<< Heart หัวใจนี้มีเพียงเธอ >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << Heart หัวใจนี้มีเพียงเธอ >>  (อ่าน 63763 ครั้ง)

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
นังมีนนี่มันน่าจะกลับไปตาบอดอีกรอบนะ ตามองเห็นแล้วแทนที่จะทำอะไรสร้างสรรค์ กลับทำตัวทุเรศแบบนี้ แม่มอ่านแล้วอารมณ์ขึ้น :m31:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อินังมีนมันต้องโดนตบสักตั้ง -_-^^
ชีวิตว่างเหลือเกินมาระรานคนอื่นเขาเนี่ย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                          Heart

                    หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                         บทที่ 19



หญิงสาวคนเดียวในเหตุการณ์ยืนนิ่งราวกับหุ่นขี้ผึ้งเมื่อเห็นคนที่อยู่ๆ

ก็บุกเข้ามายึดแขนลูกน้องของเธอไว้แล้วส่งกำปั้นลุ่นๆ เข้าที่กลางปากกลางจมูก

ก่อนที่จะตรงปรี่เข้าไปหาอีกคนที่ทำท่าจะบุกเข้ามา ส่งส้นเท้าไปประเคนที่ลิ้นปี่

อย่างถนัดถนี่


ดวงตาคมหันขวับมามองหน้าเธอ แล้วยิ่งหัวคิ้วที่แทบจะชนกันนั่นอีก

ทำให้หัวใจของมีนหล่นลงไปอยู่ที่เท้า คนที่เป็นสาเหตุให้เธอต้องมาถึงที่นี่ก้าวเพียงก้าวเดียว

ก็มาหยุดต่อหน้า ดวงตาแข็งกร้าวคือสิ่งที่เธอได้รับตอบแทน รวมทั้งฝ่ามือที่เงื้อสูง

เตรียมที่จะฟาดมันลงมา มีนทำได้แค่หลับตาลงรอรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่แต่เนิ่นนานราวกับชั่วกัลป์ในความนึกคิด ความเจ็บปวดที่รอรับ

ยังไม่มาถึง หญิงสาวจึงค่อยๆ ปรือตามอง ก่อนที่จะเบิกกว้างเมื่อเห็นท่าทางของศรุต


มือที่เตรียมจะฟาดลงมาเงื้อค้างอยู่กลางอากาศ แล้วค่อยๆ กำมือลงอย่างคนที่อดกลั้น

ต่อแรงโทสะ ศรุตมองหน้ามีนด้วยสายตาที่เขาไม่เคยมอบให้กับผู้ใด


เจ็บ…


นี่คือคำที่น่าจะอธิบายความรู้สึกของมีนได้ดีที่สุดในขณะนี้ เมื่อได้สบตากับศรุต

เธออยากให้ผู้ชายตรงหน้าทำร้ายร่างกายให้เธอตายไปเสียดีกว่าที่จะมองมาด้วยสายตาเยี่ยงนี้

และยิ่งเมื่อร่างสูงหันหลังให้เธอในวินาทีต่อมา มีนยิ่งเจ็บจนแทบจะกรีดร้อง แต่สิ่งที่หลุดออกมา

จากปากมีเพียงเสียงอุทานบางเบาอย่างคนที่ไร้เรี่ยวแรง


“พี่เอก มีนไม่ได้…”


“ไปซะ”


เขาพูดทั้งที่ยังหันหลัง


“พาคนของคุณกลับไปก่อนที่ผมจะหมดความอดทน”


ศรุตหันมามองอีกครั้งด้วยสายตาที่เย็นชา


“อย่าให้ผมต้องรู้สึกรังเกียจคุณมากไปกว่าที่เป็นอยู่เลย”


มีนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หญิงสาวปล่อยโฮอย่างไม่อาย ดวงตาคู่นั้นมองศรุตด้วยความเจ็บช้ำ

ก่อนที่เธอจะหันหลังกลับและก้าวซมซานออกไปด้านนอกพร้อมทั้งร่างกำยำทั้งสอง

ที่รีบฝืนลุกแล้ววิ่งตามผู้เป็นเจ้านายอย่างรวดเร็ว



ทันทีที่คนบุกรุกทั้งหมดเดินลับออกจากร้านขายต้นไม้ ศรุตเพิ่งจะได้มีเวลาสบตากับธนัท

ด้วยความห่วงใย แล้วทั้งสองก็โผเข้ากอดกันแนบแน่นอย่างเต็มตื้นในความรู้สึก

ธนัทรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นที่สุดที่เขาสามารถรักษาความเชื่อมั่นในตัวคนที่เขารักไว้ได้

และศรุตเองก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาต้องเผชิญกับภาวะกดดันตามลำพัง

ศรุตยกมือขึ้นลูบผมธนัทแผ่วเบา พลางพูดปลุกปลอบที่ข้างหู


“ไม่เป็นไรแล้วนะนัท ไม่เป็นไรแล้ว”


คำพูดอย่างอ่อนโยนยิ่งทำให้ธนัทรู้สึกรักในตัวของศรุตท่วมท้นจนน้ำตาไหลออกมา

อย่างตื้นตัน เขายิ่งกอดรัดซุกหน้ากับบ่ากว้างจนเสื้อของศรุตชุ่มไปด้วยน้ำตา


“คือ...ขอโทษนะ ไม่ได้ขัดจังหวะหรอก แต่หยุดสวีทแป๊บนึงได้ไหม อิจฉาว่ะ”


เสียงของภามที่หลบมุมยืนดูเหตุการณ์อยู่ดังขึ้นมา ศรุตและธนัทจึงได้ชะงัก

ก่อนที่หนุ่มน้อยจะหัวเราะเบาๆ แล้วผลักร่างของศรุตที่ยืนหน้าบูดออกให้พ้นตัว

ศรุตหันไปมองหน้าภามแล้วขมวดคิ้ว


“แล้วใครใช้ให้มายืนมอง ไม่อยากมองก็หลบไปทางอื่นสิ”


“อ้าว คุณเอก”


ภามยกมือขึ้นเท้าเอวด้วยความเคือง


“ก็คุณกับไอ้นัทมายืนกอดกันอยู่กลางร้านนี่ จะให้ผมดำดินหนีไปหรือไงมิทราบ

โห นี่ผมเป็นผู้มีพระคุณนะ ถ้าผมไม่โทรหาคุณไอ้นัทของคุณแย่แน่”


ศรุตขยับปากจะเถียง แต่ธนัทเกาะแขนห้ามไว้


“พี่เอกอย่าว่าพี่ภามเลย จริงอย่างพี่ภามว่าถ้าพี่ภามไม่โทรไปหาพี่เอกพวกเราทางนี้แย่แน่

ลำพังผมกับพี่ภามจะสู้อะไรพวกมันได้ ขอบคุณนะที่มาทัน”


ดวงตาคู่หวานมองคนรักด้วยสายตาลึกซึ้งอีกครั้ง และคราวนี้ภามที่ยืนมองอยู่ไม่ยอมทนอีกต่อไป


“โอ้ย ทนไม่ไหวแล้วโว้ย เห็นคนสวีทกันแล้วอิจฉา กลับดีกว่า ยิ่งอยู่ยิ่งคิดถึงแฟนโว้ย”


ร่างผอมแห้งโวยวายขึ้น แล้วก้าวฉับๆ ผ่านร่างทั้งคู่ ศรุตหัวเราะในลำคอก่อนที่จะตะโกน

เรียกให้ภามหันกลับมา


“คุณภาม ยังไงก็ต้องขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณนัทคงแย่อย่างที่คุณพูดนั่นแหละ”


ภามพึมพำรับรู้ก่อนเดินออกไปนอกร้าน ทิ้งไว้เพียงศรุตและธนัทให้อยู่กันเพียงลำพัง

ศรุตดึงร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง เขายกนิ้วขึ้นไล้ที่หน้าเนียนแผ่วเบา


“ไม่เป็นไรนะนัท”


ธนัทส่ายหน้ายิ้มรับคำถามที่ห่วงใยนั้น ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากขึ้นรับจุมพิตอ่อนโยนที่ศรุตมอบให้

ศรุตซุกไซ้ความหวานอยู่เป็นครู่ใหญ่แล้วจึงถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง เขาหันไปมองสภาพโดยรอบ

ก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็นต้นไม้ภายในเรือนกระจกระเนระนาดไปหมด


“พังหมดเลยนัท ข้างนอกก็เละเลยนะ”


เขาพึมพำอย่างเสียดาย ธนัทเองเมื่อหันไปมองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ


“ไม่เป็นไรครับพี่เอก ค่อยๆเก็บของที่แตกทิ้งไป แล้วผมจัดการเปลี่ยนกระถางต้นไม้เอง”


ศรุตยิ้มให้ธนัท


“งั้นพี่ช่วย เราสองคนช่วยกันพักเดียวก็เสร็จเนอะ ไปทำด้านนอกก่อนดีกว่าแล้วค่อยมาในเรือนกระจกต่อ”


เป็นอีกครั้งที่ธนัทมองศรุตด้วยความรักลึกซึ้งก่อนที่จะเกี่ยวแขนคนที่เขารักจนสุดหัวใจออกไปที่ร้านต้นไม้





ทั้งสองช่วยกันทำความสะอาด แยกต้นไม้ใส่กระถางใหม่ในร้านต้นไม้และเข้ามาจัดการต่อในเรือนกระจก

ตั้งแต่บ่ายคล้อยจนความมืดเข้าปกคลุม ก่อนที่ร่างสูงของทั้งคู่จะหันหลังชนกันแล้วทรุดลงนั่งเหยียดขา

กลางเรือนกระจกอย่างเหน็ดเหนื่อย


ศรุตถอนหายใจดังๆ แล้วใช้มือทุบไปตามท่อนขาเบาๆขับไล่ความเมื่อยขบ จนธนัทหัวเราะขำ


“เหนื่อยเหรอพี่เอก ผมนวดให้นะ”


ธนัทหันหน้ามาเพื่อใช้มือนวดที่บ่ากว้าง ศรุตอมยิ้มเมื่อเงยหน้าขึ้นเพราะความสบายเขามองเห็น

ดวงจันทร์ขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่งผ่านหลังคาเรือนกระจก เขาจึงเรียกธนัทเบาๆ


“นัท ปิดไฟที่เรือนกระจกหน่อยสิ”


หนุ่มน้อยงงที่ศรุตขอแต่ก็เอ่ยคำสั่งปิดไฟ จนเรือนกระจกอยู่ในความมืด


“ให้ปิดไฟทำไมล่ะพี่เอก มองไม่เห็นอะไรเลย”


ศรุตยกนิ้วขึ้นปิดริมฝีปากเป็นเชิงห้าม เขาชี้ชวนให้คนรักเงยหน้าไปด้านบน


“ใครบอกไม่เห็นอะไรล่ะ โน่นไงบนท้องฟ้านัทไม่เห็นเหรอ วันนี้ดวงจันทร์เต็มดวงนะ”


ธนัทเงยหน้าขึ้นมองตามที่ศรุตกล่าว จริงอย่างที่ว่า ดวงจันทร์เต็มดวงกำลังเริ่มปรากฏกาย

อยู่ที่ริมขอบฟ้า แสงสว่างสดใสไร้ซึ่งเมฆบดบังข่มแสงดาวจนไม่เหลือความหมาย

ความงดงามของภาพที่เห็นทำให้หนุ่มน้อยคลี่ยิ้มอย่างหลงใหล


ศรุตละสายตาจากความงดงามของแสงจันทร์แล้วกลับมาให้ความสนใจกับธนัท

นี่ต่างหากที่น่าหลงใหลยิ่งกว่าดวงจันทร์บนฟ้า หน้าเรียวยาวได้รูป ดวงตาดำสนิทที่ใสราวกับนิลเนื้อดี

รับกับจมูกโด่งคมและริมฝีปากอิ่มเย้ายวนที่เขาสัมผัสได้ไม่รู้เบื่อ

เขารั้งร่างบางให้หงายลงไปกับพื้น แล้วเขาก็ล้มตัวตามไปนอนหงายอยู่เคียงข้างอย่างไม่รังเกียจที่เป็น

พื้นดิน


“นอนดูดวงจันทร์กันดีกว่านะ”


ศรุตกุมมือธนัทไว้พลางมองไปบนฟ้า สลับกับใบหน้าหวานของธนัท

แสงจันทร์ที่เริ่มเดินทางสูงขึ้นไปสู่กลางฟ้า ส่องแสงสุกสกาวผ่านเพดานเรือนกระจกลงมา

กระทบกับเสี้ยวหน้าบางส่วน ยิ่งทำให้ธนัทดูมีเสน่ห์จนศรุตอดใจไม่อยู่ เขาพลิกตัวอย่างรวดเร็ว

ขึ้นไปทาบทับร่างของธนัท ปลายนิ้วจับกระชับที่ปลายคาง ก่อนส่งริมฝีปากไปปิดแนบแล้วส่งปลายลิ้น

กวาดทั่วช่องปาก มือหนาวางเปะปะไปที่เอวคอด ศรุตครางลึกในคอ เขาปรารถนาในตัวธนัท

เกินกว่าจะหักห้ามใจได้!


ปลายลิ้นร้อนถอนออกมาช้าๆ เขาไล่ตามขบเม้มที่ปากนุ่มเบาๆ


“นัท พี่เคยบอกว่าพี่ชอบนัท จำได้ไหม”


เขากระซิบที่ข้างหูน้ำเสียงสั่นไหว


“ถ้าวันนี้พี่จะบอกว่าพี่รักนัทมาก นัทจะเชื่อพี่หรือเปล่า”


ธนัทหลับตาลง เพื่อระงับอาการเต้นถี่ของหัวใจ

คำนี้ ความรู้สึกนี้สินะ ที่เขารอมาเนิ่นนานและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา

ความรู้สึกที่มีคือความสุขที่อัดแน่นและท่วมท้นอยู่ในหัวใจ ความรู้สึกที่เขายอมแลกทุกอย่าง

เพื่อให้ได้มันมา แล้วตอนนี้เขาได้มาอย่างสมบูรณ์



“แล้วถ้าตอนนี้ พี่จะบอกนัทอีกอย่างว่า พี่ต้องการนัทมากที่สุด นัทจะว่ายังไง”




TBC

 :n1: :n1:








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2015 21:02:29 โดย Belove »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
บรรยากาศจะพาให้นัทเคลิ้มตามพี่เอกไปได้ไหมน้อ~ :-[

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อย่าว่านัท คนอ่านยังเคลิ้มตามเลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
แหมๆๆ ครั้งแรกจะรักกันกลางดินเลยรึ พื้นดินมันแข็งนะพี่เอกเดี๋ยวนัทเจ็บหลัง :z1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คิดไปไกลตั้งแต่ให้นัทปิดไฟละ 5555

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โคตรตัดอ่ะ =_=
ค้างขั้นสุดดด
หมั่นไส้พี่เอก กรั่กๆๆ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                          Heart

                    หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                         บทที่ 20



แสงจ้าสีขาวจากไฟกลางห้องส่องสว่างปลุกมีนขึ้นจากความมึนงง

หญิงสาวสะบัดศีรษะขับไล่มันออกไปแล้วปรือตามองสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ห้องเล็กทาสีขาวจนแสบตา หญิงสาวเห็นถุงใสบรรจุสารละลายใสเหมือนน้ำเปล่า

และอีกถุงเป็นโลหิตสีแดงฉาน ต่ออยู่กับข้อมือข้างหนึ่งของเธอที่ถูกแทงไว้ด้วยเข็มพลาสติก


เกิดอะไรขึ้นกับเธอ มีนนิ่วหน้าเมื่อความเจ็บปวดที่ข้อมืออีกข้างมาเยือน

หญิงสาวยกมืออีกข้างขึ้นก็เห็นว่าถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลเนื้อหนา

เมื่อเหลือบตาไปด้านข้างของเตียงที่นอนอยู่ มีนก็ต้องตกใจที่เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่


นายแพทย์ชินวุฒินั่นเองที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไร

ให้นายแพทย์หนุ่มคนนี้ไม่พอใจ และเมื่อเห็นมีนลืมตาตื่นชินวุฒิก็เดินเข้ามาแล้วเอ่ยเสียงเข้ม


“ตื่นแล้วหรือ คนไม่รักดี”


มีนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำบริภาษจากปากของชินวุฒิ หญิงสาวยกปลายนิ้วมาบีบขมับ

ก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยความมึนงง


“หมอต่อว่ามีนทำไมคะ มีนไปทำอะไรให้หมอไม่พอใจ”


“ยังจะต้องถามอีกหรือ ลองนึกทบทวนดูสิว่าอะไรทำให้คุณต้องมานอนให้ผมรักษา

อยู่ที่โรงพยาบาลนี่”


ขอบตาที่ยังมีร่องรอยแดงช้ำปิดลงเมื่อมีนย้อนคิดไปถึงตอนที่ซมซานกลับมาถึงบ้าน

หลังจากที่ผิดหวังและเสียใจจากการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยของศรุต

ยิ่งต้องอยู่คนเดียวในห้องส่วนตัวหญิงสาวก็ยิ่งฟุ้งซ่าน จนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ครั้งใหญ่ออกมาอีกครั้ง


ชีวิตของเธอที่ตลอดมาต้องอยู่ในโลกมืดและกับการเฉียดตายมาแล้ว

มีนอุทิศทั้งหมดให้แก่เฮอคิวลิสที่ช่วยเธอไว้ เมื่อมีนไม่ได้สิ่งที่หวัง มันก็ไม่จำเป็นที่ต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!

ดวงตาช้ำเหลือบแลไปเห็นแก้วน้ำทรงสวยที่วางอยู่บนโต๊ะตัวน้อยภายในห้องนอน

ร่างบางก้าวไปหยิบมันขึ้นมาแล้วฟาดลงกับขอบโต๊ะจนแก้วบางแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

เหลือเพียงเศษที่แตกเป็นปากฉลามในมือ มีนนำมันมาแนบกับข้อมือบางตรงตำแหน่งที่เส้นเลือดพาดผ่าน


ถ้าเธอหมดลมหายใจ อย่างน้อยเธออาจจะยังคงสร้างเยื่อใยบางเบาไว้ในความทรงจำของศรุต


เศษแก้วที่แนบเนื้อถูกกดลงจนบาดลึกแล้วกรีดลงมาตามข้อมือ เลือดสีแดงเข้มพุ่งทะลักจากบาดแผล

มีนโยนเศษแก้วทิ้งแล้วใช้มือนั้นไปกุมบาดแผลอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งปล่อยให้น้ำตา

หลั่งรินไปพร้อมโลหิตที่กองเต็มพื้น


หญิงสาวหัวใจสั่นหวิวเหงื่อออกท่วมตัว เลือดที่สูญเสียจำนวนมากทำให้มีนเกิดอาการคลื่นไส้

ดวงตาเริ่มพร่ามัว ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับไปเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะดังขึ้น

ก่อนที่สติจะดับวูบเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่บ้านที่เปิดประตูเข้ามาเห็นภาพเจ้านายนอนจมกองเลือด

เปลือกตาที่ปิดอยู่ค่อยๆ กระพริบเมื่อหญิงสาวลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

และเมื่อดวงตาเปิดออกเต็มที่มีนก็หันไปมองนายแพทย์หนุ่มที่ยืนข้างเตียง


“ชีวิตของมีนมันไม่จำเป็นอีกต่อไป หมอไม่จำเป็นต้องช่วยมีน”


ดวงตาของนายแพทย์หนุ่มคุโชนเมื่อได้ยินคำพูดอย่างคนถือดีของมีน

เขาคว้าข้อมือข้างที่บาดเจ็บของหญิงสาวขึ้นมากำไว้แน่นจนมีนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด


“คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกับร่างกายที่ผมต้องเสียเวลารักษาจนหายดี”


ชินวุฒิตะคอกจนมีนตกใจ


“ผมเป็นคนที่รักษาคุณและอยู่กับคุณตลอดเวลาที่คุณยังเจ็บป่วยอยู่ในชื่อของเฮอคิวลิส

แทนเพื่อนของผมที่คุณเฝ้าบูชานักหนา คุณรอดมาได้เพราะผม เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์

ที่จะทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยความงี่เง่าของคุณ”


หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดที่ยืดยาวของชินวุฒิ


“นี่หมอรักษามีนจริงๆหรือคะ ไม่ใช่ว่าพี่เอกหลอกมีนให้เลิกสนใจหรอกหรือ”


ชินวุฒิมองใบหน้างดงามของมีนด้วยความหมางเมิน


“ไม่นึกเลยว่าคนอย่างคุณที่ผมเฝ้าชื่นชมจะหลงมัวเมาจนไร้เหตุผล บางครั้งหน้าตา

ที่งดงามก็ไม่ได้บ่งบอกว่าระดับสติปัญญาและคุณความดีจะงดงามตามหน้าตา”


“หมอ…”


มีนครางเสียงแผ่วเมื่อได้ยินคำต่อว่าตรงไปตรงมาจากผู้ชายตรงหน้า

ดวงตาที่แห้งเหือดกลับมาชื้นอีกครั้งเมื่อสำนึกได้ถึงสิ่งที่เธอได้ทำ


“ระหว่างที่รักษาตัวที่นี่ก็ลองคิดทบทวนเองก็แล้วกัน ว่าทั้งหมดที่ทำไปมันถูกต้องหรือเปล่า

ถ้าคุณยังพอที่จะหลงเหลือความฉลาดอยู่บ้างก็คงจะคิดได้เอง”


นายแพทย์ชินวุฒิมองมีนอย่างผิดหวังแล้วกลับหลังหันก้าวเดินออกไปจากห้อง

เหลือทิ้งไว้เพียงร่างบางของมีน ที่ปล่อยโฮเมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบลง





“แล้วถ้าตอนนี้ พี่จะบอกนัทอีกอย่างว่า พี่ต้องการนัทมากที่สุด นัทจะว่ายังไง”


เสียงสั่นพริ้วที่กระซิบข้างๆหู ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ

ภาพหนุ่มวัยรุ่นที่เขาเฝ้าแอบมองตั้งแต่วัยเด็ก และยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดคำนึง

จนกระทั่งพรหมลิขิตชักนำให้ได้มาพบเจอกันอีกครั้งวิ่งผ่านเข้ามาในหัว

ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง วันที่เขามั่นใจได้ว่าหัวใจของเขาและศรุตต่างก็มีความรัก

ให้แก่กันและกัน


ร่างบางของหนุ่มน้อยสั่นสะท้านเมื่อมือหนาของศรุตสอดเข้าไปในเสื้อยืด

ตัวบางแล้ววางแนบไปกับผิวหนัง เขาไม่รู้ว่าศรุตจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าตลอดเวลาที่เริ่มเรียนรู้

ความรู้สึกซึ่งกัน เขาเองก็ต้องหักห้ามใจแค่ไหนกับสัมผัสใกล้ชิด


“ผมไม่ได้รังเกียจที่จะเป็นของพี่เอก แต่ผมมีความจำเป็นจริงๆที่ยังเป็นไม่ได้ตอนนี้

ขอเวลาอีกสักนิดแล้วผมจะเป็นของพี่ทั้งตัวและหัวใจ”


นี่คือคำผัดผ่อนที่ธนัทใช้อ้างเวลาที่ต้องปฏิเสธ แม้ตัวเขาเองอ่อนไหวไปกับแรงกระตุ้นตามธรรมชาติ

ของร่างกายและหัวใจ เพราะธนัทรู้ดีว่ายังไม่ถึงเวลาแต่กับเหตุการณ์ในวันนี้ที่เขาได้พิสูจน์ความรักของศรุต

คนที่เคยปฏิเสธมันตลอดมา ว่าในตอนนี้ผู้ชายคนที่นอนทาบทับร่างของเขาไว้ ก็มีหัวใจที่รักเขา

ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน


แล้วยิ่งเมื่อศรุตบรรจงจูบเบาๆ ที่ซอกคออย่างอ่อนโยน ธนัทก็ยิ่งรู้สึกหัวใจพองฟูร่างกายเบาหวิว

จนแทบจะลืมไปว่าร่างบางถูกบดเบียดอยู่บนพื้นดินที่แข็งกระด้าง


แสงจันทร์ส่องสว่างอยู่กลางฟ้าแล้วในตอนนี้ แสงนวลพุ่งตรงลงมาทำให้ใบหน้าของศรุตที่นอนคว่ำ

ทับอยู่บนร่างเขาเกิดเป็นเงาที่น่าหลงใหล หนุ่มน้อยอดใจไม่อยู่ที่จะเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้านั้น

แล้วยกศีรษะเพื่อไปบดแนบริมฝีปากของศรุต จมูกโด่งของทั้งคู่เอียงออกจากกันเพื่อให้จุมพิตนั้นแนบแน่น

ธนัทวางมืออุ่นไว้ตรงบั้นเอวของศรุตกดรั้งเข้าหาตัวเมื่อรู้สึกถึงการตอบสนองของร่างกายตัวเอง

เวลาที่เขาเคยประวิงไว้ คงไม่มีตอนไหนที่จะเหมาะสมเท่าตอนนี้


ธนัทพร้อมที่จะยกให้ศรุตทั้งตัวและหัวใจ


หรือ..แม้กระทั่งชีวิต เขาก็ยอมได้ เพื่อศรุต..


ต้นขาแกร่งที่บดเบียดลงมากระตุ้นให้หัวใจสูบฉีด ธนัทคลายริมฝีปากออกจากจุมพิตที่เรียกร้อง


แล้วกระซิบตอบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงพริ้วไหวไม่แพ้กัน


“ผมจะว่าอะไรได้ ในเมื่อผมก็ต้องการพี่เอกเหมือนกัน”




TBC



 :o8: :o8:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 20:47:54 โดย Belove »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จิกหมอนรออออออ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                           Heart

                    หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                        บทที่ 21



ศรุตยิ้มรับคำตอบนั้นด้วยความลิงโลดในใจ ในที่สุดการรอคอยของเขาก็สิ้นสุดลง


เมื่อยอมรับจิตใจตนเองได้ว่าคิดอย่างไรกับหนุ่มน้อยที่เขานอบทาบทับอยู่

เขาก็บอกตัวเองได้เลยว่าเขาอยากเป็นเจ้าของธนัททั้งตัวและหัวใจ

ศรุตไม่รู้เหตุผลว่าทำไมธนัทต้องประวิงเวลาไว้  ในเมื่อยุคนี้การมีความสัมพันธ์ทางกาย

กับคนรักเป็นเรื่องปกติที่พึงแสดงออก แต่เมื่อคนที่เขารักขอเวลาไว้ศรุตก็ไม่ขัดข้องแม้

จะต้องหักห้ามใจเป็นอย่างมาก


แต่วันนี้ ตอนนี้ เวลาที่เหมาะสมมาถึงแล้ว เขาอยากจะทำทุกอย่างให้ธนัทได้รับรู้ว่า

เขารักธนัทเพียงใดศรุตก้มหน้าลงไปจูบที่หน้าผากเกลี้ยงของธนัทแผ่วเบา

ปลายนิ้วลูบไล้ไปที่โครงหน้าเรียว


“พี่รักนัทนะ พี่จะทำทุกอย่างให้นัทได้รับรู้ถึงคำว่ารักจากพี่”


เขากระซิบเพียงแผ่วเบาแต่ธนัทก็ได้ยินชัดเจน หนุ่มน้อยตอบรับด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน


“ผมรออยู่”


คำกระซิบตอบสั้นๆ จากเสียงนุ่ม กระชากความอดทนของศรุตจนขาดสะบั้น


เขาก้มหน้าลงแล้วครอบครองริมฝีปากอิ่มของธนัทไว้ด้วยปากของเขา ปลายลิ้นร้อนไม่รอช้า

ดุนจนช่องปากนั้นเปิดออกก่อนที่ศรุตจะส่งมันเข้าไปวาดลวดลายราวกับชักชวนให้หนุ่มน้อยเต้นรำ

จังหวะรักไปพร้อมกับเขา


ธนัทแทบจะขาดใจกับจูบที่เรียกร้องเร่าร้อนอย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ถึงแม้ว่าจะเคยจูบกับศรุตบ่อยครั้ง

แต่ไม่มีครั้งใดที่เขาจะรู้สึกหลงวนเข้าไปกับแรงปรารถนาของศรุตมากเท่าครั้งนี้

มือหนาที่ยังคงวางแนบเนื้อเริ่มเคลื่อนที่สอดรั้งลึกดึงให้เสื้อยืดสแปนเด็กซ์เนื้อดีขยับสูงขึ้นผ่านหน้าอก

แล้วศรุตก็ดึงมันผ่านศีรษะของหนุ่มน้อยอย่างง่ายดาย เมื่อธนัทแอ่นกายรับสัมผัสจากริมฝีปากที่เลื่อนลงต่ำ

ไปสู่ยอดอกที่พุ่งชัน


ทันทีที่ศรุตเม้มไปที่ติ่งเล็กบนยอดอกเบาๆ ธนัทก็ผวาเฮือกใช้สองมือกอบกุมเส้นผมของศรุตเป็นหลักยึด

อย่างคนที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ ร่างกายยิ่งสั่นสะท้านตอบรับเมื่อศรุตเลื่อนตัวต่ำลงเรื่อยๆจนกระทั่ง

เขาหยุดริมฝีปากและขบเบาๆที่หน้าท้องแบนราบ รอยแดงแสดงความเป็นเจ้าของเกิดขึ้นไล่เรื่อยไปทุกจุด

ตั้งแต่ต้นคอลงมา


กางเกงผ้าสังเคราะห์เนื้อดีของธนัทถูกดึงลงจากสะโพกช้าๆ ด้วยฝีมือของศรุต

เขาดึงมันจนหลุดออกจากท่อนขาเรียวเล็กก่อนที่เขาจะเหวี่ยงมันไปอีกทาง

ใช้เวลาเพียงไม่นานศรุตก็คุกเข่ามองร่างเปลือยเปล่าที่ขาวโพลนอยู่ในความมืด

มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่อาบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างหลงใหล


ธนัทร้อนซู่ไปทั่วใบหน้าเมื่อเห็นสายตาคู่นั้น เขาเอื้อมมือไปปิดจุดสงวนอย่างเก้อเขิน

จนศรุตอมยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วจึงดึงมือบางให้พ้นการเกาะกุม


“นัทครับ จะปิดทำไม รู้ไหมว่าตอนนี้ พี่แทบจะทนไม่ไหวที่เห็นนัทแบบนี้”


หนุ่มน้อยหน้าแดงในความมืด เขาร้องอุทธรณ์เสียงเบาหวิว


“พี่เอกก็อย่าจ้องอย่างนี้สิครับ ผมอายนะ อุ๊บส์...”


เสียงนุ่มขาดหาย เพราะเจ้าตัวสะดุ้งอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อศรุตก้มตัวลงแล้วจับจุดอ่อนไหว

ของหนุ่มน้อยส่งเข้าไปในปากก่อนที่จะโยกหัวขึ้นลง ปลายลิ้นโลมเลียอย่างสนุกสนาน

ราวกับพบของเล่นแปลกใหม่ ธนัทครางลึกๆ อยู่ในอก กล้ามเนื้อสั่นระริกต้นขาเกร็งจนต้องยกมัน

ขึ้นมาเกี่ยวไว้กับลำตัวของศรุต


ศรุตปล่อยให้ธนัทเป็นอิสระชั่วครู่เมื่อเขาหันมาจัดการถอดเสื้อผ้าตนเองอย่างรวดเร็ว

เวลาเพียงไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เปลือยเปล่าตระหง่านอยู่เหนือร่างบางอย่างยุติธรรม

ธนัทเบิกตากว้างมองร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะเบาๆ

ที่แผ่นอกกว้างอย่างหลงใหล


ศรุตยิ้มรับอย่างพอใจก่อนที่เขาจะดึงมือของธนัทให้เปลี่ยนที่หมายมาเกาะกุมอยู่ที่ท่อนเนื้อ

ร้อนรุมของเขาบ้าง

เขาสอนให้ธนัทบีบเคล้นนวดคลึงจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นปล่อยเสียงครางลึกเมื่อส่วนนั้น

ขยายขนาดตอบรับใหญ่โตอยู่ในอุ้งมือของธนัท


ศรุตใช้มือดันขาหนุ่มน้อยให้กว้างออก ปล่อยมือที่เกาะกุมมือของธนัทแล้วใช้มันแตะต้องเบาๆเป็นการทักทาย

กับช่องทางลับที่ยังไม่มีใครบุกเบิกก่อนที่จะส่งปลายนิ้วเข้าไป ดวงตาดำขลับของธนัทเบิกกว้าง

กับความรู้สึกเจ็บแปลบ หัวใจเต้นรัวราวกับมีกลองใบใหญ่ไปตีอยู่ข้างใน


นี่ขนาดเป็นแค่ปลายนิ้ว แล้วถ้าหากเป็น…


“พี่เอก ผมกลัว”


ธนัทร้องอุทานแผ่วเบา ศรุตลูบผมคนรักอย่างปลอบประโลม


“ไม่ต้องกลัวนะ เชื่อมั่นในตัวพี่แล้วเราจะมีความสุขด้วยกัน”


เขายิ้มให้ธนัทอีกครั้ง


“หัวใจของพี่มีแค่ดวงเดียวแล้วตอนนี้พี่มอบให้นัทไปแล้ว รักษามันไว้ให้ดี ให้แล้วให้เลยไม่เอาคืน”


เมื่อจบคำบอกรักศรุตก็ดันร่างเข้าไป ธนัทผวา หนุ่มน้อยใช้ขากอดเกี่ยวตัวของศรุตไว้แน่นโดยอัตโนมัติ

ความเจ็บปวดที่เขาอธิบายไม่ได้เกิดขึ้นมาจนร่างกายผวาเกร็งค้าง

ศรุตส่งริมฝีปากไปบดเบียดปลอบโยนอีกครั้ง เขาขยับขาของธนัทให้กว้างขึ้นอีกนิดพร้อมขยับแทรกกาย

เข้าไปทีละน้อย  ปลายลิ้นที่คลุกเคล้าทำให้เสียงร้องของธนัทมีแค่เสียงอึกอักในลำคอ จนกระทั่งเขาค่อยๆ

เคลื่อนกายที่แข็งแกร่งของเขาไปจนมิด ร่างที่สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดจึงค่อยบรรเทาลง


“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมที่รัก หายเจ็บหรือยัง”


ศรุตพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นเมื่อเอ่ยปากถาม ความคับแน่นตอดรัดในช่องทางสู่สวรรค์กำลังโอบล้อม

จนเขาเองก็ต้องเกร็งกายเข้าสู้ ธนัทสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อพยักหน้ารับ


“อา...ดีครับ ดี ฮึก ทำไมมันเสียวแบบนี้นะ”


ศรุตถอนหายใจแผ่วเบาเมื่อรู้สึกถึงความรัดรึงภายใน


“งั้นถึงเวลาที่พี่จะทำให้นัทมีความสุขแล้วนะ”


ศรุตไม่รอช้า เขายกสะโพกแน่นของธนัทให้สูงขึ้นแล้วให้ต้นขาของเขาช่วยผ่อนแรง

ก่อนที่ศรุตจะเริ่มขยับตัวเคลื่อนที่ช้าๆ


“อ๊า...”


ธนัทร้องออกมาเมื่อความเจ็บแปลบแทรกซึมมาอีกครั้งในขณะที่ศรุตขยับสะโพก

แต่เมื่อเขายกเอวขึ้นรับการสอดประสานให้เข้าที่ ความเจ็บปวดนั้นจึงคลายลงและจางหายไป

แทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ธนัทไม่ค่อยมีมาก่อน



ธนัทหลับตาลง จินตนาการที่เคยมีเมื่อร่างกายเกิดแรงปรารถนาเทียบไม่ได้กับความจริงที่เกิดขึ้น

ยิ่งเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นครั้งแรกกับคนที่เขารักความปรีดาเอ่อล้นอยู่ในใจ หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

ร่างกายของเขาตอบสนองต่อการขยับเขยื้อนเป็นจังหวะของศรุต หัวสมองของเขาว่างโล่งเบาหวิวยิ่งกว่า

ขนนกที่ล่องลอยไปตามสายลม


ศรุตเอื้อมมือมาบีบเค้นที่ยอดอก เขายิ่งมีปฏิกิริยาโดยการแอ่นตัวเหยียดกายเป็นการตอบรับโดยสัญชาตญาณ

สองขาของเขายิ่งเกี่ยวกระหวัดรัดแน่นอยู่รอบตัวกระตุ้นให้ศรุตยิ่งฮึกเหิม

ศรุตใช้สองแขนโอบไปรอบลำตัวของธนัทแล้วรั้งให้ร่างบางลอยขึ้นมาจากพื้นดินแข็งกระด้าง

มานั่งอยู่บนต้นขาแกร่งของเขา สองมือเลื่อนลงมาที่สะโพกของหนุ่มน้อยบังคับให้ธนัทเลื่อนตัว

ขึ้นลงเป็นจังหวะสอดคล้องกับการเร่งจังหวะรัวเร็ว


ธนัทเรียนรู้อย่างรวดเร็วเขาใช้สองแขนกอดรัดรอบศีรษะของศรุตเป็นหลักยึดพลางซุกหน้าลงกับ

เส้นผมดำละเอียด จับจังหวะการเคลื่อนที่ของศรุตจนแม่นยำแล้วหนุ่มน้อยก็ทำได้อย่างใจต้องการ


“เสียวมากครับนัท ซี้ด เก่งที่สุด”


“อื้ออ พี่เอกครับ ตรงนั้น อ๊ะ อ๊า...”


ใบหน้าของฝังแน่นอยู่กับแผ่นอกของธนัท เขาครางลึกเสียงกระเส่าอยู่ในลำคอเมื่อลูกศิษย์เรียนรู้ได้ดั่งใจ

กล้ามเนื้อที่ตอดรัดมากขึ้นทำให้ศรุตแทบจะอดทนต่อไปไม่ไหว เขายิ่งเร่งจังหวะสอดใส่เข้าไปจนสุดตัว

และเร็วมากขึ้น


“โอ้... พี่เอก ผม…ผมจะทนไม่ไหวแล้ว”


ธนัทเงยหน้าขึ้นร้องครางเสียงดังเมื่อรู้สึกถึงการตอดรัดคับแน่นของร่างกายตัวเอง

หัวใจดวงน้อยเต้นไหวระรัว จนเขาต้องอ้าปากเพื่อสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ


“พี่ก็เกินจะทนแล้ว นัทสุดที่รัก”


ศรุตเองก็อดกลั้นต่อไปไม่ได้ เขาพึมพำบอกรักธนัทไม่เป็นภาษาพลางขยับสะโพกขึ้นลงเร่งจังหวะสุดท้าย

ธนัทอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง หยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่ออยู่ๆกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายก็เกร็งค้าง

ยิ่งโดยเฉพาะส่วนล่างที่บีบรัดแน่นอย่างที่เขาควบคุมมันไม่ได้จนต้องปลดปล่อยออกมา

พร้อมๆกับที่ศรุตเองก็ต้องหลุดเสียงครางเมื่อทุกอย่างระเบิดออกภายในร่างของหนุ่มน้อย



น้ำตาจากความสุขไหลรินออกจากหางตาของธนัทเมื่อคนที่เขารักอย่างศรุตพาเขาล่วงล้ำไปถึงสรวงสวรรค์

อย่างที่เขาไม่เคยพบพานมาก่อน



TBC

 :กอด1: :กอด1:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 21:30:43 โดย Belove »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
อัพบทที่ 21 ไปตั้งแต่เมื่อวานนะคะ เผื่อใครไม่ทราบค่ะ
 :pig2: :pig2:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไม่คิดบ้างเลยนะมีนว่ากว่าที่ตัวเองจะรอดมาใช้ชีวิตได้ปกติอย่างทุกวันนี้เนี่ย ตัวเองต้องทนทรมานมามากมายเท่าไร แล้วไหนจะคุณพ่อที่ห่วงแสนห่วงลูกอย่างมีนอีกล่ะคะ เอาท่านไปไว้ไหนเสียแล้ว ทำอะไรไม่เข้าท่า..

ส่วนพี่เอกกับน้องนัท งื้อออ~~ ทั้งสองคนทำเอาเราเขินเลยนะคะเนี่ย :-[

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โอ้วว ช่างร้อนแรงซะจริง -.,-

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                           Heart

                    หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                        บทที่ 22



ศรุตซุกหน้าลงกับอกของธนัทแล้วกอดร่างนุ่มนั้นไว้อย่างมีความสุข

ประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาทุกครั้งไม่มีความหมายเมื่อความสุขครั้งนี้

เกิดขึ้นกับคนที่เขายอมรับกับตัวเองว่าเขารักจนสุดหัวใจ ยิ่งทำให้ความอิ่มเอมเอ่อล้นอยู่ในความรู้สึก


ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ธนัทพ้นไปจากชีวิต เขารักธนัทและจะดูแลกันไปจนวาระสุดท้าย

ศรุตสัญญากับตัวเอง


เขาถอนร่างกายที่แข็งแกร่งออกจากช่องทางรัดรึงอย่างอ่อนโยนพร้อมพรมจูบไปที่เนื้อเนียน

และแนบหน้าไปกับแผ่นอกของธนัท แต่แล้วศรุตก็ต้องชะงัก คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อศรุตเอะใจ

กับความผิดปกติที่เกิดขึ้น เขาค่อยๆดันร่างบางออกห่างแล้วมองเต็มตา


ไม่!

เกิดอะไรขึ้น?

ชายหนุ่มตะโกนคำรามก้องกับสิ่งที่เห็น


ธนัทในสภาพดวงตาเบิกค้าง ปากอ้ากว้างราวกับคนขาดอากาศ

และที่สำคัญ...หนุ่มน้อยหยุดหายใจ!


ศรุตพยายามควบคุมตั้งสติตนเอง เขาประคองให้ร่างของธนัทนอนราบลงกับพื้น

ตกใจเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เขายังไม่รู้สาเหตุ แต่เขาต้องรีบดึงสติกลับมาสู่ตัวให้เร็วที่สุด

เมื่อเห็นแล้วว่าทรวงอกของคนรักหยุดการเคลื่อนไหว


เอื้อมปลายนิ้วสั่นเทาไปวางที่ตำแหน่งชีพจรของเส้นเลือดใหญ่ตรงคอของธนัท นายแพทย์หนุ่มยังใจชื้น

ขึ้นมาบ้างเมื่อมันยังเต้นอยู่แม้จะแผ่วเบาจนแทบจะจับความแรงไม่ได้ ศรุตไม่รอช้าทุกวินาทีมีค่าที่จะยื้อชีวิต

ของธนัทกลับมา เขาคุกเข่าเคียงข้างร่างที่แน่นิ่งแล้ววางสองมือแนบไปบนกระดูกหน้าอกของหนุ่มน้อย

ลงมือปั๊มหัวใจ


หัวใจหล่นหายเมื่อยังไม่รู้สึกถึงการกลับคืนมา เหงื่อกาฬของศรุตไหลราวกับสายน้ำ


“นัทกลับมา กลับมาเดี๋ยวนี้”


ชายหนุ่มตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขารามือจากการปั๊มหัวใจใช้มือบีบที่จมูกโด่งของธนัทเพื่อเปิดริม

ฝีปากที่เคยแดงเรื่อแต่บัดนี้กลับซีดเขียวแล้วประกบริมฝีปากของเขาลงไปเพื่อเป่าอากาศเข้าสู่ระบบไหลเวียน

ศรุตใช้หลังมือป้ายน้ำตาของเขาที่ไหลออกมาลวกๆ แล้วลงมือปั๊มหัวใจต่ออย่างรวดเร็ว


ไม่...มันต้องไม่เป็นแบบนี้


เขาและธนัทเพิ่งจะมีความสุขไปด้วยกัน เขาจะไม่ยอมให้มัจจุราชมาพรากคนที่เขารักไปเด็ดขาด

ศรุตรวบรวมแรงกายทั้งหมดปั้มหัวใจของธนัทอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะกลับมาเต้น

ดวงตาคู่หวานยังคงลอยคว้าง อัตราการปั๊มหัวใจเริ่มช้าลงเมื่อศรุตกำลังจะหมดแรง

เขาโน้มตัวกอดร่างนิ่งนั้นไว้แน่น น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงเปื้อนแผ่นอก


“นัทหายใจสิ รักพี่ไม่ใช่หรือ เรารักกันใช่ไหม กลับมาหาพี่เดี๋ยวนี้นะ”


ศรุตคร่ำครวญ เขารวมรวมกำลังใจเฮือกสุดท้ายไว้ที่กำปั้นแล้วทุบมันไปที่ตำแหน่งของหัวใจ

วินาทีต่อมาที่ศรุตยกมือออก แผ่นอกเริ่มมีการขยับเคลื่อนไหว ชายหนุ่มคลี่ยิ้มได้เมื่อคลำชีพจรที่คอของธนัท

แล้วพบว่ามันเริ่มมีความแรงขึ้น ธนัทหายใจเข้าอย่างช้าๆ ดวงตาที่ลอยคว้างเริ่มมีโฟกัสตอบรับ

ศรุตคว้านาฬิกาข้อมือของเขาที่ถอดวางไว้ใกล้ๆขึ้นมา แล้วกดฟังค์ชั่นโทรศัพท์ไปหาชินวุฒิ


“ว่าไงไอ้เสือเอก”


เมื่อชินวุฒิตอบรับหน้าจอเรืองแสงปรากฏภาพ ศรุตรีบพูดอย่างรวดเร็ว


“ไอ้หมอเตรียมเตียงไว้ นัทเกิดฮาร์ทแอทแท็ค กูจะรีบพาไปโรงพยาบาล”


“เฮ้ย อะไรวะ เป็นไปได้ไง”


ชินวุฒิถามกลับด้วยความตกใจ ศรุตรีบตะโกนสวนกลับอย่างรีบเร่ง


“กูไม่รู้ อย่าเพิ่งถาม”


ศรุตรีบปิดโทรศัพท์แล้วคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหันมาสวมเสื้อผ้าให้ร่างบางที่ยังหายใจรวยริน

เขายกร่างนั้นมากอดแนบอก


“นัทต้องไม่เป็นอะไร ต้องอยู่กับพี่”


ถึงแม้ธนัทจะผอมและน้ำหนักน้อยกว่าเขา แต่การที่จะอุ้มหรือยกตัวขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะน้ำหนักตัวก็ไม่ใช่น้อยๆแต่เมื่อเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น อะดรีนาลินที่หลั่งในร่างกาย

ทำให้ศรุตแบกธนัทขึ้นบ่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เขาพาร่างธนัทไปที่ยานยนต์ไฟฟ้าและวางร่างนั้น

อย่างทะนุถนอม ก่อนจะวิ่งไปฝั่งคนบังคับแล้วพาธนัทไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วที่สุด






ดวงตาคู่ขรึมซีมเศร้าเมื่อมองเห็นสภาพของคนที่เขารักผ่านกระจกใสที่กั้นห้องสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ

ธนัทในตอนนี้หลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาถูกพันธนาการไว้ด้วยเครื่องช่วยหายใจและท่อช่วยหายใจที่ใส่อยู่

ในช่องปากเมื่อมาถึงห้องฉุกเฉินดูจะสร้างความทรมานไม่น้อย รวมไปถึงการให้สารละลายและยา

ที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ยิ่งทำให้ศรุตรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาเองก็ถูกบีบจนลีบเล็ก

เมื่อต้องมายืนเกาะกระจกมองอยู่อย่างนี้


เมื่อพ้นภาวะคับขันแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือศรุตต้องรู้ให้ได้ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร

เจ้าของสถานที่เดินมาใกล้เพื่อน ชินวุฒิตบบ่าให้กำลังใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ยังเป็นกังวล

ศรุตเล่าเหตุการณ์ให้ ชินวุฒิฟังอย่างไม่ปิดบัง ด้วยความเป็นทั้งเพื่อนร่วมวิชาชีพและเพื่อนสนิท

รวมทั้งที่ชินวุฒิรับเป็นเจ้าของไข้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย


ยิ่งในตอนนี้ชินวุฒิก็ยิ่งรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องมาเป็นคนแจ้งผลการตรวจร่างกายอย่างละเอียดให้

ศรุตฟัง ชินวุฒิสบตากับแววตาเครียดขรึมของคนเป็นเพื่อนแล้วถอนหายใจ ศรุตกัดฟันเมื่อพูด

กับชินวุฒิ


“ไม่ต้องอ้อมค้อม บอกมาเลยว่าเกิดจากอะไร”


ชินวุฒินิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งเพื่อเรียบเรียงคำพูด ก่อนที่เขาจะตัดสินใจบอกกับคนเป็นเพื่อน


“ประวัติของธนัทไม่เคยมีที่โรงพยาบาลนี้ แต่ธนัทเคยเป็นคนไข้อยู่ที่ดับบลิวเอสโอ”


ศรุตอ้าปากค้าง เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ชินวุฒิบอกมา


“หมายความว่า...”


ชายหนุ่มรำพันเสียงแหบโหย ชินวุฒิพยักหน้ารับด้วยความสงสาร


“ใช่...ขอประวัติมาจากดับบลิวเอสโอแล้ว คอนเฟิร์ม เมื่อสิบปีก่อนธนัทเป็นคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัด

เปลี่ยนอวัยวะจริงๆ”


การรับรู้ของศรุตหมุนคว้างไปหมด เขายืนแทบไม่อยู่จนต้องหันหลังพิงผนังกระจก ดวงตาหรุบต่ำ

ซ่อนรอยแดงจากหยาดน้ำ


“บอกกูมาว่านัทผ่าตัดเปลี่ยนอะไร”


ชินวุฒิเอื้อมมือมาบีบไหล่คนเป็นเพื่อนอย่างให้กำลังใจอีกครั้ง เมื่อต้องเอ่ยประโยคที่ศรุตจำเป็น

ต้องรับรู้


“ธนัทผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ”


ชินวุฒิถอนหายใจหนักหน่วงเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนสนิท แต่ว่าเขาก็จำเป็นจะต้องแจ้งผลการตรวจร่างกาย

ของธนัทให้ศรุตได้รู้


“หัวใจของธนัทเต้นอย่างอ่อนแรงเต็มที มันกำลังจะหมดอายุการทำงานลงอย่างช้าๆ

กูกลัวว่ามันอาจจะหยุดเต้นลงในเร็ววันนี้”




เสียงประตูกั้นภายนอกของหอผู้ป่วยวิกฤติถูกผลักมาจากชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ โดยไม่สนใจ

การทัดทานของเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ร้องห้าม  เขามายืนหันรีหันขวางมองไปทางห้องแยก

แต่ละห้อง ก่อนที่สายตาของเขาจะมาหยุดลงที่ศรุตและชินวุฒิ แล้วจึงเดินลิ่วตรงเข้ามา

เขาหยุดยืนต่อหน้า ดวงตาของศรุตเบิกกว้างเมื่อจำได้ว่าเป็นใคร


“คนไข้ที่ชื่อธนัทอยู่ห้องไหน”


เสียงเครียดเอ่ยถามเมื่อเห็นเครื่องหมายแสดงตำแหน่งของชินวุฒิ นายแพทย์หนุ่มชี้ไปที่ห้อง

อย่างงงๆ แล้วก็ต้องโผไปยึดตัวไว้เมื่อชายคนดังกล่าวทำท่าจะก้าวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว


“เดี๋ยวครับ เข้าไม่ได้ เราอนุญาตเฉพาะญาติสนิทเท่านั้น”


ดวงตาดุของชายแปลกหน้าคุกรุ่นเมื่อได้ยิน เขาสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของชินวุฒิ

ก่อนที่จะตะคอกเสียงดุ


“ก็ผมนี่ไงญาติสนิทที่เหลืออยู่แค่คนเดียว ผมชื่อสุทัศน์ เป็นพ่อของธนัท คราวนี้คุณจะให้ผมเข้าไป

ดูอาการของลูกชายผมได้หรือยัง”






ศรุตยืนมองอยู่นอกห้องกระจก

ชั่วระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง เรื่องราวต่างๆ ประดังเข้ามาจนเขาแทบรับไว้ไม่หมด รวมทั้งเรื่องที่เขา

เพิ่งได้พบบิดาของธนัทเป็นครั้งแรก


จะว่าครั้งแรกก็ไม่ถูก เมื่อเขาเคยได้พูดคุยกับบิดาของธนัทหลายครั้งในนามของ “เฮอคิวลิส”

นอกจากเรื่องที่แทบจะล้มทั้งยืนกับความจริงที่เพิ่งรู้ว่าธนัทเคยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เขายังต้องมา

กลัดกลุ้มกับเรื่องใหม่ว่าบิดาของธนัทคือ นายสุทัศน์ ผู้อำนวยการของดับบลิวเอสโอที่เขาเคย

โต้เถียงด้วยทางโทรศัพท์


แน่นอนว่าสุทัศน์ไม่รู้จักเขาเพราะการปิดบังใบหน้า แต่เขาจดจำสุทัศน์ได้เป็นอย่างดี

ภาพที่ศรุตมองผ่านกระจกทำให้เขาสะท้อนใจ


นายสุทัศน์ที่เคยหยิ่งยะโส มั่นใจในอำนาจและความเก่งกาจมองสภาพคนเป็นลูกสีหน้าเครียด

มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของธนัทอย่างอ่อนโยนอย่างที่ศรุตไม่คาดคิดว่าจะเห็น เมื่อดูจากบุคลิก

ของสุทัศน์

ราวกับว่าธนัทจะรู้ได้ ศรุตมองเห็นดวงตาคู่หวานค่อยๆ กระพริบแล้วลืมตาช้าๆมามองผู้เป็นบิดา

สุทัศน์ที่เคยเข้มแข็งถึงกับต้องยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนที่จะโน้มตัวลงไปแล้วกอดร่างที่นอนนิ่ง

อยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยสายระโยงระยางอย่างอ่อนโยน




ศรุตเบือนหน้าหนีขอบตาร้อนผ่าว

เขาคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรธนัทถึงจะกลับมาอยู่กับเขาอย่างคนที่มีชีวิต!



TBC


 :mew6: :mew6:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2015 21:47:05 โดย Belove »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มจึกๆ
เหยดดด สุทัศน์เป็นพ่อของธนัทรึนี่ =[]=
เอาใจช่วยพี่เอกกะนัท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2015 12:52:31 โดย boboman »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ถ้าพี่เอกหาวิธีการรักษาได้ ก็น่าเป็นห่วงอีกว่าคุณพ่อเขาจะยอมให้เฮอคิวลิสที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดรักษาหรือเปล่านี่สิคะ ตอนนี้กลัวก็แต่เจ้าตัวเขาจะดึงดันว่ายังไงนัทก็ต้องอยู่ในความดูแลของดับบลิวเอสโออย่างเดียวเลยค่ะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
dilemma จริงๆเลยงานนี้ 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :เฮ้อ: พี่เอกเก่งอยู่แล้วต้องช่วยนัทได้แน่ๆ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove




                                       Heart

                                   หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                                      บทที่ 23



ศรุตทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กที่ตั้งเป็นแถวยาวอยู่หน้าหอผู้ป่วยวิกฤติ ยืดขายาวจนสุดปลายเท้า

ส่วนศีรษะเงยขึ้นพาดขอบพนักแล้วทิ้งตัวไปกับผนังตึก ดวงตาปิดลงอย่างเหนื่อยล้า

ตลอดหนึ่งวันและหนึ่งคืนที่ผ่านมา เรื่องที่เกิดขึ้นดูมากมายจนเกินกำลังที่คนคนหนึ่งจะรับได้

ทั้งเรื่องที่มีนก่อขึ้นจนทำให้เขาและธนัทได้พิสูจน์ความรัก เรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งครั้งแรก

รวมทั้งเรื่องที่เขาเกือบสูญเสียคนที่เขารักไปในวินาทีเดียวกับที่เพิ่งมีความสุขด้วยกัน

ทุกอย่างวิ่งวนอยู่ในความคิดจนศรุตต้องถอนหายใจออกมา


รู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงบนเก้าอี้ด้านข้างพร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ต่อจากเขา

ศรุตลืมตาขึ้นมาแล้วเหลือบไปมองทางด้านข้างนายสุทัศน์ ผู้อำนวยการองค์การวิทยาศาสตร์โลก

ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ”เฮอคิวลิส” นั่งอยู่ในท่าเดียวกันกับเขาหลับตาลงด้วยความเครียด

ที่ไม่น้อยไปกว่าศรุต ชายกลางคนพูดขึ้นโดยที่ยังไม่ยอมลืมตา


“คุณเป็นใคร ทำไมถึงอยู่กับเจ้านัทได้”


“ผมชื่อศรุต”


คำกล่าวแนะนำตัวง่ายๆ แต่เรียกความสนใจจากสุทัศน์ได้เป็นอย่างดี บิดาของธนัทผงกหัวลืมตา

ขึ้นและหันมามองหน้าศรุตอย่างพิจารณา


“คุณนี่เองที่ชื่อศรุต เป็นคนวาดรูปใช่ไหม เจ้านัทมันพูดถึงให้ฟังอยู่บ่อยๆ”


ประโยคบอกเล่าของสุทัศน์สร้างความแปลกใจให้ศรุตเช่นกันที่ธนัทสามารถพูดคุยเรื่องของเขา

กับผู้เป็นพ่อได้


“เจ้านัทมันเล่าให้ฟังว่าคนชื่อศรุตน่ะ เป็นคนคิดมากยิ้มยากขี้เก๊ก แต่ทำไมมันถึงรักเขาก็ไม่รู้”


น้ำเสียงที่สุทัศน์พูดถึงคนเป็นลูกเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แถมยังมีรอยยิ้มตามไปด้วยเมื่อนึกถึง

น้ำเสียงที่คนเป็นลูกเคยพูดให้ฟัง ท่ามกลางรอยยิ้มของสุทัศน์เขายกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตา


“บอกกันมาตรงๆ เลยนะ ทำไมเจ้านัทถึงได้เป็นอย่างนี้”


ศรุตอึ้งกับคำถามตรงไปตรงมา

ในบทบาทของเฮอคิวลิส ไม่เคยมีสักครั้งที่เขายอมอ่อนข้อให้นายสุทัศน์ แต่ในบทบาท

ของคนเป็นพ่อ และยิ่งเกิดเรื่องนี้ ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะสบตา


“ผมไม่รู้ว่านัทมีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติ คือ...มันมีเรื่องกันนิดหน่อยที่ร้านต้นไม้เราก็เลยช่วยกัน

จัดร้านแล้วหลังจากนั้น…”


ประโยคต่อมาเลือนหายเข้าไปในลำคอจนบรรยากาศเข้าสู่ความเงียบ ศรุตยิ่งใจเสียเมื่อเห็น

สุทัศน์ขบกรามแน่นใบหน้าเครียดขรึม


“คุณมีเซ็กซ์กับเจ้านัทใช่ไหม”


การนิ่งงันของชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ถือว่าเป็นการยอมรับ สุทัศน์กำมือแน่นวางอยู่บนต้นขา

ดวงตาฝ้าไปด้วยหยาดน้ำจ้องมองไปที่ต้นขาของตัวเอง


“ผมเคยบอกกับเจ้านัทอยู่เสมอว่าถ้าเป็นไปได้อย่ามีความรัก”


สุทัศน์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


“เพราะถ้ามีความรัก มันก็อดไม่ได้ที่จะมีเรื่องเซ็กซ์เกิดขึ้น ใช่...มันไม่ใช่เรื่องผิดแม้จะเป็นผู้ชาย

ด้วยกันแต่กับสภาพของหัวใจเจ้านัทที่ได้รับการเปลี่ยนหัวใจมาถึงสิบปี หัวใจดวงนี้มันอ่อนแอ

เกินกว่าที่จะต้องพบเจอกับเรื่องเครียดหรือเรื่องตื่นเต้น”


น้ำตาของคนเป็นพ่อหยดลงมารดมือตนเอง


“เจ้านัทมันรู้ตัวอยู่แล้วว่าถ้ามันมีเซ็กซ์ก็เท่ากับฆ่าตัวตาย คุณควรจะภูมิใจที่มันรักคุณมาก

ถึงกับยอมตายเพื่อคุณ”


ไม่!! .. เขาไม่ได้ต้องการให้ธนัทมาตายเพื่อความสุขทางร่างกายของเขา

ศรุตตะโกนก้องในใจ ด้วยความอัดอั้น

ชายหนุ่มก้มหน้าลงจนคางแทบจะชิดอกพยายามกลั้นสะอื้นไว้ ธนัทมีค่าเกินกว่าที่จะต้องมาจากไป

เพราะเรื่องแค่นี้


“มีทางไหนที่จะทำให้นัทกลับมาเป็นปกติหรืออย่างน้อยก็ดีขึ้นกว่านี้ไหมครับ”


ศรุตเอ่ยถามในเรื่องโง่ๆ ถ้าเป็นเวลาปกติ แต่กับสถานการณ์อย่างนี้หัวสมองเขาไม่แล่น

เอาเสียเลย


“ต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอีกครั้ง”


คำตอบสั้นๆง่ายๆ จากคนเป็นพ่อด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน ฉุดชายหนุ่มให้ลืมตาเห็นความหวัง

เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานและนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนตัดสินใจเอ่ยกับสุทัศน์ง่ายๆ


“ผมคือเฮอคิวลิส”


สุทัศน์ผงกหัวขึ้นมาแล้วหันมามองศรุตราวกับชายหนุ่มเป็นคนสติวิปลาส


   “เวลาแบบนี้คุณยังจะพูดเล่นกับผมอีกงั้นหรือ”


“ถ้าคุณไม่เชื่อจะลองสืบประวัติจากมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนจบมาก็ได้ ผมบอกได้แค่ว่าผมคือ

เฮอคิวลิส”


สุทัศน์สบตากับศรุตที่จ้องตรงมาโดยไม่คิดจะหลบเช่นกัน นัยน์ตาหนักแน่นยืนยันว่าสิ่งที่ศรุต

พูดมาคือความจริงสุทัศน์ยิ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดลงกว่าเดิม


“แล้วคุณมาบอกผมทำไมตอนนี้ เฮอคิวลิส ในเมื่อที่ผ่านมาคุณก็ไม่เคยใยดีอยู่แล้วนี่”

น้ำเสียงที่ติดจะเหยียดหยันทำให้ศรุตนิ่งไปอีกครั้ง ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดจากการตัดสินใจครั้ง

สำคัญ


“ก็ถ้าผมจะขอเป็นคนผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้นัท คูณจะว่ายังไง”







ศรุตเดินมาหยุดยืนพิงกรอบประตูมองบุคคลทั้งหมดภายในห้องแล้วคลี่ยิ้มน้อยๆ

ธนัทพ้นจุดวิกฤติจนสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วย้ายมาอยู่ในแคปซูลออกซิเจนแรงดันสูง

แทนได้แล้ว

ศรุตเห็นหนุ่มน้อยหัวเราะได้แม้จะยังดูอ่อนเพลีย และยังคงมีสารละลายให้ไว้ในกระแสเลือด

ต้องขอบคุณคนมาเยื่ยมสองคนที่สร้างรอยยิ้มได้ คนหนึ่งคือภาม กับอีกคนหนึ่งเป็นชายร่างสูง

ผิวขาวที่เขาไม่รู้จักว่าใคร ภามเหลือบเห็นศรุตเขาจึงพยักเพยิดให้คนที่นอนพักในแคปซูล

กับคนที่นั่งข้างๆได้เห็น แล้วเอ่ยเชิงสัพยอก


“โน่น พระเอกมาแล้ว แหม พอพระเอกมาหน้าแดงเชียวไอ้นัท”


เสียงดังเพียะดังขึ้นพร้อมเสียงอุทานของวิศวกระหนุ่ม เมื่อคนนั่งข้างๆหันมาตีแขนภามอย่างแรง


“ป๊า จะไปล้อไอ้นัทมันทำไม เดี๋ยวเหอะ ขอโทษทีนะครับปากเสียแบบนี้แหละ แต่ไม่มีพิษภัยหรอก”


ประโยคหลังหันมาพูดกับศรุตจนเขาเองก็อดหัวเราะไม่ได้ ภามใช้แขนล็อคคอคนพูดไว้แล้ว

เหนี่ยวมาหอมแก้มเร็วๆไปหนึ่งที


“ม้า เดี๋ยวนี้เข้าข้างคนอื่นแล้วนะ ไปอยู่ต่างประเทศไม่ถึงปี ลืมป๊าแล้วใช่ป่ะ”


คนที่ภามเรียกว่า ม้า ยกมือขึ้นดันหน้าผากภามให้ห่างออกแล้วดุเสียงดัง


“เอ๊ะ ป๊านี่อะไรขนาดนี้ ไม่อายเค้าบ้างหรือไง หน้าด้านจริง”


แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน เดินมายิ้มต่อหน้าศรุต


“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อวัตร”


“เป็นแฟนผมเอง”


ภามรีบสอดเสียงมาแนะนำ ศรุตถึงกับเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ


“คุณสองคน เป็นแฟนกัน?”


“ช่าย มันน่าแปลกตรงไหนมิทราบ ทีนี้คุณจะได้รู้เสียทีว่าผมกับไอ้นัทน่ะ

ไม่ได้มีอะไรกันจริงจริ๊ง ในเมื่อแฟนผมน่ารักกว่าไอ้นัทเยอะ โอ๊ย”


ปลายประโยคร้องสุดเสียงเมื่อวัตรยกมือขึ้นหนีบไปที่หน้าท้องของภาม


“พูดน้อยหน่อยก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอก กลับกันได้แล้วคุณเอกเค้าจะได้คุยกับไอ้นัท”


วัตรล็อคคอภามไว้แล้วหันไปกล่าวกับธนัท


“เฮ้ย ไอ้นัท พี่ไปก่อนนะรักษาตัวให้หายล่ะน้องรัก ต้นไม้ที่ฟาร์มรออยู่นะ ไปละครับคุณเอก

สวัสดีครับ”


แล้ววัตรก็ลากภามออกไปจากห้องจนสำเร็จ เหลือทิ้งไว้เพียงแค่ศรุตที่เดินไปทรุดนั่ง

อยู่ข้างแคปซูล


ชายหนุ่มมองลอดช่องเล็กๆ ข้างแคปซูลเข้าไปสบตากับดวงตาคู่หวาน มือแกร่งสั่นน้อยๆ

เมื่อยื่นเข้าไปในช่องแล้วกุมมือนุ่มของธนัทไว้อย่างแน่นหนาก่อนเอ่ยตัดพ้อ


“ทำไมไม่เคยเล่าเรื่องที่เคยผ่าตัดให้พี่ฟัง เห็นพี่ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม”


ดวงตาแดงก่ำของธนัทจ้องตอบอย่างอัดอั้น หนุ่มน้อยยกอีกมือหนึ่งมากุมอยู่เหนือมือ

ของศรุต น้ำเสียงที่อ่อนแรงเอ่ยขึ้นช้าๆ


“ผมขอโทษ ผมไม่อยากให้พี่เอกไม่สบายใจ”


“ก็ถ้าบอกกันให้รู้ พี่จะได้หักห้ามใจ ไม่…ไม่ทำอะไรอย่างนั้น”


ธนัทส่ายหน้าช้าๆ ริมฝีปากซีดคลี่ยิ้มทั้งที่หยดน้ำไหลรินจากดวงตา


“ไม่ใช่ความผิดของพี่เอก อย่าโทษตัวเอง มันเป็นเพราะผมก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้

พี่เป็นคนที่ผมรักและอยู่ในความฝันของผมมาตลอดสิบปี ผมก็แค่อยากมีความสุข

กับพี่สักครั้ง…ก่อนตาย”


มือแกร่งที่กุมอยู่กำมือเรียวไว้แน่นเมื่อได้ยินประโยคนั้น ศรุตถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

ราวกับมีภูเขาลูกใหญ่มาตั้งอยู่กลางหัวใจ ศรุตฝืนคลี่ยิ้ม เรียกเสียงสดใสพูดกับธนัท

แม้ดวงตาจะร้อนผ่าว ขนตาเปียกชื้น


“เราเคยเจอกันเมื่อสิบปีก่อนด้วยเหรอ ที่ไหนล่ะ พี่จำไม่ได้”


แม้ใบหน้าจะอ่อนระโหย แต่ดวงตาของธนัทก็เริ่มสดใสเมื่อคิดถึงความหลัง


“พี่เอกไม่เห็นผมหรอกครับ ผมมักจะแอบอยู่หลังมุมตึกของดับบลิวเอสโอ

คอยมองเวลาพี่พาแอมเข็นรถมาเดินเล่นที่สวนหย่อมชั้น 2”


ศรุตเลิกคิ้วเมื่อได้ยิน เขานึกตามที่ธนัทเล่าให้ฟัง


“ตอนนั้นผมสิบขวบ พี่เอกคงจะ 15 ได้มั้งยังอ้วนแก้มยุ้ยอยู่เลย พี่ชอบเข็นรถ

พาแอมที่นั่งหน้างอมานั่งเล่นที่สวนหย่อมชั้น 2 บางทีก็มายืนวาดรูปส่วนผมมา

นอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 8เป็นประจำเพราะพ่อทำงานที่นั่น วันไหนถ้ามีแรงก็จะแอบ

ลงมายืนมองพี่เอกใกล้ๆ แต่ถ้าวันไหนไม่มีแรงก็ต้องมองลงมาไกลๆ จากหน้าต่างชั้น 8”


ธนัทยิ้มเมื่อคิดถึงความหลัง


“พอผมผ่าตัดสำเร็จก็มาพักที่บ้านแล้วก็ไม่เจอพี่เอกอีกเลย แม้ว่าจะแวะไปที่ดับบลิวเอสโอ

บ่อยๆจนคิดว่าเราคงไม่ได้พบกันอีก จนกระทั่งวันนึงผู้ชายขี้เก๊กที่ไหนไม่รู้ไปโผล่

ที่ร้านต้นไม้ของผม ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ตั้งใจไว้ว่าผมจะไม่ปล่อยให้หัวใจของผมหลุด

ลอยไปอีกครั้ง”


ศรุตดึงมือของธนัทออกมาภายนอกช่องเล็กแล้วมาแนบไว้ที่แก้ม น้ำตาที่พยายาม

กลั้นไว้จนสุดความสามารถทะลักทลายออกมาจนเปียกมือนุ่ม


เขาจะต้องรักษาธนัทให้ได้ เขาจะต้องไม่ปล่อยให้หัวใจของเขาหลุดลอยไปกับเงื้อมมือมัจจุราช




TBC


 :mew4: :mew4:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2015 22:30:45 โดย Belove »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่เอกหาทางรักษานัทให้ได้นะๆๆๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องนัทจะต้องหายดีแน่นอนนะคะ ไม่เอาไม่พูดค่ะตายเตยอะไรนั่น :กอด1:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
หักมุมจบเศร้านี่เท่ากับกระชากใจคนอ่านเลยนะ คนเขียน

ออฟไลน์ ReemD18

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พระเอก้ามคดสั้นจะผ่าตัดเอาหัวใจตนเองเปลี่ยนให้นายเอกนะ
ถ้าเป็นแบบนี้มันดราม่าโคตรๆๆ//ขอให้าทางรักษานายเอกให้ได้นะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                           Heart

                    หัวใจนี้มีเพียงเธอ

                         บทที่ 24



“ผมและแม่เจ้านัทมีลูกยาก เราพยายามใช้วิธีการตามธรรมชาติมานานก็ไม่สำเร็จ

จนต้องตัดสินใจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย กว่าจะมีเจ้านัทได้เราสองคนก็อายุเยอะแล้ว”


สุทัศน์เงยหน้ามองไปที่เพดานสีขาวของโรงพยาบาลเมื่อนึกถึงอดีต


“ระหว่างท้องเจ้านัทภรรยาของผมก็เริ่มป่วยแต่เธอก็พยายามประคับประคอง

จนคลอดได้สำเร็จ แต่ก็อยู่ชื่นใจกับลูกได้ไม่นานเธอก็จากเราสองคนพ่อลูกไป”


บิดาของธนัทล้วงสร้อยที่ห้อยคอออกมา เปิดจี้ห้อยคอรูปหัวใจอันใหญ่แล้วอมยิ้ม

เมื่อเห็นรูปภรรยาที่อุ้มเด็กทารกไว้ในอ้อมกอด


“ส่วนเจ้านัทลูกเพียงคนเดียวที่เป็นของขวัญจากคนที่ผมรักที่สุด นอกจากจะโชคร้าย

ที่ไม่ได้โตขึ้นมาเห็นหน้าแม่ ยังมีสิ่งที่โชคร้ายกว่าคือโรคลิ้นหัวใจรั่วแต่กำเนิด โดยปกติ

โรคนี้รักษาไม่ยากแต่กับเจ้านัทที่เป็นชนิดรุนแรงมากรักษาด้วยการผ่าตัดปิดที่ลิ้นหัวใจไม่ได้

ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ชีวภาพพยายามที่จะรักษาลูกทุกวิถีทาง ผมต้องทนดูลูกนอนหอบ

ตัวซีดหน้าเขียว แค่ก้าวขาลงจากชั้นสองก็หายใจหอบตัวโยนจนต้องเสี่ยงให้เจ้านัทผ่าตัด

เปลี่ยนหัวใจเมื่ออายุสิบขวบ”


ศรุตหลับตาลงนิ่งฟังสุทัศน์เล่าถึงอดีตของคนรักด้วยความสงสาร ธนัทพบเจอเรื่องร้ายมา

ตลอดชีวิต แต่หนุ่มน้อยยังสามารถยิ้มให้ทุกคนอย่างสดใส ศรุตนับถือในความเข้มแข็ง

ของธนัทเหลือเกิน


เขาสัญญากับตัวเอง ถ้าธนัทผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้และมีชีวิตอยู่ต่อได้เขาจะไม่มีวันทำให้ธนัท

พบเจอเรื่องร้ายแรงในชีวิตอีกแล้ว


“การผ่าตัดได้ผลดี ร่างกายนัทเข้ากับหัวใจใหม่และดำรงชีวิตประจำวันได้ แต่ก็อย่างที่คุณรู้

การทดลองสเต็มเซลล์ของเราแม้จะก้าวหน้าไปมาก แต่มันก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่มากมาย

ที่เราต้องพัฒนา นอกจากเรื่องการกลายไปเป็นเนื้อร้าย หรือการที่ร่างกายปฏิเสธอวัยวะใหม่

มันยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ดับบลิวเอสโอยังปิดเป็นความลับ”


สุทัศน์หันมาสบตากับศรุต


“อวัยวะที่เปลี่ยนมันมีวันหมดอายุ เมื่อถึงเวลามันจะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใช้งานไม่ได้

หัวใจเจ้านัทก็อยู่ในกรณีนี้ ถึงไม่ได้เกิดเรื่องกับคุณหัวใจของลูกชายผมก็ต้องหยุดเต้นในเร็วๆนี้อยู่ดี

ทีนี้คุณจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องยินยอมให้ดับบลิวเอสโอผลิตสเต็มเซลล์ได้หรือยัง”


ศรุตลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาคุกเข่าต่อหน้าสุทัศน์บิดาของธนัท แววตาที่มองมาเครียดขรึมและวอนขอ

ศรุตยินยอมละทิ้งทิฐิมานะเพื่อให้ได้เห็นคนที่เขารักได้มีลมหายใจต่อไป


“ขอให้ผมได้เป็นคนผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้นัทเถอะครับ คุณสุทัศน์ ผมขอร้อง”







อีกแล้วกับความคุ้นเคย

ธนัททอดสายตามองสีเขียวสดใสด้วยหัวใจสงบ อากาศที่เริ่มเย็นทำให้หนุ่มน้อยต้องห่อไหล่ไว้

ก่อนที่ความอบอุ่นจากผ้าผืนนุ่มจะวางลงบนบ่าลาด หัวใจวูบไหวเมื่อหันไปมอง...



ปรือตาขึ้นช้าๆเมื่อรุ้สึกตัวตื่น ฤทธิ์ยาทำให้เขาหลับใหลแทบจะตลอดทั้งวัน เมื่อตั้งสติได้

ธนัทมองออกไปนอกแค็ปซูลออกซิเจน เห็นร่างสูงคุ้นตายืนคุยอยู่กับนายแพทย์ชินวุฒิ

ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทั้งคู่ เสียงที่กดให้แผ่วเบาลอดผ่านมาให้ได้ยินจากการสนทนา

ของนายแพทย์ทั้งสอง ธนัทพยายามเงี่ยหูฟังด้วยอาการสงบ


“มันเสี่ยงมาก”


เสียงของชินวุฒิเน้นย้ำ


“มึงเห็นภาพสแกนหัวใจของธนัทแล้วนี่ เห็นเส้นเลือดใหญ่ตรงหัวใจบ้างหรือเปล่าว่ามันแคบ

และเปราะแค่ไหน”


ศรุตกัดฟันยืนกอดอกนิ่ง ทำไมเขาจะไม่รู้ แต่เมื่อนึกถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่แสดงอยู่ใน

จอมอนิเตอร์ว่าเริ่มเต้นช้าลงและไม่สม่ำเสมอ มันบอกให้เขารู้ว่าหัวใจดวงน้อยใกล้ถึงเวลา

หยุดทำงานแล้ว เสี่ยงแค่ไหนก็คงต้องยอม


“ต้องทำได้สิ ในเมื่อนัทเคยผ่านการผ่าตัดมาแล้วครั้งหนึ่งครั้งนี้ก็ต้องผ่านไปได้”


นายแพทย์ชินวุฒิถอนหายใจด้วยความสงสารคนเป็นเพื่อนเมื่อได้ยินคำพูด

ที่ราวกับจะปลอบโยนตัวเอง


“มึงเป็นหมอศัลย์ มึงต้องรู้อยู่แล้วว่าผ่าตัดแก้ไขครั้งที่สองมันต้องยากกว่าครั้งแรก

อย่าให้กูต้องบอกมึงเลยว่าโอกาสสำเร็จมันน้อยมาก”


ชินวุฒิตัดสินใจเตือนเพื่อนตรงๆ


“แต่ถ้ามึงมั่นใจว่าจะเสี่ยงและพ่อธนัทยอมล่ะก็กูก็คงห้ามไม่ไหว เอาเป็นว่า

กูเอาใจช่วยแล้วกันนะ”


ชินวุฒิเอื้อมมือมาตบไหล่ศรุตเบาๆเป็นการให้กำลังใจก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

ศรุตถอนหายใจพลางยกหลังมือขึ้นป้ายตาเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนผ่าวก่อนจะหันมามอง

แค็ปซูลออกซิเจนจึงได้สบตากับธนัทที่มองตรงมายังเขา


ร่างสูงเดินมาที่แค็ปซูลแล้วกดปุ่มด้านข้าง ผนังแก้วทุกด้านของแค็ปซูลเปิดออก

และเลื่อนกลับเข้าไปใต้เตียง เหลือทิ้งไว้แต่ร่างบางที่นอนซีดเซียว ศรุตดึงสายออกซิเจน

เส้นเล็กจากหัวเตียงแล้วใส่ที่จมูกโด่งของธนัทอย่างนุ่มนวล มือใหญ่เอื้อมมาดึงมือของธนัต

มากุมไว้พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน


“หลับสบายไหม ฝันดีหรือเปล่า”


ธนัทเกาะกุมมือตอบ เขาพยักหน้าน้อยๆพร้อมยิ้มรับ


“ฝันดีสิครับ ที่ไหนก็ไม่รู้ต้นไม้สีเขียวเต็มไปหมดอากาศก็ไม่ร้อน แปลกที่ผมฝันถึงที่นั่นบ่อยๆ

แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเหมือนกัน”


ปลายเสียงแผ่วเบาขาดหายเมื่อธนัทหอบตัวโยน ศรุตรีบเพิ่มระดับออกซิเจนให้และยกมือ

ลูบศีรษะธนัทด้วยความสงสาร แค่พูดยาวกว่าปกติธนัทยังเหนื่อยหอบขนาดนี้ ศรุตกลัวเหลือเกิน

ว่าร่างกายของคนรักจะรับการผ่าตัดไหวหรือไม่


เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นจึงได้ยินเสียงล้อรถเข็นไฟฟ้าเคลื่อนเข้ามา ศุภัคชญาเข้ามาในห้อง

พร้อมจิรวิชญ์ สาวน้อยหน้าเจื่อนเมื่อเห็นสภาพของธนัท จิรวิชญ์เข็นรถมาให้จนศุภัคชญา

มาอยู่ชิดติดขอบเตียง หญิงสาววางมือบนต้นแขนของธนัท ดวงตาสำนึกผิดแดงก่ำ


“นัท เราขอโทษ”


ใบหน้าอ่อนระโหยฝืนยิ้มรับคนเป็นเพื่อน หนุ่มน้อยเอิ้อมมือไปกุมมือศุภัคชญาไว้


“ขอโทษทำไมแอมไม่ผิดหรอก”


“ผิด เราผิดที่คิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองลืมนึกถึงคนอื่น เราสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง”


ศุภัคชญายกมืออีกข้างเช็ดน้ำตา


“ยิ่งเรามารู้ว่านัทเคยผ่าตัดเหมือนเรา ก็ยิ่งรู้สึกผิด”


ธนัท เอื้อมมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เพื่อน


“เราไม่โกรธแอมเลยนะสบายใจได้ เลิกรู้สึกผิดได้แล้ว”


“นัทต้องรักษาตัวให้หายนะแล้วมาอยู่กับพี่เอก เราจะไม่ขัดขวางอีกแล้ว”


ศรุตยิ้มกับภาพที่เห็น ในที่สุดน้องสาวของเขาก็ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นได้ จิรวิชญ์ที่ยืนอยู่เบื้องหลัง

วางมือลงบนบ่าศุภัคชญาเป็นการปลอบโยน เขามองสบตาศรุตก่อนที่จะบอกข่าวที่รับฝากมา


“คุณสุทัศน์เตรียมหัวใจดวงใหม่แล้วนะ ตอนนี้กำลังตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายถ้าทั้งหมดผ่าน

การตรวจสอบ พี่เอกกับนัทก็ต้องเตรียมตัวย้ายไปทำการผ่าตัดที่ดับบลิวเอสโอ”


ศรุตสบตาจิรวิชญ์พร้อมเอ่ยถามด้วยสีหน้าเครียด


“เมื่อไหร่”


"มะรืนนี้ก็น่าจะเรียบร้อย แอมพี่ว่าเรากลับกันก่อนเถอะพี่เอกกับนัทจะได้อยู่ด้วยกัน”


ศุภัคชญาหันไปพยักหน้ารับ จิรวิชญ์จึงได้เข็นรถสาวน้อยออกไป

ศรุตปรับระดับหัวเตียงให้สูงขึ้น ชายหนุ่มนั่งลงที่ขอบเตียงดึงร่างที่บอบบางลงเพียงชั่วไม่กี่วัน

ให้ลุกขึ้นโดยมีท่อนแขนของเขาประคองไว้


“กลัวไหม”


เขาถามธนัท หนุ่มน้อยยิ้มให้ก่อนส่ายหน้าช้าๆ


“ไม่กลัวครับ ผมรู้ว่าพี่เอกจะผ่าตัดให้ผมอย่างปลอดภัย พี่เอกล่ะกลัวไหม”



กลัวสิ กลัวที่จะไม่มีธนัทที่มีลมหายใจอยู่ข้างๆ


ศรุตตอบหนุ่มน้อยในใจ ภายนอกได้แต่ฝืนยิ้มแล้วดึงร่างบางให้เอนซบมาที่อกกว้างของเขา

เพื่อที่จะหลบสายตาหวั่นไหว ธนัทยกมือขึ้นกอดศรุตไว้เพื่อซึมซับความรู้สึกอบอุ่นให้มากที่สุด


“ชีวิตของผมที่ได้มาพบกับพี่เอก แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว”


ถ้าผมจะต้องตาย ก็ขอให้ตายในมือของพี่ คนที่ผมรักที่สุด


ธนัทคิดในใจแล้วจึงช้อนตาขึ้นสบกับศรุต


“ผมจะสู้ ถ้าพี่เอกเป็นคนผ่าตัดให้ผม”


ศรุตโน้มตัวประกบริมฝีปากลงบนปากซีดแตกระแหงแล้วกดแนบลงไปเมื่อธนัทตอบรับ

มือแกร่งที่วางอยู่บนบ่าดึงร่างนั้นให้กระชับอยู่ในอ้อมกอด


เขาจะสู้ไปพร้อมธนัท





TBC

 :mew6: :mew6:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2015 19:11:43 โดย Belove »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขอให้การผ่าตัดที่จะถึงนี้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถอะค่ะ~~ :call:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เป็นกำลังใจให้พี่เอกและนัทนะคะ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด