งวดที่ 20 (ต่อ) ภูเมศจัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลังได้นอนหลับเต็มตาหนึ่งคืน ตื่นมาเห็นบรรยากาศสนุกสนานของผู้ร่วมบ้าน แล้วยังทำเจ้าคนหน้านิ่งแก้มแดงแจ๋ได้อีก อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แทบลืมความตึงเครียดของงานทั้งสัปดาห์ไปเสียสิ้น
ต่อให้มีความยุ่งยากผิดปกติไปบ้าง มีจุดพลาดอย่างน่าแปลกใจอยู่ครั้งสองครั้ง แต่หลังจากนี้เมื่อผ่านพ้นช่วงพิจารณาปรับตำแหน่งหน้าที่การงานประจำปีของบริษัทในเดือนหน้า เชื่อว่าหนทางน่าจะสดใสขึ้นไม่น้อย ในเมื่อตลอดทั้งปี เขาทุ่มเททำงานถึงเพียงนี้ ผลงานเด่น ๆ มีไม่น้อยหน้าใครอยู่เหมือนกัน เชื่อว่าอย่างไรคงต้องเข้าตาผู้บริหารระดับสูงบ้างละ
พอคิดอย่างนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นไปอีก ย่อตัวลงนั่งร่วมโต๊ะกับสมาชิกอีกสองคนที่รออยู่ก่อนแล้ว
อาหารบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลาย ไอร้อนบางเบาลอยขึ้นเหนือจานข้าวสวยที่วางรอไว้ เมื่อธัญญ์ลอบสะกิดแขนพร้อมภูมิเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เจ้าลูกชายก็ตักอาหารใส่จานเขาอย่างเอาอกเอาใจ พูดจาฉอเลาะไปด้วยแบบที่พอเดาได้ว่าต้องมีใครสอนมาเป็นแน่
“ช่วงนี้ทำงานหนัก พ่อต้องกินเยอะ ๆ นะครับ”
เขาพยักหน้าตอบอย่างนึกสนุก อดไม่ได้จะเหลือบมองคนบงการลูกชายที่นั่งอยู่ด้านหลังอีกที เดาไว้ว่าคงไม่พ้นเป็นสีหน้าเฉยสนิทจนชวนให้หมั่นไส้อีกแน่ ๆ ทว่าเอาเข้าจริง คล้ายว่าแม้แต่คนอย่างธัญญ์ก็มีช่วงหลุดกับเขาเหมือนกัน
แววตาที่ทอดมองมายามนี้กลับเชื่อมแสงอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มวาดเส้นโค้งเป็นรอยยิ้มอ่อนช้อยเป็นธรรมชาติ ไม่ทันตั้งตัวว่าเขาจะเบนสายตาขึ้นสบเข้าพอดี ต่อเมื่อสังเกตได้ว่าถูกมองกลับ พริบตาหนึ่งจากนั้น ทั้งใบหูและพวงแก้มก็แต้มสีเลือดฝาดจาง ๆ กลับไปเก๊กเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
แต่อะไรที่เห็นแล้วก็คือเห็นแล้วอยู่ดีนั่นละ
ภูเมศถึงกับหลุดหัวเราะออกมานิดหนึ่ง สีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของอีกฝ่ายที่แสนขัดกับผิวแก้มแดง ๆ ยิ่งชวนให้เจริญอาหาร ที่เขาว่าสุขจนจุกอกมันเป็นอย่างไร ตอนนี้ได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว เขาถึงกับอดไม่ได้จะเอื้อมมือไปใกล้ใบหน้าธัญญ์ เอานิ้วชี้จิ้มแก้มฝ่ายนั้นทั้งสองข้าง แล้วดันให้มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตลก
“ไม่เห็นต้องเก๊กเลย ยิ้มแบบเมื่อกี้น่ารักออกจะตาย”
หลุดปากแท้ ๆ แต่เห็นลูกชายไม่ได้มีทีท่าแปลกใจอะไร ทั้งยังจ้องตามมือเขาอย่างนึกสนุกอีกต่างหาก จึงได้ปล่อยเลยตามเลย ช่วยกันจ้องดวงหน้าหมดจดของธัญญ์ที่แม้จะทำนิ่งเนียนเต็มที่ แต่ผิวกลับขึ้นสีแดงเข้มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างทรยศเจ้าของ
“เวลากินข้าว ไม่เล่นสิครับ”
โดนทำกลบเกลื่อนด้วยมาดจริงจังกลับมาเสียนี่
“นั่นสินะ”
แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ บรรยากาศดีขนาดนี้ ให้ปล่อยผ่านไปก็น่าเสียดายอยู่ ดังนั้นถึงปากจะเออออห่อหมกไปด้วย แต่กลับนั่งมองธัญญ์ไม่วางตา จนแวบหนึ่งอดคิดไม่ได้ว่าพักหลังมา ตัวเองหน้าหนาได้ขนาดนี้เชียวหรือนี่
“
นั่นสินะแล้วก็กินสิครับ” คราวนี้ธัญญ์ที่เริ่มตั้งตัวติดจ้องกลับบ้าง เหมือนพวกเขากำลังเล่นเกมจ้องตา ใครหลบก่อนเป็นฝ่ายแพ้อย่างไรอย่างนั้น
สุดท้ายคนที่หัวเราะคิกออกมาคนแรกกลับเป็นพร้อมภูมิ ทำผู้ใหญ่อีกสองคนเหวอไปนิดหนึ่ง จากนั้นไม่รู้ใครเริ่มก่อน เสียงหัวเราะแผ่วเบาของทั้งสามคนค่อยคลอกันไป แม้แต่ธัญญ์ยังเป็นไปด้วยจนได้
บรรยากาศชวนอบอุ่นใจสมกับเป็นครอบครัว ภูเมศรู้สึกในอกพองโตขึ้นมาจนเต็มตื้นไปหมด เห็นรอยยิ้มทีเผลอของธัญญ์ ยิ่งรู้สึกว่าใบหน้าแบบนี้ต่างหากจึงเหมาะกับเจ้าตัวที่สุด
“ฉันชอบเวลาเธอยิ้มนะ” เขาพึมพำเสียงอ่อนโยน ตักเนื้อปลาให้ธัญญ์ชิ้นหนึ่ง ให้ลูกชายอีกชิ้นหนึ่งกลบอาการขัดเขิน “รู้ไหมเธอเหมาะกับสีหน้าอย่างนี้มาก”
พร้อมภูมิก้มลงสนใจปลาชิ้นใหญ่ในจาน เหลือบมองผู้ใหญ่ทีหนึ่งก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวโดยไม่ได้ขัดจังหวะพ่อตัวเอง
“ถ้าฉันทำให้เธอยิ้มได้แบบเมื่อกี้ตลอดไปก็คงดี” เอ่ยถึงตรงนี้ ภูเมศเริ่มรู้สึกตัวเองพูดมากจนเขินหนักขึ้นมาดื้อ ๆ ได้แต่หัวเราะแหะ “ว่าไปเรื่อย แต่เอาที่เธอสบายใจเถอะนะ ไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้อง อะไรอยากพูดก็พูด อะไรอยากทำก็ทำ ที่ไม่อยากก็ไม่เป็นไร ฉันไม่บังคับหรอก”
พอแจกแจงอย่างนั้น มือไม้กลับยิ่งรู้สึกเกะกะหนักกว่าเก่า จึงเลื่อนไปลูบผมลูกชายเบา ๆ แทนเหมือนจะหาตัวช่วยแบ่งปันความเขิน “เนอะ?”
พร้อมภูมิยังอุตส่าห์พยักหน้ารับอย่างรู้งานอีก ยิ้มแฉ่งไปด้วยอย่างน่าเอ็นดู เจ้าลูกคนนี้ใช้ได้เลยเชียว
ธัญญ์ถึงกับนิ่งไปครู่ใหญ่ พาภูเมศใจไม่ดีว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
สงสัยได้ไม่เท่าไร อีกฝ่ายกลับลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเอง ยื่นมือมาจับหน้าพร้อมภูมิให้หันไปมองอีกฝั่ง พึมพำข้างหูเด็กน้อยด้วยสีหน้าจริงจัง “ดูนั่น หุ่นรบลงจอดหน้าบ้าน”
พร้อมภูมิทำตาโต หันขวับตามคำบอก ระหว่างนั้นคุณพี่เลี้ยงก็ชะโงกหน้าไปอีกทางด้วยความว่องไว แนบริมฝีปากตัวเองลงตรงปลายคางคุณพ่อที่นั่งตาค้างอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้แต่คำกระซิบเสียงแผ่วหลังจากนั้นยังมัวตกใจจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง จับได้คล้ายว่าเป็น
“ที่ผมอยากทำคืออยู่กับคุณ ดูแลคุณ”
ก่อนธัญญ์จะถอยกลับไปนั่งที่เดิมในเวลาไม่ถึงอึดใจ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้รอพร้อมภูมิหันมาบ่น ไม่ทันสังเกตว่าแก้มผู้ใหญ่สองคนแดงเห่อไปถึงไหนต่อไหนภายใต้ทีท่าสงบนิ่ง
“พี่ธัญญ์โกหก ไม่เห็นมีอะไรเลย!”
“ก็โกหกไง” ธัญญ์พูดเรียบเรื่อย ตักผักบุ้งใส่จานพร้อมภูมิอีกช้อนโต ๆ อย่างกับจะแกล้ง รังแกเด็กต่อหน้าพ่อเห็น ๆ “หุ่นรบที่ไหนจะมาโผล่แถวนี้ได้ อย่าเผลอการ์ดตกสิ”
ภูเมศยกมือขึ้นแตะคางตัวเองเบา ๆ ระหว่างมองอีกสองคนถกเถียงกันไปมาทีเล่นทีจริง เขายังรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่แนบลงมาเมื่อกี้อยู่เลย ฝืนทำนิ่งอยู่ได้นับว่าเก่งกาจมากแล้ว
ธัญญ์มองมาคล้ายรู้ จากนั้นโดยไม่เว้นช่องว่างให้ตั้งตัว เรียวปากที่เขาชอบมอง ทั้งยังเพิ่งชมไปเองว่าเวลาคลี่ยิ้มแล้วดูดีนักหนา ก็ขยับยกขึ้นอีกหน ไร้ร่องรอยของความเสแสร้ง ไม่ได้ดูสวยงามเกินไปอย่างจงใจเช่นที่เคยเป็นบ่อย ๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่เห็นปลายฟันขาว ยิ้มจนตาหยี นัยน์ตาทอประกายเหมือนเด็ก ลักยิ้มบนแก้มซ้ายวางไว้เหมาะเจาะเป็นที่สุด
เขาใจเต้นโครมคราม เนื้อตัวเบาโหวง อายุขนาดนี้ กลับรู้สึกราวกำลังตกหลุมรักอีกหน..
เพิ่งยิ้มทำลายล้างออกมาขนาดนั้นแท้ ๆ แต่สุดท้ายธัญญ์กลับก้มลงไปกินข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยคนอายุมากกว่านั่งวุ่นวายใจ
บ้าฉิบ ไก่อ่อนจริง ๆ ขณะก่นด่าตัวเองอย่างนั้น ธัญญ์ก็เหลือบขึ้นมาพอดี มองเขาตาใสแวบหนึ่ง แล้วยิ้มแบบเดิมอีกครั้ง ย้ำจุดตายเข้าเต็ม ๆ เริ่มสงสัยแล้วว่าเกิดมาหนึ่งหน จะตกหลุมรักคนได้สักกี่ครั้งกัน
ภูเมศก้มหน้าก้มตาตักแกงจืดซด ไม่วายรู้สึกได้ถึงสายตาที่ทอดมองตามทุกอิริยาบถแต่ทำเป็นไม่สนใจ กลัวว่าขืนจ้องกลับนานกว่านี้ คงได้เผลอจับคนกินแทนข้าวแหง ๆ คงเหลือเพียงเสียงพูดคุยล้อเล่นระหว่างลูกชายกับพี่เลี้ยงที่ดังให้ได้ยินเป็นระยะ
มีบ้าน มีครอบครัว มีคนให้รัก ชีวิตเรียบง่ายเท่านี้ แต่ในหัวใจเขาพลันอบอุ่นขึ้นมา รอยยิ้มอ่อนโยนวาดขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
ต่อให้วันหน้ามีเรื่องต้องฝ่าฟัน แค่นึกถึงช่วงเวลาเช่นนี้ ก็รู้สึกราวกับว่าจะสามารถก้าวข้ามไปได้ทุกอย่าง
เขาลอบมองลูกชายและพี่เลี้ยงคนโปรดซึ่งเลิกจ้องเขาจนได้ในที่สุด ความรักฉายชัดในแววตา สัญญากับตัวเองจะดูแลทั้งคู่เป็นอย่างดี ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นจะไม่ปล่อยมือแน่นอน
To be continued…อัปค่ะะะ เฮฮฮฮฮ รอบนี้ทิ้งช่วงไม่ถึงสัปดาห์ แทนคำขอโทษที่รอบก่อนหายไปนานนะคะ >3<
ลุงได้มีบทสักที *แปะป้ายพระเอกไว้ให้กันคนสับสน* ถถถถถ
อนึ่ง งวดก่อนขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่ช่วยทักคำผิดให้ ถ้าเจอผิดอีกก็รบกวนช่วยทักช่วยเตือนด้วยนะคะ m(_ _)m
มีของแถมนิดหน่อยด้วยค่ะ งวดก่อนลืมแปะ
น้องธัญญ์ลุคเปลืองเนื้อเปลืองตัว(?)นี่วาดเพลินดีจริง ๆ ค่ะ ฮา

ส่วนอันนี้ดูเดิ้ลจากเมื่อตอนที่แล้ว ตอนน้องอยู่ ม.4 ช่วงที่ป๊ะกับคุณพี่ภาคีที่โรงเรียนค่ะ

แล้วพบกันงวดหน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ จะพยายามไม่ดองค่ะ พรากกกกส์
