บทส่งท้าย"ฮื่อ... อุ่นพอแล้ว..." ไอดินได้แต่ส่งเสียงห้ามเมื่อคนตัวโตเอาแต่กอดเอาแต่หอมไม่ยอมหยุดตั้งแต่ตื่นนอน
"ไม่เอา หอมหน่อย หอมหน่อย ไม่เจอไอตั้งหนึ่งอาทิตย์" นานอาทิตย์ร้องอ้อนพร้อมกับกอดเอวของไอดินเอาไว้แน่นยื่นหน้าไปหอมแก้มนิ่มอีกหลายรอบจนแก้มจะช้ำ
"หนึ่งอาทิตย์อะไรละ ก็เจอที่ร้านทุกวัน" ไอดินท้วงพลางดันเจ้าโกลเด้นออกห่างแต่ดูเหมือนหมาตัวนี้จะมีมือตุ๊กแกไม่ก็มือปลาหมึกเพราะไม่ยอมถอยห่างเลยสักนิด
"แค่เจอหน้าแต่ไม่ได้กอดไม่ได้หอมไม่ถือว่าเจอหรอกนะ" อุ่นว่ายังไม่ขยับตัวไปไหนเอาแต่ออดอ้อนคนรักไม่ห่าง
หลังจากที่ไปบ้านของไอดินและโดนกลั่นแกล้งพร้อมกับพิสูจน์จนเจ็บตัวมาก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วชีวิตรักของทั้งสองคนยังเหมือนเดิมเจ้าโกลเด้นก็หาโอกาสลวนลามไอดินตลอดเวลาที่เอื้ออำนวยแม้จะโดนว่าไปบ้างโดนตีไปบ้างก็ไม่เข็ด ปัญหาทะเลาะกันนั้นก็ไม่มีอีกทั้งนายอาทิตย์ยังเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเสมอ ตอนก่อนคบหรือคบแรกๆ ดียังไง ตอนนี้ก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความหื่น...
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เจ้าโกลเด้นเข้ามาคลอเคลียออดอ้อนเจ้าของไม่ไปไหนนั่นก็เพราะว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาพ นักศึกษานิติศาสตร์ชั้นปีที่สามอย่างนายอาทิตย์จึงต้องทุ่มกับการอ่านหนังสือแบบหามรุ่งหามค่ำทำให้ไม่ได้มีเวลาอยู่กับไอดินเท่าไหร่ พอหลังจากสอบเสร็จฉลองเรียบร้อยก็สะบัดผ้า สะบัดหนังสือ สะบัดเพื่อนแล้ววิ่งหูตั้งมาหาคนรักทันที
"แล้วนี่ได้นอนหรือยัง จะนอนก่อนไหมพี่ต้องแวะเข้าไปที่ร้านนะต้องเข้าไปเคลียร์บัญชีก่อนปิดร้าน" ไอดินถามยกมือขึ้นลูบผมนุ่มของคนที่กอดเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
"ได้นอนแล้วละ วันนี้ร้านปิดแล้วไม่ใช่หรอไม่เข้าได้ไหมอะ อยากนอนกอด" คนตัวโตแต่เด็กกว่าอ้อนทันที
"ไม่ได้หรอก บัญชีช่วงที่เปิดร้านตอนสอบยังไม่ได้เคลียร์เลยปล่อยไว้นานกว่านี้เดี๋ยวลืมหมด อุ่นนอนต่อก่อนก็ได้พี่คงกลับเย็นๆ เพราะวันนี้ร้านไม่ได้เปิดอยู่แล้ว"
"เดี๋ยวผมเข้าไปรับ แล้วไปหาอะไรกินกันส่วนพรุ่งนี้ไอต้องให้เวลากับผมทั้งวันเลยรู้ไหม" อุ่นผละออกมามองหน้าคนรักพร้อมทำเสียงจริงจังให้ไอดินยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ
"รู้แล้วละ วันนี้ถึงได้ต้องรีบเข้าไปเคลียร์บัญชีไง นอนพักต่อก่อนเถอะ" ไอดินพูดก่อนจะดันเจ้าโกลเด้นให้นอนลงบนเตียงก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนรักเบาๆ หนึ่งทีแต่ในจังหวะที่จะผละออกเจ้าโกลเด้นก็คว้าคอไว้แล้วกดจูบที่ริมฝีปากสีสวยนั้นทันที
ทั้งสองคนจูบกันอยู่นานกว่าอุ่นจะยอมปล่อยให้ไอดินออกจากห้อง ร่างเพรียวเดินไปเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่แถวๆ หน้าคอนโดเข้าไปที่ร้านเพราะตอนก่อนออกมาเจ้าอุ่นบอกว่าตอนเย็นจะเข้าไปรับเองไม่ต้องเอารถไป ไอดินเลยต้องพึ่งพาพี่วินแทน
วันนี้ร้านหนังสือกาแฟปิดเนื่องจากพึ่งผ่านการสอบปลายภาคของมหาวิทยาลัยไป ร้านที่เลื่อนเวลาเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมาสองอาทิตย์จึงปิดเพื่อให้พนักงานในร้านพักผ่อนกันก่อนที่จะเปิดร้านอีกรอบในวันจันทร์
ไอดินเดินขึ้นไปบนห้องทำงานที่อยู่บนชั้นสองก่อนจะหยิบเอาสมุดบัญชีของร้านออกมาแล้วจัดการทำรายรับรายจ่ายของร้านในช่วงวันที่ผ่านมา และพอได้เริ่มทำงานแล้วเจ้าตัวก็ตัดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวออกหมดและสนใจแต่งานตรงหน้าจนกระทั่งงานเสร็จในตอนเย็น
คนที่นั่งทำงานอยู่เลิกคิ้วขึ้นแปลกใจที่ไม่เห็นเจ้าโกลเด้นเข้ามาป้วนเปี้ยนเพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้วก่อนจะจัดการเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้อง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นหนังสือวางอยู่บนโต๊ะสำหรับคืนหนังสือ ก่อนที่จะเดินเข้าไปทำงานไอดินไม่เห็นว่าจะมีหนังสือวางอยู่เจ้าตัวจึงเดินไปหยิบหนังสือมาถือไว้ตั้งใจจะเอาไปเก็บเข้าชั้นก่อน
"เอ๊ะ..." ไอดินร้องออกมาอย่างแปลกใจก่อนจะเปิดดูด้านในแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นกระดาษโพสอิทสีฟ้าถูกติดเอาไว้พร้อมกับลายมือที่คุ้นเคย
‘สวัสดีครับคุณหนังสือ ผมคนอ่านหนังสือนะครับยังจำผมได้หรือเปล่า ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้คุณหนังสือฟัง รับฟังผมด้วยนะครับ ... จาก คนอ่านหนังสือ’ไอดินหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาถือเอาไว้ก่อนจะเดินเอาหนังสือในมือไปเก็บในชั้นพร้อมกับมองไปรอบๆ เพื่อหากระดาษแผ่นต่อไป เขาเชื่อว่ายังต้องมีกระดาษโพสอิทแผ่นอื่นอยู่อีก แล้วก็เจออยู่มันติดอยู่ที่ตู้หนังสือข้างๆ กันนั้นถึงสองแผ่น
‘พร้อมฟังเรื่องที่ผมอยากจะเล่าหรือยังครับ ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมเราะผมกำลังจะเล่าแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า... ผมรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งมาหลายปีแล้วครับ พี่คนนี้เขาชอบทำหน้านิ่งๆ เหมือนคนเย็นชา ตอนแรกเห็นแล้วผมก็รู้สึกว่าพี่เขาดูหยิ่งจัง เลยอยากจะแกล้งให้หลุดมาดบ้าง...’คนอ่านข้อความหลุดยิ้มออกมาเมื่ออ่านข้อความบนกระดาษโพสอิทดึงกระดาษเจ้ากรรมมาถือไว้แล้วเริ่มเดินวนรอบๆ ตู้หนังสือ
‘แล้วคุณหนังสือรู้ไหม... เวลาพี่เขายิ้มนะ พี่เขาสวยมากจริงๆ แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมชอบเข้าไปวุ่นวาย’
‘ทำให้พี่เขายิ้ม ทำให้พี่เขาหัวเราะ พอเห็นแบบนั้นแล้วผมก็มีความสุขมากๆ เลยครับ และทุกอย่างก็เหมือนเป็นความเคยชินที่พอเห็นพี่เขาผมต้องเข้าไปหา’กระดาษแผ่นที่สี่และห้าก็ติดอยู่ที่ตู้หนังสืออีกตู้ ไอดินหยิบมันมาถือแล้วเดินหาต่อ
‘ทั้งๆ ที่ผมรู้จักกับพี่คนนี้มาหลายปีแต่ผมไม่รู้สึกอะไร (เพื่อนมันบอกว่าผมบื้อ) จนวันหนึ่งผมได้เห็นพี่เขายิ้มแล้วก็หัวเราะแบบสุดๆ อย่างไม่เคยเห็น วินาทีนั้น... หัวใจของผมเต้นระรัว และผมก็รู้ตัวว่า ผมชอบเขา’ไอดินยิ้มอดนึกไปถึงวันนั้นไม่ได้... วันที่นายอาทิตย์ตื่นขึ้นมาที่ห้องของเขาแล้วโวยวายขอโทษขอโพยยกใหญ่เพราะคิดว่าล่วงเกินเขาไปแล้ว เห็นแล้วมันตลกจริงๆ
‘หลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นจีบพี่เขาอย่างจริงจัง จีบทุกทางที่จะสามารถทำให้เขาใจอ่อนได้แต่พี่เขาก็ใจแข็งไม่ใช่เล่นเลยครับ แต่ผมก็ไม่คิดจะยอมแพ้สักครั้ง’
‘มีอยู่ครั้งที่เกิดเรื่องราวขึ้นให้พี่เขาต้องคิดมาก ผมเครียดมากเลยครับคุณหนังสือไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้พี่เขายอมเชื่อใจผม ว่าผมรักพี่เขาจริงๆ แต่สุดท้ายผมก็ทำได้’กระดาษโพสอิทแผ่นแล้วแผ่นเล่าที่ไอดินหยิบมาอ่านมันเป็นข้อความที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเขาและอุ่นทั้งนั้น มันก็นานแล้วที่เขาไม่ได้อ่านข้อความของคนอ่านหนังสือผ่านทางกระดาษโพสอิทแบบนี้ เหมือนกับได้ย้อนเวลากลับไป... กลับไปในช่วงก่อนที่จะรู้ว่าใครเป็นใคร
‘ผมเล่าให้คุณหนังสือฟังเสียเยอะเลย คงไม่นึกรำคาญผมใช่ไหมครับ ผมแค่อยากจะเล่าให้ใครสักคนฟัง ผมมีความสุขมากแล้วก็หวังว่าเรื่องของผมจะทำให้คุณหนังสือมีความสุข’
‘ผมมีเรื่องอยากจะฝากคุณหนังสือไปบอกพี่เขาครับ...’ไอดินขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อข้อความหมดลงแค่นั้นอีกทั้งยังหาจนทั่วชั้นสองแล้วก็ไม่มีกระดาษแผ่นอื่นอยู่อีก เจ้าตัวจึงสาวเท้าตรงไปยังบันไดเพื่อลงไปด้านล่าง คนที่เขียนข้อความพวกนี้คืออุ่นเพราะฉะนั้น... อุ่นก็ต้องอยู่ในร้านแน่นอน ถ้าไม่อยู่บนชั้นสองก็หมายความว่า...
"อุ่น" ไอดินส่งเสียงเรียกคนที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านล่างให้เจ้าของชื่อหันมามองก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้
รอยยิ้มที่มันอบอุ่น สว่างไสวเหมือนกับดวงอาทิตย์
อุ่นไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ลุกเดินมาหาพร้อมกับยื่นกระดาษโพสอิทให้กับไอดินที่ยื่นมือมารับไปเช่นกัน
‘ฝากคุณหนังสือไปบอกพี่เขาทีครับว่า... อุ่น รัก ไอ ... จาก คนอ่านหนังสือ’ไอดินเม้มริมฝีปากแน่นอย่างต้องการที่จะกลั้นรอยยิ้มที่มันจะเผยออกมา แม้จะได้ยินอุ่นบอกรักหลายต่อหลายรอบแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกเขินได้เท่าครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยินเสียง ทั้งๆ ที่อ่านจากตัวอักษรแต่เหมือนคำๆ นี้มันแฝงความรู้สึกเอาไว้จริงๆ จนไอดินรับรู้ได้
"เรื่องของเราเริ่มต้นที่ร้านนี้ แต่ผมจะไม่มีทางยอมให้มันจบลงที่ร้านนี้หรือที่ไหนแน่นอน" นายอาทิตย์เอื้อมมือไปดึงมือของไอดินมากุมเอาไว้ "วันนี้ผมอาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะอยู่ข้างไอเพราะผมยังเป็นแค่นักศึกษา ต่อให้อยากดูแลไอแค่ไหนก็คงทำได้ไม่เต็มที่ แต่ผมสัญญาว่าผมจะเป็นคนที่เหมาะสมกับไอที่สุด เป็นคนที่ดูแลไอได้ดีที่สุด"
ไอดินยิ้ม ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อุ่นเคยตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า
"อุ่นเป็นอุ่น... เป็นแบบที่อุ่นเป็นมันก็ดีที่สุดแล้ว"ใบหน้าคมคายเลื่อนมาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากของนายอาทิตย์จะแนบสนิทลงกับริมฝีปากของไอดินอย่างแผ่วเบาแต่ทว่าแนบแน่นก่อนที่เจ้าตัวจะผละออก
"อุ่นรักไอนะครับ"
"อือ... ไอก็รักอุ่นครับ"เรื่องราวของคนสองคนที่เหมือนจะรู้จักกันแต่ก็ไม่รู้จักกันเลยสักนิด เรื่องราวของคนสองคนที่พูดคุยกันผ่านตัวอักษรถ่ายถอดความรู้สึกต่างๆ ในใจออกมาจนมันกลายเป็นสายใยที่เชื่อมโยงคนทั้งคู่และพาให้มาพบเจอกัน ได้รู้จักกัน และได้... รักกัน
ความรู้สึกเหล่านั้นหลอมรวมจนมันกลายเป็น...
อุ่นไอแห่งรัก♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
...THE END...
************************************************
เราเดินมาจนถึงบทส่งท้ายกันแล้วนะคะ ขอบคุณทุกๆ คนที่คอยติดตามนิยายเรื่องนี้ของฟางมากๆ เลยค่ะไม่ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งได้เข้ามาอ่าน หรือคนที่อ่านกันมาตั้งแต่ตอนแรกก็ตาม ฟางต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ ^^ ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของเนื้อเรื่องหลัก แต่ฟางยังมีตอนพิเศษอีกน๊า แต่ว่า... ฟางคงไม่ได้อัพทุกตอนพิเศษนะคะ
ฟางตัดสินใจจะรวมเล่มหนังสือกับทางสำนักพิมพ์เพราะฉะนั้นก็คงจะอัพตอนพิเศษได้ไม่หมด ส่วนรายละเอียดการจองต่างๆ ถ้ามีฟางจะเอามาแจ้งให้ทราบนะคะ ตอนนี้ก็รอกันไปก่อนเนอะ ^^
คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊คของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi