(ต่อค่ะ)พฤกษ์ บอกตรงๆ ว่าผม... โคตรอายเลยครับ เรื่องอะไรนะหรือ ก็คำแนะนำตัวผมให้เพื่อนๆ รู้จักของหมอชลไงครับ
‘ส่วนทุกคนนี่พฤกษ์นะ 'ว่าที่แฟน'กูเอง’ให้ตายเถอะนอกจากจะหน้าด้านแล้วเขายังเป็นคนพูดเองเออเองและคิดไปเองอีกตั้งหาก ส่วนถ้าจะถามเหตุผลว่าทำไมผมถึงจะมากับได้คงต้องย้อนไปตอนบ่ายซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดและผมมักจะใช้ชีวิตในวันหยุดอยู่บ้าน แต่พอหลังจากที่ชีวิตของผมได้มาเจอและพัวผันกับผู้ชายที่ชื่อว่าชลธีชีวิตของผมก็เปลี่ยนไป วันหยุดที่ผมจะได้อยู่กับตัวเองดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือไปเรื่อยแบบที่คนไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครอย่างผมทำ มันกลับเปลี่ยนไป ผู้ชายที่ไม่ได้รับเชิญและกล้าเอ่ยปากบอกว่าจะ ‘จีบ’ ผมก็บุกมาหาผมตั้งแต่ช่วงเช้าแบบที่ผมยังไม่ตื่นดีด้วยซ้ำ จำได้ลางๆ ว่าโดนเอาเปรียบไปหลายอย่างซึ่งพอผมรู้สึกตัวเต็มที่ก็จัดการถีบเขาตกเตียงไปหนึ่งรอบ
หลังจากนั้นเขาก็คลุกอยู่กับผมไม่ยอมไปผุดไปเกิดทั้งๆ ที่ไล่ก็แล้ว พูดดีๆ ก็แล้ว ว่าก็แล้วแต่ก็ยังไม่ไปไหน ผมเลย... ถือซะว่าทำบุญทำทาน
และทุกอย่างมันควรจะพอแค่นั้นถ้าไม่ใช่เขาได้รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งคุย ตกลงกันอยู่สักพักแบบที่ผมแอบดีใจเงียบๆ ในใจว่าผมกำลังจะหลุดพ้นจากเขาเพราะเท่าที่จับใจความได้เขาจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หลังจากที่วางสายนั้นไป เขาก็โทรศัพท์หาคุณคินคุยกันอยู่สักพักก็วางแล้วหันมาบอกผมว่าวันนี้มีนัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ ซึ่งผมก็ไล่เขากลับทันที
แต่แทนที่เขาจะกลับไปตัวคนเดียวเขาพยายามทั้งลากทั้งดึงผมให้มาด้วยกันบอกว่าจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆ
‘ไปด้วยกันสิ ผมจะพาไปรู้จักเพื่อนสนิทของผม’ เขาพูดแบบนั้นแต่ผมก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
‘ไม่ไป ทำไมผมต้องไปกับคุณด้วย ปล่อยผมได้แล้ว’ ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องสะบัดมือสะบัดแขนทำตัวตุ้งติ้ง ผมแค่บอกเขาเสียงเรียบๆ เหมือนปกติพร้อมกับดึงมือเขาออกจากข้อมือของผมเอง
หมับ!
พอผมถึงมือเขาออกได้สำเร็จ เขาก็ใช้อีกมือจับข้อมืออีกข้างผมแทน ผมกับเขาเล่นดึงมือออก จับข้อมือกันอยู่หลายรอบจนผมนึกรำคาญตั้งใจว่าถ้าไม่ยอมปล่อยดีๆ คงต้องทำร้ายร่างกายกันอีกสักรอบ ปกติผมไม่ชอบทำรุนแรงกับใคร แต่กับคุณหมอชลธีมันคือข้อยกเว้น เพราะผมอยากจะยกขาถีบ หรือปล่อยหมัดใส่เขาบ่อยๆ
‘อย่าเล่นตัวเลยน่าพฤกษ์ ไปได้แล้ว’
ผมหันมองเขาทันที พูดว่ายังไงนะ เล่นตัว ผมเนี่ยนะเล่นตัว ผมว่าเขากำลังเข้าใจอาการของผมผิดแบบสุดๆ เลย ผมไม่ได้เล่นตัว แต่ผมรำคาญมาก
แล้วผลสรุปเป็นยังไงนะหรือ... ผมโดนเขาลากออกมาจนได้ ไม่รู้ลากออกมาตอนไหน อาจจะเป็นตอนที่ผมกำลังขมวดคิ้วนึกคำพูดที่จะว่าเขากลับ หรืออาจจะเป็นตอนที่ผมกำลังถอนหายใจอย่างรำคาญก็ได้ แต่ไม่ว่าจะตอนไหนผมก็โดนเขาลากมาจนได้
‘คุณจะไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ไปสิ จะลากผมไปด้วยทำไม’ ผมหันไปถามเขา
‘ก็บอกแล้วว่าพาไปแนะนำให้เพื่อนรู้จัก พาไปรู้จักกับเพื่อนสนิทผมไง’
ผมยอมแพ้ ยอมเหนื่อยที่จะพูดกับเขาจริงๆ มาคอนโดคุณคินซึ่งนั่นก็คอนโดเดียวกับพัทธ์ ผมค่อยหาจังหวะหนีไปเล่นกับน้องกันต์ดีกว่า
และนั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงได้มานั่งอยู่ในวงสังสรรค์ของบรรดาคุณหมอ ซึ่งเพื่อนของหมอชลแต่ละคน ผมว่ามีสามคนที่น่าคบหาด้วยที่สุดนั่นก็คือคุณคิน คุณนกยูงแล้วก็คุณพลอย ส่วนคุณเมฆกับคุณอัฐดูเหมือนกับเป็นฝาแฝดทางด้านนิสัยของหมอชลเลย ซึ่งผมไม่ถนัดรับมือกับคนแบบนี้
คุณคินคงรู้ว่าผมรู้สึกอึดอัดเขาถึงได้คอยชวนผมคุยบ่อยๆ รวมไปถึงคุณนกยูงกับคุณพลอยด้วย เหมือนในใหญ่แบ่งออกเป็นสองวงย่อยยังไงก็ไม่รู้สิ แต่ผมก็รู้ผ่อนคลายขึ้น
"ไอ้หมอคงสร้างเรื่องให้คุณวุ่นวาย รำคาญเยอะเลยสิครับ" คุณคินพูดกับผม
"ก็... ครับ" ผมรับคำ เพราะมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
พอผมรับคำ ทั้งคุณคินรวมไปถึงคุณนกยูงกับคุณพลอยก็หัวเราะ ก่อนที่คุณนกยูงจะพูด "ทำใจเถอะนะคุณพฤกษ์ เอาจริงๆ แล้วหมอชลก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอกค่ะ ถ้าตัดนิสัยชอบบังคับ พูดมาก เอาแต่ใจ พูดไม่ฟัง อืม... แล้วก็ช่างตื้อออกไป เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะคะ"
"ดูตัดนิสัยเยอะจังเลยนะครับ"
คุณนกยูงกับคุณพลอยหัวเราะทันทีก่อนจะพูดทำนองว่านั่นสินะ แทบจะตัดมันทุกนิสัยอยู่แล้ว "แต่เชื่อพวกเราเถอะค่ะ เห็นบ้าๆ บอๆ แบบนั้นแต่เขาก็เป็นถึงคุณหมอ และถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหาอะไรเขาก็พร้อมจะช่วยเหลือแบบเต็มใจเสมอ" ผมหันไปมองคนที่ถูกพูดถึงซึ่งตอนนี้กำลังแข่งดวลเหล้ากับหมออัฐและหมอเมฆ
ถามจริง... พวกนี้คือคุณหมอจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?ผมไม่ได้แตะแอลกอฮอล์ครับเพราะผมต้องกลับบ้าน อีกอย่างถ้าไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ทำให้อยากดื่มผมก็จะไม่ดื่มของพวกนี้อยู่แล้ว พวกคุณหมอทั้งหกคนดื่มกันไปเฮฮากันไปอยู่นาน ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณนกยูงกับคุณพลอยจะคอแข็งไม่ใช่เล่น ดื่มไปหลายแก้วแล้วยังดูสบายๆ กันอยู่เลย ส่วนคนที่ไม่น่าจะอาการหนัก แต่กลับอาการหนักสุดกลับเป็น...
"พฤกษ์คร้าบบบบ..." ยานคางมาเชียว มาแค่เสียงไม่พอหมอชลยังเข้ามากอดผมอีกตั้งหาก ให้ตายสิ เมาแล้วเรื้อนรึยังไงกันเนี่ย
"อะไรของคุณ" ผมพยายามดันหน้าเขาเอาไว้เพราะเขาทำท่าจะเข้ามาจับผมจูบให้ได้ ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้นี่มันอะไรนักวะครับ
"อยู่เฉยๆ ได้ไหมเนี่ย" ผมผลักให้เขานั่งตรงๆ ซึ่งเขาก็ยอมนั่งเงียบๆ นะครับ นั่งเฉยๆ จริงๆ เออ แบบนี้ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย
แต่คนเมาก็คือคนเมา นั่งนิ่งๆ ได้ไม่นานก็เริ่มอีกแล้ว ทำไมไม่ไปกอด ไม่ไปจูบ ไม่ไปหอมคนอื่นบ้างนะเข้ามานัวเนียผมอยู่ได้ให้ตายเถอะ ส่วนเพื่อนเขาคนอื่นๆ นะหรือครับคุณอัฐกับคุณเมฆตอนนี้ลงไปนอนกอดกันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนคุณคินลงไปส่งคุณนกยูงกับคุณพลอยข้างล่างก็เลยเหลือแค่ผมที่ต้องสู้รบปรบมือกับหมอชลอยู่คนเดียว
"คุณพฤกษ์... ผมฝากมันกลับไปด้วยได้ไหมครับ ห้องผมเต็มเดี๋ยวต้องลากไอ้สองตัวนั้นไปนอนในห้องอีกก็เต็มแล้วครับ" คุณคินที่พึ่งเดินกลับเข้ามาพูดกับผม "อีกอย่างตอนเช้าน้องกันต์จะลงมาที่ห้องถ้าให้มาเห็นพวกนี้นอนกองกันตรงนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสม"
ผมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น นั่นสินะ... ถ้าตอนเช้าน้องกันต์ลงมาก็หมายความว่าพัทธ์ก็ต้องลงมา ถ้าจะให้มาเห็นผู้ใหญ่นอนเมากันกลางห้องแบบนี้ดูจะไม่เหมาะสมจริงๆ นั่นแหละ คิดไปแล้วก็เจ็บในอกนิดๆ เลยแหะ
"ครับ เดี๋ยวผมพาเขากลับไปส่งที่คอนโดเอง"
"ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมช่วยพามันลงไปข้างล่าง" คุณคินเข้ามาช่วยพยุงคนเมาที่ไม่รู้เรื่องให้ยืนขึ้น
"ไม่เป็นครับ คุณจัดการสองคนนั้นเถอะ ผมพาลงไปไหว ขอบคุณมากนะครับ" ผมรับหมอชลมาจับแขนของเขาพาดไหล่ผมเอาไว้
"ขอบคุณนะครับคุณพฤกษ์ รบกวนด้วยนะครับ"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะจัดการพยุงแล้วก็ลากคนเมาที่ทำตัวอ่อนไม่มีกระดูกแทบจะล้มทุกก้าวที่เดินไปเข้าลิฟต์แบบค่อนข้างทุลักทุเล โชคดีแค่ไหนที่ตัวเราพอๆ กันถ้าผมตัวเล็กกว่าเขาคงต้องจับเขานอนแล้วกลิ้งไปแล้วละ
"นี่! อยู่เฉยๆ หน่อยได้ไหมเนี่ย" ผมหันไปดุคนเมาที่เอาแต่จะกอดผมให้อยู่เฉยๆ ยืนตรงๆ ยังจะไม่รอดยังจะมีหน้ามาลวนลามคนอื่นอีก
กว่าจะจับคนเมายัดใส่รถได้ก็แทบหมดแรง ผมจัดการคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาแล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ ขับรถของเจ้าตัวตรงไปยังคอนโดที่ผมเคยมาเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน
"เฮ้ย! อะไรของคุณเนี่ย อยู่เฉยๆ ได้ไหมผมหากุญแจห้องอยู่" ผมร้องพร้อมกับผลักหัวเขาที่ขยับมาซุกตรงซอกคอผมออก
"อื้ม... อย่าจับชลลี่ผมสิ..." คนเมาพูดทำเอาผมขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ชลลี่? ชลลี่อะไร "เดี๋ยวชลลี่น้อยจะกลายเป็นมังกรนะ เอิ้ก... คึคึคึ"
"ไอ้ลากมกเอ๊ย" ผมส่ายหน้าเลิกสนใจคนเมาที่พูดไม่รู้เรื่องแล้วหยิบกุญแจห้องเขาออกมาจากกระเป๋ากางเกง ไขประตูห้องแล้วดันหมอชลเข้าไปข้างในวินาทีนี้ต้องใช้เท้าในการปิดประตูครับ ดีที่เป็นระบบล็อคอัตโนมัติ จัดการเหวี่ยงคนไม่ได้สติให้นอนบนเตียง
ลากผมไป แล้วยังจะทำให้ผมลำบากต้องมาดูแลอีก
ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ กว่าจะลากกันมาถึงห้องได้เล่นเอาหมดแรงเพราะหมอชลคิดจะหยุดเดินก็หยุด คิดจะลงไปนอนกับพื้นก็ทำกว่าจะงัดให้ยืนได้แทบตาย พอคิดจะเดินก็เดินแบบไม่มองทางดีแค่ไหนที่ผมตามไปจับไว้ทันไม่อย่างนั้นคงเดินลงสระว่ายน้ำของคอนโดไปแล้วเรียบร้อย
แล้วผมควรทำยังไงต่อ ปล่อยเขานอนไปแบบนี้ หรือเป็นคนดีกว่านี้ช่วยเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
"พฤกษ์คร้าบบ... เช็ดตัวให้หน่อย..." สรุปเมาหรือไม่ได้เมา? เหมือนจะเดาความคิดผมออกว่าผมจะปล่อยเขานอนเน่าแบบนี้คนเมาเลยลืมตามาพูดอ้อน "พฤกษ์คร้าบบบ... ที่ร้ากกกกกกก"
"ผมจะไม่เช็ดตัวให้เพราะคำนี้เนี่ยแหละ!" ผมชี้หน้าเขาก่อนจะถอนหายใจอย่างหงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินไปหาผ้าเช็ดมาเช็ดตัวให้
บางทีผมก็ไม่เข้าใจตัวเอง... ว่าจะทำแบบนี้ไปทำไม "เช็ดตัวก่อน อยู่เฉยๆ เป็นไหมเนี่ยคุณหมอ" ผมดุเขาอีกรอบเมื่อเขาขยับตัวไม่หยุดตอนที่ผมกำลังจะถอดเสื้อเขาเพื่อเช็ดตัวให้ พอจัดการดึงเสื้อหลุดเขาก็ยกมือปิดหน้าอกตัวเองทำท่าเนียมอายอย่างกับสาวน้อย
"วุ่นวายชะมัด ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้คนเมาด้วยวะเนี่ย"
"เช็ดข้างล่างด้วย"
มีการมาสั่ง สั่งอย่างเดียวไม่พอ ออกเสียงอย่างเดียวคงกลัวไม่รู้เรื่องเพราะเขาจัดการชี้ไปที่ข้างล่าง ชี้ขาก็ได้เถอะ ชี้ทำไมเป้ากางเกง ผมไม่เช็ดชลลี่น้อยให้หรอกนะครับ
ทีตอนถอดเสื้อละทำเป็นอาย ทีพอจะถอดกางเกงนี่ลุกขึ้นถอดเองซะอย่างนั้น โอเคครับ... อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมาครับ
"เฮ้ย!"
ผมร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกดึงลงไปนอนกอดแบบไม่ทันตั้งตัว กอดอย่างเดียวไม่พอหมอชลกับพลิกตัวมานอนคร่อมผมเสียอย่างนั้น
"นี่! นอนก็นอนดีๆ ได้ไหมมันหนัก"
"พฤกษ์หอม... หอมจัง อื้ออออ หม่ำๆ ละนะคร้าบบบ"
ผมสะดุ้ง ตัวเกร็งเมื่ออยู่ๆ เขาก็ก้มลงงับคอผม ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยนะ แต่ทุกทีผมมักจะอยู่ข้างบนเสมอไง เคยแต่ไปงับเขา พอมาโดนงับแล้วมันแปลกๆ
"อ... อะไรของคุณวะเนี่ย พอๆ ตื่นได้แล้ว เลิกฝันสักทีคุณหมอชล" ผมจัดการถีบเข้าที่ท้องของเขาจนเขากระเด็นออกจากตัวผม รีบลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงทันทีถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็โล่งอกได้ไม่นานก็ถูกเขาดึงไปนอนทับอีกจนได้
อะไรครับเนี่ย ทำไมเมาแล้วแรงเยอะขนาดนี้นะ มือก็เหนียวนี่เป็นญาติกับปลาหมึกรึยังไง รัดผมแน่นเกินไปแล้วนะ
"พฤกษ์... ผมชอบคุณนะ ผมชอบคุณจริงๆ นะครับ..." เสียงเขาดังอยู่ข้างหูผม เขาพูดมันซ้ำไปซ้ำมาแบบนั้น
"ผมรู้แล้ว"
"ผมชอบคุณจริงๆ นะ ไม่ได้คิดจะเล่นๆ นะ ผมชอบคุณนะพฤกษ์..." หมอชลเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะยิ้มกว้าง
"มาเป็นเมียผมนะ"
ผลั่ก!!!
ไปตายซะเถอะไอ้หมอบ้าเอ๊ย!!!!!!!!************************************************
ขอโทษทีค่า มาซะมืดเลยแต่ก็ยังมานะคะ ฮี่ๆๆ ตอนนี้ยกให้คู่รองเขาไปก่อนเนอะ เดี๋ยวตอนหน้าจะเป็นคู่หลักหรือคู่รองค่อยรอลุ้นกันต่อไปนะคะ ตอนนี้ยังไงดีล่ะ ขำอาพฤกษ์ค่ะ ทั้งขำทั้งสงสารแต่ก็ชอบไปพร้อมๆ กันเลย ไม่รู้ว่าหมอชลนี่เขาเมาจริงหรือแกล้งเมาหาเรื่องเนียนนัวเนียอาพฤกษ์กันแน่ ฮ่ะๆๆๆ ยังไงเจอกันตอนหน้านะคะ ^^
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊คของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับคนที่เล่นทวิตเตอร์และอยากพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ช่วยกันติดแฮชแท็ก #น้องกันต์จัดให้ ด้วยนะคะ มาเล่นกันเยอะๆ เลยนะ