^
^
^
สารบัญอยู่ข้างบนค่ะ
┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├
งวดที่ 1
หมดหนึ่งสัปดาห์สำหรับวันทำงาน เย็นวันศุกร์ที่หลายคนรอคอย ออกเที่ยวเฮฮาปาร์ตี้ มีนัดกับคนพิเศษ สารพัดเรื่องดี ๆ ที่รออยู่หลังเลิกงาน แต่ชีวิตมนุษย์เงินเดือนเพศชายวัยสามสิบหกปีอย่างเขาวนเวียนอยู่ในวัฏจักรเดิม ๆ
หลังภูเมศแยกทางกับภรรยาได้ราวครึ่งปี เขาเลี้ยงลูกชาย เธอเลี้ยงลูกสาว ทุกอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอยอยู่ในระดับคงที่ จะว่าสงบก็สงบ แต่จะว่าน่าเบื่อก็ใช่อีกนั่นละ
ศุกร์นี้ต่างจากเดิมนิดหน่อย ตรงลูกชายเขาไปค่ายกับทางโรงเรียน ไม่มีใครรออยู่บ้าน เขาเองที่เพิ่งเสร็จงานเสียเกือบค่ำจึงไม่ต้องกังวลเรื่องจะไปดื่มกับเพื่อนร่วมงานจนเมามายขนาดไหน ถือเป็นการฉลองที่จบโปรเจคต์ใหญ่ลงได้ด้วยดี พวกเขาเฮฮากันจนสี่ทุ่มกว่าจึงแยกย้ายกลับบ้านช่อง ออกจะเร็วไปสักหน่อยสำหรับการการสังสรรค์ของกลุ่มผู้ชาย แต่นั่นละ เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่มีลูกเมียกันทั้งนั้น ดีแล้วที่ไม่กลับดึกเกินไปจนคนที่บ้านต้องมานั่งรอ
แม้จะตั้งใจดื่มไม่มากนัก ทว่าเอาเข้าจริงบรรยากาศกลับพาไปจนมึนใช่เล่น ไอ้เมาก็คิดว่าไม่ถึงกับเมาหรอก แม้จะเดินชนคนนั้นคนนี้อยู่สองสามครั้งโดยไม่ตั้งใจ แต่มารู้ตัวว่ากระเป๋าสตางค์หายตอนกำลังจะหยิบเงินจ่ายค่าเบียร์ที่ซื้อมาเพิ่มนี่สิ จึงได้สำเหนียกว่าอาจดื่มหนักไปหน่อยแล้ว
หลังสบถออกมาได้สองสามคำ เตรียมจะคืนเบียร์สามกระป๋องให้พนักงานขาย เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“ของคุณหรือเปล่าครับ?”
ภูเมศหันกลับไปตามเสียงทัก เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ทันได้มองหน้าให้ชัด มัวแต่จ้องมืออีกฝ่ายซึ่งมีกระเป๋าสตางค์หนังสีดำคุ้นตาถืออยู่ ใบเดียวกับที่อดีตภรรยาเขาเคยซื้อให้
“เหมือนคุณจะทำหล่น”
“ใช่” ชายหนุ่มได้สติ รีบพยักหน้าหงึกหงัก ขอบคุณสวรรค์ เกือบได้เป็นเรื่องวุ่นวายเพราะความสะเพร่าแล้ว เงินหายไม่แย่เท่าสารพัดบัตรที่อยู่ในนั้น “นั่นของฉัน ขอบใจมาก”
จังหวะที่จะเอื้อมไปหยิบคืน อีกฝ่ายกลับขยับกระเป๋าสตางค์หนีไปดื้อ ๆ
“บอกชื่อก่อนครับ”
“หือ?”
“บอกชื่อคุณก่อน ว่าตรงกับบัตรในนี้หรือเปล่า ผมจะได้รู้ว่าคุณเป็นเจ้าของจริง ๆ ไม่ใช่สวมรอย ไม่งั้นคงต้องเอาของไปส่งตำรวจ”
ชายหนุ่มยกมือเกาหัวแกรก ๆ นึกรำคาญใจนิดหน่อย แต่คิดในแง่ดีว่า โอเค รอบคอบใช้ได้ ดูเป็นเด็กฉลาดและตรงไปตรงมา
“ภูเมศ นพคุณา” เขาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำที่สุดเท่าที่คนเมา—คงเมาแล้วจริง ๆ— จะส่งเสียงได้ “เอาเลขประจำตัวประชาชนด้วยไหม”
“ไม่เป็นไร นี่กระเป๋าคุณ” อีกฝ่ายว่า พร้อมกับส่งมันคืนให้เขา “คุณดูว่าของครบหรือเปล่า”
ชายหนุ่มรับกระเป๋ามาเปิดดูบัตรสำคัญในนั้น เห็นว่าทุกอย่างอยู่ครบถ้วนดี แม้แต่เงินยังอยู่เท่าเดิมหลังแยกย้ายกับเพื่อนที่ร้าน เท่านั้นก็ให้ถอนหายใจโล่งอกออกมายาวเหยียด
“ขอบใจมาก เก็บได้จากไหนหรือ?”
เด็กหนุ่มไม่ตอบ แต่ช่างเถอะ ของได้คืนแล้ว เรื่องนั้นเขาไม่คิดใส่ใจ หันไปจ่ายค่าเบียร์เสร็จก็กลับมามองอีกฝ่ายซึ่งยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอีกครั้ง
“อ้อ..ฉันควรให้รางวัลด้วยสินะ” ภูเมศหัวเราะในลำคอ ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ เปิดกระเป๋าเตรียมหยิบเงินออกมา “เป็นรางวัลของพลเมืองดี เท่าไหร่ดีล่ะ”
“คุณเมา?”
“คงงั้น”
คนตรงหน้าก้มลงมองถุงใส่เบียร์กระป๋องในมือเขา “ยังดื่มต่ออีกหรือ”
เขายักไหล่ “คืนวันศุกร์นี่”
“ผมดื่มเป็นเพื่อนไหม”
หลังจากอึ้งไปหนึ่งอึดใจ ภูเมศก็หัวเราะออกมา “เอาสิ! บรรลุนิติภาวะแล้วใช่ไหม” ว่าพลางเปิดกระป๋องเบียร์แล้วยื่นให้เด็กหนุ่มตรงหน้า “เอ้า ฉันเลี้ยง”
ทว่าหลังจากนั้นกลับตามมาด้วยคำถามที่ทำให้อึ้งไปนานกว่าเก่า
“นอนกับผมไหม?”แต่แรกก็ไม่คิดจะขับรถกลับบ้านด้วยสภาพแบบนี้อยู่แล้ว ตั้งใจว่าคงนั่งแท็กซี่หรือไม่ก็พักโรงแรมถูก ๆ ในละแวกไปเลยสักคืน แต่ไม่คิดว่าจะอาการหนักจนถึงขั้นหิ้วผู้ชายไม่รู้หัวนอนปลายเท้า...ไม่รู้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ...เข้าโรงแรม..
“คุณเป็นรุกหรือรับ”
ภูเมศนิ่งไป มองเด็กหนุ่มในสภาพกึ่งเปลือยตรงหน้า อีกฝ่ายรูปร่างค่อนข้างผอม แต่กล้ามเนื้อสมส่วน ดวงหน้าอ่อนเยาว์ อย่างไรก็อายุไม่น่าเกินยี่สิบต้น ๆ ทว่าสายตากลับเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ดูไม่ออกเลยว่าเป็นเกย์ และแยกลำบากด้วยว่าหากเป็นแล้วจะเป็นฝ่ายรุกหรือรับ
“ยังไม่ได้คิด” เขาพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง “ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย”
“ผมนึกว่าคุณเป็นเกย์”
“ไม่” เขาปฏิเสธ “มีเมียแล้ว”
“นอกใจภรรยาหรือครับ”
“เลิกกันแล้ว”
“เลยจะลองกับผู้ชาย?”
ตกลงเขาเมาหรือไอ้เด็กนี่เมา “เธอเป็นคนชวนฉันเองแท้ ๆ นะ”
อีกฝ่ายนิ่งไปครู่หนึ่ง ทำอย่างกับเพิ่งนึกได้ถึงความจริงข้อนั้น ก่อนจะยื่นข้อเสนอ “ผมเสียบคุณ ขอสามพัน ถ้าคุณเสียบผม...”
เจ้าตัวหยุดพูดราวกับเสียงหายไปดื้อ ๆ จากนั้นสูดลมหายใจพร้อมกับแบมือชูห้านิ้วตรงหน้า
“ผมขอห้าพัน”
ไอ้เด็กนี่..
“เอางั้นเรอะ!?”
“ตามนั้น” เด็กหนุ่มพยักหน้า “แต่ถ้าไม่อยากทำแล้ว จะให้นอนเป็นเพื่อนคุยเฉย ๆ ผมขอพันนึง ผมคุยไม่เก่ง แต่เป็นผู้ฟังที่ดีใช้ได้ หน้าคุณดูอมทุกข์ คุณเล่าเรื่องไม่สบายใจกับผมได้ ผมไม่เอาไปแพร่งพรายที่ไหน”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เด็กคนนี้อะไร เอะอะเป็นเงินเป็นทอง “ร้อนเงินรึไง”
“นิดหน่อย”
“ปกติขายอยู่แล้วหรือเปล่า”
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับธุระของเรา”
“เกี่ยวสิ” เขายกมือลูบคาง มองอีกฝ่ายอย่างพิจารณาเป็นครั้งแรก แล้วก็พบว่าเจ้าตัวจัดเป็นเด็กหน้าตาดีทีเดียว จะว่าหล่อก็หล่อ ว่าสวยก็สวย เนื้อตัวดูสะอาดสะอ้าน ท่าทางไม่เหมือนพวกขายร่างกายให้คนนั้นคนนี้ เพียงแต่.. “ถ้าเธอเป็นโรคขึ้นมา ฉันไม่แย่หรือ”
เด็กหนุ่มไม่สะทกสะท้านสักนิด เหลือบมองหน้าเขาเพียงแวบเดียว จากนั้นลุกขึ้นนั่งตรงปลายเตียง หยิบเสื้อตัวเองขึ้นมาสวม ติดกระดุมตั้งแต่เม็ดแรกจนเม็ดสุดท้ายด้วยท่วงท่าเนิบนาบ “ถ้างั้นถือว่าคุณหมดธุระกับผมแล้ว ขอตัวไปทำงานต่อ แต่ค่าห้องคงต้องรบกวนคุณรับผิดชอบเองนะครับ”
“เดี๋ยวสิ” รู้ตัวอีกที แขนของเด็กคนนั้นก็อยู่ในมือเขาแล้ว
“ครับ?”
“จะไป...” เกือบถามว่า จะไป
‘ขาย’ ให้คนอื่นต่อหรือ? เข้าเสียแล้ว แต่กลับรู้สึกกระดากใจขึ้นมาจนต้องปรับคำพูดใหม่ “จะไป..คุยธุระของเธอ...กับคนอื่นต่อหรือ?”
“นั่นก็ไม่เกี่ยวกับธุระของเราเหมือนกันครับ”
เขายกมืออีกข้างที่ยังว่างเสยผม เหงื่อซึมอยู่บนขมับ นี่แอร์ไม่เย็นหรือมีแต่เขาที่ร้อนกันนะ
“โอเค งั้นเรามาคุย
‘ธุระ’ ของเรา”
ยังไม่ทันได้คำตอบเรื่องเครื่องปรับอากาศ เสื้อผ้าก็หลุดจากตัวอย่างรวดเร็ว..
ร่างกายผู้ชายตรงไปตรงมากว่าที่คิด โดยเฉพาะร่างกายผู้ชายที่เพิ่งดื่มมาไม่น้อย ไม่ต้องเปลืองแรงกระตุ้นมากมายก็พร้อมรบทัพจับศึกอย่างรู้งาน
“ใส่ถุงยางด้วย”
ภูเมศชะงักไป
“ไม่กลัวผมเป็นโรคหรือ”
เขาหัวเราะ รู้สึกโดนย้อนศรเข้าแล้ว แต่กลับยังอารมณ์ดีนักหนาจนไม่ขุ่นเคืองสักนิด สงสัยเมาหนักเอาจริง ๆ
“นั่นสิ”
สุดท้ายก็จ่ายไปห้าพันบาทด้วยเงินสด“นี่ครั้งแรกของเธอเรอะ!?”
“เปล่า” เด็กหนุ่มปฏิเสธ “ผมเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนแล้ว”
เคยแล้วงั้นหรือ ชายหนุ่มขมวดคิ้วน้อย ๆ อย่างข้องใจ แล้วตอนทำไหงทำหน้าอย่างกับจะเป็นจะตาย ต่อให้จะไม่ได้คร่ำครวญอะไรนักหนาก็เถอะ
ครั้นเลื่อนสายตาไปยังรอยแดงจาง ๆ ปนคราบคาวบนผ้าปูที่นอน ก็ให้รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาจนจุกในลำคอ อาจแค่ถลอกเป็นแผลเล็ก ๆ ด้วยความรีบร้อนขาดประสบการณ์ของเขา แต่ก็ออกจะรบกวนความรู้สึกอยู่ไม่น้อย “แต่ว่า...”
“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก” เด็กหนุ่มว่าพลางพลิกตัวนอนตะแคง หันหลังให้เขา มองไม่เห็นสีหน้าขณะแจกแจงออกมาให้ฟังทีละประเด็น “ข้อแรก ผมบรรลุนิติภาวะแล้ว ผมสมยอม คุณไม่ได้ข่มขืน ข้อสอง ผมได้เงินเป็นการแลกเปลี่ยน ข้อสาม คุณไม่ใช่คนแรกของผม อย่าสำคัญตัวเองผิด”
“ปาก...” ถึงกับหลุดพึมพำออกมาอย่างนั้น “ไหนว่าเป็นผู้ฟังที่ดี นี่ออกจะพูดมาก”
“ถ้าคุณไม่อยากให้พูด ผมก็จะไม่พูด”
ไม่น่ารักเลย...ไม่น่ารักเลย...ในหัวเขามีแต่วลีนี้วิ่งวนไปมาซ้ำ ๆ แต่กลับละสายตาจากเอวที่คอดเข้าไปเล็กน้อยและสะโพกแน่นของคนตรงหน้าไม่ได้สักนิด แถมยิ่งมองยังยิ่งเตลิดอีก และอาจด้วยฤทธิ์เหล้าที่ยังตกค้างอยู่ จึงได้ทำอะไรไม่ค่อยยั้งคิด กว่าจะรู้ตัว ฝ่ามือตัวเองก็ลากไปตามแนวกล้ามเนื้อแถวสีข้างของเด็กหนุ่มเสียแล้ว
“ถ้าต่ออีกครั้ง..ก็อีกห้าพันนะครับ”
เขาชะงัก
“ขอเงินสด”
หมดมู้ด แทบสร่างเลยทีเดียว เด็กบ้านี่อะไร โก่งค่าตัวเหลือเชื่อ ตัวเองพูดเองว่าไม่ใช่ครั้งแรกแท้ ๆ แล้วเขาที่โง่มาเสียเงินเกินจำเป็นกับเรื่องพิลึกแบบนี้เรียกอะไร ใช่ควายหรือเปล่า
“เธอนี่นะ” เขาโคลงศีรษะอ่อนใจ ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ แทน ปกติเป็นพวกไม่พกเงินสดเยอะอยู่แล้ว จึงตัดใจพอแค่นี้ก่อน อะไรที่เหมือนจะตื่นตัวอยู่เมื่อครู่ฝ่อลงไปกว่าครึ่ง “จะเอาเงินไปทำอะไร”
“ไม่เกี่ยวกับธุระของเราครับ”
พูดซ้ำ ๆ เป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่ได้!
“บอกมา” เขากัดฟันเสนอ “ฉันให้คำตอบละร้อย”
“ห้าร้อย”
มีโก่งราคาอีก
“สองร้อย”
“สามร้อย”
“เออ!” ชายหนุ่มถอนใจเฮือก คล้ายว่าได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากอีกฝั่ง แต่เมื่อลุกขึ้นชะเง้อมอง กลับเห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายไม่ได้เปลี่ยนแปลงสักเท่าไร อาจแค่หูเฝื่อนไปเอง
“จะซื้อมือถือใหม่” เด็กหนุ่มว่าอย่างนั้น น้ำเสียงราบเรียบเหมือนเบื่อโลกเต็มแก่ “ถามอะไรอีกไหมครับ..คำตอบละสามร้อย”
“เฮ้อ..”
คืนนั้นเจอกันอย่างงง ๆ และแยกกันอย่างมึน ๆ ถึงจะใช้ถุงยางอนามัย แต่พอสร่างเมาวันถัดมาก็ไปขอเจาะเลือดตรวจเชื้อ HIV ที่คลินิก ไม่พบติดเชื้อ หมอแนะนำว่าถ้าไม่สบายใจให้ลองมาเจาะซ้ำอีก 2-3 เดือนให้หลัง แต่ถ้าใช้ถุงยางก็ไม่น่ามีปัญหา
ผ่านไปราวสองสัปดาห์ เป็นช่วงเวลาที่คิดว่าควรลืมเรื่องของเจ้าเด็กที่นอนด้วยกันโดยยังไม่ทันได้ถามชื่อนั่นไปแล้ว แต่น่าแปลกที่ใบหน้านิ่ง ๆ นั้นกลับวนเวียนอยู่ในความทรงจำไม่จาง แถมในเช้าบางวัน ยังชัดเจนจนทำเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาประสาทกับตัวเอง
เสียงครางต่ำของเด็กหนุ่มใต้ร่างเขา หัวคิ้วขมวดมุ่นบนดวงหน้าชวนมองที่มีเม็ดเหงื่อเกาะพราว ทั้งหมดนั้นชัดเจนอย่างกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ยังจำได้ถึงความรู้สึกที่ส่วนล่างของเด็กคนนั้นตอดรัดเขาไว้แน่นราวกับไม่เคยมีอะไรชำแรกเข้าไปมาก่อน นั่นไม่ใช่ครั้งแรกจริงหรือ เขายังนึกสงสัย
ชายหนุ่มส่ายหน้างุ่นง่าน ไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงเรื่องอะไรแบบนี้สักหน่อย ก็แค่เด็กร้อนเงินจนเสนอตัวให้เขาคืนหนึ่ง จะอะไรนักหนาเชียว
ประตูร้านสะดวกซื้อเปิดรับลูกค้าพร้อมเสียงพนักงานแข่งกันร้องต้อนรับจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไปคว้าตะกร้า หยิบเครื่องดื่มกับของกินโยน ๆ ใส่ ตั้งใจหิ้วกลับไปกินที่บริษัทระหว่างสะสางงานให้เสร็จ ใกล้สิ้นเดือนแล้วยังเหลือที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยอีกเยอะเอาการ คืนนี้กว่าจะได้กลับบ้านคงมืดค่ำ
เอาเข้าจริง ของที่ตั้งใจว่าจะซื้อแค่นิดหน่อยกลับเล่นซะเกือบเต็มตะกร้า ว่าเหม่อคงใช่ เดินไปก็หยิบไปเรื่อย หลังวนได้สองรอบจึงมาหยุดอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์รอจ่ายเงิน ทว่าเงยขึ้นมองกลับพบใบหน้าเดียวกับที่หลอกหลอนเขานับแต่จากกันคืนนั้น
“...เธอ..”
“เซเว่นสวัสดีครับ”
ทำอย่างกับคนไม่รู้จักกัน
“เฮ้ นี่...” จะเรียกชื่อจึงนึกได้ว่าไม่รู้จักชื่ออีก...เออ ก็ไม่รู้จักกันจริง ๆ นี่หว่า ยังไม่ทันอ่านป้ายชื่อพนักงาน เจ้าตัวก็จับมันพลิกเอาด้านหลังออกแบบเนียน ๆ เหมือนรู้ทัน เขาเพ่งเอา ๆ จนแน่ใจว่าคนเดียวกันแน่นอน ก่อนจะสังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือตกรุ่นที่ห้อยอยู่กับคอ เกิดข้องใจขึ้นมาจนต้องเอ่ยปากถาม
“ไหนบอกเอาไปซื้อมือถือ”
“แค่นั้นไม่พอซื้อหรอกครับ”
“บอกขาดอีกแค่ไม่กี่พัน ได้วันนั้นก็ครบแล้วไม่ใช่หรือ?”
อีกฝ่ายมองเขานิ่ง ครู่เดียวก็ทำหน้าจนใจ “โกหกน่ะครับ ไม่ได้กะซื้อใหม่แต่แรก”
“ถ้างั้นเอาเงินไปทำอะไร” เขาถาม ทั้งที่รู้อยู่ว่าจะได้คำตอบแบบไหนกลับมา
“ไม่เกี่ยวกับธุระของเราครับ”
ถึงกับถอนใจเฮือก
“...คุณไม่ได้บอก..ว่าห้ามโกหกนี่ครับ”
เขาขมวดคิ้ว หลังได้ยินเสียงงึมงำจากคนตรงหน้า เมื่อมองชัด ๆ ก็พบว่าอีกฝ่ายหลุบตาลงต่ำคล้ายสำนึกผิด ที่ผ่านมาเห็นเจ้าตัวไม่ค่อยเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยอะไรก่อน แถมยังด้วยท่าทางแบบนั้นอีก นำความรู้สึกประหลาดโผล่มารบกวนจิตใจเขาอยู่ไม่น้อย
“งั้นห้ามโกหก”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณสั่งผมแบบนั้นไม่ได้” สีหน้านิ่ง ๆ แบบเดิมกลับมาแล้ว เมื่อรวมกับคำพูดที่ออกจากปาก ช่างน่าหมั่นไส้เกินบรรยาย “..แต่ผมช่วยโกหกให้คุณได้ว่าจะไม่โกหก”
เด็กเวรนี่!
“เอาละ ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาตรงหน้าอย่างรำคาญใจ “ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ”
“สามร้อยครับ”
ชายหนุ่มชะงัก จ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“แค่ถามชื่อก็จะเอาเงินเรอะ!?”
“สามร้อยบาท ค่าสินค้าครับ”
ลูกค้าจากเคาน์เตอร์ข้าง ๆ หัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น ไหนจะไอ้พนักงานเจ้าปัญหาตรงหน้า ที่แม้ไม่ได้ฉีกยิ้มชัดเจน แต่ดันมีลักยิ้มโผล่ขึ้นน้อย ๆ บนแก้มซ้ายอีก
ไม่น่ารักเลย...ไม่น่ารักเลย!
“ได้รับสิทธิ์แลกซื้อเจ็ดสิทธิ์ รับชาเพิ่มอีกขวดไหมครับ”
“ไม่” เขาจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
“รับเค้กสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ อันนี้สินค้ามาใหม่”
“ไม่”
เขายืดตัว กอดอก รอจนลูกค้าที่เคาน์เตอร์ข้าง ๆ เดินออกไปก่อนจึงเหลียวกลับมาบอกกับพนักงานหนุ่ม สบตาไปด้วยตลอดเวลาอย่างจงใจ “เอาถุงยางเพิ่ม”
อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้าน ผายมือไปยังชั้นวางอย่างพนักงานมืออาชีพ “เชิญคุณลูกค้าเลือกหยิบได้เลยครับ”
ภูเมศหรี่ตา มองสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของคนอีกฝั่งเคาน์เตอร์
“กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่เธอชอบไหม?”
เจ้าตัวนิ่งไปอึดใจ จากนั้นตอบกลับมาเสียงเรียบ “สามร้อย”
“คืนนี้เลิกงานกี่โมง”
“รวมเป็นหกร้อย”
“โอเค” เขายกมือขึ้นเสยผม นี่มันงี่เง่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ความรู้สึกอยากเอาชนะนี้ไม่รู้โผล่มาจากไหน “หกร้อย”
เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นตอบทีละคำถาม “กลิ่นช็อกโกแลตน่าจะดี คืนนี้ผมเลิกงานสี่ทุ่มครึ่ง”
ชายหนุ่มพยักหน้า หยิบถุงยางอนามัยกลิ่นช็อกโกแลตขึ้นมาคิดเงินอีกกล่อง
“เลิกงานจะมารับ” เขาหยุดคิดครู่หนึ่งจึงพูดต่อช้า ๆ ชัด ๆ
“พร้อมเงินสดหนึ่งหมื่น”To be continued
===================================
สวัสดีค่ะ

*ไหว้ย่อ*
คิดถึงมากกกก (ถ้าเผื่อยังจำกันได้) แง ห่างเหินการเขียนนิยายไปพักใหญ่เลยค่ะ ติดเรียน
แต่ถามว่าวันนี้โผล่มาได้ไง สารภาพความจริงคือ ตั้งใจจะเขียนตอนพิเศษของเล่ห์รักฤดูร้อน หรือไม่ก็ รักติดดิน (ที่เคยลงเล้านี่แหละค่ะ แต่จบไปแล้ว) แต่ดันนึกพล็อตเรื่องใหม่ได้ซะงั้น
อย่ากระนั้นเลย ไหน ๆ นึกออกแล้ว พิมพ์ไปพิมพ์มาดันได้ตอนแรกออกมาเรียบร้อย สด ๆ ร้อน ๆ << อาการหนักแล้ว
ก็เลยแปะซะเลยค่ะ ช่วยทำเป็นมองข้ามชื่อเรื่องง่าว ๆ ไปทีนะคะ คิดไม่ออกจริง ๆ ฮา
เรื่องนี้คิดว่าคงค่อย ๆ อัพไปค่ะ พรากกกก ขอฝากชายหนุ่มสามสิบกว่า วัยกำลังแซ่บ(?) กับหนุ่มน้อย (ที่จริงยี่สิบกว่าก็ไม่น้อย) ผู้ยังไม่ปรากฏชื่ออีกคนไว้เอ็นดู ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่เข้ามาอ่าน
อนึ่ง แอบฝากผลงานเก่า ๆ ที่เคยเขียนไว้ด้วยค่ะ เผื่อสนใจ เรียงตามลำดับที่เขียนก่อน >> หลัง
ทั้งหมดเขียนจบแล้วค่ะ
สามารถอ่านเรื่องย่อของเรื่องข้างบนทั้งหมด ช่วยในการตัดสินใจอ่าน ได้ที่ คห.นี้นะคะ >>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36869.msg2293034#msg2293034ขอบคุณมาก ๆ ค่า >3<
แล้วพบกันงวดหน้านะคะ ^o^