~~ เออกูผิด...ตอนที่ 19 ~~ “ อยู่ไหนล่ะ ” ผมโทรจิกไอ้ปลาบึกไปสิบกว่ารอบแล้ว
วันนั้นเป็นวันเสาร์ครับถ้าจำไม่ผิด มันมีหนังเรื่องหนึ่งที่ผมกับไอ้ปลาบึกอยากดูมากแล้วก็หาโอกาสว่างอยู่นานหลายวันกว่าจะตัดสินใจกันได้ว่าเสาร์นี้เราจะไปดูหนังด้วยกันสองคน ผมทำหน้าที่เป็นม้าเร็วบึงมาสด้า 3 คันโปรดไปวางเงินมัดจำกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วมาได้ 2 ใบตามที่ต้องการเป๊ะ ตัวอักษรข้างในบัตรใบน้อยบงระบุข้อควรใช้ไว้อย่างละเอียดละออ ผมพยายามเพ่งกระแสจิตเปลี่ยนเวลาที่ระบุอยู่ในนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมว่าผมนัดและบอกเวลากับไอ้ปลาบึกไปแล้วนะว่าควรจะมาถึงกี่โมงและหนังจะเข้ากี่โมง โค-ตะ-ระ-หงุดหงิด ผมละเกลียดจริงๆ กับไอ้การมาไม่ตรงนัด มันจะรู้ไหมว่าผมเสียเวลามารอมันนานแค่ไหน ตารางกิจกรรมที่ผมอุส่าห์คิดวางแผนไว้เพื่อที่จะทำซาไบร์มันล้มอย่างไม่เป็นท่า
“ อยู่ไหนล่ะ ” ผมโทรจิกมันไปอีกครั้ง
“ ใกล้แล้วๆ ” แม่งเสียรมณ์มันมากๆ
“ นี่มึงตอบอย่างอื่นเป็นบ้างไหม กูถามกี่ทีๆ แม่งก็ตอบมาอย่างเงี้ย ถ้าจริงเถอะไอ้ที่ว่าใกล้แล้วๆ เนี้ยมันใกล้บ้านพ่อมึงเหรอไงไอ้บึก เชี้ยนิกูรอมึงอีก 10 นาทีถ้ามึงยังมาไม่ถึงกูไม่รอมึงแล้วนะสาดดด ” กดวางแม่งเลย
10 นาที ต่อมา
“ อยู่ไหนล่ะ ” สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายโทรจิกมันอีกจนได้
“ ยังไม่รู้อีกเหรอ ”
“ นี่มึงกวนกูใช่ไหมเนี้ยไอ้ปลาบึก ”
“ 555+ เปล่า ”
“ แล้วตกลงอยู่ไหน ” สกดอารมณ์สุดขีด
“ อยู่ในใจเสมอ ”
“ ไอ้ควาย ”
“ ไมไม่ชอบเหรอไง งั้นหันมานี่...อันนี้อ่ะชอบปะ ”
ผมหันหลังกลับไปก็ต้องตกใจอย่างแรงกับภาพที่เห็น ตุ๊กตาหมีแท็ดดี้สีน้ำตาลผูกโบว์แดงแปร๊ดดดมันมายืนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่ผมก็ยังคงไม่เห็นไอ้ปลาบึกอยู่ดีจน...
“ หวาดดีฮะพี่ชาย ” เฮ้ยยยหมีพูดได้ด้วย แถมมันยังขยับแขนโบกมือมาที่ผมอีกต่างหาก
“ วะ วะหวัดดีครับ ” ผมกดวางสายไอ้ปลาบึกเพราะเห็นเงาคนตะคุ่มๆ อยู่ด้านหลังหมีตัวใหญ่
“ พี่มารอคัยเยอค๊าบบ ” ศัพท์ปัญญาอ่อนจริงๆ แต่ก็น่ารักวะ
“ รอแฟนค๊าบ น้องหมีเหงแฟนพี่ปะค๊าบ ” เด็กสาวๆ แม่งหันมามองกันทั้งห้าง อิจฉาสิเมิงแม่งไม่มีๆ กร๊ากๆๆๆๆ
“ มะเหงนะ เอ...เหรอว่าเค้าจะทิ้งพี่ไปแระ ”
“ อ้าวทำไมเค้าถึงจะทิ้งซะล่ะ ”
“ สงสัยพี่จะมะหล่อม๊างง ” ไอ้หมีเอียงคอเอามือแตะหัวเหมือนคนทำท่าคิด (จริงๆ ต้องหมีทำท่าคิดสินะ)
“ จริงดิ หล่อกว่านี้ก็วิลลี่แระ 555+ ”
“ แหวะ ” เฮ๊ย.....หมีมีอ้วก
“ น้องหมีละครับมารอใครเหรอ ”
“ มะบอก ”
“ อ้าวซะงั้น น่า...บอกหน่อยนะ ”
“ บอกก่าได้ ผมนัดแฟนไว้ ”
“ จริงดิ แล้วไหนอ่ะแฟนน้องหมี ”
“ เค้างอนผมกลับบ้านไปแระ ”
“ โห แฟนขี้งอนจัง ”
“ ช่ายยมะ เค้าอะไม่รักผมร๊อคคคมีแต่ผมอะรักเค้าข้างเดียว ”
“ รักสิ พี่ว่าเค้าต้องรักน้องหมีแล้วก็รักมากซะด้วยนะ เพราะถ้าไม่รักแล้วเค้าจะมานั่งงอนน้องหมีทำไมจริงไหม ”
“ จริงนะ ”
“ จริง ” ผมเอามือไปหยิกแก้มน้องหมีเบา มีสาวๆ บางคนที่นั่งอยู่แถวนั้นหันมายิ้มให้ผมกับน้องหมีก่อนจะหันกลับไปกระซิบกระซาบกันอย่างสนุกสนาน
“ พี่ค๊าบบ ”
“ ค๊าบ ”
“ ขอผมเข้าไปดูหนังด้วยคนได้ไหมอ่ะ ”
“ จริงอ่ะ ”
“ นะๆ ขอดูด้วยคนนะ น๊า น๊า น๊า พี่ใจดี ”
“ งั้นขอหอมก่อน ” ผมเอียงแก้มซ้ายให้ไอ้น้องหมี แต่พอหัวหมีใกล้แก้มผม....ผมก็เอาแก้มออก
“ อ๊ะ มะห้ายเค้าหอมแล้วเหรอ ”
“ พี่เปลี่ยนใจแระ พี่อยากให้ไอ้คนข้างหลังน้องหมีอ่ะเป็นคนหอมพี่มากกว่า ”
“ บ้า ”
ผมชะโงกหน้าไปดูไอ้คนที่อยู่ข้างหลังน้องหมี ไอ้ปลาบึกเกยตื้นของผมนั่นเองหน้างี้แดงเป็นตูดลิงเลย มันก็น่าอยู่หรอกครับผู้ชายตัวโตเท่าควายมันลากเอาตุ๊กตาหมีตัวเท่ามันขึ้นมาได้อย่างไงตั้งหลายชั้น อีกอย่างนี่มันห้างกลางกรุงชื่อดังเลยนะครับคิดดูว่าจะมีสาวๆ หนุ่มๆ เกย์ๆ ดี้ๆ อีกกี่ร้อยชีวิตที่เห็นมันลากตุ๊กตาเดินรอบห้าง...ผมล่ะอายแทนมันจริงๆ แล้วยังไอ้บทพูดที่ไม่คิดว่าคนอื่นเค้าจะอ้วกแตกอ้วกแตนกันทั้งห้างนั่นอีก แม่ง...คิดมาได้ไง
ผมยืนยิ้มมองไอ้ผู้ชายหน้าด้านลากตุ๊กตาไปหาที่นั่งรอเวลาหนังเข้า มันหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะซบหน้าลงกับหลังตุ๊กตาที่มันกำลังกอดไว้อยู่ ผมมองไปที่เด็กเดินตั๋วที่หันมายิ้มๆ ให้ผมก่อนที่น้องเค้าจะเดินมาถามผมว่าจะฝากตุ๊กตาไว้กับเค้าก่อนไหม
" ฝากผมไว้ก่อนก็ได้นะครับ ตัวโตขนาดนั้นบังคนนั่งหลังกันหมดพอดี "
" ไม่เป็นไรครับน้อง แต่ถ้าน้องจะกรุณาและเมตตาคนหน้าตาดีแต่มีแฟนติงต๊องอย่างพี่บ้าง คือพี่อยากได้...." ผมกระซิบกระซาบกับไอ้น้องก่อนที่จะยื่นตั๋วสองใบที่เหลือให้น้องเค้าไป
ผมเดินกลับมานั่งข้างๆ ไอ้ปลาบึกอีกครั้ง แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมได้เห็นเด็กสาวๆ วัยแรกรุ่นที่มากับชายหนุ่มหลายๆ คู่ต่างก็จ้องมองมาที่ผมกับไอ้ปลาบึกและขาดเสียไม่ได้คือไอ้น้องตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวเท่าควายยยยยย
" บึกค๊าบบ " ผมขยับก้นเข้าหามัน
" ทำมายยย " มันขยับก้นออกห่างผม
" ตกลงที่มึงหายไปเนี้ย มึงหายไปเอาไอ้ตัวเนี้ยมาให้กูเนี้ยนะ "
" ตลกแระใครบอกว่าให้มึง "
" เอ้า...อ้อลืมไปกูมันคงไม่ใช่คนสำคัญขนาดที่มึงจะมาลงทุนทำอะไรให้สินะ "
" ใช่รู้ตัวก็ดีและ "
ชิ...เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยตอนนี้เป็นเชี้ยไรอีกแระ ผมลากหมีมานั่งกั้นระหว่างมันกับผม 5 นาทีเห็นจะได้
" มึงเอาตั๋วให้น้องเค้าไปทำไม ตกลงไม่ดูแล้วใช่ไหมหนังอ่ะ " อ้อ...ทีแท้ก็งอนเรื่องนี้นี่เองแล้วก็ไม่เสือกถามกันตั้งแต่แรก ดีเข้าทางโจร...
" อืม "
" ทำไม "
" ให้ไปเฉยๆ จะทำไม ก้แค่ไม่อยากดู "
" มึงทำอย่างงี้ได้ไงวะ "
" ก็อยากทำใครจะทำไม "
" สัดเอ๊ยกูไม่น่าเลย "
" ไม่น่าอะไร "
" งั้นกูจะมานั่งรอทำซากอะไร " ไอ้ปลาบึกลุกทำท่าจะเดินลากหมีออกไป
" พี่ครับๆ ได้แล้วครับ " ไอ้น้องเดินตั๋วคนเดิมวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ
" อะไร " ไอ้ปลาบึกจ้องมองซองสีขาวนวลที่ไอ้น้องเดินตั๋วยื่นให้ก่อนจะหันกลับมาถามผมว่าอะไร
" กูไม่รู้ "
ไอ้ปลาบึกปล่อยมือน้องหมีที่มันเอามาด้วย น้องหมีล้มลงไปนั่ง...แม่งได้ใหม่ลืมเก่านี่หว่ามึง...กูเริ่มๆ ต้องระวังอนาตคการคบกันระหว่างเราซะแระ ทันทีที่มันเปิดซองออกมันก็ได้เห็น โอ้วววววววอาาาาาาาาโอ้ววววววว (มึงจะโอ้อาอีกนานไหมไอ้โจ๊ก เดี๋ยวปั๊ดโบกติดเสา / ครับๆ พี่บึก) ทันทีที่มันเปิดซองออกสิ่งที่มันเห็นก็คือตั๋วหนังผูกโบว์แดงแปร๊ดดดดแดงแข่งกับโบว์ไอ้น้องหมีกันเลยทีเดียว
" มึงให้น้องเค้าเอาไปผูกโบว์ให้แค่นี้เนี้ยนะ " หน้ามันเสียอารมณ์มากครับ เหมือนๆ ผมไม่ลงทุน
" อืม ค่าโบว์ก็เกือบๆ 50 บาทแล้วนะมึง "
" แม่ง " มันค่อยๆ แกะโบว์แดงออก ผมลุ้นระทึกจับจ้องสีหน้าที่จะเปลี่ยนไปอีกครั้งของมันอย่างนึกสนุก
" ชอบไหม "
" โจ๊กนี่มึง (มันยิ้มกับของในมือ) โจ๊กกูรักมึงจัง "
" กูก็รักมึงนะปลาบึก "
มันโผเข้ากอดผมอย่างลืมตัวว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ผมยิ้มให้กับความน่ารักของไอ้คนขี้ใจน้อยตรงหน้าก่อนจะช่วยกันลากน้องหมีไปซื้อน้ำซื้อขนมก่อนเข้าไปดูหนัง เพื่อนๆ บางคนอาจจะสงสัยใช่ไหมครับว่ามันเห็นอะไรมันถึงยิ้มได้
กับการซื้อของให้คนที่เรารัก...ของบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีค่ามากมายนักหรอกครับ แค่ของเล็ก ๆน้อยๆ แต่เป็นของที่เราตั้งใจทำให้ด้วยใจและมอบให้ด้วยใจแค่นี้คนที่เรารักเค้าได้รับจากเราไปเค้าก็มีความสุขแล้ว เหมือนผม...ผมไม่ได้แนบแบงค์ร้อยแบงค์พันเหรอแนบข้อความบอกรักหรือขอบคุณให้กับมัน แต่ผมเลือกที่จะซื้อตั๋วอีกใบหนึ่งเพิ่มให้กับตุ๊กตาหมีแสนจะน่ารักของมันก็เท่านั้นเองครับ ผมรู้ว่าหมีไม่ใส่สิ่งมีชีวิตที่จะดูหนังรู้เรื่อง...แต่ผมรู้ว่าถ้ามันได้เห็นผมใส่ใจกับสิ่งที่มันเล็กๆ น้อยๆ ที่ใครบางคนมองข้ามไป มันคงดีใจทุกอย่างมันเป็นเรื่องของจิตใจ...ผมไม่ได้ใส่ใจหมีมันหรอกครับแต่ผมใส่ใจความรู้สึกลึกๆ ของมันต่างหาก
ลองหันหลังกลับไปใส่ใจความรู้สึกของคนที่เรารักและรักเราดูนะครับ เมื่อใดที่เราเห็นเค้ามีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้เมื่อนั้น...เราจะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกครับ ^0^ รักคนอ่านนะครับ