Fifty shades of กานต์กลับมายังใจกลางเมืองหลวงยามค่ำคืน เส้นแสงมากมายพุ่งตัวตัดกันจนเกิดสีสัน ในสถานที่ซึ่งดนตรีเคล้ากลิ่นแอลกอฮอล์นั้นเปรียบดั่งสวรรค์ของเหล่านักรักแห่งรัตติกาล แหล่งรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่พร้อมจะจ่ายเงินค่าเหล้าเพื่อความแลกกับความรักเพียงชั่วข้ามคืน
ไม่ต้องผูกมัด...เป็นอิสระ
กานต์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาสวมเชิ้ตสีแดงสดปลดกระดุมออกเสียเกือบครึ่ง วาดขาไขว่ห้างสองแขนโอบสองสาวที่ใกล้สุดเข้าหาตัว ใบหน้าตี๋ยกยิ้มเจ้าเสน่ห์
“สาวๆ อยากกินอะไรสั่งเลยนะจ๊ะ ป๋ากานต์เลี้ยงเอง” เสียงทุ้มคึกคะนอง ทำเอาเหล่าสาวสวยก้มลงกกกอดแย่งกันออดอ้อนเด็กหนุ่มแทบไม่ทัน
“คุณกานต์...แนนนี่อยากได้เสื้อผ้า”
“ได้จ้ะ ป๋าจัดให้”
“กานต์ขา...เบลล่าอยากได้กุชชี่”
“เอาบัตรไปรูดเลยจ้ะหนู”
“อ๊าย! ป๋ากานต์น่ารักที่สุดเลยยย” ก่อนสองสาวจะก้มลงบรรจงหอมแก้มเสือร้ายพร้อมกันคนละข้าง กานต์หัวเราะลั่น กอดสองสาวแน่นกว่าเดิม
อะฮ่า! นี่สิ...วิถีแห่งเสือ
ความสนุกคงยังดำเนินต่อไป จนกระทั่งกลุ่มเพื่อนที่เขานัดไว้เดินทางมาถึง
“ไอ้กานต์โว้ย!” หนึ่งในนั้นส่งเสียงทัก กานต์ยกมือตอบ ร้องว่า “ว่าไงไอ้เสือ”
พวกเขาทักทายกันตามประสาอย่างคึกครื้นพลางจับจองที่นั่ง ก่อนจะล้อมวงนั่งคุยกันแกล้มเหล้าเคล้าสาวทรงโตที่นั่งขนาบข้างคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ
ถึงตรงนี้ก็มีคนถามว่า “แล้วมึงเป็นไงบ้างไอ้กานต์”
“อะไรเป็นไงวะ” หนุ่มหน้าตี๋ขมวดคิ้ว อีกคนหัวเราะพรืด “ก็กวางน้อยคนล่าสุดมึงไง เป็นผู้ชายไม่ใช่เรอะเห็นว่า”
ทั้งวงเกิดเสียงฮือฮา รอบข้างเริ่มเร่งเร้าให้เล่า กานต์ทำหน้ากระอักกระอวน ตอบอ้อมแอ้ม “มันก็...”
“เป็นไง เด็ดปะวะ”
เสือร้ายมองทุกสายตาที่จ้องมาอย่างคาดคั้น เขาหลุบตา จิบเหล้าในมือลงคอไปคล้ายการสลับฉาก
จริงๆ ไม่ค่อยอยากนึกถึงเท่าไร แต่ยังไงก็ย้อนไปวันแต่งงานของหมอแปดกับชาร์ลอตต์อีกสักทีเถอะ
หลังวางยานอนหลับเมธาในน้ำดื่มแล้วกานต์ก็ขับรถมายังโรงแรมและเช็คอินห้องพักที่เอื้ออังกูรจัดไว้ให้ เขานั่งมองร่างเล็กบนเตียงอย่างครึ้มใจ ระหว่างรอกวางน้อยตื่นเขาก็ผสมยาปลุกขนานอ่อนกรอกปากอีกฝ่าย
เสือร้ายมีรสนิยมประหลาด ทุกครั้งที่จะมีเซ็กส์ เขาจะคิดธีมในการร่วมรักกับคู่นอนทุกครั้ง และเพราะเพิ่งไปดูหนังรักอีโรติกเรื่องหนึ่งมา ธีมครั้งนี้จึงเป็นแนวซาดิสม์
หนุ่มหน้าตี๋มองกุญแจมือที่ตัวเองเอาคล้องข้อมือเหยื่อตัวน้อยไว้แล้วใจเต้น แค่คิดก็เลือดลมสูบฉีดแล้ว เขาจะเล่นธีมนี้ แบบว่ามีคริสเตียน เกรย์เป็นไอดอล
คุณเกรย์ก็คุณเกรย์เถอะ เจอ ‘50 Shade of กานต์’ ไปก็มีหนาวเหมือนกันแหละแกร๊ง!
กานต์ชะงัก กวางน้อยของเขาตื่นแล้ว เสือร้ายมือเย็น จับจ้องดวงตาสีนิลอันหยาดเยิ้มพร้อมแก้มขาวที่ขึ้นสีจัด ไหนจะท่าทางหวาดกลัวนั่นอีก โถแอนนาของผม...
แกร๊งๆ!
“ไง ตื่นแล้วเหรอ” กานต์ทักเสียงทุ้ม หนังเรื่อง '50 Shade of กานต์' ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว
“คุณกานต์!” เสียงพร่านั้นเร้าอารมณ์อย่างร้ายกาจ แถมยังท่าทางตื่นตระหนกโดยธรรมชาตินั่นอีก “ทะ ทำไมถึงล่ามผมเอาไว้แบบนี้ล่ะครับ”
เสือร้ายย่างสามขุมเข้าไปหา เขาจ้องดวงตาสีนิลที่สั่นระริกนั่นอย่างนึกเอ็นดู กานต์ยกมือแตะแก้มเนียน จุดยิ้มพอใจเมื่อเห็นอาการขัดขืนนิดๆ จากอีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มสบายหู
“เพราะเธอต้องเป็นของฉันไงล่ะ”
โหย...เผด็จการอะ แต่บทนี้ก็ไม่เลวแฮะ กานต์กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ เขาเครื่องติดแล้ว เอาล่ะ เห็นทีคงต้องกระตุ้นกันหน่อย “คุณกานต์พูดอะไร ปล่อยผม...อ๊ะ!”
“ฉันมีคำถาม ตอบมาตามจริง”
ตอนนั้นเองที่คนตัวสูงล็อคคางเล็กไว้แน่น ดวงตาลูกคนจีนทอประกายเย็นชา ใบหน้านั้นมืดดำไปครึ่งซีก เสียงทุ้มดังยะเยือก
“เธอเคยอ้าขาให้ไอ้เอื้อหรือยัง?”
กานต์เห็นอีกฝ่ายเบิกตากว้าง รู้สึกพอใจเมื่อดวงตาสีนิลคู่นั้นทอประกายกร้าว “คนสกปรก! โอ๊ย!”
มือหนาเพิ่มแรงบีบ คนตัวเล็กเจ็บจนน้ำตาเล็ด กานต์ชายตามองเหยื่อตัวน้อยอย่างโหดเหี้ยม...แน่นอนว่านั่นคือการแสดง แหม ก็ต้องเล่นใหญ่หน่อยสิ คู่นอนเกรดเอไร้เดียงสาแบบนี้ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เสียเมื่อไร
“ฉันถามก็ตอบมาซะ” เขาชูมีดพกเล่มเล็กขึ้นในระดับสายตาครูคณิต ประกายของมันล้อแสงไฟอย่างน่าหวาดเสียว แต่นั่นก็แค่ของปลอมล่ะนะ “แค่อยากรู้เท่านั้นแหละว่าเคยไหม เร็วๆ!”
เมธาสะดุ้งยามใบมีดแนบกับใบหน้า ดวงตาสีนิลไหววูบ “ผม...”
“...”
“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย!”
เพียะ!
เด็กหนุ่มถูกตบจนหน้าหัน เลือดไหลลงมุมปาก กานต์อ้าปากค้าง
ฉิบหายแล้ว...กวางน้อยกู ปกติทำกับผู้หญิงคนอื่นกะแรงประมาณนี้ก็ไม่เห็นมีใครบาดเจ็บเลยนี่ ทำไมล่ะ!
“...”
แต่ยังไงก็ต้องเดอะโชมัสโกออน กานต์รีบเหยียดยิ้ม บีบคางอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง พูดลอดไรฟัน “อย่าวอนให้มากนัก เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ใช่คนใจดี”
“อึก”
“ฉันจะถามอีกครั้ง...”
“...”
“เธอเคยอ้าขาให้เอื้อมันรึยัง?”
กานต์มองกวางน้อยพยายามคายเลือดออกจากปาก ใจอ่อนยวบ “มะ ไม่...”
“...”
“ไม่เคย...ฮึก”
“ก็แค่นั้นแหละ” ร่างสูงสะบัดร่างเล็กทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ถึงจะพูดแบบนั้นความจริงเขาก็แค่วางอีกฝ่ายลงบนเตียงเฉยๆ เท่านั้น เมธาครางแผ่วยามโซ่เหล็กบาดข้อมือจนเลือดซิบ กานต์ตาโต
บาดเจ็บอีกแล้วววว ทำไมแอนนาถึงได้บอบบางขนาดเน้!คนตัวเล็กพยายามร้องอ้อนวอน “ปละ ปล่อยผมไปเถอะครับ”
“โง่น่า คิดว่าฉันจีบเธอไปเพื่ออะไรกัน” หนุ่มหน้าตี๋แสยะยิ้ม มองอีกฝ่ายที่ตัวสั่นกลัวอย่างพึงใจ แรงสะดุ้งน้อยๆ ยามเขาพลิกตัวขึ้นคร่อมนั้นช่วยปลุกอารมณ์ได้ดี
เสือร้ายโน้มเข้าไปหน้าแทบชิด เค้นเสียงดูแคลน
“รู้ตัวไหมเนี่ยว่าถูกหลอกมาน่ะ?”
เหยื่อตัวน้อยเบิกตากว้าง กานต์ยิ้มเยาะ
“แหม ต้องขอบคุณเอื้อเพื่อนรักเลยนะเนี่ยที่กรุยทางให้ เรื่องง่ายขึ้นเยอะเลย” ครูคณิตพยายามก้มหน้าหลบตา ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น ก่อนมือหนาจะกระชากผมจนหน้าแหงน
กานต์ตกใจไม่น้อยที่เห็นหยาดน้ำใสไหลออกจากดวงตาสีนิลคู่สวยนั้น ครูคณิตเม้มริมฝีปากแน่น ดูท่าคงพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้น่าดู
ฮือ...สงสารกวางน้อย เสือร้ายจุ๊ปาก พูดว่า “แต่เอาจริงๆ เธอก็น่ารักตรงสเปคฉันเลยนะ เอาล่ะนี่เป็นกรณีพิเศษ ถ้าฉันจะให้เธอเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันจะเปิดตัวว่าคบด้วย...เธอจะว่ายังไง?”
เมธาสบตาคนพูด ตอบคำถามเสียงแผ่วทว่ามั่นคง
“ขอปฏิเสธ”
“ว่าไงนะ?” กานต์แนบใบมีดลงบนลำคอขาวคล้ายขู่ แบบนี้สิถึงจะตื่นเต้น “คิดก่อนพูดก็ดีนะ เธอคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน”
ประกายมีดล้อแสงไฟ ดวงตาสีนิลคู่นั้นหมดอาลัยตายอยากเหลือเกิน
“ลองใช้ปากนั่นทำให้ฉันดูหน่อยเป็นไง” กานต์ยั่วเย้า กระตุกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายพยายามขยับหน้าหนีสัมผัสจากมือของเขา
แอ๊...กวางน้อยน่ารัก “อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่า มาสนุกกันเถอะ”
“อย่ามาแตะตัวผม!”
เมธาตะโกน กานต์กระชากท้ายทอยคนตัวเล็กจนหน้าเชิด กระซิบเสียงพร่า
“เธอจะปากดีได้ก็แค่ตอนนี้แหละ”
“อะไรนะ...เอ๊ะ!” เสือร้ายใช้ผ้าสีดำสนิทคาดปิดตาอีกฝ่ายไว้ ครูคณิตออกแรงดิ้น ปฏิเสธโลกสีดำที่เขามอบให้สุดฤทธิ์ ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจขัดขืนได้
“คุณจะทำอะไร! อุ๊บ!” ร่างสูงก้มลงไปประกบปาก ทว่าครูคณิตเม้มริมฝีปากแน่น ครางขู่ในลำคอ “ฮื้อ!”
อา...เร้าใจเป็นบ้า ร่างผอมสะดุ้งเฮือกยามมือหนาล้วงเข้าใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว กานต์ลูบไล้กายบางอย่างตื่นเต้น ในขณะที่เมธาพลิกตัวหนี ร้องห้ามยามโดนซุกไซร้ลำคอระหง “อย่า ฮึก...ไม่เอา...อ๊ะ!”
กานต์ก้มครอบครองยอดอกสีอ่อนด้วยโพรงปากร้อน คนตัวเล็กนิ่วหน้า พยายามดิ้นหนีสัมผัสนั่น “ปละ ปล่อยผม แฮ่ก...” เสียงหายใจน้อยๆ นั่นทำให้กานต์แสยะยิ้มออกมา
“ฉันเล่นตุกติกกับร่างกายเธอนิดหน่อย คงไม่โกรธกันหรอกนะ?”
“คุณทำอะไร!!” เมธาตะโกนปนหอบ พยายามจับความรู้สึกเพื่อเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือของอีกฝ่าย หนุ่มหน้าตี๋มองภาพนั้นยิ้มๆ
“วางใจเถอะน่า ก็แค่ยาปลุกเอง”
เมธากัดฟันกรอด เกร็งตัวยามมือหนาเลื่อนลงต่ำ เขาสะบัดแขนจนเหล็กบาดข้อมือ ตะโกนเสียงสั่น “คุณมันเลวที่สุด! ฮึก...ปล่อยนะ!” กานต์มองครูคณิตที่พยายามโงหัวขึ้นมาขัดขืน ก่อนจะเอามือกดลำคออีกฝ่ายไว้อย่างโหดเหี้ยม
“อะ อึก”
“เธอสู้ฉันไม่ได้หรอกน่า” เสือร้ายจูบใบหูเล็กอย่างหยอกล้อ ไม่รู้อะไรดลใจให้เปิดปากพูดว่า “จริงๆ ฉันมีอีกหนึ่งคำถาม...”
ทั้งห้องเงียบไปชั่วอึดใจ กานต์ก้มลงไปจนลมหายใจเป่ารดหน้าอีกฝ่าย
“เธอน่ะ...รักไอ้เอื้อใช่ไหม?”
“...!”
โอ้...ชะงักแฮะ ดวงตาตี่อย่างลูกคนจีนพราวระยับอย่างนึกสนุก “ระ เรื่องนั้น...”
“จริงๆ ด้วยสินะ” เสือร้ายหัวเราะในลำคอ หยอกว่า “หึ ก็สงสารเธออยู่หรอกนะที่โดนมันหลอกแบบนี้ เลิกหวังกับไอ้เอื้อจะดีกว่าล่ะมั้ง”
เมธานิ่งไป ก่อนทำนบน้ำตาจะพังทลายลงมา
“ผมทำไม่ได้...”
อ้าวฉิบหาย...ร้องไห้แล้ว กานต์มองซ้ายขวาเลิกลัก แต่เพราะอีกฝ่ายถูกปิดตาอยู่จึงไม่มีทางรับรู้ได้
“ถึงเขาจะเกลียดผม หรือทำร้ายผมสารพัด...ฮึก” เมธาสะอื้นจนเจ็บหน้าอก กำมือแน่นอย่างขมขื่น “แต่ทำยังไงผมก็ตัดใจจากเขาไมได้!”
เสือร้ายมองภาพนั้น พลันในอกเกิดความรู้ประหลาด
“ได้โปรดเถอะครับ...” เมธาอ้อนวอน
“แค่นี้...ฮึก”
น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งลงข้างแก้มขาว
“แค่นี้เขาก็เกลียดผมมากพออยู่แล้ว”
ริมฝีปากสีซีดสั่นระริกอย่างน่าเวทนา
“อย่าทำให้ผมต้องถูกเกลียดไปมากกว่านี้เลย ขอร้องล่ะครับ ฮือ...” เมธาสะอื้น ตอนนั้นเองที่ประตูห้องเกิดเสียง
ก๊อกๆ!
“นั่นใคร!” กานต์หันไปตะโกนถาม แว่วเสียงตอบกลับมา “รูมเซอร์วิสครับ!”
“ชิ...” เสือร้ายจิ๊ปากอย่างขัดใจ กวางน้อยกำลังอ้อนได้ที่เลยเชียว เขาใช้ผ้าอีกผืนมัดปากคนตัวเล็กเอาไว้ เมธาดิ้นพล่าน “อึก...อื้อ! อื้ออออออ!”
“อย่าริส่งเสียงเชียว” กานต์แนบมีดปลอมลงแก้มขาว ก่อนจะผละออกมา
แอ๊ด...
เสือร้ายเปิดประตูด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลูกตาแทบถลนเมื่อเห็นหน้าผู้มาใหม่
“มาไงเนี่ย!”
กานต์อุทานเสียงกระซิบเพราะกลัวเมธาได้ยิน ปิศาจร้ายเปิดปากถาม
“หมอนั่นล่ะ?”
“ถ้ากวางน้อยล่ะก็นอนอยู่ข้างใน” กานต์ตอบ ก่อนจะเปลี่ยนมายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย “กำลังตื่นกลัวได้ที่เลยล่ะ เร้าอารมณ์เป็นบ้า...”
“พอแค่นั้นแหละ”
กานต์ยิ้มค้าง ยกนิ้วก้อยแคะหูตัวเองคล้ายไม่อยากจะเชื่อ “โทษทีนะ คือได้ยินไม่ค่อยชัดเลย แบบไม่ใช่ว่ามึงกำลังหมายถึง...”
“เอาเมมา”
เอื้ออังกูรย้ำ กานต์แทบตะโกน “แต่เราตกลงกันแล้ว!”
“กูเปลี่ยนใจแล้ว” ร่างสูงเขี่ยเพื่อนให้พ้นทาง หนุ่มหน้าตี๋เข้ามาขวาง ร้องว่า “แต่นั่นกวางน้อยของกูนะ!”
“กูไม่ให้”
ดวงตาคมกริบทอประกายเย็นชา ใบหน้าหล่อร้ายไม่ส่อเค้าอารมณ์ใด “อย่าให้ต้องพูดซ้ำ ถอยไป”
“ว้อท?”
ปัง!
อีกฝ่ายปิดประตูใส่หน้า กานต์หงายสองมือออกข้างตัวพลางขมวดคิ้ว ก้มมองเป้ากางเกงที่นูนด้วยแรงอารมณ์ของตัวเอง พูดด้วยใบหน้าเหมือนโลกจะล่มสลายในห้านาที
“อีเหี้ย แล้วทำไมต้องมาตอนลูกชายกูตื่นแล้วด้วย!”
“...”
ไม่มีเสียงตอบกลับมา กานต์แทบน้ำตาร่วง นี่เขาต้องพึ่งอภินิหารหัตถ์ขวาแห่งพระเจ้าอีกแล้วใช่ไหม
แล้ว ‘50 Shade of กานต์’ ก็จบลงไปทั้งแบบนั้นนั่นเองกลับมาปัจจุบัน ใครคนหนึ่งตะโกนเรียกเขา
“ไอ้เหี้ยกานต์!”
“อะไรอีกอ่ะ” กานต์หันไปขมวดคิ้ว หนึ่งในกลุ่มจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด พูดว่า “มึงยังไม่ตอบพวกกูเลยนะโว้ย รีวิวให้เพื่อนฝูงฟังหน่อยดิ๊ เป็นไงบ้าง”
เสือร้ายเสหลบตา กระดกเหล้าดื่มตัดรำคาญ “ก็ดีอะ”
“หู่ย ไรวะ เงียบไปตั้งนาน แค่เนี้ยะ!”
“พวกมึงไปลองเองไป๊” กานต์ไล่ มองเพื่อนๆ หันไปจับกลุ่มกันบ่นกระปอดกระแปดแล้วทำหน้าเซ็ง จะเรื่องชวดกวางน้อยเอย หรือต้องไปสำเร็จความใคร่เองเอย ด้วยเกียรติของเสือร้ายแห่งวงการนักรักแล้ว
จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด****************************************************** *
สวัสดีค่าาา า

ย้ากกก ก หายไปเกือบเดือนเลย คิดถึงคนอ่านจ๊นนน น
งานที่คณะเยอะมากเลยค่ะ กลับมาหัวถึงหมอนก็สลบเลย
แต่ในที่สุด วันนี้ เราก็ทำสำเร็จแล้วค่ะ ! 55555 5
รอบนี้ใครเมนอีเอื้ออปป้าคงสาแก่ใจอีช้อยไปแล้วนะคะ
ตอนหน้าเตรียมป้ายไฟเท็นเปรมได้เลยค่ะ มีลุ้นแน่นอน
ลุ้นอะไรอีก 555555555555 5
สุดท้าย ขายของหน่อย จูนเปิดเพจในเฟซบุ๊คแล้วนะคะ
หลังจากที่บ่ายเบี่ยงมานาน ในที่สุดก็สร้างแล้วค่ะ 555555 5
iJune4S
จูนกะว่าจะเอาไว้ลงนิยายสั้น ๆ แบบที่เจอในชีวิตประจำวันอะไรแบบนี้นะคะ
โดยรวมแล้วคือเพจไร้สาระนั่นเองค่ะ 55555555 5
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและรอคอยนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและความใส่ใจที่มอบให้กันค่ะ
ครั้งหน้าจะมาให้เร็วที่สุดนะคะ

แล้วเจอกันตอนที่ยี่สิบเจ็ดค่าาา า