~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 21~~“ พี่โจ๊ก ”
“ โอ๊ย อูยยย ” ผมลุกขึ้นนั่งเอามือลูบหัวตัวเอง
“ เป็นไงบ้างพี่โจ๊กเจ้บไหม ลุกมาทำไม พี่จเอาอะไรทำไมไม่เรียกโมอ่ะ ”
“ พี่จะเข้าห้องน้ำ ”
“ อะไรนะ ”
“ พี่จะเข้าห้องน้ำ ”
“ พี่โจ๊ก เสียงหายแล้วเห็นไหม ดูสิตัวร้อนจี๋เลยมาลุกเดี๋ยวโมพาไปห้องน้ำเองแล้วเดี๋ยวเราจะต้องไปหาหมอกันนะ ”
อาการท่าจะหนักอย่างที่ไอ้น้องโมว่าครับ หัวผมหมุนติ้วๆ เลยแถมอาการเจ็บคอก็มาเยือนอีกต่างหาก ใจก็อยากจะบอกโมว่าไม่ไปหาหมอนะแต่เสียงที่เปร่งออกมาก็ไม่มีเอาซะเลย
“ โมเกิดอะไรขึ้น เสียงเหมือนของหล่น ”
“ ของที่ไหนกันเล่าพี่ นี่เลยไอ้คนป่วยใกล้จะตายนี่ต่างหาก ”
“ โจ๊กมึงล้มเหรอ เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนไหม ” ไอ้ปลาบึกเดินเข้ามาลูบแขนลูบขาดูอาการผมอย่างใกล้ชิด
“ กูไม่เป็นอะไร ”
“ เสียงมึงเป็นอะไร โหตัวร้อนมากเลย ”
“ ใกล้ตายแล้วล่ะมั้งพี่ปลาบึกผมว่าจะเอาร่างไปฉีดยาแล้วฝากเข้าห้องดับจิตไปเลยดีกว่า คนอะัไรดื้อชมัด ”
“ ดีเลยเราจะได้หาผัวใหม่กันเนอะ 555+ ”
“ 555+ ใช่เอาฝรั่งเลยไหมพี่ปลาบึก ”
“ โมว่าเอาเกาหลีก็ดีนะ น่ารักน่าฟัดจะตาย ”
“ 555+ / 555+ ”
“ ปล่อย ” ผมสบัดแขนที่ถูกไอ้น้องโมกับไอ้ปลาบึกช่วยพยุงร่างผมไว้ออก ก่อนจะค่อยๆ เดินตัวเอียงเข้าห้องน้ำไป
“ โจ๊กพวกกูแค่ล้อเล่นเองนะ ”
“ ล้อเล่นที่ไหนพี่ปลาบึกโมเอาจริงนะ 555+ พ่อคงดีใจน่าดู ”
“ โม ”
“ ค๊าบบบบบ โมแค่ล้อเล่นเอง ”
เสียงหยอกล้อของไอ้ตัวมารทั้งคู่ยังดังอยู่เบื้องหลังผม หูผมได้ยินทุกประโยคแต่อารมณ์ความฮาไม่สนองตอบออกมาแต่อย่างใด ผมค่อยๆ เดินไปฉี่ด้วยอาการที่คล้ายคนเมา ผมยืนไม่อยู่หัวผมหมุนขาผมล้าเหมือนมันจะล้มให้ได้ เป็นการฉี่ที่ลำบากมากเพราะผมต้องใช้มือข้างหนึ่งปลดกางเกงตัวเองโดยที่อีกข้างหนึ่งต้องหาที่จับยึดตัวเองไว้เพื่อไม่ให้ล้ม
“ มากูช่วย ” ไอ้ปลาบึกเอื้อมมืออ้อมมาจากข้างหลังผมเพื่อช่วยให้ผมฉี่สะดวกขึ้น
“ บึก กูอยากอ้วก ”
“ จะอ้วกเหรอ โมๆ ”
“ ครับพี่ ”
“ ไปเอารถออกไป ไอ้โจ๊กไม่ไหวแล้ว ”
“ เป็นไรพี่โจ๊ก ” ไอ้น้องโมวิ่งเข้ามาดูผมอีกคน
“ รีบไปเอารถออกไป เอาเอกสารให้พี่ด้วย กระเป๋าเงินและก็ ”
“ โทรศัพท์ ”
“ อืมๆ ไปเร็วๆ ”
“ ครับๆ ”
“ เดี๋ยวๆ โมเอาน้ำมาให้พี่ก่อนไอ้โจ๊กมันจะอ้วก ”
“ ค๊าบๆ ” แล้วพยาบาลจำเป็นก็วิ่งกันให้วุ่นยิ่งกว่าเกิดจราจลย่อยๆ ขึ้นซะอีก
“ ฉี่สิมึง ไหนบอกปวดฉี่ไง ”
“ ฉี่แล้วไง ”
“ อะไรนะ ” ไอ้ปลาบึกเอียงหูเอาหาปากผม
“ ฉี่เสร็จแล้ว ” ผมตอบมันไปอีกรอบแต่คราวนี้ผมตอบมันไปด้วยอาการที่หอบและเหนื่อยเอามากๆ
“ โจ๊กมึงฉี่ไม่ออกเหรอ ทำไมฉี่น้อยจังวะฉี่เหลืองมากเลยอ่ะ ”
คำพูดของไอ้บึกทำเอาผมตกใจอยู่ไม่น้อยครับ ผมว่าผมฉี่แล้วนะคือแบบว่ามันปวดสุดๆ อ่ะครับผมเลยลุกจะมาฉี่ แต่ไอ้ปลาบึกกับบอกว่าผมฉี่ไปนิดเดียวเองไอ้ผมก็ไม่ได้ก้มหน้าลงไปมองน้องชายตัวเองที่ตอนนี้มันได้เข้าไปอยู่ในมือมารอย่างไอ้ปลาบึก โธๆๆๆ น้องชายของผมอย่างนี้ก็เข้าทางมันสิครับ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เหอะๆๆๆๆ (นี่ขนาดไม่สบายนะ)
“ บึกกูจะอ้วก อ๊อกกก อ๊อกกก ” พูดจบยังไม่ถึงนาทีผมโก่งคออ้วกกันเห็นๆ เลยครับ
“ เอาเวรแระ เอาๆ อ้วกออกมาให้หมดจะได้สบายขึ้น ” ไอ้ปลาบึกเอามือช่วยลูบหลังให้ผม
“ พี่ปลาบึกกกกกกกก รถพร้อมแล้ววววววว ” เสียงไอ้โมกระโกนมาจากหน้าบ้าน
“ โอเคกำลังจะลงไปเอาของครบแล้วใช่ไหม ”
“ ค๊าบบบบ ”
“ ไหวไหมค่อยๆ นะ ”
“ อืมไหว ”
แล้วผมก็ถูกหามปีกไปใส่ในรถอย่างทุลักทุเล
“ โมมานี่เดี่ยวพี่ขับเอง ”
“ ครับ ”
ไอ้ปลาบึกเอาผมนอนตรงเบาะหลังก่อนจะเรียกไอ้น้องโมมานั่งข้างหลังกับผมด้วย
“ โมเอาหัวไอ้โจ๊กไว้ที่ตักนะ เบาๆ ล่ะเดี๋ยวมันตาย ”
“ ค๊าบบพี่ปลาบึก นี่มันคนนะไม่ใช่กระต่ายมันคงไม่ตายง่ายๆ หรอกเนอะ ” ไอ้โมก้มลงมาถามความเห็นจากผม แต่ผมยกปากตอบไม่ไหวแล้ว
“ โมดูดิ๊แอร์โดนไอ้โจ๊กไหม ”
“ โดนพี่เต็มๆ เลย ”
แล้วไอ้ปลาบึกก็เอาแอร์หันไปทางอื่นก่อนจะออกรถไปด้วยแล้วก็บ่นไปด้วยตลอดทาง
“ โม ”
“ ........ ” ไอ้โมไม่ได้ยินที่ผมเรียก
“ โม ” ผมเอื้อมมือไปแตะที่มือมัน
“ เป็นอะไรพี่ ” ไอ้น้องโมก้มตัวมาถามผมใกล้ๆ
“ โมไอ้โจ๊กเป็นอะไร โม ”
“ ใจเย็นๆ พี่ปลาบึก พี่ขับรถอยู่นะเดี๋ยวก็ได้ตายหมู่กันพอดี ดูทางด้วยขับรถอ่ะ ว่าไงพี่โจ๊กเป็นอะไร ”
“ พี่เหม็นอ่ะพี่อยากอ้วก ปวดหัว ” รถก็รถตัวเองแท้ๆ แต่วันนี้กับรู้สึกว่ากลิ่นภายในรถนั้นเหม็นเอามากๆ เลยครับ แถมการนอนตักนี่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยมันก็ทำให้ผมมึนหัวหนักขึ้นกว่าเดิมอีก
“ งั้นพี่ลุกไหวไหม มาค่อยๆ ลุกนะ (ไอ้โมพยุงผมนั่ง) พี่ปลาบึกพี่โจ๊กจะอ้วกเปิดกระจกดีกว่าพี่ ”
“ ได้ๆ ”
“ พี่โจ๊ก พี่มองไปไกลๆ นะจะได้ไม่อ้วก ยาดมไหม ” ไอ้น้องโมเปิดไฟค้นหายาดมให้อย่างทุลักทุเล
“ แม่งเอ๊ยมึงจะแดงไปไหนเนี้ยไอ้ไฟแดงบ้า มึงเห็นไหมเนี้ยว่ากูรีบสาดเอ๊ย ” ไอ้บึกเริ่มหงุดหงิด
“ เจอแล้วๆ อ๊ะยาดมพี่ ” ไอ้โมหมุนฝายาดมมาจ่อที่จมูกผม น่าอายชมัดที่แขนผมไม่มีแรงแม้แต่จะจับยาดมมาดมด้วยตัวเอง
“ เขียวสิโว๊ยยยยยยย ”
“ ใจเย็นๆ ซิพี่ปลาบึกมันก็อย่างนี้แหละกรุงเทพฯ นะไม่ใช่ต่างจังหวัด ”
“ ได้ มึงไม่ยอมเขียวใช่ไหม ”
“ พี่ปลาบึก พี่จะทำอะไรนะพี่ ” ไม่ทันแล้วครับไอ้ปลาบึกฝ่าไฟแดงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
แล้วจะเหลือเหรอครับก็ป้อมตำรวจนะเค้ามีไว้ให้ตำรวจอยู่นะครับ ไม่ใช่มีไว้ขังยุงไว้ข้างในซะเมื่อไหร่ ว่าแล้วก็มาโน่นแล้วครับพ่อมันขี่มอไซร์ตามมาติดๆ แถมกลัวชาวบ้านเค้าไม่รู้ว่าตามรถคันไหนมันมีการวอเรียกให้หยุดอีกต่างหากครับ
“ อะไรวะ ”
“ จอดก่อนพี่ปลาบึกเราผิดนะ จอดเถอะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ”
“ ก็ได้ๆ ”
เฮ้อออออ จนได้สิน่ามัน...
“ สวัสดีครับ ขอดูใบขับขี่ด้วยครับ ” นายตำรวจหนุ่มหุ่นลงพุงเดินมาที่ข้างรถ
“ นี่ครับ ”
“ คุณขับรถผิดกฎนะครับ คุณฝ่าไฟแดงมา ”
“ ครับผมทราบ แต่ว่าเราต้องรีบพาคนป่วยส่งโรงพยาบาลนะครับ ”
“ ในรถมีคนป่วยเหรอครับ ไม่ทราบว่าคนไหนครับ ”
“ คนนี้ครับ ” ไอ้โมยื่นหน้าไปบอกตำรวจ
“ เป็นอะไรครับ ”
“ มันรวมๆ กันนะครับเหมือนๆ อาหารเป็นพิษแต่ก็เหมือนๆ จะช๊อคด้วย พี่ครับผมไหว้ล่ะช่วยปล่อยพวกเราเอาคนป่วยไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ ” ไอ้โมยกมือไหว้พี่ตำรวจพี่เค้าก็ตะเบ๊ะคือกลับมา ว่าแต่...ไอ้น้องโมครับไอ้อาการที่น้องแจ้งแถลงไขไปเมื่อกี้เนี้ยมันออกแนวคนใกล้จะตายเลยนะครับนั่น
“ อืมม เอาไงดีล่ะ ” พี่ไม่ต้องคิดนานครับพี่ตำรวจเอาเป็นว่าพี่ไม่เชื่อใช่ไหมครับว่าผมป่วยจริง งั้นพี่ครับพี่ต้องเจอนี่เลย
“ โม พี่ไม่ไหมแล้ว ” คราวนี้พูดได้แค่ครั้งเดียวไม่มีการพูดซ้ำครับ ผมผลักประตูออกไปได้ก็ก้มหน้าอ้วกกันให้เห็นเลยจะๆ เลย อ้วกผมพุ่งเฉียดหัวรองเท้าพี่ตำรวจไปนิดเดียว...นิดเดียวจริงๆ ครับ
“ โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพวกคุณจะไปโรงพยาบาลไหนเดี๋ยวผมวอบอกพวกให้ ”
“ เอาที่ใกล้ที่สุดเลยครับ ” ไอ้ปลาบึกหันไปบอกพี่ตำรวจ
“ งั้นเอางี้ พวกคุณขับรถตามผมมาเดี๋ยวผมขับนำรถให้พวกคุณเอง พวกคุณจะได้ถึงโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น ”
“ จริงเหรอครับ ขอบคุณมากครับคุณตำรวจ ” ไอ้น้องโมกับไอ้บึกหันไปไหว้ขอบคุณพี่ตำรวจอีกครั้ง
แล้วรถผมก็กลายเป็นรถบุคคลสำคัญ เรียกได้ว่ารถทุกคันเห็นต้องอิจฉามั๊กมาก เพราะนอกจากจะมีรถตำรวจวิ่งนำหน้าแล้วพี่แกยังวอไปแจ้งป้อมข้างหน้าทุกป้อมว่าขอไฟเขียวผ่านตลอด เนื่องจากมีผู้ป่วยร้ายแรงต้องถึงมือหมออย่างเร่งด่วน แต่ที่ฮาไปกว่านั้นก็คือรถบุคคลสำคัญเค้าจะปิดกระจกวิ่งกันใช่ไหมครับ แต่รถผมไม่เราเปิดกระจกแม่ง 4 บานเลยเอาซี๊ๆ ให้เห็นกันไปจะๆ เลยว่าไอ้คนที่นั่งในรถมานะมันหน้าตาเป็นเยี่ยงไร เหอะๆ
“ โหหหห เท่โคตรๆ อ่ะพี่โจ๊ก ว่าไหมๆ ” ผมเหลือบไปเห็นไอ้น้องโมแอบนั่งโบกมือเป็นนางสาวไทยเป็นระยะ เห็นแล้วก็อดยิ้มไปกับความบ้าของไอ้สองตัวนี้ไม่ได้
“ โมดูๆ นั่นๆ มีคนโบกมือมาให้รถเราด้วย 555+ ” ไอ้ปลาบึกเองก็ชี้ให้น้องชมนกชมไม้ไปตลอดทางเช่นกัน
“ 555+ / 555+ ”
อืมมม...พวกมึงพากันฮากันเข้าไป กูใกล้จะตายแล้ว...
“ ถึงแล้วพี่ถึงแล้ว พี่ปลาบึกโมว่าเอาเตียงเลยดีกว่าพี่โจ๊กเค้านั่งรถเข็นไม่ไหวหรอก ”
“ อืมๆ ”
ผมถูกพาตัวออกมาจากในรถเพื่อให้นอนบนเตียงก่อนที่จะมีพี่ๆ เค้าเข็นเข้าไปที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน โมตามผมมาติดๆ เพราะต้องไปติดต่อเรื่องเอกสารผู้ป่วย ส่วนไอ้ปลาบึกก็จอดรถเพื่อฟังพี่ตำรวจบ่นอีกนิดหน่อยก่อนปล่อยตัวมาดูอาการผม เหตุการณ์จากนี้ไอ้บึกเล่าให้ผมฟังนะครับ ส่วนผมรับหน้าที่นำมาเขียนเพื่อให้เล่าได้อย่างต่อเนื่อง
“ ถึงแล้ว ถ้างั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ ” พี่ตำรวจเดินมากล่าวคำลาหลังจากพาพวกผมมุ่งสู่ที่หมายแล้ว
“ ขอบคุณมากครับ แล้วไม่ทราบว่าเรื่องที่ผมผ่าไฟแดงล่ะครับ ”
“ ไม่เป็นไรครับ พวกคุณทำไปเพราะมีคนป่วยที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เอาเป็นว่าครั้งนี้ผมคงจะแค่เตือนพวกคุณว่าการผ่าไฟแดงมันเป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและรถคันอื่น คราวหลังก็อย่าทำอีกนะครับแต่ถ้าในรถคุณมีคนเจ็บป่วยจริงผมว่าแจ้งรถโรงพยาบาลมารับจะดีกว่า หรือไม่ก็ถ้่าจะพาคนป่วยมาเองแล้วจำเป็นต้องขอทางอย่างเร่งด่วนก็เสียเวลาซักเล็กน้อยลงไปแจ้งจำนงกับตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ ไฟแดงดีกว่านะครับ ผมว่าเค้าจะต้องช่วยเหลือพวกคุณได้อย่างแน่นอนครับ ”
“ ขอบคุณมากๆ ครับ ”
“ งั้นผมขอตัวเลยดีกว่าครับ คุณจะได้ไปดูผู้ป่วย ”
“ ขอบคุณครับ ”
หมายเหตุ...ขอขอบคุณคุณพี่ตำรวจใจดีไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ไม่ได้พี่มีหวังไอ้สองตัวนี้ป่านนี้คงได้สามีใหม่สมใจไปแล้ววววววว
ส่วนผมหรือครับหลังจากที่ถูกเข็นเตียงเข้าไปเจอหมอหนุ่มและเหล่าพยาบาลสาวๆ แล้วก็โดนสอบถามถึงเรื่องอาการอีกเล็กน้อยก่อนที่หมอจะตรวจร่างกายแล้วบอกให้เหล่าพยาบาลเอาผมไปเปลี่ยนชุดและเตรียมแอดมิด....
เมื่อยๆ มือแล้วอ่ะ
ไม่เอาแล้วไม่เขียนแล้ว
เค้าง่วงแล้วอ่ะ
ไปนอนดีกว่า