:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 809528 ครั้ง)

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1890 เมื่อ11-09-2017 21:04:24 »

ผัวหล่อรวยขนาดนี้เป็นเราจะไม่ให้คลาดสายตา5555

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1891 เมื่อ11-09-2017 21:15:43 »

 :เฮ้อ: แมทดื้อจนดันทุรังหง่ะ เหนื่อยแทน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1892 เมื่อ11-09-2017 21:24:17 »

 :z1:  เป็นเราจะไม่ทำงานไรเลย นั่งกินนอนกิน กะช๊อปปิ้งอย่างเดียวกัน

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1893 เมื่อ11-09-2017 21:25:57 »

คือไงเ เริ่มรำคาญพี่ยักษ์ล่ะ ก็เข้าใจว่าหวงอ่ะ รวย เลี้ยงเมียได้ แต่ ทำไมต้องฌมโห เหมือนคนเป็นวัยทอง หงุดหงิดตลอดเวย์ แมทเองก็วันหยุดทำไมเอางานมาทำ จัดเวลาไม่ได้เหรอ อ่านแลเวหมั่นไส้ อยากจะตีทั้งคู่เลย ขัดใจที่สุด!!!! แมทกับวิคเตอร์เนี่ย อารมณ์ร้อนซัดใส่กะน มันก็พังน่ะสิ

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1894 เมื่อ11-09-2017 21:33:58 »

บางทีแมทก้ควรแบ่งเวลาให้ถูกเน้อ เรื่องนี้เข้าข้างวิคเตอร์ เป็นเราคงหงุดหงิด คนที่แยกแยะว่าอันไหนเวลางานอันไหนพักผ่อน พีทก้าวก่ายมาก สมควรที่โดนพี่ยักษ์ด่า

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1895 เมื่อ11-09-2017 21:51:25 »

เข้าใจนะว่าอยากทำตามฝัน แต่ก็เข้าใจเตอร์ด้วยว่าอยากมีเวลาอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้มันพูดยากจริงๆ ยิ่งเตอร์ร้อนเป็นไฟอย่างงี้ แมทลำบากแน่ๆ

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1896 เมื่อ11-09-2017 23:50:46 »

ช่วงนี้ไม่ค่อยสวีตกันเลยเนอะ  :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1897 เมื่อ12-09-2017 00:03:52 »

แมทเป็นพวกบ้างานนี่นะ แก้ยาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1898 เมื่อ12-09-2017 16:30:14 »

แมท........แมท รักงาน บ้างานมากไปแล้วววววว  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

วันหยุดวิกเตอร์  ก็อยากพักผ่อนกับคนรัก แต่แมทก็จ้องแต่หน้าจอ ทั้งที่เป็นวันหยุด
ไม่อยากให้ดราม่าเล้ย เพราะคนนึงหยุด อีกคนไม่หยุด มันจะเจอกันยังไง
แล้วแบบนี้เห็นเลิกกันหลายคู่แล้วเพราะไม่มีเวลาให้กัน   กลัวยักษ์ เอเลี่ยน เป็นแบบนั้น

ขำมากกกก หัวเราะก๊ากกกกก เลย   สไตล์ยักษ์พูดไทย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
“ฝองต่าแก้นั่นอีกสิ”
“เออ จะฟ้องแน่ ให้พ่อเอาปืนมายิงยักษ์!”
“มั้ยมาหลอก งกข่าตั๊ว”

“เลว แต๊ เปน พั๊ว มึ้ง!”

“ยิ้ง เกียด เถ่อ ยิ้ง เจอ ลัก”
โอย.......ยักษ์ น่ารัก ไมเคิล ก็คึกคักเวลาสองคนหัวเราะ
เห็นปะ รักกันดีกว่าทะเลาะกันเป็นไหนๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1899 เมื่อ16-09-2017 18:39:50 »



Yours & Mine EP.9 (100%)



#สามสิบหกวันผ่านไป

 

 

“แมททท!”

 

 

ผมอยากเปลี่ยนชื่อ อยากแจ้งทะเบียนราษฎร์ให้ชื่อนี้หล่นหายไป

 

 

ระยะเวลาที่ผ่านมา ถ้าเป็นชื่อคนดัง ชื่อผมคงถูกเสิร์จมากที่สุดในโลก ทั้งกองเรียกหาผมจนผมมานั่งทบทวนกับตัวเองแบบตั้งสติดีๆ ว่าตกลงผมมีตำแหน่งหน้าที่อะไร ตอนวิคเตอร์ฝากมา เขาก็บอกแค่ว่าฝากผมมาทำงานกับผู้กำกับ บอกแค่ว่าผมเขียนบทได้ แต่ตอนนั้นบทมันเสร็จแล้ว ที่ผมได้คือเอามาพรูพ เอามาตรวจว่าตรงไหนควรปรับเปลี่ยนมั้ยและถามความเห็นของผู้กำกับ ซึ่งก็ได้รับการปรับเปลี่ยนอยู่หลายจุด

 

 

 ตอนแรกๆ ก็เหมือนจะขึ้นกับผู้กำกับโดยตรง และมีหน้าที่เดียวคือดูบท แต่ทีนี้พอบทมันเสร็จ มันก็มีการเตรียมงานก่อนเปิดกอง แล้วพอกองเปิด ผมก็เลยไม่มีหน้าที่ ผู้กำกับเลยบอกให้ผมมาช่วยงานพีทผู้ซึ่งดูจะไม่ชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่ ผมก็มาช่วย แล้วพีทก็ให้ช่วยอย่างเต็มที่ ทำนั่นทำนี่แบบเต็มกำลัง แรกๆ ผมบอกกับตัวเองว่า กองนี้มันกองเล็กๆ ไม่ใช่กองหนังใหญ่ ฉะนั้นทีมงานมันจะไม่ได้เยอะ มีอะไรที่เราช่วยได้ก็ควรช่วยไปก่อน

 

 

แต่ผมว่าตอนนี้หลายๆ คนเหมือนจะจำที่พีทบอกแม่น ว่ามีอะไรจะใช้ผม ก็เรียกใช้ได้เลย เหมือนตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าผมเนรมิตรให้ได้ตามที่ปรารถนา ผมทำให้ได้ เพราะมันคืองาน ผมถือว่าเราคือทีมงานเดียวกัน บางคนเขายุ่งจริงๆ ผมก็เลยช่วยแบ่งเบาภาระ แค่มีแอบคิดว่า ผมควรได้เงินเพิ่มนะ แต่ตอนนี้ผมขอเวลานั่งพักบ้าง ซึ่งมีได้น้อยเหลือเกิน พอเลิกกอง ผมจะเหลือพลังในการใช้ชีวิตหลังจากนั้นน้อยมาก ถึงบ้านคือสลบ ไม่สู้รบปรบมือตบตีกับวิคเตอร์ที่หงุดหงิดใส่ผมมาหลายวันแล้ว

 

 

ครืดดด ครืดดด~

 

 

บ่นถึงก็โทรมา ผมมองหน้าจอมือถือที่ปรากฎเป็นชื่อวิคเตอร์ด้วยความรู้สึกอึนๆ เพราะเพิ่งไปช่วยคนอื่นๆ ยกของหน้าเซ็ท อีกซีนเดียวจะเลิกกองแล้ว ผมปิดเสียงไม่รับสายของเขา กะว่าถึงบ้านค่อยคุย ผมไม่อยากทะเลาะกันทางโทรศัพท์ เพราะกลัวว่าที่มันแย่จากคราวก่อนอยู่แล้ว จะยิ่งแย่ไปอีก วันนี้เลิกกองหนึ่งทุ่ม กะว่าจะนั่งเคลียร์ใจให้หายค้างคาเช่นกัน

 

 

อันที่จริงผมไม่ได้ค้งคาอะไรเลย ผมตื่นเช้า เข้ากอง เลิกดึงถึงบ้านก็สลบ น้ำอาบบ้างไม่อาบบ้างเป็นบางวัน พอวิคเตอร์เริ่มด่าไปได้สักแปบผมก็จะหลับหนี นั่นเลยทำให้เขายิ่งหงุดหงิด โมโห ผมแทบจะรู้แพทเทิร์นการด่าของเขาแล้วว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ด้วยความโกรธและเสียความรู้สึกจากครั้งก่อนอยู่ผมเลยไม่อยากพูดกับเขา ทั้งเหนื่อยทั้งยังนอยด์ๆ เหตุการณ์นั้นอยู่เลยไม่อยากพูดด้วย แต่ตื่นมาพวกจานข้าวแตกไปหลายใบแล้วละ อาทิตย์ที่ผ่านมาน่าจะเกือบสองโหลได้แล้วมั้ง ออสตินบอกว่าวิคเตอร์เอามาปากับผนังห้องระบายอารมณ์

 

 

“แมท มีบท…” ผมยื่นบทสำหรับการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ให้กับผู้ช่วยกองถ่ายผู้ชายหน้าตาเนิร์ดเหมาะกับแว่นหนาเตอะ แต่จริงๆ ไม่ได้เอ๋อหรือเนิร์ด แต่ทำงานโคตรช้า จนหลายครั้งผมต้องทำแทน เพราะผมกลัวเต่าจะแซงเขาเหลือเกิน นี่เลยอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คนอื่นคิดว่าผมช่วยด้วย เพราะผมชอบสาระแนทำแทนบางคนอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่สำคัญของสำคัญมากๆ หรือกองนี้ไม่ใช่หนังใหญ่ ได้งบมาก็ประมาณหนึ่ง แล้วดันตึ๋งหนืดกับการจ้างบุคลาการในกองถ่ายมาไว้ใช้งาน โลเคชั่นบางที่ยังให้ผมเข้าไปขอถ่ายฟรีแบบหน้าด้านๆ หน้าหนาๆ นี่แหละ งัดกลยุทธุ์มัดใจเจ้าของที่เต็มกำลัง

 

 

มีร้านอาหารอยู่ที่นึง ซึ่งเป็นประเด็นทำให้ผมกับวิคเตอร์ตึงใส่กันจนถึงวันนี้ ผู้กำกับเลิฟมาก อยากได้เป็นโลเคชั่นหลัก แต่ค่าเช่าที่แพง แต่เขาบังเอิญไปเห็นว่าในร้านมีโปสเตอร์รูปหน้าวิคเตอร์เลยให้ผมไปเกลี้ยกล่อม และบอกว่าจะพาวิคเตอร์มามีทแอนด์กรีทที่ร้าน การกล่อมเจ้าของร้านกลายเป็นเรื่องง่ายทันทีเมื่อผมต้องไปกล่อมให้วิคเตอร์ยอมมา เขาด่า เน้นว่าด่า ไม่ใช่บ่น

 

 

 

‘โง่ ยอมให้มันแบบนี้ ต่อไปมันก็มาเรียกร้องเอาผลประโยชน์จากนายอีกสิ ไอ้เอเลี่ยนโง่!’

 

‘ผมโง่ก็ได้ แต่คุณไปให้ผมหน่อยนะ ถ้าคุณไป ผมจะทำงานง่ายขึ้นมากเลยแหละ’ วิคเตอร์ชักสีหน้า หน้าตาโคตรจะหงุดหงิด และเขาก็ตอกย้ำความหงุดหงิดนั้นด้วยการถีบเก้าอี้ในห้องครัวล้มจนผมสะดุ้งตกใจ

 

‘นายทุ่มเทให้มัน แล้วมันให้ใจนายบ้างรึเปล่า อย่างมงายกับงานมากแมท!’ ผมพยายามอดทนอดกลั้น กลั้นใจพูดกับวิคเตอร์ให้จบๆ ไป

 

‘วิคเตอร์ จะด่าผม เดี๋ยวมาด่าต่อได้ แต่ไปที่ร้านให้ผมก่อน แล้วก็ยิ้มหล่อๆ ให้หน่อยเถอะนะ’ สุดท้ายเขายอมไป เขาไม่ด่าต่อ แต่จ้องหน้าผมแบบที่อารมณ์คงถึงขีดสุดจริงๆ และมันทำให้เขายิ้มยากมากเมื่อไปถึงร้าน บรรยากาศไม่อภิรมย์เอาซะเลย ผมได้แต่สวดภาวนาว่าขอให้วิคเตอร์ผ่อนคลายสักนิด แต่สักนิดก็ไม่มี เขาให้แค่ถ่ายรูป พูดคุยไม่เกินห้านาทีแล้วก็ไป สาวผมแดงร่างผอมเจ้าของร้านดูจะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยอมให้ถ่าย ผมโคตรโล่งอก แต่ก็ต้องมาตุ้มๆ ต่อมๆ อีกครั้งเพราะวิคเตอร์จะลากผมกลับบ้าน

 

‘วิคเตอร์งานผมยังไม่เสร็จ’ ผมครางเสียงอ้อนวอน ย่นคิ้วเพราะความเจ็บที่ข้อมือ

 

‘ถ้านายไม่กลับ ฉันจะอาละวาดให้เละเลย’ เขาขู่เสียงเข้ม ผมเม้มปากแน่น หันไปมองทีมงานคนอื่นที่มองมา มีทั้งมองด้วยความสงสัยเพราะบางคนไม่รู้ว่าผมเป็นแฟนวิคเตอร์ และบางสายตามองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

‘นิสัยแย่จริงๆ’ ผมว่าเสียงเข้มอย่างเสียความรู้สึกที่วิคเตอร์ทำแบบนี้

 

‘ไม่เป็นไรแมท กลับไปก่อนก็ได้’ ผู้กำกับเดินเข้ามาบอก วิคเตอร์ยิ้มเยาะ มองผู้กำกับด้วยสายตาคล้ายว่าจะสมเพช ผมมองหน้าผู้กำกับด้วยความรู้สึกผิด

 

‘ขอโทษครับ พรุ่งนี้พบกัน’ ผมยอมกลับไปกับวิคเตอร์ด้วยความรู้สึกที่แย่สุดๆ กับการกระทำของเขา


 

 

 

แต่ตั้งแต่วันนั้นผมไม่อยากจะคุยกับเขาเลย จนกระทั่งมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสองอาทิตย์กว่าๆ แล้วที่อยู่ในสภาพเจอกันวันละนิดวันละหน่อยแล้วยังไม่ค่อยจะพูดกันอีก แถมไอ้ตอนเจอแบบนิดๆ หน่อยๆ ก็หน้าบึ้ง หน้าตึงกันทั้งคู่

 

 

“See you tomorrow, guys!” ทุกคนปรบมือท่ามกลางแสงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าในช่วงเวลาหนึ่งทุ่ม ผมช่วยทีมงานคนอื่นๆ เก็บของ ทำไปก็มีความคิดไม่ดีแว้บเข้ามาในหัวว่าผมทุ่มเทให้งานมากไปหรือเปล่า ค่าตัวก็ใช่ว่าได้มากกว่าผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์อย่างพีท ได้น้อยกว่า แต่ทำไมผมทำงานมากกว่า และก็ดันพลาดไปฝังหัวทุกคนในกองแล้วว่าผมทำให้ได้ถ้าขอให้ช่วย

 

 

แต่พอคิดไปสักพักก็จะได้คำตอบว่า เพราะผมอยากเป็นนั่นเป็นนี่ไง อยากทำแบบนั้น อยากทำแบบนี้ อยากพิสูจน์ตัวเอง แต่ทุกวันนี้ผมแทบไม่ค่อยได้คุยกับคนที่ผมอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยเลย ผมหยุดทำงาน หยืบมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ กำลังอยากจะกดโทรหาพ่อ สักพักนึกขึ้นได้ว่า โทรไปคุยอะไรดีล่ะ คิดหัวข้อคุยกับพ่อและแม่อยู่นานสุดท้ายก็ไม่ได้โทร

 

 

ถึงจะเปิดอกเปิดใจรับรู้ความเป็นไปในชีวิตของผมแล้ว แต่ด้วยความที่มันฝังลึกมาเป็นยี่สิบกว่าปี ผมเลยไม่ชินกับการที่จู่ๆ จะโทรไปเซย์ไฮกับพ่อกับแม่แล้วนั่งเล่าชีวิตประจำวันให้พวกเขาฟังแบบใสๆ

 

 

“แมท ไปรับค่าตัวงวดแรก” พีทเดินมาบอกผม วินาทีที่พูดถึงเรื่องค่าตัว ความเหนื่อยเมื่อยล้าที่แบกไว้บนบ่าก็เหมือนทุเลาลง ผมขยับปากยิ้มน้อยๆ เดินตัวปลิวตามพีทไปที่โต๊ะทำงานของเขาที่ตั้งอยู่นอกอพาร์ทเม้นต์อันเป็นโลเคชั่นบ้านของพระเอก

 

 

“ก้อนสุดท้ายรับตอนปิดกล้อง” พีทยื่นซองสีน้ำตาลให้ ผมรับมาตาวาว เปิดซองดูก็เห็นแบงค์สีเทาเข้ม ผมเงยหน้ามองพีทแล้วยิ้ม พ่อหนุ่มร่างผอมตัวสูง ผิวขาวเหลือง ผมดกดำตาดำมองผมนิ่ง แต่ผมไม่สนใจความนิ่งนั้นหรอก

 

 

“ฉันให้นายเต็มๆ ยังไม่ได้หักอะไรทั้งนั้น” ผมอ้าปากเป็นรอยยิ้มน้อยๆ แล้วก็พยักหน้าขอบคุณเขาแรงๆ พีทยักคิ้วให้และหันกลับไปทำงานต่อ ผมหมุนตัวเดินออกมาจากตรงนั้น กอดซองเงินแน่นด้วยความดีใจ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เรียกได้ว่าผมหาเงินได้จากการทำงานจริงๆ ที่คิดเหนื่อย คิดล้า เลิก! หายแล้ว!

 

 

“คุณแมทครับ” ถึงจะตึงใส่กันอยู่ แต่วิคเตอร์ก็ส่งออสตินมารับผมเหมือนเดิม ผมยิ้มกว้าง วิ่งเข้าไปกอดออสตินด้วยความสุขใจ ผมเงยหน้ามองบอดี้การ์ดหัวเกรียนที่ทำหน้างง ผมผละออกจากตัวเขา แหวกซองเงินแล้วหยิบเงินในนั้นให้เขาหนึ่งใบ

 

 

“ให้!” ออสตินเลิกคิ้วขึ้น

 

 

“ให้ผมทำไมครับ”

 

 

“ผมเพิ่งได้เงินก้อนแรกมาเมื่อกี้นี้ ผมแบ่งให้คุณ ถือเป็นค่าจ้างที่ดูแลผมกับวิคเตอร์” ออสตินเลื่อนสายตามองเงินในมือผมแล้วกระตุกยิ้มขำ แต่เขาก็หยิบเงินนั้นไปใส่กระเป๋าเสื้อไว้

 

 

“อย่าคิดว่าผมจะไม่เอา” ผมยิ้มกว้างอารมณ์ดี ที่รู้สึกหนักๆ ก่อนหน้านี้ เบา โล่ง สบาย!

 

 

“กลับบ้านกัน” ผมวิ่งนำออสตินไปที่แลมเบอร์กินีสีเทาที่จอดรออยู่อย่างเท่ ก่อนขึ้นรถผมก็ก้มกอดรถไปหนึ่งที แล้วค่อยมุดตัวเข้าไปด้านใน

 

 

ระหว่างทางผมหยิบเงินออกมานับ ตัวเลขที่ได้ทำเอาชื่นใจมากกก ปริ่มมากกก

 

 

พอมาถึงบ้าน ผมวิ่งลงจากรถ กดกริ่งหน้าบ้านสองครั้งติดกัน รอสักแปบประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ยักษ์ของวิคเตอร์ที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน ด้านล่างใส่กางเกงขาสั้น ผมพุ่งตัวเข้ากอดเขา แบบที่ลืมเรื่องตึงใส่กันได้อย่างสนิทใจ

 

 

“เตออออร์!!!” ผมกระโดดขึ้นเอาขาเกี่ยวเอวเขา วิคเตอร์หน้างง

 

 

“โว้ว อะไรเนี่ย” ไมเคิลวิ่งกุกกักๆ มาหาเราสองคน กระโดดเห่าไปรอบตัววิคเตอร์ ออสตินเดินตามเข้ามาในบ้านพร้อมกับปิดประตูตามหลัง เขาเรียกไมเคิลให้เดินตามกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับอุ้มฟอกซ์ไปด้วย วิคเตอร์เดินอุ้มก้นผมไปที่ห้องโถงของบ้าน ผมกอดเขา เอาคางเกยไหล่ขวาใหญ่หนา วิคเตอร์นั่งลงบนโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับเตาผิง ผมผละหน้าออกจากไหล่เขาแล้วยิ้มแป้นแล้น

 

 

“อะไร” วิคเตอร์ถามเสียงห้วน หน้าตายังบูดบึ้ง แต่ผมก็ยังคงยิ้มพร้อมกับชูซองใส่เงินให้เขาเห็น

 

 

“นี่! เงินค่าตัวครึ่งแรก!” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว เลื่อนสายตาไปมองซองสีน้ำตาล ก่อนหันกลับมามองผมแล้วคลายคิ้วเข้มที่ขมวดกันไว้ออก

 

 

“ทำงานอีกสี่สิบห้าวันก็ปิดกองแล้วสิ…” เขาเลิกคิ้วขึ้น ทำปากขมุบขมิบสักแปบ

 

 

“…ไม่สิ อีกแค่สามสิบกว่าวันสินะ ดี” ผมจิ๊ปาก มองค้อนเขาไปหนึ่งที แต่ด้วยความอารมณ์ดีเลยไม่อยากจะโกรธเคืองใดๆ

 

 

“งั้นก็ปล่อยให้ผมทำงานได้อย่างสบายใจสักทีนะ อีกเดือนกว่าๆ อดทนได้มะ” วิคเตอร์หน้าบูดทันที บูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ เขาไม่ใช่เด็ก แต่เขาก็เอาแต่ใจ และดูจะหนักกว่าเด็กด้วย

 

 

“งั้นเราต้องคุยกันหน่อย นายทำงานแบบนี้ ค่าตัวที่ได้มายังไงก็ไม่คุ้ม” ผมขมวดคิ้วแล้วก็ตามด้วยอ้าปากหาววอด พอเขาเริ่มจะบ่น ก็เริ่มรู้สึกง่วงทุกที

 

 

“ทำงันแบบหนัย” ผมพูดจางึมงำ เพราะเริ่มงัวเงีย วิคเตอร์มองด้วยสายตาดุน้อยๆ

 

 

“นายมีหน้าที่อะไร ก็ทำอันนั้น รับผิดชอบงานตัวเองพอ ไม่ต้องไปห่วงกองถ่ายมันมาก ไม่ต้องรักมันมากขนาดนั้น” ผมหาวอีกที เริ่มมองวิคเตอร์ด้วยความรู้สึกเฉื่อยชา สมองล้าและกำลังเรียกร้องการพักผ่อน

 

 

“ผมก็แค่อยากทำให้ดี…” ผมว่าเสียงแผ่ว กอดวิคเตอร์ไว้เหมือนเดิม เอาคางเกยบนไหล่เขา กลิ่นเนื้ออุ่นๆ ที่คุ้นเคยลอยแตะจมูก

 

 

“…ผมอยากให้งานออกมาดี อือ” หนังตาผมเริ่มย้อยต่ำลงเรื่อยๆ ผมเอียงหน้าไปทางซ้าย เริ่มเอาแก้มวางบนไหล่วิคเตอร์มากขึ้น

 

 

“ถึงมันดี มันก็ไม่ใช่เพราะว่านายทำงานเหมือนทาสแบบนี้หรอก” ผมย่นคิ้ว ยกมือขวาตีหลังเขาดังแปะหนึ่งที

 

 

“ใจร้ายจริงๆ ไอ้ยักษ์…” แล้วผมก็เริ่มรับรู้อะไรได้น้อยลง เสียงของวิคเตอร์เหมือนเสียงทีวีที่เปิดทิ้งไว้ตอนเรานอน ได้ยินแต่ไม่รู้ว่ามันคือรายการหรือละครเรื่องอะไร

 

 

ผมรู้สึกตัวว่าตัวเองลอยขึ้นและเคลื่อนไหวเหมือนเหาะได้ กลิ่นเนื้อหอมอุ่นของวิคเตอร์เหมือนเป็นกลิ่นกล่อมประสาทให้หลับสบายมากขึ้น

 

 

“…ตังค์คุณแมทครับ เขาให้ผมมาบอกว่าเป็นค่าจ้างที่ดูแลคุณกับเขา / รวยจริงๆ ไอ้ตัวดี / ฝากคืนเขาด้วยนะครับ”

 

 

ใครคุยอะไรกันเหรอ แจ๊บๆ


 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:



               ตอนแรกเขางอนกัน แต่น้องแมทได้ตังค์แล้ว อารมณ์ดีแล้วค่ะ หายเป็นปลิดทิ้ง แต่พอสามีจะเริ่มบ่นก็หลับหนี เป็นเทคนิคส่วนตัว 555555

               มีคนอ่านบอก ไม่ค่อยหวานกันเลย อยากให้หวาน แต่ช่วงนี้ก็หวานยากจัง ถ้าแมทยังเป็นแบบนี้อยู่ หนูจะได้จู๋จี๋กับผัวมั้ยคะลู๊กกกก ใครก็ได้ ไปดึงนางออกจากกองถ่ายที เหมือนจะคิดได้แล้ว แต่ได้เงิน เลิกคิดอีกนังผี 555555

               ไฟในตัวนังเอเลี่ยนกำลังแรงค่ะ ลุกโชน โชนแสงมาก จนแทบจะเป็นไฟไหม้ แต่แมทก็พร้อมไปต่อ ยังไงก็ดูหน้าพ่อทูลหัวตัวเองบ้างนะลูกนะ



               เจอกันตอนหน้านะคะ

               

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

     ปล. ข้อมูลเรื่องเงินปอนด์กับเงินไทย ถ้าตอมเขียนผิด แจ้งได้นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
« ตอบ #1899 เมื่อ: 16-09-2017 18:39:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1900 เมื่อ16-09-2017 19:43:17 »

รู้สึกรำคาญกับความบ้างานและทุ่มเทให้กับงานของแมทเหลือเกินนน ถ้าเตอร์ไปมีกิ้กเราจะสมน้ำหน้าให้! ขยันทำงานอ่ะมันก็ดี แต่มีลิมิตมีขอบเขตบ้างก็ได้นะหนูวววววววว  :hao3: :hao3:  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1901 เมื่อ16-09-2017 20:02:09 »

 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1902 เมื่อ16-09-2017 20:04:14 »

เกือบละ เหมือนเกือบจะคิดได้ แต่ก้คิดไม่ได้ ที่วิคเตอร์พุดก้ถูก เราควรรับผิดชอบแค่งานของเรา ส่วนไหนที่ไม่ใช่งานเรา แต่แค่พอช่วยได้โดยที่ไม่เดือดร้อนจนเกินงามแบบนี้ แต่ก้พอเข้าใจแมทที่อยากทุ่มเท ทำแล้วทำให้สุด แต่คนเราต้องรู้จักลิมิตเนอะ ไม่อยากให้เป็นปัญหามากไปกว่านี้ นี่วิคเตอร์ก้อ่อนข้อให้สุดๆละนะ ถ้าขืนยังทำตัวไม่แคร์วิคเตอร์อีก ถ้าต่อไปเค้าไม่สนใจแบบนี้แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังละกันเน้อ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1903 เมื่อ16-09-2017 20:04:59 »

อาละวาดเลย!!!!

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1904 เมื่อ16-09-2017 20:35:35 »

โดนกดขี่อยู่ทุกวัน เตอร์ก็รู้ใช่ว่าไม่รู้ แต่เตอร์ยังทำอะไรไม่เต็มที่เพราะยังรักแมท อ่อนข้อแบบสุดๆ เห็นแมทมีความสุขกับการทำงาน แต่ก็คงทนได้ไม่นานหรอก ใช่ไหมเตอร์  :hao3:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1905 เมื่อ16-09-2017 21:29:38 »

 :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1906 เมื่อ16-09-2017 21:31:56 »

แมท ทุ่มเทงานมากเกินตัว เกินหน้าที่
พอทำให้ได้ พวกนั้นก็ทำไม่เต็มที่ เพราะแมท ใจดี เอื้อเขาเกินไป
แต่คนที่เอาเปรียบก็มี เห็นแก่ตัว ปล่อยให้แมททำส่วนของตัวเอง

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแมทไฟแรงด้วย อยากทำงานทุกอย่าง
ทั้งที่จริงๆ แแค่งานเขียนบท ไปๆมาๆเป็นเบ๊ประจำกอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เพราะอยากให้งานออกมาดี อยากให้งานเสร็จเร็วๆ
ผู้จัด ก็เอาเปรียบมาก จ่ายน้อย แต่จะเอางานเต็มร้อย
แมทไม่คิดบ้างหรือว่าที่แมททำได้สำเร็จ บางส่วนมาจากบารมีวิคเตอร์นะ

แล้วแมททำงานแบบนี้ มันกระทบไปถึงชีวิตรักของยักษ์ด้วย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
อยากเห็นแมทระเบิดซักที เอเลี่ยนตัวนี้พลังระเบิดจะเป็นยังไง
แต่ยักษ์ คงไประเบิดเองซะก่อนละม้าง  :z3: :z3: :z3:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1907 เมื่อ16-09-2017 22:20:55 »

วิธีที่ให้แมทเลิกทำงานคงต้องหาลูกมาให้มาเลี้ยงแล้วล่ะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 100% :16.09.60:
«ตอบ #1908 เมื่อ16-09-2017 23:06:28 »

จริงนะ คิดว่าแมททำมากเกินไปจริงๆ งานมันดีแต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องทำไปซะทุกอย่าง ณ จุดนี้เข้าใจเตอร์

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1909 เมื่อ22-09-2017 19:39:05 »



Yours and Mine EP.10 :: Extended. (ขยาย) [50%]
 



ผมค่อยๆ กะพริบเปิดเปลือกตา แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาจางๆ ผมสลึมสลืออยู่พักหนึ่งแล้วก็ตื่นลืมตาเต็มที่ นอนนิ่งอีกสักพักเพื่อให้สติประกอบตัวเป็นรูปเป็นร่างในหัว สายตาเหลือบไปเห็นซองเงินสีน้ำตาลวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ผมมองมันนิ่งสักพักก่อนจะสะดุ้งเด้งตัวขึ้นมา หันซ้ายหันขวาเพื่อหาโทรศัพท์มือถือแต่ก็หาไม่เจอ ผมเลยลุกออกจากเตียง เดินไปดูนาฬิกาดิจิตอลบนตู้เก็บของความทรงจำต่างๆ ของวิคเตอร์ นาฬิกาบอกเวลาว่าอีกสิบกว่านาทีจะเก้าโมงเช้า ผมอ้าปากค้างด้วยความตกใจและใจหล่นตุ้บ ผมหันกลับไปมองบนเตียงที่ไม่ได้สังเกตเมื่อกี้ บนเตียงว่างเปล่า ไม่มีร่างของวิคเตอร์ แต่ผมตัดประเด็นนั้นทิ้ง รีบวิ่งไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีก่อนที่จะโดนด่าอะไรไปมากกว่านี้ เพราะผมสายมาจะครบหนึ่งชั่วโมงแล้ว

           

 

ผมจัดการตัวเองเสร็จภายในสิบนาที อาบน้ำเหมือนอาบให้สดชื่นเฉยๆ แล้วรีบเช็ดตัวให้แห้ง เช็ดหัวหมาดๆ ผมยังคงไม่เจอโทรศัพท์มือถือ ค้นในกระเป๋าสะพายข้างส่วนตัวก็ไม่มี แต่คิดว่าพลิกหาในห้องนอนจนทั่วแล้วเลยรีบวิ่งลงไปข้างล่าง พอโผล่มาที่ครัวก็เจอออสตินนั่งกินอาหารเช้าสบายใจเฉิบ

           

 

“ออสติน ไปส่งที” ออสตินพยักหน้า วางขนมปังปิ้งลงในจานแล้วเอาจานไปเก็บไว้ในตู้ไม้ ผมรีบเดินนำออกไปก่อน วันนี้มีถ่ายที่ทางตอนใต้ของริมแม่น้ำฮัดสัน จากบ้านไปก็ยี่สิบนาที ถ้าออสตินเหยียบหนักๆ หน่อยก็อาจจะสิบนาทีติ่งๆ

           

 

“เหยียบเต็มที่…” ผมชะงักเมื่อเดินลงมาจากบันไดขึ้นหน้าบ้านแล้วไม่เจอเจ้ากระทิงดุสีเทามันวาว ผมหันไปมองออสตินที่ยังทำหน้านิ่ง

           

 

“…รถไปไหน” ในขณะที่ผมร้อนรนแทบตาย แต่ออสตินกลับนิ่งสงบ

           

 

“คุณเรย์มอนด์เอาไปครับ” ผมจะโกรธไอ้ยักษ์ก็ไม่ได้ นั่นมันรถเขา แต่ก็หงุดหงิดนิดหน่อยที่เขาไม่คิดแม้แต่จะปลุกผมให้ออกไปพร้อมกัน

           

 

“แล้วก็ไม่บอกนะ” ผมจิกตาใส่ออสติน แหม บอกให้ไปส่งมีการพยักหน้าด้วย ผมพุ่งตัวไปยืนริมถนนชะเง้อหาแท็กซี่สีเหลือง แต่ตรงนี้ก็นานน้านทีจะมีผ่านมา ใจผมร้อนรุ่ม มือถือก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าตอนนี้มีใครโทรหาผมไปแล้วบ้าง

           

 

“มันคงแปลกที่จะถาม แต่ว่าคุณเห็นโทรศัพท์ผมมั้ย”

           

 

“คุณเรย์มอนด์ยึดไปครับ เขาไม่อยากให้คุณโดนกองถ่ายโทรตาม เขาอยากให้คุณพักผ่อนให้เต็มที่” ผมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบๆ ด้วยความทึ่งเล็กๆ

           

 

“อะ… ฮะ” ผมไม่รู้จะต้องทำหน้ายังไงดีให้สาสมกับความมึนของไอ้ยักษ์นี้

           

 

“แล้วตอนนี้เขาไปไหน” ออสตินเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจ

           

 

“ไปทำงานสิครับ” ผมย่นคิ้ว วิคเตอร์ไปทำงานอะไร หนังหรือซีรีส์ของเขาละมั้ง แต่ซีรีส์เพิ่งออกอากาศไปนี่ อ้อ สงสัยจะเป็นหนังแล้วละอย่างงั้น เอ๊ะ หรืองานพรีเซ็นเตอร์ ถ่ายแบบอะไรรึเปล่า เออ ช่างก่อนเถอะ

           

 

“ออสติน เรียกอูเบอร์ให้หน่อย หาแท็กซี่ไม่ได้เลยเนี่ย” ผมว่าด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ ออสตินยืนเฉย ผมกำลังจะชักสีหน้า แต่รถตู้สีขาวคันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าผมกับออสติน ผมขมวดคิ้วงงๆ พอกระจกรถลดลงผมก็ต้องทำหน้าประหลาดใจ

           

 

“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักทายคนขับรถตู้ของกองถ่าย เขาเป็นคุณลุงผมขาว รูปร่างสูงยาว เป็นคนขับรถตู้คอยบริการทีมงานและนักแสดง

           

 

ทีมงาน… ใช่ ทีมงาน ผมเป็นทีมงาน

           

 

“ขึ้นมาเลยไอ้หนุ่ม” เหมือนผมเพิ่งนึกอะไรบางอย่างได้ในขณะที่เดินล่องลอยไปขึ้นรถโดยมีออสตินตามมาด้วย

           

 

“ออสติน ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวผมไปกับลุงเขาเอง”

           

 

“ถ้าไม่ต้องไปกับคุณแมท ผมคงไปอยู่กับคุณเรย์มอนด์แล้วครับตอนนี้” ผมพ่นลมหายใจ ตอนนี้ขี้เกียจเปิดปากเถียงกับเขา ออสตินเลื่อนปิดประตูรถ ลุงคนขับออกรถไปตามถนน

           

 

ผมไม่เคยได้นั่งรถที่มีไว้บริการทีมงานแบบนี้เลย พีทสั่งให้ผมไปนั่นไปนี่ แต่ไม่เคยให้ผมเอารถไปใช้ พูดตรงๆ ว่าผมลืม แรกๆ มีคิด แต่หลังๆ ผมคิดว่าก็ถ่ายในนิวยอร์กเอง คุ้นเคยอยู่แล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก เดินทางเองได้ เลยไม่ได้เรียกร้อง แต่ตอนนี้ผมงงว่าลุงเขามาถึงที่นี่ได้ยังไง

           

 

“ทำไมคุณลุงมารับผมได้ละครับ”

           

 

“พีทบอกให้มารับ” คุณลุงตอบอย่างเป็นมิตร ผมย่นคิ้ว รู้สึกประหลาดใจและโคตรแปลกใจ กำลังทบทวนกับตัวเองว่าชื่อที่ได้ยินจากปากลุงนั้นคือชื่อพีทจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ใช่คิดไปเองใช่หรือเปล่า

           

 

เกิดอะไรขึ้นกับพีท ทำไมถึงใจดีส่งคนขับรถมารับ ผมหันไปมองออสตินราวกับจะหาคำตอบจากเขา แต่ออสตินก็หน้านิ่งตอบกลับมา ซึ่งนั่นแหละคือคำตอบแล้ว และเป็นการบอกผมกลายๆ ด้วยว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก

           

 

“ที่กองถ่ายเป็นไงบ้างครับ” ผมถามด้วยความรู้สึกแปลกๆ ผมเป็นทีมงาน และเป็นทีมงานที่ไปทำงานสายด้วย แต่มีรถมารับถึงที่ ราวกับรู้เวลาว่าต้องมารับผมตอนนี้ การถามแบบนี้เหมือนผมกำลังทำตัวเป็นเจ้านาย เป็นเจ้าของกองถ่ายเลย ซึ่งผมไม่ค่อยชอบความรู้สึกนี้เท่าไหร่

           

 

“ก็ถ่ายทำกันอยู่นั่นแหละนะ” ผมพยักหน้า นั่นสิ จะให้กองถ่ายเป็นอะไรไปได้อีกล่ะนอกจากกองถ่ายทำภาพยนตร์ ในเมื่อมันมีไว้สำหรับถ่ายหนัง มันคงไม่ได้มีไว้แอโรบิคหรอกนะ

           

 

แต่ผมกำลังจิตตก มือถือไม่มี ผมไม่สามารถโทรหาใครได้ และไม่มีใครสามารถโทรหาผมได้เช่นกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้พีทกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าเป็นปกติอย่างน้อยยังรู้ว่าเขาจะโทรมาด่าและตามจิกไปทำงานแน่ๆ แต่นี่คือไร้สัญญาณใดๆ ผมเริ่มกลัวว่าจะต้องทำตัวยังไงกับการไปสายหลังจากเมื่อวานนี้เพิ่งได้รับค่าตัวครึ่งแรก

 

 

 คิดแล้วก็อยากจะทุบหน้าไอ้ยักษ์แรงๆ ที่หยิบมือถือผมไป แถมไม่มีน้ำใจปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาทำงานด้วย เมื่อไหร่เขาจะคิดได้สักทีนะว่าผมเป็นแค่ทีมงานเล็กๆ คนนึงที่แม้เขาจะฝากงานให้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะทำอะไรตามใจได้อย่างที่เขาชอบทำ ผมไม่ได้อยู่ในสถานะที่ทำได้ ถ้าผมทำแบบนั้น เขาก็ไม่จ้างผมแล้วหาคนใหม่มาทำงานแทนแค่นั้นเอง ผมพยายามไม่ขมวดคิ้ว ไม่เครียดให้รู้สึกตึงหัวคิ้วกับใบหน้า แต่ก็ทำไม่ได้เลย

 

 

ตอนที่รถจอดหน้ากองถ่าย ผมพ่นลมหายใจสักแปบแล้วเดินลงไป ทีมงานก็เดินกันขวักไขว่ตามปกติ ตอนนี้เหมือนกำลังเซ็ทฉากใหม่อยู่ ผมมองไปรอบๆ ด้วยความระแวงเล็กๆ ทุกคนดูปกติใช่มั้ยนะ ผมเดินผ่านทีมงานผู้ชายผมสีน้ำตาลแก่ที่เป็นทีมตากล้องคนหนึ่งแล้วยกยิ้มให้ เขาก็ยิ้มตอบกลับมาและทักทายผมปกติดี ผมสลัดความกังวลออกแล้วรีบเดินไปหน้าจอมอนิเตอร์ ผู้กำกับหัวสีขาวนั่งอ่านบทเงียบๆ อยู่คนเดียว

 

 

“เอ่อ สวัสดีครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วก็ยกยิ้มให้นิดหนึ่ง

 

 

“มาแล้วเหรอ ตามสบายนะ” พูดจบก็ก้มหน้าอ่านบทต่อ ผมรู้สึกโหวงๆ กับประโยคนั้น การบอกให้ผมทำตัวตามสบายคืออะไรกัน ผมรู้สึกเหมือนโดนทิ้งไว้กลางความเวิ้งว้าง

 

 

“ขอโทษนะครับที่มาสาย ผมไม่ได้ตั้งปลุก ผมไม่รอบคอบเอง”

 

 

“คนเรามันก็พลาดกันได้ ฉันเองก็เคยลืมตั้งปลุกบ่อยๆ” ถึงเขาจะพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจหรือโกรธอะไร แต่ทำไมผมกลับรู้สึกไม่ดี

 

 

“มีอะไรให้ผมทำมั้ยครับ” ผู้กำกับสูงวัยมองไปรอบกองสักแปบ ก่อนชี้ไปที่เต็นท์สีขาวที่มีพวกพีทนั่งอยู่ในนั้น

 

 

“ลองไปถามหางานจากพีทดู” ผมพยักหน้า เดินไปทางเต็นท์สีขาวที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ริมแม่น้ำ มีทีมงานนั่งกันอยู่สามสี่คน ทุกคนกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดีเลยเดินเข้าไปหาพีทก่อน โชคดีที่เขาเงยหน้ามองผมพอดี ผมเลยไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไร

 

 

“โอ้ว มีบอดี้การ์ดมาด้วยเหรอเนี่ย” เขาพูดด้วยท่าทีประหลาดใจพอๆ กับน้ำเสียงที่ผมรู้สึกว่ามันฟังประดิษฐ์ซะเหลือเกินแต่ก็เลือกจะเมินผ่านไป ผมหันไปมองออสติน ผมส่งสายตาขอร้องให้เขาออกไป ออสตินยอมเดินออกไปจากเต็นท์ ผมหันกลับมาหาพีทที่ทำหน้าไร้อารมณ์ ดวงตาสีดำเข้มมองผมอย่างนิ่งเฉย

 

 

“ขอโทษที่มาสายครับ” พีทยักไหล่ ยกมุมปากเล็กน้อย ผมรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มเยาะซะมากกว่า

 

 

“รับเงินไปแล้วนี่ จะมาสายสักวันจะเป็นไรไป” ผมรู้สึกสะอึกไปนิดหนึ่ง เหตุการณ์มันช่างเหมาะเจาะดีจริงเชียว

 

 

“มันไม่ใช่ว่าผมรับเงินไปแล้ว…” ผมหยุดพูดเพราะพีทยกมือซ้ายขึ้นห้ามไม่ให้พูด ทีมงานชายหญิงคนอื่นที่ทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองแว้บหนึ่งแล้วกลับไปก้มหน้าทำงานกันต่อ

 

 

“…นายอาจจะผิด แต่สำหรับพวกฉัน นายต้องถูกเสมอ” ผมย่นคิ้ว พีทยิ้มหึอย่างดูถูก

 

 

“อะไรนะ” พีทยิ้มหยันเล็กๆ ผมไม่ค่อยชอบรอยยิ้มนั้นเท่าไหร่ แต่ก็ข่มใจไม่ให้ตัวเองหงุดหงิดหรือโมโหไปมากกว่าที่เป็นอยู่

 

 

“ฉันนี่มัน…” เขาทำสีหน้าครุ่นคิดผสมกับทีท่าลำบากใจปลอมๆ นั่นสักแปบ “…ช่างไม่เจียมเนื้อเจียมตัว”

 

 

ผมนึกถึงภาพพีทที่ยิ้มให้ผมเมื่อวานหลังจากจ่ายเงินให้ผม ภาพนั้นถูกทดแทนด้วยลักษณะนิสัยเดิมๆ ของเขาที่มีต่อผมคนเดียว

 

 

“คุณสื่อมาตรงๆ เลยดีกว่า” ผมเริ่มเสียงแข็ง มองเขาด้วยความไม่พอใจ พีททำตาโตเล็กน้อยก่อนยกสองมือขึ้นข้างลำตัว

 

 

“อุ อู้ว ฉันเผลอเล่นคนเส้นใหญ่ซะแล้วสิเนี่ย” ผมกัดฟันแน่น มองใบหน้าขาวคมของพีทด้วยความอดทนอดกลั้น ผมละเกลียดท่าทีนี้ของเขาจริงๆ

 

 

“มีงานอะไรให้ผมทำบ้าง” ผมตัดสินใจปัดเรื่องที่เขากระแนะกระแหนทิ้ง คิดซะว่ามันคือปกติของเขา แค่อาจจะเพิ่มเลเวลขึ้นมาเท่านั้นเอง

 

 

“เลือกเอาตามสบายเลยว่าอยากทำอะไร ฉันไม่กล้าใช่นายแล้วละ” ผมอ้าปากขึ้นนิด ยิ้มขัดเล็กน้อย กะพริบตาสองสามทีมองหน้าคนพูด

 

 

“หลังจากที่ใช้ผมเหมือนว่าผมเป็นทีมงานในกองคนเดียวมาตลอดน่ะเหรอ” ผมไม่ได้เหวี่ยง แต่น้ำเสียงก็ไม่ดี คนที่อยู่ในเต็นท์หยุดทำงานแล้วเงยหน้าขึ้นมองผมที่กำลังมองหน้าพีทด้วยสายตาหมั่นไส้กับท่าทีของเขา

 

 

“ขอโทษก็แล้วกันนะ…”

 

 

“…ไม่ต้องมาขอโทษ ผมมาทำงาน คุณมีสิทธิ์สั่งผมอยู่แล้ว วันนี้ผมผิดที่มาสาย ผมยอมรับ แต่มารยาทที่คุณแสดงต่อผมมันแย่มาก ทั้งๆ ที่ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณชอบแสดงนิสัยแย่ๆ กับผม แต่ไม่คิดว่ามันจะแย่ได้อีก” ผมพยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นน้ำเสียงเรียบๆ นิ่งๆ ไม่อยากอาละวาดวีนแตก ตะโกนเสียงดังใส่หน้าเขา เพราะจะทำให้เราเป็นจุดเด่นมากกว่าเดิม

 

 

“ถ้างั้นก็ไปบอกแฟนนายผู้ยิ่งใหญ่ด้วยนะว่านายเต็มใจทำ ไม่ใช่เพราะฉันบังคับ” พีทเถียงกลับเสียงแข็งตาแข็ง ท่าทางเขาดูเบื่อหน่ายและสุดจะทน ผมย่นคิ้วเล็กน้อยแต่ก็คลายออกอย่างรวดเร็ว

 

 

“เขาเกี่ยวอะไรด้วย” ผมเลือกจะไม่พูดชื่อวิคเตอร์ เพราะไม่ใช่เธอหรือเขาทุกคนที่รู้เรื่องของผมกับพ่อพระเอกหนวดเครารุงรัง รู้อยู่ไม่กี่คน และผมขอบคุณมากที่คนที่รู้ไม่พูดหรือเม้าท์ต่อ

 

 

หนึ่งในนั้นก็คือพีท เห็นแบบนี้แต่เขาไม่เคยพูดหรือนินทาเรื่องผมกับวิคเตอร์เลย หรืออาจจะเคยแต่ผมไม่รู้ก็ได้มั้ง

 

 

 

“He is such a good boyfriend, doesn’t he? (เขาเป็นแฟนที่โคตรดีเลยว่ามั้ย)” พีทยิ้มเยาะอีกทีแล้วเดินจากไป ทิ้งความไม่เข้าใจและความไม่พอใจไว้ให้กับผม ที่ไม่พอใจมากๆ คือการทิ้งปริศนาบ้าบออะไรไว้แบบนี้ มันทำให้คนขี้เผือกอย่างผมอึดอัดโว้ย!

 

 

ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ตรงนั้นสักพัก หันไปมองออสตินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พลางก้มกดมือถือด้วยสายตาหงุดหงิด คือปกติพีทก็ไม่ได้ดีอะไรกับผมนักหรอก มีเมื่อวานนั่นแหละที่ดูเหมือนระว่างเราสองคนดูจะเข้าใกล้คำว่าเพื่อนร่วมงานกันมากที่สุดจากคำว่านายกับทาส แต่วันนี้มันกระเถิบออกห่างเหมือนเดิมอีกละ ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมาถึงได้ออกอาการแขวะอีกรอบ

 

 

“มีอะไรให้ทำมั้ย” เมื่อไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรต่อ ผมเลยเดินกลับเข้าไปในเต็นท์และถามพวกทีมงานคนอื่น ทุกคนส่ายหน้าพร้อมกัน

 

 

“พีทบอกว่านายไม่ต้องทำอะไร” ผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลที่มีตำแหน่งเป็นการเงินของกองถ่ายเอ่ยบอก จังหวะนั้นมีทีมงานผู้ชายหัวหยิกตัวผอมคนหนึ่งลุกขึ้นเดินออกไปจากเต็นท์

 

 

“อ้าว ผมไม่ต้องทำอะไร คือยังไงเหรอ” เธอทำตาโตแล้วยักไหล่สองข้างประมาณว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมมองทีมงานอีกสองคนที่เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย สองคนนั้นมองหน้าผมแล้วยิ้มแกนๆ กลับมาให้ก่อนก้มลงไปทำงานต่อ ผมขบกรามแน่น หมุนตัวเดินออกจากเต็นท์ เดินกลับไปหาผู้กำกับที่กำลังจะลุกเดินไปทางอื่น

 

 

“เจมส์…” ชื่อผู้กำกับที่ผมเรียกเขาอยู่ไม่กี่ครั้งหรอก

 

 

“…พีทเป็นอะไรรึเปล่า และคุณเองก็เป็นอะไรรึเปล่าครับ ทำไมผมถึงไม่ต้องทำงานอะไรและทำไมถึงสามารถทำตัวตามสบายได้” ผมถามอย่างอดทนไม่ให้ตัวเองปล่อยอารมณ์พุ่งปรี๊ด เจมส์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง

 

 

“นายทำงานหนักเกินไป และฉันต้องขออภัยด้วยที่ไม่ระบุตำแหน่งงานของนายให้ชัดเจน”

 

 

“ถ้าจะบอกว่าผมเป็นคนเขียนบท ก็ไม่ใช่แล้วครับ เพราะผมแค่เอาไปแก้ ไม่ได้เขียนเปลี่ยนใหม่อะไรเลย” ผู้กำกับมองหน้าผมนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วเขาก็ถามกลับมาให้ผมคิด แต่เป็นการให้คิดที่ตลกมาก

 

 

“แล้วตอนนี้เธออยากทำหน้าที่อะไรในกองถ่ายล่ะ” ผมอ้าปากหวอ ถามแบบนี้หมายความว่าไงกัน เขาถามเหมือนผมมาสมัครงานใหม่ในกองถ่ายงงั้นแหละ ผมอยู่กับเขามาครึ่งทางแล้วนะ อีกเดือนกว่าๆ หนังก็จะถ่ายจบแล้ว

 

 

“แล้วทุกวันนี้ผมทำอะไรล่ะครับ”

 

 

“ฉันว่าตำแหน่งเธอมันยังไม่ชัดเจน เธออยากเป็นตำแหน่งไหนล่ะ บอกมาเลย” ผมเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจ ถึงเขาจะไม่มีท่าทีประชดหรือกระแนะกระแหน แต่เขาก็แอบกวนตีนเล็กๆ

 

 

“วันนี้มันอะไรกัน บอกผมหน่อยได้มั้ย มีใครมาพูดอะไรงั้นเหรอ” มันต้องมีซัมติงสิ ไม่มีไม่ทำตัวประหลาดกันขนาดนี้หรอก

 

 

เจมส์ยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ “ฉันกับพีทโดนวิคเตอร์จวกเละเลยละ”

 

 

คิ้วผมย่นเข้าหากันนิดๆ ริมฝีปากอ้าค้างหน่อยๆ มองชายสูงวัยร่างผอมท่าทางกระฉับกระเฉงด้วยความรู้สึกงุนงงปนใจหวิวแปลกๆ

 

 

“วะ… วิคเตอร์มาที่นี่เหรอ” ผมถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความกลัวในอก ขนผมตั้งชันจนนึกว่ามีผีมาวนเวียนอยู่แถวนี้

 

 

“ใช่ เขาก็… ไม่ได้อาละวาดอะไรนักหนาหรอก แต่ก็ทำเอาทีมงานสองสามคนที่บังเอิญอยู่กับฉันและพีทช็อคไปพักใหญ่” ผมรู้สึกเหนื่อยใจเหนื่อยกายขึ้นมาทันทีทั้งที่ยังไม่รู้ว่าวิคเตอร์พูดอะไรไปบ้าง แต่ผมพอจะนึกถึงสีหน้าและบรรยากาศในตอนที่เขาพูดได้ แค่ไม่รู้ว่าเลเวลไหน

 

 

“ผมขอโทษแทนเขาด้วยครับ คือ… เขาพูดอะไรก็ตาม แต่ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่ที่ผม” เจมส์ยิ้มเยาะ คราวนี้เขาเยาะจริงๆ แบบไม่มีปิดบัง

 

 

“ฉันว่าไม่ใช่” เขายกมือขึ้นตบบ่าผมแล้วเดินจากไป ทิ้งความหนักอึ้ง ความไม่สบายใจให้ผมไว้เต็มอก หัวสมองผมตื้อ ไม่รู้จะสั่งการตัวเองยังไงดี และไม่รู้แล้วว่าจะต้องรู้สึกเบื่อกับเอือมพฤติกรรมวางอำนาจของวิคเตอร์ได้อีกเท่าไหร่

 

 

 








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:


               อะ อีพี่ยักษ์ Make a trouble (เมคอะทรบเบิล) สร้างปัญหาให้น้องอีกแล้วค่ะ

              เหมือนตอนนี้ทั้งสองคนหันหลังคุยกัน แล้วเล่าสิ่งที่ตัวเองเห็นในฝั่งตัวเองให้อีกคนฟัง อีผัวก็หวังดี อีเมียก็อยากให้เข้าใจ ตอนนี้มันไม่ไปด้วยกัน เหมือนสะกัดขากันอยู่อะเนาะ ทุกปัญหามีทางออกและทุกทางออกก็มีปัญหานะคะทั้งสองคน

               มาสั้นๆ หน่อยเน้อ แต่ก็เน้นๆ เนื้อหาโนะ (เหรอยะ?) พาร์ทสามเนี่ย เท่าที่สังเกตการเขียนของตัวเอง แต่ละตอนเนื้อหาจะไม่ได้ยาวเฟื้อยแบบแต่ก่อนแล้ว แต่ก็ฟันธงไม่ได้ ต้นฉบับยังไม่จบ ตอนต่อๆ ไปอาจยาว 555555

               ก็ยังขาดหวาน เติมน้ำตาลกันสักช้อนสองช้อนมั้ยคะสองสามีภรรยาคู่นี้ คนอ่านอิฉันจะเป็นโรคขาดน้ำตาลแล้ว / เสียงตะโกนมาว่ามันขึ้นอยู่กับมึงแหละอีคนเขียนนนน

               ใครที่รอพี่แซ็คอยู่ ตอนแรกของพี่แซ็คจะลงหลังจากอัพตอนที่ 12 ของเรื่องนี้จบแล้วค่ะ แต่ตอมเปิดลิงก์เรื่องไว้แล้ว ยังไม่มีเนื้อหาอะไรค่ะ เป็นลิงก์สำหรับลงเรื่องเฉยๆ แต่ก็ตกแต่งไปแล้วนิดหน่อยยย

               เจอกับอีกครึ่งที่เหลือนะคะ

               

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

     

แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
« ตอบ #1909 เมื่อ: 22-09-2017 19:39:05 »





ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1910 เมื่อ22-09-2017 19:49:34 »

เดี๋ยวได้ทะเลาะกันอีก

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1911 เมื่อ22-09-2017 19:59:24 »

ทำไมเรารู้สึกว่าวิคเตอร์ทำถูกแล้ว  o13 คนในกองถ่ายทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง แล้วฝากแมทมาทำตำแหน่งไหนกันแน่ งงใจ แมทก้นะ เข้าใจว่าอยากทำงานแบบไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แต่เราเชื่อว่าต่อให้วิคเตอร์ไม่ทำแบบนี้ก้ยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆแน่ล่ะ ดูจากนิสัยคนในกองแล้ว  :z6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1912 เมื่อ22-09-2017 20:00:29 »

เราว่า วิคเตอร์ก็ทำถูกนะ กองถ่ายอะไร อีตาพีทนี่ใช้งานแมทเหมือนแกล้ง ซื้อของ ขับรถ แก้บท ยกของ อะไรสาระพัด เหยียดๆ อักต่างหาก แต่ พอวิคเตอร์ไปพูดก็ประชดเหรอ ตกลงจ้างแมทมาทำหน้าที้อะไรกันแน่ วันหยุดก็โทรหา มันเกินไปจริงๆอ่ะ
แต่ สำหรับแมท มันคงเป็นปัญหาใหญ่แน่
เดี๋ยวก็ตีกันอีก สองผัวเมีย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1913 เมื่อ22-09-2017 20:27:19 »

ลาออกไปโล้ด ถ้าไม่อยากให้ทำงานอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1914 เมื่อ22-09-2017 21:01:37 »

เฮ้อออ เด้ยวก็ทะเลาะกันอีก น่าเบื่ออะ เราว่ามันเริ่มน่าเบื่อแล้วนะ ทะเลาะกันปัญหาเดิมไหม แมทก็ยอมเป็นเบ๊เขาตลอด เหมือนคนไม่มีความสามารถอะไรเลย ให้ฝรั่งเหยีด จิกหัวใช้ไปวันๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เป็นวิกเตอร์เราก็ไม่ยอมนะ เฮ้ออ โกรธคนแต่งด้วยอะ  ทำให้แมทไม่เห็นคุณค่าตัวเองเลย

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1915 เมื่อ23-09-2017 00:47:02 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1916 เมื่อ23-09-2017 00:52:25 »

สรุปอิยักษ์ผิด?? ขนาดมาทำงานตัวเองยังไม่รู้ตำแหน่งตัวเองเลยอะแมท ยังทำงานงกๆ ต้องการจะพัฒนาตัวเอง อยากเป็นนักเขียนบท อยากยืนด้วยขาตัวเอง ไหนละได้พัฒนาอะไร ก็เห็นเป็นเบ๊เค้าตลอดนิ จริงๆคู่นี้มันก็มีปัญหาตลอดอยู่แล้วเนอะ ไม่อยากไปอินมาก เดี๋ยวก็อิหรอบเดิม เดี๋ยวก็ดีกัน จริงๆชอบเรื่องนี้มาก แต่ตอนนี้เราว่ามันเริ่มน่าเบื่อแล้วอะ ขอโทษคนเขียนด้วยนะ เหมือนต้องมาอ่านผัวเมียทะเลาะกัน ดีกัน วนลูปอย่างงี้อะ เข้าใจว่าชีวิตคู่ แต่สองคนนี้ปรับตัวหากันอะไรยังไง มองไม่ค่อยชัดเลย นอกจากsexที่เข้ากันได้ดี (มากกกก)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1917 เมื่อ23-09-2017 03:30:14 »

เราว่า วิคเตอร์ก็ทำถูกนะ กองถ่ายอะไร อีตาพีทนี่ใช้งานแมทเหมือนแกล้ง ซื้อของ ขับรถ แก้บท ยกของ อะไรสาระพัด เหยียดๆ อักต่างหาก แต่ พอวิคเตอร์ไปพูดก็ประชดเหรอ ตกลงจ้างแมทมาทำหน้าที้อะไรกันแน่ วันหยุดก็โทรหา มันเกินไปจริงๆอ่ะ
แต่ สำหรับแมท มันคงเป็นปัญหาใหญ่แน่
เดี๋ยวก็ตีกันอีก สองผัวเมีย

ทำไมเรารู้สึกว่าวิคเตอร์ทำถูกแล้ว  o13 คนในกองถ่ายทุกคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง แล้วฝากแมทมาทำตำแหน่งไหนกันแน่ งงใจ แมทก็นะ เข้าใจว่าอยากทำงานแบบไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แต่เราเชื่อว่าต่อให้วิคเตอร์ไม่ทำแบบนี้ก็ยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆแน่ล่ะ ดูจากนิสัยคนในกองแล้ว  :z6:

คิดเหมือนนะ
วิคเตอร์ ทำถูกแล้ว  ที่ไปบรีฟกองถ่าย
แต่คนที่กองถ่ายก็แย่ นิสัยเสีย แบบไม่รู้ตัวเองว่าเลว
ใช้งานแมทหัวปักหัวปำ โดยเฉพาะอีพีท
ผู้กำกับก็เหมือนกัน แมทใช้ได้ก็ใไช้ใหญ่ มีเบ๊มาประเคนตัวเองให้ใช้นี่

คนผิดที่สุดคือแมท ผ่างงงงงงง
ไปทำตัวยอมเป็นเบ๊เขา เพราะอยากเรียนรู้งาน เพราะความไฟแรงของตัวเอง
จนมันตกอยู่ในสภาพที่ลามไปถึงวิคเตอร์ เพราะแมทบ้างานพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาให้วิคเตอร์

เชื่อได้ว่าแมท ยังไม่รู้ความผิดของตัวเอง  :hao3:
กลับไปอาละวาดกับยักษ์แน่ :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 50% :22.09.60:
«ตอบ #1918 เมื่อ23-09-2017 08:26:25 »

ทะเลาะกันบ้านแตกแน่ๆ
ผิดกันทั้งคู่ละนะ แมทก็ทำงานมากไป สนใจคนที่ต้องการให้สนใจน้อยลง
เตอร์ก็ก่าวก่ายงานแมทเกินไปละมั้ง
งานนี้เคลียร์กันยาวแน่ๆ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.10 100% :27.09.60:
«ตอบ #1919 เมื่อ27-09-2017 17:11:20 »



Yours and Mine EP.10 [100%]



เป็นการออกกองที่อึดอัดและน่าเบื่อหน่ายที่สุด ตลอดเวลาที่อยู่ในกองถ่ายวันนี้ ไม่มีใครใช้ผมเลยสักคน จากที่เคยเรียกหา เรียกใช้ ทุกคนเปลี่ยนไป ย้ำว่าทุกคน ถึงจะไม่ใช่ทุกคนในกองถ่าย แต่คนที่เคยใช้ผม ไหว้วานผม ไม่มีเลยสักคนที่จะนึกถึงอีแมทคนนี้ ผมไม่รู้ว่าใครได้ยินสิ่งที่วิคเตอร์มาพูดบ้าง แต่พีทดักทุกคนที่กำลังจะเข้ามาใช้ผม หรือเรียกหาผม เขาจะแทรกด้วยอาการแขวะทันที

 

 

‘โอ้ว ม่าย ไม่ อย่าใช้เขาเลย เธอไม่อยากมีปัญหาทีหลังหรอกนะ’

 

 

เขาพูดทำนองนี้กับทุกคนที่คิดจะให้ผมทำงานให้ เลยกลายเป็นว่าผมต้องเสนอตัวไปช่วยเอง บางคนก็ให้ผมทำ บางคนก็ไม่ แต่ยังดีของดีมากที่ไม่ได้มีใครแสดงท่าทีแอนตี้หรือเหยียดใส่ผมแบบที่พีททำ

 

 

ผมอยู่ในกองวันนี้ด้วยความอึดอัดและไม่สบายใจ ผมอยากโทรหาวิคเตอร์ แต่ก็เกรงว่าจะยิ่งอารมณ์เสีย เลยเลือกจะรอจนกระทั่งเลิกกอง เลิกไปแบบเหงาๆ เพราะอารมณ์ผมหม่นหมองมาก

 

 

“Thank you.” ออสตินจ่ายตังค์ให้คนขับอูเบอร์ที่เขาเรียกมาให้มารับที่กอง ผมถอนหายใจทิ้งไปกับอากาศยามเย็นตรงหน้าบ้านแล้วเดินขึ้นบันไดบ้านไปแบบเฉื่อยๆ วิคเตอร์กลับมาแล้ว เห็นได้จากรถที่จอดอยู่ด้านหน้า จะว่าไม่อยากเจอหน้าเขาก็ไม่ใช่ มันเป็นอารมณ์ไม่พร้อมจะเห็น ไม่พร้อมจะเจอมากกว่า เออ ก็ไม่อยากเจอนั่นแหละ

 

 

ทำไมนะ แทนที่เขาจะเป็นคนซัพพอร์ตผมที่สุด แต่กลับทำให้ผมสะดุดที่สุดแล้วตอนเนี้ย

 

 

“เฮ้…” ผมกลอกตาเล็กๆ ในขณะที่กำลังยืนดื่มน้ำส้มอยู่ในครัว วิคเตอร์ในสภาพใส่เสื้อยืดสีขาว ท่อนล่างใส่กางเกงขาสั้นผ้าร่มสีดำ บนหัวมัดผมเป็นจุก เดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทีปกติ

 

 

“…วันนี้เลิกเร็วดีนี่” เขายิ้ม แต่ผมยิ้มไม่ออก ผมกำแก้วน้ำสีใสแน่น มองเขาด้วยความเคืองในระดับที่บอกไม่ได้ว่าเคืองระดับไหน แต่ในใจใจคือเต้นตุ๊บๆ

 

 

“เป็นอะไร” เขาย่นคิ้วด้วยความสงสัย ผมถอนหายใจ วางแก้วลงบนโต๊ะหินอ่อน เม้มปากเบาๆ และคุมสติให้อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ให้อารมณ์ขุ่นมัวมาดึงความรู้สึกให้เป็นพิโรธ

 

 

“คุณไปที่กองมาเหรอ” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งเหมือนกำลังคิด

 

 

“กองฉัน? ใช่ ฉันไปมา วันนี้มีอ่านบท” ผมทำปากยื่นนิดๆ

 

 

“เปล่า หมายถึงกองถ่ายของผม คุณไปที่กอถง่ายที่ผมทำงานอยู่มาเหรอ” ผมขยายความด้วยความรู้สึกอดทนอดกลั้น รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีไม่รู้เรื่องรู้ราวของเขาซะเหลือเกิน

 

 

“อ้อ...” วิคเตอร์กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วยักไหล่สองข้าง ออสตินเดินเข้ามาในบ้าน เราสองคนหันไปมองเขา

 

 

“ผมจะขอตัวออกไปหาไดอาน่าสักชั่วโมงครับ” ออสตินพูดด้วยท่าทีปกติ เหมือนขอไปซื้อกับข้าวที่ตลาดอะไรแบบนั้น ผมหยิบแก้วไปวางไว้ในอ่างล้างจาน

 

 

“ไปเถอะ กี่ชั่วโมงก็ได้ ฝากทักทายไดอาน่าด้วยนะ เอารถฉันไปได้เลย ฉันไม่ได้ใช้” วิคเตอร์หยิบกุญจบนเค้าน์เตอร์บาร์แล้วโยนให้ออสติน พ่อบอดี้การ์ดรยกมือรับอย่างแม่นยำก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากนอกบ้าน ทิ้งให้เราเหลือกันสองคน

 

 

“เย็นนี้กินอะไรดี” วิคเตอร์หันกลับมาถาม ซึ่งเป็นการถามแบบเปลี่ยนไปเรื่องอื่นทั้งที่เรื่องนั้นยังไม่เคลียร์ ทำเอาผมรู้สึกเพลียกับอาการตีมึนของเขา

 

 

“ตอบผมก่อนมั้ยว่าไปทำอะไรที่กองผมมา” วิคเตอร์เดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้ทรงสูงสีน้ำตาล เอาศอกวางค้ำร่างตัวเองบนโต๊ะหินอ่อนด้วยท่าทีสบายๆ

 

 

“ฉันไปคุยกับไอ้พีทแล้วก็ไอ้ผู้กำกับมา”

 

 

“คุณไปคุยว่าอะไร” วิคเตอร์กระตุกยิ้มมุมปาก แสร้งมองผมด้วยสายตาเป็นเครื่องหมายคำถาม

 

 

“นายรู้อยู่แล้วมั้ง ไม่งั้นไม่มีท่าทางแบบนี้ใส่ฉันหรอก” ผมพ่นลมหายใจ ชั่วขณะหนึ่งผมไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไงดีกับท่าทีนี้

 

 

“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณไปพูดอะไร เพราะคนที่กองแทบไม่อยากจะพูดกับผมเลย…” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น เอามือซ้ายลูบใต้คางเบาๆ ผมเห็นแล้วอยากกระตุกเคราทั้งแผงให้หลุดออกจากหน้า

 

 

“…ไม่ว่าคุณจะไปคุยกับพวกเขาว่าอะไร แต่มันส่งผลถึงผม…” วิคเตอร์ยักคิ้วหนึ่งที ผมรีบอ้าปากพูดต่อทันที

 

 

“…ผลเสียนะ ไม่ใช่ผลดี” วิคเตอร์ยิ้มทะเล้น มีหัวเราะในลำคอเบาๆ ด้วย

 

 

“แต่ถ้าฉันไม่พูด นายก็ได้ผลเสียเหมือนกันนั่นแหละ”

 

 

“ผลเสียอะไรของคุณ ผมทำงานตามปกติ แต่พอคุณไปคุยกับพวกนั้น ผมแทบไม่ได้ทำงานอะไรเลย” น้ำเสียงผมเริ่มเหวี่ยงนิดๆ ตอนแรกจะไม่หงุดหงิดเท่านี้หรอกถ้าท่าทีของวิคเตอร์ไม่ชิลแบบนี้ ดูเขาไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ดูสิ เขาไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรจริงๆ นั่นแหละ และผมเชื่อด้วยว่าเขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำไปจะส่งผลยังไง แต่นี่คือวิคเตอร์ คนที่นึกอยากทำอะไรก็ทำ

 

 

“ก็ดีแล้วไง” ผมหน้านิ่ง ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นในอกมากขึ้น

 

 

“วิคเตอร์ มันไม่ดี มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เป็นแบบนี้ ผมคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วรึเปล่าว่าผมต้องการอะไร”

 

 

“นายรู้เรื่องอยู่คนเดียวมากกว่า” จากน้ำเสียงสบายๆ ไม่ได้มีทีท่าอารมณ์เสียหรือเกรี้ยวกราดมาก่อนก็เปลี่ยนเป็นเสียงแข็งขึ้นมาทันที เล่นเอาผมสะดุ้งไปนิดนึงเหมือนกัน

 

 

“ก็…”

 

 

“…ฉันแทบไม่อยากรู้ห่าเหวอะไรกับความฝัน ความต้องการของนาย!” อะไรวะ ขึ้นเสียงใส่ผมเฉย ไม่ได้ตะคอกก็จริง แต่เสียงดุอีกแล้ว ได้ยินเสียงแนวนี้บ่อยมากเรื่อยเนี่ยช่วงนี้

 

 

“วิคเตอร์!” ยังคิดประโยคยาวๆ ไม่ออก แต่ขอเสียงดังสู้กลับไว้ก่อน เรียกชื่อมันนี่แหละวะ

 

 

“ทุกวันนี้นายทำงานเหมือนคนโง่ โง่ให้มันใช้นายทั้งที่บางอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่นายต้องทำ แล้วนายก็ยอมทำแบบโง่ๆ ด้วย!” เฮ่ย! เมื่อกี้ยังชิล ยังมีท่าทีไม่เดือดไม่ร้อนอะไร ทำไมตอนนี้ถมึงทึงหน้าตึงแบบนี้ล่ะ

 

 

“ผมเต็มใจทำ ไม่ได้ทำเพราะผมโง่!” ผมเสียงแข็งกลับบ้าง มาหาว่าโง่กันง่ายๆ อย่างนี้ได้ยังไง คนกำลังสู้กับงาน ทำไมถึงพูดจาแบบนี้นะ

 

 

“นายถึงเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้าประจำกอง ทุกคนจะเหยียบนายตายหมดแล้ว!” ผมย่นคิ้วฉับ

 

 

“ไม่ใช่!” ผมเริ่มเถียงเหมือนเด็กๆ ที่เริ่มจะเถียงในรูปแบบแถ

 

 

“อยากรู้ใช่มั้ยฉันไปบอกมันว่าไง ฉันบอกไอ้ผู้กำกับไปว่า หน้าที่แฟนกูคืออะไรสั่งให้ชัดเจน มึงอย่าทำงานมั่ว ส่วนไอ้พีท ฉันบอกมันว่า เลิกอิจฉานายได้แล้ว” วิคเตอร์ไม่ได้ตะคอกเลยสักนิด แต่เสียงเขากระด้าง แววตาลุกวาว แววตาที่จ้องผมทำเอาผมกลัวอย่างไม่อาจหนีความจริงข้อนี้ได้

 

 

เขายังน่ากลัวเสมอเวลาที่เขาไม่พอใจ

 

 

“อิจฉาอะไร พีทมาอิจฉาอะไรผม” ผมถามเสียงที่พยายามไม่ให้สั่น วิคเตอร์ยกมือชี้หน้าผม หน้าตาเหมือนจะเน้นย้ำกับประโยคที่จะพูด

 

 

“อิจฉาที่นายเป็นเมียฉันไง…” แล้วเขาก็ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แว้บแรกผมอ้าปากหวอนึกว่าพีทชอบวิคเตอร์ แต่เปล่า

 

 

“…ไอ้พีทมันเกลียดพวกเด็กเส้น ที่สำคัญคือมันมันเกลียดฉัน แล้วนายดันเป็นแฟนฉันที่ฉันฝากนายเข้าไปทำงาน” คล้ายว่าจะซับซ้อนแต่พอแยกประโยคออกจากกันดีๆ ก็พอจะเข้าใจได้

 

 

ผมยืนเบลออยู่พักนึง รู้สึกเหมือนสมองเป็นเหน็บชาไปชั่วขณะ

 

 

“ต่อให้ฉันไม่พูด ไอ้พีทมันก็จะยังไม่ชอบนายไปตลอดนั่นแหละ ไม่ต้องไปพิสูจน์อะไรกับมันหรอก เพราะมันจะไม่มีวันมองนายในแง่อื่น!”

 

 

“ไม่จริงอะ เมื่อวานเขามีท่าทีดีกับผมขึ้นเยอะมาก แต่พอคุณไปพูดนั่นแหละ วันนี้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว และมันลามปามไปถึงคนอื่นๆ ด้วย!” ผมไม่อาจทำเสียงเรียบแต่ยังคงดุและทรงอำนาจได้เหมือนเขา ผมเลยพูดเสียงดังลั่นห้องครัว แต่ก็ยังไม่ถึงกับลั่นบ้าน

 

 

“งั้นก็เลิกทำงาน ถ้าในเมื่อไม่มีใครให้งานนายทำ ก็ไม่ต้องทำ ออกมาซะ” ผมมองวิคเตอร์ด้วยความเสียใจ รู้สึกน้อยใจที่เขาดูจะไม่เข้าใจอะไรเลย

 

 

“ทำไมอะ คุณควรเป็นคนที่เข้าใจผมมากที่สุดว่าระบบการทำงานมันเป็นยังไง…”

 

 

“…ฉันเข้าใจว่างานมันเป็นยังไง แต่นายกำลังตะเกียกตะกายเกินเหตุ!”

 

 

“ก็แล้วจะทำไมล่ะ!!” ผมเพิ่มเลเวลเสียงของตัวเอง และที่เพิ่มมาด้วยคือน้ำตาคลอเบ้าตา ไอ้ยักษ์ยังคงเรียบเฉย แต่รังสีอำมหิตแผ่รอบตัวอย่างน่ากลัว

 

 

“ผมอยากทำ ผมเต็มใจทำ ถึงมีบางครั้งผมจะเหนื่อยมาก คิดว่ามันไม่ยุติธรรม แต่ผมก็ยังอยากทำ คุณควรเข้าใจผมสิ!” ผมยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาข้างขวา

 

 

“เพราะฉันเข้าใจนายไง ฉันถึงไม่อยากให้นายทำ” วิคเตอร์มองผมตานิ่งสนิทไม่มีกระพริบ มันคือการมองแบบที่กำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ในดวงตาสีน้ำผึ้งข้นคู่นั้น

 

 

“เข้าใจแต่ไม่อยากให้ทำ ตรรกะอะไร?!...” ผมถามด้วยความเดือดเล็กๆ พูดอะไรของเขา แถมเดี๋ยวนี้รู้จักทำตัวมีลับลมคมใน มีอะไรซ่อนไว้ในอกไม่ยอมยกออกมาบอกกันหรอกนะ

 

 

“…คุณทำให้ช่องหว่างระหว่างผมกับเพื่อนร่วมงานมีมากขึ้น รู้บ้างรึเปล่า”

 

 

“แล้วระหว่างเราล่ะ นายรู้บ้างรึเปล่า?” ผมขมวดคิ้ว มองใบหน้าตึงดวงตาคมกริบด้วยความหงุดหงิด

 

 

“ระหว่างเราก็นี่ไง ผมอยู่กับคุณ คุณอยู่กับผม” วิคเตอร์ยิ้มหึ มองผมด้วยสายตาที่อ่อนลง แต่ไม่ใช่เพราะอ่อนโยน แต่เหมือนเขากำลังหมดหวัง

 

 

“ต้นเดือนที่ผ่านมา จำได้มั้ยว่าเราต้องไปไหน” ผมยังคงย่นคิ้วมองเขา กำลังพยายามนึกว่าจะไปไหนกัน แต่ยังไม่ทันนึกออกวิคเตอร์ก็หมุนตัวลุกเดินไปหยิบกระดาษสองสามแผ่นจากเค้าน์เตอร์บาร์มาและกลับมานั่งที่เดิม

 

 

“ฉันแคนเซิลตั๋วไปอังกฤษแล้ว นายไม่เคยพูดถึงมันเลย ลืมบ้านหลังนั้นแล้วใช่มั้ย” วิคเตอร์พูดเสียงดุเหมือนเดิมแล้วโยนกระดาษมาทางผม กระดาษแยกออกจากกันแล้วปลิวลอยคว้างในอากาศอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงบนพื้นโต๊ะหินอ่อน ผมมองกระดาษพวกนั้นแว้บหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา

 

 

“ตอนนี้นายสนใจอะไรบ้างในชีวิตนอกจากคำสั่งจากคนพวกนั้นกับหน้าที่ที่เกินตัวของนาย” วิคเตอร์ยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่คล้ายจะสมเพชผมเล็กๆ นั่นเลยทำให้ผมยังคงไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อกี้จะรู้สึผิดไปวูบหนึ่งก็ตาม

 

 

“ผมทำงานนะวิคเตอร์”

 

 

“เออ! ทำงาน ใช่ นายทำงาน ฉันรู้แล้ว เพราะฉันเห็นมันมาตลอดเดือน ไม่ต้องพูดย้ำๆ ซ้ำๆ รำคาญ!” ผมกัดริมฝีปากล่างแน่น มองเขาผ่านม่านน้ำตาที่ก่อตัวขึ้น วิคเตอร์คล้ายคนใกล้จะฟิวส์ขาดเข้าไปทุกที เสียงเมื่อกี้ทำเอาผมใจหวิวไปทั้งอก

 

 

“งั้นถ้ารู้แล้วก็อย่าทำแบบนี้สิ ปล่อยให้ผมทำงานไป คุณบอกคุณเข้าใจ งั้นคุณต้องเข้าใจจริงๆ สิว่าผมทำงาน คุณอย่ามาระรานหน้าที่ผมได้มั้ย” ผมสะอื้น ทั้งโกรธ ทั้งกลัวเขาในเวลาเดียวกัน วิคเตอร์มองผมด้วยความหงุดหงิดแบบที่ผมรับรู้ได้

 

 

“ฉันกลายเป็นคนอันธพาลเพียงเพราะฉันหวังดีใช่มั้ย” เขาถามเสียงเรียบอารมณ์ ผมที่กำลังขุ่นมัวกับอารมณ์และการกระทำของเขาเลยไม่อยากใส่ใจไตร่ตรองมากมาย

 

 

“คุณทำให้ผมใช้ชีวิตในกองลำบาก” ผมพูดทั้งน้ำตา แต่ก็ไม่ได้ฟูมฟาย มันเหมือนร้องไห้ปลดปล่อยความเหนื่อยกับนิสัยของเขามากกว่า

 

 

วิคเตอร์กระตุกยิ้มหนึ่งทีแล้วลุกขึ้นยืน เขาหยิบเก้าอี้ที่เขานั่งขึ้นมาแล้วฟาดลงบนขอบโต๊ะหินอ่อน ผมหลับตาปี๋ ลำตัวสะดุ้งด้วยความตกใจกลัว พอลืมตาขึ้นก็เห็นเก้าอี้หักเป็นสองท่อน ส่วนฐานนั่งไถลมาตรงหน้าผม ส่วนขาตั้งหักคามือวิคเตอร์ ขอบโต๊ะหินอ่อนแหว่งเพราะแรงกระแทก ผมไม่กล้ามองหน้าวิคเตอร์เพราะกลัว แต่รับรู้ได้ว่าเขาโคตรโกรธ

 

 

“เหี้ยเอ๊ย!” ผมหลับตาปี๋อีกครั้งเมื่อวิคเตอร์ง้างแขนขึ้นแล้วฟาดขาเก้าอี้ลงพื้นบ้านเสียงดังโครมคราม ผมกลั้นสะอื้นเพราะกลัวเสียงร้องตัวเองจะทำให้เขาหงุดหงิด วิคเตอร์หมุนตัวเดินออกไปจากครัว ทิ้งให้ผมยืนกลัวตัวสั่นคนเดียว

 

 

ตอนนี้ไม่รู้ว่าความรู้สึกกลัวหรือโกรธอันไหนมากกว่ากัน

           

 

ผมค่อยๆ ขยับร่างกาย ยกสองมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม รู้สึกว่าตัวสั่นเล็กๆ แต่ก็พยายามคุมตัวเองให้เดินออกไปจากครัวอย่างสงบนิ่ง ทิ้งซากความโมโหร้ายของวิคเตอร์ไว้เบื้องหลังอย่างไม่สนใจ ผมเดินผ่านห้องโถงของบ้านขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าวิคเตอร์นั่งอยู่ในนั้นหรือว่าไปไหนแต่ผมไม่อยากสนใจเขา

           

 

ตกเย็นผมไม่ได้กินข้าวและไม่ได้ทำอะไรให้วิคเตอร์กินด้วย ผมอยู่ในห้องคนเดียว นอนเปิดแม็คบุ๊คทำงานและเล่นอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย พอสักสามทุ่มก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมตัวนอน วิคเตอร์กลับเข้ามาในห้องในสภาพเดิมตอนสี่ทุ่มกว่าๆ เราไม่พูดกัน เขาอาบน้ำ เดินเปลือยออกมาจากห้องน้ำในสภาพผมเปียกหมาดๆ และมาล้มตัวลงนอนฝั่งตัวเอง

           

 

เขาทำเหมือนว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วย ผมมองเส้นผมของเขาแล้วก็อ่อนใจ ชอบเช็ดผมไม่แห้งอยู่เรื่อย แต่ก็ใจแข็งไม่ยอมเช็ดให้เขา ปล่อยให้เขาหลับนำไปก่อนแล้วก็ค่อยหลับตาม

           

 


คืนนั้นทั้งคืนเขาไม่กอดผม ไม่มีแม้กระทั่งโดนเผลอหรือละเมอมากอด

 

 

 








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:


               ขอวิ่งไปหลบในหลุมภัยค่ะ ช่วงนี้คนอ่านเกียมปาระเบิดใส่เยอะมาก

               แต่อยากจะฝากบอกว่า จับมือไว้แล้วไปด้วยกันค่ะทู้กคน

               เหมือนได้ย้อนไปสมัยที่เขียนพาร์ทแรกเลยในความรู้สึก 555555

               เพลงเดิมกลับมาค่ะ... อดทนเวลาที่ฝนนนนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่างงงง เมื่อวันเวลาที่ฝนจางงงง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจจจจ

               ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ยังสตรองอยู่ด้วยกัน

               ใครที่รอพี่แซ็คอยู่ ตอนแรกของพี่แซ็คจะลงหลังจากอัพตอนที่ 12 ของเรื่องนี้จบแล้วค่ะ แต่ตอมเปิดลิงก์เรื่องไว้แล้ว ยังไม่มีเนื้อหาอะไรค่ะ เป็นลิงก์สำหรับลงเรื่องเฉยๆ แต่ก็ตกแต่งไปแล้วนิดหน่อยยย

               เจอกันตอนต่อไปนะคะ

               

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด