...........ดวงใจรัตติกาล........... - ตอนที่ 18.2 / P15 13มิ.ย.59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...........ดวงใจรัตติกาล........... - ตอนที่ 18.2 / P15 13มิ.ย.59  (อ่าน 67999 ครั้ง)

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
มาต่อตอนใหม่เร็วๆนะคับ กำลังสนุกเลย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รัตตัดสินใจดีๆ นะค้าา :monkeysad:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
อืมน่าหนักใจแทนเนอะ มันก็ขึ้นอยู่กับคนแต่งแล้วละ ในควาใเป็นจริงแล้วดวงไม่เคยมีใจให้รัตน์เลยไม่ใช่เหรอ แต่ที่มาตามกับไปนี้หมายความว่ายังไง หรือจะเป็นจิตสำนึกของรัตน์เอง รอต่อไป

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
รัตจะเลือกทางไหนอ่ะ
เชียร์คุณหลวง อิอิ
แบบว่ามืดก็ไปอยู่ทางนุ้นเลยดูแลดวงไปน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
ได้อ่านตอนแรกๆของคุณแต่ยังไม่มีเวลาได้ตามอ่านต่อ วันนี้มาเจอท่อนนี้แล้วรู้สึกว่า....ไม่อยากให้เรื่องดีๆอย่างนี้ผ่านไปเลย   เดี๋ยวต้องตามไปอ่านใหม่ตั้งแต่รอบแรกซะแล้วค่ะ^^
ถึงจะบอกว่าอ่านสนุกๆ  แต่เราก็รับรู้ได้ว่าคุณใส่ใจกับรายละเอียดในเรื่องของยุคสมัยได้ดีค่ะ^^  แม้อาจจะไม่เป๊ะมากเพราะเราก็ไม่ได้สัมผัสช่วงเวลาแบบนั้น^^(เราก็ไม่เป๊ะเน้อ)  แต่เรารู้ว่าคุณใส่ใจใส่รายละเอียด  จะพูดยังไงดี...อย่างที่เคยได้ยินคุณแม่ทมยันตีเคยพูด  ว่านักเขียนอย่าสักแต่เขียน  ให้สาระกับคนอ่านบ้าง.... แม้เราจะไม่เก่งเรื่องประวัติศาสตร์แต่เราใส่ใจ  และความพยายามลงไป...คนอ่านอย่างเราก็รับรู้ได้
ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆนี้ออกมานะคะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Nooneder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
สนุกค่ะ อย่าเศร้านานนะรัต

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อย่าทิ้งคุณหลวงนะเว้ย....เค้าสงสารคุณหลวง

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เราเชียร์คุณหลวง นางน่ารักอ่ะ ชอบบบ #ทีมคุณหลวง

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 6






...ฝันประหลาดชิบหาย

รัตติกาลกระพริบตาปริบเมื่อแสงอาทิตย์ยามสายแยงตาเขา แล้วชายหนุ่มก็รีบสะดุ้งพรวดขึ้นเมื่อสติกลับมาครบถ้วน

เมื่อมองไปรอบข้าง เขายังคงเห็นว่าตัวเองอยู่ในเรือนไม้ขนาดเล็ก หน้าต่างเรือนเปิดอ้าไว้ และเขาก็อยู่มุ้งที่ไม่รู้ว่ากางให้ตัวเองเมื่อไหร่

“กี่โมงแล้ววะเนี่ย”

ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นวิ่งลงจากเรือนคนใช้ ไปดูที่ที่คุณหลวงยืนรอพระใส่บาตรเป็นประจำก็ไม่พบใคร ไม่ที่ครัวก็ไม่เจอยายแหวนหรือนังแดง ท้องฟ้ายามสายจ้าไม่นานก็เริ่มมีเมฆครึ้มเคลื่อนเหนือศีรษะ

รัตติกาลคิดไม่ออกว่าตอนนี้ทุกคนหายไปไหนกันหมด อาจจะแยกย้ายกันไปทำงานเพราะว่าเขาอาจจะตื่นสายเต็มที
ขณะที่ยืนนิ่งอย่างคิดไม่ตก ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงเรียกขึ้น

“นายรัต”

ชายหนุ่มร่างสูงรีบหันไปตามเสียงที่ได้ยิน แล้วพุ่งไปคุกเข่าอยู่ข้างๆ หลวงอินทรทินกรอย่างรู้สึกผิด

“คุณหลวง! ขอโทษครับ คือผมหลับไปไม่รู้เรื่องเลย นี่กี่โมงแล้วครับเนี่ย”

“สายแล้วล่ะ”

ถึงว่า ไม่มีการตั้งโต๊ะรอรับพระ ไอ้อ่ำก็ไม่อยู่เพราะคงไปที่สวนแล้วเรียบร้อย

เมื่อคุณหลวงเจ้าของเรือนเห็นสีหน้าของรัตติกาลที่ไม่สู้ดี จึงเอ่ยให้คลายกังวล

“นายรัตไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป แล้วก็ทานข้าวทานปลาเสีย ทำงานหนักจนไม่พักผ่อนก็อย่างนี้ล่ะ วันนี้หยุดพักสักวันแล้วกัน”
หลวงอินทรทินกรเอ่ยด้วยยิ้มน้อยๆ แต่หากสังเกตดูดีๆ ออกจะเป็นการยกยิ้มแกนๆ เสียมากกว่ายิ้มออกมาจากใจ

คนร่างเล็กเดินแยกกลับไปที่เรือนใหญ่ ส่วนรัตติกาลก็ได้แต่ถอนหายใจดังเฮือก เขาไปอาบน้ำอาบท่าตามที่คุณหลวงว่า การใช้ชีวิตที่นี่ทุกอย่างดูจะล้าสมัยไปเสียหมด ชายหนุ่มไม่ชอบการเข้าส้วมที่นี่นัก คิดว่าถ้าจำเป็นจริงๆ จะสร้างส้วมส่วนตัวใหม่เสียหน่อย แต่เขาไม่ใช่คนเรื่องมากจึงทนๆ อยู่แบบคนป่าอย่างจำทนไปก่อน

รัตติกาลเดินไปตักน้ำสาดๆ ใส่ตัว ขัดถูร่างกายและถูฟันด้วยกากมะขามกับเกลือ บางวันเวลาเขามาอาบน้ำจะได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะคิกคักพร้อมทำเสียงวี๊ดว้ายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

ใครว่าผู้หญิงสมัยก่อนต้องสำรวมตัว นี่เขาถูกถ้ำมองบ่อยๆ จนได้แต่ส่ายหน้าให้ด้วยซ้ำ แต่ก็เข้าใจอยู่ว่าเป็นใครก็ต้องอยากมาดูคนหล่อๆ หุ่นดีๆ อย่างเขากันทั้งนั้น

...ช่วยไม่ได้ อาหารตาดีๆ แบบกูใครจะไม่อยากดูวะ

คิดแบบนั้นจึงทำให้ชายหนุ่มไม่อายที่จะแก้ผ้าโทงๆ โชว์สรีระอวดสาวอย่างไม่แคร์ใคร แต่วันนี้อาจเพราะสายมากแล้ว จึงไม่มีใครมาแอบดูรัตติกาลอาบน้ำที่ท่าสักคน

และเมื่อเขากลับเข้าไปที่ครัวอีกที ก็เห็นว่ายายแหวนกับอีแดงกลับมาเตรียมอาหารแล้ว

“เพิ่งตื่นหรือไอ้มืด นอนจนตะวันสายโด่งเชียวนะ ไม่มาตอนอาหารเย็นเลยเล่า”

ยายแหวนเอ่ยทัก ขณะที่กำลังจัดสำรับอาหารกลางวันสำหรับหลวงอินทรทินกร

“พี่มืด คุณหลวงกำชับฉันว่าให้ดูพี่กินข้าวให้หมด นี่น้ำพริกฉันตำเองเลยน้า แล้วนี่คุณหลวงก็ให้เลือกปลาตัวโตๆ ให้พี่ด้วย กินสิจ๊ะ”

อีแดงทำตาหวานใส่รัตติกาล แต่มือทำท่าจะยัดข้าวใส่ปากเขาอย่างไม่ปรานี คิดว่าถ้าไม่กิน คงได้ถูกสากที่หญิงสาวตรงหน้าถือด้วยอีกมือตีหัวแน่ๆ สงสัยจะถูกคุณหลวงจะกดดันมา ถึงอย่างนั้นไม่ต้องบังคับรัตติกาลก็จัดการกินข้าวจนหมดด้วยความเร็ว เพื่อที่จะได้รีบไปหาหลวงอินทรทินกรที่เรือนใหญ่   

ราวกับว่าความอยากอาหารกลับมาชั่วครู่ เขาจัดการทุกอย่างหมดภายในเวลาไม่กี่นาที

“เดี๋ยวพี่จะไปไหนเนี้ย คุณหลวงท่านบอกให้พี่นอกนพัก แล้วนี่จะ...”

หญิงสาวพูดไม่ทันจบก็ไม่เห็นแม้แต่เงารัตติกาลแล้ว เขาวิ่งด้วยความเร็วไปที่เรือนของหลวงอินทรทินกร และเมื่อไปถึงก็ได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากห้องอย่างที่คาด แต่วันนี้เป็นเสียงซอไม่ใช่เสียงระนาด

“คุณหลวงครับ”

เอ่ยเรียกพลางเคาะประตูห้องดนตรีไปด้วย และเนื่องจากประตูห้องไม่ได้ล็อกไว้ รัตติกาลจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปเอง
ครั้งนี้หลวงอินทรทินกรที่กำลังเล่นซอไม่มองรัตติกาลอย่างต้องการปรามเรื่องมารยาทเช่นทุกครั้ง กลับลากคันชักซอต่อเนื่องเป็นทำนองที่ฟังแล้วออกจะเศร้าสร้อย

ชายหนุ่มเข้าไปนั่งลงข้างๆ เจ้าของเรือน ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“วันนี้คุณหลวงจะสอนผมเล่นดนตรีก่อน หรือจะให้ผมอ่านหนังสือก่อนดีครับ”

“เธออยากทำอะไรล่ะ”

หลวงอินทรทินกรหยุดคันชัก แล้วเก็บซอวางลงข้างกาย ใบหน้าเย็นหันมาทางรัตติกาลด้วยสีหน้านิ่ง
เขาเดาอารมณ์ของคนร่างเล็กกว่าไม่ได้ ไม่รู้ว่าโกรธที่เมื่อวานเขาไม่ได้มาตามที่สัญญาไว้หรือไม่ แล้วใบหน้าของหลวงอินทรทินกรก็นิ่งเฉยเกินไป จนยากที่จะคาดเดาสิ่งที่คิดอยู่ในใจ

“งั้น...คุณหลวงสอนผมเล่นเจ้านั่นได้ไหมครับ” ชี้นิ้วไปที่เครื่องดนตรีไม้ที่วางอยู่ข้างกายคุณหลวงไปด้วย

“ซอด้วงน่ะหรือ”

เขาพยักหน้ารับ ทำให้คนร่างเล็กหยิบเครื่องสายลักษณะงดงามขึ้นมา ทวนของซอประดับด้วยเงินสลัก ซอบางคันที่ชายหนุ่มเห็นแขวนอยู่บนผนังก็ประดับด้วยงาช้าง

“ได้สิ ไปหยิบซออีกคันมานั่งข้างๆ ฉันนี่”

การเรียนดนตรีกับคุณหลวงเป็นการต่อมือ คือคุณหลวงเล่น แล้วรัตติกาลพยายามเล่นตาม สำหรับชายหนุ่มแล้วการเล่นโน้ตตามนั้นไม่ยากนักเพราะเขาเองก็เล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก แต่การสีซอตามออกจะยากเกินไป เพราะเขากะแรงไม่ถูกว่าต้องสีแรงหรือเบา จนเสียงที่ออกมาออกจะฟังแล้วแสบแก้วหูไปหน่อย

“นี่...เธอต้องจับอย่างนี้ถึงจะถูก”

นิ้วเรียวจับคันชักให้รัตติกาลดูโดยใช้มือประคองมือเขาไว้ แล้วปลายนิ้วเรียวค่อยดันนิ้วนางของรัตติกาลให้สอดเข้ากับคันชักที่รัตติกาลถืออยู่

นิ้วชี้ โป้งและกลางก็ประคองคันชักและมือใหญ่เอาไว้ในคราวเดียวกัน เพื่อให้ชายหนุ่มสัมผัสถึงแรงยามลากคันชักได้เป็นตัวอย่าง

“แล้วเวลานั่งก็อย่าเกร็งนัก”

มืออีกข้างของหลวงอินทรทินกรจับที่ไหล่กว้างให้นั่งตรง และผ่อนคลาย ไม่ให้เขาคุดคู้สีซอตัวเกร็งเหมือนอย่างทีแรก
หลวงอินทรทินกรลากคันชักออกช้าๆ โดยให้รัตติกาลจับตัวทวนซอไว้ ทำให้เขารู้ว่าควรใช้แรงมากน้อยอย่างไร ก่อนจะลากคันชักเข้าเชื่องช้า จนเสียงที่ออกมาลื่นหูขึ้น ทำอย่างนี้จนชายหนุ่มเริ่มกะแรงได้

“ฮะๆๆ ยากกว่าไวโอลินอีกนะเนี่ย”

“ไวโอลินหรือ” คุณหลวงเจ้าของเรือนชะงักเมื่อได้ยิน

“ครับ”

“เธอเล่นเป็นหรือ เครื่องดนตรีฝรั่ง”

“จำความได้พ่อก็ส่งให้ไปเรียนแล้วครับ” เอ่ยตอบพลางทำท่ายกซอสีแบบไวโอลินให้อีกฝ่ายดู

“นายรัตทำได้หลายอย่างดีนะ”

หลวงอินทรเอ่ยอย่างไม่คิดอะไร ทว่ารัตติกาลกลับฉุกคิดเพราะคำพูดนั้น

“คุณหลวง...คิดว่าผมโกหกหรือเปล่า”

จนกระทั่งตอนนี้ หลวงอินทรทินกรไม่เคยบอกออกมาตรงๆ ว่าเชื่อเขา อีกฝ่ายทำแค่นิ่งเงียบ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธมาตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ขณะที่รัตติกาลคิดว่าหลวงอินทรทินกรจะนิ่งเฉยเหมือนเคย อีกฝ่ายกลับเอ่ยออกมา

“ไม่หรอก” คนร่างเล็กกว่าตอบโดยไม่มอง “แต่จะให้เชื่ออย่างสนิทใจ เธอคงต้องเล่นไวโอลินให้ฉันฟังถ้ามีโอกาส”

“......”

รัตติกาลอึ้งไปเมื่ออีกฝ่ายบอกมาอย่างนั้น ก่อนจะหัวเราะขำแล้วปล่อยซอไว้ข้างตัว และก่อนที่หลวงอินทรทินกรจะไหวตัวทัน เขาก็ถือโอกาสเข้าไปนอนหนุนตักเจ้าของเรือนอย่างไม่เกรงใดๆ

“นายรัต ลุกขึ้น เป็นเด็กหรืออย่างไร”

หลวงอินทรทินกรส่ายหน้า ได้แต่คิดว่ารัตติกาลก็ช่างทำตัวเหมือนเด็กๆ เวลาออดอ้อนเสียเหลือเกิน

“เมื่อคืนผมฝันถึงดวง”

“......”

เป็นหัวข้อสนทนาที่หลวงอินทรทินกรไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มเป็นคนเลี่ยงการพูดถึงดวงใจ
ใบหน้าคมเงยมองเจ้าของเรือน ดวงตาฉายแววเศร้าอย่างเก็บอารมณ์ไว้ไม่มิด น้ำเสียงทั้งแข็งกร้าว ทั้งสั่นเครือ

“มันออกห่างจากผมไปทุกที ทั้งที่ผมพยายามตามมันไป แต่ต่อให้วิ่งตามยังไงก็ตามไม่ทัน”

“......”

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องมาอยู่ที่นี่”

“......”

“ผมคิดถึงดวง”

แม้ไม่เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่หลวงอินทรทินกรก็รู้ว่ารัตติกาลคิดถึงดวงใจมาก คิดถึงขนาดที่คนที่มองใบหน้าของรัตติกาลตอนนี้ ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปด้วย

ใบหน้าคมหลับตาทั้งที่คิ้วขมวดเข้าหากัน มือแกร่งจับมือของหลวงอินทรทินกรให้วางที่อกข้างซ้ายของตัวเอง

“มันบอกว่า...หัวใจของผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ได้อยู่ในที่ที่มันอยู่”

“......”

“แล้วหัวใจผมมันจะอยู่ที่ไหนได้ล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่กับมัน

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองหลวงอินทรทินกร ดวงตาของชายหนุ่มแข็งกร้าวเมื่อเอ่ยคำพูดออกมา

“ผมจะทำยังไง ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องเกิดกับผมด้วย”

ชายหนุ่มเผลอบีบมือของหลวงอินทรทินกรแน่น ทว่าเจ้าของเรือนกลับปล่อยไว้อย่างนั้นโดยไม่ต่อว่า

เมื่อรู้สึกตัวว่าบีบมืออีกฝ่ายแรง รัตติกาลจึงรีบขอโทษขอโพย แล้วดันตัวขึ้นมานั่งดังเดิม “ขอโทษครับ...ผมก็พูดจาไม่รู้เรื่องจริงๆ คุณหลวงอย่าถือสา”

“นายรัต...”

หลวงอินทรทินกรยื่นมือมาลูบศีรษะเขาด้วยความอ่อนโยน ทำให้เขาหันกลับไปทางคุณหลวงเจ้าของเรือนดังเดิม

“ฉันให้เหตุผลเธอไม่ได้หรอกว่าทำไมเธอถึงตื่นมาในร่างของนายมืด...เรื่องบางเรื่องต่อให้หาเหตุผลอย่างไรก็อาจจะหาไม่ได้ทั้งชีวิต...มีใครบ้างล่ะ ที่จะรู้ว่าไปถึงอดีตว่าเราทำอะไรก่อนที่จะเกิดมา”

ดวงตาของรัตติกาลประสานสบมองหลวงอินทรทินกร มากกว่าคำพูดที่สื่อผ่านดวงตานั้น เต็มไปด้วยควมรู้สึกที่กลั่นออกมาเป็นถ้อยคำไม่ได้

“และมีใครบ้างที่จะรู้ล่วงหน้าว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น...อดีตของนายรัต จะเป็นอนาคตของฉันหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้อีกเหมือนกัน”
มือเรียวเคลื่อนวางทับกับหลังมือของชายหนุ่ม

“แต่สิ่งที่ฉันรู้ และเธอเองก็รู้ ก็คือตอนนี้ เวลานี้คือปัจจุบันของเธอ เพราะฉะนั้น เธอจงทำสิ่งที่เธอคิดว่ามันถูกมันควรสำหรับเธอเถอะ ฉันไม่อยากให้เธอเสียใจภายหลัง

“......”

“พระท่านเองก็ว่าการพะวงถึงอดีต หรือแม้กระทั่งอนาคตนั้นไม่มีประโยชน์ ปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด...”

หลวงอินทรทินกรตบหลังมือรัตติกาลเบาๆ สองสามครั้ง

“...แล้วเหล้าดองยาดองน่ะ เพลาๆ ลงเสียบ้าง ปลายทางของคนที่ดื่มแต่น้ำเมา ฉันเห็นไม่ดีสักคน”

ไม่รู้ว่าหลวงอินทรกรจะคิดว่าเขากำลังเมาอีกหรือไม่ หรืออาจจะเห็นว่าเขาเมาค้างตั้งแต่เมื่อวาน แต่อย่างไรคำพูดของคุณหลวงเจ้าของเรือนเขาก็พอจะทำให้เขายอมรับได้ขึ้นมาหน่อย

“ผมเห็นด้วยกับที่พระท่านพูด ถึงจะไม่ได้นับถือพุทธก็เถอะ” รัตติกาลยกยิ้ม แม้ใจจะไม่ได้ยิ้มไปด้วยนัก ”เมื่อวานนี้...ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้มา”

หลวงอินทรทินกรส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยตอบ

“นายรัตยังหนุ่มยังแน่น จะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงก็เป็นเรื่องธรรมดา จะมาขลุกอยู่กับคนแก่อย่างฉันก็เห็นจะไม่เข้าที”

“แก่...คุณหลวงเนี่ยนะแก่ นี่คุณอายุเท่าไหร่ครับ”

“ปีนี้ก็ย่างสามสิบแล้วล่ะ”

“โอ๊ย สามสิบก็เท่าผม อย่างนี้เรียกว่าแก่ได้ไงครับคุณหลวง วัยสามสิบเนี่ยยังรุ่นๆ อยู่เลยนา”

“เหลวไหล เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง”

“สามสิบ”

“ยี่สิบเอ็ด”

“หา!” รัตติกาลอึ้งไปครู่ ก่อนที่จะตบศีรษะตัวเองไปที “ฮะๆ นี่ไอ้มืดมันอายุแค่ยี่สิบเอ็ดเองเหรอเนี่ย”

ได้แต่เกาหัวแกรกๆ อย่างไม่คิดว่าอายุตัวเองจะลดไปตั้งร่วมสิบปี แล้วเถียงกับคุณหลวงไปก็ไม่น่าจะชนะ เพราะยังไงคนรอบข้างก็คงไม่คิดว่าอายุสมองเขาจะถึงสาบสิบเหมือนกัน

เวลาเคลื่อนคล้อยไปจนท้องฟ้าด้านนอกครึ้มด้วยเมฆฝน หลวงอินทรทินกรจึงลุกขึ้นแล้วเอ่ยบอกให้รัตติกาลช่วยกันปิดหน้าต่างรอบเรือน เสียงท้องฟ้าร้องครวญครางดังก้อง หากแต่ก็ดังไม่เท่าฝีเท้าของใครคนหนึ่งที่วิ่งขึ้นเรือนมาอย่างเร่งรีบ

“คุณหลวง! คุณหลวง! เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”

ทั้งรัตติกาลและหลวงอินทรทินกรหันไปมองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเดียวกัน

“มีอะไรหรือนายอ่ำ”

“เขาว่ากันว่าเกิดปะติ...ปะติวุดขอรับ”

“ปฏิวัติงั้นหรือ!”


.
.

TBC


Talk: มาลงต่อแล้วค่า ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ^^ คอมเม้นต์ของคนอ่านเป็นกำลังใจให้คนเขียนมากเลยค่า


ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2015 16:06:58 โดย yochan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มมม
เอาล่ะซี้... เกิดปฏิวัติขึ้นแล้ว
รอน้า
ปล. เราได้แปะหัวแปะท้ายด้วย~ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2015 17:34:01 โดย boboman »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รัตอย่าเพิ่งตระหนกไปก่อนนะคะ เพราะแมนๆ อย่างรัตต้องปกป้องคุณหลวง (ที่ตัวเล็กกว่า) เอาไว้ก่อนเน้ออ..

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รออีก

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
นายรัตตัดสินใจอยู่กับคุณหลวงเถอะค่ะ เหมือนคุณหลวงเริ่มมีใจให้แล้วด้วย
อย่าคิดถึงดวงและพูดถึงดวงต่อหน้าคุณหลวงบ่อยๆนะ  เราสงสารคุณหลวงไงไม่รู้
ดวงเขาไม่เคยรับรักนายรัตเลยนะ  คิดถึงใจคุณหลวงบ้าง  อยากให้อยู่ช่วยคุณหลวงทางนี้ดีกว่านะ

เราว่าคุณหลวงกับนายดวง ยังไงก็คนละคนกันถึงจะหน้าคล้ายกันค่ะ
เราชอบนายรัตที่เป็นแบบนี้มากๆ คุณหลวงคงตกหลุมรักง่ายๆเหมือนเราเลย555 ก็นายรัตทั้งเก่งทั้งตลก ชอบๆ
คุณหลวงเราก็รักเลย คนที่คอยรับใช้คุณหลวงก็โชคดีเลยเกินที่มีนายที่แสนดีแบบนี้ค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ พระเอกนายเอกก็รู้สึกลงตัว  เหมาะสมกันมากๆ เป็นคู่ที่เราชื่นชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณนักเขียนมากๆเลยค่ะ ที่แต่งนิยายดีๆมาให้เราได้อ่าน
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ รอลุ้นกับเหตุการณ์บ้านเมืองสมัยนั้นมากๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ชอบอ่านแนวข้ามมิติมาก ค่ะ และก็ชอบเรื่องนี้ด้วย
 ขอติดตามเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ   :L2:
     


ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เลือกอยู่นี้ไปเลย เพราะตอนนี้ยังกลับไม่ได้นิ ฮ่าๆๆๆๆ
อยู่ช่วยคุณหลวงเลยจะปฎิวัติกันแล้ว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เข้าสู่ช่วงปฏิวัติแล้วสิ
คุณหลวงจะรู้สึกยังไงกับนายรัตบ้างมั้ยคับ นายรัตจะได้ลืมตาอ้าปากกับเขามั้งมั้ย รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งะ แระจะเปงไงต่อเนี่ยยยย

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ลุ้นๆๆ
กำลังสนุกเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ปฏิวัติหรอ อืมทุกอย่างกำลังจะดูง่ายขึ้นไหมนะ  รอต่อไป คุณหลวงน่าสงสารเนอะ สงสัยการที่สลับตัวแบบนี้เพื่อให้ใครสักคนรู้สึกถึงการรักข้างเดียวละมั่ง

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สนุกมากเลยเรื่องนี้
เกิดปฏิวัติแบบนี้ทั้งคุณหลวงกับรัตจะทำยังไงล่ะเนี่ย
แล้วฝั่งดวงกับนายทืดจะเป็นยังไงบ้างน้อ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 7



มิถุนายน ปีพ.ศ. 2475

เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสยาม คณะราษฎรจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศในยามที่เศรษฐกิจเกิดวิกฤติไปทั่วโลก
ช่วงหลายเดือนแรก หลวงอินทรทินกรยังคงใช้ชีวิตในบ้านเกิด ทำสวนทำไร่เพื่อเลี้ยงดูทั้งครอบครัวและบริวาร แต่บางครั้งก็จะเห็นแขกหน้าตาไม่คุ้นเคยมาเยี่ยมเยียนที่เรือนของหลวงอินทรทินกรบ้าง แขกที่ว่าแต่งตัวดี และดูมีความรู้ไม่เหมือนว่าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสักวัน”

รัตติกาลจำได้ว่าคุณหลวงเจ้าของเรือนเอ่ยอย่างนั้นเมื่อทราบข่าวการปฏิวัติ ทว่าใบหน้าคนร่างเล็กนิ่งเรียบจนน่าแปลกใจ ราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นสักวัน

ชายหนุ่มยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติในเรือนของหลวงอินทรทินกร บางครั้งแม้อยากสอบถามถึงความคิดของอีกฝ่าย หากแต่เรื่องบางอย่างเขาก็รู้ว่าควรจะให้เจ้าตัวพูดออกมาเองมากกว่าไปเซ้าซี้ถาม

แต่ละวันผ่านไปอย่างธรรมดาไม่มีอะไรผิดแปลก รัตติกาลยังกินอิ่มท้อง ยังป่วนเรือนคุณหลวงได้ปกติ จะมีก็แต่ฟ้าฝนที่ตกไม่ตรงตามฤดูกาล จนสวนผลไม้เริ่มประสบปัญหาความแล้ง เศรษฐกิจของเรือนนี้ย่ำแย่ลงทุกวัน

ชีวิตเกษตรกรก็เช่นนี้ ต้องฝากชีวิตไว้กับดินฟ้าอากาศ แล้วสมัยนี้การเดินทางก็ไม่ใช่ง่าย เอาพืชผลออกขายเองก็ลำบาก ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางอีก ถึงว่าคนสมัยนี้จึงนิยมเข้ารับราชการนัก แต่หลวงอินทรทินกรก็ถูกให้ออกจากราชการอีกจนแทบไม่เหลือทางเลือก

รัตติกาลทำได้แค่ช่วยผ่อนแรงคุณหลวงเจ้าของเรือนเท่านั้น ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าความรู้ของตัวเองก็ขึ้นอยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยทั้งนั้น แต่พอมาอยู่ในยุคที่ไร้วิทยาการ เขาก็ชักปวดหัวที่จะรับมือ แต่ก็ยังพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้ผลผลิตของเรือนเสียไปจนหมด เขากับไอ้อ่ำไปเรียกชาวบ้านให้ช่วยกันลงแรงขุดทางน้ำเล็กๆ และใช้ระหัดช่วยวิดน้ำเข้านาและสวน ซึ่งพอจะช่วยให้การเกษตรกรรมแถวนี้พอประทังไปได้

ถึงอย่างนั้นการเงินก็ไม่ได้มีเหลือใช้ ด้วยค่าที่ค่าทางค่าภาษี รัตติกาลได้ยินเสียงทอดถอนใจจากหลวงอินทรทินกรบ่อยขึ้นทุกวัน ขนาดที่คิดว่าแม้ตัวเองจะไม่รับเงินเดือน คุณหลวงก็ยังมีภาระหนักอยู่ดี แต่จะยุให้ไล่ไอ้อ่ำออกก็ดูจะไม่ดีนัก...เพราะเดี๋ยวไอ้อ่ำก็ยุให้ไล่เขาออกกลับบ้างแน่ๆ

คิดไม่ตกทั้งเจ้านายทั้งบ่าว เรือนของหลวงอินทรทินกรก็ต้องต้อนรับแขกใหญ่อีกครั้ง และครั้งนี้ คุณหลวงเจ้าของเรือนกำชับให้ทุกคนรับรองแขกให้ดีเสียด้วย

.
.

แวบแรกที่รัตติกาลเห็นหน้าแขกของหลวงอินทรทินกร เขาก็รู้ว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา คนคนนี้ค่อนไปทางวัยกลางคน แต่งชุดทหารเต็มยศ กริยาท่าทางบ่งบอกว่าเป็นผู้มีอำนาจและผู้คนยำเกรง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีราศีจับก็ได้ และคนแบบนี้มาเยี่ยมคุณหลวงถึงเรือน ก็ต้องมีเรื่องสำคัญแน่

"วันนี้หลวงภิภพไชยณรงค์เดินทางมาไกลเพื่อเยี่ยมถึงเรือนผม ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือครับ”

ขณะที่เสิร์ฟน้ำท่า รัตติกาลก็เงี่ยหูฟังไปด้วย ห้ามไม่ได้จริงๆ เรื่องความอยากรู้อยากเสือก แต่ดูเหมือนหลวงภิภพอะไรนั่นจะส่งสัญญาณกลายๆ ว่าให้ไล่คนใช้ออกไปให้หมด

...งกชิบหาย

ถึงจะถูกไล่แต่ก็ใช่ว่าเขาจะแอบฟังไม่ได้ รัตติกาลไปหาที่เหมาะๆ แล้วเอาหูแนบฟังกับไม้กระดาน วิทยาศาสตร์สมัยประถม เสียงยังไงก็เดินทางผ่านของแข็งได้ดีกว่าอากาศ

แต่ถามว่าได้ยินชัดไหม...ก็ไม่

"ไม่ต้องเรียกห่างเหินอย่างนั้นหรอกดวง เรียกพี่เหมือนเดิมเถอะ อย่างไรเราก็คนกันเอง”

"เกรงว่าจะไม่เหมาะน่ะสิครับ หลวงภิภพ”

"พี่ภพ”

"......”

"เอาเถอะ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ที่พี่มาที่นี่ก็เพื่อมาตามเธอกลับไปทำงานด้วยกัน เธอเองก็คงไม่คิดจะทำไร่ทำนาที่นี่จนตายหรอกใช่ไหม ความรู้ที่ร่ำเรียนจากเมืองฝรั่ง พี่ว่าเธอคงอยากนำไปใช้ทำเพื่อประชาชนมากกว่า”

"พี่ภพสรุปเอาเองแล้วเสร็จ จะถามความเห็นผมทำไมหรือครับ”

"พี่ไม่อยากบังคับเธอ แต่เธอน่าจะเข้าใจ เวลานี้แต่ละคนในรัฐบาลใช่จะมีความคิดลงรอยกันนัก พี่แค่อยากได้คนที่ไว้วางใจได้มาเป็นผู้ช่วย”

หลวงภิภพชยณรงค์เว้นช่วงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยต่อ

"ดวง เธอจะหาญน้ำใจพี่ พี่ก็ไม่ว่า แต่พี่อยากให้เธอตรองดู พี่รู้ว่าใจจริงเธอเองก็อยากจะทำงานใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์”

"ผมขอเวลาตัดสินใจหน่อยได้ไหมครับ เวลานี้เรือนนี้ก็เหลือผมดูแลคนเดียว หลังจากคุณวาดเสีย ผมถึงได้รู้ว่าการดูแลจัดการทุกอย่างที่นี่คนเดียวมันยาก แต่ที่ผ่านมาผมก็ปล่อยให้เธอต้องรับภาระหนักคนเดียว”

น้ำเสียงของหลวงอินทรทินกรแฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิด เพราะเหตุนี้หลายๆ ครั้งถึงได้เห็นคุณหลวงเจ้าของเรือนใจลอยด้วยใบหน้าโศกเศร้า

ความรู้สึกผิดก็เหมือนตราบาป ที่บางครั้งจะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต

"และตอนนี้พวกบริวารผมก็มีแค่ผมเป็นที่พึ่ง หากผมไปที่เมืองหลวง แล้วคนที่นี่จะทำอย่างไร”

"คุณหลวงไม่ต้องห่วงพวกกระผมเลยครับ ไปเลยครับคุณหลวง!!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงแทรกที่ทำให้รัตติกาลถึงกับอ้าปากค้าง ที่มีคนช่างเสือกอีกคนใจกล้าหน้าด้านขนาดพูดแทรกบทสนทนาได้

...ไอ้อ่ำ เสร่อจริงจริ๊ง

แต่จะสำนึกตัวตอนนี้ก็สายไป สายตาของทั้งหลวงภิภพไชยณรงค์และเจ้านายมองไปทางไอ้อ่ำอย่างดุว่า รัตติกาลจึงถือโอกาสเสนอหน้าเข้าไปบ้าง โดยการเข้าไปตบหัวไอ้อ่ำแล้วลากคอเพื่อนคนใช้ออกมา โดยทำเป็นหัวเราะแหะๆ ไปด้วย
เจ้านายและแขกได้แต่ส่ายหน้าให้กับเหล่าคนใช้ หมดอารมณ์ที่จะสนทนาต่อ จึงทิ้งบทไว้เพียงเท่านั้น

"หากเธอห่วงเรื่องเรือนนี้ ก็ไม่ต้องห่วงหรอก”

หลวงภิภพไชยณรงค์เอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินทางออกจากเรือนหลวงอินทรทินกร ซึ่งก็ปล่อยให้คนทั้งเรือนต่างได้แต่สงสัยว่าทำไมแขกผู้นั้นถึงได้มั่นใจเช่นนั้น

.
.

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
.
.


จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ถึงได้รู้เหตุผลถึงความมั่นใจของหลวงภิภพไชยณรงค์ เพราะพ่อแม่ของหลวงอินทรทินกรได้เดินทางมาเยี่ยมที่เรือนลูกชายด้วยตัวเอง และเหตุผลที่มาเยี่ยมก็ไม่ใช่อะไร นอกจากมาเพื่อสนับสนุนให้หลวงอินทรทินกรกลับไปรับราชการดังเดิม

"พ่อดวง หลวงภิภพแกแวะมาบอกข่าวพ่อแล้ว พ่อก็อย่าหักหาญน้ำใจแกเลย เรือนนี้ให้ตาหนูกับเมียมาอยู่ดูแลแทนสิ ”

พ่อของหลวงอินทรทินกรเห็นด้วยกับข้อเสนอของหลวงภิภพไชยณรงค์อย่างมาก

อย่างไรแล้วหัวอกคนเป็นพ่อ ย่อมอยากให้ลูกได้ดี และด้วยครอบครัวที่มีฐานะเท่าคหบดีใหญ่ บรรพบุรุษประกอบอาชีพค้าขาย ก็ย่อมอยากเห็นลูกหลานได้ดีทางราชการมากกว่าหันมาทำไร่ทำสวนเช่นนี้

เมื่อครั้งที่หลวงอินทรทินกรถูกให้พักจากราชการ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ใหญ่จะไม่รู้สึกเสียหน้า ดังนั้นเมื่อโอกาสมาอยู่ตรงหน้า พ่อแม่ของคุณหลวงเจ้าของเรือนย่อมต้องอยากให้ลูกชายคว้ามันเอาไว้

"ตาหนูมาอยู่ดูแลผมก็วางใจได้ แต่คุณพลอยจะอยากมาอยู่ดูแลเทือกสวนไร่นาหรือครับพ่อ”

"ถ้าตาหนูว่าอย่างไร แม่พลอยก็ต้องว่าตามนั้นสิ”

หลวงอินทรทินกรถอนหายใจเฮือก รัตติกาลเองก็เดาใจเจ้านายไม่ถูกว่าคิดเห็นอย่างไรกันแน่ อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปทั้งๆ ที่ถูกคนอื่นกดดันจริงหรือ หรือว่าตัดสินใจจะไปเมืองหลวงและกลับไปรับราชการตามที่ได้รับการทาบทาม

เมื่อพ่อแม่ของหลวงอินทรทินกรกลับไปแล้ว ชายหนุ่มถึงได้มีโอกาสถามตรงๆ หลังจากที่ไม่มีโอกาสได้อยู่เพียงลำพังกับคนร่างเล็กกว่ามาตลอดสองวัน เพราะอีกฝ่ายเอาแต่เก็บตัวในห้องไม่มาเล่นดนตรีหรือเรียกให้เขามาอ่านหนังสือและสนทนาด้วยเหมือนทุกที

"นายรัต ฉันมีเรื่องจะถามเธอ”

"ผมก็มีเรื่องจะถามคุณหลวงเหมือนกัน”

ชายหนุ่มยิ้มร่า หากคนตรงหน้านี้เป็นดวงใจคนที่เขารู้จัก คงจะถูกถีบหน้าโทษฐานที่ไร้มารยาทเข้าไปแล้ว แต่หลวงอินทรทินกรทำเพียงถอนใจเบา ก่อนจะเอ่ยขึ้น

"เช่นนั้นเธอถามมาก่อนแล้วกัน”

"คุณหลวงจะปฏิเสธหลวงภิภพไหมครับ”

รัตติกาลถามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม เรื่องสำคัญแบบนี้ต่อให้อ้อมไปรอบโลกก็ต้องวกกลับมาที่ประเด็นเดิมอยู่ดี เพราะงั้นเสียเวลาไปก็เปล่าประโยชน์

"ไม่ใช่ว่าต้องการปฏิเสธหรอก ฉันแค่รู้สึกผิดต่อเรือนนี้หากจะต้องจากไป”

"น้องชายคุณหลวงจะมาอยู่แทนนี่ครับ”

"ก็ใช่”

"งั้นจะอยู่กับน้องชายหรือครับ...แต่จะว่าไป อยู่หลายๆ คนก็ดีนะ มีคนแค่นี้ออกจะเงียบๆ เหงาๆ ออก”

"แสดงว่าเธอไม่ชอบอยู่ที่นี่งั้นสิ”

...ไปต่อไม่เป็นเลยกู

"ฉันก็จะถามเธออยู่พอดี ว่าเธอไม่สนใจสอบเข้ารับราชการดูหรือ ความรู้ความสามารถอย่างเธอ จะมาเป็นคนรับใช้เขาก็ออกจะน่าเสียดายความรู้ความสามารถ”

"แหนะ พูดเหมือนพ่อคุณหลวงกับหลวงภิภพเลยนะคร๊าบ” รัตติกาลทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง

หลวงอินทรทินกรค้อนใส่รัตติกาลไปทีเมื่อถูกย้อน

"ผมทำงานราชการไม่ได้หรอก ผมไม่ชอบการเมือง ไม่ชอบทำเพื่อคนอื่น ผมชอบใช้ชีวิตเพื่อความสุขของตัวเอง”

คุณหลวงเจ้าของเรือนเงียบ จนรัตติกาลคิดว่าคนร่างเล็กกว่าอาจจะผิดหวังกับความคิดเขาอยู่ก็เป็นได้

"ถ้าอย่างนั้น...เธอจะอยู่ที่เรือนนี้ต่องั้นหรือ”

ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยความคิดของตัวเองออกมา

"ถ้าคุณหลวงอยู่ ผมก็อยู่ แต่ถ้าคุณหลวงไป จะให้ผมไปเป็นคนใช้คุณหลวงที่เมืองหลวงผมก็ไป”

"แปลกคน ไม่อยากทำงานได้ตำแหน่ง แต่อยากทำงานที่คนว่าไร้เกียรติงั้นหรือ”

"เกียรติยศของคนเรา ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานด้วยหรือครับ”

"...”

หลวงอินทรทินกรนิ่ง

"It's not titles that honor men, but men that honor titles”***

ชายหนุ่มนึกถึงคำพูดของกวีสมัยก่อนที่เคยได้ยิน จนเผลอพูดออกมา

"หากคุณคิดว่ามันมีเกียรติ มันก็คงจะมีเกียรติ แต่ถ้าคิดว่าไม่มี มันก็ไม่มี สำหรับผมแล้ว ผมไม่ได้มองว่าใครดีกว่าใครหรือสูงกว่าใครเพราะตำแหน่งหรือการงานที่ทำ”

"เธอพูดถูก”
   
ชั่วขณะที่สายตาประสานกับเจ้านาย รัตติกาลรู้สึกถึงความแน่วแน่จากแววตาอีกฝ่าย
   
"แล้วตกลงคุณหลวงจะกลับเมืองหลวงหรือเปล่าครับ”
   
รัตติกาลเอ่ยกลับเข้าประเด็น เพราะการตัดสินใจของหลวงอินทรทินกร ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจของเขาเช่นกัน
   
คนร่างเล็กพยักหน้าแทนคำตอบ
   
"ให้ผมไปด้วยได้มั้ย”
   
"ได้สิ”
   
รัตติกาลมองรอยยิ้มอ่อนโยนของหลวงอินทรทินกรก็ได้แต่ยิ้มตอบ และรอยยิ้มของชายหนุ่มครั้งนี้ สำหรับคุณหลวงเจ้าของเรือนคงคาดเดาอารมณ์ที่แฝงอยู่ได้ยาก แม้เวลาที่ได้รู้จักกันจะไม่นาน แต่หลวงอินทรทินกรก็รู้ว่ารัตติกาลแม้ภายนอกร่าเริงแค่ไหน แต่ภายในนั้นกลับลึกเกินจะหยั่ง
   
และที่ชายหนุ่มตัดสินใจจะตามไป จะเป็นเพราะเห็นว่างอินทรทินกรที่หน้าเหมือนดวงใจเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะแม้กระทั่งขณะนี้ หลวงอินทรทินกรก็ยังรู้สึกเสมอว่าเวลาที่คนร่างสูงมองตัวเอง ก็เสมือนกับว่ากำลังมองตัวแทนของคนรักที่จำใจจากมามากกว่า
   
หลวงอินทรทินกรถอนหายใจเบา และได้แต่หวังว่าความกังวลที่เริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาใดในภายหลัง

   
***Niccolo Machiavell


.
.



TBC

 :mew1:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ทีนี้ รัตติกาลก็จะไปป่วนเมืองหลวงแทนเรือนคุณหลวง รอตอนต่อไปป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อ่านยังไม่สะใจเลยรอต่ออีกแล้ว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
รัตจะอยู่บ้านในเมืองหลวงกับคุณหลวงแล้ว ไปแล้วรัตจะทำไรต่ออ่ะ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
คุณหลวงเริ่มกังวลแล้วแฮะ แต่ก็ไม่แปลกนักหรอก เพราะมันชวนให้คิดจริงๆ ใจเย็นๆ น้าาา
รอตอนต่อไป~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด