[2]
PART 1
“อีฟ่า เมื่อกี้มึงทำอะไรลงไป รู้ตัวมั้ย โอ๊ยยยย กูจะเป็นลม” ทันทีออกมานอกร้านอีออมก็โวยวายจนผมต้องยกมือเป็นเชิงเบรกปากมันเอาไว้ ถ้าถามว่าเมื่อกี้ผมทำอะไรลงไป บอกได้คำเดียวเลย. . .ไม่รู้ ตอนนั้น ตอนที่เห็นหน้ามัน ในหัวมีแต่คำว่า เอาคืน เอาคืน เอาคืน เต็มไปหมด คิดแค่ว่ามันทำเราวิธีไหน เราต้องตอกกลับด้วยวิธีที่แรงกว่า!! แต่ดั๊นนนนน ลืมคิด ว่าไอ้คนเสียเปรียบนั่นมันเรา อับอาย. . .อับอายแน่ไอ้ฟ่าเอ๊ย
“มึงรู้มั้ยตอนที่มึงไปนั่งตักพี่เขานะ กูนี่แทบกรี๊ด จะดึงมึงขึ้นมาก็ไม่ทันแล้ว มึงประกบปากไปแล้ว โอ๊ยตายๆๆๆ ดังแน่ พรุ่งนี้ ดังแน่ๆ” ไอ้ออมยังคงโวยวายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผมทำได้แค่เงียบ ประมาณว่าช็อคกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป “แล้วมึงจะทำไงต่อ” ไอ้ออมถามเมื่อมันโวยวายจนพอใจแล้ว
“ไม่รู้ว่ะ ตอนนี้กูยังคิดอะไรไม่ออก กูช็อค” ผมบอก ไอ้ออมตบหน้าผากตัวเองอย่างปลงตก
“เอาเป็นว่าตอนนี้กูไปส่งมึงที่บ้านก่อน ไปเรียกสติตัวเองก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“เออๆ” ผมตอบรับคำแนะนำของมันอย่างรวดเร็ว เพราะถึงแม้ยังอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็ไม่ได้ ภาวนาอย่าให้มันคิดว่าผมอ่อยแล้วกัน
>>>>><<<<<
“สรุปว่ามึงลงไปนั่งตักพี่เขา จากนั้นก็จ๊วบบบบ” ผมพยักหน้าเบาๆ ให้ไอ้คิม ตอนนี้พวกผม ก็คือ ผม อีออม ไอ้คิม มานั่งกันที่โต๊ะหน้าตึกคณะ ส่วนไอ้สามคนที่เหลือ ไอ้มิกซ์ ไอ้แม็กซ์ ไอ้ไอซ์ไม่อยู่เพราะพวกมันเรียนสถาปัตย์ ทันทีที่มาถึงอีออมมันก็เปิดฉากเล่าความอับอายของผมให้ไอ้คิมรับรู้มันที เพราะเมื่อคืนมันกลับบ้านหาพ่อแม่มันเลยไม่ได้ไปด้วย
“นางมั่นมากค่า เดินไปหาพี่เขาอย่างมั่นใจ ประกบปากทันที แต่ที่แซ่บกว่านั้นนะ พี่เขาจูบตอบด้วยค่า” อีออมคนที่จะเป็นลมเมื่อคืนหายไปไหนแล้ววะ ทำไมตอนนี้ผมเห็นแค่อีชะนีช่างฝอย แม่ง เล่าซะไอ้คิมเห็นภาพเลย
“แซ่บนะมึง ถึงว่าเมื่อเช้ากูเดินเข้ามอมาคนมองแปลกๆ” ไอ้คิมว่า
“ของมึงแค่มอง ของกูนี่เกือบจะโดนผู้หญิงกินกบาลอยู่แล้ว” จริงๆ นะ เมื่อเช้าเดินเข้ามอมา ผู้หญิงบางคนนี่มองกันแบบแทบจะกินเลือดกินเนื้อ บางคนกล้าหน่อยเดินเข้ามาถามเลยว่าผมเป็นอะไรกับไอ้คีน แต่ผมอาศัยความหยิ่งที่เขาลือกันนักหนาเข้าสู้ เลี่ยงที่จะตอบคำถามพวกนั้น
“ก็จะไม่ให้มองยังไงล่ะคะ พวกมึงดูนี่” อีออมว่า แล้วเอาโทรศัพท์ของมันวางไว้กลางโต๊ะ พวกผมรีบสุมหัวกันดูทันที ก็ต้องพบหัวข้อกระทู้ พร้อมกับภาพประกอบสองภาพ นั่นคือที่ไอ้คีนหอมแก้มผมตอนเช้า กับที่ผมไปจูบมันเมื่อคืน
‘ดาวเด่นวิศวะโดนเดือนมหาลัยสอยไปกินซะแล้ว’ ตามมาด้วยคอมเม้น
‘พี่คีนไปชอบคนแบบนั้นได้ไง หยิ่งจะตาย’
‘อ๊ายยยย หนูฟินค่าาาาา’
‘กูตายตาหลับแล้ว กรี๊ดดดดด’
‘พี่คีนนนนน ไม่จริงใช่มั้ยย’
‘ไม่นะครับ โธ่ฟีฟ่าของผม ผมหล่อน้อยกว่าไอ้หมอนั่นตรงไหน’
‘หล่ออ่ะ ไม่น่าเป็นเกย์เลย’
‘เสียดายฟีฟ่า อุตส่าห์แอบมองมานาน T___T’
และอีกเยอะแยะมากมาย ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แถมยอดแชร์กระทู้ยังทะลุหลักพันอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนจะเห็นกันเยอะขนาดไหน
ฮึ่ยยย คิดแล้วแค้น ทั้งไอ้คีน แล้วก็ตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด
“กูว่าถ้าพี่เขาชอบมึง มึงก็ตามน้ำไปเลยอีฟ่า พี่เขาแซ่บนะมึง สาวๆ ทั้งมหาลัยจ้องจะงาบอยู่” ไอ้คิมว่า อีออมก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที
“มึงก็รู้นี่หว่าว่ากู. . .” ผมพูดยังไม่ทันจบ ไอ้คิมก็ยกมือขึ้นเบรกทันที
“กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไร แต่มึงลองแหกกฎตัวเองดูดิวะ อาจจะดีก็ได้นะ” ไอ้คิมพูดอย่างให้กำลังใจ
“มึงใจเย็นไอ้คิม เรายังไม่รู้เลยว่าพี่เขาคิดยังไงกับไอ้ฟ่ากันแน่ ให้เวลามันหน่อย อย่าเพิ่งรีบคาดคั้นมันเลย” อีออมพูด ผมรีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที เลยถูกไอ้คิมโบกหัวให้ทีนึง
“ก็ถ้าเขาไม่คิดอะไรเขาคงไม่ถ่อมาหามึงถึงคณะ แถมยังหอมแก้มโชว์ขนาดนั้นหรอก” ไอ้คิมว่า
“เออว่ะ” ไอ้ออมพยักหน้าเห็นด้วย
“เอ้า อีออมตกลงมึงอยู่ข้างใคร กูหรืออีคิม” ผมถามอย่างหาเรื่อง
“กูอยู่ข้างความถูกต้องค่ะ กูสวย” มันว่าพร้อมเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับดูดชาเย็นในมือ มันก็สวยจริงๆ นั่นแหละ แต่ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวเหลิง
“มึงๆ” ไอ้คิมสะกิดผมพร้อมกับบุ้ยไปทางด้านหลัง พอผมหันไปตามปากมันก็พบว่ามีผู้หญิงที่จัดว่าสวยมาก เดินมากับเพื่อนอีกสองคน
“แก๊งค์ดาวมหาลัยปีเดียวกับพี่คีน แม่ดาวชื่อแนน กูไม่ชอบหน้าเลยแม่ง โคตรหยิ่ง” อีออมกระซิบบอก ผมก็พยักหน้ารับเบาๆ อย่างน้อยรู้ไว้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ดีเหมือนกัน เพราะดูท่าแล้วคงกำลังจะเดินมาหาผมแน่นอน และถ้าให้เดาอีกก็คงเป็นเรื่อง. . .
“เป็นอะไรกับคีน” ดาวมหาลัยคนสวยถามทันทีที่เดินมาถึงตัวผม หึ ทำไมกูซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ ป่านนี้รวยเป็นพันๆ ล้านแล้ว
“ทำไมต้องตอบ” ผมเลิกคิ้วยียวนกลับไป คนสวยกำหมัดแน่นข่มอารมณ์ตัวเองทันที หึ จะปล่อยปรี๊ดออกมาก็คงกลัวจะเสียภาพพจน์สาวเรียบร้อย
“ถ้าคิดจะจับคีนขอให้เลิกซะ”
“ทำไมต้องเชื่อ?” ผมยังกวนไม่เลิก นั่งกระดิกเท้าสบายอารมณ์บนเก้าอี้ โดยที่แนนยืนตัวสั่นด้วยความโกรธ
“คีนเป็นของฉัน” ผมแสยะยิ้มกับคำพูดของเธอ แล้วส่ายหัวน้อยๆ ให้พอน่าหมั่นไส้ คึคึ สนุกชะมัด
“เขาเป็นของเธอ แล้วเธอเป็นของเขาด้วยรึเปล่า นี่พี่สาวผมจะบอกอะไรให้นะ ของแบบนี้เขาไม่พูดอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แนนกัดฟันกรอดปรี่เข้ามาเหมือนจะตบผม ผมก็ลุกขึ้นยืนเชิดหน้าเตรียมรับมือเหมือนกัน แต่เพื่อนของเธอสองคนที่มาด้วยจับไว้ทัน แล้วกระซิบอะไรบางอย่าง ทำให้แนนสงบท่าทีลง ถ้าให้ผมเดา เพื่อนก็คงจะเตือนเรื่องภาพพจน์ดาวมหาลัยนั่นแหละ เพราะตรงนี้คนไม่ใช่น้อยๆ
“งั้นนายจะบอกว่านายกับคีนเป็นอะไรๆ กันงั้นสิ” แนนถามผมอีกหลังจากสงบอารมณ์ได้แล้ว
“จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา ทำไมไม่ไปถามไอ้คีนเองล่ะ เขาเป็นของเธอไม่ใช่หรอ” ผมว่า
“หึ นายมันก็แค่เกย์สกปรก คีนเขาก็แค่เล่นๆ เท่านั้นแหละ คิดหรอว่าเขาจะจริงจัง ยังไงซะ เขาก็ต้องชอบผู้หญิงวันยังค่ำ” แนนพูดพร้อมกับยกยิ้มเหยียดๆ มาทางผม แล้วเลยไปที่ไอ้คิมด้วย
“นี่เธอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ แล้วผู้หญิงที่ถ่อมาหาเรื่องเกย์สกปรกๆ ถึงที่เพราะเรื่องผู้ชายนี่มันดีนักรึไงห๊ะ?!! หึ ก็แค่ผู้หญิงคันคะเยอที่คารามายด์ก็คงเอาไม่อยู่ละมั้ง” ผมว่าบ้าง ดาวมหาลัยคนสวยถึงกับตัวสั่นเทิ้มด้วยความโมโหจัด ทำท่าจะปรี่เข้ามาหาผมอีกครั้ง แต่เพื่อนก็จับไว้แน่น หึ ถ้าหลุดออกมาก็คงมีฉะกันสักตั้ง ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ ผมเป็นเกย์ ไม่สนอยู่แล้ว
“คนอย่างแก ไม่เหมาะสมกับคีนหรอก”
“แล้วใครเหมาะ? เธองั้นสิ ถามเขารึยังว่าเขาเอามั้ย”
“หนอยยย ไอ้บ้านี่” แนนจะเข้ามาหาผมอีกครั้ง แต่เพื่อนรีบดึงไว้แน่นและลากออกไปจากตรงนี้ทันทีเพราะคนเริ่มมองแล้ว
“เหอะ!! บ้าบอที่สุด เพราะไอ้บ้าคีนนั้นแท้ๆ ชีวิตกูถึงได้วุ่นวายขนาดนี้” ผมกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหัวเสีย ไอ้ออมลูบหลังผมเบาๆ เป็นเชิงให้ใจเย็น ผมถอนหายใจแรงๆ สงบอารมณ์โมโห “กูไม่เป็นไรแล้ว” ผมบอก
“มึงเตรียมตัวไว้เถอะอีฟ่า มึงต้องเจอแบบนี้อีกเยอะ” ไอ้คิม
“เออจริงด้วย อย่าลืมลับฝีปากให้คมๆ ล่ะมึง” ไอ้ออม
“โอ๊ยยย ทำไมก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะเนี่ย อารมณ์เสียแม่ง” ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะหยุดเมื่อมีรองเท้ามันเงาคู่หนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นก็เจอกับรอยยิ้มพิมพ์ใจของรุ่นพี่คนสนิท
“พี่โม. . .”
“เป็นอะไรห๊ะเรา นั่งทึ้งหัวตัวเอง” พี่โมถามขำๆ ก่อนจะนั่งลงข้างผม แล้วทักทายไอ้เพื่อนสองตัวของผมเล็กน้อย
“ก็มีผู้หญิงของไอ้บ้าคนนึงมาหาเรื่องถึงที่ เลยเซ็งนิดหน่อย” ผมบอก
“ไอ้บ้าที่ว่านี่. . .หมายถึงคีนเดือนปีสามรึเปล่า” พี่โมถาม ผมไม่ตกใจที่พี่โมรู้ มันไม่แปลก คนอื่นเขาก็รู้กันทั่วหมาลัยเพราะไอ้ภาพบ้าๆ นั่น
“ก็นั่นแหละ เซ็งเลยแม่ง” ผมบ่น
“ฟ่า. . .” พี่โมเรียก ผมเลยเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเรียกทำไม พี่แกยิ้มเหยๆ ก่อนจะพูด “คือว่า. . .คีนน่ะ. . .เพื่อนพี่เอง” ผมตาเบิกกว้างทันทีที่ได้ยิน
“หมายความว่าไง เป็นเพื่อนกัน พี่โม. . .กับไอ้คีน” ผมถามอึกอัก เพราะไม่อยากจะเชื่อ ผมกับพี่โมก็รู้จักกันมาค่อนข้างนาน ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อไอ้คีนจากปากพี่โมเลยสักครั้ง
“อื้ม. . .ตั้งแต่ประถมแล้วล่ะ อีกอย่างแฟนพี่ก็. . .กลุ่มเดียวกับไอ้คีน” พี่โมเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อ “มันฝากไอ้นี่มาให้ฟ่าด้วย” พี่โมยื่นกล่องสีฟ้าที่ผูกด้วยโบว์สีน้ำเงินมาให้ผม แต่ผมไม่ยอมรับพี่แกเลยเอาวางไว้บนโต๊ะแทน เรื่องที่พี่โมมีแฟนเป็นผู้ชายผมก็รู้ แรกๆ ตกใจนิดหน่อยเพราะพี่โมแกเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ไม่คิดว่าจะมาเสียท่าผู้ชายด้วยกัน อีกอย่างผมก็ไม่เคยเห็นแฟนพี่แกด้วย เลยไม่แปลกที่ผมจะไม่รู้ว่าแฟนพี่โมเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับไอ้คีน
“มันจะจีบฟ่าหรอ” ผมถาม อันนี้ไม่ได้หลงตัวเอง แต่ดูจากสถานการณ์แล้วมีความเป็นไปได้สูง
“อื้ม น่าจะเรียกว่าจีบมั้ง” พี่โมตอบรับ แต่พึมพำเบาๆ ตอนท้ายประโยค
“มันเป็นเกย์หรอ” ผมถามต่อ
“เปล่า แมนทั้งแท่งเลยแหละ” พี่โมส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้ผม
“พี่โมก็รู้ว่าฟ่าเป็นยังไง” ผมบอกไป เพราะพี่โมรู้ดีอยู่แล้วเรื่องกฎที่ผมตั้งให้ตัวเอง แถมยังรู้สาเหตุของมันด้วย
“อืมพี่รู้. . .แต่ไอ้คีนมันไม่รู้นะฟ่า มันสนใจฟ่า มันก็เลยจะจีบฟ่า พี่รู้ว่าฟ่ากลัว แต่จะไม่ลองเปิดใจให้เพื่อนพี่หน่อยหรอ ไอ้คีนมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร มันรักใครรักจริงนะเว้ย พี่รับประกัน” พี่โมพยักหน้ายืนยันกับคำพูดของตัวเอง
“แล้วทำไมมันไม่มาเอง” ผมถาม จะจีบผมแต่ให้เพื่อนมาแทน ผมไม่ปลื้มหรอกนะแบบนี้
“มันมีแล็ปน่ะ” พี่โมบอก
“เฮ้อ. . .มันชอบฟ่าหรอ ถ้ามันแค่อยากลอง พี่โมบอกมันว่าให้ลองกับคนอื่นเถอะ”
“เอ่อ. . .พี่ว่าฟ่ารอบอกมันเองดีกว่านะ วันนี้พี่แค่มาทำตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์เฉยๆ” ผมพยักหน้าให้พี่โม เพราะดูแกเองก็คงจะลำบากใจไม่น้อย พี่โมนั่งคุยกับผมอีกสักพักก็ขอตัวกลบไปบอกว่ามีเรียนต่อ
“อีฟ่าๆ” ทันทีที่คล้อยหลังพี่โม อีออมสะกิดเรียกผมยิกๆ จนผมต้องหันไปมอง
“อะไร” ผมขาน
“เปิดสิๆ” มันพยักเพยิดมาทางกล่องสีฟ้าที่ไอ้คีนฝากพี่โมมาให้
“มึงก็เปิดสิ กูขี้เกียจ” ผมบอก
“เรื่องไร ของมึง มึงก็เปิดดิ” มันพูดเสียงสบายๆ เหมือนเฉยๆ แต่สายตามันที่มองผมมันบอกว่า
‘มึงรีบเปิดซะ กูอยากรู้ใจจะขาดแล้ว’ ผมก็เลยคว้าเอากล่องนั้นมาเปิดออกอย่างเสียไม่ได้
“อีสาดดดดด พี่คีนแม่งแน่จริงๆ กูอยากรู้ว่าตอนไปอัดพี่เขาจะทำหน้าแบบไหน คริคริ” ไอ้คิมโหยหวนขึ้นมาเมื่อเห็นของที่อยู่ในกล่อง ผมเองก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบที่หน้าไม่ได้เมื่อเห็น มันคือรูปตอนที่ผมไปนั่งตักแล้วจูบมัน มันอัดพร้อมใส่กรอบอย่างดีมาให้ แม่งเอ๊ย เล่นอะไรของมันวะ
“เฮ้ยๆ มีโน้ตด้วย มึงอ่านสิอีฟ่า” อีออมยื่นกระดาษแผ่นเล็กสีเหลืองอ๋อยมาให้ผม บนกระดาษมีข้อความสั้นๆ แต่จี๊ดว่า. . .
‘เตรียมตัวเป็นแฟนกูได้เลย. . .ฟีฟ่า’หนอยยยย ไอ้คีน รู้จักคนอย่างฟีฟ่าน้อยไปซะแล้ว
“อีออม ไอ้คิม. . .เย็นนี้ไปร้านอัดรูปกับกู”TBC.
TALK :
น้องฟ่าไม่เคยเข็ดกับการเอาคืนแบบเด็กๆ ของตัวเอง ตอนหน้ามาดูกันว่านางจะไปร้านอัดรูปทำไม
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคนที่ชอบนะคะ แต่ขอเตือนอีกทีว่าอย่าคาดหวังมากเพราะเรายังเป็นมือใหม่อยู่ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะ