CHAPTER 22-1 ❋ จุดสมดุลความรักCHAPTER 22-2 ❋ เปิดตัวครั้งแรก ✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿CHAPTER 22-1 ❋ จุดสมดุลความรัก
ใครเคยมีคนรักเก่ากลับมาหาบ้าง? ความรู้สึกที่ได้เห็นคนที่เคยรักมากๆ กลับมาเป็นแบบไหน? จะว่าไปก็น่าแปลก ช่วงชีวิตหนึ่งเราเคยสนิทสนมและใกล้ชิดกัน ดูเหมือนจะขาดกันไม่ได้ แต่จู่ๆ โชคชะตาก็พาใครคนนั้นจากไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด วันนี้เราก็คือคนแปลกหน้ากันไปแล้ว
ความรู้สึกเก่าๆ เหล่านั้นหายไปไหน? อะไรหรือที่ทำให้สิ่งต่างๆ ไม่เหมือนเดิม? เล็กเคยคิดว่าเป็นเรื่องของเวลา แต่ตอนนี้ไม่ใช่ สิ่งที่มีพลังมากที่สุดไม่ใช่เวลา แต่...
มันเป็นเรื่องของการเลือกต่างหาก!
รินเปลี่ยนไปมากพอสมควร ก่อนหน้านี้เธอดูสดใสมีชีวิตชีวา เป็นหญิงสาวที่ดูมีความสุขกับชีวิต น่ารักน่าทะนุถนอม มีเสน่ห์น่าหลงใหลเสียจนเล็กแทบถอนตัวไม่ขึ้น เสียใจฟูมฟายจนแทบเสียสติเมื่อรู้ว่าเธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์ของเขากับเธอไว้ข้างหลัง
มาบัดนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ช่วงที่เธอจากไปคงมีเหตุการณ์หลายอย่าง เปลี่ยนแปลงหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยสดใสให้ดูเป็นคนที่กร้านโลก นี่คือความโหดร้ายอย่างหนึ่งของเวลาและการเลือก
"ปีแรก รินก็ไปอยู่ที่บ้านเขาเลย พ่อแม่ญาติพี่น้องของเขาไม่ค่อยชอบรินเท่าไหร่ พวกเขาคอยกีดกันริน หาทางทำให้รินเลิกกับพี่เขาให้ได้ ใส่ร้ายรินต่างๆ นาๆ แต่ตอนนั้นพี่เขายังคอยปกป้องรินอยู่ รินถึงอยู่ได้อีกหลายปี แต่เมื่อไม่นานนี้ พี่เขาไปชอบผู้หญิงอื่น เป็นลูกน้องในบริษัทเขานั่นแหละ ทีนี้ นอกจากเขาจะไม่ปกป้องรินแล้ว เขายังช่วยพ่อกับแม่ขับไสไล่ส่งรินออกจากบ้านอีก วันนี้รินทนไม่ไหว เพราะเขาเอาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ในบ้านแทน รินถึงต้องขนเสื้อผ้าหนีออกมา รินไม่รู้จะไปหาใครแล้ว นึกถึงแต่พี่เล็กคนเดียว" เจ้าของเรื่องเศร้าเล่าไปร้องไห้ไป
เล็กฟังจบก็ถอนหายใจ เขาสงสารเธออยู่หรอก แต่เล็กไม่ได้รักเธอแล้ว เมื่อก่อนเคยคิดจะตัดพ้อต่อว่าว่าทำผิดอะไรถึงต้องทิ้งกัน แต่ตอนนี้ วันเวลาได้เยียวยาหัวใจของเล็กจนหายดี ไม่มีความห่วงอารณ์ใดๆ อีก ถึงกระนั้น ถ้าเธอเดือดร้อนเขาก็คงไม่ใจจืดใจดำ อย่างน้อยก็พอช่วยได้ในฐานะคนเคยรู้จักกัน
"พี่เล็ก...รินขอโทษนะคะ ขอโทษที่ทิ้งพี่เล็กไป ตอนนี้...รินรู้แล้วว่ารินคิดผิด รินเลือกเงิน รินอยากสบาย แต่สุดท้ายรินก็ไม่เหลืออะไรเลย เพราะเงินก็เป็นของเขา ไม่ใช่ของริน เขาไม่ให้รินมาแม้แต่บาทเดียว รินมีแค่เงินเก็บนิดๆ หน่อยๆ ของรินติดตัวมาด้วย"
สิ้นเสียงพูดรินก็สะอื้นให้อีกระลอก เธอเห็นหน้าอดีตแฟนหนุ่มแล้วก็ใจหาย เพราะเล็กไม่ได้มองเธอด้วยสายตาที่ลุ่มหลงเหมือนเมื่อก่อน เธอจะโทษใครได้เพราะเลือกที่จะทำให้เป็นอย่างนี้เอง
"แล้วตอนนี้พี่เล็กเป็นไงบ้าง รินยังตามข่าวพี่เล็กอยู่เรื่อยๆ นะคะ แต่หลังๆ รินเครียดๆ ก็เลยไม่ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่ ตอนนี้งานแสดงของพี่เล็กเป็นไงบ้างคะ" รินยังมีแก่ใจถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
"พี่ก็เป็นพระเอกตกอับเหมือนเดิมของพี่นั่นแหละ ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่หรอก" เล็กแค่นหัวเราะ แม้ไม่ถึงกับตั้งใจพูดกระทบ แต่คนฟังก็หน้าชาไปพอสมควร
"อ้อ...อย่างงั้นเหรอคะ แล้ว...พี่เล็กมีแฟนใหม่หรือยังคะ" รินถามอย่างไม่แน่ใจ
ไม่รู้ว่าคนถามมีเจตนาอะไร แต่ถ้าถามเพื่อหาช่องจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม มันคงสายไปแล้ว วันที่เล็กเคยต้องการให้เธอกลับมา เธอกลับไม่สนใจใยดีผู้ชายคนนี้เลย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเล็กขอร้องอ้อนวอน เจ็บปวดแทบปางตาย
เล็กพยักหน้ายิ้มๆ "มีแล้ว ก็เพิ่งกลับไปเมื่อกี้ตอนที่รินมานั่นแหละ"
รินหน้าเจื่อนเล็กน้อย เธอเข้าใจว่าเล็กหมายถึงน้ำฝน "อ๋อ...ผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ"
"เปล่า...ไม่ใช่ผู้หญิง" เล็กขัดขึ้น
"ไม่ใช่ผู้หญิง" รินทวนคำ ทำหน้าฉงน "แล้วเป็นอะไรล่ะคะ"
"ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง ก็ต้องเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับผู้หญิงสิ" เล็กช่วยแย้มให้
"พี่เล็กหมายถึง...ผู้ชายเหรอคะ" รินทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็หน้าเสียไปพอสมควรแล้ว
เล็กพยักหน้า "ใช่ คนเมื่อกี้ไง"
"อะไรนะคะพี่เล็ก เดี๋ยวนี้พี่...พี่เปลี่ยนมาชอบผู้ชายแล้วเหรอคะ" รินตกใจ
แม้ไม่อยากอาฆาตแค้น แต่เล็กก็แอบสะใจเล็กน้อย "ใช่ ก็ในเมื่อชอบผู้หญิงแล้วเป็นแบบนี้ พี่ก็ชอบผู้ชายดีกว่า"
รินทำหน้าเหลอหลา ความหวังที่เธอจะขอกลับมาคืนดีกับเล็กพังครืนลงในพริบตา นับว่าเป็นเรื่องที่ช็อคหัวใจเธอไม่น้อย ไม่คิดฝันมาก่อนว่าเล็กจะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ สงสัยความผิดหวังครั้งนั้นคงทำให้เล็กเข็ดขยาดผู้หญิง ในที่สุดก็เปลี่ยนขั้วมาหาผู้ชาย
"ค่ะ" รินรับคำสั้นๆ สีหน้าบอกยากว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
"ริน...เมื่อกี้แฟนพี่เขาน่าจะเข้าใจผิดเรื่องพี่กับรินนะ พี่รักแฟนพี่คนนี้มาก พี่คงต้องคุยกับเขาคืนนี้ รินคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าพี่จะขอให้ริน...ไปพักข้างนอก แถวๆ นี้มีอพาร์ทเมนท์ที่มีห้องเช่ารายวันอยู่ พี่จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้รินละกัน อีกอย่าง...ถ้ารินไม่รู้จะไปไหน รินกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเถอะ ยังไงๆ พ่อกับแม่เขาก็ไม่ทิ้งรินหรอก รินกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ให้สบายใจก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป พี่ช่วยให้คำแนะนำรินได้เท่านี้ แล้วก็คงจะช่วยรินได้เท่านี้จริงๆ รินคงเข้าใจพี่นะ ทั้งหมดที่แล้วมาพี่ให้อภัยรินทุกอย่าง พี่ไม่ติดค้างอะไรกับรินอีกแล้ว พี่ลืมไปหมดแล้วทุกอย่าง รูปนี้...พี่เก็บไว้ติดตัวเสมอ เพื่อเตือนใจพี่เองว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดอะไรขึ้นกับพี่บ้าง เห็นทีไร พี่ก็จะนึกถึงความเจ็บปวดตอนนั้นจนพี่ไม่กล้ารักใครอีกเลย แต่ตอนนี้...พี่ไม่จำเป็นต้องเตือนใจตัวเองเรื่องนี้อีกแล้ว พี่คืนมันให้รินละกันนะ"
ว่าแล้วเล็กก็หยิบรูปในกระเป๋าสตางค์ส่งคืนให้รินไป รินรับไปพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไม่น่าเชื่อเลยว่าเล็กจะตัดบัวไม่เหลือใยกับเธอเลย แต่มันก็สาสมกับสิ่งที่เธอเคยทำไว้กับเล็ก
"เดี๋ยวพี่จะพารินไปพักที่อพาร์ทเมนท์ใกล้ๆ ตรงนี้ละกัน พี่ขอโทษจริงๆ พี่กับแฟนต้องเคลียร์ความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด คงไม่สะดวกให้รินอยู่ที่นี่คืนนี้ รินคงไม่ว่าอะไรพี่นะ รินจะอยู่สักสองสามวันก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับบ้าน"
รินได้แต่ทอดถอนใจ เธอคงต้องยอมรับสภาพว่าเล็กหมดใจให้เธอแล้ว หมดแล้วจริงๆ รินจึงได้แต่พยักหน้าและยอมรับในชะตากรรมนั้น
ของทุกอย่าง ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษามันก็เก่า ความรักก็ไม่พ้นวิสัยนั้นไปได้
"กว่าคนเราจะรู้ว่าชีวิตสอนอะไรกับเรา อาจต้องรอจนวินาทีสุดท้าย รอจนถึงเวลาที่เราไกล้หมดลมหายใจ เราทุกคนก็รู้กันดีว่าการป้องกันดีกว่าการรักษา แต่พอเอาเข้าจริงก็เลือกความสุขความสบายมากกว่าการดูแลตัวเอง เพราะคิดว่า...ไม่เป็นไรหรอก พอเกิดขึ้นจริงก็พร่ำบ่นโทษโชคชะตา ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้กับเรา หนักกว่านั้น บางคนบอกว่าช่างมันเถอะ ใช้ชีวิตให้มีความสุขก่อนเดี๋ยวก็ตายแล้ว ถ้าคนเรามันตายไปง่ายๆ ก็ดีอยู่หรอก เพราะถึงตอนนั้น มันไม่ได้หลับไปสบายๆ แน่นอน อันนี้ผมยืนยันได้ เพราะเคยผ่านวินาทีนั้นมาแล้วสองครั้งสองครา แล้วคนข้างหลังคุณล่ะ ทุกคนมีคนที่เรารักและคนที่รักเรา เคยนึกถึงคนเหล่านั้นบ้างหรือเปล่า"
"กว่าจะเกิดมาได้ไม่ใช่ง่าย กว่าจะมีร่างกายนี้มา เราผ่านความรัก ความเอาใจใส่และความทะนุถนอมของผู้ให้กำเนิด แต่เรากลับใช้มันโดยไม่เคยถนอม ปล่อยให้ผุพังไป แล้วก็อ้างว่า ยุ่ง ไม่มีเวลา แม้กระทั่ง...ไม่มีเงิน แต่ที่จริงมีทั้งเวลาและเงินที่ใช้ไปเพื่อความสุขชั่วคราว แต่ทำร้ายตัวเอง คุณรู้ไหมครับ การป้องกันกำหนดมูลค่าได้ แต่เราไม่มีทางกำหนดมูลค่าการรักษาได้เลย ผมเคยรักษาตัวครั้งใหญ่ ครั้งแรกรอดมาได้เพราะย้ายไปโรงบาลเอกชน แต่ค่าใช้จ่ายก็แตะเจ็ดหลัก ครั้งที่สองได้โรงบาลรัฐ จ่ายไม่ถึงครึ่งล้าน เหมือนกับที่ อ. เหวิน สอนไว้ว่า...สุขภาพดีมิได้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง แต่หากขาดสุขภาพที่ดี เท่ากับสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เงินทองมากมายซื้อสุขภาพที่ดีไม่ได้ แต่สุขภาพที่ดีจะทำให้หาเงินหาทองได้มากมาย เพราะคนเราในวัยหนุ่มสาวมักใช้สุขภาพแลกกับความมั่งคั่ง ยามแก่เฒ่าจึงใช้ความมั่งคั่งแลกสุขภาพ"
"แต่ก็น่าดีใจครับ ช่วงนี้คนเริ่มเห็นความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น หลายคนหาทางออกเพื่อหลีกหนีจากความน่ากลัวนี้ ก็เลยมีกูรูหรือกูรู้มากมายเกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ท โลกโซเชียล มากมายจนเลือกไม่ถูกกันเลย กลายเป็นภัยแบบใหม่สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจะไปวิจารณ์ใคร ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าใช้ชีวิตตามข้อคิดเห็น ถ้าอยากรู้เรื่องอะไรก็ต้องมาจากคนที่รู้จริงเท่านั้น ชีวิตต้องมีโค้ชบอกทางฉันใด จะเลือกถูกต้องมีที่ปรึกษาที่รู้จริงฉันนั้น..."
เสียงนักธุรกิจคนหนึ่งแรลลี่เรื่องสุขภาพดังไปทั่วห้องชั้นล่าง เล็กเปิดฟังซีดีคนสำเร็จฟังไปพลางๆ ระหว่างรอให้เจมาเอาของที่ลืมไว้ เล็กจะพยายามฟังซีดีให้ได้ทุกวัน ไปเซ็นเตอร์ทุกอาทิตย์ เพื่อรักษาแรงเหวี่ยงของการคิดบวกไม่ให้ตก
หลังกลับจากไปส่งรินแล้ว เล็กเอากระเป๋าของเจที่ลืมไว้บนห้องมาวางไว้บนโต๊ะข้างล่าง ในนั้นมีทั้งโทรศัพท์ ไอแพ็ด กระเป๋าสตางค์และเอกสารสำคัญสองสามอย่าง ลืมของสำคัญอย่างนี้ เจคงต้องกลับมาเอา ไม่อย่างนั้นชีวิตที่ไร้เครื่องมือติดต่อสื่อสารคงลำบาก เผลอๆ จะเสียงานเสียการไปหมด
ตอนแรกเล็กว่าจะส่งไลน์ไปหา แต่เครื่องมือสื่อสารของเจทุกอย่างอยู่ที่นี่หมด จึงไม่รู้จะติดต่ออย่างไร เบอร์บ้านก็ไม่ได้ขอไว้ จึงต้องนั่งรอให้เจกลับมาเอาเองเท่านั้น ดีที่ได้ฟังซีดีเป็นเพื่อนไปด้วย ไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
ฟังซีดีคนสำเร็จจบไปหลายแผ่นแล้วเจก็ยังไม่มา เล็กจึงปิดและนั่งรอคอยคนรักอย่างหงอยเหงา ชะเง้อแล้วชะเง้ออีก แต่ไม่เห็นคนที่คิดถึงโผล่มาเสียที หรือว่าเจจะตัดใจไม่มาเอาของวันนี้ ยอมอยู่โดยที่ติดต่อใครไม่ได้เพราะไม่อยากมาเจอหน้าเล็ก ตอนนี้ดาวน์ไลน์และใครต่อใครส่งข้อความมาหาเจเต็มไปหมดเลย โทรศัพท์ก็ดังอยู่เป็นระยะๆ เล็กตัดใจไม่รับและปล่อยให้ดังจนหยุดไปเองหลายรอบ หิวข้าวก็หิว ในครัวไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยเพราะอาหารที่ตุนไว้เพิ่งหมด
สามทุ่มกว่าแล้ว เล็กนั่งรออยู่นานจนรู้สึกปวดฉี่ จึงแวบไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ เสียงกริ่งหน้าบ้านพลันดังขึ้น ขัดจังหวะความสุขเล็กๆ น้อยๆ ทว่ามีความสำคัญมาก เล็กต้องรีบจัดการธุระตามเสียงเรียกร้องของธรรมชาติแทบแย่ ไม่รู้ว่าเจมาหรือเปล่า แต่ถ้าช้าไปจะเสียโอกาส เจอาจนึกว่าไม่มีคนอยู่ก็ได้ คราวนี้คนใจน้อยอาจจะหนีกลับบ้าน
เสร็จจากห้องน้ำเล็กก็รีบวิ่งออกมาดูหน้าบ้าน ไม่มีแสงไฟรถยนต์ของเจอย่างเคย พอเพ่งมองดีๆ จึงเห็นเงาตะคุ่มๆ ของใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างประตูเล็ก ดูจากลักษณะท่าทางจึงพบว่าเป็นคนที่เล็กกำลังรอคอยอยู่นั่นเอง
"คุณเจ" เล็กเรียกด้วยความดีใจ รีบเปิดประตูให้มือไม้สั่น "คุณเจมายังไงครับ"
"แท็กซี่ครับ" เจตอบสั้นๆ
พอเข้ามาในบริเวณบ้าน เจก็ทำท่าเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง
"แล้วทำไมไม่เอารถมาล่ะครับ" เล็กถามด้วยความสงสัยขณะปิดประตูเล็ก
"อ๋อ...ผมรู้สึกเหนื่อยๆ ก็เลยไม่อยากขับเอง มาแท็กซี่ดีกว่า" เจตอบเสียงเรียบ "พอดี...ผมลืมของไว้บนห้อง ขอขึ้นไปเอาของแป๊บนึงนะครับ แล้วก็จะกลับเลย ไม่รบกวนเวลานานหรอกครับ" น้ำเสียงที่พูดฟังดูห่างเหิน คนฟังใจเสียไม่น้อย
ว่าแล้วเจก็เดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้าน ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมใดๆ เล็กรีบเดินตามมาทันที แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เจเดินขึ้นไปบนห้องนอนของเล็กอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตามไป เล็กจึงเดินไปหยิบกระเป๋าของเจบนโต๊ะในบ้านออกมา ก่อนวางลงบนโต๊ะหน้าบ้านและนั่งคอยเจอยู่ตรงนั้น
ไม่นานเจก็เดินหน้าตาตื่นลงมา คงเป็นเพราะหาของที่ต้องการไม่เจอนั่นเอง
"อยู่นี่ครับคุณเจ" เล็กบอกพลางชูกระเป๋าที่เจลืมไว้ให้เจดู"ผมจะบอกคุณเจแล้วแต่ไม่ทัน"
เจทำท่าโล่งอก ก่อนเดินมารับกระเป๋าที่ลืมไว้จากเล็กไป "ขอบคุณครับ"
เจรับของไปแล้วก็ยืนหันรีหันขวาง จะกลับเลยก็กระไรอยู่เพราะเพิ่งมาถึง จะอยู่ต่อก็กลัวจะมาขัดความสุขของเล็กกับแฟนเก่า แม้ว่าอยากรู้แต่ก็ปากหนัก ไม่กล้าถามว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปไหนเสียแล้ว
"เอ่อ...ผมกลับแล้วนะครับ" เจทำหน้ายิ้มยาก มีความรู้สึกหลายอย่าง
บอกไปแล้วเจก็ชักไม่สบายใจ เล็กเองก็ยืนหน้าเศร้าเหมือนไม่อยากให้ไป แต่ภาพที่เพิ่งเห็นไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วก็ยังติดตา ที่จริงก็ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ด้วยซ้ำ แฟนเก่าคงอยากรื้อฟื้นความหลังกัน จะอยู่เป็นก้างขวางคอไปทำไม
เล็กอยากจะร้องห้ามแต่ก็ปากหนักอีกเหมือนกัน จนกระทั่งเจ้าของร่างสูงโปร่งค่อยๆ สาวเท้าเดินออกไป เล็กจึงเปลี่ยนใจสาวเท้าเดินตามไปจนถึงตัวของคนขี้ใจน้อย ก่อนสวมกอดจากทางด้านหลังไว้เบาๆ ซุกหน้าลงบนไหล่กว้าง
"คุณเจ อย่าไปเลยนะครับ อยู่กับผมนะครับคืนนี้"
เจหยดชะงักกับที่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงอ้อนวอนฟังดูน่าสงสาร หรือว่าที่จริงไม่อยากกลับไปกันแน่
"จะให้ผมอยู่เป็นก้างขวางคอคุณเล็กทำไมล่ะครับ" น้ำเสียงของเจฟังเหมือนประชด
"โธ่คุณเจ ใครว่าคุณเจเป็นก้างล่ะครับ คุณเจไม่เห็นเหรอว่าไม่มีใครอยู่แล้ว มีผมอยู่บ้านคนเดียว เหงาก็เหงา หิวข้าวก็หิว แฟนก็ไม่อยู่" เล็กทำเสียงอ้อน
"จะอยู่คนเดียวได้ไง เมื่อตอนเย็นๆ ผมก็เห็นอยู่ กอดกันกลมเชียว"
"คุณเจหึงเหรอ" เล็กแกล้งถาม
"เปล่า" เจขึ้นเสียงสูง "หึงทำไมล่ะครับ คนมาทีหลังไม่มีสิทธิ์หึงอยู่แล้ว"
"อ้าว แต่มาทีหลังไม่ได้แปลว่าเสียเปรียบคนมาก่อนนะครับ ผมไม่ได้รักใครเพราะมาก่อนมาหลังซะหน่อย"
คราวนี้เจเงียบ สีหน้าที่เคยเรียบเฉยก็เผยรอยยิ้มน้อยๆ
"แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าคนมาก่อนหรือมาหลังได้เปรียบล่ะ" เจย้อนถาม
เล็กแอบยิ้ม ก่อนปล่อยคนขี้น้อยใจออกจากอ้อมแขน เจ้าตัวคงอยากสนทนาด้วยแล้ว ไม่น่าจะวิ่งหนีไปไหนอีก ส่วนเจเมื่อเป็นอิสระแล้วก็สอดส่ายสายตาเหมือนมองหาใครอีก
"แล้วเขาไปไหนล่ะ" เจถาม
"ใครล่ะครับ"
"อ้าว ก็แฟนเก่าคุณเล็กไง เขาไปไหนซะล่ะ"
"คุณเจรู้ได้ไงครับว่าเขาเป็นแฟนเก่าผม" เล็กทำหน้าฉงน จำได้ว่าไม่เคยเอารูปแฟนเก่าให้เจดูเลย ทำไมเจถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่าของเล็กได้
เจทำหน้าเลิ่กลั่ก แม้ว่าจะเป็นความบังเอิญที่ทำให้รู้ แต่คงไม่กล้าบอกตรงๆ ว่ารู้ได้อย่างไร "อ๋อ...เอ่อ...เอาเป็นว่าผมรู้ละกันครับ ก็ผมได้ยินเขาพูดกับคุณเล็กว่าเป็นคนเคยรักกัน ก็น่าจะเป็นแฟนเก่าไม่ใช่เหรอครับ"
"อ๋อ..." เล็กขำเบาๆ ไม่นึกว่าเจจะได้ยินประโยคนั้นด้วย "เขาไปแล้วครับ ผมให้เขาไปพักที่อพาร์ทเมนท์แถวๆ นี้ จะได้ไม่รบกวนเวลาเคลียร์ปัญหาคาใจระหว่างผมกับแฟนใหม่ไงครับ" เล็กเน้นคำว่าแฟนใหม่ชัดๆ
เจทำท่าจะยิ้มก็รีบเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย คงกลัวเสียฟอร์ม "ใครเหรอครับ แฟนใหม่คุณเล็ก" เจทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"งั้นคุณเจหลับตาสิครับ"
เจเลิกคิ้ว"ทำไมต้องหลับตาด้วยล่ะครับ"
"น่า...หลับตาหน่อยนะครับคุณเจ ถ้าคุณเจอยากรู้ว่าใครเป็นแฟนใหม่ของคุณเจ คุณเจต้องหลับตาครับ"
เจลังเลพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบวินาทีก็เริ่มอึดอัดและอยากรู้
"ผมลืมตาได้ยังครับคุณเล็ก"
"อีกแป๊บเดียวครับ อย่าแอบดูนะ" เล็กกำชับ พร้อมแล้วจึงบอกเจอีกครั้ง "ลืมตาได้เลยครับคุณเจ"
เจค่อยๆ ลืมตาตามที่เล็กบอก คนแรกที่ปรากฎตรงหน้าคือเล็ก ยืนห่างไปราวสามสี่เมตร ถือกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ระดับอก มีข้อความขยุกขยิกเขียนไว้ด้วย แต่เจอ่านไม่ถนัดเพราะเขียนด้วยเส้นปากกาบางๆ แถมแสงไฟฟ้าที่มีก็ยังไม่พอให้อ่านได้อีก
"อ่านไม่ออกน่ะครับ" เจบอก
"ทำไงถึงจะอ่านออกล่ะครับ" เล็กยิ้มเจ้าเล่ห์
เจยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเล็ก ก่อนก้มและเพ่งสายตาอ่านข้อความที่เล็กเขียนไว้บนกระดาษแผ่นนั้น ข้อความนั้นเขียนไว้ว่า...
"ใครตามมาอ่าน คนนั้นเป็นแฟนปัจจุบันของผม"
เจถึงกับผงะ ก่อนยืนตัวตรง ยิ้มเขินเพราะเสียรู้ ส่วนเล็กหัวเราะชอบใจเบาๆ
"รู้ยังครับ ว่าแฟนคนปัจจุบันของผมคือใคร" เล็กยักคิ้ว ยิ้มยียวน จ้องตาเจไม่วางตา
เจหันไปมองทางอื่น จากนั้นก็หัวเราะกับตัวเองในลำคอ ส่ายหน้าไปมา พอหันกลับมาอีกครั้งก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ถ้าไม่รู้...ก็บ้าแล้ว"
สองแขนของเจรวบเล็กเข้าไปกอดอย่างรักใคร่ เล็กกอดตอบด้วยความดีใจ ในที่สุดก็ง้อแฟนคนปัจจุบันได้สำเร็จเสียที
"ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้แฟนปัจจุบันอยู่เหงาๆ คนเดียว แถมยังไม่ได้กินข้าวอีก ผมนี่แย่จังเลย" เจตำหนิตัวเอง แต่ฟังดูไม่จริงจังนัก "เข้าบ้านเราดีกว่าครับ"
"บ้านเรา" เล็กทวนอย่างไม่แน่ใจ
"ใช่ ก็บ้านเราไง หรือว่า...คุณเล็กไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่ ผมกลับก็ได้นะ"
เจทำท่าจะปล่อยอ้อมแขนออก เล็กรีบผวากอดไว้แน่น
"อย่าครับคุณเจ ใครบอกล่ะว่าผมไม่อยากให้คุณเจอยู่ที่นี่" เล็กทำเสียงออดอ้อน "ผมน่ะ นั่งรอคุณเจมาตั้งหลายชั่วโมง ฟังซีดีหมดไปหลายแผ่น ได้แนวคิดดีๆ ตั้งเยอะ"
เจหัวเราะชอบใจ คนยัวร์เวย์เห็นคุณค่าของเวลามาก ขนาดรอแฟนยังไม่ยอมปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
"อย่างนี้สิครับ ถึงจะเป็นแฟนคนยัวร์เวย์อย่างผมได้" เจสัพยอก ก่อนปล่อยเล็กออกจากอ้อมแขนและจ้องมองตากัน
เล็กยิ้มละไมให้กับคนตรงหน้า นึกดีใจที่วันนี้มีใครสักคนให้งอนง้อ หัวใจจึงกระชุ่มกระชวยราวกับปลากระดี่ได้น้ำ นานๆ ได้ทำอย่างนี้ก็รู้สึกดีไม่ใช่น้อย
"ผมมีอะไรอยากคุยกับคุณเจเยอะเลย อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ ผมไม่อยากนอนคนเดียวอีกแล้ว"
เจยิ้มแบบขำๆ "ถ้าผมปล่อยแฟนให้ผมนอนเหงาคนเดียว ผมก็คงเป็นแฟนที่แย่มากๆ ว่าแต่จะให้ผมกลับไปทำไมอีกล่ะครับ กลับไปก็นอนคนเดียวเปล่าๆ รู้ไหมว่าผมน่ะ...พอเจอแฟนคนปัจจุบัน ผมก็ไม่อยากนอนคนเดียวอีกเลย เข้าบ้านเราดีกว่าครับ...รักรออยู่"
"ครับ...อัปไลน์ที่รัก" เล็กส่งยิ้มให้ทั้งใบหน้า ส่งความหมายดีๆ ผ่านสายตาไปให้ด้วย ชีวิตที่แห้งแล้งเหมือนทะเลทรายของเล็กกลับฟื้นขึ้นมาแล้ว จากนี้ไป...ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนสำคัญที่สุดในช่วงชีวิตตอนนี้
เมื่อเทียบดูแล้ว ความรักครั้งนี้ดูพิเศษกว่าความรักครั้งไหนๆ ของทั้งสองคน ไม่ใช่เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะรักร้อนแรงอย่างหนุ่มสาว ไม่ใช่เพราะผูกพันกันมานานจนแก้ไม่ออก แต่เป็นเพราะมีความพอดีในหลายๆ อย่าง คล้ายกับชิงช้าที่ปลายสองข้างมีน้ำหนักเท่ากัน ความรักของเจกับเล็กก็อยู่ตรงจุดกลางพอดี
แม้ว่าจะแกว่งไปทางใดทางหนึ่งบ้างยามเจอปัญหา แต่สุดท้ายก็จะกลับมาอยู่ที่จุดสมดุลของมันTBC