‘คิง’ Part 3
ผมกำลังโกรธมาก
โกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โกรธจนเรียกลูกน้องในคลับออกมาเกือบทั้งหมดทั้งที่ปกติไม่เคยเรียกใช้เรื่องส่วนตัวจนต้องปิดทั้งคลับและผับกะทันหันแบบนี้ หลายคนแสดงความไม่พอใจ แต่พอเห็นหน้าผม พวกนั้นก็ทำตามคำสั่งแต่โดยดี
“ใจเย็นๆ นะไอ้คิง ไอ้โจ๊กมันมีที่กบด่านไม่เยอะหรอก เดี๋ยวพวกเราก็หาเจอ”
“แล้วไอ้เด็กนั่นล่ะ”
ผมสูบบุหรี่มวนที่สามเข้าไปแล้ว แต่ก็ไม่ช่วยบรรเทาอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนี่สักนิด ไม่อยากจะคิดว่าหากไอ้ชายไม่ลองเดินไปตามแล้วเห็นไอ้โจ๊กอุ้มนิลขึ้นรถออกไปพอดีจะทำยังไง มันจดทะเบียนรถมาด้วย และนั่นก็ทำให้ผมตามรอยได้ง่ายกว่าเดิม
“มันสารภาพหมดแล้ว ไอ้โจ๊กยื่นข้อเสนอช่วยปลดหนี้มันจากมึงถ้าช่วยส่งกระดาษให้นิลกาฬก็เลยทำ มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้โจ๊กวางแผนอะไรเอาไว้ คิดว่าก็แค่กระดาษแผ่นเดีย..”
“ไม่รู้เชี่ยไรล่ะ!”
ผมขว้างแก้วเหล้าอย่างอารมณ์เสีย พวกลูกน้องต่างพากันยืนเงียบกริบ ไม่กล้าพูดแทรกอะไรให้ผมหงุดหงิดใจไปกว่าเดิม หึ ไอ้น้องรหัสของนิลกาฬมันกล้ามากที่คิดว่าผมจะปล่อยมันไปง่ายๆ แค่เพราะคำว่า ‘ไม่รู้’ มีแต่พวกไร้สมองน่ะสิถึงจะเชื่อว่ามันไม่คลางใจแม้แต่นิดเมื่อไอ้โจ๊กยื่นข้อเสนอแบบนั้นโดยไม่หวังอะไรเลย
“ใจเย็นๆ มึง อย่าทำลายข้าวของ นี่เงินมึงทั้งนั้น...”
“เงินกู แล้วมึงเสือกอะไร”
“ครับๆ ไอ้คิง มึงตามสบายเลย พังร้านไปเลยก็ได้ อย่าทำหน้าเหมือนจะขบหัวกูแบบนั้น...”
ไอ้หมอบน่ารำคาญชิบหาย มันคงร้อนใจเรื่องไอ้ชายเลยพูดไม่ยอมหยุด เพราะไอ้ชายมันไม่รอผม พอโทรมาบอกก็ไล่ตามหานิลกาฬเอง ไม่รู้ป่านนี้ไปตายอยู่ที่ไหนแล้ว
“บอสครับ ได้เรื่องแล้วครับ”
“ได้เรื่องก็ไปขึ้นรถสิวะ!” ผมตะโกนสั่ง รีบเดินออกไปทันทีโดยไม่รอฟังรายงานเพราะใจมันลอยไปหาที่หมาย ส่วนไอ้หมอบก็รีบโทรบอกไอ้ชายทันที เข้าขาจริงนะมึง
“บอส...”
พวกลูกน้องมันยังลังเล คงยอมรับไม่ได้ว่าผมจะไปช่วยนิลกาฬ แต่ก็ไม่กล้าโต้แย้ง
“ไม่ต้องสนว่ากูทำไปเพราะอะไร” ผมขยี้บุหรี่ ยิ้มเหี้ยม “สนแค่ว่าวันนี้กูจะถล่มแก๊งค์โจ๊กเกอร์ให้ราบ! เข้าใจมั้ย!!!”
“ครับ บอส!”
หึ ต้องพูดเรื่องใช้กำลังถึงจะหึกเฮิมแบบนี้
ที่กบด่านของพวกมันก็คือบ้านของไอ้โจ๊กเกอร์เอง มันคงคิดว่าผมยกพวกไปตีพวกมันในหมู่บ้านสี่ดาวระดับรักษาความปลอดภัยดีเลิศไม่ไหว หารู้ไม่ว่าเรื่องแค่นี้ถ้าให้เงินสักหน่อยก็ง่ายดายนิดเดียว หน้าตาแต่ละคนของผมก็พร้อมหาเรื่องเต็มที่ ในเมื่อมีตัวเลือกแค่สองอย่าง ระหว่างรับเงินแล้วปล่อยไป กับไม่รับเงินแล้วโดนลูกหลงไปด้วย ใครมันจะเลือกข้อสองกันล่ะ
“ทำให้มันสลบ เดี๋ยวลับหลังแม่งแจ้งตำรวจ”
“ครับ พี่หมอบ!”
ไอ้หมอบเห็นกากๆ แต่ก็รอบคอบและช่วยระวังหลังให้ผมในการลงสนามจริงทุกครั้ง ถึงจะห่วงไอ้ชายแต่มันก็มากับผม เพราะเราสองคนสร้างปราสาทหลังนั้นมาด้วยกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เสี้ยวเล็กๆ ที่แทบไม่ช่วยอะไรกับความสำเร็จนั้น แต่ก็เป็นหนึ่งคนที่พวกลูกน้องค่อนข้างเกรงใจ
ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะมันกากจนสงสาร เลยยอมรับโดยปริยาย
“ไปเร็วๆ!”
ผมร้อนใจจนแทบนั่งไม่สุก จนกระทั่งรถหลายสิบคันจอดอยู่ที่หน้าบ้านของไอ้โจ๊กเกอร์ ซึ่งพวกของมันก็พร้อมจะรุมตีโดยไม่รอให้พวกผมลงจากรถก่อน ฉากตะลุมบอนจึงเริ่มขึ้น
“มึงไปก่อนเลยไอ้คิง!”
หมอบมันตะโกนทั้งที่โดนชกไปหนึ่งหมัดทันทีที่เปิดฉาก โคตรน่าสมเพช แต่เพราะเชื่อใจว่ามันคงเอาตัวรอดไหวผมเลยรีบบุกเข้าไปในบ้านพร้อมลูกน้องอีกเกือบยี่สิบคน ใครมาขว้างก็ต่อยไม่เว้น ลุยรวดเดียวขึ้นไปถึงชั้นบน ไม่ต้องถามให้มากความก็รู้ว่าห้องที่มันคนเฝ้าเยอะๆ นั่นแหละที่นิลกาฬอยู่
“ถล่มให้เละ”
“ครับ บอส!”
ถึงจะไม่ค่อยชอบใจแต่พอได้ต่อยตีพวกมันก็ทำตามคำสั่งผมพ่วงด้วยความสะใจส่วนตัว ไอ้พวกนี้มันก็กระหายความดิบเถื่อนเร้าใจอยู่แล้วไม่งั้นคงไม่สมัครมาที่คิงส์คลับทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ที่อันตรายแค่ไหน ไม่สิ ยิ่งอันตราย...พวกมันก็ยิ่งชอบใจเท่านั้น
โลกของผมมันก็บัดซบแบบนี้ล่ะ
“งั้นกูจะจัดหนักๆ ให้เลยดีมั้ยจ๊ะ น้องนิลของไอ้คิง”
“ถ้ามึงรู้ว่าเป็นของกู ก็หัดรู้ที่ของตัวเองด้วย ไอ้โจ๊กเกอร์!”
ผมถีบประตูเข้าไป โกรธจนแทบปั้นหน้าไม่ออกเมื่อเห็นพวกมันหกคนรุมล้อมรอบเตียงที่คงจะมีคนของผมนอนอยู่ หวังว่าครั้งนี้จะทันเหมือนกับครั้งก่อน เพราะผมคงไม่ให้อภัยตัวเองถ้านิลกาฬโดนรุมโทรมเพราะเรื่องแบบนี้ ทั้งที่มันขยะแขยงแค่ไหน หวาดกลัวขนาดไหน ผมยังจำวันที่มันนั่งกอดเข่าซุกหน้าตัวสั่นในห้องน้ำได้ ถึงมันจะยังปากเก่ง แต่สีหน้าสวนไปคนละทาง
วันต่อมาถึงได้บอกเลิกผม
ฉะนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้น...ความสัมพันธ์ของผมกับมันก็คงไม่มีวันสานต่อได้อีกแล้ว!
“ไอ้คิง!”
ผมไม่อยากเสียเวลา พอบุกเข้ามาก็ชักปืนที่พกเอาไว้ขึ้นจ่อไอ้โจ๊กทันที มันตกใจจนมือสั่น หึ มันคิดว่าผมจะบุกมาโดยไม่พกอาวุธเลยรึไง ผมทำอะไรรอบคอบมากพอ ถ้าจะชักปืนก็ต้องทำในที่ร่ม ห้ามให้ใครมีรูปถ่ายจากกล้องวงจรปิดหรือกล้องใดๆ มาเป็นหลักฐานได้ เพราะด้วยฐานะของผม ถ้าถูกจับด้วยข้อหาเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อคิงส์คลับได้ทันที
ผมเอียงคอส่งสัญญาณให้ลูกน้องไปลากไอ้โจ๊กและลูกน้องของมันลงจากเตียง พอมาใกล้ๆ เท้าก็จัดการถีบจนมันลงไปคุกเข่า เปิดจังหวะให้กระทืบโดยไม่ต้องใช้อาวุธให้น่ารำคาญ ของแบบนี้มันต้องข่มให้เห็นกันชัดๆ ต่อหน้าพวกลูกน้องมันนั่นแหละ เอาให้มันสิ้นฤทธิ์และสิ้นศักดิ์ศรีคาเท้าของราชา จนกระทั่งมันนอนครางขอยอมแพ้น่าสมเพช ผมถึงจะหยุด
“ออกไปให้หมด!”
“ครับ บอส”
เดิมทีไอ้โจ๊กเกอร์มันก็ไม่ได้เก่งชกต่อยอะไรอยู่แล้ว แต่มันเก่งเรื่องลอบกัด...เรื่องจับจุดอ่อนของคนอื่น และครั้งนี้มันแน่มาก เพราะมันจับตัวนิลกาฬมาวางยา!
“อื้อ...อือ”
เพราะความวุ่นวายเมื่อครู่เลยไม่มีใครทันสังเกตว่านิลกาฬนอนคว่ำกัดฟัน เนื้อตัวเปลือยเปล่าขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความต้องการมากขนาดไหน มันจิกเล็บเข้ากับเตียง ขาจิกเกร็ง ปากก็กัดกับหมอนเพื่อห้ามเสียงครางเมื่อผมแตะตัว
“นิลกาฬ”
“อืม...”
“ทนก่อนนะมึง”
มันดูไม่มีสติ ดวงตาก็หลับแน่นเหมือนไม่อยากมองอะไรทั้งนั้น แต่มือกลับเอาแต่สาวหนอนน้อยของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ดูทรมานมากกว่าสุขสม ความจริงก็อยากช่วยอยู่หรอกแต่ต้องไม่ใช่ที่นี่ ผมเอาผ้าห่มมาพันตัวมันก่อนจะอุ้มออกไปข้างนอก สถานการณ์เหมือนจะยังไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยพวกผมก็เป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะไอ้โจ๊กโดนเล่นจนสลบไปแล้ว
“หมอบ ฝากดูที่เหลือหน่อย กูจะกลั—“
“นิล!”
ไอ้ชายมาถึงแล้ว และมันก็รีบปราดเข้ามาจะจับตัวไอ้นิลแต่โดนผมพูดห้ามไว้ก่อน
“ถ้ามึงคิดว่าจัดการกับนิลกาฬหลังโดนยาปลุกเซ็กซ์ได้ มึงก็เอาไป”
“...ไอ้พวกเหี้ย!”
หมอบสะดุ้งเฮือก มันคงตกใจที่ไอ้ชายมันพูดคำหยาบออกมา
“ถ้ามึงไม่เอาก็ถอยไป”
ไอ้ชายได้แต่ยืนนิ่งตัวสั่นเมื่อผมเดินสวน มือกำหมัดแน่น ดวงตาเบิกถลึงจ้องผมอย่างโกรธแค้น แต่ที่โกรธ คงเป็นโกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนในสภาพที่ต้องการใครสักคนกอดมากขนาดนี้
และแน่นอนว่าคนคนนั้นต้องไม่ใช่มัน
พอขึ้นรถได้ผมก็รีบขับไปที่คอนโด แทบจะวิ่งขึ้นลิฟท์ซะด้วยซ้ำเมื่อนิลกาฬเริ่มบิดตัวอย่างทนไม่ไหว ผมกลัวมันจะช็อคซะก่อน ทั้งที่ตอนอยู่ในรถก็ช่วยใช้มือจนเสร็จไปสองครั้ง แต่ความต้องการของมันดูเหมือนจะไม่เพียงพอเอาซะเลย
พอถึงห้องผมก็โยนมันลงบนเตียง มือถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างเร่งร้อน ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองก็ต้องการ ถึงจะไม่ค่อยชอบใจเพราะมันไม่มีสติจากฤทธิ์ยา แต่ก็คงเป็นเซ็กซ์ที่เร้าร้อนช่วยดับกระหายหลังต้องทนอดมื้อกินมื้อมาตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์
“นิลกาฬ”
ผมกระชากผ้าห่มทิ้ง อารมณ์พุ่งสูงจนอยากจะแทรกตัวเองเข้าไปในช่องทางตอดรัดถึงใจนั้นแรงๆ สักที
“นิลกาฬ...”
ก่อนเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายจะแทนที่ด้วยความประหลาดใจ นิลกาฬซี่งยังคงพยายามช่วยตัวเองอยู่นั้นนอนขดกับเตียง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน
ไม่ใช่เพราะไม่ได้ปลดปล่อย แต่เพราะฤทธิ์ยาที่เริ่มทำให้เตลิด
“ไม่เอา...”
เสียงของมันปนระหว่างเสียงครางและคำอ้อนวอน
“ไม่เอา...แม่...อย่าทำแบบนี้ ฮึก”
มันกำลังร้องไห้
“ไม่เอา! ไม่เอา!! ไม่เอา!!”
มันบิดตัวบนเตียง เหมือนพยายามหาทางออกภายใต้วังวนในใจทั้งที่ร่างกายเต็มไปด้วยราคะ ผมรีบเข้าไปจับตัวมันไว้ก่อนจะล้มหัวฟาดพื้น แต่นั่นกลับยิ่งทำให้มันกรีดร้องออกมา
“ไม่!! ไม่!!! แม่ ช่วยผมด้วย! ไม่! ไอ้ชาย! ไอ้ชาย!!”
เรี่ยวแรงจากการต่อต้านมากจนถีบผมกระเด็น แต่มันก็แลกมาด้วยการหงายหลังล้มตึง
“นิลกาฬ!”
ผมนึกโทษตัวเองที่เผลอปล่อยมือเมื่อโดนถีบ พอปราดเข้าไปช่วยพยุงนิลกาฬก็ยังคงปัดป่าย ทั้งที่ดวงตาหลับแน่น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเห็นภาพบางอย่าง...ภาพในอดีต
“ฮึก...ไม่เอา...ฮือ”
มันร้องไห้ออกมา ร้องไห้ทั้งที่ครางหวาน ร้องไห้ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างทรมานในความต้องการและความไม่ต้องการ
“ไม่เอาก็ไม่เอา” ผมกระชากมันขึ้นมากอด อารมณ์อยากแทงอยากเสียบอะไรนั่นมลายหายไปหมดแล้ว มันยังคงดิ้นปัดป่าย นิ้วฟาดเข้าที่หน้าผมเต็มๆ จนเจ็บแปลบ มือหนักชิบหาย ผมเลยตัดปัญหาจับมันอุ้มขึ้นพาดบ่า เดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องน้ำก่อนจะลงไปนั่งในอ่างพร้อมๆ กับมันซึ่งคู้ตัวต่ำเมื่อถูกน้ำเย็นจัดราดเข้าใส่
“ฮึก...”
นิลกาฬห่อตัวเมื่อน้ำเย็นในอ่างเริ่มเพิ่มสูง หวังก็แต่จะช่วยคลายความร้อนรุ่มของมันได้บ้าง
ได้ผล มันดูสงบลง นั่งนิ่งเป็นเด็กดีในอ้อมกอดของผม แต่ก็ดีได้ไม่นาน...มันก็เริ่มขยับตัวแล้วเบียดหนอนเข้ามาแนบชิดกับมังกรให้ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เอานะ...”
แต่พอผมเอื้อมมือไปข้างหลัง มันก็ร้องห้ามเสียงสั่น น้ำตายังคงร่วงเผาะๆ เห็นแล้วก็ได้แต่ตัดใจขอโทษขอโพยมังกรตัวเอง
“ไม่เอาก็ไม่เอา” ผมถอนหายใจเฮือก เอื้อมมือมาช่วยมันปลดปล่อยจากด้านแทน มันครางแบบกลั้นเสียง เจือเสียงสะอื้นเป็นพักๆ แต่เสือกขยับเอวเบียดเน้นๆ จนผมแทบจะทนไม่ไหว สองมือกอบกุมระหว่างหนอนของมันและมังกรของตัวเอง ก่อนจะรูดเค้นไปพร้อมๆ กับลูบหลังปลอบมันไปพลาง
โคตรทุลักทุเล
“อา...” มันครางอยู่ข้างลำคอ เซ็กซี่ชิบหาย ยิ่งผมเปียกๆ แนบผิวขาวๆ นั่นก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากกระแทกเข้าไปในช่องทางด้านหลังเต็มแก่ แต่ด้วยจรรยาบรรณความเป็นคนก็ทำได้แต่ช่วยมันลูบหนอนด้วยมือล้วนๆ ผมจับหน้ามันให้เงยขึ้น แลบเลียน้ำตาที่ยังคงไหลปนไปกับน้ำเย็นจัดก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาหมายจับจูบเน้นๆ
“ฮือ...ไม่เอา”
จูบก็ไม่ได้?
ผมได้ยินเสียงตัวเองกัดฟัน เหมือนเส้นสมองจะเต้นตุบๆ ด้วยความเครียด คนอย่างคิงไม่เคยต้องอดทนกับรสเซ็กซ์ขนาดนี้เพื่อใครหรอกนะ ที่ผมติดใจก็เพราะมันตอบสนองได้ดี แต่ตอนนี้แม่งเสือกกลายเป็นเด็กขี้แยไม่ยอมให้ทำอะไรสักอย่าง นึกแล้วก็อยากจะโยนทิ้งชิบหาย
“ฮึก...ช่วยนิลด้วย”
แต่ก็ทำไม่ลง
พอมันซุกหน้ากับอกคลอเคลียน้อยๆ เหมือนกำลังอ้อนผมก็เอื้อมมือไปรูดหนอนให้อัตโนมัติ มันปล่อยออกมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้ารอบ แต่เหมือนอุณหภูมิจะไม่ลดลงแม้แต่น้อย ไอ้โจ๊กเกอร์มันคงตั้งใจเอานิลกาฬยันเช้าถึงได้เลือกอันที่มีฤทธิ์แรงขนาดนี้
“ฮือ...ฮึก...”
มันร้องไห้เสียงกระเส่า ทั้งทรมานทั้งสุขสม สีหน้าเหมือนจะดีกว่าเดิมนิดหน่อย แต่พอเสร็จเป็นครั้งที่เจ็ดหรือแปด มันก็เริ่มทำปากแบะ จิกเล็บเข้าที่หลังผมแรงๆ ไม่ได้ข่วนเพราะเสียว แต่ข่วนเพราะระบายความเจ็บจนผมแทบจะได้กลิ่นคาวเลือดลอยมาจากหลังตัวเอง
“อะไรของมึงอีกเนี่ย”
“นิลเจ็บ...” มันร้องไห้ยกใหญ่ ทั้งที่ปกติไม่เคยจะเผยน้ำตาให้ใครเห็น แต่พอร้องออกมาก็ร้องซะเอาเป็นเอาตาย พรุ่งนี้เสียงแหบแน่มึง “นิลเจ็บ...”
มันหยุดมือของผมที่กอบกุมหนอนของมันเอาไว้ หน้าตาเหยเกปนความกระสันจนชักเดาใจไม่ถูกว่าอยากให้ทำอะไรกันแน่ แต่พอปล่อยมือออกก็เข้าใจเพราะหนอนมันแดงไปหมด คงจะโดนผมทั้งบีบทั้งเค้นทั้งเฟ้นจนระบมไปหมดแล้ว
ถึงอย่างนั้นมันก็ยังต้องการ...
“เรื่องมากชิบหาย!”
ผมตะโกนอย่างอัดอั้น เส้นความอดทนที่ถูกขึงจนตึงแทบจะขาดผึง สำหรับผม นิลกาฬก็แค่คนที่มีเซ็กซ์เข้ากันอย่างยอดเยี่ยมจนไม่อยากปล่อยให้หลุดมือ ทั้งที่คิดแบบนั้นได้จนวางแผนหาวิธีเหมาะๆ อย่างลับๆ สำเร็จ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องมาโกรธจนสติแทบหลุดเพื่อไปช่วยมันออกมา แล้วต้องมานั่งอดทนจนสติแทบขาดกับการโดนมันยั่วแต่ทำอะไรไม่ได้
“ฮึก”
นิลกาฬมันร้องไห้หนักเมื่อโดนตวาด มันคงดีหากไม่มาพร้อมลูกถีบเหมือนรำคาญผมเต็มแก่จนหลังชิดขอบอ่างจุกอัก ไอ้เด็กนี่...ชักจะมากไปแล้วนะ!
‘ก็นั่นมันเมีย ไม่ใช่ลูกน้อง หรือลูกค้าในปราสาทมึงนะครับคุณคิง’คำพูดของไอ้หมอบดังแทรกก่อนทำเอาผมหยุดหมัดก่อนจะต่อยหน้านิลกาฬพอดิบพอดี...ผมต่อยมันไม่ลง ทั้งที่ไม่เคยมีใครเป็นข้อยกเว้นมาก่อน ขนาดไอ้หมอบยังโดนผมกระทืบบ่อยๆ เวลาทำผิด แล้วทำไมกับนิลกาฬที่ทำให้ชีวิตผมวุ่นวาย กับคนที่ทำให้ผมต้องมานั่งหัวปั่นในตอนนี้...ถึงลงมือกับมันไม่ได้
ความจริงก็น่าจะรู้คำตอบแต่แรกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ผมเลือกจะกลับไปหามันอีกครั้ง ทั้งที่ควรจะปล่อยมือไปสักที
‘ความสัมพันธ์ของเราก็แค่เซ็กซ์’แต่จะมีใครคาดคิด...ว่าบางครั้งการที่เข้าขากันเรื่องเซ็กซ์ จะทำให้เกิดความรู้สึกยึดติดโดยไม่รู้ตัว
‘เอาเป็นว่ากูไม่คิดว่ามึงจะเหมาะกับใครเท่าน้องนิลแล้วว่ะ และก็ไม่คิดว่าน้องนิลจะหาใครเลวได้ดีเท่ามึงด้วย’ยึดติด...จนต้องยอมทุกอย่างเพื่อไปลากสิ่งนั้นกลับคืน!
“ฮึก”
ผมมองนิลกาฬซึ่งยกมือปิดปากกลั้นเสียงระหว่างกำลังช่วยตัวเองทั้งที่หนอนน้อยบวมเป่งและปวดระบมด้วยแรงเสียดสีนับครั้งไม่ถ้วน มันกำลังเจ็บ แต่มันก็ไม่แสดงออกมา นี่คือนิลกาฬที่ผมรู้จัก ต่อให้มันกำลังร้องไห้งอแงจนไม่อยากเชื่อ แต่นี่ก็คือนิลกาฬ
คนที่ผมอยากให้มันอยู่บนเตียง คนที่ผมอยากให้มันเป็นคู่นอน คนที่ผมรู้จักและกำลังจะรู้จักมากกว่าเดิม
“อื้อ!”
“อย่าดิ้นสิมึง” ผมยึดขามันที่ยกขึ้นเอาไว้ก่อนจะโดนถีบอีกรอบ พยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยนอย่างที่สุดเพราะรู้ว่ามันในตอนนี้คงไม่มีสติรับรู้เท่าไหร่ว่ากำลังโดนทำอะไรกับใคร ขอแค่ปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาเป็นพอ
ให้ตาย...ผมไม่เคยทำแบบนี้จริงๆ
“อยู่นิ่งๆ ล่ะ”
ผมว่าพลางยกตัวมันให้นั่งกับขอบอ่าง ยึดสะโพกเอาไว้...ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าดูดกลืนของของมันอย่างไม่รังเกียจ
สำหรับผม...เซ็กซ์ ก็แค่กิจกรรมระบายความใคร่ที่สร้างความพอใจให้กับคนสองคน
ไม่จำเป็นต้องเล้าโลมให้มาก ไม่จำเป็นต้องใส่ใจว่าหลังจากนั้นร่างกายคู่นอนจะเจ็บแค่ไหน ขอแค่ตอบสนองได้ดีและไปให้ถึงจุดก็เท่ากับถึงจุดหมาย
ไม่ต้องเตรียมช่องทาง เพราะมันคือหน้าที่ของอีกคน
ฉะนั้นความคิดที่จะยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อใช้ปากให้คนคนหนึ่งหลั่งออกมาทั้งที่ตัวเองไม่ได้การตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อใดๆ จึงไม่เคยอยู่ในความคิดของผม
แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นนิลกาฬ
คนที่ผมเป็นฝ่ายไปหา...ลากมันกลับมาทั้งที่พยายามหนีออกไปถึงสองครั้ง
พากลับมาที่บ้าน...บ้านที่ไม่ใช่ปราสาทของพระราชา
แต่เป็นบ้านของ ‘คิงและนิล’
--------------
เห็นคอมเม้นท์เริ่มแตกพวก เราเลยขอมาเสนอจุดยืนหน่อยนะคะ
คาเรคเตอร์ของคิงแต่แรกคือ ‘เลว’ ฉะนั้นเราจะไม่แก้ตัวใดๆ ให้อาเฮีย (อ้าว) แต่อยากอธิบายว่าทำไมตอนก่อนพี่คิงถึงยืนดูน้องนิลโดนรุม ทำไมถึงยึดติดกับ ‘คิง’ ขนาดนั้น คือ...พี่แกสร้างของแกมา คอนเซปของคิงส์คลับคือสถานที่ที่สามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่แคร์กฏหมายของสังคม และนั่นคือสิ่งที่เฮียเขาอยากให้มี ให้เป็น แต่ถ้าปล่อยเป็นแบบนั้นคงเละ ฉะนั้นจึงต้องมีกฏของ ‘คิง’ ด้วย สถานที่ฉาบฉวยและเสี่ยงขนาดนี้ถ้าเกิดมีคนไม่ทำตามกฏ โดยเฉพาะตัวฮีเอง ผลกระทบเพียงเล็กน้อยจะอาจทำให้ปราสาทพังทั้งหมด ไม่พังเปล่า โดนเล่นกันเรียบตั้งแต่หัวยันหาง ติดคุกกันทั่วถึง
อนึ่ง นิลกาฬสำหรับเฮียคิงนั้นเป็นคู่นอนแต่แรก ฉะนั้นระหว่างคิงส์คลับกับนิลกาฬ ฮีเลือกคิงส์คลับอยู่แล้วค่ะ อันนี้ตอบอย่างแมนๆ เลย จะบอกว่าฮีบ้าอำนาจจนทำซึนมองข้ามความรู้สึกตัวเองก็ได้นะ เขาอยู่ในจุดที่ไม่เคยมีรักมากก่อน ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตามประสาคนรักยังไง ( อย่างตอนนิลกาฬโดนรุม ฮียังคิดเลยว่าสมควรแล้ว แต่พอมาเจอน้องนิลตัวสั่น ก็เพิ่งมาเก็ทว่า อ้อ...นี่มันไม่ได้นะ คนปกติยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ มันไม่ใช่แค่การทำโทษ แต่มันทำให้อีกคนฝังใจไปเลยต่างหาก อีพี่ท่านมันเลวเข้าเส้นเลือดค่ะ ทำกับคนอื่นไว้เยอะโดยไม่รู้สึก ด่าเลย ด่าเลย )
อะแฮ่ม มาต่อกัน (ชักจะยาว) เอาเป็นว่าพี่ท่านปกครองคิงส์คลับมาตั้งนานจนกลายเป็นราชาไร้จุดอ่อน ก็เลยหลงๆ ลืมๆ จิตสำนึกอะไรไปบ้าง เพราะสำหรับคิงแล้วยิ่งใจแข็งใจเด็ดก็เท่ากับยิ่งแข็งแกร่ง (ยกตัวอย่างโจ๊กเกอร์ที่เล็งแต่น้องนิล เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจับตัวประกัน ทำร้ายลูกน้อง อาละวาดในคลับให้ตายยังไง คิงก็ไม่ได้เต้นตามไปด้วย แต่ดันจัดการปัญหาอย่างใจเย็น เลยไม่ค่อยมีคนกล้าแหยมฮีเท่าไหร่) แต่จะเห็นว่าท้ายที่สุด...อาเฮียก็ยอมแหกกฏหลายอย่าง(ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว) และยอมรับความรู้สึกตัวเองสักที (เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าพี่คิงของเราแม้จะเก๊กมานานแต่ก็ยังเก็ทก่อนน้องนิลนะเออ )
เรื่องราวในคิงส์คลับเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เรียกว่าไอ้สิบกว่าตอนนี้ยังน้ำจิ้ม เพราะน้องนิลยังไม่ได้เข้าใจคิงส์คลับอย่างเต็มตัว ทั้งระบบ และสิ่งที่คิงเป็น แต่ในตอนหน้าจะเริ่มรู้กัน เริ่มเข้าเมนหลักตามชื่อเรื่องล่ะค่ะ
ด้วยรัก <3
ปล.ของดสัก2-3วันนะคะ ปั่นพาร์ทพี่คิงติดๆ กันจนลืมตาย หมดเรี่ยวหมดแรง
ปลล.แม้จะอธิบายถึงฝั่งคิง แต่การกระทำของฮียังไงก็เลวอยู่ดี ใครอยากด่าฮีด่าได้เลยค่ะ เอาให้เต็มที่ แต่อย่าด่าเรานะ เราอ่อนไหว
ปลลล.ความจริงตั้งแต่ตอนแรกในพาร์ทพี่คิง น้องนิลก็เป็นคนเดียวนะที่พี่คิงยอมให้จิกให้ข่วนให้กัดให้ถีบได้โดยไม่เอาคืน//กับคนอื่นมีตาย พี่หมอบยังไม่กล้าตบหัวพี่คิงเลย...