ตอนแถม
อาจมากกว่านี้ และคงตลอดไป
[/b]
วันนี้ทั้งผมและไอ่ตรองต่างก็ไม่มีเรียนครับ เลยชวนกันมาซื้อขอที่ห้างเพราะของผมก็ใกล้จะหมดแล้ว แต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็เดือนกว่าๆ เข้าไปแล้ว ตรองมันไม่เคยเลิกจีบผม ในขณะเดียวกันเราก็รู้กันดีว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อนกันไปแล้ว .....เอ่อ ...ไม่ใช่เพราะคืนนั้นนะครับ .......
จะว่าไปช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้กลับหอตัวเองเลยด้วยซ้ำอยู่ที่หอมันแทบทุกวัน เฮ้ย! ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากันนะ แค่อยู่ด้วยกันเป็นครั้งคราวเฉยๆ .......
“ตรอง เข้าวัตสันแป๊บ”
“ครับ” เอาตรงๆ ว่าถึงแม้มันจะพูดแทนชื่อ ลงท้ายด้วยครับมาตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล แต่ผมก็ยังไม่ชินสักที
“สุภาพตลอดเลยมึงอะ” แหนะส่งยิ้มมาให้อีก
ผมเดินไปชั้นวางแชมพูกับครีมนวดสารพัดยี่ห้อ เลือกหายี่ห้อที่ตัวเองใช้ จำได้ว่าไอ่ตรองก็ใช้ยี่ห้อเดียวกันสูตรเดียวกัน เลยเลือกหยิบแบบขวดปั้มมาขวดเดียว ต่อด้วยการไปหยิบเจลแต่งผม
“เอาปะ” ผมถามไอ่ตรอง
“พีทก็รู้ตรองไม่เคยแต่งผม เอาจริงๆ แต่งไม่เป็น”
เออจริงครับ ถึงมันจะตัดผมสั้นแล้ว มันก็ไม่เคยแต่งผมเลยสัก ได้แต่ปัดไปมาอย่างเดียว จนตอนนี้เริ่มยาวอีกแล้ว ผมเลยเลือกหยิบอย่างที่ผมใช้ กับสเปรย์แต่งผมมาอย่างละหนึ่ง เผื่อไว้เซ็ทหัวมันด้วย
“เดี๋ยวกูเซ็ทให้”
“ครับ” พร้อมกับยิ้มหน้าเป็น
ก่อนจะจ่ายตังค์ผมเดินดูของเรื่อยเปื่อยในนั้น จังหวะที่กำลังเดินมาหยุดอยู่หน้าเชลล์ที่ว่างถุงยางและเจลหล่อลื่นโทรศัพท์ผมก็เข้าพอดี หน้าจอแสดงเป็นชื่อ “MC_Pol”
“ว่าไง”
“กินเบียร์ปะคืนนี้”
“นึกไงชวนวะ ไอ่บีมไม่ว่าหรอ”
“ไอ่บีมแหละชวนไปเปล่า ไอ่เฟย์กับแพรวก็ไป จะหิ้วผัวมึงไปด้วยก็ได้นะ”
“สัส! เออๆ ที่ไหน กี่โมง”
“วิเศษ สองทุ่ม”
“เค เจอกัน”
ผมเก็บโทรศัพท์ พลางหยิบถุงยางกล่องนึงมาพินิจ พร้อมกับสอดส่ายสายตาไปทางเจลหล่อลื่น
“อะไร”
“ถุงยางกับเจลไง รู้จักใช้บ้าง” ผมว่าพลางโยนส่งๆ ลงตะกร้าไป ขณะกำลังหันหลัง ผมแอบเห็นไอ่ตรองหยิบของสองสิ่งนั้นขึ้นมาดู แล้วยิ้มแปลกๆ
เชี่ย เหมือนจะทำอะไรบางอย่างพลาด
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
สองทุ่มตามเวลานัดผมกับไอ่ตรองก็มาอยู่หน้าร้านวิเศษเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความที่วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์เลยทำช่วงเวลานี้คนยังไม่ค่อยเยอะ ยังพอที่จะหาโต๊ะได้ ผมกับตรองเดินเข้าไปในร้าน มองหาเพื่อนตัวเล็กของผม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นไอ่พลยีนโบกมือหยอยๆ อยู่ชั้นสอง ผมกับตรองจึงตามขึ้น
“แล้วเฟย์กับแพรวอะ” ผมถามขณะกำลังนั่งลง โดยมีตรองนั่งลงข้างๆ กัน
“กำลังมาละ ไอ่แพรวพึ่งแต่งหน้าเสร็จ” บีม
“โห แยะนะนางเนี่ย”
“เอาหนาให้ชะนีได้สวยบ้าง เดี๋ยวผู้ชายกินกันเองเย๊อะ” พลพูดพยักเพยิดมาที่ผมกับไอ่ตรอง “ให้มันได้มีโอกาสหาบ้าง”
“เออๆ แล้วสั่งกันไปยังวะ”
“สังไปแล้ว อะมาพอดี” เบียร์สามขวดพร้อมถังน้ำแข็งถูกวางลงบนโต๊ะ ไอ่บีมจัดแจงแจกจ่ายแก้วพร้อมรินน้ำสีอัมพันนั้นให้ทุกคน
“นึกไงมาวะ”
“เมียอยากมา เลยตามใจเมีย” พลถองสีข้างไอ่บีมไปหนึ่ง
“ขอเหอะ มึงก็อยากแดก อย่ามา”
“จ้า” มันพูด “แล้วมึงสองคนเป็นไงบ้าง ไปถึงไหนกันแล้ววะ”
“กูว่าได้กันแล้วชัวร์!”
ประโยคนั้นของไอ่พลทำเอาหน้าแดงยันหู ส่วนไอ่ตรองก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“เชี่ย! แค่เดามั่วๆ แม่งได้กันจึงหรอวะ” พลว่าอึ้งๆ ปนหยอก
“เชี่ยไร เรื่องของพวกกูหนา” ผมบอก
เรื่องที่ไอ่ตรองจีบผมตอนนี้มีแค่ไอ่บีมกับพลเท่านั้นที่รู้ ที่จริงมันรู้ของมันเองแหละครับ ส่วนเฟย์กับแพรวผมไม่รู้ว่ามันรู้รึเปล่า แต่ไม่น่าจะรู้นะ......
“ใครรุกใครรับวะ” บีมถาม แต่สายตากลับมองมาที่ผม
“อะไรๆ กูรุกอยู่แล้ว โด่ววว”
“นั่นไง พวกกูว่าแล้ว” บีมพูด
“ว่ามึงต้องรับ!” พลต่อ พลางชี้มาที่ผม
“เดาเก่งนะ ฮ่าๆ โอ๊ย!” ผมฟาดแขนไอ่ตรองอย่างแรงไปทีนึง โทษทานเปิดเผยเรื่องมิบังควร
“เดาเก่งไร ฮู้ว หยุดเลยๆ”
“อะๆ ชนแก้วให้กับเพื่อนพีทที่มีผัวหน่อยเร้ววว ฮิ้ววว”
“ผัวพ่องงงสิ!” ผมว่าอย่างเขินๆ หากก็ยังชนแก้วกับพวกมัน
จะปิดบังยังไงท้ายที่สุดพวกมันก็ต้องรู้อยู่ดีสินะ เฮ้อ
“งั้นสรุปว่าพวกมึงคบกัน เป็นแฟนกันแล้วสินะ” สิ้นคำพูดของไอ่บีม ผมกับตรองมองหน้ากัน เรายิ้มออกมาอย่างเขินๆ เราไม่ได้นิยามความสัมพันธ์ของเรา เพียงแค่เรารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรต่อกันเท่านั้นมันเหมือนจะเพียงพอแล้ว
“แล้วแต่พวกมึงจะเรียกเหอะ จะคบกัน แฟน หรือจะผัว ...เมียกันก็แล้วแต่ พวกกูรู้แค่ว่า พวกกูรู้สึกยังไงต่อกันก็พอ” ผมหันหน้าไปทางไอ่ตรองที่ตอนนี้ยิ้มแป้นรออยู่แล้ว มันเลยยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอย่างเร็ว
“ไอ่นี่”
“หูยยยยย ข้าวใหม่ปลามัน ฮ่าๆ”
เราคุยกันเรื่อยเปื่อยซึ่งส่วนมาก็แซวผมกับไอ่ตรอง สักพักเฟย์กับแพรวก็มา พร้อมกับหนุ่มผิวขาวผมบลอนด์อีกหนึ่งคน ทำให้บทสนทนาเราเปลื่อน
“แหนะๆ ใครอะ” พลเอ่ยขึ้น
“แฟน ยังเฟย์ค่ะ” แพรวจงใจเน้นคำว่า แฟน เป็นพิเศษ ส่งผลให้เฟย์ฟาดยัยแพรวแก้เขินไปหนึ่งที ...............
“โอ๊ยเจ๊บนะ!”
“แฟนเฟินอะไรล่ะ แค่คุยๆ กันเท่านั้นเอง” แต่แก้มนั้นแดงเรื่ออย่าเห็นได้ชัด
“หราาาา ฮัลโหล วอทส ยัวร เนม?” พลถาม
“อายม พอล แอนด อาย แคน สปีค ไทย ผมพูดไทยได้ครับ” พอลพูดพร้อมกับสำเนียงแปร่งๆ
“หูยยย ดีอะ ผมชื่อพลครับ นี่บีมเพื่อน ....แล้วก็แฟน”
“แฟน? บอยเฟรนด?” พอลถามกลับอึ้งๆ พลพยักหน้ารับเขินๆ เช่นเดียวกับบีม
“ส่วนนี้พีท แล้วก็ตรองเพื่อนพีท” เฟย์แนะนำต่อ
“สวัสดีครับ” ผมทักทาย ต่อด้วยตรองในประโยคเดียวกัน
“จริงๆ ตรองเป็นแฟนพีทนะ”
“ไอ่เชี่ยพล”
“ฮี อีส พีทส บอยเฟรนด์” พลพูดอย่างรื่นเริ่ง พลางผายมือมาตรองกับผม สร้างความตระหนกตกใจใหักับพอล เฟย์ และแพรว แต่สร้างความเขินอายให้กับผม ส่วนไอ่ตรองยิ้มหน้าบานเป็นคนพี้กัญชาไปเรียบร้อย
“เชี่ยพล เสือกละ”
“กูกลัวเขาไม่รู้”
“ไม่ต้องเลยเกรงใจ แดกไปเลยหมดแก้วเลยมึงน่ะ”
“เห้ยๆ หมดแก้วไร เกรงใจแฟนกูด้วย” บีมรีบออกตัวปกป้องอย่างไม่จริงจังนัก ขณะที่พลกำลังกระดกหมดแก้ว
“ปากโป้งอะ” ผมพูดงอนๆ
“ไม่เป็นไรหรอกเน๊อะ” ตรองว่า หันมายิ้มให้ผม
“อร๊ายยย นี่พวกแกเป็นแฟนกันจริงหรอยะ กรี๊ดค่าาาาาา เดือนบริหารล่อเด็กสื่อสารค่าาาา”
“โอ๊ยย อีนี่เสียงดังไปไหนพอเลยๆ”
แล้วบทสนทนาหลังจากนั้นก็วกกลับมาซักไซ้เรื่องราวของผมกับไอ่ตรอง แต่สุดท้ายผมก็พยายามโยนจนเข้าเรื่องขอไอ่เฟย์จนได้ และก็กลายเป็นเรื่องสัปเพเหระไปในที่สุด
เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนกว่า อันเป็นเวลาที่ร้านเริ่มปิดไฟไล่ ลูกค้าหลายคนต่างแยกย้าย บ้างไปต่ผับ บ้างก็กลับหอนอน ส่วนพวกเรา ก็คงต้องกลับ เพราะต้องให้เกียรติกับวิชาเรียนในวันพรุ่งนี้
ผมอยู่ในสภาพที่กำลังกริ่มได้ที่ ไม่ได้เมาจนไม่ได้สติ เพราะก็ไม่ใช่คนคออ่อน แต่ก็ไม่ได้คอ ส่วนไอ่พลเมาไปแล้วครึ่งหนึ่งครับ คือมันเลยกริ่มไปแล้ว ไอ่พลเป็นพวกถ้าเมาแล้วจะพูดมาก แต่ไม่โวยวายนะ ส่วนบีมกับแพรวสองคนนี้สายแข็งครับ ผมไม่เคยเห็นพวกมันเมาเลย ในขณะที่เฟย์ปกติเป็นคนคออ่อน แต่คงเพราะมากับหนุ่มฝรั่งหน้าหล่อ เลยต้องสงวนท่าทีไว้ ถามถึงสามีผมหรอครับ (เขินจุงเรียกสามี >< ) รายนี้เป็นประเภทเดียวกับผมครับ แต่เหมือนจะอึดกว่าผมหน่อย อันที่จริง วันนี้มันกินไม่เยอะนะครับ อาจเป็นเพราะมีผมมาด้วย มีสามีดีก็ดีงี้แหละ
“งั้นก็แยกย้ายสินะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ละกันเน๊าะ” ผมพูดครับ
“แยกย้ายไรวะ เชี่ยยังไม่เมาเลย ต่อดิๆ อีกสักโปร”
“ค่าาาา สักโปรดูสังขารมึงก่อนมั้ยอีพล จะเมาอย่างหมาอยู่แล้ว ดูแลเมียมึงด้วยไอ่บีม”
“เออๆ รู้แล้ว เฮ้ย พลกลับๆ มึงเมาแล้ว” บีมว่าพลางดึงหัวไอ่พลมาซบไหล่มัน
“ไม่ม้าวว กูยังไง”
“เออ งั้นเดี๋ยวกูไปเอามึงต่อที่ห้อง”
“เชี่ยติดเรท เกรงใจชะนีบ้าง” ผมพูด ซึ่งสีหน้าชะนีก็มิได้นำพาใดๆ
“เชิญเถอะค่ะ พวกมึงไม่เคยเกรงใจอะไรกูอยู่แล้ว” เฟย์พูดออกมา “กูกลับก่อนนะ ต้องไปส่งพอลอีก เร็วอีแพรว”
“เออๆ ไปนะตรอง” แหนะมีส่งสายตาปิ้ง ผมเลยจ้องมันกลับตาเขม็งแบบลืมตัว
“บาย” ฝรั่งโบกมือลา ก่อนเดินตามเฟย์ออกไป โดยมีแพรวปิดท้าย
“งั้นก็แยกย้ายนะ เดี๋ยวกูต้องไปจัดการไอ่พลต่อ ไปละ ดูแลเพื่อนกูด้วยนะ อย่ารุนแรงล่ะ”
“ดูแลอย่างดีอยู่แล้ว พรุ่งนี้จะส่งให้ถึงคณะเลย”
“พอเลย ไปเลยไป๊” ไอ่บีมค่อยลากไอ่พลออกไปจากร้านพร้อมยักคิ้วกวนๆ มาให้ แต่พอพ้นจากหน้าร้านไปสักพัก ไอ่พลก็เด้งตัวขึ้นมา แล้วต้องโกนออกมาว่า
“บายยยย เจอกันพรุ่งนี้ น้าาาาา ~~~ “
ด้วยความเมาผมเลยเผลอตอบมันกลับไปด้วยเสียงระดับเดียวกัน “เอออออ เจอกานนนน” จนไอ่ตรองหลุดหัวเราะพรืดออกมา ในขณะที่ไอ่บีมลากคอไอ่พีทไปที่รถ
“กับเหอะ” ตรองว่า มันโอบเอวผมไว้เบา พอให้รู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่น พบเลยทิ้งน้ำหนักจากความมึนของหัวลงไปบนไหล่มัน
“กูยังไม่อยากกลับอะ ไปหาที่นั่งเล่นรับลมสักพักได้ปะ”
“ที่ไหนล่ะ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน “ที่ไหนก็ได้ที่มีตรอง”
มันยิ้มก่อนพาผมมาที่รถ แล้วขับออกไปยังที่ที่ไม่ได้ไกลจากกันมากนัก ห้างที่ตั้งอยู่บริเวณสีแยกใหญ่พอดี มันพาผมขึ้นมาบนดาดฟ้าของห้าง ที่ถูกจัดเป็นโซนร้านเหล้าหลายร้านด้านบน ตรองพาผมเดินมายังจุดชมวิว ที่เป็นทางบันไดคล้ายอัฒจันทร์ ด้านบนเป็นราวกั้น มองออกไปเห็นวิวถนนที่ทอดยาวไปยังที่ตั้งขอมหาวิทยาลัยที่พวกผมเรียนอยู่ และตลาดขายสินค้าแฟชั่น และอาหารอยู่เบื้องล่าง ดาดฟ้านี้ปิดประมาณตีสอง แต่ตอนนี้มันแค่เที่ยงคืนครึ่งยังมีเวลาอีกเยอะ
ผมยืนเกาะราวนั้นมองออกไปยังภูเขาด้านหน้า โดยมีไอ่ตรองยืนอยู่ข้างๆ อันที่จริงแขนข้างซ้ายของมันอ้อมตัวผมคล้ายโอบไปจับราวไว้ เพราะฉะนั้นจึงเหมือนมันยืนซ้อนหลังผมเลือมๆ อยู่
“บรรยากาศดีจังเน๊าะ”
“อืม”
“ลมเย็นดี อยู่แบบนี้สักพักคงส่าง”
“…..”
ไม่มีเสียงใดๆ อีกจากทั้งผมและมัน ตรองกระชับแขนสองข้างมาเป็นกอดเอวผมไว้หลวมๆ กดจมูกลงบนหัวผมเบาๆ ก่อนเงยหน้าเอาคางเกยหัวผมไว้ ผมไม่ได้ขัดขืนต่อการ กระทำนั้น ผมยังพึงออกกว้างของมันด้วยซ้ำไป แม้จะอยู่ในที่สาธารณะ และมั่นใจว่าต้องมีคนเห็นอย่างแน่นอน เพียงต่อไปไว้ อยากซึมซับกับบรรยากาศนี้ไปนานๆ
“พีท”
“หือ”
“ตรองรักพีทนะครับ”
“……”
ตรองพูดในระดับเสียงปกติ หากแต่ชัดเจนในของผม มันกระชับอ้อมกอดนั้นแน่นขึ้นไปอีก ผมจับมือของมันที่โอบผมไว้ ช่วงเวลาที่เงียบสงบ ราวกับมีเพียงแค่เราสองคน ผมคิดทบทวนเรื่องราวเกือบสองเดือนที่ผ่านมาก หรือจริงๆ อาจจะมากกว่านั้น นับตั้งแต่ผมได้รู้จักกับตรอง ชายหนุ่มผมยาวเกือบกลางหลัง หากแต่ยังดูหล่อเหลา เดินอย่างมุ่งมั่นเข้ามาหาผม เพื่อให้ผมช่วยเขาจีบพล ตอนนั้นผมหัวเราะร่วน กับความแน่วแน่นั้น หากแต่ผมก็ยอมช่วยเขา จนผมกับตรองเริ่มสนิทกัน และในวันที่ตรองอกหัก ก็มีผมอยู่ข้างๆ แล้วจากนั้นเรื่อยมา ก็เหมือนเราจะยิ่งสนิทกันมากขึ้น ตรองเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมมากขึ้น ไม่เข้าใจทำไมมัมต้องมาวนเวียนอยู่ใกล้ผมตลอดเวลา ทั้งๆ ที่มันบอกว่าจะตัดใจจากพลแล้วแท้ๆ จนกระทั้ง มันบอกบางสิ่งกับผม ที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกประหลาดกับมัน
‘จีบนะ’
แค่เท่านั้นแต่กลับมีอิทธิพลกับผมมากมาย และมันก็ไม่เคยลดละในการจีบผมเลย ทุกๆ วันมันต้องสรรหาสารพัดวิธี ตั้งแต่เสี่ยวๆ จนถึงจักกะจี้หัวใจมีจีบผมเสมอๆ จนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ผมมีมันอยู่เต็มความรู้สึกไปหมด ถึงขั้นเสียใจจนเป็นหวัดเข้าโรงพยาบาลได้ มันคงเป็นเหตุผลนั้นจริงๆ เหตุผลที่มาจากความรู้สึก ที่ส่งตรงมากจาก หัวใจ
ผมกระชับมือที่เกาะกุมมันไว้แน่นขึ้น ก่อนตัดสินหันหน้ามาหามัน เพื่อบอกบางสิ่งกับมัน ผมยืดตัวไปจูบปากมันอย่างเร็ว ก่อนเอ่ยบางอย่างออกไป....
“พีทก็รักตรองครับ”
สีหน้าของตรองไม่ได้ผิดคาดไปจากที่ผมคิดไว้ มันยิ้มหน้าบานเสียยิ่งกว่าทุกครั้ง ราวกับความสุขทุกอย่างหยุดอยู่ที่ตรงนี้ แหละเหมือนมันจะลืมไปว่าเราอยู่ในที่สาธารณะ มันดึงผมเข้ามาจูบแม้จะเพียงไม่กี่วิ หากก็นานพอจนกลัวใครจะเห็น
“เดี๋ยวคนเห็น” ผมปรามมันเสียงอ่อย
“ใครสนล่ะ” มันว่ายิ้มๆ พลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
ตอนนี้ผมเองก็ไม่สนแล้วเช่นกัน ผมกอดตอบมันไป ไม่สนใจสิ่งใด นอกจากกันและกัน ผมไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปเรื่องราวของผมกับตรองจะเป็นอย่างไรต่อไป จะดีร้ายยังไง พ่อแม่ของเราจะยอมรับได้รึเปล่า แต่ที่ผมมั่นใจได้แน่ๆ ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตรองจะไม่มีวันปล่อยมือจากผมอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับผมที่จะไม่มีวันละทิ้งอ้อมกอดอันอบอุ่นนี้แน่นอน
~ จบการจีบ เริ่มต้นเรื่องราวคู่รัก ~
จุดจบของหลายเรื่องราวในนิยาย และละคร มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่เสมอๆ
:::: TALK ::::
จบแล้วครับ จบจริงๆ แล้ว
ขอบคุณที่ติดตาม และรอคอยกันนานมากนะครับ
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะครับ
อย่างที่เคยบอกไปในตอนแรกๆ
เรื่องนี้เขียนโดยมีพล็อตในหัว ไม่ได้เขียนพล็อตไว้อย่างชัดเจน
จะเขียนแต่ละทีเลยต้องย้อนอ่านตอนเก่าๆ แล้วเรียบเรียงพล็อตให้ต่อเนื่อง
ดังนั้นทั้งคาแรกเตอร์ และเรื่องราวจึงอาจแขวๆ และดูแหว่งๆ ไปบ้างก็ขออภัยนะครับ
ยังไงก็แนะนำติชมได้เลยครับ
ขอบคุณครับ ><