุ่มที่ 3 จะมานำเสนอโครงงานนิทานคุณธรรม เรื่อง  พระรัตนตรัยที่หายไป เชิญรับชมครับ

   พระรัตนตรัยที่หายไป ตอนพระรัตนตรัยที่หายไป

ณ ดินแดนอาณาจักรแห่งคีล อาณาจักรที่ซึ่งถูกปกครองด้วยกษัตริย์แห่งคีล ผู้ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิศราชธรรมประชาชนจึงอาศัยด้วยความสงบสุขร่มเย็นข้าวปลาอาหารน้ำท่าล้วนอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องบ้านเมืองที่คนทั้งเรียกว่า “พระรัตนตรัย” คือแก้วอันประเสริฐหรือสิ่งล้ำค่าที่ควรเคารพบูชาสูงสุดในพระพุทธศาสนา 3 ประการ แก้วดวงแรก คือพระพุทธ หมายถึง พระพุทธเจ้าและเป็นผู้ที่ค้นพบพระธรรมทั้งหลาย ด้วยองค์เอง แก้วดวงที่สอง คือพระธรรม หมายถึง คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แก้วดวงที่สาม คือ พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์และชายที่บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา และศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่อาณาจักรแห่งนี้มานานกว่า 1,000 ปีแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์ของพระรัตนตรัยได้ดึงดูดผู้คนทั่งดีและชั่ว มามี่เมืองเพราะดินแดนนี้ได้ชื่อดินแดนแห่งวิถีพุทธไม่นานเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อกษัตริย์แห่งคีลได้สิ้นพระชนม์ แล้วกษัตริย์แห่งคีลที่ 2 ก็ได้ขึ้นครองราชย์หากแต่กษัตริย์พระองค์มีจิตใจที่ชั่วร้านต่างจากผู้เป็นบิดาอย่างมาก ลุ่มหลงในอบายมุขทั้งหลาย ทั้งสุรา นารี การพนัน ไม่สนใจกิจการบ้านเมือง ข้าวปลาที่อุดมสมบูรณ์ก็เริ่มขาดแคลน บ้านเมืองเริ่มวุ่นวาย หลักธรรมที่ชาวเมืองปฏิบัติมาเป็นเวลานานหลายั่วอายุคนก็ค่อยๆ ลืมเลือน

   ตอน เมื่อไตรสิกขายังอยู่

หลักธรรมที่ทุกคนเคยปฏิบัติตาม เริ่มสูญหาย และถูกหลงลืมไป หากแต่ยังมีบุคคลผู้หนึ่งที่ยังคงรักษา ไตรสิกขา3
ผู้นั้นคือผู้เป็นแม่ พระชนนนีของกษัตริย์แห่งคีลที่ 2 ในความรู้สึกที่เลี้ยงบุตรให้หลงผิดจึงพยายามทำความดีเพื่อลบล้างความชั่ว
   กล่าวถึงกษัตริย์แห่งคีลที่ 2 ที่จิตใจด้านมืดของตนเองครอบงำ แล้วนำความชั่วร้าย ต่างๆมาสู่อาณาจักรแห่งนี้” ฮ่า ฮ่า ข้าช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ ข้าอยากจะเป็นกษัตริย์มานานแล้ว” ภายใต้ค่ำคืนแห่งรัตติกาลที่มืดมิดผู้คนในเมืองต่างหลับใหลอยู่บนที่นอนอย่างมีความสุข เกิดเหตุการณ์แลกประหลาดขึ้น ณ หุบเขาที่เก็บรักษา พระรัตนตรัย นั่นคือหุบเขาแห่งคีล พระรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิ์ได้เปล่งแสงอันเจิดจ้า แล้วลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ความสว่างของแสงพระรัตนตรัยปลุกผู้ในเมืองจากการหลับใหลให้ตื่นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกในรอบพันปีที่พระรัตนตรัยแสดงฤทธิ์เดชและทันใดนั้นเองพระรัตนตรัยได้แตกออกเป็นสามดวง พระรัตนตรัยดวงแรกลำแสงสีขาวสุดประเสริฐพระพุทธเจ้า ได้ลอยไปตกทางเหนือของอาณาจักร พระรัตนตรัยดวงที่สองลำแสงสีแดงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้ลอยไปตกทางตะวันออกของอาณาจักรและพระรัตนตรัยดวงสุดท้ายลำแสงสีเหลืองพระสงฆ์ได้ลอยไปตกทางใต้ของอาณาจักร
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้ผู้คนอย่างมาก
“มันคงถึงเวลาของการล่มสลายของอาณาจักรคีลแล้วหรือนี่”

   ตอน โอวาทแห่งพระพุทธเจ้า

บัดนี้เมืองที่เคยสงบสุขร่มเย็น ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วย ทุจริต3 คือความชั่วทาง กาย ชาวเมืองมีนิสัยเห็นแก่ตัว ไม่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอาหารขาดแคลนเพราะคนไม่สนใจประกอบอาชีพจึงทำให้มีการขโมยเกิดขึ้น ทางวาจา ผู้คนพูดโกหก ไม่มีความจริงใจให้กิน พุดจากันด้วยคำหยาบ ทางใจ คิดอิจฉาริษยาผู้อื่น
   เวลาล่วงเลยแล้วล่วงเลยเล่า จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน เป็นปี ที่กษัตริย์ยังคงหลงผิด อาณาจักรอ่อนแอลง ทำให้อาณาจักรรอบข้างเข้ามาหาประโยชน์
   เมื่อเทพเบื้องบนเห็นเหตุการณ์จึงออกอุบาย แปลงกายลงมา ทำทียกทัพมารบกับอาณาจักรคีล หากไม่อยากสู้รบ ให้มอบพระรัตนตรัย อาณาจักรคีลไม่มีพระรัตนตรัยเพราะได้ถูกพระรัตนตรัยทอดทิ้ง กษัตริย์แห่งคีลจึงต้องเป็นเชลย และให้เด็กหนุ่มนามว่าไรน์ออกตามหาพระรัตนตรัย

   ตอน ด้วยแรงแห่งศรัทธา

   การออกเดินทางเพื่อตามหาพระรัตนตรัยจึงได้เริ่มขึ้น
ในค่ำคืนหลังจากพระรัตนตรัยได้หายสาบสูญไปเกือบ 10 ปี ในที่สุดไรน์จึงพบ พระพุทธ ซึ่งลอยอญุ่เหนือต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ไรน์ใช้เวลาในการเดินทางตามหาพระรัตนตรัยดวงแรกถึง 1,000 วัน
ณ ชายทะเลยามเช้าแห่งหนึ่ง ผืนน้ำทำเลถูกปกคลุมๆปด้วยหมอกจางๆ อากาสเย็น ยามใกล้รุ่ง อีกไม่กี่ชั่วอึดใจพระอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาทักทายสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลก ไรน์เดินทางมาด้วยความลำบาก แต่แล้วเพราะความศรัทธาเชื่อมั่นว่าจะต้องเจอ ที่สุดก็พบพระรัตนตรัยดวงที่สอง

   ตอน สิ้นสุดการเดินทาง

ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมากษัตริย์ได้รับรู้ถึงความยากลำบากที่ประชาชนของเขาที่ได้รับ
รุ่งอรุณแสงแรกของวันพระจันทร์หมดหน้าที่เปลี่ยนให้พระอาทิตย์มาแทนในที่สุดไรน์ก็ได้เดินทางกลับมาพร้อม พระรัตนตรัยทั้ง 3 ดวงเหตุการณ์ทุกอย่างล้วนคลี่คลาย พระรัตนตรัยถูกนำกลับกุบเขาแห่งคีล ความสงบสุขก็กลับมา “พระรัตนตรัยไม่เคยทอดทิ้งเรา แต่เราต่างหากที่เป็นผู้ทอดทิ้งพระรัตนตรัย”

เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งหอประชุม นักแสดงออกมายืนหน้าเวทีพร้อมทั้งโค้งคำนับขอบคุณ ท่านผู้ชมและคณะะกรรมการ ครั้งนี้เป็นการตัดสินครั้งสุดท้าย คะแนนมาจาก คณะกรรมการ ผู้เข้าชม 100 คน

“เฮ้อเหนื่อยเป็นบ้าเลย” ผมบ่นครับ แต่ผลงานที่ออกมาก็สมกับที่ต้องเสียเวลาทุ่มเทซ้อมมาหลายวัน เตรียมตัวกับผลงานมาหลายสัปดาห์ในที่สุดมันก็ผ่านได้ด้วยดีกว่าจะมาถุงจุดนี้กว่าจะมายืนอยู่บนเวทีนี้ได้ตั้งมาอะไรมาเยอะเลยทีเดียว

“ต้นว่าพวกเราจะชนะไหม” ตูนครับ  พวกเราทำดีที่สุดแล้ว

“น่าขำขำ ไม่นึกว่าจะมาถึงจุดนี้เลย” เห็นด้วยกับชาญใช่ครับคิดไม่ถึงจริงจริง

“เชิญนักเรียนที่เข้าประกวดโครงงานขึ้นบนเวทีทุกท่านค่ะ เราจะประกาศผลรางวัล” อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าการประกาศผลจะออกแล้ว

“กลุ่มที่ชนะเลิศการประโครงงานครั้งนี้ได้แก่......”


***************************************************************************************
ตอนนี้เป็นอะไรที่แบบทางการนิดหนึ่ง

TBC.
Don't miss it......


 :z2: :z2: :z2: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 9 (7/11/58)
«ตอบ #17 เมื่อ07-11-2015 17:04:07 »


ตอนที่ 9

ติ๊ด ติ๊ด ...... เสียงนาฬิกาภายในห้อง ปลุกผมขึ้นมาจากห่วงแห่งความฝัน เฮ้อ ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว ครับเหตุการณ์นั้นมันผ่านไป

แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปดื่มค่ำบรรยากาศกดดันขนาดนั้น เล่นเอาผมเก็บมานอนฝันอยู่นาน คนที่คอยหลีกเลี่ยง หลบหนีการ

แสดงออกต่อหน้าผู้คน ไม่ใช่ไม่มีความสามารถแต่ไม่ชอบบรรยากาศที่ถูกกดดัน ถูกคาดหวังแต่เพราะคำว่าทุนการศึกษาตัวเดียว

ที่ทำให้ผมต้องกระโดดลงไปอยู่ ณ จุดนั้น ใช่ครับกลุ่มผมชนะเลิศได้เงินรางวัล เกียรติบัตร มาครอบครอง เงินรางวัลแบ่งเท่ากัน

 และออกเงินส่วนหนึ่งไปช่วยทำบุญ ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว การแสดงละครเวทีของพวกผม ปรากฏลง เฟสบุ๊คผม แฟนคลับ

 นักเรียนโรงเรียนผมเข้าดู ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ต่างความคิด เปิดกว้างครับเรื่องอย่างนี้ ผมได้รับสิ่งของแสดงความยินดีจากเพื่อน จากแฟนคลับ และพี่ธน

“พี่ต้นเก่งจังเลยครับ” อันนี้เรื่องจริงไม่เถียง

“เพื่อนเพื่อนพี่ช่วยกันครับ” เพราะคำว่า เพื่อน นี่แหล่ะครับทุกอย่างจึงสำเร็จ

“น้องต้นแสดงเก่งเลย” อันนี้เถียงครับไม่ได้แสดงอารายมากเลยครับ 5555 แล้วจะหัวเราะทำไม

 เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็เข้าห้องน้ำชำระร่างกาย พร้อมที่จะสู้วันใหม่แล้ว
……………………………………………………………………….
“ทั้งหมดตรง ทั้งหมด...” ผู้บังคับบัญชาแสดงท่าทางยืนตรงยืนแขนเหยียดตรงตั้งแขนขึ้นทั้งสองข้างไปข้างหน้า เป็นคำสั่งให้

ลูกเสือตั้งแถวตอนลูกเสือชายล่วงเลยเข้าสู่วัยสูงอายุแต่ยังดูแข็งแรงใบหน้าดูอ่อนโยนผิดกับรูปร่างใหญ่โตเหมือนคนที่ขยันออก

กำลังตลอด

“ตามระเบียบพัก วันนี้ตรูมีเรื่องแจ้งให้ทราบ” รู้สึกว่าเจอหน้าครูโรงเรียนนี้ทีไรมีเรื่องตลอด

“ลูกเสือ ม.3 จะได้ไปเข้าค่ายที่ ลพบุรี.......” นั่งรถไฟไป ครับ ปีสุดท้ายแล้วครับยังไงก็คงต้องไป หันหน้าไปมองเพื่อนในแถวที่ยืนส่งกำลังใจมาให้ผม

“ครูแจกเอกสารขออนุญาตผู้ปกครอง แล้วรวบรวมส่งด้วย ส่วนอีกใบเป็นตารางกิจกรรมการเข้าค่าย เราจะแบ่งลูกเสือออกเป็น 4

กอง กองละ 6 หมู่ หมู่ละ 10 คนเดี๋ยวครูจะให้เขียนรายชื่อสมาชิกส่งครูภายในคาบและจะให้แบ่งหน้าที่ในหมู่ว่าใครทำอะไรไปบ้าง ........”

10 คนครับพวกผมต้องหาสมาชิกอีก 5 คน ตื่นเต้นครับที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปลำบากด้วยกันน่าสนุก รายชื่อสมาชิกในกลุ่มครบแล้วครับ เหลือแต่ส่งคุณครู

“ต้นคะแนนสอบเป็นยังไงบ้าง” ผลสอบเก็บคะแนนก่อนปลายภาคครับ

“ก็ดีน้ำล่ะ เป็นยังไง” น้ำทำสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ

“ไม่ค่อยดี เพราะถ้าคะแนนเทอมนี้ออกมาดีที่บ้านจะพาไปเที่ยวน้ำเลยกังวลนิดหน่อย” อ้อ น้ำเรียนใช้ได้ เก่งนะครับ คงกังวลไม่

ได้ไปเที่ยวมากกว่า ส่วนผมปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ทำดีที่สุดแล้ว เพราะเวลาเรียนผมจะไม่แตะอย่างอื่นครับ เรียนคือเรียน

เล่นคือสุดๆครับเป็นลูกคนที่สี่ไม่มีอะไรต้องห่วงพี่พี่จัดการหมดแล้ว ผมห่างจากพี่คนแรก 15 ปี ห่างจากคนที่สอง 13 ปี ห่างจาก

คนที่สาม 6 ปี ผมลูกหลงครับ ว่าแต่ไปเที่ยวผมก็อยากไปบ้างแต่ที่บ้านไม่มีใครว่างเลยซักคนรู้สึกโดนทิ้งตลอดเลยแหะ
 
“ชาญ..ชาญได้เตรียมเชือกมาผูกเงื่อนด้วยไหมวันนี้” ตูนหนุ่มน้อยน่ารักสดใสร่าเริง ตัวติดกันกับชาญตลอดสองคนนี้ดูเหมาะกัน

ยังไงไม่รู้ “อื้ม”ไอ้นี่ก็กลัวดอกพิกุลร่วงออกจากปาก ประหยัดคำพูดเหลือเกิน แต่ดูสองคนนี้เข้ากันได้ดีนะครับ มองสองคนนี้ทีไร

ผมสองคนนี้อนทีไรเหมือนมีบรรยายกาศสีชมพูแผ่กระจายรอบๆว่าไปนั่นผมล่ะจิ้นทุกทีโอ้ยเลือดกำเดาจิไหล

“วันนี้จะครูจะทบทวนเรื่องเงื่อน และสอนเงื่อนแบบใหม่” ตายล่ะ แบบเก่ายังทำไม่เป็นเลย แบบใหม่ออกมาอีกแล้ว ห่วย

ผมขอยอมรับผิดผมไม่ถนัดวิชานี้เลย ผูกเงื่อนไม่เป็น ดูแผนที่ไม่เป็น ดูเข็มทิศยิ่งแล้วใหญ่ หันซ้ายขวาก็ยังสับสน อายครับ

“ปุ น้ำ ตูน ชาญ จำเผื่อเราด้วยนะจะได้มาสอนเรา ครูสอนเร็วเราตามไม่ทัน” 5555 ผมขอตัวช่วยครับ

“หรอ!!”สามเสียงประสานกันอย่างลงตัว ยังนี้สิถึงเรียกว่าเพื่อนรู้ตื้นลึกหนาบาง คนเราจะให้เพอร์เฟคไปหมด ก็ไม่ใช่คนแล้ว
 
“ต่อไปครูจะแจ้งตำแหน่งหน้าที่ ภายในแต่ละหมู่”

 ให้ผมเป็นหัวหน้าหมู่คงไม่ไหว

“ให้ต้นเป็นหัวหน้าคนครัวดิ ต้นทำอาหารอร่อย” แม่นแล้วแต่ไปในป่า ไม่มีหม้อหุงข้าว ไม่มีเตาแก็สต้นจะทำได้หรอ

“มีการแสดงรอบกองไปด้วยนะ” ขอบายครับไม่ถนัด วันนั้นไม่อยู่ ป่วย ไม่สบาย เจ็บท้องปวดหัวหน้ามืดตาลาย

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ทั้งหมดจัดแถว..... เลิก” คิดหนักครับทำอาหาร สิ่งที่ต้องกังกลเตา กระทะหรือหม้อ ข้าวจะสุขไหม โจทย์ทำ

อาหรในในกิจกรรมคือ หุงข้าว อาหารต้มไก่ ผัดกระเพราะหมู

........................................................................

 “ต้น น้ำ ทางนี้เร็ว” ครับผมกับน้ำครับ ทางโรงเรียนนัดขึ้นรถ 7.00 น.หน้าโรงเรียน ตื่นสายครับเตรียมอุปกรณ์เข้าค่าย ตื่นเต้น

ด้วย เป็นความสนุกครั้งสุดท้าย ชีวิตม.ต้น นอกสถานที่ เต็มที่ซะเกือบสายเลย

“โทษที” รีบแสดงยอมรับความผิดชอบ

“ไม่สายหรอกอีก 20 นาที แต่นี่เป็นคันสุดท้ายเพื่อนที่เหลือเราให้ขึ้นคันอื่นไปก่อนแล้ว” ปุครับ อ้อดีครับจะได้ไม่รู้สึกขายหน้า

“ทุกคนมาถ่ายรูปเร็ว” ตูนเรียกถ่ายรูปแต่จะให้ใครถ่ายให้

“พี่ถ่ายให้ใหมครับ” ครับยิ้มขอบคุณพี่ รด.สุดหล่อ วันนี้มีคุณครูประจำชั้น ม.3 ครับไป ฝ่ายปกครอง พี่ ร.ด ชั้นปี 1,2,3

ตูนโพตรูปลงแล้วผมดูดีนะครับวันนี้ จะได้ไปเที่ยวเลยดูสดชื่นเป็นพิเศษ

เสียงหวูดรถไฟดังขึ้นเป็นสัญญาณดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะเคลื่อนที่ออกจากชานชราลูกเสือกว่าร้อยชีวิตกำลังนั่งอยู่

บนรถไฟครั้งแรกในชีวิตกับการนั่งรถไฟของผมตื่นเต้นกว่าคนอื่นพี่ธนยังหัวเราะผมไม่หยุดเลยก็คนไม่เคยนั่งอ่ะ

“พี่ช่วยไหมครับ” ครับ ผมยิ้มเป็นการอนุญาต ผมถือกระเป๋ากำลังหาที่นั่งและที่วางกระเป๋า พี่ รด.ใจดีก็อาสาช่วยผม มองออกไป

สองข้างทาง ดูทิวทัศนียภาพ รถไฟว่างมากครับเป็นช่วงเวลาที่คนไม่เดินทางวัน เป็นวันปกติ คุณครูบอกว่าเสาร์-อาทิตย์ มีนัก

ท่องเที่ยวเยอะ นั่งไปสักพักหิวข้าวครับ กำลังจะไปหา ปุ  ตูนยื่นตระกร้าหวายและขนมให้ แน่นอนคงเป็นจากคนคนนั้นและแฟน

คลับ ตระกร้าหวายเป็นข้างกล่องอาหรญี่ปุ่นมีหมูทอด ปลาดอลลี่ ไข่ม้วน ไข่ตุ๋น กับน้ำเก็กฮวย ของแฟนคลับเป็นแซนวิส

หมูหยองบาโลน่าหมู คุกกี้

“น้ำ ปุ ชาญ ตูน มาเร็วกินด้วยกัน” ขนมมีเยอะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่มิตรสหาย คุณครูประกาศครับจะแจก ข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำดื่ม

ขนม อีกประมาณ เพราะเกือบ 2 ชั่วโมงจะที่ค่ายพักแรมและต้องต่อรถเข้าไปที่ค่ายอีก พี่รด.คนหล่อต่างช่วยกันแจกหมูปิ้ง ขนม

ลิงน้อยเมื่อได้อาหารไว้ในปากเสียงก็เงียบลง ใครไม่อิ่มขอเพิ่มได้

“น้องต้นเอาหมูปิ้งไหมครับ” พี่รด.สุดหล่อเดินมาถามผมกับเพื่อน ไม่ต้องห่วงครับผมทำข้าวกล่องมาให้ทุกคนครับเป็นอีกสาเหตุที่มาสาย

“ไม่เป็นไรครับ พี่นั่งทานกับพวกผมก็ได้นะคับ” น่าสงสารทำงานหนักเลยชวนกินข้าวด้วย พอดีเหลือข้างกล่องหนึ่ง ของผมเอง

“ข้าวกล่องไหมครับ ต้นทำเองไม่รู้ว่าจะถูกปากรึเปล่า” พี่แกรับไปเปิดกล่องทำหน้ายิ้มๆปนแปลกใจ ทำไมอาหารน่าตาประหลา

ดรึไงกันแต่เขาก็ก้มหน้าก้มทานจนหมด ถ้าผมวางยาแกก็คงตายไปแล้ว พี่แกขอบคุณก็เดินไปทำงานต่อน่ารักจังเลยครับ แต่ยัง
ไม่รู้ชื่อ แต่เท่าที่ดูมากับเพื่อน 5 คน ที่เหลือน่าจะเป็นรุ่นพี่

สายลมเย็นพัดเอื่อยประทะกับใบหน้า ผมนั่งใต้ต้นไม้รอเพื่อนเคลียพื้นที่ แอบส่งไลน์หาพี่ธนเดี๋ยวเป็นห่วง ตอนนี้ผมอยู่ที่ค่ายลูกเสือแล้วครับ รายงานตัวทำพิธีเปิดกอง ตั้งหมู่บริการ แจ้งเวลานัดหมาย คืนนี้ยังไม่มีการแสดงรอบกองไฟ ช่วงเย็นจะเป็นการเก็บคะแนนการประกอบอาหาร ตอนกลางคืนกิจกรรมวัดความกล้า

ส่วนตอนนี้ต้องเตรียมที่พักแบ่งหน้าครับ เคลียพื้นที่ไม่ให้มีหลุมจะได้ไม่มีสัตว์ร้ายออกมายามค่ำคืน  ถอนต้นหญ้าออกป้องกัน

สัตว์แมลงเล็ก เต้นต้องเช่าจากที่เท่านั้น 10 คน 5 เต้นเต้นละ 2 คน ไม่รอบกองไฟ เพราะเวลาผู้กำกับมาตรวจค่ายเข้าแถวตรวจ

จะง่าย ห้าเต้นเรียงหน้ากระดานหันหน้าเข้าหากองไฟ กวาดพื้นให้เรียบ เตาสามขาที่นี่มีให้ พี่รด.สุดหล่อทั้งห้า ขนเต้นมาให้ เตาสามขา เชือกตากผ้า ถุงขยะจอบเสียม น้ำดื่มสำรับทำอาหาร และอุปกรณ์ทำครัว
“น้องต้นครับเดี๋ยวพี่ช่วยกางเต็นท์” พี่ร.ด.คนเดิมเดินเข้ามาช่วยอาสา
“ขอบคุณครับ” ผมยื่นโน่นนี่นั่นให้พี่เขาดูแล้วเพลินดีเก่งจังเลยท่าทางเป็นงาน ในที่สุดก็เสร็จ บริเวณพื้นปรับเรียบร้อย เชือกตาก

ผ้า อันนี้ผมไม่ยุ่งครับให้เพื่อนทำไป หันไปอีกทางเห็นปุกับชาญกำลังทำหลุมขยะเปียก และเสาตั้งถุงดำทำถังขยะแห้ง ฝ่ายเชื้อเพลิงก็พร้อม

“ทำไมลูกเสือหมู่ดีจังเลย มีพี่พี่รด.มาช่วยด้วย” นิวหรอเรานึกว่าตายไปแล้ว อ้าวพี่เขาไม่ได้ช่วยทุกกลุ่มหรอ

“นิวมีอะไรให้ต้นช่วยไหมล่ะ” เสนอตัวครับ

“ไม่ล่ะ พี่พี่ครับไปช่วยนิวทางโน่นหน่อยได้ไหมครับ” อ้ออยากได้ผู้ชาย ก็ไม่บอกเดินมาไกลครับ คงมองอยู่นาน พี่พี่เค้าใจดีเลย

แบ่งกันไปช่วย คนน่าตาดีมีน้ำใจ ถามชื่อครับพี่เขาอยู่ม.4 ห้องเดียวกัน มี พี่อาร์ม พี่บีม พี่เฟรน พี่ต้าร์ และพี่อาร์ทคนที่ช่วยผม

บ่อยบ่อยรู้สึกว่าจะชื่อพี่     เฟรนครับ

“ต้นเตรียมทำอาหารเถอะ เวลาจะไม่พอ” กองอำนวยประกาศให้ไปรับวัตถุดิบมาทำอาหาร ซึ่งก็คือเนื้อไก่ ข้าวสวย 1 กิโล 2 ถุง

 เนื้อหมูผัดกระเพรา ครับ ผมและเพื่อนก่อไปออกเป็นสองเตาครับ กองหนึ่งเราต้องหุงข้าวสำหรับคน 10 คนและส่งอาจารย์

 หุงข้าวครับไม่มีปัญหาผมศึกษายูทูปมาแล้ว หม้อมีขนาดกลาง ต้องหุงครั้งละครึ่งถุง ส่วนอีกเตาต้มไก่ครับ

“สวัสดีครับวันนี้การทำอาหารครั้งแรกแบบเข้าค่ายลูกเสือของต้นหอมเรา....”น้ำกับปุกำลังเล่นเป็นผู้บรรยายถ่ายทำวิธีการทำ

อาหารของผมผมเตรียมเครื่องปรุงใส่ถุงไว้เรียบร้อยจากที่บ้านเมื่อน้ำเดือดโยนลงทันที ตามด้วยเนื้อไก่สับ เนื้อไก่สุกแล้วยกลง

จากเตาปรุงรสชาติ ตักใส่ถ้วยพัดกระเพราต่อ เครื่องที่เตรียมมาพร้อมผัดกระเทียมกับพริกพอหอมใส่เนื้อหมู คนให้เข้ากันสุกแล้ว

ปรุงรส แล้วใส่หัวหอมใหญ่ตามด้วยใบกระเพราข้าวสุกแล้วจัดอาหารใส่จาน ติดป้ายหมู่

“หน้าตาน่ากินจังเลย อย่างนี้ต้องให้ตูนเป็นคนชิม”ไม่ว่าเปล่าตูนหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารมาชิมทีละอย่างตามด้วยด้วยเพื่อนคนอื่นมนกลุ่ม

“อร่อยอ่ะอย่างนี้รับรองผ่านแน่ๆ งั้นชาญตูนเดินไปส่งนะเดี๋ยวที่เหลือเคลียพื้นที่.....”พวกเราแบ่งหน้าที่กันก่อนที่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์จะหายไป

มองท้องฟ้าพระอาทิตย์อ่อนแสงลง ฝูงนกกาบินกลับรังลมพัดเย็นมาแทนที่ ดูท่าที่นี่ตกกลางอากาศคงเย็น ลมพัดเสียงใบไม้กระทบกัน หันมองไปรอบหมู่อื่นๆทยอยส่งอาหารแล้ว บ้างหมู่ส่งเสียงทะเลาะ บ้างพูดคุย ปุผู้สื่อข่าวถ่ายภาพลงเฟส เกาะติดสถานการณ์

และไม่ลืมส่งไปอีกคนยังดีที่ที่นีมีสัญญาณ

“เป็นไงเราตากแดดจนดำเลย “เสียงทักทายมาตามสายที่คิดถึงมาทั้งวัน

“วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยกิจกรรมน่าจะมีคืนนี้อ่ะ”

“อาหารน่าตากินจังเลย ว่างๆอย่าลืมมาทำให้กินบ้างนะพ่อครัวหัวป่า(เถื่อน)” ปากร้าย

“เหงาดิ คิดถึงเขาอ่ะดิ”ผมก็คิดถึงนะแต่ไม่บอกดีกว่า

“ดูแลสุขภาพด้วยล่ะอย่าป่วยกลับมาล่ะ”

“ครับ”ผมวางสายจากพี่ธนรู้สึกว่าความเหนื่อหายไปหมดแล้วรู้สึกสดชื่นมายังไงไม่รู้

อาหารเย็นของเพวกผมวันนี้คือ ปิ้งย่างครับ ชาญหิ้ว เนื้อหมูหมัก ปลาหมึก กุ้ง ปู ใส่กล่องโฟมอัดน้ำแข็งมา คือเรากะมาเที่ยว

ครับกลุ่มอื่นยังทำอาหารกลุ่มผมเริ่มทานแล้วครับ มีต้มยำกุ้ง ยำวุ้นเส้น ปิ้งย่างน้ำจิ้มซีฟู้ด ผัดกะเพราะ ต้มไก่ พวกผม 10 คนแบ่งหน้าแบกหามอาหารครบครับเสื้อผ้าคนละกระเป๋า ขนมของกินอีกคนละกระเป๋า

“พี่เฟรน..กินข้าวยังมาทานกับพวกผมไหม” เพื่อนในกลุ่มครับบอกให้ชวน เพราะพี่แกช่วยพวกผมเยอะเลยตอบแทนน้ำใจ

ที่สำคัญอาหารเยอะครับ พี่เฟรนและเพื่อนเพื่อนมานั่งทานด้วยครับกลุ่มใหญ่เลย

“กับข้าวอร่อยจัง...ใครเป็นคนทำครับ” พี่อาร์มถาม ผมนี้ยิ้มเลยแก้มเกือบแตก ปุนี้รีบบีบแก้มผมไว้เลย 5555

“น้องต้น...ใช่ไหม” พี่เฟรนรู้ได้ไง เจ้าน้ำบอกว่าพี่เฟรนแอบมายืนดู

“ต้นหอม...”ใครเรียก อ้อเจ้าเจบ้า

“เจมีไร” ยิ้มมาแต่ไกล ท่าทางไม่ค่อยไว้วางใจเลย

“เจหิวข้าว ข้าวไม่พอกินไม่อร่อยด้วย” ว่าแล้วเชียวซื้อหวยไม่ถูกนะ

“ข้าวสวยเหลืออยู่นะเจ เจเอาไปแบ่งเพื่อนกินดิ กับเดียวเรายำปลากระป๋อง กับเจียวไข่ให้นะแป็บหนึ่ง” น้ำช่วยตักข่าวให้เจ

เหลือเยอะครับไม่อยากหวง เหลือไว้เสียดายของ เจเป็นลูกมือช่วยจับโน่นนี่นั่นไม่ถึงห้านาที กับข้าวเสร็จ เจกลับไปที่แคมป์

ผมลืมไปว่าเจเป็นเพื่อนกับพี่ธนคงจะเรื่องผมไปฟ้องพี่ธน ที่เดินมาหาผมคงเป็นพี่ธนให้เดินมาดูแน่เลย

“ขอบใจนะต้นหอม เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเอา ของมาให้ต้นหอมทำให้กินดีกว่า” เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะพอใจ ฟากไว้ก่อนนะเจ

พวกผมต้องไปรวมตัวที่หอประชุมประมาณ 18.00 น. เพื่อเข้าฐานวัดความกล้า กลบไฟ ล้างอุปกรณ์ครัว ทยอยกันอาบน้ำครับไปเป็นคู่ มีทั้งห้องอาบน้ำและอาบรวม ผมอยากอาบรวมครับ

“ต้นหอม มาอาบน้ำด้วยกันเร็ว” เจตะโกนเรียกอยากไปครับ แต่น้ำไม่ยอม ปุ ตูนและชาญ ดีดหน้าผากผมเฉยเลย ง่ะดีดเหม่งน้องทำไม ไปอาบในห้องก็ได้   

“ไม่เป็นไรต้นอาบในห้องดีกว่า” เจมันรู้คับ มันส่งยิ้มให้แล้วยักคิ้ว

เสื้อยืด กางเกงขายาวร้องเท้าผ้าใบ ชุดเตรียมวัดความกล้า

“คืนนี้ทุกคนจะได้เข้าฐานทดสอบความกล้ากัน มีทั้งหมด 5 ฐาน ใช้เวลาฐาน10-15 นาที แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 กองกอง 6 หมู่ ตอนกลางในป่ามีแมลง สัตว์มีพิษทุกคนระวังตัว กองที่ 1 เชิญไปที่ ฐาน 1 ......” เดินตามหัวหน้าครับมืดครับ ไม่ค่อยกลัวแมลง กลัวปี๋ครับ

“กองตรง กองวัทยาวุธ เรียบอาวุธ กอง 3 พร้อมที่จะได้รับการฝึกแล้วครับ กองตรง” ผมชะเง้อหน้าไปมองดูนายกอง เท่ครับ
“ตามระเบียบพัก เอาล่ะฐานนี้เป็น จุดตะเกียงครูจะให้ตัวแทนแต่หมู่ หมู่ละ5 คน ออกมาช่วยกันจุดตะเกรียง หมู่ไหนจุดได้เร็วสุดชนะ” เอาแล้วไงครับปีนเชือกขึ้นไปจุดตะเกรียง ใช้เพื่อนเป็นฐานแล้วจุดตระเกรียง

“ให้ต้นเป็นคนจุตระเกียงนะ ต้นตัวหอม” น้ำครับเป็นเหตุผลที่ดีมาก ขอบคุณที่เลือกผม แต่น้ำพูดถูกครับ ให้ปุกับชาญประสานมือกันเป็นแคร่ให้ผมนั่ง แล้วทั้งคู่ยืนขึ้น ผมต้องยืนอยู่บนแขนทั่งสองคน แต่ตอนนี้ผมขี่คอปุคับ

“ต้นเหยียบบ่าเรา จับเชือกไว้ แล้วรีบจุดไฟ” ตามพระบัญชาครับเหยียบก็เหยียบ ถาระกิจลุล่วง เป็นหมู่แรกครับ เฉลยฐานนี้สอนให้รู้จักแก้ปัญหา ความสามัคคี

“ทำไมตูนไม่ขึ้นไปจุดไฟล่ะ ตูนตัวเล็กกว่าต้นอีกนะ” สงสัยครับ

“ตูนไม่มั่นใจกลัวเพื่อนเหม็น” รองเท้าครับตูนครับเน่ามาก

“แต่ต้นตัวหอมนะนุ่มด้วย ถามปุกับชาญได้” ง่ะ อายครับหน้าแดงเลย

เสียงสัญญาณนกหวีด ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด เรียกรวมทั้งหมด เฮ้อเหนื่อย 5 ฐานผ่านไปอย่าง ทุลักทุเล รวมตัวสรุปกิจกรรม บอกความประทับแต่ละฐาน ตอนนี้เวลา 20.30 ฐานเงื่อนเรียกสอบครับ รายหมู่กลางสนามเลย ให้เวลาพัก 10 นาที หมู่ไหนพร้อม เข้าสอบเลย ผู้บังคับบัญ 10 ท่านพร้อมพี่ รด. รอทดสอบ

“ต้น...น้ำอยากเข้าห้องน้ำ พาไปหน่อย” ยืนบิดเลยครับท่าทางจะปวดมาก

“ชาญเราพาน้ำไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา” แจ้งหัวหน้าหมู่ครับ จะได้ไม่เสียการปกครอง

“ตูนไปด้วย..รอตูนด้วย” อาหมวยเล็กร้องเรียกครับ

เข้าในห้องน้ำตะลึงครับ พี่เฟรนและเพื่อนกำลังอาบน้ำกัน เจ้าน้ำอายไม่กล้าเดินเข้าไป อาหมวยเล็กของผมก้มหน้าเลย

“น้องต้นมาอาบหรือครับ” พี่อาร์ทตะโกนถาม มีเสียงแซวตามมา

“เปล่าครับพาเพื่อนมาเข้าห้องน้ำ” อาบน้ำรวมแล้วบรรยากาศดีจัง หุ่นดีเนะ ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวอาบน้ำ วิวดีครับผมชอบ
ผมรีบจับจมูกครับกลัวเลือดกำเดาไหล ผมเดินไปส่งน้ำกับตูนเข้าห้องน้ำ กำลังยืนรอเพื่อน รู้สึกมีอะไรเย็นเย็นมาแตะที่ต้นคอ
สะดุ้งครับ

“พี่เฟรน..ตกใจหมดเลยครับเล่นอะไร” หัวเราะครับน้องตกใจแทบแย่ ดันตลกได้

“เห็นยืนอยู่คนเดียวกลัวเหงา” ยุ่งครับไม่ได้ขอ แล้วทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวตัวเดียวเดียวก็ดึงให้หลุดซะเลย ไม่นานน้ำกับตูนก็ออกมาจาห้องน้ำ   

ตอนนี้เวลาเกือบจะ ห้าทุ่มแล้วครับกำลังสอบเงื่อน ไม่ใช่มีแต่ผมในชั้นปีที่ผูกเงื่อนไม่เป็น รอสอบแก้เยอะครับ
“ต้นคืนนี้น้ำนอนกับต้นนะ”

“อื้อ” ง่วง เหนื่อย อารมณ์ไม่ดี

“ทำอย่างงั้นครับ ถูกแล้ว เก่งมาก น้องต้นนี่น่ารักนะคับ” พี่บีม แล้วไงครับ

“เลี้ยงข้าวพี่ซักมื้อสิอุตส่าช่วยให้ผ่าน” พี่มบีมก้มลงมากระซิมที่หู โชคดีที่มืดไม่มีใครมองเห็น ถ้ากล้าขอก็กล้าให้

“อื้อ” รับคำเสร็จก็กลับเต็นท์ไม่ไหวน้องง่วง เข้าไปในเต็นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าทิ้งตัวลงนอน หลับยาว เช้าอากาศเย็นสบายไม่รู้ว่าใครกำลังหัวมุดผมอยู่น่าจะเป็นเจ้าน้ำ ผมเลยกอดมันซะเลย

“เล่นอะไรกัน แต่เช้า” เสียงปุดังขึ้นมาข้างหลังผม

“ต้นตัวหอมนุ่มด้วยนอนกอดแล้วสบายดี”ชินแล้วครับ น้ำชอบมานอนที่บ้าน บางทีก็ชวนให้ผมไปนอนด้วย

“ตื่นเถอะ เดี๋ยวทานข้าวต้ม กับไข่กระทะนะ” แยกย้ายล้างหน้าแปรงฟัน จุดเตาทำอาหารเช้าตอนเช้ามีตูนเป็นลูกมือ กินอาหารเช้าอิ่มหนำสำราญ อาบน้ำแต่งตัวครับ

ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด สัญญาณนกหวีดดัง เรียกรวม เปิดกอง

“วันนี้เราจะมีกิจกรรมเดินทางไกลเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เราจะพร้อมที่นี่เวลา 8.30 น. ทั้งหมดเลิก” เปลี่ยนเป็นนั่งทางในได้ไหมครับ

“ก่อนที่เราจะเข้าฐานเราต้องพรางตัว” บ้าเปล่าผมสิวขึ้นครูฝึกรับผิดชอบเปล่า

“น้ำหยุดถ้าเอาไอ้นั้นมาป้ายหน้าเรา เราโกรธนะ” ขู่ครับ
“น่าต้นขำ นิดเดียว” ไม่นิดครับหน้าปุไปแล้วครับ

“ทาเลย” เจครับไม่รู้เดินมาจากไหนกอดผมไว้จากด้านหลัง เจอีกแล้วนะ

“อ้าวต้นทำไมไม่ทาหน้าล่ะ เดียวพี่ทาให้” ไม่นะ อย่า ไม่ทันครับพี่เฟรน ยืนหัวเราะใหญ่เลย ปุถ่ายรูปส่งให้ผม ส่งต่อให้พี่ธน หัวเราะครับ

เดินทางไกลพร้อมเข้าฐาน มุดท่อท่อแห้งไม่มีน้ำ แต่พี่พี่ รด. เทน้ำใส่ครับ เป็นผมครับที่โดน ปีนหอ โดดสูง ขานี่ล้าเลยครับนี่มาเข้าค่ายหรือมาฝึกทหารล้าไปหมดแล้ว แวะพักทานข้างกล่อง เหนื่อยครับกินไม่ค่อยลง

“เหนื่อยอ่ะ แดดร้อนด้วย”
“ไม่รู้ว่าจะร้อนไปไหนดีนะยังมีร่มไม้”

“กลับไปบ้านแม่จำไม่ได้แน่เลย”เสียงบ่นของเพื่อนๆรอบข้างพูดคุยกันค่อยดีขึ้นหน่อยนึกว่าผมเหนื่อยอยู่คนเดียวได้เติมพลังงาน

เข้าไปก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยหลังจากพักได้ไม่นานก็เริ่มกิจกรรมช่วงบ่ายต่อ กลับมาที่พักอีกทีบ่าย 3 ครูแจ้งให้รีบประกอบอาหาร เพราะวันนี้มีการแสดงรอบกองไฟ มาถึงผมรีบทำอาหารครับท่าทางจะไม่ไหว ไม่เคยออกกำลังหนักอย่างนี้มาก่อน รู้สึกเลยว่า

กำลังจะไม่สบาย จัดการทำผัดข้าวผัด หมูทอดกระเทียมพริกไทย แกงข่าไก่ ผัดทะเลรวมมิตร พรุ่งนี้เช้าข้าวต้ม แกงจืด ไข่เจียว ทานข้าวครับเพราะต้องกินยา

“ต้นไหวไหม” น้ำทัก ท่าทางหน้าจะซีดจริง

“ไม่อ่ะ..ท่าทางจะไม่รอด ไม่เคยออกกำลังกายเยอะอย่างนี้” ผมตอบไปตามความจริง

“ ปีที่แล้วยังไม่โหดอย่างนี้เลยอ่ะ” ตูนท่าทางไม่ค่อยดีเหมือนกัน

“เดี๋ยวกินข้าวอาบน้ำเสร็จเดี่ยวเราพาไปขอยากับครูฝึก” ชาญครับ

กินยาแล้วหนังตาเริ่มหนักท่าทางอาการผมไม่ค่อยดี ตอนนี้ครูฝึกให้นอนอยู่ในเต็นท์พยาบาล ส่วนเพื่อนออกไปร่วมกิจกรรมรอบ

กองไฟ นอนฟังเสียงกลอง ครูฝึกร้องเพลง และรู้สึกมีคนเข้ามานอนข้างผม ถ้าเป็นคนก็ไม่เท่าไหร่ถ้าเป็นอย่างอื่นมีเฮ

กลิ่นหอมคุ้นคุ้นครับท่าทางจะเป็นคนคับเพราะผิวยังอุ่นอุ่น เขากอดผมไว้ แล้วจูบลงที่หน้าผากผมเบาเบา รู้สึกสบายครับ

รู้สึกตัวอีกทีเพื่อนมารับกลับไปที่เต็นท์

“คืนนี้อากาศเย็นนะตอนกลางร้อนให้มันได้อย่างนี้ซิ”เสียงปุบ่น

“ดีขึ้นยัง”น้ำหันมาถามผม

“ได้นอนพักก็ดีขึ้นนะกินยาแล้วด้วยว่าแต่สองคนนอนกับเราจะดีหรอเดี๋ยวติดไข้หวัดจากเรา”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวน้ำดูแลต้นหอมเองตัวก็ไม่ร้อนแล้วด้วย”อ้อเอาไงก็ได้เมื่อทุกคนตกลงกันได้ก็ต่างมุดเข้าเต้นเสียงพูดคุยของเต้น

ข้างๆเสียงฝีเท้าของคนที่เดินเหยียบหญ้าเงาคนเดินเต้นไปมาทำให้ผมรู้สึกง่วงขึ้นมาและหลับตาลงในที่สุด


...
TBC.

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 9 (7/11/58)
«ตอบ #18 เมื่อ07-11-2015 23:03:37 »

มาต่อบ่อยๆนะ สนุก ใครเปนพระเอก ยังไม่รู้เลย

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 10

ต้นไม้ขนาดใหญ่ใบปลิวไปตามแรงลมพัด เสียงใบเสียดสีกัน ต้นไผ่เป็นกอลำตรงเรียวยาวสูงบังแสงแดดรำไรเสียง เอียด อ๊าด

ของลำไผ่เสียดกัน บริเวณโดยรอบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ รำต้นขนนาดใหญ่เกือบห้าคนโอบโดยประมาณ

รากขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาบนพื้นเพื่อหา น้ำและแร่ธาตุ ตอนนี้พวกผมอยู่ที่วัดครับ ไม่ได้มาทำบุญ แต่มาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมมัธยม

ปลายทุกคนต้องผ่านค่ายนี้ทุกคน เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องที่ทำให้ผมร็สึกดีมีความสุขเมื่อพี่ธนเข้ามาสารภาพกับผม

“พี่ชอบต้นหอมนะเราเป็นแฟนกันนะ”

ผมยังจำความรู้ที่ตื่นเต้นนั้นได้ดีแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทั้งคู่จะไม่ได้คบกันเป็นแฟนแต่พี่ธนก็ขอพิสูจน์ตัวเองในหลายๆเรื่องรวม

ทั้งเรื่องที่ไปสารภาพกับที่บ้านว่าชอบผมกำลังคบกับผมอยู่ ที่นี้ที่บ้านซักฟอกใหญ่เลยที่บ้านเคยสงสัยแกที่เคยเกเรชกต่อยคบผู้

หญิงผู้ชายไปเรื่อย ไม่ค่อยกลับบ้าน อยู่อยู่พี่แกก็เปลี่ยนไป กลับมาตั้งใจเรียน เลิกยุ่งกับเด็กเด็กในสังกัดทีละคน ตอนนี้แก

เข้าไปช่วยงานที่บ้านด้วย แกเลยสารภาพเป็นเพราะผมที่บ้านเลยอยากเจอผมโดยที่วันนั้นพ่อชวนแม่กับผมไปตีกอล์ฟ เป็นครั้ง

แรกที่ผมกับแม่ได้ไปกับพ่อผมว่ามันแปลกแต่แปลกกว่านั้นเมื่อเพื่อนรุ่นน้องชอบมาคุยโน่นถามนี่ในที่สุดก็รู้ว่ารุ่นน้องของพ่อเป็น

พ่อกับแม่ของพี่ธนดูเหมือนพวกเขาจะยอมความสัมพันแปลกๆนี้ได้ไม่รังเกียจแต่ทางครอบครัวทั้งสองอยากให้เราทั้งสองอยู่ใน

สายตาผู้ใหญ่และพี่ธนให้เกียจผม ผมก็รู้สึกว่าตั้งแต่ที่รู้จักกันมาพี่ธนเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี ผมไม่นึกว่าพี่ธนจะทุ่มเท

กับผมขนาดแต่มันก็ไม่ใช่ตัวตัดสินทั้งหมดเพราะเวลาจะเป็นคำตอบให้ดีที่สุดว่าความรักของเราทั้งเป็นอย่างไรต่อไป

“นักเรียนมารวมตัวกันตรงนี้ค่ะ..เราจะนอนกันที่อาคารไม้ตรงนั้นนะคะ นอนห้องละห้าคน” ผมมองไปที่อาคารไม้ที่ว่า กลืนน้ำลาย

เลยครับ น้ำเดินมากอดผมเลยครับ คุณครูแจกกุญแจห้อง เปิดเข้าไปในห้อง ห้องกว้าง มีหน้าต่างระบายอากาศ พัดลมติดบนเพ

ดาล 1 ตัวครับมองไปที่นอนตกลงว่านอนบนเสื่อครับมีหมอนให้ 5 ใบผ้าห่ม 5 ผืน ชุดขาวที่ผมและเพื่อนเช่าไว้ คนละ 3 ชุด

เลือกที่นอนครับ แล้วเปลี่ยนชุดเพื่อไปรับศีลแปด ตั้งแต่เข้ามาในวัดผมก็รู้สึกแปลกแปลกกับสถานที่ ผมเป็นคนที่มักสัมผัสสิ่ง

แปลกๆได้ เมื่อทุกคนรับศีลแปดแล้วเรียบร้อยแล้วก็นั่งหลับ เอ้ยไม่ใช่ กำลังนั่งสมาธิ พื้นเป็นพรมครับแต่แข็งมากนั่งไปนานนาน

ปวดขา ปวดหลัง ตาตุ่มเริ่มเจ็บที่นี่งดอาหารเย็นครับแต่อาหารร้อนกินได้ 5555 ถือศีล 8 กินไม่ได้ดื่มน้ำได้ ที่นี่ตอนเย็นเลี้ยงน้ำ

เต้าฮู้ครับ แต่ขอโทษครับผมไม่กินน้ำเต้าฮู้ เลยต้องเป็นน้ำเปล่า พักสักครู่ต้องไปทำวัตรเย็นต่อครับ ขอร้องเถอะครับ ตอนนี้ผม

นั่งไม่ไหว นั่งขัดสมาธิก็แล้ว พับเพียบก็แล้วเทพธิดา เทพบุตรก็อันเชิญมา ทำวัตรเย็นเสร็จนั่งสมาธิต่อแผ่เมตตา กลับเข้าห้อง

พักอาบน้ำ ที่นี่เป็นห้องอาบน้ำผมอาบกับน้ำเพราะน้ำกลัว อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดนอน กลับที่พักห้องอาบน้ำแห่งจาก

ที่พักพอสมควร สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด มีไฟฟ้าตั้งไว้ตลอดทางเดิน ผมมองผ่าความมืดไปทางต้นไม้ใหญ่เห็น

ผู้ชายคนหนึ่ง ยิ้มมาที่ผม แล้ววิ่งหายเข้าไปในต้นไม้ ผมหยุดเดินครับกลืนน้ำลายเดินไปจับมือน้ำ วิ่งไม่ได้ถือศีล 8 เดินครับต้อง

สำรวม

“ต้นเป็นอะไร..ทำไมก้มหน้าเดิน” สะดุ้งครับน้ำเรียกทำไม

“แมลงเข้าตา” โกหกครับผิดศีล ศีลขาดรักษาศีลได้ไม่กี่ชั่วโมง
 
วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวท่าฝนจะตกผมจึงเดินไปเปิดหน้าต่าง

“เฮ้ย....”  เปิดหน้าต่างออกไปตกใจครับ

“เป็นอะไรต้น” จะบอกยังไง ไม่อยากผิดศีล ตัดสินใจไม่พูด น้ำเลยเดินมาชะเง้อดูด้วยความสงสัย น้ำคงไม่รู้ครับว่าคืออะไร เลยไม่ตกใจ

“ดูอะไรกัน” ตกใจเสียงปุครับ มาเงียบตกใจหมด

“ตกใจหมดเลยปุ...มาเงียบๆ” ผมตกใจครับ

“ต้นจะให้ปุ แห่ขบวนมาหรอครับ” ไม่ต้องมาประชด ไม่ขำ

“ว่าแต่ดูอะไร...อ้อ” ปุท่าทางจะรู้คืออะไร ผมตัดสินใจปิดหน้าต่างครับ

ชาญ ตูน น้ำ ผม และปุ นอนเรียงกันหน้ากระดาน ดีที่ไม่มีใครนอนกรน ภายในห้องนอนเงียบได้ยินเพียงเสียงพัดลมเพดาน

นึกถึงเรื่องที่เจอตอนไปอาบน้ำก็เลยไหว้พระก่อนนอน วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันปวดเนื้อปวดตัว งดข้าวเย็น ขนมก็ถูกยึด เสียงจิ้งหรีด

 เสียงแมลงร้องอยู่ข้างนอกห้อง ค่อยค่อยเคลิ้มเข้าสู่นิทรา ตึก ตึก ตึก ตึก หยุด ตึก ตึก ตึก

……………………………………………………

ก๊อก ก๊อก ตื่น คุณครูมาปลุกครับให้อาบน้ำแต่งตัวเตรียมทำวัตรเช้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ มีคนเริ่มร้องไห้แล้วครับ ผู้ชายครับร้องไห้

 นี่คือเหตุผลทำไมธรรมชาติร้างให้ผู้หญิงอุ้มท้อง เพราะผู้ชายมีความอดทนไม่มากพอ มันปวดขามากจริงจริง ที่จริงอยากจะร้อง

 แต่มันร้องไม่ออก แผ่เมตตา อาหารมื้อแรกของวัน กินเพื่ออยู่จริงครับ หลังทานข้าวเสร็จหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ตอนนี้ไม่

ต้องนั่งสมาธิแล้วนั่งท่าสบาย พระอาจารย์มาเทศนาให้ฟังเรื่องอะไรไม่รู้คับ หลับหลับตื่นตื่น

ข้าวเที่ยงมื้อนี้รถชาติดีขึ้นมาหน่อย

“เมื่อคืนได้ยินเสียงคนเดินเปล่า” ผมครับเปิดประเด็น

“ไม่อ่ะ” ปุสายหัว ไม่มีใครได้ยินครับ ถ้าเป็นเสียงคนเดินดังขนาดนั้นน่าจะได้ยิน ถ้าไม่ใช่คนล่ะอันนี้อีกเรื่อง มันต้องพิสูจน์

ตอนนี้ผมกำลังนอนคอยฟังเสียงแปลก แปลก ทั้งห้องมืดสลัวมีแสงไฟรอดเข้ามาตามช่องลมเสียงพัดลมเพดานยังดังไม่ยอม

หยุด ไม่นานเสียงที่ผมสงสัยก็มา ตึก ตึก ตึก เหมือนเสียงเดินอยู่หน้าห้องผม ผมเดินย่องเบามานั่งอยู่หน้าประตู เห็นเป็นเงาสีดำ

ลอดใต้ช่องประตูเข้ามา ผมกำลังจะมองผ่านช่องไม้ที่เป็นรู

“ทำอะไรต้น” ผมนี้แทบกรี๊ด ดีนะคนที่มาข้างหลังผมปิดปากผมไว้

“ปุ...... ทำอะไรตกใจหมดเลย” อยากตะโกนด่าแสกหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ทำได้แค่พูดเบาๆ

“ชู่..เงียบก่อน” เสียงฝีเท้าของนอกยังไม่หายไป ผมกับปุตัดสินใจเปิดประตูออกไปดู

“ 1...2...3..พลั่ว” ภาพที่เห็นตรงหน้าให้ผมกับปุแทบช็อค รีบปิดประตูลงกลอน กลับมาที่นอน ผมกอดน้ำครับปุกอดผมอีกทีจับ
ผ้าห่มได้คลุมโปงจนถึงเวลาทำวัตรเช้า

วันนี้ไม่มีนั่งสมาธิแต่มีเดินจงกลม เดินรอบหอหระชุม ตุ๊บ เสียงอะไร มะพร้าวหล่นหรอ ตุ๊บ หันไปดู เฮ้ยเพื่อนเพื่อนต่างห้องครับ

ถูกสอยลงไปนอนอยู่บนพื้น ทั้งครู พระอาจารย์วิ่งให้วุ่น เป็นลมครับ ผมกับปุตั้งแต่เจอเหตุการณ์นั้นก็ไม่ได้คุยกันเลยครับไม่กล้า

คืนสุดท้ายครับคิดว่าเหนื่อยแล้วคงจะหลับสนิทไม่ยินอะไร ตึก ตึก ตึก ปุขยับมาเบียดผมครับ ผมขยับไปกอดน้ำเลยครับ ผมกับปุ

นอนฟังเสียงทั้งคืน ตื่นมาตานี้ช้ำเลยครับ เพื่อนเพื่อนเห็นนี้หัวเราะไม่หยุด เออไม่เจอบ้างให้รู้ไป ตอนสายลาศีล 8 ครับเก็บของ

ไปไหว้พระ บริจาคเงินนิดหน่อย เดินทางกลับ ถึงโรงเรียนบ่ายโมงยังไม่อยากกลับบ้านเลยไถลไปห้างนั่งตากแอร์กินไอติมเย็น พี่ธนโทรมาให้รอที่ห้างจะมาหา

“เป็นไงไปเที่ยววัดสนุกเปล่า” รอเกือบหลับ กว่าจะโผล่หน้าหล่อหล่อมา ผมส่งรูปใส่ชุดขาวมาให้ดูแกบอกว่าดูดี ประชดผมเปล่

าพี่  พี่ธนชวนดูหนังครับ น่าสนใจเผื่อจะลืมเรื่องไม่ดีได้ แต่ผมเหนื่อยกลัวไปหลับเสียดายตังค์ พี่ธนบอกตกลงไปดูหนังที่ห้องแก

ครับ แต่เรื่องที่ไปดูดันเป็นหนังผี ผมชอบหนังผี ฆาตกรโหด สยองขวัญ แต่ไม่อยากเจอ  คืนนั้นนอนกอดพี่ธนทั้งคืนเลยครับ

พี่ธนบอกว่าคราวหน้าดูหนังผีอีก ผมจะได้ไปนอนกอดผมทั้งคืน


…………………………………………………

“เพ้นท์เสื้อ”ปุเสนอ

“ทำพวงกุญ”ตูนเสนอ

“เห็นด้วยกับตูน”ชาญแสดงความคิด เงียบไปไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะ

“ทำของกิน”น้ำเสนอ เสนอในสิ่งตัวเองชอบ แต่เดือดร้อนผม

“ทำโปสการ์ด หรือสมุดโน้ตไหม เรามีรูปสวยเยอะ วาดเอาก็สวยนะ”อันนี้ผมครับ

“เห็นด้วย” ชาญแสดงความคิดเห็น

“เข้าท่า” ปุ

“เห็นด้วย ”น้ำ

“ไม่มีปัญหา” ตูน

เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ววันนี้คาบสุดท้ายมีการเรียกประชุมชั้นม.4 ทุกคน คุณครูฝ่ายวิชาการแจ้งเรื่องงานสถาปนาโรงเรียนให้

มัธยมศึกษาปีที่ 4 ออกร้าน มัธยมศึกษาปีที่ 5 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 รับผิดชอบการแสดงและความเรียบร้อยภายในงาน

ผมและเพื่อนจึงประชุมกันหาข้อสรุปร่วมกัน

“ต้น..ได้หมายเลขและบริเวณจัดงานมาแล้ว” ไหนดูซิ อือน่าพอใจ

“งั้นเสาร์- อาทิตย์ ไปเก็บภาพกัน เราจะทำสมุดโน้ต โปสการ์ด ที่คั่นหนังสือ” งานนี้น่าจะลงทุนไม่เยอะใช้เงินลงทุนคนละ 500 บาท

ตลาดน้ำครับ สถานที่แรกออกมาเก็บภาพ

“ต้นไปทางนั้นเร็วของกินเยอะเลย” น้ำครับ กำลังตื่นเต้นกับของกิน

 “ของตรงนั้นน่าซื้อจัง” ตูนกำลังวิ่งไปดูของเล่น

“ไปเดินกันเถอะ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วต้นโทรหา” ปล่อยครับปล่อยเด็กไปเที่ยว เดี๋ยวไม่มีสมาธิ

ยกกล้องขึ้น มองผ่านเลนส์ ที่เลือกตลาดน้ำเพราะมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ผมมีรูปธรรมชาติ เยอะแล้วเลยเลือกภาพถ่ายที่เป็นบริบท

ส่องกล้องไปเรื่อยเริ่มสายคนยิ่งเยอะ ด้วยความที่ผมเป็นเรียบร้อยจึงชนเข้าผู้ชายคนหนึ่งเข้า

“อุ๋ย...ขอโทษครับ” ผมถอยไปชนใครไม่รู้ถ่ายรูปเพลินไปหน่อย

“อ้อ..ไม่เป็นไรครับพอดีผมก็ไม่ระวังเหมือนกัน” พี่ธนครับตอบกลับมา
 
“มาไงไหนบอกไม่ว่าง เลอะเลยพี่ธน ต้นขอโทษเดี๋ยวพี่รอที่นี่ตรงนี้นะ” ผมวิ่งไปที่ร้านขายเสื้อที่ระลึก วิ่งกลับมาพร้อมเสื้อในมือ ยื่นให้คนตัวโตตรงหน้า

“เสื้อพี่เลอะน้ำหวานมันน่าเกลียด แล้วมันน่าจะเหนียว ต้นซื้อเสื้อมาให้เปลี่ยน” พี่ธนรับเสื้อจากมือผม ขยี้หัวผมเบาๆ ผมพาพี่เค้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ คนบ้าตามมาก็ไม่บอก

“หล่อเปล่า น่าจะเป็นเสื้อคู่นะจะได้ใส่เหมือนกัน” หล่อครับคนหล่อใส่อะไรก็หล่อไม่ใส่ยิ่งหล่อ อันนี้แค่คิดไม่กล้าพูด พาพี่ธนเดินเที่ยว ถ่ายรูปไปด้วย นานทีได้ไปเที่ยวกันสองคนมีความสุขครับ อยากไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆจัง

 “ต้น ต้น ยืนยิ้มใจลอยอะไร” ห๋า อะไรนะ

“อ้อ โปสการ์ดทุกแผ่น 20 บาท ที่ติดป้ายจองมีจองแล้ว ที่ขั้นหนังสือ อันละ 10 บาท สนุดโน้ตมีสามขนาดขนาดเล็ก 50 บาท

 ขนาดกลาง 75 บาท ขนาดใหญ่ 99 บาท” โปสการ์ดของผมถูกจองอย่างถล่มทลายที่ขายดีจะเป็นรูปการ์ตูนล้อเลียน น่ารักของ

ผมและเพื่อน พวกเราแบ่งช่วงไปเดินดูงานครับตอนนี้ผมน้ำปุเฝ้าร้านบ่อยให้คู้จิ้นไปฟินกัน ผมกำลังวาดรูป น้ำรับลูกค้า ปุเป็น

แคชเชียร์หิวครับโซนนี้เป็น ของทำมือ ของกินอยู่ไกลออกไปหลีกเลี่ยงกลิ่นอาหาร

“น้ำต้นหิวอ่ะ...ต้นไปหาไรกินแป็บนะ” ผมตอนหาจุดมุ่งหมาย จมูกตามกลิ่นน้ำแข็งไส ไอติมโบราณ น้ำมะพร้าวปั่น ขนมไทย

ขนมจีบซาลาเปา บราวนี่เค้กคุกกี้ นี่คือเส้นทางแห่งความสุขสุขที่ได้กินทุกข์นี่คือเงินหมด

“ขอโทษครับ ขอเฉาก๋วยนมสด เฉาก๋วยชาเย็น เก็กฮวย อย่างละ2ขวดครับ” รู้สึกเหมือนร้านนี้จะขายดีเกินหน้าเกินตาร้านอื่นจนน่าอิจฉา
“สักครู่นะครับ” ลูกค้าเยอะมากไม่รู้รับมาจากไหนอ้อรู้แล้วพ่อค้าหน้าตาดีว่าแต่มีแจกเบอร์ฟรีเปล่าครับว่าไปนั่น

“พี่ต้นหอม....พี่ต้นหอม ผมไปของที่ร้านมาแล้วนะครับน่ารักมากเลย”เห็นลูกพอใจผมก็ดีใจแล้ว

 ครืน ครืน โทรศัพท์ในกระเป๋าผมก็รับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ

“ว่าไงปุ ....อ้ออย่างนั้นเดี่ยวรีบกลับ”ผมรีบกลับมาที่ร้าน มีคนมารับโปสการ์ดที่จองไว้ ที่จริงน้องเค้าเจอผม เพื่อเงินทำได้ครับ

“น้ำเฉาก๋วยซื้อมาฟากทุกคน” ตอนนี้ตูนกับชาญกลับมาที่ร้านของกินเต็มไปหมด

 ผมกำลังเช็คสินค้าที่ลูกค้าจองไว้มีมารับเกือบหมดแล้ว พี่ธนก็มารับรูปไปแล้ว ชอบครับแกบอกว่าน่ารักดี ตอนแรกที่พี่ธนเห็นรูป

การ์ตูนล้อเลียน ไม่ยอมให้วาดขาย ผมเลยบอกว่าถ้าไม่มีคนสั่งก็ไม่ขาย แต่ผิดคาด ยอดสั่งเกินเป้า แกเลยต้องยอม

เวลาผ่านไปเรื่อยร้านอาหารร้านค้าอื่นเริ่มทยอยปิดร้านแล้วเพราะของขายหมดแล้วเพราะช่วงบ่ายจะมีการแสดงบนเวทีแต่พวก

ผมยังนั่งรวมตัวกันอยู่ที่ร้านลูกค้าเดินเดินออกเรื่อยๆอีกอย่างพี่ธนมานั่งเล่นที่ร้านช่วยเรียนลูกค้าอีกแรงถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแต่การ

ตอบรับมาของลูกค้าทำให้ความเหนื่อยนั้นหายไปกลายเป็นความสนุกมาแทนที่และแล้ววันดีดีของผมก็ผ่านไปอีกวัน

...


 :pig4: :pig4: :pig4:

ยิ่งแต่งยิ่งรู้ถึงความยากลำบาก
ภาษายังไม่ดีพอ จะพยายามปรับปรุง

TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักเอย...อยู่หนใด ตอนที่ 10 (17/11/58)
« ตอบ #19 เมื่อ: 17-11-2015 09:07:46 »





ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 11

“น้ำ..ทางนี้เย็นนี้ไปซื้อหนังสือเปล่า” ผมชวนน้ำ เปิดเรียนมาสามวันแล้วแต่ผมเห็นหน้า คู่จิ้นทั้งสองคนเลย เป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า

“ต้น วันนี้วันที่สามแล้วนะทำไมสองคนนั้นไม่มาโรงเรียน” น้ำแสดงสีหน้าวิตกกังวล

“ไม่ใช่เที่ยวจนเพลินแล้วลืมวันเปิดเรียนเปล่า” ปุอยากให้ทุกคนคิดในแง่ดี อย่ากังวลไปก่อน

“ไม่ใช่ ...นี่เล่นปิดเครื่อง เฟสก็ติดต่อไม่ได้ ทั้งสองไม่เคยเป็นอย่างนี้” น้ำพูดความจริงกลุ่มผมไม่มีใครไถล ถ้ามีต้องโทรบอก
เพื่อนหรือส่งจดหมายลา แต่อยู่อยู่หายไปไม่เคยปรากฏ

“นายพีรวัฒนพงษ์.... มีญาติมาขอพบที่ประชาสัมพันธ์ค่ะ” แปลกใจครับมีญาติมาขอพบผมเดินมาพบญาติตามที่ประชาสัมพันธ์

ประกาศ จากอาคารเรียน มาห้องประชาสัมพันธ์ไกลครับ เมื่อมาถึงผมแปลกมาก เพราะคนที่มาพบเป็นตูน คนที่เป็นหัวข้อที่เรา

คุยกันเมื่อครู่ คนหายหน้าหายตาไม่มาเรียนสามวันแล้ว มาปรากฏอยู่ต่อหน้าผม สภาพที่ดูไม่ได้ ไม่เหมือนที่คนไปเที่ยวจนเพลิน
 
“ต้น..ต้น ช่วยตูนกับชาญด้วย..ช่วยด้วย” ทันทีที่ตูนเห็นผม วิ่งมากอดผมด้วยน้ำตา สภาพตูนเหมือนไม่นอนมาหลายวัน ท่าท่าง

คงจะเรื่องเกิดขึ้นกับเพื่อนผมและคงเป็นเรื่องใหญ่ ยืนคุยกันที่ห้องประชาสัมพันธ์คงไม่รู้เรื่อง ตูนไม่ยอมหยุดร้อง คุณครูก็มองผม

ไม่ได้ทำอะไรเขานะครับอย่าเข้าใจผิด ก่อนที่ทุกอย่างจะดูแย่กว่านี้ผมจึงขอพี่ยามออกไปนั่งคุยกับตูนที่ร้านกาแฟหน้าโรงเรียน

ข้างในอากาศเย็นสบายเปิดเพลงเบาเบา พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนอ่อนของเมล็ดกาแฟคั่วน่าจะทำให้อารมณ์ของตูนเย็นลง


“ต้นว่ามันคงถึงเวลาที่ตูนต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้ต้นฟังแล้วล่ะ” ตูนยังไม่หยุดร้องนั่งกอดแขนผมหัวก็พิงไหล่ผมไว้ พนักงานใน

ร้านแอบมองผม ผมสั่งนมอุ่นให้อาหมวยเล็กจิบจะได้รู้สึกดีปล่อยให้ตูนร้องไห้ใช้มือลูบหัวตัวเบาเบา คงเจออะไรมาหนักเพราะ

คนที่สดใสร่าเริงตลอดร้องไห้ไม่ยอมหยุด หน้าแดง ตาช้ำ และคงถึงที่สุดแล้วถึงมาหาเพื่อน ผมให้เวลาตูนจนกว่าตูนจะยอมเล่า

“ตูนเล่าให้ต้นฟังต้นต้องช่วยตูนนะ” ผมพยักหน้า

“ตูนเราเพื่อนกัน ตูนมีเรื่องอะไรบอกต้น ถ้าช่วยได้ต้นก็ช่วย” ผมไม่กล้ารับปากกลัวทำไม่ได้ขึ้นมาเพื่อนจะเสียใจ

“ตูนกับชาญเราเป็นแฟนกัน ...เอ่อต้นไม่รังเกียจเราใช่ไหม” ว่าแล้วครับซื้อหวยก็ถูก คิดไว้ไม่มีผิด

“ไม่หรอก เราจะรู้แต่ไม่แน่ใจเฉยๆ เราไม่รังเกียจหรอก” ผมไม่รังเกียจครับ ผมรักพี่ธนครับ หุ้นบริษัทที่บ้านผมไม่ตก เกรดเฉลี่ย
ไม่ลด อาหารญี่ปุ่นยังมีให้กิน งั้นมันไม่เป็นปัญหาสำหรับผม

“แต่ที่บ้านชาญรังเกียจให้เราเลิกคบกัน....” ตูนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่อง เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าชาญชวนตูนไปเที่ยวที่บ้านแล้วทั้งคู่

จูบกัน แต่ที่บ้านของชาญมาเห็นเข้าเลยเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก และตอนนี้ชาญหนีออกจากบ้าน ตูนและที่บ้านช่วยกัน

ออกตามหา แต่ไม่มีใครพบ ชาญเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดจา เก็บความรู้สึก ถึงขนาดหนีออกจากบ้านคงถึงที่สุดแล้ว ปัญหาล้วนมี

ทางออกแต่ตอนนี้ต้องตามหาหาเจ้าตัวมาแก้ปัญหาก่อน ผมหยิบโทรศัพท์เลื่อนหาเบอร์เจ คนที่จะช่วยผมได้ตอนนี้คงเป็นเจ
เท่านั้น

ตื้ด ตื้ด ตื้ด

“เจ ต้นมีเรื่องให้ช่วย ...หาคน...ชาญ..ได้....ขอบคุณนะ” สิ้นเสียงสนทนาปลายสายตัดการติดต่อ ผมก็หน้าไปส่งยิ้มให้ตูน

อย่างน้อยก็หายห่วงได้อย่างหนึ่ง ผมให้ตูนกลับมาเรียนพรุ่งนี้มาวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไป ผมส่งตูนขึ้นแท็กแล้วกลับเข้า

โรงเรียน ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงผมโทรหาเพื่อนทั้งสองเพื่อจะเล่าเรื่องของตูนและชาญให้ฟัง

“ประกาศนายพีรวัฒนพงษ์.... มาที่ห้องปกครองด่วนค่ะ”ผมถูกประกาศเรียกเข้าห้องปกครอง ท่าทางมีเรื่องใหญ่ ผมเคาะประตู

เพื่ออนุญาตเข้าไปในห้อง เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งคุยกับคุณครูอดีตที่ปรึกษาผมในห้องส่วนตัว ไม่รู้คุยเรื่องอะไรแต่ผู้หญิง

คนนั้นร้องไห้ใหญ่เลยหน้าตาคุ้นคุ้นครับ

“ต้นมาแล้วหรือลูก เข้าไปในห้องเลยนะลูกคุณครูรออยู่” ผมเข้าไปในห้องส่วนตัวหัวหน้าฝ่ายปกครอง และยกมือพร้อมกล่าวทักทายคนทั้งสาม

“ต้น นี่คือพ่อแม่ของนายชาญวิทย์กร” ชายก่อเรื่องแล้ว

“คะ...ครับสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทักทายคนทั้งสองอีกครั้ง

“ครูมีเรื่องให้ต้นช่วย...ตอนนี้เพื่อนเราหนีออกจากบ้านครูอยากให้ต้นไปตาม” ครับเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือผมไม่รู้ว่าชาญอยู่ไหน อีกอย่างคุณคนูครับต้นไม่ใช่ชินอิจินะครับ

“หนูชื่อต้นใช่ไหมลูกเป็นเพื่อนตาชาญใช่ไหม คุณแม่เห็นในรูปถ่ายบ่อยๆ ช่วยแม่ได้ไหมช่วยตามหาชาญให้แม่หน่อยนะลูก

แม่ใจจะขาดตายอยู่แล้ว แม่ติดต่อชาญไม่ได้เลย ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง” ใบหน้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมแสดงอาการอิดโรย

ตาแดงกล่ำ ร้องให้ไม่หยุด เธอแสดงอาการเป็นห่วงลูกชายอย่างมาก ส่วนผู้ชายอีกคนคงเป็นห่วงไม่แพ้กันแต่ไม่แสดงท่าทีออกมา ตอนแรกสงสารชาญที่พ่อแม่ไม่ฟังเหตุผล ตอนนี้โกรธชาญที่ทำให้พ่อแม่คนที่รักเป็นห่วง

“ครูไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต จะมีผลกับทางครอบครัวชาญและโรงเรียน ครูอยากให้ต้นทำเงียบเงียบ” ทำไงละครับครู

คุณครูหัวหน้าฝ่ายปกครองให้ผมกับเพื่อนหยุดเรียนไปตามหาชาญประสานงานกับตำรวจนอกเครื่องแบบ พวกผมจะมีโอกาสลา

ป่วย 1 สัปดาห์เพื่อตามชาญกลับมา พ่อแม่ชาญกลับไปแล้วผมลาคุณครูออกจากห้องปกครอง เห็น ปุและน้ำยืนอยู่หน้าห้อง

“ต้น...ไปทำอะไรถึงโดนเรียกเข้าห้องปกครอง” น้ำยิงคำถาม เป็นเรื่องสิครับประกาศเสียงตามสายใครบ้างไม่ได้ยิน ชื่อเสียงป่นปี้หมด

“หาที่นั่งคุยกันเถอะ” ปุเสนอ จากนั้นผมเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่ตูนสวมรอยเป็นผู้ปกครองมาขอพบ จนคุณครูเรียกเข้าห้องปกครอง
“ตอนนี้เราให้เจช่วยตามอีกแรง น่าจะได้เรื่อง” ผมบอกเรื่องที่ให้เจช่วย

คืนนี้ทุกคนมารวมตัวที่บ้านผม เตรียมวางแผนเจ็ดวันจะตามหาชาญอย่างไรให้เจอ ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากให้ใช้เวลานานครับ

กลัวเพื่อนเป็นอะไรขึ้นมา เริ่มหาจากแถวบ้านไม่ใช่ไม่กว้างนะครับ สอบถามเพื่อนสนิทชาญ คนรู้จักชาญ เพื่อนของเพื่อน หา

ตามโรงแรม หอพัก ร้านเหล้า ตอนนี้ชาญออกจากบ้านเป็นเวลาสามวันแล้ว คงจะไปไม่ไกล

“ฮึก..ฮือต้นชาญจะเป็นไรไหม นี่มันห้าวันแล้วนะเขาหายไหน” ชาญหายไปห้า ในขณะที่พวกผมออกตามหาแทบจะไม่ได้นอน

มาสองวันแล้ว พวกเราแบ่งพื้นที่การค้นหา มีคุณตำรวจมาช่วย แต่ยังไม่มีวี่แวว ผมเป็นเพื่อนชาญมาหลายปี ไม่ค่อยรู้เรื่องที่เกี่ยวกับเขา ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย นี่เราเป็นเพื่อกันรึเปล่า

ครืน ครืน โทรศัพท์ผมสั่น

“เจ..ว่าไงได้เรื่องไหม...ได้..ได้..เจอกัน” เจติดต่อมาหาผมช่วงตี3

“ปุ น้ำ ตูน ตื่นเร็ว เจรู้ที่อยู่ของชาญ” พี่ธนขับรถพาพวกผมออกมาจากบ้าน มาที่หอพักแห่งหนึ่ง เจส่งแผนที่มาให้ มาถึงผมเห็นเจและเพื่อนยืนอยู่หน้าหอ

“เจ..หอนี้หรอ”

“ใช่..เพื่อนเราเห็น ห้องอยู่ชั้นสอง “ เจบอกว่าเพื่อนเจเห็นชาญ ออกไปร้านเหล้าแต่วันนี้มันกินเหล้าที่ห้อง พาผู้หญิงมานอนด้วย

 มีเพื่อนแวะมาที่ห้องบ่อยบ่อย เลยเป็นที่สังเกต ที่สำคัญผมคิดไม่ถึงว่าชาญจะทำแต่มันทำ เจพาพวกผมขึ้นไปที่ห้องใช้กุญแจ

สำรองที่ขอไว้จากเจ้าหอเปิดเข้า สภาพห้องสี่เหลี่ยมมืดสลัว เปิดเพียงโคมไฟ ผู้ชายตัวโตสองคนนอนสลบอยู่บนพื้นเพราะเหล้า

หรืออะไรผมไม่ทราบ เดินเข้าไปกลิ่นบุหรี่แรงมากเพราะไม่เปิดห้องให้ระบายอาการ เดินเข้าไปอีกห้องเห็นผู้หญิงผู้ชายนอน

เปลือยเปล่า และข้างข้างเห็นชาญนอนกอดผู้หญิงสองคน

ตูนเข้ามากอดผมแล้วร้องให้ ตูนคงตกใจเสียใจกับภาพที่เห็น ผมคิดว่าผมตกใจมากแล้วกับตูนที่เป็นคนรักจะรู้สึกอย่างไร พวก

ผมออกตามหาแทบไม่หลับไม่นอน กินไม่ได้นอนไม่หลับ พ่อแม่ของชาญเป็นห่วงโทรมาถามข่าวตลอด พี่ของชาญหยุดงานออก

ตามหาน้อง แต่สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้ามันไม่ใช่ ผมบอกให้ปุกับเจลากชาญลงไปหน้าหอ ท่าทางจะเมาหนักไม่รู้สึกตัว ผมเดินไป

หยิบสายยางที่หน้าหอพักฉีดไปที่ชาญ ชาญงัวเงียรู้สึกตัว ผมทนไม่ไหวครับ ชกไปหนึ่งที แล้วถีบอีก

“ มึงเป็นบ้าวะชาญ พวกกูออกตามหามึงให้ควั่ก มึงมานั่งทำร้ายตัวเองอย่างนี้” ชาญมันเริ่มรู้สึกตัวครับ ผมทั้งต่อยทั้งเตะมันไม่ใครกล้าห้าม ตูนเอาแต่ยืนร้องให้โดยที่มีน้ำกอดตูนไว้

“พวกกูเป็นเพื่อนมึงเปล่าวะ มีอะไรมึงทำไมไม่บอกพวกกู ทำไมมึงเห็นคนอื่นดีกว่าพวกกู” ตอนนี้ผมใช้คำที่หยาบคายออกมา ด่ามันไปร้องไห้ไป เห็นสภาพมันตอนนี้กับกลิ่นในห้องมันเมายาแน่แน่ไม่ใช่เมาเหล้า

“ทำไม ทำไม วะ มึงต้องไปยุ่งยานรกนั้นด้วย”

“พวกมึงไม่เข้าใจกู กูเหนื่อยกูเจ็บ ไม่มีใครช่วยกูได้หรอก” มันนั่งร้องไห้ครับ เหมือนเด็ก ไม่สงสารครับ กระทืบต่อครับ

“ต้นใจเย็นเดี๋ยวไอ้ชาญมันตายก่อน” พี่ธนดึงผมออกมาไม่ให้ทำมันมากกว่านี้

“มึงไม่บอกบอกแล้วพวกกูจะรู้ไหม บอกสิ พูดสิ มึงเห็นนั่นไหมคนที่มึงบอกรักเค้าแล้วมึงมาตัวเหี้ยอย่างนี้วะ” ผมกำคอเสื้อมันไว้

ชี้มือไปที่ตูน ตูนยังไม่หยุดร้อง มันหันหน้าไปมองตูนซักพักก็สลบไป ผมตัดสินใจโทรบอกพี่ของชาญเพื่อเคลียเรื่องตำรวจและ

โรงพยาบาล ผมกลัวตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกายเรื่องจะไปกันใหญ่เพื่อนผมยังมีอนาคตไม่อยากให้มาจบเพียงเพราะความ

คิดชั่ววูบของมัน ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อนและก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนอีกนั่นแหล่ะที่ช่วยให้มันมีสติและคิดได้

................................................................................................

ใกล้จบแล้ว
ชื่อเรื่องกับเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกันเลย งงง ขออภัยมาณโอกาสนี้ด้วยจ้า
 
Don't miss it!



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 12

ชาญรู้สึกตัวแล้วครับ ตอนนี้มีผมที่อยู่ในห้อง มีเสาน้ำเกลือยืนอยู่ข้างเตียงชาญ ท่าทางรู้สึกปวดตามเนื้อตามตัวไปหมด ไม่รู้ว่าจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ได้รึเปล่า

 “รู้สึกตัวแล้วหรอ เป็นอะไรมากไหม” ผมเห็นชาญนอนลืมตาอยู่บนเตียงเหมือนงงว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ดีที่ไม่อะไรหัก มีเพียง

แผลฟกช้ำตามร่างกายไม่กี่วันก็หาย ที่สำคัญผลตรวจออกมาไม่มีสารเสพติด แต่ชาญมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน ผมแจ้งให้ทาง

โรงพยาบาลตรวจเลือด แต่ก่อนนั้นทางโรงพยาบาลให้ชาญกินยาป้องกันไว้ก่อน ไม่รู้ว่าชาญไปหิ้วผู้หญิงมาจากไหนแล้วเอา

ความกล้าที่ไหนที่ไม่ป้องกัน

“ตื่นแล้ว... ต้นนี่มือเท้าหนักนะท่าทางกะเอาตาย” ถ้าพี่ธนไม่ห้ามไว้คงตายไปแล้ว

“5555 ทีหลังก็อย่าทำให้โกรธอีกละกัน” ขอบคุณที่ชม

“คนอื่นไปไหนกันหมด”

“ไปซื้ออะไรมากิน..เราให้หมอตรวจเลือดให้แล้วนะ ชาญต้องกินยาให้ครบ” ชาญพยักหน้าสิ่งที่ต้องกังวัลต่อจากนี้คือเรื่องความ

รู้สึกของตูนความรู้สึกที่เห็นคนที่ตัวเองรักมีอะไรกับคนอื่นแค่คิดถึงเรื่องนั้นก็ทำให้ผมอยากกระทึบคนตรงหน้าเหลือเกินให้ตายถ้า

เป็นคนที่ผมรักทำแบบนี้คงไม่ฝื้นขึ้นมาง่ายๆอย่างนี้หรอก

“แล้วไม่ไปเรียนกันหรอ”

“โดนไล่ออกแล้ว”

“ขอโทษ”

“นอนพักเถอะ ถ้าทุกคนมาครบแล้ว เรามีเรื่องต้นเคลียร์กัน”ผมคิดว่าคำขอโทษมันอาจเพียงพอแต่ก็ยังดีที่คิดได้และกล้าที่จะพูดออกมา

สักพักเพื่อนทุกคนก้กลับเข้ามาผมรู้ว่าตูนอยากที่เฝ้าชาญแต่ก็โกรธยังเสียใจอยู่อยากให้ทั้งสองคนปรับความเข้าใจนะแต่มันต้อง

หลังจากที่เคลียร์กับทางบ้านเรียบร้อยก่อนถึงทั้งสองจะรักกันแค่ไหนแต่ที่บ้านไม่ยอมรับปัญหาก็ตามมาอีกมาเรื่อยความรักดู

เหมือนจะแข็งแกร่งแต่ที่จริงแล้วผมว่ามันเปราะบางนะพ่อแม่ชาญมาถึงเห็นสภาพลูกชายตัวเองตกใจครับ ผมเลยบอกว่าฝีมือผม

ครับพวกท่านให้ผมตามหาแต่ไม่ได้บอกว่าให้กลับมาสภาพไหนนี่ครับ 5555 

“ตื่นแล้วหรอลูกแม่เป็นห่วงแทบแย่” แม่ของชาญโผเข้ากอดลูกชาย

“ผม...ผมขอโทษครับแม่ พ่อผมขอโทษ”

“ยังไงฉันก็ยอมรับเรื่องที่แกมีแฟนเป็นผู้ชายได้หรอกนะ แกคิดว่าหนีออกจากบ้านแล้วเรื่องจะจบรึไง” ตูนหน้าเจื่อนลงทันที

 มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้คนทุกคนยอมรับเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้คนแก่มักหัวดื้อแต่เพราะความรักทำให้พวกเขา

อยากเห็นลูกทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง

“แต่พ่อ...”

“เงียบชาญ....ผมว่าเอาอย่างนี้ดีกว่าไหมครับ ผมอยากให้คุณลุงลองเปิดใจ ไม่ใช่ยอมรับแต่ลองเปิดใจ ให้เวลาเขาทั้งสองลอง

พิสูจน์ตัวเอง ทั้งสองคบกันก็ไม่เคยทำเรื่องไม่เหมาะสม” พ่อแม่ของชาญเงียบลงนั่นไงลูกตัวเองไม่ฟังถ้าไม่คนในครอบครัวไม่

เชื่อใจกันอย่างนี้แล้วมันก็ยาสิทั้งสองเหมือนจะรอฟังข้อเสนอของผม

“ให้พิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ยังไง”

“อย่างนี้ครับ ให้ชาญออกมาอยู่ข้างนอก....เรียนรู้ชีวิตเรียนรู้ความลำบากด้วยตัวเองคุณพ่อไม่ต้องส่งเสียถ้าแค่นี้ชาญทนไม่ได้เขาก็เลิกกันไปเอง”

“ทำไมฉันต้องให้ชาญออกไปอยู่นอกบ้าน”

“รึคุณพ่อจะให้ทั้งสองไปอยู่ที่บ้านด้วย...ในเมื่อคุณพ่อไม่ยอมรับไม่อยากให้ตูนเข้าบ้านแต่ชาญอยู่ที่นั่นเขาก็ต้องเจอกัน ถ้าให้

ทั้งสองเลิกกันก็ทำร้ายจิตใจทั้งสองเกินไปครั้งนี้ชาญอาจโชคดีที่พวกผมไปพบ คราวหน้าอาจไม่โชคดีอย่างนี้ คุณพ่อคุณแม่

คิดถึงชาญก็มาหาหรือโทรตาม แต่แยกทั้งสองออกจากกันอาจจะไม่ได้เจอชาญอีกก็ได้” คุณพ่อมีทาทีลังเลหลังจากฟังคำพูด

ผมอีกเรื่องที่กังวลคงอีกไม่นานที่บ้านของตูนคงจะรู้เรื่องแต่ตอนนี้แก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้านี้ไปก่อน

“ได้แต่พวกเธอที่เป็นเพื่อนต้องเป็นคนดูแลชาญไม่ไห้ออกนอกลู่นอกทาง” พูดจบก็ออกไปจากห้อง

“น้องต้นคุณแม่ฝากชาญด้วยนะ ทุกคนด้วยนะลูกช่วยชาญด้วย” เรื่องมีแนวโน้มเป็นไปด้วยดีเรื่องต่อไปคือเรื่องเรียนซินะ

“เฮ้อเซ็งจังเลย...เราไปเที่ยวกันเถอะ ชาญนอนนานแล้วไม่เบื่อหรอ เหลือเวลาอีกสี่วันกว่าจะถึงกำหนดกลับไปเรียน”

ทุกคนโทรไปบอกที่บ้านว่าไปเที่ยว ออกเดินทางคืนนี้ พี่ธนไม่ไปครับปล่อยให้เด็กๆคุยกัน อยากให้ชาญกับตูนได้พักให้สบายใจ

ต่างแยกย้ายกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า ได้รถตู้พร้อมคนขับที่บ้านของปุ น้ำรับผิดชอบหาที่พัก ผมตรวจสอบเส้นทางสถานที่เที่ยว
 
รถตู้สีขาววิ่งไปบนถนนเพชรเกษม เป้าหมายคือภูเก็ต เดินทาง 12 ชม. ทั้งหยุดพักเข้าห้องน้ำ แวะพักรถที่ชุมพร ดวงอาทิตย์

กำลังยิ้มรับอรุณ พวกเรามาเดินทางมาถึงภูเก็ตประมาณ 8.30 นาฬิกา เข้าตลาดหาอาหารเช้าทาน อาหารเช้ามื้อแรกที่ภูเก็ต

 เป็นขนมจีน อาหารปักใต้ ติ่มซำ อิ่มหนำจากอาหารเช้าไปเดินย่อยอาหารที่หาดป่าตอง เริ่มสายนักท่องเที่ยวยิ่งเยอะ

ช่วงนี้เป็นกรีนซีซั่น โชคดีที่วันนี้อากาศดีไม่มีฝน เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน เดินดูของฝาก ลมทะเลพัดสบายแต่เหนียวตัว

น้ำเริ่มงอแงอยากอาบน้ำ เราเดินทางต่อไปหาดตะกระ-กรน  พวกเราพักที่นั่นเพระเงียบเป็นส่วนตัว พวกเราเช็คอินก่อนเวลา

เพราะใช้เส้นของที่บ้านน้ำ เราได้สองห้องมีประเปิดทะลุหากันได้เปิดประตูออกไปจะเห็นทะเลครับ ที่สำคัญมีห้องครัวด้วยครับ

 ผม น้ำ และตูน นอนด้วยกัน ตูนกับชาญยังไม่คุยกันครับและนั่นมันคือหน้าที่ของเพื่อนพร้อมทั้งเป็นอีกเหตุผลที่ผมพาทุกคนมา

เที่ยวผมเข้าใจใครเจอภาพแฟนตัวเองนอนกอดคนอื่นอยู่ ก็หน่วงครับ ผมสบายแล้วเหยียบไปหลายที 555 เรื่องของคนสองคน

ต้องให้เวลา ผมไม่ได้บอกที่บ้านชาญ เรื่องที่ชาญนอนกับคนอื่นโดยไม่ป้องกันกลัวแม่จะเสียใจมากกว่านี้แค่นี้แม่ก็ร้องให้แทบ

ขาดใจที่เห็นสภาพชาญครั้งแรก ที่ผมลงไม่ลงมือผมจัดการแทนพ่อแม่แล้วอย่าว่าอะไรมันอีกเลย แค่นี้มันก็เจ็บมากแล้ว น้ำ ตูน

ปุ เข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด ทั้งสามวิ่งลงทะเลตอนนี้เวลาสิบโมงเช้าแล้ว ผมออกมาจากห้องน้ำเห็นชาญท่าทางแปลกเหมือน

ต้องการคุยกับผม

“เป็นไรรึเปล่าชาญ”

“ชาญต้องกินยานานเท่าไหร่”

“หนึ่งเดือนตรงตามเวลาด้วย หลังจากนั้นต้องไปตรวจเลือด อดทนไว้ทำตัวเอง”อดกัดไม่ได้ครับ

“ไปเล่นน้ำป่ะ ลืมมันไปก่อนพยายามเคลียร์กับตูนให้ได้ก่อนกลับด้วย”

ผมลงไปสมทบกับเพื่อน น้ำเย็นสบายใสสะอาดหาดทรายสีขาว ส่วนมากที่เป็นหาดส่วนตัวจะสวยมาก ผมเคยไปเที่ยวพังงาไป

พักโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งมีหาดส่วนตัว เป็นหาดที่สวยมาก ยิ่งพระอาทิตย์ตกทะเลสวยมาก เล่นนานแล้วผมจึงกลับเข้าห้องเอา

กล้องมาเก็บภาพครับ ตอนนี้แสงกำลังสวยเวลาเลยมาถึงเที่ยงแล้วหิวข้าวออกไปหาของกินแถวโรงแรมรองท้อง กลับมานอน

เก็บแรง

“ต้น น้ำอยากกินอาหารทะเลสดสดเราให้โรงแรมเตรียมเตาให้แล้วเราไปหาอาหารมาย่างกันดีกว่า”

“ความคิดดี น่าสนใจงั้นน้ำโทรเลย”

ตอนบ่ายเราไปหาอาหารสดที่หาดราไวย์ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อ มีสะพานปลา กุ้ง หมึก หอย ล็อปเตอร์ สดมากวันนี้ปุเป็นเจ้ามือได้

อาหารทะเลมาเยอะ รีบซื้อของสดอีกสามชั่วโมงพระอาทิตย์จะตกรีบวิ่งไปที่แหลมพรมเทพ ขึ้นไปมีร้านค้าขายของเยอะราคานัก

ท่องเที่ยว

“ ต้นกางเกงขาก๋วยสวยสวยทั้งนั้นเลย”ตูนเริ่มร่าเริงขึ้นมากการมาเที่ยวช่วยให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก

“น้ำพริกนี่ก็อร่อย” น้ำชอบของกินตลอด ผมมองภาพน้ำกับตูนเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ตูนมีชาญคอยเดินห่างห่างช่วยถือของให้

เสียงเพลงชาติดังขึ้นแล้วทุกคนต่างยืนตรง อีกไม่กี่นาทีจะเห็นพระอาทิตย์ตก ผมยกกล้องขึ้นบันทึกภาพความทรงจำนี้ไว้

 ปุเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทุกคนโดยมีแหลมพรมเทพเป็นแบล็กกราว พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า พวกเรากลับโรงแรมอาบน้ำ

เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกทำมื้อเย็น ทางโรงแรมจุเตาเรียบร้อย สั่งอาหาร สองสามอย่างจากทางโรงแรม เครื่องดื่มขนมหิ้วมาจากข้าง

นอก ทุกอย่างพร้อม

“ผมรู้ผมผิดผมอยากขอโทษ ให้โอกาสผมนะ” เสียงกีต้าดังขึ้น ผมก็ร้องเพลง

ขอโทษ (เอิน กัลยากร)
อยากจะขอ ขอโทษ อยากให้หาย หายโกรธ
ผิดไปแล้ว และฉันก็เสียใจ ก็เพิ่งรู้ รู้สึก ว่ารักเธอมากมาย
ยังไม่สายเกินไปใช่ไหม (ถ้าฉันจะแก้ตัว)
ถ้าฉันจะรักเธอ

ไม่บอกก็รู้ ว่าเธอนั้นเสียใจ ที่ฉันทลงไป
ฉันรู้ว่าผิด ที่คิดมากเกินไป มองเธอแง่ร้ายในวันนั้น

ฉันขอโอกาสสักครั้งนะเธอ กับสิ่งที่ทำพลาดไป
ต้องให้คุกเข่าอ้อนวอนเธอเท่าไหร่ จะทำถ้าเธอต้องการ

นี่คือคำขอ จากคนที่เคยกลัว ที่หนรักเธอไป
ทั้งๆที่เธอรักฉันจนล้นใจ ไม่รู้ทำร้ายเธอได้ไง
(solo : na na na na na)

การแสดงบันทึกไว้ด้วยครับ เก็บไว้เป็นความประทับใจทั้งสองคน ร้องเพลงจบตูนก็น้ำตาซึม ชาญเดินเข้าไปหาตูนแล้วคุกเข่า

ขอโทษ ขอโอกาสอีกครั้ง ภารกิจเสร็จสิ้น กินครับก่อนที่อาหารจะเย็น อิ่มอกอิ่มใจกันทั่วหน้า แทบจะไม่ต้องกินข้าวกันเลยที

เดียว หลังจากบรรยากาศชื่นมื่นผ่านไป บรรยากาศตึงเครียดก็ตาม

“มีอะไรเปล่า..ทำไมทำหน้าเครียดกันจัง”ผมทิ้งตัวนอนลงที่โซฟาหน้าทีวี

“ต้นมีเรื่องจะคุยกับพวกเราใช่เปล่า ถึงได้ใช้เรื่องเที่ยวมาบังหน้า”

“เปล่า”(เสียงสูง)

“ต้น”

“จ้า จ้า ตูนที่บ้านรู้เรื่องชาญยัง”

“อืม...ไม่ทุกคน..แต่ไม่มีท่าทีอะไร”

“เคลียร์..ชาญจะเอายังไงกับชีวิต”

“หางานทำ”

“ตลกแล้วม.6 ยังไม่จบใครจะจ้าง แล้วคิดว่าเขาจ้างจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ ...ต้นมีคำตอบให้อย่างเดียวคือเรียนให้จบ ได้เกรด

เฉลี่ยสูงสูง ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง นี่คือทางออกที่ทำได้ตอนนี้ กลับไปตูน ชาญ ปุ น้ำ ต้องไปอยู่บ้านเรา แม่ของชาญหาครูมาติว

ให้ เราต้องสอบติดรอบโควต้าให้ได้ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน” ทุกคนต่างเงียบกับคำพูดของผม

“มันไม่ยากไปหน่อยหรอต้น ถ้าน้ำสอบไม่ได้ล่ะ”

“ถึงได้มีครูมาติวให้ที่บ้านต้นไง จนกว่าผลสอบโควตาจะออก พวกเรามีหน้าที่คือเรียนอย่างเดียวเท่านั้น แม่ชาญช่วยได้แค่นี้

หลังจากที่เข้าเรียนได้ค่อยหางานพาสทามทำ ส่วนนี่เงินของพวกเรามีตอนนี้” ผมหยิบบัญชีธนาคารที่มีตัวเลขแสนกว่า

เป็นทุนการศึกษาตั้งแต่ที่ชนะการประกวดโครงงานและออกร้าน

“จะดีหรอต้น มันเงินของทุกคนชาญเกรงใจ”

“ถ้าเกรงใจใช้แล้วก็หามาคืน ช่วงที่อยู่บ้านเราคงไม่ต้องใช้จ่ายอะไรแม่ชาญคุยกับที่บ้านเราแล้ว”

“ต้นนี่เก่งจังเลยนะวางแผนเอาไว้หมดเลย แต่เวลาโกรธน่ากลัวมากเลย”น้ำพูด

“น้ำ กับปุก็อย่ามีเรื่องอะไรถ้ามีให้รีบบอก ถ้าเรารู้เองเดี๋ยวเจอแบบชาญ” ปุกับน้ำหันหน้ามองกัน แล้วยิ้มแหย

ที่จริงผมก็รู้มาเรื่องของปุ ปุมีแฟนแล้วสวยด้วย คบกันมานาน แต่ที่บ้านอยากให้แต่งงานกับอีกคนกลัวสักวันจะทะเลาะกับที่บ้าน

“จ้าแม่” น้ำพูดแล้วก็คลานมากอดผม เสียงหัวเราะดังลั่นห้อง ตามด้วยตูนชาญและปุ พวกเรากอดกันบ่อยครับสนิทกันแต่ไม่ค่อย

พูดกัน สุดท้ายคืนนั้นพวกเราก็นอนที่ห้องเดียวกัน เวลาไม่กี่ปีที่พวกได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน พบผ่านประสบการณ์ทั้งในห้องเรียน

 นอกห้องเรียนร่วมกันวันเวลาค่อยๆแปรเปลี่ยนแต่ความเข้าใจ ความผูกผันของพวกเรานั้นนับวันยิ่งวันยิ่งเพิ่มขึ้น ยิ่งโตปัญหาของ

แต่ละคนก็เริ่มปรากฏให้เห็นแต่เพื่อน ไม่มีไว้ลอกการบ้าน โทรหาเวลาเหงา เพื่อนสำหรับผมมันมีความมากกว่านั้น บางครั้งช่วย

แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ขอแค่รับฟังปัญหาของผมก็ดีใจแล้ว ขอบคุณที่คอยยืนเคียงข้าง “ขอบคุณสำหรับคำว่า...เพื่อน....และ

มิตรภาพ”

...

ฮื้อ จบไปอีกตอนอย่างยากลำบาก

TBC.

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 13

ผมนั่งรอเพื่อนอยู่โรงอาหารคณะผม เพราะทุกคนลงความคิดว่าคณะของผมอาหารอร่อยที่สุด และเป็นโรงอาหารขนาดใหญ่

 นักศึกษาทุกคณะต้องมาเรียนภาษาอังกฤษที่คณะนี้ ใช่แล้วฟังไม่ผิดผมและเพื่อนสอบติดคณะมหาวิทยาลัยที่พวกเขาต้องการ

กว่าจะก้าวผ่านวันนั้นมาถึงวันนี้ได้ พวกเราต้องเรียนอย่างหนัก จัดการกับปัญหาในชีวิต ยิ่งเผชิญหน้ากับปัญหามากและบ่อยแค่

ไหนพวกเรายิ่งกล้าและแกร่งขึ้น ปัญหาเริ่มต้นแก้ไปทีละข้อ ตอนนี้พวกเขาออกมาอยู่หอพัก ราคาไม่ค่อยแพงมาก ตูนกับชาญ

อยู่ด้วยกันตามข้อตกลง ปุเบื่อที่บ้านที่คอยจับคู่ดูตัว ผมแม่ไล่ออกจากบ้านเพราะอยากให้ลูกออกมาเผชิญโลก(แม่ใจร้ายมาก)

น้ำอยากมาอยู่กับเพื่อนเพื่อน ตูนและชาญเริ่มงานพิเศษแล้ว ส่วนผมรับงานแปลมาทำเพื่อเก็บเงินไว้ยามจำเป็น นั่งมองนักศึกษา

จากหลากหลายคณะเดินผ่านไปผ่านมา สาวสาวคณะนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคณะที่มีผู้หญิงสวยมากที่สุดหุ่นดีด้วย ที่นี่สาวสาวประหยัด

เสื้อผ้าใส่ตัวเล็กเล็ก กระโปรงสั้นปุชอบมอง ผมเคยถามไม่จีบ ปุบอกไม่ชอบจนป่านนี้ผมยังไม่เคยเห็นหน้าแฟนปุเลยครับ ผมว่า

ไม่นานมีแววดราม่า เดี่ยวได้เจอ ถึงขั้นออกมาอยู่หอนี่ไม่ธรรมดา แต่ดีที่ไม่หนีแต่วิ่งมาหาเพื่อน คนที่มาหาผมเป็นคนแรกก็คือพี่

ธนตามคาดผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งหล่อขึ้นสาวๆดูเหมือนจะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆคนอื่นชอบผมไม่ห่วงแต่ถ้าไปชอบคนอื่นเมื่อไหร่

ก็มีเรื่องสิครับผู้ตัวโตหน้าตาดีเดินส่งยิ้มทักทายมาให้ผมใครเห็นก็ต้องรู้สึกอิจฉา

“มองอะไรต้น” เสียงพี่ธนทักทาย

“มองเนื้อคู่”

พี่ธนยิ้มใหเผมบางๆ รอยยิ้มละลายใจ

“ไปซื้อข้าวเถอะครับต้นหิวข้าวแล้ว” ผมสายหัวกับเสน่ห์ของพี่ธนตั้งแต่ที่เดินมาที่โต๊ะสาวๆก็มองตาเป็นมันไหนจะหันหน้าไปซุบซิบๆนั่นอีก

 ผมและพี่ธนกลับมานั่งโต๊ะ สักพักเพื่อนผมก็มา

“พี่ธน... สวัสดีครับ/สวัสดีครับ/สวัสดีครับ” ไห้วอย่างพร้อมเพรียงกัน

เพื่อนๆทักทายพี่ธน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องชาญพี่ธนมาช่วยเหลือ เพื่อนผมก็เริ่มสนิทกับพี่เขา แต่น้ำไม่ค่อยชอบพี่ธนบอกว่าพี่ธนจะแย่งผมไปจากน้ำ

“หวัดดีครับ...มากันพร้อมหน้าเลย”

นั่งฟังพี่น้องร่วมคณะคุยกันถูกคอเชียว ไม่นานทุกคนต่างแยกย้าย ผมเรียนตอนบ่ายวิชาเดียว แล้วแวะร้านกาแฟแถวมหาลัยรอ

พี่ธนและวันนี้มีคนมานัดรับงาน ผมนั่งอ่านหนังสือตอนนี้ผมอ่านนิยายแล้ว เพราะต้องแปลนิยาย เรื่องสั้น เลยต้องอ่านสำนวนการ

แปลคนอื่นอ่านสำนวนการแต่ง ปีหนึ่งมีลงทะเบียนไม่เยอะคาบว่างเยอะมีพละด้วย ผมนี่นั่งเหงื่อตกเลยครับ ถามโอมเพื่อนภาค

วิชาชวนไปเรียนชกมวย ผมนี้ฮาเลยครับถึงผมจะสูง(ซะเมื่อไหร่) แต่ผมไม่ชอบใช้กำลัง สุดท้ายเรียนลีลาศครับ ผมมีปัญหากับ

การเต้น ผมบกพร่องด้านการเต้นเข้าจังหวะ แต่ลีลาสไม่น่ามีปัญหาแต่ปัญหาคือผมต้องไปเรียนไกลถึงคณะศึกษาศาสตร์ ผมนั่ง

ดูดคราเมลแมคคีอาโต้ ฮาฟช็อตไม่นานคนที่ผมนัดเขาก็มา

“ต้นพี่ขอโทษ พอดีงานยุ่งมีโปรเจ็คใหญ่เข้ามา”

“ครับ ต้นเพิ่งมาเหมือนกันครับ”

“งานเรียบร้อยใช่ไหมเดี๋ยวพี่เช็คก่อนนะ” ผมนั่งมองสาวสวยหุ่นดีทำงานที่สำนักพิมพ์ชื่อดัง กำลังตรวจเอกสารงานแปลของผม

คร่าวๆส่วนงานพิมพ์ส่งทางเมล์เรียบร้อยแล้วงานรอบนี้ผมรับมาร้อยกว่าหน้า ทางสำนักพิมพ์ชอบสำเนียงการแปลของผม

ถึงจะมีนักแปลเยอะแต่มีชื่อเสียงก็ถูกดึงไปทำงานที่อื่น สำนักพิมพ์จ่ายค่าแรงผมในราคาที่ผมชอบไม่ถูกจนดูถูกประสบการณ์

ผม  ไม่แพงจนจนเกินหน้านัแปลคนอื่น(ที่จริงไม่รู้หรอกว่าคนอื่นได้เท่าไหร่)

“นี่ค่าขนมของต้น ถ้ามีอะไรต้องแก้ไขพี่ติดต่อมาอีกที อ้อนี่งานงวดนี้ 500 หน้า นานหน่อยก็ได้นะไม่รีบ เพราะต้องทำโปรเจ็ค

ใหญ่ก่อน พี่ไปแล้ว” ว่างครับงานแค่นี้ แปลไม่กี่สัปดาห์เดี๋ยวก็เสร็จ ไม่ใช่งานวิชาการศัพท์ทางการไม่ค่อยมี ปีหนึ่งยังเรียนเรื่อง

เดิมที่เรียนตอนมัธยมปลาย ใกล้จะหมดเทอมแรกยังเรียนเรื่องเดิมอยู่ ภาษาอังกฤษมีเรียนการแปล รุ่นพี่บอกว่าอาจารย์ให้แปล

งานเป็นเล่ม การเขียนอาจารย์ให้เขียนบทละครให้แต่งนิยาย ว่างว่างผมจะแต่งไว้ซักเรื่องดีไหมนะ

“เอ่อ..ผมไม่ได้สั่งครับ”

“พอดีโต๊ะนั้นสั่งให้ค่ะ”

ผมมองไปยังโต๊ะที่พนักงานชี้ เป็นผู้ชายคณะไหนไม่รู้หน้าตาพอดูได้ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไงครับตั้งแต่เข้ามหาลัยมีคนเข้ามาจีบเยอะ

พี่ธนตามคุมแล้วนะครับ ตอนมัธยมมีเพื่อนมีพี่ธนคอยกันท่า เลยไม่ค่อยมีคนกล้าเข้ามา เห็นผมเรื่อยเปื่อยผมก็รู้นะครับว่ามีคนเข้า

มาหาผมเยอะ

“ต้น..มาคนเดียวหรอ”

“เอ้อ” โอมครับเพื่อนที่ชวนผมไปเรียนชกมวย โอมเป็นผู้ชายแท้ตัวโตผิวเข้มไม่มีพิษภัย ซื่อครับเป็นเด็กต่างจังหวัด

 เรียนเก่งเพราะแม่แต่งงานกับชาวต่างชาติอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กกลับมาเมืองไทยตอนมัธยมต้น

“ต้นไปไหนต่อเปล่า”

“ทำไมจะชวนเราออกเดตหรอ”

“พอดีเราจะทำธุระที่กองกิจการนักศึกษาไม่มีเพื่อนไป”เลยอยากชวนผมไปเป็นเพื่อน

“ได้ ว่างพอดีไปกันเถอะ” ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือยังมีเวลอีกนานกว่าจะเวลานัด

ผมเห็นโอมยืนอ่านประกาศอะไรไม่รู้อยู่นานแล้วเข้าไปคุยกับพี่ที่ทำงานอยู่ในอ็อฟฟิต โอมเดินออกมาพร้อมกระดาษอะไรซักอย่าง

“กระดาษอะไรโอม”

“ใบสมัครไปค่ายอาสา ต้นสนใจเปล่า” โอมยื่นใบสมัครและรายละเอียดให้ผมดู

“โฮ ไกลอ่ะทุรกันดารแน่เลย”

“ใช่ ทุรกันดารมากใกล้หมดเขตรับสมัครมีคนไปไม่กี่คนเลย”

“ทำไมโอมอยากไป อยากได้คะแนนกิจกรรมหรอ”

“มันเป็นค่ายที่ไปลงหมู่บ้านเราน่ะ” อ้อหมู่บ้านโอมเลยอยากให้คนเข้าไปพัฒนาหมู่บ้านของตัวเอง

“เอ่อ..งั้นเราขอใบสมัครได้ไหมเราจะเอาไปแจกเพื่อนคณะอื่นให้ แต่ไม่รับปากนะว่าเขาจะไปเปล่า”

“ขอบใจนะ”

โอมมาส่งผมที่ร้านนมหน้ามหาวิทยาลัยเพราะผมต้องรอพี่ธน เมื่อเข้าไปก็เห็นนั่งหล่ออยู่ที่โต๊ะ

“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ”

“ไปไหนต้นหอมแอบไปดื้อที่ไหนมาอีกเรา”

“ต้นพาเพื่อนไปทำธุระต่างหาก ไม่เชื่อนี่ไงมีหลักฐาน”

“จะค่ายไปหรอเรา”

“ถ้าไปพี่ธนไปกับต้นไหม”

“แล้วคิดว่าไงล่ะ”

“พี่ธนเรียนมาเหนื่อยๆหิวยังไปหาอะไรกินกันเปล่า”พี่ธนทำหน้าที่ส่งผมกลับหอทุกวันตอนช้าจะเอารถไปจอดไว้ที่หอผมแล้วไปเดินไปที่มหาวิทยาลัยพร้อมกัน ถ้าไหนเวลาเรียนไม่ใกล้กันหรือมีกิจกรรมนั่นก็อีกเรื่อง

“พี่ธน สวัสดีค่ะ มากับน้องหรอคะให้จ๋านั่งด้วยนะคะ”นั่งทานข้าวได้ไม่นานก็มีมารมาผจญบางทีก็เบื่อเหมือนกันถึงพี่ธนไม่เล่นด้วยก็แอบมีหงุดหงิดรำคาญบ้าง

“เชิญตามสบายครับพอดีพวกพี่อิ่มแล้วกำลังจะกลับป้าเก็บเงินครับ ทานให้อร่อยนะครับ”ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้พี่ธนนี่ก็เล่นแรงนะเดินออกมาจากร้านพี่ธนพาแวะซื้อขนมไปกินกลัวผมหิวออกมาตอนดึกอันตราย

“คนหอคนเดียวชินรึยังเรา”หึ อยู่บ้านก็เหมือนอยู่คนเดียว

“ทำไมจะอยู่ด้วยรึไง”

“อยากให้ไปอยู่ด้วยไหมล่ะ”ง่ะพูดไม่ออก เลือกขนมอยู่นานพวกเราก้กลับไปที่หอ

“ถ้าจะไปค่ายจริงๆแล้วพี่จะไปด้วย”

“ดูก่อนว่าจะไปไหม ขับรถดีๆนะครับ” ผมยืนมองรถที่ขับออกจากหอพักแล้วหันหน้าเดินขึ้นห้องหอพักที่พวกผมอยู่เห็นหอใหม่

เพิ่งสร้างได้ไม่นาน หลังจากที่พวกผมสอบติดโควตาต้องเตรียมเงินค่าเทอม และค่าหอ พวกผมตะเวนตลาดทั่วกรุงเพื่อช่วย

เพื่อนหาค่าเทอมและค่าที่พัก เริ่มตั้งแต่ขายเสื้อผ้ามือสองของพวกผมเอง ขายสมุดโน้ต โปสการ์ด ที่ขั้นหนังสือ ทำคุกกี้ขนมส่ง

ตามฝากตามร้าน ฝากพี่ธนพ่อแม่ของพวกเราขายอันนี้ประสบความสำเร็จที่สุดไม่รู้ว่ามีพนักงานซื้อไปกินหรือบังคับหรือไม่ก็ซื้อ

ไปแจกพนักงานจะอย่างไหนก็เป็นผลดีกับพวกผม จนพวกผมคุยกันเรื่องจะเปิดร้านขายขนมดีไหมผมเห็นด้วยนะ จะได้มีธุรกิจ

ของเรา แต่ตอนนี้ต้องเก็บเงินครับ ทำงานเหนื่อยมาก กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ผมและเพื่อนที่เกิดมามีพร้อมไม่เคยขาด

 ครั้งหนึ่งได้มาทำอะไรอย่างนี้ก็มีความสุข ผมเดินเข้าห้องพักภายในห้องผมในห้องมีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องรับแขก

หรือห้องโถง กว้างสำหรับอยู่สองคนได้สบาย ส่วนมากห้องผมจะเป็นน้ำและตูนมานอนด้วย พี่ธนยังไม่เคยมาแกบอกกลัวอดใจ

ไม่ไหวอันนี้ไม่รู้ว่าพูดเล่นพูดจริง  เวลามีการบ้านเพื่อนๆจะเอามานั่งทำที่ห้องของผม ทานข้าวพร้อมหน้าก็จะมารวมตัวที่นี่
บางครั้งที่ชาญทำงานเลิกดึกตูนจะนอนกลับผมพอถึงเวลาชาญจะมารับกลับ

ผมวางกระดาษเอสี่ที่ได้มาจากโอม จัดของที่ซื้อมาเข้าตู้เย็น หยิบน้ำเปล่าจากตู้ออกมาดื่ม แล้วหย่อนก้นลงบนเก้าอี้อ่านราย

ละเอียดบนแผ่นกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะที่พวกผมใช้กินข้าว อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ค่ายอาสาพัฒนาชนบทอย่างงั้นหรอ

ช่วงปิดภาคเรียน ช่วงนั้นผมคงว่าง จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน หมู่บ้านโอมซินะ ออกค่ายหนึ่งสัปดาห์ บริจาคสิ่งของ

สร้างอาคารเอนกประสงค์ ซ่อมแซมห้องสมุด ฟังดูน่าสนใจซะแล้วสิ

...

ผ่านไปอีกตอนอย่างยากลำบาก
แต่ก็ต้องสู้ต่อไป

TBC

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 14

ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์ผมสั่น นี่ผมหลับไปนานแค่ไหน

“ว่าไงตูน”

“ต้นมารับตูนกับชาญหน่อยที่ร้านCONNEXT” ฟังเสียงท่าทางจะเมาได้ยินเสียงเสียงเพลงดังมาก ไม่นานผมก็มายืนหน้าร้าน

อาหารกึ่งบาร์กึ่งพับ บรรยากาศดีเสียงเพลงดังฟังชัดจนเกือบอื้อเลยทีเดียวไฟแสงหลากสีล่อแมลงเข้ามา เดินเข้าไม่นานก็เจอ

กลุ่มของตูน ตูนบอกว่าวันนี้มาเลี้ยงสาย คณะตูนกับชาญนี่เอะอะก็เลี้ยงสาย กินเหล้าตลอดเห็นเลี่ยงมาตลอดเพราะติดงานพิเศษ วันนี้คงเลี่ยงไม่ได้

“พี่พี่หวัดดีครับ ผมมารับเพื่อนครับ” ผมเดินมาถึงโต๊ะยกมือสวัสดีทักทายพี่พี่ ที่เริ่มจะเมากันแล้ว ท่าจะดื่มเหล้ากันจริงเพราะกับ

แก้มยังเหลือเต็ม ผมมองดูสภาพเพื่อนทั้งสองต้องส่ายหน้า ชาญผมไม่ค่อยห่วงเพราะกินเหล้าเป็น ที่เมาก็คงโดนรุ่นพี่รับน้อง
 แต่หมวยเล็กคงไม่ใช่

“อ้าวน้องต้นนั่งก่อนซิ” พวกพี่เรียกผมนั่งมันก็คงดูไม่งามที่มาถึงแล้วกลับเลยนี่ก็เพิ่งจะสี่ทุ่ม พี่พี่จัดที่นั่งให้ผมนั่งข้างหมวยเล็ก

หมวยเล็กเห็นผมก็เลื้อยผมใหญ่ เข้ามากอดซบมีหอมแก้มด้วย ปกติไม่เมาก็ทำ ผมไม่อายครับชินแล้ว แต่พี่พี่บางคนถึงกับอึ้ง

ผมไม่รู้ว่าพี่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของชาญกับตูนรึยัง เพื่อนพวกผมพวกผมรับได้แต่กลัวคนอื่นเขารังเกียจ นั่งไปสักพักก็เห็นคนที่

ไม่คิดว่าจะได้เห็นมานั่งที่โต๊ะ ผมลืมไปว่าพี่เขาเป็นพี่รหัสตูน

“เฮ้ยกว่าจะเสด็จมาได้นะมึงไอ้ธน” พี่พี่รุมด่าพี่ธนนี่มาดขรึม ชงเหล้าให้พี่พี่แกเป็นการใหญ่

 “ขอโทษพี่พาแม่ไปทำธุระ” พี่ธนนั่งแก้ตัวพี่พี่ที่ออกไปจีบสาวโต๊ะอื่นก็กลับมารุมพี่ธน

“แม่ไหนวะ แม่คุณทูนหัวหรือวะ” พี่ธนไม่ตอบแต่มองมาที่ผมผมไม่สนใจหันไปมองทางนั้นทีทางนี้ นั่งดูพวกพี่เขาดื่มกันอย่าง

เฮฮามันก็สนุกไปอีกแบบ ของผมไม่นานก็คงมีเลี้ยงสายแต่ท่าทางคงจะเป็นร้านที่เปิดเพลงมันมันรุ่นพี่ผมแกชอบดิ้น

ไม่นานพี่ธนก็เปลี่ยนที่นั่งขยับมานั่งใกล้ผม ดึงมือมากุมไว้ ผมยังไม่ไห้พี่ธนบอกเพื่อนเรื่องของเรากลัวมีอะไรหลายๆอย่างตามมา
 
“พี่ครับโต๊ะนั้นฝากมาให้” ไวน์ครับ ไวน์หนึ่งแก้วถูกวางไว้ที่หน้าผม ผมมองไปยังโต๊ะที่ฝากมาให้เป็นผู้ชายสี่คนน่าตาดีแต่งตัว

เหมือนคนมีเงิน คนที่สั่งไวน์ให้ผมชูแก้วไวน์ขึ้นเชิญผมดื่ม ผมพยักหน้าชูแก้วไวน์ขึ้นแล้ววางลง ผมไม่ยากดื่มให้เกียรติแฟนครับ

นั่งตาเขียวแทบจะกัดคออยู่ข้างข้างพ่อคนขี้หวง ตูนเกาะผมไว้หัวยังซบที่ไหล่ผม มืออีกข้างผมก็กอดตูนไว้เดี๋ยวหล่น ชาญงัวเงีย
ตื่นขึ้นมาเห็นตูนซบผมอยู่ก็ยิ้มให้

“ต้นหรอมาได้ไง” เงยหน้าขึ้นเห็นผมก็ถามทันที หน้าแดงนิดหน่อย ตานี้หวานยิ้มบาดใจมาก แล้วฟุบลงที่เดิมไปดีเถอะเพื่อนเอ้ย

“มารับ” ถ้าตูนไม่โทรหาแล้วจะกลับกันยังไง ผมกลัวหมวยเล็กโดนหิ้วมากกว่า ตัวเล็กเล็กขาวขาว ปากแดงแดง แก้มนุ่มนุ่มนี่มัน

น่ารักเจ้าน้ำอีกคนน่ารักไม่ต่างกัน ตั้งแต่ที่พี่ธนมานั่งที่โต๊ะสาวสาวก็ขยันมาขายขนมจีบ ส่งยิ้มพี่แก ชวนดื่ม ผมมองดูสาวหุ่นดี

หน้าอกเอวก้นมองทีเหล้านี่แทบพุ่ง แต่แกไม่สนใจ เฉยมากไม่รู้ว่าเพราะผมอยู่หรือเปล่า ของผมก็ไม่น้อยหน้าโต๊ข้างข้างก็มา

ชวนดื่ม ชวนชนแก้ว พี่ธนเริ่มหงุดหงิดมีคนเข้ามาวุ่นวายกับผมมากเกินไป

“เฮ้ยพี่ทำไมน้องผมเมายังงั้น” พี่ธนเพื่อนผมมันเมานานแล้วพี่เพิ่งเห็นหรอ

“รับน้องให้มันกินเยอะๆนานนานทีมันว่าง” พี่กะให้เพื่อนผมอิ่มไปถึงปีหน้าเลยรึไงครับทำไมไม่เท่ถังให้ลงไปนอนแช่ซะเลยล่ะ

“พี่ผมว่าน้องไม่ไหวแล้ว ให้กลับเถอะพรุ่งนี้มันมีเรียน” ขอบคุณมากครับที่คิดได้ แต่ผมได้ยินข่าวว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ทั้งวัน

“แล้วพากันกลับยังไง” พี่พี่ถาม

“แท็กชี่ครับ” ผมตอบผมขับรถไม่เป็นเวลาขับรถไม่มีสมาธิไม่ชอบรถติด

“งั้นเดี๋ยวให้พี่ไปส่ง” ครับขอบคุณมากพี่ธน คงอยากกลับเลยเอาพวกผมมาเป็นข้ออ้าง แฟนผมฉลาดมาก

“ต้นมาทำไมไม่โทรพี่ พี่ไม่มากลับยังนี่” เป็นพี่ธนที่ทำลายบรรยากาศความเงียบ ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี

“ต้นก็พึ่งรู้ตูนโทรบอกให้มารับ” จบครับไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวทะเลาะกัน

พี่ธนบอกว่าไปทำธุระให้แม่ตอนแรกว่าจะไม่มา แต่พี่พี่บอกว่าตูนกับชาญมาเลยคิดว่าผมจะต้องมาเลยรีบออกมา 
ในที่สุดรถคันหรูก็จอดอยู่หน้าหอผม ตอนนี้ชาญรู้สึกตัวแล้วพยุงหมวยเล็กเข้าไปนอนในห้อง  ผมไปเตรียมเย็นผ้าขนหนูให้ชาญ

เช็ดตัวให้หมวยเล็ก ถ้าพ่อแม่ของชาญรู้ผมนี่โดนครับ ชาญก็คงรู้หลบตาผมไม่กล้าสบตา คงรู้ว่าตัวเองผิด

ผมเปิดห้องผมให้พี่ธนเข้าไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น ชงโอวัลตินอุ่นอุ่นให้ดื่ม ท่าทางเหมือนพี่ธนจะเริ่มเมาโดนรุ่นบังคับให้ดื่มไปเยอะ

 ผมพยุงพี่ธนเข้าห้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านอนลงข้างข้างคนตัวโตแล้วหลับไปด้วยกัน

แสงแดดส่องเข้ามาห้องผมลืมตามองดูนาฬิกา 7.30 คนตัวโตยังนอนอยู่ข้างผมท่าทางอีกนานกว่าจะตื่น

ผมปล่อยให้หลับต่อไม่รีบปลุกวันนี้วันหยุด ผมหิวแล้วเดินเข้าไปในครัวหาอะไรกินและทำเผื่อขี้เมากลัวตื่นมาแล้วจะหิววันนี้เป็น

โจ๊กทรงเครื่องกับน้ำส้ม ผมกลับเข้ามาในห้องหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกาย ผมเดินออกมา

“ตื่นเช้าจังครัยที่รักจะออกไปไหนรึเปล่า” พี่ธนตื่นแล้วนั่งอยู่เตียงมองมาที่ผมด้วยสายตาหื่นหื่น อายครับ

“พี่ธนตื่นแล้วอาบน้ำทานครับ จะได้สดชื่น” ไม่ตอบแต่นั่งมองผม

ฟอด จุ๊บ “อรุณสวัสที่รัก” พี่ธนเดินมาหอมแก้มจูบที่ปากผม แล้วเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ คนบ้าแกล้งกันแต่เช้าเลย

ผมนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวไม่นานคนหล่อที่เดินออกมาจากห้อง

“ที่รักวันนี้เราไปดูหนังกันเถอะ” ผมไม่มีปัญหาแต่พี่ธนไม่ต้องไปช่วยงานที่บ้านหรอ

“พี่ธนว่างหรอครับ” คนหล่อส่งยิ้มหวานมาให้ผม

……………………………………………………………………


ตอนนี้อยู่หน้าโรงหนังพี่ธนกำลังไปเข้าแถวซื้อตั๋ว ส่วนผมยืนรออยู่แถวนั้น

“ขอโทษนะครับ..มาคนเดียวรึเปล่าครับ” มีผู้ชายเดินเข้ามาทักผม 
 
“ไม่ได้มาคนเดียวมากับผัว” พี่ธนครับไม่รู้มาจากไหนเดินเข้ามากอดผมไว้ ผู้ชายคนนั้นตกใจรีบขอโทษนึกว่ายังไม่มีแฟน

“เสน่ห์แรงจังนะ ไม่ต้องดูหรอกหนังไม่มีอารมณ์แล้ว” อ้าวความผิดน้องหรอเขาเข้ามาคุยกับน้องเองนะ พูดเสร็จพี่ธนก็พาผมเดิน

ไปที่ตู้คาราโอเกะไปนอนฟังผมร้องเพลงครับบอกว่า อยู่ในตู้ได้อยู่ด้วยกันสองคน ไม่มีใครมายุ่ง เข้าไปพี่ธนไม่ร้องครับ

 นอนเอาหัวหนุนตักผมให้ผมร้องคนเดียว อารมณ์ดีขึ้นแล้วครับวัยทองรึเปล่าไม่รู้เดียวดีเดียวร้าย

ตอนนี้ผมอยู่สวนสัตว์ครับพี่ธนอยากมาเที่ยว สถานที่ครับที่ครอบครัวเขาเที่ยวกัน ผมประชดว่าสวนสัตว์

ตอนแรกว่าจะบอกว่าสวนสนุก แต่วัยรุ่นเยอะเดี๋ยวมีปัญหาเอาเป็นสวนสัตว์ โชคดีครับวันนี้คนไม่ค่อยเยอะลานจอดรถปกติว่าง

แต่รถทัวร์สองชั้นเอื้อครับ ดีเหมือนกันครับไม่ได้มาเที่ยวนานแล้ว ไม่ได้มาดูสัตว์หรอกครับ มากินมากกว่า ของกินที่นี่อร่อย

กินทุกอย่างเดินไปกินไปอิ่ม ผ่านไปสองชั่วโมงเที่ยวครบแล้ว เดินจนขาล้า

“พี่ธนเหนื่อยไหม”ผมยื่นน้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้าให้ ไม่ตอบครับแต่รับไปแล้วส่งยิ้มให้ผม กลับมาถึงที่พักตอนเย็นเย็น
วันนี้ต้องมานอนที่คอนโดพี่ธน

“ไปทานข้าวเถอะพี่แวะซื้อก่อนมาถึง กินแล้วจะได้พักผ่อน” ผมพยักหน้า ผมทานข้าวเงียบเงียบ แล้วอาบน้ำ

 ผมทิ้งตัวลงนอน ผมหลับแทบทีที่หัวถึงหมอน เพราะตะลอนทั้งวัน ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับตัวผม ผมขยับตัวไม่ได้

ผะ..ผีอำ ผมตัดสินใจลืมตาขึ้น ภายในห้องมืดสลัว พี่ธน พี่ธนกำลังนั่งคล่อมผมอยู่

 “ที่รัก..พี่ทนไม่ไหวแล้วช่วยพี่หน่อยนะ” พี่ธนถอดเสื้อของตัวเองออกโน้มใบหน้าลงมากดจูบผมเบาๆในครั้งแรกก่อนที่จะค่อยๆ

เปลี่ยนเป็นจูบที่โหยหา  เล่นเอาผมหายใจแหบไม่ทัน พี่ธนยังไม่หยุดแค่นั้นสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากของผม ตัวผมสั่น

น้อยน้อย กับจูบที่พี่ธนมอบให้ ปลายลิ้นของพี่ธนลากไล้ผ่านต้นคอขาวของผม พี่ธนถอดเสื้อของผมออก ภาพเปลือยท่อนบน

ปรากฏต่อหน้าพี่ธน ถึงแม้ในห้องจะมืดแต่ผมก็อาย

“พี่.พี่ธน.อือ.อ้า” ผู้รู้สึกเสียวที่ลิ้นของพี่ธนสัมผัสลงบนผิวนุ่มของผม พี่ธนยังคงลากลิ้น ซุกไซร้ไปตามต้นคอใบหูผมอย่างใจเย็น

และไล้ต่ำลงไปเรื่อยจนถึงยอดตุ่มไตสีชมพูเล็กๆของผม พี่ธนตวัดลิ้นไล่เลียหมุนวน ดูดเม้มเบาๆอย่างทะนุถนอม

“รู้สึกดีไหมที่รัก” พี่ธนกระซิบเบาๆที่ข้างหูเพื่อสอบถามความพึงพอใจของผม แล้วกลับลงไปใช้ลิ้นหยอกเหย้าร่างกายผมต่อ

พี่ธนลากลิ้นลงมาถึงท้องน้อยทั้งจูบทั้งใช้ลิ้นเล้าโลมจนผมแทบหายใจไม่ทัน พี่ธนใช้มือค่อยค่อยดึงบ็อกเซอร์ผมออกจาก

สะโพกผมใช้เท้าเขี่ยออกไปจนอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งผม

“พี่..พี่ธนอย่าจ้องดิ ต้นอายนะ” พี่ธนหัวเราะเบาๆกับคำพูดของผม พี่ธนใช้มือสัมผัสแก่นกายของที่กำลังชูชันและมีน้ำปลิ่มออก

มาจากปลาย พี่ธนใช้มือหยอกเย้าแก่นกาย รูดขึ้นลงสองสามครั้งแล้วใช้ปากคลอบลงที่แก่นกายของผม

“อ้า..พี่..พี่ธน..เสียว..อ้า” พี่ธนเหมือนจะพอใจในคำพูดของผมเร่งจังหวะขึ้น ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นของผมออกมาเต็มปากพี่ธน

“พี่ธน..คายออกมา..ผมขอโทษผมกลั้นไม่อยู่” พี่ธนยิ้มอย่างพอใจ

“ที่รักทำให้พี่บ้าง พี่ไม่ไหมแล้ว” พี่ธนถอดกางเกงออกนั่งอยู่ปลายเตียง ผมนั่งลงบนพื้นห้อง ผมมองเห็นน้องชายพี่ธน

ผมถึงต้องกลืนน้ำลายมันใหญ่มาก พี่ธนคงอดกลั้นมานาน

“อ้าปากกว้างกว้างที่รัก...อย่างนั้นห้ามให้โดนฟัน...เก่งมาก” น้องชายพี่ธนเข้ามาเต็มปากของผม ผมใช้ปากรูดขึ้นลงตามจังหวะ

ที่พี่ธนบอก พี่ธนคางออกมาอย่างพอใจ ผมทั้งดูดทั้งเลีย ไม่นานพ่อธนก็ดึงน้องชายออกจากผมแล้วพ่นน้ำออกใส่ผ้าที่อยู่บนพื้น

“ไม่ต้องกลืนลงไป เดี๋ยวท้องเสีย” อ้าวแล้วตัวเองทำไมเกินของเขาลงไปจนหมด   

“พี่รักต้น พี่รู้ว่าเรายังไม่พร้อมพี่รอได้”

“ต้นก็รักพี่ธนครับ” คืนนั้นเราก็หลับไปนอ้อมกอดของกันและกัน

..............................................................

วันนี้ผมมีเรียนแต่ช่วงเช้าหลังจากที่กินข้าวเที่ยงกับเพื่อเสร็จผมก็นั่งแปลงาน อ่านหนังสือที่หอสมุดกลางหอสมุดกลางชั้น 3

โซนหนังสือนิยายเงียบมากเพราะส่วนมากคนจะไปนั่งบริเวณชั้น 6 วิทยานิพล กลิ่นกระดาษกลิ่นสาบหนังสือเก่า อากาศเย็นชื้น

จากเครื่องปรับอากาศ วันนี้ผมมีโอมมานั่งเป็นเพื่อน บริเวณที่พวกผมนั่งเงียบมาก มีนักศึกษาไม่กี่คน ผมกำลังนั่งสนใจงานตรง

หน้า ซักพักได้ยินเสียงเหมือนโอมกำลังคุยกำลังซักคน ผมเงยหน้าขึ้นผมเห็นพี่ธนนั่งอยู่ตรงข้ามกับผม แปลกใจว่าพี่เขามานั่ง

ตรงนี้ได้ไง

“เอ่อ..พี่ธนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมนั่งมองผู้ชายตัวใหญ่น่าตาดีส่งยิ้มมาให้ผม นึกถึงเรื่องเมื่อคืนหน้าร้อนขึ้นมาเลยครับ

“พอดีพี่มานั่งอ่านหนังสือ นั่งคนเดียวเหงาเลยมาขอนั่งด้วย” จ้าคงเชื่อคงจะจริงไม่มีใครในโซนที่พวกผมนั่งแล้ว ผมเลิกสนใจพี่

ธน หันไปสนใจโอมที่ดูเหมือนตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรซักอย่าง

“โอมกำลังทำอะไร”

“โอมกำลังทำสื่อการเรียนรู้ให้โรงเรียนจะไปออกค่าย นี่ต้นดูรูปเราวาดดิสวยเปล่า” ผมมองภาพที่โอมวาดถึงกับตะลึง นึกสงสารเด็กนักเรียนที่ต้องใช้สื่อการเรียนของโอม

“เราว่าโอมซื้อแบบสำเร็จดีกว่าไหม” สงสารเด็ก

“เราว่าของทำมือมันดูคุณค่าและความจริงใจมากกว่า เราอยากทำให้เด็กในหมู่บ้านมีโอกาสได้เรียนรู้”เรานับถือน้ำใจความ

พยายาม ความตั้งใจของนายมากโอมโอมบอกผมว่าการออกค่ายให้มากกว่าที่คิด ได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น เสียสละ การทำงานเป็นหมู่

คณะ ดูท่าปิดเทอมนี้ผมคงต้องลองไปออกค่ายสักครั้งผมหันมาสนใจคนตรงหน้าที่นั่งมองหน้าผมอยู่ ผมอยากกินกาแฟแก้ง่วงจึง

ชวนทั้งสองไปนั่งกินกาแฟในโซนกาแฟในหอสมุด
 
 “โอมวันนี้ว่างเปล่าไปข้าวที่หอเราเปล่า พี่ธนก็ไปด้วยนะ”

ในหนึ่งสัปดาห์จะเป็นเวลาที่พวกผมจะทานอาหรพร้อมหน้าพร้อมตากัน จุดนัดรวมพลก็คือห้องผม พี่ธนกับโอมตอบตกลงไปกิน

ข้าวที่ห้องผมพวกเราจึงไปซื้อของสด โดยที่มีโอมและพี่ธนออกค่าอาหารให้ ผมไลน์บอกเพื่อนเพื่อนแล้วชวนทั้งมาทานข้าว
 ผมชวนโอมมาทานข้าวเพื่อจะคุยเรื่องค่าย ง่ายง่ายก็คือผมจะบังคับให้ไปทุกคน ผมโทรไปขออนุญาติที่บ้านให้ทุกคนแล้วทีนี้ก็

ไม่มีอะไรติดขัด

ผมกับมาที่ห้องพักดูพี่ธนจะสนใจสิ่งของต่างๆที่อยู่ในห้องผมมากเดินไปดูตรงโน้นตรงนี้ที ทุกครั้งที่มาไม่ไม่มีโอกาสเดินดูห้อง

เลย แกพยายามเข้ามาช่วยผมทำอาหารครับแต่ห้องครัวมันแคบผมไม่อยากยืนเบียดกับใครจึงบอกพี่ธนออกไปนั่งดูทีวีกับโอม

ทุกคนทยอยมาแล้วอาหารผมเสร็จแล้ว น้ำกับตูนช่วยยกออกไปวางบนโต๊ะ ทุกคนพร้อมประจำที่

“นี่ช่วงปิดเทอมว่างกันเปล่า โอมชวนไปออกค่ายอาสา”

“ไปที่ไหนอ่ะโอม” ตูนถาม

“ไปบ้านโคกนาเนินสูง ภาคอีสาน”

“โหไกลขนาดนั้น มีอารายกินเปล่าว”

“มีสิถ้าไม่มีโอมจะตัวขนาดนี้หรอ”

“หมายความว่ายังไง”

“ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทครั้งนี้ไปช่วยสร้างอาคารเอนกประสงค์ที่หมู่บ้านโอม” ปุ น้ำ ตูน ชาญ มองหน้ากัน ผมยิ้มเลยครับดูท่าทุกคนจะรู้แล้วว่าผมชวนอมมากินข้าวทำไม

“ไม่ต้องห่วงนะต้นโทรไปขออนุญาตที่บ้านให้ทุกคนแล้ว ถ้าปุไม่ไปค่ายแต่จะไปดูตัวก็ได้นะ มีอะไรข้องใจรึเปล่า” เงียบครับ

“น้ำไม่ปัญหาถ้าได้ไปกับต้น”

“ตูนกับชาญอยู่ในความดูแลของต้นไม่มีปัญหา”

“ครับครับ ผมไปด้วยครับ”

“โอมเตรียมใบสมัครมาไหม”

และแล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาการณ์ไว้ต้นหอมซะอย่างทุกคนต่างกรอกเอกสารใบสมัครอย่างยอมรับชะตากรรม


..............................................................................................

ใกล้จบแล้วใกล้แล้ว
นิยายเรื่องแรกอาจจะสั้นไปหน่อย
ขอแก้ตัวเรื่องต่อไป

โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 15

ภารกิจไปออกค่ายเกลี่ยกล่อมลุล่วง ผมช่วยโอมทำแบบเรียนสำเร็จรูป นิทาน โดยที่โอมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดส่วนผมลงแรง

ในที่สุดก็ถึงวันออกค่าย พวกผมต้องไปขึ้นรถของมหาลัยที่หน้ากองกิจการหนักศึกษา มีคนสมัครไป 50 คนและมีนักศึกษาจาก

มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือมาร่วมด้วย 50 คน รถมหาลัยเป็นรถพัดลม ที่นั่งปรับเบาะไม่ได้ ออกเดินทางตั้งแต่กลางคืนถึงสถาน

ที่จัดค่าย เจ็ดโมงเช้ามีคนที่มาก่อนพวกเราครับมาเตรียมที่นอนหมอนมุ่ง ไปยืมมาจากวัด อุปกรณ์ทำครัวยืมจากวัดและบ้าน

ผู้ใหญ่บ้าน ลงจากรถมาขนของเข้าที่พัก ห้องพักชายเป็นห้องเรียนให้หันหัวเข้ากำแพงหันเท้าไปรวมกันตรงกลางห้อง พวกผม

นอนด้วยกันลืมบอกไปครับพี่ธนและผองเพื่อนก็มาออกค่ายด้วยกันดีในที่มาด้วยแกบอกว่าไม่ชวนก็ตามมาคุม จัดที่นอนเสร็จ

 ไม่นานนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยภาคเหนือก็มาถึง เป็นหน้าที่ประธานค่ายออกไปดูแล  นอนบนรถปวดเนื้อปวดตัวมากนอนไม่

หลับ สมใจอยากครับ เต้นสนามขนาดใหญ่ถูกกลางขึ้น เสื่อถูกปูใต้เต็นท์ พวกเราเข้าแถว พี่พี่แจกป้ายชื่อ ชี้แจงงานเบื้องต้น

 วันนี้ตอนเที่ยงเราจะร่วมทานอาหารเที่ยงพร้อมชาวชาวบ้าน งานที่รับผิดชอบจะมีหัวหน้าเพียงคนเดียวลูกทีมจะเปลี่ยนไปทุกวัน

 ทุกคนต้องได้ทำทุกอย่างในค่าย โยธา สวัสดิการ ครัว สันทนาการ ออกชุมชน คุณครู ทานอาหารเช้าพร้อมกันเวลา 7.45 โยธา

 สวัสดิการ เริ่มงาน พร้อมกัน ครัวต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหาร 3 มื้อ สันทนาการ กิจกรรมชาวค่ายยามค่ำคืนหลังจากที่เหนื่อย

มาทั้งวัน ออกชุมชนไปดูประวัติหมู่บ้าน ชีวิตความเป็น อาชีพ โรค วัฒนธรรมประเพณีความเชื่อ คุณครูจะมีกิจกรรมสอนหนังสือ

เด็กเด็ก มีกิจกรรมให้เล่น เวลาพักเที่ยงกินข้าว เที่ยงตรงถึงบ่ายโมง ทานข้าวเย็น 18.00 น. 19.30 น.เริ่มกิจกรรมชาวค่าย

 เลิกกิจกรรมประมาณ 21.00 น. ห้องนอนแยกคนละอาคาร ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยก ยามวิกาลไม่อนุญาตไมให้ออกจากบริเวณ

โรงเรียนที่พักอยู่ ไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้ชาวบ้านจะนำมาให้ก็ตามเพราะตอนกลางคืนจะมีคนในหมู่บ้านมานั่ง

เผ้ายามให้พวกเรา พร้อมกับนักศึกษาชายเปลี่ยนกันเข้าเวร ผู้หญิงห้ามใส่กางเกงขาสั้น เสื้อบาง ถ้าละเมิดจะถูกส่งตัวกับทันที

 ขณะที่ผมกำลังจะเข้าเฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมได้ยินเสียงคนเรียกชื่อผมทำไห้ผมต้องสะดุ้งตื่น

“ไหนใครชื่อต้นหอม” ผมไม่กล้าแล้วครับต่อไปผมจะไม่แอบงีบแล้วครับแล้วครับ อย่าดุผมเลย ผมค่อยยกมือขึ้นช้าช้า มองมาที่

ผม
“เดินตามพี่เค้าไป” ไม่นะผมแอบงีบแค่นี้จะไล่ผมกลับเลยหรอ ต้นอยากร้องไห้ ผมเดินตามพี่ผู้หญิงนั้นไป แต่เอ๊ที่นี่มันครัวนี่ครับ
พาผมทำไม


“ช่วยพวกพี่พี่นะน้องต้นหอมมันเหตุสุดสิวัยมาก” พี่ งงดิครับ หลับหลับตื่นตื่นเลยไม่รู้เรื่อง นึกว่าโดนซะแล้วพี่หน่อยหัวหน้าแม่

ครัวรถมอไซด์แขนหักมาไม่ได้ เพิ่งรู้ข่าวเมื่อครู่นี้เอง แล้วไม่มีใครทำอาหารเป็นเลย พี่ประธานจึงประกาศหาแม่ครัว เพื่อนเพื่อน

ผมบอกว่าผมทำได้ เป็นอาหารมื้อเที่ยงครับเลี้ยงคนประมาณ 120 คน อาหารสามอย่าง ต้มผัดทอด ต้องดูวัตถุที่มีว่าทำอะไรได้

บ้าง ผมหันไปมองดูหม้อหุงข้าวใบโตขนาดนึ่งอาหมวยเล็กของผมได้เลย เรื่องข้าวพี่พี่เขาหุงเป็นมีสูตรบอก มื้อเที่ยงผมทำ

 ต้มไก่ใบมะขามอ่อนครับ เพราะโรงเรียนนี้มีเยอะ หมูผัดพริกแกง ปลาทอด ตอนเที่ยงชาวบ้านบอกว่าจะเอาส้มตำกับแกงหน่อไม้

มาสมทับ หลังจากที่ช่วยกันเตรียมส่วนผสมต่างต่าง ผมลงมือผัดกระใบใหญ่วางลงบนเตาแก็สนี่ถ้าไม่ระวังตกลงไปกลายเป็น

อาหารชาวค่ายได้เลยนะเนี่ย เตาแก็สใช้แบบหัวยิงน่ากลัว น้ำกับตูนก็เข้ามาเป็นลูกมือ วันนี้ยังไม่มีงานทำต้องช่วงบ่ายไปก่อน

ปุเก็บภาพผม น้ำและตูน หน้านี้มันมาก เจ้าโอมพี่ธนและเพื่อนก็มาให้กำลังใจ อายจัง และแล้วอาหารก็เสร็จถูกตักใส่จ่ายวางเป็น

วงกลมนั่งกินบนเสื่อ นั่งกินเป็นกลุ่มกลุ่มละสิบขึ้นไป พี่ธนโอมก็มานั่งกลุ่มเดียวกับพวกเรา

 “ธนมึงตักไก่ให้น้องต้นดิน้องไม่ถึง” เป็นปุครับที่ตักให้ผม ผมกับพี่ธนไม่ได้แสดงท่าทีเกินเลยเพราะที่นี่เป็นค่ายไม่อนุญาตเรื่อง

ชู้สาว แต่เพื่อนพี่แกคงแกล้งพี่แกนั่งมองผมบ่อยบ่อย เพื่อนเพื่อนผมรู้ครับไม่ได้บอก แต่มาวนเวียนมาหาผมบ่อยบ่อย(เค้าเรียก

ว่าแค่มองตาก็รู้ไต๋) เจอกันมาตั้งแต่ผมอยู่มัธยมศึกษาตอนต้นอาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วยความอร่อย อิ่มหนำสำราญ ความสุขรอยยิ้ม

 และคำชม ชาวค่ายต่างลงคะแนนมติเป็นเอกฉันท์ผมได้เป็นหัวหน้าแม่ครัว

ตอนบ่ายประชุมอีกรอบครับแจ้งหน้าที มีคนมาช่วยงานครัว 15 คน ทั้งชายหญิง ที่เหลือแบ่งไปงานส่วนอื่นโยธาจะเยอะสุด

 สวัสดิการเสิร์ฟน้ำ ขนม จัดอาหาร ล้างถ้วยจานอุปกรณ์ทำครัว ทุกคนแยกย้ายไปทำงานที่ได้รับมอบหมายตามรายชื่อผมเข้า

ครัว ไปจัดครัวเก็บกวาด พรุ่งนี้ต้องออกไปซื้อกับข้าวของที่ตลาดไปพร้อมรถกระบะของมหาวิทลัยไปซื้อของที่ตลาดสดใน

อำเภอ ไปซื้อวันเว้นวันเพราะ วัตถุดิบเยอะไม่ตู้เย็นเก็บอาหารจะเน่า ผมต้องทำรายการอาหารจะได้ซื้อวัตถุดิบถูกแต่เงินมีพี่พี่ช่วย

....................................................................


ตึงตะตึงตึงตะตึง เสียงกลอง และเสียงเพลง ดังขึ้นแล้วเวลาสันทนาการได้เริ่มขึ้น วันนี้โอมชวนพวกผมไปอาบน้ำที่บ้านโอม

โอมกลัวผมแพ้น้ำที่โรงเรียน วันนี้มีจับฉลากหาบัดดี้คือคนที่เราต้องดูแล บัดด็อกคือคนที่เราต้องแกล้ง ห้ามเฉลยจะเฉลยวัน

สุดท้าย มีการแนะนำหัวหน้างานแต่ละคนรวมผมด้วยเป็นปีหนึ่งคนเดียวครับ ปลื้มครับ

“ต้น..ต้นครับตื่นได้แล้ว” พี่ธนครับมาปลุกผมผมมองดูนาฬิกาบนโทรศัพท์ ตี 3 ครับ วันนี้ผมต้องไปตลาด พี่ธนจะไปด้วยผมลุก

ขึ้นไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า น้ำบอกให้ผมซื้อขนมมาฝากด้วย ขอโทษครับน้องต้นไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว มีผู้ชายไปด้วยห้าคน

ตัวโตไปช่วยแบกของ โอมไปด้วยเพราะโอมรู้เส้นทาง เวลาตี 3 อากาศเย็น มืดมากผ่านทุ่งนา ถนนเป็นถนนลูกรัง ทางเปลี่ยว

มาก รถกระบะที่นั่งไปมีเบาะนั่งหันหน้าเข้าหากันมีหลังคา มาถึงตลาดประจำอำเภอใช้เวลานานพอสมควรแบ่งกันซื้อของผมซื้อ

ของสด ของแห้งหรือผักเป็นถุงใหญ่ ให้โอมไปซื้อผมยื่นเงินและรายชื่อของที่ซื้อให้แบ่งไปสองทาง ใช้เวลาไม่นานของผมครบ

แล้ว ตลาดเล็กครับแผงขายเนื้อหมูเนื้อไก่มีอยู่ไม่กี่ร้าน กลับมาขนของขึ้นรถ

“อันนี้ราคาเท่าไหร่ครับ”

“ซาวบาท” ผมงงครับ ผมตื่นยังไม่รู้เรียนหนังสือมาตั้งแต่เด็กนับเลขมาไม่เคยปรากฏตัวนี้ครับ โอมครับเดินมาเห็นผม หัวเราะผมครับเพราะมันคือ 20 บาท อายครับ

ว่าแต่พี่ธนของผมหายไปไหนเนี่ย ปล่อยผมอยู่คนเดียวเดี๋ยวแอบมีกิ๊กซะเลยว่าไปนั่ร กำลังชะเง้อหาพี่ธนอยู่ดีดีก็มือยื่นนม

ช็อกโกแลตมาให้กับปาท่องโก๋ แกบอกกลัวหิวจนเป็นลม

ผมกลับมาที่ค่ายแล้วกำลังเตรียมอาหารเช้าหกโมงแล้วเวลาเดินมาก น้ำ ตูนตื่นแล้ว เดินเป็นผีดิบมาหาผมในครัว ตอนนี้ผมสวม

หมวกขาวพ่อครัว กับหน้ากาก ปอกแขน พี่ธนซื้อมาให้ตอนไปตลาดน่ารักจังแฟนใครก็ไม่รู้ 

“เหนื่อยไหม” น้ำถามผมแต่ปากกำลังเคี้ยวปาท่องโก๋ที่พี่ธนซื้อมาฝาก

“ตูนกับน้ำอยู่เฉยๆไปยกถังน้ำที่ห้องเก็บของมาดิ” ทั้งสองน่างอเลยครับ 5555 รักหรอกจึงหยอกเล่น



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ต่อ

ผ่านพ้นการทำอาหารเที่ยงไปอีกวัน นอนดึกตื่นเช้า ล้าครับ ปวดตามเนื้อตามตัวมาก ไม่มีที่นอนนอนบนเสื่อ หมอนเป็นทรง

สี่เหลี่ยมนอนแล้วปวดคอสุดสุด ทุกคืนผมนอนฝันที่นุ่นที่ห้องกลับไปจะกลับนอนให้หายคิดถึง ตอนนี้ผมว่างยังไม่ถึงเวลาเตรียม

อาหารผมถือกล้องเดินไปเก็บภาพยังบริเวณสร้างอาคารอเนกประสงค์ กะจะส่งภาพให้บรรดาผู้ปกครองเพื่อยืนยันไม่ได้พาลูกเขา

มาเถลไถล เห็นพี่ธนครับหล่อแต่ไกล หน้าตาเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์ใครทำอะไรที่รักผมเนี่ย หยุดเท้าทั้งสองข้างไม่เดินเข้าไป

 สาวสาวกำลังรุมพี่ธนอยู่ เสน่ห์แรงมากครับ หมั่นไส้ครับอยากเอากล้องทุบหัวแต่เสียดายไปถ่ายคนอื่นก็ได้

“เธอดูยัยเจนนี่ คงจะชอบพี่ผู้ชายที่ชื่อธน” สาวสาวกลุ่มมหาลัยทางภาคเหนือจับกลุ่มคุยกัน ไม่แอบฟังแต่มันลอยเข้าหู

“ให้ท่าพี่เขาขนาดนั้น” มีให้ท่าแฟนผมด้วย

“แกแต่หล่อขนาดนั้นน่าจะมีแฟนแล้วนะ”ใช่ครับเก่งมากฉลาดครับที่คิดได้อีกอย่างแฟนพี่เขาหน้าตาดีด้วย

“ไม่มั้งถ้าเป็นแฟนฉันไม่ปล่อยให้มาหรอก” ไม่ได้ปล่อยครับแต่พามาด้วยครับ

“หรือไม่งั้นก็อกหัก...ดูแกทำหน้าดุตลอดเวลาเลย” ไหนไหน เออใช่หน้าตาปกติแกเปล่าอ่ะ

“แต่เพื่อนแกก็น่ารัก” ไหนไหนคนไหน

“คนที่ชื่อปุกับชาญก็หล่อ....แต่ยัยแอนกับจิ๊บจองแล้ว” ปุน่ะหล่อแต่มันเลือกครับ(เรื่องมากด้วย) ชาญอย่ายุ่งกับมันเลยเขากำลังสร้างครอบครัว

“เรื่องอย่างนี้ใครดีใครได้ย่ะ” ง่ะ หน้ากลัวจัง

ผมไม่เห็นหน้าคนที่คุยกันครับหันหลังถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ

ชาญกับปุผู้ชายคุณหนูทั้งสองไม่นึกว่าจะตกอับที่ขนาดต้อมาทำงานอย่างนี้น่าสงสาร แต่ดูแล้วก็เข้าท่าไม่น้อย

ตูนกับน้ำกำลังขนดินครับน่ารักมากแก้มแดงดูมีเลือดสาดคุณหนูผู้น่ารักที่บ้านเห็นสภาพทั้งสองคนจะเป็นยังไงที่บ้านเห็นคงปวด

ใจนิดๆ เป็นอันสร้างภาพให้ที่บ้านรับรู้มาช่วยเหลือสังคมจริง เลือกภาพที่พอใจแล้วกดส่งทันทีแค่นี้งานก็เสร็จไปหนึ่งอย่าง

 เดินเก็บภาพทุกคนไปเรื่อย จึงเดินไปพักใต้ศาลา

“ชื่อต้นหรอเรา”

“คะ..ครับ”

“ทำอาหารอร่อยดี ที่บ้านเปิดร้านอาหารหรอ”

“เปล่าครับ”ที่บ้านทำ import export ครับ พี่หน้าหล่อเข้ามาทักดูจากป้ายชื่อ ชื่อคิมหันต์ ปี 2 เกษตร มหาวิทยาลัยจากภาคเหนือ

“อะพี่ให้”พี่คิมยื่นขนมให้ผม งงครับอยู่ดีดีเอามาให้ผมทำไม

“พอดีพี่ได้เราเป็นบัดด็อก..แต่ไม่ยากแกล้งน่าตาไม่น่าแกล้ง น่าตาน่ารักมากกว่า อีกอย่างถ้าแกล้งไปเอายาถ่ายใส่ข้าวให้พี่กินก็แย่สิ” อ้อขอบคุณครับพี่ใจดีจัง ผมรับขนมมาจากแก ผมถามว่าไปซื้อขนมมาจากไหน แกบอกว่าในหมู่บ้านมีร้านขายขนม

 เออจริงถ้าไม่มีแล้วเด็กๆจะกินอะไร จะซื้อของใช้ที่ไหน คุยซักพักผมก็ขอตัวไปเตรียมอาหาร

ฮ้าว เหนื่อยจังเลยผมเตรียมอาหารเย็นเสร็จตอนนี้กำลังนั้งดูพระอาทิตย์ตกที่แปลงปลูกมันมันสําปะหลังที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไป

โดยมีพี่ธนพองเพื่อน ผมและเพื่อนเพื่อน นั่งคุยกันไปมองพระอาทิตย์ไป พี่ธนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพ วิ่งเข้ากล้องกันแทบ

ไม่ทันถ้าไม่ได้มาที่นี่ผมก้คงไม่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างคิดถูกแล้วที่มา

“ต้นวันนี้เป็นอะไร” ผมกำลังนั่งคิดรายการอาหารอีกสองวันจะได้กลับแล้วครับ วันนี้ไม่นับ วันกลับไม่คิด

“เบื่อคน” วันนี้ผู้หญิงที่ตามจีบพี่ธน ชาญ ปุ ทำหน้าที่รับผิดชอบครัว แต่ชอบแวบไปหาสามหนุ่มนั้นบ่อยบ่อย วันนี้ต้องทำอาหาร

เพิ่มเลี้ยงเด็กนักเรียนเป็นผัดมาม่าคุณครูบอกเด็กเด็กชอบ ผมเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้ ใส่หมูบดลูกชิ้น ผักคะน้าด้วย

วันก่อนไปตลาดผมเห็นลูกชิ้นปลานีโม่ ลูกชิ้นโดเรม่อนน่ารักมาก วันนี้ครูโอมรับหน้าสอนเด็กเด็กเล่านิทาน สอนวาดรูประบายสี

 เล่นเกมส์น่าสนุกผมเลยไปถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศให้ 

“ก็ใครซะอีกนี่ตูนขยับมานี่น้ำจะบอก..ก็ผู้หญิงจากมหาวิทลัยภาคเหนือดิ ชอบเกาะแกะพี่ธนบ่อยจนต้นไม่ได้อยู่กับพี่ธนเลย

ดีนะพี่ธนไม่เล่นด้วย ตูนก็อีกคนระวังไว้ชาญน่ะเสน่ห์แรงนะ” ตูนพยักหน้าพวกผมทั้งสามหน้าหันไปมองคนที่ถูกพาดพิงถึง

ชาญสะดุ้งเลย ปุนี้หัวเราะครับ

“กินขนมจะได้อารมณ์ดี” พี่ธนเดินมายื่นขนมให้ไม่ใช่เด็กนะเอาขนมมาล่อ ช่วงกลางวันไม่ค่อยได้คุยกันวันไปตลาดพี่ธนจะไป

ด้วย หลังหลังน้ำกับตูนก็ขออนุญาติพี่ที่ดูแลค่ายไปตลาดด้วย ช่วงเช้าตลาดของกินเยอะทั้งสองซื้อขนมมาเพียบผมเลยดุเอา

 ขนมหรืออาหารบางอย่างไม่เคยกินกลัวท้องเสีย และใครรับผิดชอบ ก็ผมไงครับ ช่วงนี้คุยไลน์กับพี่ธนตลอด หวานพี่ธนส่งมา

อ้อนบ่อย กลับจากค่ายอยากให้ไปค้างที่คอนโด แกบอกคิดถึง เจอหน้าได้แค่มอง ช่วงนี้ผมผอมลงทำงานหนัก นอนดึกตื่นเช้า

นอนวันละ 6 ชั่วโมง ผมหยิบสมุดเฟรนชิพที่ทางค่ายทำให้ทุกคนขึ้นมาเปิดอ่าน

[ผมคือบัดด็อกของคุณเตรียมตัวไว้ ]

[น้องต้นน่ารักนะครับ มีแฟนยัง]

[น้องต้นทำอาหารเก่งจัง อร่อยด้วย]

[ต้นสวยกว่าเราที่เป็นผู้หญิงอีก เราอายเลย]

[เราเห็นตอนแรกนึกว่าผู้หญิง]

[น้องต้นทำไมต้องแก้มชมพูตลอดเวลา]

[น้องต้นกล้องสวยนะครับ ชอบถ่ายรูปใช่เปล่า]

[ว่างว่างไปเที่ยวเหนือ พี่จะพาเที่ยว]

[เจอกันในม.อย่าลืมทักกันบ้างนะ]

555 ผมนั้งอ่านเฟรนชิพของผมรู้สึกว่าจะใกล้เต็มแล้ว แล้วเขียนให้คนอื่นด้วย แอบดูของพี่ธนมีแต่สาวสาวทิ้งเบอร์ ไลน์ เฟรสบุ๊ค ไว้เยอะเลยครับเหลียวมองหาถังขยะว่าโยนลงไปซะหน่อยแต่ไม่เอาดีกว่าเปลี่ยนใจ

...................................................................................................

อาคารอเนกประสงค์สร้างเสร็จกว่ากำหนดไปถึงสองวัน การซ่อมแซมห้องสมุด และโต๊ะเก้าอี้ก็เรียบร้อย จึงมีพิธีมอบอาคารเรียน

อย่างเป็นทางการ มีแขกมาร่วมงานเยอะครับ ผู้อำนวยโรงเรียน ขอโทษครับที่ตอนแรกผมนึกว่าท่านเป็นภารโรง คุณครู ผู้ใหญ่

บ้าน ผู้ช่วย เชิญพระสงฆ์มาสวดมนตร์ ขึ้นอาคารใหม่ ใช้งบครั้งนี้ไปประมาณ ห้าแสนกว่าบาท พิธีมอบอาคารเสร็จเป็นการแข็ง

ขันกีฬาระหว่างนักศึกษาและชาวบ้าน มีแข่งฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ  ตอนเที่ยงชาวบ้านมาช่วยทำอาหารผมเลยสบาย

พี่ธนเลยชวนผมไปนั่งเล่นที่ศาลา พี่ธนงีบครับเมื่อคืนเข้าเวรยามและไปตลาดกับผมต่ออีก ผมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้าง

พี่บอกอยากนอนหนุนตักแต่กลัวมีคนเห็นมันจะดูไม่ดี ผลการแข่งขัน นักศึกษาชนะหมดทุกอย่าง พักเที่ยงนั่งทานข้าวกับชาวบ้าน

บรรยากาศอบอุ่น ชาวบ้านพูดภาษาอีสานด้วย น้องต้นหอมฟังไม่รู้เรื่องครับ โอมแปลให้ฟัง ชาวบ้านบอกว่าผมน่ารัก

 ใครได้ไปเป็นแฟนโชคดี ทำอาหารเก่ง พี่ธนครับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พี่ธนบ้า ตอนบ่ายมีแข่งกีฬาพื้นบ้าน วิ่งกระสอบ วิ่งสามขา

 สิ้นสุดการแข่งชาวทยอยกลับบ้านวันนี้ตอนเย็นจะมีการแสดงรอบกองไฟ และประกาศผลโหวต ดาวเดือนค่าย ขวัญใจชาวค่าย

เฉลยบัดดี้บัดด็อก

รายชื่อแบ่งกลุ่มเหมือนล็อกเลขพวกเราอยู่ด้วยกันทั้งหมด

“ต้นตอนเย็นกลุ่มเราแสดงอะไร” น้ำนี่น้ำเพื่อนผมเปล่า

“น้ำถามผิดคนเปล่า” ปุเพื่อนผมแน่นอน รู้ว่าผมไม่ชอบการแสดง

“ เอางี้แบ่งสองกลุ่ม ประกวดวงลูกทุ่ง ถ้าแสดงละครน่าเบื่อ” ผมครับ

“ใช่แสดงละครน่าเบื่อ นานด้วย เปลี่ยนฉากไปมา” ตูนคิดเหมือนผม

“แข่งกันประกวดวงลูกทุ่ง ไม่ต้องจริงลิฟซิ้งเอาก็ได้ที่เหลือก็เป็นหางเครื่อง คณะกรรมการ พิธีกร ” ปุแสดงความคิดเห็น

ส่งรายการแสดง

กลุ่มที่ 1 ละครเพลง

กลุ่มที่ 2 เดินแบบ

กลุ่มที่ 3 แสดงการประกวดร้องเพลงวงลูกทุ่ง

กลุ่มที่ 4 เต้นประกอบเพลง

เดือนค่ายเป็นของพี่ธน หน้าบูดทั้งวันยังเนื้อหอม ดาวค่ายเจนนี่ ขวัญใจค่ายน้องต้นหอม

เฉลยบัดดี้ พี่ธนได้ผมเป็นบัดดี้วันนี้ผมต้องมีของตอบแทนบัดดี้ พี่ธนบอกไม่เป็นไรกลับไปเมื่อไหร่เตรียมใจไว้ก็พอ ง่ะไม่เอาไม่แกล้งน้องนะ

บัดด็อกเป็นพี่คิม พี่รวยครับที่บ้านมีไร่ส้ม ทางโน้นเขาเรียกว่าพ่อเลี้ยงอะไรประมาณนั้น ขอบคุณที่ไม่แกล้งผมคับ
 
………………………………………………………………………

วันนี้วันเข้าพรรษาทุกบ้านเตรียมของไปทำบุญที่วัด รวมถึงชาวค่ายด้วย ผมต้องตื่นแต่เช้าทำอาหารอยู่แล้ว อาบน้ำแต่งตัว

 พร้อมยกอาหารบางส่วนไปที่วัด พี่ธนและเพื่อนผมมาช่วยถือ บางส่วนไปรอที่วัดแล้ว พิธีกรรมทางศาสนาผ่านไปอย่างเรียบร้อย

กลับมาที่ค่ายเพื่อทานข้าวเช้า มีชาวบ้านบางส่วนมาเตรียมพิธีบ่ายศรีสู่ขวัญ ผมเก็บครัวครัวเตรียมกลับ มองไปรอบรอบของบาง

ส่วนถูกเก็บไปเกือบหมดแล้ว พิธีบ่ายศรีสู่ขวัญเริ่มขึ้นชาวบ้านต่างขอบคุณที่นักศึกษามาช่วยสร้าง ช่วยพัฒนาโรงเรียน

โรงเรียนนี้สถานที่อบรมขัดเกาคนในหมูบ้านนี้หลายต่อหลายรุ่น ชาวบ้านต่างรักและหวงแหนที่นี่ เหมือนที่โอมรู้สึก

“อ้าว ทุกคนขึ้นรถ” เมื่อเก็บของเรียบร้อยล่ำลา ชาวบ้านเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย พวกเราก็พร้อมจะเดินทางกลับ

 ระยะห่างกันตั้งหลายร้อยกิโลเมตรยังมีโอกาสได้พบกัน ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้องไม่มีความผูกพันกันก็ยังได้มาพบเจอกัน

การมาครั้งนี้ได้มากกว่าคำว่าเพื่อน มากว่าการให้ ถามว่าเหนื่อยไหม แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาคุ้มเกินจนลืมว่าเคยเหนื่อย


.............................................................................................

จบอีกตอน
 โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตอนที่ 16 ตอนจบ

“ต้นหอมครับ..ต้นหอม ตื่นได้แล้วถึงคอนโดพี่แล้ว” ผมลืมตาขึ้นช้าช้าเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงไฟ ตอนนี้ผมอยู่บนลานจอด

รถคอนโดพี่ธน ทันทีที่รถมหาวิทยาลัยจอดสนิทนักศึกษาต่างแยกย้ายโดยที่พี่ธนจูงผมขึ้นรถผมก็หลับตลอดทางไม่รับรู้อะไร

“ต้นขึ้นห้องเดี๋ยวพี่ถือกระเป๋าให้” พี่ธนเอะอะก็ชวนขึ้นห้อง ฮ้าว ง่วงครับปวดเนื้อปวดตัว ปวดคอด้วย ผมเดินตามพี่ธนไปเงียบ

เงียบ พี่ธนเปิดประตูห้องเข้าไปผมเดินไปหยิบน้ำดื่มเย็นมาดื่มแล้วยื่นให้พี่ธน พี่ธนรับไปดื่มเดินเข้ามากอดผมแล้วกดจมูกลงแก้มหนักหนักทั้งสองข้าง

“ชื่นใจจังเลย เหมือนไปวัด เห็นแฟนทุกวัน กอดก็ไม่ได้หอมก็ไม่ได้ ทรมาน” มิน่าทำหน้าตาเหมือนอยากฆ่าคน พี่ธนพาผมไปนั่ง

ที่โซฟา พี่ธนนั่งหลังพิงโซฟาแล้วดึงผมไปนั่งบนตักเราหันหน้าเข้ากัน พี่ธนยื่นหน้าเข้าใกล้ผมจูบลงที่หน้าผาก ตา จมูก แก้ม

และปากเบาเบาลมหายใจผมรินรดผสมผสานกับลมหายอุ่นอุ่นของพี่ธน พี่ธนขบเม้มริมฝีปากล่าง มือหนาของพี่ธนจับกด

ท้ายทอยผมแล้วขยับชิมฝีปากบนของผม จนตัวผมสั่น

“อื้อ..อืม.พะ..พี่ธน” ผมครางเรียกพี่ธนเสียงสั่น พี่ธนยิ้มอย่างพอใจแล้วบดเบียดริมฝีปากร้อนลงมาอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆ

 สอดลิ้นดุนดัน เข้าไปทั่วโพรงปากของผม เหมือนหาอะไรซักอย่าง แล้วครางออกมาเบาเบา เหมือนพอใจ พี่ธนจูบผมอยู่นาน

นานจนหัวสมองของผมขาวโพลนไปหมด ตัวเบาหวิว ไม่ค่อยมีแรง ลมหายใจผมเริ่มติดขัด

ออด ออด เสียงออดดังขึ้นที่หน้าประตู พี่ธนค่อยค่อยถอนริมฝีปากออก แล้วเลื่อนผมลงจากตักให้นั่งบนโซฟา แล้วลุกขึ้นไปเปิด

ประตู พี่ธนลุกไปแล้วแต่ผมยังนั่งหอบอากาศเข้าปอด นั่งหน้าแดงบนโซฟา หัวใจเต้นแรง

“ต้น อาหารมาแล้ว มากินข้าวเถอะ” พี่ธนเดินมาหยุดที่ด้านผมนั่งคุกเข่าลงใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าผมให้เงยขึ้นแล้วโน้ม

ใบหน้าลงมากดจูบหนักที่ริมฝีปากผม ปล่อยผมอิสระแล้วเปลี่ยนมากอดและซบหน้าลงบนไหล่ผมแทน

“จูบน่ะหวานจัง....อยากอยู่อย่างนี้ทั้งคืนเลย” ให้ตายเถอะจูบเขาแบบไม่ตั้งตัวเลยเอาแต่ใจตัวเองชะมัด แล้วท่าทางดีใจมัน

หมายความว่ายังไง แล้วไม่คิดว่าเขาจะอายบ้างรึไง

“พี่ธนต้นไปอาบน้ำก่อนได้เปล่า เหนียวตัวจะแย่” อายครับยังไม่มองหน้าผมขอเวลาไปตั้งสติก่อนได้ไหมครับ พี่พึงจูบผมจะทำ

เหมือนไม่มีอะไรเกิดเลยผมทำไม่ได้ หัวใจผมยังเต้นแรงไม่ยอมหยุดเลย ผมก้มหน้าเดินเข้าห้องนอนหยิบผ้าเช็ดตัวเสื้อและบ็อก

เซอร์รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำพอปะมาณแล้วเท bubble bath ลงไปตีจนฟองขึ้นจัดการถอดเสื้อผ้าแล้วก้าว

ลงอ่างช้าๆ สบายมากเลือดในร่างกายกำลังซูบฉีด ผมหยิบโทรศัพท์ติดมือเข้าด้วยเปิดเพลงคลอเบา ใช้ผ้าเช็ดตัวสอดรองใต้
ศีรษะแล้วหลับตาลง

“ท่าทางสบายจังเลยนะ” ผมสะดุ้งลืมตาขึ้นมองหาเจ้าของเสียงที่กระซิบข้างหูผม พี่ธนใช่พี่ธน เข้ามาในห้องน้ำยังไง แล้วทำไมถึงนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว

“พี่ธนเข้ามาไง แล้วนั่นพี่จะทำอะไร”

“พี่เห็นต้นเข้ามานาน เลยตามเข้ามานึกว่าเป็นอะไร พี่อาบด้วยนะแล้วไปกินข้าวด้วยกัน” พี่ธนถอดผ้าเช็ดตัวออกแล้ว ก้าวลงมาในอ่าง

“พะ..พี่ ให้ต้นอาบก่อนต้นอาบใกล้เสร็จแล้ว”ผมหาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ เมื่อเห็นพี่เปลือยต่อหน้าผมเบือนหน้าหนีเกือบไม่ทัน

 หน้าร้อนขึ้นมาเลยครับ พี่ธนหัวเราะชอบใจกับท่าทางของผม ตอนนี้ผมเปลี่ยนมานั่งกอดเข่า เพราะพี่ลงแช่น้ำในอ่างแล้ว

“อาบด้วยกันจะได้เสร็จเร็วเดียวถูหลังให้ หรือจะให้พี่อาบให้ก็ได้” ไม่พูดเปล่าพี่ธนจับผมนั่งลงหว่างขาหันหลังกอดเอวผมจาก

ด้านหลังวางคางไว้บนไหล่ฝังจมูกลงซอกคอ อายครับเป็นแฟนกันแต่ยังไม่เคยอาบน้ำด้วยกัน มือพี่แกไม่อยู่เฉยลูบไปมาที่

ขาอ่อนผมเบาเบา แล้วเลื่อนมาท้องน้อยผม ร่างกายผมเริ่มรู้สึกหวิวหวิว พี่ธนจับที่ปลายคางผมให้หันหน้ามาหาแกแล้วทาบริม

ฝีปากลงบนปากผมจากเบาในทีแรก แล้วค่อยๆดูดดื่มขึ้น ผมสั่นนิดๆ กับสัมผัสจูบที่พี่ธนมอบให้ พี่ธนแหวกขาผมออกจากกัน

แล้วชันเข่าขึ้นลึกน้อย โดยที่ขาพี่ของเขาซ้อนอยู่ข้างล่างขาผม ใช้มือข้างหนึ่งเลื่อนไปสัมผัสความเป็นชายของผมเบาๆ กอบกุมท่อนลำของผมไว้แล้วรูดขึ้นลงช้า

“เป็นไงบ้างที่รัก รู้สึกดีไหม” พี่ธนถามผมด้วยเสียงนุ่ม

“อืม..อื้อ..อา..อา” ผมไม่ได้ตอบคำถามของพี่ธน มีเพลงเสียงครางเบาเบา ตอนนี้ตัวผมรู้สึกเกร็งไปทั่วตัว เพราะความเสียวที่

แล่นผ่านไปทั่ว พี่ธนลากลิ้นที่เปียกชื้นไปตามซอกคอ ใบหู มืออีกข้างสะกิดเบาๆที่ปลายยอดสีชมพูของผม
“พี่ธน..อา...อืม..อ่า..ไม่ไหวแล้วจะออกแล้ว” มือพี่เร่งจังหวะเร็วและรัวขึ้นไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมา พร้อมกับตัวผมกระตุกสองสามที

“น่ารักจังเลย ...พี่รักต้นนะ”

“ต้นก็รักพี่ธนครับ”พี่ธนกอดผมไว้แน่นตอนนี้ผมหมดแรงแล้วครับ ผมก็ซบอยู่บนอกแกร่ง พี่ธนจับมือผมไปสัมผัสลูบลูบคลำคลำน้องชายเขาเบา

“คนดีช่วยพี่หน่อยนะ” พี่ธนจับผมหันหน้ามา ให้ผมนั่งทับขาทั้งสองข้าง แล้วใช้มือขยับน้องชายพี่ธนรูดขึ้นลงช้า น้องชายพี่ธนโตกว่าของผมอีก

“ดี..อืม..อ้า...เก่งมาก ” พี่ธนเป็นควบคุมจังหวะให้ผม รูดขึ้นรูดลงไปเรื่อยเรื่อย มีทั้งสองข้างจับหน้าผมไว้แล้วโน้มลงมาจูบผม

สอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากผม ดูดเลียลิ้นผมด้วยความกระหาย ซักพักพี่ธนก็สงบน้องชายพ่นน้ำสีขาวขุ่นออกมา เราทั้งสองขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วไปยืนอาบใต้ฟักด้วยกันพี่ธนกดครีมอาบลงมือแล้วถูไปทั่วตัวผม

“ผิวต้นสวยจัง ทั้งนุ่ม ทั้งหอม ตรงนี้ยังไม่โตหรอ” ผมน่าแดงอายครับ

“ตะ..โตแล้ว”

“ถ้ามีน่าอกนี่ใช่ผู้หญิงเลย” ก็มันไม่มีให้ทำไง มันโตได้แค่นี้ แล้วทำไมต้องมาสำรวจร่างกายเขาด้วยเขาอายนะ

“พี่ธนอย่าพูดเหมือนแม่ดิ อยากให้ไปทำหน้าอกรึไง” พี่ธนหัวเราะชอบใจ

อาบน้ำเสร็จผมรีบเช็ดตัวใส่เสื้อผ้า ออกไปรอที่โต๊ะอาหาร ไม่นานพี่ธนก็ตาม พี่ธนมองหน้าผมยิ้มไม่หยุดเลย

“พี่อยากทำมากกว่านี้ แต่น้องยังไม่พร้อม” วันต่อไปก็ไม่พร้อม กินข้าวเสร็จนั่งย่อยอาหารที่หน้าทีวี พี่ธนชวนดูหนังออนไลน์

ทีวีพี่แกเชื่อมกับระบบอินเตอร์เน็ต พี่ธนไปเอาที่นอนมาปูหมอนผ้าห่ม ตั้งแต่ผมมาที่นี่พี่จะซื้อผ้าห่มผืนใหญ่มาไว้เพราะแกรู้ว่าผม

ชอบผมขี้หนาว ส่วนผมไปเตรียมน้ำ ขนม ในครัวสักพักได้เสียง อ่า อ่า  หนังโป๊ครับ แกบอกว่ากดผิด หรอ เปลี่ยนเรื่องอันนี้หนัง

ผีแน่นอน ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนที่นอน หลังพิงโซฟา ปิดไฟจนมืด อากาศเย็นโรยรอบตัว มีเพียงแสงจากทีวีตรงหน้าเท่านั้น

 ได้บรรยากาศมาก พี่ธนขยับมาใกล้ผมกอดเอวผมไว้กดศีรษะผมลงที่ไหล่ จมูกกดที่หน้าผากผม รู้สึกว่าดูหนังผีวันนี้บรรยากาศ

มันดูโรแมนติกชอบกล อ้อมกอดนี้อุ่นเหลือเกิน ผมอยากรักษาอ้อมกอดนี้ไว้ ไหล่นี้กว้างจังผมอยากเป็นเจ้าไหล่นี้เพียงคนเดียว

มือนี้ใหญ่จังผมอยากให้มือนี้สัมผัสผมและจูงมือผมไปด้วยกัน กลิ่นกายนี้ รสจูบที่เคยสัมผัสนี้เป็นของคนที่ผมรัก

ที่ผมจะฝากอนาคตไว้ คนที่พร้อมจะเดินไปกับผมพร้อมเผชิญหน้าสิ่งต่างๆไปด้วย “ขอบคุณนะครับ....ที่รักผม.... ที่รัก” 

...
จบแล้วในที่สุดก็จบลงด้วยดี ไม่รู้ว่าสั้นไปรึเปล่ารึต้องไปลงเป็นประเภทเรื่องสั้นก้ไม่รู้

ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ถูดใจหรือไม่สนุก

แต่งนิยายครั้งแรกไม่นึกว่าจะแต่งได้แย่อย่างนี้

คราวหน้าจะพยายามใหม่

รบกวนกรุณาเข้ามาอ่านด้วยนะคะ

อ้อ เดี๋ยวจะลองแต่งเรื่องสั้น ขอความกรุณาช่วยติดตามด้วยนะคะ

]

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สนุกจ้า มาแต่งอีกนะ

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
 o13

อยากอ่านตอนพิเศษจังงง  :impress2:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด