ใจร้าว
ตอนที่ 7 ใครอีกคน
"อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก"
เสียงหวานปนแหบของคนตรงหน้าเอ่ยไล่เขาอย่างจริงจัง แววตาบวมช้ำผ่านการ้องให้มาอย่างหนักหน่วง สายตาคู่นั้นมันยังคงติดตาเขา แววตาที่แสดงถึงความผิดหวังและเสียใจ ฟ้าครามถอนหายใจอย่างรุนแรงในห้องทำงานของตน หลังจากที่มังกรปิดประตูใส่หน้าเขา เสียงสะอื้นยังคงค้างอยู่ในหู ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหลืออะไรสักอย่าง มันเคว้งคว้างไปหมด จากคนที่เคยมีที่พึ่ง มีหมอหนุ่มเคยเคียงข้าง คอยปลอบโยนและดูแลเขามาตลอด
ฟ้าครามพึ่งจะรู้ซึ้งในวันนี้ ในวันที่เขาไม่เหลือใคร ให้ได้พักพิง และ กุมมือ
ฟ้าครามพยายามโทรหาหมอหนุ่มด้วยใจคิดถึง และสำนึกผิด เสียงสัญญาณบอกว่าคนๆปิดเครื่องหนี มังกรไม่มาหา ไม่โทรหา และไม่ติดต่อมาเลย แม้ว่าเขาพยายามที่จะไปเจอหรือเขาหา มังกร หลบเลี่ยงเขาตลอด ไม่ว่าจะทำยังไงมังกรก็ไม่ยอมเจอเขาเลยสักครั้ง
ก็สมควรจะให้โกรธ แต่ขอร้องอย่าเกลียดเขา เพราะเขาตอนนี้ไม่เหลือใครให้ได้พึ่งทางใจอีก
"กูจะต้องทำยังไงวะกรถึงจะได้มึงกลับมา"...
++
++
++
หมอหนุ่มที่เดินมาพร้อมกับพยาบาลคู่ใจ ดวงหน้หล่อติดหวานนิดๆเดินตรวจคนไข้ตามปรกติของตน เสียงทักทายดังมาตลอดทาง เพราะหมอหนุ่มใจดีกับทุกคน อีกทั้งมีกริยามารยาทที่อ่อนน้อม พูดหวานหู แถมเก่งอย่างเหลือเชื่อ มังกรเป็นศัลยแพทย์ด้านสมองมือหนึ่งของทางโรงพยาบลาล อาจจะเก่งกว่า ผอ.พ่อของตนก็เป็นได้ ใบห้นาสวยยิ้มแย้มตลอดทางใช้เขายิ้มและทักทายคนไข้ของเขา แต่แววตากลับซ่อนความเศร้าหมองเอาไว้ได้อย่างมิดชิด แก้วตาเองก็รู้ดีว่าร่างโปร่งคิดยังไง
"ไอ้หมอ วันนี้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ พ่อแม่ไม่อยู่วะ" เสียงเจื้อยแจ้วของคนข้างกายเอ่ยชวนหวังว่าเพื่อนรักจะคลายความเครียดลงไปได้บ้าง เพราะเวลาเครียดๆทั้งเธอและมังกรมักจะหาของอร่อยๆกิน
"ไปดิ กินที่ไหนอะ" ร่างโปร่งตอบตกลงในทันที
"อยากกินอาหารทะเลอะ"
"ไปแถบบางขุนเทียนมะ กูรู้จักอยู่หลายร้าน" กรบอกพลางตรวจเอกสารก่อนจะเงยขึ้นไปสบตากับเพื่อนสาว
"อืมม เอางั้นก็ได้ แกเลิกงานกี่โมงอะ"
"หกโมง"
"เลิกพร้อมกันงั้น เลิกงานไปเลยนะ" หมอหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะแยกย้ายไป มังกรเดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง และนั่งศึกษาถึงอาการของคนไข้ที่ต้องผ่าตัดในอาทิตย์หน้ามันยากพอดู เขาพยายามหาวิธีที่เป็นอันตรายน้อยที่สุดสำหรับคนไข้รายนี้ เพราะ ผู้ป่วยอายุมากแล้ว มังกร บล็อกทุกอย่างของฟ้าครามออกจากชีวิต ทั้งไลน์ เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม เบอร์โทรศัพท์ และเก็บของทุกอย่างที่ฟ้าครามเป็นคนให้ รวมถึงนาฬากาที่เขาใส่ทุกวัน แม้จะทำใจได้ยาก เขาก็ต้องทำ เพราะไม่อย่างนั้น เขาก็จะลืมฟ้าครามไม่ได้สักที เวลาล่วงผ่านไป จนถึงเวลาออกเวร แก้วตาเดินมาที่ห้องทำงานพร้อมกับเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ในท่าทีสบายๆ ตามแบบของเธอ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาดๆ ส่วนมังกร แค่ถอดเสื้อกราวสีขาวออก ก็พอแล้วทั้งสองพากันเดินมาที่รถ..และมุ่งตรงสู่จุดหมายทันที สองเพื่อนซี้ไม่ทันสังเกตุวามีรถคนหนึ่งขับตามแบบห่างๆ ใช้เวลาไม่นาน เขาก็มาจอดที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่กลางบ่อน้ำได้บรรยากาศ.... เขาเลือกที่นั่งที่ติดระเบียงน้ำเพื่อที่จะได้มองเห็นวิวสวยๆ
สายลมเย็นโกรกพัดผมที่เกือบจะยาวปลิวน้อยๆ แก้วตาก้มลงมองเมนูในมือ
"กุ้งเผา ปูนึ่ง ปลาหมึ่งนึ่งมะนาว ปลากระพงทอดน้ำปลา"เสียงหวานสั่งพร้อมกับส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
"แกอะกินไร"แก้วตาถามเมื่อเห็นชายหนุ่มนิ่งเงียบ มังกรสะดุดกับหลายๆเมนูเพราะมีแต่ของที่ฟ้าครามชอบ
"ไก่ผัดเม็ดมะม่วง แกงส้มชะอมไข่ปลาเรียวเซียว ข้าวปล่าว แล้วก็น้ำเปล่าครับ" เขาตัดสินใจสั่งอาหารออกไป
แกงส้มครามมันชอบ ผมก็ชอบเหมือนกัน อันทีจริงร่างโปร่งชอบกินทุ่กอย่างที่ฟ้าครามกิน
ตรงโต๊ะมุมสุด ร่างสูงนั่งมองคนสั่งอาหารหน้านิ่งๆ แค่ได้ยินว่าอีกคนสั่งอะไร เขาก็ยกยิ้ม รู้สึกดีใจแปลกๆ
พอมาที่ตัวเอง เขาก็สั่งแบบเดียวที่ร่างโปร่งสั่ง พนักงานยิ้มรับก่อนจะเดินไปกรี๊ดไป วันนี้ท่าทางจะโชคดี มีคนหล่อๆมากินที่ร้านตั้งหลายคน.....
ระหว่างรออาหารมังกรเกิดปวดเบาขึ้นมา
"แก้วเดี๋ยวกูไปห้องน้ำก่อน มึงนั่งรอนี่นะ" แก้วตาพยักหน้า ก่อนจะเสมองไปรอบๆบริเวณด้วยความถูกใจ
ร่างโปรงเดินมาที่ห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งของร้าน แต่พอมาถึงห้อน้ำดันเต็ม เขาจึงต้องยืนรอ และเมื่อมีคนออกมา ร่างโปร่งก็เดินสวน เข้าไปทันที
ปึก
อ๊ะ ร่างโปรงเซถอยหลังเพราะไม่ทันระวังคนที่เดินสวนออกมาอีกคน ดีที่เขาดึงไว้ จึงไม่หงายหลัง เพียงแค่สบตากับ คนที่เดินชนเขา มีใบหน้าหล่อคมและท่าทางจะอายุมากกว่าเขาอยู่ไม่น้อย..
"ขอโทษครับ" หมอหนุ่มเอ่ยออกไปพร้อมกับส่งยิ้ม ทั้งทั้งที่อีกคนยังไม่ปล่อยมือจากต้นแขนบาง
"ไม่เป็นไรครับ" เพียงแค่สบตาใจก็เต้นแรง ....ชายหนุ่มมองหน้าหมอหนุ่มนิ่งๆ
"ขอบคุณครับ คือปล่อยผมก่อนได้ไหมครับ ผมจะเข้าห้องน้ำ" ร่างบางพูดพร้อมกับค่อยๆแกะมือชายหนุ่มอีกคนออก..
"อ่อ โทษที" เขาปล่อยมือออกจากแขนของมังกร มังกรก้มหัวให้นิดแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
"ผู้ชายอะไร น่ารักชะมัด" ชายหนุ่มยังไม่ลืมสัมผัสที่มือ เขายังรู้สึกนุ่มนิ่มติดค้างที่มือทั้งสองก่อนจะยิ้มออกมา
ฟ้าครามที่เห็นเหตการณ์ก็รู้สึกแปลกๆ และไม่อยากจะคิดว่าตัวเองรู้สึกไม่พอใจ...ที่มีใครมาแตะตัวเพื่อนรักของตัวเอง เหมือนโดนแย่งของ...
หลังจากที่ออกจาห้องน้ำ มังกรล้างมืออยู่ที่อ่างน้ำหน้ากระจก พลันสายตาก็สบเข้ากับสายคาคมที่แสนคุ้นเคย
"ฟ้าคราม" ร่างบางเบิกตาขึ้นเล็กน้อย มังกรดูจะตื่นๆ แถมใจยังเต้นแรง ที่เห็นแววตาดุจ้องเขาเขม็ง
"หึ" ครามส่งเสียงในลำคอ แต่ไม่พูดอะไรออกมา จนมังกรรู้สึกถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมา เมื่อร่างสูงเดินเขามาประชิดเขา แววตาที่จ้องมองเขานั้นมันแสดงออกมาชัดเจนว่าโกรธ เป็นเขาสิที่สมควรจะโกรธ ร่างโปร่งเดินหนีทันที
"จะหนีไปไหน" เสียงดังลอดไรฟัน กำลังบังคับให้ขายาวๆของหมอหนุ่มก้าวไม่ออก
"อย่ามายุ่งกับกูนะคราม กูบอกมึงว่าอะไร" เสียงหวานสั่นครือและไม่ยอมสบตา
"หึ...กูไม่สนหรอกกร ว่ามึงจะพูดว่ายังไง แต่มึงอย่าทำแบบนี้กับกูอีก อย่าได้คิดตัดกูออกจากชีวิตมึง.. มึงบอกว่ากูกับมึงไม่ใช่เพื่อนกันอีก ต่อจากนี้กูก็จะไม่คิดว่ามึงเป็นเพื่อนอีก.." น้ำเสียงมันไม่ได้แสดงถึงการขอร้องหรืออ้อนวอนเลยสักนิด เพราะเสียงมันกดต่ำจนดูหน้ากลัว มันเป็นการบังคับให้อีกคนทำตาม ตอนแรกก็อยากจะมาคุยดีๆ แต่พอเห็นภาพเมื่อครู่มันก็รู้สึกหงุดหงิด ที่เห็นว่ามันยิ้มให้กับใครก็ไม่รู้แต่กับเขามันเอาแต่ถอยห่างและด่าทอ ทั้งๆที่เขาพยายามจะมาขอโทษแท้ๆ
."เพราะอะไรมึงคงรู้อยู่แก่ใจ" ร่างบางกลืนน้ำลายเหนียว เมื่อใบหน้าหล่อเขยิบมาจนเกือบจะชิด จนตัวเขาแทบจะขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างมือ ฟ้าครามรู้สึกโกรธที่โดนร่างบางตัดเยื้อใย
"อะ...แฮ่ม มีอะไรกันรึเปล่าครับ" เสียงกระแอมเบาๆเรียกสติให้ทั้งหันไปมอง ชายหนุ่มที่เดินชนเขาเมื่อกี้เดินมาเข้าห้องน้ำอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนจะมาได้จังหวะพอดี มังกรรีบผลักอกแกร่งให้ถอยห่างและเดินออกจากห้องน้ำทันที ฟ้าครามก้าวยาวตาม และดึงแขนมังกรไว้
"จะไปไหน ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย" ฟ้าครามบอกเสียงเรียบ กรสะบัดมืออก
"กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึง" เขาตั้งใจจะเดินหนีอีกแต่ฟ้าครามรั้งไว้อีก ครั้งนี้กรเองก็ไม่ยอมเช่นกันเขาพยายามดึงมือออก
"ปล่อย"
"ไม่ จนกว่ามึงกับกูจะคุยกันเสร็จ"
"กูไม่คุย ไอ้คราม ออกไปจากชีวิตกู ไป" ครั้งนี้เขาตวาดลั่น จนมีหลายคนที่เดินผ่านหันมามอง รวมถึงใครอีกคนที่เดินตามมาและยังไม่กล้าเข้าไปยุ่ง จนเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากร่างบางตรงหน้า
"ปล่อยน้องเขาเถอะคุณ" เสียงนุ่มเอ่อยออกมาพร้อมกับเดินไปดึงคนตัวเล็กกว่าให้ออกห่าง
"อย่ามาเสือก"ฟ้าครามบอกเสียงกร้าว พร้อมกับสายตาไม่พอใจ
"ไม่ได้เสือกครับ แต่เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนที่กำลังโดนรังแก ผมว่าคุณกลับไปสงบจิตสงบใจให้ดีก่อนค่อยมาคุยกับเขาดีไหม หรือเราจะไปคุยกันที่โรงพักก็ได้นะ ตอนนี้ผมว่าง ผมพาไปเองก็ได้"
ชายคนดังกล่าวเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยแถมยักคิ้วใส่ ฟ้าครามกำหมัดแน่น อย่างชั่งใจ เขาไม่อยากมีปัญหา ในตอนนี้ มังกรไม่มองหน้าเขาสักนิด เอาแต่ก้มหน้าหลบอยู่หลังของอีกคน
"มึงได้เจอกูอีกแน่มังกร" ฟ้าครามคาดโทษไว้ ก่อนจะเดินปั้นปึงกลับไปที่โต๊ะตัวเอง และสั่งให้พนักงานห่ออาหารทั้งหมดกลับบ้าน
"เป็นอะไรไหมครับ" เสียงอ่อนโยนถามคนตัวเล็กที่ยืนน้ำตาไหล นิ่งๆ
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ" ร่างเล็กขอบคุณจากใจที่มาช่วยเขา
"อืม...แล้วมากับใครละให้พี่ไปส่งมั๊ย"
"ผมมากับเพื่อนครับ ขอบคุณนะครับ..เอ่อ พี่" ร่างโปร่งเอ่ยด้วยความเกรงใจ
"พายุ พี่ชื่อพายุ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง
"ผมชื่อมังกรครับ เรียกกรก็ได้"
"ครับ พี่ต้องไปแล้ว แม่พี่โทรตามแล้วอะ" พายุยกโทรศัพท์ขึ้นกดรับสาย มังกรพยักหน้าแล้วยิ้มก่อนจะยกมือไหว้และเดินไปอีกทาง
"ไอ้หมอ ไปห้องน้ำที่ดูไบรึไง ไปนานแท้" พอมาถึงแก้วตาก็บ่นทันที ตอนนี้อาหารเริ่มทยอยมาเรื่อยๆ มังกรเริ่มที่จะสนใจอาหารตรงหน้า ทำให้ลืมเรื่องที่เกิดไปได้สักพัก ไม่นานทุกอย่างก็ถูกกวาดลงกระเพาะของทั้งคู่จนเกลี้ยง
"อร่อยเวอร์วะแก..ดูดิ" แก้วตาชี้ไปที่พุงยื่นๆนั้น เขาเองก็ไม่แพ้กัน แล้วต่างคนก็ต่างหัวเราะ ก่อนจะคุยสัพเพหระ อย่างครึดครื้น จนท้องเริ่มหายตึง จะพากัยเช็กบิลและกลับบ้านกัน มังกรไปส่ง แก้วตาที่บ้าน ก่อนจะขับรถกลับคอนโดตัวเอง
เมื่อเขาอยู่คนเดียว ภาพฟ้าครามก็ลอยเข้ามาในหัวทันที ร่างบางสะบัดหัวตัวเองเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิด
""หึ...กูไม่สนหรอกกร ว่ามึงจะพูดว่ายังไง แต่มึงอย่าทำแบบนี้กับกูอีก อย่าได้คิดตัดกูออกจากชีวิตมึง.. มึงบอกว่ากูกับมึงไม่ใช่เพื่อนกันอีก ต่อจากนี้กูก็จะไม่คิดว่ามึงเป็นเพื่อนอีก.."
"มันหมายความว่าไงวะ"..ได้แค่คิดเพราะไม่ว่าจะยังไงเขาคงไม่กลับไปเจ็บแบบซ้ำอีกแน่นอน
ร่างโปรงบอกตัวเองไว้ว่าอย่างนั้น เมื่อทำใจและตั้งสติได้ เขาจึงถอดเสื้อผ้าออกแล้วเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียง มีผ้าผืนเล็กคลุมหัวไว้ ก่อนจะใช้มือขยี้ผมเช็ดให้ให้อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หมอหนุ่มที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ใบหน้าขาวใสไร้ริ้วรอย แถมมีกล้ามท้องน้อยๆพอเป็นพิธีเรียกเลือด มือบางยกขึ้นหยิบครีมบำรุงกลิ่นหอมมาทาจนทั่วตัว แล้วเดินไปหยิบบ็อกเซอร์ตัวเก่าๆมีรอยขาดที่ตูด ถามว่าทำไมไม่เปลี่ยน
ก็คนมันชอบผ้ามันนิ่มและใส่สบาย ใส่จนเปื่อยและขาด ก็ไม่ทิ้ง.... ร่างโปร่งเดินไปไปปิดไฟ และสำรวจความเรียบร้อยก่อนจะล้มตัวลงนอน โดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูด้านในด้วยโซ่คล้อง ซึ่งปรกติไม่เคยทำ แต่เหตุการณ์ในวันนี้มันทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น และพรุ่งนี้เขาจะให้ช่างมาติดระบบกุญแจแบบใหม่ที่ต้องกดรหัสเอา หรือจะเอาสแกนนิ้วดี เจ้าตัวนอนคิดเกือบทั้งคืน จนเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที่ก็เกือบไปทำงานสาย ร่างโปร่งกุลีกุจออาบน้ำล้างหน้าแปลงฟัน เช้านี้ไม่มีเวลาแม้กระทั่งเอานมกับขนมปังยัดปาก..ขาวยาวก้าวเร้วลงมาที่รถก่อนจะเหยีบคันเร่งซะมิด....
"ไอ้หมออ มาสายนะมึง" แก้วตารีบเดินมาหา พร้อมกับสีหน้าตื่นๆ ก่อนจะลากแขนหมอหนุ่มให้เดินตาม
"จะลากไปไหน มีอะไรวะ" กรขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นท่าทีลับๆล่อของเพื่อนสาวคนสนิท
"ว่าที่ผัวมึงมา" มังกรใจกระตุก
"มึงว่าอะไรนะ"
"ชูวว เบาสิมึง กูบอกไอ้ครามไปว่ามึงไม่มา เข้าเวรดึก" แก้วตาเอ็ดใส่พร้อมกับบอกพลางแอบมองคนที่กำลังเดินมา
"หลบเร็วมึง" แก้วตากระชากแขนมังกรให้นั่งลงหลังรถเข็นอุปกรณ์ ร่างสูงใหญ่ของฟ้าครามเดินผ่านไป มังกรแอบมองดูเสี้ยวหน้าร่างสูงก็อดใจเต้นไม่น้อย ฟ้าครามมีเหตุผลอะไรถึงได้ตอแยเขา ทั้งๆที่เขาเองก็บอกชัดเจนว่าตัดสัมพันธุ์ไปแล้ว ใบหน้าหล่อคมดูอิดโรยและซูบซีดไปมาก
"แดกข้าวบ้างไหมนั่น" แม้จะพึมพำในใจ แต่แววตาที่มองบอกได้คำเดียว คือห่วงมาก
"อิกร อย่าได้มองมันแบบนั้น...ไม่เข็ดไงมึง" กรรีบปรับสีหน้าและเกาคอตัวเองก่อนจะค่อยวิ่งหลบเข้าห้องทำงานของตัวเอง
"เห้อออ ..มึงว่ามันจะมาตามตอแยทำไมวะ ทำคนอื่นเขาเจ็บแบบนั้น เป็นกูนะ จ้างคนไปกระทืบแล้ว" แก้วตาว่าอย่างเดือดดาน เธอเองก็รักเพื่อนและรู้สึกโมโหแทน มังกรได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับสาวตรงหน้า...
"ไม่รู้ดิ" ร่างโปร่งตอบ ก่อนจะหยิบเสื้อกราวน์สีขาวสะอาดตาตัวยาวเข้าสวมพร้อม สเตโทสโคป ใส่ไว้ที่คอเรียว พร้อมออกตรวจคนไข้ท่ำเป็นประจำตามหน้าที่ของตนช่วงนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ยุ่งมากเท่าไหร่ แต่นานๆทีจะมีมาซักครั้ง ชีวิตหมอนี่เนอะ ผมเคยกินนอนที่โรงพยาบาลเกือยอาทิตย์ได้กลับบ้านแค่ไปอาบน้ำแล้วก็กลับมาทำงาน เกิดเป็นหมอต้องอดทนครับ ผมเลยไม่ค่อยจะมีเวลาไปไหน มีแอบหนีบ้าง ตอนไอ้ครามมันโทรตาม ..แต่ทุกวันนี้ไม่แล้วครับ....
"หมอออออออออออออออออออออออ" เสียงทุ้มลากยาวมาแต่ใกล ของนายสุภจน์ นักเรียนแพทย์อินเทรนที่พ่อผมพึ่งจะรับเข้ามาเมื่อไม่นาน เดินตามผมลิ่วๆ
"ครับ ว่าไงครับหมอสุภจน์" ผมทักแล้วส่งยิ้มไปให้ แต่แก้วตา เบะปากใส่
"อ่า บอกให้เรียก ชิวไงครับ เรียกแบบนั้นมันดูไม่สนิทกันเลย" หมอชิวบอกพลางส่งยิ้มมาให้ รู้ว่าอยากจีบ แต่ก็นะ
"อ่าเรียกแบบนั้นนะดีแล้วครับ ผมไม่อยากสนิทด้วยจริงๆ"เสียงหวานพูดตัดทางของอีกฝ่ายแทบหงายหลัง แก้วตาเม้มปากกลั้นขำ จนชิวต้องส่งสายตาค้อนๆให้
"ทำไมละครับ..."
"ไม่มีเหตุผลครับ"ตอบเสร็จก็เดินหนี แต่ก็มิวายถูกเดินตามอยู่ดี
"ไม่มีงานทำหรอครับ ถึงได้ว่อนไปทั่วหวอด แบบนี้" ผมถามเสียงเขียว
"ก็ไม่ครับ" ชิวยิ้มหล่อใส่
"เหอะ เด็กอิเทรนคนอื่นเขางานเยอะนะครับ อย่าคิดว่า ตัวเองเป็นหลานของพ่อผมแล้วจะทำอะไรก็ได้ อยากเป็นหมอก็ต้องรู้จักหน้าที่ มีจรรยาบรรณแพท ย์ไปทำงานที่ควรทำเถอะนะครับ อย่าให้ผมต้องเขียนรายงานเรื่องคุณกับผอ.เลย" หมอหนุ่มผู้มีตำแหน่งสูงกว่า เอ็ดออกมาอย่างเหลืออด เขาไม่ชอบพวกตามตื้อ มันน่ารำคาญ ชิวหน้าเสียนิดๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา
"เวลาหมอกรโกรธแล้วน่ารักดีนะครับ เอาไว้ผมจะมาหาใหม่" พูดเสร็จก็เดินออกไป
ทิ้งให้หมอหนุ่มกรอกตาขึ้นฟ้าและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"คนอะไรน่ารำคาญชะมัด"
"เออกูก็ว่าอย่างนั้นแหละ หน้าด้านด้วย" แก้วสัมทับลงมาอีก ผมได้แต่หัวเราะเบาๆกับสีหน้า
ของเพื่อนสาว ที่เกลียดคนเจ้าชู้ขี้หลี เข้าใส้ ......
รู้สึกว่าวันวานมันจะผ่านไปเร็ว วันนี้ครบหนึ่งเดินพอดีที่ผมตัดขาดกับฟ้าคราม ถึงแม้ว่ามันจะคอยตามผมห่างๆ แต่ได้แก้วตา กับหมอชิว เข้ามาคอยขัด
ผมนอนแผ่ลงกับเตียงคนไข้ในห้องทำงาน เพราะอยู่เวรติดต่อกันมาได้สามวันสามคืนแล้วครับ บอกเลย ร่างเหมือนจะแตก พ่อบอกให้ไปพัก แต่ว่าผมกลับไม่ได้ คนไข้เยอะและดึกๆมักจะมีเคสผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาบ่อย แล้วหมอที่อยู่ประจำก็มีแต่พวกอิเทรนปี1กับสอง เท่านั้น ผมเลยต้องคอยดูแล จนกว่าหมอใหญ่จะกลับมาจากการศึกษาดูงานที่เกาหลี แค่หัวถึงหมอนโทรศัพท์ก็ดัง เรียกให้ผมไปแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินทันที
"หมอ ไปพักเหอะ เดี๋ยวที่เหลือผมดูเอง" ชิวบอกขณะที่ผมกำลังเย้บแผลของคนไข้ ผมพยักหน้าก่อนจะกลับมาที่ห้องของตัวเองอีกครั้ง และนั่งลงกับเก้าอี้ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน...
"เห้อออออ"
Rr Rr Rr
เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังอีกครั้ง
แม่
"ครับแม่..."
"ทำงานอยู่รึปล่าวกร" เสียงหวานของแม่ผมพูดออกมา
"ไม่ครับ แม่มีอะไรรึเปล่า" ผมหลือบมองนาฬิกา เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว ดึกขนาดนี้โทรมาต้องมีเรื่องแน่ๆ
"พรุ่งนี้มาหาแม่ที่บ้านใหญ่ทีสิคะ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"พรุ่งนี้หรอครับ อืมม ได้ครับ กี่โมงดี" ผมบอกตอบใสแอบสั่นๆ
"งั้นสักห้าโมงเย็นก็ได้ อย่าเบี้ยวแม่อีกนะคะคนดี ถ้าเบี้ยวคราวนี้ แม่จะสั่งปิดโรงพยาบาล" คำขู่ของแม่ทำเอาผมแทบหลุดขำ แต่ก็นะ เมียเจ้าของดรงพยาบาลสั่งปิดก็ต้องปิด ผมรับปาก
"รักแม่นะครับพรุ่งนี้เจอกัน" หลังจากวางสายผมก็เช็คตรรางเวรตัวเอง
พรุ่งนี้วันหยุดผมพอดีเลย แสดงว่าแม่เขาเช็กไว้แล้วสินะ มัดมือชกกันนี่เอง
เหลืออีกชั่วโมงผมก้จะออกเวรเช้า คือตีห้า...
"แก้วตา กลับบ้านเลยป่าววะ" พยาบาลสาวที่ดูจากสภาพก็ไม่ต่างจากเขา
"กลับดิ มึงอะไปส่งกูด้วย กูลากขาเดินไม่ไหวแล้ว" แก้วตาเดินมาเกาะแขนผมไว้
"เออ ไปกูไปส่ง อ่อพรุ่งนี้มึงก็หยุดตามตารางเลยนะ" แก้วตาพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่ง
ผมไปส่งแก้วตาแล้ว ก็กลับมาที่ห้อง กดรหัสเซฟล็อกแล้วเปิดประตูเข้าไป พอหัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตาย น้ำท่าไม่ได้อาบ นอนเน่าทั้งชุดกราวน์นั่นแหละ
กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงนาฬิกาปลุก ที่ตั้งไว้ให้ปลุกตอนบ่ายๆ ในโทรศัพท์กันลืมนัดของคุณแม่ เสียงดังจนผมสะดุ้งแทบตกเตียง ร่างโปร่งลุกขึ้นนั่งแบบมึนๆ ก่อนจะค่อยๆลุกไปอาบน้ำอาบ แช่น้ำอุ่น จนพอใจแล้วออกมาแต่งตัว ด้วยเสื้อยืดสีดำคอวีตัวกับกางเกงยีนส์สีขาวขาดตรงเข่า รองเท้าคอนเวรอสคู่เกงถูกสวมใส่ ผมเซตะรรมดาดูยุ่งนิดๆ แว่นสายตากรอบดำถูกนำมาใส่อีกครั้งหลังจากใส่คอนแทกมานาน...
รถยนต์คันงามแล่นเข้ามาจอดในรั่วบ้านหลังใหญ่อันแสนคุ้นเคย ป้าสุดใจรีบวิ่งมารับของในมือที่ผมซื้อมาฝากคนในบ้าน
"คุณหนู ป้าคิดถึงจังคะ วันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั๊ยคะ พอดีคุณนายเธอมีแขกมาที่บ้านะคะ" ผมมุ่นคิ้ว แขกเหรอ ใครกันนะ
"ตามใจป้าเลยครับ ไหนมาให้หมอกอดหน่อยหมอคิดถึงคนแก่จะแย่แล้วเนี้ย" ผมเอ่ยเสียงอ้อนก่อนจะสวมกอดแม่นมตัวเองแล้วหอมจนชื่นใจ
"คุณหนู เดี๋ยวคุณหญิงมาเห็นได้อิจฉาป้ากันพอดี ถ้าป้าโดนตัดเงินเดือนนะ ป้าจะโทษคุณหนูจริงๆด้วย" ป้าสุดใจว่าขำๆก่อนจะเดินเข้าครัวไป
ผมเดินตรงไปที่ห้องรับแขก เห็นแผ่นหลังเนียนนั่งอยู่ผม เลยย่องเข้าหา
หมับ
"อย่าขยับ ไม่งั้นผมจะหอมนะ" ผมกอดแน่นทางด้านหลังของแม่แล้วกดจมูกหอมลงบนแก้มนวลที่ไร้เครื่องสำอางค์ กลิ่นหอมอ่อนของสบุยังคงติดอยู่
"ตากร มาเงียบๆ ไหนมาให้แม่ดูสิ ผอมลงไปเยอะเลย นี่ทำงานจนไม่กลับบ้านกลับช่องเลยสิท่า" หญิงสาววัยสามสิบปลายๆสำรวจร่างกายของหมอหนุ่มพร้อมกับจับนู้นจับนี่แล้วบ่น คนใช้งานลูกชายสุดที่รัก
"โถ่ แม่ครับ หมอนะครับ แม่ก็รู้นี่"ผมแอบบ่น
"ไม่รู้ละแม่จะให่พ่อลดตารางงานเรา"
"งะ แม่ ไม่เอา เปลี่ยนเรื่องเลย วันนี้จะมีแขกมาหรอครับ" ผมเอาหัวพิงไหล่บางของแม่ไว้แล้วถาม
"จ๊ะ แขกคนสำคัญ" แม่พูดยิ้มๆ เล่นเอาผมขนลุกวาบ
"หืม สำคัญจนผมต้องให้ผมมาหาเลยหรอคับ" แม่พยักแล้วยิ้ม
"นี่ก็ใกล้จะมาแล้ว นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ" ผมหันไปตามสายของคนเป็นแม่
"สวัสดีค่ะพี่ พิมภ์" แม่ผมยืนขึ้นและยกมือไหว้ผู้หญิงอีกคนที่เดินเข้ามาหาเรา ทำให้ผมตกยกมือขึ้นตาม
"สวัสดีครับ" คุณพิมภ์มองผมแล้วหันไปสบตากับแม่ผมแล้วยิ้มอะไรกันสักอย่าง
"แล้วตายุละ" แม่ผมถามหาใครอีกคน
"กำลังยกของฝากลงจากหลังรถนะ อ่าวนั่นมาพอดี" ผมมองเลยไปด้านหลังของคุณหญิงพิมภ์
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังเดินถือของเขามา เขาสวยแว่นตาสีชาบดบังใบหน้าคมนั่นไว้
"สวัสดีครับคุณอารตา"ชายหนุ่มยกมือไหว้ ผมก็ยกมือไหว้เช่นกัน
"อ่อนี่ลูกชายอาเอง ชื่อ.."
"มังกร!!!"ยังไม่ทันจะตอบ เขาก็พูดชื่อขึ้นมาเสียก่อน ผมขมวดคิ้วยุ่ง แม่เองก็เช่นกัน จนเขาถอดแว่นออกนั่นแหละ ผมถึงกับอ้าปากค้าง
"พี่พายุ!!" ผมอุทานแล้วยิ้ม ไม่น่าเชื่อจริงๆที่จะได้เจอเขาที่นี่
"นี่เรารู้จักกันหรอ" คุณหญิงพิมภาถามงงๆมองสลับกันระหว่างลูกชายกับผม
"ครับเราเคยเจอกัน" ผมเองก็พยักหน้า จนแม่ๆถาม ผมได้แต่บอกว่าเจอกันที่ร้านอาหาร เดินชนกัน แม่ยิ้มๆแล้วพูดในสิ่งทีทำเอาหมูทอดในปากแทบพุ่งไปติดใบหน้าหล่อของพี่พายุ
"พรหมลิขิตชัดๆ"
แค๊กก
"แม่ พรหมลิขิตหน้าห้องน้ำนี่อะนะ ไม่เอาหรอก" ผมลอบมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่เอาแต่เท้าคางมองผมกินข้าว
"พี่ไม่หิวไง กินสิ ป้าใจทำอาหารอร่อยจะตาย" ผมว่าแล้วตักแกงไตปลาใส่จานพี่มัน
"ครับ"ตอบสั้นๆแล้วลงมือทาน แล้วแม่เราทั้งสองก็มองหน้ากันก่อนจะกระแอ่มเรียกผมเบาๆ
"งั้นแม่ไม่อ้อมค้อมนะ ตายุ ดูแลน้องได้ใช่หมลูก" พี่ยุพยักหน้ารับอย่างงๆ
"ครับ"
"งั้นแม่ฝากน้องด้วยนะ ช่วยดูแลน้องที"
"หมายความว่าไงอะแม่ กรโตแล้ว ดูแลตัวเองได้" ผมบอกขำๆเรื่องอะไรจะต้องให้มีนมาดูแล
"คึคึคึ โตแต่ตัวละสิเรานะ แม่กับพ่อตัดสินใจแล้ว ว่าจะให้แกหมั้นกับพี่เขา"
ที่นี้ ข้าวผมพุ่งของจริง
"อะไรนะ หมั้น แม่....." ผมมองพี่ยุกับแม่สลับกัน ก่อนจะส่ายหน้าวืด
"ยัง ยังไม่พร้อมอะแม่" ผมบอกแล้วเขย่าแขนเล็กของแม่
"....." พายุ
"....."ผม
"แม่ประกาศไปแล้ว อะ ลงหนังสือพิมภ์แล้วด้วย" น่านไงมัดมือผมชกอีกแล้ว แม่นะแม่ ทำอะไรไม่เคยปรึกษา
"นะ กรนะ แม่กับพ่อก็แก่แล้วห่วงก็แต่เรา นะหมั้นกับพี่เขาเถอะ"
"แม่" ผมเรียกเสียงอ่อน
"แกอยากให้พ่อกับแม่ขายหน้าหรอที่ประกาศหมั่นไปถ้าไม่มีเจ้าของงานนะ" เสียงอออดอ้อนของแม่นี่ทำให้ผมหัวเสียทุกครั้งเพราะปฏิเสธไม่เคยได้ แค่หมั้นคงไม่ตายหรอกมั้ง เผื่อจะได้ลืมๆไอ้คนใจร้ายได้สักที ผมหันไปหาพี่พายุ
"แล้วพี่ยุละครับว่าไง"
"พี่ยังไงก็ได้ ถึงไม่ได้หมั้น พี่ว่าพี่ก้คิดจะดูแลเราอยู่แล้วละ" พี่ยุขยิบตาให้ผมอย่างน่ารัก
"งะ..ง่ายเนอะ" ผมว่าแล้วก็หัวเราะ แม้ในใจมันจะรู้สึกหน่วงๆและอึดอัดก็ตาม
"เป็นอันว่าตกลงนะคะ ว่าที่ลูกสะไภ้" คุณหญิงพิมภ์บอกอย่างดีใจ ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไป เรื่อย หลังจากกินข้าวกันเสร็จผมก็ขอตัวออกมาเดินเล่นที่สวนกับพี่พายุ ....
"หึๆ เรานี่ ว่าง่ายดีเนอะ" พายุแซว
"ไม่ง่ายหรอกพี่ แต่เพื่อพ่อแม่ ผมทำได้หมดแหละ" ผมบอกยิ้มๆ
แล้วเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสา พี่พายุเป็นหมอเหมือนกันครับ แต่เป็นหมอหมา อายุมากกว่าผมสามปี แต่หน้าพี่แกยังหล่อใสเหมือนเด็กรุ่นๆ แถมที่บ้านยังทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม ถามว่าทำไมถึงเรียนหมอ เขาบอกว่าชอบสัตว์อยากรักษามันให้หายป่วย เขาเองก็ถามผมเหมือนกัน ผมตอบไปว่ามีคนที่ชอบอยากมีแฟนเป็นหมอ
เขาก็ขำ คุยได้ไม่นานก็ต้องขอตัวกลับ เพราะที่คลีนิกของเขามีหมาถูกรถชนอาการสาหัสเข้ามารักษา เขากลับไปพร้อมกับแม่ของเขา ผมเองก็ลาแม่กลับคอนโด เพราะพรุ้งนี้เข้างานเช้า....
วันต่อมา
"ไอ้กร" ร่างสูงกำหนังสือพิมพ์ในมือแน่น หน้าข่าวที่ลงรูปหมอหมุ่มกับใครอีกคน
"ประกาศหมั้นแล้วคร้า สำหรับคุณหมอหนุ่มไฮโซกับสัตวแพทย์หนุ่มลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวโรงแรมชื่อดัง ...." ข้อความในเนื้อข่าวกำกับอยู่ใต้รูปของมังกร และพายุ ฟ้าครามรู้สึกใจหาย และรู็สึกเหมือนตัวเองเสียงของสำคัญในชีวิต..และนั่นทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้
"รู้ตัวเมื่อสาย..."
แต่คนอย่างฟ้าคราม มีหรือจะยอม เสียคนข้างกายไปอีกคน ไม่มีทาง
"อย่าได้คิดว่ากุจะยอมง่ายๆ"
2cb
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล.คึคึคึ
หมอมีคู่หมั้นแหละ อิครามอกแตกตายแน่ .....
หมอไม่ได้ใจง่ายนะ แค่ตามใจแม่ และคิดว่าพายุน่าจะทำให้เขาลืมฟ้าครามได้ (ดูไม่ดีเลยเนอะ)