✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿  (อ่าน 109839 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
1. ปัญหาของเล็กมีสะสมมานานแล้ว แค่ยัวร์เวมาทำให้ปัญหามันหนักขึ้นเท่านั้นเอง
2. พื้นฐานเจเป็นคนดีนะ คนหึงย่อมทำได้หลายอย่าง ซึ่งก็ไม่ผิดนะ เพราะตอนนั้นเจไม่ได้เห็นเล็กเป็นเพื่อน เห็นเป็นศัตรูซะด้วยซ้ำ

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 13 ❋ คนที่เล็กแอบชอบ


สิ่งที่สวยงามที่สุดบนท้องฟ้าก็คือดวงดาว
สิ่งที่สวยงามที่สุดบนโลกนี้ก็คือความรัก - อ. เหวิน


--- <+> --  <+> --- <+> -- <+>--- <+> -- <+> ---

กลับมาถึงบ้านแล้ว ใช่ว่าเรื่องของเจจะจบเพียงแค่เขากับน้ำฝนเลิกกันเท่านั้น พี่เจนเข้ามาบอกน้องชายทันทีที่มาถึงบ้านว่า "ป๊ากับม๊า" ต้องการคุยด้วย เจได้แต่หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องจะให้เจหมั้นกับน้ำฝน ต่อให้อยากหมั้นก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

เจขึ้นไปหาบุพการีทั้งสองท่านบนชั้นสอง เช่นเคย คนที่เริ่มเรื่องก่อนคือเป็นม๊าของเจ ส่วนป๊าก็มักจะเงียบขรึมตามปกติของท่านเวลามีป๊าอยู่

"วันนี้ม๊ากับป๊าไปป๊ากับม๊าฝน คุยเรื่องหมั้นของเราสองคนแล้ว ทางฝ่ายนั้นเขาตกลง ถ้าได้ฤกษ์แล้วก็หมั้นได้เลย"

เจมีสีหน้ายุ่งยากใจ "ป๊ากับม๊าน่าจะถามผมก่อนนะครับ"

"ก็เจไม่เคยว่างเลย ป๊ากับม๊ารอไม่ไหวแล้ว" ป๊าเริ่มใส่อารมณ์ในน้ำเสียง คนในบ้านเรียกเจว่าขนม ยกเว้นป๊าคนเดียวเท่านั้น

"โธ่ป๊า ผมยังไม่พร้อมนะครับ" เจขอความเห็นใจ

"อาเจ ลื้ออายุยี่สิบเจ็ดแล้ว จะรออะไรอีก รีบแต่งงานจะได้รีบสร้างครอบครัว" ป๊าแย้งกลับ จากนั้นก็พูดต่อ "เดี๋ยวป๊าจะให้ม๊าไปดูฤกษ์ให้ ทั้งฤกษ์งานหมั้นแล้วก็งานแต่ง ม๊าอยากให้เจชวนน้องไปด้วยกัน ลองถามน้องว่ามีวันว่างอาทิตย์หน้าสักวันไหม แล้วมาบอกป๊า"

เจกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ครอบครัวของเขากับน้ำฝนรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยป๊ากับม๊ายังหนุ่มๆ สาวๆ สนิทสนมกันมาก เจกับน้ำฝนจึงสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไปด้วย ทั้งสองคนถูกคาดหวังให้มาเป็นคู่ชีวิตกัน โชคดีตรงที่พอเจโตขึ้นก็รู้สึกชอบพอกับน้ำฝน จึงไม่ต้องเล่นบทคลุมถุงชนที่แสนจะโบราณให้เหนื่อย

"ม๊าครับ ป๊าครับ ผมคง...หมั้นกับน้องน้ำฝนไม่ได้แล้วล่ะครับ" เจโพล่งออกมา ป๊ากับม๊าตะลึงไปเลย

"ทำไมไม่ได้" ป๊าถามเสียงแข็ง บรรยากาศชักเริ่มมาคุ

"ผม...เพิ่งเลิกกับน้ำฝนครับ" เจสารภาพ

"อะไรนะขนม! ขนมกับน้ำฝนเลิกกันเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่" คราวนี้ม๊าเป็นฝ่ายถาม สีหน้าดูตกใจไม่น้อย

"วันนี้ครับ" เจบอก ก้มหน้ามองดูมือตัวเอง

"วันนี้" ป๊าถามย้ำ

"ครับ"

"ทำไม นี่แกไปทำอะไรให้น้องเขาเสียใจอีกล่ะ" ป๊าถามเสียงดุ

"ป๊าครับ ตั้งแต่ผมทำยัวร์เวย์ ป๊ากับม๊าก็รู้นี่ครับว่าเกิดอะไรขึ้น ฝนไม่เคยชอบที่ผมทำยัวร์เวย์เลย เขาอายเพื่อน ก่อนหน้านี้ที่ผมทำงานเป็นวิศวกรที่ระยอง เราไม่เคยมีปัญหากันเลย น้ำฝนดูจะภูมิใจด้วยซ้ำ แต่พอผมมาทำยัวร์เวย์ เขาก็ยอมรับไม่ได้ เขาไม่ยอมรับผม เราสองคนเข้ากันไม่ได้หรอกครับ แล้วที่สำคัญ ตอนนี้มันก็สายไปแล้ว"

ที่บ้านของเจรับรู้เรื่องนี้มาตลอด จึงไม่มีใครแปลกใจ การหมั้นจึงเป็นทางออกหนึ่งที่น่าจะแก้ปัญหา แต่ลองคนไม่รักกัน ช้างสารก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งไว้ได้

ป๊ากับม๊าทำหน้ายุ่งยากใจ ป๊าดูไม่สบอารมณ์ แต่ม๊ามีสีหน้าเห็นใจ "ทำไมขนมไม่ใจเย็นๆ ก่อนล่ะลูก"

"ม๊าครับ ผมพยายามใจเย็นมาตลอด ไม่ใช่ว่าผมอยากจะใส่ร้ายน้องเขานะครับ วันนี้ ฝนนัดให้ผมไปหาที่มหาลัย แล้วก็บอกเลิกผมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ฝนบอกว่าเขาไม่ได้รักผม ไม่เคยรักผมเลย เขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว" พูดถึงตรงนี้ เจก็นึกถึงดาวน์ไลน์ดาราตกอับของตัวเอง ความเป็นจริงช่างโหดร้ายเกินรับได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

"ใคร" ป๊าถามห้วนๆ

"ป๊ากับม๊าอย่ารู้เลยครับ เอาเป็นว่า...ฝนไม่ได้รักผมแล้ว"

คราวนี้ป๊ากับม๊าจะโทษเจอีกไม่ได้ เมื่อน้ำฝนเป็นคนบอกเลิก แถมยังไปรักคนอื่น จะซ้ำเติมลูกชายคนเดียวก็กระไรอยู่ ที่ผ่านมาเจทุ่มเททำเพื่ออนาคต เตรียมทุกอย่างไว้สร้างครอบครัวกับน้ำฝน แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

"เอางี้ละกัน เดี๋ยวม๊าช่วยคุยกับที่บ้านน้ำฝนให้ บางทีน้องเขาอาจจะวู่วามไม่ทันคิดก็ได้" ม๊าเสนอ

"อย่าเลยครับม๊า" เจรีบห้าม "ต่อให้ป๊ากับม๊าเกลี้ยกล่อมได้ แต่ฝนไม่ได้รักผมแล้ว อย่าบังคับน้องเขาเลยครับ" เจถอนหายใจแล้วทำท่าจะลุกขึ้น "ผมขอตัวนะครับ"

เจเดินออกไปโดยที่ยังไม่มีใครเอ่ยปากอนุญาต ปกติไม่ค่อยทำกิริยาแบบนี้กับป๊าม๊า แต่อารมณ์ของเจตอนนี้ไม่ปกติเลย แม้พยายามคิดบวกแต่ก็ยังไม่เป็นผล

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

ก่อนนอนคืนนี้ เจหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูเผื่อว่ามีดาวน์ไลน์ ลูกค้าหรือเพื่อนๆ ร่วมอาชีพส่งข้อความหรือข่าวมาให้อ่าน แม้เหนื่อยและท้อใจแค่ไหน แต่เจยังต้องเป็นที่พึ่งให้กับคนอื่นๆ ที่ไว้วางใจติดตามมา เล็กส่งข้อความหาด้วย มีหลายข้อความเลย แต่ละข้อความไม่ปะติดปะต่อกันนัก เหมือนนึกอะไรได้หรือว่างตอนไหนก็ส่งมา บางข้อความก็สั้น บางข้อความก็ยาวมาก แสดงว่าตั้งใจพิมพ์จริงๆ

"ขอบคุณที่มาส่งตั้งแต่เช้าครับอัปไลน์ ผมโชคดีจังที่มีอัปไลน์น่ารักและใจดีแบบนี้ วันนี้การแสดงผ่านไปได้ด้วยดีครับ ยากสุดก็มีฉากนั้นฉากเดียว 555"

"ช่วงนี้ผมคงไม่ได้ไปเซ็นเตอร์ด้วยนะครับ ต้องถ่ายละครอีกหลายวัน ข้ามวันข้ามคืนเลยครับ ขอโทษด้วย ต่อไปจะจัดเวลาให้ดีกว่านี้ จะไม่ขาดเซ็นเตอร์อีกครับ"

"ขอบคุณที่คุณเจสอนผมว่าถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในชีวิต เราต้องลงสู่จุดต่ำสุดก่อน เจ้าสัวเจริญยังต้องเข็นรถส่งสินค้าในตลาด ไม่มีคนสำเร็จคนไหนใส่สูทผูกไททำงานห้องแอร์ตั้งแต่เกิด วันนี้ช่วงพักเบรกผมสาธิตสินค้าง่ายๆ กับกลุ่มพี่ๆ เพื่อนๆ ในกองถ่ายด้วย ยังรู้สึกอายอยู่นิดๆ ผมเคยมองว่าคนพวกนี้ด้อยกว่าดาราอย่างผม แต่โชคดีวันนี้ผมเอาชนะความกลัวได้ อย่างที่คุณเจบอก ถ้าเราไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไง เราก็จะมีความกล้า อ้อ ผมได้ออเดอร์สินค้ามาเล็กๆ น้อยๆ ด้วย แต่ก็ดีใจที่ทำได้ครับ"

"ผมอยากสปอนเซอร์เปิดโอกาสให้คนมาทำธุรกิจกับผมบ้าง วันนี้ผมนั่งดูพี่ๆ ในกองถ่ายทำงานก็รู้สึกเป็นห่วงแทน พวกเขาเอาเวลาทั้งวันมาอยู่ที่นี่ ทำงานให้คนอื่นรวย ถ้าเกิดป่วยหรือทำงานไม่ไหวขึ้นมาก็คงแย่ ยิ่งทำงานหนักดึกดื่นแบบนี้สุขภาพก็ยิ่งเสื่อมไว เหมือนในบ้านมีไฟดวงเดียว ถ้าดับขึ้นมาก็ดับทั้งบ้าน แปลกนะ ก่อนผมไม่เคยห่วงคนอื่นเรื่องนี้เลย ผมอยากให้เขามีทางเลือกสำรองไว้เหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ อยากให้เขามีท่อน้ำ ไม่ใช่แค่ไปตักน้ำ ผมอยากช่วยให้เขามีทางเลือกอื่นด้วย ไม่ทำยัวร์เวย์กับผมไม่เป็นไร คุณเจสอนผมสปอนเซอร์หน่อยนะครับ ผมอยากทำแล้ว"

เจอ่านข้อความนี้ก็ยิ้ม เขาเป็นอัปไลน์ที่แปลกกว่าคนอื่นตรงที่แนะนำให้ดาวน์ไลน์ฝึกขายและแนะนำสินค้าก่อน ยังไม่ต้องคิดถึงการสปอนเซอร์ พอมีรายได้ มีหลักฐานว่าได้เงินจริง จากนั้นจึงค่อยสปอนเซอร์คนเข้ามา ถ้าทำงานพื้นฐานไม่เป็น ไม่มีประโยชน์ที่จะพาใครเข้ามา

"ขอบคุณอัปไลน์ที่เป็นที่ปรึกษาชีวิตให้ผมนะครับ ผมรู้สึกดีมากเลย เมื่อก่อนผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เหมือนชีวิตมีแค่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่รู้จะหันไปหาใคร แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมรู้ว่ามีอัปไลน์และพี่ๆ เพื่อนๆ ในกลุ่มสานฝันคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ รู้สึกดีมากๆ ครับ"

คนอ่านก็อยากรู้สึกดีด้วย แต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็รู้สึกดีไม่ออก

"ผมอยากลองแนะนำโอกาสทางธุรกิจให้คุณสนิทดูครับ เขามีภาระเยอะ ผมอยากช่วย เขาจะได้มีหลักประกันชีวิตให้ลูกสาว"

"คืนนี้ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านหรือเปล่า ยังเหลืออีกหลายคิว ขอกำลังใจจากอัปไลน์ด้วยครับ ตอนนี้ง่วงมาก คร่อกกกก ฟี้วววววววว"

"คิดถึงคุณเจมากเลย มีหลายเรื่องอยากคุยให้ฟัง อยากปรึกษาด้วยครับ สะดวกให้ผมโทรหาตอนไหนบอกด้วยนะครับอัปไลน์ :)"

สองข้อความสุดท้ายเรียกรอยยิ้มเผลอๆ จากเจจนได้ ตั้งแต่มีดาวน์ไลน์มา เจก็เพิ่งเคยได้รับข้อความทำนองนี้ เจเจอคนมามากมายหลายรูปแบบ เรียนรู้กับคนสำเร็จมาก็มาก เขามองออกว่าเล็กมีความคิดแบบคนสำเร็จอยู่ เป็นเพชรเม็ดงามที่พร้อมรับการเจียรไนให้เป็นของสูงค่า คนแบบนี้เป็นที่ต้องการในธุรกิจยัวร์เวย์ เขาจะประสบความสำเร็จและไปได้ไกลอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่าตอนแรกเจชวนเล็กมาทำเพราะอยากให้น้ำฝนเลิกตามเล็ก ไม่คิดว่าดาราอย่างเล็กจะทำจริงจัง แต่ตอนหลังเห็นแววจึงเปลี่ยนใจ เจสร้างคนให้สำเร็จมาแล้วอย่างน้อยสองคน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองคนออก  คุยด้วยไม่กี่ประโยคเจก็รู้แล้ว เล็กไม่เคยรอให้เจบอกว่าต้องทำอะไร ตรงกันข้าม เล็กจะเป็นคนบอกเองว่าอยากทำอะไร อยากให้อัปไลน์ช่วยยังไง

ถ้าไม่ติดว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เจคงปลื้มกับดาวน์ไลน์คนใหม่นี้มากทีเดียว

"รู้สึกดีมากๆ ครับ" และ "คิดถึงคุณเจมากเลย" ดูจะเป็นประโยคที่สะดุดใจเจไม่น้อย เจสร้างความผูกพันและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับคนๆ หนึ่งได้แล้ว วันนี้เจจะปล่อยมือคนๆ นั้นทิ้งไว้กลางทางเพียงเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า จะยอมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเล็กอย่างนั้นหรือ

หรือว่าเจควรจะถามเล็กตรงๆ ไปเลย บางทีอาจไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำฝนบอกก็ได้ แต่เล็กจะยอมบอกความจริงหรือ เจไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร กลัวถามไปแล้วจะรับความจริงไม่ได้

ตั้งแต่เล็กเข้ามาในชีวิต เจรู้สึกได้ว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไป เขายอมรับว่าปฏิบัติกับเล็กต่างจากดาวน์ไลน์คนอื่น จนกังวลว่าจะทำให้ดาวน์ไลน์คนอื่นอิจฉาเล็ก อย่างเช่นการขับรถไปส่งที่บ้าน เจจะไม่ทำอย่างนี้กับดาวน์ไลน์คนไหนเลยถ้าไม่จำเป็นจริง เพราะเจมีดาวน์ไลน์หลายคน การไปรับส่งใครพิเศษจะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี ถ้าต้องส่งทุกคนก็คงไม่ไหว อีกอย่าง เป็นการสร้างความรู้สึกพึ่งพามากเกินไปด้วย ทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้เป็น

น่าแปลก เจมักรู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ เล็ก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีความสุขที่ได้ดูแลและให้กำลังใจ ไม่รู้เป็นเพราะอยากชดเชยที่ตัวเองเคยทำไม่ดีกับเล็กหรือเปล่า หรือมีเหตุผลอย่างอื่นที่เจ...ไม่กล้าคิด

เจวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียง ไม่ตอบไลน์ของเล็กหรือใครๆ คงเป็นเพราะรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าเกินไป ในที่สุดก็ผล็อยหลับ ยุติความวุ่นวายจากโลกภายนอกชั่วคืน


เล็กถ่ายละครคิวสุดท้ายเกือบๆ ตีสาม จากนั้นก็นั่งแท็กซี่กลับมานอนบ้าน นอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องออกไปอีก พรุ่งนี้มีถ่ายละครต่อเก้าโมงเช้า

ระหว่างนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน เล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เจได้อ่านข้อความของเขาแล้ว แต่ไม่ตอบกลับมา ปกติถ้าเจตอบกลับมาทุกครั้ง

หรือว่าเจเหนื่อย? ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้เล็กค่อยโทรหาดีกว่า

แต่ปรากฎว่าอีกหลายวันต่อมาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เจไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบไลน์ ไม่สื่อสารกลับมาไม่ว่าช่องทางใด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว เล็กชักกลัวว่าน้ำฝนบอกอะไรเจหรือเปล่า ผู้หญิงคนนี้ดูไม่น่าไว้ใจเลย ขนาดแฟนตัวเองยังเอามาด่าให้คนอื่นฟัง

ถึงกระนั้นเล็กก็ไม่มีเวลากังวลใจกับความแปลกๆ ของเจมากนัก ช่วงนี้เล็กติดถ่ายละครและเลิกดึกๆ ดื่นๆ ทุกวันเพราะละครจะออกอากาศทางยูทูปอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า นอกจากต้องรีบถ่ายทำแล้ว คนตัดต่อคงทำงานหนักน่าดู ในขณะที่งานของเล็กคงจะหมดในคืนนี้ หลังจากนั้นก็จะแบ่งเวลาไปเซ็นเตอร์ได้

จนมาถึงวันถ่ายละครวันสุดท้ายที่บ้านหลังเดิม จู่ๆ เล็กก็ได้รับข้อความไลน์จากเจหลังเงียบหายไปหลายวัน

"กลับบ้านหรือยังครับ เดี๋ยวผมไปรับ"

เล็กรีบตอบกลับไปทันทีด้วยความดีใจ

"ยังครับอัปไลน์ กว่าจะเสร็จคงเที่ยงคืน คุณเจมาไหวไหมครับ"

"อยู่ที่ไหนครับ" เจส่งไลน์ถามกลับมา

"ที่บ้านหลังเดิมที่คุณเจเคยมาครับ"

เล็กพิมพ์ตอบกลับไป หลังจากนั้นเจก็ไม่ตอบอะไรมาอีก

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

เด็กทีมงานคนหนึ่งเดินมาแจ้งเล็กว่ารถแท็กซี่มาจอดรอแล้ว เล็กจึงเดินไปลาพี่ๆ เพื่อนๆ ในกองถ่ายหลังหมดคิวสุดท้าย ตอนแรกเล็กนึกว่าเจจะมารับ แต่เห็นเจเงียบไปเล็กจึงคิดว่าคงไม่มา พอเล็กออกมาจากบ้าน แท็กซี่คันนั้นกลับวิ่งออกไป เล็กหน้าตื่นและทำท่าจะวิ่งตาม แต่พอเห็นใครยืนรออยู่ก็หยุดชะงัก

"คุณเจ!" เล็กร้องเรียก ก่อนสาวเท้าไปหาไวๆ เล็กไม่เคยดีใจที่ได้เจอใครสักคนขนาดนี้นานแล้ว ไม่คิดว่าคราวนี้จะเกิดกับผู้ชายคนหนึ่ง!

เจส่งยิ้มมาให้เหมือนกัน แต่เป็นยิ้มแปลกๆ ที่ดูเหมือนไม่ยิ้ม แต่กระนั้นก็ดูดีใจที่ได้เจอเล็ก

"คิดถึงคุณเจมากเลย ช่วงนี้งานยุ่งเหรอครับ" เล็กถามกึ่งตัดพ้อ นึกอยากกอดอีกฝ่ายให้หายคิดถึง แต่คงแปลกเกินไปสำหรับผู้ชาย

"เสร็จแล้วเหรอครับ" เจไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามเล็กกลับ

"เสร็จแล้วครับ นี่ถ้าไม่ได้ชุดโปรตีนช่วยไว้ ผมคงเหนื่อยแล้วก็โทรมกว่านี้เยอะเลย โอเขาทึ่งมากเลยว่าทำไมผมยังดูไม่โทรม มาถามผมใหญ่ว่ามีเคล็ดลับอะไร ผมก็เลยแนะนำชุดโปรตีนให้แล้ว เขาขอสั่งมาลองหนึ่งชุดก่อนครับ" เล็กเล่าอย่างภูมิใจ นึกว่าเจจะบอกว่าเยี่ยมมากเหมือนอย่างเคย แต่เจกลับแค่ยิ้มๆ

"อ๋อ...ครับ จะกลับเลยไหมครับ" เจถาม พลางทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ "อ้อ...เมื่อกี้ผมบอกให้แท็กซี่กลับไปเอง จ่ายเงินค่าเสียเวลาให้แล้ว"

เล็กพยักหน้าตกลง ขำนิดๆ รู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อยที่เจอุตส่าห์ยอมอดหลับอดนอนมารับถึงที่ เล็กรู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกินที่มีคนคอยดูแลแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศชีวิตแบบนี้จะกลับมาหาเล็กอีกครั้ง

พอขึ้นรถแล้วเล็กก็ชวนคุยทันที "เดี๋ยววันนี้ผมจะชงโปรตีนให้คุณเจกินนะครับ ผมมีสูตรใหม่ด้วย ผสมกับน้ำแอปเปิ้ล ใส่น้ำแข็งเย็นๆ อร่อยมาก คุณเจต้องชอบแน่ๆ เลย"

เจหันมายิ้มบางๆ จากนั้นก็ขับรถออกไป ดูเหมือนพูดจาน้อยลง แต่เล็กก็ไม่ถึงกับผิดสังเกตมาก จากนั้นเล็กก็เล่าเรื่องในกองถ่ายให้ฟังมาตลอดทาง รวมทั้งเรื่องที่เล็กใช้เวลาช่วงพักเบรกทำธุรกิจด้วยในกองถ่ายด้วย เล็กเล่าอย่างมีความสุข ส่วนคนฟังนั่งเงียบๆ ยิ้มบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้อึดอัด คงเป็นเพราะเล็กสนิทกับเจแล้ว

จนกระทั่งมาถึงบ้าน เล็กชงโปรตีนสูตรใหม่ตามที่บอกไว้ให้เจลองชิม เจชิมแล้วก็ทำหน้าแปลกๆ

"เป็นไงครับ"" เล็กคอยลุ้น

เจชิมอีกรอบ แต่ก็ยังทำหน้าแปลกๆ อย่างเดิม

"ไม่อร่อยเหรอครับ" เล็กหน้าม่อยด้วยความผิดหวัง เขาคิดว่าสูตรนี้อร่อยมากทีเดียว เจน่าจะชอบ แต่กลับผิดคาด

"เปล่าครับ อร่อยดี" เจหัวเราะสนุกเบาๆ ก่อนวางแก้วลงบนโต๊ะ สักพักก็หน้าเครียดเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

"ผมมีอะไรอยากคุยกับคุณเล็กครับ" เจบอกเสียงเรียบ ก่อนเดินตรงออกไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน

ที่บ้านของเล็กมีสนามหน้าบ้านที่กว้างพอเดินเล่นได้ มีโรงจอดรถแต่ยังไม่ได้ซื้อรถมาใช้ ตอนนี้มีรถของเจมาจอดอยู่แทน

เจยืนกอดอกหันหลังให้ เล็กเดินมาหยุดอยู่ข้างหลัง จากนั้นก็เอ่ยถาม

"คุณเจมีอะไรหรือเปล่าครับ ผมรู้สึกว่าคุณเจเงียบๆ ยังไงไม่รู้"

เจยังไม่หันมา แต่เล็กก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ จากนั้นก็เงียบ ท่าทางเหมือนมีเรื่องหนักใจบางอย่าง เล็กไม่กดดันอีกฝ่าย จึงยืนรอจนกระทั่งเจหันกลับมาบอกเอง

"น้ำฝน...เขาเพิ่งมาบอกเลิกกับผมครับ"

เล็กหน้าซีด รู้สึกเหมือนเหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วไป ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดเร็วขนาดนี้

"เมื่อไหร่ครับคุณเจ" เล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ น้ำเสียงที่ถามไปดูเหมือนสั่นๆ คล้ายกับกลัวอะไรบางอย่าง

"ไม่กี่วันนี้แหละครับ" เจตอบ สักพักก็ทำหน้าขึงขัง "คุณเล็กอย่าบอกนะครับว่าคุณเล็กไม่รู้เรื่องนี้"

"ทำไมคุณเจพูดอย่างนั้นล่ะครับ" เล็กเสียวสันหลังวาบ ชักกลัวว่าน้ำฝนคงพาดพิงถึงเล็กแน่ๆ

"เปล่าหรอกครับ" เจยิ้ม แต่ดูเหมือนแสร้งยิ้มมากกว่า

เล็กรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่หายระแวงอยู่ดี "ผม...เอ่อ...ผมเสียใจด้วยนะครับคุณเจ"

เจถอนหายใจยาว สีหน้าดูเศร้าหมอง "ผมรักเขามากนะ ที่ยอมเหนื่อย ยอมลำบาก ก็เพื่อเขาทั้งนั้น" เจรำพึงอย่างน่าสงสาร

"ผมเข้าใจครับคุณเจ" เล็กทำสีหน้าเห็นใจ

"เขาอายคนอื่น...ที่มีแฟนทำยัวร์เวย์ เมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้หรอก เพิ่งเป็นเมื่อไม่กี่ปีนี้ บางทีผมก็สงสัยนะ ว่ายัวร์เวย์เป็นอย่างเดียวหรือเปล่าที่เขาไม่ชอบ หรือว่า...จริงๆ แล้ว...เขามีคนอื่น"

เจจ้องตาเล็ก คล้ายกับจะให้อีกฝ่ายสะดุดใจหรือเอะใจ

อยู่ดีๆ เล็กก็เกิดไม่กล้าสู้สายตาเจขึ้นมาเสียเฉยๆ จึงไม่กล้าสบตาตรงๆ ไม่รู้ว่าเจสงสัยอะไรหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะถามกันตรงๆ

"คุณเล็กพอรู้ไหมว่าน้ำฝนเขาชอบใครอีกหรือเปล่า" เจถามพลางพยายามจ้องตาคนหลบตา

คราวนี้เล็กหันไปสบตาตรงๆ ทำใจสักพักจึงตัดสินใจถาม "คุณเจสงสัยอะไรผมเหรอครับ"

เจอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าขำหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ "เปล่าครับ ผมไม่สงสัยคุณเล็กหรอก อย่าสนใจเลยครับ ผมกำลังอกหัก อาจจะพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย อย่าถือสาเลยครับ ไม่มีอะไรหรอก"

"ไม่จริง" เล็กเถียง "คุณเจสงสัยผมกับน้ำฝนเหรอครับ" เล็กโพล่งออกไป

คราวนี้เจอึ้งมากกว่าเดิม เงียบไปนานหลายวินาที สักพักก็แค่นหัวเราะ "บางเรื่อง...ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเล็ก ผมก็ไม่อยากรู้หรอก เอาเป็นว่า...คุณเล็กจะชอบใคร หรือแอบชอบใครอยู่ ไม่จำเป็นต้องบอกผมก็ได้ บางอย่าง...รู้ไปก็เจ็บปวด สู้ไม่รู้ดีกว่า"

"คนที่ผมแอบชอบ...ก็ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ!" เล็กพูดสวนออกไปเสียงดังฟังชัด ไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหน แต่เล็กยอมให้เจเข้าใจผิดไม่ได้แล้ว ต่อให้เจรับไม่ได้ที่รู้ว่าเล็กแอบชอบ ก็ยังดีกว่าให้เจระแวงว่าเล็กกับน้ำฝนมีอะไรกันลับหลัง

คราวนี้เจตกตะลึง อาจจะถึงขั้นตกใจหรือช็อคไปแล้วก็ได้ พอเห็นอย่างนั้น คนสารภาพก็วิตกจริตเพราะกลัวอีกฝ่ายจะต่อต้านรุนแรง

"คุณเล็กพูดว่าอะไรนะครับ!" เจถามย้ำ คงนึกว่าตัวเองฟังผิด

เล็กสูดหายใจลึกๆ เมื่อเผลอพูดไปแล้ว เล็กก็ต้องยืนยันสิ่งที่พูดต่อไป ต่อให้เจเกลียด โกรธหรือเลิกคบ เล็กก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันจะเป็น

"ผมชอบคุณเจมาก ตั้งแต่ที่คุณเจเข้ามาในชีวิตผม ผมรู้สึกอบอุ่นใจมาก เวลามีความทุกข์ เวลาไม่สบายใจ ก็มีคุณเจคอยให้กำลังใจ คอยดูแล คอยสอนอะไรดีๆ ให้หลายอย่าง ที่ผ่านมา เวลามีปัญหา ผมก็ไม่รู้จะไปหาใคร เคว้งคว้างไปหมด ได้แต่เสียใจแล้วก็ทุกข์ใจอยู่คนเดียว เหมือนโลกทั้งโลกไม่มีใครเลย"

เล็กหยุดเว้นจังหวะเพื่อดูว่าเจยังรับไหวอยู่หรือเปล่า แต่เจก็ดูเหมือนตั้งใจฟัง เล็กจึงกล้าที่จะพูดต่อ

"ตอนนั้นผมเหงามาก ผมไม่มีใครเลย หาใครก็ไม่เจอ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตอนคุณเจเข้ามา ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่ได้เจอกัน ได้คุยกัน ผมรู้สึกสบายใจ เหมือนตัวเองมีที่พึ่งที่ไว้ใจได้ เวลาที่คุณเจมาคอยดูแลผม ยอมอดหลับอดนอนมารับมาส่ง ขนาดห้องน้ำเสียยังช่วยซ่อมให้ ผมเมาก็ยังมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ อยู่ข้างๆ ผมเวลาผมไม่มีใคร ผมรู้สึกดีมาก ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาหลายปีแล้ว คุณเจ..." เล็กเรียกค้างไว้ คล้ายกับจะให้อีกฝ่ายสนใจมากขึ้น

แววตาของเจแสดงความสนใจตามที่เล็กต้องการ แต่ก็ไม่ทำอะไรมากกว่ายืนรอฟัง เล็กจึงเป็นฝ่ายพูดต่อ

"ถ้าคุณเจรับไม่ได้ ผมก็ขอโทษนะครับ ถ้าไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ที่ผมให้ไป ก็แค่กองมันไว้ตรงนี้ คุณเจจะโกรธผม จะเกลียดผม หรือจะเลิกคบกับผมเพราะเรื่องนี้ก็ได้ ผมเข้าใจได้ แต่ผมทนไม่ได้ถ้าคุณเจจะเข้าใจผมผิดเรื่องน้ำฝน ที่สำคัญที่สุด ผมอยากให้คุณเจรู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณเจ ขอโทษนะครับอัปไลน์...ถ้าผมทำให้ลำบากใจ" เล็กทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ถ้าเจเกิดเลิกคบจริงๆ ก็คงเศร้า ธุรกิจก็คงต้องเลิกทำเพราะคงมองหน้ากันไม่ติด

ในธุรกิจยัวร์เวย์ เรื่องชู้สาวเป็นเรื่องที่ต้องระวังมาก เจจึงต้องคอยระวังตัวเสมอเวลามีดาวน์ไลน์หรือไซด์ไลน์สาวๆ มาอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ เจต้องระวังผู้ชายด้วยเหมือนกัน

แล้วเจรู้สึกยังไงกับเล็กบ้าง? รู้สึกดีไม่ใช่หรือเวลาที่เจอกัน ชอบคุยด้วยเพราะสบายใจ เหนื่อยแค่ไหนก็ยังอุตส่าห์มาดูแล เวลาไม่เจอกันก็คิดถึง คอยนึกเป็นห่วงบ่อยๆ แม้ไม่รู้ว่าคิดถึงหรือเป็นห่วงแบบไหนก็ตาม

ว่าแต่เจไม่รู้จริงๆ หรือ?

ขนาดน้ำฝนบอกว่าเล็กกับเธอแอบชอบกันอยู่ ขนาดว่าตัวเองอกหัก ขนาดว่าถูกหักหลังจนเจ็บหนัก สุดท้าย...เจก็ยังมาหาคนที่ควรจะเกลียดด้วยซ้ำ ความรู้สึกอะไรกันแน่ที่ทำให้เจทนคิดถึงคนนี้ไม่ไหว

เอาเถอะ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องนั้นเลย บางทีคำตอบที่ชัดเจนอาจไม่ใช่วันนี้ ตอนนี้สงสารคนตรงหน้าก่อนดีกว่า ดูสิ ใครบางคนหน้าซีด ตาเศร้า ริมฝีปากสั่น คงจะกลัวเจรับไม่ได้มากทีเดียว

แม้ว่ากลัวขนาดนี้ก็ยังกล้าบอกความจริง แสดงว่าเอาชนะความกลัวในใจได้สำเร็จ นี่แหละ...คนสำเร็จตัวจริง คนแบบนี้...เจคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่ ไม่ใช่เพราะหวังประโยชน์ทางธุรกิจ แต่...อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน

เจคลายสีหน้าตกตะลึงลง ก่อนยิ้มบางๆ ให้เล็ก สักพักก็หันหลังกลับและวิ่งออกไปเปิดประตูหน้าบ้านไว้

"คุณเจจะไปไหนครับ" เล็กร้องถามอย่างงงๆ

เจไม่ตอบ คราวนี้วิ่งไปที่รถของตัวเอง สตาร์ทรถทิ้งไว้แล้วก็ลงมา คนยืนดูงงเป็นไก่ตาแตก แต่ก็จนด้วยเกล้าที่จะเข้าใจ

"คุณเล็ก" เจเรียกด้วยสีหน้าขึงขังจริงจัง พลันย่างเท้าเดินเข้ามาใกล้

เล็กเห็นอย่างนั้นก็กลัว สัญชาตญาณบอกว่าเจดูไม่น่าไว้ใจ เล็กจึงถอยหลังหนีอย่างช้าๆ แต่เจก็ตามมาจนทัน พลันก็จับไหล่สองข้างของเล็กไว้ ทั้งคู่หยุดนิ่งและมองหน้ากัน ดวงตาของทั้งคู่มีประกายวิบไหว แต่ก็ยากจะเดาว่าใครรู้สึกหรือคิดอะไรอยู่กันแน่

"คุณเจจะทำอะไรครับ" เล็กถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ คิดว่าตัวเองจะโดนต่อยหรือต้องมีอะไรสักอย่างแน่

เจไม่ตอบแต่เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้มากจนอีกฝ่ายใจเต้นรัว แต่เจไม่หยุดเท่านั้น ไม่กี่อึดใจก็ส่งริมฝีปากตัวเองมาแตะกับริมฝีปากหยักสวยของเล็กเบาๆ แม้สัมผัสเพียงแค่เสี้ยววินาที คนถูกจุมพิตก็ตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ

"ทีหลัง...อย่าเล่นละครที่ต้องจูบจริงอีกนะครับ"

นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เจเอ่ยออกมา จากนั้นก็รีบวิ่งไปขึ้นรถ ไม่นานก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ประตูบ้านก็ไม่ลงมาปิดให้ ปล่อยให้เล็กยืนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่คนเดียว

อะไรของคุณเจกันเนี่ย!!!???

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:05:15 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เจนี่ก็นะทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลยนะคะ เฮ้อ~ น่าเอ็นดูสุดๆ เลยค่ะ มีการวิ่งไปสตาร์ทรถเตรียมหนีไว้ก่อนด้วยน้าา :-[ คิดได้ยังไงกันคะเนี่ย~ ><

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เจทำเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งมีความรักเลยอ่ะ
เขินแทนคุณเล็กเลยนะนี่ จะนอนหลับกันมั้ยนั่น

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
อ๊าาาาาายังงัยกานน

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมให้ฟังละกันครับ เผื่อจะช่วยให้เข้าใจ 2 คำถามที่ผมตั้งไว้

เรื่องของเล็กหลายๆ อย่างเป็นเรื่องที่เคยเกิดกับผมเมื่อสามปีที่แล้ว
ผมตกงานเพราะเรื่องที่ผมสมัครยัวร์เวย์ ผมถูกกดดันให้ออกด้วยเหตุผลที่ว่า "ดูไม่ดี" ตำแหน่งที่ผมทำอยู่ต้องดูดี
ผมเฮิร์ทมากตอนนั้น เพราะผมสร้างที่นี่มากับมือ ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่คิดว่าจะต้องจากไปเพราะเรื่องนี้
พี่ที่ผมรักคนหนึ่งด่าผมว่า "โง่มาก" ไม่คิดว่าทำงานมีประสบการณ์มาขนาดนี้แล้วยังไปให้เขาหลอกได้อีก

ผมตกงานอยู่ปีกว่า ไม่มีเงินเดือน ชีวิตลำบากมาก แถมที่บ้านยังเป็นหนี้ ต้องช่วยเขาหาเงินอีก แค่จะเอาตัวเองให้รอดก็ลำบากแล้ว
ผมคิดอยู่ทุกวันตอนนั้นว่าผมทำอะไรผิด ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย อัปไลน์ก็มาขอโทษผม ก็ทำให้ผมได้คิด
มันไม่เกี่ยวกับยัวร์เวย์หรอก เขาแค่มโนกันไปเองว่ามันไม่ดี ใครไปทำก็จะถูกพิพากษาว่าไม่ดีไปด้วย (เพราะเขาไม่เคยเห็นที่ดีๆ)
ชีวิตผมเสียศูนย์เลยตอนนั้น สะเปะสะปะกับชีวิตมาก งานที่เราเคยคิดว่าดูดี มีหน้ามีตา วันหนึ่งเขาก็ทำกับเราแบบนี้

ตรงกันข้าม ช่วงเวลาที่ผมลำบาก ผมได้อัปไลน์ ได้เพื่อนร่วมธุรกิจคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยสอนความคิดดีๆ ให้
จนผมผ่านช่วงเวลาแย่ๆ มาได้ แล้วผมก็ได้งานที่ใหม่ แต่ก็ทำได้ไม่ถึงปี ก็ลาออก เพราะช่วงที่ตกงาน ผมทำงานฟรีแลนซ์
รู้สึกว่าชีวิตอิสระมาก ไม่อยากกลับไปทำงานประจำอีก อยากกลับมาทำฟรีแลนซ์เหมือนเดิม แล้วก็มีเวลาเขียนนิยายมากขึ้นด้วย  :oo1:

อัปไลน์สอนผมเรื่องหนึ่งว่า ถ้าเราอยากสำเร็จในชีวิต เราต้องไม่ใช้ชีวิตบนความคิดเห็นของคนอื่น
ยัวร์เวย์เองก็โดนโจมตีมาก เพราะเป็นธุรกิจเปิดเสรี ใครทำก็ได้ เซ็นเตอร์แต่ละที่สอนไม่เหมือนกัน มีระบบกรองคนไม่เหมือนกัน
บางที่ก็ดี บางที่ก็แย่ถึงแย่มาก คนก็มักจะเลือกจำแต่สิ่งแย่ๆ เสียด้วย กลายเป็นว่ายัวร์เวย์ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ให้แย่ไปด้วย
แต่เขาไม่ออกมาแก้ตัวหรือสร้างภาพใดๆ ใครอยากพูดแบบไหนก็เชิญตามสบาย นักธุรกิจคนไหนที่อยากทำแต่กลัวคนมองไม่ดี
ก็เป็นเรื่องของคุณ ถ้าคุณเอาชนะความกลัวว่าคนอื่นจะมองจะคิดยังไงไม่ได้ ก็ไม่ควรประสบความสำเร็จ
โตแล้ว ไปเรียนรู้ ไปหาวิธีเอาชนะความกลัวนี้เอาเอง คนสอนก็มีเยอะแยะ ถ้าผ่านได้ ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรยาก

ทุกวันนี้ผมก็โอเคนะ ใครอยากวิพากษ์วิจารณ์ให้แย่หรือเลวร้ายยังไงก็ได้ ไม่ผิดหรอก แต่มันไม่มีผลอะไรกับคนที่เขาเลือกทำให้ถูกต้อง
ทุกวันนี้ผมขอบคุณตัวเองที่เข้ามาเรียนรู้ในยัวร์เวย์และได้ความคิดดีๆ หลายอย่างมาใช้ในชีวิต (แม้ยังไม่ได้ตั้งใจทำให้สำเร็จ)
ในขณะที่งานทุกอย่างที่ทำมาไม่เคยสอนเรื่องพวกนี้ให้ผมเลย มีแต่ภาพที่ดูดีแต่ไม่มีฐานที่มั่นคงแข็งแรง

เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ เล็กไปสมัครกับใครก็จะเจอปัญหานี้อยู่ดี ไม่ว่าคนๆ นั้นจะชวนด้วยสาเหตุอะไร
เล็กเลือกที่จะสมัครเอง เหมือนที่ผมก็เลือกที่จะสมัครเอง ไม่มีใครบังคับ ผมจึงเลือกให้เล็กคิดเหมือนผมคือ... อย่าโทษใคร
ส่วนเจ เขาก็อาจจะผิดที่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน แต่เขาไม่ได้หลอก จะเห็นว่าเขาใช้วิธีการสปอนเซอร์แบบมืออาชีพทุกอย่าง
เมื่อเล็กตระหนักว่าตัวเองกำลังเอาแรงและเวลาไปตักน้ำ ไม่ได้สร้างท่อน้ำ เขาก็เลยตัดสินใจสมัครเพราะอยากลองสร้างท่อน้ำดูบ้าง
ถ้าหลอกล่อ เจจะต้องใช้ความโลภ ความรวย ฯลฯ เข้าล่อ คนที่โลภที่อยากรวยทางลัดก็จะตกเป็นเหยื่อ

ผ่านมาสามปี ผมโอเคกับชีวิตนะ อัปไลน์ผมไม่ผิด ยัวร์เวย์ก็ไม่ได้ผิดอะไร แม้กระทั่งคนที่เขาเข้าใจผิดก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะเขาก็ไม่รู้
ทั้งหมดที่ผ่านมาก็เป็นแค่เรื่องๆ หนึ่งที่เกิดขึ้นให้เราได้เรียนรู้ชีวิต อย่างน้อย วันนี้ผมก็มีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเดิม fighting!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2015 15:12:35 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เรื่องเจนี่เราบอกตรงๆก็คือไม่ชอบจุดที่เขาเอาสิ่งที่ตัวเองเชื่อถือ+รักที่จะทำมาเป็นสิ่งทำร้ายคนอื่นได้ ก็คือเจตนานั่นเอง คนอื่นดูถูกว่ายัวร์เวย์ต่ำก็เพราะว่าเขาไม่เข้าใจ ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา ก็โอเค แต่เจที่มีความเข้าใจ รักยัวร์เวย์แต่หยิบเอาข้อด้อยของสิ่งที่ตัวเองรักมาหาผลประโยชน์ให้ร้ายคนอื่นนี่สิ ที่เรารับไม่ได้และไม่ชอบ ยอมรับว่าจุดนี้มีส่วนทำให้เรามีอคติต่อเจ  เราดูเจต่อไปค่ะ ว่าจะทำให้ชีวิตคุณเล็กไปแบบไหน  คนเขียนเก่งค่ะที่นำเสนอจุดที่ว่าการเรียนรู้วิถีชีวิตจากการขายตรงสามารถนำมาใช้เกื้อหนุนในชีวิตจริงได้

อ่านๆต่อมาถึงตอนนี้เจคิดโกรธเล็กเรื่องน้ำฝน  แต่พอเล็กสารภาพก็เหมือนกับว่าลมเปลี่ยนทิศทางไปเลย  สมมุติว่าน้ำฝนรู้ก็จะกลายเป็นว่าเจ+เล็กทำอะไรลับหลังหักหลังนาง เปลี่ยนกลับไปอีกมุมไปเลย

เรื่องขายตรงดีใจด้วยที่คุณได้เรียนรู้สิ่งดีๆจากการเข้าไปคลุกคลีทำธุรกิจ   งานขายตรงไม่ใช่สำหรับทุกคน  ยินดีด้วยสำหรับคนที่ทำสำเร็จ 

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อ๊ายยยยยยยยยยยย กลายเป็นเจที่เงิบแทน ว่าจะมีเคลียร์เรื่องน้ำฝน กลายมาเป็นโดนสารภาพรักไปซะนี่  :-[ แต่ดีนะที่เล็กกับเจเคลียร์กันได้ดี ไม่มีอะไรรุนแรง ถึงแม้จะมีอารมณ์ขึ้นบ้างทั้งสองฝ่าย แต่ยังดีมีสติ โดยเฉพาะเล็กถือโอกาสบอกชอบเจไปด้วยเลย ยิงชะนีเสร็จได้เก้งมาด้วยเลย  :laugh   

เรื่องของเจกับน้ำฝนที่เลิกกัน ไม่ได้เกี่ยวกับยัวร์เวย์หรอก มันขึ้นอยู่กับความมั่นคง มั่นใจในตัวกันและกันมากกว่า ไม่ว่าจะทำอาชีพไหน ถ้าขาดความเชือใจกัน ไม่ให้เกรียติซึ่งกันและกัน  ให้ยังไงก็อยู่กันไม่ยืด :katai2-1:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เรื่องเจนี่เราบอกตรงๆก็คือไม่ชอบจุดที่เขาเอาสิ่งที่ตัวเองเชื่อถือ+รักที่จะทำมาเป็นสิ่งทำร้ายคนอื่นได้ ก็คือเจตนานั่นเอง คนอื่นดูถูกว่ายัวร์เวย์ต่ำก็เพราะว่าเขาไม่เข้าใจ ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา ก็โอเค แต่เจที่มีความเข้าใจ รักยัวร์เวย์แต่หยิบเอาข้อด้อยของสิ่งที่ตัวเองรักมาหาผลประโยชน์ให้ร้ายคนอื่นนี่สิ ที่เรารับไม่ได้และไม่ชอบ ยอมรับว่าจุดนี้มีส่วนทำให้เรามีอคติต่อเจ  เราดูเจต่อไปค่ะ ว่าจะทำให้ชีวิตคุณเล็กไปแบบไหน  คนเขียนเก่งค่ะที่นำเสนอจุดที่ว่าการเรียนรู้วิถีชีวิตจากการขายตรงสามารถนำมาใช้เกื้อหนุนในชีวิตจริงได้

อ่านๆต่อมาถึงตอนนี้เจคิดโกรธเล็กเรื่องน้ำฝน  แต่พอเล็กสารภาพก็เหมือนกับว่าลมเปลี่ยนทิศทางไปเลย  สมมุติว่าน้ำฝนรู้ก็จะกลายเป็นว่าเจ+เล็กทำอะไรลับหลังหักหลังนาง เปลี่ยนกลับไปอีกมุมไปเลย

เรื่องขายตรงดีใจด้วยที่คุณได้เรียนรู้สิ่งดีๆจากการเข้าไปคลุกคลีทำธุรกิจ   งานขายตรงไม่ใช่สำหรับทุกคน  ยินดีด้วยสำหรับคนที่ทำสำเร็จ

จริงๆ น่าจะเป็นเพราะผมพยายามสร้าง false impression ให้กับยัวร์เวย์และเจมากเกินไปในตอนแรกๆ ด้วยแหละครับ
การชวนคนเข้ามาในธุรกิจควรจะตั้งฐานอยู่บนแนวคิดการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้คนที่สนใจอยากเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
แต่เหตุผลตั้งต้นตอนแรกของเจคือ ถ้าเล็กเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้ว น้ำฝนจะเลิกตามเจ ซึ่งผิดหลักการของการสปอนเซอร์
แต่หลังจากที่คิดแบบนั้นในตอนแรก เจก็เริ่มรู้แล้วล่ะว่ามันผิดหลักการ เขายังกังวลเลยว่าถ้าเกิดพี่ๆ ในกลุ่มรู้เข้าคงไม่ดีแน่
แต่ผมจงใจตัดตอนที่เจคิดอะไรบางอย่างที่สำคัญออกไปเพื่อสร้าง false impression ขึ้นมาอีก ตรงนี้ก็เลยทำให้เจดูเหมือนคนไม่ดี ไม่จริงใจไป

ตรงที่ผมตัดออกไปและคิดว่าจะอธิบายทีหลังก็คือ หลังจากที่เจรู้ว่าผิดหลักการ เขาก็คิดใหม่
เขาจะใช้วิธีการแบบมืออาชีพที่เขาเคยสปอนเซอร์คนเข้ามาเพื่อดูทัศนคติของเล็กก่อน ว่ามองชีวิตยังไง คิดอะไรบ้างกับชีวิตของตัวเอง
ถ้าเล็กทัศนคติโอเค เขาก็จะสปอนเซอร์เข้ามา สอนให้เล็กเก่งและประสบความสำเร็จ ส่วนผลพลอยได้ก็คือ น้ำฝนก็อาจจะเลิกตามเล็กไปเอง
แต่ถ้าเล็กทัศนคติไม่โอเค เขาก็จะปล่อยเล็กไปใช้ชีวิตตามเดิม

แต่หลังจากนั้นเขาก็พบว่าทัศนคติของเล็กดีมาก เจก็จะทำตามสิ่งที่คิดไว้ก็คือ ช่วยสอนให้เล็กประสบความสำเร็จในธุรกิจ
แต่ก็เหมือนเขากลัวว่าถ้าเล็กเข้ามาอยู่ใกล้เขามากไป ก็เท่ากับดึงเล็กให้มาใกล้น้ำฝนมากขึ้นด้วย ตอนแรกๆ ที่เล็กสมัครเข้ามา เจก็เลยสับสน
ใจหนึ่งก็อยากปล่อยเล็กไป เล็กจะได้ไม่ต้องเข้ามาใกล้น้ำฝนมากขึ้น แต่ใจหนึ่งก็เห็นใจเล็กที่เจอเรื่องแย่ๆ ในวงการบันเทิงเยอะ
ยัวร์เวย์น่าจะเป็นโอกาสที่ช่วยให้เล็กมีทางเลือกของชีวิตมากขึ้น เจก็อยากจะช่วย เขาเองก็รู้สึกสงสารเล็กด้วยที่ต้องเป็นพระเอกตกอับ
โดยธรรมชาติของคนที่ทำธุรกิจนี้จนสำเร็จ เขาจะรักผู้คน อยากช่วยเหลือ เหนื่อยก็ยอม ถึงไหนถึงกัน แต่ความคิดของเจก็ตีกันอยู่ตอนนั้น

ส่วนเรื่องที่เล็กเจอวิกฤตินั้น เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของเจไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้คิดถึงขั้นว่าจะต้องให้เล็กเสียชื่อเสียง อย่างหลังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นของมันเอง
แต่เจก็รู้สึกผิดว่าเขาก็มีส่วนทำให้เล็กต้องมาเจอวิกฤติเช่นนี้ (เหมือนที่อัปไลน์ผมเขารู้สึกผิดว่าพอชวนผมเข้ามาแล้วก็ทำให้ผมเจอเรื่องแย่ๆ หลายอย่าง แต่ผมรู้ว่าไม่เกี่ยวกับเขาหรอก)
เหตุการณ์นี้ทำให้เจเรียนรู้ว่า ทิศทางผิด ความพยายามก็สูญเปล่า เขาจึงตั้งใจจะทำให้มันถูกทั้งหมดหลังจากนั้น เขาจึงไปขอโทษเล็ก ยอมชดใช้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ถ้าเล็กยังเชื่อใจเขาอยู่ เจก็พร้อมจะทำให้เล็กประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ให้ได้ภายในสามปี เหมือนที่เขาเคยช่วยให้คนอื่นๆ สำเร็จมาแล้ว

จากตรงนี้จะเห็นว่าเจไม่มีเจตนาใช้ยัวร์เวย์ทำร้ายเล็ก มีแต่ความคิดที่ผิดหลักการของการสปอนเซอร์ในตอนแรกเท่านั้น
ผมตั้งใจสร้าง false impression มากไปหน่อย

แม้ว่าเจจะทำผิดหลักการไปตอนแรก แต่เล็กก็เลือกที่จะให้อภัย เพราะหลังจากที่ได้คบกัน เล็กรู้ว่าเจมีพื้นฐานนิสัยที่ดี
เล็กชื่นชมเจตรงที่รู้ตัวว่าทำผิดก็ยอมรับผิด พร้อมที่จะชดใช้ให้ พร้อมที่จะรับผิดชอบให้
เหตุการณ์ช่วงแรกจึงเป็นเรื่องของการเรียนรู้สำนึกผิดชอบชั่วดีของเจ ความผิดพลาด การคิดใหม่และการให้อภัย

ผมเคยรู้สึกผิดตอนเขียนต้น-สนเวอร์ชั่น 2 เพราะเลือกที่จะข้ามรายละเอียดสำคัญทางความคิดบางอย่างไปของสนไป จนทำให้สนดูแย่มาก คนอ่านบางคนด่าใหญ่เลย
ถ้าเกิดว่าเขามีชีวิตอยู่จริงๆ การเขียนของผมก็คงทำร้ายเขาเลยล่ะ ตอนนั้นผมก็รู้สึกแย่เหมือนกัน
ในส่วนของเรื่องนี้ก็เช่นกัน ความผิดพลาดนี้ผมจะขอน้อมรับไว้ คนเขียนผิดเองครับ 555

ขอบคุณสำหรับเสียงสะท้อน เป็นประโยชน์มากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2015 21:03:37 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เจคงเขิลเปล่าอ่ะ มีผู้ชายมาบอกชอบ แถมทิ้งท้ายประโยคนั้นให้คิด แล้วก็ขึ้นรถขับหนีไปเลย 555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
ตอนนี้แอบหวาน อะไรคือการที่เจสตาร์ทรถคอย พอจุ๊บปั๊บ ชิ่งปุ๊บ 5555
สำหรับเรา แม้ว่าเจจะรู้สึกเสียใจบ้างที่ได้รู้จากปากของน้ำฝนเอง แต่เจยังเสียใจไม่มากพอ เหมือนกันกับที่น้ำฝนเผลอรักเล็ก เจเองก็เผลอไม่ต่างกัน เพราะเท่าที่เห็นคือเจเป็นคนระวังตัว แต่กับเล็กนี่คือตรงข้าม ยิ่งอ้างว่าทำไปเพราะสำนึกผิด อยากทดแทน ก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่
พออ่านตอนนี้ตอนนี้จบก็เลื่อนลงมาอ่านคอมเม้นต์ข้างล่าง รู้สึกว่าอะไรหลายๆอย่างได้รับคำตอบมากขึ้น รู้สึกว่าเข้าใจความคิดของเจดีขึ้น แม้ว่าตอนแรกจะพอเข้าใจแล้วก็ตาม สิ่งที่เราชอบคือการที่เรื่องนี้สร้างเจให้เป็นตัวละครที่มีมิติ มีความธรรมดาที่เข้าถึงได้ ถ้าเทียบกับการดูหนัง นิยายเรื่องนี้ก็เหมือนกับระบบสามมิติ ที่เพิ่มการ "สัมผัส" เพื่อความสมจริง และเรารู้สึกว่าการสัมผัสถึงความคิดของเจเป็นเรื่องน่าสนุก เจไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซนต์ เป็นปุถุชนเหมือนคนทั่วไป แต่เราชอบมาก เป็นความมหัศจรรย์ที่่ธรรมดา
อยากจะบอกคนเขียนค่ะว่าแอบแว่บไปอ่านต้นสนแล้ว อภัยให้เรานะคะเพราะเราไม่มีภูมิคุ้มกันมาม่าจริงๆ เพราะผงชูรสเยอะมาก เอ้ย ไม่ใช่ 555 เราอ่านแนวนี้ไม่ค่อยได้ค่ะ น้ำตามันพาลจะไหลเอาทุกที แถมอ่านจบทีไรเครียดยิ่งกว่าเดิมอีก อยากจะคอมเม้นต์ทิ้งไว้ที่เรื่องนู้นเหมือนกัน แต่คอมเม้นต์ที่นั่นดูท่าจะดุเดือดใช้ได้ 555 ไม่อยากซ้ำลงไปค่ะ เลยมาบอกที่นี่แทน ให้อภัยเรานะคะ T^T (แต่เราชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก เพื่อนคุณแม่เราก็เป็นอัปไลน์เหมือนกัน พอเราอ่านเรื่องนี้นี่อยากคุยด้วยเลย)
ปล.รอตอนหน้าจ้าาาา

ออฟไลน์ Rabbitongrass

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณที่นำเสนอเรื่องราวฟินๆเเละความรู้ดีๆนะครับ

ผมก็งงนะว่าทำใมเมืองไทยถึงมองMLMว่าเลว(ขนาดซิตคอมของคุณบอยยังเคยทำล้อเลียนเลยว่ามันไม่ดี) MLMมันก็ธุรกิจของซื้อของขายปกตินี้หละเเต่เเค่มีออพชั่นเสริม (<<อันนี้ตามความคิดผมนะ)

ถ้าMLMเเบบYourwayมันเเย่จริงมันจะอยู่ยาวนานมาเกิน20ปีหรอ???

สังคมเมืองไทยเราทำดีคือเสมอตัวทำชั่วคือจำยาวเจ็ดชั่วโครต(ไม่ใช่เเบบก่อนหน้าสามรุ่นเเละหลังจากตัวผู้กระทำสามรุ่นนะ)

อีกอย่างคือไม่ค่อยฟังเสียงจากผู้ใช้จริง (ชมจริงติจริงเเบบทีไม่ใช่หน้าม้า) ประสปการณ์ล่าสุดเลยคือได้มือถือดีในราคาที่เหมาะสม(ขอไม่เอ่ยเเบรนด์...เเต่ถ้าอยากเผือกไปหาผมได้ในพันทิพ 5555)

เอาเเล้วUplineมีสามีเป็นDownline(ขออนุญาติเรียกเเบบฝรั่งนะครับที่เรียกว่า Husband & Husband)อยากรู้ต่อเเล้วว่าจะลงเอยกันยังไง

ส่วนคุณเล็กใหนๆก็ Grand Opening ไปใน Attitude เเล้วย้ายสังกัดไปอยู่กับช่องเจ้าของ Club Saturday ไปเลย (พี่"กอด"ผ.อ.ช่องน่าจะโอเค) ถ้าช่องเก่าเขาจะไม่โอเคกะเรื่องคุณเล็กเป็นเกย์ มีเเฟนเป็นผู้ชาย เเละ มีอาชีพเสริมขาย Yourway

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
วันนี้คุณเล็กจะออกมาพบปะประชาชนคนอ่านอย่างเราไหมน้อ~ อยากอ่านต่อแล้วสิค้า.. :impress:

ออฟไลน์ กาลครั้งหนึ่ง.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

แปะไว้ก่อนน้า คนเขียนขยันมาก อัพบ่อยดี แบบนี้ชอบ
เพิ่งอ่านได้ตอนแรก  :L2: ชอบคาแร็กเตอร์แบบเล็ก

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ดีใจจังที่เจคิดได้น่ะ กะว่าถ้ามาแบบงี่เง่าเหมือนละครน้ำเน่านี่รับไม่ได้จริงๆ น่ะ สอนคนมาซะดีแต่ตัวเองคิดไม่ได้นี่คงแย่มาก ๆ น่ะ อ่านเรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งชอบน่ะ ช่วงแรกอาจจะดูเยิ่นเย้อดีเทลเยอะไปหน่อย แต่ก้อได้ความรู้ดีทีเดียว เราก้อขอสารภาพเลยว่าสมัยก่อนเคยทำงานประเภทนี้ด้วยแหละ แต่ทำได้ไม่นานหรอกน่ะ หมดไฟก่อนน่ะ ช่วงแรกก้อคึกคักทีเดียวล่ะ ชวนเพื่อนชวนนั่นชวนนี่เยอะ และก้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไปหลายอย่างเลยล่ะ เราก้อมาคิดน่ะว่าทำไมเราถึงเลิกทำ แรก ๆ ก้อยังมีแวะเวียนไปซื้ออยู่น่ะ แต่ตอนหลังก้อทิ้งเลยน่ะ เราก้อได้ข้อสรุปว่าบ้านอยู่ไกลมาก ต้องกลับดึกบ่อย ๆ ไม่ไหวน่ะ เหนื่อยมาก และจะทำอะไรแต่ละอย่างสินค้าออกใหม่ทีก้อต้องซื้อเองหมด ลงทุนไปหลายอย่างเลยน่ะ อาจเป็นเพราะตัวเองไม่มีอัปไลน์แบบคุณเจมั๊ง ตอนทำมัวแต่คิดจะขึ้นตำแหน่งเร็ว ๆ น่ะ และแค่ทำงานประจำก้อกินเวลาไปเยอะมาก ๆ แล้วน่ะ ก้อเลยจำเป็นต้องเลิกไปโดยปริยาย  :mew2: แต่เราก้อไม่เคยมองธุรกิจแบบนี้ว่าไม่ดีน่ะ เรามองว่าคนที่ทำต่างหากที่มุ่งแต่จะหาเงินอย่างเดียวก้อเลยทำให้มันเสียภาพลักษณ์ไปเองน่ะ  :mew5:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เจแอบน่ารักนะนี่ ฮ่าๆ

ว่าแต่จะไปคุยไรกันที่บ้านน๊า อิๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณเล็กแอบน้อยใจเจเสียจนน่ารักเลยนะคะ >\\< ..ส่วนเรื่องปาปายังไงก็เป็นของคู่กันกับอาชีพนักแสดงอย่างคุณเล็กอยู่แล้วล่ะเนอะ คงจะทำใจได้แค่อย่างเดียวนั่นล่ะค่ะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป สู้ๆ จ้าา~ :a2:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
✿✿ธุรกิจนี้มีรัก✿✿
CHAPTER 14 ❋ คืนที่ไม่โรแมนติก


เล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู แต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีข้อความ หรือเบอร์ที่ไม่ได้รับจากคนที่เพิ่งกลับไปเลย ในไลน์ก็ไม่มีข้อความใหม่จากใครคนนั้น แต่พอจะพิมพ์ทักไปเล็กก็ไม่กล้าส่ง เมื่อชั่วโมงที่แล้วยังห้าวหาญกล้าบอกความรู้สึกของตัวเองอยู่เลย แต่ไม่รู้ว่าความกล้าหายไปไหนหมดแล้วตอนนี้

คนอะไร แทนที่จะพูดให้ชัดเจน กลับมาทิ้งปริศนาไว้ให้นอนคิด ไม่รู้ว่าคืนนี้เล็กจะหลับตาลงได้หรือเปล่า สมองของเล็กกำลังประมวลผลหนักเพราะประโยคนั้น

"ทีหลัง...อย่าเล่นละครที่ต้องจูบจริงอีกนะครับ"

ถ้าเล็กมีแฟนแล้วพูดแบบนี้ก็แปลว่าหึง แต่พอเจพูด เล็กกลับไม่กล้าเดาว่าเจหึง หรือว่าเจจะหึง? ถ้าหึงก็ต้องแปลว่าเจ...

เล็กส่ายหัวไปมาในความมืด ไม่กล้ายอมรับความคิดนั้นของตัวเอง แต่กระนั้น ถ้าอีกฝ่ายใจตรงกันก็คงดีไม่น้อย เล็กอยากมีแฟนแบบนี้ ต่อให้เป็นผู้ชายก็ยอม

ความคิดถึงดลใจเล็กให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีก ก่อนเปิดแอปรูปภาพและเลื่อนหารูปเจที่เล็กเคยถ่ายไว้ มีอยู่รูปหนึ่ง เจพูดอยู่บนเวทีเซ็นเตอร์ แววตาดูมุ่งมั่น แต่รอยยิ้มกลับดูอบอุ่น ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายตาตี่ๆ ก็มีเสน่ห์ พาให้เล็กยิ้มตามคนในรูปไปด้วย ถ้าใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าบ้า

คุณเจนะคุณเจ คนอุตส่าห์คิดถึง ไม่เจอกันตั้งหลายวัน แต่มาไม่ทันไรก็เผ่นกลับเสียแล้ว ยังไม่ทันหายคิดถึงเลย เล็กแอบตัดพ้อในใจ

เล็กวางโทรศัพท์ลง ก่อนลุกจากเตียงและเดินไปที่ประตูกระจกบานเลื่อน มือหนึ่งปลดล็อคและเลื่อนประตูออก สองเท้าพลันก้าวออกไปยืนรับลมเย็นๆ ตรงระเบียง ฟ้าดูมืดและมีเมฆ ยามหน้าฝนอย่างนี้ยากจะเห็นฟ้าโปร่ง แต่ถึงฟ้าโปร่งก็ยากจะเห็นดาวเพราะแสงในเมืองกลบหมด

บรรยากาศอาจไม่โรแมนติก แต่หัวใจที่มีความรักก็ทำให้มันโรแมนติกได้ เล็กนึกถึงเพลงนั้นที่ตัวเองเคยใช้ร้องประกวดตอนเข้าวงการใหม่ๆ

"คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว" เพลงประกวดหากินของใครหลายๆ คน

ช่างเข้ากับความรู้สึกตอนนี้ได้ดีทีเดียว เล็กฮัมเพลงนั้นเบาๆ ร้องไป ยิ้มไป นึกถึงใบหน้าของใครคนนั้นไปด้วย หัวใจที่เต็มตื้นด้วยความรักมักพาให้คนทำอะไรแปลกๆ เล็กอดขำตัวเองไม่ได้ที่เป็นถึงขนาดนี้

เล็กเอ๋ยเล็ก ทำอย่างกับคนไม่เคยมีความรักไปได้ แม้เคยเข็ดจากความรักคราวก่อน กี่คนผ่านมาไม่เคยยอมให้เฉียดกรายพื้นที่หวงห้าม แต่ครั้งนี้เล็กกลับอดใจไม่ไหว อุ่นไอรักจากชายตาตี่มีพลังดึงดูดรุนแรงอย่างน่าประหลาด รู้ตัวอีกทีเล็กก็เผลอชอบเข้าให้แล้ว ถ้าต้องเจ็บเพราะความรักอีกคราวก็คงต้องยอม

เล็กร้องเพลงนั้นจนจบ แม้ไม่ได้ร้องนานแล้วแต่ก็พอร้องได้ เพี้ยนบ้างเล็กน้อย ถ้าเจมานั่งฟังอยู่ตอนนี้คงขำ แต่เล็กคงจะยอมให้ขำ ไม่หัวเสียเหมือนคราวนั้นหรอก

สองเท้าพาร่างที่มีหัวใจเปี่ยมรักกลับมานอนอยู่บนเตียงนุ่ม มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูรูปนั้นอีก รอยยิ้มพลันปรากฎบนริมฝีปากหยักสวย ความง่วงมาเยือนแล้ว คงต้องลาจากกันไปในคืนนี้ก่อน

"คุณเจ กู๊ดไนท์นะครับ" เล็กบอกคนในรูปเบาๆ

แม้ว่าตัวจริงของคนในรูปไม่อยู่ตรงนี้ แต่เล็กก็ยังอดเขินสายตาที่คนในรูปมองมาไม่ได้ ผู้ชายอะไร แค่รูปก็ยังทำให้เขิน

"คุณเจ...ขอให้เราใจตรงกันนะครับ ตอนนี้...ผมอยากมีความรักแล้ว"

   

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

อีกมุมหนึ่งของเมืองเดียวกัน คนที่เล็กรำพึงรำพันถึงมีอาการไม่ต่างกันเลย เจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ว่าจะโทรไปหาคนอีกฟากหนึ่งของเมืองก็ไม่กล้า จะคุยไลน์ด้วยก็พิมพ์ๆ หยุดๆ สุดท้ายก็ไม่กล้าส่ง

เจถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชีวิตช่วงนี้ช่างน่าแปลกจริงๆ เมื่อไม่กี่วันนี้ยังเศร้าเพราะน้ำฝนบอกเลิกอยู่เลย ไม่กี่วันถัดมากลับมีความรู้สึกใหม่เข้ามาแทน อารมณ์อกหักจึงแทบไม่มีความหมายเลย

เจชอบเล็กหรือเปล่าหนอ ถ้าไม่ชอบ แล้วเจไปจุมพิตเล็กทำไม แถมยังพูดแบบนั้นกับเล็กอีก เป็นใครก็คงคิดเตลิดเปิดเปิงว่าเจมีใจให้ แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ?

ที่จริง...ก็ยอมรับว่ารู้สึดีไม่น้อย

พรุ่งนี้เจอกันจะทำหน้ายังไง หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่เล็กจะรู้สึกยังไงถ้าเจทำแบบนั้น เกิดเล็กน้อยใจขึ้นมาล่ะ เฮ้อ...ทำยัวร์เวย์เจอเรื่องหินๆ มาก็มาก ทำไมเรื่องแค่นี้เจถึงกลัวไปได้

โธ่เอ๊ย ทำไมขี้ขลาดแบบนี้นะนายเจ! เล็กเขายังกล้าบอกว่าชอบเลย ทำไมเจถึงไม่กล้าพูดตรงๆ

เพราะเล็กเป็นผู้ชายหรือเปล่า แล้วยังไง? ถึงจะเป็นผู้ชายแต่เล็กก็เป็นคนน่ารัก แถมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ คนแบบนี้ไม่ใช่หรือที่เจตามหามาตั้งนาน มันก็ใช่อยู่ แต่...

ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่ หรือว่าเป็นเพราะความสงสาร ช่วงที่ผ่านมาเล็กน่าสงสารมาก เจจึงอยากช่วยเหลือดูแล ตอนนั้นหรือเปล่าที่ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นเงียบๆ

ก็น่าจะเป็นความรู้สึกนั้น จะปฏิเสธไปทำไม เจเคยมีแฟนมาบ้างแล้ว จะบอกว่าไม่รู้ก็คงแปลก เพราะความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเมื่อเจอคนพิเศษเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้

อยากคุยกับคุณเล็กจัง...ทำไงดี...

นึกออกแล้ว ส่งคำคมเกี่ยวกับความรักไปให้เล็กดีกว่า ถึงจะไม่ชัดเจน แต่น่าจะทำให้อีกฝ่ายเอะใจบ้าง ว่าแล้วเจจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนพิมพ์คำสอนหนึ่งของ อ. เหวิน ลงไป พิมพ์เสร็จก็ส่งไลน์ให้เล็กทันที

"อ. เหวิน สอนว่า ฝันของคนมีสี่ประการ
1) ชีวิตที่มีคุณค่า
2) แสวงหารักแท้
3) กระหายจะได้ครูที่ดีและเพื่อนแท้
4) ได้งานที่ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดชีวิต
คุณเล็กมีครบทุกข้อหรือยังครับ"

คนส่งยิ้มเขินจนหน้าแดง ทั้งๆ ที่ในห้องนี้ก็ไม่มีใครให้ยิ้มให้ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมอาการนั้นได้แล้ว เขินอย่างกับเพิ่งหัดจีบสาว ถ้าเจมีตาทิพย์คงเห็นว่าคนรับก็หน้าแดงพอกัน คำพูดก่อนจากก็ว่าเด็ดแล้ว แต่ข้อความจากไลน์คราวนี้มาแรงกว่า ไม่นานเล็กก็พิมพ์ตอบกลับมา

"สงสัยจะขาดข้อสอง คุณเจมีครบทุกข้อหรือยังครับ"

เจยิ้มให้กับข้อความนั้น ไม่นานก็พิมพ์สั้นๆ ตอบกลับไป

"ลองเดาสิครับ คนใจตรงกัน...เดาถูกอยู่แล้ว"

เจวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง นอนยิ้มกับตัวเองในความมืด ว่ากันว่าความรู้สึกที่น่าประทับใจที่สุดก็คือความรู้สึกของครั้งแรก โดยเฉพาะครั้งแรกที่รักใครสักคน หัวใจยามมีรักใหม่คือหัวใจที่น่าอิจฉาที่สุด เพราะชีวิตในช่วงนี้จะมีแต่สีชมพู

ดึกดื่นคืนนี้ ไม่มีลมหนาวพัดโชยมาต้องกาย ไม่มีขอบฟ้าและดวงดาวให้แหงนมอง ไม่มีน้ำค้างยอดหญ้าคาส่งประกายยามต้องแสงจันทร์ให้ชื่นชม ใครๆ ก็รู้ว่าบรรยากาศเมืองหลวงไม่โรแมนติกเพราะขาดธรรมชาติ

แต่หัวใจที่อยู่ในอารมณ์นั้นเปลี่ยนคลองน้ำเน่าเป็นเมืองเวนิชได้ เปลี่ยนห่าเม็ดฝนยามดึกเป็นจุดแสงของดวงดาวพร่างพรายได้ เปลี่ยนห้องนอนที่เดียวดายให้กลายเป็นวิมานอบอุ่นได้ คืนนี้เจจะนอนหลับใหลไปพร้อมกับความรู้สึกนี้ คงจะนอนหลับฝันดีและตื่นขึ้นอย่างสดใส

"ราตรีสวัสดิ์ครับคุณเล็ก"


วันนี้ยัวร์เวย์มีงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารเสริม เจไม่พลาดพาดาวน์ไลน์ที่ตั้งใจทำธุรกิจมางานนี้ด้วย หนึ่งในนั้นก็มีเล็ก ตอนนี้กำลังเดินทางมาสมทบ

พอลงจากแท็กซี่และก้าวขาเข้ามาในอาคารสำนักงานใหญ่ของยัวร์เวย์ เล็กก็เริ่มใจสั่น ประหม่าและตื่นเต้น แค่คิดว่าจะได้เจอหน้ากันก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว ใครบ้างจะไม่ตื่นเต้นเมื่อมาหาคนที่เพิ่งรู้สึกดีๆ ต่อกัน

ตั้งแต่ออกจากลิฟต์มา เล็กก็แทบจะไปไหนไม่ได้เพราะมีคนเข้ามาทัก บ้างขอถ่ายรูป บ้างขอจับมือ บ้างอยากคุยด้วย บ้างชื่นชมให้กำลังใจ เห็นดารามาทำอาชีพนี้ใครๆ ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เล็กไม่เคยปฏิเสธเลยเวลามีใครเข้ามาหา เจสอนเล็กว่าคำพูดดีๆ ของเราแค่ไม่กี่คำ อาจสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนชีวิตคนได้ รูปของเราที่เขาขอถ่ายไปอวดคนอื่น อาจจุดประกายฝันให้คนเหล่านั้นลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง เวลาใครถามว่าทำไมดาราถึงทำยัวร์เวย์ เล็กมักตอบบ่อยๆ ว่า

"ดาราก็ตกงานได้ ป่วยได้ แก่ได้ ตายได้ จริงไหมครับ"

แม้พูดตลกๆ แต่ก็ทำให้คนฉุกคิด คำพูดแบบนี้อาจไปสะกิดใจใครสักคนเข้า ทุกสิ่งดีๆ ที่เราพูดหรือกระทำออกไปมีคุณค่าเสมอ

เจยืนจับกลุ่มคุยกับดาวน์ไลน์ประมาณสิบคนตรงโถงทางเดิน ในนั้นมีพี่ประสิทธิ์ น้องอาร์ต พี่วินมอเตอร์ไซค์และคนอื่นๆ ที่เล็กเคยเจออยู่บ้าง แต่ยังจำชื่อไม่ได้ทั้งหมด มีผู้หญิงอยู่ด้วยอีกสี่คน ทั้งหมดนั้นเป็นทั้งดาวน์ไลน์ติดตัวและดาวน์ไลน์สายลึกลงไป

หลังฝ่ากลุ่มฝูงชนมาได้ เล็กก็มาถึงกลุ่มของเจ ด้วยความที่มาถึงช้าจึงรีบออกตัว

"สวัสดีครับ ขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่มาช้า"

เล็กยกมือไหว้กลุ่มดาวน์ไลน์ของเจ ก่อนหันไปสบตาคู่นั้นที่มองมา เจทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม น่าแปลกที่ไม่ทักทายเล็กเลยแม้แต่คำเดียว

"คนฮ็อตก็อย่างนี้แหละพี่" อาร์ตแซว ทุกคนในกลุ่มเห็นเล็กโดนรุมถ่ายรูปแล้ว แต่ไม่มีใครว่าอะไรเพราะอยากให้เล็กเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น

"อาร์ตครับ พี่วานอาร์ตช่วยพาคุณเล็กไปรับคู่มือแล้วก็อาหารว่างหน่อยสิ เสร็จแล้วมาเจอกันที่นี่นะ จะได้เข้าไปพร้อมๆ กัน" เจหันไปวานเพื่อนรุ่นน้อง

"ครับพี่เจ พี่เล็ก...มาทางนี้เลยครับ" อาร์ตรับคำอย่างแข็งขัน ดูกระฉับกระเฉงและยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงว่าเป็นคนชอบบริการคนอื่น

เล็กเดินตามอาร์ตออกไปยังจุดลงทะเบียน อดแปลกใจไม่ได้ที่เจไม่ทักทายถามไถ่เลย อายหรือเปล่า? หรือว่าพอตื่นขึ้นมาก็คิดกลับตาลปัตร จากรับได้ก็เปลี่ยนเป็นรับไม่ได้ อย่างนั้นหรือเปล่า? แต่เล็กก็ไม่มีโอกาสได้ถาม

งานเปิดตัวเริ่มแล้ว เจกับดาวน์ไลน์สิบคนรวมนั่งสองแถวติดกันบริเวณด้านหน้าเวที ห้าคนแรกรวมเจอยู่แถวหน้าสุด ส่วนอีกห้าคนหลังอยู่แถวหลังถัดจากเจ มีเล็ก พี่ประสิทธิ์และดาวน์ไลน์สายลึกของเจ

น่าแปลกที่เจไม่ยอมมานั่งกับเล็ก แถมนั่งหันหลังให้ ไม่ยอมหันมาพูดจาด้วย พี่ประสิทธิ์จึงต้องทำหน้าที่อัปไลน์จำเป็นไปพลางๆ

"ทุกครั้งที่ยัวร์เวย์เปิดตัวสินค้าใหม่ นักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นผลิตภัณฑ์จะมาพูดถึงสินค้าทุกครั้งนะครับคุณเล็ก เราจะได้รู้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ แล้วก็แนวคิดการผลิต บริษัททั่วไปไม่ทำแบบนี้หรอกครับ เพราะเขาห่วงกำไรมากกว่าห่วงผู้บริโภค"

"ครับพี่ประสิทธิ์" เล็กหันไปยิ้ม ก่อนหยุดพักสายตาตรงท้ายทอยของเจ พอนักวิทยาศาสตร์ออกมาเล่าตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เล็กจึงเปลี่ยนจุดสนใจไปที่เวทีแทน หลายๆ ประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ท่านนี้พูดตรงใจเล็กมากทีเดียว

นักวิทยาศาสตร์: "Success cannot substitute your health."

ผู้แปล: "ไม่มีความสำเร็จใดๆ ทดแทนสุขภาพของคุณได้"

นักวิทยาศาสตร์: "When you have a chronic health problem, money can't buy it back."

ผู้แปล: "เมื่อเรามีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ไม่มีอะไรซื้อมันคืนกลับมาได้"

นักวิทยาศาสตร์: "Your health can either be an asset or a liability depending on how you take care of it."

ผู้แปล: "สุขภาพจะเป็นทรัพย์สินหรือหนี้สินก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณดูแลมันยังไง"

นักวิทยาศาสตร์: "What's the point to work so hard but afterwards suffer in a hospital and eventually rest in piece in a graveyard?"

ผู้แปล: "จะมีประโยชน์อะไรที่จะทำงานหนัก หลังจากนั้นก็เจ็บป่วยในโรงพยาบาลและท้ายที่สุดก็พักผ่อนในสุสาน?"

นักวิทยาศาสตร์: "When it comes to optimal health, you must base it on facts and avoid opinions!"

ผู้แปล: "เมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด เราต้องเชื่อข้อเท็จจริง และหลีกเลี่ยงความคิดเห็น"

นักวิทยาศาสตร์: " Learning what kind of fact is reliable is much easier than learning whose opinion can be trusted--even your own!"

ผู้แปล: "เรียนรู้ว่าข้อเท็จจริงไหนน่าเชื่อถือได้ ยังง่ายกว่าเรียนรู้ว่าความคิดเห็นของใครน่าเชื่อถือมากกว่ากัน แม้กระทั่งความเห็นของคุณเองก็เถอะ"

นักวิทยาศาสตร์: " Unfortunately, many of us take care of our own health based on opinions not facts!--nutrition facts."

ผู้แปล: "น่าเสียดาย พวกเราส่วนมากดูแลสุขภาพของเราเองด้วยความเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงด้านโภชนาการ"

นักวิทยาศาสตร์: "You can do great things, travel to wonderful places around the world or meet great people thanks to good health--the very one thing that many of us take for granted."

ผู้แปล: "เราจะทำสิ่งดีๆ ได้ ไปที่สวยงามรอบโลกได้ พบปะกับคนดีๆ ได้ ก็ต่อเมื่อเรามีสุขภาพที่ดี นี่คือสิ่งที่เราหลายคนไม่เคยเห็นค่าเลย"

นักวิทยาศาสตร์: "And again, it is 'Now' or 'Never'."

ผู้แปล: "แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามัวแต่รอให้พร้อมก็จะไม่ได้ทำ"

นักวิทยาศาสตร์: "If you don't listen to a scientist like me who has done substantive studies on optimal health, who else will you listen to?"

ผู้แปล: "ถ้าคุณไม่ฟังนักวิทยาศาสตร์อย่างผมที่ศึกษาเรื่องสุขภาพสมบูรณ์สูงสุดมามากมาย คุณจะไปฟังใครล่ะครับ?"

นักวิทยาศาสตร์: "Optimal health needs facts and science but not the opinions of your neighbors!"

ผู้แปล: "เราจำเป็นต้องใช้ข้อเท็จจริงและวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปสู่สุขภาพสมบูรณ์สูงสุด ไม่ใช่ความคิดเห็นของคนข้างบ้าน"

  --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- 

หลังงานเปิดตัวสินค้า นักธุรกิจต่างก็ยืนล้อมวงกับกลุ่มของตัวเองเพื่ออาฟเตอร์หน้าห้องประชุม กลุ่มของเจก็เช่นเดียวกัน เมื่อทุกคนมาพร้อม อัปไลน์เจจึงเริ่มการอาฟเตอร์ทันที

"คุณเล็กครับ วันนี้ได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ อ้อ...อย่าลืมบอกว่าจะเอาไปทำอะไรต่อ แล้วก็มีเป้าหมายยังไงด้วยนะครับ" เจถามเล็กเป็นคนแรก

เล็กคุ้นชินบรรยกาศแบบนี้แล้ว พอเจโยนมาก็พูดได้ทันที

"ขอบพระคุณอัปไลน์ผู้เปิดโอกาส ขอบคุณพี่จุ๊ อ. เหวิน ครูผู้เปิดปัญญาครับ ที่ผมได้เรียนรู้ในวันนี้ก็คือ...ไม่มีอะไรทดแทนสุขภาพของเราได้ แม้กระทั่งความสำเร็จ ทำงานหนักแทบตาย แต่สุดท้ายเอาเงินไปให้หมอใช้หมด ไม่คุ้มเลย ถ้าผมไม่รู้เรื่องนี้ก่อน ผมก็คงเป็นอย่างนั้นแน่ๆ เพราะอาชีพดาราทำงานเสี่ยงต่อสุขภาพมาก สิ่งที่จะทำต่อไปก็คือแนะนำสินค้าและเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการครับ หลายคนทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพเลย ที่จริงผมก็แนะนำไปได้หลายคนแล้ว แต่คราวนี้มีข้อมูลเพิ่มขึ้น น่าจะแนะนำได้มั่นใจมากขึ้นครับ ส่วนเป้าหมายเดือนนี้ ผมจะเป็น 21% ครับ" เล็กพูดจาฉาดฉานด้วยความมั่นใจ เจเป็นคนสอนอีกเช่นกันว่าต่อให้ไม่มั่นใจยังไง ก็ต้องพูดให้มั่นใจเข้าไว้ ตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ถึง ก็ยังดีกว่าคนไม่กล้าตั้งเป้าหมาย แบบนั้นน่าอายมากกว่า

ทุกคนปรบมือดังลั่น ก่อนผลัดเข้ามาจับมือเล็กและให้กำลังใจว่า "คุณทำได้" แน่นอน อัปไลน์ของเล็กก็มาจับมือด้วย คงไม่กล้าเป็นคนเดียวที่ไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน

"คุณเล็กทำได้ครับ" เจกระชับมือแน่น น้ำเสียงอบอุ่นยังดูน่าฟังเหมือนเดิม ฟังแล้วอุ่นไปทั้งใจ

จากนั้นคนอื่นๆ ก็พูดต่อจากเล็ก นอกจากให้คนอื่นจับมือแล้ว เล็กก็ยังชอบจับมือและให้กำลังใจคนอื่นด้วย ทำบ่อยจนเริ่มติด เดี๋ยวนี้เล็กมักเผลอตบมือหรือจับมือให้กำลังใจคนอื่นบ่อยๆ แม้จะดูแปลกสำหรับคนวงนอกไปบ้างก็ตาม

หลังอาฟเตอร์ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ คนกลับแท็กซี่อย่างเล็กแย่หน่อยเพราะรถติดมาก เล็กจึงเข้าไปซื้อของในช็อปฆ่าเวลา ซื้อของเสร็จก็มานั่งรอตรงที่นั่งที่จัดไว้ตรงโถงทางเดินชั้นล่าง รอคอยให้การจราจรคลายความหนาแน่นลง มีโทรศัพท์ติดต่อเรื่องงานมาสองสามสาย คุณสนิทเป็นคนโทรมาบอก แต่เล็กก็ปฏิเสธไปทุกงานเพราะจะให้ถ่ายเซ็กซี่หรืองานแนวนั้นอีกแล้ว

อยู่ๆ เล็กก็รู้สึกว่ามีคนมานั่งด้วย พอหันไปมองก็ตกใจเล็กน้อย

"ตามหาอยู่ตั้งนาน นึกว่าคุณเล็กกลับไปซะแล้ว" หนุ่มตาตี่เจ้าของเสียงอบอุ่นทำท่าเหมือนตัดพ้อ แต่สีหน้าก็ดูยิ้มๆ จากนั้นก็เอ่ยชวน "ไปกินอะไรอร่อยๆ กันไหมครับ ผมรู้จักร้านอาหารอิตาเลี่ยนแถวๆ สุขุมวิทร้านหนึ่ง อร่อยมาก ทั้งบ้านผมชอบร้านนี้มาก ไปกินกันแทบทุกเดือน คุณเล็กอยากลองไปกินดูไหมครับ"

"เอ่อ..." เล็กลังเล เป็นเพราะสงสัยพฤติกรรมแปลกๆ ของเจมากกว่า เมื่อกี้ยังดูห่างเหินอยู่เลย อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบ

"ผมว่าจะคุยอะไรกับคุณเล็กหน่อยน่ะครับ พอมีเวลาไหมครับ ไปไหนหรือเปล่า" เจอธิบาย

เล็กส่ายหน้า "ไม่ได้ไปไหนครับ วันนี้ไม่มีงาน"

"งั้นไปกินข้าวกับผมนะครับ" เจถามย้ำ

"เอ...อาหารอิตาเลี่ยนมีข้าวด้วยเหรอครับ" เล็กพูดหยอก จากนั้นก็หัวเราะพร้อมกัน

"ไปนะครับคุณเล็ก" เจถามอีกรอบ แม้รู้ว่าเล็กไม่ขัดข้อง แต่ก็อยากให้ตอบให้ชัดเจน

"ครับผม" เล็กรับคำ ก่อนลุกขึ้นพร้อมถุงกระดาษสามสี่ใบที่บรรจุสินค้าที่เพิ่งซื้อมา

"ผมช่วยถือนะครับ" เจถามพลางถือวิสาสะแบ่งถุงบางส่วนมาถือไว้ "ทีหลัง...คุณเล็กไม่ต้องกลับคนเดียวก็ได้ เดี๋ยวผมไปส่ง"

"อย่าเลยครับคุณเจ เกรงใจดาวน์ไลน์คนอื่นๆ เดี๋ยวเขาจะน้อยใจนะครับ" เล็กแย้ง

"ถ้าเป็นแค่ดาวน์ไลน์...ผมก็คงไม่ไปรับไปส่งแบบนี้หรอกครับ" สายตาของเจเป็นประกายวิบวับ ส่วนอีกคนอึ้งกิมกี่และครุ่นคิด

'ถ้าไม่ใช่แค่ดาวน์ไลน์...แล้วเป็นอะไรล่ะ'

--- <+> -- <+> --- <+> -- <+> --- <+> -- <+> ---

เสียงช้อนส้อมดังโคร้งเคร้งปะปนกับอีกหลายเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงคนคุยกัน เสียงเดิน หรือเสียงรถราข้างนอกที่แทรกเข้ามาเบาๆ บรรยากาศอย่างนี้คือร้านอาหารอย่างไม่ต้องสงสัย

วันนี้ลูกค้าหนาตา หลายโต๊ะที่สั่งอาหารต้องรอนานหน่อย แต่ระหว่างรอก็ถือโอกาสคุยกันไปด้วย บางโต๊ะได้อาหารแล้วก็กินไปคุยไป มีเพียงโต๊ะหนึ่งติดกำแพงกระจกด้านหน้าเท่านั้นที่ยังดูเงียบๆ ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟก็ยังไม่คุยกัน ได้แต่มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ยิ้มบ้างเล็กน้อย ทั้งที่มีเรื่องอยากพูดมีร้อยแปด แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าใครจะเริ่มก่อน ขนาดนั่งมาในรถด้วยกันยังนั่งเงียบๆ มาตลอดทาง

"คุณเล็กครับ" เจขอเป็นคนเริ่มก่อนหลังผ่านไปสักพัก "เอ่อ...เมื่อคืน...คุณเล็กนอนหลับสบายไหมครับ"

ในที่สุดก็ได้หัวข้อแรกสำหรับพูดคุยเสียที

"อ๋อ...หลับสบายดีครับ" เล็กตอบยิ้มๆ มือกุมประสานกันบนตัก โยกตัวไปมาเล็กน้อยคล้ายคนประหม่า ก่อนมองไปรอบๆ ร้านและพักสายตาค้างไว้ที่แก้วน้ำบนโต๊ะอาหาร

"เหรอครับ ทำไม...ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย" เจชวนคุยต่อ

"อากาศร้อนเหรอครับ" เล็กเงยหน้ามาถาม สักพักก็หลบลงต่ำเล็กน้อย

"เปล่าครับ สงสัยคงจะเป็นเพราะว่า...มีเรื่องให้คิดเยอะน่ะครับ" เจยิ้มกริ่ม

"อ๋อ...เครียดเรื่องงานเหรอครับ"

"ไม่ใช่เรื่องเครียดครับ" เจรีบแย้ง "แต่เป็นเรื่อง...ความฝันสี่อย่าง จำได้ไหมครับ ที่ผมส่งให้คุณเล็กเมื่อคืนนี้"

"อ้อ..." เล็กพยักหน้า "ทำไมถึงคิดเรื่องนี้ล่ะครับ หรือว่า...ยังมีไม่ครบทุกข้อ"

"ครับ" เจรับคำ เล็กเงยหน้ามาสบตาทันที เจจึงถือโอกาสนี้พูดต่อ "แล้ว...คุณเล็กนึกออกหรือยังว่าผมขาดข้อไหน"

"ไม่รู้ครับ" เล็กตอบยิ้มๆ นึกกลัวว่าตัวเองจะเขินจนม้วน สายตาของเจที่มองมาตอนนี้ร้ายกาจเหลือเกิน

"เดาสิครับ" เจรุกต่อ

"อย่าเลยครับ ผมไม่ชอบเดา" เล็กเฉไฉ จากนั้นก็พาเปลี่ยนเรื่อง "ทำไมวันนี้คุณเจ...ไม่ค่อยคุยกับผมเลยครับ"

เจหัวเราะร่วน "อย่าถือสาผมเลยคุณเล็ก บางทีคนเราก็ทำอะไรแปลกๆ อย่างงี้แหละ โดยเฉพาะเวลามีอะไรบางอย่างพิเศษ คุณเล็กรู้ไหมครับว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้คนเราทำตัวแปลกไปจากเดิมได้"

"ถูกหวยหรือเปล่าครับ" เล็กแกล้งเฉไฉ

เจพยักหน้าช้าๆ "อืม...ก็พอเป็นไปได้ แต่ผมไม่ซื้อหวย ทำยัวร์เวย์สำเร็จก็เหมือนถูกหวยทุกเดือนโดยไม่ต้องซื้ออยู่แล้วครับ " เจหัวเราะ จากนั้นก็ถามต่อ "แล้วคุณเล็กเคยทำตัวแปลกๆ ตอนไหนบ้างครับ"

"ยังไงเหรอครับ" เล็กงง

"อ้าว...ก็อย่างเช่น เวลามีความรักไงครับ อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำได้ อย่างเมื่อก่อน...ผมไม่ชอบหมานะ แต่พอชอบสาวคนหนึ่งที่ชอบเลี้ยงหมา ผมก็กลายเป็นชอบหมาไปเลย อะไรแบบนี้คุณเล็กมีไหมครับ"

เล็กพยักหน้า "ก็พอมีครับ"

เจพยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็เล่าต่อ "แล้วอีกอย่างนะครับ ผมเป็นคนขี้อายมาก ไม่ค่อยพูดหรอกเมื่อก่อน เพิ่งมาพูดเป็นตอนมาทำยัวร์เวย์นี่เองครับ แล้วเวลาที่ผมถูกใจใครนะครับ ผมมักจะอาย ไม่ค่อยกล้าพูดด้วย คุณเล็กเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ"

"อ๋อ...เคยสิครับ" เล็กตอบแค่นั้น แต่ใจจริงอยากบอกว่าตอนนี้ก็กำลังเป็นอยู่

"แต่โตขึ้นคงไม่เป็นแล้วมั้งครับ เมื่อคืน...คุณเล็กไม่เห็นอายเลย แถมยังกล้ามากด้วย" เจยิ้มกริ่ม ดีใจที่หาช่องพาเล็กมาจนถึงเรื่องที่ต้องการจนได้ "นั่นแหละ ผมก็เลยนอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืน"

เล็กทำหน้าตกใจเล็กน้อย "อ้อ...คุณเจลำบากใจมากเลยเหรอครับ"

แทนที่จะปฏิเสธ เจกลับพยักหน้ารับ "ครับ...ลำบากใจมากเลย"

"ผมขอโทษครับคุณเจ" เล็กหน้าเสีย "แต่ผมก็บอกคุณเจแล้ว...ถ้ารับไม่ได้ ก็แค่กองทิ้งไว้"

"คุณเล็กครับ ไม่มีผู้ชายที่ไหนรับเรื่องแบบนี้ได้นะครับ ส่วนมาก...ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว คุณเล็กก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่ามันจะจบยังไง" เจแสร้งทำเสียงจริงจัง

คราวนี้เล็กหน้าซีด หน้าเสียยิ่งกว่าเดิม "รู้ครับ หมายความว่า..." เสียงเล็กกลืนหายไป ใจหายวาบเพราะกลัวว่าเจจะรับไม่ได้ อาหารมือนี้คงจะเป็นการเลี้ยงส่งครั้งสุดท้าย

เจนึกเสียดายที่พาเล็กมาคุยกันที่ร้านอาหาร ไม่งั้นคงทำบางอย่างได้มากกว่านี้ แต่เมื่อมาแล้วคงทำอะไม่ได้ นอกจากแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ก่อนที่หนุ่มดาราหน้าซีดจะใจสลายไปเสียก่อน

บังเอิญเล็กวางมือไว้บนโต๊ะ เจจึงรีบคว้ามือคนฝั่งตรงข้ามมาจับไว้ เล็กทำท่าจะดึงหนีแต่พลันต้องหยุดเมื่อเจพูดประโยคหนึ่งออกมา

"คนอื่นรับไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะรับไม่ได้นะครับ"

เล็กตะลึงจนอ้าปากค้าง หัวใจที่กำลังจะเจ็บหนักพลันหยุดอาการกะทันหัน สัมผัสอบอุ่นจากมือนั้นคงหยุดกระแสความเจ็บปวดให้หยุดนิ่ง ไม่นานกระแสปลอบประโลมก็ไหลเวียนมาแทนที่

"คุณเล็กไม่อยากรู้เหรอครับว่าที่ผมพูดเมื่อคืน ผมหมายถึงอะไร"

ในวินาทีนี้ เล็กคงไม่กล้าเดา จึงได้แต่เงียบและรอฟัง

"เราสองคน...ขาดข้อสองเหมือนกันนะครับ" เจยิ้ม จากนั้นจึงค่อยๆ ปล่อยมือออก

"หมายความว่าคุณเจ..." เล็กไม่กล้าพูดต่อ

เจเป็นฝ่ายพักสายตาไว้ที่แก้วน้ำบ้าง จากนั้นก็ขำตัวเองเบาๆ ท่าทางเหมือนกำลังเขินอะไรบางอย่าง

"ไม่น่าจะเดายากแล้วมั้งครับ เมื่อคืน...ผมเขินจนต้องหนีกลับบ้าน เมื่อตอนบ่าย...ผมก็เขินจนไม่กล้าคุยด้วย ไม่กล้ามองหน้า ทำตัวไม่ถูก ผมเป็นแบบนี้ก็ตอนที่เจอ...คนพิเศษ...เท่านั้นแหละครับ"

"จริงเหรอครับคุณเจ" เล็กเผลออุทานเสียงดัง

"ชู่วววว" เจทำท่าจุ๊ปาก "เบาๆ ครับ คนมองใหญ่แล้ว"

เล็กยิ้มเขินๆ ก่อนหันไปมองรอบๆ มีคนหันมาสงสัยบ้าง แต่ไม่นานทุกคนก็กลับไปสนใจเรื่องของตัวเองต่อ

"ผมนะ...เคยคิดว่าตัวเองมีข้อสองมาตลอด แต่จริงๆ ก็ไม่เคยมีเลย เมื่อคืน...คุณเล็กเดาถูกหรือเปล่าครับว่าผมขาดข้อนี้"

เล็กพยักหน้า แทบจะเก็บอารมณ์ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว หัวใจข้างในเต้นรัวราวกับกลองรบสมัยอยุธยาเป็นราชธานี

"งั้นก็แสดงว่า...เราใจตรงกันใช่ไหมครับ" เจเฉลยตรงๆ ในที่สุด

"คุณเจ" เล็กเรียกชื่อนั้นด้วยความดีใจ ตอนแรกนึกโกรธที่เจแกล้งให้ตกใจเล่น แต่ตอนนี้โกรธไม่ลงแล้ว ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในร้านอาหาร เล็กคงได้ทำอะไรมากกว่ายิ้มให้

"เดี๋ยวเราไปคุยกันต่อที่บ้านคุณเล็กคืนนี้นะครับ" เจเสนอทางออกอย่างรู้ทัน

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 18:05:46 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
รู้สึกแปลกๆกับการแสดงออกของเจที่งานยัวร์เวย์  ต่อหน้าคนอื่นไม่สนใจเล็กกลัวว่าจะเป็นข่าวหรือเปล่า?  แต่มาทานอาหารกันแบบนี้ชะตาคุณเล็กที่จะโดนยัดเยียดให้เป็นเกย์แบบเปิดเผยโดยพวกปาปารัซซี่ใกล้เข้ามาแล้วสิ (ถึงเจ้าตัวกำลังจะเริ่มเป็นนิดๆแล้วก็เถอะ)

เราเห็นข่าวคุณ อั๊ต อัษฎา ถ่ายภาพลงนิตยสารเมื่อเร็วๆนี้ก็ให้นึกถึงคุณเล็กที่ถ่ายภาพลงนิตยสารเกย์  แต่คุณอั๊ตท่าทางจะไม่เข้าอิมเมจคุณเล็กเพราะดูอายุมากกว่าคุณเล็กในเรื่อง  เสียดายภาพน่าจะสวยกว่านี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
อั้ยยะ! อ่านทันแล้ว น่ารักมากมายเลย เฮ้อ! ใจตรงกันสักที ชอบ ชอบ  :mew3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
จะแย่หรือจะดี เมืีอมีคนแชะภาพมินิสวีทเจเล็กไป

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
เย้ๆมาอัพแล้ว เกือบหนึ่งอาทิตย์แน่ะ!!
สองคนนี้เริ่มจะเข้าใจกันได้ แต่ทำไม๊ทำไมต้องมีปาปารัสซี่เป็นมารผจญด้วยล่ะคะเนี่ย เราเข้าใจนะว่าในเมื่อเล็กเป็นดารากHต้องเกิดเรื่องแบบนี้สักวันอยู่ดี แต่อยากจะให้เกิดเรื่องตอนที่ทั้งสองคนนี้เข้าใจกันจริงๆ และพร้อมที่จะยืนเคียงข้างกัน ไม่ใช่ในตอนที่ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นแบบนี้ กลัวใจจริงๆว่าคนใดคนหนึ่งจะโดนโจมตีจนทนไม่ไหว เจมีครอบครัว และน้ำฝนที่ไม่รู้ว่าจะมาดีมาร้ายอีกตอนไหน ส่วนเล็กก็มีอาชีพดาราเป็นเดิมพัน สุดท้ายแล้วเล็กก็ยังเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดอยู่ดี เฮ้ออออออออ
ปล.รอตอนต่อไปอยู่นะคะ คนเขียนสู้ๆ!

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
เหมือนจะหวาน จะฟิน แต่ก็ไม่สุด เพราะรู้สึกว่า เจ ยังไม่ค่อยคิดอะไรกับเล็ก เหมือนที่เล็กคิดไปแล้ว เจพูดเหมือนให้ความหวังไงก็ไม่รู้ อาจจะชอบเล็กนั่นแหละแต่ก็ยังไม่กล้าจะยอมรับเท่าไหร่ แต่เล็กนี่สิดูจะไปไกลแล้ว เห็นใจกับความรักของเล็กซะแล้วสิ คือ ในมุมกลับกัน น่าจะเป็นเล็กที่กลัวคนอื่นรู้มากกว่าเจนะ เพราะเล็กเป็นดารา ใครก็รู้จัก แต่ดูเล็กไม่ค่อยหวั่นเท่าไหร่ ผิดกับเจที่กลัวไปแล้ว แต่น้อยใจแทนเล็กเลยนะที่เจทำเหมือนไม่สนใจ แล้วพอไม่มีใครก็มาคุยด้วยเหมือนเดิม จิ๊  :m16:

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ว๊ายๆๆมาให้กำลังขุ่นเล็ก  :กอด1:  :L2:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 :เฮ้อ:เพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายๆไป
ก็จะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทนหรอเนี่ย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
เรายังรู้สึกว่าเจจะหวาดกลัวไปซะหมด ผิดกับเล็กน่ะ แต่ก้ออย่างว่าเล็กผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำสุด ๆ ในชีวิตไปแล้ว ก้อไม่มีอะไรที่จะทำให้เขากลัวไปมากกว่านี้แล้วล่ะ เพราะเล็กรู้แล้วว่าชื่อเสียงเงินทองนั้นก้อเป็นเพียงวัตถุนอกกายมันมาได้มันก้อไปได้ ไม่เหมือนกับเพื่อนหรือคนรู้ใจที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ มันคือสิ่งที่เล็กให้ความสำคัญที่สุดในเวลานี้ แต่เจเขาพยายามมากเพื่อจะก้าวมาให้ถึงจุดนี้รวมทั้งต้องสูญเสียคนรักไปด้วย ก้อไม่แปลกที่เขาจะคิดมากกว่าเล็กหลายเท่าน่ะ คงต้องให้เจได้อธิบายการกระทำขอเขาให้กับเล็กแหละ นี่เพียงแค่การเริ่มที่จะจับมือไปยังจุดเริ่มต้นน่ะ ยังมีอุปสรรคระหว่างกันอีกมาก สู้ ๆ น่ะจ้ะ ทั้งสองคน :katai2-1:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ขออภัยหลายๆ พอดีกำลังเขียนอีกเรื่องติดพันอยู่ ความคิดกำลังแล่นครับ ยังไงจะมาต่อให้ไม่เกินวันศุกร์นี้นะครับ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รับทราบจ้าา.. o18 แต่อีกเรื่องนั้นช่างบาดหัวใจดีแท้~ T^T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด