~~เออกูผิด...ตอนที่ 25~~“ แล้วมึงก็หนีโมมันกลับมาเลยใช่ไหม ”
“ หนีที่ไหนพ่อแม่เค้าไล่กูกลับมาก่อนต่างหาก ”
“ มึงนี่นะ เคยได้ยินไหมที่โบราณเค้าว่านะ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกนะ ”
“ รู้แต่ถ้าขืนกูตื้อไปนานกว่านี้มีหวังกูคงได้แดกลูกปืนพ่อโมเค้าซะก่อนนะดิ ”
“ แล้วเอาไงทีนี้ ”
“ ปลาบึกค๊าบบบ ช่วยโจ๊กคิดหน่อยดิโจ๊กปวดหั๊วปวดหัว ” เข้าไปกอดมันแล้วออดอ้อนๆ
“ ทั้งปีแหละมึงอ่ะ ”
เช้าวันอาทิตย์
“ ฮาโหลโม ”
“ พี่โจ๊กโมมีอะไรจะบอก ข่าวดีพี่ ”
“ หืมมมมม ” น้ำเสียงดีขึ้นมาก
“ พ่อกับแม่โจ๊กอยากเจอพี่กับพี่ปลาบึก ”
“ ห๊าาาาาาาาาาาาาา ค๊าบบบบช่างเป็นข่าวที่ดีมั๊กมาก ” ซวยแล้วกู
“ งั้นเดี๋ยวอีกเที่ยงนี่พี่กับพี่ปลาบึกมาเจอผมที่นี่นะครับ อ้อแต่งตัวหล่อๆ ละเดี๋ยวเราจะออกไปกินข้าวข้างนอกกัน โอเคนะครับ ”
“ พี่จะว่าอะไรได้ล่ะครับโม ”
“ พี่โจ๊ก ผมรักพี่นะครับแล้วผมก็รักพี่ปลาบึกด้วย ”
“ พี่ก็รักโมครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปบอกปลาบึกก่อนนะแล้วเจอกันครับ ”
“ ครับบายครับที่รักของผม ”
“ เช่นกันครับ ”
แล้วผมก็นำข่าวดีนี้ไปแจ้งแก่ไอ้ปลาบึก
“ หาอะไรนะ ”
“ จริงๆ กูจะไปโกหกมึงทำไม ”
“ ตายห่าแล้วกูต้องทำตัวอย่างไงบ้างเนี้ย เสื้อผ้าๆ หาเสื้อผ้าดีๆ ก่อนนเลยอันดับแรก อ้าวมึงลุกดิเหรอว่าต้องให้กูจัดสรรให้อีก ”
“ ปลาบึกนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะโว๊ย ”
“ เอาน่าเค้าถึงขนาดออกปากชวนไปทะเลาะนอกบ้าน ”
“ กินข้าวโว๊ยไม่ใช่ทะเลาะ มึงนี่กูยิ่งใจฝ่อๆ อยู่ ”
“ เออๆ เค้าออกปากชวนไปกินข้าวนอกบ้านอย่างนี้ก็น่าจะโอเคแล้วมั้งมึง กูดิที่ต้องกลัวไม่รู้จะต้องมานั่งตอบคำถามอะไรครอบครัวนั้นอีก เฮ้ยโจ๊กพ่อโมอายุประมาณไหนวะ สูงต่ำดำขาวคนที่ไหนแล้ว ”
“ พอแระๆ ไอ้ที่มึงถามกูมาเนี้ยกูไม่สามารถจริงๆ โน้นอยากรู้อะไรก็ไปถามโน้นไอ้โมโน้น ”
“ เออๆ แม่งช่วยไรไม่ได้เลย ไหนๆ หันหน้ามาดิ ”
“ อืม ” ผมหันหน้าไปหาไอ้ปลาบึกมัน
“ ดูทำหน้าอย่างกับลูกหมาโดนทิ้ง มาเดี๋ยวกูให้กำลังใจมึงเอง โอมเพี้ยงกำลังใจกูจงมา (มันพนมมือหลับตาปากท่องคาถา) โอมเพี้ยงกำลังใจกูมายัง ”
“ มาแล้ว ” ผมดัดเสียงเป็นกุมาร
“ ถามไรรู้ ”
“ รู้ ”
“ ถามไรตอบได้ ”
“ ได้ ”
“ งั้นถามว่าไอ้โจ๊กจะถูกพ่อโมกระทืบอีกไหม ”
“ ............ ”
“ เอ้าไม่เสือกตอบกูล่ะ ” มันลืมตามาถามผมครับแต่มือยังพนมแต้อยู่ในหน้าที่
“ ไม่รู้โว๊ยยย ” ขี้เกียจเล่นกับคนขี้แกล้งอย่างมันแระ
“ โอ๋ๆ หันหน้ามาเดี๋ยวกูจะลงคาถาให้แระ เอ้าพนมมือเร็วแล้วว่าตามกูด้วยนะคาถาศักดิ์สิทธิ์นะมึงอย่าทำเป็นเล่นไปเร็วๆ ”
“ ค๊าบๆๆ ”
“ โอมนะโมจงรัก ”
“ แหง๋ละโมไม่รักกูก็แปลกแระ ”
“ เอ้าเชี้ยนี่ นะโมของกูอะเป็นบทสวดไม่ใช่ชื่อน้องโมของมึง ตกลงมึงจะเอาไหมคาถากำลังใจจากกูอ่ะ ”
“ อ้าวก็กูไม่รู้กูคนซื่อนี่ ดูตา ” ผมกระพริบตาถี่ๆ ส่งสายตาเว้าวอนเบื้องล่างสุดชีวิต
“ ................”
“ เอ้าถึงกะอึ้ง เห็นปะกูบอกแล้วกูคนซื่อ 555+ ”
“ ค๊าบบบบบซื่อมากกกกก ไปอาบน้ำดีกว่า ”
“ อ้าวไม่ต่อเหรอ ”
“ ไม่ ”
“ อ้าวเฮ้ยปลาบึก ปลาบึกค๊าบบบบโจ๊กไม่กวนติงปลาบึกแว้วววววว กลับมาก่อนนนนนนน ” มันหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วครับ
11.30 น. พร้อม
“ สวัสดีครับพ่อ ” ผู้นำอย่างผมต้องเข้าถึงประชาชนก่อนใครครับ
“ กองไว้ตรงนั้นแหละ ”
“ พ่อ ” แม่มาช่วยผมแล้ว
“ สวัสดีครับแม่ ”
“ จ้าแล้วนั่น ” แม่มองไปที่ไอ้ปลาบึกครับ
“ ปลาบึกครับ เข้ามาดิมึง (ประโยคหลังกระซิบสุดๆ ) นี่พ่อไอ้..เออพ่อน้องโมแล้วนี่แม่น้องโมครับ ”
“ สวัสดีครับพี่ เอ๊ยคุณพ่อ ” วอนตายแระมึง
“ อืม ชื่อไรนะเรา ” อ้าวซะงั้น
“ ปลาบึกครับ วันก่อนที่โรงพยาบาลผมยังไม่ทันได้แนะนำตัวต้องขอโทษด้วยนะครับคือกำลังตะลึงอยู่นะครับ คือดันไปคิดว่าคุณพ่อเป็นพี่ชายน้องโมนะครับแหม...หน้าเด็กจัง ” แถวบ้านเรียกเอาหน้าครับ
“ หืม ขนาดนั้นเชียว ” พ่อนี่ก็บ้ายอซะงั้น
“ ลูกเต้าเหล่าใครละเราแล้วทำไมถึงมาอยู่กับคน...แบบนี้ได้ ” พูดจบก็ส่งสายตารังเกียจมาที่ผมเต็มที่
“ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดนะครับ นี่ก็เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ นะครับ ”
“ มาใกล้ๆ พ่อสิ ” มีกวักมือเรียกกันด้วย
“ ชื่อก็แปลก หน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดูนะเรา ไหนมาดูใกล้ๆ สิลูก ” แล่วๆๆๆๆ แม่ค๊าบบแล้วผมอ่ะ
หมาหัวเน่าเป็นเช่นนี้นี่เองแต่ผมก็ดีใจครับที่อย่างน้อยไอ้ปลาบึกก็สามารถเข้ากับครอบครัวนี้ได้ ผมนั่งได้ซักพักก็เริ่มมองหาไอ้น้องโม
“ แม่ครับ น้องโมล่ะครับ ”
“ ถามทำไม ” พ่อค๊าบบบไม่ต้องตอบก่าได้ผมไม่ได้ถามพ่อ
“ พ่อไม่เอาน่า รอแปปนะลูกเดี๋ยวก็คงลงมาพอดีเมื่อกี้เพื่อนเค้าโทรมาจะให้ส่งงานให้ทางเน็ตนะ ”
“ อ้อ ครับแม่ ”
“ ปลาบึกไปเดินข้างนอกกับพ่อดีกว่า บรรยากาศแถวนี้แย่พ่อหายใจไม่ออก ”
“ ค๊าบบบพ่อ ^0^” เต็มปากเต็มคำนะมึง...ไอ้บึก
“ พี่โจ๊ก ” อา.......โมมาแว้ววววว
อา....วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักอีกเช่นเคย หน้าตาดูแจ่มใสขึ้นสงสัยจะสบายใจได้แล้วมั้งเรา
“ โม ” ผมเอื้อมมือไปจับมือมันมาจับไว้
“ โมมานี่กับพ่อ ” แป่ววววว ดีนะเป็นพ่อตาไม่งั้นพ่อจะเตะให้กลิ้งเลยเชียว
“ มึงเอารถมาใช่ไหม งั้นก็ขับตามไป ”
“ ครับพ่อ ปะบึกขึ้นรถ ”
“ ใครบอกว่าปลาบึกจะไปกับมึง มึงต้องขับตามไปคนเดียวไปได้แล้วที่เหลือขึ้นรถพ่อขับเอง ”
” แต่พ่อครับทางเดียวกันเราน่าจะไปด้วยกัน ”
“ ใครขอความคิดเห็นจากมึงไอ้โจ๊ก ”
“ ขอโทษครับ ”
ตัดฉับมาที่ร้านอาหาร
“ โมมานั่งนี่ส่วนมึงไปนั่งโน้น ”
“ ครับพ่อ ”
“ ปลาบึกมานั่งข้างๆ แม่มาลูก โจ๊กก็ด้วยมานั่งคนละข้างกับแม่มา ”
“ ค๊าบ / ค๊าบ ”
“ เอาที่สั่งไว้มาได้เลย ” โห...นี่แสดงว่าใหญ่จริงๆ มีโทรมาจองโต๊ะสั่งของไว้ล่วงหน้าด้วย เยี่ยม!!!
ไม่เกิน 15 นาทีของที่ถูกจัดเตรียมไว้ก็ถูกยกออกมาวางตรงหน้า
“ เอากินเลย กินๆ ปลาบึก ”
“ ครับ ขอบคุณครับพ่อ ” ชิ...ใครเป็นเขยบ้านนี้กันแน่วะ
“ พ่อก็ไม่ชวนโจ๊กบ้างล่ะพ่อ อะไรกันทำเป็นเด็กๆ ไปได้ ” ใช่ก๊าบแม่พ่อทำไมตูก ฮือๆๆๆ
“ เอ้ากินสิ เหรอว่าต้องให้เซ่นเจ้าที่ก่อนถึงจะกินได้ ”
“ ครับ ขอบคุณครับ ” สุภาพแบบสุดๆ
“ ตักกับข้าวให้เมียอ่ะเป็นไหม ”
“ ค๊าบ ” ผมตักปลาให้โม
“ ใครบอกว่าให้มึงตักปลาให้ลูกกู ลูกกูนะฉลาดอยู่แล้วมึงเก็บไว้แดกเองเถอะ ” แป่ว
“ งั้นพ่อทานนี่นะครับ ”
“ ไม่ต้องกูมีมือกูตักเองได้ ”
“ งั้นพ่อทานนี่นะครับเดี๋ยวปลาบึกตักให้ ” เออ..ไหนมึงลองบ้างดิปลาบึก
“ ขอบใจลูกปลาบึก ของโปรดพ่อเลยนะเนี้ย ” แม่งยุติธรรมกับกูซะจริงๆ เปาปุ้นจิ้นมาเห็นอายเลยนะเนี้ย
กับข้าวจานเดียวกันแต่ครั้งนี้ผมอยากกวนตีนพ่อตา “ งั้นทานเยอะๆ นะครับมาผมตักให้ ”
“ กูไม่ชอบต้นหอม ” ไม่มีเลยคำว่าลำเอียง แล้วไอ้ที่เขียวๆ ในจานพ่อเนี้ยแถวบ้านเรียกกุ้งมังกรเหรอค๊าบบบ (อาหารจานที่พ่อตาสั่งไว้คือต้นหอมญี่ปุ่นผัดน้ำมันหอย)
“ ค๊าบๆ งั้นผมตักออกให้ค๊าบ ”
ช่วงที่กินข้าวก็ไม่มีอะไรมากครับก้แค่พ่อตาผมสอบถามโน้นนี่นู้นอยู่ตลอดเวลาเล่นเอาผมไม่กล้าตักข้าวเข้าปากเลยกลัวยังไม่ทันกลืนก็ต้องมาอ้าปากตอบข้อต่อไปนะครับ ผมจ้องมองไอ้ปลาบึกกินโน่นนี่อย่างเอร็ดอร่อยจนน่าอิจจฉา
“ มึงเอาลูกกูแล้วใช่ไหม ”
“ แค๊กๆๆๆ ” ตรงไปเหรอเปล่าค๊าบบบพ่อ ไม่ใช่แค่ผมนะครับที่สำลักข้าวกับคำถามพ่อ ทั้งโต๊ะอ่ะครับแถมทำท่าจะลามไปโต๊ะข้างๆ อีกซะด้วย
“ ว่าไงเหรอว่าต้องให้กูถามซ้ำคำถามเดิมไอ้โจ๊ก ” ขอบคุณครับพ่ออย่างน้อยพ่อก็จำชื่อของผมได้ครับ
“ ครับพ่อกูอย่างที่พ่อทราบมานะครับ แต่ว่าผมก็ยืนยันนะครับว่าผมพร้อมที่จะรับผิดชอบโมเค้า ”
“ ปลาบึกแล้วเราล่ะ เสร็จมันด้วยอีกคนสินะ ”
“ แหะๆ ” ดีแล้วครับที่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่านี้
“ งั้นเรื่องนี้มันจะจัดการอย่างไงไอ้โจ๊ก ในเมื่อมึงมีเมียเป็นผู้ชายอยู่แล้วตั้งคนแล้วนี่ก็จะเอาอีกคนนี่มึงคิดว่ามึงเป็นใคร ขุนแผนกลับชาติมาเกิดเหรอไง ”
“ พ่อครับ เรื่องที่เกิดขึ้นมันอาจจะดูไม่สมควรนักผมทราบครับว่าพ่อเป็นห่วงลูกชายพ่อ แต่ผมเองก้เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งที่กล้าทำก็กล้ารับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ผมไม่ได้ขออะไรพ่อมากไปกว่าการขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองกับเรื่องนี้บ้างก็เท่านั้น ”
“ แสดงว่าถ้ามึงพิสูจน์ตัวเองไม่ผ่านมึงก็จะเอาลูกชายกูใส่พานเงินพานทองมาถวายกูคืนใช่ไหมไอ้โจ๊ก ”
“ พ่อครับถ้ามันมีวันนั้นจริงๆ ผมยอมให้พ่อฆ่าผมทิ้งเลยครับพ่อ ”
“ หึ ได้กูจะรอดูน้ำหน้ามึงไอ้โจ๊ก แม่มึงเป็นพยานนะไอ้โจ๊กมันพูดเองนะ ”
“ งั้นแสดงว่าพ่ออนุญาติให้ผมกับโมคบกันแล้วใช่ไหมครับ ”
“ เออ แต่มึงจำเอาไว้นะไอ้โจ๊กว่าวันนี้มึงพูดอะไรไว้ต่อหน้าทุกคน ”
“ ครับ ผมจะรักษาสัญญาลูกผู้ชายที่ให้ไว้กับพ่อ ”
เฮ้ออออออออ ทำไมมันง่ายดายอย่างนี้นะ เพื่อนๆ มีใครเจออย่างผมบ้างไหมครับผมคิดว่ามาตลอดว่าเรื่องนี้น่าจะกินเวลายาวนานกว่านี้ซะอีก มันมีอะไรมากไปกว่านี้ไหมนะ...