{ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ } ... เมื่อผมอกหัก
เมื่อคุณอกหักขึ้นมา คุณจะมีวิธีคลายเศร้าอย่างไรกันนะ?
สำหรับผม การดื่มให้เมา ให้ลืมนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไร ผมเป็นคนคอแข็ง อีกอย่างยิ่งเมาก็ยิ่งนึกถึงแต่เรื่องแย่ๆซะมากกว่า อันที่จริงผมก็ไม่ได้ทุกข์ทม ทรมานอะไรขนาดนั้น ผมเป็นประเภทเผื่อใจทุกๆครั้งที่มีรักใหม่ มันก็ช่วยให้เสียใจน้อยลงบ้างล่ะมั้งนะ….
ไอ้พวกเพื่อนๆของผมก็คงชินกับภาวะโดนเขี่ยทิ้งของผมซะชินชาไปเสียแล้ว จนไม่อยากมานั่งสุมหัวเพื่อปลอบใจผม ยกเว้นไอ้หนุ่มล่ะมั้ง มันเป็นเพื่อนที่ดี ถึงแม้ว่ามันจะเบื่อที่ผมหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้สักที คบใครก็ถึงปีสักคน
“มึงไม่เบื่อหรือไงวะหนุ่ม มานั่งเฝ้ากูทำบ้าอะไร”ผมบ่นกับมัน ก่อนที่จะนั่งชงเหล้าให้ตัวเอง ถึงจะบอกว่าการดื่มเหล้าไม่ใช่วิธีของผมก็เถอะ แต่ผมชอบที่จะดื่มให้อร่อยรับรสชาติมากกว่าดื่มเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อให้ลืมๆ วันนี้ผมมานั่งหน้าเซ็งที่ร้านเหล้าใกล้ๆอพาร์ทเม้นต์ของตัวเอง ใกล้ดี จะได้ลากตัวเองกลับง่ายๆ
“ก็เพราะว่ากูเป็นเพื่อนมึงไง กูก็เป็นห่วงมึง เดี๋ยวแดกเหล้าเพลินจนเมาเป็นหมาขึ้นมาเดี๋ยวมึงโดนลากไปข่มขืนขึ้นมาก็แย่เลย”เหตุผมมันก็แบบนี้เหมือนๆทุกครั้งนั่นแหละ ผมก็ยังจะไปถามมันอีก ผมส่ายหน้า คิดในใจว่ายังไงผมก็ไม่เมาหรอก ถ้าไม่อยากเมา
“เป็นห่วงกูจังนะมึง เป็นเพื่อนที่โคตรประเสริฐเลย นับถือจริงๆ”ผมหัวเราะเบาๆ นี่ถ้ามันไม่มีเมียแล้วล่ะก็ผมคงคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันคิดไม่ซื่อกับผมแน่ๆ
“เออ รู้แบบนี้ก็รักกูให้มากๆนะเว้ย ไอ้ห่านี่”ไอ้หนุ่มพูดหน้าตาย นั่งมองผมยกเหล้าเข้าปาก มันเป็นคนดีนะ เหล้ายาไม่แตะ มันไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ แต่ถ้าผมชวนล่ะก็ มันก็มาทุกครั้งแหละครับ แปลกจริงๆไอ้นี่
ผมนึกไปถึงแฟนเก่าแล้วก็หงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก สาเหตุที่เลิกรากันก็เพราะ ความเจ้าชู้ของมัน ที่ใช้คำว่ามันก็เพราะ… แฟนผมเป็นผู้ชาย เพราะผมเป็นเกย์ ได้ยินมาว่ามันกำลังคบอยู่กับรุ่นน้องผมเอง ซึ่งเป็นน้องที่ผมสนิทด้วยในระดับนึงและที่สำคัญ….ไอ้เด็กนั่นก็รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้บอสมันเป็นแฟนผม แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก
เจ็บใจจริงๆ
“คิดถึงผัว เอ๊ะ หรือว่าเมียเก่ามึงอยู่เหรอไงวะ”ไอ้หนุ่มสะกิดผมด้วยส้นเท้าใต้โต๊ะ ผมเหลือบไปมองหน้ามันแล้วแค่นยิ้มไม่ได้ตอบอะไร
“มึงก็นะ จะไปนึกถึงมันทำไมวะ ไอ้สวะนั่น เลิกๆไปก็ดี กูว่ามันก็ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน จมูกก็เบี้ยวนิดๆนะมึงว่าป่ะ หรือมึงทำเป็นไม่สังเกต”ไอ้หนุ่มหัวเราะสะใจอยู่คนเดียว
“เชอะ ไอ้ห่านี่ มึงหล่อตายห่าล่ะ”ผมยิ้มนิดๆ แล้วดีดน้ำแข็งใส่หน้าผากมันไปก้อนนึง
“หล่อกว่าทุกคนที่มึงคบก็แล้วกัน”ไอ้หนุ่มหัวเราะเยาะ ผมเบ้ปากหมั่นไส้ หมดอารมณ์ที่จะกินเหล้าเลย
“แหม กล้าพูดนะมึง”ไอ้คนหลงตัวเอง ถ้าไม่มั่นหน้าคงไม่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำแบบนี้
“กูพูดความจริงนี่เห็นๆอยู่ใช่ไหมวะ”แล้วไอ้หนุ่มก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆผม เพื่อให้ผมเห็นความหล่อของมันชัดๆ
“กูมองยังไงก็ไม่หล่อว่ะเพื่อน เสียใจด้วยนะ”ผมหัวเราะแล้วผลักมันออกไปห่างๆ เล่นอะไรแปลกๆนะวันนี้
“สงสัยต้องเป็นผัวมึงก่อนมึงถึงจะมองว่ากูหล่อ”ผมได้ยินไอ้หนุ่มมันพูดเบาๆ คิดว่าหูไม่ฝาดแน่นอนครับ
“มึงว่าไงนะ”ผมถามย้ำ รู้สึกประหลาดๆกับไอ้หนุ่มทันที ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก แต่ปกติมันไม่ปากเสียแบบนี้
ผมไม่สนุกแล้วเลยเช็คบิลกลับไปนอนที่ห้องดีกว่า
“เดี๋ยวกูไปส่ง”ไอหนุ่มรีบเดินมาขนาบข้างทันที ทำอย่างกับว่าผมจะหนี อันที่จริงผมก็ไม่อยากนั่งแท็กซี่ไปที่อพาร์ทเม้นต์หรอก ยังไงผมก็ต้องกลับกับมันนั่นแหละ
“เออดี ส่งให้ถึงที่นะเว้ย”
“อืม กูส่งถึงที่แน่นอน”ไอ้หนุ่มพูดย้ำกับผมแล้วหันมายิ้มให้ ทำเอาผมสะดุดกึกทันที พูดแบบนี้ขนลุกเลยทีเดียว
…………………………………………..
ไอ้หนุ่มขับเข้าไปจอดหน้าอพาร์ทเม้น เห็นมันทำท่าจะลงมาด้วยผมเลยถาม
“ลงมาทำไม กูเดินขึ้นไปเองได้ ไม่ได้เมาเว้ย”ผมบอกมัน
“เออน่า ให้กูไปส่งมึงนั่นแหละ โอเคนะ”ไอ้หนุ่มมองหน้าผมนิ่งๆ ผมถอนหายใจแล้วเดินเข้าอพาร์ทเม้นต์ พอมาถึงหน้าห้องผมหันไปตบไหล่มันเบาๆ
“โอเคถึงห้องกูแล้ว มึงกลับไปได้แล้วไป ตามมาทำไมให้เหนื่อย”ผมหัวเราะที่เห็นมันยืนหอบเป็นหมาข้างๆ
“เหนื่อยชิบ ขอเข้าไปกินน้ำในห้องหน่อยดิ”ไอ้หนุ่มยังคงหาข้ออ้างที่จะเข้าห้องผมให้ได้ เจตนาของมันก็เดาได้ไม่ยาก อันที่จริงก็ไม่อยากจะคิดแบบนี้แต่ไอ้หนุ่มเป็นเพื่อนที่แคร์ผมมากที่สุดแล้ว บางครั้งก็แคร์ผมมากกว่าเมียมันซะอีก น่ากลัวแฮะ
แต่สำหรับผมเองไม่ได้คิดเกินเลยกับไอ้หนุ่มไปมากกว่าเพื่อน
“เออๆก็ได้ วุ่นวายจริง”ผมบ่นแล้วเปิดประตูให้มันเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เดินไปที่เปิดตู้เย็นแล้วหยิบแก้วมารินน้ำให้ไอ้หนุ่ม มันรับแก้วไปดื่มจนหมด
“มีอะไรจะสั่งเสียอีกไหมมึง”ผมถามแล้วหัวเราะ ยังคิดอยู่ว่าไอ้หนุ่มมันจะมาไหนอีก มันหมุนแก้วในมือเล่นก่อนจะหันมาพูดกับผมด้วยท่าทางจริงจัง
“เออ กูถามมึงจริงๆนะบาส...ทำไมมึงถึงไม่คบใครสักคนจริงๆจังเสียที”
“หึ มึงก็รู้ๆอยู่ กูโดนเขาทิ้งประจำ จะมาหารักจริงๆจังอะไรวะ”ผมหัวเราะเยาะตัวเอง
“เพราะมึงไม่จริงใจกับคนที่มึงคบหรือเปล่าวะ มันถึงออกมาแบบนี้”
“อย่ามาซ้ำเติมกูไอ้ห่านี่”
“...หรือมึงไม่เจอคนที่ใช่สักที”ไอ้หนุ่มพูด น้ำเสียงมันอ้อยอิงเหมือนจะสื่ออะไรสักอย่าง แต่ผมแค่ยิ้มกับตัวเอง
“ไม่รู้ว่ะ สงสัยคนที่ใช่ยังไม่เกิด”
“คนที่ใช่ของมึงเป็นแบบไหนวะ”
“ไม่รู้...เพราะกูไม่เคยเจอเสียทีไง ”
“...บาส...กู”
ไอ้หนุ่มอึกอัก ผมมองหน้ามันอยากจะรู้ว่ามันต้องการพูดอะไร
“ว่าไง มีอะไรจะพูดก็ว่ามาดิ...”
“คืนนี้กูขอค้างด้วยได้ไหม”
!!
“...ไม่กลับไปนอนกกเมียหรอไง”
“หึๆ อย่าเพิ่งเรื่องอื่นดิ กูขอค้างกับมึงนะ”
“แล้วแต่ ตามใจมึงดิ”
“อือ สรุปกูจะค้างกับมึง”
ไอ้หนุ่มยิ้มมาให้ ผมได้แค่ทอดถอนหายใจ ผมจะลองใจมันดูว่าคืนนี้มันจะทำอะไรผมหรือเปล่า
ผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินมาที่เตียง เห็นไอ้หนุ่มนอนอยู่บนเตียงฝั่งซ้าย
“ปิดไฟแล้วนะ”ผมบอกแล้วปิดสวิทซ์ไฟ
“อืม”
ผมล้มตัวนอนลงก่อนจะดึงผ้าห่มผืนบางๆขึ้นมาคลุม ผมติดนิสัยนอนห่มผ้า ถึงอาศจะไม่หนาวก็เถอะ แต่ถ้านอนเปล่าๆแล้วมันหลับไม่สนิท
ผมนอนหันหลังให้ไอ้หนุ่ม ฟังเสียงหายใจของผมและของมันเงียบๆในความมืด
ไอ้หนุ่มมันหลับหรือยัง...แกล้งหลับหรือเปล่านะ?
ผมนอนไม่หลับลืมตาในความมืดอยู่นานมาก ผมแค่รับรู้ว่าไอ้หนุ่มมันนอนพลิกตัวไปมา
“บาส...”เสียงไอ้หนุ่มดังขึ้น ผมใจหายหล่นวูบ ไม่ได้ตอบรับมัน
“...มึงหลับแล้วหรอ”ผมหลับตาลงทันที่เมื่อรู้สึกว่าไอ้หนุ่มมันนอนเข้ามาประชิดแล้วยื่นหน้ามามองผม ลมหายใจของมันรดอยู่ที่ข้างใบหูและต้นคอผม
...สยิวโว้ย...
ผมนอนหายใจปกติ รับรู้ว่าไอ้หนุ่มมันลังเล มันถอยห่างจากผมไปสักพัก
แต่แล้วมันก็ขยับมาชิดผมอีกรอบในขณะที่มือของมันวางลงบนแถวหน้าขาของผม มืออุ่นๆของมันแผ่ผ่านเนื้อผ้าให้ผมรู้สึกได้ ผมใจเต้นรัว เมื่อมือของไอ้หนุ่มไม่หยุดนิ่ง ค่อยๆเลื่อนไล้ไปตามสะโพก แล้วเลื่อนเข้ามาในขอบกางเกงของผมจนได้...
ผมควรจะร้องโวยวายหรือนอนนิ่งๆไปแบบนี้
เป็นไปไม่ได้ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่ได้อยู่แล้ว มันดูออกง่ายๆว่าหลับหรือแกล้งหลับ ถ้าร่างกายผมตอบสนองมันมากเกินไป ไอ้หนุ่มต้องรู้แน่ๆว่าผมไม่ได้หลับจริงๆ
ลมหายใจถี่หนักๆเข้ารดที่ต้นคอ ริมฝีปากอุ่นๆสัมผัสแตะไปตามกกหูไล่ลงมายังลำคอ ลากลิ้นดูดดุนไปพร้อมๆกัน มือก็ประสานงานกันพร้อมเพียง มือของไอ้หนุ่มดึงกางเกงผมลงจนได้ จากนั้นก็บีบเค้นที่ไอ้นั่นของผมเบาๆเพื่อปลุกเร้า
“บาส..”ไอ้หนุ่มกระซิบเรียกชื่อผมที่ข้างหู ทำเอาผมสะท้านขนลุกเกรียว ร่างกายเกร็งขึ้นมาเมื่อมือของอีกฝ่ายยังคงเค้นคลึงไปตามสัดส่วนของแท่งกายของผมที่เริ่มตอบสนองขึ้นมาและผมก็รับรู้ได้กับการตอบสนองของแท่งของมันที่อยู่แนบกับบั้นท้ายของผม
ผมเม้มปากหลับตาไม่อยากส่งเสียงให้มันรับรู้ ไอ้หนุ่มยังคงจูบไซร้ไปเรื่อย มันละมือออกจากแท่งกายของผมแล้วล้วงเข้ามาในเสื้อ ไล้มือไปตามยอดอกแข็งๆก่อนจะบดขยี้ไปมา
“อ๊ะ...”ผมส่งเสียงออกมาเบาๆ ไอ้หนุ่มยื่นหน้ามามองผมแล้วโน้มาจูบลากลิ้นเลียไปตามรูปปากก่อนจะดูดลิ้นผมแรงๆ
“อืม”
“มึงรู้ใช่ไหมว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง”ไอ้หนุ่มพูดผละที่ผละออกจากปากผม ผมพยักหน้าเบาๆ ไอ้หนุ่มยิมขำก่อนจะก้มลงมาจูบผมอีกรอบ
“นานหรือยัง รู้ตอนไหน”
“ตอนที่มึงอยู่เป็นเพื่อนกูไง กูคิดว่ามึงคงคิดไม่ซื่อกับกูแน่ๆ...ใช่ใหม”ผมตอบมัน ไอ้หนุ่มครางรับก่อนจะเลื่อนไปไซร้คอขบเม้มจนผมเจ็บแสบขึ้นมา แล้วไอ้หนุ่มก็ขึ้นมาคร่อมผมไว้
“อืม กูแค่อยากดูแลมึง... กูคิดว่าถ้ากูมีโอกาสเป็นมากกว่าเพื่อน กูสามารถทำให้มึงมีความสุขได้ มึงจะไม่เสียน้ำตาร้องไห้วันละหลายๆรอบ”
“งั้นเหรอ...”ผมมองหน้ามันในความมืด น้ำเสียงจริงใจและหนักแน่น แต่ผมไม่ชอบไม่อยากเอากับเพื่อนตัวเอง
“มึงเชื่อกูไหมบาส กูรักมึง ให้โอกาสกูสักครั้งนะ”ไอ้หนุ่มพูด ผมอยากจะเชื่อมันนะ ถ้ามันไม่มาอยู่ในสภาพนี้กำลังคร่อมไว้ ในหัวของมันคงคิดแค่จะเอาผมให้ได้เท่านั้น
“...งั้นคืนนี้มึงกลับไปก่อนดิ ให้เวลากูคิดได้ไหมวะ”
“ทำไมต้องคิดนานวะ คนก่อนๆที่มึงคบกูไม่เห็นว่ามึงจะคุยนาน”
“ก็นั้นมันคนอื่น แต่มึงเป็นเพื่อน”
“แล้วถ้าเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นผัวล่ะ มึงจะทำยังไง”ผมนิ่งไป ผมไม่เคยคบใครโดยเริ่มต้นจากเซ็กส์มาก่อน แม้ว่าปากจะพร่ำว่าชอบผมรักผมก็ตามที แต่แบบนี้...เท่ากับว่ามันทรยศนอกใจแฟนของมัน
“มึงอย่าทำแบบนี้ดิวะ แล้วแฟนมึงล่ะ”ผมถามแล้วผลักมันออก แต่ไอ้หนุ่มเสือกกดผมไว้อีก ผมเลยต้องคลายแรงขืนตัวไว้เพื่อให้มันไม่ใช้กำลังกับผม ได้ผลไอ้หนุ่มปล่อยผม แต่ยังคร่อมผมไว้อยู่
“...กูจะเลิกกับมิ้นท์ก็ได้”
คำตอบของมันไม่ได้ทำให้ผมพอใจ
ผมรู้ดีว่ามันเจ็บแค่ไหนที่แฟนเรานอกใจนอกกาย และผมกำลังเผชิญกับปัญหาที่ต้องเลือกว่าจะให้จบลงแบบไหน
เป็นเพื่อนกันต่อไป แต่ผมกับมันคงไม่สนิทใจกันอย่างเคย หรือ
ผมกับมันคบกัน ความสัมพันธ์ฉาบฉวยเพราะเริ่มจากเซ็กส์ และผมคงฝังใจไปอีกนานว่ามันทิ้งแฟนเพื่อมาคบกับผม
“...กูไม่โอเคว่ะหนุ่ม กูไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้”ผมขมวดคิ้ว ผมผิดเองแหละที่ยอมให้มันเริ่มและปล่อยเลยตามเลย จนเรื่องมาถึงจุดนี้
“อะไรวะ ความรู้สึกแบบนี้? อธิบายให้กูฟังทีสิวะ”
“...ความรู้สึกผิดๆนี่ไง ถ้ากูปล่อยให้มึงเอากูได้ ในขณะที่มึงยังคบกับมิ้นท์อยู่”ทำไมผมต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยเนี่ย ผมผลักมันออกเต็มแรงจนมันหงายหลังไปเพราะไม่ทันตั้งตัว
ผมลุกออกจากเตียง คืนนี้คงต้องไปนอนหอเพื่อนคนอื่นก่อน ผมหยิบกระเป๋าเตรียมจะออกจากห้อง
“ทำไมวะ... ก็แค่ทำตามความรู้สึก มึงจะคิดมากทำไม มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้รักมิ้นท์”
“กูไม่รู้อะไรทั้งนั้นหนุ่ม...”
“มึงไม่ต้องการแบบนี้จริงๆน่ะเหรอ”
“อืม กูว่ามึงยังไม่ใช่สำหรับกู”ถ้ามันคือคนที่ใช่ ผมคงสปาร์คมันไปนานแล้ว ไอ้หนุ่มถอนหายใจมันสบถด่าผมออกมาหลายคำ
“หึๆ กูมันโง่ที่รักมึงมานาน ทั้งๆที่มึงไม่เคยรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ...ฃืมๆเรื่องนี้ไปเถอะ”ไอ้หนุ่มคว้ากระเป๋าเงินและกุญแจรถออกจากห้องผมไปเงียบๆ
ผมแค่รู้สึกเสียดาย...ที่ไม่ได้ขอโทษมัน
.
.
.
นับแต่นั้นเป็นต้นมาผมกับมันก็แทบไม่ได้คุยกันอีกเลย หลังจากที่มันเลิกกับมิ้นท์ ไอ้หนุ่มมันหลบเลี่ยงการเจอหน้าผม ไม่ทักทายหรือยิ้มให้แม้แต่น้อย แม้ว่าผมจะเดินชนมันอยู่แล้วก็ตาม
เพื่อนๆต่างพากันสงสัยเข้ามาถามไม่เว้นวันว่าเกิดอะไรขึ้น ผมส่ายหน้า ตอบได้เพียง “กูไม่รู้ว่ะ”
จนกระทั่งคืนนึงไอ้หนุ่มมากับผู้ชายคนนึงหน้าตาน่ารัก ผิวขาวตัวเล็กๆ แล้วมันแนะนำทุกคนว่า
“ไนท์ แฟนกูเอง”
แน่นอนทุกคนตกตะลึงไม่คิดว่ามันจะชอบผู้ชาย ผมเองก็ด้วย ผมตกใจ ผมมองหน้าแฟนมันงงๆก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองหน้าไอ้หนุ่ม มันแค่มองผมนิ่งๆแค่นั้น แล้วหันไปเจ๊าะแจ๊ะกับแฟนอย่างออกนอกหน้า
“โห หวานไม่เกรงใจคนโสด ใช่ไหมวะไอ้บาส”ไอ้ต๊ะมันหันมาหัวเราะกับผม แต่ผมแค่ยิ้มนิดนึงแล้วขำไม่ออก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมหงุดหงิด ผมไม่ชอบแฟนของมัน แม้ว่าไนท์จะเป็นคนน่ารัก เพื่อนๆก็อิจฉาด่าไอ้หนุ่มกันยกใหญ่ว่ามีแฟนดีๆไม่พามาแนะนำตั้งแต่แรก
ไอ้หนุ่มแค่หัวเราะเหมือนเขิน
“กูกลัวว่าพวกมึงตกใจ”
“ตกใจห่าอะไร มึงดูไอ้บาส เปลี่ยนผัวมาแล้วหลายคน กูยังต้องตกใจอะไรอีก”คำพูดไอ้ต๊ะทำเอาฮาลั่นแก๊ง ผมส่ายหน้า แต่กลับอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อไนท์มันหัวเราะ ผมทำหน้าตึงใส่มัน
“ขำอะไรวะแม่ง”ผมบ่นเบาๆแต่เป็นจังหวะที่พวกมันเงียบเสียงลงพอดี ทำให้ทุกคนได้ยินที่ผมพูด ไนท์ทำหน้าเหวอๆก่อนจะหันไปมองไอ้หนุ่ม
“อะไรมึงไอ้บาส”เป็นครั้งแรกที่มันพูดกับผมประโยคยาวๆแบบนี้ แต่สีหน้าไม่พอใจของมันทำให้ผมแค่ถอนหายใจไม่ตอบอะไรมัน
“เฮ้ย ใจเย็น ไอ้บาสมันคงอิจฉาคนมีคู่ไง”ไอ้ต๊ะตบมุกพยายามสร้างเสียงหัวเราะ แต่มันแป้กเพราะบรรยากาศมันเฉาตั้งแต่ผมด่าไอ้ไนท์ไปแล้ว
ผมเลยเดินหนีออกมาจากโต๊ะแล้วไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่กำลังยืนปลดทุกข์อยู่ ไอ้หนุ่มก็เข้ามายืนข้างๆ
“เป็นอะไรของมึง ทำไมต้องทำหน้าไม่พอใจใส่แฟนกู”ไอ้หนุ่มมันย้ำหนักๆตรงคำว่าแฟนเหมือนจงใจ
“เปล่านี่ ก็แค่อิจฉาคนมีคู่”ผมไหวไหล่ตอบมันไปแล้วเดินไปล้างมือ ไอ้หนุ่มเดินตามมาประชิด
“อิจฉาที่กูมีแฟน หรือว่าอิจฉาคนที่เป็นแฟนกู”
ผมตกใจที่มันพูดแบบนี้
“อะไรของมึง พูดมั่วๆ”ผมผลักมันออกไปให้พ้นแต่มันรั้งแขนผมไว้
“...มึงอยากได้กูคืนไหมล่ะ”
“ไม่”
“หึ โกหก กูรู้ว่ามึงหวงกู”
“เออ กูแค่หวงก้างเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรนอกจากนั้นหรอก”
“ปากดีนะมึง ...แต่ก็เท่านั้นแหละ กูไม่ได้ชอบมึงอีกต่อไปแล้ว กูตัดใจจากมึงได้ กูคิดว่ากูโชคดีแล้วล่ะ”ไอ้หนุ่มแค่ยิ้มให้ผม ผมโมโหกำหมัดแน่น ไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้ เหมือนคนละคนกับเมื่อก่อนที่ยังสนิทกับผม
“...ถ้ามึงเลิกชอบกูแล้ว ทำไมไม่กลับมาคุยกับกูวะ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไง”
“กูไม่อยากเป็นเพื่อนมึงไง ไม่อยากเห็นหน้า ได้ยินเสียงหรือแม้กระทั่ง...อยู่ร่วมกับมึงแบบนี้ด้วยซ้ำ...กูเกลียดมึงที่ปฏิเสธกู มึงเสียดายไหมที่วันนั้นไม่ตอบตกลงเป็นแฟนกูซะให้สิ้นเรื่อง”
“...”ผมไม่ตอบมัน ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นแต่ผมก็ไม่ชอบให้มันคบผู้ชาย
“ขอร้องอย่าขอให้กูเป็นเพื่อนมึง”
“...กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นคนอย่างนี้...ก็แล้วแต่มึงเหอะว่ะ”ผมบอกมันก่อนจะเดินหนีออกจากห้องน้ำ
“...หึ แล้วกูอย่ามาอารมณ์เสียใส่แฟนกูอีกนะ อย่าให้คนอื่นเข้าใจผิดว่ามึงหึงกู”ไอ้หนุ่มพูดไล่หลังผม คำพูดของมันทำให้ผมชะงักหยุด ผมเนี่ยนะหึงมัน...
“...เออ ต่อไปนี้กูจะไม่ยุ่งกับมึง แฟนมึงอีกแล้ว อย่ามาให้กูเห็นหน้าก็แล้วกัน”ผมตะคอกใส่หน้ามัน เกลียดท่าทางมั่นใจแบบนั้นขอไอ้หนุ่ม
“กูต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ”
“ก็เรื่องของมึง...ขอ...ให้มึงมีความสุขล่ะกัน...”ผมพูดกับมันเป็นครั้งสุดท้าย ประโยคนี้พูดออกมายากเย็นสำหรับผม ...ผมไม่อยากให้มันมีความสุขนักหรอก...กับแฟนของมัน
ผมมองหน้าของไอ้หนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินจากมันมา ผมตรงกลับบ้านไม่มีอารมณ์จะสังสรรค์ต่อ ผมเรียกแท็กซี่ ผมไม่ได้บอกจุดหมายปรายทางว่าลงที่ไหน คนขับแท็กซี่ถามซ้ำว่าจะลงที่ไหน ผมไม่ตอบ
...
“เฮ้ยไอ้หนุ่ม ให้ไปส่งที่ไหน”คำถามครั้งที่สาม
ชื่อนี้ ผมเกลียดที่สุด ยังจะตามมาให้ได้ยินอีก
“ไปเรื่อยๆแหละลุง ...ผมไม่รู้ว่าจะหยุดที่ตรงไหน”ผมตอบเบาๆ คนขับมองหน้าผมงงๆแต่ก็ทำตาม
ผมนั่นนิ่ง หลากหลายความรู้สึก เมื่อคิดทบทวนแล้ว ผมแค่รู้สึก...แค่รู้สึกว่า
ผมเสียดาย...เสียดายเวลาดีๆที่เคยเป็นเพื่อนกันมานาน แล้วก็เสียดาย...ที่ตัวผมเองปฏิเสธมันในคืนนั้น
นี่คือปัญหาที่ผมเลือกจะจบแบบนี้...มันจบลงที่ผมเอง จบลงที่ผมต้องรู้สึกเหมือนเป็นคนอกหักอีกครั้งและเจ็บมากกว่าทุกที
ผมปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจโง่ๆ ความรู้สึกโง่ๆและความรักโง่ๆ ของตัวผมเอง
..
..
จบ เบื่อเลยแต่งเรื่องสั้นๆบ้าง อิอิ
