✽ ✽ ✽ ต่อค่ะ ✽ ✽ ✽
เสียงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ดังออกมาแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่เพราะคนที่เปิดเอาไว้ตอนนี้ไม่ได้สนใจแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ในห้องนั่งเล่นแสนกว้างนั้นเลย
"อะไรกันตาควอตซ์เปิดโทรทัศน์เอาไว้แล้วก็ไม่ดูหรือไงเรา" เสียงของคุณหญิงมรกตดังขึ้นให้คนที่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมอง
"คุณพ่อคุณแม่... พอดีผมคุยกับเพื่อนอยู่ครับ" ควอตซ์เอ่ยตอบพร้อมกับวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้านหน้าโซฟาตัวนุ่ม
คุณหญิงมรกตเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาวโดยมีผู้ชายวัยกลางคนเดินตามมานั่งด้วย คุณโทมัส บริสตัน ผู้ก่อตั้งบริษัทจิลเวล บริสตัน พ่อของควอตซ์
"จะออกไปเที่ยวกันอีกแล้วละสิ" คนเป็นแม่เอ่ยพร้อมกับมองค้อนลูกชายสุดที่รักที่เที่ยวเก่งเหลือเกิน
"เอาน่าคุณ เรื่องปกติของผู้ชายนั่นแหละ เดี๋ยวอีกหน่อยพอตาควอตซ์เจอคนรักจริงๆ ก็หยุดเอง" คนเป็นพ่อกลับไม่เอ่ยห้ามลูกอีกทั้งเหมือนจะสนับสนุนอีกตั้งหากให้ควอตซ์หัวเราะ เพราะเอาจริงๆ แล้วเรื่องเที่ยว เรื่องดื่มเหล้าดื่มเบียร์พ่อคนนี้ก็สอนมาแทบทั้งหมด
"คุณก็ให้ท้ายตาควอตซ์อยู่เรื่อยเลย แม่ละกลัวจริงๆ ว่าสักวันจะมีผู้หญิงท้องโตที่ไหนไม่รู้เดินเข้ามาในบ้านแล้วบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเรา" คนเป็นแม่หันไปค้อนสามีแล้วก็กลับมาพูดกับลูกชายต่อ
ควอตซ์ยิ้ม "ไม่หรอกครับ ผมป้องกันทุกครั้งนะครับแม่" แทนที่จะปฏิเสธว่าไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นเจ้าตัวกลับบอกว่าป้องกันตลอดให้คนเป็นแม่เอื้อมมือมาตีอย่างนึกหมั่นไส้ในตัวลูกชายสุดที่รัก
"เดี๋ยวเถอะ!"
"ผมล้อเล่นครับ ผมห่างๆ เรื่องแบบนี้มาเป็นเดือนแล้วละครับสบายใจได้เลยครับ" ควอตซ์ตอบแต่คนเป็นแม่ก็ยังทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดีแต่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรจึงหันไปหยิบแฟ้มที่ถือติดมือมาด้วยมาเปิดดูผิดกับคนเป็นพ่อที่มองหน้าลูกชายตัวเองอย่างนึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เพลย์บอยตัวพ่ออย่างควอตซ์ อชิตพล บริสตันบอกว่าห่างเรื่องพวกนี้มาเป็นเดือน ฟังแล้วไม่น่าเชื่อเสียเท่าไหร่ ไปบอกใครๆ ทุกคนก็คงส่ายหน้ากันหมด แต่มันคือเรื่องจริงที่ตัวควอตซ์รู้ดีที่สุด
"หือ... เครื่องประดับชุดนี้สวยดีนะคุณ ใครออกแบบเหรอ" ควอตซ์ที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองหันกลับมามองเมื่อได้ยินเสียงพ่อของตนพูดขึ้น
เครื่องประดับที่คุณโทมัสพูดถึงนั้นเป็นเพียงแบบร่างที่คุณหญิงมรกตกำลังดูอยู่ คนถือกระดาษแผ่นนั้นเงยหน้าขึ้นมองสามีของตนก่อนจะตอบ "น้ำเหนือค่ะ พนักงานในร้านสาขาใหญ่เก่งมากเลยนะคะคุณ ชุดนี้ของคุณหญิงอรพรรณค่ะ สวยใช่ไหมละคุณ"
คุณโทมัสรับกระดาษแผ่นนั้นไปดูก่อนจะพยักหน้ารับ "สวยจริงๆ ครับ น้ำเหนือ... คนที่คุณพูดถึงบ่อยๆ นะหรือ"
"ใช่ค่ะ น่ารักมากเลยนะคะ ทำงานก็เก่ง" พูดไปก็ยิ้มไปเมื่อนึกถึงเด็กคนที่เอ็นดู
"คุณพ่อขาคุณแม่ขา" เสียงหวานร้องเรียกดังลั่น ดังมาก่อนที่ตัวคนพูดจะเดินมาถึงเสียอีกหญิงสาวหุ่นดีหน้าตาสะสวยที่ได้พิมพ์จากคนเป็นแม่มาเกือบทั้งหมดยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือไหว้คนทั้งสอง "สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ อุ้ย! พี่ควอตซ์ก็อยู่บ้านด้วยหรือคะเนี่ย สงสัยวันนี้หิมะจะตก"
"เวอร์ไปแล้วลาพิส" ควอตซ์ส่ายหน้ากับคำพูดนั้น
ลาพิส น้องสาวแท้ๆ ของควอตซ์หัวเราะร่าก่อนจะเดินเข้ามากอดพี่ชายของตัวเองแน่นพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอย่างที่ชอบทำก่อนจะเดินไปนั่งตรงกลางระหว่างคนเป็นพ่อและแม่พร้อมกับกอด หอมทั้งสองคน "ทำอะไรกันอยู่คะ"
"แม่เขากำลังดูเครื่องประดับอยู่" คนเป็นพ่อบอกพร้อมกับยื่นกระดาษให้กับลูกสาวคนเล็กดู
"โห... สวยจังค่ะคุณแม่ใครออกแบบคะเนี่ย พี่โอ๊ตหรือคะ" ลาพิสถาม
"เปล่าจ๊ะ อันนี้น้ำเหนือเป็นคนออกแบบไม่ใช่พี่โอ๊ต"
คำตอบของคุณหญิงมรกตทำให้ลาพิสเอียงคอมองอย่างงงๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่แต่ก็มีโอกาสได้เข้าไปศึกษางานในบริษัทของครอบครัวรวมไปถึงร้านของคุณหญิงมรกตด้วยเธอจึงรู้จักทุกคนแต่คนที่ชื่อน้ำเหนือ เธอไม่รู้จักแล้วก็ไม่คุ้นเลยสักนิด
"เป็นพนักงานใหม่ของสาขาใหญ่ เพิ่งจะเข้ามาทำงานแต่ก็เก่งมากคุณหญิงอรพรรณนะชอบเครื่องประดับที่น้ำเหนือออกแบบมากเลย มาชมให้แม่ฟังตั้งเยอะ เก่งก็เก่ง น่ารักก็น่ารัก"
ลาพิสอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเพราะมีไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้ยินแม่เอ่ยชมใครแบบนี้ "ผู้หญิงหรือคะ"
"เปล่าค่ะ ผู้ชายเป็นรุ่นน้องของพี่โอ๊ตนั่นแหละ"
"ดูคุณจะชอบเด็กคนนี้มากเลยนะ ผมยังไม่มีโอกาสได้เจอเลย ควอตซ์ละได้เจอเด็กคนนี้บ้างไหม" คนเป็นพ่อพูดก่อนจะหันมาถามลูกชายที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ
"ครับ" ควอตซ์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อคนเป็นพ่อหันมาถาม พลางนึกไปถึงน้ำเหนือ "ได้เจอครับ...เป็นคนเก่งอย่างที่คุณแม่พูดนั่นแหละครับ"
"แหม... คุณแม่ชอบขนาดนี้คงจะเก่งแล้วก็น่ารักจริงๆ นะคะเนี่ย สนใจอยากได้พี่เขามาเป็นลูกเขยไหมคะคุณแม่" ลาพิสร้องถามพร้อมกับหัวเราะคิกเมื่อคนเป็นแม่หันมามองค้อน
"ไม่ละค่ะ แม่สงสารน้ำเหนือ"
ลาพิสได้แต่โอดครวญกับคำพูดของแม่ "ทำไมแบบนั้นละคะคุณแม่"
"ก็น้ำเหนือน่ารักนะสิ น่ารักกว่าลูกสาวแม่อีกนะ"
คนเป็นลูกสาวทำหน้างอแบบไม่ได้จริงจังนักเพราะรู้ดีว่าคุณหญิงมรกตแค่แกล้งแซวเล่นเท่านั้น "ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ก็ไปรับพี่น้ำเหนือมาเป็นลูกสาวเลยสิคะ หรือจะยกให้พี่ควอตซ์ดีคะ"
คนที่นั่งฟังนิ่งๆ ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาวแบบที่คนเป็นแม่ก็หันมาเห็นอาการแปลกๆ นั้นพอดี "น้องลาพิสก็รู้ว่าพี่ควอตซ์ของเราน่ะร้ายขนาดไหน เจ้าชู้ขนาดไหนไม่เอาหรอกค่ะ สงสารน้ำเหนือ"
ลาพิสกับคุณโทมัสหัวเราะกับคำพูดนั้นของคุณหญิงมรกตต่างจากอีกคนที่นั่งเงียบรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลังทำให้ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
"เป็นอะไรหรือเปล่าตาควอตซ์" คนเป็นพ่อถามเมื่อเห็นลูกชายของตนดูเงียบๆ ไป
ควอตซ์ส่ายหน้าก่อนจะยิ้ม "เปล่าครับ อย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับใกล้จะได้เวลานัดกับพวกเพื่อนๆ แล้ว" ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป
ร่างสูงเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวออกไปข้างนอก จริงๆ แล้ววันนี้เขาไม่ได้มีนัดกับเพื่อนๆ แต่พออ้างไปแล้วว่าจะออกไปหาเพื่อนถ้าหากเขาไม่ออกจากบ้านทุกคนก็คงสงสัยกันไปหมดเพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่บอกว่าเพื่อนนัดแล้วเขาจะไม่ออกไปหา หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็คว้าเอากุญแจรถมาถือหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ใส่ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินลงจากห้องตรงไปยังโรงจอดรถของบ้าน
ควอตซ์เดินไปขึ้นรถเบนซ์สปอร์ตสีขาวของตัวเองก่อนจะขับออกจากบ้านไป ในเมื่อไหนๆ ก็ออกจากบ้านมาแล้วเขาก็ขับรถตรงไปยังร้านประจำที่ชอบไป ร้านที่เขาได้เจอกับลูกกวางน้อยน้ำเหนือ...
"เหมือนเดิม" คำสั้นๆ ที่พูดกับบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มให้คนเป็นบาร์เทนเดอร์พยักหน้ารับแล้วเริ่มชงเครื่องดื่มประจำให้กับชายหนุ่ม
มือหนาเอื้อมไปจับแก้วที่มีน้ำสีอำพันอยู่ภายในแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดก่อนที่คำพูดเดิมจะหลุดออกจากปากมาอีกรอบ ร่างสูงสมส่วนถอนหายใจออกมาเบาๆ พยายามทำความเข้าใจกับความรู้สึกภายในใจของตัวเอง
วันนี้ทั้งวันเขาไม่มีสมาธิเลย ไม่มีเลยตั้งแต่เจอน้ำเหนือกลับไปทำงานก็ทำอะไรแทบไม่ได้จนตัวเขาเองยังนึกแปลกใจ ทั้งๆ ที่ไม่เจอหน้ามาก็สักพัก ทั้งๆ ที่คิดว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิมน้ำเหนือคือคนที่เขาเคยนอนด้วย ก็แค่ทำตัวเหมือนปกติเวลาเจอคู่นอนเก่าๆ ที่เลิกรากันไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่งานก็กองอยู่ท่วมโต๊ะแต่ทุกครั้งที่รู้ว่าแม่จะเข้าร้านสาขาใหญ่ก็มักจะเป็นคนอาสาขับรถพาไปเอง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร หรือหวังอะไรอยู่กันแน่
แค่เข้าไปตรวจงาน ไม่ได้ต้องการจะเจอใครสักหน่อย
ก็บอกกับตัวเองแบบนั้นเสมอ แต่ทำไมวันนี้พอรู้ว่าใครอีกคนมาทำงานชั่วหนึ่งก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนั้นอย่างรู้ดีว่าเด็กคนนั้นจะอยู่ในนั้นแน่นอน
ในตอนนั้นเขาเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก คนที่เคยเป็นฝ่ายไล่ต้อนใครต่อใครกลับทำอะไรไม่ถูกเมื่อเด็กคนนั้นเปลี่ยนไป ไม่ร้อนรนเวลาเห็นหน้าเขา แต่กลับนิ่งสงบจนควอตซ์ทำตัวไม่ถูก
"บ้าชิบ! แล้วจะนึกถึงเด็กคนนั้นทำไม" คนที่ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจความรู้สึก ความคิดของตัวเองสถบออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะตั้งแต่มานั่งที่นี่ในหัวก็เอาแต่คิดถึงน้ำเหนือไม่หยุด
แก้วเปล่าหลายแก้ววางเรียงกันอยู่หน้าชายหนุ่มบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาดื่มไปไม่น้อยแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเมาอะไรนัก ร่างสูงหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้กับบาร์เทนเดอร์แล้วเดินออกไปนอกร้าน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าร้านเพื่อไล่ความมึนเล็กๆ ออกไปให้หมด
"สวัสดีครับ" เสียงนุ่มๆ ที่ดังอยู่ด้านหน้าทำให้ควอตซ์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าคมคายที่มีเชื้อชาติฝั่งตะวันตกมองคนตรงหน้านิ่ง ชายหนุ่มที่เรียกว่า... หน้าตาสะสวยยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับรอยยิ้ม รูปร่างที่ไม่เหมือนกับผู้ชายแต่ก็มีเสน่ห์น่ามองในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางที่ปลดกระดุมจนเห็นแผ่นอกขาวๆ ไหนจะกางเกงรัดรูปอวดเรือนร่างนั่นอีก
"ขอนั่งด้วยคนนะครับ" ไม่ต้องรอให้ควอตซ์เอ่ยปากอนุญาตคนตรงหน้าก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แบบที่ชิดจนแทบจะขึ้นมาเกยตัก "ไม่เข้าไปข้างในหรือครับ หรือว่ารอใครอยู่"
"เปล่า ผมกำลังจะกลับ" ควอตซ์ตอบ เขาไม่ได้ขยับหนีเพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร
"ผมมาคนเดียว คุณช่วยไปส่งผมที่ห้องหน่อยได้ไหมครับ" หนุ่มแปลกหน้ายื่นหน้ามากระซิบข้างหูพร้อมกับมือที่วางแหมะลงบนหน้าขาของควอตซ์พร้อมกับขยับลูบไปมา
ควอตซ์ยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่เขาชอบยิ้มเวลาที่มีคนแบบนี้เข้ามาหา ช่วงหนึ่งในความคิดเขาอดรู้สึกเสียดายใบหน้าสวยๆ หุ่นดีๆ แบบนี้ไม่ได้ที่มาทำงานหาเงินแบบนี้
แต่คนอย่างอชิตพล เมื่อมีคนเสนอ เขาก็พร้อมสนองเสมอ"ผมต้องเสียค่าน้ำมันเท่าไหร่ละ" ควอตซ์เลิกคิ้วมองคนตรงหน้า
"วันนี้ผมไม่ได้ทำงานครับ แค่อยากหาคนไปส่งที่ห้องเฉยๆ เท่านั้นเอง"
ควอตซ์ก้มหน้าลงนิดพร้อมกับหัวเราะ คนบางคนก็ง่ายเหลือเกินเดินเข้ามาหาถึงที่ ต่างจากใครอีกคนที่ทำเป็นปากเก่งแต่พอถึงเวลาก็กลัวจนตัวสั่น คนที่สั่นไม่หยุดเมื่อโดนเขากักเอาไว้ในอ้อมกอด
กึก!
ชายหนุ่มชะงักเมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอนึกถึงน้ำเหนืออีกจนได้ เขาส่ายหน้าไล่ความคิดนั้นออกไปก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายที่เสนอตัวมาให้อีกรอบก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงเรียบๆ "รถผมจอดอยู่ตรงนั้น มาสิเดี๋ยวจะขับรถไปส่ง"
รถคันสวยของควอตซ์เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมหรูแทนที่จะเป็นหอพัก คอนโดหรือบ้านของคนที่ขอให้ไปส่ง พนักงานของโรงแรมรีบเปิดประตูต้อนรับเป็นอย่างดีเพราะเขามาใช้บริการค้างคืนที่โรงแรมนี้บ่อยๆ จนผู้จัดการโรงแรมแทบจะยกห้องให้เขาแล้ว พนักงานอีกคนเดินเอากุญแจห้องมาให้แบบไม่ต้องเดินเข้าไปติดต่อ
"ขอบคุณ" ควอตซ์พูดพร้อมกับรับกุญแจห้องมา พลิกดูชั้นและหมายเลขห้องก่อนจะเดินนำไปที่ลิฟต์
"ดูคุณ... เหมือนคุณจะมาบ่อย" คนที่เดินตามมาร้องทัก
"ก็บ่อย เพราะผมไม่พาใครกลับไปบ้าน" ควอตซ์พูดออกมาตรงๆ โดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้หน้าเสียไปแต่อย่างไร
ควอตซ์ไม่เคยพาคู่นอนไปที่บ้านสักคน แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องมาเสียเงินเปิดห้องราคาแพงไม่พาไปที่คอนโดส่วนตัวก็คงต้องบอกว่า... เขาไม่มีคอนโด ตั้งแต่สมัยเรียนแม้คนเป็นพ่อจะเอ่ยปากบอกจะซื้อคอนโดให้อยู่แต่เขาก็ปฏิเสธ ควอตซ์เลือกที่จะขับรถไปกลับบ้านมหาวิทยาลัยมากกว่าเลือกจะนอนคอนโดใกล้ๆ
"ไปอาบน้ำสิ" ควอตซ์พูดกับคนที่เดินตามเข้ามาในห้องพักของโรงแรมให้อีกคนยิ้มรับเดินไปหยุดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดคลุมอาบน้ำออกมา ร่างบางจัดการถอดชุดที่ตัวเองสวมอยู่ตรงนั้นโดยมีควอตซ์นั่งไขว้ห้างอยู่ที่ปลายเตียงมอง
"รอแปบนึงนะครับ"
คนที่นั่งอยู่ปลายเตียงยกยิ้มเย็นกับคำพูดนั้นก่อนจะพยักหน้ารับแบบไม่ใส่ใจนัก พออีกฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วคนที่นั่งอยู่คนเดียวก็อดนึกถึงเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เมื่อหลายเดือนก่อนไม่ได้
ร่างสั่นๆ สีหน้าหวาดหวั่นของคนปากดีที่บอกจะมานอนกับเขา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ทำหน้าตาเลิกลั่กแสดงออกมาชัดเจนว่าจะหาโอกาสชิ่งหนี ต่างจากคราวนี้ที่คนที่ตามเขามาด้วยแทบอยากจะขึ้นกับเตียงกับเขาทันที ดูก็รู้ว่าเจนจัดมากแค่ไหน...
ควอตซ์เดินสวนเข้าไปในห้องน้ำเมื่อคนที่ใช้ห้องน้ำอยู่เดินออกมา ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ก็เดินออกมา หากเป็นตอนมากับน้ำเหนือถ้าเขาเข้าไปอาบน้ำออกมาคงจะไม่เจอเด็กคนนั้นในห้องนี้แน่นอน แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะคนที่มาด้วยขึ้นไปนอนรอเขาอยู่บนเตียงเรียบร้อย ชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่แบบลวกๆ นั้นแหวกออกจนเห็นเรียวขาขาวและหน้าอกขาวๆ
ควอตซ์ขยับตัวขึ้นไปบนเตียงทาบทับคนที่เปิดทางให้ทันทีก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากลงที่ริมฝีปากสีสวยของอีกคน สัมผัสของทั้งคู่เริ่มรุนแรงและเร้าร้อนขึ้นตามอารมณ์และประสบการณ์ที่โชกโชน
ถ้าหากน้ำเหนือเป็นเด็กอ่อนหัด คนๆ นี้ก็คงเป็นผู้เชี่ยวชาญกี่ครั้งแล้วก็นับไม่ถูกที่ควอตซ์เผลอเปรียบเทียบคู่นอนของตัวเองกับน้ำเหนือแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่ทันรู้ตัว
ปากของทั้งคู่ดูดดุนซึ่งกันและกันแต่เพียงไม่นานก็ผละออกก่อนที่ควอตซ์จะหันไปสนใจส่วนอื่นๆ ของร่างกายของคนใต้ร่างต่อแทน
ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปอย่างที่มันควรจะเป็น ต่างฝ่ายต่างสัมผัสกันมากขึ้นตามอารมณ์ที่ค่อยๆ คุกรุ่น
มือหนาเริ่มขยับไปทั่วกายของใครอีกคน ผิวเรียบเนียนแต่ทว่าก็ไม่นุ่มนิ่มน่าสัมผัสเท่าน้ำเหนือ
ร่างกายที่หยัดหาอย่างตอบสนองแตกต่างจากร่างที่สั่นและหาทางหนีของน้ำเหนือ
เสียงครางกระเส่าที่จงใจเหมือนจะเปล่งออกมากระตุ้นอารมณ์แตกต่างจากเสียงครางที่พยายามปิดกลั้นของน้ำเหนือแต่ทว่าแบบนั้นก็เร้าอารมณ์ชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความต้องการแตกต่างจากดวงตาของลูกกวางน้อยที่สั่นระริกอย่างคนหวาดกลัวของน้ำเหนือ
"คุณควอตซ์... อื้มม... เข้ามาเถอะครับ ผม อ่าห์... จะไม่ไหวแล้ว" เสียงกระเส่าที่ดังอ้อนวอนทำเอาคนที่เผลอนึกเปรียบเทียบอยู่ในใจชะงักก้มมองคนที่นอนทอดกาย ยกขาแยกชันให้อย่างไม่อาย
ถ้าหากเป็นน้ำเหนือ... คำพูดแบบนี้คงไม่มีทางหลุดออกจากกลีบปากสวยนั้นแน่ๆ
"คุณควอตซ์ครับ..." เสียงเร่งยังดังตามมาอีกรอบ
‘พ... พี่ควอตซ์’ เสียงของใครอีกคนดังขึ้นมา ใบหน้าน่ารักที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาส่งสายตาอ้อนวอนเหมือนจะขอให้หยุดแต่ดูแล้วก็ยิ่งน่ารังแก
ควอตซ์หลับตาขบกรามแน่นเมื่อทุกๆ อย่างในหัวมีแต่น้ำเหนือเต็มไปหมด ร่างหยุดดันกายถอยออกไปยืนอยู่ข้างเตียงคว้าเอาชุดคลุมอาบน้ำมาสวมเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาก่อนจะหยิบแบงค์สีเทาออกมาจำนวนหนึ่งแล้วยื่นให้คนที่นอนอยู่บนเตียง "ขอโทษที คุณกลับไปเถอะ"
ใบหน้าสวยนั้นบูดบึ้งทันทีมือเอื้อมไปคว้าเงินจำนวนนั้นมาถือก่อนจะลุกไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
คนที่เหลืออยู่ในห้องคนเดียวทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหงุดหงิดในใจไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทุกอย่างได้เป็นแบบนี้ไปได้
"บ้าเอ๊ย!! เป็นบ้าอะไรวะไอ้ควอตซ์ ของดีมาอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ กลับปล่อยไปได้" ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองจนยุ่งไปหมด
ทำไมถึงลบภาพตอนที่กอดน้ำเหนือออกไปไม่ได้!!
"ก็คงแค่ติดใจ เด็กนั่นไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเราไม่ค่อยได้เจอแบบนี้ก็แค่ติดใจเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก!" ปากบอกกับตัวเองแบบนั้นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เลยว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแฝงอยู่
TBC************************************************
มาแล้วค่า รอนานไหมมม ไม่นานหรอกเนอะคราวนี้มาไวกว่าทุกที พี่พระเอกของเราก็ยังไม่รู้เรื่องค่ะยังไม่ถึงเวลาที่จะรู้แต่ใกล้แล้วค่ะ ใกล้จะรู้แล้ว ส่วนน้องเหนือ... น้องไม่เป็นอะไรจ้า ของเขากังวลอะเนอะ แบบตัวเองเป็นผู้ชายด้วยความรู้เรื่องพวกนี้คือไม่มีเลย น้องก็เลยค่อนข้างจะกังวลไปหมด ส่วนของตอนไปหาหมอได้คำแนะนำจากหมอตรงนี้ผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยนะจ๊ะ ฟางไม่เคยท้อง ฮา อาศัยจากคำบอกเล่าของพี่ที่ได้คุยกันแล้วก็อ่านจากในเน็ตแล้วก็มายำแต่งออกมา
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)