..
....
..
“คนที่มาหาเมื่อคืนเป็นใครกันน่ะ” ริซาโกะถามในตอนเช้าของอีกวัน หลังจากที่เธอจัดโต๊ะอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนพวกเด็กๆ กำลังอาบน้ำแปรงฟันกันอยู่ เธอสังเกตเห็นว่าดวงตาของน้ำสีออกแดงๆ เหมือนว่าไม่ค่อยได้หลับได้นอน สีหน้าก็ดูเคร่งขรึมมากกว่าปกติ
เมื่อคืนนี้หลังจากที่เด็กหนุ่มกลับไป น้ำก็หยิบเอาช่อดอกไม้กับตุ๊กตา แล้วก็พุ่งเข้าห้องนอนไปโดยไม่ยอมออกมาอีกเลย ดูจากของที่เอามาให้แล้วก็... หรือว่าคนคนนี้จะเป็นคนที่เธอกับไม้ตามหา
“เขาชื่อเมฆ”
“อ่อ น้องเมฆ แล้ว... ทะเลาะกันรึเปล่า พี่ขอโทษนะ”
“...ก็นิดหน่อย” เขาตอบเสียงเรียบ
“เมฆเข้าใจผิดอะไร พี่ก็บอกแล้วว่าเป็นพี่สะใภ้ของน้ำไงล่ะ” ริซาโกะถอนหายใจยาว
น้ำเคลื่อนสายตาไปสบประสานกับหญิงสาว ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะรู้ความจริงเข้าเสียแล้ว “....”
“เขาเป็นเจ้าของเกียร์ที่น้ำใส่อยู่สินะ” เธอชี้ไปที่ลำคอของชายหนุ่ม ใบหน้ายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ได้เจอตัวสักที พี่กับไม้น่ะ อยากเจอเขามากๆ เลยล่ะ”
“.....”
“นี่... จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”
“จะให้พูดอะไรล่ะครับ”
ริซาโกะอมยิ้ม จากนั้นจึงโน้มตัวลงใช้หัวไหล่กระแซะชายหนุ่มเบาๆ “น่ารักดีนะ อยากพากลับโตเกียวด้วยเลยอะ”
“เดี๋ยวพี่ไม้เอาตาย”
“ไม่หรอก ไม้ต้องชอบน้องเมฆมากแน่ๆ พี่มั่นใจเลย” เธอหัวเราะ พลางกระซิบบอก “รีบๆ ไปง้อซะนะ จะให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลย”
น้ำหลุบตาลงต่ำ เขานิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ แต่เมื่อพินิจพิเคราะห์ดูแล้ว สถานการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิดไว้ ดูเหมือนพี่สะใภ้จะอยู่ข้างเขา เมื่อมีคนเข้าใจก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงไปได้บ้าง “...ผมกับเมฆยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ผมคงต้องรอให้เขาใจเย็นลงอีกหน่อย แล้วค่อยหาโอกาสคุยกัน”
หญิงสาวขยี้เส้นผมน้องชายสามีอย่างเอ็นดู “สู้ๆ นะ เขาโกรธเขางอนน้ำก็คงเพราะรักมาก”
นัยน์ตาเรียวอ่อนแสงลง เขายิ้มบาง “ผมจะพยายาม... แต่ว่าริซาโกะ อย่าเพิ่งบอกพี่ไม้นะครับ ผมขอเป็นคนบอกพี่ไม้เอง”
ริซาโกะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “โอเคจ้ะ”
“อาน้ำ~” เสียงใสจากรินและรันดังแว่วมาจากห้องข้างๆ ก่อนทั้งสองจะวิ่งออกมาเกาะแขนของน้ำไว้
“ว่าไง หิวข้าวรึยัง”
“หิวแล้ว อยากให้อาน้ำป้อน”
“ไม่เอาค่ะ กินกันเองนะ เดี๋ยวอาน้ำต้องรีบไปเรียนหนังสือแล้ว” พอถูกริซาโกะดุเอา พวกเขาก็ขยับขึ้นไปนั่งเก้าอี้แล้วเริ่มต้นรับประทานอาหารอย่างจ๋อยๆ
น้ำหัวเราะ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรริซาโกะก็หันมาดุเขาบ้าง “น้ำมีเรียนแปดโมงครึ่งไม่ใช่เหรอ ยังโอ้เอ้อยู่อีก รีบกินข้าวเร็ว! ห่อข้าวกลางวันวางไว้ให้แล้วนะ”
“อ๋า ครับๆ” ชายหนุ่มรีบก้มหน้าจัดการกับอาหาร เหลือบมองหลานสองคนด้านซ้ายขวาบ้างแล้วต่างก็อมยิ้ม สักพักเขาก็หันหน้าไปทางพี่สะใภ้ “เอ่อ...”
“จะเอาอะไรเพิ่มเหรอ” หญิงสาวลุกขึ้นพลางยิ้มกว้าง
น้ำคว้าแขนเธอไว้แล้วเสตาหลบ “ผมอิ่มแล้ว ขอบคุณครับ... พี่ริซาโกะ”
“ฮะ” ริซาโกะเบิกตาโพลง เธอแทบจะทิ้งจานในมือลงด้วยความประหลาดใจ นั่นก็เพราะว่าน้ำ... ไม่เคยเรียกเธอว่าพี่เลยสักครั้ง
“ผมไปเรียนล่ะ ไปนะรินรัน” ชายหนุ่มหันไปหอมแก้มหลานทั้งสองคน จากนั้นจึงรีบรุดออกจากห้องพักไป
เมื่อจบชั่วโมงเรียนภาคเช้า น้ำยังไม่ทันก้าวออกจากห้องรุ่นน้องก็มาตามเขาไปร่วมประชุมองค์การนักศึกษา สำหรับงานกีฬาภายในของมหาวิทยาลัยที่จะเริ่มขึ้นในตอนเย็นของวันถัดไป
ชายหนุ่มต้องยกมือขึ้นกุมขมับกับตารางงานที่ทางองค์การนักศึกษาแบ่งมาให้ช่วยดูแลในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังต้องแบ่งเวลาไปช่วยฝึกซ้อมยูโดให้รุ่นน้องในคณะ แล้วยังถูกอาจารย์ดึงให้ไปช่วยเรื่องกรรมการตรวจคะแนนในการแข่งขันยูโดอีก เขาหยิบตารางการแข่งขันบาสเกตบอลออกมาเทียบดูเพื่อหาเวลาที่เขาพอจะว่างตรงกัน ซึ่งก็แทบจะไม่มี
“ถ้าเวลาไม่สะดวกก็หาคนแลกก็แล้วกันน้ำ”
“อือ...” ขณะที่กำลังหาแลกเวลากับสมาชิกองค์การคนอื่นๆ รุ่นน้องปีสามก็ก้าวเข้ามาสะกิดถาม
“พี่น้ำๆ มีนัดถ่ายรูปวงโยฯ กับดรัมฯ บ่ายนี้ไม่ใช่เหรอ เขาจะมีซ้อมใหญ่กันนี่”
น้ำเงยหน้าขึ้นพรวด “หา! นัดวันนี้เหรอ” เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูตาราง “ฉิบหายแล้ว กล้องอยู่ที่คอนโดฯ” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น พร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เขาคงไม่ได้ไปรับประทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแน่ แล้วถ้าเมฆไม่เห็นเขา... จะยิ่งโมโหหรือเปล่าเนี่ย
“งั้นผมไปก่อนนะ ต้องรีบไปเอากล้องที่คอนโดฯ” น้ำวิ่งออกจากห้องประชุมตรงไปยังลานจอดรถ เขาพยายามกดโทรศัพท์ไปหาเมฆ ทว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องไว้
“โธ่โว้ย!” ชายหนุ่มสบถพลางโยนโทรศัพท์ไว้บนเบาะข้างตัว เขาพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วขับรถออกไป
TBC~*เห็นมีหลายคนขอดราม่ามา ฮัสกี้เลยจัดให้เบาๆ พอน่ารักกรุ๊บกริ๊บ อร๊างงง~ เห็นมีขอให้น้องเมฆปรี๊ดแตกบ้างด้วย จัดให้แล้วนะคะ ขอรางวัลล่วย กร๊ากกกก <-- ไม่โดนรองเท้าปากบาลก็บุญ 
นิดหน่อยๆ ตอนนี้อาจจะอึมครึมไปนิด แต่อีกไม่นานก็คงฟ้าโล่งแล้วค่ะ ครั้งนี้พี่น้ำต้องสู้ ตามง้อน้องเมฆให้ได้นะพี่!!!
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า 