๒๖http://media.imeem.com/m/4T9X6Y5KBe/aus=false/cha cha um!
besame besame mucho
each time i bring u kiss i hear music devine
so besame besame mucho
i love you forever say that youll always be mine
cha cha um
dearest one if you should leave me
then each little dream will take wings and my life will be through
so besame besame mucho
oo love me forever make all my dreams come true
oooo
this joy is something new my arms are holding u
never knew this thrill before
whod ever thought id be holding you close to me
whispering its you i adore
yes o so
dearest one if you should leave me
than each little dream will take wings and my life will be through
so besame besame mucho
i love you forever make all my dreams come trueoooo
this joy is something new my arms are holding u
never knew this the thrill before
whod ever thought id be holding you close to me
whispering its you i adore
o so
dearest one if you should leave me
then each little dream will take wings and my life will be through
so besame besame mucho
oo love you forever make all my dreams come true
oo love you forever make all my dreams come trueภู มองดู ตั้ม ที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีเล็กๆนั้นอย่างสนุกสนาน ร่างกายที่ขยับเต้นไปมาเข้ากับจังหวะ เนื้อเพลงฟังดูไม่ยากนักที่เขาจะเข้าใจความหมายของมัน แต่คำวา เบซาเม มูโช นี่สิ เขาไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่ท่าทางขณะที่ ตั้ม ร้องเนื้อเพลงคำนี้ในครั้งสุดท้าย ตั้ม เอามือแตะที่ริมฝีปากตนเอง แล้วทำท่าเหมือนจะส่งจูบขึ้นไปบนอากาศ และก่อนที่เพลงจะจบลง เขามองเห็นคนที่ชื่อ บุ๋ม กระซิบอะไรบางอย่างกับ เล่ ซึ่งกำลังเล่นเปียนโนไฟฟ้าอยู่
“ขอบคุณเพื่อนๆมากครับ แต่เดี๋ยวนะ อย่าเพิ่งรีบไปไหน” เล่ พูดขึ้นขณะที่นักแสดงรับเชิญจะลงจากเวที “ผมขออีกเพลงนึงเหอะ ทีแรกคิดว่าพี่ตั้ม เค้าจะร้องเพลงช้าๆ นี่เล่นเดอะบีทเทิลเลย” เสียงพูดถูกขัดจังหวะ ด้วยเสียงเป่าปาก และสียงตบมือ “แบบนี้ต้องแถมอีกเพลงแล้ว มาที่เปียนโนเลยพี่ มาๆๆ” เล่ เดินไปดึงตัว ตั้ม ให้มานั่งลงที่เปียนโนไฟฟ้า “เดี๋ยวพี่เค้าจะเล่นไปร้องไปด้วย ดีมั๊ยครับพวกเรา” เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ตั้ม ยิ้มแล้วกลั้นหัวเราะไว้ พลางนึกขัน ที่พวกนี้ขยันหาเรื่องกับเขาจริงๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกัน จนตอนนี้ต่างคนทำงานทำการแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม คิดอยู่สักครู่หนึ่ง ก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง พลางเหลือบสายตาไปมองคนที่มาด้วยกัน ด้วยสายตาที่เจือไปด้วยความอ่อนหวาน
“อีแฟลต แล้วไป จี นะ” ตั้ม หันไปบอก เพื่อนๆ แล้วจึงเริ่มพรมนิ้วไปตามคีย์บอร์ดของเปียนโน แล้วเริ่มร้องเพลงออกมาช้าๆ
http://media.imeem.com/m/0otlX0ojMq/aus=false/ทำนองเพลงเพลงที่อ่อนหวาน น้ำเสียงที่อ่อนโยน ภู ฟังพลางจ้องมอง ตั้ม อย่างไม่วางตา เมื่อจบเพลง ตั้ม ยกมือขึ้นลูบสายสร้อยที่คล้องอยู่บนลำคอ พลางอมยิ้มด้วยสีหน้ามีความสุข
.........................................................................................
..........................................
“ตั้ม เบซาเม มูโช แปลว่าอะไรน่ะ”
เสียงที่ได้ยิน ทำให้ ตั้ม เงยหน้าขึ้นมาจากแผงอกอันอบอุ่น พลางยันแขนเลื่อนตัวขึ้นเล็กน้อย ยิ้มให้คนที่ครึ่งนั่งครึ่งนอน อยู่บนเตียง แสงไฟอ่อนๆจากโคมไฟกิ่ง ทำให้มองเห็นใบหน้าที่มองมองอย่างอ่อนโยน
“เบซาเม มูโช”
ตั้ม พูดเบาๆ แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปหาใบหน้าของ ภู พลางหลับตาพริ้ม ก่อนที่ริมฝีปากจะพบกัน ตั้ม กลับหยุดนิ่งอยู่แค่นั้น ภู จึงยกมือขึ้นวางไว้ที่ท้ายทอยของ ตั้ม แล้วกดเบาๆให้ใบหน้านั้นแนบลงมา จนริมฝีปากทั้งสองประกบกันแนบแน่น สักครู่ ตั้ม จึงถอนริมฝีปากออกมา
“เบซาเม มูโช” ตั้ม พูดอีกครั้งหนึ่ง พลางมอง ภู ด้วยสายตาที่อ่อนโยน
“แปลว่า ต่อกันอีกยกเหรอ” ภู พูดด้วยดวงตาแวววาว ทำเอา ตั้ม หัวเราะคิก
“บ้าดิ เบซาเม มูโช แปลว่า จูบฉันอีก ตะหาก”
ภู ฟังแล้วยิ้ม พลางยื่นหน้าเข้าไปประกบปากกับคนตรงหน้าอีกครั้ง จูบคราวนี้ดูดดื่ม รุนแรง และเนิ่นนานกว่าเมื่อครู่
“สงสัยแค่จูบไม่ได้แล้วหล่ะ” ภู พูดเบาๆ พลางเริ่มใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายของ ตั้ม
ร่างบางแนบศรีษะลงกับไหล่กว้าง จูบเบาๆที่คางของ ภู แล้วแนบหน้าผากไว้กับคางสาก สักพักร่างบางก็ถูกพลิกให้นอนลง แล้วร่างหนาหนักก็ทางทับลงมา พร้อมกับริมฝีปากชื้นที่เริ่มรุกรานอยู่ที่หน้าอก ร่างบางสั่นสะท้านน้อยๆตามความรู้สึกที่ได้รับ สองแขนเริ่มกอดกระหวัดร่างหนาอย่างหลวมๆ มือใหญ่เอื้อมขึ้นมาลูบไล้ตามต้นคอ ตั้ม อดไม่ได้ ที่จะกุมมือนั้นขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วนำมาวางไว้ที่แก้มของตัวเอง ความอบอุ่น และความเสียวซ่านกระจายไปจนทั่วร่าง สักพักก็เริ่มรู้สึกถึงการรุกราน ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน ร่างหนาโน้มตัวลงมาแนบกับร่างบางเบื้องล่าง ริมฝีปากตามลงมาไล้เวียนอยู่ที่ซอกคอ เลื่อนขึ้นมาที่แก้ม แล้วกระซิบแผ่วเบา
“ยังไม่รักเราก็ไม่เป็นไรนะ เราจะรอ” ภู พูดแล้วไล้ริมฝีปากเวียนขึ้นไปบนหน้าผาก
“ให้เวลาเราอีกหน่อยนะ ตัวเราเป็นของนายแล้ว ให้เวลาหัวใจเราอีกนิดนะ” ตั้ม พูดพลางหอบหายใจ พลางโอบกระชับร่างหนาแนบแน่น บทประสานแห่งท่วงทำนองของสัมพันธ์ เริ่มบรรเลงอย่างช้าๆ แล้วเริ่มเร่งกระชั้นจนถึงความหมาย
ขณะนี้ กายสองกายผูกพันกันแนบแน่น ร่วมกันบรรเลงบทเพลงแห่งความสัมพันธ์
อีกไม่นาน ใจสองใจคงจะร่วมกันบรรเลงบทเพลงที่สมบูรณ์
... บทเพลงแห่งความรักอันงดงาม ...