รอบนี้มีเพลงมาให้ฟังด้วยครับ

----------------------------------
สามอาทิตย์ถัดมา ชอคโก้ ไอริส และออโรร่าสามแกนนำหลักของกลุ่มนางฟ้าขบถที่ก่อความวุ่นวายเมื่อครั้งก่อนก็พ้นโทษ ในขณะเดียวกันก็ถึงกำหนดงานคอนเสิร์ตของยัยสามหน่อนี่ด้วย แบดมารับผมกับน้องกายและไอ้ทีมไปด้วยกันยังอาคารกิจกรรมที่เป็นส่วนของนางฟ้า ส่วนอดัมไม่ได้ไปด้วย คงเกรงใจยัยมด แฟนของเขา ซึ่งตอนนี้ผมเป็นฝ่ายเข้าไปยื่นข้อเสนอกับหล่อนแล้วว่าให้หุบปากไว้ให้สนิทเรื่องที่ผมคบกับไอ้แบดอยู่ เพราะไม่งั้นเรื่องชั่ว ๆ ของยัยนี่โดนแฉให้อดัมรู้แน่ ๆ ซึ่งอีมดก็(จำใจ)ยอม
เราเลือกที่นั่งกันในอาคารกิจกรรม ซึ่งตกแต่งโทนมืดทึม และเปิดไฟแต่สลัว มีคนมากมายมาชมละคร ทั้งคณะมนุษย์และคณะอื่น ๆ รวมทั้งอาจารย์บางท่านที่สนใจกิจกรรมของกลุ่มนางฟ้า และผู้ปกครองบางคนด้วย
เรารอไม่นาน คอนเสิร์ตเต้น-ร้อง-เล่า ก็เปิดม่าน
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”
เธอเริ่มเรื่องจากเก้าอี้โยกเก่า ๆ ที่ส่งเสียงออดแอดยามขยับ ข้าง ๆ คือเตาผิงจำลองแต่จุดไฟจริง ๆ ส่องแสงวับแวมให้บริเวณที่ออโรร่าในคราบหญิงชรา กับเด็ก ๆ ทั้งหลายที่นั่งล้อมวงฟังกัน
ผู้ชมกลั้นหายใจ มองเวทีอย่างใจจดใจจ่อ ชมการเคลื่อนไหวที่มีเพียงเปลวไฟ เก้าอี้โยก และเรื่องเล่า
“มีเจ้าชายกับเจ้าหญิงอยู่สององค์ ทั้งคู่เป็นสหายกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ เล่นด้วยกัน และเติบโตมาด้วยกัน”
“จวบจนเจ้าชายโตเป็นหนุ่ม และเจ้าหญิงก็โตเป็นสาว เจ้าหญิงก็พบว่าความรู้สึกของเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย สายตาที่เธอมองเจ้าชาย ค่อย ๆ เปลี่ยนไปจากเพื่อน”
แสงไฟพลันฉาบวูบไปที่อีกมุมหนึ่งของเวที ไอริสในชุดราตรีสีแดงก่ำแพรวพราวจับไมค์อยู่ ดนตรีขึ้นทำนองและหล่อนก็เริ่มร้องเพลง
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=0&songID=V2BCFD4PB0 ชื่นชีวันเมื่อฉันและเธอ..ชิดใกล้
แต่ไฉนเธอห่างฉันไป..ทุกที
ช่างไม่มีน้ำใจ..ใยดี
ต่อไมตรี..สัมพันธ์
ตั้งแต่วันที่เราคบกัน..คล้ายเพื่อน
แต่ดูเหมือนมีสิ่งเร้าใจ..ไหวหวั่น
ปล่อยให้รุมสุมทรวง..นานวัน
เปลี่ยนเป็นฉัน..รักเธอ
*ไม่เคยเผยความ..ในใจ
หากวันไหนเผยใจฉันกลัวเก้อ..
เฝ้าคอยแต่หลง..ละเมอ
ยามเมื่อเธอห่างไป
อยากให้เธอได้มองเห็นใจ..ฉันหน่อย
แต่เพียงน้อยก็หนึ่งมิตรเคย..ชิดใกล้
จะคู่ควรเสมอเธอ..เพียงใด
สุดแต่ใจ..ของเธอ
เพลงจบลงผู้ชมปรบมือให้และไฟจุดที่ไอริสยืนอยู่ก็ค่อย ๆ หรี่ลง ความสนใจกลับมายังผู้เล่านิทาน
“แต่เจ้าชายนั้น..อนิจจา เขาหาได้รักเจ้าหญิงฉันท์ชู้สาวไม่ อยู่มาวันหนึ่งเจ้าชายองค์นี้ได้พบกับกวีหนุ่มที่เดินทางมาจากต่างเมือง เจ้าชายชอบฟังเรื่องเล่าแปลกประหลาดจากแดนไกล จึงรั้งตัวกวีไว้ในวัง”
“กวีหนุ่มเล่าเรื่องต่าง ๆ ถวายเจ้าชายมากมาย ทั้งเรื่องที่โศกเศร้าระทมทุกข์ เรื่องที่สุขสันต์หรรษา เจ้าชายหลงใหลเรื่องราวเหล่านี้ และระหว่างนั้นเขาได้เรียนรู้ตัวตนของกวีหนุ่ม เขารู้จักความเศร้าและความอ่อนแอของอีกฝ่าย เขาตกหลุมรักเข้าเสียแล้ว”
เพลงเปลี่ยนเป็นทำนองสนุกสนาน ไอริสซึ่งเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว ถือไมค์เดินร้องมากลางเวทีอย่างกระฉับกระเฉง
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=0&songID=V2FCB0EPB0พรหมลิขิต บันดาลชักพา
ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิต ใจ
ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ
เออชะรอยจะเป็นเนื้อคู่
ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ
แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอใจนึกเชื่อว่าแรกเจอ
ฉันและเธอคือคู่สร้าง มา
*เนื้อคู่ ถึงอยู่แสนไกล คงไม่คลาดครา
มุ่ง หวัง สมดังอุรา ไม่ว่าใคร ใคร
หากมิใช่คู่ครอง แท้จริง
จะแอบอิงรักยิ่ง ปานใด
ยากนักที่จะสมใจ คงพบเหตุอาเพทภัย
พลัดกันไปจนให้คลาดครา
เราสองคนต้องเป็นเนื้อคู่
จึงชื่นชูรักใคร่บูชา
นี่เพราะว่าบุญหนุนพา
พรหมลิขิตขีดเส้นมา ชี้ชะตาให้มาร่วมกัน
คนบางคนต้องเป็นเนื้อคู่
เพียงแต่ดูรู้ชื่อโดยพลัน
ก็รู้สึกนึกรักกัน จนฝันใฝ่ใจผูกพัน
แม้ไม่ทันจะเห็น รูปกาย
*เนื้อคู่ถึงอยู่แสนไกล คงไม่คลาดครา
มุ่งหวังสมดังอุรา ไม่ว่าใครใคร
พรหมลิขิตบันดาลทุก อย่าง
เป็นผู้วางหนทางปวงชน
ได้ลิขิตชีวิตคน นำเนื้อคู่มาเปรอปรน
ทั้งยังดลเธอให้ กับ ฉัน
“แต่เพราะเจ้าชายคือเจ้าชาย เขาจึงกลัดกลุ้มกับความรักครั้งนี้ เพราะเขารักผู้ซึ่งคนเป็นเจ้าชายไม่ควรรัก เจ้าหญิงสังเกตเห็นเข้าจึงคาดคั้นให้เขาเล่าเรื่องทุกข์ร้อนรายนี้
เจ้าชายกล่าวว่า ‘โอ้ น้องหญิง ถึงเจ้าจะทราบไปก็ใช่ว่าจะบรรเทาความทุกข์อันหนักเสมือนหนึ่งนำบรรพตมาทุ่มไว้บนอุระข้าได้อย่างไร ซ้ำยังจะสร้างความวิตกเพิ่มให้แก่เจ้า อย่าดีกว่า ข้าคงมิอาจบอกเล่าเรื่องราวรายนี้ได้’
เจ้าหญิงคาดคั้นเป็นคำรบสาม เจ้าชายจึงยอมบอกเล่าเรื่องความรักของเขากับกวีหนุ่ม
เจ้าหญิงเสียพระทัยมาก เธอรับฟังด้วยความรู้สึกปิ้มหัวใจสลาย เธอแพ้..แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม แพ้ให้กับผู้ซึ่งไม่ใช่สตรีด้วยกันเสียด้วยซ้ำ เธอเจ็บในหัวใจ แต่เธอก็ขุดเอาความรักและความเห็นใจฉันท์เพื่อนขึ้นมา และปลอบประโลมเจ้าชายให้หายทุกข์ร้อน”
‘แต่งงานกับข้าเถิด’ เจ้าหญิงขอเจ้าชายแต่งงาน
เจ้าชายประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออก ‘แต่ว่า..’
‘นั่นจะช่วยท่านได้ เมื่อท่านแต่งงานกับข้าท่านจะยังดำรงเกียรติของเจ้าชาย ยังสืบทอดอาณาจักรของพระบิดาและพระมารดาของท่าน’
‘ข้าไม่เข้าใจ’
‘อย่าได้เข้าใจผิด ข้าหาได้หลงรักท่านไม่’ เจ้าหญิงโกหก ‘ข้าเพียงแต่ต้องการช่วยให้สหายอันเป็นที่รักยิ่งของข้าได้สมหวัง ท่านแต่งงานกับข้าแล้วก็จงรับกวีหนุ่มผู้นั้นมาอยู่ด้วยกัน และข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกท่านทั้งสอง’
เจ้าชายยิ้มกว้าง แต่แล้วก็กลับกังวล ‘แล้วเจ้าล่ะน้องหญิง จะให้ข้าทำลายชีวิตของเจ้าทั้งชีวิตหรืออย่างไร ข้าทำมิได้ดอก’
‘แล้วจะให้ข้าทนเห็นสหายของข้าขมขื่นไปทั้งชีวิตหรืออย่างไร ทำตามที่ข้าบอกเถิด มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่านแล้ว’
หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่พักใหญ่ เจ้าชายก็ยอมตกลง ทั้งคู่เข้าไปหาพระราชาและพระราชินีทั้งสองอาณาจักรเพื่อแจ้งการตกลงใจหมั้นหมาย พระราชาและพระราชีนีเหล่านั้นยินดียิ่ง และให้สองอาณาจักรร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาสอันประเสริฐอันกำลังจะมาถึงนี้”
เจ้าชายและเจ้าหญิงเข้าพิธีอภิเษกสมรสด้วยรอยยิ้ม ผู้หนึ่งยิ้มแช่มชื่น ผู้หนึ่งยิ้มหมองแฝงรอยเศร้า งานดำเนินไปจนถึงที่สุด และเจ้าชายก็จูงเจ้าหญิงเข้าห้องหอ
ทว่าผู้ที่รออยู่ในห้องหอคือกวีหนุ่ม เขาโผเข้ากอดเจ้าชายทันที เจ้าหญิงที่ถูกลืมปล่อยมือเจ้าชายออก แล้วเดินหลบไปร้องไห้ในห้องตามลำพัง”
[wma=300,50]http://charyen.com/jukebox/asx_file/irh5728pk1i830pu0leiq18ul6.asx[/wma]
คิดถึงเธอ ฉันอยากร้องไห้
โธ่เอ๋ยดวงใจ
ป่านนี้ เธออยู่ไหนกัน
อยู่ในความทุกข์
หรือความสุขสันต์
อยู่ในความฝัน ของใจใคร
คิดถึงเธอ แล้วใจฉันโศก
ฉุดโลกทั้งโลก โศกศัลย์พิร่ำพิไร
โอ้ป่านฉะนี้ เธอไปอยู่ไหน
รู้หรือไม่ ใครคิดถึง
เธอทุกเวลา
*จากวันเดือนปี ที่เวียนผ่านไป
เหตุใด เธอจึงไม่จดหมายมา
หรือพบคนใหม่
จึงลืมสัญญา ลืมแม้จนคำว่า
จะรักกันชั่ว นิรันดร์
คิดถึงเธอ ฉันอยากร้องไห้
บาปกรรมอันใด
พรากเราให้ไกลจากกัน
ค่ำคืนตื่นเพ้อ ละเมอใฝ่ฝัน
แล้วเธอ
คิดถึงฉัน บ้างหรือเปล่า
เก้าอี้โยกส่งเสียงออดแอด เพลงสิ้นเสียงทิ้งบรรยากาศเหงาหงอยอ้อยอิ่งอยู่ ณ ที่นี้ ออโรร่าเล่าเรื่องของเธอต่อไป
“ความรักของเจ้าหญิงไม่ได้ลดทอนลงตามเวลา กลับทวีขึ้นทุกขณะ หากความรักเป็นเหรียญด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็คือความริษยา เธอเห็นเจ้าชายและคนรักของเขาแช่มชื่น ขณะที่เธอผ่ายผอมและเศร้าสร้อยลงทุกวัน”
ครั้งนั้นมีแม่หมออยู่นางหนึ่งในอาณาจักร บังเอิญว่าแม่หมอผู้นี้เป็นญาติกับแม่ครัวในวัง วันหนึ่งนางเข้ามาในอุทยานด้วยความเข้าใจผิด และเห็นเจ้าหญิงผู้หม่นหมองประทับอยู่เพียงเดียวดายในที่แห่งนั้น
นางก้าวเข้าไปแล้วร้องถามเจ้าหญิง
‘แม่หนู.แม่หนูควรจะมีความสุขกับชีวิตแต่งงานซึ่งเพิ่งเริ่มต้นมิใช่ดอกหรือ เหตุใดจึงนั่งเศร้าอยู่เช่นนี้’
‘แม่หมอ’ เจ้าหญิงลุกขึ้นแล้วย่อตัวอย่างสุภาพเพราะเธอรู้จักแม่หมอผู้มีชื่อเสียงผู้นี้ดี ‘หากว่าเจ้าบ่าวของท่านมิรักท่านสักน้อย ท่านจจะมีความสุขได้อย่างไรกัน’
เธอระบายความอัดอั้นตันใจ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับแม่หมอผู้มีท่าทีเมตตาดุจมารดา
‘แย่จริงเชียว แย่จริงเชียว’ แม่หมอร้อง ‘เหตุใดแม่หนูจึงทนเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วเจ้าชายอีกเล่า ไฉนเขาจึงทำตัวไม่สมกับอิสริยายศของตนเลยแม้แต่น้อย’
‘ได้โปรดอย่าตำหนิเขา’ เจ้าหญิงร่ำร้อง ‘ข้าผิดเองที่เริ่มต้นทุกอย่าง ข้าวางยาพิษใส่หัวใจของข้า ถ้าข้าไม่รักเขาข้าคงไม่เจ็บปวดขนาดนี้ แม่หมอเอ๋ย..ท่านช่วยข้าได้หรือไม่ โปรดปรุงยาคลายรักเพื่อรักษาอาการประหนึ่งศรพิษแทงหักคาหทัยข้าอยู่ปัจจุบันนี้’
‘แม่หนูเอ๋ย’ แม่หมอกล่าวขึ้นอีก ‘ข้าเอ็นดูแม่หนูยิ่งนัก จึงเสียใจยิ่งที่จะตอบว่า ไม่มียาขนานใดสามารถถอนพิษที่มีนามว่าความรักออกไปได้ แต่ข้ามีวิธีทำให้เจ้าชายหันมารักแม่หนูได้อีกครั้ง’
ความหวังสะท้อนวาบอยู่ในแววตาของเจ้าหญิง เธอเขย่าแขนหญิงชราอย่างลิงโลด
‘ท่านทำได้หรือ ทำได้จริง ๆ น่ะหรือ’
‘อันว่าบุรุษจะรักสตรีก็ ๑ เพราะรูปโฉมโนมพรรณ ๒ เพราะกริยามารยาท ๓ เพราะเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ปางก่อน และ ๔ สตรีนางนั้นให้กำเนิดบุตรแก่ตน แม่หนูมีครบทุกอย่างรูปโฉมโนมพรรณกริยามารยาทและบุญกรรมที่ทำไว้ดีแล้วจึงได้มาผูกพันกันแต่เล็ก ขาดก็แต่อย่างเดียว..’
แม่หมอกล้ำกลืนคำพูดไว้
เจ้าหญิงเอ่ยวาจาอย่างใจลอย ‘ให้กำเนิดบุตร แต่มันเป็นไปไม่ได้ เขาไม่แตะต้องแม้ปลายนิ้วของข้าด้วยซ้ำ’
แม่หมอล้วงขวดแก้วเจียระไนบรรจุน้ำสีชมพูใสออกจากย่ามของนาง แล้วแสดงขึ้นต่อหน้าเจ้าหญิง
‘นี่จะช่วยแม่หนูได้ ยาสเน่ห์ชั่วข้ามคืน เมื่อใช้กับผู้ใด เขาจะรักท่านอย่างสุดจิตสุดใจชั่วระยะหนึ่งราตรี จากนั้นแม่หนูจะทำสิ่งใดก็สุดแต่แม่หนูแล้ว’
แม่หมอลากลับไป ในมือของเจ้าหญิงถือขวดนั้นด้วยใจระทึก ความรู้สึกผิดก็มีอยู่ แต่ความต้องการที่ซ่อนเร้นมานานได้ชัยไป เธอตัดสินใจใช้ยานั้น และทำให้เจ้าชายตกเป็นของเธอเพียงหนึ่งคืน”
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=0&songID=V2A4A4GCPDฝันถึงดวงใจ
จากไปแสนห่วงไม่หาย
เคยอยู่ เคียงกาย
เคยกอดเจ้าไว้ชื่นชู้ภิรมย์
ต้องมาเหินห่าง อ้างว้าง ไม่สม
มีก็แต่ คลื่นลม
ระงม ให้ป่วนใจ
..เสียงสายลมครวญ
ดั่งนวลเจ้ากู่เรียกหา
ยินแผ่ว แว่วมา
พี่ตื่นผวาไขว่คว้าอาลัย
ไม่มีสำเนียง เรียกหาอยู่ไหน
เพียงฝันตื่น ก็คลาย
ฝืนใจ ไม่หลับได้เลย
*..นอน พี่นอนสะท้อนใจข่ม
วันคืนควรรื่น-รมย์
กลับระบม อกเอ๋ย
หาดทรายสีทอง
ต้องแสงจันทร์ ถูกชมเชย
ฟากฟ้า ประหนึ่งจะเย้ย
ชื่นเชย ให้โอบนที
..สงสารดวงใจ
คงตรมหมองไหม้คอยหา
เคยแอบ อุรา
พี่ห่างสุดหล้าสุดฟ้าธาตรี
พี่ฝันถึงเจ้า น้องเล่ายามนี้
ยามฟ้ากอด นที
ฝันถึงพี่ ไหมเอย..
เสียงสะอึกแผ่วเบา ทำให้ผมเหลียวไปข้างหลังโดยไม่ตั้งใจ เงาตะคุ่มหนึ่งในผู้ชมลุกขึ้น เดินไว ๆ ออกไปข้างนอก ผมเห็นอีกคนลุกตามไป ชั่วขณะที่แสงจากภายนอกทาบทับเสี้ยวหน้า ผมจำได้ว่านั่นคือพี่ไฮด์
"แบด กูไปห้องน้ำนะ" ผมบอกคนข้าง ๆ ซึ่งพยักหน้าและถามทันที
"ให้ไปเป็นเพื่อนไหม"
"หึ ไม่ต้องหรอก" ผมปฏิเสธแล้วลุกออกมาทันที
ผมตามคนคู่นั้นไปจนถึงส่วนอุทยานที่ไกลหูตาผู้คน ผมหลบหลังพุ่มไม้และแอบฟังบทสนทนา เสียงร้องอย่างเจ็บปวดและสั่นเครือตัดพ้ออีกคน
"คุณประจานฉัน เพื่ออะไร คุณยังทำให้ฉันเจ็บไม่พอหรือไง!"
"ผมไม่ได้ประจานคุณ มันเป็นแค่ละครคุณก็รู้"
"อย่าทำเป็นตีหน้าซื่อ คุณมันชั่วช้าที่สุด"
"แล้วคุณล่ะดีนักหนาหรือไง ผมไม่ได้อยากมีลูกแบดเลยสักนิด คุณก็บังคับให้ผมมี แล้วพอผมรักเขา คุณพรากเขาไป ขับไล่ไสส่งผมด้วยวิธีการแย่ ๆ โศรยา..ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่าคุณเคยรักผมด้วยจริงน่ะหรือ"
"คุณไม่เชื่อ" เสียงของเธอสั่น และแหลมสูงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ "โอ้..บัดนี้คุณยังไม่เชื่อ คุณไม่ไว้ใจฉัน คุณเกลียดฉัน คุณไม่เคยเห็นฉันเป็นเพื่อนเลยด้วยซ้ำ"
"ผมเห็นคุณเป็นเพื่อนเสมอ" พี่ไฮด์เน้นเสียงหนัก "ผมเคยต่อว่าคุณสักคำมั้ยเรื่องลูก ผมเคยเรียกร้องความเป็นธรรมมั้ยเมื่อคุณป้ายร้ายผมในครั้งนั้น ต่อให้คุณเสี้ยมสอนให้แบดมันเกลียดผม ผมก็ยังไม่พูดอะไรสักคำ แต่ผมทนไม่ได้แล้วนะโศรยา ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคุณทำกับลูกเหมือนกับเขาเป็นสิ่งไร้หัวจิตหัวใจแบบนี้"
"เฮอะ พ่อพระ คุณมันก็จิ้งจอกหางด้วนที่อยากให้ลูกจิ้งจอกด้วนตามเท่านั้นแหละ แต่จำไว้เถอะ ลูกแบดไม่มีวันเป็นเกย์ ไม่มีวันเป็นสิ่งวิปริตผิดเพศอย่างคุณเป็นอันขาด!"
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตามด้วยเสียงฝีเท้าย่ำผืนหญ้าห่างออกไป และหลังจากนั้นก็มีแต่ความเงียบ ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจถอนตัวออกไปจากที่นี่ ทว่าเพียงขยับก็พบว่าตนถอยหลังไปชนกับอะไรแข็ง ๆ แน่น ๆ ผมหันกลับไปพบว่าตนอยู่ในอ้อมโอบของไอ้แบดที่จับผมไว้
"เฮือก..!"
"เป็นอะไรแทน ตกใจอะไรวะมึง กูเห็นมึงหายมาพักใหญ่ก็เลยมาตาม นึกว่าตกบ่อส้วมตา.." เขาอ้าปากค้าง สายตาแสดงความประหลาดใจมองข้ามไหล่ผมไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนระอุ แล้วกลับกลายเป็นเย็นเฉียบดุจเนื้อเหล็กในความหนาวกลางราตรี
"หึ ที่แท้ก็มานัดพบชู้ที่นี่นี่เอง"
ผมหันกลับไปตามสายตาของเขา พี่ไฮด์ยืนอยู่ที่นั่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
"คือพ่อ.."
"คุณไม่ใช่พ่อผม กรุณาอย่าเรียกให้ระคายหู แล้วมึงน่ะแทน ถ้าร่านนักก็เชิญตามสบาย แถว ๆ นี้ก็ได้ กูเคยเห็นหมามันมาผสมพันธุ์กันบ่อย ๆ" มันพูดจบก็ผลักผมออก แล้วหันหลังเดินกลับไปอย่างไม่ไยดี
ผมนั่งก้นจ้ำเบ้าอึ้งอยู่ตรงนั้น พี่ไฮด์ก้าวเข้ามาแล้วฉุดผมให้ลุกขึ้นยืน
"ดูเหมือนว่าพี่จะทำให้แทนซวยอีกแล้วสินะ"
"ผม..มะไม่เป็นไร พี่ไฮด์ ผมขอโทษแทนไอ้แบดจริง ๆ นะครับที่มันพูดอย่างนั้นกับพี่ ผม..ผม"
พี่ไฮด์ดึงผมมากอด ตบหลังเบา ๆ
"จะร้องไห้ก็ได้ พี่ไม่ว่าอะไรนะ"
ความอุ่นของอ้อมกอดทำให้ผมระเบิดโฮออกมาทันที
ปล. ผมชอบเพลงไกลชู้มากเลย